การอา่ น ออก เสยี ง อาจารยซ ไู รดา เจะนิ หลักสูตรศลิ ปศาสตรบณั ฑิต สาขาวชิ าภาษาไทย
ความหมายการอา่ นออกเสยี ง การอา่ นออกเสยี ง คอื การอา่ นใหม้ เี สยี งดงั เป็ นการ อา่ นเพอื่ สง่ สาร เชน่ อา่ นใหผ้ ูอ้ นื่ ฟัง อา่ นเพอื่ ฝึ กการ อา่ นออกเสยี ง อา่ นขา่ วทางสถานีวทิ ยกุ ระจายเสยี ง เป็ นตเมน้ อื่ อา่ นออกเสยี งตอ้ งคาํ นึงอยเู่ สมอวา่ ถา้ อา่ นให ้ ผอู ้ นื่ ฟัง ก็ตอ้ งคาํ นึงถงึ ผูฟ้ ังดว้ ย เชน่ เมอื่ เป็ นการอา่ น ในหอ้ งเรยี น ผฟู ้ ังคอื ครู และเพอื่ น ๆ เป็ นการอา่ นเพอื่ คเอบปา่นวั็ นนาทกมเกึปาร็เนรู ส้ ตอธยี อา่้รงงนใรกหมผาเช้่าพรนาคอื่ ตสวนเิอื่าหมๆมเชชทอื นด่ัมนี่ เคีกจอวาํนา่ าลนมแงันลเพิลทะกิา่ถาเานกูรรเอตื่ ทพงอ้ใาอื่ หงงบมสเ้ พนัาากทยอื่ ทตกนึ สาี่ลฟกดุงังแ็ตเสถถอ้ ยีาบ้งง ดงั ฟังชดั ใชน้ ํา้ เสยี งทเี่ หมาะสมกบั เรอื่ งทอี่ า่ น อา่ นให ้ ไดอ้ ารมณต์ ามตวั ละคร
การอา่ นออกเสยี งมหี ลกั การดงั นี้ 1. อา่ นเนือ้ เรอื่ งโดยอา่ นสาํ รวจแบบครา่ ว ๆ หนึ่งรอบในใจ 2. ทําความเขา้ ใจเรอื่ งทอี่ า่ น 3. พจิ ารณาประเภทของเรอื่ งทอี่ า่ น เพอื่ ให ้ อา่ นไดถ้ กู ตอ้ งตามลกั ษณะของงานเขยี น 4. ตรวจสอบคาํ ศพั ทท์ ไี่ ม่แน่ใจวา่ อา่ น อย่างไร อาจคน้ ควา้ เสยี งอา่ นของคาํ ไดจ้ าก พจนานุกรม
5. อา่ นออกเสยี งใหเ้ สยี งดงั พอประมาณ ชดั เจน ถกู ตอ้ ง 6. อา่ นออกเสยี งพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต ์ คาํ ใหถ้ กู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี 7. เวน้ วรรคตอนใหถ้ กู ตอ้ ง ใชน้ ํา้ เสยี งใน การอา่ นใหน้ ่าฟัง 8. อา่ นดว้ ยอตั ราเรว็ ทเี่ หมาะสม คอื อา่ น ไม่ชา้ หรอื เรว็ จนฟังไม่ทนั
ขอ้ สงั เกตบางประการในการอา่ น ออกเสยี ง ปจจบุ นั การออกเสยี งพยญั ชนะบางตัว ไดรับ อทิ ธพิ ลจากการออกเสียงคําใน ภาษาตางประเทศ ทําใหอ อกเสียงผิดไปจาก หลกั การออกเสียงในภาษาไทย มีขอสงั เกต การออกเสยี งพยัญชนะบางตัว ดังน้ี เสยี ง /ช/ การออกเสียง /ช/ ตอ งใชปลายลน้ิ ยกขน้ึ จด เพดานแข็งสว นหนา แลวลดลนิ้ สว นปลายลง เล็กนอ ย กระแสลมระเบดิ ออกมาในลกั ษณะ ท่ีมีเสียงแทรกและมีกลมุ ลมตามออกมาดวย ตอ งออกเสียงใหช ดั เจน ตวั อยางคําท่ีใช /ช/ เชน ชดชอ ย ชา ง ชิน เปน ตน
เสยี ง /ซ/ การออกเสยี ง /ซ/ ฟันบนและฟันลา่ ง กบั ลนิ้ สว่ นปลายทําชอ่ งแคบใหล้ ม ผ่านออกมาเป็ นเสยี งเสยี ดแทรก การ อา่ นคาํ ทมี่ เี สยี ง /ซ/ ไม่ตอ้ งมลี มพ่น ออกมาดว้ ย ตวั อยา่ งคาํ ทใี่ ชเ้ สยี ง /ซ/ เชน่ ศรี สงสาร ทรพั ยส์ นิ ซอกแซก เป็ นตน้
เสยี ง /ร/ การออกเสยี ง /ร/ ปลายลนิ้ จะสะบดั ผ่านป่ มุ เหงอื กอยา่ งรวดเรว็ เพยี งครงั้ เดยี วขณะทอี่ อกเสยี ง จงึ จะถกู ตอ้ ง ไม่ ออกเสยี งแบบใชป้ ลายลนิ้ สะบดั รวั หลาย ๆ ครง้ั ทําใหเ้ สยี ง /ร/ เพยี้ นไป ไม่น่าฟัง ตวั อยา่ งคาํ ทใี่ ชเ้ สยี ง /ร/ เชน่ รวดเรว็ รงุ่ เรอื ง รกั เรยี น เป็ นตน้
เสยี ง /ล/ การออกเสยี ง /ล/ ลนิ้ สว่ นหนา้ และสว่ น ปลายจะกกั ลมตรงชอ่ งกลางปากไวต้ รง ๆบรลเิ นวิ้ ใณหฟล้ มันผแล่านะปอ่ มุ อเกหมงอาื ไกดแ้ตเปป่ ็ นลเอ่ สยยี ชงทอ่ สงี่ ขว่ าน้ ง ใหญอ่ อกเสยี งไดถ้ กู ตอ้ ง ขอ้ ควรระวงั คอื ตอ้ งไม่ปะปน สบั สนกบั คาํ ทอี่ อกเสยี ง คใดชวว้ เาย้ สมย/ี หรงม//าไลยม/ข่เชเอชน่ งน่ คนาํล้ันผนิก้ ดิ ็อลไาปอจไยทดลาํ ้ ตใมหวั โอ้ อยฬา่ งาคราํ ที่ เป็ นตน้
2. การอา่ นคาํ ควบกลาํ้ ร ล ว คาํ ควบกลาํ้ คอื คาํ ทตี่ อ้ งออกเสยี งพยญั ชนะ ตน้ 2 เสยี งเรยี งชดิ ตดิ กนั โดยไม่มเี สยี งสระ คน่ั ถา้ อา่ นผดิ ความหมายของคาํ ก็อาจผดิ ไปได ้ เชน่ เกรด็ หมายถงึ 1. ลาํ นํา้ เล็กทเี่ ป็ นทางลดั เชอื่ มลาํ นํา้ ใหญส่ ายเดยี วกนั ทงั้ 2 ขา้ ง,ใชเ้ ป็ น เตรด็ ก็ม.ี 2. สว่ นยอ่ ย, สว่ นเบ็ดเตล็ด, เชน่ เกรด็ พงศาวดาร ตาํ รายาเกรด็ .
เกล็ด หมายถงึ ทหแอ่ี่ ขห็งมุ ้ แ1ตร.วังสปเปว่ ล็ นนาทแแผลเี่ ป่นะ็ นสบตแั าผวงเ่น์ ลๆอื้ๆคยลซคาอ้ ้ลยนาเเกนหลบล็ดาอื่ งปมชลกนานัิดเ,ชสน่ งิ่ เกล็ดพมิ เสน นํา้ ตาลขนึ้ เกล็ด , โดยปรยิ าย หมายความถงึ สงิ่ ทมี่ ลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ เชน่ น้ัน เชน่ บานเกล็ด ฝาเกล็ด เกล็ดเสอื้ สงิ่ ทเี่ ป2็ น.เขม็ดบใเหล็กเ้ มๆล็ด) แเชตนก่ เพเกอื่ ลก็ดนิ เมเนลือ้็ดใแนต(งใโชมแ้ ก่ เนอกาเแกตลส่ ็ดงิ่ ขทาด้ี่ วี ,ๆโเดชยน่ ปเรกยิ ลา็ดยไฟหมายความวา่ ตดั
คาํ ควบกลาํ้ บางคาํ อาจมี รูปพอ้ งกบั สระ เชน่ คาํ วา่ ขวนขวาย ตอ้ งอา่ นเป็ น คาํ ควบกลาํ้ วา่ ขวฺ น – ขฺ วาย ไม่อา่ น ขวน เป็ นคาํ ทปี่ ระสมดว้ ยสระอวั
3. เสยี งวรรณยุกต ์ เสยี งวรรณยกุ ต ์ เป็ นสงิ่ ทตี่ อ้ ง คาํ นึงถงึ เพราะถา้ อา่ นผดิ ความหมายก็ ผดิ ไปเชน่ กนั เชน่ นํา้ นองทว่ มน่องนอ้ ง ป้ าปาของเขา้ ป่ า ฉันหอบเสอื้ หอบเสอื่ หนีเสอื
4. คาํ พอ้ งรูป คาํ พอ้ งรปู คอื คาํ ทเี่ ขยี นเหมอื นกนั แตอ่ า่ นตา่ งกนั ความหมายของคาํ ก็ตา่ งกนั ไปดว้ ย การจะอา่ นคาํ พอ้ งรปู ใหถ้ กู ตอ้ งก็ ตอ้ งเขา้ ใจความหมายของคาํ ทอี่ า่ นและตอ้ ง อาศยั การตคี วามจากความหมายในประโยค ดว้ ย เชน่ เพลาเกวยี นหกั เมอื่ เพลาเชา้ เขาหวงแหนจอกแหนในบอ่ นํา้ เรอื โคลงเพราะโคลงเรอื
5. ตวั การนั ต ์ เมอื่ อา่ นคาํ ทมี่ ตี วั การนั ตไ์ ม่ตอ้ ง อา่ นออกเสยี งตวั การนั ตน์ ั้น เชน่ สทิ ธิ ์ อา่ นวา่ สดิ กาญจน์ อา่ นวา่ กาน พนิ ทอุ ์ ิ อา่ นวา่ พนิ – อิ พระลกั ษมณ์ อา่ นวา่ พระ – ลกั
6. การออกเสยี งพยางคห์ นกั พยางค ์ เบา การอา่ นคาํ ในภาษาไทย มกี ารลงเสยี ง หนักเบาในคาํ เวลาอา่ นเราจะไม่อา่ นลงเสยี ง หหนนัังกใทนกุคพาํ ทยที่างาํ คหน์ เชา้ นท่ ชี่ เวว่ ลยาเสพรูดมิ เคราวจาะมไหมม่ลางยเสในยี ง ประโยค ในพยางคเ์ ชอื่ ม และในคาํ ประสมดว้ ย เเอสสอยยีี กงงเสสทนั้ ยี ะไงมจค่มะาํ อตี ตอวัอ่ กสไเปะสกนยี ดี้งสเชนั้ น่แลวะทิ เบยาา (วดิ -ทะ-ยา) เป็ นตน้ ลอก ทพุ ภกิ ขภยั ปรมาจารย ์ ดลุ ยพนิ ิจ ไปรษณียากร ขตั ตยิ มานะ กรกฎาคม
7. การเวน้ เวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอนเป็ นสงิ่ สาํ คญั ในการอา่ น ถา้ อา่ นเวน้ วรรคผดิ ความหมายก็ผดิ ไปดว้ ย เชน่ นํา้ เย็นหมดแลว้ อา่ นวา่ นํา้ /เย็นหมดแลว้ หมายความวา่ นํา้ ทรี่ อ้ นอยเู่ ย็นหมดแลว้ หรอื อา่ นวา่ นํา้ เย็น/หมดแลว้ หมายความวา่ นํา้ เย็น (ในตเู ้ ย็น) หมดแลว้ จงึ บอกบญุ มาใหท้ ราบ อา่ นวา่ จงึ บอกบญุ /มาให ้ ทราบ หมายความวา่ บอกมาใหท้ าํ บญุ หรอื อา่ นวา่ จงึ บอกบญุ มา/ใหท้ ราบ หมายความ วา่ บอกคนชอื่ บญุ มาใหท้ ราบ
การอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแกว้ การอา่ นออกเสยี งรอ้ ย แกว้ หมายถงึ การอา่ นถอ้ ยคาํ ทมี่ ผี ูเ้ รยี น เรยี บหรอื ประพนั ธไ์ วโ้ ดยการเปลง่ เสยี ง และ วางจงั หวะเสยี งใหเ้ ป็ นไปตามความนิยมและ เหมาะสมกบั เรอื่ งทอี่ า่ น มกี ารใชล้ ลี าของ เสยี งไปตามเจตนารมณข์ องผูป้ ระพนั ธ ์ เพอื่ ถา่ ยทอดอารมณน์ ้ันๆ ไหสผู่ ูฟ้ ัง ซงึ่ จะทาํ ให ้ ผูฟ้ ังเกดิ อารมณร์ ว่ มคลอ้ ยตามไปกบั เรอื่ งราวหรอื รสของบทประพนั ธ ์
หลกั เกณฑท์ ว่ั ไปในการอา่ นออก เสยี งรอ้ ยแกว้ มดี งั นี้ ๑. กอ่ นอา่ นควรศกึ ษาเรอื่ งทอี่ า่ นใหเ้ ขา้ ใจโดย ศกึ ษาสาระสาํ คญั ของเรอื่ งและขอ้ ความทกุ ขอ้ ความ เพอื่ จะแบง่ วรรคตอนในการอา่ นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๒. อา่ นออกเสยี งดงั พอเหมาะกบั สถานทแี่ ละ จาํ นวนผูฟ้ ัง ใหผ้ ูฟ้ ังไดย้ นิ ทว่ั กนั ไม่ดงั หรอื คอ่ ย จนเกนิ ไป ๓. อา่ นใหค้ ลอ่ งฟังรนื่ หแู ละออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี ชดั ถอ้ ยชดั คาํ โดยเฉพาะตวั ร ล หรอื คาํ ควบกลาํ้ ตอ้ งออกเสยี งใหช้ ดั เจน ๔. อา่ นออกเสยี งใหเ้ ป็ นเสยี งพูดอยา่ ง ธรรมชาตทิ สี่ ดุ
๕. เนน้ เสยี งและถอ้ ยคาํ ตามนํา้ หนัก เคปว็ นาไมปสตาํ าคมญั เนขือ้ อเรงใอื่ จงคเวชาน่ มดใชุ อเ้อส้ นยี วงแอลนะจจงัรหงิ จวงะั ให ้ โกรธ ฯลฯ ๖. อา่ นออกเสยี งใหเ้ หมาะกบั ประเภท ขเลรกัออื่ ษงงเณรอื่ ๗ะงท.รเี่ ขปจู ้ ็ณกนั ใธสะรทอ่ รอี่ามา่รชนมาณตคิวใ์ หรสเ้ หบมสาาะยสตมาตผาูฟ้มังเนใือ้น ๘. การอา่ นในทปี่ ระชมุ ตอ้ งจบั หรอื ถอื บทอา่ นใหเ้ หมาะสมและยนื ทรงตวั ในท่าทสี่ งา่
วิธีการอา นรอ ยแกว ในการฝกอา นออกเสยี งขอความที่ เปน รอยแกว จะใชเ คร่อื งหมายวรรคตอน ในการอานเพื่อเปน การเวน ชวงจังหวะ การอา น ดังน้ี เครือ่ งหมาย / หมายถึง การหยดุ เวน ชวงจงั หวะสนั้ ๆ เครือ่ งหมาย // หมายถงึ การหยดุ เวน ชว งจังหวะท่ียาวกวาเครือ่ งหมาย / เครื่องหมาย _ (ขีดเสน ใต) หมายถึง การเนนหรอื การเพิ่มนา้ํ หนกั ของเสียง
ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการอา่ นออกเสยี งรอ้ ย แกว้ 1.ชว่ ยใหผ้ ฟู ้ ังเขา้ ถงึ รสและเห็นความงามของบท รอ้ ยกรองทอี่ า่ น ซาบ2.ซชงึ้ว่ (ยใอหาผ้กฟู ้ารังไรดสู ้ ร้กึ บั จคบั วใาจมอไยพ่าเงรลากึะแซลงึ้ ะเ)กดิ ความ 3.ชว่ ยใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน ความเพลดิ เพลนิ 4.ชว่ ยใหจ้ ดจาํ บทรอ้ ยกรองไดร้ วดเรว็ และแม่นยาํ 5.ชว่ ยกลอ่ มเกลาจติ ใจใหเ้ ป็ นคนออ่ นโยนและเยอื ก เย็น ( ประโยชนโ์ ดยออ้ ม ) 6.ชว่ ยสบื ทอดวฒั นธรรม ในการอา่ นทาํ นอง เสนาะไวเ้ ป็ นมรดกตอ่ ไป
การอา่ นออกเสยี งรอ้ ยกรอง ความหมายของบทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรอง หมายถงึ ถอ้ ยคาํ ที่ เรยี บเรยี งใหเ้ ป็ นระเบยี บตามบญั ญตั แิ หง่ ฉันทลกั ษณโ์ ดยมกี าํ หนดขอ้ บงั คบั ตา่ ง ๆ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความครกึ ครนื้ และมคี วาม ไพเราะแตกตา่ งไปจากถอ้ ยคาํ ธรรมดา ใน การอา่ นบทรอ้ ยกรองนั้น เราเรยี กวา่ “การ อา่ นทาํ นองเสนาะ”
การอา่ นทาํ นองเสนาะ คอื วธิ กี ารอา่ น ออกเสยี งอยา่ งไพเราะตามลลี าของบทรอ้ ย กรองประเภท โคลง ฉันท ์ กาพย ์ กลอน (การอา่ นทํานองเสนาะ คอื การอา่ นตาม ทํานอง ( ทาํ นอง = ระบบเสยี งสงู ตา่ํ ซงึ่ มี จงั หวะสนั้ ยาว ) เพอื่ ใหเ้ กดิ ความเสนาะ ( เสนาะ , น่าฟัง , เพราะ , วงั เวงใจ )
วตั ถปุ ระสงคใ์ นการอา่ นทํานอง เสนาะ การอา่ นทาํ นองเสนาะเป็ นการอา่ นใหค้ นอนื่ ฟัง ฉะน้ันทาํ นองเสนาะตอ้ งอา่ นออกเสยี ง เสยี งทาํ ให ้ เกดิ ความรสู ้ กึ – ทาํ ใหเ้ ห็นความงาม– เห็นความ ไจพะเเขราา้ ถะ งึ–รสเหแ็นลภะคาวพาพมจงานม์ ผขูฟ้องังบสมทั ผรอส้ั ยดกว้ รยอเสงทยี เงี่ รจยี งึ น กวา่ อา่ นแลว้ ฟังพรงิ้ เราะเสนาะโสต การอา่ น ทาํ นองเสนาะจงึ มุ่งใหผ้ ูฟ้ ังเขา้ ถงึ รสและเห็นความ งามของบทรอ้ ยกรอง
สนั นิษฐานไดว้ า่ การอา่ นทาํ นอง เสนาะพอจะไดว้ า่ น่าจะเกดิ จากการ ดาํ เนินวถิ ชี วี ติ ของคนไทยในสมยั กอ่ น ทมี่ คี วามเกยี่ วกนั กบั การรอ้ งเพลง ทาํ นองตา่ ง ๆ ตลอดมา ทงั้ นีจ้ าก เหตผุ ลทวี่ า่ คนไทยมนี ิสยั ชอบพูดคาํ คลอ้ งจองใหม้ จี งั หวะดว้ ยลกั ษณะ สมั ผสั เสมอ ประกอบกบั คาํ ภาษาไทยที่ มวี รรณยกุ ตก์ าํ กบั จงึ ทําใหค้ าํ มรี ะดบั เสยี งสงู ต่าํ เหมอื นดนตรี เมอื่ ประดษิ ฐ ์
ศลิ ปะการอา่ นทาํ นองเสนาะขนึ้ อยู่กบั ความสามารถ ของผูอ้ า่ น และความไพเราะของบทประพนั ธแ์ ตล่ ะ แปลระะตเภอ้ งทหผม่นูอั้ า่ฝนึ กทฝาํ นนกอางรเอสา่นนาจะจนงึ เตกอ้ดิ งคศวกึ าษมาชวาํ ธิ นกี าาญรอา่ นใหไ้ พเราะ อนึ่งศลิ ปะการอา่ นทาํ นองเสนาะอยทู่ ตี่ วั ผูอ้ า่ นตอ้ งรจู ้ กั วธิ กี าร อา่ นทอดเสยี ง โดยผ่อนจงั หวะใหช้ า้ ลง การเออื้ นเสยี ง โดยการ ลากเสยี งชา้ ๆ เพอื่ ใหเ้ ขา้ จงั หวะและใหห้ างเสยี งใหไ้ พเราะ การ ครน่ั เสยี ง โดยทาํ เสยี งสะดดุ สะเทอื นเพอื่ ความไพเราะเหมาะสม กจสเปางูบั็ นกบเกนเทสาื่อกยีรงงวหจสบี ลางู ากบลงผหงตมูอน้ อา่าีจนนเาปไกก็ มนาเ่สเสรสายีหยี มงลงทาตบรเี่ ่าํเกถสนิทหยี คจี่รงอะวื โดาจดมาํายเกสนกาเินสามรตยี าหงารตกัมถา่ํเทสจขาํ ยีงึนึน้ ตงไใอปอห้ งงเพต้ปห็อ่ลนกั ไกิเปสกไยี ลดงบั ้ ทาํ นองพลกิ กลบั เขา้ มาดาํ เนินทาํ นองในเขตเสยี งของตน และ โกอากรกาสระทแแี่ ทสกดเงสคยี วงโาดมโยกกราธรหอรา่ อนื คกวราะชมไามก่พเสอยใี จงใหหรด้อื งัเผมอืด่ิ ตปอก้ งตกใิ านร เนน้ เสยี ง (มนตรี ตราโมท2527 : 50 )
ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการอา่ น ทาํ นองเสนาะ 1.ชว่ ยใหผ้ ูฟ้ ังเขา้ ถงึ รสและเห็นความงามของ บทรอ้ ยกรองทอี่ า่ น 2.ชว่ ยใหผ้ ูฟ้ ังไดร้ บั ความไพเราะและเกดิ ความ ซาบซงึ้ ( อาการรสู ้ กึ จบั ใจอยา่ งลกึ ซงึ้ ) 3.ชว่ ยใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน ความ เพลดิ เพลนิ 4.ชว่ ยใหจ้ ดจาํ บทรอ้ ยกรองไดร้ วดเรว็ และ แม่นยํา 5.ชว่ ยกลอ่ มเกลาจติ ใจใหเ้ ป็ นคนออ่ นโยนและ
การอา่ นในใจ การอา่ นในใจ เป็ นการอา่ นเพอื่ เกบ็ เใขจาค้ ใวจามสเปาํ็ นคกญั ารแอลา่ นะทเพาํ อื่คแวสาวมงหา ความรคู ้ วามบนั เทงิ ใหแ้ กต่ นเอง ผูอ้ า่ นตอ้ งมคี วามรเู ้ กยี่ วกบั คาํ ศพั ท ์ และสามารถเขา้ ใจเรอื่ งราวทอี่ า่ นได ้ โดยตลอด
หลกั ทว่ั ไปของการอา่ นในใจ การอา่ นไดเ้ รว็ หรอื ชา้ ขนึ้ อย่กู บั คณุ สมบตั ิ บางประการของผูอ้ า่ น ดงั นี้ ๑. วงศพั ท ์ ถา้ ผูอ้ า่ นรศู ้ พั ทม์ าก คอื รคู ้ วามหมายทแี่ ทจ้ รงิ ของถอ้ ยคาํ สาํ นวนใน บทอา่ นก็จะสามารถเขา้ ใจเรอื่ งทอี่ า่ นไดด้ แี ละ รวดเรว็ ถา้ รศู ้ พั ทน์ อ้ ยก็ไม่อาจจบั ใจความ ของเรอื่ งทอี่ า่ น เป็ นการอา่ นทเี่ สยี เวลา และ อาจนําไปสอื่ สารตอ่ ไปอยา่ งผดิ ๆ
๒. ชว่ งสายตา การอา่ นทดี่ คี วรอา่ นเป็ น กลมุ่ ไม่ใชอ่ า่ นทลี ะคาํ ยงิ่ ผูอ้ า่ นมชี ว่ งสายตา ยาว คอื อา่ นไดท้ ลี ะกลมุ่ ใหญ่ และเลอื่ นชว่ ง สายตาไปขา้ งหนา้ ไดเ้ รว็ เพยี งใดก็สามารถ อา่ นไดเ้ รว็ เพยี งน้ัน กลมุ่ คาํ ทขี่ ดี คน่ั ตอ่ ไปนี้ เป็ นกลมุ่ คาํ ทคี่ วรทอดสายตาแตล่ ะชว่ ง งานที่ สนุกทหี่ นึ่ง / ในวดั เบญจมฯ / คอื งานออ กรา้ น / ในวดั นี้
๓. การเคลอื่ นไหวรมิ ฝี ปาก ตาม ธรรมดาการอา่ นในใจย่อมอา่ นไดเ้ รว็ กวา่ การ อา่ นออกเสยี ง เพราะการอา่ นออกเสยี งตอ้ ง อา่ นทลี ะคาํ ถงึ แมจ้ ะเป็ นการอา่ นในใจ ถา้ ตอ้ งทาํ ปากขมุบขมบิ รมิ ฝี ปากตามไปดว้ ยก็ ทาํ ใหเ้ สยี เวลาไลเ่ ลยี่ กบั การอา่ นออก เสยี ง การอา่ นในใจทถี่ กู ตอ้ งจงึ ไม่ควร เคลอื่ นไหวรมิ ฝี ปากในขณะอา่ น
๔. ระยะสายตา การอา่ นหนังสอื ที่ พอเหมาะแกร่ ะยะสายตา จะชว่ ยให ้ เห็นชดั และสบายตา คอื ระยะ ๑๕ นิว้ การอา่ นหนังสอื ทอี่ ยหู่ า่ ง จากตามากหรอื นอ้ ยกวา่ ระยะนีจ้ ะอา่ นได ้ ไม่ชดั และเป็ นอนั ตรายตอ่ สายตา
๕. ความมุง่ หมาย การอา่ นจะ ไดผ้ ลดที สี่ ดุ ตอ่ เมอื่ ผูอ้ า่ นมคี วาม ตอ้ งการรเู ้ รอื่ งในขอ้ ความที่ อา่ น ผูอ้ า่ นจะสามารถจบั ใจความ สาํ คญั ไดด้ แี ละเรว็ ถา้ ความมุ่ง ประสงคข์ องผูอ้ า่ นและผูเ้ ขยี น ตรงกนั กลา่ วคอื ผูอ้ า่ นใครร่ เู ้ รอื่ งที่ ผูเ้ ขยี นตอ้ งการสอื่ สารแกผ่ ูอ้ า่ น ใน การอา่ นแตล่ ะครงั้ ควรตง้ั จดุ มุ่งหมาย ในการอา่ นใหช้ ดั เจนวา่ ตอ้ งการรเู ้ รอื่ ง
วธิ กี ารอา่ นในใจ การอา่ นในใจอาจแบง่ ตามความมุ่งหมาย ได ้ ๒ วธิ ี คอื อา่ นอยา่ งเรว็ และอา่ นอยา่ งละเอยี ด ๑ อา่ นอย่างเรว็ การอา่ นอยา่ งเรว็ เป็ นการอา่ น ผใจ่าคนวๆาไมปสอว่ยนา่ ใงหรญวบใ่ รชดั ใ้ นกอราณจขีทา้ เี่ มรอตื่ งอนนั้นใดๆตคอนุ ้ นแลหะนเปึ่ง็หนรทอื ี่ น่าสนใจ หรอื รสู ้ กึ สนุกสาํ หรบั ผอู ้ า่ น ถงึ แมจ้ ะมคี าํ บางคาํ ทเี่ ป็ นคาํ แปลกใหม่ไม่รจู ้ กั มากอ่ นก็อาจขา้ มไป อสไดยนั้ า่้ งบบเารทงว็ คใทชวผี าใู้อ้นมา่ กนชาไอื่รมเอ่ไฉา่ดพนส้ าขงั ะเอ้ทกคคตี่ วนุเ้ าหเมค็นปยดรว้ ะเยเชภซน่ทาํ้ ชนไปอื่วกหนาิาย้ รราอาย้ นา่ นเชรออื่ื่ ง สนิ คา้ พาดหวั หนังสอื พมิ พ ์ การคน้ หาคาํ หรอื ขอ้ ความอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง เป็ นตน้
อยา่ งพรกอ้ามรกอาน่ั นตอายมา่หงวั เรขว็ อ้ อตาอ่ จไทปํานไี้ ดขอ้ ยนึ้ า่ องใยดู่กอบัยจา่ งดุ หปนรึ่งะหสรงอื คหใ์ลนายๆ การอา่ น ๑ อา่ นเฉพาะหวั ขอ้ เรอื่ ง หวั ขอ้ เรอื่ งมกั พมิ พด์ ว้ ยตวั หนา ๒ พจิ ารณาใจความสาํ คญั ของแตล่ ะยอ่ หนา้ ใจความ สาํ คญั มกั ปรากฏอยใู่ นประโยคตอนตน้ หรอื ตอนทา้ ยของยอ่ หนา้ ๓. หาชอื่ สถานที่ วนั ที่ คาํ จาํ กดั ความ กฎเกณฑ ์ หรอื ขอ้ คดิ ทสี่ าํ คญั ๔. อา่ นอกั ษรตวั หนา ตวั เอน และเครอื่ งหมายอนื่ ๆที่ แสดงความคดิ ทสี่ าํ คญั ๕. พจิ ารณาโครงเรอื่ งหรอื องคป์ ระกอบของ ขอ้ ความ เพอื่ หาใจความสรปุ ระหวา่ งความ คดิ เห็น ขอ้ เท็จจรงิ และกฎเกณฑต์ า่ งๆ
๒ การอา่ นอย่างละเอยี ด การ อา่ นอยา่ งละเอยี ดคอื การอา่ นอยา่ ง พนิ ิจพเิ คราะหเ์ พอื่ ใหเ้ ขา้ ใจทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งทอี่ า่ น ขณะทอี่ า่ นอยา่ งละเอยี ด ควรหยดุ ตง้ั คาํ ถามไปดว้ ยวา่ ได ้ อะไรบา้ งจากการอา่ น อาจบนั ทกึ ถอ้ ยคาํ หรอื หวั ขอ้ สาํ คญั ไวด้ ว้ ย เมอื่ อา่ นจบแตล่ ะบทใหน้ ึกยอ้ นกลบั ไปใหม่ วา่ จะจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั และ
ประโยชนข์ องการอา่ น 1. เป็ นการสนองความตอ้ งการของมนุษย ์ 2. ทาํ ใหม้ นุษยเ์ กดิ ความรู ้ ทกั ษะตา่ ง ๆ ตลอดจนความกา้ วหนา้ ทางวชิ าชพี 3. ทาํ ใหม้ นุษยเ์ กดิ ความคดิ สรา้ งสรรค ์ ความ เพลดิ เพลนิ บนั เทงิ ใจและเกดิ ความบนั ดาลใจ 4. เป็ นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็ นประโยชน์ 5. ทาํ ใหม้ นุษยท์ นั ตอ่ เหตกุ ารณค์ วาม เคลอื่ นไหวตา่ ง ๆ ของโลก 6. เป็ นการสง่ เสรมิ สขุ ภาพของมนุษย ์ 7. ชว่ ยใหม้ นุษยแ์ กป้ ัญหา สงั คม การเมอื ง เศรษฐกจิ และปัญหาสว่ นตวั
คณุ สมบตั ขิ องนกั อา่ นทดี่ ี 1. มมนีจี ิสติ ใยั จรกกั วกา้ างรขอวา่ านงพรอ้ มทจี่ ะอา่ นหนังสอื ทดี่ มี ี 2. คณุ คา่ ไดท้ กุ ประเภท 3. มเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การอา่ นและเรอื่ งทอี่ า่ น ตนเอง45ท..กุ วหเนัปม็ อนน่ั ยคหา่ นงารสเกวัมลห่ําานเสหังมรสอืออื จแดัลเะวแลสาวสงาํหหารหบั นกังาสรอื อทา่ ดี่นใอี หา่ กน้ บั อยเู่ สมอ 6. มคี วามสามารถในการเลอื กหนังสอื ทดี่ อี า่ น 7. มคี วามอดทน มอี ารมณห์ รอื มสี มาธใิ นการ อา่ น 8. มสี ขุ ภาพกาย สขุ ภาพจติ ทสี่ มบรู ณ์ 9. มคี วามเบกิ บาน แจม่ ใส และปลอดโปรง่ อยู่ เสมอ
10. มนี ิสยั ใฝ่ หาความรู ้ ความคดิ และ ประสบการณใ์ หม่ ๆ อยเู่ สมอ 11. มที กั ษะในการอา่ นสรปุ ความ วเิ คราะห ์ ความ และวนิ ิจฉัยความ 12. มคี วามคดิ หรอื มวี จิ ารณญาณทดี่ ตี อ่ เรอื่ งที่ อา่ นสามารถทจี่ ะแยกแยะขอ้ เท็จจรงิ ความถกู ตอ้ ง ความ เหมาะ1ส3ม.ตา่ มง นี ๆิสแยั ลชะสอาบมจาดรบถนั เลทอื กึ กเรนอื่ ํางไรปาใวชตป้า่ รงะๆโยทชพี่ นบ์ ใน การอา่ นและเห็นวา่ มคี ณุ คา่ 14. มคี วามจาํ ดี รจู ้ กั หาวธิ ชี ว่ ยจาํ และเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพของการจาํ 15. มนี ิสยั ชอบเขา้ รา้ นหนังสอื และหอ้ งสมุด อใหา่ แน้ ตดกว1้ ยฉ6กา. นนั ยอมงยิ่โี ขอเู่ สนกึ้ มาอสหเพรออืื่ หแลาโกอเปกลาสยี่ นพดู ทครยุรศกนบั ผะใูร้นกั กกาารรอา่ น
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: