สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระนอง ๐-๗๗๘๖-๒๐๘๒ www.m-culture.go.th/ranong
จาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา จังหวัดระนอง ชื่ อ ส ถ า น ที่ ที่ เ ข้ า ร่ ว ม โ ค ร ง ก า ร วัด ศาสนสถาน โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ ชุมชนคุณธรรม แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ฯลฯ
วัดสุวรรณคีรีวิหาร ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ วัดสุวรรณคีรีวิหาร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดหน้าเมือง เดิมชื่อ วัดสุวรรณคีรีทาราม เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๘ ถนนชาติเฉลิม ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัด ระนอง เป็นวัดแห่งแรกในจังหวัดระนอง เดิมวัดตั้งอยู่บริเวณริมคลองหาดส้ม แป้น ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง แต่เนื่องจากเป็นที่ลุ่มต่ำริมคลอง ในฤดู ฝนจึงเกิดน้ำท่วม ทำให้พระ-เณรต้องย้ายวัดเมื่อน้ำลดจึงกลับมาแต่ต้องเจอ สภาพน้ำขุ่นไม่สามารถใช้ได้ ด้วยมีการทำเหมืองแร่เหนือคลอง ทำให้วัดมี สภาพเหมือนวัดร้าง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จ ประพาสเมืองระนอง เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๓๓ ทรงทราบ เหตุการณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยารัตนเศรษฐี หรือคอซิมก๊อง เจ้าเมืองระนองในสมัยนั้น ดำเนินการหาที่ดินสร้างวัดขึ้นใหม่แทนวัดเก่าที่ ชำรุดทรุดโทรม แล้วพระราชทานที่เขตพระอุโบสถ ยาว ๑๔ วา ๒ ศอก กว้าง ๘ วา ๒ ศอก ให้เป็นที่วิสุงคามสีมา ยกเป็นแผนกหนึ่งต่างจากราชอาณาจักร เป็น ที่วิเศษสำหรับพระสงฆ์ได้อาศัยทำสังฆกรรมและโปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระ สงฆ์จากวัดสุวรรณคีรีทาราม มาสวดถอนและผูกพัทธสีมา และพระราชทาน นามว่า “วัดสุวรรณคีรีวิหาร” ปรากฏตามประกาศพระบรมราชโองการ ฉบับ ลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๓๗
ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ “พระธรรมธาตุเจดีย์ศรีระนอง” เนื่องด้วย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุ แก่ผู้อำนวยการ วัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒ ๕๔๙ ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ผ่านมา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในมหามงคลวโรกาสในครั้งนั้น พระ ระณังคมุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง พร้อมทั้งคณะ กรรมการวัด อุบาสก อุบาสิกา จึงปรึกษาร่วมกัน แล้วมีความเห็นตรงกันว่าควร สร้างอนุสรณ์ไว้เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ให้เป็นอนุสติแก่ชาวพุทธ ในกาลสืบไป ทางวัดสุวรรณคีรีวิหารพระอารามหลวงจึงได้ดำเนินการได้จัดสร้างองค์ พระเจดีย์ นามว่า “พระธรรมธาตุเจดีย์ศรีระนอง” เป็นที่ประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ โดยมีการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๑.๔๗ น. การก่อสร้างเจดีย์นั้นมีขนาดองค์เจดีย์มีความสูง ๒๙ เมตร รอบ องค์เจดีย์ มีขนาด ๙.๙๙ × ๙.๙๙ เมตร ส่วนรอบฐานมีขนาด ๑๓.๐๕ × ๑๓.๐๕ เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง จนแล้วเสร็จเป็นจำนวนเงิน ๑๕ ล้านบาท
ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ พระธรรมธาตุเจดีย์ศรีระนอง เป็นเจดีย์ที่พุทธศาสนิกชนชาวระนองร่วม กันสร้างขึ้นเพื่อไว้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับประทานสมเด็จพระ ญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ผ่านมา และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในมหามงคลวโรกาสในครั้งนั้น พระ ระณังคมุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง พร้อมทั้งคณะ กรรมการวัด อุบาสก อุบาสิกา จึงปรึกษาร่วมกัน แล้วมีความเห็นตรงกันว่าควร สร้างอนุสรณ์ไว้เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นแนวความคิดร่วม กัน ของพุทธศาสนิกชนชาวระนอง ที่จะให้มีการสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ และให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน สืบต่อไป
ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ ประวัติพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2549 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดประชุมสัมมนาเชิงวิชาการส่งเสริมและสนับสนุนพระพุทธ ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยนายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา และเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัด ทุกจังหวัดเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ณ หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในการนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เสด็จไปยังหอประชุมใหญ่พุทธมณฑล เมื่อเวลา 16.30 น. เพื่อประทานพระบรม สารีริกธาตุ แก่ผู้อำนวยการวัฒนธรรมจัหวัด ทุกจังหวัด เพื่อเป็นสิริมงคลและเป็น มิ่งขวัญของจังหวัด จากนั้นได้เสด็จไปสักการะองค์พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ และได้ทรงเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนาร่วม กับคณะสงฆ์ภาค 14 จากจังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และสมุทรสาคร จำนวนกว่า 2,000 รูป ที่มาพร้อมกัน ณ รอบบริเวณลานองค์พระประธานพุทธ มณฑล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และถวายพระพรชัย แด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง พร้อมทั้งคณะ กรรมการวัด อุบาสก อุบาสิกา จึงปรึกษาร่วมกัน แล้วมีความเห็นตรงกันว่าควรสร้าง อนุสรณ์ไว้เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นแนวความคิดร่วมกันของ พุทธศาสนิกชนชาวระนอง ที่จะให้มีการสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ และให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน สืบต่อไปโดยจะนำไป ประดิษฐานไว้ภายในองค์”พระธรรมธาตุเจดีย์ศรีระนอง”
ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ พระเจดีย์ดาธุ เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบพม่า รูปทรง กลมยกฐานสูงจากพื้นประมาณ 80 เซนติเมตร ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม จากฐานถึงยอดฉัตรสูงประมาณ 13 เมตร มีกำแพงโดยรอบทั้งสี่ด้านสูง ประมาณ 1 เมตร แต่ละด้านของกำแพงมีประตูทางเข้ากว้างประมาณ 2 เมตร ตัวเจดีย์และกำแพงฉาบด้วยปูนทาสีขาว ส่วนยอดฉัตร ของ เจดีย์ทำด้วยทองเหลืองและประดับเพชรที่ฉัตรเป็นสถาปัตยกรรมแบบ พม่า เจดีย์นี้มีอายุประมาณ 100 ปีเศษ ผู้สร้างคือ นางพั่วไซ่ข่าย มีสามี ชื่ออูอาวเม ซึ่งเป็นโหรในราชสำนักพม่า ต่อมาได้อพยพมาอยู่ในจังหวัด ระนอง และด้วยเป็นผู้ที่มีฐานะดี มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้ สร้างเจดีย์นี้ถวาย โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัว เพราะมีความเชื่อว่าหากผู้ใด ได้สร้างเจดีย์ถวายในพระพุทธศาสนาแล้ว จะเป็นการสร้าง บุญบารมี ให้ กับผู้สร้างในทุกภพทุกชาติ ปัจจุบันทายาทของท่าน รวมทั้ง พุทธศาสนิกชนชาวพม่า ที่ได้อพยพจากพม่ามาอยู่ที่จังหวัดระนอง รวม ถึงชาวพม่าได้มาทำงานในจังหวัดระนอง จะช่วยกันความสะอาดและ บูรณะสภาพมาโดยตลอด ทำให้พระเจดีย์มีความสวยงาม เป็นที่เชิดหน้า ชูตาของชาวระนอง และนับเป็นโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ระนอง โดยปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว
จวนเจ้าเมืองระนอง ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ จวนเจ้าเมืองระนอง เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ ต้องการทราบเรื่องราวของเมืองระนองและตระกูล ณ ระนอง จวนแห่งนี้สร้าง ขึ้นเมื่อปี 2420 ในสมัยพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอชู้เจียง) เจ้าเมือง ระนองคนแรกและเป็นต้นตระกูล ณ ระนอง ผู้สร้างคือ ลูกชายของท่าน มี ราชทินนามเหมือนท่าน คือ พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซิมก๊อง) เป็น บุตรคนที่ ๒ ของท่านเจ้าเมือง มีเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่เศษ ตั้งอยู่ในเขต เทศบาลเมืองระนอง เดิมชาวระนองรู้จักในชื่อ “บ้านค่ายเจ้าเมืองระนอง” จวนเจ้าเมืองระนองกรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ. 2539 ภายในบ้าน มีกำแพงก่อด้วยอิฐ ถือปูนล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน มีป้อมเชิง เทิน มีบ้านขนาดใหญ่ 3 หลัง ติดกันทำเป็นเรือนรับรองสำหรับเจ้าเมืองระนอง มีโรงเก็บสินค้า โรงช้าง โรงม้า โรงต้มกลั่นสุรา โรงต้มฝิ่ น และฉางข้าว
วัดวารีบรรพต ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ วัดวารีบรรพต (Wat Wareebanphot) หรือ วัดบางนอน (Wat Bang Non) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดระนอง ตั้งอยู่บนเนินเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขา วัดแห่งนี้สร้างโดยหลวงพ่อด่วน ถามวโร ท่านเป็น พระธุดงค์ที่มาจากจังหวัดสงขลา ชาวบ้านเลื่อมใสและศรัทธาในตัวท่านจึง ได้พากันนิมนต์ท่านให้จำพรรษา ณ ที่แห่งนี้ หลวงพ่อด่วน ถามวโร อดีตเจ้า อาวาสวัดวารีบรรพต พระสงฆ์ผู้สร้างปาฏิหาริย์ ที่เผาสังขารไม่ไหม้ วันพระราชทานเพลิงศพ จนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ
“หลวงพ่อด่วน” ถามวโร หรือพระครูประภัสรวิริยคุณ อดีตเจ้าอาวาส วัดวารีบรรพต (วัดบางนอน) ตำบลบางนอน อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พระ เกจิที่วัดบางนอนและสร้างพระพุทธไสยาสน์ใหญ่สุดในภาคใต้ วัตถุมงคล ที่ มีชื่อเสียง คือ เหรียญหลวงพ่อด่วน รุ่นแรกปี พ.ศ.2506 ลักษณะเหรียญรูปไข่ หูเชื่อมพร้อมห่วง ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือน เขียนข้อความว่า “หลวง พ่อด่วน ถามวโร วัดวารีบรรพต” ด้านหลังเหรียญ เป็นพระพุทธรูปปาง ไสยาสน์ ขียนข้อความว่า “(บางนอน) จังหวัดระนอง” เหรียญรุ่นนี้หายาก และราคาขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว “พระพุทธไสยาสน์” หรือพระนอน เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุด ในภาคใต้ ยาว 22 เมตร สร้างขึ้นเมื่อ 2507 สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ บ้านบางนอน ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธไสยาสน์บนเนินเขาบางนอน โดยมีนายช่างจากกรมศิลปากรเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง เมื่อการก่อสร้าง ใกล้แล้วเสร็จ กรมศิลปากรแนะนำให้พระครูประภัสรวิริยะคุณทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานดวงพระเนตรพระพุทธรูปปางไสยาสน์ผ่านทางสำนัก พระราชวัง เมื่อทางสำนักพระราชวังนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานดวงพระเนตรพระพุทธไสยาสน์ทั้งสองดวง
บ้านเทียนสือ หรือ บ้านร้อยปีเทียนสือ ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ บ้านเทียนสือ หรือบ้านร้อยปีเทียนสือ ตั้งอยู่บนถนนดับคดี ตรง ข้ามศาลจังหวัด ใกล้ชุมชนตลาดใหม่ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง บ้านหลังดังกล่าวสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีประวัติความเป็นมายาวนาน กว่าหนึ่งร้อยปีนับถึงปัจจุบัน แต่เดิมเรื่องราวต่าง ๆ เป็นที่รับรู้และภูมิใจ เพียงในครอบครัว หากแต่ปัจจุบันเรื่องราวต่าง ๆ พร้อมที่จะเผยแพร่สู่ผู้มา เยี่ยมเยือน ทุกท่านได้ร่วมนึกถึงภาพความหลังและหวังเพียงเพื่อ เป็นจุด เริ่มต้นของแรงบันดาลใจให้ผู้มาเยี่ยมเยือนทุกท่านได้กลับไปร่วมค้นหาและ บันทึกเรื่องราว ความเป็นมาของบรรพบุรุษของตนเอง “เทียนสือ” เป็นชาย ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เกิดในยุคปลายราชวงศ์ ชิง (หรือ ราชวงศ์ แมนจู ปกครองประเทศจีนในช่วงปี ค.ศ. ๑๖๖๔-๑๙๑๒) ตามหลักฐานที่ปรากฏ ของป้ายวิญญาณและสุสานรวมไปถึงคำบอกเล่าจากญาติผู้ใหญ่ นายเทียน สือ ได้เดินทางอพยพมายังสยามเมื่อราวร้อยกว่าปีก่อน และมีโอกาสได้รับ ตำแหน่ง เป็นผู้ช่วยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ข้าราชการชาวสยาม บุตรคนสุดท้องของ พระยาดำรงสุจริต มหิศรภักดี (คอ ซูเจียง) ต้นตระกูล ณ ระนอง
“พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีระณังค์” สักการระ “หลวงพ่อดีบุก”หรือ “พระประธานในอุโบสถ” เป็น พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่ในอุโบสถ ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ใช้ แร่ดีบุกซึ่งเป็นโลหะธาตุหล่อองค์พระพุทธรูป อันมีนัยแห่งความดี หมายถึง “ความ “ดี” ที่ “บุก” เอาชนะความชั่ว” หรือ “ดี บุก ชั่ว” แร่ดีบุกมีอยู่ มากมายในจังหวัดระนอง จนได้ชื่อว่า “เมืองแร่นอง” และต่อมาเพี้ยนกร่อน คำมาเป็น “ระนอง” ประกอบกับตำบลหงาวก็เป็นแหล่งแร่ดีบุก อุดม สมบูรณ์แห่งหนึ่ง การสร้างพระประธานในอุโบสถด้วยดีบุกทำให้คน รุ่นใหม่รู้จักแร่ดีบุก องค์พระประธานที่หล่อด้วยแร่ดีบุกขึ้นนี้ มีชื่อ สามัญว่า “หลวงพ่อดีบุก” ส่วนชื่อที่เป็นทางการคือ “พระติปุกะพุทธมหา ศากยมุนีศรีระณังค์” อันมีความหมายว่า “พระพุทธรูปดีบุกองค์ใหญ่เป็นสิริ มงคลและศักดิ์ศรีของเมืองระนอง”
พระประธานในอุโบสถวัดบ้านหงาว สร้างเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๑ ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ มหาฤกษ์ ๑๓.๓๙ น. ขนาดพระประธานหลวงพ่อดีบุก เป็นตัวเลขล้วนมีความหมายลึกซึ้งใน แง่ของธรรมะและประวัติศาสตร์ คือ หน้าตักกว้าง ๙ ฟุต หมายถึง สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๙ หรือมงคล ๙ สูงสุดแห่งมงคล ส่วนสูงจากฐาน ถึงเกตุมาลา ๔ เมตร หรืออริยสัจ ๔ ที่พระพุทธองค์แสดงปฐมเทศนา หรืออีกความหมายหนึ่งในอดีตพระมหากษัตริย์ ได้เคยเสด็จ เมืองระนองถึง ๔ พระองค์ คือ รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๗ และรัชกาลที่ ๙ นับว่าเป็น พระประธานที่หล่อด้วยแร่ดีบุกองค์ แรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้แร่ดีบุกถึง ๓ ตัน รวมถึงพระสารีบุตรและ พระโมคคัลลานะ รวมค่าใช้จ่ายประมาณ ๔ ล้านบาท หลวงพ่อดีบุก วัดบ้านหงาว แม้จะไม่ได้เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ แต่เป็นพระพุทธรูป ศักดิ์สิทธิ์ แร่ดีบุกที่ใช้ในการสร้างองค์พระประธานเป็นแร่ที่มีนัยแห่ง ความดี คือ ดีบุก หมายถึง “ความดีที่บุกเอาชนะความชั่ว” พุทธศาสนิกชนทั้งในจังหวัดระนอง และต่างจังหวัด รวมทั้งนักท่อง เที่ยว จะเข้ามาสักการะของพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เนื่องด้วยองค์พระประธานที่งดงามมาก
แหล่งเรียนรู้การทำผ้ามัดย้อมจากไม้โกงกาง ชุมชนคุณธรรมวัดบ้านหงาว หมู่ที่ ๑ ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์/ ๑. มัดด้วยยางให้แน่น ตามที่ต้องการ แล้วนำไปล้างน้ำสะอาดให้ ทั่วก่อนนำไปใส่หม้อย้อม ๒. การย้อมด้วยน้ำจากไม้โกงกาง ต้มน้ำใหร้อน ใช้ไฟปานกลาง ใช้เวลา๑๕ นาที การแช่น้ำปูนใส ๓. นำออกจากหม้อย้อม แช่น้ำปูนใส ใช้เวลา ๕ นาที ๔.การซักล้าง แกะไม้ ยาง ที่มัดออก และนำไปซัก ล้าง ๕. การตาก เวลาตากให้ตากลมหรือแดดอ่อน ๆ หรือในที่แดด ส่อ ง ไ ม่ถึ ง เ พื่ อ ไ ม่ใ ห้ สี ซีด เ ร็ว เ กิ น ไ ป
ผลิตภัณฑ์ดิ้นโบราณ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ จากแจกันดอกไม้ดิ้นโบราณอายุกว่าร้อยปี ซึ่งเป็นมรดก ตกทอดมาจากตระกูล ณ ระนอง ที่จวนเจ้าเมืองระนองเก่า เมื่อ ครั้งสมัยที่จังหวัดระนองได้รับวัฒนธรรมเปอรานากัน จากปีนัง ประเทศมาเลยเซีย เนื่องจากมีการติดต่อทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านการศึกษา โดยเป็นศิลปะที่หาชมได้ยาก และเลือนหายไปจาก ระนองไปแล้ว ในอดีตผลิตภัณฑ์ดิ้นโบราณได้นำมาประดิษฐ์เป็น มงกุฏประดับศีรษะ เจ้าสาวในพิธีแต่งงาน ดอกไม้ติดเสื้อสำหรับ เจ้าบ่าว และได้พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์ของ จังหวัดระนองและสอดคล้องกับสมัยนิยม เช่น นำมาตกแต่งทรง ผม เป็นเข็มกลัด ตกแต่งเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์เข็มกลัดหงส์ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ มีแนวคิดมาจากความเชื่อของ กลุ่มชาติพันธ์ชาวบ่าบ๋าหรือจีนฮกเกี้ยนที่อาศัยอยู่ในจังหวัด ระนอง ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานในสมัยรัชกาลที่ ๓ ชาวจีนฮกเกี้ยนได้ นำรูปหงส์มาเป็นส่วนประกอบต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ชุมชนคุณธรรมบ้านบางริ้น กลุ่มหัตถศิลป์ดิ้นโบราณ นายปิยณัฏฐ์ อิสสระสงคราม ๑๕/๓๘ หมู่ ๑ ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง ๘๕๐๐๐ ๐๖๖-๑๖๒๖๖๓๙ เพจ : เครื่องประดับเปอรานากัน - บาบ๋า ย่าหยา
ประวัติความเป็นมา/ความสำคัญ ศาลหลักเมืองระนอง ตั้งอยู่หน้าเทศบาลเมืองระนอง มี ลักษณะเป็นศาลาจัตุรมุข ทรงไทย มียอดศาลาตามลักษณะภูมิสถา ปัตย์แบบพระธาตุไชยา จำนวนห้ายอดมีความสูงถึงยอด 13.60 เมตร ตัวศาลมีขนาดกว้างยาวด้านละ 6 เมตร เป็นศาลหลักเมืองที่ มีความสวยงามและเป็นที่เคารพสักการะของชาวระนอง เมื่อปี พ.ศ. 2530 เทศบาลเมืองระนอง จึงได้ริเริ่ม โครงการสร้างศาลหลักเมืองขึ้น ณ บริเวณที่เคยเป็นบ้านพัก เก่าของพระยารัตนเศรษฐี เจ้าเมืองระนอง ริมคลองหาดส้ม แป้น เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิร เกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จแทนพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบ ศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประกอบ พิธียกเสาหลักเมือง และทรงเปิดศาลหลักเมือง
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: