อนิ เตอร์เน็ตและการใช้บริการบนอนิ เตอร์เน็ต จัดทาโดย นายภาณวุ ฒั น์ มากมูล เลขท่ี 29 ปวส.2 คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ ห้อง 1
ความหมายของอนิ เทอร์เน็ต อนิ เทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ที่เกิดจากการนาเอาระบบเครือข่ายยอ่ ย หลายเครือข่ายมาเชื่อมต่อกนั มาจากคาวา่ Inter Connection Network เรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ “ไซเบอร์ สเปซ (Cyberspace)”
ประวตั คิ วามเป็ นมาของอนิ เทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตเกิดข้ึนในปี 1940 โดยคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ จะเป็นเครื่องท่ีมีขนาดใหญ่ เช่น Mainframe ทาใหม้ ี ขอ้ จากดั ในการใชง้ าน จึงมีการคิดวิธีการสื่อสารระหวา่ ง คอมพิวเตอร์ข้ึน โดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา จดั ต้งั หน่วยงานที่ช่ือวา่ ARPA (Advanced Research Projects Agency) เป็นหน่วยงานในการดูแลและ พฒั นาการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ และต้งั ชื่อเครือข่ายวา่ “ARPANET”
ประวตั คิ วามเป็ นมาของอนิ เทอร์เน็ตระดบั นานาชาติ พ.ศ.2503 โครงการของ ARPAnet (Advanced Research Projects Agency Network) เป็นหน่วยงานสงั กดั กระทรวงกลาโหมของ สหรัฐอเมริกา เพื่อแลกเปล่ียนขอ้ มูลวจิ ยั ทางการทหาร พ.ศ.2512 เร่ิมทดลองเชื่อมตอ่ คอมพิวเตอร์คนละชนิดจากมหาวทิ ยาลยั 4 แห่งเขา้ ดว้ ยกนั เป็นคร้ังแรก (แสตนฟอร์ด,ลอสแองเจอลิส, แคลิฟอร์เนีย,ยทู าร์) ปี 2524 มหาวทิ ยาลยั ทุกแห่งในสหรัฐเช่ือมโยงเขา้ สู่เครือข่าย และ เปล่ียนชื่อมาเป็น “อนิ เตอร์เน็ต” พ.ศ.2526 นามาตรฐานการติดต่อแบบ TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol) มาใชก้ บั คอมพิวเตอร์ในระบบเครือขา่ ย Internet
ประวตั คิ วามเป็ นมาอนิ เทอร์เน็ตในประเทศไทย พ.ศ.2530 การเช่ือมต่อกบั คอมพวิ เตอร์ ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั สงขลา นครินทร์และสถาบนั เทคโนโลยแี ห่งเอเชีย ไปยงั มหาวทิ ยาลยั เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย พ.ศ 2535 ศนู ยเ์ ทคโนโลยอี ิเลก็ ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)ไดเ้ ชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กบั มหาวทิ ยาลยั เรียกเครือข่ายน้ี วา่ ไทยสาร (ThaiSarn : Thai Social Scientific Academic & Research Network) เพื่อแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสาร ความรู้ตลอดจน ขอ้ คิดเห็นของ นกั วจิ ยั นกั วชิ าการ โดยจุดแรกท่ีมีการเชื่อมโยงเขา้ กบั อินเตอร์เน็ต
ความสาคญั ของอนิ เทอร์เน็ต การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศที่ทนั สมยั การติดต่อสื่อสารท่ีสะดวก และรวดเร็ว แหล่งรวบรวมขอ้ มลู แหล่งใหญ่ท่ีสุดของโลก
1202111 อ.สธุ าสนิ ี ฉมิ เลก็
1202111 อ.สธุ าสนิ ี ฉมิ เลก็
1202111 อ.สธุ าสนิ ี ฉมิ เลก็
อปุ กรณ์ท่จี าเป็ นในการเชื่อมต่ออนิ เทอร์เน็ต 1. คู่สายโทรศัพท์ (เช่น โทรศัพท์บ้าน)
อปุ กรณ์ท่ีจาเป็ นในการเชื่อมต่ออนิ เทอร์เน็ต2. ช่องทางเช่ือมต่อ Modem แบบ External - MODEM (ติดต้งั ภายนอก) - ADSL - LAN Modem แบบ Internal - อนื่ ๆ (เวลาติดต้งั ตอ้ งติดต้งั ในเครื่อง)ADSL Router สาย Lan
อปุ กรณ์ทจี่ าเป็ นในการเชื่อมต่ออนิ เทอร์เน็ต 3. โปรแกรมรองรับการทางาน - Web browser - Mail Client - อน่ื ๆ
อปุ กรณ์ท่ีจาเป็ นในการเชื่อมต่ออนิ เทอร์เน็ต 4. ผู้ให้บริการอนิ เทอร์เน็ต (Internet Service Provider)
การเช่ือมต่อระบบอนิ เทอร์เน็ต
ประเภทโปรแกรมทใี่ ช้กบั อนิ เตอร์เน็ต 1. โปรแกรมประเภทบราวเซอร์ โปรแกรมประเภทน้ีเป็ นโปรแกรมท่ีใชส้ าหรับท่องเวบ็ ไปยงั เวบ็ ไซดต์ ่าง ๆ ที่ตอ้ งการ โดยปกติแลว้ เราจะคุน้ เคยกบั โปรแกรมท่ีมีชื่อวา่ Internet Explorer ท่ีมาพร้อมกบั วนิ โดว์ แต่ความเป็ นจริงแลว้ ยงั มีอีกหลายโปรแกรมที่ สามารถใชง้ านได้ และปัจจุบนั มีการพฒั นาทาใหส้ ามารถใชค้ าสง่ั เป็ น ภาษาไทยได้
ประเภทโปรแกรมทใี่ ช้กบั อนิ เตอร์เน็ต 2. โปรแกรมประเภทสร้างเวบ็ เพจ โปรแกรมประเภทน้ีเป็ นโปรแกรมสาหรับสร้างหนา้ เวบ็ เพจท่ีเราใชเ้ ขา้ ไป ดู ซ่ึงโปรแกรมประเภทน้ีมีอยมู่ ากมายหลายโปรแกรม ท่ีโครงสร้างหลกั แลว้ Web ส่วนใหญใ่ ชโ้ ครงสร้างภาษา HTML ตวั อยา่ งโปรแกรมที่ใชส้ ร้างเวบ็ เช่น โปรแกรม Dreamweaver
ประเภทโปรแกรมทใี่ ช้กบั อนิ เตอร์เน็ต 3. โปรแกรมประเภทสนทนา สาหรับโปรแกรมประเภทน้ี เป็ นโปรแกรมท่ี ใชต้ ิดตอ่ หรือสารระหวา่ งกนั ซ่ึงอาจติดตอ่ ดว้ ยการพิมพ์ ผา่ นทางแป้ นพมิ พ์ การคุยผา่ นไมโครโฟน และผา่ น กลอ้ งวดี ีโอ ซ่ึงทาใหเ้ ห็นท้งั ภาพและเสียงขณะท่ีคุยกนั มี โปรแกรมหลายประเภทที่ใชเ้ กี่ยวกบั การสนทนา แต่ Windows ก็มีโปรแกรมที่เรียกวา่ NetMeeting
บริการพนื้ ฐานบนอนิ เทอร์เน็ต 1. จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-mail) 2. World Wild Web (WWW) 3. File Transfer Protocol (FTP) บริการดาวโหลดไฟล์ 4. Telnet การใชค้ อมพิวเตอร์แบบรีโมท 5. Usenet บอร์ดข่าวสารระดบั โลก 6. สนทนา (Chat) 7. อ่ืนๆ Voice/Video Conference ,Search Engine , Game , Multimedia , TV , Radio , VDO
1.จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Mail or E-mail)„ เป็นวธิ ีการติดต่อสื่อสารกนั บน Internet ที่เป็นมาตรฐาน และนิยมมากท่ีสุด„ ส่งเอกสารที่เป็นขอ้ ความธรรมดา แบบมลั ติมิเดีย มีท้งั ภาพและเสียง„ ผทู้ ่ีส่งและรับจะตอ้ งมี E-Mail Address คลา้ ยๆ กบั ชื่อ-นามสกลุ และท่ีอยู่[email protected]„ขอ้ มูลในจดหมายจะถูกส่งไปยงั Server ขอ้ มลู ในจดหมายจะถูกเกบ็ ไว้จนกระทงั่ ถูกเรียกใช้ [email protected] ชื่อสมาชิกอนิ เทอร์เนต็ @ โดเมนเนม
1.จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Mail or E-mail) ผใู้ ชง้ านอินเทอร์เน็ตสามารถทาการ รับ ‟ ส่ง อีเมล์ ไดห้ ลากหลายวิธีท้งั การใชง้ านโปรแกรมเฉพาะในการรับ ‟ ส่งอีเมล์ เช่นโปรแกรม MicrosoftOutlook
1.จดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Mail or E-mail) ผใู้ ชง้ านอินเทอร์เน็ตสามารถทาการ รับ ‟ ส่ง อีเมล์ ผ่านระบบเวบ็ เบส (อาศยั บริการ WWW) เช่นระบบเวบ็ เบสอีเมลข์ อง Hotmail
ข้อดขี อง E-mail เป็ นการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สามารถกระจายขอ้ มูลในจดหมายไปยงั ผอู้ า่ นหลายๆ คนได้ ขอ้ มลู ในจดหมายอาจจะถูกส่งต่อไปยงั ผอู้ ่ืนอีกไดง้ ่าย สามารถส่งขอ้ มูลในจดหมายไดร้ วดเร็วมาก แมว้ า่ จะอยไู่ กลออกไป สามารถแนบ files ไปกบั ขอ้ มูลในจดหมายได้ ไมต่ อ้ งติดแสตมป์ ใส่ซองหรือไปท่ีทาการไปรษณีย์ข้อเสียของ E-mail ไดร้ ับจดหมายท่ีไม่พึงประสงคม์ ากข้ึน Junk mail หมายถึง E-mail ที่ไร้สาระ ไมใ่ ชแ้ ลว้
2. บริการแสดงผลเวบ็ ไซต์ หรือ WWW(World Wide Web) บริการ WWW คือบริการแสดงผลเวบ็ ไซตซ์ ่ึงเป็ นเอกสารไฮเปอร์เท็กซ์(Hyper Text) ท่ีสามารถแสดงผลไดท้ ้งั ตวั อกั ษร รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหวเสียง และการเชื่อมโยง (Link) ไปยงั เอกสารไฮเปอร์เทก็ ซ์ อื่น ๆ บริการ WWW จะต้องทางานบนโปรแกรมในกลุ่ม WebBrowser ซ่ึงได้แก่ Microsoft Internet Explorer , NetscapeCommunication , Mozilla Firefox , Google Chrome , Safari เป็ นตน้โดยผู้ใช้ต้องเปิ ดโปรแกรมในกลุ่มดังกล่าวข้ึนมาแล้วป้ อนURL( Uniform Resource Locator) ของเวบ็ ไซตท์ ี่ตอ้ งการแสดงผล ตวั อยา่ งURL เช่น www.uru.ac.th
3. File Transfer Protocol บริการ Download ไฟล์ บริการถา่ ยโอนแฟ้ มขอ้ มลู จากคอมพิวเตอร์เครื่องหน่ึงไปยงั คอมพิวเตอร์ อีกเคร่ืองหน่ึงในเครือข่ายอินเทอร์เนต็ ผใู้ ชส้ ามารถเลือกแฟ้ มขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการถ่ายโอนไดท้ ้งั จากเครื่องของตนเพ่ือ ถา่ ยโอนไปยงั เครื่องปลายทาง (Upload) หรือเลือกแฟ้ มขอ้ มลู จากเคร่ือง ปลายทางเพื่อทาการถา่ ยโอนมาที่เคร่ืองของตนเองได้ (Download) การเรียกใชบ้ ริการ FTP ใหพ้ ิมพ์ ftp:// ตามดว้ ยช่ือของ FTP site หรือ FTP server เช่น ftp://microsoft.com โปรแกรมท่ีใช้ Download เช่น Cute FTP, WS_FTP หรือ FTP ท่ีอยใู่ น บราวเซอร์ (Browser )
4.Telnet การใช้คอมพวิ เตอร์ระยะไกล เป็นบริการท่ีเราสามารถเขา้ ใชง้ านคอมพิวเตอร์อีกเคร่ืองหน่ึงที่ อยไู่ กล ๆ ไดโ้ ดยอาศยั อินเทอร์เน็ต เช่น หากเราอยนู่ อก สานกั งาน เรากส็ ามารถเรียกใชข้ อ้ มลู จากเครื่องคอมพวิ เตอร์ใน สานกั งานที่ถูกเปิ ดและต่อเครือข่ายอินเทอร์เนต็ ไว้ ไดเ้ สมือนกบั ทางานท่ีสานกั งานน้นั ๆ ผใู้ ชส้ ามารถใช้ Server ตวั ใดๆในโลกท่ีเช่ือมกบั อินเทอร์เนต็ โดย Server ดงั กล่าวตอ้ งอนุญาติใหค้ ุณใช้ คือ ผใู้ ชต้ อ้ งมีบญั ชี และรหสั ผา่ นน้นั เอง บริการ Telnet สามารถสง่ั Server ใหท้ างานไดเ้ ช่น รันโปรแกรม หรือ คอมไพลโ์ ปรแกรม
5. การแลกเปลย่ี นข่าวสารและความคดิ เห็น(Usenet หรือ Weblog) เป็ นการให้บริการแลกเปล่ียนข่าวสารและแสดงความคิดเห็น ผูใ้ ชบ้ ริการ อินเทอร์เน็ตทว่ั โลกสามารถพบปะกนั แสดงความคิดเห็นของตน มีการจดั การผใู้ ชเ้ ป็ นกลุ่มข่าวหรือนิวส์กรุ๊ป (News Group) แลกเปลี่ยนความ คิดเห็นกนั ในหวั ขอ้ ตา่ ง ๆ เช่น เรื่องหนงั สือ การเล้ียงสตั ว์ ตน้ ไม้ คอมพิวเตอร์ บนั เทิงและการเมือง เป็ นตน้ (อาศยั บริการ WWW) การใชง้ านบริการแลกเปล่ียนข่าวสารและความคิดเห็นในปัจจุบนั มีลกั ษณะ ที่เรียกว่า Weblog โดยมีการสร้างบล็อกของผูใ้ ชแ้ ต่ละคนข้ึนมา ซ่ึงผูใ้ ชง้ าน อื่นสามารถเขา้ มาอ่านขอ้ ความในบล็อกและสามารถแสดงความคิดเห็นของ ตนลงในบลอ็ กเหล่าน้นั ได้
5. การแลกเปลยี่ นข่าวสารและความคดิ เห็น(Usenet หรือ Weblog)
6. การสนทนาด้วยข้อความ (Chat) บริการใหผ้ ใู้ ชอ้ ินเทอร์เนต็ พดู คุยสนทนาโดย การพิมพ์ Internet Phone โดยภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว บริการที่นิยมในลกั ษณะเดียวกนั คือโปรแกรม MSN Messenger, ICQ,Yahoo
7. การสืบค้นข้อมูล (Search) คือบริการการคน้ หาข่าวสารในเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต มีการจดั เรียง ขอ้ มูลขา่ วสารตามหวั ขอ้ อยา่ งมีระบบ ทาใหผ้ ใู้ ชค้ น้ หาขอ้ มลู ไดง้ ่าย และสะดวกข้ึน โดยบริการน้ีผใู้ ชต้ อ้ งเปิ ดเวบ็ ไซต์ (อาศยั บริการ WWW) ท่ีมีการทางานเป็น เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการสืบคน้ (Search Engine) ไดแ้ ก่ www.google.co.th , www.yahoo.com , www.altavista.com เป็นตน้ จากน้นั ป้ อนคาคน้ หา (Key Word) แลว้ สง่ั ให้ Search Engine ทาการคน้ หาขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ต ก็จะ ปรากฏสารบญั เวปไซต์ ตามคาท่ีส่ังคน้ หา ซ่ึงผใู้ ชส้ ามารถเรียกเวป ไซตเ์ หล่าน้นั ข้ึนมาแสดงผลได้
8. บริการอนื่ ๆ ขอ้ มูลเสียง Voice การประชุมทางไกล Video Conferrence การสืบคน้ ขอ้ มลู Search Engine โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ สื่อผสม Multimedia โทรทศั น์ TV วทิ ยุ Radio วดี ีโอ VDO
คอมพวิ เตอร์ในระบบอนิ เทอร์เน็ต รู้จักกนั ได้อย่างไร 202.100.20.1 203.183.233.6
การทางานของอนิ เทอร์เน็ต มโี ปรโตคอลทเ่ี ป็ นมาตรฐานสาหรับการเชื่อมต่ออนิ เทอร์เน็ต คอื TCP/IP (TransmissionControl Protocol/Internet Protocol)
โปรโตคอล (Protocol) ในการสื่อสารทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จาตอ้ งมีการสื่อสาร ขอ้ มลู ระหวา่ งเคร่ืองคอมพิวเตอร์ในระบบ ซ่ึงเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ที่ ต่ออยใู่ นเครือขา่ ยเดียวกนั น้ี อาจจะมีฮาร์ดแวร์,ซอฟทแ์ วร์ที่แตกต่าง กนั ดงั น้นั เม่ือทาการส่งขอ้ มลู ถึงกนั และตีความหมายไดต้ รงกนั จึง ตอ้ งมีการกาหนดระเบียบวธิ ีการติดต่อใหต้ รงกนั โปรโตคอล ( Protocol ) คือระเบียบวธิ ีท่ีกาหนดข้ึนสาหรับการ ส่ือสารขอ้ มลู โดยสามารถส่งผา่ นขอ้ มูลไปยงั ปลายทางไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง ซ่ึงตวั โปรโตคอลที่นิยมใชใ้ นปัจจุบนั คือ TCP/IP
IP Address คอื อะไร คอมพวิ เตอร์ทุกเคร่ืองบนอินเทอร์เนต็ ตอ้ งมีหมายเลข ประจาเครื่อง เรียกวา่ IP Address (หรือ Internet Address) เปรียบเสมือนบา้ นเลขที่ ซ่ึงประกอบดว้ ยตวั เลข 4 ชุด มี เคร่ืองหมายจุดข้นั ระหวา่ งชุด เช่น 192.168.100.1 หรือ 172.16.10.1 เป็นตน้ โดยมีองคก์ รที่ทาหนา้ ที่จดั สรรหมายเลย IP Address โดยเฉพาะเรียกวา่ InterNIC (Inter Network Information Center)
ช่ือโดเมน (DNS : Domain Name System) ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองจะมีหมายเลขประจาเครื่อง (IP Address) ซ่ึงกาหนดเรียกตวั เลขระบุตาแหน่ง เช่น202.44.202.22 , 201.44.202.3 หรือ 203.147.7.200 เป็ นตน้ แต่ระบบหมายเลขมีขอ้ บกพร่องคือจายากและไม่ได้สื่อความหมายให้ผูใ้ ช้งานทวั่ ไปทราบ ดงั น้นั จึงมีผคู้ ิดระบบต้งั ชื่อใหง้ ่ายข้ึน เรียกวา่ ระบบชื่อของเครื่อง (Domain Name System : DNS ) โดย DNS จะเปล่ียน ตวั เลข IPAddress ใหเ้ ป็นคาที่อา่ นแลว้ เขา้ ใจและจาไดง้ ่าย
ช่ือโดเมน (DNS : Domain Name System) DNS เป็ นระบบท่ีใช้เก็บขอ้ มูลของชื่อโดเมน ซ่ึงใช้ในเครือข่ายขนาดใหญ่อย่างอินเทอร์เน็ต โดยขอ้ มูลท่ีเก็บมีหลายอยา่ ง แต่ส่ิงสาคญั คือความสัมพนั ธ์ระหว่างช่ือโดเมนน้นั ๆ กบั หมายเลขไอพีที่ใช้งานอยู่ คาว่าDNS สามารถแทนความหมายไดท้ ้งั Domain Name Service (บริการช่ือโดเมน) และ Domain Name Server (เคร่ืองบริการช่ือโดเมน) อีกดว้ ย
ช่ือโดเมน (DNS : Domain Name System) โดย DNS จะเปล่ียน ตวั เลข IP Address ใหเ้ ป็นคาท่ีอ่านแลว้เขา้ ใจและจาไดง้ ่าย เช่น- IP Address 208.117.236.69 เป็น DNS คือ www.youtube.com- IP Address 216.239.61.104 เป็น DNS คือ www.google.co.th- IP Address 58.147.100.24 เป็น DNS คือ www.mthai.com- IP Address 61.19.224.17 เป็น DNS คือ www.moc.go.th- IP Address 207.46.19.254 เป็น DNS คือ www. microsoft.com
ชื่อโดเมน (DNS : Domain Name System) การกาหนด DNS เรียงลาดบั ความสาคญั ของช่ือจากขวาไปซา้ ยโดยมีจุดคน่ั เช่น sony.com ยอ่ มาจาก Commercial ใชใ้ นธุรกิจ ช่ือเจา้ ของหน่วยงาน คือบริษทั โซน่ี nectec.or.th ยอ่ มาจาก Thailand (ชื่อประเทศ) ยอ่ มาจาก Organization (หน่วยงานหรือองคก์ รของรัฐ) ชื่อหน่วยงาน NECTEC เจา้ ของหรือตน้ สังกดั
ชื่อโดเมน (DNS : Domain Name System)การกาหนดกล่มุ โดเมน (Domain Group) มหี ลกั การดงั นี้ หากชื่อทางขวาสุดมี 3 ตวั อกั ษร ให้เขา้ ใจว่ามีการจดชื่อโดเมนท่ีประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะบอกลกั ษณะการดาเนินงานขององค์กรคือ com หมายถึง Commercial ใชส้ าหรับธุรกิจ บริษทั หา้ งร้าน edu หมายถึง Education ใชส้ าหรับสถาบนั การศึกษา gov หมายถึง Government ใชส้ าหรับหน่วยงานราชการ net หมายถึง Network ใชส้ าหรับหน่วยงานท่ีเป็นเครือข่าย
ช่ือโดเมน (DNS : Domain Name System)การกาหนดกล่มุ โดเมน (Domain Group) มีหลกั การดังนี้ หากช่ือทางขวาสุดมี 2 ตวั อกั ษร จะบอกช่ือยอ่ ของประเทศ เช่น th = ประเทศไทย (Thailand) au = ประเทศออสเตรเลีย (Australia) ca = ประเทศแคนาดา (Canada) uk = ประเทศองั กฤษ (United Kingdom)
ช่ือโดเมน (DNS : Domain Name System)ช่ือถดั มาจะลกั ษณะการดาเนินงานขององค์กร แบ่งออก 5 กลุ่ม คอื ac หมายถึง Academic ใชส้ าหรับสถาบนั การศึกษา co หมายถึง Commercial ใชส้ าหรับภาคองคก์ ร ภาคเอกชน go หมายถึง Government ใชส้ าหรับหน่วยงานราชการ or หมายถึง Organization ใชส้ าหรับองคก์ รท่ีไม่แสวงหาผลกาไร in หมายถึง Individual ใชส้ าหรับหน่วยงานนิติบุคคล
ประโยชน์ของอนิ เทอร์เน็ตด้านการศึกษาสามารถใชเ้ ป็นแหล่งคน้ ควา้ หาขอ้ มลู ไม่วา่ จะเป็นขอ้ มลู ทางวชิ าการ ขอ้ มูลดา้ นการบนั เทิง ดา้ นการแพทย์ และอ่ืนๆ ท่ีน่าสนใจระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทาหนา้ ท่ีเสมือนเป็น หอ้ งสมุดขนาด ใหญ่นกั ศึกษาในมหาวทิ ยาลยั สามารถใชอ้ ินเทอร์เน็ต ติดต่อกบั มหาวทิ ยาลยั อ่ืน ๆ เพ่ือคน้ หาขอ้ มลู ที่กาลงั ศึกษาอยไู่ ด้
ประโยชน์ของอนิ เทอร์เน็ตด้านธุรกจิคน้ หาขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เพอ่ื ช่วยในการตดั สินใจทางธุรกิจสามารถซ้ือขายสินคา้ ผา่ นระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตผใู้ ชท้ ี่เป็นบริษทั หรือองคก์ รตา่ ง ๆ ก็สามารถเปิ ดใหบ้ ริการ และ สนบั สนุนลูกคา้ ของตน ผา่ นระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้ คาแนะนา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ใหแ้ ก่ลูกคา้ แจกจ่ายตวั โปรแกรม ทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นตน้
ประโยชน์ของอนิ เทอร์เน็ต ด้านการบนั เทิงการพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ สันทนาการ เช่น การคน้ หาวารสารต่าง ๆ ผา่ น ระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต ท่ีเรียกวา่ Magazine Online รวมท้งั หนงั สือพมิ พแ์ ละข่าวสารอ่ืน ๆ โดยมีภาพประกอบ ท่ีจอคอมพิวเตอร์ เหมือนกบั วารสาร ตามร้านหนงั สือทวั่ ๆ ไปสามารถฟังวทิ ยผุ า่ นระบบเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตได้สามารถดูหนงั ฟังเพลงได้
โทษของอนิ เทอร์เน็ต 1. เป็นที่เผยแพร่ สิ่งผดิ กฎหมายต่างๆ เช่น Software เถ่ือน สื่อ ลามกอนาจาร อาวธุ สงคราม และ อื่นๆ อีกมากมาย 2. ไวรัสคอมพิวเตอร์ 3. การใชใ้ นทางที่ผดิ เช่น การโจรกรรมขอ้ มลู การเขา้ ทาลาย ขอ้ มูล 4. ขอ้ มลู บางอยา่ งกไ็ ม่เหมาะกบั เยาวชน
โทษของอนิ เทอร์เน็ต 5. อาจทาใหน้ อนดึกและเสียสุขภาพ 6. เกิดการล่อลวง ใหข้ อ้ มลู เทจ็ 7. บางคนเล่นอินเทอร์เนต็ มากไม่ยอมออกกาลงั กาย 8. อยหู่ นา้ จอนานๆ อาจทาใหเ้ สียสายตา 9. เรื่องอนาจารผดิ ศลี ธรรม (Pornography/Indecent Content) 10. โรคติดอินเทอร์เน็ต (Webaholic)
โรคตดิ อนิ เทอร์เน็ต (Webaholic) เป็ นอาการทางจิตประเภทหน่ึง ซ่ึงนักจิตวิทยาชื่อ KimberlyS Young ไดศ้ ึกษาและวิเคราะห์ไวว้ า่ บุคคลใดท่ีมีอาการดงั ต่อไปน้ี อย่างนอ้ ย 4 ประการ เป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ 1 ปี แสดงวา่ เป็นอาการติดอินเทอร์เน็ต 1. รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต แม้ในเวลาที่ไม่ได้ต่อเข้าระบบ อินเทอร์เน็ต 2. มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็ นเวลานานข้ึนอยู่เรื่อยๆ ไม่ สามารถควบคุมการใชอ้ ินเทอร์เน็ตได้ 3. รู้สึกหงุดหงิดเมื่อใชอ้ ินเทอร์เน็ตนอ้ ยลง หรือหยดุ ใช้ 4. คิดวา่ เมื่อใชอ้ ินเทอร์เน็ตแลว้ ทาใหต้ นเองรู้สึกดีข้ึน
โรคตดิ อนิ เทอร์เน็ต (Webaholic)5. ใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการหลีกเล่ียงปัญหา6. หลอกคนในครอบครัว หรือเพ่ือน เร่ืองการใช้อินเทอร์เน็ตของ ตนเอง7. มีอาการผดิ ปกติเมื่อเลิกใชอ้ ินเทอร์เน็ต เช่น หดหู่ กระวนกระวาย ซ่ึงอาการดงั กล่าว ถา้ มีมากกวา่ 4 ประการในช่วง 1 ปี จะถือว่าเป็นอาการติดอินเทอร์เน็ต ซ่ึงส่งผลเสียต่อระบบร่างกาย ท้ังการกินการขบั ถ่าย และกระทบต่อการเรียน สภาพสงั คมของคน ๆ น้นั ต่อไป
1202111 อ.สธุ าสนิ ี ฉมิ เลก็
Search