S A R 2563 Self – Assessment Report รายงานการประเมินตนเอง ระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ประจาปกี ารศกึ ษา 2562 โรงเรียนมัธยมเทศบาล ๔ สังกดั เทศบาลเมืองสิงห์บรุ ี
ก บทสรปุ สำหรบั ผบู้ ริหำร ผ้จู ัดทำ : นำยอำนำจ นำคแกว้ ผูอ้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ บทนำ โรงเรยี นมัธยมเทศบำล ๔ ท่ีตง้ั ถนนสำยอ่ำงทอง-ชัยนำท (สำยเกำ่ ) หม่ทู ่ี 2 ตำบลบำงพุทรำ อำเภอเมืองสิงห์บรุ ี จงั หวดั สิงหบ์ ุรี รหสั ไปรษณีย์ 16000 โทรศัพท/์ โทรสำร 0 3652 0663 E-mail : [email protected] Website : www.mt4.ac.th สงั กดั เทศบำลเมืองสิงห์บุรี อำเภอเมอื งสิงหบ์ รุ ี จงั หวดั สิงหบ์ รุ ี เปดิ สอนระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 1-6 จำนวน 9 หอ้ งเรียน โรงเรยี นมีเน้อื ที่ 5 ไร่ ผ้อู ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ นำยอำนำจ นำคแกว้ วุฒิกำรศึกษำสงู สุด ครศุ ำสตรมหำบัณฑิต สำขำวิชำกำรบรหิ ำรกำรศึกษำ โทรศัพท์ 08 1150 8549 E-mail : [email protected] ดำรงตำแหน่งทีโ่ รงเรียนนี้ตัง้ แต่ 8 สงิ หำคม พ.ศ. 2560 จนถงึ ปัจจบุ ัน เป็นเวลำ 2 ปี 7 เดอื น จำนวนพนกั งำนครู 14 คน พนักงำนจำ้ งจำมภำรกิจ 1 คน พนักงำนจ้ำงสอน 5 คน และ พนักงำนจ้ำงทัว่ ไป 3 คน นักเรยี นทัง้ สิ้น 228 คน แยกเป็น ชำย 140 คน หญงิ 88 คน สภำพบริบทของโรงเรียนเป็นที่อยู่อำศัยของประชำชน และเป็นแหล่งชุมชนใหญ่ในเขต เทศบำลเมืองสิงห์บุรี มีจำนวนประชำกรชำย 8,098 คน จำนวนประชำกรหญิง 9,323 คน มีจำนวน ครัวเรือน 9,027 ครัวเรือน บริเวณใกล้เคียงโดยรอบของโรงเรียนติดกับสำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ ประถมศึกษำสิงห์บรุ ี และวัดพรหมสำคร โดยมสี ถำนศกึ ษำที่อยู่ติดกันไดแ้ ก่ โรงเรียนอนุบำลเทศบำล ๓ (พรหมรวมมิตร) โรงเรียนวัดพรหมสำคร และวิทยำลับเทคนิคสิงห์บุรี อำชีพหลักของชุมชนคือ กสิกรรม ประชำชนส่วนใหญ่นับถือศำสนำพุทธ ประเพณี/วัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นที่รู้จักโดนทั่วไปคือ เทศกำลกนิ ปลำ โรงเรยี นมีจดุ เนน้ กำรพัฒนำผูเ้ รียนตำมอตั ลกั ษณ์ท่กี ำหนด คือ ควำมมีมำนะ – วินยั เพอื่ หล่อ หลอมให้เป็นบุคคลที่พึงประสงค์ของสังคมปัจจุบันและอนำคต นอกจำกน้ีผลกำรพัฒนำผู้เรียนที่มี ควำมเป็นเลิศที่เกิดจำกกำรส่งเสริมและพัฒนำผู้เรียนให้เต็มตำมศักยภำพของตนเอง คือ กำรเป็น “ผู้นำกฬี ำเปตองท้องถนิ่ ” ซ่ึงปรำกฏผลเป็นทย่ี อมรับตำมเอกลกั ษณใ์ นระดับประเทศ
ข ผลกำรประเมินตนเอง 1. กำรจัดกำรศึกษำ สถำนศกึ ษำกำหนดเป้ำหมำย วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ ยุทธศำสตร์กำรพฒั นำและ กลยุทธ์กำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำ สอดคล้องกับสภำพปัญหำ ควำมต้องกำรพัฒนำของ สถำนศึกษำ นโยบำยกำรปฏิรูปกำรศึกษำ ควำมต้องกำรของชุมชนท้องถ่ิน และสอดคล้องกับแนว ทำงกำรปฏิรูปตำมแผนกำรศึกษำ แผนพัฒนำกำรศึกษำห้ำปี (พ.ศ. 2561-2565) แผนปฏิบัติกำร ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 และแผนปฏิบัติกำรประจำปีกำรศึกษำ 2562 สอดคล้องกับกำร พัฒนำผเู้ รียนทุกกลุม่ เป้ำหมำย มีกำรพฒั นำครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำให้มีควำมรู้ ควำมเชี่ยวชำญ ตำมมำตรฐำนตำแหน่ง ข้อมูลสำรสนเทศมีควำมถูกต้องครบถ้วน ทันสมัย นำไปประยุกต์ใช้ได้ ดำเนนิ กำรอย่ำงเป็นระบบ และมีกิจกรรมจัดสภำพแวดล้อมทำงกำยภำพและสงั คมที่กระตุ้นผเู้ รียนให้ ใฝ่เรียนรู้ ส่งเสริมให้ทุกฝ่ำยที่เกี่ยวข้องเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำ เน้นรูปแบบกำรบริหำร และกำรจัดกำรเชิงระบบ โดยทุกฝ่ำยมีส่วนร่วมยึดหลักธรรมภิบำลและแนวคิดหลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง กำรระดมทรัพยำกรเพอ่ื กำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำจำกเครือข่ำยอุปถัมภ์ ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรสื่อสำรและกำรคิดคำนวณ ควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์อย่ำงมีวิจำรณญำณ มีกำรอภิปรำยแลกเปล่ียนควำมคิดเห็น รวมถึง กำรแก้ไขปัญหำ มีควำมสำมำรถในกำรสืบค้นและเข้ำถึงแหล่งข้อมูลได้ด้วยตนเองเป็นไปตำม เป้ำหมำยท่ีกำหนด ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเพิ่มขึ้น รวมถึงสำมำรถพัฒนำผลคะแนนกำร ทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดับชำตขิ น้ั พื้นฐำน (O-NET) ประจำปกี ำรศึกษำ 2562 สงู กวำ่ ปที ่ีผำ่ นมำ ดังนี้ ระดับช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 3 จำนวน 3 รำยวิชำ ได้แก่ คณิตศำสตร์ ภำษำไทย และวิทยำศำสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 6 ได้แก่ คณิตศำสตร์ ภำษำไทย และสงั คมศกึ ษำ ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่ำนิยมท่ีดี ตำมอัตลักษณ์ของโรงเรียน คือ ควำมมี “มำนะ- วินัย” ในตนเอง มีควำมภำคภูมิใจในสถำนศึกษำ และเป็นส่วนหนึ่งของกำรพัฒนำชุมชนของตนเอง ส่งผลให้โรงเรยี นมีนักเรียนได้รบั รำงวัล “คนดีศรี ท.๔” เป็นแบบอย่ำงท่ดี ตี ่อเพ่ือนนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน มีกำรร่วมและดำเนินกิจกรรมกับเพื่อนๆ คุณครูตำม “โครงกำรบ้ำนเล็กในโรงเรียนของ เรำ” ทีม่ ุ่งปลกู ฝงั ควำมรกั ควำมสำมคั คี กำรยึดในขอ้ ตกลง กฎกติกำกำรอยู่รว่ มกันในสังคม ร้แู ละเห็น คุณค่ำต่อกำรดำเนินชีวิต รู้จักใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์ ส่งผลให้มีสุขภำวะทำงร่ำงกำย จิตใจที่ เข้มแขง็ มจี ติ สำธำรณะทดี่ ี มีกำรพัฒนำแหล่งเรียนรู้ภำยในโรงเรียนเพ่ิมข้ึน เช่น ศูนย์กำรเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติ แหล่งเรียนรู้ 8 หมู่บ้ำนตำมโครงกำรบ้ำนเล็กในโรงเรียนของเรำ โครงกำรเปิดโลกวิชำกำรมัธยม เทศบำล ๔ มกี ำรตรวจสอบและประเมนิ ผลอยำ่ งเปน็ ระบบ 2. หลกั ฐำนสนบั สนนุ ภำพควำมสำเร็จด้ำนคุณภำพผู้เรยี นท่ีสนับสนุนผลกำรประเมนิ ตนเอง ได้แก่ 1) โครงกำรพฒั นำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของนกั เรียน
ค 2) โครงกำรพัฒนำงำนวัดประเมินผล 3) โครงกำรพฒั นำงำนวิชำกำร 4) โครงกำรส่งเสริมและพัฒนำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ท้ัง 8 กลุม่ สำระ 5) โครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสูค่ วำมเปน็ เลศิ 6) โครงกำรเปิดโลกวชิ ำกำรมธั ยมเทศบำล ๔ 7) โครงกำรบ้ำนเล็กในโรงเรียนของเรำ 8) โครงกำรนิเทศกำรศกึ ษำ 3. แผนพฒั นำใหไ้ ดม้ ำตรฐำนทส่ี ูงกวำ่ เดิม 1) ปรบั ปรุง/พฒั นำหลักสตู รสถำนศกึ ษำใหส้ อดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้ให้ดยี ิ่งข้ึน เน้นกำรพฒั นำนวัตกรรมเพื่อกำรเรยี นรู้ เพ่อื ผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นของนักเรียนที่สูงขน้ึ 2) ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงำมแก่นักเรียนให้ตรงตำมอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ ของโรงเรยี น 3) พัฒนำศักยภำพผ้เู รยี นใหไ้ ปสู่ควำมเปน็ เลิศตำมควำมถนัดของตนเอง 4) พัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำให้เพ่ิมขีดควำมสำมำรถในกำรสอนและกำร ปฏบิ ัติงำน 5) พัฒนำสถำนศกึ ษำเพื่อเป็นสงั คมแห่งกำรเรยี นรู้ของนกั เรียน ผู้ปกครองและชุมชน วิธกี ำรหรอื แนวทำงกำรปฏบิ ตั ิทเี่ ป็นเลิศ (Best Practices) ของสถำนศึกษำ 1. ชอ่ื ผลงำน ผนู้ ำกฬี ำเปตองท้องถ่ิน (โครงกำรส่งเสรมิ และพฒั นำกฬี ำเปตองสู่ควำมเปน็ เลิศ) 2. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ จัดทำหลักสูตรวชิ ำเปตองเพือ่ จดั กำรเรยี นกำรสอนทุกระดบั ช้นั 2. เพื่อสง่ เสริมและพฒั นำนกั กฬี ำสคู่ วำมเป็นเลศิ ทำงด้ำนกีฬำเปตอง 3. เพื่อพัฒนำครผู ้สู อนให้ไดร้ บั กำรพัฒนำดำ้ นควำมรู้ ทักษะกฬี ำเปตองที่สงู ข้นึ 4. เพื่อเปน็ ศนู ย์กลำงกำรพัฒนำกฬี ำเปตองในจงั หวดั สงิ หบ์ ุรี 3. แนวทำง/ขัน้ ตอนกำรดำเนินงำน 1. วิเครำะห์สภำพปัจจุบันปัญหำและควำมต้องกำรของนักเรียนและชุมชนตลอดจน ผู้บริหำรทอ้ งถน่ิ 2. จดั ทำแผนพัฒนำกีฬำเปตองส่คู วำมเป็นเลิศ 3. จดั ปัจจยั ท่ีเอ้อื ต่อกำรพัฒนำใหเ้ อือ้ ต่อกำรดำเนินกำร 4. สง่ เสรมิ และพัฒนำขีดควำมสำมำรถของนกั กีฬำ และครผู ู้ฝกึ สอน 5. เผยแพร่ประชำสมั พนั ธ์ผลงำนท่ีปรำกฏต่อสำธำรณชน 6. ประเมนิ ผลกำรพัฒนำสคู่ วำมเปน็ เลศิ และนำกลับมำปรบั ปรงุ พฒั นำโดยใชร้ ะบบ PDCA
ง 4. ผลลพั ธ/์ ผลกำรดำเนนิ กำร 1) กำรพัฒนำหลักสูตรกีฬำเปตอง มีกำรจัดทำหลักสูตรรำยวิชำเพ่ิมเติม (กีฬำเปตอง) สำหรับ นักเรียนทุกระดับชั้น และสำมำรถเป็นต้นแบบให้กับสถำนศึกษำต่ำงๆ ในกำรนำไปใช้ในกำรจัดกำร เรยี นกำรสอน 2) ควำมเป็นเลิศจำกกำรแข่งขัน ได้จัดส่งนักเรียนเข้ำร่วมกำรแข่งขันทุกระดับอย่ำงต่อเน่ือง และมีผลงำนจำกกำรแขง่ ขนั อย่ำงมำกมำกท้ังระดับประเทศไปจนถึงระดับโลก 3) กำรพัฒนำครผู ้ฝู กึ สอน ได้ดำเนินกำรอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ำรให้กบั ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ จำนวน 4 เร่ือง ประกอบด้วย กำรพัฒนำหลักสตู ร กำรจัดทำแผนพัฒนำ กำรวิเครำะห์และจัดทำคลัง ข้อสอบ และ กำรจัดทำมำตรฐำนของชมรม 4) เป็นศูนย์กลำงกำรพฒั นำกีฬำเปตองในจังหวดั โดยได้รับควำมร่วมมือจำกสมำคมกีฬำจังหวัด สิงห์บุรี สำนักงำนกำรกีฬำแห่งประเทศไทยจังหวัดสิงห์บุรี และสำนักงำนกำรท่องเท่ียวและกีฬำ จังหวัดสิงห์บุรี ให้เป็นเจ้ำภำพจัดกำรแข่งขันชิงชะเลิศแห่งจังหวัด รวมถึงกำรจัดแข่งขันกีฬำเปตอง ชำยหำดให้กับชุมชน นอกจำกน้ียังได้รับดำเนินกำรจัดแข่งขันตำมท่ีหน่วยงำนต่ำงๆ ขอควำมร่วมมือ รวมถงึ ดำ้ นกำรใหค้ วำมรดู้ ำ้ นวิทยำกรและกำรจดั ทำหลกั สตู ร 5. ปจั จยั ทีเ่ ก้อื หนนุ หรอื ปัจจยั แหง่ ควำมสำเรจ็ จำกผลของกำรดำเนนิ กำรดงั กลำ่ ว พบวำ่ ปจั จยั ท่ีเก้อื หนุนนำไปสู่ควำมสำเรจ็ ประกอบดว้ ย 1) ปัจจยั ดำ้ นกำรบริหำรจัดกำร 2) ปัจจยั ดำ้ นบุคลำกร 3) ปัจจยั ดำ้ นงบประมำณ 4) ปจั จัยด้ำนโครงกำรของชมรมกีฬำ 5) ปจั จยั ด้ำนกำรสนบั สนนุ 6) ปจั จัยดำ้ นวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี 7) ปจั จยั ด้ำนกระบวนกำรจัดกำรแขง่ ขัน 8) ปัจจยั ด้ำนกฎระเบียบขอ้ ตกลง 9) ปัจจัยด้ำนสถำนท่ีและสง่ิ อำนวยควำมสะดวก 10) ปจั จยั ด้ำนกำรพัฒนำนกั กีฬำ 6. แนวทำงกำรพฒั นำให้ยงั่ ยืน แนวทำงกำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศของโรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ ยึด หลกั กำรพัฒนำส่คู วำมยงั่ ยืน ดังน้ี 1) เข้ำใจ มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) สำรวจสภำพที่แท้จริง โดยกำรศึกษำสภำพปัจจุบัน ปญั หำและควำมต้องกำรของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนต่อกำรสง่ เสรมิ และพัฒนำ 2) กำรวำงแผน กำรจัดกำร โรงเรียนกำหนดแนวทำงกำรบริหำรจัดกำร เช่น บุคลำกร งบประมำณ สถำนท่ี วัสดุ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยควำมสะดวก และอื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้อง 3) ศึกษำเรียนรู้จัดกำรเรียนกำรสอนตำม
จ หลักสูตรกลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ รำยวิชำเพ่ิมเติม 4) ฝึกฝนเพ่ือพัฒนำ วำง แผนกำรเรยี นรู้และฝึกซ้อมใหก้ ับนักกฬี ำ 2) เข้ำถึง มี 3 องค์ประกอบ คือ 1) สร้ำงวิสยั ทัศน์ร่วมกัน สรำ้ งกรอบควำมคิดของกำรที่จะ ก้ำวไปให้ถึงควำมเป็นเลิศด้ำนกีฬำเปตอง 2) กำหนดเป้ำหมำยเดียวกันสร้ำงปัญหำ สรุปทัศนคติท่ีดี ร่วมกันเพ่ือไปสเู่ ป้ำหมำยและควำมสำเรจ็ 3) พัฒนำ ยึดหลักกำรสำคัญคือ 1) เมล็ดพันธุ์ที่ดี กำรพัฒนำตนเองให้เต็มตำมศักยภำพ 2) ฟำร์มสำเร็จ กำรพัฒนำชมรมและโรงเรียนให้ไปสู่ควำมสำเร็จจำกกำรมีส่วนร่วมของทุกภำคส่วน 3) ต้นแบบของควำมเปน็ เลศิ แบบอย่ำงทดี่ งี ำมตอ่ กำรพัฒนำส่คู วำมเปน็ เลศิ อีกดำ้ นหนึง่ 7. กำรเปน็ ตน้ แบบให้กบั หนว่ ยงำนอื่น/กำรขยำยผล และ/หรอื รำงวลั ทีไ่ ด้รับ โรงเรียนได้นำเสนอผลงำนควำมสำเร็จผ่ำนหลำกหลำยชอ่ งทำงของกำรสอ่ื สำร รวมไปถึงกำร ให้ควำมรู้แก้ชุมชนด้ำนกีฬำเปตอง เพ่ือให้ได้รับกำรปลูกฝังในทุกวัน นอกจำกน้ียังได้รับเชิญจำก หน่วยงำนต่ำงๆ ทั้งภำยใน ภำยนอกจังหวัด และต่ำงสังกัดในกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่ำงสม่ำเสมอ และตอ่ เน่ือง
ฉ สรุปผลกำรประเมินคณุ ภำพภำยในสถำนศกึ ษำ โรงเรยี นมัธยมเทศบำล ๔ ประจำปี 2562 ตำมที่โรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ ได้ดำเนินกำรประเมินคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ ประจำปี กำรศึกษำ 2562 ตำมระบบกำรประกันคุณภำพภำยในสถำนศึกษำ ประกำศของกระทรวงมหำดไทย โดยจัดทำรำยงำนประจำปีเสนอต่อหน่วยงำนตน้ สงั กัด หน่วยงำนที่เกย่ี วข้อง และเสนอต่อสำธำรณชน เพอื่ นำไปสกู่ ำรพัฒนำคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ และเพอ่ื รองรบั กำรประเมินคุณภำพภำยนอก บัดนี้กำรดำเนินกำรประเมนิ คุณภำพภำยในสถำนศึกษำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอนำเสนอผล กำรประเมนิ คณุ ภำพภำยในสถำนศกึ ษำ แสดงในตำรำง สรุปผลได้ดังน้ี ระดบั กำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำน สรุปผลกำรประเมนิ ภำพรวม กำลงั พัฒนำ ปำนกลำง ดี ดเี ลิศ ยอดเย่ียม มำตรฐำน/ตวั บ่งชี้ ระดับคณุ ภำพ มำตรฐำนท่ี 1 คณุ ภำพของผู้เรียน ดีเลิศ มำตรฐำนที่ 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร ดีเลิศ มำตรฐำนที่ 3 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ดีเลิศ
ช คำนำ รำยงำนกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ (Self-Assessment Report : SAR) ปกี ำรศึกษำ 2562 ของโรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ สังกัดกองกำรศึกษำ เทศบำลเมืองสิงห์บุรี ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพ่ือ สรุปผลกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยในสถำนศึกษำ (Self-Assessment Report : SAR) ปีกำรศึกษำ 2562 ของสถำนศึกษำ เพ่ือเป็นข้อมูลในกำรพัฒนำและยกระดับคุณภำพมำตรฐำน กำรศึกษำของสถำนศกึ ษำให้สงู ขนึ้ เนือ้ หำสำระของเอกสำรประกอบด้วย บทสรุปสำหรบั ผู้บรหิ ำร ข้อมูลพื้นฐำนของสถำนศกึ ษำ ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ สรุปผล แนวทำงกำรพัฒนำ และควำมต้องกำรกำรช่วยเหลือ กำรปฏบิ ัติท่ีเป็นเลิศของสถำนศกึ ษำ ภำคผนวก ของทงั้ 3 มำตรฐำน โรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ ขอขอบคุณผู้อำนวยกำรโรงเรียน คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้น พน้ื ฐำนของโรงเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ชมุ ชน และผเู้ กย่ี วข้องทกุ ภำคส่วน ทีร่ ว่ มพัฒนำ ร่วมประเมิน คุณภำพ และร่วมจัดทำรำยงำนกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำ (Self-Assessment Report : SAR) ให้สมบูรณค์ รบถ้วน และหวังเป็นอยำ่ งยิ่งว่ำขอ้ มลู สำรสนเทศและขอ้ เสนอแนะในรำยงำนฉบบั นี้ จะเปน็ ประโยชนใ์ นกำรพฒั นำเพอ่ื ยกระดบั คุณภำพมำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำให้สูงข้ึนตอ่ ไป โรงเรยี นมธั ยมเทศบำล ๔ พฤษภำคม 2563
ซ สำรบญั หน้ำ บทสรปุ สำหรับผบู้ รหิ ำร ........................................................................................................ ก คำนำ ........................................................................................................................ ............. ช สำรบญั .................................................................................................................................. ซ สว่ นท่ี 1 ข้อมลู พ้นื ฐำน ................................................................................................. ......... 1 สว่ นที่ 2 ผลกำรประเมนิ ตนเองของสถำนศกึ ษำ .................................................................... 27 สว่ นที่ 3 สรุปผล แนวทำงกำรพฒั นำ และควำมตอ้ งกำรกำรชว่ ยเหลอื ................................ 35 ส่วนที่ 4 วิธปี ฏบิ ัตทิ เี่ ปน็ เลิศของสถำนศึกษำ ........................................................................ 38 ภำคผนวก ..................................................................................................................... ........ 44
5. ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางกรเรยี นในระดับสถานศึกษา ระดับการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน 5.1 สรปุ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนระดับมัธยมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 25 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นท่ไี ดร้ บั ผ นกั เรียน 4 3 2.5 2 3.5 ภาษาไทย 220 7 15 32 54 45 คณติ ศาสตร์ 220 6 10 26 21 29 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 220 0 2 7 24 48 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและ 220 17 29 29 39 45 วฒั นธรรม สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 220 20 38 38 39 31 ศลิ ปะ 220 65 44 34 24 48 การงานอาชพี 220 23 48 60 54 25 ภาษาต่างประเทศ 220 22 25 27 30 29 รวม 1,760 160 211 289 285 300 รอ้ ยละ 100 9.09 11.98 16.42 16.19 17.04
562 ผลการ จานวน จานวนนักเรียนที่ เรียน ผลการเรียน เฉลย่ี S.D. นกั เรยี น ได้ “3” ขน้ึ ไป 1.5 1 0 รวม ท่ีได้ จานวน ร้อยละ “ร” 40 23 34 91 0 216 2.24 4 54 24.54 63 63 31 18 1 218 1.79 2 42 19.09 9 216 1.58 4 9 4.09 0 217 2.47 3 84 38.18 10 14 0 217 2.75 3 123 55.90 0 0 0 217 3.11 3 143 65.00 2 2 0 214 2.94 6 131 59.54 56 56 0 217 2.25 3 74 33.63 267 267 10 1,732 2.35 28 660 37.50 15.17 15.17 0.56 1.59
5.2 สรุปผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นระดับมัธยมศึกษา ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 25 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ จานวน จานวนนกั เรยี นที่ไดร้ ับผ นกั เรยี น 4 3 2.5 2 3.5 ภาษาไทย 224 12 11 46 37 51 คณิตศาสตร์ 224 8 14 23 40 51 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 224 1 12 28 22 35 สงั คมศึกษา ศาสนาและ 224 37 31 43 41 46 วฒั นธรรม สุขศึกษาและพลศกึ ษา 224 65 24 58 33 15 ศลิ ปะ 224 73 35 32 31 48 การงานอาชพี 224 30 60 48 44 24 ภาษาต่างประเทศ 224 9 17 21 31 32 รวม 1,792 235 204 299 279 302 ร้อยละ 100 13.11 11.38 16.68 15.56 16.85
562 ผลการเรียน ผลการ จานวน จานวนนกั เรยี นที่ 1.5 1 เรียน เฉลย่ี S.D. นกั เรยี น ได้ “3” ข้ึนไป 0 รวม ท่ไี ด้ จานวน รอ้ ยละ “ร” 32 27 3 219 2.26 5 69 30.80 48 30 5 219 2.07 5 45 20.08 46 52 6 202 1.86 22 41 18.30 14 8 0 220 2.77 4 111 49.55 14 11 0 220 3.01 4 147 65.62 0 0 2 221 3.10 3 140 62.50 4 0 3 213 3.00 11 138 61.60 40 70 0 220 1.95 4 47 20.98 198 198 19 1,734 2.51 58 738 41.18 11.04 11.04 1.06 3.23
11 6. ข้อมูลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ (O-NET) 6.1 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ปีการศึกษา 2562 6.1.1 คะแนนเฉลีย่ รอ้ ยละ จำแนกตำมระดับ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ 28.39 27.14 ระดับโรงเรยี น 48.00 22.41 29.60 31.23 28.68 29.50 ระดบั จงั หวดั 54.46 25.44 29.91 33.32 30.07 33.25 ระดับสงั กัด (รร.สังกัด อปท.) 51.13 22.96 ระดับภำค 55.06 26.72 ระดบั ประเทศ 55.14 26.73 คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละผลการประเมนิ การทดสอบระดับชาติ (O-NET) ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 60 50 40 30 ภาษาไทย 20 คณิตศาสตร์ 10 วิทยาศาสตร์ 0 ภาษาองั กฤษ
12 6.1.2 เปรยี บเทยี บผลกำรทดสอบระดับชำติขั้นพนื้ ฐำน (O-NET) ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3 ระหวำ่ งปีกำรศึกษำ 2561 – 2562 รายวิชา/ปกี ารศกึ ษา ปีการศกึ ษา ปกี ารศึกษา ผลต่างของร้อยละ 2561 2562 ระหวา่ งปกี ารศึกษา ภำษำไทย 44.90 48.00 3.10 คณิตศำสตร์ 22.34 22.41 0.07 วิทยำศำสตร์ 30.66 28.39 -2.27 ภำษำองั กฤษ 24.31 27.14 2.83 เปรียบเทยี บผลการทดสอบระดบั ชาตขิ ้ันพน้ื ฐาน (O-NET) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ระหว่างปกี ารศึกษา 2561 – 2562 60 ปีการศึกษา 2561 ปีการศกึ ษา 2562 50 ผลตา่ งของร้อยละ 40 คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ 30 20 10 0 ภาษาไทย -10
13 6.2 ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2562 6.2.1 คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ จำแนกตำมระดับ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ สงั คม ศกึ ษา ระดับโรงเรยี น 25.39 15.52 23.42 20.76 28.58 35.18 ระดับจงั หวดั 41.74 24.47 28.61 26.34 32.81 35.84 ระดับสังกัด (รร.สังกัด อปท.) 37.00 19.61 26.29 24.04 35.70 ระดับภำค 42.59 26.03 29.29 29.44 ระดบั ประเทศ 42.21 25.41 29.20 29.20 คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละผลการประเมนิ การทดสอบความสามารถของผเู้ รียนระดับชาติ จาแนกตามระดับ 45 40 35 30 25 20 ภาษาไทย 15 คณิตศาสตร์ 10 วิทยาศาสตร์ 5 0 ภาษาองั กฤษ
14 6.2.2 เปรยี บเทยี บผลกำรทดสอบระดับชำติขัน้ พนื้ ฐำน (O-NET) ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 6 ระหวำ่ งปกี ำรศึกษำ 2561 – 2562 รายวชิ า/ปีการศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา ปกี ารศึกษา ผลตา่ งของร้อยละ 2561 2562 ระหว่างปีการศกึ ษา ภำษำไทย 35.42 25.39 -10.03 คณติ ศำสตร์ 15.83 15.53 -0.30 วทิ ยำศำสตร์ 25.09 23.42 -1.67 สงั คมศึกษำ 28.94 28.58 -0.36 ภำษำอังกฤษ 22.01 20.76 -1.25 เปรียบเทยี บผลการทดสอบระดับชาตขิ ้นั พ้นื ฐาน (O-NET) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ระหว่างปีการศกึ ษา 2561 – 2562 40 35 30 25 20 ปีการศกึ ษา 2561 15 ปีการศึกษา 2562 10 ผลตา่ งของร้อยละ 5 0 -5 -10 -15
15 7. ขอ้ มลู นักเรียนดา้ นอน่ื ๆ ท่ี รายการ จานวน คดิ เปน็ (คน) ร้อยละ* ๑. จำนวนนักเรียนมนี ้ำหนัก ส่วนสูง และสมรรถภำพทำงกำยตำมเกณฑ์ รวมท้ัง 239 97.95 รจู้ กั ดแู ลตนเองใหม้ ีควำมปลอดภยั 236 96.72 ๒. จำนวนนักเรียนท่ีปลอดจำกปัญหำทำงเพศ ยำเสพติด และส่ิงมอมเมำ เช่น 3 1.23 0.00 สุรำ บหุ ร่ี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกม ฯลฯ 30 0.00 12.30 ๓. จำนวนนกั เรยี นที่มีควำมบกพรอ่ งทำงร่ำงกำย/เรยี นร่วม 1 3 0.41 ๔. จำนวนนกั เรียนมภี ำวะทพุ โภชนำกำร 55 1.23 18 ๕. จำนวนนกั เรียนทมี่ ีปญั ญำเลศิ ๖. จำนวนนกั เรียนท่ีต้องกำรควำมช่วยเหลอื เปน็ พิเศษ ๗. จำนวนนกั เรยี นที่ออกกลำงคนั (ปีกำรศกึ ษำปจั จบุ นั ) ๘. จำนวนนักเรยี นท่มี ีเวลำเรยี นไม่ถึงรอ้ ยละ ๘๐ ๙. จำนวนนกั เรียนทีเ่ รียนซำ้ ช้นั ๑๐. จำนวนนกั เรยี นท่จี บหลกั สตู ร มธั ยมศึกษำตอนต้น มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย หมำยเหตุ: ร้อยละของนักเรียนท้ังหมด 8. ขอ้ มูลอาคารสถานที่ รายการ จานวน ท่ี 3 หลงั ๑. อำคำรเรยี น 1 หลัง ๒. อำคำรประกอบ 1 ห้อง ๓. หอ้ งนำ้ /หอ้ งส้วม 1 สนำม ๔. สนำมกีฬำ 30 สนำม ๕. สนำมกีฬำเปตอง 9. ข้อมลู สภาพชมุ ชนโดยรวม 9.1 สภำพชุมชนรอบบริเวณโรงเรยี น เทศบำลเมอื งสิงหบ์ รุ ี เป็นเทศบำลเมืองแห่งหนึ่งอยู่ในอำเภอเมืองสิงหบ์ รุ ี จังหวัดสิงห์บุรี เป็น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ีตั้งศำลำกลำงจังหวัดสิงห์บุรี และเป็นศูนย์กลำงทำงเศรษฐกิจและกำร ขนส่งของจงั หวดั มีพื้นท่ี 7.81 ตำรำงกโิ ลเมตร ครอบคลุมตำบลบำงพุทรำทงั้ ตำบล และบำงส่วนของ ตำบลบำงมัญ ตำบลม่วงหมู่ ตำบลตน้ โพธ์ิ และตำบลบำงกระบือ มีประชำกรในปี พ.ศ. 2561 จำนวน 17,421 คน ตัวเทศบำลเป็นท่ีรำบริมฝั่งน้ำ ย่ำนเศรษฐกิจอยู่ฝั่งขวำของแม่น้ำเจ้ำพระยำเทศบำลเมือง สิงห์บุรี ต้ังอยู่ในอำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี อยู่ห่ำงจำกกรุงเทพมหำนครโดยทำงรถยนต์ ประมำณ 142 กิโลเมตร ห่ำงจำกจังหวัดลพบุรีประมำณ 26 กิโลเมตร ห่ำงจำกจังหวัดอ่ำงทอง ประมำณ 41 กิโลเมตร ห่ำงจำกจังหวัดชัยนำทประมำณ 55 กิโลเมตร ห่ำงจำกจังหวัดสุพรรณบุรี
16 ประมำณ 90 กิโลเมตร และห่ำงจำกจังหวัดนครสวรรค์ประมำณ 95 กิโลเมตร มีพื้นที่ 7.81 ตำรำง กิโลเมตร มีอำณำเขตติดต่อกับพ้นื ท่ใี กล้เคยี ง ดงั น้ี ทศิ เหนือ ตดิ ต่อกับองคก์ ำรบริหำรส่วนตำบลบำงกระบอื อำเภอเมอื ง จังหวัดสงิ ห์บรุ ี ทศิ ใต้ ติดต่อกบั องค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบลตน้ โพธ์ิ อำเภอเมือง จงั หวัดสงิ ห์บรุ ี ทิศตะวันออก ติดต่อกบั องคก์ ำรบริหำรส่วนตำบลบำงมญั อำเภอเมอื ง จงั หวัดสิงหบ์ ุรี ทิศตะวันตก ติดตอ่ กับองคก์ ำรบริหำรสว่ นตำบลตน้ โพธิ์ อำเภอเมือง จงั หวดั สงิ ห์บรุ ี ในเขตเทศบำลมีจำนวนประชำกรชำย 8,098 คน จำนวนประชำกรหญิง 9,323 คน รวม จำนวนประชำกรท้ังสิ้น 17,421 คน มีจำนวนครัวเรือน 9,027 ครัวเรือน จำนวนชุมชน 13 ชุมชน ได้แก่ 1. ชุมชนวดั เสฐียรวัฒนดษิ ฐ์ 8. ชมุ ชนวดั โพธิแ์ กว้ นพคณุ 2. ชุมชนวดั ตกึ รำชำ 9. ชมุ ชนชำวตลำดสิงหบ์ รุ ี 3. ชมุ ชนวดั สังฆรำชำวำส 10. ชุมชนวทิ ยำลยั เทคนคิ 4. ชมุ ชนวัดโพธิข์ ำ้ วผอก 11. ชุมชนบำ้ นบำงแคใน 5. ชุมชนวดั หัวว่ำว 12. ชุมชนบ้ำนบำงแคนอก 6. ชุมชนวดั สวำ่ งอำรมณ์ 13. ชมุ ชนบ้ำนบำงกระบอื 7. ชมุ ชนวัดพรหมสำคร 9.2 ผู้ปกครองส่วนใหญ่ จบกำรศึกษำระดับต่ำกว่ำปริญญำตรี มีอำชีพหลักคือภำคเกษตรกรรม และรับจ้ำงในสถำนประกอบกำร ส่วนใหญ่นบั ถือศำสนำพุทธ ฐำนะทำงเศรษฐกิจ/รำยได้โดยเฉลี่ยต่อ ครอบครวั ต่อปี 313,344 บำท 9.3 โอกาสและข้อจากดั ของโรงเรยี น โอกำส โรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ มีคณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพ้ืนฐำนท่ีเข้มแข็ง ให้กำร ส่งเสริมสนับสนุนกำรพัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำ รวมทั้งต้นสังกัด คือเทศบำลเมืองสิงห์บุรี ให้กำร สนับสนุนสถำนศึกษำเป็นอย่ำงดีท้ังด้ำนงบประมำณ วัสดุอุปกรณ์ ยำนพำหนะและบุคลำกร สถำนศกึ ษำมีทำเลท่ีต้งั เหมำะสม กำรคมนำคมสะดวกและใกล้แหล่งเรยี นรู้ ข้อจำกัด เนื่องจำกสถำนศึกษำเป็นโรงเรียนมัธยมศกึ ษำขนำดเล็ก ผูป้ กครองและนักเรียนมัก นิยมไปศึกษำในสถำนศึกษำท่ีเป็นท่ีนิยมและมีชื่อเสียง ทำให้นักเรียนที่เข้ำมำศึกษำจำนวนหน่ึงมีพื้น ฐำนควำมรู้ค่อนข้ำงต่ำ และส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน ทำให้โรงเรียนมีข้อจำกัดและต้องใช้ ควำมพยำยำมในกำรพัฒนำยกระดับคุณภำพของผู้เรียน ด้ำนสถำนที่มีควำมคับแคบไม่สำมำรถเพิ่ม หรอื ขยำยสิง่ ก่อสรำ้ งได้ รวมไปถงึ สนำมกฬี ำมคี อ่ นข้ำงจำกดั
17 10. โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ จัดสอนตำมหลักสูตรสถำนศึกษำตำมแกนกลำงกำรศึกษำข้ัน พื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ โดยโรงเรียนได้จัดสัดส่วนสำระกำรเรียนรู้และเวลำเรียน ดังแสดงใน ตำรำง ดังนี้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง / ภาคเรียน ม. 1 ม. 2 ม. 3 ม. 4 ม. 5 ม. 6 ภำษำไทย 60 60 60 40 40 40 คณติ ศำสตร์ 60 60 60 40 40 40 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 60 60 60 40 40 40 สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม 60 60 60 40 40 40 ประวตั ิศำสตร์ 20 20 20 - 20 20 สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ 40 40 40 20 20 20 ศิลปะ 40 40 40 20 20 20 กำรงำนอำชพี 40 40 40 20 20 20 ภำษำตำ่ งประเทศ 60 60 60 40 40 40 กิจกรรมพฒั นำผู้เรียน 60 60 60 60 60 60 รวมชัว่ โมง 420 420 420 320 340 340 จำนวนชวั่ โมงทจ่ี ัดให้กบั นักเรียน เรียนทัง้ ปี เท่ำกับ ช่วั ใง แผนกำรเรียน/จุดเน้นกำรพัฒนำผู้เรียนท่ีโรงเรียนเน้นเป็นพิเศษ ได้แก่ หลักสูตรเปตองสู่ ควำมเปน็ เลศิ กำรเรียนรู้ตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 11. แหล่งเรยี นรู้ ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน 11.1 ห้องสมุด มีพื้นที่ขนำด 198 ตำรำงเมตร หนังสือในห้องสมุดมีจำนวน 12,147 เล่ม มี วำรสำร/หนังสือพิมพ์ให้บริกำรจำนวน 2 ฉบับ/วัน/สัปดำห์/เดือน กำรสืบค้นหนังสือและกำรยืม-คืน มจี ำนวนนักเรียนที่ใชห้ ้องสมุด (ในปีกำรศึกษำทรี่ ำยงำน) เฉล่ีย 120 คน ต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 47.05 ของนกั เรยี นทัง้ หมด มกี ำรใชบ้ รกิ ำรสืบคน้ ขอ้ มลู ทำงอนิ เตอร์เนต็ แกน่ ักเรยี นและชุมชน 11.2 หอ้ งปฏบิ ัติกำร มีท้ังหมด 2 หอ้ ง จำแนกเป็น 1) ห้องปฏิบตั ิกำรวทิ ยำศำสตร์ จำนวน 2 ห้อง 2) ห้องปฏิบตั ิกำรคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 หอ้ ง 11.3 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ มีท้ังหมด 1) ใช้เพอ่ื กำรเรยี นกำรสอน จำนวน 28 เคร่อื ง 2) ใชเ้ พอื่ ให้บรกิ ำรสบื ค้นข้อมลู ทำงอินเตอรเ์ น็ต จำนวน 5 เคร่อื ง โดยมีจำนวนนักเรียนท่ีใช้บริกำรสืบค้นข้อมูลทำงอินเตอร์เน็ต (ในปีกำรศึกษำที่ รำยงำน) เฉล่ีย 200 คน ต่อวนั คิดเป็นรอ้ ยละ 78.43 ของนักเรียนท้ังหมด 3) ใช้เพ่อื สนบั สนนุ กำรบรหิ ำรสถำนศึกษำ (สำนกั งำน) จำนวน 7 เครอื่ ง
18 11.4 แหลง่ เรียนรู้ภำยในโรงเรยี น สถิติการใช้ จานวนคร้ัง / ปี ชื่อแหล่งเรยี นรู้ 200 ศนู ยก์ ำรเรียนรูด้ ำ้ นกำรท่องเที่ยว 200 ศนู ย์กำรเรยี นร้อู ำเซยี นศึกษำ 200 ศนู ย์กำรเรยี นรเู้ ฉลิมพระเกียรติฯ 200 หอ้ งพิพิธภณั ฑโ์ รงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ 200 สวนเกษตรพอเพียง 11.5 แหล่งเรยี นรู้ภำยนอกโรงเรยี น สถิติการใช้ จานวนครง้ั / ปี ชือ่ แหล่งเรยี นรู้ 2 พิพธิ ภัณฑ์หนงั ใหญ่ วัดสว่ำงอำรมณ์ 6 มวิ เซียมตดิ ล้อ 1 อำคำรแสดงพนั ธุ์สัตวน์ ้ำบึงบอระเพ็ดเฉลมิ พระเกยี รติ 80 พรรษำ 5ธันวำคม 2550 นครสวรรค์ 11.6 ภูมิปัญญำท้องถ่ิน ปรำชญ์ชำวบ้ำน ผู้ทรงคุณวุฒิ วิทยำกร ที่สถำนศึกษำเชิญมำให้ ควำมรู้แกค่ รู นกั เรยี น (ในปกี ำรศกึ ษำที่รำยงำน) ช่อื – สกลุ ใหค้ วามรูเ้ ร่ือง จานวนคร้งั /ปี ภมู ิปญั ญท้องถ่ินเรือ่ ง กำรทำกระยำ 1 สำรทขำ้ วไรซ์เบอรร์ ี 12. ผลงานดเี ดน่ ในรอบปที ่ผี ่านมา 12.1 ผลงานดเี ด่น ประเภท ระดบั รางวลั /ชื่อรางวัลที่ หน่วยงานท่ีให้ ได้รับ/วันทไ่ี ดร้ บั นำงวำสนำ แทนเต ครูผู้พัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำร เทศบำลเมอื งสงิ ห์บรุ ี เรยี นสงู ขึ้น นำงบญุ ตำ แก้วเกดิ ครูผู้พัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำร เทศบำลเมอื งสงิ หบ์ ุรี เรียนสูงข้ึน นำยจริ พงษ์ โตงำม ครูผู้พัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำร เทศบำลเมืองสงิ ห์บุรี เรียนสูงข้นึ นำงอนรรฆวี ขำเจรญิ ครูผู้พัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำร เทศบำลเมืองสงิ ห์บุรี เรียนสงู ขน้ึ นำงสำวยิษฐำ จินะเทศ ครูผู้พัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำร เทศบำลเมืองสิงห์บรุ ี เรยี นสงู ข้ึน
19 ประเภท ระดับรางวัล/ชื่อรางวัลที่ หน่วยงานท่ใี ห้ นำยรัชตะ คำดี ไดร้ ับ/วนั ทีไ่ ด้รับ นำยอัสนี เพม่ิ พนู เหรียญทองแดง เปตองชิง สมำพนั ธ์เปตองโลก นำยพงษส์ รรค์ ม่วงสงิ ห์ แชมปโ์ ลก เหรียญเงินกฬี ำแหง่ ชำติ กระทรงกำรทอ่ งเทยี่ วและกีฬำ เหรียญเงินเปตองชิงแชมป์ สมำพันธ์เปตองเอเชยี เอเชีย เ ห รี ย ญ เ งิ น เ ป ต อ ง ชิ ง แ ช ม ป์ เอเชีย 12.2 งำน/โครงกำร/กิจกรรม/ผลงำนท่ีประสบผลสำเร็จจนได้รบั กำรยอมรบั หรอื เป็นตัวอย่ำง กำรปฏบิ ตั ิ ช่ืองาน/โครงการ/กิจกรรม ฯลฯ อธบิ ายตัวบง่ ช้ีความสาเร็จ หรือระดบั ความสาเรจ็ โครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำม โรงเรียนได้นำผลจำกกำรวิจัยกำรส่งเสริมควำม เปน็ เลศิ เป็นเลิศด้ำนกีฬำเปตอง พบว่ำ มีปัจจัยทนี่ ำไปสู่ ควำมสำเร็จท้ังหมด 10 ด้ำน จึงนำผลกำรวิจัย ม ำ ใ ช้ ใ น ก ำ ร ว ำ ง แ ผ น พั ฒ น ำ จ น ป ร ะ ส บ ควำมสำเรจ็ โครงกำรบ้ำนเล็กในโรงเรียนของเรำ นักเรียนและครูพ่อครูแม่ทุกหมู่บ้ำนตระหนัก และเห็นควำมสำคัญต่อกำรส่งเสริมพฤติกรรมที่ พึงประสงค์ของนักเรียน จึงได้ร่วมมือกันดำเนิน กิจกรรมในหมู่บ้ำน เช่น กำรร่วมกันดูแลรักษำ ควำมสะอำดในพื้นท่ีของหมู่บ้ำน กำรร่วมกัน พัฒนำแหล่งเรียนรู้ ตลอดจนกำรร่วมกิจกรรม ทำงวชิ ำกำร ฯลฯ โครงกำรเปิดโลกวิชำกำรมธั ยมเทศบำล ๔ นักเรียนและครูได้แสดงผลงำน นวัตกรรมและ เข้ำร่วมแข่งขันทักษะตำมควำมถนัดและสนใจ นอกจำกนี้ผูป้ กครองและชุมชนยงั มีโอกำสไดเ้ ข้ำ ร่วมชมและร่วมแสดงควำมยินดีต่อผลงำนของ นกั เรยี น ครูและโรงเรยี น โครงกำรเรยี นรู้สูโ่ ลกกวำ้ ง นักเรียนมีพฤติกรรมของกำรเป็นบุคคลแห่งกำร เรียนรู้พรอ้ มที่จะเผชิญต่อบทเรียนท่ีท้ำทำยและ ร่วมกันวำงแผน ตลอดจนสำมำรถสังเครำะห์ ควำมรู้ท่ไี ด้รับผ่ำนกระบวนกำรเขียนเพือ่ สื่อสำร ได้ โครงกำรโรงเรยี นพอเพียงท้องถ่ิน ผลจำกกำรจดทำแหล่งเรียนรู้ภำยในโรงเรียนที่ สนองต่อกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียนถึงควำม
20 ชื่องาน/โครงการ/กิจกรรม ฯลฯ อธิบายตัวบ่งช้ีความสาเรจ็ โครงกำรประกันคณุ ภำพกำรศกึ ษำ หรือระดับความสาเรจ็ พอเพียง ปรำกฏผลต่อกำรได้รับกำรรับรองจำ กรมส่งเสริมกำรปกครองท้องถ่ินคัดเลือกให้เป็น สถำนศกึ ษำพอเพยี ง โรงเรียนจัดระบบกำรบริหำรแบบ PDCA ท่ี ร่วมกันรับผิดชอบต่อกำรดำเนินงำนทุกด้ำน ควบคู่กับกำรดำเนินตำมหลักธรรมำภิบำล เน้น กำรมีส่วนรว่ มและควำมพอเพียง 13. ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาในปที ่ีผา่ นมา ปกี ารศึกษา 2561 (ปีที่แล้ว) ระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน มำตรฐำน / ประเด็นกำรพิจำรณำ สรปุ ผล กำรประเมิน มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผู้เรยี น ดีเลิศ 1.1 ผลสมั ฤทธทิ์ ำงวิชำกำรของผู้เรียน ดี 1) มคี วำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขียน กำรส่อื สำรและกำรคดิ คำนวณ ดี 2) มีควำมสำมำรถในกำรวิเครำะห์และคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ อภิปรำย ดี แลกเปล่ยี นควำมคิดเหน็ และแกป้ ัญหำ 3) มคี วำมสำมำรถในกำรสรำ้ งนวตั กรรม ดี 4) มคี วำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสือ่ สำร ดเี ลิศ 5) มผี ลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ ดี 6) มีควำมรู้ ทักษะพน้ื ฐำนและเจตคตทิ ี่ดตี อ่ งำนอำชีพ ดเี ลิศ 1.2 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ของนกั เรยี น ดีเลิศ 1) กำรมคี ณุ ลกั ษณะและค่ำนิยมทีด่ ตี ำมท่ีสถำนศึกษำกำหนด ดเี ลศิ 2) ควำมภมู ิใจในทอ้ งถ่ินและควำมเปน็ ไทย ยอดเยยี่ ม 3) กำรยอมรบั ทจี่ ะอย่รู ่วมกนั บนควำมแตกตำ่ งและหลำกหลำย ดีเลศิ 4) สุขภำวะทำงรำ่ งกำยและลักษณะจิตสงั คม ดเี ลศิ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ดเี ลศิ 2.1 กำรมีเปำ้ หมำย วสิ ัยทัศน์และพันธกจิ ที่สถำนศกึ ษำกำหนดชดั เจน ดเี ลศิ 2.2 มรี ะบบบรหิ ำรจดั กำรคุณภำพของสถำนศึกษำ ดเี ลศิ 2.3 ดำเนินงำนพัฒนำวิชำกำรที่เน้นคุณภำพผู้เรียนรอบด้ำนตำมหลักสูตร ดี สถำนศึกษำและทกุ กลุม่ เปำ้ หมำย 2.4 พฒั นำครูและบุคลำกรให้มีควำมเชย่ี วชำญทำงวชิ ำชีพ ดี 2.5 จัดสภำพแวดล้อมทำงกำยภำพและสังคมท่ีเอ้ือต่อกำรจัดกำรเรียนรู้อย่ำงมี ดีเลศิ คณุ ภำพ 2.6 จดั ระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศเพ่ือสนับสนุนกำรบริหำรจัดกำรและกำรจัดกำร ดเี ลศิ เรยี นรู้
21 มำตรฐำน / ประเด็นกำรพจิ ำรณำ สรุปผล กำรประเมนิ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั ดีเลิศ 3.1 จัดกำรเรียนรู้ผ่ำนกระบวนกำรคิดและปฏบิ ตั จิ ริง และสำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ ดเี ลศิ ในชวี ติ ประจำวนั 3.2 ใชส้ อ่ื เทคโนโลยีสำรสนเทศและแหล่งเรียนรู้ทเ่ี อื้อต่อกำรเรียนรู้ ดเี ลิศ 3.3 มกี ำรบริหำรจัดกำรชน้ั เรียนเชงิ บวก ดีเลศิ 3.4 ตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอย่ำงเป็นระบบและนำผลมำพฒั นำผ้เู รียน ดเี ลิศ 3.5 มีกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนำและปรับปรุงกำร ดเี ลิศ จดั กำรสอน สรุปผลการประเมินในภาพรวมของสถานศกึ ษา ดเี ลศิ จุดเด่น ด้ำนผลกำรจัดกำรศึกษำ ผู้เรียนมีสุขภำพกำยและสุขภำพจิตที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม และ ค่ำนิยมท่ีพึงประสงค์ มีสัมมำคำรวะ มีควำมโดดเด่นด้ำนกำรร้องเพลงลูกทุ่ง นำฏศิลป์ ดนตรี ศิลปะ และกีฬำ ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำมีควำมรู้ เป็นผู้นำในกำรพัฒนำงำน วิชำกำร มีควำมสำมำรถในกำรบริหำรงบประมำณ งำนบุคคล และงำนบริหำรทั่วไป สนับสนุนให้ ผเู้ กี่ยวข้องมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำคณุ ภำพสถำนศึกษำ มีคณะกรรมกำรสถำนศึกษำใหค้ วำมเห็นชอบ ในกำรพัฒนำสถำนศกึ ษำ สถำนศกึ ษำไดร้ บั กำรยอมรบั และมีผลงำนพร้อมรำงวัลตำ่ งๆ มำกมำย ด้ำนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั ครูมีควำมรูค้ วำมสำมำรถ ส่วนมำกสอน ตรงตำมวชิ ำเอก-โท ครูหมนั่ ขยันศกึ ษำหำควำมรู้และพฒั นำตนเองอยู่เสมอ จุดทคี่ วรพฒั นา ผลกำรทดสอบระดับชำติ (O-NET) ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 3 และ 6 อยู่ในระดับ ปรับปรุง นักเรยี นบำงส่วนยังไม่ให้ควำมสำคัญกับกำรสอบ O-NET ขำดทักษะในกำรคิดวิเครำะห์ คิด สังเครำะห์ สรุปควำมคิดรวบยอด สถำนศึกษำควรเร่งดำเนินกำรทบทวน ปรับแผนกำรเรียนกำรสอน พัฒนำควำมรู้ให้บุคลำกรครู ให้สำมำรถใช้สื่อกำรสอนสมัยใหม่มำช่วยในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน และกำรออกข้อสอบประเมินผลตำมแนว O-NET จำกเว็บไซท์ สทศ. ขอ้ เสนอแนะ ผู้เรยี นควรได้รับกำรส่งเสริมดำ้ นกำรค้นคว้ำจำกกำรอำ่ น โดยสถำนศกึ ษำควรพัฒนำห้องสมุด ให้เป็นห้องสมุดไอที (E-Library) จัดให้ผู้เรียนทุกห้องเรยี นเข้ำใช้ห้องสมุด 1 คำบ/สปั ดำห์ และเข้ำใช้ ห้องสมุดโดยเสรีทุกวัน วันละอย่ำงน้อย 30 นำที/คน จัดให้มีแหล่งสืบค้นข้อมูลผ่ำนระบบเครือข่ำย อินเตอร์เน็ต จัดให้มีเครื่องคอมพิวเตอร์อย่ำงน้อย 10 เคร่ือง เพ่ือให้เพียงพอต่อกำรใช้งำน ควรให้ คณะกรรมกำรนักเรียนเป็นผู้ดำเนินกำรห้องสมุดอย่ำงเป็นระบบ และมีกำรศึกษำนอกสถำนท่ีให้มำก ขึ้น ควรมีกำรบันทึกประโยชนท่ีได้จำกกำรไปศึกษำท้ังในและนอกสถำนศึกษำ ท้ังนี้ควรมีกำร ตรวจสอบอยำ่ งสมำ่ เสมอ
22 ผู้เรียนควรได้รับกำรพัฒนำทักษะกำรคิดอย่ำงหลำกหลำย ฝึกทักษะกำรสังเกต ฝึกให้ผู้เรียน คิดต่ำง โดยครูใช้คำถำมปลำยเปิด เปิดโอกำสให้ผู้เรียนได้มีโอกำสค้นคว้ำต่อ คิดต่อ อ่ำนต่อและเน้น คำถำมเชิงอนำคต เช่น จะเกิดอะไรขึ้น? จะเป็นเช่นไรได้บ้ำง ทำไม? มีผลกระทบอย่ำงไร เปน็ ตน้ และ ผู้เรียนควรได้รับกำรฝึกทักษะด้ำนกำรสื่อสำร เช่น ฝึกทักษะกำรพูดในท่ีชุมชนหรือกำรพุดหน้ำชั้น เรยี น เปน็ ตน้ 14. ผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม 14.1 ระดบั การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน นาหนกั คะแนน ระดับ (ประถมศกึ ษา และมธั ยมศึกษา) คะแนน ทไ่ี ด้ คณุ ภาพ กลมุ่ ตวั บ่งชพี้ ื้นฐาน ตัวบ่งชท้ี ี่ ๑ ผู้เรียนมีสขุ ภำพกำยและสุขภำพจิตทด่ี ี 10.00 9.07 ดมี ำก ตัวบง่ ชที้ ่ี ๒ ผเู้ รียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และค่ำนิยมทพี่ งึ ประสงค์ 10.00 9.24 ดมี ำก ตัวบง่ ชี้ท่ี ๓ ผ้เู รยี นมีควำมใฝ่รู้ และเรียนรูอ้ ย่ำงตอ่ เนือ่ ง 10.00 9.13 ดีมำก ตัวบ่งชท้ี ี่ ๔ ผ้เู รียนคดิ เปน็ ทำเป็น 10.00 8.70 ดี ตัวบ่งช้ที ี่ ๕ ผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรียนของผ้เู รยี น 20.00 7.17 ต้องปรับปรงุ ตวั บง่ ช้ที ี่ ๖ ประสิทธิผลของกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียน 10.00 8.00 ดี เป็นสำคญั ตวั บ่งชท้ี ่ี ๗ ประสิทธิภำพของกำรบริหำรจัดกำรและกำรพัฒนำ 5.00 4.80 ดมี ำก สถำนศกึ ษำ ตวั บง่ ชี้ที่ ๘ พัฒนำกำรของกำรประกันคุณภำพภำยในโดย 5.00 4.62 ดีมำก สถำนศกึ ษำและต้นสังกดั กลมุ่ ตวั บ่งชีอ้ ตั ลักษณ์ ตัวบ่งชท้ี ่ี ๙ ผลกำรพัฒนำให้บรรลุตำมปรัชญำ ปณิธำน วิสัยทัศน์ 5.00 5.00 ดมี ำก พนั ธกิจ และวัตถปุ ระสงค์ของกำรจัดต้ังสถำนศกึ ษำ ตัวบง่ ชี้ที่ ๑๐ ผลกำรพัฒนำตำมจุดเน้นและจุดเด่นท่ีส่งผลสะท้อน 5.00 5.00 ดมี ำก เป็นเอกลกั ษณข์ องสถำนศกึ ษำ กลุม่ ตวั บ่งชี้มาตรการส่งเสรมิ ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๑๑ ผลกำรดำเนินงำนโครงกำรพิเศษเพ่ือส่งเสริมบทบำท 5.00 5.00 ดมี ำก ของสถำนศกึ ษำ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒ ผลกำรส่งเสริมพัฒนำสถำนศึกษำเพื่อยกระดับ 5.00 5.00 ดมี ำก มำตรฐำน รกั ษำมำตรฐำน และพัฒนำสู่ควำมเป็นเลิศ ที่สอดคลอ้ งกับแนวทำงกำรปฏริ ปู กำรศึกษำ คะแนนรวม 100.00 80.73 ดี ผลรวมคะแนนประเมินสถำนศกึ ษำ 80.73 คะแนน มคี ุณภำพระดับ ดี ผลกำรรับรองมำตรฐำนคุณภำพ รบั รอง ไม่รบั รอง กรณีที่ไม่ได้รบั กำรรบั รอง เน่ืองจำก ..............................................-......................................................
23 ข้อเสนอแนะ ด้ำนผู้เรียน ด้ำนทักษะกระบวยกำรคิดวิเครำะห์ คิดสังเครำะห์ คิดแก้ปัญหำ คิดริเริ่ม สร้ำงสรรค์ โดยผู้เรียนยังขำดกำรฝึกฝนด้ำนกระบวนกรคิดท่ีหลำกหลำยและต่อเนื่อง อีกทั้งสภำพ ครอบครวั ผ้เู รียนบำส่วนยังขำดกำรเอำใจใสด่ ูแล จึงขำดกำรพัฒนำกระบวนกำรคดิ อย่ำงตอ่ เน่ือง ด้ำนครู ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูทำกำรวิจัยเพื่อพัฒนำกำรเรียนกำรสอน พัฒนำครูมีควำมรู้ และทักษะกำรวัดและประเมินผล ส่งเสริมกำรปฏิบัตงิ ำน ปฏิบัตติ นตำมจรรยำบรรณวชิ ำชพี 15. การนาผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษามาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนา คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเน่อื ง 1. ดา้ นผู้เรียน 1.1 ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสุขนิสัยสุขภำพกำยและสุขภำพจิตท่ีดี มีควำมรู้สติปัญญำ มี คุณธรรมจรยิ ธรรม และค่ำนิยมอนั พึงประสงคส์ ำมำรถอยใู่ นสงั คมได้อยำ่ งเปน็ สขุ ผเู้ รียนมีสนุ ทรียภำพ มลี กั ษณะนสิ ัยรกั ศิลปะ ดนตรี และกฬี ำ 1.2 ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีควำมรู้และทักษะที่จำเป็นตำมหลักสูตร ได้แก่ ทักษะในกำรคิด วเิ ครำะห์ สังเครำะห์ วิจำรณญำณ รเิ ร่ิมสร้ำงสรรค์ มีเหตุผลและวสิ ัยทศั น์ในกำรดำรงชวี ิต 1.3 สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนมกี ำรแสวงหำควำมรู้ รกั กำรเรยี นรู้ และพัฒนำตนเองอย่ำงต่อเนือ่ ง 1.4 สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนมที ักษะกำรทำงำน สำมำรถทำงำนรว่ มกับผอู้ นื่ ได้ 2. ดา้ นครผู ้สู อน 2.1 ส่งเสริมให้ครูได้รับกำรพัฒนำ เข้ำรับกำรอบรมให้มีควำมรู้อย่ำงสม่ำเสมอให้มี ประสิทธิภำพในกำรสอนและจัดกำรเรียนสอนโยเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญผำ่ นกระบวนกำรคิด 2.2 จัดหำสือ่ วสั ดุอุปกรณใ์ ห้เพยี งพอในกำรปฏบิ ัติงำน 2.3 ส่งเสรมิ สวัสดกิ ำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำและบำรุงขวัญในกำรปฏิบัติงำน 3. ดา้ นการบรหิ ารจัดการ 3.1 พัฒนำหลักสูตรและกระบวนกำรจัดกำรสอนที่มีประสิทธิภำพโดยพัฒนำให้ผู้เรียนมี ควำมร้แู ละทักษะที่จำเปน็ ตำมหลักสูตร 3.2 พัฒนำระบบบริหำรกำรจัดกำรโดยใช้โรงเรียนเป็นฐำนเพื่อให้เกิดประสิทธิภำพใน กำรจัดกำรศกึ ษำ 3.3 พัฒนำแหล่งเรียนรู้ จัดหำเทคโนโลยี วัสดุอุปกรณ์ทำให้ผู้เรียนได้แสวงหำควำมรู้ อย่ำงมรี ะบบ 3.4 พัฒนำครูผู้สอนและบุคลำกร ด้ำนกำรผลิต กำรใช้ส่ืออุปกรณ์และเทคโนโลยีเพ่ือ กำรศึกษำ 3.5 พัฒนำระบบเทคโนโลยีและสำรสนเทศทำงกำรศึกษำให้มีควำมทันสมัยและมีสภำพ ทีพ่ รอ้ มใชใ้ นกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 3.6 จัดส่ิงอำนวยควำมสะดวกและบริกำรที่เอื้อต่อกำรเรียนรู้ของผู้เรียนตลอดทั้งกำร จดั ระบบสำธำรณปู โภค ภมู ิทศั นแ์ ละอำคำรสถำนทีใ่ ห้มคี วำมเพยี งพอ
24 3.7 จดั ใหโ้ รงเรยี นเปน็ แหล่งวทิ ยำกำรในกำรแสวงหำควำมรูแ้ ละบริกำรชมุ ชน 3.8 ประสำนควำมรว่ มมือกบั ชุมชนองคก์ รท้องถิ่นพฒั นำกำรศกึ ษำอย่ำงตอ่ เน่ือง 16. การพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาตามแผนปฏบิ ตั ิการประจาปีของสถานศกึ ษา 16.1 การบรหิ ารจัดการศึกษา โรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ ได้แบ่งโครงสร้ำงกำรบริหำรงำนเป็น 4 ฝ่ำย ประกอบด้วย ฝำ่ ยบริกำรงำนวิชำกำร ฝ่ำยบริหำรงำนบุคคล ฝ่ำยบริหำรงำนงบประมำณ และฝ่ำยบริหำรงำนทั่วไป ภำยใต้กำรกำกับ ติดตำมและพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพื้นฐำน รวมถงึ กำรให้อำนำจหน้ำทด่ี ำ้ นกำรจัดกิจกรรมพฒั นำผ้เู รยี นต่อคณะกรรมกำรสภำนกั เรียน 16.2 วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศำสตร์ กลยุทธ์ จุดมุ่งหมำยเพ่ือกำรพัฒนำ อัตลักษณ์ และ เอกลกั ษณข์ องสถำนศึกษำ วสิ ัยทศั น์ “มุ่งสคู่ วามเป็นเลิศดา้ นการศึกษา ผ้เู รียนมคี ุณภาพ ดว้ ยการบริหารแบบมสี ว่ นรว่ ม” พนั ธกจิ 1 สง่ เสรมิ และพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นเต็มตามศกั ยภาพ พันธกิจ 2 ส่งเสริมและพัฒนาคณุ ภาพครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 5 3 จดั หาและพัฒนาคุณภาพปจั จัยทใ่ี ช้ในการจัดการเรยี น 4 สก่งาเรสสรอมิ นและพัฒนาใหช้ ุมชนเขา้ มามสี ่วนร่วมในการจัด สง่ เสกรามิรศกกึระษบาวนการเรยี นรู้ตลอดชีวติ
25 ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ กลยุทธ์ หน่วยงานที่ ยทุ ธศาสตร์ รบั ผดิ ชอบ 1) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาคณุ ภาพ - พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ฝา่ ยวิชาการ - ส่งเสริมและพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี ผู้เรยี น กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ 2) ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาพฤตกิ รรม - พัฒนาคณุ ธรรมนกั เรยี น ฝ่ายวชิ าการ ผูเ้ รยี น - สง่ เสรมิ ให้นักเรยี นกล้าแสดงออก ฝา่ ยบริหารงานทั่วไป 3) ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาคณุ ภาพครู - ส่งเสริมสุขภาพนักเรยี น และบุคลากรทางการศกึ ษา - สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษ์ 4) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาคณุ ภาพสอ่ื ทรัพยากรธรรมชาติและ การเรยี นการสอนและแหลง่ เรยี นรู้ ส่งิ แวดล้อม - พัฒนาและสง่ เสรมิ ครใู หม้ ี ฝา่ ยบุคลากร คุณลกั ษณะความเป็นครู ฝา่ ยงบประมาณ - เสรมิ สรา้ งความสัมพันธ์ระหวา่ ง ครู ฝ่ายบรหิ ารงานทั่วไป กับนักเรียนและผปู้ กครอง - การพัฒนาแหลง่ เรยี นรู้ ฝ่ายวชิ าการ - การพัฒนาอาคารสถานท่ี ฝ่ายบรหิ ารงานทวั่ ไป 5) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาคณุ ภาพ - พฒั นาและสง่ เสรมิ ความเขม้ แข็ง ฝา่ ยบรหิ ารงานทั่วไป ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ งานเลขานุการ ความร่วมมือเพ่อื การจัดการศึกษา พ้ืนฐาน คณะกรรมการ สถานศึกษาขั้น 6) ยุทธศาสตร์การพัฒนาคณุ ภาพ พื้นฐาน กระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวติ - การพฒั นาการจดั การเรียนการสอน ฝา่ ยวิชาการ ตามความตอ้ งการของทอ้ งถ่นิ ฝา่ ยบริหารงานทัว่ ไป 7) ยุทธศาสตร์การสง่ เสริมความ - การพฒั นาการจดั การศึกษาให้เกดิ ภาคภูมิใจในทอ้ งถนิ่ การเรยี นรู้ตลอดชวี ติ - สง่ เสรมิ ความรกั ษ์ในทอ้ งถนิ่ ของ ฝา่ ยบริหารงานทัว่ ไป ตนเอง ฝ่ายงบประมาณ - สง่ เสรมิ ให้สังคมชุมชนทอ้ งถ่ินมี ความเขม้ แขง็ จดุ มงุ่ หมายเพ่ือการพฒั นา 1. พฒั นำผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน 2. ส่งเสริมและพฒั นำผเู้ รยี นให้มีกระบวนกำรคดิ วเิ ครำะห์ 3. พัฒนำคณุ ธรรมนักเรยี น 4. ส่งเสริมใหน้ กั เรยี นกล้ำแสดงออก 5. สง่ เสริมสขุ ภำพนักเรยี น
26 6. สง่ เสริมกำรอนรุ ักษท์ รัพยำกรธรรมชำติและสง่ิ แวดลอ้ ม 7. พัฒนำและสง่ เสริมครใู ห้มีคุณลักษณะควำมเปน็ ครู 8. เสริมสรำ้ งควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงครกู บั นักเรียนและผู้ปกครอง 9. ส่งเสรมิ และพฒั นำคุณธรรมครู 10. ส่งเสริมและสร้ำงขวญั กำลังใจใหค้ รแู ละบุคลำกร 11. จดั หำและพัฒนำส่ือกำรเรียนกำรสอน 12. พัฒนำแหล่งเรียนรู้ 13. พัฒนำและส่งเสริมควำมเข้มแขง็ ของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพ้นื ฐำน 14. จดั กำรเรยี นกำรสอนตำมควำมต้องกำรของท้องถิ่น 15. จดั กำรศึกษำใหเ้ กิดกำรเรียนร้ตู ลอดชีวติ 16. สง่ เสรมิ ควำมรกั ษ์ในท้องถิ่นของตนเอง 17. ส่งเสรมิ ให้สังคม ชุมชนท้องถ่ินมีควำมเข้มแข็ง อตั ลักษณ์ของสถานศกึ ษา เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา
27 สว่ นท่ี 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ผลการประเมนิ คุณภาพตามมาตรฐานการประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา ระดบั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผ้เู รียน ระดบั คณุ ภาพ ดเี ลศิ กระบวนการพัฒนา โรงเรียนกำหนดกระบวนกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียน โดยเน้นกำรดำเนินงำนด้ำนวิชำกำรให้ ครอบคลุมด้ำนกำรพัฒนำหลักสูตร กำรพัฒนำกำรเรียนรู้ กำรวัดผลประเมินผลและกำรเทียบโอนผล กำรเรียน กำรวิจัยเพ่ือพัฒนำกำรศึกษำ กำรพัฒนำส่ือนวัตกรรมและเทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ กำร พัฒนำแหล่งเรียนรู้ กำรนิเทศกำรศึกษำ กำรแนะแนวกำรศึกษำ กำรพฒั นำระบบกำรประกันคุณภำพ กำรศกึ ษำ กำรส่งเสริมควำมรแู้ ก่ชมุ ชน กำรประสำนควำมรว่ มมอื ในกำรพัฒนำวิชำกำรกับสถำนศึกษำ อ่ืนๆ กำรสง่ เสริมและสนับสนุนงำนวชิ ำกำร เป็นหวั ใจสำคญั ของกำรพัฒนำคณุ ภำพผู้เรียน โรงเรียนส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยกำร ดำเนินงำน/กิจกรรมอย่ำงหลำกหลำย ได้แก่ งำนหลักสูตร มีกำรประชุมปฏิบัติกำรปรับปรุงหลักสูตร สถำนศึกษำ ตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวช้ีวัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพ่ือให้ครูใช้เป็นกรอบ ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กำรพัฒนำผู้เรียนส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนบรรลุตำมเป้ำหมำยท่ีว่ำ “กำรจัดกำรศึกษำต้องเป็นไปเพื่อพัฒนำคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ท้ังร่ำงกำย จิตใจ สติปัญญำ ควำมรู้และคุณธรรมจริยธรรม และวัฒนธรรมในกำรดำรงชีวิต สำมำรถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่ำงมี ควำมสุข ซ่ึงสอดรับกับจุดมุ่งหมำยของหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 ที่ ได้มุ่งพัฒนำให้ผ้เู รียนเป็นคนดี มีปัญญำ มีควำมสุข ดังน้ันโรงเรียนจึงกำหนดมำตรฐำนกำรศึกษำด้ำน คณุ ภำพผู้เรยี นจำนวน 2 ดำ้ น ได้แก่ 1) ด้ำนผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรียน ด้ำนผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำร สอ่ื สำร กำรคิดคำนวณ รวมทงั้ กำรมผี ลสัมฤทธิท์ ำงกำรเรียนตำมหลักสตู รสถำนศึกษำ มีควำมสำมำรถ ในกำรวิเครำะห์ คิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ มีควำมสำมำรถในกำรสร้ำงนวัตกรรม กำรใช้เทคโนโลยี สำรสนเทศ กำรส่ือสำร และกำรมคี วำมรู้ ทักษะพืน้ ฐำน เจตคตทิ ีด่ ีต่องำนอำชพี 2) ดำ้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รยี น ดำ้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์จองผู้เรียน มุง่ เน้นให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่ำนิยมที่ดี ตำมที่สถำนศึกษำกำหนด และมีสุขภำวะทำงร่ำงกำยและสังคม ควำมภูมิใจในท้องถิ่นและควำมเป็น ไทย กำรยอมรับท่จี ะอยูร่ ว่ มกนั บนควำมแตกต่ำงและหลำกหลำย
28 ผลการดาเนินงาน ผู้เรยี นมีควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรสอ่ื สำรและกำรคิดคำนวณ ควำมสำมำรถใน กำรคิดวิเครำะห์อย่ำงมีวิจำรณญำณ มีกำรอภิปรำยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ควำมคิดเห็นรวมถึงกำรแก้ไข ปัญหำมีควำมสำมำรถในกำรสืบค้นและเข้ำถึงแหล่งข้อมูลได้ด้วยตนเอง เป็นไปตำมเป้ำหมำยที่ โรงเรียนกำหนด สง่ ผลให้ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนเพิ่มขน้ึ รวมถึงสำมำรถพฒั นำผลคะแนนกำรทดสอบ ทำงกำรศึกษำระดับชำติข้ันพื้นฐำน (O-NET) ประจำปีกำรศึกษำ 2562 สูงกว่ำปีกำรศึกษำท่ีผ่ำนมำ ดังนี้ ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 จำนวน 3 รำยวิชำ ประกอบด้วย คณิตศำสตร์ ภำษำไทย วิทยำศำสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 จำนวน 3 รำยวิชำ ประกอบด้วย คณิตศำสตร์ ภำษำไทย และสังคมศึกษำ ผู้เรียนมีคุณลักษณะและค่ำนิยมที่ดี ตำมอัตลักษณ์ของโรงเรียน คือ ควำมมี “มำนะ-วินัย” ในตนเอง มคี วำมภำคภูมิใจในสถำนศึกษำ และเปน็ สว่ นหน่ึงของกำรพัฒนำชมุ ชนของตนเอง ส่งผลให้ โรงเรียนมีนักเรียนได้รับรำงวัล “คนดีศรี ท.๔” เป็นแบบอย่ำงท่ีดีต่อเพื่อนนักเรียน ผู้ปกครองและ ชุมชน มีกำรร่วมดำเนินกิจกรรมกับเพื่อนและคุณครู ตำมโครงกำรบ้ำนเล็กในโรงเรียนของเรำ ที่มุ่ง ปลูกฝังควำมรักควำมสำมัคคี กำรยึดในข้อตกลง กฎกติกำกำรอยู่ร่วมกันในสงั คม รู้และเห็นคุณค่ำต่อ กำรดำเนินชีวิต รู้จักใช้เวลำว่ำงให้เกิดประโยชน์ส่งผลให้มีสุขภำวะทำงร่ำงกำย จติใจที่เข้มแข็ง มีจิต สำธำรณะท่ดี ตี ำมเป้ำหมำยทโ่ี รงเรยี นกำหนด ข้อมลู หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษ์ทสี่ นับสนุนผลการประเมินตนเอง ประเด็นภำพควำมสำเรจ็ ด้ำนคณุ ภำพผ้เู รยี นท่ีสนบั สนนุ กำรประเมินตนเอง ได้แก่ โครงกำรพัฒนำผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนของนกั เรียน โครงกำรพฒั นำงำนวัดผลประเมนิ ผล โครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรเรียนกำรสอนกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ทั้ง 8 กลุ่มสำระ โครงกำรคุณธรรมในสถำนศึกษำ โครงกำรวนั ภำษำไทยแหง่ ชำติ โครงกำรนเิ ทศกำรศึกษำ โครงกำรพัฒนำงำนวชิ ำกำร โครงกำรส่งเสริมรักกำรอำ่ น โครงกำรบำ้ นเล็กในโรงเรยี นของเรำ จดุ เด่น โรงเรียนมีกำรวิเครำะห์ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนและได้กำหนดเป็นเป้ำหมำยทำงกำรเรียน โดยใช้ข้อมูลฐำน 3 ปีย้อนหลัง เป็นเป้ำหมำยกำรพัฒนำให้สูงขึ้น จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนเน้น กำรปฏิบัติทักษะกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคิดคำนวณ ส่งเสริมผู้เรียนให้ได้รับกำรพัฒนำเต็มตำม ศกั ยภำพ มีกำรจัดแหล่งเรียนรู้ภำยในอย่ำงเหมำะสม มสี ่ือด้ำนเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีสัญญำณระบบ WiFi ให้นักเรียนได้ใช้ค้นคว้ำหำควำมรู้อย่ำงพอเพียง ผู้เรียนมีสุขภำพกำย สุขภำพจิตที่ดี กล้ำ แสดงออกและสำมำรถอยรู่ ่วมกบั ผู้อื่นอย่ำงมีควำมสุข
29 จดุ ท่ีควรพัฒนา กำรจัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นยกระดับผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนยังขำดกำรปฏิบัติท่ีต่อเนื่องและ จริงจัง นักเรียนส่วนใหญ่ยังต้องได้รับกำรพัฒนำ โดยภำพรวมผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนระดับชำติมี แนวโน้มพัฒนำข้ึนเรื่อยๆ แต่ในบำงกล่มุ สำระยังอยใู่ นเกณฑ์ทต่ี ้องไดร้ ับกำรพัฒนำ นวัตกรรม/แบบอย่างท่ดี ี โครงกำรพฒั นำผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรยี นของนกั เรียน โครงกำรคุณธรรมในสถำนศึกษำ โครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรเรยี นกำรสอนกลมุ่ สำระกำรเรียนรทู้ ั้ง 8 กลมุ่ สำระ ขอ้ เสนอแนะ ควรพัฒนำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนให้สูงขึ้นทุกรำยวิชำ และยกระดับกำรพัฒนำผลคะแนน กำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำติขน้ั พื้นฐำนใหส้ ูงข้ึน มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ระดับคณุ ภาพ ดเี ลศิ กระบวนการพฒั นา โรงเรียนเน้นกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรโดยยึดหลักของกำรมีส่วนร่วมจำกบุคลำกร ทุกคน โดยผำ่ นกระบวนกำรพฒั นำ 6 ข้นั ตอน คอื 1. ศกึ ษำสภำพปจั จบุ ันปญั หำและกำหนดประเดน็ กำรพฒั นำ 2. สร้ำงทมี งำนและพัฒนำศักยภำพทีมงำน 3. กำรวำงแผนแบบมสี ่วนรว่ ม 4. ดำเนนิ งำนตำมแผนและปรบั ปรุงพฒั นำ 5. กำรประเมนิ และสรปุ ผล 6. แลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบมีสว่ นรว่ ม มีกำรกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำหมำย ยุทธศำสตร์ กลยุทธ์ งำน/โครงกำร/กิจกรรม ใน กำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำที่มีควำมสอดคล้องกับสภำพของปัญหำและควำมต้องกำร จัดสรร งบประมำณและทรัพยำกร กำรมอบหมำยงำนตำมควำมสำมำรถและควำมถนัด ดำเนินกำรพัฒนำ ตำมแผนพัฒนำกำรศึกษำใหบ้ รรลเุ ปำ้ หมำยท่กี ำหนดไว้อยำ่ งเป็นระบบ ผลการดาเนินงาน 1. มีกำรกำหนดเป้ำหมำย ปรับวิสัยทัศน์ กำหนดพันธกิจ เป้ำประสงค์ ยุทธศำสตร์กำร พัฒนำ กลยุทธ์ในกำรบริหำรจัดกำรของสถำนศึกษำ สอดคล้องกับสภำพปัญหำควำมต้องกำรพัฒนำ และควำมต้องกำรของชมุ ชนทอ้ งถน่ิ
30 2. แผนพัฒนำกำรศึกษำห้ำปี (พ.ศ. 2561-2565) แผนปฏิบัติกำรประจำปีงบประมำณ แผนปฏิบัติกำรประจำปีกำรศึกษำ สอดคล้องกับกำรพัฒนำผู้เรียนทุกกลุ่มเป้ำหมำย มีกำรพัฒนำครู และบุคลำกรทำงกำรศึกษำให้มีควำมรู้ควำมเช่ียวชำญตำมมำตรฐำนตำแหนง่ ระบบข้อมูลสำรสนเทศ มีควำมถูกต้องครบถ้วน ทันสมัย นำไปประยุกต์ใช้ได้อย่ำงรวดเร็ว และมีกำรจัดสภำพแวดล้อมทำง กำยภำพและสังคมที่กระตุ้นผู้เรยี นใหใ้ ฝเ่ รียนรู้ 3. ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ำยและเครือข่ำยกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ มีส่วนร่วมในกำรร่วม วำงแผนพัฒนำคณุ ภำพกำรศกึ ษำและรับทรำบ รับผดิ ชอบต่อผลกำรจดั กำรศึกษำ 4. มีกำรนิเทศ กำกบั ติดตำมและประเมินผลกำรบริหำรและกำรจดั กรศึกษำทเ่ี หมำะสมเป็น ระบบและต่อเนอื่ ง เปดิ โอกำสให้ผเู้ กี่ยวข้องมสี ว่ นรว่ มในกำรจัดกำรศกึ ษำ 5. มรี ปู แบบกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำรเชิงระบบ โดยทุกฝำ่ ยมสี ่วนร่วมยึดหลักธรรมำภบิ ำล และแนวคิดตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนำผู้เรียนตำมแนวทำงกำรปฏิรูป กำรศึกษำ 6. มีกำรระดมทรัพยำกรเพือ่ กำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำจำกเครือข่ำยอุปถัมภ์ ขอ้ มูล หลกั ฐาน เอกสารเชงิ ประจกั ษท์ ี่สนับสนุนผลการประเมนิ ตนเอง ประเดน็ ภำพควำมสำเร็จดำ้ นคุณภำพผ้เู รยี นทสี่ นบั สนนุ กำรประเมินตนเอง ไดแ้ ก่ โครงกำรนิเทศกำรศกึ ษำ โครงกำรพัฒนำงำนธรุ กำรและสำรบรรณ โครงกำรพัฒนำงำนประชำสัมพันธ์ โครงกำรประชุมผ้ปู กครอง โครงกำรซอ่ มแซมวัสดุ ครุภณั ฑแ์ ละอำคำรสถำนท่ี โครงกำรพัฒนำและเสริมสรำ้ งควำมเข้มแขง็ ของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขน้ั พืน้ ฐำน โครงกำรประกนั คุณภำพกำรศกึ ษำ โครงกำรส่งเสริมและสนบั สนุนกำรมสี ว่ นร่วม โครงกำรพฒั นำระบบสำรสนเทศ โครงกำรพฒั นำกำรจัดกำรศึกษำโดยใช้โรงเรียนเป็นฐำนในกำรพฒั นำท้องถนิ่ (SBMLD) จุดเด่น โรงเรียนมีกำรบริหำรและกำรจัดกำรที่เป็นระบบ ใช้เทคนิคกำรประชุมที่หลำกหลำยวิธีเช่น กำรประชุมแบบมีส่วนร่วม กรประชุมระดมสมอง กำรประชำกลุ่มเพื่อให้ทุกฝ่ำยมีส่วนร่วมในกำร กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ที่ชดเจน มีแผนพัฒนำกำรศึกษำท่ีสอดคล้องกับควำมต้องกำร พัฒนำ ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำเต็มตำมศักยภำพ ครูมีควำมรับผิดชอบต่อหน้ำที่ มีกำรนิเทศกำรสอน กำรกำกบั ตดิ ตำม ประเมินผลเพอ่ื ใช้เปน็ ฐำนในกำรวำงแผนพฒั นำคุณภำพสถำนศกึ ษำ
31 จุดท่ีควรพฒั นา 1. ควรเปิดโอกำสให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในกำรเสนอควำมคิดเห็นในกำรจัดกำรศึกษำ อย่ำงหลำกหลำยและทกุ ชอ่ งทำง 2. ส่งเสริมและพัฒนำกำรสร้ำงเครือข่ำยควำมร่วมมือของผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องให้เกิดควำม เขม้ แขง็ 3. จัดกิจกรรมระหว่ำงโรงเรียนและชุมชนให้มำกข้ึนและต่อเนื่องเพื่อสรำ้ งควำมสัมพันธ์ท่ีดี ระหว่ำงกันตลอดจนเปน็ กำรประชำสมั พนั ธก์ จิ กรรมของโรงเรียนใหเ้ ปน็ ท่ที รำบมำกยิ่งขึ้น นวตั กรรม/แบบอย่างท่ดี ี โครงกำรส่งเสริมและสนบั สนุนกำรมสี ่วนร่วม โครงกำรประชมุ ผู้ปกครอง ขอ้ เสนอแนะ ควรจัดระบบกำรนิเทศกำรศึกษำและกำรพัฒนำระบบสำรสนเทศของโรงเรียนให้มี ประสทิ ธิภำพมำกยิ่งข้ึน มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั ระดับคณุ ภาพ ดีเลิศ กระบวนการพัฒนา โรงเรียนดำเนินกำรส่งเสริมให้ครูจัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ โดยกำรดำเนิน วำน/กิจกรรมอย่ำงหลำกหลำย ได้แก่ งำนพัฒนำหลักสูตรสถำนศึกษำ มีกำรประชุมปฏิบัติกำร ปรับปรุงหลักสูตรสถำนศึกษำพัฒนำประชำคนอำเซียนและมำตรฐำนสำกล มีศูนย์และแหล่งกำร เรียนรู้ที่หลำกหลำยสอดคล้องกบั หน่วยกำรเรียนรู้ สนับสนุนให้ครูจัดกำรเรียนกำรสอนที่สร้ำงโอกำส ใหน้ กั เรยี นทกุ คนมสี ่วนร่วม ไดล้ งมอื ปฏิบัตจิ ริงและสำมำรถสรปุ ควำมรูไ้ ดด้ ้วยตนเอง จัดกำรเรียนกำรสอนที่เน้นทักษะกำรคิด เช่น จัดกำรเรียนรู้แบบเพ่ือนช่วยเพื่อน พ่ีช่วยน้อง โดยมีคุณครูพ่อ คุณครูแม่เป็นผู้ให้คำปรึกษำ แนะนำ กำรดำเนินกิจกรรมตำมโครงกำรบ้ำนเล็กใน โรงเรยี นของเรำ ผ่ำนกระบวนกำรครอบครวั กำรพัฒนำแหล่งเรียนรู้ ครใู ช้ส่ือกำรเรยี นกำรสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถงึ นักเรยี นสำมำรถเข้ำถึงกำรสืบค้น ข้อมูลได้อย่ำงง่ำยและสะดวกผ่ำนระบบกำรเช่ือมต่ออินเตอร์เน็ตภำยในโรงเรียนควบคู่กับกำรเรียนรู้ จำกภมู ิปญั ญำท้องถิ่น มกี ำรประชุมคุณภำพและประสทิ ธิภำพของส่อื กำรสอนที่ใช้ มกี ำรวเิ ครำะหค์ วำมยำกง่ำยและ จดั กำรคลังขอ้ สอบเพอ่ื เพิ่มประสิทธิภำพและผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนของผู้เรียน ครทู ุกคนทำงำนวิจัย ในชน้ั เรียนปกี ำรศกึ ษำละ 1 เรอื่ ง
32 ผลการดาเนนิ งาน จัดให้มีโครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกำรเรียนกำรสอนท้ัง 8 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ที่ผ่ำน กระบวนกำรคิดและปฏิบัติจริงตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถำนศึกษำ และ หลักสูตรรำยวิชำเพิ่มเติม ครูมีแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีสำมำรถนำไปจัดกิจกรรมได้จริงและสำมำรถ นำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันได้ มีกำรพัฒนำแหล่งเรียนรู้ภำยในสถำนศึกษำเพิ่มข้ึน เช่น ศูนย์กำรเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติฯ แหล่งเรียนรู้ 8 หมู่บ้ำนตำมโครงกำรบ้ำนเล็กในโรงเรียนของเรำ โครงกำรเปิดโลกวิชำกำรมัธยม เทศบำล ๔ รวมถึงกำรนำภูมิปญั ญำท้องถ่นิ มำจัดกำรเรียนรู้ท้งั ภำยในและภำยนอกโรงเรียน และกำร พัฒนำส่ือเทคโนโลยีสำรสนเทศท่พี ร้อมต่อกำรเรยี นรูข้ องผ้เู รยี น มีกำรตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่ำงเป็นระบบ โดยเฉพำะเครื่องมือท่ีใช้ในกำรวัดและ ประเมินผล มีกำรวิเครำะห์ข้อสอบและจัดทำคลังข้อสอบเพื่อให้เกิดกำรปรับปรุงและพัฒนำอย่ำง ต่อเนอ่ื ง มกี ำรบริหำรจัดกำรช้ันเรียนเชิงบวกควบคู่กบั กำรดำเนนิ โครงกำรบ้ำนเล็กในโรงเรียนของเรำ ส่งผลใหผ้ ูเ้ รยี นรักทจี่ ะเปน็ บุคคลแหง่ กำรเรียนรแู้ ละดำเนินชวี ติ ไดอ้ ยำ่ งมคี วำมสุข มีกำรจัดกำรเรียนรู้ร่วมกับชุมชนและแหล่งเรียนรู้ต่ำงๆ ภำยนอกโรงเรียน ตลอดจน หน่วยงำนทเี่ กี่ยวข้องทำงกำรศึกษำเข้ำมำมสี ่วนร่วมในกำรพฒั นำคณุ ภำพผเู้ รียน ขอ้ มูล หลักฐาน เอกสารเชงิ ประจักษท์ ่ีสนับสนนุ ผลการประเมนิ ตนเอง ประเดน็ ภำพควำมสำเร็จดำ้ นคณุ ภำพผ้เู รียนที่สนับสนุนกำรประเมินตนเอง ไดแ้ ก่ โครงกำรคำ่ หนงั สือเรียน โครงกำรคำ่ อุปกรณก์ ำรเรยี น โครงกำรสนับสนุนปัจจัยพน้ื ฐำนสำหรบั นักเรียนยำกจน โครงกำรคำ่ เคร่อื งแบบนักเรยี น โครงกำรเปดิ โลกวิชำกำรมัธยมเทศบำล ๔ โครงกำรสง่ เสรมิ ควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำร โครงกำรปฐมนิเทศนักเรยี นใหม่ โครงกำรปัจฉมิ นเิ ทศ โครงกำรผจู้ ิตสำนกึ รักสถำบัน โครงกำรประชำธปิ ไตยในโรงเรียน โครงกำรรณรงคป์ ้องกนั ยำเสพติดในสถำนศึกษำ โครงกำรแขง่ ขนั กฬี ำนกั เรียนกับหนว่ ยงำนภำยนอก โครงกำรแข่งขันกีฬำ-กรฑี ำ นักเรียนภำยใน โครงกำรอนำมัยโรงเรียน (โรงเรียนสง่ เสริมสขุ ภำพ) โครงกำรประชุมผปู้ กครองนกั เรยี น โครงกำรบ้ำนเลก็ ในโรงเรียนของเรำ
33 โครงกำรพัฒนำแหลง่ เรียนรใู้ นโรงเรยี น โครงกำรพัฒนำ/ปรับปรงุ หอ้ งสมุด โครงกำรสวนสมุนไพรเพ่ือกำรเรยี นรู้ โครงกำรพัฒนำคุณภำพงำนแนะแนว โครงกำรสง่ เสริมกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต โครงกำรโรงเรียนพอเพียงท้องถิ่น โครงกำรวนั สำคญั และอนุรักษศ์ ลิ ปวฒั นธรรม โครงกำรส่งเสรมิ และพฒั นำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนลูกเสือ-เนตรนำรี โครงกำรส่งเสรมิ และพัฒนำกีฬำเปตองสคู่ วำมเป็นเลศิ โครงกำรส่งเสริมและพฒั นำกิจกรรมกำรเรยี นรูส้ โู่ ลกกว้ำง โครงกำรส่งเสรมิ ศลิ ปะกำรแสดง (ลกู ทุ่งวฒั นธรรมต้ำยยำเสพตดิ ) โครงกำรส่งเสรมิ กำรเรียนรูจ้ ำกภูมปิ ัญญำท้องถนิ่ โครงกำรศนู ยก์ ำรเรยี นรู้ด้ำนกำรท่องเท่ยี ว โครงกำรสง่ เสรมิ กำรเรียนรู้อำเซยี นศึกษำ โครงกำรศนู ย์กำรเรยี นร้เู ฉลมิ พระเกยี รติฯ โครงกำรพฒั นำระบบเครอื ขำ่ ยอนิ เตอร์เน็ตเพอ่ื กำรเรียนกำรสอน กจิ กรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวันงดสูบบหุ รโ่ี ลก กจิ กรรม I Love Sport กจิ กรรมวันสนุ ทรภู่ จุดเด่น ครูต้งั ใจ ม่งุ มัน่ ในกำรพัฒนำกำรสอน ครูจัดกิจกรรมใหน้ ักเรยี นแสวงหำควำมร้จู ำกส่อื เทคโนโลยดี ว้ ยตนเองอยำ่ งต่อเนื่อง นักเรยี นมีสว่ นร่วมในกำรจัดบรรยำกำศ สภำพแวดล้อมท่เี อ้อื ต่อกำรเรยี นรู้ ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้โดยกำรคิดได้ปฏิบัติจริงด้วยวิธีกำรและแหล่งเรียนรู้ท่ี หลำกหลำย จุดที่ควรพฒั นา ควรนำภูมิปญั ญำท้องถ่นิ ให้เขำ้ มำมีสว่ นรว่ มในกำรจัดกจิ กรรมใหน้ กั เรยี นได้เรยี นรแู้ ละกำรให้ ข้อมูลยอ้ นกลับแก่นักเรียนทนั ทีเพ่อื นักเรยี นนำไปพัฒนำตนเอง นวตั กรรม/แบบอย่างทดี่ ี โครงกำรเปดิ โลกวิชำกำรมัธยมเทศบำล ๔ โครงกำรส่งเสริมควำมเป็นเลิศทำงวิชำกำร โครงกำรพัฒนำแหลง่ เรยี นรู้ในโรงเรียน
34 โครงกำรพฒั นำ/ปรบั ปรงุ หอ้ งสมดุ โครงกำรพฒั นำคุณภำพงำนแนะแนว โครงกำรสง่ เสริมกำรเรียนรตู้ ลอดชีวิต โครงกำรโรงเรียนพอเพยี งทอ้ งถ่นิ โครงกำรวนั สำคัญและอนุรักษ์ศลิ ปวัฒนธรรม โครงกำรสง่ เสริมและพัฒนำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนลกู เสือ-เนตรนำรี โครงกำรสง่ เสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสคู่ วำมเป็นเลศิ โครงกำรส่งเสรมิ และพัฒนำกจิ กรรมกำรเรยี นร้สู โู่ ลกกว้ำง โครงกำรสง่ เสรมิ ศลิ ปะกำรแสดง (ลกู ทงุ่ วัฒนธรรมต้ำยยำเสพติด) โครงกำรส่งเสรมิ กำรเรยี นรจู้ ำกภมู ิปัญญำทอ้ งถน่ิ โครงกำรศูนยก์ ำรเรียนรู้ด้ำนกำรทอ่ งเท่ยี ว โครงกำรสง่ เสริมกำรเรียนร้อู ำเซยี นศกึ ษำ โครงกำรศูนยก์ ำรเรียนรเู้ ฉลิมพระเกียรติฯ โครงกำรพฒั นำระบบเครือขำ่ ยอินเตอรเ์ นต็ เพื่อกำรเรียนกำรสอน กิจกรรม I Love Sport ขอ้ เสนอแนะ ควรประชำสัมพันธ์ให้ชุมชนทรำบถึงกำรเป็น “สังคมแห่งกำรเรียนรู้ของนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน” ใหม้ ำกย่ิงข้นึ
35 ส่วนท่ี 3 สรุปผล แนวทางการพัฒนาและความตอ้ งการการช่วยเหลอื ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศึกษำถือเป็นข้อมูลสำรสนเทศสำคัญที่สถำ นศึกษำจะต้อง นำไปวิเครำะห์ สังเครำะห์ เพื่อสรุปนำไปสู้กำรเชื่อมโยงหรือสะท้อนภำพควำมสำเร็จกับแผนพัฒนำ คุณภำพกำรจัดกำรศึกษำของสถำนศึกษำ และนำไปใช้ในกำรวำงแผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำของ สถำนศึกษำ ดังน้ัน จำกผลกำรดำเนินงำนของสถำนศึกษำ สำมำรถสรุปผลกำรประเมินในภำพรวม ของจุดเด่น จุดควรพัฒนำของแต่ละมำตรฐำน พร้อมท้ังแนวทำงกำรพัฒนำในอนำคตเพ่อให้ได้ มำตรฐำนทีส่ งู ขนึ้ และควำมต้องกำรกำรช่วยเหลอื ดงั นี้ ระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน สรปุ ผล จดุ เดน่ จุดควรพฒั นา คณุ ภาพของผู้เรยี น คุณภาพของผเู้ รยี น 1. มีกำรวิเครำะห์ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน 1. กำรจัดกิจกรรมท่ีมุ่งเน้นยกระดับ และกำหนดเป้ำหมำยทำงกำรเรียนโดยใช้ข้อมูล ผลสัมฤทธ์ิยังขำดกำรปฏิบัติที่ต่อเน่ืองและ ฐำน 3 ปีย้อนหลงั เปน็ เป้ำหมำยคณุ ภำพนกั เรยี น จรงิ จัง ให้พัฒนำสงู ขน้ึ 2. จัดกิจกรรมด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียน 2. จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน เน้นกำร คำนวณให้กับนักเรียนเรียนร่วม เปรียบเทียบ ปฏิบัติ เน้นทกั ษะในกำรอ่ำน กำรเขียนและกำร ควำมก้ำวหน้ำและกำรพัฒนำของนักเรียนเป็น คิดคำนวณ ส่งเสริมผู้เรียนให้พัฒนำเต็ม รำยบคุ คล ศักยภำพ 3. มีกำรจัดแหล่งเรียนรู้ภำยในได้อย่ำง เหมำะสม 4. มีส่ื อ ด้ำน เทค โ นโ ลยีที่ ทันส มัย มี สญั ญำณระบบ WiFi ให้นักเรียนได้ใช้ค้นคว้ำหำ ควำมรูอ้ ย่ำงเพยี งพอ 5. ผู้เรียนมีสุขภำพกำย สุขภำพจิตท่ีดี กล้ำแสดงออกและสำมำรถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่ำง มีควำมสุข กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ กระบวนการบริหารและการจดั การ 1. มีกำรบริหำรและกำรจัดกำรอย่ำงเป็น 1. ควรเปิดโอกำสให้ผู้ปกครองได้มีส่วน ระบบ ร่วมในกำรเสนอควำมคิดเห็นในกำรจัด 2. ใชเ้ ทคนิคกำรประชมุ ทีห่ ลำกหลำยวิธี กำรศึกษำเพื่อพัฒนำผู้เรียนอย่ำงหลำกหลำย 3. ทุกฝ่ ำยมีส่ว นร่วมในกำรกำหนด รูปแบบและทุกชอ่ งทำง วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ท่ีชัดเจน มี
36 จดุ เด่น จุดควรพฒั นา แผนพัฒนำกำรศึกษำท่ีสอดคล้องกับผลกำรจัด 2. ควรส่งเสริมและพัฒนำกำรสร้ำง กำรศึกษำ สภำพปัญหำควำมต้องกำรพัฒนำ เครือข่ำยควำมร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องใน และนโยบำยกำรปฏริ ปู กำรศกึ ษำ กำรจัดกำรศึกษำของโรงเรียนให้มีควำมเข้มแข็ง 4. ครูผู้สอนสำมำรถจัดกำรเรียนรู้ได้อย่ำง มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลกำรจัดกำรศึกษำ มคี ณุ ภำพ และรว่ มสนับสนุนกำรขบั เคล่อื นคุณภำพกำรจัด 5. มีกำรดำเนินกำรนิเทศ กำกับ ติดตำม กำรศึกษำ ประเมินผล กำรดำเนินงำนและจัดทำรำยงำน 3. ควรจัดกิจกรรมระหว่ำงโรงเรียนกับ ผลกำรจัดกำรศกึ ษำ ชุมชนให้มำกข้ึน และมีควำมต่อเน่ือง เพื่อ 6. โรงเรียนได้ใช้กระบวนกำรวิจัยในกำร ประชำสัมพันธ์โรงเรียนให้ชมุ ชนได้ทรำบผลกำร รวบรวมข้อมูลเพื่อใช้เป็นฐำนในกำรวำงแผน ดำเนนิ งำนของโรงเรียน พัฒนำคุณภำพสถำนศึกษำ การจดั การเรียนรทู้ เี่ นน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั การจัดการเรียนรทู้ ่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั 1. ครูต้ังใจ มงุ่ มั่นในกำรพัฒนำกำรสอน ควรนำภูมปิ ัญญำท้องถ่ินเข้ำมำมีสว่ นร่วมในกำร 2. ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนแสวงหำ จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้และกำรให้ ควำมรู้จำกส่ือเทคโนโลยีด้วยตนเองอย่ำง ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนทันทีเพ่ือนักเรียน ต่อเน่อื ง นำไปใช้พัฒนำตนเอง 3. นกั เรียนมีส่วนร่วมในกำรจัดบรรยำกำศ สภำพแวดลอ้ มท่เี ออื้ ต่อกำรเรยี นรู้ 4. ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนเรียนรู้โดย กำรคิดไดป้ ฏิบตั ิจริงด้วยวิธีกำรและแหล่งเรียนรู้ ที่หลำกหลำย แผนการพัฒนาคุณภาพเพือ่ ยกระดับคุณภาพมาตรฐานให้สงู ข้นึ 1. ปรับปรุง/พัฒนำหลักสตู รสถำนศึกษำให้สอดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้ให้ดยี ่ิงขึน้ เน้น กำรพัฒนำนวัตกรรมเพือ่ กำรเรยี นรู้ เพือ่ ผลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรยี นของนักเรียนที่สูงข้ึน 2. พฒั นำศกั ยภำพผเู้ รียนใหไ้ ปสคู่ วำมเปน็ เลิศตำมควำมถนดั ของตนเอง 3. พัฒนำครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำให้เพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรสอนและกำร ปฏิบตั ิงำน 4. พัฒนำสถำนศึกษำเพื่อเปน็ สงั คมแห่งกำรเรียนรขู้ องนกั เรยี น ผปู้ กครองและชมุ ชน ทศิ ทาง/แนวทางการพัฒนาสถานศกึ ษาในอนาคต 1. กำรตดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ท่เี น้นกำรพัฒนำผเู้ รยี นเป็นรำยบคุ คลให้ชดั เจนมำกข้นึ 2. กำรส่งเสริมใหค้ รเู ห็นควำมสำคัญของกำรจัดกำรเรยี นรโู้ ดยเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญและกำร จัดทำกำรวจิ ยั ในช้ันเรียนเพอื่ พัฒนำผ้เู รยี นให้สำมำรถเรียนรู้ได้เตม็ ศักยภำพ
37 3. กำรพัฒนำบุคลำกรโดยกำรส่งเข้ำรับกำรอบรม แลกเปล่ียนเรียนรู้ในงำนท่ีได้รับ มอบหมำย ตดิ ตำมผลกำรนำไปใชแ้ ละผลท่เี กดิ กบั ผูเ้ รยี นอยำ่ งต่อเนื่อง 4. กำรพัฒนำสถำนศกึ ษำใหเ้ ปน็ สงั คมแห่งกำรเรียนรขู้ องชุมชน ความต้องการและการช่วยเหลอื 1. กำรพัฒนำครูผู้สอนในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับกำรพัฒนำผู้เรียนใน ศตวรรษที่ 21 2. กำรสร้ำงแบบทดสอบที่สอดคลอ้ งกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัด ตำมแนวทำงของกำร ประเมิน O-NET 3. กำรสร้ำงควำมตระหนักให้กับครทู ุกคนถงึ ควำมสำคัญของนกั เรียนที่ตนเองรบั ผิดชอบท้ัง ในฐำนะครูทป่ี รกึ ษำและครูประจำวิชำ
38 ส่วนที่ 4 การปฏบิ ตั ิทีเ่ ป็นเลศิ ของสถานศกึ ษา ช่ือผลงาน ผนู้ ำกฬี ำเปตองท้องถ่ิน (โครงกำรสง่ เสรมิ และพัฒนำกีฬำเปตองส่คู วำมเปน็ เลิศ) คาสาคัญ : กีฬำเปตอง, ควำมเป็นเลศิ , ผู้นำดำ้ นกฬี ำ, หลักสูตรกฬี ำเปตอง ประจาปกี ารศกึ ษา 2562 1. บทนา กระบวนการ/วิธกี ารดาเนินงานในอดตี กำรจัดกำรศึกษำที่เป็นเลิศ คือกำรจัดกำรศึกษำที่อดเยี่ยมมีคุณภำพสูงตำมมำตรฐำน กำรศึกษำ พัฒนำกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนเพ่ือสรำ้ งคุณภำพแก่ผู้เรียน ซ่ึงกำร ปรับเปล่ยี นสปู่ ระเทศไทย 4.0 น้ัน เปน็ แรงผลกั ดันให้ประชำกรเข้ำถงึ ข้อมูลสำรสนเทศและกำรเรียนรู้ ทไ่ี รข้ ดี จำกัด สำมำรถพฒั นำองค์ควำมรู้สร้ำงปญั หำเพ่มิ ข้นึ เปน็ ทวีคูณ ยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) มุ่งให้คนไทยสำมำรถปรับตัวรองรับบริบทกำร พัฒนำในอนำคต มีทักษะในกำรวิเครำะห์อย่ำงมีเหตุผล มีภูมิคุ้นกันต่อกำรเปลี่ยนแปลงในสังคมแห่ง กำรเรียนรู้ท่ีสำมำรถเรียนรู้ได้อย่ำงต่อเนื่องตลอดชีวิต โรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ ตระหนักถึง ควำมสำคัญที่ต้องจัดกำรศึกษำให้เป็นเลิศเพ่ือผลิตทรัพยำกรมนุษย์ที่มีคุณภำพรองรับกำร เปลยี่ นแปลงของสงั คมอนำคต แต่เน่ืองจำกปรับเปล่ียนหรือกำรเปล่ียนแปลงในเรื่องต่ำงๆ ต้องอำศัยกำรสร้ำงควำมเข้ำใจที่ ดอี ันที่จะส่งผลต่อควำมร่วมมือร่วมใจในกำรพัฒนำ กำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศ จึงเร่ิมจำกกำรศึกษำสภำพปัจจุบัน ปัญหำและควำมต้องกำร กำรวิเครำะห์ผลกระทบทั้งบวกและลบ กำรกำหนดแผนพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศ กำรดำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติกำรประจำปี กำร กำกับติดตำมกำรดำเนินงำน กำรประเมนิ ผลและตรวจสอบคณุ ภำพของกำรดำเนินงำน กำรสรุปและ รำยงำนผล เพื่อให้เกดิ กำรพัฒนำทยี่ ั่งยืน สภาพทวั่ ไป โรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ เป็นสถำนศึกษำระดับกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน จัดกำรเรียนกำรสอน ต้ังแต่ระดับชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ 1-6 นักเรยี นร้อยละ 60 ข้นึ ไปเป็นผู้ท่ีมีควำมสำมำรถและสุนทรียภำพ ด้ำนดนตรี ศิลปะและกำรกีฬำ โดยที่โรงเรียนได้จัดโครงกำรเพื่อส่งเสริมและพัฒนำนักเรียนกลุ่ม ดังกลำ่ ว เชน่ โครงกำรส่งเสริมศลิ ปะกำรแสดง (ลูกทุ่งวัฒนธรรมตำ้ นยำเสพติด) โครงกำรส่งเสรมิ และ พัฒนำกำรเรียนดนตรเี พือ่ ควำมเป็นเลิศ และโครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลศิ โครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศ ได้ริเริ่มจำกกำรจัดทำโครงกำร ส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศ ข้ึนในปีกำรศึกษำ 2559 และมีผลงำนจำกกำรเข้ำร่วม กำรแข่งขันกีฬำนักเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศที่จังหวัด ร้อยเอ็ดและได้รับรำงวัลเหรียญทองแดง ซ่ึงถือเป็นเหรียญแรกจำกกำรเข้ำร่วมแข่งขันใน ระดบั ประเทศ
39 ในปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 โรงเรียนได้เล็งเห็นถึงกำรพัฒนำกีฬำชนิดนี้ เนื่องจำกมีนักกีฬำ เพิ่มจำนวนมำกข้ึน ประกอบกับ โรงเรียนยังไม่มีกีฬำชนิดใดๆ ท่ีจะจ่อยอดกำรพัฒนำสู่ควำมเป็นเลิศ จงึ ไดจ้ ัดโครงกำรสง่ เสรมิ และพฒั นำกฬี ำเปตองสูค่ วำมเป็นเลิศ ลกั ษณะสาคญั ของวธิ หี รอื แนวทางปฏิบตั ิท่เี ปน็ เลศิ โรงเรยี นได้มอบหมำยให้กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ร่วมกบั กลุ่มงำนกจิ กรรม พัฒนำผู้เรียน จัดทำโครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศ ปรำกฏตำมแผนพัฒนำ กำรศึกษำ 5 ปี (พ.ศ. 2561 – 2565) ยุทธศำสตร์กำรพัฒนำคุณภำพกระบวนกำรเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเริ่มจำกกำรศึกษำสภำพปัจจบุ ัน ปัญหำควำมตอ้ งกำร กำรวิเครำะห์ผลกระทบทั้งบวกและลบ กำร กำหนดแผนพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศ กำรดำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติกำรประจำปี กำรกำกับ ติดตำม กำรประเมินผลและตรวจสอบคุณภำพกำรดำเนินงำน กำรสรุปและรำยงำนผล นำผลท่ีได้มำ วเิ ครำะห์เพ่ือปรบั ปรุงและพัฒนำในครงั้ ต่อไป วัตถปุ ระสงคข์ องวิธีหรือแนวทางปฏบิ ตั ทิ เี่ ป็นเลศิ 1. เพ่ือจัดทำหลกั สูตรวิชำเปตองเพือ่ จดั กำรเรยี นกำรสอนทุกระดบั ชน้ั 2. เพอ่ื ส่งเสริมและพฒั นำนกั กฬี ำส่คู วำมเปน็ เลศิ ทำงด้ำนกีฬำเปตอง 3. เพอื่ พัฒนำครูผู้สอนให้ไดร้ บั กำรพัฒนำด้ำนควำมรู้ ทักษะกีฬำเปตองทีส่ งู ขึ้น 4. เพอ่ื เปน็ ศนู ย์กลำงกำรพัฒนำกฬี ำเปตองในจงั หวัดสิงหบ์ ุรี เป้าหมาย เชงิ ปริมาณ 1) จดั กำรเรยี นกำรสอนรำยวชิ ำเพ่มิ เติมสำหรับนักเรียนทุกระดับชัน้ 2) นักเรียนมีควำมเป็นเลิศจำกกำรแข่งขันในระดับภำค ประเทศและนำนำชำติอย่ำง นอ้ ยปีกำรศกึ ษำละ 3 รำยกำร 3) ครผู ฝู้ ึกสอนไดร้ บั กำรพฒั นำควำมรู้และทกั ษะอยำ่ งน้อยปีละ 1 คน 4) เป็นศูนย์กลำงการพฒั นาและจดั แข่งขนั ในจงั หวดั ปี ละไม่นอ้ ยกวา่ 2 รายการ เชิงคณุ ภาพ 1) นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธิท์ ำงกำรเรยี นผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินทุกคน 2) นักเรียน ครู สถำนศึกษำเป็นท่ียอมรับจำกทุกภำคส่วนที่เกิดจำกกำรพัฒนำกีฬำ เปตองส่คู วำมเปน็ เลิศ 3) บุคลำกรทำงกำรกีฬำเปตองได้รับกำรพัฒนำและเป็นผู้นำในกำรส่งเสริมและพัฒนำ กฬี ำเปตองในระดบั ต่ำงๆ 4) โรงเรียนเป็นศูนย์กลำงกำรพัฒนำกีฬำเปตองของจังหวัดและกรมส่งเสริมกำร ปกครองทอ้ งถ่ิน 2. แนวทาง/ขั้นตอนการดาเนินงาน/Flow chart (แผนภมู )ิ ของวิธหี รอื แนวทางปฏบิ ตั ิท่เี ปน็ เลิศ 1) วิเครำะห์สภำพปัจจุบันปัญหำและควำมต้องกำรของนักเรียนและชุมชนตลอดจน ผบู้ รหิ ำรทอ้ งถน่ิ
40 2) จัดทำแผนพัฒนำกฬี ำเปตองส่คู วำมเป็นเลศิ 3) จดั ปัจจัยทเี่ อ้ือตอ่ กำรพฒั นำใหเ้ ออื้ ต่อกำรดำเนินกำร 4) ส่งเสริมและพัฒนำขีดควำมสำมำรถของนกั กีฬำและครูผฝู้ กึ สอน 5) เผยแพรป่ ระชำสมั พนั ธ์ผลงำนทีป่ รำกฏตอ่ สำธำรณชน 6) ประเมนิ ผลกำรพฒั นำส่คู วำมเป็นเลศิ และนำกลับมำปรับปรุงพฒั นำโดยใช้ระบบ PDCA 3. ผลลัพธ์/ผลการดาเนินการ ในปกี ำรศึกษำ 2562 (16 พฤษภำคม 2562 – 15 พฤษภำคม 2563) โครงกำรสง่ เสริมพัฒนำ กีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลศิ ของโรงเรียนมธั ยมเทศบำล ๔ มผี ลกำรดำเนินกำร ดงั น้ี 1) กำรพฒั นำหลกั สตู รกีฬำเปตอง กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ มีหลักสูตรรำยวิชำเพ่ิมเติมกีฬำเปตอง เพื่อ ใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ตั้งแต่ระดับช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 ครบทุก ระดับช้ัน ให้มีควำมสอดคล้องกับสภำพปัญหำในชุมชน สังคม ภูมิปัญญำท้องถ่ิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์เพื่อให้เป็นสมำชิกท่ีดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชำติ เหมำะสมกับ ควำมสำมำรถ ควำมถนัด ควำมสนใจของผู้เรียน โดยคำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล ทั้งน้ีอำจ เป็นผลมำจำก ครูผู้สอนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจต่อสภำพปัญหำในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ครูในยุค ปฏิรูปกำรศึกษำจะต้องปรับเปล่ียนจำกกำรเป็นผู้สอน เป็นผู้อำนวยควำมสะดวกต่อกำรเรียนรู้ของ ผเู้ รยี น โดยกำรชี้แนวทำงกำรนำควำมรู้จำกแหล่งต่ำงๆ มำใช้ประโยชน์ กล่ำวคือ ทำให้ผู้เรียนรวู้ ิธกี ำร เข้ำถงึ แหลง่ ขอ้ มูล มีทกั ษะในกำรใชส้ ื่อ ท้งั สอื่ สง่ิ พมิ พแ์ ละส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ในกำรสบื ค้นข้อมูลมำใช้ได้ สะดวก วิธีกำรท่ีครูสำมำรถทำได้ในฐำนะผู้อำนวยควำมสะดวกทดี่ ี นอกจำกนี้ ครูยังต้องปรับบทบำท จำกกำรเป็นผู้ป้อนข้อมูล เป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษำ โดยครูจะต้องตระหนักเสมอว่ำตนเองไม่ใช่ผู้ กำหนดควำมรู้ แต่เป็นผู้สอนแก่นควำมรู้ในวิชำที่สอนและแนะวิธีคิด ให้กรอบในกำรวิเครำะห์เนื้อหำ วิชำกำร แนะนำกำรพิจำรณำขอ้ มูลทจ่ี ะเลือกนำมำใช้ แนะนำเร่ืองทั่วๆ ไปท่ีจำเปน็ ตอ่ กำรดำเนินชีวิต ของผู้เรียนดว้ ย รวมถึงกำรที่ครจู ะทำหนำ้ ที่เป็นผู้ให้คำปรึกษำ คำแนะนำแกน่ ักเรยี นและเปน็ ผู้เอื้อต่อ กำรเรียนรู้ของผู้เรียนได้ก็ต่อเมื่อครูเป็นผู้เรียนรู้มำก่อน นั่นหมำยควำมว่ำ ครูจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติ กรรมให้กระตือรือร้นในกำรแสวงหำควำมรู้เพ่ิมเติมอยู่เสมอ เป็นคนช่ำงสังเกตและคิดแตกฉำนกับ ข้อมูลและควำมรู้ที่ผ่ำนเข้ำมำในสมองด้วยกำรต้ังคำถำมและหำทำงพิสูจน์เร่ืองเหล่ำน้ีให้ไ ด้ข้อสรุปท่ี ชดั เจน วิธีกำรพัฒนำหลักสูตรเพ่ิมเติมวิชำเปตอง ได้ดำเนินกำรโดยเร่ิมจำก 1) กำรวิเครำะห์ ข้อมูลที่ได้จำกกำรสำรวจสภำพปัญหำชุมชนและสังคม ภูมิปัญญำท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่อื เป็นสมำชกิ ท่ีดขี องครอบครวั ชุมชน สังคมและประเทศชำติ ควำมสำมำรถ ควำมถนดั ควำมสนใจ และควำมแตกต่ำงระหว่ำงผู้เรียน 2) กำหนดเน้ือหำสำระกำรเรียนรู้ที่จะนำไปใช้จัดกระบวนกำร เรียนรู้ โดยคำนึงถึงประเภทและหลักเกณฑ์กำรกำหนดสำระกำรเรียนรู้ 3) จัดแบ่งเนื้อหำสำระกำร เรียนรู้ออกเป็นช่วงชัน้ รำยช้นั ปี หรือรำยภำค ตำมควำมเหมำะสม 4) กำหนดมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ชว่ ง ช้ัน หรือผลกำรเรียนรู้ที่คำดหวังรำยปีและรำยภำค 5) จัดทำคำอธิบำยรำยวิชำ 6) จัดทำหน่วยกำร เรยี นรู้ 7) จดั ทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้
41 2) ควำมเป็นเลศิ จำกกำรแข่งขันในระดับภำค ประเทศและนำนำชำติ รำยกำรแข่งขนั รำงวัล ทอง เงิน ทองแดง รวม เปตองเยำวชนอำยุไมเ่ กนิ 17 ปี ชิงแชมปโ์ ลกท่ีประเทศกมั พชู ำ 11 เปตองเยำวชนชิงแชมป์เอเชียอำยุไม่เกิน 17 ปี ท่ีประเทศ 1 1 มำเลเซยี เปตองกำรแขง่ ขันกฬี ำแห่งชำติ 112 เปตองกำรแขง่ ขันกฬี ำเยำวชนแหง่ ชำติ 11 เปตองกำรแข่งขันกฬี ำนักเรียนนกั ศึกษำแหง่ ประเทศไทย 11 2 เปตองกีฬำนกั เรยี นองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ระดับประเทศ 8 4 3 15 เปตองกฬี ำนกั เรียนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ภำคกลำง 5 5 3 13 3) กำรพฒั นำครผู ู้ฝึกสอน โรงเรียนได้ดำเนินกำรอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ำรให้กับครูและบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ จำนวน 4 เร่ือง ประกอบด้วย 1) กำรพัฒนำหลักสูตร 2) กำรจัดทำแผนพัฒนำ 3) กำรวิเครำะห์และจัดทำคลัง ข้อสอบ และ 4) กำรจัดทำมำตรฐำนของชมรม ส่งผลให้ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำมีควำมรู้ควำม เข้ำใจและสำมำรถพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรเรียนกำรสอนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและผู้เรียนมี ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนที่สูงขึ้น ทั้งน้ีอำจเป็นผลมำจำก ปัจจัยสำคัญท่ีทำให้กำรพัฒนำหลักสูตร สถำนศึกษำประสบควำมสำเร็จก็คอื กำรปรับเปล่ียนพฤติกรรมของผทู้ ่เี กี่ยวข้องในกำรพัฒนำหลกั สตู ร ท้ังทำงตรงและทำงอ้อม ท้ังผู้บริหำร ครูผู้สอน นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน เนื่องจำกหลักสูตร สถำนศึกษำข้ันพ้ืนฐำนเป็นหลักสูตรที่กระจำยอำนำจกำรจัดกำรศึกษำแก่สถำนศึกษำ ทั้งในด้ำนกำร บริหำรวิชำกำร กำรบริหำรจัดกำรและกำรใช้หลักสูตร เป็นกระบวนกำรนำหลักสูตรแกนกลำงใน ระดบั ชำติไปส่กู ำรปฏิบัติในสถำนศึกษำ จึงต้องได้รับกำรสนบั สนุน ส่งเสริมและร่วมมือจำกบุคลำกรที่ เกี่ยวข้องทุกระดับ โดยที่กำรจัดกำรเรียนรู้ตำมหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนเน้นควำมสำคัญในกำร ปฏิรูปกระบวนกำรเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งที่ต้องกำรให้เกิดกำรเปล่ียนแปลงตำม พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ. 2542 มำตรำ 22 กำหนดแนวทำงไว้ว่ำ “กำรจัดกำรศึกษำ ต้องยดึ หลักว่ำผู้เรียนทุกคนมีควำมสำมำรถเรียนรู้และพัฒนำตนเองได้ และถือว่ำผูเ้ รียนมีควำมสำคัญ ท่ีสุด กระบวนกำรจัดกำรศึกษำต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสำมำรถพัฒนำตำมธรรมชำติและเต็มตำม ศักยภำพ” 4) เป็นศนู ยก์ ลำงกำรพฒั นำกฬี ำเปตองในจงั หวัด โรงเรียนได้รับควำมร่วมมือจำก สมำคมส่งเสริมกีฬำแห่งจังหวัดสิงห์บุรี สำนักงำนกำร กีฬำแห่งประเทศไทยจังหวัดสิงห์บุรี และสำนักงำนกำรท่องเท่ียวและกีฬำจังหวัดสิงห์บุรี ให้เป็น เจ้ำภำพจัดกำรแข่งขันชิงชะเลิศแห่งจังหวัด รวมถึงกำรจัดแข่งขันกีฬำเปตองชำยหำดให้กับชุมชน นอกจำกน้ียังได้รับดำเนินกำรจัดแข่งขันตำมท่ีหน่วยงำนต่ำงๆ ขอควำมร่วมมือ รวมถึงด้ำนกำรให้ ควำมรู้ด้ำนวิทยำกรและกำรจดั ทำหลกั สตู ร
42 4. ปัจจัยเก้อื หนนุ /ปัจจัยแหง่ ความสาเร็จ กำรดำเนินโครงกำรส่งเสริมและพัฒนำกีฬำเปตองสู่ควำมเป็นเลิศ มีปัจจัยที่เอื้อต่อ ควำมสำเรจ็ ในกำรดำเนินงำน 10 ด้ำน ประกอบด้วย 1) ปัจจัยด้ำนกำรบรหิ ำรจัดกำร วิธีดำเนนิ กำร มกี ำรประชมุ คณะกรรมกำรชมรม มีแผนกำร ดำเนินงำนท้ังระยะสั้นและระยะยำว มีนโยบำยที่ชัดเจน มีกำรจดั ทำฐำนข้อมูลนักกีฬำ เปิดโอกำสให้ ทุกภำคส่วนเขำ้ มำมีสว่ นรว่ ม 2) ปัจจัยด้ำนบุคลำกร วิธีดำเนินกำร จัดให้มีผู้ฝึกสอนที่มีควำมสำมำรถและเช่ียวชำญ ผู้ ฝึกสอนมีควำมทุ่มเทในกำรฝึกซ้อม มีกำรพัฒนำบุคลำกรที่ต่อเน่ืองเพื่อให้มีควำมรู้และทักษะในกำร ปฏิบัติงำน มีบุคลำกรท่ีเพียงพอ ผู้บริหำรมีนโยบำยท่ีชัดเจนและมีควำมเอำใจใส่ ผู้บริหำรมีศักยภำพ สำมำรถขอควำมร่วมมือจำกองค์กรภำคตี ่ำงๆ ได้เป็นอย่ำงดี โรงเรียนเห็นคุณค่ำของควำมรู้ที่เกิดจำก กำรเรียนรแู้ ละประสบกำรณข์ องบคุ ลำกร 3) ปัจจัยด้ำนงบประมำณ วิธีดำเนินกำร จัดทำแผนงำนด้ำนงบประมำณที่ชัดเจน มีกำรได รบั กำรสนับสนนุ จำกหนว่ ยงำนภำยนอก 4) ปัจจัยด้ำนโครงกำรของชมรมกีฬำ วิธีดำเนินกำร จัดโครงสร้ำงของชมรมอย่ำงชัดเจน จัดทำแผนพัฒนำสร้ำงนักกีฬำใหม่ข้ึนมำทดแทนอย่ำงต่อเน่ือง มีสถำนที่ต้ังชมรมเป็นสัดส่วน มีกำร สร้ำงแรงกระตุ้นให้บุคลำกรเข้ำมำมีส่วนร่วม 5) ปัจจัยด้ำนกำรสนับสนุน วิธีดำเนินกำร มีภำคส่วนรำชกำรให้กำรสนับสนุนด้ำนต่ำงๆ มี นโยบำยให้รำงวลั แกน่ กั กฬี ำทีป่ ระสบควำมสำเร็จ 6) ปัจจัยด้ำนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี วิธีดำเนินกำร มีกำรเผยแพรข้อมูลและองค์ ควำมรู้ด้ำนวิทยำศำสตร์กำรกีฬำแก่นักกีฬำ มีข้อมูลหรือสำรสนเทศทำงเทคโนโลยีท่ีสำมำรถนำมำใช้ ประโยชนไ์ ด้ 7) ปัจจัยด้ำนกระบวนกำรจัดกำรแข่งขัน วิธีดำเนนิ กำร มีกำรให้ควำมรู้เร่ืองกฎ กติกำอย่ำง ต่อเนอ่ื ง มกี ำรวำงแผนกำรจดั ระบบกำรแข่งขัน 8) ปจั จยั ด้ำนกฎระเบียบข้อตกลง วิธดี ำเนินกำร มีกำรกำหนดกฎระเบียบของชมรม 9) ปัจจัยด้ำนสถำนท่ีและส่ิงอำนวยควำมสะดวก วิธีดำเนินกำร มีสนำมฝึกซ้อมและแข่งขัน อย่ำงเพียงพอ มีอุปกรณ์ที่ใช้ในกำรฝึกซ้อมและแข่งขันที่ได้มำตรฐำนสำกล มีสถำนที่พักนักกีฬำท่ี เหมำะสม มีกำรจดั อำหำรตำมหลักโภชนำกำร 10) ปัจจัยด้ำนกำรพัฒนำนักกีฬำ วิธีดำเนินกำร มีกำรจัดระบบนักกีฬำตำมรูปแบบพี่ดูแล น้อง เปิดโอกำสให้นักกีฬำไปร่วมแข่งขันในนำมสโมสรหรือจังหวัดอ่ืนๆ ในรำยกำรแข่งขันที่สูงข้ึน มี กำรพฒั นำทกั ษะใหก้ ับนักกีฬำอยำ่ งสม่ำเสมอ มีกำรพัฒนำด้ำนจติ วทิ ยำให้กบั นักกฬี ำ 5. แนวทางการพฒั นาให้ยั่งยืน แนวทำงกำรพัฒนำส่งเสริมควำมเป็นเลิศด้ำนกีฬำเปตองของโรงเรียนมัธยมเทศบำล ๔ ยึด หลกั กำรพฒั นำสคู่ วำมยงั่ ยืน ดงั น้ี 1) เข้ำใจ มี 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) สำรวจสภำพท่ีแท้จริง โดยกำรศึกษำสภำพปัจจุบัน ปัญหำและควำมต้องกำรของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนต่อกำรส่งเสริมและพฒั นำ 2) กำรวำงแผน
43 กำรจัดกำร โรงเรียนกำหนดแนวทำงกำรบริหำรจัดกำร เช่น บุคลำกร งบประมำณ สถำนที่ วัสดุ อุปกรณ์ สิ่งอำนวยควำมสะดวก และอื่นๆ ที่เก่ียวข้อง 3) ศึกษำเรียนรู้จัดกำรเรียนกำรสอนตำม หลักสูตรกลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ รำยวิชำเพิ่มเติม 4) ฝึกฝนเพื่อพัฒนำ วำง แผนกำรเรยี นรู้และฝึกซอ้ มใหก้ ับนักกฬี ำ 2) เข้ำถึง มี 3 องคป์ ระกอบ คอื 1) สร้ำงวสิ ัยทศั น์ร่วมกัน สร้ำงกรอบควำมคิดของกำรที่จะ ก้ำวไปให้ถึงควำมเป็นเลิศด้ำนกีฬำเปตอง 2) กำหนดเป้ำหมำยเดียวกันสร้ำงปัญหำ สรุปทัศนคติที่ดี รว่ มกันเพอ่ื ไปสูเ่ ป้ำหมำยและควำมสำเร็จ 3) พฒั นำ ยึดหลักกำรสำคัญคือ 1) เมล็ดพันธุ์ท่ีดี กำรพัฒนำตนเองให้เต็มตำมศักยภำพ 2) ฟำร์มสำเร็จ กำรพัฒนำชมรมและโรงเรียนให้ไปสู่ควำมสำเร็จจำกกำรมีส่วนร่วมของทุกภำคส่วน 3) ต้นแบบของควำมเป็นเลิศ แบบอย่ำงท่ดี งี ำมตอ่ กำรพฒั นำสูค่ วำมเป็นเลิศอีกดำ้ นหนึ่ง 6. การเปน็ ตน้ แบบให้กบั หน่วยงานอื่น/การขยายผล และ/หรือรางวัลท่ีได้รบั เป็นสถำนที่ศึกษำดูงำนด้ำนกำรพัฒนำกีฬำเปตองให้กับหน่วยงำนทำงกำรศึกษำในสังกัด องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และสำนักงำนเขตพน้ื ท่กี ำรศึกษำ เปน็ สถำนท่สี ง่ เสรมิ และพัฒนำกำรจดั แข่งขนั กฬี ำเปตองของจังหวดั สิงห์บรุ ี จดั วทิ ยำกรให้ควำมรูก้ ับหน่วยงำนต่ำงๆ ทเ่ี สนอขอรับควำมอนุเครำะห์ นักกีฬำได้รบั รำงวลั จำกกำรแขง่ ขันตัง้ แต่ระดบั จงั หวดั จนถึงระดับโลก
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: