Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่อง วิธีปฏิบัติเพื่อเข้าสู่นิพพานแบบวัชรยาน

เรื่อง วิธีปฏิบัติเพื่อเข้าสู่นิพพานแบบวัชรยาน

Published by DHARMA Sawaddee, 2021-05-19 09:54:46

Description: E-BOOK เรื่อง วิธีปฏิบัติเพื่อเข้าสู่นิพพานแบบวัชรยาน

Search

Read the Text Version

มลู นิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม วิธีปฏิบตั ิเพ่ือเข้าส่นู ิพพานแบบวชั รยาน โดย ดร.บุญเสริม บญุ เจริญผล



มูลนิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม พนั ธกิจ มลู นิธิพระพทุ ธสนั ติธรรม ⬧ สร้างธรรมสถาน ⬧ เผยแผพ่ ระธรรม ⬧ อปุ ถมั ภพ์ ระสงฆ์ ⬧ สงเคราะหผ์ ยู้ ากไร้ ⬧ ให้ปัญญาแก่ประชาชน

วิธีปฏิบตั ิเพื่อเข้าส่นู ิพพานแบบวชั รยาน เร่อื งน้ีสำคญั มำก เพรำะว่ำเป็นแนวปฏบิ ตั ขิ องนิกำยวชั รยำน อำจถูก จรติ นิสยั ชอบของบำงทำ่ นบำ้ งกไ็ ด้ ชอบใจแลว้ กน็ ำไปปฏบิ ตั ใิ หเ้ กดิ ผล ขอกล่าวถึงนิกายในพระพทุ ธศาสนา เป็นการปพู ืน้ ฐานสกั เลก็ น้อยนิกายใหญ่ในพระพทุ ธศาสนา มี 2 นิกาย คือ 1. เถรวาท (หินยาน) ทม่ี อี ยใู่ นประเทศไทย ลงั กำ พมำ่ ลำว กมั พชู ำ เป็นตน้ มผี นู้ บั ถอื ประมำณ 40% กบั 2. มหายาน มอี ยใู่ นจนี ทเิ บต เกำหลี ญป่ี ุ่น เวยี ตนำม เป็นตน้ มผี นู้ ับ ถอื ประมำณ 60% 1

สำหรับนิกำยมหำยำน ยังแตกย่อยออกเป็ นอีกหลำยนิกำย คือ มหำยำนธรรมดำ เซน และวชั รยำน เป็นต้น บำงท่ำนถือว่ำ นิกำยพุทธ ศำสนำมี 3 นิกำย คอื เถรวำท มหำยำน และวชั รยำน แยกเอำวชั รยำนออก มำต่ำงหำก มผี ู้นับถือประมำณ 6 % วชั รยำนมีผู้นับถือในทิเบตเป็นหลกั นอกนัน้ มใี นอนิ เดยี ( และท่ี สกิ ขมิ ) มองโกเลยี จนี ในประเทศไทย ก็มอี ยู่ เลก็ น้อย สอนกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ กำรเข้ำสู่นิพพำน เป็ นเป้ ำหมำยหลักของพุทธศำสนำ เพรำะว่ำ จะหลุดจำกทุกข์ ไม่ต้องมำเกิดอีก เป็นอันจบทุกข์อย่ำงส้ินเชิง เร่ืองน้ี คนไทยไม่ค่อยสนใจให้เป็ นประเด็นหลัก เอำแต่บริจำคทำนเป็ นหลัก จึงน่ำเสียดำยโอกำสอย่ำงมำก ท่ีพบพุทธศำสนำแล้วไม่เอำของดี ไม่ได้ของดีเข้ำมำในชีวิต ทัง้ ท่ีกำรเข้ำสู่สภำวะนิพพำน มิได้เกิน ควำมสำมำรถของมนุษย์ อย่ำงเรำ ๆ เลย แต่กลับดูถูกตนเองว่ำไป ได้ไม่ถึง รอไว้ชำติหน้ำชำติโน้น ตรงข้ำมกับนิกำยวัชรยำน เขำถือว่ำ สภำวะพุทธเจ้ำมีแฝงอยู่ในตัวเรำทุกคนอยู่แล้ว พัฒนำจิตข้ึนมำให้ ถูกทำงก็สำเร็จได้ หำกทำถูกวิธี เม่อื ถึงเวลำสำเร็จก็ง่ำยรำวสำยฟ้ำแลบ จงึ เรยี กวำ่ “ วชั รยำน ” วชั ร แปลวำ่ ฟ้ำแลบ กำรเข้ำสู่นิพพำนแบบวัชรยำน เป็นกำรปฏิบัติแบบตรงไปตรงมำ ลดั สนั้ เหมำะสำหรบั ผูต้ ้องกำรปฏบิ ตั ิ ไม่ต้องวุ่นวำยกบั ทฤษฎี หรอื คมั ภีร์ ยำก ๆ โดยไม่จำเป็น วิธีกำรหรือเทคนิคมีหลำยวธิ ี ผมขอกลนั่ กรองเอำ มำให้เฉพำะวิธีท่ีนิยมกันอยู่ โดยไม่เอำวิธีตันตระ 2

3

วิธีที่ 1 วิธีระวงั ใจในสภาวะบารโ์ ด คอื ทำใจใหถ้ ูกทำงขณะสน้ิ ใจ วชั รยำนสอนวำ่ เมอ่ื คนตำย จะผ่ำนยำ่ น สภำวะตำ่ ง ๆ อนั ไดแ้ ก่ บำรโ์ ดตำ่ ง ๆ คอื 1. สภำวะกำลงั สน้ิ ใจ Chikhai Bardo ตอนทก่ี ำลงั จะขำดใจตำย 2. สภำวะปรำกฏแสงสวำ่ งใหเ้ หน็ Chonyi Bardo เป็นแสงสวำ่ งใส ได้เหน็ แลว้ รูส้ กึ สงบสุข 3. สภำวะเปลย่ี นเขำ้ สชู่ วี ติ ใหม่ Sidpa Bardo กำรเข้ำสู่สภำวะนิพพำนทำงลัด ในขณะตำยน้ี ผู้ตำยต้องจับ แสงสว่ำงใสท่ีปรำกฏให้ได้ แสงไปทำงไหนก็ตำมไป อย่ำเล้ียวไปทำงอ่ืน และใจตอ้ งน่ิงสงบ ไม่ใหค้ ดิ ห่วง ไม่คดิ อยำก ไม่คดิ กงั วล ไม่คดิ โกรธ ไม่คดิ เศรำ้ ใด ๆ หำกทำได้ กจ็ ะเขำ้ ส่สู ภำวะนิพพำนไดเ้ ลย ขอ้ สำคญั อยทู่ ต่ี อ้ งรจู้ กั แสงสว่ำงใสและจบั ไปกบั แสงนัน้ คนส่วนมำกไม่รู้จกั จึงหมดโอกำสเข้ำสู่ สภำวะนิพพำน แล้วเขำก็ต้องไปเกิดอีก เพ่อื ไม่ให้พลำด เขำจึงให้มีกำร ฝึกสมำธิให้จิตนิ่งดี แล้วตงั้ ใจว่ำ บดั น้ีจะขอสู่สภำวะใกล้ตำย ฝึกเช่นน้ีสกั วนั หน่ึงก็จะได้สมั ผสั สภำวะนัน้ และได้เห็นแสงสว่ำงใสนัน้ เพ่อื เข้ำใจว่ำ ต้องเกำะแสงนัน้ ไปใหไ้ ด้ ฝึกใหเ้ กดิ ประสบกำรณ์น้ีบ่อย ๆ แต่ไม่ต้องถงึ กบั ทุกวนั 4

5

วิธีท่ี 2 สรา้ งโพธิจิต โพธจิ ติ คอื จติ หรอื ใจของพระพทุ ธเจำ้ ในทน่ี ้หี มำยถงึ ทำใจใหเ้ หมอื นใจ พระพุทธเจำ้ เพอ่ื เขำ้ สสู่ ภำวะนิพพำน มหี ลกั ง่ำยแต่ลกึ ซ้งึ ทำใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั เิ กดิ ควำมเมตตำระดบั สูงในใจของตน เม่อื เมตตำสงู อย่ำงน้ีแล้ว กล็ มื ว่ำมตี นอยู่ หมำยควำมว่ำ ตนเองหมดควำมสำคญั ในควำมรู้สึกของตนเองนัน่ ก็คือ สภำวะไรค้ วำมสำคญั ของตัวตน ( Selflessness ) ตรงกบั คำว่ำ หมดมำนะ ไมใ่ ช่หมดควำมพยำยำม มำนะ แปลว่ำ ถอื ตวั ตน ทำใหย้ งั ทง้ิ ตวั ตนไปไม่ได้ ละมำนะไดก้ เ็ ป็นพระอรหนั ต์ ( นิพพำน ) งำ่ ย ๆ กำรสรำ้ งโพธจิ ติ ใหท้ ำดงั น้ี 1. ใหต้ ระหนกั วำ่ คนสตั วท์ งั้ หลำย กบั ตวั เรำมคี ณุ คำ่ เสมอกนั ใหส้ รำ้ งอดุ มคตนิ ้ใี หไ้ ดก้ ่อน 2. พจิ ำรณำ ควำมผดิ บำป จำกกำรรกั ตวั เอง ใหค้ วำมสำคญั กบั ตนเอง 3. พิจำรณำ ควำมดีจำกกำรให้คุณค่ำ ควำมสำคญั กับคน และสตั ว์ ทงั้ หลำย 4. นึกถงึ วำ่ คนและสตั วท์ งั้ หลำย เขำรสู้ กึ อยำ่ งไรบำ้ ง อยำ่ เอำควำมรสู้ กึ ของตนเป็นหลกั คอื เอำใจเขำมำใสใ่ จเรำนนั่ เอง ทงั้ 4 ขอ้ ขำ้ งบนน้ี เป็นรำกฐำนของควำมเมตตำ ช่วยเหลอื เกอ้ื กูลคน และสตั วท์ งั้ หลำย ไมด่ ดู ำย ( อยำ่ ถอื วำ่ ธรุ ะไมใ่ ช่ ) น้ีก็คอื เทคนิคสำคญั ยง่ิ ในกำรสรำ้ งอุดมคติ รกั คน และสตั ว์ทงั้ หลำย เสมอหรอื ยงิ่ กว่ำตนเอง เม่อื ทำดงั น้ีแล้ว ควำมถอื ตวั กำรยดึ เอำตวั ตนเป็น หลกั เป็นศูนยก์ ลำง ก็ค่อย ๆ หมดสน้ิ ไป หมดตวั ตนเม่อื ไร ( Selflessness, หมดมำนะ ) กเ็ ขำ้ ถงึ สภำวะนิพพำน 6

วิธีท่ี 3 สงั เกตใจ กำรสังเกตใจให้รู้เท่ำทันกำรเกิดของควำมคิด เป็ นวิธีท่ีดีมำก วธิ หี น่ึง ซ่งึ ได้ผลรวดเรว็ วธิ นี ้ีคล้ำยกบั ท่คี รูบำอำจำรยท์ ำงพระพุทธศำสนำ หลำยท่ำนในประเทศไทยสอนอยู่ แทบตรงกนั ต่ำงกนั เพยี งรำยละเอียด 1. รวู้ ำ่ ใจอยทู่ ไ่ี หน 2. ดคู วำมคดิ วำ่ คดิ อะไรอยู่ 3. ทำควำมเงยี บใหเ้ กดิ ขน้ึ ในจติ เกดิ ควำมเงยี บแหง่ จติ จติ อยใู่ นสมำธลิ กึ ไมร่ บั สมั ผสั 4. ไมใ่ หค้ วำมสำคญั กบั สงิ่ ทม่ี ำกระทบทำงตำ หู จมกู ลน้ิ ผวิ สมั ผสั และ ใจ 7

มีรายละเอียดที่อธิบายได้ดงั นี้ 1. การร้วู ่าใจอยู่ที่ไหน น้ีเป็นปรชั ญำ มองไม่เหน็ วดั ไม่ได้ เหมอื น ไม่มอี ะไร แต่ใจกม็ อี ยจู่ รงิ หรอื ใครไมเ่ คยพบใจตนเอง ใจใครใจมนั เช่อื มกนั รู้กันไม่ได้ แล้วใจอยู่ท่ีไหน ลองหำดูซิ มนั คงไม่ได้อยู่ยอดเขำหรอื ใต้ดิน มนั ไม่ได้อยู่ท่พี ุงท่ขี ำ ท่พี อสมั ผสั ได้ ก็บรเิ วณเหนือหูสองขำ้ ง อ้อมไปทำง หน้ำผำก นนั้ เป็นกำรรบั รขู้ องผวิ เท่ำนนั้ บำงทมี นั อำจอยขู่ ำ้ งหน้ำเรำสกั หน่ึง ศอก กอ็ ย่แู ถว ๆ น้ีแหละ แต่กำรมองหำว่ำใจอยทู่ ไ่ี หน ไม่ตอ้ งสนใจตำแหน่ง แต่สนใจเพยี งรวู้ ำ่ “ น่ีไง พบใจเรำแล้ว ” แค่นัน้ เอง กำรมองหำว่ำใจเรำอยู่ ไหนมปี ระโยชน์อย่ำงไร กม็ ปี ระโยชน์ทำให้เรำหยุดฟุ้งซ่ำนทนั ที น้ีเป็นอุบำย สตำรท์ ใจขน้ึ มำทำงำน แทนทจ่ี ะปล่อยใหล้ ่องลอยไปเรอ่ื ย ๆ ไรข้ อบเขต และ ทส่ี ำคญั กวำ่ นนั้ คอื ไดร้ จู้ กั ใจของเรำเอง ซง่ึ คนทวั่ ไปไมร่ จู้ กั ทงั้ ทม่ี นั เป็นเรอ่ื ง งำ่ ยเหลอื เกนิ ทไ่ี ดร้ จู้ กั ใจเรำเอง 8

2. การดูความคิดว่า คิดอะไรอยู่ เป็นกำรส่ือสำรกับจิตตนเอง เม่อื ปรำกฏเร่อื งคดิ ทท่ี ำใหใ้ จไมส่ ะอำด เช่น ควำมโกรธ ควำมอยำก ควำมเศรำ้ ควำมกงั วล เรำก็รู้ รู้แล้วมนั ก็หำยไป ท่สี ำคญั คอื ถ้ำเรำสงั เกตให้ดี จะเหน็ ว่ำ มันเกิดข้ึนเอง โดยอำนำจของพลังโมหะ หรือควำมโ ง่เขลำ ท่ีแฝงเป็ น ผู้บัญ ช ำ ก ำ ร อ ยู่ใ น ใ จ เ ร ำ ถ้ำ สัง เ ก ต ดูว่ำ เ ร ำ คิด อ ะ ไ ร มัน ก็ห ยุ ด คิด แต่เรำอย่ำยอม ให้ย้อนทบทวนดูเหตุกำรณ์ท่ีคิดจบลงนั้น ดูให้เ ข้ำใจว่ำ เรำไม่ได้เป็ นผู้คิด ไม่ได้สัง่ ให้คิด มันโผล่ข้ึนมำเอง ควำมคิดน้ีไม่ใช่เรำ ไม่ใช่ของเรำ รู้ไว้แค่น้ี แต่ให้ตระหนักจริง ๆ ก็ปรำบโมหะได้มำกแล้ว 9

3. ทาความเงียบให้เกิดขึ้นในจิต ทำอย่ำงไร เม่ือเรำทำข้อ 1 และ 2 แล้วจิตมันก็เงียบ รักษำใจให้เงียบไว้ บอกกับตัวเองว่ำ เรำจะอยู่กับควำมเงียบ โล่ง รู้ตัวเต็ม ไม่ใช่เงียบง่วงนะ ถ้ำเงียบง่วงก็ หลับ ใจไม่ได้ทำงำน ใจเงียบนิ่งน้ีห้ำม บริกรรมท่องบ่นอะไรทัง้ นั้น ( สำคัญมำก ) ให้เงียบสบำย อยู่กับใจท่ีเงียบสงบ แล้วคอยรับปัญญำ ท่ีจะเกิดข้ึน ได้รู้ได้เข้ำใจเร่ืองของชีวิต เรำจะชนะโมหะไปเร่ือย ๆ คือ ฉลำดข้ึน แถมด้วยเร่ืองท่ีลืมไปแล้ว เร่ืองท่ีควรทำยังไม่ได้ทำ ก็จะ โ ผ ล่ ข้ึ น ม ำ เ ตื อ น ปั ญ ห ำ ท่ี คิ ด ไ ม่ อ อ ก แ ก้ ไ ม่ ต ก ตั ด สิ น ใ จ ไ ม่ ไ ด้ ก็อำจเห็น ทำงตัดสิน ใจแก้ไข มีประโยชน์ต่อชีวิตปัจจุบันเป็นของ แถมด้วย 10

4. ไมใ่ ห้ความสาคญั กบั ส่ิงท่ีสมั ผสั ด้วยประสาททงั้ หก เน่ืองจำกกำรสัมผัสกับสิ่งต่ำง ๆ ในชีวิต คือ ได้เห็น ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ไดร้ ส ไดถ้ ูกควำมอ่อนนิ่ม ไดม้ เี รอ่ื งฟุ้งซ่ำนคดิ ขน้ึ ในใจ ลว้ นแลว้ แต่ ทำให้เกิดควำมรู้สึกชอบหรือชัง ซ่ึงมันจะจูงเรำไ ปกระทำกำรอัน เป็นทุกข์ ท่ีสำคัญคือ ควำมชอบควำมชังทำให้เรำยึดติดกับส่ิงท่ีสัมผัส เ ม่ื อ ใ จ เ ร ำ ยึ ด ก็ เ ข้ ำ ส ภ ำ ว ะ นิ พ พ ำ น ไ ม่ ไ ด้ เ ร ำ ค ง เ ค ย ไ ด้ รั บ คำสอนว่ำ เห็นสักแต่ว่ำเห็น ได้ยินสักแต่ว่ำได้ยิน ... นั้นเป็ นผล ไม่ใช่วิธีปฏิบัติ ไม่ค่อยมีใครกล่ำวถึง วิธีปฏิบัติ how to do วิธีปฏิบัติ ไม่ยำก แต่ต้องทำเป็ นนิสัย คือ ให้รีบดูใจว่ำรู้สึกชอบชังอย่ำงไร สัง เ ก ต ดูใ ห้รู้เ ล่ ห์ก ล ข อง กิเล ส อัน เ ป็ น ก ำ ร แส ด ง ผ ล ข อง โ มห ะท่ี ซ่ อ น ซุ ก อ ยู่ ลึก ม ำ ก เ ม่ือ ไ ด้ สัม ผัส กับ สิ่ง ห รือ เ ร่ือ ง ต่ ำ ง ๆ แ ล้ ว รู้สึกอย่ำงไรสังเกตไว้ เช่น เห็นอำหำรท่ีชอบโชว์อยู่ในร้ำนอำหำร เ กิ ด ค ว ำ ม รู้ สึ ก ช อ บ แ ล้ ว ก็ รู้ สึ ก อ ย ำ ก กิ น แ ล้ ว ก็ คิ ด ต่ อ ไ ป ว่ ำ ต้องกินเสียหน่อย นำน ๆ ที อ้วนหรือแพงก็ไม่เป็ นไร สำรพัดเหตุผล ท่ีโมหะมันส่งออกมำทำงควำมคิดเรำ เพรำะมันเป็ นเจ้ำของใจเรำ ครัน้ เอำใจเรำจริงๆ คือ สติสังเกตดู อ๋อ ... มันเกิดควำมอยำกข้ึน อย่ำงน้ีเอง เรำไม่ได้อยำก ไม่มีเรำอยำก ควำมอยำกมนั ก็หำยไป โดย ไม่ต้องหำเหตุผลมำสู้กับโมหะ 11

กำรไม่ให้ควำมสำคญั กับสิ่งหรือเรื่องที่สมั ผสั ก็ทำได้อย่ำงนี้ ถ้ำเพียงท่องว่ำ เห็นสกั ว่ำเห็น ... รบั รองไม่มีทำงสำเร็จถำวร เพรำะว่ำ เป็นกำรห้ำมระงบั ชวั่ ครำว เหมือนเรำแยกหมำกัดกัน พอเรำเดินพ้นไป มนั ก็กัดกันอีก แต่ถ้ำทำให้มนั รู้จกั กนั มนั ก็ไม่กัดกันอีก กำรหกั ห้ำมใจ จำกกิเลสก็เป็นเร่ืองสำคญั ไม่ใช่ไม่สำคญั แต่หำวิธีกำรท่ีมนั กลวั เรำจะ ยิ่งดีกว่ำ คือ รู้ทันเป็นกำรขุด ทุบทำลำยมนั ให้สิ้นซำก ได้ผลถำวร กำรห้ำมใจไม่ใช่ทำงตรงไปสู่สภำวะนิพพำน เป็นกำรระงบั ชัว่ ครำว เ ท่ำ นัน้ แ ต่ถ้ำ ใ จ เ ร ำ ย งั ไ ม่ถึง ที่ ก็ต้อ ง ค อ ย ห้ำ ม ใ จ ไ ว้เ ห มือ น กนั เพียงบอกว่ำ เรำต้องก้ำวให้เลยไปถึงกำรสงั เกตดูใจดูควำมคิดท่ี เกิดข้นึ จะยิ่งดีกว่ำ 12

วิธีที่ 4 วิธีไรต้ วั ตน เป็นอยงู่ ่าย และ ไม่ยดึ ติด ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. ไร้ตัวตน ( Selflessness ) มิได้หมำยควำมว่ำ เรำไม่มีร่ำงกำย แต่หมำยควำมว่ำ เรำไม่ให้ควำมสำคญั กบั เรำเอง เรำไม่ได้เป็นผู้วเิ ศษ ไม่ถอื ตวั ตน ตรงกบั คำว่ำ ไม่มมี ำนะในทำงเถรวำท อนั เป็นคุณธรรมของ พระอรหนั ต์ ฝึกใจไม่คดิ ว่ำเรำได้ เรำเสยี เขำทำกบั เรำ เขำไม่เคำรพเรำ เรำแพ้ เรำชนะ ตดั คำว่ำ “ เรำ ” ออกไปจำกหว้ งควำมคดิ เหมอื นกบั เรำ ตำยไปแลว้ จำกโลกน้ี อยำ่ ปัน้ เรำขน้ึ มำรบั เรอ่ื งทงั้ หลำย 2. เป็นอยู่ง่าย ( Self-Sufficiency ) ดำเนินชวี ติ แบบเลย้ี งง่ำย ไม่มำกเร่อื ง ตอ้ งอยำ่ งนนั้ อยำ่ งน้ี อะไร ๆ กอ็ ยไู่ ดก้ นิ ได้ ยกเวน้ ควำมสกปรก อยำ่ ไปรบั เอำมำ เม่อื เป็นคนเล้ยี งง่ำยชวี ติ ก็ไม่ยุ่ง มคี วำมสุข มนั เป็นเคร่อื งวดั ว่ำ เรำถือตัวตนอยู่หรือเปล่ำ ถ้ำกินอยู่ยำก เล้ียงยำก แสดงว่ำเรำยงั ถือ ตวั ตนอยู่ 3. ไมย่ ดึ ติด ( Detachment ) กเ็ ป็นผลจำกขอ้ 1 และ 2 คอื ไม่ตงั้ เง่อื นไขวำ่ เรำจะตอ้ งทำอย่ำงน้ี เป็นอย่ำงน้ี ไมเ่ ช่นนนั้ ไม่ยอม กำรกนิ อย่กู ต็ ดิ รำ้ นตดิ ตรำยห่ี อ้ เมอ่ื ไมย่ ดึ ตดิ กห็ ลุดจำกเง่อื นไขมดั เรำไวใ้ นโลกน้ี กเ็ ขำ้ สสู่ ภำวะ นิพพำน 13

สรุปวิ ธีการหลุดพ้นทุกข์ เข้าสู่สภาวะนิ พพาน แบบวัชรยาน ได้อธบิ ำย 4 วธิ กี ำรของพุทธวชั รยำน เพ่อื หลุดพ้นทุกข์เขำ้ สู่สภำวะ นิพพำนมำแลว้ เพ่อื จะไดน้ ำวธิ กี ำรไปปฏบิ ตั ใิ หเ้ กดิ ผล ขอสรุปใหส้ นั้ ตรงลง ไปอีก ตดั บำงส่วนออก และเพิม่ บำงส่วนอนั เป็นวธิ ีกำรปฏิบตั ิ ให้เกิดผล ตำมทก่ี ล่ำวมำแลว้ ดงั น้ี 1. ตงั้ ปณิธำนหรอื ตงั้ เจตนำรกั ษำสภำวะจติ ใจใหผ้ ่องใส 2. ละลำยควำมถอื ตวั ตน โดยใหค้ วำมสำคญั กบั ทกุ ชวี ติ 3. ดำเนินชวี ติ แบบเรยี บงำ่ ย 4. ละลำยพลงั มดื ดำในจติ ใจ โดยตดั ควำมเกลยี ดชงั ออกไป 5. เขำ้ ใจกำรเกดิ กเิ ลสเพอ่ื ทำลำยกำม 14

อธิบายดงั นี้ 1. ตงั้ ปณิธาน หรือ ตงั้ เจตนารกั ษาสภาพจิตใจให้ผอ่ งใส ตรงกับ “ สัมมำสังกัปปะ ” ในมรรคแปด ซ่ึงมรรคแปดน้ี มที งั้ ม ห ำ ย ำ น แ ล ะ หิ น ย ำ น ต ร ง กั น เรำแปล ‘ สมั มำสงั กปั ปะ ’ ว่ำ ดำริ ชอบ คำแปลน้ีไมต่ รงชดั สำหรบั กำร ปฏบิ ตั ิ เพยี งดำรเิ ท่ำนัน้ อ่อนเกนิ ไป ควรแปลว่ำ ตงั้ เจตนำแรงกล้ำท่จี ะ ป ฏิ บั ติ ต น เ ข้ ำ สู่ ส ภ ำ ว ะ นิ พ พ ำ น ขอแนะนำใหต้ งั้ เจตนำ หรอื สำบำน ตนต่อหน้ำพระพุทธรปู วำ่ “ ขำ้ พเจำ้ จะเขม้ งวดรกั ษำจติ ใจ ของขำ้ พเจ้ำ ให้เป็ นปกติผ่องใสตลอดทั้งวัน ทงั้ คนื ไม่ว่ำจะมเี หตุกำรณ์อย่ำงใด เกดิ ขน้ึ แก่ขำ้ พเจ้ำ ” 15

ตัง้ เจตนำสำบำนตนแล้ว ก็ระวังรักษำใจให้ผ่องใสอย่ำงจริงใจ เพรำะว่ำสำบำนตนไวแ้ ลว้ เอำจรงิ แลว้ เม่อื มใี ครมำทำใหไ้ ม่พอใจ หรอื มี เหตุกำรณ์ใดท่ีทำให้ใจเรำขุ่นมัว เรำก็บอกกับตนเองว่ำ รักษำใจ ไว้ให้ผ่องใส รกั ษำไว้ให้สะอำด เช่น บอกกับตนเองว่ำ “ ทำใจให้โล่ง รู้ตวั สะอำด อย่ำทำแบบเดมิ สำบำนตนไว้แล้วนะ ” ตลอดเวลำ ทำให้ จรงิ จงั ถือเป็นภำรกิจของชวี ติ เหมอื นกำรหำยใจ หยุดไม่ได้ เลิกไม่ได้ สำบำนตนไวแ้ ลว้ ท่ำนทม่ี คี นในครอบครวั สำม-ี ภรรยำ-ลูก พดู หรอื ทำให้ เรำเสยี ใจ-โกรธ ฯลฯ อยบู่ ่อย ๆ กน็ บั วำ่ โชคดี จงใชเ้ หตกุ ำรณ์น้ฝี ึกใจทนั ที รบี ทำใจใหผ้ ่องใส ไม่ยอมใหใ้ จผดิ ปกติ ไม่ตอ้ งคดิ ถงึ เหตุผลอะไรอกี แล้ว อยู่เหนือเหตุผลไปเลย คดิ หำเหตุผลแล้วมนั ไม่จบ 16

2. ละลายความถอื ตวั ตนโดยให้ความสาคญั กบั ทกุ ชีวิต ในขอ้ 1 เรำตงั้ ปณิธำนแน่วแน่ไม่ยอมแพ้แล้วว่ำ จะรกั ษำใจใหผ้ ่อง ใสตลอดเวลำ ก็ยงั ไม่หมดภำรกจิ กำรเดนิ ทำงเขำ้ สู่สภำวะนิพพำน เพรำะว่ำยงั ไม่ได้ขุดโมหะ หรอื ควำมโง่เขลำเขำ้ ใจผดิ ออกจำกใจ เรำต้องกล่อมเกลำสภำพใจเรำ โดยละลำยควำมยดึ ถือตวั ตน ยดึ ติด ว่ำเรำมคี วำมสำคญั ชวี ติ อ่นื ไม่สำคญั เท่ำเรำ เรำต้องละลำยควำมยดึ ติดน้ี ออกไป เพยี งแต่นึกยงั ไม่ได้ผล ต้องทำกำรฝึกด้วย เคยสงั เกตไหมว่ำ เวลำเรำรอคอยเขำ้ ควิ จะทำอะไร ควิ ยำวเรำเบ่ือ เรำอำจคดิ ว่ำ ถ้ำใครใหเ้ รำแซงควิ ขำ้ งหน้ำใหส้ ัน้ เขำ้ เรำก็ดใี จ แต่เรำไม่ได้คดิ ว่ำ เรำเรว็ ขึ้นทำให้คนอื่นช้ำลง นี้แหละ เรำเหน็ ตวั เรำ สำคญั กว่ำคนอื่น ถ้ำยิง่ เป็นสตั ว์ด้วยแล้ว เรำคดิ ว่ำ เรำต้องสำคญั กว่ำ สตั ว์ เรำกนิ อำหำรเสยี ก่อน หมำจงึ ค่อยกิน หมำจะกินก่อนคนอย่ำงไร เรำคดิ เช่นน้ี ต้องเลกิ คดิ อย่ำงน้ีแล้วแต่บดั นี้ มฉิ ะนัน้ เรำก็ทำลำยควำมมี ตวั ตนวเิ ศษของเรำไม่ได้ก็เขำ้ สู่ภำวะนิพพำนไม่ได้ ในคุณสมบตั ขิ องพระ โสดำบนั ซึ่งเป็นอรยิ บุคคลขนั้ แรกสุด ก็มคี ำสอนกล่ำวไวใ้ นพระสูตรว่า พระโสดาบนั ตอ้ งละสักกายทิฏฐิใหไ้ ดเ้ ป็นขอ้ แรก ละสกั กายทิฏฐิ คือ ละอะไร ก็ละความรูส้ ึกว่า มีตวั เราแยกต่างหากออกมาอย่างสำคัญ ชีวิตอื่นไม่สาคัญเท่าเรา เป็นความยึดถือในตัวตนของเราน่ันเอง ตอ้ ง ทาลายความรูส้ ึกอย่างนีใ้ หไ้ ด้ 17

กำรละลำยตวั เองท่ีรู้สกึ ว่ำตวั เองสำคญั แยกออกจำกชีวิตอ่ืน เรำต้อง ไม่ให้ควำมสำคญั ตนเองมำกกว่ำชวี ิตอ่ืน แม้แต่สตั ว์เล็กสตั ว์น้อยก็มศี กั ดิศ์ รี เท่ำเรำ ขอให้นึกอย่ำงน้ีให้สำเร็จให้ได้ แล้วก็อย่ำละเลยช่วยเหลือทุกชีวิต ทำตนใหเ้ ป็นประโยชน์แก่ทกุ ชวี ติ คนและสตั ว์ ลองทำดู แลว้ ทำ่ นจะพบกบั ควำม มหศั จรรยข์ องชวี ติ ทำ่ น แบบไมม่ ี “ เรำ ” อกี แลว้ อย่ำลมื ... ทุกชวี ติ มคี ่ำเท่ำกบั เรำ เรำมไิ ดว้ เิ ศษกว่ำใครเลย แต่กำรสรำ้ ง ควำมรู้สึกเพียงนัง่ นึก ๆ อย่ำงเดียวย่อมไม่สำเร็จ เรำลงไปต้ืนเหลือเกิน ตอ้ งทำตนใหเ้ ป็นประโยชน์แกช่ วี ติ อน่ื ดว้ ย จงึ สำมำรถดบั ควำมถอื ตวั ตนได้ เชน่ ช่วยเหลอื คนและสตั ว์ ไมท่ ำรำ้ ยคนและสตั ว์ บำเพญ็ ประโยชน์แก่ชวี ติ อ่นื เน่ือง ๆ ไมต่ อ้ งอำยใคร บำงคนจะทำควำมดกี อ็ ำยเขำ แมแ้ ต่เกบ็ เศษกระดำษบนถนนไป ทง้ิ ถงั ขยะกอ็ ำยเขำ อยำ่ งน้ีจติ ยงั ไมพ่ ฒั นำ เพรำะวำ่ อำยทจ่ี ะทำควำมดี ควำมถอื ตวั ตนรนุ แรงมำก ตวั อย่ำงกำรฝึก เช่น ตกั น้ำทง้ิ ไวใ้ หม้ ดไดก้ นิ ดูแลสตั วเ์ ลย้ี งให้ มคี วำมสขุ ช่วยเหลอื คนทอ่ี ยใู่ นสภำวะลำบำก เมอ่ื พบเหน็ 18

มสี งิ่ ของทรพั ยส์ นิ กแ็ บ่งใหผ้ อู้ ่นื อย่ำห่วงเอำไว้ พฤตกิ รรมอย่ำงน้ีอำจ เรยี กว่ำ เป็นกำรกระทำของคนใจพระโพธสิ ตั ว์ พระโพธสิ ตั วไ์ มไ่ ดเ้ ป็นเทวดำ มำจำกไหน ใครทำควำมดเี พอ่ื ชวี ติ อ่นื กเ็ ป็นพระโพธสิ ตั วแ์ ลว้ ดคู นทเ่ี ลย้ี งไก่แลว้ ส่งใหเ้ จำ้ สวั เอำไปฆ่ำ เพอ่ื แลกกบั เงนิ อย่ำงน้ีเหน็ ชดั หรอื ยงั ว่ำ เขำเหน็ ชวี ติ เขำสำคญั กว่ำชวี ติ ไก่ เป็นกำรตดั ทำงเจรญิ แหง่ จติ ใจ ไปแลว้ จะไดเ้ งนิ ไปทำบุญสกั เท่ำไร กเ็ ป็นควำมบำปชวั่ พน้ ทุกขไ์ มไ่ ดเ้ ลย เม่ือเรำคิดถึงควำมสำคัญของชีวิตอ่ืน ควำมสำคัญของตัวตนเรำก็ ลดลง ๆ จนหำยไปในท่ีสุด เป็นทำงไปสู่นิพพำนโดยแน่แท้ เม่ืออำกำศ แหง้ แลง้ นกก็หวิ น้ำ แล้วมนั จะหำน้ำได้ทไ่ี หน น้ำสกั ถ้วย ตงั้ ไวใ้ หเ้ ขำ ก็ลด ควำมทุกข์นกกลุ่มน้ีไปได้มำก มวี ธิ อี ่ืนท่ที ำนองเดยี วกนั น้ีคอื กำรละลำย ควำมรสู้ กึ ตวั ตนของเรำ ถำ้ ทำ กไ็ มย่ ำก 19

3. ดาเนินชีวิตเรียบง่าย ก ำ ร ด ำ เ นิ น ชีวิต เ รีย บ ง่ ำ ย ใ ห้ คุ ณ ค่ ำ ใ น ท ำ ง ธ ร ร ม ะ ม ำ ก ประกำรแรก ตดั ภำระยุ่งยำกต่ำง ๆ ไม่ต้องมำกเร่อื งกบั เร่อื งทไ่ี ม่จำเป็น จึงไม่เหน่ือยไม่เครยี ด ประกำรท่สี อง ประหยดั ทรพั ย์ ไม่ส้นิ เปลอื งเงนิ ประกำรท่ีสำม ลดควำมอยำกได้ เพรำะว่ำเม่ือชีวิตพอแล้ว ส่ิงของท่ี ต้องกำร ก็ไม่ต้องมอี ะไรอีก หรอื มกี ็ไม่มำกนัก ตดั ควำมโลภลงได้มำก ลดควำมโลภ ละควำมยึดติด ลดควำมอยำกได้ไม่รู้จบ ข้อน้ีสำคัญ ดำเนินชวี ติ เรยี บง่ำย ควำมอยำก ควำมต้องกำรต่ำง ๆ ก็ลดลง ควำม อยำกลดลงก็เดนิ เขำ้ สู่สภำวะนิพพำน แต่อย่ำเขำ้ ใจผดิ ควำมเรยี บง่ำย ไมใ่ ช่ควำมสกปรกไร้ระเบยี บ เป็นคนละเร่อื งกนั 20

4. ละลายพลงั มืดดาในจิตใจ โดยตดั ความเกลียดชงั ออกไป อะไรคือพลังมืดดำในใจเรำ ควำมเกลียดชงั นัน่ เอง มันเป็ น พลงั รอ้ นมดื แฝงตวั เกบ็ เงยี บ แช่ลกึ อยู่ในควำมทรงจำ เป็นยำพษิ สงบ อยู่ พอได้โอกำสก็พุ่งพล่ำนข้ึนมำทันที ถ้ำเก็บมันเอำไว้ ก็เท่ำกับ ทำลำยใจของตนเอง ไม่มีทำงหลุดพ้นจำกควำมทุกข์ได้ แล้วจะ เข้ำสู่นิพพำนได้อย่ำงไร ในชีวิตเรำได้พบกับทัง้ คนทัง้ สัตว์ท่ีเรำ ไม่ชอบ ที่เรำเกลียด หรอื คนท่ีเรำรกั อยู่แท้ๆ บำงครงั้ ก็เกิดอำรมณ์ เกลียดข้นึ มำเสียแล้ว แม้จะชวั่ ครำวก็ไม่ดี ยง่ิ คนท่ีทำลำยบ้ำนเมอื ง ทร่ี ู้ ๆ กันอยู่ เรำก็มกั เกลียดชงั แช่งเช้ำแช่งเย็น 21

ต อ น น้ี ต้ อ ง เ ลิก น ะ ค รับ อ ย่ ำ เ ก ลีย ด ใ ค ร ทั้ง นั้น เ ข ำ เ ล ว เรำรู้ดี รู้กันทัง้ ประเทศ เป็ นเร่ืองท่ีเขำต้องเผชิญผลกรรมด้วย ตัวของเขำเอง ทัง้ กฎหมำยและกฎแห่งกรรม หนีกรรมไปไม่พ้น แต่เรำต้องไม่เกลียด หำกเรำเกลียด เรำก็เป็นคนบำป เป็นคนเลว ไปกบั เขำและทำใหค้ ุณภำพสภำวะจติ ใจเรำต่ำลง กำรสำเรจ็ สู่สภำวะ นิพพำน จึงเป็ นไปไม่ได้ เม่ือจิตยังมืดดำอยู่ไม่สะอำดพอ แล้วจะ ทำอย่ำงไร ขนั้ แรกก็ต้องเห็นว่ำกำรเกลียด-โกรธ-อำฆำต ทำให้เกิด ค ว ำ ม มืด ด ำ ใ น จิต ไ ม่ ดี ต้ อ ง ย อ ม รับ ใ ห้ไ ด้ เ สีย ก่ อ น ว่ ำ ไ ม่ ดี เม่ือยอมรับแล้ว ก็ไม่ต้องถึงกับรักเขำหรอก ไม่เกิดประโยชน์ เ พีย ง บ อ ก ตัว เ อ ง ว่ ำ เ ร ำ ไ ม่ เ ก่ีย ว น ะ ค ว ำ ม ชัว่ นั้น “ ข อ เ ธ อ จงรู้จักผิดชอบชัว่ ดี ทำแต่เร่ืองท่ีถูกต้องเถิด อย่ำทำส่ิงเลวร้ำย อย่ำงนั้นเลย ขอบำรมีของข้ำพเจ้ำจงช่วยให้เขำกลับตัวเป็ น คนดีเถิด ” ทำซ้ำ ๆ แล้วคอยดูผล ไม่ใช่ผลเกิดแก่เขำ แต่เป็ น ผลท่ีเกิดแก่เรำ เออนะ! เดี๋ยวน้ีเรำเกลียดใครไม่เป็ นแล้ว ทัง้ คน ทัง้ สัตว์ เม่ือไม่เกลียด ก็ไม่โกรธ ไ ม่อำฆำต ควำมสุขของเรำ ก็มำกข้ึน วัน ๆ ห ำ ค น แ ล ะ สัต ว์ที่เ ร ำ เ ก ลีย ด ม ำ ฝึก ใ จ อ ย่ำ ง นี้ ไม่นำนก็สำเร็จ 22

5. ดับกามกิเลส โดยเข้าใจการเกิดของกาม กำมในท่ีน้ีคือ กำมำรมณ์ เป็ นควำมต้องกำรทำงเพศไม่ว่ำด้วยวิธีกำรใด ๆ กับผู้ใด อำจเป็นเพรำะว่ำ เทวดำผูส้ ร้ำงมนุษย์ และสตั ว์หมดปัญญำท่จี ะสร้ำงชวี ติ ไป เร่ือย ๆ จึงสร้ำงให้มนุษย์ และสัตว์มีควำมต้องกำรทำงเพศ เพ่ือเสพกำม เพำะพนั ธุ์ มนุษยแ์ ละสตั วจ์ ะไดไ้ มส่ ญู พนั ธหุ์ ำยไป มฉิ ะนนั้ จะไมม่ อี ะไรเป็นเครอ่ื ง เล่นของเทวดำ น่ีว่ำตำมผูท้ เ่ี ช่อื ว่ำ เทวดำเป็นผูส้ รำ้ งมนุษยแ์ ละสตั ว์ ถ้ำเรำไม่ เช่อื ก็ได้ ขอใหเ้ หน็ ว่ำ กำมกเิ ลสนัน้ มอี ยู่จรงิ ฝังรำกลกึ มำกในใจเรำ เม่อื โอกำส เหมำะกส็ ำแดงฤทธอิ์ อกมำ กำมกเิ ลสน้ีแรงมำกนัก ประมำทไมไ่ ด้ พระสงฆแ์ ละ นักบวชหลำยศำสนำ ต้องเลกิ เป็นนักบวชตำมสกี ำออกมำเสพกำม ถ้ำมนั เป็น เร่ืองห้ำมกันง่ำย ๆ ก็คงไม่มีข่ำวอย่ำงน้ีเกิดข้ึน ในพุทธศำสนำหินยำน อรยิ บุคคลระดบั โสดำบนั และสกทิ ำคำมี ยงั มคี วำมตอ้ งกำรทำงเพศ จนผำ่ นเป็น อนำคำมี จงึ หมดกำมกเิ ลส ฉะนัน้ กำรทำลำยกำมกเิ ลส จงึ เป็นเร่อื งจำเป็นแก่ผู้ บำเพ็ญ เพ่อื เขำ้ สู่สภำวะนิพพำน ทุกคนก็สงสยั ว่ำ กำมเป็นเร่อื งท่ธี รรมชำติ สรำ้ งมำให้ ทำใหช้ วี ติ มคี วำมสุขชนั้ ยอด ในศำสนำฮนิ ดู พระอศิ วรเทพเจำ้ ชนั้ สดุ ยอดก็ยงั เผสพกำม แต่ในควำมเป็นจริงแล้ว ใจท่ีหมดกำมมคี วำมสุขมำก ๆ เพรำะอย่ใู นควำมสุขประณีต ไมม่ คี วำมรุม่ รอ้ น กระวนกระวำย จงึ มคี วำมสขุ เหนือกวำ่ ควำมสขุ ทำงกำม 23

ท่ีหมดกำมมิได้หมำยควำมว่ำ หมดสภำพเป็ นมะเขือเผำ แต่ใจยัง ฮม่ึ ๆ อยู่ ไม่ใช่เช่นนัน้ หมดกำม คอื สภำวะทจ่ี ติ ใจไม่รสู้ กึ ว่ำต้องกำรเสพกำม กบั ใคร ดว้ ยวธิ ใี ด กำมหมดไปจำกใจ ควำมหนกั ของกำมกเิ ลสทซ่ี ่อนอยเู่ บอ้ื งลกึ ในใจไม่มอี ีกแล้ว ใจโล่งโปร่งสบำย เห็นเพศตรงข้ำมก็รู้สกึ แค่สวยดี น่ำรกั ดี หล่อดี จบแค่นัน้ ไม่เกนิ เลยอยำกเป็นเจ้ำของ อยำกได้ร่วมรส ไม่มคี วำมรูส้ กึ อย่ำงน้ีอยู่ เน่ืองจำกกำมเป็นกเิ ลสทม่ี พี ลงั สงู มำก กำรหกั หำ้ มใจจะช่วยไดน้ ้อย ไมย่ งั่ ยนื ดว้ ย แต่กต็ อ้ งทำแกข้ ดั ไปก่อน วธิ กี ำรทไ่ี ดผ้ ลดกี วำ่ ตอ้ งใชก้ ำรพจิ ำรณำ กำรเกดิ ของกำมกเิ ลส ทำไดโ้ ดยใหส้ งั เกตดใู จเมอ่ื เรำมกี ำมกเิ ลสเกดิ ขน้ึ ดเู ขำ้ ไป ขำ้ งในควำมคดิ ของเรำ ไม่ดูออกไปภำยนอก ใหส้ งั เกตดูว่ำ ควำมอยำกในกำม เกดิ ขน้ึ แลว้ เม่อื สงั เกตดูกห็ ำยไปแลว้ จำกนัน้ เฝ้ำดูวำ่ มนั จะมำอกี หรอื ไม่ ถำ้ มำ มนั มำอย่ำงไร ค่อย ๆ โผล่ควำมรสู้ กึ ออกมำอย่ำงไร ใหท้ ำอย่ำงน้ีบ่อย ๆ กำม กเิ ลสจะกลวั เรำไปเอง และไม่ลำมขยำยใหญ่โตเหมอื นพระสงฆ์ที่สกึ ตำมสกี ำ กำรคดิ หกั หำ้ มใจกเ็ ป็นเร่อื งจำเป็น แต่ไดผ้ ลชวั่ ครำว วธิ สี งั เกตใจไดผ้ ล ยงั่ ยนื กวำ่ มำก 24



ประวตั ิ ( โดยย่อ ) ดร. บญุ เสริม บญุ เจริญผล • เกดิ พ.ศ. 2481 ท่ี จ. ฉะเชงิ เทรำ • จบชนั้ เตรยี มนำยรอ้ ย ท่ี รร. เตรยี มนำยรอ้ ย • จบปรญิ ญำตรี วทิ ยำศำสตร์ รร. นำยรอ้ ยพระจุลจอมเกลำ้ รนุ่ 9 • จบ ป.โท พฒั นำ กำรเศรษฐกจิ ท่ี ม. เกษตรศำสตร์ • จบ ป.โท เศรษฐศำสตร์ ภำคภำษำองั กฤษ ท่ี ม. ธรรมศำสตร์ • จบ ป.เอก เศรษฐศำสตร์ ท่ี ม. ธรรมศำสตร์ ประวตั ิการทางาน • กองทพั อำกำศไทย ยศเรอื อำกำศเอก พ.ศ. 2505 - 2513 • คณะเศรษฐศำสตร์ ม. เกษตรศำสตร์ ตำแหน่ง ประธำนสำขำวชิ ำ เศรษฐศำสตรเ์ ชงิ ปรมิ ำณ • ทป่ี รกึ ษำ รฐั มนตรปี ระจำสำนกั นำยกรฐั มนตรี พ.ศ. 2535 - 2536 • คณบดคี ณะเศรษฐศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั เกรกิ พ.ศ. 2536 - 2548 • ปัจจุบนั เป็นผูก้ ่อตงั้ และ กรรมกำรมูลนิธิ วภิ ำ-บุญเสรมิ อกี ทงั้ เป็นผูเ้ ขยี น บทควำมธรรมะและปรชั ญำชวี ติ รวมถงึ เป็นวทิ ยำกรผบู้ รรยำยธรรมะ

ดร.บญุ เสริม บญุ เจริญผล เขียน ขอบคณุ รปู ภาพจาก www.pexels.com/th-th www.unsplash.com

มลู นิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม

มลู นิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook