มลู นิธิพระพุทธสันตธิ รรม สมาธิ กบั สุขภาพ โดย ดร.บุญเสริม บุญเจริญผล
มูลนิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม พนั ธกิจ มลู นิธิพระพทุ ธสนั ติธรรม สร้างธรรมสถาน เผยแผพ่ ระธรรม อปุ ถมั ภพ์ ระสงฆ์ สงเคราะหผ์ ยู้ ากไร้ ให้ปัญญาแก่ประชาชน
สมาธิ กบั สขุ ภาพ ก่อนกล่าวถงึ เร่อื งสมาธิ ขอใหท้ ําความเขา้ ใจกบั สารเคมสี ําคญั ใน รา่ งกาย อนั เป็นเหตุของการเจบ็ ป่วย ดงั น้ี ความรสู้ าํ คญั เรอ่ื งฮอรโ์ มน เน่ืองจากฮอรโ์ มนมคี วามสาํ คญั ต่อการดาํ รงชวี ติ มาก จงึ ขอแนะนําเรอ่ื ง ของฮอรโ์ มนโดยยอ่ ฮอร์โมน (hormone) เป็นสารเคมที ่ีเซ็ลหรอื ต่อมในร่างกายเราสร้าง ข้นึ มาเอง แล้วปล่อยออกมา ทําให้มผี ลต่อเซ็ลอ่ืนๆ และอวยั วะอ่ืนๆ แม้ เพยี งเลก็ น้อยกม็ ผี ลมากตอ่ ระบบของชวี ติ ฮอรโ์ มนมหี ลายประเภท 2
ฮอรโ์ มนมีผลอย่างไรต่อชีวิตบา้ ง เรง่ ความเตบิ โต มผี ลต่ออารมณ์ ทาํ ใหเ้ ซล็ ตายตามเวลาอนั ควร ควบคุมการสรา้ งและทาํ ลาย เตรยี มพรอ้ มรา่ งกายเพอ่ื การต่อสหู้ รอื หนีภยั เตรยี มพรอ้ มรา่ งกายเขา้ สสู่ ภาวะใหม่ เชน่ การเขา้ สวู่ ยั หนุ่มสาว การ เรม่ิ มปี ระจาํ เดอื น การเป็นแม่ ควบคุมวงจรการสรา้ งใหม่ ความรสู้ กึ หวิ ความรสู้ กึ ทางเพศ ควบคุมฮอรโ์ มนอ่นื ๆต่างชนิด ควบคุมสงิ่ แวดลอ้ มทงั้ หลายภายในรา่ งกาย 3
4
โรคที่เกิดจากการปลอ่ ยฮอรโ์ มนท่ีไมด่ ีออกมา ทาํ ใหเ้ กดิ สารพษิ ในรา่ งกาย เป็นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพดงั น้ี ออ่ นเพลยี (fatigue) ปวดหวั (headache) เครยี ด (stress) ซง่ึ แบ่งไดเ้ ป็น หดหู่ (depression) เศรา้ (sad) อารมณ์เสยี หงดุ หงดิ (moody) มะเรง็ (cancer) ประจาํ เดอื นผดิ เวลา (menstrual problem) 5
6
สมาธิมีผลดีต่อสขุ ภาพ เน่ืองจากสมาธมิ ผี ลทําใหจ้ ติ ใจสงบ จติ ใจทส่ี งบมผี ลดี โดยตรงตอ่ ฮอรโ์ มน เมอ่ื ฮอรโ์ มนดี ทาํ ใหก้ ารทาํ งานของรา่ งกาย ดี จงึ ไมเ่ จบ็ ป่วย หรอื หายป่วย เม่อื ก่อนทางการแพทยไ์ ม่สนใจสภาพจติ ใจของมนุษย์ ใหค้ วามสาํ คญั กบั การรกั ษาทางยาหรอื ผ่าตดั ต่อมามกี ารวจิ ยั ทางการแพทย์ และยอมรบั ว่า สภาพจิตใจมีผลมากต่อการ เจบ็ ป่ วยของมนุษย์ จนมคี าํ แนะนําใหพ้ กั ผอ่ นจติ ใจประกอบไป ดว้ ย 7
สมาธิไมใ่ ช่ยาเทวดาที่ได้ผลโดยลาํ พงั การใชส้ มาธเิ พยี งอยา่ งเดยี ว ไม่สามารถป้องกนั โรคภยั ไขเ้ จบ็ ได้ ไม่สามารถรกั ษาโรคไดโ้ ดยลําพงั เรา ตอ้ งปฏบิ ตั ติ วั ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั สุขภาพดว้ ย จงึ จะไดผ้ ล คอื ใหป้ ฏบิ ตั ติ นดงั น้ี อาหารถูกสุขภาพ ลดเน้ือสตั ว์ และ นม กิน ขา้ วกลอ้ ง พชื ผกั และ ผลไม้ ใหม้ าก ออกกําลงั กายเสมอ วนั ละ 30 นาที รกั ษาอารมณ์ใหส้ ดช่นื พกั ผอ่ นนอนหลบั ใหเ้ พยี งพอ อากาศดี ระวงั ยามพี ษิ มาก และหมอมกั งา่ ย การปฏิบตั ิตวั เพ่อื ให้มสี ุขภาพดี ก็เป็นท่ีทราบ กันดีอยู่ แต่มกั ไม่ใครปฏิบตั ิกัน เช่น มีน้อยคนท่ีออก กําลงั กายสม่ําเสมอ น้อยคนท่ีกินผกั และผลไม้มากกว่า เน้ือสตั ว์ นอนเพยี งพอ เป็นตน้ กเ็ ป็นกรรมของคนทไ่ี ม่ เหน็ คณุ คา่ ของชวี ติ ผทู้ เ่ี หน็ คณุ คา่ ของชวี ติ จงพถิ พี ถิ นั กบั กฎแหง่ สขุ ภาพขา้ งบน 8
การปฏบิ ตั จิ ติ ในชวี ติ ประจาํ วนั การรกั ษาจติ ใหผ้ ่องใส ทําใหฮ้ อรโ์ มนเกดิ ความสมดุล ร่างกายทํางาน เป็นปกติ และ ภูมคิ ุม้ กนั กส็ งู ขน้ึ ทําใหห้ ่างจากความเจบ็ ป่ วย ฉะนัน้ เรา ตอ้ งรกั ษาจติ ใหผ้ อ่ งใส 10
11
ต่ืนเช้า ก่อนออกไปจากห้องนอน ให้นัง่ บนเก้าอ้ีเอนๆ ส่ง ความรสู้ กึ ออกไปขา้ งหน้า เฉยี งขน้ึ แลว้ สงั เกตยอ้ นกลบั มาทใ่ี บหน้า หายใจเขา้ ลกึ นิดหน่อย ใหร้ ตู้ วั ดว้ ย อยา่ ใจลอย หายใจออก ช้าๆ พรอ้ มกบั ย้มิ น้อย ๆ ทําความรูส้ กึ ว่า (จูงใจ ตนเอง) มพี ลงั ในอากาศไหลเขา้ สู่ใบหน้า ถ้าจติ ว่างดี ไม่ฟุ้งซ่าน จะรูส้ กึ ยบิ ๆทใ่ี บหน้า ทาํ ซ้ําอยา่ งน้ี 5 – 10 ครงั้ ใบหน้าและจติ ใจหยอ่ นคลาย ผทู้ ต่ี ่นื ขน้ึ มารูส้ กึ มนึ งง อ่อนระโหย จะหาย สดใสทนั ที ขอรบั รองว่าไดผ้ ลดมี าก ผมทาํ เป็นประจาํ ไดผ้ ลดี จากนัน้ ยืนขึ้น กล่าวในใจกบั ตวั เองว่า “วนั นี้สุขเหลือเกิน สขุ จริงๆ” และ ตงั้ ใจว่า เราจะรกั ษาความร้สู ึกตวั ให้มากที่สุด ฟ้งุ ซ่าน ให้น้อยที่สดุ การปฏิบตั ิดงั กล่าว เป็นการปลุกตัว และใส่พลงั ให้พร้อมจะ ดาํ เนินชวี ติ ในวนั น้ี 12
13
การเดิน เม่อื ต้องการเดนิ ไม่ว่าเดนิ ออกกําลงั กาย หรอื เดนิ เพ่อื ฝึกจติ ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั น้ี สง่ ความรสู้ กึ ออกไปขา้ งหลงั เฉยี งสงู ขน้ึ กา้ วเดนิ ไปเรอ่ื ยๆ เรว็ ชา้ ตามตอ้ งการ เอาความรสู้ กึ ทส่ี ง่ ไปขา้ งหลงั นนั้ สงั เกตดกู ารเดนิ และควบคุม การเดนิ ใหเ้ รว็ ชา้ หรอื เลย้ี วซา้ ยขวา ทําเหมอื นกบั วา่ รา่ งกายเป็นรถ ใจเป็นผูข้ บั บงั คบั ใหก้ ายเคล่อื นไป (อย่าใชค้ ําบรกิ รรม จะทําใหใ้ จไป ผกู กบั กาย ไมม่ อี าํ นาจบงั คบั กาย) เหตุผลทเ่ี อาใจควบคุมกาย กค็ อื ใหก้ ายยอมรบั วา่ ใจเป็นนาย เมอ่ื ชํานาญดี เรากบ็ งั คบั การทํางานของกาย รวมทงั้ บงั คบั อวยั วะภายในให้ ทาํ งานเป็นปกตไิ ด้ แมไ้ มไ่ ดร้ อ้ ยเปอรเ์ ซน็ ต์ กไ็ ดร้ ะดบั หน่งึ 14
15
ก่อนนอน สวดมนต์ไหวพ้ ระหรอื สงิ่ ศกั ดสิ์ ทิ ธทิ์ ่นี ับถอื ทําใจใหโ้ ล่ง วา่ ง รตู้ วั เตม็ เอนตวั ลงนอนเรยี บรอ้ ยดแี ลว้ ทาํ ดงั น้ี สังเกตการหลับของเราว่า ความรู้สึกค่อยๆหร่ีลงๆเร่ือยๆ แล้ว ความรสู้ กึ ใกลห้ ลบั เป็นอย่างไร ใหส้ งั เกตไว้ เราจะพบกบั สภาวะครง่ึ หลบั ครง่ึ ต่นื แลว้ กล็ มื ตวั หายไปเลย คอื หลบั แลว้ บางทจี ะพบสภาวะสะทอ้ น กลบั คอื หลบั วบู ลงไป แลว้ ถอยคนื ต่นื ขน้ึ มาอกี น้ีเป็นช่วงครง่ึ หลบั ครง่ึ ต่นื ขอแนะนําใหท้ ่านปฏบิ ตั ทิ ุกคนื เป็นการนอนอยา่ งผเู้ จรญิ คน ทงั้ หลายปลอ่ ยหลบั ไปไมร่ เู้ รอ่ื ง เราอยา่ ทาํ อยา่ งนนั้ การปฏบิ ตั เิ ชน่ น้ี ทาํ ใหเ้ รามอี าํ นาจเหนือจติ ใตส้ าํ นึก (คนทไ่ี มฝ่ ึก จะอยภู่ ายใตอ้ าํ นาจจติ ใตส้ ํานึก ทาํ อะไรเป็นไปตามสญั ชาตญิ าณ ไม่ใชเ้ หตุผล) แลว้ มผี ลสงั่ ใหจ้ ติ ใต้สาํ นึก ทาํ งานอยา่ งสมดลุ กจ็ ะมสี ขุ ภาพดี 16
สมาธติ า้ นโรครา้ ย ความรู้สกึ หยง่ิ ผยอง คดิ ว่าเราเก่ง เราเป็นคนสําคญั เราสูงกว่าผู้อ่ืน เหล่าน้ีก็เป็นอารมณ์ท่ชี วั่ รา้ ย สามารถทําลายความสมดุลของร่างกายผ่าน ทางจติ ใตส้ าํ นกึ ได้ เราจงึ ตอ้ งคอยเฝ้าสงั เกตใหด้ ี เมอ่ื ใดทม่ี อี ารมณ์ทะนงตวั น้ี เกดิ ขน้ึ กจ็ งรูต้ วั แล้วสงั ่ ประหารความรูส้ กึ ไม่ดนี ้ีทนั ที เพ่อื ใหจ้ ติ สะอาดมาก ขน้ึ ท่านใดทไ่ี ด้ปฏบิ ตั ติ นปฏบิ ตั ใิ จไดเ้ ช่นน้ี เท่ากบั ท่านไดป้ ราบโรค ร้าย เช่น มะเร็งลงไปได้คร่ึงหน่ึงแล้ว ท่านท่ีมิได้เป็ นโรคร้าย จะเกิด ภูมคิ ุม้ กนั ขน้ึ ไดด้ มี าก เพราะจติ สะอาด การสรา้ งเซลลก์ จ็ ะไมบ่ กพรอ่ ง จากนัน้ ตอ้ งหาเวลาทําสมาธิ ซง่ึ ตอ้ งทําบ่อย ๆ และครงั้ ละนาน ๆ ซง่ึ จะขอแนะนําวธิ กี ารดงั ต่อไปน้ี 18
19
การทาํ สมาธิสาํ หรบั ป้องกนั และช่วยรกั ษาโรครา้ ย หากทาํ สมาธติ ามวธิ กี ารทถ่ี กู ตอ้ ง กจ็ ะไดร้ บั ประโยชน์หลายประการ คอื 1. ฝึกลดนิสยั ความฟุ้งซ่านแต่งเร่อื งโกหกใจลอย เม่อื เกดิ ความคดิ ฟุ้งซ่านก็มสี ตจิ บั ได้อย่างรวดเรว็ ซ่งึ เราต้องคอยตามความคดิ ของเรา เองอยตู่ ลอดเวลา ฉะนนั้ จงึ มปี ระโยชน์ในการดาํ รงชวี ติ ระหวา่ งวนั 2. ช่วยให้มจี ติ ใจแน่วแน่ไม่โลเล เม่อื ตงั้ ใจทําสงิ่ ใด ก็มุ่งหน้าทําไม่ ทอดทง้ิ กลางคนั ชว่ ยใหท้ าํ งานใหส้ าํ เรจ็ ผลมาก และไมค่ อ่ ยผดิ พลาด 3. หากฝึกใหม้ าก จะมคี วามสามารถพเิ ศษเกดิ ขน้ึ ได้ เช่น มคี วามรู้ ลกึ ซ้งึ กวา่ ผอู้ ่นื รเู้ ท่าทนั เล่หข์ องผอู้ ่นื เขา้ ใจจติ ใจตนเองและผอู้ ่นื และ อ่นื ๆ 4. ทําใหร้ ่างกายผ่อนคลายความเครยี ดไดด้ มี าก ประสาทและอวยั วะ ทุกอย่างทําหน้าท่เี ป็นปกติ ไม่ละเลยหรอื ทําการนอกหน้าท่ี จงึ ป้องกนั การเจ็บป่ วย และช่วยรกั ษาโรคได้หลายอย่าง โดยเฉพาะมะเร็ง ซ่ึงมี ตวั อยา่ งหลายราย 20
ขนั้ ตอนในการทาํ สมาธิสาํ หรบั การป้องกนั และช่วยรกั ษาโรคร้าย มอี ยู่ 3 ขนั้ ตอน จะต้องปฏบิ ตั ใิ ห้ได้ครบถ้วนทุกขนั้ ตอน ขนั้ ท่ี 1 คลายเครยี ดอย่างสมบูรณ์ ขนั้ ท่ี 2 ต่อรองกบั จติ ใต้สาํ นึก ขนั้ ท่ี 3 สร้างสภาพชวี ติ ใหม่ ทงั้ 3 ขนั้ ตอนน้ี ผูป้ ่ วยต้องปฏบิ ตั เิ อง คนอ่ืนจะช่วยทําใหไ้ ม่ได้ ผู้อื่นอาจเป็นเพยี งผูเ้ ชยี ร์ให้ กําลงั ใจเท่านัน้ ผมจะขอเริม่ แนะนําวธิ ี ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 21
ขนั้ ท่ี 1 คลายเครยี ดอยา่ ง สมบรู ณ์แบบ ท่ผี มเรยี กว่าวธิ คี ลายเครยี ด อย่างสมบรู ณ์แบบ กเ็ พราะเป็นวธิ ี คลายเครยี ดทไ่ี ดผ้ ลดที ส่ี ดุ วธิ กี าร ทาํ ดงั น้ี เร่ิมจากกราบพระ หรือส่ิง ศกั ดสิ ์ ทิ ธทิ ์ ท่ี ่านนับถอื หรอื บุคคล ท่ที ่านนับถือเป็นการเอากําลงั ใจ สร้างความมัน่ ใจ และได้แรง บนั ดาลช่วยเหลอื จากทา่ นเหล่าน้ี จากนัน้ นัง่ หรอื นอนในท่าท่ี สบาย ถา้ นงั ่ ควรนงั ่ เกา้ อ้ี หยอ่ นขา หรือใช้เก้าอ้ีเล็กอีกตัวรองปลาย เท้า ใช้เก้าอ้ีท่ีมีพนักพิง พิงให้ สบายจะดี ใชค้ วามสบายเป็นหลกั บางคนไม่ชอบนัง่ เก้าอ้ี ชอบ นัง่ ขัดสมาธิ เพราะดูขลังดี ก็ ตามใจ ไม่ชอบนัง่ จะนอนสมาธิก็ ยงั ได้ แตร่ ะวงั จะหลบั งา่ ย 22
ทุกท่านควรฝึกนอนสมาธดิ ว้ ย เวลาเราเจบ็ ป่วยเรานัง่ ไม่ได้ เราตอ้ ง นอนทาํ สมาธิ การนอนทาํ สมาธจิ ะไมป่ วดเมอ่ื ย หยอ่ นคลายดมี าก เสยี อยา่ ง เดยี วคอื พาลจะหลบั ไปเลย ช่างเถดิ หลบั ก็หลบั ไป หลบั เต็มต่ืนแล้วก็ทํา สมาธใิ หมอ่ กี (การนอนทาํ สมาธิอยู่เป็ นประจาํ บางครงั้ กายทิพยจ์ ะออก จากร่างไปได้ ตอนที่สภาพจิตคร่ึงหลบั คร่ึงตื่น ซึ่งเป็ นประสบการณ์ ท่ีมีคุณค่ามาก ในระหว่างคร่ึงหลบั คร่งึ ต่ืนท่ีท่านกําลงั ทําสมาธิอยู่นัน้ หากมสี ง่ิ เรา้ หรอื มคี วามตงั้ ใจแรงกลา้ เช่น มคี นเรยี กไกล ๆ กายทพิ ยจ์ ะลุก จากทน่ี อนไปดูสง่ิ ต่าง ๆ เรมิ่ จากท่นี อน แล้วกลบั คนื สู่ท่นี อน โดยร่างกาย นอนอย่อู ย่างเดมิ สง่ิ ทท่ี ่านไปพบเหน็ มกั เป็นความจรงิ กายทพิ ยอ์ อกจาก รา่ งต่างกบั ความฝัน ความฝันนนั้ เหตุการณ์เกดิ ขน้ึ ณ ทแ่ี ห่งหน่ึงทไ่ี หนกไ็ ด้ แต่กายทพิ ยอ์ อกจากร่างต้องเรม่ิ จากจุดทท่ี ่านอยู่ ไปไหน ๆ แลว้ กลบั คนื สู่ จดุ ทท่ี ่านอยู่ เรารตู้ วั ดี มสี ตสิ มบรู ณ์ยงิ่ กวา่ ปกตเิ สยี อกี ถามตวั เอง ทดสอบ ตวั เองได้ ขอ้ สาํ คญั ถา้ บงั เอญิ กายทพิ ยอ์ อกจากรา่ ง กอ็ ยา่ ไปไกลนกั เมอ่ื มปี ระสบการณ์บ้างแล้วรบี กลบั อย่าไปไกล ดไี ม่ดจี ะตายฟรี ผมใคร่ขอ ชกั ชวนให้ ทุกท่านนอนสมาธใิ นขณะทท่ี ่านเขา้ นอน อยา่ นอนหลบั เปล่า ๆ จงฉวยประโยชน์ถอื โอกาสฝึกจติ เสยี ดว้ ย) 23
24
ครนั้ เมอ่ื นงั ่ หรอื นอนในท่าทเ่ี หมาะแลว้ จงเฝ้าลมหายใจของเรา เมอ่ื หายใจเขา้ กร็ วู้ า่ หายใจเขา้ เมอ่ื หายใจออก กร็ วู้ า่ หายใจออก ทาํ อยา่ งน้ีไปเรอ่ื ย ๆ สกั ประเดยี๋ วหน่งึ พอไมฟ่ ุ้งซ่านแลว้ กเ็ ปลย่ี นไปเฝ้าดคู วามคดิ ของเราเอง จะคดิ อะไรกต็ ามรไู้ ปเรอ่ื ย ๆ ตามรดู้ ไู ปเบา ๆ อย่าบบี อย่ากดการเฝ้าดู เพราะจะทําใหเ้ ครยี ด และไม่ต้องเสยี ใจว่า ทาํ ไมจติ ใจเราฟุ้งซ่านนัก มนั เป็นธรรมดาเช่นนัน้ เอง เรามจี ติ ใจมนั กต็ อ้ งคดิ ของมนั ไปเร่อื ย ๆ จะห้ามไม่ให้คดิ ได้อย่างไร ใคร ๆ ก็เป็นอย่างน้ีทงั้ นัน้ มใิ ชเ่ ป็นแต่เรา ขอ้ สาํ คญั อยทู่ ่ี เราต้องตามรดู้ ไู ปว่าเรากาํ ลงั คิดอะไร 25
27
เฝ้าดไู ปเร่อื ย ๆ จิตจะฟ้งุ ซ่านน้อยลง จะคิดอะไรกร็ ้ตู ลอด เร่ิมคิด .. เลิกคิด ย่ิงเฝ้าไป.. จิตย่ิงสงบ จนถงึ ช่วงหน่ึง จติ จะว่าง ไม่คดิ มแี ต่ความรตู้ วั อย่วู า่ เรายงั มจี ติ มคี วามรสู้ กึ อยู่ แต่รสู้ กึ อย่างสงบ ตวั จะเบาวา่ งเหมอื นไม่มี ร่างกายเหลืออยู่ ร่างกายหายไปไหนเสียแล้ว จากนั้นให้ ตรวจสอบดวู า่ จติ ใจเราสงบไดด้ หี รอื ยงั จิตสงบ ไม่ได้แปลวา่ หมดสติไมร่ สู้ ึกตวั ไมไ่ ด้หมายความว่า หลบั สภาวะจติ สงบนนั้ เรายงั มสี ติ รตู้ วั สมบูรณ์ ยงั บวกเลขได้ แต่ว่าไม่รูส้ กึ ว่ามรี ่างกายอย่แู ลว้ มี แต่จติ 28
เมอ่ื จติ สงบดแี ลว้ กพ็ ยายามเลย้ี งความสงบนัน้ ต่อไปนาน ๆ ทรงความ ว่างไม่มตี วั ตนไวน้ าน ๆ น่ีแหละเป็นการพกั ผ่อนคลายเครยี ดทางจติ ใจไดด้ ี มาก ความเครียดท่ีแฝงอย่จู ะลดลง ๆ จนหายไป ถ้าท่านอย่ใู นห้องปรบั อากาศหรอื ในที่อากาศเยน็ ท่านจะรสู้ ึกว่าศีรษะเยน็ เบา เมอ่ื ความเครยี ดหมดไป การจดั ตวั ของเซลลใ์ นร่างกายจะเป็นระเบยี บ การสรา้ งเซลลใ์ หมจ่ ะเป็นเซลลป์ กติ ไมเ่ ป็นเซลลม์ ะเรง็ ผดิ รปู 29
30
ขนั้ ท่ี 2 ตอ่ รองกบั จติ ใตส้ าํ นกึ เราตอ้ งทราบความจรงิ ของรา่ งกายอยา่ งหน่งึ วา่ รา่ งกายของเรานนั้ ถา้ โอม๋ นั มากไป เอาอกเอาใจมนั มากไป มนั จะงอแง เจบ็ ป่วยงา่ ย ตรงขา้ ม ถา้ เราบอกวา่ เราเลกิ เอาใจมนั แลว้ มนั จะงอ้ เรา ทาํ หน้าทอ่ี ยา่ งดี ไมพ่ าลเกเร จากหลกั การน้ีเองขณะท่ีเราเจ็บป่ วย เราต้องประกาศความเป็น อสิ ระจากรา่ งกาย เป็นการต่อรองกบั รา่ งกาย แตเ่ น่อื งจากรา่ งกายทาํ งาน ตามบญั ชาของจติ ใต้สาํ นึก ฉะนัน้ ถา้ จะต่อรองกบั ร่างกาย กต็ อ้ งต่อรอง กบั นายของมนั คอื ต่อรองกบั จติ ใตส้ าํ นึก ขอแนะนําวธิ กี ารดงั น้ี 31
32
33
ในขณะทจ่ี ติ สงบดจี นไมร่ สู้ กึ วา่ มรี า่ งกาย รา่ งกายหายไปจากความรสู้ กึ แลว้ เรากน็ ึกพดู ในใจกบั จติ ของเราเอง (จติ ใต้สํานึก) ว่า “ร่างกายนี้ไม่ใช่ ของเรา มนั จะแก่ มนั จะเจบ็ มนั จะตาย กเ็ ร่ืองของมนั ไม่ใช่เร่ืองของ เรา มนั จะหายเจบ็ ป่ วยกเ็ รื่องของมนั ไมใ่ ช่เร่ืองของเรา อยากจะหายก็ เชิญ อยากจะตายกเ็ ชิญ เราไมง่ ้อเจ้า” กล่าวในใจอย่างน้ีประมาณสกั ครหู่ น่ึง ทว่ี ่าครู่หน่ึงนนั้ กค็ อื นานพอควร นานพอใจเรา เป็นใช้ได้ ข้อสําคญั ท่ีควรทราบคอื ขณะกล่าวในใจ อย่ามี จติ ใจขดั แยง้ กบั คาํ คาํ กล่าว ปล่อยใจใหไ้ ปดว้ ยกนั กบั คาํ กล่าวนนั้ เม่อื จติ ใต้สํานึกรูส้ กึ ตวั ว่าไม่รูจ้ ะไปเรยี กรอ้ งเอากบั ใครได้ กต็ ้อง ปรบั ตวั ทําหน้าท่สี งั ่ การใหร้ ่างกาย โดยเฉพาะระบบต่าง ๆ ท่ที ํางานอยู่ ในรา่ งกาย ทํางานอย่างเป็นปกติ หมดอํานาจต่อรองเสยี แล้ว ตอนน้ีอํานาจ ต่อรองอยกู่ บั เรา โปรดอยา่ ดหู มนิ่ วธิ กี ารน้ี ยามใดทท่ี ่านเจบ็ ป่วยขอใหท้ ดลองดูได้ คน โบราณใชไ้ ดผ้ ลมาแลว้ 34
35
ขนั้ ท่ี 3 ตอ้ นรบั ความสาํ เรจ็ หลงั จากกล่าวต่อรองกบั จิตใต้สํานึกแล้ว ต่อไปก็เป็นการสรา้ ง บรรยากาศแหง่ ความสาํ เรจ็ ตอ้ นรบั การหายป่วย ตอนน้ีจติ ทา่ นกาํ ลงั อยใู่ น สภาวะสงบไม่ฟุ้งซ่านกงั วลใด ๆ หากยงั ฟุ้งซ่านกใ็ หเ้ ฝ้าดูจติ ต่อไป ดูว่าคดิ เรอ่ื งอะไร เฝ้าดไู ปเรอ่ื ย ๆ จติ กส็ งบเอง เม่อื จติ สงบดแี ล้ว คราวน้ีสร้างความรูส้ กึ ขนั้ ว่า “เราหายแล้ว เราสบายแล้ว เราไม่มีโรคภยั ไข้เจบ็ แล้ว เราชนะแล้ว เราจะมีอายุยืน ยาว ต่อไปนี้เราจะสร้างแต่บารมี เราจะงดเว้นจากการเบียดเบียนคน และสตั ว์ ไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม เราจะช่วยเหลือทุกชีวิตให้มี ความสุข ทงั้ คนและสตั ว์ เราจะขบั ไล่กิเลสออกจากตวั เรา ชีวิตที่เหลือ ต่อไปนี้ขอมอบให้เป็นประโยชน์ต่อผ้อู ่ืนโดยตลอด เราหายแล้ว... เรา สบายแลว้ ” 36
37
ขณะกล่าวก็สร้างมโนภาพให้ชัดเจนว่า เราหายแล้วจริง ๆ อยา่ เกดิ ความคดิ ลงั เลสงสยั เป็นอนั ขาด ทุกอยา่ งจะลม้ เหลวหมด ขอทบทวนวา่ เรามงี านตอ้ งทาํ 3 ประการ 1. คลายความเครยี ด โดยเฝ้าดคู วามคดิ จนจติ สงบ 2. ตอ่ รองกบั จติ ใตส้ าํ นึก และ 3. ตอ้ นรบั ความสาํ เรจ็ น่ีเป็นงานในขณะทาํ สมาธิ 38
ขอสงิ่ ศกั ดสิ์ ทิ ธชิ ์ ว่ ย เร่อื งของสงิ่ ศกั ดสิ์ ทิ ธนิ์ ัน้ ก็แลว้ แต่คนจะเช่อื อย่างไร บางท่านก็ เช่ือว่าส่ิงศักดิส์ ิทธิม์ ีจริง ช่วยเราได้ บางท่านก็ว่าเป็ นเพียงกําลังใจ สําหรบั ท่านท่มี คี วามเช่ือต่อสง่ิ ศกั ดิส์ ิทธใิ ์ ด ก็ขอความช่วยเหลอื จากส่ิง ศักดิส์ ิทธิน์ ัน้ และก็อย่าลืมให้คําสญั ญาว่าชีวิตท่ีเหลือของเรานัน้ เป็ น ประโยชน์ต่อผูอ้ ่นื ทํางานใหผ้ ูอ้ ่นื ไม่ทําใหต้ วั เองมากนักเหมอื นอย่างแต่ กอ่ นแลว้ 39
40
ใชป้ ระโยชน์กบั การป่วยไขอ้ ยา่ งอ่นื ได้ คําแนะนําท่ีผมเขยี นมาทงั้ หมดน้ี ใช้ได้กับกรณีท่ีท่านป่ วยไข้ อย่างอ่นื ด้วย ไม่ว่าป่ วยเลก็ ๆ น้อย ๆ หรอื ป่ วยหนัก ไม่จําเพาะแต่โรค รา้ ย เช่น มะเรง็ แต่กต็ อ้ งรกั ษาทางการแพทยค์ วบคู่ไปดว้ ย สมาธไิ ม่ใช่ วธิ รี กั ษาเด็ดขาด เป็นเร่อื งช่วยอกี แรงหน่ึง อน่ึง การช่วยรกั ษาด้วย วธิ กี ารของสมาธนิ ัน้ ไม่เก่ยี งว่าแพทยป์ ัจจุบนั จะรกั ษามาอย่างไร ไม่ขดั กนั เลย ไมว่ า่ จะผา่ นการฉายรงั สี เคมบี าํ บดั หรอื ผา่ ตดั มาแลว้ กต็ าม ขอใหท้ า่ นประสบความสาํ เรจ็ หากท่านป่วยเป็นโรครา้ ย ก็ขอใหท้ ่านประสบความสําเรจ็ หายจาก การป่วยอย่างเดด็ ขาด เหน็ เป็นอศั จรรยแ์ ก่คนทงั้ หลาย และขอใหท้ ่านอุทศิ กศุ ลขอบคณุ แด่ผมู้ พี ระคณุ เร่อื งน้ีเป็นเร่อื งทเ่ี ป็นประโยชน์แก่ชวี ติ มนุษยม์ าก ผมขอความกรุณา ใหท้ า่ นเผยแพรอ่ อกไปใหม้ าก 41
ประวตั ิย่อ ดร. บญุ เสริม บญุ เจริญผล • เกดิ พ.ศ. 2481 ท่ี จ. ฉะเชงิ เทรา • จบชนั้ ประถมศกึ ษา รร. ไพบลู ยป์ ัญญา วดั สามรม่ ฉะเชงิ เทรา • จบชนั้ มธั ยมศกึ ษา รร. เบญจมราชรงั สฤษฎิ์ ฉะเชงิ เทรา • จบชนั้ เตรยี มนายรอ้ ย ท่ี รร. เตรยี มนายรอ้ ย • จบปรญิ ญาตรี วทิ ยาศาสตร์ รร. นายรอ้ ยพระจลุ จอมเกลา้ รนุ่ 9 • จบ ป.โท พฒั นาการเศรษฐกจิ ท่ี ม. เกษตรศาสตร์ • จบ ป.โท เศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาองั กฤษ ท่ี ม. ธรรมศาสตร์ • จบ ป.เอก เศรษฐศาสตร์ ท่ี ม. ธรรมศาสตร์ ประวตั ิการทาํ งาน • กองทพั อากาศไทย ยศเรอื อากาศเอก พ.ศ. 2505 - 2513 • คณะเศรษฐศาสตร์ ม. เกษตรศาสตร์ หวั หน้าสาขาเศรษฐศาสตรเ์ ชงิ ปรมิ าณ พ.ศ. 2513 - 2535 • สาํ นกั นายกรฐั มนตรี ทป่ี รกึ ษารฐั มนตรปี ระจาํ สาํ นกั นายกรฐั มนตรี พ.ศ. 2535 - 2536 • มหาวทิ ยาลยั เกรกิ คณบดคี ณะเศรษฐศาสตร์ พ.ศ. 2536 - 2548 • ปัจจุบนั ผเู้ ขยี นบทความธรรมะและปรชั ญาชวี ติ รวมถงึ เป็นวทิ ยากร ผบู้ รรยายธรรมะ 43
ดร.บญุ เสริม บญุ เจริญผล เขียน ขอบคณุ รปู ภาพจาก www.pexels.com/th-th www.unsplash.com www.canva.com
มลู นิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม
มลู นิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: