คํานาํ เอกสารข้อมูลบรรยายสรุปจังหวัดปทุมธานี จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลท่ัวไปของจังหวัด ข้อมูลพื้นฐานสภาพสังคม เศรษฐกิจ เกษตรกรรม ทรัพยากรธรรมชาติ สภาวะการจ้างงาน โครงสร้างพื้นฐาน และแหล่งท่องเท่ียวของจังหวัด นอกจากน้ียังมีข้อมูลด้านการพัฒนาจังหวัด วิสัยทัศน์จังหวัดยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนท่ัวไปได้รับทราบและใช้ในการค้นควา้ รวมทั้งประกอบการวางแผนพฒั นางานดา้ นตา่ งๆ ซ่ึงคณะผู้จัดทําได้รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ ง และหน่วยงานภาคเอกชน เพ่อื ให้เป็นข้อมูลกลางในการใชป้ ระโยชนร์ ่วมกัน สํานักงานจังหวัดปทุมธานี ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ท่ีได้ให้ความร่วมมือในการจัดทําเอกสารข้อมูลบรรยายสรุปจังหวัด และหวังว่าข้อมูลน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ ทั้งนี้สํานักงานจังหวัดฯ พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงการจัดทําเอกสารใหส้ มบรู ณย์ ง่ิ ข้นึ ตอ่ ไป สาํ นักงานจงั หวดั ปทุมธานี ธนั วาคม 2555
สารบญัส่วนท่ี 1 คํานํา หนา้ส่วนที่ 2 สารบญั 1.1 ความเปน็ มาของจงั หวัด 2 1.2 สญั ลักษณจ์ งั หวัดปทมุ ธานี 3 ดวงตราประจาํ จงั หวัดและคําขวัญของจังหวดั 5 ธง ดอกไม้ ต้นไม้ ประจาํ จังหวัด 6 ข้อมลู ทว่ั ไปของจงั หวดั 2.1 ทตี่ ง้ั และอาณาเขต 7 2.2 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ 2.3 ลักษณะดนิ 8 2.4 ลกั ษณะภูมอิ ากาศ 9 2.5 การแบง่ เขตการปกครอง 9 2.6 จํานวนประชากร 9 2.7 การศกึ ษา 9 2.8 สาธารณสขุ 10 2.9 ศาสนาและวฒั นธรรม 12 2.10 ความปลอดภยั ในชวี ติ และทรัพยส์ ิน 14 2.11 ผลิตภณั ฑ์มวลรวมจงั หวดั 15 2.12 การค้า 16 2.13 การเกษตร 17 2.14 ผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน 18 2.15 อุตสาหกรรม 20 2.16 แรงงาน 21 2.17 ทอ่ งเทยี่ ว 23 2.18 ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม 30 31 32
ส่วนที่ 3 สรปุ ปัญหาสาํ คัญของจังหวดั 34ส่วนที่ 4 3.1 ปญั หาความปลอดภยั ในชวี ติ และทรัพยส์ นิ 34 3.2 ปญั หาการแพรร่ ะบาดของยาเสพตดิ 34 3.3 ปญั หาแรงงานต่างด้าว 36 3.4 ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม 37 37 - คณุ ภาพนาํ้ 37 - ขยะมลู ฝอย 38 - คณุ ภาพอากาศและเสยี ง 38 3.5 ปญั หาทางสังคม 49 วิสัยทัศน์ และยทุ ธศาสตร์การพฒั นาจงั หวัด 49 - วิสยั ทัศน์ 49 - พนั ธกจิ 50 - กลยุทธ์
‐ 5 ‐ สว่ นท่ี ๑ ประวัติความเป็นมา ดวงตรา คําขวญั ธง ตน้ ไม้ และดอกไมป้ ระจําจงั หวัด ๑.๑ ความเปน็ มาของจังหวดั ปทุมธานี เดิมจังหวัดปทุมธานีเป็นถ่ินฐานบ้านเมืองแล้ว ไม่น้อยกว่า ๓๐๐ ปี นับต้ังแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา คือ เมื่อพุทธศักราช ๒๒๐๒ มังนันทมิตรได้กวาดต้อนครอบครัวมอญเมืองเมาะตะมะ อพยพหนีภัยจากศึกพม่า เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ครอบครัวมอญเหล่าน้ัน ไปต้ังบ้านเรือนอยู่ที่บ้านสามโคก จากนั้นมาชุมชนสามโคกได้พัฒนามากขึ้นเป็นลําดับ ต่อมาในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี ชาวมอญได้อพยพหนีพม่าเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร อีกเป็นคร้ังที่ ๒สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ อนุญาตให้ต้ังบ้านเรือนท่ีบ้านสามโคก และครั้งสุดท้ายในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้มีการอพยพชาวมอญคร้ังใหญ่จากเมืองเมาะตะมะ เข้าสู่ประเทศไทยเรียกว่า “มอญใหญ่” พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ชาวมอญบางส่วนต้ังบ้านเรอื นอยูท่ ่บี ้านสามโคกอีกเชน่ เดียวกัน ฉะนั้นจากชุมชนขนาดเลก็ “บ้านสามโคก” จงึ กลายเป็น “เมืองสามโคก” ในกาลตอ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลัย ทรงเอาพระทัยใส่ดูแล ทํานุบํารุงชาวมอญเมืองสามโคกมิได้ขาด คร้ังเมื่อเดือน ๑๑ พุทธศักราช ๒๓๕๘ ได้เสด็จประพาสออกเยี่ยมพสกนิกรท่ีเมืองสามโคก และประทับท่ีพลับพลาริมแม่นํ้าเจ้าพระยาฝั่งซ้ายเย้ืองเมืองสามโคก ยังความปลาบปล้ืมใจให้แก่ชาวมอญเป็นล้นพ้น จึงได้พากันหลงั่ ไหล นาํ ดอกบวั ข้ึนทลู เกล้าฯ ถวายเปน็ ราชสักการะอยเู่ ป็นเมอื งนจิ ยังความซาบซ้ึงในพระราชหฤทัยเป็นที่ย่ิง จึงบันดาลพระราชหฤทัยให้พระราชทานนามเมืองสามโคกเสียใหม่ว่า “เมืองประทุมธานี” ซึ่งวันน้ันตรงกับวันที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๓๕๘ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าวช่ือเมืองปทุมธานี จึงได้กําเนิดนับต้งั แต่บัดน้นั เป็นต้นมา ในปีพุทธศักราช ๒๔๕๙ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้คําว่า“จังหวัด” แทน “เมือง” และให้เปล่ียนการเขียนชื่อจังหวัดใหม่จาก “ประทุมธานี” เป็น “ปทุมธานี” ในวันท่ี ๑๙พฤษภาคม ๒๔๕๙ ตอ่ มาในสมยั พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยู่หวั ทรงโปรดเกลา้ ฯ ใหย้ ุบจังหวัดธัญบุรีมาขึ้นกับจังหวัดปทุมธานี เม่ือพ.ศ.๒๔๗๕ จังหวัดปทุมธานีจึงได้แบ่งการปกครองเป็น ๗ อําเภอ ดังที่เป็นเช่นปจั จบุ นั นี้ นับต้ังแต่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้พระราชทานนามเมืองประทุมธานีเป็นต้นมาจังหวัดปทุมธานีก็เจริญรุ่งเรืองข้ึนเป็นลําดับ เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ มีศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์อื่น ๆเป็นของตัวเอง ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีชาวปทุมธานีภาคภูมิเป็นอย่างย่ิง และเป็นจังหวัดในเขตปริมณฑลที่มีความเจริญรงุ่ เรอื งมากยงิ่ ขึน้ ตอ่ ไปในอนาคตอันใกล้
‐ 6 ‐ ๑.๒ สญั ลกั ษณ์จังหวดั ปทมุ ธานี (ตราประจาํ จงั หวัด) ตราสญั ลกั ษณ์จงั หวัดปทมุ ธานี รปู วงกลมมีสญั ลกั ษณด์ อกบัวหลวงสชี มพอู ยู่ตรงกลาง และรวงข้าวสีทองอยู่ ๒ ข้าง ดอกบัวและตน้ ขา้ ว หมายถงึ ความสมบูรณด์ ้วย พืชพนั ธ์ุธญั ญาหาร จงั หวดั ปทุมธานี ใชอ้ กั ษรยอ่ ว่า \"ปท\" คําขวญั ของจงั หวัดปทมุ ธานี “ถ่นิ บัวหลวง เมืองรวงขา้ ว เชอื้ ชาวมอญ นครธรรมะ พระตาํ หนกั รวมใจ สดใสเจา้ พระยา กา้ วหน้าอุตสาหกรรม”
‐ 7 ‐ ธงประจําจงั หวดัความหมายของธงประจาํ จังหวดั สีนาํ้ เงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ สขี าว หมายถงึ ศาสนา ดอกบวั หลวงกับต้นขา้ ว หมายถงึ ความอดุ มสมบรู ณ์ดว้ ยพืชพันธุธ์ ญั ญาหารโดยเฉพาะอย่างย่ิงดอกบัวและข้าว ความหมายรวมของธงประจําจังหวัดปทุมธานี จึงหมายถึงว่าชาวจังหวัดปทุมธานี เป็นหมู่คณะท่ีมีความรักและความสามัคคีเป็นปึกแผ่นอันเป็นส่วนหน่ึงของชาติไทย ที่มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาพระมหากษตั ริย์ความสาํ คัญของธงประจาํ จังหวดั ปทุมธานี เป็นการเชิดชเู กยี รติของจงั หวัด บง่ บอกถึงสัญลกั ษณข์ องจังหวัด เป็นเคร่ืองยึดเหนี่ยวนํ้าใจชาวจังหวัดปทุมธานี ให้มคี วามรกั ทอ้ งถนิ่ และมีความร่วมมือร่วมใจกนั สรา้ งสรรค์ ความเจรญิ และมคี วามเออ้ื อารตี ่อกนัดอกไมป้ ระจาํ จังหวดั ปทมุ ธานี ต้นไมป้ ระจําจงั หวัดดอกบัวหลวง ตน้ ปารชิ าติ
‐ 8 ‐ สว่ นท่ี ๒ ขอ้ มลู ท่ัวไปจงั หวดั ปทุมธานี ๒.๑. ทตี่ ้งั และอาณาเขตของจังหวดั ปทุมธานี จังหวัดปทุมธานีตั้งอยู่ในภาคกลางประมาณเส้นรุ้งท่ี ๑๔ องศาเหนือ และเส้นแวงที่ ๑๐๐ องศาตะวนั ออก อยู่เหนอื ระดับน้ําทะเลปานกลาง ๒.๓๐ เมตร มีเน้อื ทีป่ ระมาณ ๑,๕๒๕.๘๕๖ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๙๕๓,๖๖๐ ไร่ ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ (ถนนพหลโยธนิ ) เปน็ ระยะทางประมาณ ๒๗.๘ กโิ ลเมตร มอี าณาเขตตดิ ตอ่ กับจังหวดั ใกลเ้ คยี ง คือ - ทิศเหนือ ติดต่อกับอําเภอบางไทร อําเภอบางปะอินและอําเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอําเภอหนองแค และอําเภอวหิ ารแดง จังหวดั สระบรุ ี - ทิศตะวันออก ติดต่อกับอําเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก และอําเภอบางน้ําเปรี้ยว จังหวัดฉะเชงิ เทรา - ทิศตะวันตก ติดต่อกับอําเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อําเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม และอาํ เภอไทรนอ้ ย จังหวัดนนทบรุ ี - ทิศใต้ ติดต่อกับเขตหนองจอก เขตคลองสามวา เขตสายไหม เขตบางเขน เขตดอนเมืองกรุงเทพมหานคร และอาํ เภอปากเกรด็ อาํ เภอบางบวั ทอง จงั หวัดนนทบุรีแผนทแ่ี สดงขอบเขตจงั หวัดปทุมธานี
‐ 9 ‐ ๒.๒. ลักษณะภูมปิ ระเทศ พ้ืนที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเป็นที่ราบลุ่มริมสองฝั่งแม่น้ําโดยมีแม่นํ้าเจ้าพระยาไหลผ่านใจกลางจังหวัดในเขตอําเภอเมอื งปทมุ ธานแี ละอําเภอสามโคก ทําให้พื้นท่ีของจังหวัดปทุมธานีถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ฝั่งตะวนั ตกของจงั หวดั หรือบนฝัง่ ขวาของแมน่ าํ้ เจ้าพระยาได้แก่ พื้นท่ีในเขตอําเภอลาดหลุมแก้วกับพื้นท่ีบางส่วนของอําเภอเมือง และอําเภอสามโคก กับฝั่งตะวันออกของจังหวัด หรือบนฝ่ังซ้ายของแม่น้ําเจ้าพระยา ได้แก่พื้นที่อําเภอเมืองบางส่วน อําเภอธัญบุรี อําเภอคลองหลวง อําเภอหนองเสือ อําเภอลําลูกกา และบางส่วนของอําเภอสามโคกโดยปกติระดับนํ้าในแม่นํ้าเจ้าพระยาในฤดูฝนจะเพ่ิมสูงข้ึนเฉล่ียประมาณ ๕๐ เซนติเมตรซ่ึงทําให้เกิดภาวะนํ้าท่วมในบริเวณพื้นที่ราบริมฝั่งแม่น้ําเจ้าพระยาเป็นบริเวณกว้าง และก่อให้เกิดปัญหาอทุ กภยั ในพ้ืนที่ฝ่ังขวาของแม่นํ้าเจ้าพระยา สําหรับพื้นที่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ําเจ้าพระยานั้น เนื่องจากประกอบด้วยคลองซอยเป็นคลองชลประทานจํานวนมาก สามารถควบคุมจํานวนปริมาณนํ้าได้ ทําให้ปัญหาเก่ียวกับอุทกภยั มีนอ้ ยกว่า ๒.๓. ลักษณะของดนิ พ้ืนที่จังหวัดส่วนใหญ่เป็นท่ีราบลุ่ม ดินมีลักษณะเป็นดินเหนียวจัด สภาพดินเป็นกรดปานกลางถึงเป็นกรดจัด มี pH ประมาณ ๖ - ๔ ซึ่งเป็นลักษณะของดินเปรี้ยว โดยจําแนกได้ดังน้ี (๑) ดินเปร้ียวน้อยมีเน้ือท่ี ๓๕,๙๖๔.๐๖ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๕.๒๐ (๒) ดินเปร้ียวปานกลาง ๔๒๖,๒๙๒.๕๔ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๖๑.๕๘ (๓) ดินเปร้ียวจัด ๒๒๙,๙๙๑.๐๔ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๒๒ ซ่ึงสภาพพื้นท่ีดังกล่าวทําให้ไมเ่ หมาะสมกบั การปลูกพชื ไร่ และการปลกู ขา้ วได้ผลผลติ ต่าํ ซง่ึ ตอ้ งมีการปรบั ปรงุ โดยการใชป้ ูนขาว หรือปูนมาร์ล ควบคู่กบั การใช้ป๋ยุ เคมีเพอ่ื ใหก้ ารเพาะปลูกไดผ้ ลผลติ ดีขึน้ ๒.๔. ลกั ษณะภมู อิ ากาศ จงั หวดั ปทมุ ธานี ตง้ั อยู่ภาคกลางของประเทศไทย ต้ังอยู่ท่ี ละติจูด 14 องศา 6 ลิปดาเหนือ ลองติจูด100 องศา 37 ลิปตา ตะวันออก สงู จากระดับนํ้าทะเลปานกลาง 6 เมตร มีลักษณะอากาศแบบทุ่งหญ้าเมืองร้อน คือ มีฝนตกปานกลางและสลับฤดูแล้ง บริเวณภาคกลางตอนล่าง อากาศจะชุ่มช้ืน เน่ืองจากต้ังอยู่ใกล้ทะเลอ่าวไทย ปจั จัยที่ควบคุมอุณหภูมิได้รับอิทธิพลจาก ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ท่ีนําความชุ่มชื้นมาสู่จังหวัดโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27-28 องศาเซลเซียส ซึ่งอากาศค่อนข้างร้อน ปริมาณนํ้าฝนเฉล่ียประมาณ1,375 มม. ฝนตกมากสดุ ในเดอื น กนั ยายน ๒.๕. การแบ่งเขตการปกครอง ในปัจจุบัน จังหวัดปทุมธานีแบ่งการปกครองส่วนภูมิภาคออกเป็น ๗ อําเภอ ๕๓ ตําบล ๔๖๐หมู่บ้าน การปกครองส่วนท้องถิ่นประกอบไปด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด ๑ แห่ง เทศบาลนคร ๑ แห่งเทศบาลเมือง ๙ แห่ง เทศบาลตําบล ๑๗ แห่ง และองค์การบริการส่วนตําบล ๓๗ แห่ง อําเภอประกอบไปด้วย อําเภอเมืองปทุมธานี อําเภอธัญบุรี อําเภอคลองหลวง อําเภอลําลูกกา อําเภอลาดหลุมแก้ว อําเภอสามโคก และอําเภอหนองเสือ
‐ 10 ‐ ๒.๖. จาํ นวนประชากร จังหวัดปทุมธานี มีประชากร ณ วนั ที่ ๓๐ ธ.ค. ๒๕๕๔ ทงั้ ส้ิน ๑,๐๐๕,๗๖๐ คน เพิ่มข้ึนจากปี ๒๕๕๓คิดเป็นร้อยละ ๒.๐๔ จําแนก เป็นชาย ๔๗๘,๑๘๒ คน หญิง ๕๒๗,๕๗๘ คน จํานวนประชากรชายคิดเป็นร้อยละ ๔๗.๕๔ ประชากรหญิงคิดเป็นร้อยละ ๕๒.๔๖ ของประชากรท้ังหมด มีจํานวนครัวเรือนทั้งส้ิน๔๗๐,๖๙๘ ครัวเรอื น ลดลงจากปี ๒๕๕๓ คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๑.๑๖ตารางที่ ๑ : แสดงจาํ นวนประชากรตามทะเบยี นราษฎรข์ องจงั หวดั ปทมุ ธานี อาํ เภอ ชาย (คน) หญงิ (คน) รวม (คน) จาํ นวนครัวเรือน เมืองปทมุ ธานี 85,820 93,602 179,422 84,216 189,689 88,001 ธัญบรุ ี 89,242 100,447 237,171 120,836 238,520 115,283 คลองหลวง 110,571 126,600 58,272 27,995 52,453 19,389 ลําลูกกา 113,582 124,938 50,233 14,978 1,005,760 470,698 ลาดหลมุ แก้ว 28,478 29,794 สามโคก 25,525 26,928 หนองเสือ 24,964 25,269 รวม 478,182 527,578ทีม่ า : ทท่ี าํ การปกครองจังหวดั ปทมุ ธานี: ๓0 กันยายน ๒๕๕4 ประชากรแฝง ประเมินไว้มีจํานวนรวม 382,592 คน โดยเข้ามาทํางานเป็นแรงงานตามสถานที่ต่าง ๆเช่น สถานท่ีกอ่ สร้าง ตลาดสด และโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯตารางที่ ๒ : แสดงจาํ นวนประชากรแฝงในพนื้ ที่จังหวดั ปทุมธานี อําเภอ ประชากรแฝง รวม (คน) สถานท่ที ํางานของประชากร แหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล แฝง ชาย (คน) หญิง (คน) ปค.อ.เมืองปทมุ ธานี ปค.อ.ลาดหลมุ แกว้ เมืองปทมุ ธานี 44,711 โรงงานอตุ สาหกรรม ปค.อ.สามโคก ลาดหลุมแก้ว 2,665 2,489 5,154 โรงงานอุตสาหกรรม ปค.อ.คลองหลวง ปค.อ.หนองเสือ สามโคก 22,850 โรงงานอุตสาหกรรม หอ้ งเช่า ปค.อ.ธญั บุรี หมู่บ้านจัดสรร ปค.อ.ลาํ ลกู กา คลองหลวง 17,363 11,877 29,240 โรงงานอตุ สาหกรรม หม่บู ้าน จัดสรร ตลาดไท หนองเสอื - - - โรงงานอตุ สาหกรรม สวนพืชผกั ธัญบรุ ี 78}400 86}687 165,087 โรงงานอตุ สาหกรรม ยา่ นการคา้ หอพกั สถานประกอบการ ลาํ ลกู กา 57,160 58,450 115,550 หมบู่ ้านจัดสรร รวม 382,592ท่ีมา : ทที่ ําการปกครองอาํ เภอทุกอําเภอ: กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕5
‐ 11 ‐ ข้อมูลแรงงานต่างด้าวทหี่ ลบหนเี ขา้ เมอื ง จังหวดั ปทมุ ธานี ปี ๒๕๕๔แรงงานต่างดา้ ว ๓ สญั ชาติ ทง้ั หมด ๕๐,๐๓๒ รายนายจ้าง / สถานประกอบการทง้ั หมด ๙,๕๔๑ รายตารางที่ 3 แสดงจาํ นวนแรงงานกลมุ่ ใบอนญุ าตหมดอายุ 20 มกราคม 2555 แยกตามสญั ชาติ / เพศ เพศ พม่า สัญชาติ กมั พูชา รวม ผู้ประกอบการ ลาว (ราย) ชาย 68 - - 68 หญิง 72 1 - 73 104 ราย รวม 140 1 - 141ตารางที่ 4 แสดงจาํ นวนแรงงานกลมุ่ ใบอนุญาตหมดอายุ 14 มิถนุ ายน 2555 แยกตามสัญชาติ / เพศ เพศ พมา่ สญั ชาติ กัมพชู า รวม ผปู้ ระกอบการ ลาว (ราย) ชาย 11,438 3,161 9,675 24,274 หญิง 9,167 2,423 5,871 17,461 6,738 ราย รวม 22,605 5,584 15,546 43,735สรปุ ข้อมูลแรงงานตา่ งดา้ วถกู กฎหมาย จงั หวดั ปทมุ ธานี ปี ๒๕๕๔แรงงานตา่ งดา้ วถูกกฎหมายทั้งหมด ๒๘,๗06 รายนายจ้าง / สถานประกอบการท้งั หมด ๙,๓๙๙ รายตารางท่ี 5 แสดงข้อมลู แรงงานต่างดา้ วถกู กฎหมายจงั หวัดปทมุ ธานี ปี 2554 แยกตามสัญชาติ / เพศ เพศ พม่า สญั ชาติ กมั พูชา รวม ผู้ประกอบการ ลาว (ราย) ชาย 9,841 1,037 2,562 13,440 หญิง 8,499 1,121 2,407 12,027 8,857 ราย รวม 18,340 2,158 4,969 25,467
‐ 12 ‐ ตารางที่ 6 แสดงกล่มุ แรงงานตา่ งดา้ วนําเข้า MOU แยกตามสญั ชาติ / เพศ เพศ พมา่ สญั ชาติ กัมพูชา รวม ผปู้ ระกอบการ ลาว (ราย) ชาย 0 559 1,189 1,748 542 ราย หญิง 0 512 979 1,491 รวม 0 1,071 2,168 3,239 ๒.๗. การศกึ ษา จังหวัดปทุมธานีแบ่งพ้ืนท่ีการศึกษาระดับประถมศึกษาเป็น 2 เขต ประกอบด้วย สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ครอบคลุมพ้ืนท่ี ๔ อําเภอ คือ อําเภอเมืองปทุมธานี คลองหลวงสามโคก และอาํ เภอลาดหลมุ แก้ว สํานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานี เขต ๒ ครอบคลมุ พ้ืนที่๓ อําเภอ ได้แก่ อําเภอธัญบุรี ลําลูกกา และอําเภอหนองเสือ และสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต4 ครอบคลุมพื้นท่ี 7 อําเภอ ได้แก่ อําเภอเมืองปทุมธานี คลองหลวง สามโคก อําเภอลาดหลุมแก้วอําเภอธัญบุรี ลําลูกกา และอําเภอหนองเสือ ในปีการศึกษา ๒๕๕4 มีสถานศึกษาในสังกัดสํานักงานคณะกรรมการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและ อื่น ๆ รวม ๑๙1 แห่ง และสํานักงานบริหารงานการศึกษาเอกชน ๘2 แห่งรวม ๒73 แห่ง จาํ นวนห้องเรยี น 5,080 หอ้ งเรยี น ครู 6,326 คน นักเรยี นจํานวน 1,039,876 คนตารางท่ี 7 : แสดงจํานวนโรงเรียน ห้องเรียน ครู ของสถานศึกษาในสังกัดสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาปทมุ ธานี เขต ๑ เขต ๒ และ เขต 4 อาํ เภอ จาํ นวนโรงเรยี น จาํ นวนหอ้ ง จํานวนครู รฐั / อ่นื ๆ เอกชน รวม รัฐ/ อนื่ ๆ เอกชน รวม รัฐ/ อ่ืน ๆ เอกชน รวม เมอื งฯ 29 20 ๔9 ๖๖2 304 966 949 467 ๑,416 ธญั บุรี ๑๔ ๒3 ๓7 537 673 1,210 724 674 ๑,398คลองหลวง ๓7 13 50 619 212 831 939 234 1,173ลาํ ลูกกา ๓4 20 ๕4 ๕๓1 578 ๑,1๐๙ 664 607 ๑,271ลาดหลมุ ๒๖ 3 29 314 61 ๓7๕ 405 72 ๔77 แก้วสามโคก ๒4 1 25 ๒50 23 ๒๗3 262 23 285หนองเสอื ๒๗ ๒ ๒๙ ๒๘8 ๒8 ๓16 287 19 306 รวม 191 82 273 ๓,๒01 ๑,879 5,080 4,230 ๒,096 6,326ทีม่ า : สาํ นักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต ๑ เขต ๒ และ มธั ยมศึกษา เขต 4
‐ 13 ‐ ตารางที่ 8 : จาํ นวนนกั เรียนของสถานศกึ ษาในสังกดั สาํ นกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาปทมุ ธานีเขต ๑ เขต ๒ และ มธั ยมศกึ ษา เขต 4 อาํ เภอ จํานวนนกั เรยี น ภาครัฐ/อน่ื ๆ ภาคเอกชน รวม เมืองฯ 22,869 9,161 32,030 ธญั บุรี 13,934 16,812 30,746 คลองหลวง 25,578 5,747 31,325 ลาํ ลกู กา 17,071 13,530 30,601 ลาดหลุมแกว้ 8,523 2,044 10,567 สามโคก 4,719 426 5,145 หนองเสอื 6,482 380 6,862 รวม 99,176 48,100 1,039,876ทีม่ า : สาํ นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑ เขต ๒ และ มัธยมศึกษา เขต 4 การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดปทุมธานีมีสถานศึกษาในสังกัดของสํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั ปทมุ ธานี ๗ แหง่ และห้องสมุดประชาชน ๗ แห่ง ได้แก่๑. ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอเมืองปทุมธานี๒. ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอําเภอสามโคก๓. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอําเภอลาดหลุมแก้ว๔. ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอําเภอลําลกู กา๕. ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอคลองหลวง๖. ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอําเภอธัญบุรี๗. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอําเภอหนองเสือ มหี ้องสมุดประชาชน ๗ แหง่ ไดแ้ ก่๑. หอ้ งสมุดประชาชนจังหวัดปทมุ ธานี๒. ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมารี” อาํ เภอลาดหลมุ แก้ว๓. ห้องสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี อําเภอธญั บุรี๔. หอ้ งสมดุ ประชาชนอาํ เภอสามโคก๕. ห้องสมดุ ประชาชนอาํ เภอคลองหลวง๖. ห้องสมดุ ประชาชนอําเภอลําลกู กา๗. ห้องสมุดประชาชนอําเภอหนองเสือ
‐ 14 ‐ ๒.๘. สาธารณสขุ จังหวัดปทุมธานีมีสถานพยาบาล ประกอบด้วย โรงพยาบาลท่ัวไป ๑ แห่ง โรงพยาบาลชุมชน ๗ แห่งโรงพยาบาลเฉพาะทาง ๒ แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 6 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงอื่น ๑ แห่งสถานพยาบาลท่ีรับไว้ค้างคืน 1 แห่ง สถานีอนามัย ๗๘ แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาล 14 แห่งคลินิก (ทกุ ประเภท) ๔๓๙ แหง่ จาํ นวนเตยี ง ๒,๘๕๒ เตยี ง สําหรับบุคลากรด้านสาธารณสุข ประกอบด้วย แพทย์ 92 คน ทันตแพทย์ 50 คน เภสัชกร 68คน อัตราสว่ นแพทย์ต่อจํานวนประชากรจงั หวดั ปทมุ ธานี เมื่อปี ๒๕๕๕ เท่ากับ ๑: 14,42๐ คน ตํ่ากว่ามาตรฐาน (แพทย์มาตรฐาน ๑: ๖,๐๐๐ คน)ตารางที่ ๙ แสดงจํานวนสถานพยาบาลและอัตราส่วนเตียงตอ่ ประชากร จงั หวัดปทมุ ธานี ปงี บประมาณ 2555ประเภทสถานบรกิ าร จํานวน (แหง่ ) จํานวน (เตยี ง) อัตราสว่ น เตยี งต่อประชากรจังหวัด ปี ๒๕๕๕ (ประชากร ณ ธ.ค. ๒๕๕๔) 1,010,898โรงพยาบาลท่ัวไป ๑ ๓๗๗ ๑ : 2,681โรงพยาบาลชุมชน ๗ ๒๔๐ ๑ : 4,212โรงพยาบาลเฉพาะทาง 2 858 ๑ : 1,178โรงพยาบาลสงั กัดกระทรวงอื่น 1 509 ๑ : 1,986โรงพยาบาลเอกชน 6 828 ๑ : 1,221สถานพยาบาลทรี่ ับไว้คา้ งคืน 1 40 ๑ : 25,272โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตําบล ๗๘ - -ศูนย์บรกิ ารสาธารณสุขเทศบาล 14 - -คลนิ กิ ทุกประเภท 439 - -รวม 549 2,852 ๑ : 354ท่มี า : สํานักงานสาธารณสุขจงั หวดั ปทมุ ธานีตารางท่ี ๑๐ แสดงอตั รากําลงั บคุ ลากรด้านสาธารณสขุ ปงี บประมาณ ๒๕๕๕ประเภทบุคลากร จาํ นวนทค่ี วรมี จาํ นวนที่มีจรงิ อตั ราสว่ น ตอ่ ประชากรจงั หวัด (คน) (คน) ปี ๒๕๕๕แพทย์ 133 92ทันตแพทย์ 67 50 ๑ : 14,420เภสชั กร 111 68 ๑ : 26,532 ทีม่ า : สํานักงานสาธารณสขุ จงั หวดั ปทมุ ธานี ๑ : 19,509
‐ 15 ‐ ตารางที่ ๑๑ แสดงความครอบคลมุ ของการมหี ลกั ประกนั สุขภาพของประชาชนในจงั หวดั ปทมุ ธานีปงี บประมาณ ๒๕๕๕ ประเภทหลกั ประกันสขุ ภาพ ปงี บประมาณ ๒๕๕๕ จาํ นวน (คน) รอ้ ยละขา้ ราชการ 92,699 10.36ประกันสงั คม 225,314 25.19UC (ลงทะเบยี นกบั หนว่ ยบรกิ ารในและนอกจังหวดั ) 541,625 60.54สทิ ธอิ ื่น 4,982 0.56รอพสิ จู นส์ ถานะ 24,673 2.76สทิ ธวิ า่ ง 4,009 0.45บคุ คลท่ีมปี ญั หาสถานะและสทิ ธิ 1,296 0.14ทม่ี า : สาํ นกั งานสาธารณสุขจงั หวัดปทุมธานี (ขอ้ มลู ณ วันท่ี ๘ ตลุ าคม ๒๕๕๕) ๒.๙. ศาสนาและวัฒนธรรม ประชาชนในจังหวัดปทุมธานีส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาคือ ศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ ตามลําดับ สําหรับจํานวนศาสนสถานในจังหวัดโดยจําแนกได้ดังนี้ วัดในพุทธศาสนา 185 แห่ง มัสยิด๓๐ แห่ง โบสถ์ (ครสิ ต)์ ๓9 แห่งตารางท่ี 12 : แสดงจาํ นวนศาสนสถาน แยกตามพื้นทีอ่ ําเภอ อําเภอ/ตาํ บล จํานวนศาสนสถาน พทุ ธ ครสิ ต์ อสิ ลามอําเภอเมืองปทมุ ธานี 41 5 3 4อาํ เภอคลองหลวง 23 10 1 2อําเภอธญั บรุ ี 10 12 11 6อําเภอสามโคก 40 1 3 30อําเภอลาํ ลกู กา 33 8อําเภอลาดหลมุ แก้ว 18 2อําเภอหนองเสอื 20 1 รวม 185 39 ทม่ี า : สาํ นกั งานวฒั นธรรมจังหวดั ปทมุ ธานีและสาํ นกั พระพุทธศาสนาจังหวัดปทมุ ธานี
‐ 16 ‐ ตารางที่ ๑3 : แสดงการนบั ถอื ศาสนาประชากรระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๓จงั หวดั /อําเภอ/ การนบั ถอื ศาสนา ตาํ บล ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ พทุ ธ คริสต์ อิสลาม พทุ ธ คริสต์ อสิ ลามจงั หวดั ปทมุ ธานี ๙๐๕,๔๗๐ ๔,๑๘๘ ๔๖,๗๑๘ ๙๓๓,๘๘๒ ๔,๓๔๒ ๔๗,๔๑๙อาํ เภอเมืองปทุมธานี ๑๖๙,๒๕๕ ๖๖๗ ๙๔๐ ๑๗๓,๘๘๘ ๖๒๐ ๙๖๓อําเภอคลองหลวง ๒๑๑,๗๘๑ ๗๙๑ ๘,๐๐๑ ๒๒๑,๖๙๗ ๘๔๓ ๘,๐๐๒อําเภอธญั บรุ ี ๑๘๓,๘๖๑ ๒๘๕ ๔๕๑ ๑๘๗,๐๘๘ ๓๐๓ ๔๘๖อําเภอสามโคก ๔๖,๐๖๓ ๖๙๐ ๕,๐๐๙ ๔๖,๑๖๗ ๘๐๖ ๕,๑๕๐อําเภอลาํ ลกู กา ๒๐๗,๐๔๕ ๑,๖๒๘ ๑๕,๗๖๗ ๒๑๕,๐๘๗ ๑,๖๒๗ ๑๖,๒๐๔อําเภอลาดหลมุ แก้ว ๔๒,๒๙๑ ๑๒๗ ๑๒,๔๓๖ ๔๔,๒๒๙ ๑๔๓ ๑๒,๕๐๘อาํ เภอหนองเสอื ๔๕,๑๗๔ - ๔,๐๘๔ ๔๕,๗๒๖ - ๔,๑๐๖ รวม ๙๐๕,๔๗๐ ๔,๑๘๘ ๔๖,๗๑๘ ๙๓๓,๘๘๒ ๔,๓๔๒ ๔๗,๔๑๙ท่ีมา : สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี และสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี: กุมภาพันธ์๒๕๕๕ ๒.๑๐. ความปลอดภยั ในชีวิตและทรพั ย์สิน จังหวัดปทุมธานีมีคดีประเภทประทุษร้ายต่อทรัพย์สูงขึ้นเป็นระยะมีสาเหตุจากการท่ีมีจํานวนประชากรในพ้ืนที่เพ่ิมสูงข้ึน เน่ืองจากประชาชนต่างท้องถ่ินต่างเข้ามาทํางานตามสถานประกอบการต่างๆเช่น โรงงานอุตสาหกรรม หมู่บ้านจัดสรร และห้างสรรพสินค้า รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่เข้ามาศึกษาในสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษาในเขตจังหวัด โดยท่ีปัญหาอาชญากรรมที่ประกอบโดยเด็กและเยาวชนไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ มั่วสุม ยาเสพติด ทะเลาะวิวาท ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ หรืออาชญากรรมรุนแรง มีแนวโน้มเพิ่มข้ึนท้ังในแง่ความรุนแรงและปริมาณ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งช้ีว่าเด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนท่ีนําไปสู่อาชญากรรมเพ่ิมข้ึนซึ่งมีสาเหตุมาจากการเลียนแบบพฤติกรรมท่ีมีการเผยแพร่ทางสื่อที่ไร้พรมแดน และจากการท่ีค่าครองชีพสูงข้ึน การใช้จ่ายจนเกินตัว น้ันเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลบางกลุ่มจึงทําให้มีการก่ออาชญากรรมในคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ สําหรับปัญหาอาชญากรรมท่ีเกิดขึ้นในชุมชนเมือง จะเกิดปัญหาในชุมชนแออัดเพราะสถานที่ดังกล่าวมีบุคคลหลายประเภทซึ่งบุคคลท่ัวไปสามารถเข้าออกชุมชนได้ตลอดเวลา เป็นแหล่งรวมบุคคลประเภทติดยาเสพติด คนจรจัดที่ยากตอ่ การควบคุม
‐ 17 ‐ ตารางที่ ๑4 : แสดงสถติ คิ ดอี าญา ๕ กลมุ่ ของ ภ.จว.ปทมุ ธานเี ปรียบเทยี บปี ๒๕๕๓ กบั ปี ๒๕๕๔ ปี ปงี บ ๒๕๕3 ปงี บ ๒๕๕4ประเภทความผดิ เกดิ จบั เกดิ จบั ๖๐๑. คดอี กุ ฉกรรจแ์ ละสะเทอื นขวญั ๙๘ ๕๙ ๙๑ ๓๐๑ ๗๗๐๒. คดปี ระทษุ รา้ ยต่อชวี ติ รา่ งกายเพศ ๖๔๗ ๓๒๕ ๕๘๘ ๑๙๔ ๗,๗๔๙๓. คดปี ระทษุ ร้ายตอ่ ทรพั ย์(รวม) ๑,๖๑๘ ๗๗๘ ๑,๕๓๕ ๔,๘๗๕๔. คดที นี่ า่ สนใจ (รวม) ๑,๒๔๙ ๒๐๐ ๑,๑๓๙๕. คดที ร่ี ฐั เปน็ ผเู้ สยี หาย (รวม) ๗,๖๖๘ ๙,๑๖๕ ๕,๙๕๕๖. คดียาเสพตดิ ๖,๖๒๕ ๖,๗๓๙ ๔,๗๓๘ทม่ี า : กองบงั คับการตาํ รวจภูธรจงั หวัดปทมุ ธานี : กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๕ (ศนู ย์ปฏิบัตกิ ารจังหวัด) ๒.๑๑. ผลิตภณั ฑม์ วลรวมจงั หวัดปทุมธานี ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GROSS PROVINCIAL PRODUCT AT CURRENT MARKET PRICES)ในปีพ.ศ. ๒๕๕๓ มีมูลค่ารวม ๒๙๐,๗๗๑ ล้านบาท เพ่ิมขึ้นจากปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ ๑๓.๐ เป็นมูลค่าผลิตภัณฑ์ในภาคเกษตรกรรม ๘,๐๘๘ ล้านบาท เพิ่มข้ึนจากปีท่ีผ่านมาร้อยละ ๓๖.๖ และภาคนอกเกษตร๒๘๒,๖๘๓ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ ๑๒.๔ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากร (Per capita GPP)เทา่ กบั ๓๔๙,๑๕๗ บาท เพิม่ ข้ึนจากปที ่ีผา่ นมารอ้ ยละ ๑๑.๔
‐ 18 ‐ ตารางท่ี ๑5 : ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดปทุมธานี ณ ราคาประจําปี จําแนกตามรายสาขาการผลิต (วิธีTop Down) หน่วย : ลา้ นบาทลําดบั สาขา ๒๕๔๙ ๒๕๕๐ ๒๕๕๑ ๒๕๕๒ ๒๕๕๓ ภาคเกษตร ๔,๕๔๕ ๔,๙๑๐ ๕๙๖๒ ๕,๙๒๒ ๘,๐๘๘ ๑. สาขาพชื ผล ปศสุ ตั ว์ และการปา่ ไม้ ๔,๑๙๑ ๔,๕๓๔ ๕,๖๖๒ ๕,๕๘๓ ๗,๗๓๕ ๒. สาขาประมง ๓๕๔ ๓๗๖ ๓๐๐ ๓๓๘ ๓๕๓ ภาคนอกเกษตร ๑๘๕,๓๕๑ ๑๙๓,๓๔๒ ๒๒๐,๔๗๐ ๒๕๑,๔๔๙ ๒๘๒,๖๘๓ ๓. สาขาเหมืองแร่และย่อยหิน ๕๑ ๔๖ ๔๗ ๔๘ ๕๔ ๔. สาขาอุตสาหกรรม ๑๒๙,๓๗๑ ๑๓๓,๗๑๒ ๑๕๖,๒๕๐ ๑๘๖,๕๕๔ ๒๑๓,๖๒๖ ๕. สาขาไฟฟา้ ประปา และโรงแยกก๊าซ ๘,๑๑๗ ๗,๙๔๗ ๗,๔๑๘ ๘,๔๖๘ ๙,๒๕๕ ๖. สาขาก่อสรา้ ง ๗,๙๖๒ ๗,๗๐๓ ๗,๗๐๔ ๖,๕๓๗ ๖,๖๑๗ ๗. สาขาการขายส่ง การขายปลีก การ ๙,๒๘๔ ๑๐,๔๕๓ ๑๑,๙๓๖ ๑๑,๗๘๓ ๑๑,๗๘๙ ซอ่ มแซมยานยนต์ จกั รยานยนต์ ของใช้ สว่ นบคุ คลและของใชใ้ นครวั เรอื น ๘. สาขาโรงแรมและภัตตาคาร ๖,๙๒๑ ๗,๖๕๔ ๘,๓๓๕ ๘,๗๐๔ ๙,๕๑๓ ๙. สาขาการขนส่ง สถานทเี่ ก็บสินคา้ และการ ๕,๒๓๙ ๕,๙๑๓ ๖,๕๙๐ ๖,๖๑๘ ๖,๖๖๙ คมนาคม ๑๐. สาขาตวั กลางทางการเงนิ ๓,๔๗๒ ๓,๘๗๔ ๔,๕๒๖ ๔,๘๒๒ ๕,๑๕๓ ๑๑. สาขาบริการดา้ นอสงั หารมิ ทรพั ย์ การให้ ๔,๔๑๕ ๔,๔๓๙ ๔,๓๓๒ ๔,๒๔๘ ๔,๘๒๘ เช่าและบริการทางธรุ กจิ ๑๒. สาขาการบรหิ ารราชการและการป้องกนั ๒,๕๗๓ ๒,๗๕๒ ๔,๐๙๖ ๔,๖๕๐ ๔,๘๔๓ ประเทศ รวมทง้ั การประกัน สงั คมภาค บงั คบั ๓,๘๙๘ ๔,๓๕๖ ๔,๖๔๑ ๔,๑๙๘ ๕,๑๑๒ ๑๓. สาขาการศกึ ษา ๒,๓๙๖ ๒,๕๕๑ ๒,๓๘๕ ๒,๔๖๒ ๒,๖๒๘ ๑๔. สาขาการบรกิ ารด้านสุขภาพและสังคม ๑,๕๘๗ ๑,๘๗๙ ๒,๐๗๓ ๒,๒๙๒ ๒,๕๓๖ ๑๕. สาขาการให้บริการด้านชมุ ชน สงั คมและ บริการสว่ นบคุ คลอื่นๆ ๑๖. สาขาลกู จา้ งในครัวเรือนสว่ นบคุ คล ๖๔ ๖๕ ๖๕ ๖๕ ๖๒ ผลติ ภัณฑ์มวลรวมจงั หวดั (GPP) ๑๘๙,๘๙๖ ๑๙๘,๒๕๒ ๒๒๖,๔๓๒ ๒๕๗,๓๗๑ ๒๙๐,๗๗๑ รายได้เฉล่ยี ตอ่ หัว (บาท) ๒๓๘,๘๔๒ ๒๔๖,๐๓๐ ๒๗๗,๗๕๕ ๓๑๓,๔๘๓ ๓๔๙,๑๕๗ จํานวนประชากร (๑,๐๐๐ คน) ๗๙๕ ๘๐๖ ๘๑๕ ๘๒๑ ๘๓๓ทมี่ า : สาํ นกั งานคลังจังหวัดปทุมธานี : กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๕ ๒.๑๒. ด้านการค้า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดปทุมธานีร่วมกับสํานักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ขอรายงานความเคลือ่ นไหวดชั นีราคาผ้บู รโิ ภคของจังหวดั ปทมุ ธานี เดอื นมกราคม 2555 โดยสรปุ การประมวลผลดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ มีรายการสินค้าและบริการที่ใช้คํานวณ จํานวน417 รายการ สําหรับจังหวัดปทุมธานี มีจํานวน 271 รายการ ครอบคลุมสินค้าหมวดอาหารและเคร่ืองดื่มเครื่องนุ่งห่ม เคหสถาน การตรวจรักษา และบริการส่วนบุคคล ยานพาหนะ การขนส่งและการส่ือสาร การ
‐ 19 ‐ บันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา ยาสูบและเคร่ืองด่ืมมีแอลกอฮอล์ เพ่ือนํามาคํานวณราคาผู้บริโภคของจงั หวัดปทมุ ธานี ได้ผลดงั นี้ 1. ดัชนรี าคาผูบ้ รโิ ภคทัว่ ไปของประเทศ เดอื นมกราคม 2555 ปี 2550 ดัชนรี าคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เทา่ กบั 100 และเดือนมกราคม 2555 เท่ากับ 113.21 เทียบกับเดือนธันวาคม 2554 เท่ากับ 112.77 สูงขึ้นร้อยละ 0.39 หากเทียบกับ เดือนมกราคม 2554 สูงขึ้นร้อยละ 3.38 (อัตราเงินเฟ้อ) ท้ังน้ี กระทรวงพาณิชย์คาดการณืเงิน เฟอ้ ทั้งปี 2555 เทา่ กบั รอ้ ยละ 3.30 – 3.80 2. ดชั นีราคาผบู้ รโิ ภคของจงั หวัดปทุมธานี เดือนมกราคม 2555 ปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดปทุมธานี เท่ากับ 100 และเดือนมกราคม 2555 เท่ากบั 113.1 และเดือนธนั วาคม 2554 เท่ากับ 113.2 3. การเปลีย่ นแปลงดัชนรี าคาผบู้ ริโภคของจงั หวดั ปทุมธานี เดอื นมกราคม 2555 เมือ่ เทยี บกบั 3.1 เดือนธนั วาคม 2554 ลดลงรอ้ ยละ 0.1 3.2 เดอื นมกราคม 2555 สูงขนึ้ ร้อยละ 3.6 4. ดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดปทุมธานี เดือนมกราคม 2555 เทียบกับเดือนธันวาคม 2554 ลดลงร้อยละ 0.1 (ธันวาคม 2554 ลดลงร้อยละ 0.9) สาเหตุจากสินค้าหมวดอาหารและเคร่ืองด่ืม ลดลงร้อยละ1.2 และหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครอื่ งด่มื สูงขนึ้ ร้อยละ 0.8 4.1 ดัชนีราคาหมวดอาหารและเคร่ืองดื่ม ลดลงร้อยละ 1.2 (เดือนธันวาคม 2554 ลดลงร้อยละ2.3) จากการลดลงของหมวดผักและผลไม้ ร้อยละ 6.1 เป็นการลดลงของผักสดและผลไม้ ร้อยละ 13.0และ1.8 ตามลําดับ ได้แก่ ผัดสดและผลไม้ชนิดต่างๆ (พริกสด ต้นหอม มะเขือเทศ ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ผักชีแตงกวา ถั่วลันเตา หัวผักกาดขาว ผักคะน้า กะหล่ําปลี หอมแดง ส้มเขียวหวานและมะม่วง) เป็นต้น รวมทั้งการลดลงของราคาเนื้อสุกร ไข่สด ไข่ไก่ ไข่เป็ด สําหรับหมวดสินค้าท่ีมีราคาสูงขึ้นได้แก่ ปลา สัตว์นํ้า และผลิตภัณฑ์นมชนิดต่างๆ (นมสด นมข้นหวาน ครีมเทียม) รวมท้ังการสูงขึ้นของหมวดข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแปง้ ร้อยละ 0.2 (ข้าวสารเจ้า และแป้งสาลี) เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 2.0 (เครื่องปรุงอาหารต่างๆเช่น ซอส ซอี ๊วิ น้ําส้มสายชู กาแฟพร้อมดื่ม บะหมี่ก่งึ สําเรจ็ รูป และอาหารปรุงสําเรจ็ ) 4.2 ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเคร่ืองด่ืม สูงข้ึนร้อยละ 0.8 (เดือนธันวาคม 2554 สูงขึ้นร้อยละ 0.3) โดยสินค้าสําคัญที่มีความเคลื่อนไหว คือ ราคาขายปลีกนํ้ามันเช้ือเพลิงในประเทศโดยเฉลี่ยปรับสูงข้ึนเม่ือเทียบกับเดือนก่อน ร้อยละ 4.8 ค่ากระแสไฟฟ้า ร้อยละ 2.1 ค่าน้ําประปา ร้อยละ 1.2 สิ่งท่ีเกี่ยวกับทําความสะอาด (ผงซักฟอก) นํ้ายาล้างจาน แปรงสีฟันและเคร่ืองใช้เบ็ดเตล็ดภายในบ้าน เช่น จาน/ชาม 5. ถ้าพิจารณาเทียบกับเดือนมกราคม 2554 ดัชนีราคาสูงขึ้นร้อยละ 3.6 สาเหตุสําคัญจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเคร่ืองดื่ม ร้อยละ 6.5 โดยเป็นผลมาจากการสูงขึ้นของอาหารบริโภคในบ้านร้อยละ 20.4 เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์นํ้า ร้อยละ 5.7 อาหารบริโภคนอกบ้าน ร้อยละ 7.8 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 6.9 เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 5.1 ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 2.2เครือ่ งดม่ื ไม่มแี อลกอฮอล์ ร้อยละ 1.1 สําหบั ผักและผลไม้ ลดลงรอ้ ยละ 5.0 สําหรับดัชนีราคาสินค้าหมวดอ่ืนๆ ไม่ใช่อาหารและเคร่ืองดื่ม สูงขึ้น ร้อยละ 1.3 จากการสูงขึ้นของหมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนา ร้อยละ 6.7 (ค่าบัตรชมภาพยนตร์ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์เล้ียง (อาหารสัตว์เล้ียง) วารสารรายปักษ์ ค่าเล่าเรียน และค่าธรรมเนียมการศึกษา) หมวดยาสูบและเครื่องด่ืมมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 3.1 (สุราและเบียร์) หมวดเคหะสถาน ร้อยละ 1.9 (วัสดุก่อสร้าง ค่าแรงช่าง
‐ 20 ‐ ประปา ค่าแรงช่างไฟฟ้าและทาสี ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ําประปา เคร่ืองใช้เบ็ดเตล็ดภายในบ้าน) หมวดการตรวจรกั ษาและบรกิ ารส่วนบคุ คล รอ้ ยละ 1.5 (ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าตรวจโรคและคา่ บริการของโรงพยาบาลเอกชน ค่าทําฟัน ค่าของใช้ส่วนบุคคล) หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ร้อยละ 0.1 (ค่าจ้างซักรีด ค่าจ้างตัดเสื้อผ้า) สําหรับดชั นรี าคานํา้ มันเชอ้ื เพลงิ ลดลงรอ้ ยละ 2.1 ท่ีมา- สํานักงานพาณิชย์จงั หวดั ปทุมธานี,สาํ นกั ดชั นเี ศรษฐกจิ การค้า การลงทุนเพื่อประกอบการด้านพาณิชยกรรม ปี ๒๕๕๒ มียอดการจดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น๒๕,๘๘๘ ราย จําแนกเป็น บริษัทจํากัด ๑๕,๙๖๓ รายห้างหุ้นส่วนฯ ๙,๙๒๕ ราย การเปรียบเทียบจํานวนและทุนจดทะเบียนนิติบุคคลระหว่างปี ๒๕๕๒ กับ ปี ๒๕๕๑ มีจํานวนเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๒๒.๙๔ และ ทุนจดทะเบียนเพ่ิมขนึ้ ร้อยละ ๑๗.๘๗ตารางท่ี ๑6 : แสดงการเปรียบเทียบการจดทะเบยี นนติ ิบคุ คล ปี ๒๕๕2 – ๒๕๕4ทะเบยี นนติ บิ คุ คล ปี ๒๕๕๒ ปี ๒๕๕๓ ปี ๒๕๕๔ เพ่มิ ขน้ึ /ลดลง เพ่ิมขนึ้ /ล (ปี ๕๒-๕๓) (ปี ๕๓- จาํ นวน (ราย) 1,778.00 2,306.00 2,488.00 ทนุ จดทะเบยี น 3,195,766,100.00 3,541,443,000.00 6,612,469,000.00 22.89% 7.31% 9.76% 46.44ทม่ี า: สํานักงานพฒั นาธรุ กิจการค้าจงั หวดั ปทมุ ธานี ๒.๑๓. ดา้ นการเกษตร จังหวัดปทุมธานีมีพื้นท่ีทําการเกษตร 509,090.50 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 56.81 ของพื้นที่ทั้งหมด ด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดเป็นท่ีราบลุ่มท่ีเอ้ือแก่การเพาะปลูก จึงทําให้จังหวัดปทุมธานีมีพ้ืนท่ีทําการเกษตรอยู่ในทุกอําเภอ โดยอําเภอหนองเสือเป็นอําเภอที่มีพื้นท่ีทําการเกษตรมากท่ีสุด รองลงมาได้แก่ ไม้ผล-ไมย้ นื ต้น พชื ผกั ไม้ดอกไม้ประดบั และพชื พลังงาน โดยการใช้ท่ีดนิ เพือ่ การเกษตรกรรมมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากกรุงเทพมหานคร จนเกิดการขยายตัวของเขตเมืองและเขตอุตสาหกรรม นอกจากน้ียังมีข้อสังเกตท่ีน่าสนใจ คือ ท่ีดินรกร้างว่างเปล่า ซ่ึงมีได้มีการใช้ประโยชน์ในการเกษตร มีแนวโนม้ เพิ่มขึน้ เน่อื งจากการซื้อขายท่ดี นิ เพ่อื เก็งกําไรพชื เศรษฐกจิ ทสี่ ําคัญและประสทิ ธิภาพการผลติ ของจังหวัดปทุมธานี พชื เศรษฐกิจหลักทีส่ ําคัญของจงั หวดั ปทมุ ธานี ได้แก่ อันดับท่ีหน่ึง ข้าว เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีพ้ืนท่ีเพาะปลูกทั่วทุกอําเภอในพ้ืนที่ 363,772 ไร่ เกษตรกร21,203 ราย ผลผลิตเฉลีย่ 990 กก./ไร่ อนั ดบั ท่ีสอง ไมผ้ ล-ไมย้ ืนตน้ มพี ้นื ท่ปี ลกู 29,831 ไร่ ได้แก่ มะม่วง กล้วยหอม
‐ 21 ‐ อันดับท่ีสาม พืชผัก มีพ้ืนท่ีเพาะปลูก 21,388 ไร่ ส่วนใหญ่จะปลูกเชิงการค้า และพืชที่อนาคตไกลคือ พชื นาํ้ มันในจังหวัดปทมุ ธานี มีพืชนํา้ มัน 12,000 ไร่ อยู่ในอาํ เภอหนองเสือดา้ นปศสุ ัตว์เศรษฐกจิ ทสี่ าํ คญั และประสทิ ธิภาพการผลติ ของจังหวดั ปทมุ ธานี โค เป็นผลผลิตด้านปศุสัตว์ที่มีมูลค่าการผลิตมากเป็นอันดับหนึ่ง ในปี ๒๕๕2 มีมูลค่าผลผลิต525.26 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 147.68 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 21.95 เนื่องจากปรมิ าณการผลติ โคทล่ี ดลงอนั เป็นผลมาจากคา่ นิยมในการเลี้ยงทีล่ ดลง กระบือ เป็นผลผลิตด้านปศุสัตว์ที่มีมูลค่าการผลิตมากเป็นอันดับสอง ในปี ๒๕52 รองจากโค มีมูลค่าผลผลิต 146.68 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 635.14 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 81.24ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ท้ังนี้เน่ืองจากค่านิยมการเล้ียงลดลง เพราะการใช้งานกระบือลดลง และราคากระบือท่ีขายให้โรงฆ่าสัตว์สูงกว่าราคาโค เกษตรกรจึงนิยมขายกระบือเพื่อนําไปชําแหละและขายให้พอ่ ค้าคนกลางมากข้ึน ปรมิ าณกระบอื จงึ ลดลงมาก ไข่เป็ด เป็นผลผลิตด้านปศุสัตว์ท่ีมีมูลค่าการผลิตมากเป็นอันดับสาม ในปี ๒๕๕2 มีมูลค่าผลผลิต212.68 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 82.90 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 28.054 เป็นผลเน่ืองมาจากนโยบายของรัฐท่คี วบคุมระบบการเล้ียงเปด็ จากเป็ดไล่ทุ่ง เป็นการเลย้ี งในโรงเรือนหรือเล้าเป็ดท่ีได้มาตรฐานซ่ึงมีต้นทุนสูงและให้ผลผลิตน้อยกว่าเป็ดไล่ทุ่งทําให้เกษตรกรลดการเลี้ยงเป็ดลง ส่งผลให้ปริมาณไข่เปด็ ลดลงตามไปดว้ ย สุกรขุน เป็นผลผลิตด้านปศุสัตว์ที่มีมูลค่าการผลิตมากเป็นอันดับส่ี ในปี ๒๕๕2 มีมูลค่าผลผลิต ๑43.38 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 8.21 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 5.42 เนื่องจากการปรับลดลงการผลิตและปัญหาโรคท้องร่วงในลกู สกุ รในชว่ งทผ่ี า่ นมา ไก่พ้ืนเมือง เป็นผลผลิตด้านปศุสัตว์ท่ีมีมูลค่าการผลิตเป็นอันดับห้า ในปี ๒๕๕2 มีมูลค่าผลผลิต26.23 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 0.26 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ0.98 เน่ืองจากราคาไก่ที่เกษตรกรขายไดล้ ดต่ําลงดา้ นสัตว์น้าํ เศรษฐกจิ ทีส่ ําคัญและประสทิ ธิภาพการผลติ ของจังหวดั ปทุมธานี สัตว์นํ้าท่ีมีปริมาณผลิตจากการเพาะเล้ียงมากในจังหวัดปทุมธานี ได้แก่ ปลาดุก ปลานิล ปลาสวายและปลาตะเพียน ตามลําดับ มีการเพาะเลี้ยงกระจายทุกอําเภอ อําเภอที่มีผลผลิตจากการเพาะเล้ียงมากท่ีสุด ได้แก่ อําเภอลําลูกกา อําเภอหนองเสือ อําเภอคลองหลวง อําเภอเมืองปทุมธานี อําเภอสามโคกอําเภอลาดหลุมแก้ว และอําเภอธัญบุรี ตามลําดับ ในปี ๒๕๕3 มีผลผลิตจากการเพาะเล้ียงสัตว์นํ้าจํานวน 21,204,890 กิโลกรัม ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3.4 เนื่องมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในปีที่ผ่านมา แต่ในขณะท่ีมีมูลค่าเพิ่มจากการเพาะเล้ียงสัตว์น้ํามีมูลค่า 245,871,339 บาทเพม่ิ สูงขึน้ จากปกี อ่ นร้อยละ 2.79 เน่อื งมาจากราคาผลผลติ ทเ่ี พ่ิมสงู ขนึ้ ๒.๑๔. ผลิตภัณฑ์ชมุ ชนและท้องถนิ่ (OTOP) การลงทะเบียนผูผลิต/ผูประกอบการ OTOP ประจําปงบประมาณ 2555 จังหวัดปทุมธานี ดําเนินการรับลงทะเบียนผูผลิต/ผูประกอบการ OTOP ประจําปงบประมาณ 2555 ระหวางวันท่ี 24-28 กันยายน 2555 โดยอําเภอ
‐ 22 ‐ เปน หนว ยดาํ เนนิ การรับลงทะเบียน ปรากฏวา มีผผู ลติ /ผูประกอบการ OTOP สนใจมาลงทะเบยี น จํานวนท้งั สิน้ 255 ราย ผานการรับรอง ข้ึนทะเบยี นเปน ผูผลิต/ผูประกอบการ OTOP จังหวดั ปทมุ ธานี จาํ นวน 242 ราย แยกเปน ผูผลิตชมุ ชน จาํ นวน 103 ราย ผปู ระกอบการรายเดยี ว จํานวน 115 ราย SMEs จํานวน 24 ราย และมผี ลิตภัณฑท ีข่ ึน้ ทะเบยี น OTOP จาํ นวน 570 ผลิตภัณฑ การคัดสรรสดุ ยอดหนงึ่ ตาํ บล หน่ึงผลิตภณั ฑไ ทย ป 2555 จงั หวัดปทมุ ธานี ดาํ เนินการรับสมคั รผูผลิต/ผปู ระกอบการ OTOP ทผี่ า นการลงทะเบียนผูผลิต/ ผูประกอบการ OTOP ประจําปง บประมาณ 2555 เขา คัดสรรสดุ ยอดหนึ่งตําบล หน่งึ ผลติ ภัณฑไทย ป 2555 ระหวางวันท่ี 26 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2555 ณ ศาลารักษปทุม ช้ัน 2 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี คณะทํางานพิจารณาตรวจสอบและกลั่นกรองผลิตภัณฑท่ีสมัครเขารับการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตําบล หนึ่งผลิตภัณฑไทยจังหวัดปทุมธานี ประจําป 2555 ดําเนินการพิจารณาตรวจสอบและกล่ันกรองผลิตภัณฑฯ ที่เขาคัดสรรฯ ในวันที่ 28-30พฤศจิกายน 2555 ณ ศาลารักษปทุม ช้ัน 2 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี โดยสรุปมีผูผลิต/ผูประกอบการ OTOP ที่สนใจสง ผลิตภณั ฑเขา คัดสรรฯ จาํ นวน 154 ราย รายละเอยี ด ดงั น ี้ กลมุ ผูผลติ ชุมชน จํานวน 67 ราย ผผู ลิตชุมชนทเี่ ปน เจา ของรายเดยี ว จํานวน 70 ราย SMEs จาํ นวน 17 ราย และแยกรายละเอียดตามประเภทผลิตภัณฑ ดังน ี้ * ประเภทอาหาร จาํ นวน 23 ผลิตภัณฑ * ประเภทเคร่อื งดื่ม จาํ นวน 9 ผลติ ภัณฑ * ประเภทผาและเคร่อื งแตงกาย จํานวน 29 ผลิตภัณฑ * ประเภทของใช ของตกแตงและของท่รี ะลกึ จาํ นวน 68 ผลิตภณั ฑ * ประเภทสมนุ ไพรทไี่ มใ ชอาหาร จํานวน 25 ผลติ ภัณฑ ขณะน้อี ยูใ นระหวางสงผลิตภัณฑใ หสว นกลางพจิ ารณา หมายเหตุ เปา หมายประมาณการรายไดจากการจําหนายสนิ คา OTOP ป 2555 จังหวดั ปทมุ ธานี มีผูผลติ /ผูประกอบการ OTOP ท่ผี า นการลงทะเบียนเปนผูผลิต/ผูประกอบการ OTOP ป 2555 จํานวนทั้งส้ิน 242 ราย ผลิตภัณฑที่ลงทะเบียนมีจํานวนทั้งสิ้น 570 ผลิตภัณฑ และใหแตละอําเภอจัดทําประมาณรายไดจากการจําหนายส้ินคา โดยใชฐานขอมูลผูผลิต/ผูประกอบการ OTOP และผลิตภัณฑ OTOP ที่
‐ 23 ‐ ลงทะเบียน ในป 2555 เปนฐานในการประมาณการรายไดของแตละอําเภอ ซึ่งสรุปผลประมาณการรายไดจากการจําหนา ยสินคา OTOP ของจงั หวัดปทุมธานี รวมทงั้ สิน้ 424,630,900 บาท (ส่ีรอ ยยส่ี ิบสี่ลานหกแสนสามหมนื่ เการอ ยบาทถว น) สรุปผลการจัดเก็บรายไดจ ากการจาํ หนายสินคา OTOP ต้ังแตเ ดอื นตุลาคม 2554 ถงึ เดอื น กนั ยายน 2555 รวม 12 เดือน เปนเงินทัง้ สน้ิ 425,476,569 บาท (สร่ี อ ยยีส่ บิ หาลานสี่แสนเจ็ดหม่ืนหกพันหา รอยหกสิบเกาบาทถวน) คิดเปน รอยละ 100.2 ของเปาหมายรายได ตารางท่ี 17 : แสดงขอ มลู ผลการจําหนา ยสนิ คา OTOP ในแตละปงบประมาณ ดังน้ี ปงบประมาณ ประมาณการรายได ยอดจําหนาย ยอดจําหนา ย รวมรายได ภายในประเทศ ตา งประเทศ 2549 1,040,125,714 756,625,309 380,737,685 1,137,362,994 2550 1,039,500,000 604,230,239 494,448,063 1,098,678,302 2551 1,153,612,221 705,985,093 447,098,850 1,153,083,943 2552 324,320,600 294,199,493 114,926,053 409,125,546 2553 448,312,134 372,647,744 78,424,945 451,072,689 2554 189,596,504 174,326,435 44,146,822 218,473,257 2555 424,630,900 318,419,028 107,057,541 425,476,569 ที่มา : สํานักงานพัฒนาชมุ ชนจังหวดั ปทุมธานี : ธนั วาคม 2555 ๒.๑๕ ด้านอุตสาหกรรม ๒.๑๕.๑ ข้อมูลท่วั ไป ๑. ขอ้ มูลทว่ั ไป 1.1 จํานวนโรงงาน ข้อมลู ณ วนั ท่ี 19 ธันวาคม 2555 จังหวัดปทุมธานีมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับใบอนุญาตทั้งสิ้นจํานวน 3,221 โรงงาน เงินลงทุน 377,999,915,725 บาท มีการจ้างงาน 279,667 คน (เป็นชาย 126,931 คน หญิง 152,736 คน) แบง่ เป็น 3 จาํ พวก ประกอบด้วย
‐ 24 ‐ ตารางที่ 18: แสดงจํานวนโรงงาน ทนุ คนงาน และเครื่องจักร รวม แรงม้าจาํ พวกที่ จํานวนโรงงาน เงินทุน (บาท) คนงานชาย คนงานหญงิ1 18 70,615,000 104 128 232 243.712 299 1,974,831,395 2,559 1,952 4,511 9,255.023 2,904 375,954,469,330 124,268 150,656 274,924 3,595,313.74รวม 3,221 377,999,915,725 126,931 152,736 279,667 3,604,812.47ตารางท่ี 19: แสดงการกระจายตัวของโรงงานชื่ออาํ เภอ จาํ นวน เงนิ ทนุ (บาท) คนงานชาย คนงานหญิง รวม แรงมา้ โรงงานอ.เมอื ง 453 81,353,424,952 24,687 24,158 48,845 1,106,659.29อ . ค ล อ ง 1,015 219,318,763,875 54,280 82,543 136,823 1,450,997.28หลวงอ.ธญั บรุ ี 284 15,438,053,657 8,986 11,295 20,281 325,571.49อ.หนองเสือ 65 1,329,063,043 1,655 787 2,442 19,666.06อ.ลาดหลุม 350 19,828,380,833 10,770 10,928 21,698 333,301.31แก้วอ.ลาํ ลกู กา 787 28,945,645,103 21,021 19,531 40,552 272,254.44อ.สามโคก 267 11,786,584,262 5,532 3,494 9,026 96,362.60 รวม 3,221 377,999,915,725 126,931 152,736 279,667 3,604,812.47
‐ 25 ‐ อําเภอท่ีมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่มากท่ีสุด คือ อําเภอคลองหลวง 1,015 โรง (31.51%) รองลงมาได้แก่ อําเภอลําลูกกา 787 โรง (24.43%), อําเภอเมือง 453 โรง (14.06%), อําเภอลาดหลุมแก้ว 350 โรง (10.87%) , อําเภอธัญบุรี 284 โรง (8.82%) , อําเภอสามโคก 267 โรง (8.29%) และอําเภอ หนองเสอื 65 โรง (2.02%) ร้อยละ 13.44 หรือจํานวน 433 โรงของโรงงานท้ังหมดอยู่ในแหล่งชุมชน อุตสาหกรรม มีการจัดตั้งเขตประกอบการอุตสาหกรรม 1 แห่ง คือ เขตประกอบการ อุตสาหกรรมของ บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จํากัด ต้ังอยู่ ณ อําเภอธัญบุรี และมีเอกชนดําเนินกิจการท่ีมี ลักษณะคล้ายนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง ได้แก่ ชุมชนอุตสาหกรรมท่ีมีจํานวนโรงงานมาก จํานวน 2 แห่ง คือ บริษัท นวนคร จํากัด ต้ังอยู่ อ.คลองหลวง มีเน้ือท่ีประมาณ 6,495 ไร่ มีโรงงาน 233 โรงงาน, เขตอุตสาหกรรม บริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จํากัด ตั้งอยู่ อ.เมือง มีเน้ือท่ีประมาณ 1,222 ไร่ มี โรงงาน 39 โรงงาน นอกจากนแี้ ละเปน็ การกอ่ สร้างอาคารโรงงานสาํ เร็จรปู ของเอกชนไว้บริการแกน่ ักลงทุน จํานวน 10 แหง่ ได้แก่ แฟคคอม ,แฟคเฮา้ ส์, เคที แฟคทอรี่ พาร์ค ที่อําเภอลาดหลุมแกว้ บก๊ิ แลนด์ ,รงั สติ พรอสเพอร์ เอสเตท ,เอม็ เอม็ ซี มินแิ ฟคทอรี(นวไท) ท่อี ําเภอคลองหลวง แจนเซ่น มนิ แิ ฟคตอร่ี, อรดา ,บิ๊กล็อทแฟคตอร่ี ทอี่ าํ เภอลาํ ลกู กา และ ศรีปทุมมนิ ิแฟคตอรี่ ทาํ อําเภอหนองเสอื ตารางท่ี 20 แสดงจาํ นวนโรงงานแยกตามหมวดอตุ สาหกรรม รายการ จาํ นวน เงินลงทุน คนงาน แรงม้าอุตสาหกรรมการเกษตร 78 4,065,372,546 2,316 85,258.23อตุ สาหกรรมอาหาร 249 18,245,338,259 22,173 421,311.06อตุ สาหกรรมเครื่องดม่ื 25 16,207,381,795 6,005 253,437.87อตุ สาหกรรมส่งิ ทอ 65 7,265,062,565 7,249 131,911.07อตุ สาหกรรมเคร่ืองแต่งกาย 33 789,257,415 4,248 4,132.97อุตสาหกรรมเครื่องหนัง 30 5,032,294,564 2,738 22,780.39อตุ สาหกรรมไมแ้ ละผลติ ภัณฑจ์ ากไม้ 179 4,509,127,326 7,013 99,390.81อุตสาหกรรมเฟอรน์ เิ จอรแ์ ละเคร่ืองเรือน 115 2,235,046,699 4,612 29,567.37
‐ 26 ‐ อุตสาหกรรมกระดาษและผลิตภณั ฑ์จากกระดาษ 93 5,784,396,083 4,857 311,317.06อุตสาหกรรมสงิ่ พมิ พ์ 55 2,234,349,127 1,998 11,742.94อตุ สาหกรรมเคมี 202 39,220,958,044 9,909 243,334.94อตุ สาหกรรมปิโตรเคมแี ละผลิตภัณฑ์ 25 1,523,718,015 833 33,817.96อตุ สาหกรรมยาง 38 9,634,717,066 5,305 156,068.87อตุ สาหกรรมพลาสติก 256 15,614,046,239 12,639 195,435.37อตุ สาหกรรมอโลหะ 185 10,103,963,031 8,631 148,910.81อตุ สาหกรรมโลหะ 28 16,305,064,555 7,325 156,665.47อุตสาหกรรมผลิตภัณฑโ์ ลหะ 502 35,384,752,269 21,708 272,422.99อตุ สาหกรรมเครื่องจักรกล 234 42,899,008,311 26,468 210,223.97อตุ สาหกรรมไฟฟา้ 210 104,338,087,029 88,179 508,267.26อุตสาหกรรมขนส่ง 267 13,504,884,530 13,662 127,795.14อตุ สาหกรรมอ่นื ๆ 352 23,103,090,257 21,709 181,019.92 รวม 3,221 377,999,915,725 279,667 3,604,812.47
‐ 27 ‐ 2. สภาวการณ์ดา้ นอตุ สาหกรรม ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 30 พฤศจิกายน 2555 จังหวดั ปทมุ ธานมี ีจํานวนโรงงานอุตสาหกรรมที่ไดร้ ับอนุญาตทง้ั สนิ้ 3,218 โรงงาน เพม่ิ ข้ึนจากชว่ งเดือนเดยี วกันของปีทแี่ ล้ว คดิ เป็นรอ้ ยละ 3.81 มีเงินทนุ 3.779 แสนล้านบาท ลดลงคดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.79และจํานวนแรงงาน 280,278 คน ลดลงคดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.86ตารางท่ี 21: แสดงจาํ นวนโรงงานอตุ สาหกรรมทไ่ี ดร้ บั อนญุ าต(เปรยี บเทียบปี 2554-2555) รายการ หนว่ ย ปี 2554 ปี 2555 พ.ย. พ.ย. โรงงานอุตสาหกรรมท้งั ส้ินจํานวนโรงงานอตุ สาหกรรม โรง 3,100 3,218∆% ร้อยละ 4.69 3.81เงินทนุ แสนลา้ นบาท 3.809 3.779∆% ร้อยละ 4.90 - 0.79จํานวนแรงงาน คน 285,587 280,278∆% รอ้ ยละ 3.91 - 1.86 โรงงานท่ีไดร้ บั อนุญาตประกอบกิจการใหม่ (1 ม.ค. – 30 พ.ย.)จํานวนโรงงานอตุ สาหกรรม โรง 155 170∆% รอ้ ยละ - 0.64 9.68เงนิ ทนุ แสนล้านบาท 10.242 5.994∆% ร้อยละ 35.94 - 41.48จํานวนแรงงาน คน 6,832 6,979∆% ร้อยละ - 8.06 2.15 โรงงานทไ่ี ดร้ บั อนญุ าตขยายโรงงาน (1 ม.ค. – 30 พ.ย.)จํานวนโรงงานอตุ สาหกรรม โรง 37 9
‐ 28 ‐ รอ้ ยละ - 15.91 - 75.68∆% 0.680 แสนลา้ นบาท 7.241 - 90.61เงนิ ทนุ 215 ร้อยละ - 9.11 - 95.58∆% คน 4,864 55จํานวนแรงงาน 96.43 ร้อยละ 494.62 8.353∆% 824.00 โรงงานที่เลกิ กิจการ (1 ม.ค. – 30 พ.ย.) 5,387จาํ นวนโรงงานอตุ สาหกรรม 300.52 โรง 28∆% ร้อยละ - 45.10เงินทุน แสนล้านบาท 0.904∆% ร้อยละ - 77.28จาํ นวนแรงงาน คน 1,345∆% ร้อยละ - 71.70หมายเหตุ ตุลาคม/พฤศจิกายน/ธันวาคม 2554 เกดิ มหาอทุ กภยั ใหญ่ ทําให้มีผลกับการลงทนุ ภาคอตุ สาหกรรมตารางที่ 22: ข้อมลู สถติ ิจํานวนโรงงานสะสม ณ ส้ินปี ปพี .ศ. 2546-2555 (ข้อมลู ณ วันท่ี 19 ธันวาคม 2555)ปี พ.ศ. จํานวนโรงงาน เงนิ ทุน(บาท) จาํ นวนคนงาน2546 2,058 172,326,479,076 196,3452547 2,169 191,041,610,678 213,7572548 2,350 212,463,569,229 260,2242549 2,539 253,174,151,587 276,6742550 2,683 290,982,721,202 282,3782551 2,800 314,642,541,024 285,947
2,854 ‐ 29 ‐ 275,905 2,970 274,456 2552 3,104 352,091,439,307 286,006 2553 3,221 363,963,612,457 279,667 2554 379,951,478,172 2555 377,999,915,725ตารางที่ 23: แสดงกจิ การทไ่ี ดร้ ับการส่งเสริมการลงทนุ ปพี .ศ. 2546-2555 (ขอ้ มลู ณ วันท่ี 19ธนั วาคม 2555)ปี พ.ศ. จาํ นวน(ราย) เงินลงทนุ (ล้านบาท) แรงงาน(คน)2546 32 20,784.23 10,5262547 66 22,918.15 20,0042548 52 8,433.00 11,3292549 65 18,058.67 14,6942550 60 34,867.75 21,5242551 43 18,657.98 35,9502552 61 18,510.36 9,7312553 89 34,867.26 30,1882554 80 13,191.30 7,7002555 95 47,638.40 18,492ผลผลติ การส่งออกจังหวดั ปทุมธานี เน่อื งจากการสํารวจข้อมลู ส่งออกของผปู้ ระกอบการโรงงานอตุ สาหกรรมจงั หวัดปทุมธานี ปรากฏว่ามีการตอบแบบสาํ รวจคอ่ นขา้ งน้อยมากจึงไม่สามารถนํามาเปน็ ขอ้ มลู ในการประกอบการพจิ ารณาได้
‐ 30 ‐ ๒.๑๖ สถานการณ์ด้านแรงงานจงั หวดั ปทมุ ธานี จังหวัดปทุมธานีมีประชากรผู้ท่ีอยู่ในวัยแรงงานจํานวน ๔๗๗,๑๒๑ คน แบ่งเป็น เพศชาย จํานวน๒๕๒,๙๔๕ คน เพศหญิง จํานวน ๒๒๔,๑๗๖ คน ในจํานวนน้ีเป็นผู้มีงานทํา ๔๒๗,๖๓๗ คน ผู้ว่างงาน๙,๔๘๔ คน ภาวการณ์ทํางานของประชากรในจังหวัดปทุมธานี แยกออกได้เป็นผู้มีงานทําในภาคการเกษตร๖๒,๘๓๙ คน หรือร้อยละ ๑๓.๔๔ และผู้มีงานทํานอกภาคการเกษตรจํานวน ๔๐๔,๗๙๘ คน หรือร้อยละ๘๖.๕๖ โดยกลุ่มผู้ทํางานนอกภาคการเกษตรจะทํางานอยู่ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตมากท่ีสุด มีจํานวน๒๘๗,๙๔๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๑.๑๓ ของผู้มีงานทําท้ังหมด รองลงมาคือบริการด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์การให้เช่าและบริการทางธุรกิจมีจํานวน ๓๗,๖๒๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๙.๒๙ การขายส่ง การขายปลีก การบริการ มีจํานวน ๓๓,๑๕๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๘.๑๙ ตามลําดับ โดยจังหวัดปทุมธานีมีผู้ว่างงานประมาณ๙,๔๘๔ คน อตั ราว่างงานคิดเปน็ ร้อยละ ๒.๐ ข้อมูลสถานประกอบการ จังหวัดปทุมธานีมีสถานประกอบการทั้งส้ิน ๑๐,๘๖๔ แห่งจําแนกตามขนาดของสถานประกอบกจิ การ ดังตารางตารางท่ี 24 : แสดงข้อมูลสถานประกอบการจังหวัดปทุมธานีขนาดจาํ นวนลูกจา้ ง จาํ นวนแหง่ ๑-๙ ๖,๔๘๐ ๑๐-๔๙ ๓,๖๗๒ ๕๐-๙๙ ๒๙๓ ๕๔๑ ๑๐๐-๙๙๙ ๕๖ ๑,๐๐๐ ข้ึนไปที่มา : กรมสวัสดิการและคมุ้ ครองแรงงาน: กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
‐ 31 ‐ ตารางที่ ๒5 : แสดงจาํ นวนสถานประกอบกิจการและลูกจา้ งในขา่ ยความค้มุ ครองแรงงานตาม พระราชบัญญัติค้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ จาํ แนกตามประเภทอตุ สาหกรรมลําดับท่ี ประเภทกจิ การ แหง่ ชาย หญงิ เดก็ รวม ๑ การเกษตรกรรม การลา่ สตั วแ์ ละการปา่ ไม้ ๔๙ ๔๑๗ ๓๕๑ - ๗๖๘ ๒ การประมง ๔ ๒๑ ๔ - ๒๕ ๓ การทาํ เหมอื งแร่ และเหมอื งหนิ ๑๘ ๒๒๖ ๑๒๐ ๒ ๓๔๘ ๔ การอุตสาหกรรม (การผลิต) ๔,๒๕๐ ๑๒๕,๙๘๘ ๑๕๙,๙๐๑ ๒,๐๕๔ ๒๘๗,๙๔๓ ๕ การไฟฟา้ กา๊ ซ และการประปา ๓๖ ๗๖๕ ๔๒๔ - ๑,๑๘๙ ๖ การกอ่ สร้าง ๓๘๙ ๖,๖๘๖ ๓,๒๑๕ ๒๐ ๙,๙๒๑ ๗ การขายส่ง การขายปลีก การซอ่ มยานยนต์ ๑,๙๖๖ ๑๘,๗๖๐ ๑๔,๓๒๑ ๗๑ ๓๓,๑๕๒ ๘ โรงแรม และภตั ตาคาร ๓๐๕ ๒,๑๕๓ ๓,๐๘๐ ๓๘ ๕,๒๗๑ ๙ การขนสง่ สถานท่ีเก็บสนิ คา้ และคมนาคม ๒๘๒ ๗,๕๘๖ ๒,๕๔๗ - ๑๐,๑๓๓ ๑๐ ตัวกลางทางการเงนิ ๑๘๓ ๘๘๙ ๑,๑๔๐ - ๒,๐๒๙ ๑๑ บริการด้านธุรกิจสังหาริมทรัพย์การให้เช่า ๓,๐๔๕ ๒๐,๐๘๒ ๑๗,๕๒๕ ๑๙ ๓๗,๖๒๖ และบรกิ ารด้านธุรกจิ ๑๒ การบริหารราชการแผ่นดิน การป้องกัน - -- - - ประเทศและการประกันสังคมภาคบงั คับ ๑๓ การศกึ ษา ๔๙ ๑,๖๘๓ ๑,๖๓๑ - ๓,๓๑๔ ๑๔ การบริการสุขภาพ และสงั คมสงเคราะห์ ๑๐๗ ๗๒๑ ๒,๓๙๗ ๕๐๓ ๓,๖๒๑ ๑๕ การบรกิ ารชุมชน สงั คม และสว่ นบคุ คล ๓๘๓ ๔,๙๖๑ ๕,๒๘๑ ๕ ๑๐,๒๔๗ ๑๖ ลกู จา้ งในครัวเรอื นส่วนบุคคล ๒ รวมทัง้ สิ้น ๑๑,๐๗๗ -๔ - ๔ ๑๙๐,๙๓๘ ๒๑๑,๙๔๑ ๒,๗๑๒ ๔๐๕,๕๙๑ท่มี า : สํานักงานสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธาน:ี กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๕ ๒.๑๗ ด้านการท่องเท่ียว จังหวัดปทุมธานี เป็นแหล่งท่องเท่ียวที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร ซ่ึงมีจุดเด่นในเรื่องอาหารการกินรวมถึงธรรมชาติและชุมชนริมน้ํา วิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวไทยเช้ือสายมอญที่น่าสนใจ รวมท้ังยังรักษาเอกลักษณ์การเป็นเมืองการเกษตรควบคู่กับความเจริญทางด้านอุตสาหกรรมและการบริการไว้ได้ จังหวัดปทุมธานี มีความหลากหลายท้ังทางด้านประเพณีท่ีเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน โดยเฉพาะถึงการท่องเท่ียวภายในจังหวัดปทุมธานี มีแม่น้ําเจ้าพระยาไหลผ่าน และ ๒ ฝั่งแม่นํ้าเจ้าพระยาเป็นวัดต่างๆ มากมาย เช่น วัดหงส์ปทุมมาวาส วัดศาลเจ้า วัดไผ่ล้อม ฯลฯ ซึ่งมีความสําคัญทางประวัติศาสตร์และการท่องเท่ียวในจังหวัดปทุมธานี อีกท้ัง ความเจริญทางด้านอุตสาหกรรมทําให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเจริญเติบโตข้ึนอย่างรวดเร็ว เพราะในจังหวัดปทุมธานีเป็นท่ีต้ังของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ทําให้มีการเข้ามาทํางานในจังหวดั ปทมุ ธานีเป็นจาํ นวนมาก
‐ 32 ‐ แหล่งท่องเที่ยวท่ีเป็นท่ีรู้จักของจังหวัดปทุมธานีได้แก่วัดเจดีย์ทอง วัดศาลเจ้า วัดไผ่ล้อม รวมไปถึงแหล่งท่องเท่ียวท่ีเป็นการท่องเท่ียวแบบเรียนรู้ เช่น พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติและหออัครศิลปิน สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สําหรับภาพลักษณ์ซ่ึงเป็นท่ีรู้จักของจังหวัดปทุมธานีนอกจากดอกบวั แล้วคือ “ตุ่มสามโคก” ซ่ึงเปน็ เอกลักษณเ์ คร่ืองปั้นดนิ เผาของชาวมอญ ของสามโคก สําหรับนักท่องเที่ยวท่ีเข้ามาเที่ยวในจังหวัดปทุมธานี ส่วนใหญ่จะเป็นแบบไปเช้า เย็นกลับ ซ่ึงจากสถิติท่ีกรมการท่องเที่ยวกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวบรวมพบว่าเม่ือปี พ.ศ. 2550 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 879.96 ล้านบาท ปี พ.ศ. 2551 มีรายได้จากการท่องเท่ียว 916.91 ล้านบาท ปี พ.ศ. 2552มรี ายได้จากการทอ่ งเทีย่ ว 761.78 ลา้ นบาท ปี พ.ศ. 2553 มรี ายไดจ้ ากการท่องเทยี่ ว 907.74 ล้านบาทแนวโน้มการท่องเท่ยี วจงั หวัดปทมุ ธานี 1. กระแสตนื่ ตวั จากภาวะโลกรอ้ นทําให้นกั ท่องเทย่ี วสนใจการท่องเทย่ี วเชงิ เกษตรและการ ท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรมเพมิ่ มากข้นึ 2. จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้จังหวัดใหญ่หลายจังหวัดรวมท้ังมีการคมนาคมที่ สามารถ เชอ่ื มโยงในทุกภูมิภาค เป็นปจั จัยดงึ ดดู ให้นักทอ่ งเท่ยี วเขา้ มาท่องเที่ยวในจงั หวดั ปทมุ ธานี 3. การเติบโตของการท่องเท่ียวเฉพาะทาง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเท่ียวเชิงวิชาการ ประเภทพิพิธภัณฑ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และการเกษตรสมัยใหม่มี แนวโน้มสูงขึ้น 4. แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผู้ท่ีสนใจสิ่งแวดล้อมและวิทยาศาสตร์ และการประกอบกิจกรรมร่วมกันโดย การพาครอบครัว และกลมุ่ เพอ่ื นมารบั ประทานอาหารหรือสงั สรรค์ 5. จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีแม่นํ้าไหลผ่าน ทําให้แหล่งท่องเท่ียวทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของชุมชนริมแม่นํ้า เป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดการท่องเท่ียวประเภทล่องเรือและทางนํ้ามี แนวโนม้ เพิม่ ขนึ้๒.๑๘ ด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ๒.๑๘.๑ ทรพั ยากรปา่ ไม้ จงั หวดั ปทุมธานี ไม่มีพื้นทป่ี าสงวนแหง่ ชาติ มีเพยี งเขตห้ามลา่ สัตว์ปา่ วัดไผล่ ้อมและวัดอัมพุวรารามสังกดั กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา่ และพนั ธ์ุพชื โดยไดร้ ับการประกาศเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นมาครอบคลมุ เนอ้ื ท่ปี ระมาณ 74 ไร่ นอกจากนี้ สาํ นกั งานทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มจังหวดัปทมุ ธานี ยงั มีหน้าท่กี ํากบั ดแู ล การอนญุ าตให้ทาํ อตุ สาหกรรมไม้ และของปา่ หวงห้าม ร่วมกบั หน่วยงานที่เกย่ี วข้อง ซ่งึ มรี ายละเอยี ด ดงั นี้1. โรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครอื่ งจักรลักษณะอตุ สาหกรรมตอ่ เนื่อง จาํ นวน 12 ราย2. โรงงานแปรรูปไมโ้ ดยใช้เครื่องจักร (โรงเล่อื ยจักร) จาํ นวน 11 ราย
‐ 33 ‐ 3. โรงงานแปรรูปไมโ้ ดยใชเ้ ครอ่ื งจกั รเพื่อประดิษฐกรรม จาํ นวน 169 ราย 4. โรงค้าไมแ้ ปรรปู จาํ นวน 105 ราย 5. สถานที่คา้ หรือมไี ว้ในครอบครองเพอ่ื การคา้ ซึง่ สงิ่ ประดิษฐ์ จาํ นวน 120 ราย 6. ใบอนญุ าตค้าของปา่ หวงห้าม จํานวน 5 ราย ผ้ปู ระกอบการรวมท้งั หมด 422 คน สาํ หรบั ในส่วนการปฏิบตั ิการปอ้ งกนั การลกั ลอบทาํ ไม้พยุง หรอื ไม้มคี ่าทางเศรษฐกจิ ทีไ่ ดม้ าโดยชอบด้วยกฎหมายเข้าในพืน้ ทจ่ี ังหวัดปทมุ ธานี ได้เตรียมปอ้ งกันและปราบปรามการกระทาํ ผิดกฎหมาย โดยได้จดั ตงั้ ศนู ย์ประสานงานแกไ้ ขปัญหาลกั ลอบตดั ไมพ้ ยงุ ตง้ั อยู่ ณ สาํ นักงานบรหิ ารพน้ื ท่ีอนุรกั ษ์ที่ 9(อุบลราชธานี) ในสว่ นของกรมปา่ ไม้ มศี นู ยป์ ระสานงานป่าไม้ปทุมธานี สํานักจัดการทรัพยากรปา่ ไม้ท่ี 5(สระบุรี) ทรพั ยากรน้ํา สํานักงานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มจงั หวดั ปทุมธานี มีหนา้ ทกี่ าํ กบั ดแู ลการประกอบกิจการนํ้าบาดาล ซงึ่ ในพืน้ ทจี่ ังหวดั ปทุมธานี มจี ํานวน 553 บอ่ แบง่ ออกเปน็ ประเภท - ธรุ กิจ (อตุ สาหกรรม) จาํ นวน 315 บ่อ 52 บ่อ - ธุรกิจ (บรกิ าร) จาํ นวน 34 บอ่ 139 บอ่ - ธุรกจิ (การคา้ ) จาํ นวน 13 บ่อ - อปุ โภคบริโภค จํานวน - เกษตรกรรม จาํ นวนปริมาณน้าํ ตามทก่ี ําหนดในใบอนุญาต 104,798 ลูกบาศก์เมตร/วัน
‐ 34 ‐ สว่ นที่ 3 ปญั หาสาํ คญั ของจงั หวดั และแนวทางแก้ไข จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดท่ีมีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทําให้มีการเปล่ียนแปลงสภาพทางสังคม จากเดิมท่ีเป็นสังคมชนบทกลายเป็นสังคมเมืองและมีการเปลี่ยนแปลงการผลิตจากภาคเกษตรกรรมเป็นการผลิตในภาคอุตสาหกรรม สภาพการณ์ดังกล่าว ทําให้จังหวัดปทุมธานีเป็นแหล่งรองรับการเข้ามาหางานทําจากคนในทุกภูมิภาคของประเทศ รวมท้ังแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาหางานทํานอกจากนี้การทจี่ ังหวดั ปทุมธานเี ป็นทีต่ ้ังของสถานศกึ ษาท้งั ในระดับอาชีวศกึ ษาและอดุ มศึกษาหลายแห่งทาํ ให้มีเยาวชนเข้ามาศึกษาในจังหวัดปทุมธานีเป็นจํานวนมาก ดังน้ันจังหวัดปทุมธานีจึงเป็นแหล่งรองรับปัญหาท่ีเกิดขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว อาทิเช่น ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนท่ีมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและการท่ีจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดปริมณฑล ซึ่งอยู่ใกล้ความเจริญจึงทําให้เกิดการเรียกร้องต้องการในการรับบริการและแกไ้ ขปัญหาความเดือดรอ้ นจากสว่ นราชการและองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินสูง จากสภาพปัญหาที่เกิดจากการเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกิจและสงั คมดงั กล่าว สามารถจําแนกปญั หาทเี่ กิดขึ้นในจงั หวดั ปทุมธานี ได้ดงั นี้ ๓.๑ ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยส์ นิ จังหวัดปทุมธานีมีคดีประเภทประทุษร้ายต่อทรัพย์สูงขึ้นเป็นระยะ มีสาเหตุจากการ ท่ีมีจํานวนประชากรในพ้ืนท่ีเพิ่มสูงขึ้น เน่ืองจากประชาชนต่างท้องถ่ินต่างเข้ามาทํางานตามสถานประกอบการต่าง ๆเช่นโรงงานอุตสาหกรรม โครงการกอ่ สรา้ งหมูบ่ ้านจดั สรร และหา้ งสรรพสินค้า รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่เข้ามาศึกษาในสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษาในเขตจังหวัด โดยท่ีปัญหาอาชญากรรมท่ีประกอบโดยเด็กและเยาวชนไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ ม่ัวสุม ยาเสพติด ทะเลาะวิวาท ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ หรืออาชญากรรมรุนแรง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ความรุ่นแรงและปริมาณ ซึ่งเป็นเคร่ืองบ่งช้ีว่าเด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่นําไปสู่อาชญากรรมเพ่ิมขึ้น ซ่ึงมีสาเหตุมาจากการเลียนแบบพฤติกรรมท่ีมีการเผยแพร่ทางสื่อที่ไร้พรมแดน และจากการที่ค่าครองชีพสูงข้ึน การใช้จ่ายจนเกินตัว นับเป็นปัญหาท่ีส่งผลกระทบต่อบุคคลบางกลุ่มจึงทําให้มีการก่ออาชญากรรมในคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ สําหรับปัญหาอาชญากรรมท่ีเกิดข้ึนในชุมชนเมือง จะเกิดปัญหาในชุมชนแออัดเพราะสถานที่ดังกล่าวมีบุคคลหลายประเภทซ่ึงบุคคลทั่วไปสามารถเข้าออกชุมชนได้ตลอดเวลา เป็นแหล่งรวมบุคคลประเภทติดยาเสพติด คนจรจัดท่ียากตอ่ การควบคุม ๓.๒ ปญั หาการแพรร่ ะบาดของยาเสพตดิ สภาพปัญหายาเสพติดในพ้ืนที่จังหวัดปทุมธานี ในปัจจุบันน้ีพบว่าเป็นท้ังพื้นที่ค้า และพื้นที่แพร่ระบาด โดยเฉพาะอย่างย่ิงในอําเภอสําคัญ อ.ธัญบุรี อ.คลองหลวง อ.ลําลูกกา อ.เมืองปทุมธานี ด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ อาทเิ ชน่ สภาพพ้นื ทีโ่ รงงานอตุ สาหกรรมจาํ นวนมากส่งผลถงึ การอพยพเขา้ มาทาํ งานของแรงงานนอกพื้นท่ี และแรงงานต่างด้าว มีตลาดขายส่งสินค้าทางการเกษตรขนาดใหญ่ (ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง) ซ่ึงใน
‐ 35 ‐ บางคร้ังมีการแอบแฝงซุกซ่อนยาเสพติดยากต่อการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าท่ี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะจังหวัดปทุมธานีท่ีมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษามากที่สุดในประเทศ เป็นต้น ท้ังนี้ จากข้อมูลการจับกุม และข้อมูลการบําบัดรักษา พบว่ากลุ่มเสี่ยงท่ีมีแนวโน้มกระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติดน้ัน ได้แก่ ผู้พ้นโทษ ผู้ท่ีได้รับการประกันช่ัวคราว ผู้ท่ีผ่านการบําบัดรักษา ผู้ว่างงาน และกลุ่มผูใ้ ช้แรงงาน ทัง้ น้ี พบวา่ เครอื ขา่ ยการคา้ บรเิ วณแนวชายแดนท่ีมีบทบาทสําคัญต่อการแพร่ระบาดยาเสพติดในพ้ืนท่ีมาจาก 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มการค้าทางภาคเหนือท่ีมีการลักลอบนําเข้าจากบริเวณแนวชายแดนไทย-พม่าเช่นในพื้นท่ี อ.แม่สาย จ.เชียงราย อ.พบพระ จังหวัดตาก เป็นต้น กลุ่มการค้าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการลักลอบนําเขา้ จากบริเวณชายแดนไทย-ลาว และกลุม่ การคา้ ทางภาคตะวันออก มีการลกั ลอบนําเข้าจากบริเวณชายแดนไทย-กัมพชู าสภาพปญั หายาเสพติด ดา้ นการผลติ ไมพ่ บการผลติ ในพื้นท่ีรูปแบบและวิธกี ารซุกซอ่ น ส่วนใหญ่จะซุกซ่อนมาในกระเป๋าเดินทางปะปนมากับผู้โดยสาร หรือสินค้าทางการเกษตร กล่องผลิตภัณฑ์ สินค้าท่ีมีการดัดแปลง ยานพาหนะท่ีมีการดัดแปลงเพ่ือเก็บของ นอกจากน้ียังพบว่า มีการซุกซ่อนไวต้ ามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น พันตดิ กบั ตวั ต้นขาหรือนอ่ งเส้นทางการลาํ เลยี ง จากขอ้ มูลการจับกุมคดที ี่น่าสนใจพบวา่ มีเสน้ ทางการลาํ เลยี งสาํ คัญ ดังน้ี 1) เสน้ ทางหลัก 1.1 จากภาคเหนือ โดยใชถ้ นนสายเอเชยี ต่อเนอื่ งเสน้ ทางพหลโยธิน 1.2 จากภาคตะวันออกเฉยี งเหนือโดยใชเ้ ส้นทางถนนมิตรภาพ-พหลโยธนิ 2) เส้นสายรอง 2.1 ถนนสายวงแหวนรอบนอกสถานการณ์ด้านการค้า การคา้ รายย่อย รูปแบบการค้า ส่วนใหญจ่ ะเช่าหอพักซึ่งมีจํานวนมากเป็นที่เก็บพัก หรือซุกซ่อนยาเสพติด โดยจะเช่าอยู่ประมาณ 1-2 เดือน แล้วจะย้ายไปเช่าที่ใหม่ ผู้ค้าบางคนจะ เช่าหอพักเป็นรายวันในส่วนของการจ่ายเงินค่ายาบ้า ถ้าเป็นลูกค้าขาประจําจะเป็นลักษณะของการให้เครดิตไปก่อน เมื่อขายได้จึงจะ
‐ 36 ‐ มีการจ่ายเงินให้ แต่ถ้าไม่ใช่ขอประจําการจ่ายค่ายาบ้า จะจ่ายเป็นเงินสดถุงละ 20,000 – 25,000 บาท ขายปลกี 150-350 บาท การค้าส่ง มีลักษณะเหมือนเดิม กล่าวคือ นักค้าในพ้ืนที่เครือข่ายขายส่งจากชายแดน จัดหายาบ้าไดต้ ามสง่ั ซ่งึ ปกตจิ ะจาํ หนา่ ยใหก้ ับลูกคา้ ประจําสว่ นผู้ซอื้ รายอน่ื ท่ไี มใ่ ช่เครือข่ายผู้ค้า จะเพ่ิมความระมัดระวังในการขายมากข้ึน ในการติดต่อซ้ือ-ขาย ใช้โทรศัพท์มือถือและชําระเงินโดยเงินสด แบบยื่นหมูย่ืนแมว หรือการโอนผา่ นบญั ชธี นาคาร โดยผู้ซ้อื จะต้องจ่ายเงินกอ่ นแล้ว จึงกําหนดสถานท่ีส่งมอบยาเสพติด ซ่ึงในการส่งมอบนั้นผคู้ า้ จะจา้ งผ้ลู ําเลยี งอีกต่อหนึ่งในการส่งมอบยาเสพตดิ ราคายาบ้าซื้อมาในราคามัดละ 100,000 – 120,000 บาทจํามาจําหนา่ ย ขายสง่ มัดละ 160,000 – 180,000 บาทแนวโน้มการแพร่ระบาด จังหวัดปทุมธานีจัดอยู่ในเขตปริมณฑล ซ่ึงมีโรงงาน สถานประกอบการ สถานศึกษา หอพัก บ้านเช่า และชุมชนแออัดอยู่เป็นจํานวนมาก ด้วยเหตุน้ี จึงมีแรงงานทั้งที่เป็นคนไทยและต่างด้าว อพยพเข้ามาใช้แรงงานจํานวนมาก อึกทั้งนักศึกษาระดับอุดมศึกษาประมาณ 120,000 คน ซ่ึงพักอาศัยอยู่ในอําเภอคลองหลวงและธัญบุรี ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดยาเสพติดในกลุ่มผู้ใช้แรงงานผู้วา่ งงาน และนักเรียน/นักศกึ ษาบางสว่ นแหลง่ แพร่ระบาด สถานการณ์ของจังหวัดปทุมธานีเป็นพ้ืนที่ลําเลียงของยาเสพติด การค้ายังคงมีกระจายอยู่ในทกุ พ้นื ที่ โดยอําเภอหนองเสอื สามโคก อยูใ่ นระดับบางเบา อาํ เภอลาดหลุมแก้วอยู่ในระดับปานกลาง อําเภอคลองหลวง ธญั บุรี ลําลูกกา เมืองปทุมธานี อยู่ในระดบั รนุ แรง ๓.๓ ปัญหาแรงงานต่างดา้ ว เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีเป็นท่ีต้ังของตลาดขายส่งสินค้าทางการเกษตรขนาดใหญ่ และโครงการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร จึงมีความต้องการแรงงานไร้ฝีมือเป็นจํานวนมาก ประชากรวัยแรงงานมักไม่ประสงค์ท่ีจะทํางานในภาคการผลติ และการกอ่ สร้าง เนื่องจากเป็นกลุ่มคนท่ีมีการศึกษาสูงจึงเลือกทํางานที่สอดคล้องกับวุฒิการศึกษาของตน การขาดแคลนแรงงานไร้ฝีมือดังกล่าวทําให้เจ้าของกิจการจ้างแรงงานต่างด้าว สัญชาติพมา่ ลาว และกัมพูชา เน่ืองจากไมส่ ามารถหาแรงงานคนไทยมารองรับงานในประเภทดังกล่าวได้ และแรงงานต่างด้าวมีค่าจ้างแรงงานต่ําเป็นการลดต้นทุนในการผลิต จากปัจจัยข้างต้นทําให้นายจ้างชาวไทยนิยมจ้างแรงงานต่างด้าวเข้าทํางานรับจ้างใช้แรงงานในตลาดสดขนาดใหญ่ เป็นผู้ใช้แรงงานในโครงการก่อสร้างต่าง ๆรวมท้ังจ้างเป็นผู้รับใช้ในบ้านเรือน โดยมีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทํางานจากการสํารวจในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ จํานวน ๑๓, ๓๑๗ คน สําหรับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีการข้ึนทะเบียนคาดว่าจะมีจํานวนนับพันคน (ขณะน้อี ยใู่ นระหว่างการตรวจสอบของคณะทาํ งาน) แรงงานต่างด้าวเหล่านี้มักอาศัยอยู่รวมกันตาม
‐ 37 ‐ หอพักราคาถกู ใกลก้ บั สถานท่ีทาํ งาน เช่น ตามเขตพ้นื ท่ีการก่อสรา้ งต่าง ๆ ตลาดสดขนาดใหญ่ และเป็นผู้รับใช้ในบ้านเรือน สําหรับแรงงานต่างด้าวท่ีไม่ได้มีการข้ึนทะเบียนทําให้ยากต่อการควบคุมและดูแล ก่อให้เกิดปญั หาอาชญากรรม และปญั หาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อท่ีติดตัวมากับแรงงานต่างด้าว รวมท้ังการเพ่ิมขึ้นของจํานวนประชากรทเ่ี ป็นบุตรของแรงงานตา่ งด้าวเอง ๓.๔ ปญั หาดา้ นสิ่งแวดล้อม ๓.๔.๑ ปญั หาคุณภาพนาํ้ ของจงั หวดั ปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี มีการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็ว เน่ืองจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเส้นทางคมนาคม ทําให้มีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้นหลายร้อยโครงการรวมทั้งการพัฒนาทางด้านอตุ สาหกรรมท่ีมอี ย่างตอ่ เนือ่ ง นอกจากนี้ยังมีพ้ืนที่เกษตรกรรมประมาณร้อยละ ๖๐ ของพ้ืนที่จังหวัด ซึ่งต่างก็เป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดนํ้าเสียด้วยกันท้ังส้ิน มลพิษทางน้ําที่เกิดขึ้นจากแหล่งกําเนิดมลพิษเหล่านี้บางส่วนได้รับการบําบัดจนได้มาตรฐานคุณภาพน้ําท้ิง และบางส่วนก็ไม่ได้รับการบําบัดก่อนระบายนํ้าท้ิงลงสู่ แหล่งรองรับน้ํา จึงส่งผลกระทบให้คุณภาพในแหล่งรองรับน้ําต่าง ๆ ของจังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่น้ําเจ้าพระยา และคลองสาขาต่าง ๆ มีคุณภาพนํ้าท่ีเสื่อมโทรมและมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากข้ึนทุกปีจากผลการตรวจวัดคุณภาพน้ําผิวดิน (แม่น้ําเจ้าพระยา) ในเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ พบว่า คุณภาพนํ้าที่ตรวจวัดบริเวณจุดนํ้าดิบเพื่อการประปาสําแล โดยสํานักงานส่ิงแวดล้อมภาคที่ ๖ มีค่าปริมาณออกซิเจนท่ีละลายในนํา้ (DO) เทา่ กบั ๒.๖ mg/l ปริมาณความสกปรกในรูปสารอนิ ทรีย์ (BOD) มีค่า ๑.๐ mg/L คุณภาพนาํ้ จดั อยใู่ นแหลง่ นาํ้ ประเภทที่ ๔ คอื เสอื่ มโทรม (สามารถใชป้ ระโยชน์เพ่อื การอปุ โภคบรโิ ภค โดยต้องผา่ นการฆา่ เชอ้ื โรคตามปกติ และผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพนาํ้ เปน็ พิเศษกอ่ นและการอุตสาหกรรม) ส่วนการจัดการน้ําเสียของจังหวัดปทุมธานี ส่วนใหญ่ไม่มีระบบบําบัดนํ้าเสีย ปัจจุบันเทศบาลที่มีระบบรวบรวมบําบัดน้ําเสีย คือ เทศบาลเมืองปทุมธานี ใช้ระบบบําบัดนํ้าเสียแบบตะกอนเร่ง (ActivatedSludge, AS) ๓.๔.๒ ปัญหาขยะมลู ฝอย สถานการณ์ในปจั จุบันจังหวดั ปทมุ ธานี มีปริมาณขยะมูลฝอยประมาณ ๑,๒๓๓.๗๓ -๑,๒๗๔.๗๓ ตัน/วัน ซึ่งได้มีการดาํ เนนิ การกําจัดนอกเขตพ้นื ที่จังหวัดปทุมธานี ประมาณ ๓๑๘ - ๓๒๔ ตัน/วัน และในเขตพื้นท่ีประมาณ ๗๔๒ - ๗๗๑ ตัน/วัน วิธีการกําจัดส่วนใหญ่จะใช้วิธีฝังกลบ (ข้อมูลปริมาณการกําจัดขยะมูลฝอยในพ้ืนที่จังหวัดปทุมธานี ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมีนาคม ๒๕๕๐) สถานที่กําจัดขยะมูลฝอยในเขตพนื้ ที่จังหวดั ปทุมธานี เป็นแบบฝงั กลบท่มี กี ารออกแบบอย่างถกู หลกั สขุ าภบิ าล มอี ยู่ ๒ แหง่ คอื
‐ 38 ‐ แหง่ ท่ี ๑ คอื บ่อขยะแบบฝังกลบของเทศบาลเมืองคูคต ตงั้ อยู่หมู่ที่ ๑๔ ต.บึงทองหลาง อ.ลําลูกกามีเน้ือที่ประมาณ ๒๓๐ ไร่ ซึ่งเมื่อได้ดําเนินการสร้างศูนย์กําจัดขยะมูลฝอยรวมท่ี ๑ แล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๔๑ ได้มกี ารคัดค้านจากประชาชนบรเิ วณใกลเ้ คียง จงึ ไมส่ ามารถเปดิ ใช้ได้ แห่งที่ ๒ คือ บ่อขยะแบบฝังกลบของเทศบาลเมืองปทุมธานี ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๔ ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว มีเน้ือที่ในขณะน้ันประมาณ ๑๑๘ ไร่ (เทศบาลเมืองปทุมธานี ได้จัดซื้อขึ้นอีกประมาณ ๑๒๐ ไร่ ปัจจุบันจึงมีเนื้อท่ีประมาณ๒๓๘ ไร่) ได้เร่ิมเปิดดําเนินการเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยวางแผนรองรับขยะมูลฝอยจากพ้ืนที่ฝ่ังตะวันตกของแม่น้ําเจ้าพระยา คือ อ.เมือง อ.สามโคก และ อ.ลาดหลุมแก้ว แต่เน่ืองจากเป็นบ่อขยะแบบฝังกลบท่ีมีการดําเนินการอย่างถูกหลักสุขาภิบาล เพียงแห่งเดียวในขณะน้ัน ทําให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจํานวนมากนําขยะมากําจัด จึงเกินขีดความสามารถท่ีจะให้บริการฝังกลบต่อวันได้ และถูกร้องเรียนคดั ค้านจากประชาชน และไมส่ ามารถเปิดดาํ เนนิ การได้ในทส่ี ดุ โดยในขณะน้จี ังหวัดปทมุ ธานีแก้ปัญหาโดยการนําขยะไปกําจัดท่ีจังหวดั พระนครศรีอยุธยา ๓.๔.๓ คณุ ภาพอากาศและเสียงเนื่องจากจังหวัดปทุมธานี เป็นเมืองอุตสาหกรรมและยังเป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเน่ืองจากกรุงเทพมหานคร จึงทําให้มีสถานประกอบการเป็นจํานวนมาก โดยกรมควบคุมมลพิษได้ทําการติดต้ังสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อเฝ้าระวังตรวจสอบคุณภาพอากาศ จากข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ประจําปี ๒๕๔๙ และ ๒๕๕๐ พบว่า ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในระดับปานกลางยังไม่มีผลต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามผลการตรวจวัดบางวันพบว่า ค่าดัชนีคุณภาพอากาศมีค่าที่เกินมาตรฐาน ซ่ึงมีผลกระทบต่อสขุ ภาพ แตเ่ ป็นเพียงบางวนั เทา่ นัน้ สําหรับปัญหามลพิษทางเสียงในจังหวัดปทุมธานี แบ่งตามแหล่งกําเนิดมลพิษเป็น ๒ประเภท คือโรงงานอุตสาหกรรมและยานพาหนะ ซ่ึงผลการตรวจวัดเสียง เฉล่ีย ๒๔ ชั่วโมง ระหว่างวันที่ ๒๗ – ๒๘เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๐ บริเวณใกล้โรงงานอุตสาหกรรมบริษัท อายิโนะโมะ-โต๊ะ จํากัด จังหวัดปทุมธานี พบว่าคา่ ระดบั เสียงสูงสุด และระดบั เสียงเฉล่ยี ๒๔ ช่ัวโมง มคี า่ อย่ใู นเกณฑ์มาตรฐาน ๓.๕ ปัญหาสังคมในจังหวัดปทมุ ธานี จังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทั้งการเป็นศูนย์กลางการศึกษา และเมืองแห่งโรงงานอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดการขยายตัวของชุมชนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวของชุมชนบริเวณรอบสถานศึกษาและสถานประกอบการ จากปัจจัยดังกล่าวจึงทําให้สภาพสังคมของจังหวัดปทุมธานีเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วมีการเคลื่อนย้ายของประชากรเป็นจํานวนมาก เป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการท่ีเห็นแก่ได้ใช้โอกาสดังกล่าวในการมอมเมาเยาวชน ก่อให้เกิดปัญหาการม่ัวสุมภายในหอพักท่ีอาจชักนําไปสู่การกระทําผิดเก่ียวกับยาเสพติด การล่วงละเมิดทางเพศ และอบายมุขอื่น ๆ ปัญหาการจําหน่ายบุหรี่และสุรา
‐ 39 ‐ ให้กับเดก็ และเยาวชน ปญั หาการเปดิ เกนิ เวลาและอนญุ าตให้เยาวชนเข้าไปใชบ้ รกิ ารของสถานบันเทิง เช่น ผับบาร์ ร้านคาราโอเกะ และร้านจําหน่ายเหล้าปั่น ปัญหาการเปิดร้านอินเตอร์เน็ตและร้านเกมส์เกินเวลาและปล่อยให้นักเรียนเข้ามาใช้บริการ ปัญหาเหล่านี้จําเป็นต้องมีมาตรการในการดําเนินการเชิงป้องกันและปราบปรามมิให้มีการมั่วสุม หรือเกี่ยวข้องกับการกระทําผิดเก่ียวกับยาเสพติดและอบายมุขอ่ืน ๆ ทั้งการจัดระเบียบหอพัก การจัดระเบียบร้านค้า การจัดระเบียบการเปิดและปิดร้านอินเตอร์เน็ตและร้านเกมส์ การจัดจาํ หนา่ ยสุราและบุหรี่ โดยมงุ่ เนน้ สวัสดิภาพและความปลอดภัยของเยาวชน นักศึกษารวมท้ังประชาชนท่ีอาศัยอยู่ในพืน้ ทข่ี องจงั หวัดปทมุ ธานีสถานการณป์ ญั หาสงั คมจังหวดั ปทุมธานี ปี 2554 สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี ได้รวบรวมข้อมูลสถานการณท์ างสงั คมของทอ้ งถิ่น ปี 2554 ตามแบบรายงานสถานการณท์ างสงั คมของท้องถิ่น ปี 2554 (อปท.1) จํานวน 58 แห่ง จากจํานวน อปท. ทั้งหมด 64 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 90.62 ซึ่งมีจํานวนประชากรชายและหญิง รวมจํานวน 849,222 คน เป็นชาย 406,731 คน หญิงจํานวน 442,491 คน จํานวนครัวเรือนในท้องถ่ิน 499,952 ครัวเรือน ประกอบด้วย ปัญหาเชิงประเด็นสังคมและปัญหาสังคมเชิงกลุ่มเป้าหมายท่ีตอ้ งไดร้ ับการพัฒนา ซึง่ แสดงให้เหน็ ถึงปญั หาในระดับท้องถ่ินเปน็ ภาพรวมของจงั หวัดได้ดังน.ี้ - 1. ปญั หาเชิงประเดน็ สังคม สรุปปญั หาเชงิ ประเดน็ จาํ นวน รอ้ ยละ1. ปัญหาด้านทอ่ี ย่อู าศยั และส่งิ แวดลอ้ ม2. ปัญหาดา้ นสขุ ภาพอนามยั 5,276 23.303. ปัญหาด้านการศึกษา 4,662 20.594. ปญั หาด้านการมีงานทําและรายได้ 420 1.855. ปัญหาด้านความไมป่ ลอดภยั ในชวี ิตและทรพั ย์สนิ 4,735 20.91 7,076 31.256. ปญั หาด้านวัฒนธรรมและจริยธรรม 475 2.10 รวม 22,644 100.00 2. 1.1 ปัญหาดา้ นทีอ่ ยอู่ าศัยและส่ิงแวดล้อม การขาดท่ีอยู่อาศัยท่ีดีมีความม่ันคง และการไดร้ บั สาธารณปู โภคท่เี หมาะสมในเขตการปกครองของ อปท. มีระดับปญั หาทแี่ ตกตา่ งกนั ดังน้ี ปญั หาเชงิ ประเด็นสงั คม จํานวน หน่วยนบั ร้อยละ 434 ครอบครวั 8.231. ครอบครวั ทอ่ี าศยั ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมและสมควรไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื
‐ 40 ‐ 629 ครวั เรือน 11.92 ครอบครวั 675 12.79 ครวั เรอื น2. ครัวเรือนทม่ี ีสภาพท่ีอยู่อาศยั ไมม่ ่นั คงถาวรและสมควร 3,497 ครอบครัว 66.28ไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื 41 0.783. ครอบครวั ทอ่ี าศยั อย่ใู นพนื้ ท่เี ส่ียงภัยทางธรรมชาตใิ น 5,276 100.00ระดับท่เี ป็นอนั ตรายต่อชีวิตและทรัพยส์ นิ4. ครัวเรือนทไี่ ม่มกี รรมสทิ ธใ์ิ นทอี่ ยู่อาศัย เช่นอาศัยอย่ใู นพนื้ ทสี่ าธารณะทร่ี าชพัสดุ ภายในบริเวณวดั ทีเ่ ช่า เปน็ ตน้5. อ่ืน ๆ รวม จากตารางแสดงให้เห็นว่า ครัวเรือนท่ีไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย เช่นอาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะที่ราชพัสดุ ภายในบริเวณวัด ที่เช่า เป็นต้น มีมากท่ีสุด รองลงมา คือ ครอบครัวท่ีอาศัยอยู่ในพื้นที่เส่ียงภัยทางธรรมชาติในระดับที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน / ครัวเรือนท่ีมีสภาพท่ีอยู่อาศัยไม่ม่ันคงถาวรและสมควรได้รับความช่วยเหลือ / ครอบครัวที่อาศัยในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมและสมควรได้รับความช่วยเหลอื ตามลําดับ 1.2 ปัญหาด้านสุขภาพอนามัย จํานวนประชากรในเขตพ้ืนที่ อปท. ท่ีมีปัญหาด้านสุขภาพอนามยั ทีส่ าํ คัญใน 8 ประการ ดงั แสดงในตารางปญั หาดา้ นสุขภาพ จํานวน หนว่ ยนบั ร้อยละ1. ประชาชนทต่ี ิดสรุ าเรือ้ รัง 1,012 คน 21.712. ประชาชนท่ีติดสารเสพติดร้ายแรง เช่น ยาบ้า ยาอี สาร 308 คน 6.61ระเหย กญั ชา เปน็ ต้น3. ประชาชนที่ติดเชื้อเอดส์ป่วยเป็นโรคเอดส์และสมควรได้รับการช่วยเหลือ (ท้ังท่ีได้รับความช่วยเหลือแล้ว และยังไม่ได้รับ 1,425 คน 30.57ความชว่ ยเหลอื )4. ประชาชนทตี่ ดิ โรคระบาดในรอบปี เชน่ โรคไขเ้ ลือดออก 246 คน 5.28โรคอหวิ าตกโรค โรคไข้หวดั นก โรคฉี่หนู เปน็ ต้น5. ประชาชนทเ่ี สยี ชีวติ ในรอบปจี ากโรคมะเรง็ โรคเบาหวาน 812 คน 17.42โรคความดนั เปน็ ต้น6. ประชาชนที่เจ็บป่วยและไม่สามารถประกอบอาชีพได้ (ไม่ 465 คน 9.97รวมคนพิการ)7. ประชาชนท่ีมีอาการทางจิต / ประสาท 297 คน 6.37
‐ 41 ‐ 8. อ่ืน ๆ 97 คน 2.08 รวม 4,662 คน 100.00 จากตารางแสดงให้เห็นว่า ประชาชนท่ีติดเชื้อเอดส์ป่วยเป็นโรคเอดส์และสมควรได้รับการช่วยเหลือ (ทั้งท่ีได้รับความช่วยเหลือแล้ว และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ) มีจํานวนมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ30.57 รองลงมา คือ ประชาชนท่ีติดสุราเร้ือรัง / ประชาชนท่ีเสียชีวิตในรอบปีจากโรคมะเร็ง โรคเบาหวานโรคความดนั เปน็ ตน้ / ประชาชนทเ่ี จบ็ ป่วยและไม่สามารถประกอบอาชีพได้ (ไม่รวมคนพิการ) / ประชาชนที่ติดสารเสพติดร้ายแรง เช่น ยาบ้า ยาอี สารระเหย กัญชา เป็นต้น / ประชาชนท่ีมีอาการทางจิต, ประสาท/ ประชาชนที่ติดโรคระบาดในรอบปี เช่น โรคไข้เลือดออก โรคอหิวาตกโรค โรคไข้หวัดนก โรคฉ่ีหนู เป็นตน้ ตามลาํ ดับ 1.3 ปัญหาด้านการศึกษา สภาพของปัญหาทางการศึกษาของประชาชนในเขตพ้ืนท่ี อปท.ของจงั หวดั ปทุมธานี มสี ดั สว่ นของปญั หาแตกตา่ งกนั ดังนี้ ปญั หาดา้ นการศึกษา จาํ นวน หนว่ ยนบั ร้อยละ1. เดก็ ท่ไี มส่ ามารถเข้าศกึ ษาต่อตามภาคบังคบั ได้ 57 คน 13.57 58 คน 13.812. เดก็ ทีอ่ อกเรียนกลางคนั ในภาคการศกึ ษาบงั คับ 285 คน 67.863. เยาวชนทีจ่ บการศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี การศกึ ษาสายอาชีพแล้วไม่มีงานทาํ ในรอบ 1 ปี ทจ่ี บการศึกษา4. คนทจ่ี บการศึกษาชนั้ ประถม แต่ไม่สามารถอา่ นออกเขียนได้ 20 คน 4.76 รวม 420 คน 100.00 จากตารางแสดงจํานวนประชาชนในพ้ืนที่ อปท. ในจังหวัดปทุมธานี มีปัญหาเยาวชนที่จบการศึกษาระดับปรญิ ญาตรี การศกึ ษาสายอาชพี แล้วไมม่ ีงานทําในรอบ 1 ปี ท่ีจบการศึกษา มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 67.86 รองลงมา คือ เด็กที่ออกเรียนกลางคันในภาคการศึกษาบังคับ / เด็กที่ไม่สามารถเข้าศึกษาต่อตามภาคบังคบั ได้ ตามลาํ ดับ
‐ 42 ‐ 1.4 ปญั หาดา้ นการมงี านทาํ และรายได้ ปญั หาดา้ นการมีงานทาํ และรายได้ จาํ นวน หนว่ ยนบั ร้อยละ1. ประชาชนในวยั ทาํ งานทีไ่ มม่ งี านทําหรอื ไมป่ ระกอบอาชพี ชาย 382 คน 16.14มากกว่า 6 เดอื นในรอบ 1 ปี (ไมน่ บั รวมผทู้ จ่ี บการศกึ ษาในรอบ หญงิ 382 คน คน1 ปที ่ผี ่านมา) รวม 764 คน๒. ประชาชนท่มี รี ายไดน้ ้อยขาดแคลนทนุ ประกอบอาชีพเพอ่ื ยัง 1,327 คน 28.03ชพี และสมควรไดร้ บั ความชว่ ยเหลือ3. ประชาชนทม่ี รี ายได้น้อยท่มี ีหนส้ี นิ และมปี ัญหาในการสง่ ใชเ้ งนิ 2,644 คน 55.84กู้ยืมและสมควรไดร้ ับความช่วยเหลือ รวม 4,735 คน 100.00 ปัญหาด้านการมีงานทําและรายได้ ที่สําคัญท่ีสุด คือ ประชาชนที่มีรายได้น้อยที่มีหนี้สินและ มีปัญหาในการส่งใช้เงินกู้ยืมและสมควรได้รับความช่วยเหลือ คิดเป็นร้อยละ 55.84 รองลงมา คือประชาชนที่มีรายได้น้อยขาดแคลนทุนประกอบอาชีพเพื่อยังชีพและสมควรได้รับความช่วยเหลือ และประชาชนในวัยทํางานที่ไม่มีงานทําหรือไม่ประกอบอาชีพ มากกว่า 6 เดือนในรอบ 1 ปี (ไม่นับรวมผู้ที่จบการศึกษาในรอบ 1 ปที ่ผี ่านมา) ซง่ึ คดิ เป็น รอ้ ยละ 28.03 และ 16.14 ตามลาํ ดับ1.5 ปญั หาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรพั ยส์ นิ ปญั หาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยส์ นิ จาํ นวน หน่วยนบั ร้อยละ 62 คน 0.881. ประชาชนถูกทาํ ร้ายทางร่างกายในรอบปที ี่ผ่านมา 28 คน 0.402. ประชาชนถกู ลว่ งละเมิดทางเพศในรอบปที ีผ่ า่ นมา3. ประชาชนถกู ลกั ทรพั ย์/ชงิ ทรัพย์/ถูกทาํ ลายทรพั ย์ใน 467 คน 6.60รอบปที ีผ่ ่านมา4. ประชาชนทีไ่ ดร้ ับอุบตั เิ หตจุ ากยานพาหนะในรอบ 746 คน 10.54ปีทีผ่ ่านมา5. ประชาชนที่ประสบภัยจากการทํางานในรอบปีท่ผี า่ นมา 1,063 คน 15.026. ประชาชนทไี่ ด้รับผลกระทบจากสาธารณภัยในรอบปี(ทงั้ ภัยทเี่ กดิ จากธรรมชาตแิ ละมนุษย์) 4,707 คน 66.527. คนสูญหาย/ติดต่อไม่ได้ในรอบปี8. อน่ื ๆ (ระบุ) 3 คน 0.04 0 0.00 รวม 7,076 100.00
‐ 43 ‐ จากตารางแสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ในรอบปีที่ผ่านมาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยในรอบปี (ทั้งภัยที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์) มีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 66.52 รองลงมา คือ ประชาชนท่ีประสบภัยจากการทํางานในรอบปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ15.02 1.6 ปัญหาด้านวัฒนธรรมและจริยธรรม ท่ีได้ทําการศึกษาคร้ังน้ี พบว่า ลักษณะท่ีสําคัญ4 ประการ มสี ัดสว่ นท่ีแตกต่างกนั ดงั นี้ ปัญหาดา้ นวฒั นธรรมและจรยิ ธรรม จํานวน หน่วยนบั ร้อยละ1. ร้านค้าท่ขี ายเหล้า/บหุ ร่ี อยใู่ นบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา 173 แหง่ 36.42และ ศาสนสถาน 271 แหง่ 57.052. ร้านสือ่ ลามก / ร้านเกมส์ / ร้านอนิ เตอรเ์ น็ตภายในทอ้ งถ่ิน 30 กลมุ่ 6.323. กลุม่ เครือขา่ ยทย่ี ังมีปัญหาเร่อื งความปรองดองและจําเป็นตอ้ งมกี ารจัดการให้เกดิ ความสมานฉนั ท์4. อน่ื ๆ (ระบ)ุ 1 0.21 475 100.00 รวม โดยส่วนใหญ่ จะพบปัญหาร้านสื่อลามก / ร้านเกมส์ / ร้านอินเตอร์เน็ตภายในท้องถ่ิน มากทส่ี ุด คิดเปน็ ร้อยละ 57.05 รองลงมา คือ ร้านค้าที่ขายเหล้า/บุหร่ี อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา และศาสนสถาน คิดเป็นร้อยละ 36.42 และปัญหากลุ่มเครือข่ายท่ียังมีปัญหาเรื่องความปรองดองและจําเป็นต้องมกี ารจัดการให้เกิดความสมานฉันท์ น้อยทส่ี ุด คดิ เป็นร้อยละ 6.32 ในภาพรวมในปี 2554 จังหวัดปทุมธานี มีปัญหาเร่ืองปัญหาด้านท่ีอยู่อาศัยและส่ิงแวดล้อม เป็นลําดับที่ 1 คือ ร้อยละ 31.25 ปัญหาด้านความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นอันดับท่ี2 คือ ร้อยละ 23.30 ปัญหาด้านท่ีอยู่อาศัยและส่ิงแวดล้อม เป็นอันดับที่ 3 คิดเป็นร้อยละ 20.91 ปัญหาด้านการมีงานทําและรายได้ เป็น ลําดบั 42. ปัญหาเชงิ กลมุ่ เป้าหมายทตี่ ้องได้รับการพฒั นา 2.1 ปัญหาเดก็ และเยาวชน (อายุ 0 - 25 ปี) ปัญหาเดก็ และเยาวชน (อายุ 0 - 25 ป)ี จํานวน หน่วยนบั ร้อยละ1. เด็กขาดผู้อุปการะ (เด็กท่ีผู้ปกครองไม่สามรถอุปการะเล้ียงดู 177 คน 5.01ไดด้ ว้ ยเหตใุ ด ๆ เช่น ถูกจําคกุ กักขัง พกิ าร ทุพพลภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง ยากจนเป็นผู้เยาว์ หย่า ถูกทิ้งร้าง เป็นโรคจิตหรือโรค
‐ 44 ‐ ประสาท)2. เด็กถูกทอดท้ิง (เด็กที่พ่อแม่ทอดทิ้งให้อยู่กับญาติหรือบุคคล 186 คน 5.27อื่น เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เพ่ือน ผู้รับจ้างเลี้ยงเด็กฯลฯ โดยพ่อแม่ไม่ให้การเลี้ยงดูเอาใจใส่ในเร่ืองอาหาร ที่อยู่ คน 1.50อาศัย เสื้อผ้า ยารักษาโรค การศึกษา หรือการส่งเสียเงินทองค่าใชจ้ า่ ยในการเลยี้ งดูเด็ก) คน 17.90 คน 28.603. เด็กไม่ได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียน (เด็กที่ไม่ได้ 53เข้ารับการเตรียมความพร้อมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หรือ อ่ืน ๆ คน 24.16ก่อนเข้าเรียนชั้นประถมศกึ ษา คน 4.76 คน 4.054. เดก็ กําพรา้ (เด็กที่บดิ าและ/หรอื มารดาเสียชวี ิต) 632 คน 2.18 1,010 คน 0.005. เยาวชนในครอบครวั ยากจนท่ไี ม่มีทนุ การศกึ ษาต่อ คน 0.06 คน 1.086. เด็กและเยาวชนทม่ี ีพฤติกรรมไมเ่ หมาะสมและพบเห็นได้ในท่ี คน 0.54สาธารณะ คน 4.90 คน 0.00 1) ดืม่ เครื่องดืม่ ที่มแี อลกอฮอร์ สบู บหุ รี่ และติดสารเสพตดิ 853รา้ ยแรง เช่น ยาบา้ ยาอี สารระเหย กญั ชา เป็นตน้2) มัว่ สมุ และทาํ ความราํ คาญใหก้ บั ชาวบา้ น 1683) ตดิ เกมส์ และเลน่ การพนนั ต่าง ๆ4) มีพฤติกรรมทางเพศ 143 77 5) อนื่ ๆ (ระบุ) 07. เดก็ และเยาวชนเรร่ อ่ น ขอทาน 28. เด็กและเยาวชนทไ่ี มม่ ชี ่ือในทะเบยี นบ้าน 389. เยาวชนในชุมชนทีเ่ ลย้ี งดบู ตุ รตามลาํ พงั 1910. เดก็ และเยาวชนตา่ งด้าว 17311. อนื่ ๆ 0
‐ 45 ‐ รวม 3,531 คน 100.00 ปัญหาของเด็กและเยาวชนในจังหวัดปทุมธานี ปัญหา คือ อันดับแรก เยาวชนในครอบครัวยากจนท่ีไม่มีทุนการศึกษาต่อ คิดเป็น ร้อยละ 28.60 รองลงมา คือ ดื่มเครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอร์ สูบบุหรี่และติดสารเสพติดร้ายแรง เช่น ยาบ้า ยาอี สารระเหย กัญชา เป็นต้น คิดเป็นร้อยละ 24.16 / เด็กกําพร้า (เดก็ ทีบ่ ดิ าและ/หรอื มารดาเสยี ชวี ิต) เปน็ ตน้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 17.90๒.๒ ปัญหาครอบครัวปัญหาครอบครวั จาํ นวน หน่วยนบั ร้อยละ1. ครอบครัวหย่าร้าง (เลิกกัน/ไม่อยู่ด้วยกันฉันท์สามี 367 ครอบครวั 65.07ภรรยา) 9 ครอบครัว 1.60 133 ครอบครวั 23.582. ครอบครัวทกี่ ระทาํ ความรุนแรงตอ่ เดก็ และสตรี 33 ครอบครัว 5.85 22 ครอบครัว 3.903. ครอบครัวที่มีบุตรหลานประพฤติตัวไม่เหมาะสมและพบเห็นในทีส่ าธารณะ (ประพฤตติ ัวไมเ่ หมาะสม)4. ครอบครัวทีไ่ ม่เลย้ี งดูบพุ การตี ามสภาพทเ่ี หมาะสม(บุพการี หมายถึง พ่อ แม่ ปู่ ยา่ ตา ยาย เปน็ ต้น)5. ครอบครวั ทม่ี หี ัวหน้าครอบครัวประพฤติตัวไม่เหมาะสมรวม 564 ครอบครัว 100.00 จากตารางแสดงให้เห็นว่า ครอบครัวหย่าร้าง (เลิกกัน/ไม่อยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยา) มีมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 65.07 รองลงมา คือ ครอบครัวท่ีมีบุตรหลานประพฤติตัวไม่เหมาะสมและพบเห็นในที่สาธารณะ (ประพฤติตัวไม่เหมาะสม) คิดเป็นร้อยละ 23.58 / ครอบครัวท่ีไม่เล้ียงดูบุพการีตามสภาพท่ีเหมาะสม (บุพการี หมายถึง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นต้น) คิดเป็นร้อยละ 5.85 / ครอบครัวท่ีมีหัวหน้าครอบครัวประพฤติตัวไม่เหมาะสม เปน็ ต้น) คิดเป็นร้อยละ 3.90 ๒.๓ ปัญหาสตรี (อายุ 25 – 60 ป)ี ปญั หาครอบครวั จํานวน หน่วยนบั ร้อยละ1. สตรีท่ีถกู ละเมดิ ทางเพศ 8 คน 2.96
‐ 46 ‐ 36 คน 13.33 226 คน 83.70 2. สตรีทถ่ี ูกทาํ รา้ ยร่างกายและจิตใจ 0 คน 0.00 3. สตรหี ม้ายท่ตี ้องเลี้ยงดบู ุตรเพยี งลาํ พัง 270 คน 100.00 4. อ่นื ๆ (ระบุ) รวม จากตารางแสดงให้เห็นว่า สตรีหม้ายท่ีต้องเลี้ยงดูบุตรเพียงลําพัง มีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 83.70 รองลงมา คือ สตรีที่ถูกทําร้ายร่างกายและจิตใจ คิดเป็นร้อยละ 13.33 และสตรีท่ีถูกละเมดิ ทางเพศ คดิ เป็นร้อยละ 2.96๒.๔ ปัญหาผูส้ งู อายุ (อายุ 60 ปขี ึ้นไป) ปญั หาผสู้ ูงอายุ (อายุ 60 ปขี นึ้ ไป) จํานวน หน่วยนบั รอ้ ยละ1. ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้ไปแจ้งจดทะเบียนเพ่ือรับเบี้ยยังชีพได้ตาม 1,971 คน 61.65กาํ หนด (มีเอกสารหลกั ฐานครบถว้ น) คน2. ผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และสมควรได้รับความ 269 8.41ช่วยเหลอื (ผู้สงู อายทุ ี่อย่ตู ามลําพังและไม่มีผู้ดแู ล) คน 223 6.983. ผู้สงู อายไุ มส่ ามารถเข้าถึงบรกิ าร/กจิ กรรมสําหรบั ผูส้ ูงอายุใน คน 38 คน 1.19ดา้ นต่าง ๆ เชน่ ด้านอาชพี สุขภาพ นันทนาการ เปน็ ต้น 10 คน 0.31 686 คน 21.464. ผสู้ ูงอายทุ ี่ถูกทาํ รา้ ยรา่ งกายและจติ ใจ 0 คน 0.005. ผสู้ งู อายุที่ไมม่ ีชื่อในทะเบยี นบา้ น / ไมม่ ีบตั รประชาชน 3,197 100.006. ผู้สูงอายทุ ย่ี ากจนและมภี าระตอ้ งเลย้ี งดบู ุตรหลาน7. อนื่ ๆ (ระบุ) รวม จากตารางแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้ไปแจ้งจดทะเบียนเพื่อรับเบ้ียยังชีพได้ตามกาํ หนด (มีเอกสารหลักฐานครบถว้ น) มมี ากทีส่ ุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 61.65 รองลงมา คือ ผู้สูงอายุที่ยากจนและมีภาระต้องเล้ียงดูบุตรหลาน คิดเป็นร้อยละ 21.46 และผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และสมควรได้รับความช่วยเหลอื (ผูส้ ูงอายทุ อี่ ยู่ตามลาํ พังและไมม่ ผี ดู้ แู ล) คิดเป็นรอ้ ยละ 8.41๒.๕ ปญั หาคนพิการ ปัญหาคนพกิ าร จาํ นวน หนว่ ยนับ ร้อยละ
‐ 47 ‐ 463 คน 6.57 884 คน 12.54 3,325 คน 47.17 455 คน 6.451. คนพกิ ารทีท่ ้องถิน่ สํารวจไว้แล้ว 960 คน 13.62 1) คนพกิ ารทางการมองเห็น 478 คน 6.78 2) คนพิการทางการได้ยินหรือการส่อื ความหมาย 118 คน 1.67 3) คนพกิ ารทางกายหรอื การเคลอ่ื นไหว คน 5.11 4) คนพิการทางจติ ใจหรือพฤตกิ รรม 360 5) คนพิการทางสติปญั ญาหรอื การเรยี นรู้ (ปัญญาอ่อน) คน 0.06 6) คนพิการซํ้าซ้อน (มสี ภาพความพิการมากกว่า๑ ประเภท 4 คน 0.03 2 คน 100.002. คนพิการทยี่ ังไมไ่ ด้รบั การจดทะเบียน 7,0493. คนพิการที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ (ทังท่ีจดทะเบียนแล้วและยงั ไม่ได้จดทะเบียน4. คนพิการทถ่ี ูกทอดท้งิ /ไม่ได้รับความเอาใจใสจ่ ากครอบครัว5. อน่ื ๆ (ระบุ) รวม ปัญหาคนพิการในจังหวัดปทุมธานี ปัญหา คือ อันดับแรก คนพิการทางกายหรือการเคลื่อนไหว คิดเป็น ร้อยละ 47.17 รองลงมา คือ คนพิการทางสติปัญญาหรือการเรียนรู้ (ปัญญาอ่อน) คิดเป็นรอ้ ยละ 13.62 / คนพิการทางการไดย้ นิ หรือการสอ่ื ความหมาย เป็นต้น คิดเป็นร้อยละ 12.54 ๒.๖ ปัญหาแรงงาน ปัญหาแรงงาน จาํ นวน หนว่ ยนบั รอ้ ยละ1. แรงงานต่างด้าวในท้องถนิ่ ท่ีจดทะเบียนแล้ว 13,617 คน 70.332. แรงงานต่างดา้ วในทอ้ งถ่นิ ทย่ี งั ไม่ไดร้ ับการจดทะเบียน คน 0.213. ครอบครวั แรงงานต่างดา้ วในทอ้ งถิน่ 41 คน 0.614. แรงงานไทยท่อี พยพมาจากตา่ งถิน่ 118 คน 25.495. คนทีถ่ ูกเลกิ จา้ งและวา่ งงานไมม่ รี ายได้ 4,935 คน 3.366. อนื่ ๆ (ระบุ) 650 คน 0.00 0 คน 100.00 รวม 19,361
‐ 48 ‐ ปัญหาแรงงานในจังหวัดปทุมธานี ปัญหา คือ อันดับแรก แรงงานต่างด้าวในท้องถิ่นที่จดทะเบียนแล้ว คิดเป็น ร้อยละ 70.33 รองลงมา คือ แรงงานไทยท่ีอพยพมาจากต่างถ่ิน คิดเป็นร้อยละ25.49/ คนทถี่ กู เลิกจ้างและว่างงานไมม่ รี ายได้ เปน็ ต้น คดิ เปน็ ร้อยละ 3.36สรปุ ปัญหาสงั คมเชงิ กลุ่มเป้าหมายท่ตี ้องไดร้ บั การพฒั นา ปัญหาเชิงประเด็น จาํ นวนหน่วย รอ้ ยละ1. ปญั หาเด็กและเยาวชน (อายุ 0 – 25 ป)ี 3,531 12.612. ปัญหาครอบครวั 564 2.013. ปัญหาสตรี (อายุ 25 ปีข้ึนไป – 60 ป)ี 270 0.964. ปญั หาผูส้ งู อายุ (60 ปขี น้ึ ไป) 3,197 11.425. ปัญหาคนพกิ าร6. ปัญหาแรงงาน 7,049 25.18 13,388 47.82 รวม 27,999 100.00 ในภาพรวมในปี 2554 จังหวัดปทุมธานีมีปัญหาแรงงาน เป็นลําดับที่ 1 คิดเป็นร้อยละ47.82 ปัญหาคนพิการ เป็นลําดับท่ี 2 คิดเป็นร้อยละ 25.18 ปัญหาเด็กและเยาวชน เป็นลําดับท่ี 3 คิดเป็นร้อยละ 12.61 ปัญหาผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เป็นลําดับที่ 4 คิดเป็นร้อยละ 11.42 ปัญหาครอบครัว เป็นลําดบั ที่ 5 คดิ เป็นร้อยละ 2.01 และลําดบั สดุ ท้าย คอื ปัญหาสตรี คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.96 ขอ้ เสนอแนะ การบูรณาการงานด้านสังคม เพื่อป้องกัน/แก้ไขปัญหาทางสังคมของจังหวัดน้ัน ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (อบจ, เทศบาล, อบต.) ควรบูรณาการในทุก ๆ มิติ ทั้งการจัดต้ังงบประมาณ การจัดทําแผนงาน/โครงการ เป้าหมาย ตัวชี้วัด ทั้งนี้เพ่ือประสิทธภิ าพสงู สุด นอกจากนนั้ ความรว่ มมอื รว่ มใจจากครอบครัว ชมุ ชน อาสาสมคั ร หนว่ ยงานทุกหน่วย ฯก็เป็นปัจจัยหลักในการประสบความสําเร็จ ให้ทุกส่วนตระหนักว่าปัญหาทุกปัญหามีความสําคัญ ท่ีต้องร่วมมือแก้ไข มิใช่เป็นภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหน่ึง การร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาเชิงบูรณาการอย่างต่อเน่อื ง จะสง่ ผลให้ปัญหาสังคมลดน้อยลงในอนาคต
‐ 49 ‐ ส่วนที่ 4 ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาจงั หวัดปทุมธานี พ.ศ. 2556 วิสัยทัศน์ “ปทุมธานเี ป็นเมืองสะอาดในการเกษตร การอุตสาหกรรม การทอ่ งเทยี่ ว และเป็น สังคมสันตสิ ุข”พนั ธกิจ ๑. บริหารราชการตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ ๒. บรหิ ารราชการตามทค่ี ณะรฐั มนตรี กระทรวง ทบวง กรม มอบหมาย หรือตามที่นายกรัฐมนตรีสั่ง การในฐานะหวั หนา้ รัฐบาล ๓. บริหารราชการตามคําแนะนําและคําชี้แจงของผู้ตรวจราชการกระทรวงในเมื่อไม่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคําส่ังกระทรวง ทบวง กรม มติของคณะรัฐมนตรีหรือการส่ังการของ คณะรฐั มนตรี ๔. กํากับดูแลการปฏิบัติราชการอันมิใช่ราชการส่วนภูมิภาคของข้าราชการซึ่งประจําอยู่ในจังหวัดนั้น ยกเว้นข้าราชการทหาร ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการพลเรือนใน มหาวิทยาลัย ข้าราชการในสํานักงานตรวจเงินแผ่นดิน และข้าราชการครู ให้ปฏิบัติราชการให้ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือคําสั่งของกระทรวง ทบวง กรม หรือมติของ คณะรัฐมนตรหี รอื การส่ังการของนายกรัฐมนตรีหรือยบั ยั้งการกระทําใดๆของข้าราชการในจังหวัด ที่ขัดต่อ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือคําส่ังของกระทรวง ทบวง กรม หรือมติของ คณะรัฐมนตรี หรือการส่ังการของนายกรัฐมนตรีไว้ช่ัวคราว แล้วรายงานกระทรวง ทบวง กรมที่ เก่ียวขอ้ ง ๕. ประสานและร่วมมือกับข้าราชการทหาร ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการในสํานักงานตรวจเงินแผ่นดิน และข้าราชการครู ผูต้ รวจราชการ และหัวหน้าส่วนราชการในระดบั เขตหรอื ภาค ในการพฒั นาจงั หวดั หรือปอ้ งกันภัย พิบัติสาธารณะ
‐ 50 ‐ ๖. เสนองบประมาณต่อกระทรวงท่ีเก่ียวข้องตามโครงการหรือแผนพัฒนาจังหวัด และรายงานให้ กระทรวงมหาดไทยทราบ ๗. ควบคุมดูแลการบรหิ ารราชการส่วนท้องถิ่นในจงั หวดั ตามกฎหมาย ๘. กํากับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานองค์การของรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ ในการน้ีให้มีอํานาจทํา รายงานหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดําเนินงานขององค์การในรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจต่อ รัฐมนตรีเจา้ สังกดั องคก์ ารของรัฐบาลหรือรัฐวสิ าหกิจ ๙. บรรจุ แต่งต้ัง ให้บําเหน็จ และลงโทษให้ข้าราชการในส่วนภูมิภาคในจังหวัดตามกฎหมาย และ ตามท่ีปลัดกระทรวง ปลดั ทบวง หรืออธบิ ดีมอบหมายประเดน็ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๑ ส่งเสริมธรุ กจิ การผลิต และบรกิ าร ที่เป็นมติ รกบั ส่ิงแวดลอ้ มเป้าประสงค์ เพิ่มมูลค่าแก่ธุรกจิ ท่ีเปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดล้อมกลยทุ ธ์ ๑. ปรับระบบการบริหารจดั การไปสโู่ รงงานอตุ สาหกรรมสเี ขยี ว ( Green Industry ) ๒. สร้างระบบและกลไกในการควบคมุ เฝ้าระวงั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ๓. ส่งเสรมิ ธรุ กจิ สรา้ งสรรค์ระดบั ชมุ ชน ๔. สง่ เสริมการท่องเทย่ี วเชิงนเิ วศ เปา้ ประสงค์ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย กลยทุ ธ์เชงิ ยทุ ธศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๓ พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๓- พ.ศ. ๒๕๕๖เพม่ิ มูลค่าแก่ ๑. จาํ นวนสถาน X + ๒ แหง่ X + ๒ แห่ง X + ๒ แหง่ X + ๒ แห่ง X + ๒ แห่ง ๑. ปรับระบบการธรุ กจิ ทม่ี มี ิตร ประกอบการ บริหารจัดการไปสู่ต่อส่งิ แวดล้อม อตุ สาหกรรมทีม่ ีผล โรงงานอุตสาหกรรม ประเมินท่ีผ่านเกณฑ์ การมีธรรมาภบิ าล สเี ขียว ( Green - สิง่ แวดลอ้ มท่ดี ี Industry ) ๒.สรา้ งระบบและกลไก ในการควบคมุ เฝ้าระวัง คณุ ภาพสิง่ แวดล้อม ๒. ระดบั ความสําเร็จ ระดับ ๕ ระดบั ๕ ระดบั ๕ ระดับ ๕ ระดบั ๕ ๓.สง่ เสรมิ ธุรกิจ ของการพัฒนาคณุ ภาพ สรา้ งสรรค์ระดบั ชุมชน ด้านการท่องเทย่ี วของ จังหวดั
Search