บทความ ๑ คณะทำ� งานวางแผนจดั ทำ� กรอบสมรรถนะ หลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ของคณะอนกุ รรมการการจดั การเรยี นการสอน ในคณะกรรมการอสิ ระเพอ่ื การปฏริ ปู การศกึ ษา แนวทาง ประโยชน์ต่อชีวิตประจ�ำวันและอนาคตของผู้เรียน หลักสูตรน้ีมีโครงสร้างให้เห็นถึงเกณฑ์ความสามารถ กใทหจ่ีาเ้ร�ำกพเดิปัฒสน็ มตนรอ่ ารชผถวี ู้เนริตะียหนลัก ในด้านต่าง ๆ ที่ต้องการให้ผู้เรียนปฏิบัติในแต่ละระดับ การศกึ ษาและในแตล่ ะระดบั ชน้ั ทกั ษะและความสามารถ ในโลกยุคปจั จุบันและอนาคตท่ีมีการเปล่ียนแปลง จะถูกก�ำหนดให้มีความต่อเน่ืองกัน โดยใช้ทักษะและ อย่างรวดเร็ว บุคคลจ�ำเป็นต้องมีสมรรถนะหลักส�ำคัญ ความสามารถท่ีมีในแต่ละระดับเป็นฐานส�ำหรับเพ่ิมพูน ท่ีต้องใช้ในการใช้ชีวิต การท�ำงาน และอยู่ร่วมกับผู้อื่น ทักษะและความสามารถในระดับต่อไป ส�ำหรับจุดเด่น อย่างมีความสุข สมรรถนะหลักดังกล่าวสามารถพัฒนา ของหลกั สตู รฐานสมรรถนะมหี ลายประการดงั นี้ ๑) ชว่ ยให้ ผู้เรียนได้ดีผ่านหลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency - ผู้เรียนได้รับการพัฒนาสมรรถนะหลักท่ีส�ำคัญต่อการใช้ Based Curriculum : CBC) ในปัจจบุ นั นม้ี หี ลายประเทศ ชวี ติ การทำ� งาน และการเรยี นรู้ ซงึ่ จำ� เปน็ ตอ่ การดำ� รงชีวิต ที่มีการน�ำหลักสูตรฐานสมรรถนะมาใช้ เนื่องจาก อย่างมีคุณภาพในโลกแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ที่มี หลักสูตรฐานสมรรถนะเป็นหลักสูตรท่ีมุ่งเน้นการพัฒนา การเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ๒) ชว่ ยใหก้ ารจดั การเรยี นรู้ ผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะที่จ�ำเป็นต้องใช้ในการด�ำรงชีวิต มุ่งเป้าหมายไปที่การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะที่ โดยมีการก�ำหนดสมรรถนะหลักที่เหมาะสมกับผู้เรียนใน ตอ้ งการ มใิ ชม่ งุ่ เปา้ ไปทกี่ ารสอนเนอ้ื หาความรจู้ ำ� นวนมาก แต่ละช่วงช้ันให้ครูผู้สอนน�ำไปใช้เป็นหลักในการก�ำหนด ซงึ่ อาจยงั ไมจ่ ำ� เปน็ หรอื เปน็ ประโยชนแ์ กผ่ เู้ รยี น ๓) ชว่ ยลด จุดมุ่งหมาย สาระการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอน สาระการเรียนรู้ที่ไม่จ�ำเป็น อันส่งผลให้สถานศึกษา และการวัดและประเมินผล หลักสูตรฐานสมรรถนะให้ มีพื้นที่ในการจัดการเรียนรู้อื่นท่ีเป็นความต้องการท่ี ความส�ำคัญกับพฤติกรรม/การกระท�ำ การปฏิบัติของ แตกต่างกนั ของผูเ้ รียน วิถีชีวติ วฒั นธรรม ชาตพิ ันธุ์ และ ผู้เรียน มิใช่ท่ีการรู้หรือมีความรู้เพียงเท่าน้ัน แต่ผู้เรียน บริบทได้มากขึ้น ๔) ช่วยลดภาระและเวลาในการสอบ ตอ้ งสามารถประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะ เจตคติ คา่ นยิ ม และ ตามตัวชี้วัดจ�ำนวนมาก การสอบวัดสมรรถนะหลักของ คุณลักษณะต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา สถานการณ์ตา่ ง ๆ ผู้เรียน เป็นการสอบท่ีช่วยให้เห็นความสามารถท่ีเป็น ในชวี ติ ประจำ� วนั องค์รวมของผเู้ รยี น ๕) กรอบสมรรถนะหลักของหลักสูตร ธ�ำรง บัวศรี (๒๕๓๕) ได้กล่าวถึงหลักสูตร ฐานสมรรถนะเป็นสมรรถนะขั้นต่�ำที่จ�ำเป็นส�ำหรับ ฐานสมรรถนะว่า เป็นหลักสูตรที่ยึดความสามารถของ ผู้เรียนทุกคน จะเป็นสมรรถนะกลางที่เอื้อให้สถานศึกษา ผู้เรียนเป็นหลัก การออกแบบหลักสูตรตามแนวคิดน้ี ท่ีมีศักยภาพ สามารถออกแบบหลักสูตรที่เหมาะสมกับ จะมีการก�ำหนดเกณฑ์ความสามารถท่ีผู้เรียนพึงปฏิบัติได้ ความต้องการและบริบทของตนได้โดยยึดสมรรถนะกลาง เป็นหลักสูตรเกณฑ์ความสามารถที่จัดท�ำขึ้นเพื่อ เป็นเกณฑ์เทียบเคียงซ่ึงจะช่วยส่งเสริมให้เกิดรูปแบบ ประกันว่าผู้ที่จบการศึกษาในระดับหน่ึง ๆ จะมีทักษะ หลักสตู รท่ีหลากหลาย และความสามารถในด้านต่าง ๆ ตามท่ีต้องการ เป็น หลักสูตรท่ีไม่ได้มุ่งเรื่องความรู้หรือเนื้อหาวิชาท่ีอาจมี การเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา แต่จะมุ่งพัฒนาใน ด้านทักษะ ความสามารถ เจตคติและค่านิยม อันจะเป็น 6 วารสารการศึกษาไทย THAILAND EDUCATION JOURNAL
การน�ำหลักสูตรฐานสมรรถนะไปใช้นั้นจะต้อง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ด�ำเนินการผ่านการจัดการเรียนการสอนฐานสมรรถนะ ได้พระราชทานแก่รัฐบาลและประชาชน (Competency - Based Instruction : CBI) ทม่ี ลี กั ษณะ ๔) ให้ความส�ำคัญกับการด�ำรงรักษาความเป็นไทย สำ� คญั คอื เปน็ การเรยี นการสอนตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ในโลกสากล การท�ำนุบ�ำรุงศิลปวัฒนธรรม ศาสนา เชิงสมรรถนะ (Learning competencies) ที่สามารถ ความดงี าม และความเป็นชาตไิ ทย สังเกตและวัดได้ เป็นการเรียนการสอนท่ีมุ่งให้เกิด ๕) ใหม้ คี วามเหมาะสมกบั ผเู้ รยี นตามหลกั พฒั นาการ ความรู้ ทักษะท่ีแท้จริง ผู้เรียนใช้เวลาในการเรียนรู้โดย และสามารถตอบสนองความแตกต่างท่ีหลากหลายของ การคิด การลงมือท�ำด้วยตนเอง และพัฒนาก้าวหน้า ผู้เรยี น วถิ ชี ีวติ ภมู ิสงั คม และบริบท ไปเป็นล�ำดับข้ันตามความสามารถของตน ส�ำหรับ ๖) มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เทียบเคียงได้กับ การวัดและประเมินฐานสมรรถนะ (Competency - มาตรฐานสากล Based Evaluation : CBE) นน้ั เนน้ การวัดผลการเรียนรู้ จากพฤติกรรม/การกระท�ำ/การปฏิบัติ ที่แสดงออก ถึงสมรรถนะนั้นตามเกณฑ์ท่ีก�ำหนด เป็นการวัด อิงเกณฑ์ มิใช่อิงกลุ่ม การประเมินให้คะแนน และ การรายงานผล ข้ึนอยู่กับพฤติกรรมการกระท�ำ ท่ีแสดงออกถึงความสามารถในการใช้ความรู้ และทักษะ ต่าง ๆ ที่ได้เรียนมา สมรรถนะหลักของผเู้ รยี น ระดับการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ในปี ๒๕๖๑ คณะท�ำงานวางแผนจัดท�ำกรอบ ผลจากการดำ� เนนิ การขา้ งตน้ ทำ� ใหไ้ ดส้ มรรถนะหลกั สมรรถนะหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของคณะ ๑๐ สมรรถนะโดยแบ่งเป็น ๔ กลุ่ม อนุกรรมการการจัดการเรียนการสอนในคณะกรรมการ ๑) คนไทยฉลาดรู้ (Literate Thais) มี อิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ได้ด�ำเนินการวิจัยโดย ๔ สมรรถนะหลัก คอื (๑) ภาษาไทยเพ่ือการสอื่ สาร (Thai การศกึ ษาเอกสาร งานวจิ ัย และข้อมลู ตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง Language for Communication) (๒) คณิตศาสตร์ และพัฒนากรอบสมรรถนะหลักของผู้เรียนระดับ ในชีวิตประจ�ำวัน (Mathematics in Everyday Life) การศึกษาขั้นพื้นฐานข้ึนโดยยึดหลักการส�ำคัญว่า (๓) การสืบสอบทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ สมรรถนะที่ก�ำหนดข้ึนจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ (Scientific Inquiry and Scientific Mind) และ ๑) ตอบสนองนโยบายระดับชาติ อาทิ รัฐธรรมนูญ (๔) ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร (English for แห่งราชอาณาจักรไทย ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนา Communication) เศรษฐกิจและสังคม แผนการศึกษาชาติ และมาตรฐาน ๒) คนไทยอยู่ดี มีสุข (Happy Thais) มี การศึกษาชาติ ๒ สมรรถนะหลัก คือ (๑) ทักษะชีวิตและความเจริญ ๒) มงุ่ เตรยี มผเู้ รยี นให้มีความรู้ ทักษะ คณุ ลกั ษณะ แห่งตน (Life Skills and Personal Growth) และ และสมรรถนะที่จ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ (๒) ทักษะอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ (Career ในโลกแหง่ ศตวรรษท ี่ 21 ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ Skills and Entrepreneurship) ๓) ส่งเสริมการใช้ศาสตร์พระราชา รวมทั้ง พระราโชบายที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ และ 7วารสารการศึกษาไทย THAILAND EDUCATION JOURNAL
๓) คนไทยสามารถสูง (Smart Thais) มี แนวทางการพัฒนาผูเ้ รียนให้เกดิ ๒ สมรรถนะหลัก คือ (๑) ทักษะการคิดขั้นสูงและ สมรรถนะหลกั ที่จำ� เป็นต่อชีวติ นวัตกรรม (Higher - Order Thinking Skills and Innovation) และ (๒) การรเู้ ท่าทันสื่อ สารสนเทศ และ คณะท�ำงาน ได้ออกแบบแนวทางการจัด ดิจิทัล (Media, Information and Digital Literacy : การเรียนการสอนฐานสมรรถนะไว้ ๖ แนวทาง และได้ MIDL) น�ำไปทดลองใช้กับผู้เรียนในระดับประถมศึกษาตอนต้น ๔) พลเมืองไทย ใส่ใจสังคม (Active Thai (ป.๑ - ๓) แลว้ พบว่ามคี วามเปน็ ไปได้ในการพฒั นาผู้เรียน Citizens) มี ๔ สมรรถนะหลัก คือ (๑) การท�ำงาน ใหม้ ีสมรรถนะหลักดงั กล่าว แบบรวมพลังเป็นทีม และมีภาวะผู้น�ำ (Collaboration การน�ำกรอบสมรรถนะหลักสู่การพัฒนาผู้เรียน Teamwork and Leadership) และ (๒) การเป็น มีหลักสำ� คญั ดังนี้ พลเมืองต่ืนรู้ท่ีมีส�ำนึกสากล (Active Citizens with ๑. สมรรถนะหลักทุกด้านสามารถน�ำไปพัฒนา Global Mindedness) ผู้เรียนผ่านกิจกรรมในชีวิตประจ�ำวัน เช่น กิจกรรม นอกจากนไ้ี ดม้ กี ารนำ� สมรรถนะหลกั ๑๐ สมรรถนะ ท่ีเป็นกิจวัตรในโรงเรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และ มาจัดท�ำสมรรถนะย่อยของผู้เรียนระดับประถมศึกษา กิจกรรมการเรียนรูใ้ นห้องเรียน ตอนตน้ (ป.๑ - ๓) ดว้ ย ซงึ่ จากการวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบ ๒. สมรรถนะหลักทุกด้านสามารถพัฒนาผู้เรียน เชงิ ยนื ยนั (Confirmatory Factor Analysis) ดว้ ยโปรแกรม ผ่านเน้ือหาสาระต่าง ๆ ในทุกกลุ่มสาระ และเอ้ือให้เกิด ลิสเรล พบว่า กรอบสมรรถนะที่พัฒนาข้ึนมีโครงสร้าง การบูรณาการข้ามศาสตร์สาขาต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ องค์ประกอบสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ที่สามารถ ยังสามารถพัฒนาผ่านสาระที่เป็นเรื่องราว เหตุการณ์ ใช้อธฺิบายสมรรถนะของผ้เู รียนระดบั ประถมศึกษาได้ และประเด็นส�ำคัญในปัจจุบัน (Current Issues) 8 วารสารการศกึ ษาไทย THAILAND EDUCATION JOURNAL
บริบท (Context) รวมท้ังประสบการณ์ และกิจกรรม ส�ำหรับแนวทางการจัดการเรียนการสอนฐาน (Experiences & Activities) ตา่ ง ๆ ได้ สมรรถนะ ๖ แนวทาง มดี งั นี้ ๓. ในการออกแบบกิจกรรมเพ่ือพัฒนาผู้เรียน แนวทางท่ี ๑ : ใช้งานเดมิ เสรมิ สมรรถนะ อาจจะผสานและบูรณาการหลาย ๆ สมรรถนะทั้งท่ี เป็นการสอนตามปกติที่สอดแทรกสมรรถนะ เป็นสมรรถนะย่อยในสมรรถนะหลักนั้น หรือสมรรถนะ ซึ่งครูเห็นว่าสอดคล้องกับการบทเรียนนั้นเข้าไป และ ยอ่ ยในสมรรถนะหลักอืน่ ๆ อาจปรับกิจกรรม หรือคิดกิจกรรมต่อยอด เพ่ือให้ผู้เรียน ๔. ในการออกแบบกิจกรรมเพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้ ได้พัฒนาสมรรถนะน้ันมากขึ้น หรือได้สมรรถนะอ่ืน เกดิ สมรรถนะใด ๆ นน้ั จำ� เปน็ ตอ้ งพจิ ารณาองคป์ ระกอบ เพ่ิมมากข้ึนซึ่งจะช่วยเพ่ิมการเรียนรู้ของผู้เรียนให้เข้มข้น ที่สำ� คัญของสมรรถนะดงั นี้ มคี วามหมายยิ่งขึ้น ๔.๑ ความรู้ที่จ�ำเป็นต่อการเกิดสมรรถนะ แนวทางที่ ๒ : ใชง้ านเดิม ตอ่ เตมิ สมรรถนะ ที่ต้องการซึ่งเลือกมาจากเนื้อหาสาระและมโนทัศน์ใน เป็นการสอนตามปกติท่ีมีการเพิ่มสถานการณ์ ศาสตรส์ าขาวิชาต่าง ๆ ให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้ความรู้ และทักษะต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ ๔.๒ ทักษะที่จ�ำเป็นต่อการเกิดสมรรถนะ ไปแล้วในสถานการณ์ท่ีหลากหลาย ซ่ึงจะช่วยให้ผู้เรียน ท่ีต้องการซึ่งเลือกมาจากท้ังทักษะส�ำคัญของศาสตร์ เกิดสมรรถนะที่ต้องการ สาขาวิชาต่าง ๆ และทักษะที่เป็นองค์ประกอบหลัก แนวทางท่ี ๓ : ใชร้ ปู แบบการเรยี นรู้ สกู่ ารพฒั นา ของสมรรถนะ สมรรถนะ ๔.๓ เจตคติ คณุ ลักษณะ นิสยั แรงจงู ใจ ฯลฯ เปน็ การสอนตามปกตทิ มี่ กี ารนำ� รปู แบบการเรยี นรู้ ทีจ่ ำ� เป็นตอ่ การเกิดสมรรถนะ ท่ใี ชอ้ ยเู่ ดิมมาวิเคราะห์เชื่อมโยงกับสมรรถนะทสี่ อดคล้อง ๔.๔ สถานการณ์ต่างๆ ที่จะน�ำสมรรถนะท่ี กับรูปแบบการเรียนรู้และบทเรียน ซ่ึงช่วยให้ผู้เรียน ต้องการไปใช้ ที่จะท�ำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเกิดความรู้ เกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ของรูปแบบฯ และเกิด ทักษะ เจตคติ/คุณลักษณะ และสามารถน�ำความรู้/ สมรรถนะทส่ี ัมพันธก์ นั ทักษะ เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ ไปใช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ แนวทางที่ ๔ : สมรรถนะเปน็ ฐาน ผสานตวั ชวี้ ดั เป็นการสอนโดยน�ำสมรรถนะและตัวช้ีวัดที่สอดคล้อง กันมาออกแบบการสอนร่วมกัน เพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ทัง้ เนื้อหาสาระและทกั ษะตามตวั ชวี้ ัดที่ก�ำหนด พรอ้ มกบั การพฒั นาสมรรถนะหลกั ทจี่ �ำเปน็ ตอ่ ชีวติ แนวทางท่ี ๕ : บรู ณาการผสานหลายสมรรถนะ เป็นการสอนโดยน�ำสมรรถนะหลักทั้งสิบด้านเป็นตัวตั้ง แล้วออกแบบการสอนท่ีมีลักษณะเป็นหน่วยบูรณาการ ที่ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ และเห็น ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งวชิ า/กลมุ่ สาระการเรียนร้ตู ่าง ๆ แนวทางที่ ๖ : สมรรถนะชวี ติ ในกจิ วตั รประจำ� วนั สมรรถนะชีวิตในกิจวัตรประจ�ำวัน เป็นการสร้างสรรค์ การเรียนรู้อย่างสอดคล้องสัมพันธ์กับการด�ำเนินชีวิต ประจ�ำวันปกติของนักเรียนสอดคล้องกับกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีมักเกิดในโรงเรียนนับเป็นการฝึกพัฒนาสมรรถนะน้ัน ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง อีกท้ังเป็นไปตามธรรมชาติปกติของ ชีวิตนักเรียน ท่ีมีความยืดหยุ่น และท้าทายที่จะเผชิญ 9วารสารการศกึ ษาไทย THAILAND EDUCATION JOURNAL
สถานการณ์ตามธรรมชาติของชวี ิต การฝึกสมรรถนะผา่ น สถานการณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะอย่าง แทจ้ ริง สามารถนำ� ความรู้ ทกั ษะและประสบการณไ์ ปใช้ ไดจ้ รงิ ในการดำ� เนนิ ชวี ติ แนวทางทั้ง ๖ แนวทางมีความแตกต่างกันดังนี้ แนวทางที่ ๑ - ๓ เป็นแนวทางท่ีช่วยต่อยอดทักษะของ ครูบนฐานประสบการณ์เดิม โดยมีการส่งเสริมให้ผู้เรียน มีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น และเพ่ิมสถานการณ์ที่ จะให้ผู้เรียนน�ำความรู้และทักษะต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ ในชีวิตมากข้ึน ส่วนแนวทางที่ 4 - 5 มีลักษณะเป็น การบรู ณาการหลายลกั ษณะ ทงั้ บรู ณาการหลายสมรรถนะ บูรณาการหลาย ๆ เนื้อหา/สาระ แนวทางนี้จะท�ำให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมายมากขึ้นอีกทั้งได้มี โอกาสได้เผชิญกับสถานการณ์ที่จะได้ใช้ความรู้ทักษะ และคุณลักษณะต่าง ๆ มากขึ้น ส�ำหรับแนวทางท่ี ๖ เป็นแนวทางท่ีจะท�ำให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนสมรรถนะต่าง ๆ ในสถานการณ์ที่เกิดเป็นกิจวัตรปกติ ในวิถีชีวิตซ่ึงท�ำให้ สมรรถนะต่าง ๆ เกิดขน้ึ อย่างมนั่ คง ถาวร พร้อมนำ� ไปใช้ ได้เป็นอย่างดี ลักษณะแนวทางท้ัง ๖ แนวทางนี้แสดง เป็นแผนภาพได้ดงั นี้ แ น ว ที่ ๖ ส ม ร ร ถ น ะ ชี วิ ต ใ น กิ จ วั ต ร ป ร ะ จำ� วั น 10 วารสารการศกึ ษาไทย THAILAND EDUCATION JOURNAL
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: