คำนำ รายงานการวิเคราะห์บทความเรื่อง การจัดการเรียนการสอนเพื่อการพึ่งพาตนเอง กรณีศึกษา โรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก รายวิชา 0320501 บูรณาการพื้นฐานการศึกษา มีเนื้อหาการวิเคราะห์ บทความตามประเด็น ดังนี้ การศึกษาและการเรียนรู้ในวิถีชีวิต การศึกษาในระบบโรงเรียน กระบวนการ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาไปสู่ความทันสมัยและการจัดการศึกษาเพื่อนำไปสู่การพึ่งตนเองทางความรู้ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การวิเคราะห์บทความ เรื่องการจัดการเรียนการสอนเพื่อการพึ่งพา ตนเอง กรณีศึกษา โรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก เพื่อจะทำความเข้าใจหลักการจัดการศึกษาและ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่นำไปสู่การพึ่งตนเองทางความรู้ นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อทำ ความเข้าใจหลักการบูรณาการการศึกษากับวิถีชีวิต ซึ่งสามารถนำความรู้ไปเป็นแนวทางในการจัดการ เรียนการสอนใหผ้ ้เู รียนเกิดการเรยี นร้ทู ี่ยั่งยืน คณะผจู้ ัดทำ
สารบัญ เรื่อง หน้า การศกึ ษาและการเรียนรใู้ นวิถชี วี ิต..................................................................................................... 4 การศกึ ษาในระบบโรงเรียน กระบวนการจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาไปส่คู วามทนั สมัย ............................. 6 ดา้ นการสอนและวิธกี ารสอน.......................................................................................................... 6 ดา้ นสือ่ การเรียนการสอน............................................................................................................... 7 ดา้ นการวดั และประเมินผล............................................................................................................. 8 การจัดการศกึ ษาเพือ่ นำไปสกู่ ารพ่ึงตนเองทางความรู้......................................................................... 9 ลกั ษณะของการจัดการเรียนการสอนเพอื่ การพง่ึ พาตนเอง.............................................................. 9 1. ลกั ษณะการพึง่ พาตนเองของนกั เรยี นในชีวิตประจำวัน......................................................... 10 2. ลกั ษณะการพ่งึ พาตนเองของนกั เรยี นในการเรยี น ................................................................ 10 3. ลักษณะการพง่ึ พาตนเองของนักเรยี นทางจติ ใจ.................................................................... 11 อา้ งองิ ............................................................................................................................................. 12
การศึกษาและการเรียนรู้ในวิถีชวี ติ คำนิยามของ “การศึกษา” ที่เป็นที่ยอมรับกันมากที่สุด ได้แก่ คำนิยามของ จอห์น ดิวอีย์ (John Dewey) ซึ่งได้นิยามไว้ในความหมายของกระบวนการว่า “การศึกษา คือ กระบวนการเพิ่มพูน ประสบการณ์อย่างต่อเนื่องของบุคคลตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ผ่านการเรียนรู้ที่ช่วยเสริมให้บุคคล เพ่ิม ความสามารถที่มีคุณค่าในการดำรงชีวิต ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การศึกษาเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ที่ดี มีประโยชน์และก่อให้เกิดการเจริญเติบโต หรือพัฒนาการในทางบวกเท่านั้น การเพิ่มพูนประสบการณ์ ในทางลบไมถ่ ือว่าเปน็ การศกึ ษา การจัดการศึกษาของโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดการพึ่งพาตนเองได้ทั้ง ในการพึ่งตนเองด้านการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน การพึ่งพาตนเองทางการเรียน และการ พึ่งพาตนเองทางจิต การพึ่งพาตนเองได้ คือ ไม่เป็นภาระของผู้อื่น ทำงานได้ด้วยตนเอง ตัดสินใจด้วย ตนเอง ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีโอกาสและเป็นการเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพต่อไป สอดคล้องกับการกำหนดเป็นจุดมุ่งหมายของการจัดการเรียนการสอน ในพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ.2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (กระทรวงศึกษาธิการ , 2546) ได้ กำหนดในมาตรา 7 ไว้ว่า ...จะต้องมุ่งให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จัก รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นและของไทย ควบคู่ ไปกบั ความร้สู ากล มีความสามารถในการประกอบอาชีพและพง่ึ ตนเองได้ การจัดการศึกษาเพื่อการพึ่งตนเองของโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก มีวัตถุประสงค์ในการจัด การศึกษาตามแนวทางของระบบบุญนิยม โดยจัดการศึกษาแบบพึ่งตนเองให้สอดคล้องกับชีวิตจริงตาม สภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน เรียนรู้วิชาการ ฝึกวิชาชีพและช่วยทำงานในชุมชน ครองตนโดยถือ ศีล 5 และประพฤติตามคุณธรรม 8 ประการ จึงจะสามารถสำเร็จการศึกษาจากสถานศึกษาแห่งนี้ได้ โดย มีความร่วมมือระหว่างพุทธสถาน ชุมชน และโรงเรียน ไม่มีการเก็บค่าบำรุงหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นการศึกษาที่ให้เปล่าทั้งระบบ การเรียนการสอนจะเป็นไปตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ แต่จะเน้นการสอนในเรื่องธรรมะเป็นหลัก เป็นการให้การศึกษา ฝึกฝน อบรมนักเรียนให้เป็นคนดี มี ศลี ธรรม มจี ริยธรรม มรี ะเบยี บ วนิ ยั และพัฒนาใหน้ กั เรียนสามารถประกอบอาชีพพึง่ ตนเองได้ (ณฐั กนก , 2546) ด้วยปรัชญาของโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกที่ว่า “ศีลเด่น เป็นงาน ชาญวิชา” ซึ่งมี วัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษาตามแนวทางของระบบบุญนิยมสอดคล้องกับแนวพระราชดำริที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้ให้ไว้เกี่ยวกับแนวทางจัดการศึกษาในรูปแบบ “บวร” (บ้าน - วัด - โรงเรียน) ที่กำหนด แนวความคิดและความเชื่อของครูกับนักเรียน โดยกำหนดกฎระเบียบพื้นฐานของโรงเรียน ทั้งการแต่ง กาย การรับประทานอาหารมังสวิรัติ ตลอดจนระเบียบอื่น ๆ และต้องพักค้างในโรงเรียนหรือบริเวณพุทธ สถาน พร้อมกับจัดการเรียนการสอนเพื่อการพึ่งพาตนเองโดยเน้นการสอดแทรกลักษณะของการพึ่งพา ตนเองในรายวชิ าท่ีสอนและการจดั ใหน้ กั เรียนทำงานในฐานงานตา่ ง ๆ ท้ัง 13 ฐานด้วยกนั ดังน้ี 1. ฐานกสิกรรม ฝึกการทำเกษตรกรรม เชน่ การปลูกผกั ปลกู ข้าว 4
2. ฐานแชมพู ฝึกการทำยาสระผม ครีมนวดผม นำ้ ยาซกั ผ้า 3. ฐานชวนชน่ื ฝึกการทำผลิตภัณฑท์ ี่เป็นอาหารเสริม เชน่ ถั่วเขียวข้าว ถั่วเขยี ว งาดำ 4. ฐานเห็ด ฝึกการทำก้อนเชอื้ เหด็ การดแู ลรกั ษาและการเกบ็ ดอกเห็ด 5. ฐานขยะขยนั ฝกึ การคดั แยกขยะและการนำขยะไปรไี ซเคิล 6. ฐานสมุนไพร ฝึกการจัดชั้นยาสมุนไพร การทำแพ็คเกจสำหรับบรรจุยาสมุนไพร จำหน่ายยา สมุนไพร 7. ฐานเกื้อกลู ฝกึ การขายอาหารและทำอาหาร 8. ฐานปยุ๋ ฝึกการทำปุ๋ยชีวภาพ 9. ฐานเตา้ หู้ ฝกึ การคั่วเมลด็ งา การทำน้ำงา การกรอกนำ้ งา 10. ฐานชราภิบาล ฝกึ การดแู ลผูส้ งู อายุ และการทำอาหารสำหรับผสู้ ูงอายุ 11. ฐานตัดเยบ็ ฝกึ การเยบ็ ผ้า เช่น เยบ็ กระเป๋าผา้ เยบ็ เส้ือผา้ 12. ฐานชวนกิน ฝึกทำอาหาร ทำขนม เชน่ เหด็ สวรรค์ ถว่ั อบงา 13. ฐานสื่อ ฝึกตัดต่อภาพ วิดีโอ เพลง โดยนักเรียน ได้เรียนรู้วิธีการบันทึกภาพแล้วนำมาตัดต่อ เป็นวิดีโอ เรียนรกู้ ารใช้โปรแกรมในการตดั ตอ่ ภาพ การจัดการศึกษาของโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกมาจากความสนใจนักเรียนและสอดคล้องกับ กิจกรรมของชุมชน ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาที่สามารถเชื่อมโยงความรู้ที่เรียนสู่การนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนสามารถเลือกเรียนตามความชอบของตนเอง ไม่ มีการบังคับ ตรงกับเป้าหมายหลักของโรงเรียน คือ ให้นักเรียนมีอาชีพติดตัว สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยจัดให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติงานจริงในฐาน ทางชุมชนปฐมอโศกได้มีการเปิดหลักสูตรการเรียนการ สอนขึ้นเอง ซึ่งหลักสูตรของชุมชนจะให้ความสำคัญในเรื่องศีลธรรมมากที่สุดทั้งนี้ เพื่อปลูกฝังให้เด็ก เยาวชนมีพื้นฐานทางด้านคุณธรรมที่ดี มีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษาตามแนวทางของระบบบุญ นิยมโดยจัดการศึกษาแบบพึ่งตนเองโดยให้สอดคล้องกับชีวิตจริงตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมใน ปัจจุบัน เพื่อฝึกฝนอบรมนักเรียนให้เป็นคนดี มีศีลธรรม มีจริยธรรม มีระเบียบวินัย และพัฒนาให้ นักเรียนสามารถประกอบอาชีพ พึ่งตนเอง และเพื่อสร้างจิตสำนึกให้นักเรียนในการดำรงอยู่ร่วมกับ ธรรมชาติสงิ่ แวดล้อมอยา่ งสอดคลอ้ งและสมดลุ ของระบบนิเวศ 5
การศึกษาในระบบโรงเรียน กระบวนการจดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาไปสู่ความทันสมัย ด้านการสอนและวิธีการสอน โรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกจัดการศึกษาตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ แต่จะเน้นให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงในชีวิตประจำวัน มีความสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ รู้ เข้าใจ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคม มีการฝึกภาคปฏิบัติโดยการบูรณาการองค์ความรู้ ทุกกลุ่มสาระการ เรียนรู้และภูมิปัญญาจากแหล่งเรียนรู้ชุมชนโดยเน้นการสอนตามหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนา ซ่ึง เรียกวา่ การศึกษาบุญนิยม การจัดการศึกษาของโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกจัดตามแนวทางของระบบบุญนิยม คือ จัด การศึกษาแบบพึ่งตนเองให้สอดคล้องกับชีวิตจริงตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ครองตนโดย ถือศีล 5 และประพฤติตามคุณธรรม 8 ส่งเสริมให้นักเรียนดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยจัดการศึกษาร่วมกับ บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) กล่าวคือ ใช้โรงเรียนเป็นฐานสัมพันธ์กับชุมชน ซึ่งมี ลักษณะใกล้เคียงกับการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่ให้ครูและผู้เชี่ยวชาญได้พูดคุย แลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ต่างกันตรงที่ผู้เชี่ยวชาญและครูของชุมชนคือ ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเอง เช่น การทำเกษตรกรรม ทำอาหาร ทำของใช้ภายในบ้าน ซึ่ง ปรากฏอยู่ในฐานการเรียนรู้นอกชั้นเรียน ที่แต่ละภาคเรียนจะแตกต่างกันไป ทำให้ชุมชน โรงเรียนและ นักเรียน ได้ติดต่อส่ือสารและทราบปญั หาซ่ึงกนั และกนั การจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสมั มาสกิ ขาปฐมอโศกแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. การเรยี นการสอนในชัน้ เรียน ครสู อนโดยตรงและสอดแทรกหลักการและสอื่ ทเี่ ก่ียวกับพึง่ ตนเอง เช่น การสอน แบบบรรยาย การยกตัวอย่าง การเล่านิทานและการสอนแบบบูรณาการ สอกแทรก หลักการพึ่งตนเองผ่านวิธีการสอนทุกขั้นตอน ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง (สอดคล้อง กับทฤษฎี Constructivism เป็นกระบวนการเรียนรู้หรือการสร้างความรู้ที่เกิดขึ้นภายในของผู้เรียน โดย ที่ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ โดยการนำประสบการณ์หรือสิ่งที่พบเห็นในสิ่งแวดล้อมหรือสารสนเทศใหม่ท่ี ได้รับมาเชื่อมโยงกับ ความรู้ความเข้าใจที่มีอยู่เดิม มาสร้างเป็นความเข้าใจของตนเอง) แบ่งกลุ่มและ แบ่งหน้าที่กันทำงาน (ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือหรือ Cooperative Learning) นำมา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในห้องเรียน โดยใช้สื่อ คือ ภาพยนตร์ คอมพิวเตอร์ เพลงสากลและโทรทัศน์ เช่น ให้ นกั เรียนดภู าพยนตร์แล้วใหบ้ อกข้อคดิ ทไี่ ดจ้ ากการชมภาพยนตร์และการนำไปปฏิบตั ิ 2. การเรียนการสอนนอกชั้นเรียน โดยจัดเป็นฐานงานให้นักเรียนฝึกประสบการณ์ ปฏิบัติจริงเป็น การฝึกอาชีพให้กับนักเรียน นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ สอนโดยใช้การสาธิต เน้นให้นักเรียนได้อาชีพ นักเรียนเลือกฐานตามความชอบของตนเอง ขณะที่ผู้วิจัยศึกษามีการเปิด 13 ฐาน ซึ่งเป็นฐานที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคและบริโภคของโรงเรียน ชุมชน และสามารถนำไปประกอบ อาชพี ไดท้ ง้ั หมด 6
จากตัวอย่างวิธีการสอนดังกล่าว จะเห็นได้ว่าครูในโรงเรียนใช้วิธีการสอนที่หลากหลายขึ้นอยู่กับ ตัวเนื้อหาวิชาท่ีสอน การสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) ใช้ในการสอนเนื้อหาสาระ นอกจากนี้ครู ได้แทรกความรู้ในการพึ่งพาตนเองให้นักเรียนได้อีกด้วย โดยผู้เรียนจะต้องใช้การฟัง การวิเคราะห์ การ จดจำเนื้อหาสาระ หรือจดบันทึกจากสิ่งที่ผู้สอนได้อธิบายไว้ ทำให้ผู้เรียนไม่มีโอกาสศึกษาค้นคว้าเป็น เพียงผู้รับ วิธีการสอนนี้จึงเน้นผู้สอนเป็นสำคัญ วิธีสอนโดยใช้การสาธิต (Demonstration Method) การ สอนโดยใช้การสาธิตมีจุดมุ่งหมาย เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียนและมุ่งช่วยให้ผู้เรียนทั้งชั้นได้เห็น การปฏบิ ัติจรงิ ดว้ ยตาตนเอง ทำให้เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเรื่องหรือการปฏิบัตินั้นชัดเจนขึ้น นอกจากน้ี การสาธิตยังช่วยอธิบายเนื้อหาวิชาที่ยาก ซึ่งต้องใช้เวลามาก ให้เข้าใจง่ายขึ้นและประหยัดเวลา รวมถึง การสอนแบบบูรณาการ (Integrated Learning) เป็นการจัดการเรียนรู้โดยการเชื่อมโยงเนื้อหาความรู้ที่ เกี่ยวข้องจากศาสตร์ต่าง ๆ ของรายวิชาเดียวกันหรือรายวิชาต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ ผู้เรียนสามารถนำความคิดรวบยอดของศาสตร์ต่าง ๆ มาใช้ในชีวิตจริงได้ การสอนโดยแบ่งตามฐานต่าง ๆ ที่นักเรียนสนใจ เป็นการสอนแบบโครงงานเป็นฐาน (Project Based Learning) ที่เน้นพหุปัญญา (Multiple Intelligence) ปัญญาหลากหลายที่อยู่ในตัวมนุษย์ในแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน เพราะ นักเรียนสามารถเลือกฐานตามที่ตนเองสนใจได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่มและ ค้นคว้าด้วยตนเองเป็นวิธีการเรียนแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (Active Learning) และการเรียนรู้โดยการ ลงมือทำ (Learning by Doing)ตามแนวคิดของ John Dewey ซึ่งสอดคล้องกับวิธีการสอนที่ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารเนน้ ยำ้ ในปจั จุบัน เมอ่ื นักเรยี นผ่านหลกั สูตรจากโรงเรยี นน้ี ด้านสอ่ื การเรียนการสอน จากบทความวิจัยกล่าวว่า “ครูมีสื่อที่ใช้ในห้องเรียนหลากหลาย เช่น ภาพยนตร์ คอมพิวเตอร์ เพลงสากล และโทรทัศน์ ซึ่งสื่อเหล่านี้ล้วนมีแบบอย่างลักษณะของการพึ่งพาตนเอง” (แพรวนภา, วสันต์ 2552) สื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนเพื่อการพึ่งพาตนเองของนักเรียน ครูและคนในชุมชน ล้วนเป็นผู้ผลิต เองซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้นอกชั้นเรียน ฐานที่ 13 ฐานสื่อ ที่นักเรียนจะได้ฝึกการตัดต่อภาพ วิดีโอ เพลง โดยนักเรียนได้เรียนรู้วิธีการบันทึกภาพแล้วนำมาตัดต่อเป็นวิดีโอ และเรียนรู้การใช้โปรแกรมตัด ต่อภาพ ช่องทางที่ใช้เผยแพร่ คือ เว็บไซต์ยูทูป (YouTube) ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้สอนนักเรียนใน โรงเรียนสัมมาสิกขาทั้ง 4 แห่งแล้ว บุคคลทั่วไปยังสามารถเข้าถึงได้ง่าย ตัวอย่างช่องทางการเข้าถึงส่ือ ของโรงเรียน เช่น บุญนิยมทีวี ที่มีคำสอนของสมณะโพธิรักษ์นักบวชผู้ก่อตั้งและผู้นำทางจิตวิญญาณ ของสำนักสันติอโศก ซึ่งเป็นการสอนแบบบรรยายและยกตัวอย่าง ตัวอย่างรายการเช่น ตุ้ม..ตะลุ่ม ตุ้ม ..ม้ง รายการที่เปรียบเสมือนคาบ Homeroom ให้นักเรียนหรือคนทางบ้านได้ปรึกษากับคุณครูผ่านทาง SMS หรือข้อความในการถ่ายทอดสด, รายการ ลั่นผา......สุญญาณู เป็นรายการที่สอนคำสอนทางพุทธ ศาสนาแทรกการพึ่งพาตนเองให้กับนักเรียน รายการคนจนที่มีแบบเป็นรายการที่สัมภาษณ์ คนในชุมชน สันติอโศกที่ประกอบอาชีพต่าง ๆ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพนั้น และบางอาชีพอยู่ในฐานการเรียนรู้นอก ชั้นเรียนที่กำหนดให้ในบางภาคการศึกษาด้วย บุญนิยมจูเนียร์เป็นช่องที่นักเรียนในฐานท่ี13 เป็นคน 7
ผลิตขึ้นมีวิดีโอ เช่น การเรียนการสอนในโรงเรียน สัมภาษณ์เพื่อนนักเรียน บันทึกภาพกิจกรรมท่ี นักเรียนได้ทำในโรงเรียน เป็นการฝึกนักเรียนตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นถ่ายทำจนถึงการเผยแพร่ เพราะฉะน้ัน นักเรียนที่เรียนในฐานสื่อ เมื่อเรียนจบจะสามารถประกอบอาชีพที่ทันสมัย เหมาะกับยุคปัจจุบันที่สื่อ ออนไลน์เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก หรือบุคคลภายนอกที่สนใจ อาจดูรายการที่นักเรียนร่วมกันสร้าง เชน่ รายการคนจนท่ีมีต้นแบบแล้วนำไปประกอบอาชพี ได้ ถอื เป็นการใชส้ ่อื อยา่ งมีคุณภาพ ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล โรงเรยี นสมั มาสกิ ขาปฐมอโศกมกี ารวัดและประเมินผล 2 รปู แบบ ดังนี้ รูปแบบที่ 1 คือ รูปแบบที่เป็นกระบวนการมี 3 ขั้นตอน ซึ่งใช้ในการประเมินในชั้นเรียน กล่าวคือ ก่อนสอนครูจะให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน สนทนาซักถามความรู้ ความเข้าใจ ระหว่างสอนครู จะสังเกตพฤติกรรมหรือให้นักเรียนทำใบงาน และหลังสอนจะมีการทดสอบสอบหลังเรียน ในแต่ละภาค เรียนจะมีการสอบกลางภาคเรียน และเมื่อสิ้นสุดภาคเรียนจะมีการสอบปลายภาคเรียนซึ่งเป็นกระบวน เหมือนกับโรงเรียนทั่วไปต่างกันที่ในโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศก คะแนนร้อยละ 40 ส่วนที่มากที่สุด ครูวัดจากการปฏิบัติศีล 5 และยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม คะแนนร้อยละ 35 มาจากการทำงานเพ่ือฝึก วิชาชีพและเลี้ยงตัวเองในชุมชน และการเรียนวิชาการเพื่อให้สามารถพึ่งตนเองและดำรงชีวิตอย่าง พอเพยี งมีคะแนนเพยี งร้อยละ 25 เท่านัน้ แสดงถึงการให้ความสำคัญในคณุ ธรรมมากกวา่ วิชาการ รูปแบบที่ 2 คือ การสังเกตพฤติกรรมการเรียนเพื่อประเมินตามสภาพจริง ที่นักเรียนได้สะท้อน ตนเองในแต่ละคาบเรียน นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในระบบการคัดเลือกนักเรียนเพื่อรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อ อีกดว้ ย กล่าวคือการรับนักเรยี น จะเริม่ จากการสอบข้อเขยี น สมั ภาษณแ์ ละการเขา้ ค่ายดูตัว การเขา้ ค่าย ดูตัวจะเป็นการฝึกให้นักเรียนได้เรียนรู้ การใช้ชีวิตตามแนวทางของชุมชนปฐมอโศก แสดงให้เห็นว่า นักเรียนจะต้องผ่านขั้นตอนและเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดไว้ ไม่ใช่แค่สอบข้อเขียนผ่าน ก็สามารถเข้า เรียนได้เหมือนโรงเรียนทั่วไป ซึ่งการวัดและประเมินผลนี้ มีส่วนช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการ สอนเพื่อใหน้ กั เรยี นเกดิ การพงึ่ พาตนเองไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพสงู สุด 8
การจดั การศกึ ษาเพอ่ื นำไปสกู่ ารพงึ่ ตนเองทางความรู้ การจัดการศึกษาของโรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกนั้น มีหลักคิดที่สำคัญอยู่ข้อหนึ่ง คือ ความ เชื่อและความคิดของครูและนักเรียนในโรงเรียนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทุกคนมีหลักปฏิบัติที่ตรงกัน ไม่ยึดติดกับเครื่องแต่งกายภายนอก อันเป็นปัจจัยภายนอก รับประทานอาหารมังสวิรัติ เคร่งครัดในศีล กล่าวคือ มีการใช้หลักบุญนิยมในการดำเนินชีวิต อีกทั้งยังยึดถือหลักศีล 5 อย่างเคร่งครัด รวมไปถึง ระเบียบวินัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้วยความเสียสละ จุนเจือสังคม อันเห็นได้จากพฤติกรรมเพื่อ ประโยชน์ส่วนรวมของตัวนักเรียนเอง ไม่ว่าจะเป็นการปรุงอาหารรับประทานกันเอง และยังแจกจ่ายใน ชุมชนอีกด้วย หรือการทำงานของครูในโรงเรียนที่ไม่รับเงินเดือน และจากความเชื่อและการกระทำ ดังกล่าวข้างต้นนั้น ทำให้โรงเรียนนำแนวคิด ความเชื่อไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันของนักเรียน ครู โรงเรียนสัมมาสิกขาปฐมอโศกส่งผลต่อการจัดการเรียน การสอนเพอ่ื พงึ่ พาตนเอง ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนเพือ่ การพงึ่ พาตนเอง ครูจะมีวิธีการสอนหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย การยกตัวอย่าง การเล่านิทาน และการสอนแบบบูรณาการ และที่สำคัญ คือ ขณะที่สอนจะมีการสอดแทรกหลักการพึ่งตนเองให้กับ นักเรียนผ่านวิธีการสอนเหล่านี้ทุกขั้นตอน อีกทั้งให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ตาม หลักการเรียนรู้แบบ Constructionism และมีการแบ่งกลุ่มและแบ่งหน้าที่ในการทำงาน ซึ่งเป็นการเรียนรู้ ร่วมกันตามต้นแบบของการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) นอกจากนี้ ยังมีการจัดการ เรียนการสอนเพื่อการพึ่งพาตนเองนอกชั้นเรียน ผู้เรียนจะมีโอกาสได้เรียนตามฐานงานของชุมชน ให้ นักเรียนมีอาชีพติดตัว อีกทั้งยังสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนดังกล่าวนี้ จัดให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติงานจริงในฐานงาน ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบลงมือทำ (Learning by Doing) ครูจะทำการสาธิตวิธีการทำงานให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่างก่อน นักเรียนจึงปฏิบัติตามภายหลัง ซึ่งใน กิจกรรมการเรียนการสอนนั้น มุ่งฝึกให้นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ สามารถนำความรู้ที่ได้ เรียนมาไปประกอบอาชีพเป็นของตนเองได้ นักเรียนสามารถเลือกเรียนตามความชอบของตนเอง ไม่มี การบังคับ การศึกษาในรูปแบบนี้ กล่าวได้ว่าเป็นการศึกษาตามหลักปรัชญาพิพัฒนนิยม (Progressivism) ที่ให้ผู้เรียนสร้างกระบวนการเรียนรู้ของตนเองได้ บทบาทของครูเป็นผู้คอยให้ คำแนะนำ (Teacher as a facilitator) อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับผู้เรียนเป็นหลัก ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ (Student-Centered Learning) เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและ รู้จกั แสวงหาความรู้ได้อย่างต่อเน่อื งตลอดชีวิตตามหลกั การเรยี นรู้แบบ Long-life Learning 9
1. ลักษณะการพึ่งพาตนเองของนักเรยี นในชวี ิตประจำวัน นักเรียนประกอบอาหารให้ตนเองและคนในชุมชนรับประทาน มีกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ รู้จักการพึ่งพาตนเองในการประกอบอาหาร โดยให้นักเรียนทำอาหารเอง เพื่อฝึกความอดทน การ เสียสละ ฝึกระเบียบวินัย ฝึกการพึ่งพาตนเอง และฝึกกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม สอดคล้องกับทฤษฎี กระบวนการกลุ่ม (Group Process) เป็นการเรียนรู้ของกลุ่มคนเพื่อนำความรู้ไปใช้ในการปรับเปลี่ยน เจตคติและพฤติกรรมของคน ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างความสัมพันธ์และการพัฒนาการทำงานของ กล่มุ คนให้มีประสทิ ธิภาพ (สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแหง่ ชาติ 2540) นักเรียนสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข ไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ทำงาน บ้าน ซักเสื้อผ้าด้วยตนเอง โดยไม่ใช้เครื่องทุ่นแรง รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์โดยช่วยเหลืองาน ผู้อื่น สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้กับสถานการณ์จริง อ่านหนังสือเรียนอยู่เป็นประจำ ผลของพฤติกรรม ของนักเรียนย่อมจะส่งผลให้นักเรียนนั้นคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุข สอดคล้องกับสำนักงาน คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (2526) ที่กล่าวว่า การพึ่งตนเองด้านการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันเป็นความสามารถในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของตนให้สำเร็จได้ด้วย ตนเอง ไมท่ ำตัวให้เป็นปญั หาหรือเปน็ ภาระแกผ่ ้อู ืน่ 2. ลักษณะการพึ่งพาตนเองของนักเรยี นในการเรยี น นักเรียนทุกคนสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในด้านการเรียน อ่านหนังสือเรียนล่วงหน้ามาก่อนที่จะ เรียน สนใจใฝ่รู้ที่จะหยิบหนังสือมาอ่านทบทวนบทเรียนที่ได้เรียนผ่านไปแล้ว ทำการบ้านและทำชิ้นงาน ที่ครูมอบหมายด้วยตนเอง มีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น ส่งผลให้นักเรียนนั้นสามารถ พึ่งพาตนเองได้และยังเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้อีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กล่าวคือ คุณภาพของผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ที่กำหนดขึ้นโดยพิจารณาจากสภาพของสังคมยุคปัจจุบัน ซึ่งทำให้มีความจำเป็นต้อง เน้นและปลูกฝังลักษณะดังกล่าวให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนทุกคนเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาในองค์ รวมทั้งด้านสติปัญญาและคุณธรรม อันจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคงสงบสุขในสังคม ประกอบไปด้วยรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการ ทำงาน รกั ความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ นักเรียนตั้งใจเรียน เห็นคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง รับผิดชอบและเชื่อมั่นในการ ทำงานและการสอบด้วยตนเอง และเป็นที่พึ่งในการเรียนของเพื่อนโดยถูกต้องไม่สร้างปัญหาภาระแก่ ใคร ซึ่งสอดคล้องกับสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (2526) ที่กล่าวว่า การพึ่งตนเองด้าน การศึกษาเล่าเรียนเป็นความสามารถในการศึกษา เล่าเรียนให้สำเร็จลงได้ด้วยตนเอง ยอมรับและเคารพ ในตนเอง มีความคิดอุดมการณ์และความเชื่อมั่น รู้จักใช้ความสามารถของตนที่มีอยู่เพื่อการศึกษา ค้นคว้า และทำงานให้สำเร็จตามประสงค์ รวมทั้งพยายามเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของตนยิ่งข้ึน และสอดคล้องกับหน่วยศึกษานิเทศก์กรมสามัญศึกษา (2529) ที่กล่าวว่าการพึ่งตนเองด้านการศึกษาเล่า 10
เรียน เป็นความพยายามของนักเรียนใช้ความรู้ความสามารถของตนอย่างเต็มที่ก่อนที่จะขอความ ช่วยเหลือจากผู้อื่น เมื่อมีปัญหาด้านการเรียนสามารถแก้ปัญหาได้โดยวิธีที่ถูกต้องและสุจริตไม่ลอก ผลงานของผอู้ น่ื ทำให้หรือเอาผลงานของผอู้ น่ื มาส่งอาจารย์เพอื่ เอาคะแนน 3. ลักษณะการพง่ึ พาตนเองของนกั เรยี นทางจิตใจ เมื่อนักเรียนมีปัญหาในการเรียน ปัญหาส่วนตัว นักเรียนจะแก้ไขปัญหานั้นเอง ไม่ได้คิดที่จะอ้อน วอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ แต่นักเรียนจะช่วยเหลือตนเองโดยการหาสาเหตุของปัญหาแล้ว เลือก วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) การเรียนรู้แบบน้ีมุ่งสร้างประสบการณ์ตรง จึงเน้นให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์ปัญหา วางแผนการเรียนรู้ และตรวจสอบกำกับการเรียนรู้ “ภาระงานที่ท้าท้าย ช่วย สร้างทักษะการคิดและแก้ปัญหาได้ดี” ดังนั้นการเรียนรู้ด้วย Problem Based Learning จึงเป็นการใช้ ปัญหา ทำให้เกิดปัญญาและยังสอดคล้องกับคำกล่าวของสมพร ม.ป.ป. ที่ว่า การพึ่งตนเองทางจิตใจ คน ที่สมบูรณ์พร้อมต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตสำนึกว่าตนเองสามารถพึ่งตนเองได้ ซึ่งมีปรากฎอยูใน บทความ 11
อ้างองิ กิตพิ งษ์ แซเ่ จียว. (2556). การศกึ ษาบญุ นยิ มกบั คณุ ธรรมพ้นื ฐาน 8 ประการ ของนกั เรยี นเครือขา_ ย โรงเรยี นสมั มาสกิ ขา. วิทยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบัณฑติ : มหาวิทยาลัยศิลปากร. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2553). หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551. พิมพค์ รั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทยจำกัด. แพรวนภา เรียงรลิ าและวสันต์ ทองไชย. (2552). การจดั การเรยี นการสอนเพ่อื การพึ่งพาตนเอง: กรณศี ึกษาโรงเรยี นสัมมาสิกขาปฐมอโศก. วทิ ยาสารกำแพงแสน, 7(3), 28-42. พรสวรรค์ พงษด์ ี. (2551). แนวทางการจัดการเรียนรเู้ พื่อสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมที่พงึ ประสงค์ของผบู้ ริหาร ครู และผู้ปกครองนกั เรยี น ในโรงเรยี นสงั กดั สำนักงาน เขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา นครสวรรค์ เขต 3. วิทยานพิ นธค์ รศุ าสตรมหาบณั ฑติ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเทพสตรี. อษุ า ไชยชนะ. (2550). ผลการใช้วธิ สี อนแบบกระบวนการกลุ่มสมั พันธท์ มี่ ตี ่อทักษะชีวิตและผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรยี นในกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษา ปีท่ี 1 โรงเรยี นหาดใหญว่ ิทยาลัยสมบรู ณก์ ุลกนั ยา จังหวัดสงขลา. วทิ ยานพิ นธก์ ารศึกษา มหาบัณฑติ สงขลา : มหาวทิ ยาลยั ทักษิณ. ทศิ นา แขมมณี. (2549). การพฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ ม : จากทฤษฎีส่กู ารปฏบิ ตั .ิ กรุงเทพฯ : เสรมิ สิน พรีเพรส ซิสเท็ม. วนดิ า ขาวมงคล เอกแสงศรี. (2546). หลักการสอนการพัฒนาทักษะชวี ิต.กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . สุคนธ์ สินธพานนทแ์ ละคณะ. (2545). การจดั กระบวนการเรยี นรู้ : เน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ตามหลกั สูตร การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจริญทศั น์
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: