เคร่ืองสูบนำ้
เครื่องสูบนำ้ บทนำ ป๊ัมน้ำ หรือ เครื่องสูบน้ำ หมำยถึง เคร่ืองมือกลท่ีทำหนำ้ ที่เพ่มิ พลงั งำนใหแ้ ก่ของเหลว (ในท่ีน้ีหมำยถึงน้ำ) เพอ่ื ใหข้ องเหลวเหล่ำน้นั ไหลผำ่ นระบบทอ่ ปิ ดจำกจุดหน่ึงไปยงั อีกจุดหน่ึงไดต้ ำมควำม ตอ้ งกำร ส่วนพลงั งำนที่นำมำเพ่มิ ใหแ้ ก่ของเหลวจะไดม้ ำจำกเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้ ำ แรงคนหรือพลงั งำน จำกแหล่งอ่ืน ในปัจจุบนั เคร่ืองสูบน้ำจดั เป็ นอุปกรณ์เคร่ืองมืออีกชนิดหน่ึงที่มีควำมเก่ียวขอ้ งกบั ชีวิตควำมเป็นอยู่ ของมนุษยอ์ ยำ่ งมำกเป็นอุปกรณ์ ท่ีช่วยจดั ส่งน้ำเพือ่ กำรอุปโภค บริโภค กำรเกษตร คมนำคม อุตสำหกรรม ตลอดจนกำรบำบดั น้ำเสีย เพื่อรักษำ สภำวะแวดลอ้ ม ท่ีดีใหก้ บั มนุษย์ ประเภทของเคร่ืองสูบนำ้ ปัจจุบนั มีกำรจดั แบ่งประเภทของเครื่องสูบน้ำหลำยรูปแบบ และมีกำรเรียกช่ือแตกต่ำงกนั ออกไป มำกมำย ดงั น้นั จึงมีกำรจดั หมวดหมโู่ ดยแบง่ ตำมลกั ษณะกำรทำงำนไดเ้ ป็ น 2 ประเภท คือ 1. แยกตำมลกั ษณะกำรเพม่ิ พลงั งำนใหแ้ ก่ของเหลว หรือกำรไหลของของเหลวในป๊ัม 1.1 ป๊ัมที่ทำงำนโดยอำศยั แรงเหวย่ี งหนีศูนย์ (Centrifugal Pump) 1.2 ป๊ัมโรตำร่ี (Rotary Pump) 1.3 ป๊ัมแบบลูกสูบชกั (Recipocating Pump) 1.4 ป๊ัมประเภทพเิ ศษ (Special) 2. แยกตำมลกั ษณะกำรขบั ดนั ของเหลวในปั๊ม 1. แยกตำมลกั ษณะกำรเพม่ิ พลงั งำนให้แก่ของเหลว หรือกำรไหลของของเหลวในป๊ัม ไดแ้ ก่ 1.1 ปั๊มทที่ ำงำนโดยอำศัยแรงเหวย่ี งหนีศูนย์ Centrifugal Pump เป็นป๊ัมท่ีทำงำนโดยอำศยั แรง เหวยี่ งหนีศูนยข์ องใบพดั (Impeller)ที่ไดร้ ับกำลงั จำกเครื่องยนตห์ รือมอเตอร์ โดยควำมกดดนั หรือแรงเหวยี่ ง จะมีคำ่ มำกเม่ืออยหู่ ่ำงจำกศูนยก์ ลำงใบพดั ซ่ึงเม่ือใบพดั หมุนอยใู่ นภำชนะปิ ดเร็วมำกพอควำมกดดนั ท่ีจุด ศูนยก์ ลำงจะต่ำกวำ่ บรรยำกำศ ดูดเอำน้ำที่เขำ้ มำตรงจุดศนู ยก์ ลำงและเหวย่ี งไปผนงั เส้ือป๊ัมจนไปออกที่ทอ่ ทำงออกปั๊ม
มีขอ้ ดีคือ ใหป้ ริมำณน้ำมำกแต่สำรถสูบยกน้ำ (Head) และแรงดนั น้ำต่ำ (Pressure) แบง่ ยอ่ ย ๆได้ 6 ชนิด คือ 1. ชนิดหอยโขง่ (Volute Type) เป็นแบบพ้ืนฐำนของปั๊มประเภทอำศยั แรงเหวยี่ งหนีศูนย์ โดยมีทิศทำงกำรไหลแนวเดียว(ขนำน) กบั แกนเพลำ แลว้ ไหลออกโดยทำมุม 90 องศำกบั แกนเพลำ 2. ชนิดมีครีบผนั น้ำ (Diffuser Type) จะเหมือนกบั แบบแรกแตจ่ ะมีครีบผนั น้ำติดกบั เรือนป๊ัมเป็ นช่อง ๆ เพือ่ บงั คบั ใหน้ ้ำไหล เป็นเส้นโคง้ สู่ผนงั เส้ือป๊ัมไดด้ ีข้ึน ทำใหเ้ สียพลงั งำนนอ้ ย และมีประสิทธิภำพดี 3. ชนิดเทอร์ไบน์ (Turbine Type) ใบพดั ของป๊ัมชนิดน้ีจะเป็นแผน่ แบนกลม ครีบ ของใบพดั จะเป็นเส้นตรงส้ัน ๆ ท้งั สองดำ้ น เมื่อน้ำไหลเขำ้ มำท่ีจุดศูนยก์ ลำงจะถูกเหวย่ี งออกไปติดผนงั เส้ือ ปั๊มและจะยอ้ นกลบั เขา้ ศูนยก์ ลางอีกหน่ึงและจะโดนเหวย่ี งออกไปอีก จะซ้าอยอู่ ยา่ งน้ีจนถึงท่าทางจ่าย แรงอดั และปริมาณน้าจะมากข้ึนหากจานวนครีบมากข้ึนและจานวนคร้ังของการเหวยี่ งออกเหวยี่ งเขา้ มากข้ึน
4. ชนิดสูบน้ำแนวต้งั (Vertical Turbine Type) ผลิตข้ึนมำเพื่อสูบน้ำบำดำลบำงคร้ัง จึงเรียกวำ่ ปั๊มน้ำบำดำล (Deep Well Turbine Pume) มีใบพดั และเรือนป๊ัมหลำยชุดต่อเขำ้ กนั เป็นช้นั ๆ (Stage) แลว้ ผลกั ดนั น้ำออกทำงจ่ำยดำ้ นบน มีท้งั แบบดำ้ นกำลงั อยดู่ ำ้ นบนและต่อแกนลงไปหมุนป๊ัม (Vertical Turbine) และแบบมอเตอร์จุ่มอยใู่ นน้ำใตด้ ิน (Submersible Pump) 5. ชนิดผสม (Mixed Flow Type) เป็นป๊ัมที่ผสมผสำนแบบหอยโขง่ (Volute) และแบบมี ครีบผนั น้ำ (Diffuser) แตท่ ่อทำงจำ่ ยของน้ำจะไมต่ ้งั ฉำก (90 องศำ) กบั แกนเพลำแต่จะมีมุมท่อทำงจำ่ ยน้ำ ออก 45 – 80 องศำ 6. ชนิดสูบน้ำไหลตำมแกน (Axial Flow) เป็นปั๊มชนิดที่พบบ่อยมำก ตวั ปั๊มประกอบดว้ ย ใบพดั (propeller) และเส้ือป๊ัม (ส่วนใหญ่รูปร่ำงคลำ้ ยท่อ) ใบพดั สำมำรถขบั เคล่ือนโดยตรงดว้ ยมอเตอร์ หรือโดยเครื่องยนตต์ ำ่ งๆ โดยใชเ้ พลำขบั เคล่ือนที่ติดต้งั ทะลุออกมำจำกส่วนท่ีเป็นขอ้ งอ 90 องศำของทอ่ หลกั กำรทำงำนของป๊ัมทอี่ ำศัยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ คือ พลงั งำนจะเขำ้ สู่ปั๊มโดยผำ่ นเพลำซ่ึงมีใบพดั ติดอยู่ เม่ือใบพดั หมุนของเหลวภำยในป๊ัมจะไหลจำกส่วนกลำงของใบพดั ไปสู่ส่วนปลำยของใบพดั ( Vane ) ซ่ึงจำกกำรกระทำของแรงเหวยี่ งจำกแผน่ ใบพดั น้ีจะทำใหเ้ ฮดควำมดนั ( pressure head ) ของเหลวเพ่ิมข้ึน เมื่อของเหลวไดร้ ับควำมเร่งจำกแผน่ ใบพดั กจ็ ะทำใหม้ ีเฮดควำมเร็วสูงข้ึนส่งผลใหข้ องเหลวไหลจำกปลำย ของใบพดั เขำ้ สู่เส้ือป๊ัมรูปหอยโขง่ แลว้ ออกไปสู่ทำงออกของป๊ัม
1.2 ป๊ัมโรตำรี่ (Rotary Pump) หมำยถึง ป๊ัมประเภทท่ีเพ่ิมพลงั งำนใหข้ องเหลว โดยอำศยั กำรหมุน ของฟันเฟื องรอบแกนกลำง มีชิ้นส่วนภำยในที่หมุนได้ เพือ่ ตกั หรือตวงของเหลว ของเหลวถูกดูดเขำ้ ไปและ อดั ปล่อยออก โดยกำรหมุนรอบจุดศูนยก์ ลำงของเคร่ืองมือกล ป๊ัมโรตำร่ีเหมำะกบั อำหำรเหลวที่มีควำมหนืดสูง และตอ้ งกำรกำรขนถ่ำยแบบนุ่มนวล เช่น ครีม โยเกิร์ต (yogurt) ป๊ัมโรตำรีท่ีใชใ้ นอำหำรจะตอ้ งเป็น hygienic pump คือ ลำ้ งทำควำมสะอำดไดง้ ่ำย และวสั ดุ ท่ีใชส้ มั ผสั อำหำร ตอ้ งไม่เป็ นอนั ตรำย ปั๊มโรตำรี่ (Rotary Pump) แบง่ เป็น 4 ชนิด คือ 1. ปั๊มโรตำร่ีแบบเฟื อง (Gear Pump Type) ทำงำนโดยใชเ้ ฟื องเกียร์ 2 ตวั ขบกนั ในห้องสูบ ขบั น้ำไปออกที่ท่อทำงจ่ำย 2. ป๊ัมโรตำร่ีแบบครีบ หรือ แบบใบสลดั (Vane Pump Type) ทำโดยเม่ือแกนเพลำหมุนจะสลดั เอำ ครีบกวำดน้ำไปตำมผนงั เส้ือป๊ัมไปออกทำงจำ่ ยน้ำ สำมำรถนำไปใชก้ บั ของเหลวที่มีควำมหนืดปำนกลำง เช่น กำ๊ ซ LPG (โพรเพน), แอมโมเนีย, ตวั ทำละลำย, แอลกอฮอล์, น้ำมนั เช้ือเพลิง, น้ำมนั เบนซิน และสำรทำ ควำมเยน็
3. ปั๊มโรตำร่ีแบบลอน (Lobe Pump Type) ทำงำนเช่นเดียวกบั แบบเฟื อง แตต่ วั โรเตอร์มี ลกั ษณะเป็นลอนพู สองถึงสี่ลอน ซ่ึงแบนและกวำ้ งกวำ่ ดงั น้นั อตั รำกำรสูบจึงสูงกวำ่ แบบเฟื อง 4. ปั๊มโรตำร่ีแบบสวำ่ น (Serew Pump Type) ทำงำนโดยโรเตอร์ซ่ึงมีลกั ษณะเป็นเกลียว คลำ้ ยร่องดอกสวำ่ นหมุนอดั น้ำไปกบั ผนงั เส้ือสูบ ป๊ัมแบบโรตำร่ีจะไม่เป็นท่ีนิยมนำมำใชก้ บั งำนสูบน้ำมำกนกั เพรำะลกั ษณะของป๊ัมเหมำะกบั กำร สูบของเหลวที่มีควำมเหนียวหรือควำมขน้ มำกกวำ่ 1.3 ป๊ัมแบบลูกสูบชัก (Reciprocating Pump) เป็นกำรทำงำนโดยกำรขบั เคลื่อนลูกสูบเพอื่ ขบั หรืออดั ของเหลวใหอ้ อกไปท่ีท่อทำงจำ่ ย แบ่งออกเป็น 3 ชนิด 1. แบบขบั ดนั โดยตรง (Direct – Acting Type) ทำงำนโดยกำรขบั ลูกสูบไปอดั น้ำโดยตรง ทอ่ ทำงดูดและท่อทำงส่งจะมีวำลว์ เปิ ดสลบั กนั คือ เมื่อลูกสูบเลื่อนออกวำลว์ ทอ่ ดูดจะเปิ ดใหน้ ้ำเขำ้ ขณะท่ี ทอ่ ทำงส่งจะปิ ดและเมื่อลูกสูบอดั เขำ้ มำวำลว์ ท่อทำงดูดจะปิ ดลูกสูบจะอดั หรือดนั เอำน้ำใหอ้ อกไปทอ่ ทำง ส่งซ่ึงวำลว์ จะเปิ ดออกพอดี กำรสูบจะเป็นจงั หวะเช่นน้ีเร่ือยไป ปัจจุบนั ไดป้ รับปรุงกำรทำงำนใหท้ ำงำนไดท้ ้งั ลูกสูบเลื่อนเขำ้ และเลื่อนออกเรียกกำรทำงำนเช่นน้ีวำ่ แบบอดั สองจงั หวะ (Double – Acting) ซ่ึงทำใหอ้ ตั รำกำรไหลหรือควำมดนั สม่ำเสมอดียง่ิ ข้ึน นิยม ใชแ้ พร่หลำยตำมบำ้ นเรือน ใหป้ ริมำณน้ำนอ้ ยแต่มีแรงดนั สูง
2 ปั๊มแบบไดอะเฟรม (Diaphragm Pump Type) ทำงำนโดยกำรยดื หยนุ่ ตวั ของแผน่ โลหะ หรือแผน่ ยำงซ่ึงต่อกบั กลไกทำใหเ้ กิดกำรดึง เหมำะกบั งำนท่ีมีอตั รำกำรสูบน้ำ น้ำมีใชง้ ำนบำ้ งเล็กนอ้ ย 3 ป๊ัมลูกสูบหมุน (Rotary – piston Pump Type) ทำงำนโดยกำรกดหรืออดั ลูกสูบจำกกำร หมุนของแกนซ่ึงจะมีแผน่ เอียงติดอยตู่ อนปลำย แผน่ เอียงจะทำใหเ้ กิดกำรกดและคลำย (คลำ้ ยคอมเพสเซอร์ รถยนต)์ มีใชง้ ำนนอ้ ยมำก กำรเลอื กเคร่ืองปั๊มนำ้ กำรเลือกเครื่องป๊ัมน้ำสำมำรถแบง่ ออกได้ 2 ส่วน คือ บำ้ นพกั อำศยั อำคำรขนำดใหญ่และ โรงงำน ดงั รำยละเอียดต่อไปน้ี 1. กำรเลอื กเครื่องปั๊มนำ้ สำหรับบ้ำนพกั อำศัย เคร่ืองปั๊มน้ำสำหรับบำ้ นพกั อำศยั ส่วนใหญ่จะเป็นชนิดสำเร็จรูป ประกอบดว้ ยตวั ป๊ัมและถงั ควำมดนั ซ่ึงจะมีอยหู่ ลำยรูปแบบ เช่น แบบท่ีเป็นตวั ปั๊มเกำะอยบู่ นถงั ควำมดนั และมีฝำครอบท่ีเรียกวำ่ \" ปั๊มกระป๋ อง \" ตวั ปั๊มจะควบคุมกำรทำงำนดว้ ยสวทิ ช์ควำมดนั ( Pressure Switch ) ซ่ึงจะทำงำนอตั โนมตั ิเมื่อมีกำรเปิ ดใช้ น้ำในบำ้ น ควำมดนั ในทอ่ จะลดลงจนถึงค่ำท่ีต้งั ไว้ ปั๊มกจ็ ะทำงำนจ่ำยน้ำเขำ้ เส้นท่อ เม่ือหยดุ หรือเปิ ด อุปกรณ์ ควำมดนั จะเพมิ่ สูงข้ึนจนถึงค่ำท่ีต้งั ไว้ ปั๊มก็จะหยุด เคร่ืองป๊ัมน้ำแบบน้ีมกั มีขนำดใหเ้ ลือกไม่มำกนกั เพรำะผลิตมำกเพื่อใชส้ ำหรับบำ้ นขนำดเลก็ ๆ จนถึงขนำดกลำง ถำ้ เป็นบำ้ นหรืออำคำรขนำดใหญ่ ตอ้ งใชช้ ุด เครื่องปั๊มน้ำแบบ Packaged booster Pump Set ซ่ึงจะจำ่ ยน้ำไดใ้ นปริมำณสูงและเลือกควำมดนั ไดห้ ลำย ระดบั
2. กำรเลอื กเคร่ืองป๊ัมนำ้ สำหรับอำคำรขนำดใหญ่และโรงงำนอตุ สำหกรรม เครื่องป๊ัมน้ำสำหรับอำคำรขนำดใหญ่และโรงงำนอุตสำหกรรมน้นั จำเป็ นตอ้ งพจิ ำรณำใหล้ ะเอียด มำกข้ึน เนื่องจำก มีขนำดใหญแ่ ละมีเรื่องรำคำและคำ่ กำรบำรุงรักษำ เขำ้ มำเก่ียวขอ้ ง ขอ้ มูลที่จำเป็นท่ีตอ้ ง ทรำบก่อนท่ีจะทำกำรเลือกเคร่ืองปั๊มน้ำแรงเหวย่ี ง ( Centrifugal ) มีดงั น้ี - ชนิดของน้ำ ที่ตอ้ งกำรสูบ อุณหภูมิ ควำมหนึด ควำมหนำแน่น - อตั รำกำรสูบ หรือ Flow rate ท่ีตอ้ งกำร - ควำมดนั หรือควำมสูงที่ตอ้ งยกน้ำน้นั ๆ ข้ึนไป หรือท่ีเรียกกนั วำ่ HEAD - ควำมเร็วรอบของเคร่ืองป๊ัมน้ำท่ีเป็นไปได้ - ตวั ขบั เคลื่อนที่เป็ นไปไดข้ องสถำนท่ีต้งั เคร่ืองป๊ัมน้ำน้นั - ลกั ษณะของระบบท่อที่มี หรือจะตอ้ งมี System Head curve - ขอ้ มลู จำกผแู้ ทนจำหน่ำยเครื่องปั๊มน้ำ ไดแ้ ก่ Pump curve กำรติดต้งั ป้ัมนำ้ แบบ 2 ระบบ (กรณมี ถี ังเกบ็ นำ้ ) 1) กรณีดูดน้ำจำกถงั เก็บน้ำโดยตรง 1.1 เปิ ดวำวล์ 1,2 และ 3 1.2 เปิ ดป้ัมน้ำ 2) กรณีน้ำปะปำเขำ้ บำ้ นโดยตรง ไมต่ อ้ งผำ่ นป้ัมน้ำ และถงั เกบ็ น้ำ (น้ำปะปำไหลแรง) 2.1 ปิ ดวำวล์ 1 และ 2 2.2 ปิ ดป้ัมน้ำ
กำรตดิ ต้งั ป้ัมนำ้ 2 ระบบ (ไม่มถี ัง) 1) กรณีดูดน้ำประปำโดยตรงโดยใชป้ ๊ัมน้ำ (น้ำปะปำไหลออ่ น) 1.1 เปิ ดวำวล์ 1,2 1.2 เปิ ดป้ัมน้ำ 2) กรณีน้ำปะปำเขำ้ บำ้ นโดยตรง ไม่ตอ้ งผำ่ นป๊ัมน้ำ (น้ำปะปำไหลแรง) 2.1 ปิ ดวำวล์ 1 และ 2 2.2 ปิ ดป้ัมน้ำ กำรตดิ ต้งั ป้ัมนำ้ แบบ 3 ระบบ
เคร่ืองสูบน้ำที่เป็นตวั รับแรงขบั จำกเครื่องขนำดใหญห่ รือขนำดเลก็ น้นั มีควำมจำเป็ นในกำร บำรุงรักษำไม่นอ้ ยไปกวำ่ เครื่องยนต์ ซ่ึงสำยตรวจ หรือช่ำงควบคุมเครื่องจะตอ้ งคำนึงถึงอยเู่ สมอเพรำะทุก อยำ่ งมีควำมสนมั พนั ธ์ต่อเน่ืองกนั อยตู่ ลอดเวลำทำงำน ส่วนประกอบทส่ี ำคัญของเคร่ืองสูบนำ้ มีดังนี้ 1. ตวั ป๊ัมน้ำ (Body) 2. เพลำหรือแกนป๊ัมน้ำ 3. ลูกปื นป๊ัมน้ำ 4. ซีลป๊ัมน้ำ 5. ใบพดั ป๊ัมน้ำ 6. ยอยโซ่หรือยอยยำง กำรบำรุงรักษำเครื่องสูบนำ้ จึงมขี ้นั ตอนดงั นี้ 1. อดั จำรบีท่ีเพลำป๊ัมน้ำทุก ๆ 50 –60 ชม. 2. ตรวจน้ำมนั เกียร์ที่ตวั ปั๊มบำงยห่ี อ้ ถำ้ มีอยำ่ ใหข้ ำดระดบั ท่ีกำหนดไว้ 3. ประเกนคอเพลำถำ้ หมดประสิทธิภำพควรเปล่ียนใหม่ อยำ่ กวดขนั ฝำกำลนั มำกเกินไป จะทำใหห้ กั หรือแตกได้ 4. ตรวจดูน๊อต-สกรูท่ีตวั ป๊ัมและท่ีใบพดั เสมอ
5. อยำ่ ใหป้ ลำยท่อดูดลงไปใกลก้ บั พ้นื ทรำยมำกเกินไปจะทำใหใ้ บพดั สึกเร็ว 6. ตรวจดูยอยโซ่หรือยอยยำงไม่ใหห้ ลวมหรือใหต้ ึงมำกเกินไป ส่ิงต่ำง ๆ ที่กล่ำวมำน้ีหำกขำดตกบกพร่องไปขอ้ หน่ึงขอ้ ใดจะทำใหช้ ิ้นส่วนของป๊ัมน้ำสึกหรอเร็วมำก ซ่ึงเป็นกำรเสียค่ำใชจ้ ำ่ ยโดยกำรขำดกำรบำรุงรักษำ
แบบฝึ กหดั 1. ปั๊มน้ำ หรือเครื่องสูบน้ำ หมำยถึง (1 คะแนน) - เคร่ืองมือกลท่ีทำหนำ้ ท่ีเพิม่ พลงั งำนใหแ้ ก่ของเหลว (ในท่ีน้ีหมำยถึงน้ำ) เพื่อใหข้ องเหลวเหล่ำน้นั ไหลผำ่ นระบบทอ่ ปิ ดจำกจุดหน่ึงไปยงั อีกจุดหน่ึงไดต้ ำมควำมตอ้ งกำร ส่วนพลงั งำนที่นำมำเพ่ิมใหแ้ ก่ ของเหลวจะไดม้ ำจำกเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้ ำ แรงคนหรือพลงั งำนจำกแหล่งอื่น 2. ประเภทของป๊ัมน้ำแบ่งไดก้ ี่ประเภท อะไรบำ้ ง (1 คะแนน) - 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. แยกตำมลกั ษณะกำรเพิ่มพลงั งำนใหแ้ ก่ของเหลว หรือกำรไหลของของเหลวในป๊ัม 2. แยกตำมลกั ษณะกำรขบั ดนั ของเหลวในป๊ัม 3. ปั๊มน้ำที่ทำงำนโดยอำศยั แรงเหวย่ี งหนีศนู ย์ แบง่ ยอ่ ยๆไดก้ ี่ชนิด อะไรบำ้ ง (2 คะแนน) - แบง่ ได้ 6 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. ชนิดหอยโข่ง (Volute Type) 2. ชนิดมีครีบผนั น้ำ (Diffuser Type) 3. ชนิดเทอร์ไบน์ (Turbine Type) 4. ชนิดสูบน้ำแนวต้งั (Vertical Turbine Type) 5. ชนิดผสม (Mixed Flow Type) 6. ชนิดสูบน้ำไหลตำมแกน (Axial Flow) 4. จงอธิบำยควำมหมำยของป๊ัมน้ำชนิดเทอร์ไบน์ (2 คะแนน) - ชนิดเทอร์ไบน์ (Turbine Type) ใบพดั ของป๊ัมชนิดน้ีจะเป็ นแผน่ แบนกลม ครีบของใบพดั จะเป็น เส้นตรงส้นั ๆ ท้งั สองดำ้ น เม่ือน้ำไหลเขำ้ มำที่จุดศนู ยก์ ลำงจะถูกเหวย่ี งออกไปติดผนงั เส้ือป๊ัมและ จะยอ้ นกลบั เขา้ ศูนยก์ ลางอีกหน่ึงและจะโดนเหวย่ี งออกไปอีก จะซ้าอยอู่ ยา่ งน้ีจนถึงทา่ ทางจ่าย แรงอดั และ ปริมาณน้าจะมากข้ึนหากจานวนครีบมากข้ึนและจานวนคร้ังของการเหวย่ี งออกเหวย่ี งเขา้ มากข้ึน 5. ถำ้ จะสูบน้ำจำกบ่อบำดำล ควรใชป้ ั๊มชนิดใด (1 คะแนน) - ชนิดสูบน้ำแนวต้งั (Vertical Turbine Type)
6. จงอธิบำยหลกั กำรทำงำนของปั๊มท่ีอำศยั แรงเหวยี่ งหนีศูนยม์ ีหลกั กำรทำงำนอยำ่ งไร (1 คะแนน) - พลงั งำนจะเขำ้ สู่ป๊ัมโดยผำ่ นเพลำซ่ึงมีใบพดั ติดอยู่ เมื่อใบพดั หมุนของเหลวภำยในปั๊มจะไหลจำก ส่วนกลำงของใบพดั ไปสู่ส่วนปลำยของใบพดั ( Vane ) ซ่ึงจำกกำรกระทำของแรงเหว่ยี งจำกแผน่ ใบพดั น้ีจะ ทำใหเ้ ฮดควำมดนั ( pressure head ) ของเหลวเพิ่มข้ึน เม่ือของเหลวไดร้ ับควำมเร่งจำกแผน่ ใบพดั กจ็ ะทำให้ มีเฮดควำมเร็วสูงข้ึนส่งผลใหข้ องเหลวไหลจำกปลำยของใบพดั เขำ้ สู่เส้ือปั๊มรูปหอยโข่ง แลว้ ออกไปสู่ ทำงออกของปั๊ม 7. ป๊ัมโรตำร่ี หมำยถึง (1 คะแนน) - ป๊ัมประเภทที่เพิม่ พลงั งำนใหข้ องเหลว โดยอำศยั กำรหมุนของฟันเฟื องรอบแกนกลำง มีชิ้นส่วน ภำยในท่ีหมุนได้ เพ่ือตกั หรือตวงของเหลว ของเหลวถูกดูดเขำ้ ไปและอดั ปล่อยออก โดยกำรหมุนรอบจุด ศนู ยก์ ลำงของเคร่ืองมือกล 8. ปั๊มน้ำโรตำรี่แบง่ ไดก้ ี่ชนิด อะไรบำ้ ง (1 คะแนน) - แบ่งได้ 4 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. ปั๊มโรตำร่ีแบบเฟื อง (Gear Pump Type) 2. ปั๊มโรตำรี่แบบครีบ หรือ แบบใบสลดั (Vane Pump Type) 3. ป๊ัมโรตำรี่แบบลอน (Lobe Pump Type) 4. ปั๊มโรตำรี่แบบสวำ่ น (Serew Pump Type)
แบบทดสอบท้ำยบท 1. ประเภทของเครื่องสูบน้ำ สำมำรถแบ่งไดก้ ี่ประเภท ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 2. ปั๊มน้ำชนิดใดเป็นพ้ืนฐำนของป๊ัมน้ำประเภทอำศยั แรงเหวยี่ งหนีศูนย์ ก. ชนิดหอยโขง่ ข. ชนิดสูบน้ำแนวต้งั ค. ชนิดสูบน้ำไหนตำมแกน ง. ชนิดผสม 3. ป๊ัมน้ำชนิดใดท่ีมีใบพดั ของป๊ัมเป็นแผน่ แบนกลม ครีบของใบพดั จะเป็นเส้นตรงส้ันๆ ก. ชนิดหอยโขง่ ข. ชนิดครีบผนั น้ำ ค. ชนิดเทอร์ไบน์ ง. ชนิดสูบน้ำแนวต้งั 4. ถำ้ จะสูบน้ำจำกบำดำลปั๊มน้ำชนิดใดเหมำะสมที่สุด ก. ป๊ัมโรตำรี่แบบเฟื อง ข. ชนิดสูบน้ำแนวต้งั ค. ชนิดผสม ง. ชนิดสูบน้ำไหลตำมแกน 5. ปั๊มโรตำรี่ แบ่งไดก้ ี่ชนิด ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
6. กำรติดต้งั ป้ัมน้ำแบบ 2 ระบบ (กรณีมีถงั เก็บน้ำ) ถำ้ จะดูดน้ำจำกถงั เก็บน้ำโดยใชป้ ั๊มจะตอ้ ง เปิ ด-ปิ ด วำลว์ ใดบำ้ ง ก. เปิ ดวำลว์ 1,2 ปิ ดวำลว์ 3 ข. เปิ ดวำลว์ 1,2,3 เปิ ดปั๊มน้ำ ค. ปิ ดวำลว์ 1,2,3 ง. ปิ ดวำลว์ 1,2 เปิ ดวำลว์ 3 7. กำรติดต้งั ป้ัมน้ำแบบ 2 ระบบ (กรณีมีถงั เกบ็ น้ำ) กรณีน้ำประปำเขำ้ บำ้ นโดยตรงไม่ตอ้ งผำ่ นปั๊มน้ำและถงั เก็บน้ำ (น้ำประปำไหลแรง) ควร เปิ ด-ปิ ด วำลว์ ใด ก. เปิ ดวำลว์ 1,2 ข. เปิ ดวำลว์ 2,3 ค. เปิ ดวำลว์ 1,2,3 ง. ปิ ดวำลว์ 1,2 ปิ ดป๊ัมน้ำ 8. กำรติดต้งั ป้ัมน้ำ 2 ระบบ (ไมม่ ีถงั เกบ็ น้ำ) กรณีดูดน้ำประปำโดยตรงโดยใชป้ ๊ัมน้ำ (น้ำประปำไหลออ่ น) ควรเปิ ด-ปิ ดวำลว์ ใดบำ้ ง ก. เปิ ดวำลว์ 1,2 เปิ ดป๊ัมน้ำ ข. เปิ ดวำลว์ 1 ปิ ดวำลว์ 2 ค. ปิ ดวำลว์ 1,2 เปิ ดปั๊มน้ำ ง. ไมม่ ีขอ้ ใดถูกตอ้ ง 9. กำรติดต้งั ป้ัมน้ำ 2 ระบบ (ไมม่ ีถงั เกบ็ น้ำ) โดยน้ำประปำไหลเขำ้ บำ้ นโดยตรง ไม่ตอ้ งผำ่ นป๊ัมน้ำ (น้ำประปำไหลแรง) ควรเปิ ด-ปิ ดวำลว์ ใดบำ้ ง ก. เปิ ดวำลว์ 1,2 เปิ ดป๊ัมน้ำ ข. เปิ ดวำลว์ 1 ปิ ดวำลว์ 2 เปิ ดป๊ัมน้ำ ค. ปิ ดวำลว์ 1,2 ปิ ดปั๊มน้ำ ง. ปิ ดวำลว์ 1 เปิ ดวำลว์ 2 เปิ ดป๊ัมน้ำ 10. กำรบำรุงรักษำปั๊มน้ำ นกั เรียนคิดวำ่ มีควำมสำคญั หรือไม่ ก. มีหรือไมม่ ีควำมสำคญั ก็ได้ ข. อำจจะมีควำมสำคญั ค. ไม่มีควำมสำคญั ง. มีควำมสำคญั
เฉลย 1. ข 2. ก 3. ค 4. ข 5. ง 6. ข 7. ง 8. ก 9. ค 10. ง
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: