โครงงาน IS เรื่อง สบู่ดอกอัญชัน

โครงงาน IS เร่ือง สบู่ดอกอญั ชัน จดั ทาโดย 1.นางสาวจุฑามาศ ธรรมสละ เลขท่ี 23 2.นางสาวชลธิดา วงศว์ าท เลขที่ 24 3.นางสาวสุกญั ญา กศุ ล เลขท่ี 28 4.นางสาวสุพรรณนิกา แสงจนั ทร์ เลขที่ 29 5.นางสาวอมราวดี คาเขื่อน เลขที่ 39 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/2 ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู ดารงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS) โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 37 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2563



โครงงาน IS เร่ือง สบู่ดอกอญั ชัน จดั ทาโดย 1.นางสาวจุฑามาศ ธรรมสละ เลขท่ี 23 2.นางสาวชลธิดา วงศว์ าท เลขที่ 24 3.นางสาวสุกญั ญา กศุ ล เลขท่ี 28 4.นางสาวสุพรรณนิกา แสงจนั ทร์ เลขที่ 29 5.นางสาวอมราวดี คาเขื่อน เลขที่ 39 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/2 ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครู ดารงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS) โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 37 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2563

เกี่ยวกบั โครงงาน โครงงานการศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองค์ ความรู้ เร่ือง สบู่ดอกอญั ชนั ผจู้ ดั ทา 1.นางสาวจุฑามาศ ธรรมสละ เลขที่ 23 2.นางสาวชลธิดา วงศว์ าท เลขท่ี 24 3.นางสาวสุกญั ญา กศุ ล เลขที่ 28 4.นางสาวสุพรรณนิกา แสงจนั ทร์ เลขที่ 29 5.นางสาวอมราวดี คาเข่ือน เลขที่ 39 ครูที่ปรึกษา 1. ครูดารง คนั ธะเรศย์ สถานศึกษา โรงเรียนปัว ตาบลปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน ปี การศึกษา 2563

กิตติกรรมประกาศ โครงงานน้ีสาเร็จข้ึนไดดว้ ยความกรุณาจากครูดารง คนั ธะเรศย์ อาจารยท์ ่ีปรึกษา โครงงานท่ีไดใ้ ห้คาเสนอแนะแนวคิด ตลอดจนแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่างๆมาโดยตลอด จน โครงงานเล่มน้ีเสร็จสมบรู ณ์ผศู้ ึกษา จึงขอกราบขอบพระคุณเป็ นอยา่ งสูง ขอกราบขอบคุณ คุณ พอ่ คุณแม่และผปู้ กครอง ท่ีใหค้ าปรึกษาในเรื่องต่างๆ รวมท้งั เป็นกาลงั ใจท่ีดี เสมอมา ขอบคุณ เจา้ หนา้ ที่ประจาโรงเรียนปัว ท่ีช่วยสละเวลา ใหส้ ถานท่ีในการทาและสถานที่ในการทาการ ทดลอง สุดทา้ ยขอขอบคุณเพื่อนๆ ท่ีช่วยใหค้ า แนะนา ดีๆ เกี่ยวกบั การเลือกคา และเกี่ยวกบั โครงงานชิ้นน้ี จนทาใหโ้ ครงงานสาเร็จลุล่วงออกไปไดด้ ว้ ยดี จุฑามาศ ธรรมสละ นางสาวชลธิดา วงศว์ าท นางสาวสุกญั ญา กศุ ล สุพรรณนิกา แสงจนั ทร์ อมราวดี คาเข่ือน

บทคดั ยอ่ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ืองสบู่ดอกอญั ชญั น้ี จดั ทาข้ึนเพ่อื เรียนรู้วธิ ีการทาสบู่ เพราะสบู่ เป็นของใชท้ ่ีจาเป็นในชีวติ ประจาวนั ทุกวนั เราอาบน้าตอ้ งใชส้ บู่เพอ่ื การขจดั ส่ิงสกปรกออกจาก ร่างกาย ซ่ึงคนส่วนมากมกั จะเลือกสบ่ทู ่ีสามารถทาความสะอาดไดด้ ีมากๆ จนไม่คานึงถึงผลเสีย ท่ีจะเกิดกบั ผวิ ในภายหลงั ปัจจุบนั สบู่มีมากมายหลายชนิดใหเ้ ราเลือกใช้ ตามความเหมาะสม และความชอบของแต่ละบุคคล บางชนิดกผ็ สมสมุนไพรบางชนิดกผ็ สมสารเคมี เช่น Triclocarban เพือ่ ฆ่าเช้ือแบคทีเรีย ซ่ึงผใู้ ชบ้ างรายอาจเกิดอาการแพส้ ารเคมีหากใชบ้ ่อยเกินไป แต่เรารู้จกั สบ่เู หล่าน้นั ดีเพยี งไร และจะมีสกั กี่คนท่ีใส่ใจในรายละเอียดวา่ สบ่แู ต่ละกอ้ นมี ส่วนประกอบสาคญั อะไรบา้ ง สบ่ทู ี่ดีจะตอ้ งมีส่วนประกอบสาคญั ท่ีจาเป็นและมีประโยชนต์ ่อ ผวิ ซ่ึงนอกจากจะทาใหส้ บู่ที่ไดท้ าความสะอาดผวิ ไดด้ ีแลว้ ยงั สามารถบารุงผวิ ไดอ้ ีกดว้ ย ท้งั น้ี สบ่เู ป็นส่ิงที่เราตอ้ งใชเ้ ป็นประจาทุกวนั หากเราคดั สรรสบ่ทู ่ีดีมีคุณภาพจะทาใหเ้ รา มีสุขภาพผิว ของที่ดีอยคู่ ูก่ บั เราไปตลอดนานเท่านาน ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยการผลิตสบู่สมุนไพรใชเ้ อง น่าจะเป็นแนวทางหน่ึงที่ลดคา่ ใชจ้ ่าย ช่วยเหลือเศรษฐกิจประชาชนชุมชนไดม้ าก เพราะวตั ถุดิบ หลกั ท่ีใชเ้ ป็นวสั ดุท่ีผลิตเองในประเทศเกษตรกรสามารถปลกู พืชน้ามนั และสกดั น้ามนั โดยวธิ ร การง่ายๆนามาใชเ้ ป็นวตั ถุดิบหลกั นอกจากน้ีในแหล่งชุมชนที่มีไขมนั สตั วเ์ หลือใช้ อีกท้งั สมุนไพรหาไดใ้ นประเทศมากมายการผลิตสบ่ผู สมสมุนไพรจึงเป็นการสนบั สนุนการนาสาร จากวสั ดุธรรมชาติที่ผลิตไดเ้ องมาใชป้ ระโยชน์อยา่ งคุม้ คา่ ราคาถูกประหยดั และใชไ้ ดง้ ่ายจึงน่าท่ี จะผลิตสบู่สมุนไพร เพ่ือนามาใชช้ าระลา้ งทาความสะอาดร่างกายและของใชห้ รือใชซ้ กั เส้ือผา้ แทนผงซกั ฟอกได้ ก่อนท่ีจะทาการผลิตสบู่สมุนไพร จาเป็นตอ้ งศึกษาวธิ ีการผลิตอยา่ งละเอียด ก่อนเพ่อื ความปลอดภยั และและจะไดส้ บู่ท่ีมีคุณภาพดี

สารบญั หนา้ ก เรื่อง ข เก่ียวกบั โครงงาน ค 1–2 กิตติกรรมประกาศ 3 -15 บทคดั ยอ่ 16 -18 บทที่ 1 บทนา - ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน - วตั ถุประสงคข์ องการทาโครงงาน - สมมติฐานของการศึกษา - ขอบเขตของการทาโครงงาน - ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ บทท่ี 2 เอกสารและโครงงานที่เก่ียวขอ้ ง - โซดาไฟ หรือคอสติกโซดา( caustic soda ) /โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) คุณสมบตั ิและการใช้ - สรรพคณุ ของกลีเซอรีน - ประสิทธิภาพของสบู่ - สภาพผิว - สรรพคุณของดอกอญั ชนั - สารท่ีเป็นส่วนผสมของการทาสบู่ บทที่ 3 วธิ ีดาเนินโครงงาน - วสั ดุอุปกรณ์

-วธิ ีทาสบ่อู ญั ชนั 23 - แผนการกาหนดเวลาปฏิบตั ิงาน 24 บทท่ี 4 ผลของการดาเนินงาน 25 - ผลการดาเนินงาน บทที่ 5 สรุปการดาเนินโครงงาน - สรุปผล - ขอ้ เสนอแนะ บรรณานุกรม

บทที่ 1 บทนา ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน ดอกอญั ชนั มีคุณสมบตั ิเด่นท่ีสุด คือ สารแอนโธไซยานิน ซ่ึงประสิทธิภาพในการตา้ น อนุมูลอิสระ ช่วยในการสร้างคอลลาเจนในช้นั ผวิ หนงั ทาใหผ้ วิ หนงั มีความแขง็ แรงมากข้ึน ช่วย ชะลอความแก่ และแหง้ กร้านของผวิ โดยการลดการทางานของเอนไซมท์ ี่ทาใหผ้ วิ แก่ก่อนวยั ให้ ลดนอ้ ยลง ช่วยลดกระบวนการสร้างเมด็ สีท่ีผดิ ปกติบนผวิ ซ่ึงมีสาเหตุมาจากฝ้ า กระ หรือจุดด่าง ดา อีกท้งั ช่วยปรับสภาพ และลดปัญหาสีผวิ ที่ไม่เท่าเทียมกนั เน่ืองจากผลิตภณั ฑท์ าความสะอาดผวิ อ่ืนๆมีฟองมาก เม่ือชะลา้ งน้ามนั ตามธรรมชาติของผวิ ประจุบวกท่ีเกิดจากสารทาฟองกจ็ ะดึงดูดใหฝ้ ่ นุ ละอองหรือผงมาติดท่ีผวิ หนา้ ไดง้ ่ายข้ึน แม้ ผวิ หนา้ ที่ทาความสะอาดดีแลว้ วตั ถุประสงคข์ องการทาโครงงาน 1.เพื่อศึกษาการทาสบู่จากพืช สมุนไพร ท่ีหาไดง้ ่ายในทอ้ งถิ่น 2.เพอื่ จะไดใ้ ชว้ สั ดุจากธรรมชาติใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด 3.เพือ่ ใหน้ กั เรียนนาไปใชใ้ นการศึกษาและนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั สมมติฐานของการศึกษา 1.สบ่ทู ี่ทาข้ึนสามารถใชไ้ ดจ้ ริง 2.ไม่ทาใหเ้ กิดอาการแพต้ ่อผทู้ ดลอง ขอบเขตของการทาโครงงาน 1. ส่ิงที่ศึกษา : ศึกษาเก่ียวกบั การทาสบู่ดอกอญั ชนั 2. สถานที่ : โรงเรียนปัว

3. ระยะเวลา : 2 วนั 24-25 สิงหาคม ปี 2563 ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 1.ไดท้ ราบถึงสรรพคุณของอญั ชนั 2.ไดท้ ราบถึงสรรพคุณของสบู่ 3.ไดท้ ราบถึงวธิ ีการทาสบู่ 4.เป็นการนาวสั ดุที่มีอยใู่ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ 5.ประหยดั ค่าใชจ้ ่าย 6.มีผวิ พรรณที่ดีเกิดจากการใชส้ บู่ 7. การนาพืชผกั สมุนไพรมาทาใหเ้ กิดประโยชน์ 8. เพ่ิมทกั ษะการคิดวเิ คราะห์เชิงวทิ ยาศาสตร์

บทที่ 2 เอการทเี่ กยี่ วข้อง โซดาไฟ หรือคอสติกโซดา( caustic soda )/โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) คุณสมบตั ิและการใช้ โซดาไฟ หรือคอสติกโซดา caustic soda คือ \"สารประกอบชนิดหน่ึง ชื่อ โซเดียมไฮดรอก ไซด์ (NaOH) เป็นของแขง็ สีขาว ดูดความช้ืนดีมาก ละลายน้าไดด้ ี ใชป้ ระโยชนใ์ นอุตสาหกรรมทาสบู่ เส้นใยเรยอน\" ใชใ้ นการ ผลิตเป็นผลิตภณั ฑต์ ่าง ๆ เช่น การผลิตเยอ่ื และกระดาษ สบ่แู ละผลิตภณั ฑซ์ กั ฟอก เคมีภณั ฑ์ การทาความสะอาด โรงกลนั่ น้ามนั การใชง้ านทาง อุตสาหกรรมโลหะ อตุ สาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเสน้ ใยเรยอน ส่ิง ทอ และอ่ืนๆ(2563,ออนไลน์ : https://th.wikipedia.org/wiki เมื่อ 27/09/63 ) ขอ้ ควรระวงั เม่ือใชโ้ ซดาไฟ เมอ่ื สูดดมสาร ถา้ สูดดมเขา้ ไป, ใหย้ า้ ยผปู้ ่ วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธ์ิ. ถา้ ไม่หายใจ ใหก้ ารช่วยหายใจ. ถา้ หายใจ ลาบาก, ใหอ้ อกซิเจน. เม่อื สัมผสั สาร ในกรณีที่ถูกผวิ หนงั , ใหล้ า้ งออกดว้ ยน้าปริมาณมาก เป็นเวลาอยา่ งนอ้ ย 15 นาที. ถอดเส้ือและ รองเทา้ ที่เป้ื อนสาร. ไปพบแพทย.์ เมอื่ สารเข้าตา ในกรณีท่ีเขา้ ตา, ใหล้ า้ งดว้ ยน้าปริมาณมาก เป็นเวลาอยา่ งนอ้ ย 15 นาที. ตอ้ งแน่ใจวา่ ไดล้ า้ งตา อยา่ งเพยี งพอ โดยใชน้ ิ้วมือแยกเปลือกตาออกจากกนั ระหวา่ งลา้ ง. ไปพบแพทย.์

เมอื่ กลนื กนิ เมื่อกลืนกิน, ใหใ้ ชน้ ้าบว้ นปากในกรณีท่ีผปู้ ่ วยท่ียงั มีสติอย.ู่ ไปพบแพทยท์ นั ที. หา้ มทาให้ อาเจียน. การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ 1.ถา้ หายใจเขา้ ไปใหร้ ีบยา้ ยผปู้ ่ วยออกมา ใหไ้ ดร้ ับอากาศบริสุทธ์ิแลว้ รีบนาส่งแพทย์ 2.หากเขา้ ตารีบลา้ งตาดว้ ยน้าอุน่ ทนั ที โดยคอ่ ย ๆ ใหน้ ้าไหลผา่ นตา 30 นาที เปิ ดเปลือกตาไว้ พยายามอยา่ ใหน้ ้าลา้ งตาไหลขา้ งที่มีสารเคมีไหลเขา้ ตาขา้ งที่ไม่เป็นอะไรโดยเดด็ ขาด เมื่อถูก ผิวหนงั ใหร้ ีบลา้ งออก โดยใหน้ ้าไหลผา่ นบริเวณที่ถกู สารอยา่ งนอ้ ย 30 นาที พร้อมกบั ถอดชุด และอปุ กรณ์ต่าง ๆ ท่ีเป้ื อนสารออกแลว้ รีบนาส่งแพทยใ์ หเ้ ร็วที่สุด(2563,ออนไลน์ : https://www.thaimetallic.com/ เมื่อ 27/09/63) โซดาไฟกบั ปฏิกิริยาต่อเนื่อง แมว้ า่ โซดาไฟเป็นสารไม่ติดไฟ แต่ถา้ สมั ผสั กบั สารบางชนิด เช่น กรดเขม้ ขน้ หรือทา ปฏิกิริยาอยา่ งรุนแรงกบั น้า จะทาใหเ้ กิดปฏิกิริยาเคมีกนั จนเกิดความร้อนพอเพยี ง และทาใหส้ าร ที่วางอยใู่ กลส้ ามารถติดไฟได้ การดบั เพลิงจึงตอ้ งดูสารท่ีเป็นคูป่ ฏิกิริยาทางเคมี และรวมถึงการ เลือกใชเ้ คร่ืองดบั เพลิงใหถ้ กู ตอ้ งกบั เหตุการณ์ดว้ ย(2563,ออนไลน์ : http://www.chembuddy.com เมื่อ 27/09/63 การเตรียม สารละลาย NaOH ใชใ้ นการทาสบู่ - ตวงน้าสะอาด อาจเป็นน้าด่ืม หรือน้าประปา ปริมาตรตามตอ้ งการ ใส่ภาชนะพลาสติกหนา หรือ แกว้ หา้ มใชพ้ ลาสติกใส ขวด PET ขวดน้าดื่ม ภาชนะโลหะทุกชนิด - ชง่ั โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH)เกลด็ น้าหนกั ตามตอ้ งการ คอ่ ยๆเทลงในน้าที่เตรียมไว้ คน ชา้ ดว้ ยแท่งแกว้ หรือ ไมพ้ ายเลก็ จนละลายหมด ช่วงน้ีจะมีความร้อน และไอด่าง ควรเตรียมใน ท่ีโล่ง ใส่แวน่ และ ถุงมือ ถา้ สมั ผสั กบั ด่างใหล้ า้ งดว้ ยน้าสะอาดมากๆ

ตารางแสดง ค่าความหนาแน่นของโซเดียมโฮดรอกไซด์ และกรดบางชนิด (2563,ออนไลน์ : http://www.chemtrack.org เมื่อ 27/09/63) จากขอ้ มูลเบ้ืองตน้ เก่ียวกบั โซเดียมไฮดรอกไซดห์ รือ โซดาไฟท่ีกล่าวมาน้นั สามารถสรุปได้ วา่ การที่จะใชส้ ารเคมีต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นสารเคมีชนิดใดกต็ ามควรที่จะศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลของ สารน้นั ๆใหล้ ะเอียดท้งั คุณประโยชน์เเละโทษของมนั เเละควรที่จะคานึงถึงความปลอดภยั ใน การใชส้ ารเคมีทุกคร้ัง ไม่ควรที่จะประมาท เพราะอาจจะเป็นอนั ตรายถึงแก่ชีวติ ได้

สรรพคุณของกลีเซอรีน กลีเซอรีนน้นั มีคุณสมบตั ิในการดูดความช้ืน หรือสามารถกกั เกบ็ ความช้ืนท่ีอยรู่ อบๆ ตวั ลงสู่ ผวิ หนงั ของเรา ซ่ึงกม็ ีส่วนผสมหลายๆ ตวั ท่ีมีหนา้ ท่ีคลา้ ยๆ กลีเซอรีน ไดแ้ ก่ glycolicacid, hyaluronic acid, sodium hyaluronate, and sorbitol. กลีเซอรีนน้นั ถือวา่ เป็นตวั ที่ใหค้ วามชุ่มช้ืนตามธรรมชาติท่ีอยใู่ นผวิ เรา ซ่ึงสามารถเขา้ ไดก้ บั ทุก สภาพผวิ และทุกวยั ซ่ึงความชุ่มช้ืนที่ผวิ เราน้นั โดยธรรมชาติแลว้ กจ็ ะลดลงไปตามวยั และเม่ือเจอมลภาวะสิ่งแวดลอ้ มต่างๆ กจ็ ะยงิ่ ลดนอ้ ยลงไปอีก นอกจากทชี่ ่วยเพมิ่ และกกั เกบ็ ความชุ่มชื้นให้ผวิ แล้ว Glycerine ยงั มปี ระโยชน์อกี มากมายดงั นี้ 1. เปรียบเสมือนเกราะป้ องกนั ที่ช่วยป้ องกนั ผวิ ไม่ใหเ้ กิดการระคายเคืองจากมลภาวะสิ่งแวดลอ้ ม ต่างๆ 2. ทางานร่วมกบั สารที่ช่วยเพ่มิ ความชุ่มช้ืนหรือน้ามนั ทาใหผ้ วิ ท่ีแหง้ รู้สึก นุ่มข้ึน 3. เพ่มิ ความแขง็ แรงใหก้ บั เกราะของผวิ ในการกกั เกบ็ ความชุ่มช้ืน 4. ช่วยใหส้ ่วนผสมหลายๆตวั ซึมลงสู่ผวิ ไดด้ ีข้ึน 5. ทาใหผ้ วิ ยดื หยนุ่ และดูอ่อนเยาวอ์ ยเู่ สมอ นอกจากน้นั Glycerin น้นั ยงั เป็นตวั กระตุน้ การทางานของ Aquaporin ซ่ึงทาใหช้ ่องทางลาเลียง น้าของเซลล์ น้นั สามารถทางานไดด้ ียง่ิ ข้ึน และยงั ช่วยรักษาระดบั ความชุ่มช้ืนในผวิ หนงั ไดด้ ีอีก ดว้ ย Glycerin น้นั ถือวา่ เป้ นส่วนผสมหน่ึงที่ปลอดภยั ต่อผวิ ของเรา หรือแมก้ ระทง่ั คนท่ีเป็นสิว ง่ายกต็ าม และ สาหรับ ผลิตภณั ฑ์ Paula’s Choice เองเรากม็ ีใส่ Glycerin เขา้ ไปในหลายๆ products เช่นกนั เช่น ลา้ งหนา้ , เซรั่ม หรือ มอยเจอไรเซอร์ (2562,ออนไลน์ https://www.paulaschoice.co.th/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E 0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B 8%87-glycerin-%E0%B9%83%E0%B8%99-skincare/ เม่ือ 21/09/2563)

การทกี่ ลเี ซอรีนเป็ นสารทไ่ี ม่มพี ษิ ในทุกๆ รูปแบบของการประยกุ ตใ์ ช้ ไม่วา่ จะใชเ้ ป็นสารต้งั ตน้ หรือสารเติม แต่ง ทาใหก้ ลีเซอรีนไดร้ ับความสนใจและ นาไปใชป้ ระโยชน์ทางการแพทย์ ดว้ ยการทายาเหน็บทวาร ใชเ้ ป็นยาระบาย และยงั สามารถใชเ้ ป็นยาเฉพาะที่สาหรับปัญหาทาง ผิวหนงั หลายชนิด รวมถึง โรงผวิ หนงั ผนื่ แผลไฟลวก แผลกดทบั และบาดแผลจากของมีคม กลีเซอรีนถูกใชเ้ พ่ือรักษาโรคเหงือกไดด้ ว้ ย เน่ืองจากกลีเซอรีนสามารถฆ่าเช้ือแบคทีเรียที่ เกี่ยวขอ้ งได้ ช่วยบรรเทาผวิ เบิร์นจากการฟอกไต หรือการใหค้ ีโมของผปู้ ่ วยมะเร็ง เพราะผวิ จะ แหง้ มากๆ กลีโชลิด จึงช่วยเบาเทาผวิ เบิร์น หรือผวิ แหง้ มากไดเ้ ป็นอยา่ งดี (2562,ออนไลนh์ ttps://www.kamillthailand.com/th/articles/148121-glycerin- %28%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD %E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%29- %E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0 %B8%A3...? เมื่อ 21/09/2563) กลีเซอรีนเป็นสารท่ีดูดซบั ความช้ืนไดด้ ี ซ่ึงหมายความวา่ มนั ดูดซบั น้าจากอากาศไดอ้ ยา่ ง ชาญฉลาดเพอื่ ช่วยเพมิ่ ความชุ่มชื่นภายในเซลลผ์ วิ ของเรา เมื่อเป็นส่วนผสมในผลิตภณั ฑบ์ ารุง ผวิ จะช่วยใหผ้ วิ อ่อนนุ่มและเปล่งปลงั่ กลีเซอรีนน้นั พบไดต้ ามธรรมชาติในร่างกาย แต่เราเชื่อ วา่ การเติมกลีเซอรีนใหผ้ วิ เพ่มิ ข้ึนอีกจะช่วยยกระดบั ความชุ่มช้ืนไดด้ ียงิ่ ข้ึน น่ีจึงเป็นส่วนผสม ดาวเด่นที่ถกู ใชใ้ นผลิตภณั ฑห์ ลายชนิดของเรา สรรพคณุ  ช่วยเพิม่ ระดบั ความชุ่มช้ืนของผวิ  ช่วยรักษาน้าหล่อเล้ียงในผวิ  ช่วยใหผ้ วิ นุ่มและเปล่งปลงั่ (2562,ออนไลนh์ ttps://www.simpleskincare.com/th/ingredients/glycerin.html เม่ือ 21/09/2563) จาก สรรพคุณของกลีเซอรีน สรุปไดว้ า่ กลีเซอรีนมีสรรพคุณ ช่วยใหค้ วามชุ่มชื่นแก่เซลลผ์ วิ ช่วยใหผ้ วิ นุ่มชุ่มช่ืนและดูเปล่งปลงั่

ประสิทธิภาพของสบู่ ผลติ ภณั ฑ์ทใี่ ช้ทาความสะอาดผวิ ที่มีส่วนผสมของสารสกดั ดอกอญั ชนั และวติ ามินอีที่มีส่วน ช่วยในการตา้ นอนุมลู อิสระ เหมาะกบั ทุกสภาพผวิ สารสกดั ดอกอญั ชนั และวติ ามินอีมี ประสิทธิภาพในการตา้ นอนุมลู อิสระ สาเหตุที่ทาใหผ้ ิว เกิดริ้วรอย ในรูปแบบของสบู่ใส จะมี การเติมสารใหค้ วามชุ่มช้ืน คือ กลีเซอรีน เพิม่ เติมเขา้ ดว้ ย ซ่ึงกลีเซอรีนจะทาหนา้ ที่เหมือนฟิ ลม์ ที่ เคลือบผวิ ป้ องกนั การสูญเสียน้าออกจากผวิ ทาใหก้ กั เกบ็ ความชุ่มช้ืนในผวิ ได้ อยา่ งยาวนาน มีฟ้ องนอ้ ย คงไวซ้ ่ึงน้ามนั ตามธรรมชาติบนผวิ ไม่ทาใหห้ นา้ แหง้ ตึงหลงั การลา้ ง เน่ืองจาก ผลิตภณั ฑท์ าความสะอาดผวิ หนา้ ที่มีฟองมาก จะชะลา้ งน้ามนั ตามธรรมชาติของผวิ อีกท้งั ประจุ บวกที่เกิดจากสารทาฟองกจ็ ะดึงดูดใหฝ้ ่ นุ ละอองหรือผงมาติดที่ผวิ หนา้ ไดง้ ่ายข้ึน แมผ้ วิ หนา้ ที่ ทาความสะอาดดีแลว้ (2559,ออนไลน์ https://sites.google.com/a/htp.ac.th/jumroenpoon2560/prawati-khwam-pen-ma เม่ือ 21/09/2563) ประสิทธืภาพของสบู่อญั ชัน เมื่อสกดั ดว้ ยน้าเยน็ จะไดข้ องเหลวสีน้าเงินมีกลิ่นหอมของอญั ชนั เมื่อผสมกบั เน้ือสบู่จะไดส้ ีน้าเงินอ่อนๆและจะแขง็ ตวั เร็วกวา่ ชนิดอ่ืนๆเม่ือนาสบู่เหล่าน้ีไปใชจ้ ะ รู้สึกไดว้ า่ จะใชไ้ ดด้ ีเหมือนสบู่ทว่ั ไปที่มีขายตามทอ้ งตลาดฟองมากมีกล่ินหอมตามชนิดของ สมุนไพรท่ีนามาผสม สีของสบ่ทู ี่ไดจ้ ะไม่สดใสเนื่องจากสบ่ทู ี่นามาทดลองเป็นเสาสบู่เมื่อถูก ความร้อนจะทาใหส้ ีสนั จางลงแต่ประสิทธิภาพยงั คงเหมือนเดิม ดงั น้นั เม่ือนาสมุนไพรท้งั 3 ชนิดจะช่วยใหส้ บู่มีประสิทธิภาพเพ่ิมมากยง่ิ ข้ึน (2559,ออนไลน์ http://julalak12.blogspot.com/2016/03/blog-post.html เมื่อ27/09/2563) ประสิทธิภาพของสบู่อญั ชัน ประสิทธิภาพต่อการยบั ย้งั เช้ือจุลินทรียข์ องผวิ อญั ชญั อยทู่ ี่ส่วน น้ามนั หอมระเหยซ่ึงผวิ อญั ชญั จะมีประสิทธิภาพในการยบั ย้งั การเจริญของเช้ือจุลินทรียต์ ่างๆได้ ดีกวา่ ใบมะกรูด (เน่ืองจากมีปริมาณน้ามนั หอมระเหยท่ีนอ้ ยกวา่ ผวิ มะกรูด) จุลินทรียท์ ี่ถูกยบั ย้งั ไดง้ ่ายคือราดงั น้นั จึงมีการนาน้ามนั หอมระเหยไปเป็นส่วนผสมใน สบ่อู ญั ชญั เพื่อทาผวิ ดุ กระจ่างใส (2559,ออนไลน์ http://saharat23112544.blogspot.com/2016/06/ เม่ือ27/09/2563)

จากขอ้ มลู เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั ประสิทธิภาพของสบ่อู ญั ชนั สรุปไดว้ า่ ดอกอญั ชนั มีสารสกดั ดอก อญั ชนั และวติ ามินอีที่ช่วยในการตา้ นอนุมลู อิสระทาใหไ้ ม่แพง้ ่าย ยบั ย้งั เช้ือจุลินทรียข์ องผวิ และทาใหผ้ วิ ท่ีแหง้ ดูกระจ่างใสมากข้ึน สภาพผวิ ผวิ ธรรมดา (Normal Skin) “ผิวธรรมดา” เป็นคาที่ใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย บ่งบอกถึงผวิ ท่ี มีความสมดุล คือไม่แหง้ จนเกินไป และ ไม่มนั จนเกินไป หรือในทางวทิ ยาศาสตร์ใชค้ าวา่ “eudermic” แทนผิวท่ีมีสุขภาพดี ผวิ แห้ง (Dry Skin) “ผวิ แหง้ ” ใชเ้ พอ่ื อธิบายสภาพผวิ ที่ก่อใหเ้ กิดความมนั นอ้ ยกวา่ ผวิ ธรรมดา อนั เป็นผลมาจากการขาดความมนั , ผวิ แหง้ ขาดกรดไขมนั ท่ีจาเป็นในการรักษาความชุ่มช้ืน และ สร้างเกราะป้ องกนั ผวิ จากส่ิงกระทบจากภายนอก ผวิ แหง้ จะใหค้ วามรู้สึกแน่น หยาบกร้านและดู หมองคล้า ผวิ มนั (Oily Skin) “ผวิ มนั ” ใชเ้ พอ่ื อธิบายสภาพผวิ ท่ีมีการผลิตความมนั ในปริมานที่มากเกินไป หรือท่ีเรียกวา่ seborrhea “ผวิ มนั ” จะมีลกั ษณะ เงา มนั และสามารถมองเห็นรูขมุ ขนไดช้ ดั เจน ผวิ ผสม (Combination Skin) \"ผิวผสม\" บ่งบอกถึงผวิ ที่ประกอบดว้ ยประเภทของผวิ มากกวา่ หน่ึงประเภทอยดู่ ว้ ยกนั (2560,ออนไลน์ https://www.eucerin.co.th/about-skin/basic-skin-knowledge/skin-types เมื่อ 26/09/63) ผวิ ธรรมดา ผวิ ธรรมดาเป็นสภาพผวิ ที่ดีท่ีสุดเน่ืองจากผวิ จะเนียน นุ่ม ยดื หยนุ่ มีสุขภาพดี ฟ้ื น สภาพไดเ้ ร็ว ท้งั ยงั มีน้ามนั และความช้ืนมาก ผวิ ที่มีสุขภาพดีซ่ึงจะมีสภาพความเป็นกรดออ่ นๆ ดว้ ยคา่ pH 5.5 ที่บริเวณเกราะคุม้ กนั ผวิ ตามธรรมชาติ บริเวณช้นั บนสุดของผวิ จะเป็นเสมือน เกราะคุม้ กนั ผวิ ทาหนา้ ท่ีป้ องกนั การสูญเสียน้า ป้ องกนั เช้ือโรค และผลกระทบจากสิ่งแวดลอ้ ม ผลิตภณั ฑป์ ระเภทเวชสาอางที่มีคา่ pH 5.5 มีส่วนช่วยรักษาสภาพความเป็นกรดออ่ นๆ ของผวิ ในการเสริมสร้างความสมดุลท่ีดีของไขมนั และความชุ่มชื่นของผิวหนงั ผวิ แห้ง ผวิ แหง้ เป็นผวิ ที่แพง้ ่าย หยาบ ตึง คนั แดง และลอกเป็นขยุ ไดง้ ่าย ผวิ ประเภทน้ีตอ้ งการ ความชุ่มช่ืนมาก อีกท้งั ยงั ตอ้ งการส่วนผสมของน้ามนั จากผลิตภณั ฑบ์ ารุงผวิ เวลาที่ผวิ ประเภทน้ี

แหง้ ตึงมากจะเกิดอาการระคายเคือง ซ่ึงอาการดงั กล่าวสามารถป้ องกนั ไดด้ ว้ ยการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ เวชสาอาง ผวิ ประเภทน้ีตอ้ งการการทาความสะอาดอยา่ งอ่อนโยนและการดูแลอยา่ งใส่ใจ สม่าเสมอเพือ่ ชดเชยการสูญเสียน้ามนั และความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ ผวิ มัน เนื่องจากผวิ มนั ผลิตไขมนั ท่ีบริเวณผวิ หนงั ออกมามากเกินไป ผวิ มนั จึงมีสารคดั หลงั่ ที่ เป็นไขมนั จานวนมาก ส่งผลใหผ้ วิ ดูมนั รูขมุ ขนเปิ ดกวา้ ง และมีแนวโนม้ ท่ีจะเกิดรอยดาและสิว ผวิ ประเภทน้ีตอ้ งการการทาความสะอาดที่หมดจดแต่ออ่ นโยน ผลิตภณั ฑเ์ วชสาอางสามารถลด รอยด่างดาและสิวลงได้ ส่วนครีมท่ีมีน้ามนั เป็นส่วนผสมมากไม่เหมาะสาหรับผวิ ประเภทน้ี ผวิ ผสม ใบหนา้ เป็นเพยี งบริเวณเดียวของร่างกายที่มีผวิ ผสม กล่าวคือบางบริเวณผวิ จะแหง้ ในขณะที่บริเวณอ่ืนๆ จะมีผวิ ธรรมดาหรือผวิ มนั ลกั ษณะบ่งช้ีโดยทว่ั ไปของผวิ ผสมคือผวิ บริเวณ “ทีโซน” (หนา้ ผาก จมกู และคาง) จะมีความมนั มากกวา่ ปกติ ส่วนผวิ บริเวณดวงตา และ แกม้ ผวิ จะแหง้ (2562,ออนไลน์ https://sebamedthai.com/skin-type/ เมื่อ 26/09/63) ผวิ ธรรมดา เป็นผวิ ที่ช่างโชคดีที่สุดเลย ผวิ ไม่แหง้ และไม่มนั เกินไป มีความสมดุลและไม่คอ่ ย เจอปัญหาใดๆ ลกั ษณะของธรรมดา  ผวิ สมดุล ไม่มนั ไม่แหง้ จนเกินไป  ผิวเนียนละเอียด ผวิ แห้ง ผวิ แหง้ เป็นผวิ ที่มีการผลิตน้ามนั นอ้ บกวา่ ผวิ แบบอื่น ทาใหม้ ีโอกาสท่ีผวิ จะเกิดริ้วรอย และอาการแดง แสบคนั ไดง้ ่ายเมือเจอแดด ลกั ษณะของผวิ แหง้  ผวิ ขาดความชุ่มช้ืน  ผวิ แหง้ ตึง มีอาการคนั  รูขมุ ขนละเอียด  ผวิ มีริ้วรอยง่าย

ผวิ มนั ใครที่หนา้ มนั ตลอดเวลา เพ่ิงลา้ งหนา้ ออกมาใหม่ๆกเ็ ริ่มเยมิ้ อีกแลว้ คุณคือสาวผวิ มนั ถึงแมผ้ วิ น้ีจะไม่เขา้ กบั อากาศบา้ นเรา แต่กม็ ีขอ้ ดีที่ผวิ มนั จะมีโอกาสเป็นริ้วรอยไดช้ า้ กวา่ เพ่อื น ลกั ษณะของผวิ มนั  - ใบหนา้ มนั ตลอดเวลา  - รูขมุ ขนกวา้ ง  - เป็นสิวอุดตนั ไดง้ ่าย ผวิ ผสมเป็นผวิ ที่อยรู่ ะหวา่ งสองสภาพผวิ ในแต่ละส่วนของใบหน่าจะมีสภาพผวิ ไม่เหมือนกนั บางจุดอาจแหง้ บางจุดอาจมนั ลกั ษณะของผวิ ผสม  มีผวิ มนั บริเวณ T-Zone คาง จมกู และหนา้ ผาก  มีผวิ แหง้ ท่ีบริเวณหนา้ แกม้ (2560,ออนไลน์ https://www.theconcert.com/news/beauty/607 เมื่อ26/09/63) จาก สภาพผวิ ดงั กล่าว สรุปไดว้ า่ ประเภทของสภาพผวิ ของมนุษยเ์ ราน้นั มีลกั ษณะแตกต่างกนั ออกไป เช่น ผวิ ธรรมดา ผวิ แหง้ ผวิ มนั และผวิ ผสม เป็นตน้ ซ่ึงการเลือกใชส้ บู่ท่ีถกู ตอ้ งและ เหมาะสมกบั ผวิ ทาใหผ้ วิ ของเราแลดูสุขภาพดีและไม่หมองคล้าอีกดว้ ย สรรพคุณของดอกอญั ชนั  ช่วยเสริมสร้างภูมิตา้ นทานใหร้ ่างกายและเพมิ่ พลงั ทาใหร้ ่างกายมีแรงข้ึน  สารตา้ นอนุมลู อิสระในดอกอญั ชนั ช่วยในการชะลอวยั และริ้วรอยแห่งวยั  ช่วยบารุงสมอง  ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหวั ใจและภาวะหลอดเลือดหวั ใจอุดตนั  ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง  ช่วยลดระดบั น้าตาลในเลือดในผปู้ ่ วยโรคเบาหวาน  ช่วยลา้ งสารพิษและขบั ของเสียออกจากร่างกาย

 แกอ้ าการปัสสาวะพิการ  แกอ้ าการฟกช้า  ช่วยป้ องกนั และบรรเทาอาการเหน็บชาตามนิ้วมือนิ้วเทา้ (2563,ออนไลน์ https://health.kapook.com/view98995.html เม่ือ25/09/2563)  มีสรรพคุณท่ีเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั เพราะมีสารท่ีชื่อวา่ \"แอนโทไซยานิน\" (Anthocyanin) ซ่ึงมีหนา้ ที่ไปช่วยกระตุน้ การไหลเวยี นของโลหิต ทาใหเ้ ลือดไป เล้ียงส่วนต่าง ๆ ไดด้ ีมากข้ึน เช่น ไปเล้ียงบริเวณรากผม ซ่ึงช่วยทาใหผ้ มดกดา เงางาม หรือไปเล้ียงบริเวณดวงตาจึงช่วยบารุงสายตาไปดว้ ยในตวั หรือไปเล้ียง บริเวณปลายนิ้วมือ ซ่ึงกจ็ ะช่วยแกอ้ าการเหน็บชาไดด้ ว้ ย และท่ีสาคญั สารน้ียงั มี ความโดดเด่นที่ใครหลาย ๆ คนยงั ไม่ทราบ นน่ั กค็ ือช่วยลดความเสี่ยงของการ เกิดเส้นเลือดอุดตนั ได้ และการ \"กินดอกอญั ชนั ทุกวนั ...วนั ละหน่ึงดอก\" จะช่วย ป้ องกนั โรคเส้นเลือดสมองตีบไดอ้ ีกดว้ ย (2560,ออนไลน์ https://medthai.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B 1%E0%B8%99/ เมื่อ25/09/2563)  สรรพคุณดอกอญั ชันอนั ดอกอญั ชนั มีคุณสมบตั ิในการเป็นสารตา้ นอนุมูลอิสระ โดยในดอกอญั ชันน้ันมสี ารตวั หน่งึ ทชี่ ื่อว่าแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่ง สารชนิดนีส้ ามารถช่วยเพมิ่ ประสิทธิภาพการทางานของดวงตา เพ่ิม ความสามารถในการมองเห็น แกอ้ าการตาฟาง ตามวั หรือภาวะการเส่ือมของ ดวงตาท่ีมาจากโรคเบาหวาน โรคตอ้ หิน โรคตอ้ กระจก และมีหนา้ ที่ไปช่วย กระตุน้ การไหลเวยี นของโลหิต ทาใหเ้ ลือดไปเล้ียงส่วนต่าง ๆ ไดด้ ีมากข้ึน แถม ยงั มีฤทธ์ิตา้ นการออกซิเดชนั่ ของไขมนั ชะลอการเกิดโรคท่ีเกิดจาก คอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) อดุ ตนั ในหลอดเลือด และโรคหลอดเลือด หวั ใจแขง็ ตวั อีกดว้ ย และคุณสมบตั ิที่สาคญั อีกอยา่ งหน่ึงกค็ ือ ดอกอญั ชนั น้นั ยงั

ช่วยยบั ย้งั การรวมตวั ของเกลด็ เลือด ช่วยขบั ปัสสาวะ และช่วยผอ่ นคลาย กลา้ มเน้ือ (2560,ออนไลน์ https://sites.google.com/site/srrphkhundxkxaychanchaxaychan/laksna-dxk- xaychan เม่ือ25/09/2563) จาก สรรพคุรดอกอญั ชนั ดงั กล่าว สรุปไดว้ า่ ในดอกอญั ชนั มีสาร\"แอนโทไซยานิน\" ท่ี ช่วยในการไหลเวยี นโลหิต ช่วยในการชะลอการเกิดโลกจากคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีชะลอวยั และริ้วรอยแห่งวยั สารท่ีเป็ นส่วนผสมของการทาสบู่ สารเคมีท่ีใชท้ าสบู่ 1. ไขมนั /น้ามนั เป็นวตั ถุดิบสบู่ผวิ ขาวสาคญั ในการผลิตสารต้งั ตน้ สบู่ ไขมนั หรือน้ามนั ที่ใชอ้ าจ ไดจ้ ากพืช เช่น น้ามนั มะพร้าว น้ามนั มะกอก น้ามนั ปาลม์ เป็นตน้ ส่วนไขมนั ที่ไดส้ บู่ผวิ ขาวจาก สตั ว์ เช่น ไขมนั โค กระบือ แกะ แพะ เป็นตน้ คุณภาพของน้ามนั ท่ีไดจ้ ากพืช และสบ่ผู วิ ขาวสตั ว์ จะมีผลต่อคุณภาพของสบู่ เกลด็ สบู่ (soap)ท่ีไดจ้ ากน้ามนั พืชจะใหล้ กั ษณะขาวเนียน และกสบู่ ผวิ ขาวลีเซอรีนจะคอ่ นขา้ งใสกวา่ น้ามนั จากสตั ว์ นอกจาน้นั เกลด็ สบู่ (soap) ท่ีไดจ้ ากน้ามนั จาก พชื จะมีกลิ่นหืนนอ้ ยกวา่ น้ามนั จากสตั ว์ อีกท้งั น้ามนั จากพชื ยงั เป็นวตั ถุดิบที่หาง่าย และราคาถกู กวา่ 2. ด่างเขม้ ขน้ เป็นสารเคมีสาคญั ท่ีใชส้ บ่ผู วิ ขาวทาปฏิกิริยากบั ไขมนั ธรรมชาติ ด่างเขม้ ขน้ ท่ีนิยม ใช้ คือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ ซ่ึงจะไดเ้ น้ือสบ่สู ีขาวทึบ เน้ือกอ้ นแขง็ ใหฟ้ องมาก นิยมนามาทา สบู่กอ้ นทึบ และอีกชนิดหน่ึง คือ โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ ซ่ึงจะไดส้ บ่ใู นลกั ษณะเดียวกนั แต่ เน้ือสบู่มีความอ่อนตวั ไดด้ ีกวา่ นิยมนามาทาสบ่เู หลว 3. สารเติมแต่ง เป็นสารเคมีสาหรับปรับปรุงคุณสบ่ผู วิ ขาวสมบตั ิของสบู่ เช่น สี น้าหอม สมุนไพร สารป้ องกนั ความช้ืน สารลดความเป็นด่าง สารลดแรงตึงผวิ สารทาใหฟ้ องคงตวั สาร เพิม่ ความแขง็ สารป้ องกนั การออกซิเดชนั สารบารุงผวิ สารฆ่าเช้ือ เป็นตน้ เป็นสารเติมแต่งท่ี นิยมผสมในสบ่เู พือ่ ใหม้ ีคุณสมบตั ิเหมาะแก่การใชป้ ระโยชนใ์ นแต่ละอยา่ ง (2559,ออนไลน์

https://www.tambrand.com/article/48/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8% B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AA% E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B9%88- %E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7- %E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0 %B8%A7 เมื่อ 21/09/2563) การ ผลิตสบู่ อยา่ งแรกเลยกค็ ือ ไขมนั หรือน้ามนั ที่อาจทามาจากสตั วห์ รือพืชกไ็ ด้ กรดไขมนั น่ี แหละจะทาปฏิกิริยากบั สารอื่นในรูปกลีเซอไรด์ เม่ือนาด่างผสมและทาปฏิกิริยากบั กรดไขมนั จะหลุดออกมาจากกลีเซอไรดแ์ ละรวมตวั เป็นสบู่ ซ่ึงน้ามนั แต่ละชนิดกใ็ หค้ ุณสมบตั ิของสบ่ทู ี่ แตกต่างกนั เช่น หากเป็นกรดลอริกท่ีมีมากในน้ามนั มะพร้าว เมื่อกรดไขมนั ทาปฏิกิริยากนั จะทา ใหส้ บู่เกิดฟองมากกวา่ น้ามนั ชนิดอ่ืน หากเป็นไขมนั ท่ีทามาจากไขมนั ววั สบ่ทู ่ีไดจ้ ะเป็นกอ้ น แขง็ และมีฟองไม่มากนกั (2560,ออนไลน์ https://www.soapvillages.com/content/4321/%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0 %B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8 %9A%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5 %E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0% B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9 9%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3- %E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0 %B8%B9%E0%B9%88 เมื่อ 21/09/2563) ส่ วนประกอบของสบู่  เกลือโซเดียมของกรดไขมนั ( Sodium Salt of Fatty Acids )  กลีเซอรอล (Glycerol) ( ท่ีเหลืออยใู่ นเน้ือสบู่ หลงั จากกระบวนการผลิต )  โซเดียมคลอไรด์ (Sodium chloride) หรือ เกลือแกง ( ที่เหลืออยใู่ นเน้ือสบู่ หลงั จาก กระบวนการผลิต )

 ส่วนประกอบ / สารปรับปรุงคุณสมบตั ิ อื่นๆ ( Other Ingredients / Additives )  สารรักษาสภาพความช้ืนของกอ้ นสบู่ ( Humectants ) เช่น กลีเซอรอล (Glycerol)  สารช่วยจบั แคลเซียมและแมกนีเซียมในน้ากระดา้ ง ( เพ่อื ป้ องกนั การเกิด ไคล สบู่ ) เช่น Tetrasodium EDTA , Tetrasodium Etidronate , Disodium EDTA , Disodium Etidronate  สารช่วยใหผ้ วิ นุ่มและไม่แหง้ แตก ( Emollient ) เช่น กลีเซอรอล (Glycerol) , Jojoba Oil , Shea Butter Oil  กรดไขมนั ( Fatty Acids ) เช่น Palmitic Acid  กรดบอริก (Boric Acid)  สารต่อตา้ นแบคทีเรีย ( Antibacterial ) เช่น Trichlorocarbanilide  น้าหอม หรือ สารใหก้ ลิ่นหอม ( Perfume / Fragrance ) (2560,ออนไลนh์ ttps://sites.google.com/site/wiraneewongling/swn-prakxb-khxng-sbu เมื่อ 21/09/2563) จาก สารที่เป็นส่วนประกอบของการทาสบู่ สรุปไดว้ า่ ส่วนใหญ่สารท่ีเป็นส่วนประกอบ คือ กรดไขมนั หรือ น้ามนั ที่อาจทามาจากสตั วห์ รือพชื กไ็ ด้

บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน อุปกรณ์ 1. อญั ชนั ( ไม่จากดั จานวน แลว้ แต่จะหาได้ ) 2. น้าเปล่า 3. โซเดียมไฮดรอกไซดบ์ ริสุทธ์ิ 4. กลีเซอรีน 5. แม่พิมพ์ 6. น้าหอม 7. กระทะ 8. เตา วธิ ีทา สบู่อญั ชนั 1.เตรียมส่วนผสมและอุปกรณ์ให้ 2. ใส่โซเดียมไฮดรอกไซดบ์ ริสุทธ์ิและกลีเซอรีนลงไปในหมอ้ ตม้ คนใหล้ ะลาย

3.ใส่น้าอญั ชนั ลงไป จากน้นั คนใหเ้ ขา้ กนั 4.นาไปใส่ในแม่พมิ พ์ แลว้ นาไปแช่เยน็

แผนการกาหนดเวลาปฏิบตั ิงาน 1.เราตอ้ งหาอปุ กรณ์มาใหพ้ ร้อมก่อนท่ีจะลงมือทา 2.ศึกษาวา่ ข้นั ตอนตอ้ งทาอยา่ งไรบง้ 3.ถามผทู้ ี่เคยทาวา่ ควรทาอยา่ งไรบา้ ง 4.ศึกษาวธิ ีการใชอ้ ปุ กรณ์อยา่ งละเอียด 5.ควรระมดั ระวงั ในการทา

วนั /เดือน/ปี บทท4ี่ 22/08/63 ผลการดาเนินงาน 23/08/60 06/09/63 การดาเนินงาน 07/09/63 ศึกษาหาขอ้ มูลและสรรพคุณของดอกอญั ชนั 19/09/63 ศึกษาหาขอ้ มูลและสรรพคุณของกลีเซอรีนและประสิทธิภาพของสบู่ 19/09/63 ศึกษาหาขอ้ มูลสารท่ีเป็นส่วนผสมของสบู่ 20/09/63 ศึกษาหาขอ้ มลู โซเดียมไฮดรอกไซดบ์ ริสุทธ์ิและสถาพผวิ หาซ้ืออุปกรณ์ทาสบู่ ลงมือทาสบู่ ตรวจสอบและทดลองใชส้ บู่ บูรณการSTEM Sการหาความรู้ต่างๆท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การทาสบู่ดอกอญั ชนั Tการใชอ้ ปุ กรณ์ในการออกแบบสบ่อู ยา่ งสร้างสรรค์ Eคือการออกแบบรูปแบบของสบู่ Mคือการคานวณปริมาณของกรีเซอรีนและโซเดียมไฮดรอกไซดบ์ ริสุทธ์ิ การคิดอตั ราส่วนใน การใส่วตั ถุดิบต่างๆในการทาสบู่

บทท5่ี สรุปผลการดาเนินงาน ผลการดาเนินงาน จากการทาโครงงานสบู่อญั ชนั สรุปไดว้ า่ สบู่ที่ทาข้ึนเองสามารถนาไปใชไ้ ดจ้ ริงรู้สึกสบายใจได้ เนื่องจากผลิตเองจึงปลอดสารเตมีเน่ืองจากส่วนผสมที่นามาใชค้ ือกลีเซอรีนเป็นสารต้งั ตนั ของ สบ่แู ละดอกอญั ชนั ท่ีหาไดง้ ่ายๆตามขมุ ชนใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด ไดส้ บู่ที่มีคุณภาพมาใชแ้ ละ เพม่ิ มูลค่าต่อยอดไปเป็นการขายได้ ขอ้ เสนอแนะ -ควรระมดั ระวงั ในการทางานทุกข้นั ตอน -ควรจดั ทารูปแบบของสบู่ใหห้ ลากหลายและน่าสนใจ

เอกสารอ้างองิ เอกสารประเภทเวบ็ ไซต์ เขา้ ถึงไดจ้ าก https://favforward.com/trend/18133.html วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มูล 24 สิงหาคม 2563 เขา้ ถึงไดจ้ าก https://shopee.co.th/blog/how-make-own-soap/ วนั ที่สืบคน้ ขอ้ มลู 24 สิงหาคม 2563 เขา้ ถึงไดจ้ าก https://www.dek-d.com/board/view/3586622/ วนั ที่สืบคน้ ขอ้ มูล 24 สิงหาคม 2563 เขา้ ถึงไดจ้ าก http://saharat23112544.blogspot.com/2016/06/ วนั ท่ีสืบคน้ ขอ้ มลู 31 สิงหาคม 2563