Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 6 เรื่อง การแยกสาร - ซูไบด๊ะ แซะเด็ง

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 6 เรื่อง การแยกสาร - ซูไบด๊ะ แซะเด็ง

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2022-02-14 00:51:41

Description: แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 6 เรื่อง การแยกสาร - ซูไบด๊ะ แซะเด็ง

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตรพ์ นื้ ฐาน 4 รหสั วิชา ว22102 เร่ือง การนำวิธกี ารแยกสารไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 เวลาเรยี น 2 คาบ ครผู สู้ อน นางซูไบดะ๊ แซะเด็ง โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวัดยะลา สพม.ยะลา มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตวั ช้ีวดั ม.2/1 อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอย่างง่าย โครมาโทกราฟี แบบกระดาษ การสกดั ด้วยตวั ทำละลาย โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจกั ษ์ ม.2/2 แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกัดด้วยตวั ทำละลาย ม.2/3 นำวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ สาระสำคัญ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการแยกสาร บูรณาการกับคณิตศาสตร์ เทคโนโลยี โดยใช้ กระบวนการทางวิศวกรรม สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันหรือปัญหาที่พบในชุมชนหรือสร้าง นวัตกรรม จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรูค้ วามสามารถ K 3 การนำไปใช้ : นำวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยเชื่อมโยงความรู้ ดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี และกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม ด้านทักษะกระบวนการ P 2 การปฏิบัติงาน : ปฏิบัติกิจกรรมนำวิธีการแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อยา่ งรวมพลงั ด้วยความม่งุ มัน่ และต้งั ใจได้

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน กระบวนการจัดการเรยี นรู้ การเตรยี มตวั ลว่ งหนา้ สำหรบั ครู (ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นเตรียมพชื ท่ีหาได้งา่ ยในทอ้ งถิ่นให้เพียงพอสำหรับการทดลอง โดยกำหนดให้ แตล่ ะกลุ่มใช้ประมาณ 10 กรมั เท่ากนั และควรเตรยี มมดี สำหรบั ตดั เป็นชิน้ เลก็ ๆกอ่ นนำไปสกัดสาร) 1. ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement) เวลา 10 นาที (การจำแนกประเภท) 1.1 ครูทบทวนความร้เู ดิมของนกั เรยี นเรื่องการแยกสารด้วยวธิ ตี ่างๆโดยสรปุ ได้ดังนี้ - การระเหยแห้งเป็นวธิ ีแยกสารผสมเนื้อเดยี วท่ีเป็นของแข็งออกจากของเหลว - การตกผลึกเป็นวิธีทำให้ของแข็งที่เป็นตัวละลายแยกออกจากสารละลายอ่ิมตัว เม่ือ สารละลายอ่ิมตัวมีอุณหภมู ิลดลง - การกลั่นอย่างง่ายเป็นวิธีแยกของเหลวออกจากสารละลาย ซ่ึงมีตัวละลายที่จุดเดือดสูง กว่าตวั ทำละลายมาก - การทำโครมาโทกราฟีเป็นวิธีแยกองค์ประกอบของสารเน้ือเดียวท่ีมีสีออกจากกัน โดยอาศยั ความสามารถในการละลายและการถกู ดูดซับต่างกัน - การสกัดด้วยตัวทำละลายเป็นวิธีแยกสารท่ีเป็นของเหลวปนกับของเหลว หรือ ของแข็งปนของแข็ง โดยอาศัยสมบัติการละลายของสาร 2. ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration) เวลา 60 นาที (การสำรวจคน้ หา) 2.1 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์สถานการณ์ กิจกรรมท่ี 6.5 นำวิธีการแยกสารไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร เพ่ือระบุปัญหาจากสถานการณ์ และครูให้คำแนะนำในการทำ กิจกรรมให้นักเรียนเข้าใจอีกคร้ัง พร้อมเน้นวิธีการทำกิจกรรมให้เกิดผล และข้อควรระวังในการทำ กจิ กรรม ตลอดจนแนะนำนักเรียนในเร่อื งของความรับผดิ ชอบและความมรี ะเบียบวนิ ัยในการทำงาน 2.2 ให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันระดมความคิด รวบรวมข้อมูลหรือแนวคิดเกี่ยวกับ วธิ ีการแยกสารให้ไดม้ ากท่ีสุดก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการแยกสาร และเสนอแนวคดิ เก่ียวกับวิธกี ารแยกสารใน สถานการณท์ ่ีเป็นไปได้ (ครูควรตรวจสอบก่อนท่ีนักเรยี นจะเร่ิมดำเนนิ การแก้ปัญหา) 3. ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) เวลา 10 นาที (การสรุปลงความเหน็ ) 3.1 ครแู ละนักเรยี นนำผลการศึกษาและการสบื ค้นมาอภปิ รายร่วมกัน โดยสรุปไดว้ ่า - ระบุปญั หา - หาวิธีการผลิตสีจากพืชให้ได้สีท่ีมีความเข้มมากท่ีสุด ปริมาตรอย่างน้อย 20 ลกู บาศก์เซนติเมตร แลว้ ทำใหเ้ ป็นผงเพ่อื ใหจ้ ดั เกบ็ ง่ายและเกบ็ ได้นาน - รวบรวมขอ้ มูล - ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมไดข้ ึน้ อยกู่ บั แตล่ ะกลมุ่ แต่ควรมีข้อมูลมากพอสำหรับการ

ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา ไดแ้ ก่ • การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น การสอบถามคนในชุมชนเกี่ยวกับวิธีการสกัดสีจากพืชน้ัน โครงงานวิทยาศาสตร์ รายงานวจิ ัยเกี่ยวกับการสกัดสีผสมอาหาร สีย้อมจากธรรมชาติในระดับอุตสาหกรรม การแปรรปู การเก็บรกั ษาสที ่สี กัดได้ • ผลการทำกิจกรรมเรอื่ งการสกัดสารดว้ ยตัวทำละลาย การระเหยแหง้ ที่ได้เรียนรู้มาแลว้ • เกณฑ์การประเมินผลการสกัดสีซ่ึงเป็นเกณฑ์ทกี่ ำหนดรว่ มกันและปฏิบัติได้จริง โดยพิจารณาจาก ความเข้มของสีทสี่ กดั ได้ ความยากงา่ ยของวธิ กี ารสกัด และเกณฑอ์ ่นื ๆ 4. ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) เวลา 10 นาที (การนำไปใช)้ 4.1 ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ เกี่ยวกบั การนำวิธีการแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันโดยใช้ สือ่ Power point เรื่อง การนำวิธกี ารแยกสารไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั 4.2 ครูยกตัวอย่างการนำวิธีการแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันประโยชน์ เช่น การทำนาเกลือ การกลัน่ นำ้ มนั ดิบ เปน็ ต้น 5. ข้ันประเมิน(Evaluation) เวลา 10 นาที 5.1 ประเมินจากการทำใบงานท่ี 6 เรื่องการนำวิธีการแยกสารไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ิตประจำวัน การวัดและประเมนิ ผล 1) วธิ ีการวดั และประเมินผล 1. ประเมินจากการทำใบงานท่ี 6 เรอื่ งการนำวธิ กี ารแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวัน 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบุคคล 2) เคร่ืองมือวัดและประเมิน 1. ใบงานท่ี 6 เรื่องการนำวธิ กี ารแยกสารไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวนั 2. แบบประเมนิ กระบวนการกลุ่ม 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบคุ คล 3) เกณฑก์ ารวัดและประเมิน 1. ใบงานท่ี 6 เรอื่ งการนำวธิ กี ารแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 50 2. แบบประเมินการทำงานกลุม่ พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 24-30 3 = ดี 17-23 2 = พอใช้ 10-16 1 = ปรบั ปรุง 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบุคคล พฤติกรรมท่ีปฏิบัตสิ มำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมที่ไม่ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 15-20 3 = ดี 10-14 2 = พอใช้ 5-9 1 = ปรับปรุง วสั ดุ อุปกรณ์ และสารเคมี 10. บีกเกอรข์ นาด 100 cm3 1. พืชทต่ี ้องการสกัดสี 11. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 2. น้ำ 12. โกรง่ บด 3. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 13. ถว้ ยกระเบือ้ ง 4. หลอดทดลองขนาดเลก็ 14. ทว่ี างหลอดทดลอง 5. จุกยางเบอร์ 10 15. แทง่ แก้วคน 6. หลอดหยด 16. กระดาษกรอง 7. กรวยกรอง 17. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อมทกี่ ้นั ลม 8. ตะแกรงร่อนชนดิ ละเอียด 9. กรรไกร สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. ใบความร้ทู ี่ 1 เรอ่ื งการแยกสารด้วยวิธีการตา่ งๆ 2. สอื่ Power point เรือ่ งการนำวธิ ีการแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั 3. ห้องสมดุ โรงเรียนและหอ้ งสมุดหมวดวิชา 4. เว็บไซตต์ า่ งๆ ได้แก่

https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 http://edltv.thai.net/index.php?mod=Courses&file=showcontent&cid=17& sid=104&lid=210802&lid_parent=210827

บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ นักเรยี นสามารถนำวิธีการแยกสารไปใชแ้ ก้ปัญหาในชีวติ ประจำวนั โดยเช่ือมโยงความรดู้ ้าน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมได้อย่างดี ผลการทดลองท่ีได้ เป็นท่นี า่ พอใจ 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ นกั เรยี นส่วนใหญม่ คี วามสามารถในศึกษาและวิเคราะหป์ ญั หาไดด้ ี จากกจิ กรรมน้ีฝึกให้นักเรยี นมี ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ออกแบบการแก้ปัญหาและลงขอ้ สรุปได้ 3. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรยี นมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน ต้งั ใจทำกิจกรรมทไี่ ดร้ บั มอบหมายเพ่ือให้ได้ขอ้ สรปุ และมีการทำงานกลมุ่ อย่างเป็นระบบ 4. ปญั หาอุปสรรค นักเรยี นบางคนยังขาดทักษะการออกแบบการทดลองเพื่อแก้ปัญหา และขาดความชำนาญในการใช้ อุปกรณ์การทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ 5. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ครูและนักเรียนช่วยกนั วิเคราะหป์ ัญหาจากกจิ กรรม เพื่อเสริมแรงให้นกั เรียนมีความสนใจและ วเิ คราะหป์ ญั หาไดอ้ ย่างครบถ้วน นกั เรียนจะมีความสนใจในกจิ กรรมเมื่อได้ลงมือทดลองและเลอื กใช้ อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ลงช่ือ……………………………………………….. ( นางซูไบดะ๊ แซะเด็ง ) ครูผสู้ อน วันท่ี 25 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .……………………………………………….. (………………………………………………..) ตำแหน่ง .................................................. ................../............................./...................

แบบประเมนิ การทางานกล่มุ กลุม่ ที่ .................................... ชั้น ....................... สมาชกิ ภายในกล่มุ 1. ...........................................................2............................................................ 3..............................................................4.......................................... .................. 5..............................................................6......................................................... ... คำชี้แจง ให้ทำเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องที่ตรงกบั ความเป็นจรงิ ลำดับท่ี รายการพฤติกรรม คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิ 321 1 มีการปรกึ ษาและวางแผนรว่ มกันก่อนทำงาน 2 มกี ารแบง่ หนา้ ทอี่ ยา่ งเหมาะสมและทำตามหน้าที่ทุกคน 3 มีการปฏิบัติงานตามขั้นตอน 4 มีการให้ความชว่ ยเหลือกนั 5 สามารถทำงานไดส้ ำเร็จตามวตั ถปุ ระสงค์ทก่ี ำหนด 6 ทำงานเสร็จทนั ตามกำหนดเวลา 7 มีความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ 8 สามารถนำความรูท้ ่ไี ดม้ าประยกุ ต์ใช้ 9 สามารถใหค้ ำแนะนำกลุ่มอื่นได้ 10 เก็บวสั ดุ อปุ กรณเ์ รียบรอ้ ย หลงั เลิกปฏบิ ัติงาน ลงชือ่ ............................................ ผ้ปู ระเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ............/................/.............. พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน 3 = ดี 24-30 2 = พอใช้ 17-23 1 = ปรบั ปรงุ 10-16

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานของนกั เรียน (รายบุคคล) ชื่อ .......................................................................................... เลขที่ ....................... ชั้น....................... คำช้ีแจง ใหท้ ำเครื่องหมาย ✓ ในช่องทีต่ รงกบั ความเปน็ จรงิ ลำดบั ท่ี รายการพฤตกิ รรม ระดับพฤติกรรม สมำ่ เสมอ บอ่ ยครงั้ บางคร้งั ไมป่ ฏบิ ัติ 3 21 0 1 มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น 2 รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของเพอ่ื นในกล่มุ 3 ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือซึ่งกนั และกัน กับเพ่อื นในกลมุ่ 4 ตั้งใจทำงาน/กระตอื รือรน้ ในการทำงาน 5 มคี วามรับผิดชอบในงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ลงช่ือ ............................................ ผูป้ ระเมิน ช่วงคะแนน ............/................/.............. 15-20 10-14 ระดับคณุ ภาพ 5-9 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรงุ

1 ใบงานท่ี 6 เรอื่ ง การนำวิธีการแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ชอื่ ...................................................นามสกลุ ...........................................เลขที.่ ...........ชั้น............ จดุ ประสงค์การทำกิจกรรม นำวธิ กี ารแยกสารไปใช้แกป้ ัญหาในชีวิตประจำวันโดยเช่อื มโยงความรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี และกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม วสั ดุและอุปกรณ์ 1. พืชทตี่ ้องการสกัดสี 10. บีกเกอร์ขนาด 100 cm3 2. นำ้ 11. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 3. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 12. โกร่งบด 4. หลอดทดลองขนาดเล็ก 13. ถ้วยกระเบอื้ ง 5. จุกยางเบอร์ 10 14. ท่วี างหลอดทดลอง 6. หลอดหยด 15. แท่งแกว้ คน 7. กรวยกรอง 16. กระดาษกรอง 8. ตะแกรงรอ่ นชนดิ ละเอยี ด 17. ตะเกยี งแอลกอฮอล์พร้อมท่กี ัน้ ลม 9. กรรไกร ระบุปัญหาจากสถานการณ์ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ออกแบบวธิ แี กป้ ัญหา ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................... ............................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ดำเนินการแก้ปญั หา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................ ........................

2 ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ เกณฑก์ ารประเมินผลการสกดั สี ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................... ................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรุปผลการทำกิจกรรม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………