Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาอังกฤษ3-ม.5 - คอฟเสาะ บาเน็ง

ภาษาอังกฤษ3-ม.5 - คอฟเสาะ บาเน็ง

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2022-01-25 08:58:46

Description: ภาษาอังกฤษ3-ม.5 - คอฟเสาะ บาเน็ง

Search

Read the Text Version

คำอธิบายรายวิชา รายวชิ าภาษาอังกฤษ 4 รหัสวิชา อ321012 กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ 40 ช่วั โมง/ภาคเรียน 1.0 หนว่ ยกิต ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 2 ช่ังโมง/สัปดาห์ คำอธิบายรายวิชา เข้าใจนำ้ เสียง ความรู้สกึ ของผู้พูด คำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ความแตกต่างด้านภาษาและวฒั นธรรมของ เจ้าของภาษาและของไทย อ่านออกเสียงบทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน จับใจความสำคัญ สรุปความ เร่ืองที่ เป็นสารคดีและบันเทิงคดี ส่ือท่ีเป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆ ในหัวข้อเก่ียวกับตนเอง โรงเรียน สิง่ แวดล้อม สุขภาพและสวัสดกิ าร อาหาร เคร่ืองด่มื เวลาวา่ งและนันทนาการ การซื้อ-ขาย ลมฟา้ อากาศ การเดนิ ทางท่องเท่ียว สถานที่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคม แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความคิดเห็น ความต้องการ ความรู้สึก อธิบาย บรรยาย ค้นคว้า นำเสนอข้อมูลเก่ียวกับตนเอง กิจกรรม ประสบการณ์ เหตุการณ์ และเผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ข้อมลู ขา่ วสารของโรงเรยี นและท้องถิน่ ประเทศชาติด้วยการพดู และเขียน ตระหนักในคุณค่าของภาษาและวัฒนธรรมที่เรียน ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน และนำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษามาประยุกต์ในการพัฒนาตนเอง ชมุ ชน และสงั คม ตวั ชี้วดั ต.1.1 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ต.1.2 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.5/5 ต.1.3 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ต.2.1 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ต.2.2 ม.5/1 ม.5/2 ต.3.1 ม.5/1 ต.4.1 ม.5/1 ต.4.2 ม.5/1 ม.5/2 รวม 21 ตัวชี้วัด

รายวชิ าภาษาอังกฤษ 4 โครงสรา้ งรายวิชา รหัสวิชา อ32102 ภาคเรียนท่ี 2 2 ช่ังโมง/สัปดาห์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 สาระสำคญั 1.0 หน่วยกติ 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น เวลา นำ้ หนกั ที่ หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ ช่ัวโมง คะแนน เรยี นรู้ 5 Mind and มฐ ต 1.1 ม.5/1 ม.5/2 การอ่านบทความเก่ยี วกบั การบำบดั 10 10 Body ม.5/4 ความเครยี ด พูดถามตอบเกย่ี วกบั ปญั หา 10 15 มฐ ต 1.2 ม.5/4 ม.5/5 สขุ ภาพ และการให้คำแนะนำฟังบทสนทนา - 20 10 10 มฐ ต 2.1 ม.5/1 แสดงความคิดเหน็ ทางวิทยุ เขียนเรียงความ มฐ ต 2.2 ม.5/1 ม.5/2 เก่ียวกับประสบการณ์ของตนเอง มฐ ต 4.1 ม.5/1 เขียนประโยคโดยใชค้ ำศัพท์และสำนวนดว้ ย มฐ ต 4.2 ม.5/1 ม.5/2 โครงสร้างทางภาษาทกี่ ำหนด เปน็ การฝึก ทักษะทางภาษา นอกจากนี้การอา่ นเร่ืองที่ เก่ียวกับการดูแลสุขภาพ ทำให้นกั เรียน สามารถนำความรู้ไปดูแล ทั้งจติ ใจและ รา่ งกายของตนได้อยา่ งดี 6 The Secrets มฐ ต 1.1 ม. 5/1-4 การอ่านบทความเก่ียวกับความสำเร็จด้าน of Success! มฐ ต 1.2 ม. 5/1,3,4-5 กีฬา พูดถามตอบเกี่ยวกับ achievements มฐ ต 1.3 ม. 5/1-2 and results ฟังบทสัมภาษณ์นักกีฬาพิการ มฐ ต 2.2 ม. 5/1 และเขียน factual paragraph เกี่ยวกับข้อดี มฐ ต 3.1 ม. 5/1 ของกีฬา นอกจากเป็นการฝึกทักษะทางการ มฐ ต 4.1 ม. 5/1 เรียนภาษาอังกฤษแล้ว ยังช่วยให้นักเรียนได้ ข้อคิดท่ีดีว่าการจะทำส่ิงใดให้สำเร็จเราต้องมี ความเพียรพยายาม ฝึกฝน และอดทน แล้ว จึงจะประสบความสำเรจ็ สอบกลางภาค 7 Freedom มฐ ต 1.1 ม. 5/1-4 การอา่ นบทความเก่ียวกับ A special school มฐ ต 1.2 ม. 5/1,2 พูดถามตอบเก่ียวกับ tasks and duties, มฐ ต 2.1 ม. 5/1 complaining มฐ ต 3.1 ม. 5/1 and excuses ฟั งบ ท สัม ภ าษ ณ์ เกี่ ยวกั บ มฐ ต 4.1 ม. 5/1 school rules และ poem เขียนเรียงความ เล่าถึงประสบการณ์ในการสอบของตนเอง ชว่ ยพัฒนาใหน้ ักเรียนเกิดทกั ษะในการส่ือสาร

ท่ี หนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก เรยี นรู้ ชว่ั โมง คะแนน 8 Relationship มฐ ต 1.1 ม. 5/1-4 แล้วยังช่วยให้นักเรียนเข้าใจเร่ืองที่เรียนง่าย 10 15 s มฐ ต 1.2 ม. 5/1,4,5 ขึ้น เพราะเป็นเร่ืองใกล้ตัวนักเรียน และทำให้ - 30 มฐ ต 1.3 ม. 5/1,3 นักเรียนได้นำประสบการณ์จริงของตนมา มฐ ต 2.1 ม. 5/2 แลกเปล่ียนการเรยี นรูซ้ ่งึ กนั และกันอีกด้วย มฐ ต 2.2 ม. 5/2 การอ่านข้อความขอคำแนะนำและการให้ มฐ ต 3.1 ม. 5/1 คำแนะนำ พูดบรรยายเร่ืองจากภาพ ฟังบท มฐ ต 4.1 ม. 5/1 สนทนาเก่ียวกับ horoscope และปัญหาของ วัยรุ่น เขียนจดหมายให้คำแนะนำเป็นการฝึก ทักษะที่สำคัญทางภาษาเพื่อการส่ือสาร และ นั ก เรีย น ส าม ารถ น ำค ว าม รู้ท่ี ได้ รับ ไป ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้อกี ดว้ ย สอบปลายภาค รวมตลอดภาคเรยี น 40 100

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหัสวชิ า อ 32102 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 Mind and Body ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลาเรียน 2 ชั่วโมง เร่ือง Music Therapy ครผู ู้สอน นางสาวคอฟเสาะ บาเนง็ โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา สพม.15 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอื่ งท่ีฟังและอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมี เหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ 2. ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.5/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟัง และอ่านเรอื่ งทีเ่ ปน็ สารคดีและบนั เทงิ คดี พรอ้ มทั้งให้เหตผุ ล และยกตัวอย่างประกอบ ต 1.2 ม.5/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเร่อื งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ ประเดน็ ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเน่ืองและเหมาะสม ต 1.2 ม.5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกย่ี วกบั เรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณท์ ี่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม 3. จดุ เนน้ (สพฐ., สพม. , โรงเรียน/อัตลักษณ์) 1 แสวงหาความรเู้ พื่อการแก้ปญั หา 2. การใช้เทคโนโลยเี พ่ือการเรียนรู้ 3. ทักษะการคิดขั้นสูง 4. การสอ่ื สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามช่วงวยั อัตลกั ษณ์โรงเรียน เลิศปัญญา เป็นผนู้ ำ สร้างสรรค์สงั คม 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด 4.1 การออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคำศัพทเ์ รื่อง Music therapy ได้ 5. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 5.1 ออกเสียง สะกด บอกความหมายของคำศัพท์เร่ือง Music therapy ได้ 6. สาระการเรยี นรู้ที่ 1 (K) 6.1 ด้านความรู้ความสามารถ (K) 1. คำศัพท์เรอ่ื ง Music therapy

6.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ทักษะฟัง 2. ทกั ษะการพดู 3. ทกั ษะการอา่ น 6.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 3. ความมีวนิ ยั 4. ความใฝเ่ รยี นรู้ 5. มจี ิตสาธารณะ 6. มีความมงุ่ ม่ันในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั (5 ดา้ น) 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการในการใชช้ ีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. บูรณาการ  ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซยี น  ทอ้ งถิน่ 9. หลกั ฐานการจดั การเรยี นรู้ (ช้นิ งาน/ภาระงาน) 1. คะแนนจากการทำกิจกรรม 2. การทำแบบฝึกหดั ในใบงาน 10. กิจกรรมการจดั การเรยี นการสอน ชัว่ โมงที่ 1 ข้นั ที่ 1 ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น (Warm up) 1. นกั เรยี นช่วยกนั ตอบคำถาม “What are the words that related to the MUSIC THERAPY ? คำตอบทีไ่ ด้ เชน่ therapy, strengthen, etc. ขัน้ ที่ 2 ขน้ั นำเสนอ (Presentation) 2. นักเรียนบอกคำศัพท์ให้ตรงกบั คำจำกดั ความที่ครอู ่าน

3. นักเรยี นเล่นเกมส์ทอ่ งคำศพั ท์ 16 คำ จาก Power point ท่ีครูเตรยี มไว้ในตาราง 4x4 โดยให้นักเรียน อ่านเอง 1 รอบ เพอ่ื ดวู า่ นักเรียนไมส่ ามารถอา่ นคำไหนบา้ ง 3. นักเรยี นฟงั ครอู ่าน 1 รอบ และนกั เรยี นอา่ นตามอกี 1 รอบ พร้อมบอกความหมาย ขัน้ ท่ี 3 ขน้ั ฝึก (Practice) 4. นกั เรยี นเริ่มท่องคำศัพท์ โดยครูลบคำในตาราง 1 คำ และให้นักเรียนอ่านตง้ั แต่คำแรกจนถึงคำสุดทา้ ย (อ่านคำทห่ี ายไปดว้ ย) 5. นกั เรียนทอ่ งคำศัพท์รอบที่ 2 โดยครลู บคำในตารางเพม่ิ อกี คำ และให้นักเรยี นอ่านต้งั แต่คำแรกจนถงึ คำสุดท้าย ทำแบบน้ีเรือ่ ย ๆ จนเหลอื คำสุดทา้ ย จะทำให้นักเรียนสามารถจำคำศัพท์ได้และอา่ นได้อยา่ งถูกต้อง 6. สมุ่ นกั เรยี น โดยครชู ี้ไปทีต่ ารางว่างเปล่า แล้วใหน้ กั เรยี นบอกว่าช่องนัน้ ๆคือคำอะไร พรอ้ มบอก ความหมาย ขั้นที่ 4 นำไปใช้ (production) 7. นักเรยี นเลือกคำศัพทค์ นละ 1 คำ และแต่งประโยค ขนั้ ที่ 5 สรุป (wrap-up) 8. นกั เรยี นช่วยกันอ่านคำศพั ทแ์ ละสรุปความหมายพรอ้ มกนั ช่ัวโมงท่ี 2 1. นกั เรียนทกุ คนท่องคำศัพทพ์ ร้อมบอกความหมายจากตารางเกมส์ใน Power point 2. นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดคำศพั ท์ใน Live worksheet 11. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้ 1. PowerPoint นำเสนอคำศพั ท์ 2. ใบงาน Live worksheet 12. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ • ดา้ นความรู้ความสามารถ เครอ่ื งมอื วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมิน -ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 -เกมส์คำศัพท์ -ประเมินผลจากการกิจกรรมกลมุ่ -ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 -ใบงาน -ประเมินผลจากการทำใบงาน

• ด้านทกั ษะกระบวนการ เครอื่ งมอื วธิ กี ารวัด เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคณุ ภาพ -แบบประเมินการอ่าน -อา่ นออกเสียงคำศัพท์และบอกความหมายได้ 3 ดมี าก 2 ดี 1 ต้องปรบั ปรุง • ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เครอ่ื งมือ วิธีการวดั เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ -แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ -สังเกตพฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคลและจากการทำ 3 ดีมาก 2 ดี อนั พึงประสงค์ กจิ กรรม 1 ต้องปรบั ปรงุ

บันทึกหลังสอน วิชาภาษาองั กฤษ 4 ( อ32102 ) กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษต่างประเทศ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5…เร่ือง Vocabulary about Music Therapy…วนั ทส่ี อน……………คาบที่........จำนวน 2..คาบ ผลการจดั การเรียนรู้ ชนั้ ความสามารถ (K) ทกั ษะกระบวนการ (P) คุณลกั ษณะอันพึง ปัญหา/ ข้อเสนอแนะ ประสงค์ (A) อุปสรรค นักเรียนรอ้ ยละ 100 นักเรียนรอ้ ยละ 100 นกั เรียนร้อยละ 100 มี ความใฝ่รู้และมุ่งมั่นใน 5/1 สามารถบอกความหมาย สามารถออกเสียง สะก การเรียน ของคำศัพท์เร่ือง Music คำ คำศัพทเ์ ร่ือง Music นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 มี therapy ได้ therapy ได้ ความใฝ่รแู้ ละมุ่งมั่นใน การเรียน นกั เรียนรอ้ ยละ 100 นักเรียนร้อยละ 100 นักเรียนร้อยละ 80 มี 5/3 สามารถบอกความหมาย สามารถออกเสียง สะก ความใฝ่ร้แู ละมุ่งมัน่ ใน ของคำศัพท์เรื่อง Music คำ คำศัพท์เรื่อง Music การเรียน therapy ได้ therapy ได้ นกั เรียนร้อยละ 80 มี ความใฝร่ แู้ ละมุ่งม่นั ใน 5/5 นักเรยี นรอ้ ยละ 80 สามารถ นกั เรียนร้อยละ 80 การเรียน บอกความหมายของคำศัพท์ สามารถออกเสยี ง สะก เรอื่ ง Music therapy ได้ คำ คำศัพทเ์ ร่ือง Music นักเรียนร้อยละ 50 มี therapy ได้ ความใฝร่ แู้ ละมุ่งม่ันใน การเรียน 5/6 นักเรียนรอ้ ยละ 80 สามารถ นักเรยี นร้อยละ 80 บอกความหมายของคำศัพท์ สามารถออกเสียง สะก เรอ่ื ง Music therapy ได้ คำ คำศัพท์เร่ือง Music therapy ได้ 5/10 นักเรียนรอ้ ยละ 50 สามารถ นักเรียนร้อยละ 50 บอกความหมายของคำศัพท์ สามารถออกเสยี ง สะก เรือ่ ง Music therapy ได้ คำ คำศัพท์เร่ือง Music therapy ได้ ลงชอื่ ………… ……………..ครผู สู้ อน ลงช่ือ…………… …………..หวั หนา้ กลุ่มสาระฯ (นางสาวคอฟเสาะ บาเนง็ ) (นายรสุ ลาน สาแม) ………/………………………./……… ………/………………………./……… ลงชอื่ ………………..…………………… (นางสาวเพริศพศิ คูหามขุ ) รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ ………/……………./………

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วิชา อ 32102 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 Mind and Body ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง เรือ่ ง Music Therapy ครูผ้สู อน นางสาวคอฟเสาะ บาเน็ง โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จังหวดั ยะลา สพม.15 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองที่ฟงั และอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 2. ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.5/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟัง และอ่านเรื่องทเี่ ปน็ สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทงั้ ให้เหตผุ ล และยกตวั อย่างประกอบ ต 1.2 ม.5/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตุการณ์ ประเด็นท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอยา่ งต่อเน่อื งและเหมาะสม ต 1.2 ม.5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกย่ี วกบั เรอ่ื ง/ประเด็น/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ท่ฟี ังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม 3. จดุ เน้น (สพฐ., สพม. , โรงเรียน/อตั ลกั ษณ)์ 1 แสวงหาความรูเ้ พ่ือการแก้ปญั หา 2. การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื การเรยี นรู้ 3. ทกั ษะการคิดขั้นสูง 4. การสอื่ สารอยา่ งสร้างสรรคต์ ามช่วงวัย อัตลักษณ์โรงเรียน เลศิ ปญั ญา เปน็ ผู้นำ สร้างสรรค์สังคม 4. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การอ่านบทความเก่ียวกับการบำบัดความเครียด พดู ถามตอบเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ และการให้คำแนะนำฟัง บทสนทนาแสดงความคิดเห็นทางวิทยุ เขียนเรียงความเก่ียวกับประสบการณ์ของตนเองเขียนประโยคโดยใช้คำศัพท์ และสำนวนด้วยโครงสร้างทางภาษาท่ีกำหนด เป็นการฝึกทักษะทางภาษา นอกจากน้ีการอ่านเรื่องที่เกี่ยวกับการดูแล สุขภาพ ทำใหน้ กั เรยี นสามารถนำความรู้ไปดูแล ทง้ั จติ ใจและรา่ งกายของตนได้อย่างดี

5. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 5.1 ฟงั และอ่านบทความเร่ือง Music therapy แล้วจับใจความได้ และตอบคำถามได้ 6. สาระการเรยี นรูท้ ี่ 1 (K) 6.1 ดา้ นความรคู้ วามสามารถ (K) 1. Reading an article : Music Therapy 6.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 2. ทักษะฟงั 3. ทกั ษะการพดู 4. ทกั ษะการอ่าน 5. ทกั ษะการเขยี น 6. กระบวนการทางภาษา 6.3 ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ความซอื่ สตั ย์สุจรติ 3. ความมวี ินยั 4. ความใฝ่เรียนรู้ 5. มจี ติ สาธารณะ 7. สมรรถนะสำคญั (5 ดา้ น) 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการในการใชช้ วี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. บรู ณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซียน  ท้องถ่ิน 9. หลักฐานการจัดการเรียนรู้ (ชนิ้ งาน/ภาระงาน) 1. คะแนนจากการทำกจิ กรรม 2. การทำแบบฝึกหัดในใบงาน

10. กจิ กรรมการจดั การเรยี นการสอน ชวั่ โมงท่ี 1 ขนั้ กอ่ นการอา่ น • ขัน้ K K : What we know นักเรียนคิดตอบคำถามว่ามีความรู้อะไรบ้างแล้วเก่ียวกับเร่ือง Music Therapy แล้วแบง่ กลุ่มแลกเปลี่ยนความคิด รว่ มกนั บนั ทึกในชอ่ ง K ครนู ำเสนอหัวข้อเร่ือง Music Therapy ให้นักเรียนไดศ้ ึกษา เพ่อื ให้นักเรยี นได้แสดงความคิดเหน็ และสิ่งที่ ตนรู้เก่ียวกับเร่ือง Music Therapy โดยเริ่มจาการท่ีนักเรียนระดมความคิดในกลุ่ม แล้วให้นักเรียนทุกกลุ่มระดม สมองกนั อีกคร้ังพรอ้ มทง้ั เขียนส่งิ ทต่ี นเองร้ลู งในใบงานช่อง k • ข้นั W W : What we want to know นักเรียนคิดตอบคำถาม ต้องการรู้อะไรบ้างจากเรื่อง Music Therapy แล้วแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นร่วมกันบันทึกในช่อง W ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ตัง้ คำถามถึงสิ่งที่ต้องการทราบเกยี่ วกับ เร่อื ง Music Therapy ลงในใบงาน ชอ่ ง W ขนั้ ระหว่างอา่ น • ขั้น L L : What we have learned หลังจากอ่านเร่ือง Music Therapy แล้ว นักเรียนคิดตอบคำถาม ว่าได้ เรียนรู้อะไรบ้าง แล้วแลกเปล่ียนส่ิงที่ได้เรียนรู้กับเพื่อนๆ บันทึกในช่อง L ในขณะท่ีอ่านเรอื่ ง Music Therapy ให้ เขียนคำตอบให้กับคำถามท่ีได้ต้ังไว้และเขียนคำตอบหรือความรู้ที่ได้รับจากบทอ่านลงในช่อง L หากเกิดคำถาม เพ่ิมเติมระหว่างอ่านสามารถตั้งคำถามเพ่ิมเติมในส่วนท่ีต้องการทราบเพ่ิมเติมในช่อง W โดยนักเรียนแต่ละกลุ่ม อภิปรายผลของคำตอบที่ไดเ้ ขียนลงในชอ่ ง L ข้ันหลังอา่ น • ข้ัน H H : How can we learn more นักเรียนคิดตอบคำถามจะหาความรู้เพ่ิมเติมได้อย่างไร แลกเปล่ียน ความคิดกับกลุ่ม ร่วมกันบันทึกในช่อง H ครูจะสอบถามถึงคำถามท่ีผู้เรียนแต่ละกลุ่มได้ต้ังข้ึนมาใหม่ พร้อมทั้ง สอบถามถึงแนวทางและแหล่งในการสืบค้นข้อมูล เพ่ือตอบคำถามที่ได้ตั้งข้ึน โดยให้เขียนวิธีการและแหล่งข้อมูล เหล่านนั้ ลงในชอ่ ง H และดำเนินการสบื ค้นขอ้ มลู ตามท่ีไดว้ างแผนไว้ • ขั้น Summarizing นักเรียนคิดวิเคราะห์สรุปใจความสำคัญ แล้วแลกเปล่ียนความคิดกับกลุ่ม และร่วมกันบันทึกในช่องสรุป แต่ละกลุ่มนำผลงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มอื่น ร่วมกันสรุปเป็นความรู้ของทั้งชั้นนำไปสู่การประยุกต์ใช้ ซึ่งจะ เปน็ ขั้นตอนของการวดั และประเมินผล

ช่วั โมงที่ 2 นักเรียนรว่ มกันอภิปรายเร่อื ง Music Therapy ตอบคำถามจากเนอื้ เร่ืองได้ และหาความรูเ้ พ่มิ เตมิ 11. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ดา้ นความร้คู วามสามารถ เครื่องมือ วธิ ีการวัด เกณฑ์การประเมิน -ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 -กิจกรรมการอา่ นแบบ -ประเมินผลจากการกจิ กรรมการอา่ นแบบ KWLH -ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 KWLH plus plus เกณฑ์การประเมิน -ใบงาน -ประเมินผลจากการตรวจแบบฝกึ หดั ระดับคณุ ภาพ 3 ดมี าก • ด้านทักษะกระบวนการ 2 ดี 1 ตอ้ งปรับปรงุ เครอื่ งมือ วิธีการวดั เกณฑ์การประเมิน -แบบประเมินการอ่าน -อ่านเรอื่ ง Music Therapy ตอบคำถามได้ แลว้ ระดับคณุ ภาพ 3 ดมี าก ตรวจคำตอบจากบทอ่าน 2 ดี 1 ต้องปรบั ปรงุ -แบบประเมินการเขียน -เขยี นคำตอบช่องต่างๆใน Padlet • ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เครื่องมอื วธิ กี ารวัด -แบบประเมินคุณลักษณะ -สงั เกตพฤติกรรมเปน็ รายบุคคลและจากการทำ อันพงึ ประสงค์ กิจกรรมกล่มุ

บนั ทกึ หลังสอน วิชาภาษาอังกฤษ 4 ( อ32102 ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษต่างประเทศ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี…5…. เรอ่ื ง…Music Therapy…. วันทส่ี อน…………คาบท่ี.........จำนวน…2….คาบ ผลการจดั การเรยี นรู้ ชนั้ ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คุณลักษณะอนั พึง ปัญหา/ ข้อเสนอแนะ ประสงค์ (A) อปุ สรรค 5/1 นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 นักเรยี นร้อยละ 100 นักเรยี นรอ้ ยละ 100 มี สามารถสรุปบทความ สามารถอา่ นบทความเรื่อง ความตง้ั ใจและ เรื่อง Music therapy ได้ Music therapy แลว้ จับ กระตือรอื รน้ ในการเรียน ใจความและตอบคำถามได้ 5/3 นกั เรียนรอ้ ยละ 100 นักเรยี นรอ้ ยละ 100 นักเรยี นร้อยละ 100 มี สามารถสรุปบทความ สามารถอา่ นบทความเรื่อง ความตัง้ ใจและ เร่ือง Music therapy ได้ Music therapy แลว้ จบั กระตือรอื รน้ ในการเรียน ใจความและตอบคำถามได้ 5/5 นกั เรียนรอ้ ยละ 80 นกั เรยี นรอ้ ยละ 80 นกั เรียนรอ้ ยละ 80 มี สามารถสรปุ บทความ สามารถอ่านบทความเรื่อง ความตงั้ ใจและ เรื่อง Music therapy ได้ Music therapy แล้วจบั กระตือรอื ร้นในการเรียน ใจความและตอบคำถามได้ 5/6 นกั เรยี นร้อยละ 80 นักเรียนรอ้ ยละ 80 นกั เรียนร้อยละ 80 มี สามารถสรปุ บทความ สามารถอา่ นบทความเรอื่ ง ความตง้ั ใจและ เรื่อง Music therapy ได้ Music therapy แลว้ จับ กระตือรอื รน้ ในการเรียน ใจความและตอบคำถามได้ 5/10 นักเรียนร้อยละ 60 นักเรียนร้อยละ 60 นักเรยี นรอ้ ยละ 60 มี สามารถสรปุ บทความ สามารถอา่ นบทความเร่ือง ความตั้งใจและ เร่ือง Music therapy ได้ Music therapy แล้วจบั กระตือรอื ร้นในการเรยี น ใจความและตอบคำถามได้ ลงชอื่ ………………………..ครูผู้สอน ลงชอื่ ………………………..หัวหนา้ กลมุ่ สาระฯ (นางสาวคอฟเสาะ บาเนง็ ) (นายรุสลาน สาแม) ………/………………………./……… ………/………………………./……… ลงชื่อ………………..…………………… (นางสาวเพริศพศิ คูหามุข) รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ ………/……………./………

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน รหัสวิชา อ 32102 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 Mind and Body ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลาเรียน 3 ชั่วโมง เรอ่ื ง Present Perfect and Past Simple ครูผสู้ อน นางสาวคอฟเสาะ บาเนง็ โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา สพม.15 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งท่ีฟังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 2. ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.5/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟัง และอา่ นเร่อื งทเ่ี ปน็ สารคดีและบันเทิงคดี พรอ้ มท้งั ให้เหตุผล และยกตวั อยา่ งประกอบ ต 1.2 ม.5/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่อื งต่าง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/ เหตกุ ารณ์ ประเดน็ ท่ีอยูใ่ นความสนใจของสังคม และสื่อสารอยา่ งต่อเนือ่ งและเหมาะสม ต 1.2 ม.5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกย่ี วกบั เรอื่ ง/ประเด็น/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ทีฟ่ ังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม 3. จดุ เนน้ (สพฐ., สพม. , โรงเรียน/อัตลกั ษณ์) 1 แสวงหาความรูเ้ พอื่ การแกป้ ญั หา 2. การใชเ้ ทคโนโลยีเพือ่ การเรียนรู้ 3. ทกั ษะการคดิ ขน้ั สงู 4. การสือ่ สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวัย อตั ลักษณ์โรงเรยี น เลศิ ปญั ญา เป็นผูน้ ำ สรา้ งสรรค์สงั คม 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้โครงสร้างประโยค หน้าที่ทางภาษา การสนทนาข้อมูล เกีย่ วกับ Present Perfect คู่ Past Simple ได้ 5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 5.1 เขียนประโยคโดยใช้โครงสร้าง Present Perfect คู่ Past Simple ได้ 6. สาระการเรียนร้ทู ี่ 1 (K) 6.1 ด้านความรู้ความสามารถ (K)

2. โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ (Structure & Grammar) - Present Perfect (Subject + had + Past Participle) - Past Simple (Subject + V2) 6.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) 4. ทกั ษะฟงั 5. ทักษะการพูด 6. ทกั ษะการอา่ น 7. ทกั ษะการเขยี น 8. กระบวนการทางภาษา 6.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ความซือ่ สัตยส์ จุ รติ 3. ความมีวินัย 4. ความใฝเ่ รยี นรู้ 5. มีจติ สาธารณะ 7. สมรรถนะสำคัญ (5 ด้าน) 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการในการใช้ชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. บรู ณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง  อาเซยี น  ทอ้ งถิ่น 9. หลกั ฐานการจดั การเรียนรู้ (ชิ้นงาน/ภาระงาน) 1. คะแนนจากการทำกจิ กรรม 2. การทำแบบฝกึ หัดในใบงาน

10. กจิ กรรมการจดั การเรียนการสอน ชั่วโมงที่ 1 ขั้นท่ี 1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน (Warm up) 1. ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ทบทวน โดยกล่าวถงึ หวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ - โครงสร้างของ Past Perfect Tense และ Past Simple Tense - ยกตัวอยา่ งประโยคทใ่ี ช้ Present Perfect มา 3-4 ประโยค ครูใหต้ วั แทนนักเรียนเขยี น ประโยคเหล่าน้นั บนกระดาน ข้ันที่ 2 ข้ันนำเสนอ (Presentation) 2. นักเรียนศกึ ษาหลักการใช้ Past perfect จะใช้ค่กู บั Past Simple Tense ในใบความร้แู ละครูอธิบายเพิ่มเติม ดงั น้ี Past perfect Tense คอื เปน็ เหตุการณ์ทเี่ กดิ ขึ้นในอดีต ซึ่งเราจะเน้นเปน็ เหตุการณ์ทเ่ี กิดขึ้นมาก่อน สว่ น อีกเหตุการณท์ ่ีเกิดขน้ึ มาในภายหลงั แตก่ เ็ ป็นเหตุการณ์ท่เี กิดข้นึ ในอดีตเหมือนกัน เราจะใช้ Past Simple Tense รูปแบบของ 2 Tenses Past Perfect Tense รูปแบบ S + had + V3 ( ประธานทกุ ตัว เรากใ็ ช้ had เหมือนกัน) Past Simple Tense รูปแบบ S + V2 ยกตัวอย่าง After the students had studied English , they presented in front of the classroom. หลังจากทีพ่ วกนกั เรียนได้เรยี นภาษาอังกฤษแล้ว เปน็ เหตกุ ารณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ก่อน The students had studied English. ( ใช้ Past Perfect ) พวกเขานำเสนองานหน้าช้ันเรียน เป็น เหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ข้ึนในภายหลัง they presented in front of the classroom. ( ใช้ Past Simple ) I had listened to the radio online before my parents arrived home. ฉันฟงั วิทยุออนไลนก์ ่อนที่พอ่ แม่ของฉันมาถึงบา้ น ฉนั ฟังวทิ ยุออนไลน์ เป็นเหตุการณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ก่อน ( ใช้ Past Perfect ) พ่อแมข่ องฉันมาถงึ บ้าน เป็นเหตุการณท์ ี่เกดิ ข้ึนในภายหลงั ( ใช้ Past Simple ) ซึง่ เราจะต้องสังเกต before และ after และพิจารณาให้รอบคอบว่าพอเราแปลออกมาแลว้ เหตุการณใ์ ด ท่ีเกิดข้ึนมาก่อน และเหตกุ ารณ์ใดทีเ่ กิดขึน้ ตามมาภายหลัง ขนั้ ท่ี 3 ข้นั ฝึก (Practice) 3. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดใบงานทีค่ รแู จกให้ เร่อื ง Past perfect จะใชค้ ู่กับ Past Simple Tense ขั้นท่ี 4 นำไปใช้ (production) 4. นักเรียนแตง่ เรอื่ งคนละ 1 เรอ่ื ง โดยใช้ Present Perfect และ Past perfect จะใช้คู่กบั Past Simple Tense

ขนั้ ท่ี 5 สรุป (wrap-up) 5. นักเรยี นช่วยกันสรุปทบทวนความเขา้ ใจการใช้ Past perfect จะใชค้ ู่กบั Past Simple Tense ชั่วโมงที่ 2 ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ นำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. นกั เรยี นทบทวนความรคู วามเข้าใจการใช้ Past perfect จะใช้คกู่ ับ Past Simple Tense ข้นั ที่ 2 ข้นั นำเสนอ (Presentation) 2. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ๆละ 4 คน และให้หัวหน้ากลมุ่ อธิบายใหส้ มาชกิ ในกลุ่มอีกคร้งั ขั้นท่ี 3 ขนั้ ฝึก (Practice) 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำแบฝึกหัดเรื่อง Past perfect จะใชค้ กู่ ับ Past Simple Tense โดยการเชื่อม 2 ประโยคเข้าดว้ ยกนั โดยใช้ before หรือ after ทีก่ ำหนด ขนั้ ท่ี 4 นำไปใช้ (production) 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาเฉลยกล่มุ ละ 1 ข้อ พรอ้ มคำอธบิ ายอย่างละเอียด ขั้นที่ 5 สรุป (wrap-up) 5. นักเรียนช่วยกนั สรุปทบทวนความเข้าใจการใช้ Past perfect จะใช้ค่กู บั Past Simple Tense ช่ัวโมงท่ี 3 นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 11. ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ 5. ใบความรู้ 6. ใบงาน 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ความสามารถ เครื่องมือ วธิ กี ารวดั เกณฑ์การประเมิน -ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 -แบบฝึกหดั - ประเมินผลจากการตรวจแบบฝกึ หัด

• ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เครือ่ งมอื วธิ ีการวัด เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคุณภาพ -แบบประเมนิ การเขียน -เขยี นเร่ืองงโดยใช้โครงสรา้ ง Present Perfect 3 ดีมาก 2 ดี และPast perfect จะใช้คู่กบั Past Simple 1 ต้องปรบั ปรงุ Tense • ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เครื่องมอื วธิ ีการวดั เกณฑ์การประเมิน ระดบั คุณภาพ -แบบประเมินคุณลกั ษณะ -สงั เกตพฤติกรรมเป็นรายบุคคลและจากการทำ 3 ดมี าก 2 ดี อันพงึ ประสงค์ กิจกรรมกล่มุ 1 ตอ้ งปรับปรงุ

บันทึกหลังสอน วชิ าภาษาองั กฤษ 4 ( อ32102 ) กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษต่างประเทศ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่…5…เร่ือง…Present Perfect คู่ Past Simple….วันที่สอน…………คาบท่ี.......จำนวน…3….คาบ ผลการจัดการเรยี นรู้ ช้นั ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คณุ ลักษณะอนั พงึ ปญั หา/ ข้อเสนอแนะ ประสงค์ (A) อุปสรรค 5/1 นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 นกั เรียนรอ้ ยละ 100 นกั เรียนรอ้ ยละ 100 มี สามารถอธบิ ายหลกั การ สามารถเขียนประโยค ความตั้งใจและ ใช้โครงสร้าง Present Present Perfect คู่ กระตือรอื ร้นในการเรียน Perfect คู่ Past Past Simple ได้ Simple ได้ 5/3 นักเรยี นร้อยละ 100 นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 นักเรยี นรอ้ ยละ 100 มี สามารถอธิบายหลกั การ สามารถเขียนประโยค ความตั้งใจและ ใช้โครงสร้าง Present Present Perfect คู่ กระตือรอื รน้ ในการเรยี น Perfect คู่ Past Past Simple ได้ Simple ได้ นกั เรยี นร้อยละ 75 นกั เรียนรอ้ ยละ 75 สามารถอธิบายหลกั การ สามารถเขียนประโยค นักเรียนรอ้ ยละ 70 มี 5/5 ใช้โครงสร้าง Present active เปน็ passive ใน ความตงั้ ใจและ Perfect คู่ Past รปู แบบต่าง ๆ ได้อย่าง กระตือรือรน้ ในการเรียน Simple ได้ ถกู ต้อง 5/6 นักเรียนรอ้ ยละ 70 นักเรียนรอ้ ยละ 70 นกั เรยี นรอ้ ยละ 70 มี สามารถอธบิ ายหลักการ สามารถเขียนประโยค ความตงั้ ใจและ ใช้โครงสร้าง Present Present Perfect คู่ กระตือรือร้นในการเรยี น Perfect คู่ Past Past Simple ได้ Simple ได้ 5/10 นกั เรยี นรอ้ ยละ 50 นักเรยี นร้อยละ 50 นกั เรยี นรอ้ ยละ 50 มี สามารถอธิบายหลกั การ สามารถเขียนประโยค ความตั้งใจและ ใช้โครงสร้าง Present Present Perfect คู่ กระตือรอื รน้ ในการเรยี น Perfect คู่ Past Past Simple ได้ Simple ได้

ลงชอ่ื ………………………..ครูผู้สอน ลงชื่อ………………………..หัวหนา้ กล่มุ สาระฯ (นางสาวคอฟเสาะ บาเน็ง) (นายรุสลาน สาแม) ………/………………………./……… ………/………………………./……… ลงชอ่ื ………………..…………………… (นางสาวเพริศพศิ คูหามขุ ) รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ ………/……………./………

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหัสวิชา อ 32102 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 Mind and Body ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 เวลาเรียน 9 ชั่วโมง เรอื่ ง Passive Voice ครผู ู้สอน นางสาวคอฟเสาะ บาเนง็ โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา สพม.15 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม 2. ตวั ชี้วดั ต 2.2 ม.5/1 อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย 3. จดุ เนน้ (สพฐ., สพม. , โรงเรียน/อตั ลักษณ์) 1 แสวงหาความร้เู พ่อื การแกป้ ญั หา 2. การใช้เทคโนโลยเี พ่อื การเรียนรู้ 3. ทกั ษะการคิดขัน้ สูง 4. การส่อื สารอยา่ งสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย อัตลกั ษณโ์ รงเรียน เลิศปัญญา เป็นผู้นำ สรา้ งสรรค์สงั คม 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด หนว่ ยการเรียนรู้น้มี ีจุดมุ่งหมายใหน้ กั เรียนเรียนรู้โครงสร้างประโยค หนา้ ทีท่ างภาษา การสนทนา ขอ้ มลู เกย่ี วกับ Passive voice 5. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 5.1 ศึกษาตัวอย่างและโครงสร้างประโยค passive แล้วตอบคำถาม สรุปหลักการใช้ เลือกประโยค active/passive และเปลย่ี นประโยค active เป็น passive ไดถ้ ูกต้อง 6. สาระการเรียนรทู้ ี่ 1 (K) 6.1 ดา้ นความรู้ความสามารถ (K1,2,3) 1. โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ (Structure & Grammar) - Passive (Statement) Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle)

- Passive (Two Objects) I.O + V.to be + V.3 (past participle) + D.O D.O + V.to be + V.3 (past participle) + to + I.O - Passive (Question) V.to be + S + V.3 (past participle) Aux. + S + V.to be + V.3 (past participle) Wh-question + V.to be + S + V.3 (past participle) Wh-question + Aux. + S + V.to be + V.3 (past participle) 6.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P1,2) 1. ทักษะการเขยี น 6.3 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A1,2) 1. ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ความซ่อื สัตยส์ ุจรติ 3. ความมวี นิ ยั 4. ความใฝเ่ รยี นรู้ 5. มจี ิตสาธารณะ 7. สมรรถนะสำคัญ (5 ดา้ น) 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการในการใช้ชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. บูรณาการ  ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซียน  ท้องถ่ิน 9. หลักฐานการจัดการเรยี นรู้ (ช้ินงาน/ภาระงาน) 1. คะแนนจากการทำกจิ กรรม 2. การทำแบบฝึกหัดในใบงาน

10. กจิ กรรมการจัดการเรยี นการสอน ช่วั โมงที่ 1 ขน้ั ที่ 1 ข้นั นำเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm up) 1. เขียนประโยค people recycle lots of things. Lots of things are recycled ถาม : What is different between this 2 sentences? (A คือ active ส่วน B คือ passive) 2. แจ้งจุดประสงค์การเรยี นร้วู ่าในหนว่ ยการเรยี นรู้น้นี ักเรยี นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกบั Passive voice ทง้ั 3 แบบ ขน้ั ที่ 2 ขั้นนำเสนอ (Presentation) 3. นักเรียนนั่งเป็นกลมุ่ ศกึ ษาข้อมูลเกีย่ วกับกฎการใช้และโครงสร้างประโยคของ Passive voice (Statements) ในใบความรู้ พร้อมฟังครใู ห้คำอธบิ ายเพิม่ เตมิ ใช้ Passive voice เมือ่ ...... 1. หลกี เลย่ี งการกลา่ วถึงผกู้ ระทำ หรอื ผกู้ ระทำในประโยคน้ันๆ ไม่ปรากฏชดั Jane was shot. (We don’t know who shot her.) He has been arrested. (Obviously by the police) 2. ต้องการใหป้ ระโยคเป็นทางการ หรอื สภุ าพมากขึ้น The car hasn’t been cleaned. (more polite) (You haven’t cleaned the car. – less polite) 3. เนน้ ผถู้ กู กระทำ A mango is eaten by Mary. 4. นักเรียนเรยี นรเู้ ทคนิคการเปลี่ยนประโยคจาก Active เป็น Passive ขั้นท่ี 3 ข้นั ฝึก (Practice) 5. นักเรียนทำแบบฝึกหดั เกย่ี วกบั Passive voice ขอ้ A ในใบความรู้จำนวน 30 ข้อ ข้ันท่ี 4 นำไปใช้ (Production) 6. สุ่มเลขที่นักเรียนให้ออกมาเปลี่ยนประโยคจาก Active เป็น Passive เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ เชน่ a. My dad can speak German. = German can be spoken by my dad. b. The gardener is cutting the grass. = The grass is being cut by the gardener. c. The little girl has dropped the toy. = The toy has been dropped by the little girl.

d. I will sing a new song. = A new song will be sung (by me). e. Everybody learns English in this school. = English is learned in this school. f. People aren’t going to hold the meeting tonight. = The meeting is not going to be held tonight. g. The teacher asked them a very difficult question. = They were asked a very difficult question by the teacher. ขน้ั ท่ี 5 สรุป (Wrap-up) 7. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปบทเรียน ครูตรวจสอบคำถามโดยสมุ่ ให้นกั เรียนแตล่ ะคนอ่านประโยคท่ี ถูกเปลี่ยนแล้ว ชัว่ โมงท่ี 2 นกั เรียนทบทวนเรื่อง Passive voice (Statements) และทำ Pre-Quiz ช่วั โมงที่ 3 นกั เรยี นทำ Quiz-Passive voice (Statements) ใน Live Worksheet ชว่ั โมงท่ี 4 ขัน้ ท่ี 1 ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรยี น (Warm up) 1. นักเรยี นช่วยกันทบทวนความรเู้ ดมิ - Passive (Statement) Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle) 2. แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้วา่ ในหน่วยการเรยี นรูน้ น้ี กั เรียนจะได้เรยี นรู้เกยี่ วกบั Passive voice แบบมี กรรม 2 ตวั ขัน้ ที่ 2 ข้นั นำเสนอ (Presentation) 3. นกั เรยี นศึกษาจากใบงานถงึ วิธีเปลี่ยนโครงสรา้ งประโยคจาก active voice เป็น passive voice เมื่อมี กรรม 2 ตัว ในประโยคภาษาอังกฤษท่ีมีกรรม 2 ตัว คือ กรรมตรง (Direct object) และกรรมรอง (Indirect object) การทำให้เป็น ประโยค passive voice นั้นสามารถทำได้ 2 วิธี ข้ึนอยู่กับความ ต้องการในการสอ่ื สารวา่ ต้องการเน้นกรรมตรงหรือเนน้ กรรมรอง โดยนำสิ่งท่ีต้องการเน้นข้นึ ต้นประโยค เมื่อ กรรมตรง ( Direct Object ) = สิ่งของ กรรมรอง ( Indirect object ) = บุคคล ***เมอ่ื จะเปล่ยี นเป็น Passive นยิ มเอากรรมรอง คือบคุ คลขึน้ เปน็ ประธาน ถ้าจะเอากรรม ตรงเป็นประธานก็ได้ แต่ต้องใส่ บพุ บท to ขา้ งหน้ากรรมรองทีเ่ หลืออยู่ดว้ ย

ข้นั ท่ี 3 ขนั้ ฝึก (Practice) 4. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั เกี่ยวกับ Passive voice แบบมีกรรม 2 ตัว ข้อ B ในใบความรู้จำนวน 15 ข้อ ข้นั ที่ 4 นำไปใช้ (Production) 5. สุ่มเลขที่นักเรียนให้ออกมาเปล่ียนประโยคจาก Active เป็น Passive เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ เช่น Rachel will give you some advice. → You will be given some advice. I sent him a letter. → He was sent a letter. The police officer showed us the way. → We were shown the way. Our neighbour gave me a lift. → I was given a lift. We have asked him a favour. → He has been asked a favour She told me a lie. → I was told a lie. They have written her a postcard. → She has been written a postcard. Kerrie will make you a cup of tea. → You will be made a cup of tea. The waiter has not brought us the coffee. → We have not been brought the coffee. They did not offer her a seat. → She was not offered a seat. ขั้นท่ี 5 สรุป (Wrap-up) 6. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรุปบทเรยี น ครตู รวจสอบคำถามโดยสุ่มใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนอ่านประโยคที่ถูก เปลยี่ นแลว้ ชั่วโมงที่ 5 นักเรยี นทบทวนเร่ือง Passive voice (Two Objects) และทำ Pre-Quiz

ชั่วโมงท่ี 6 นกั เรยี นทำ Quiz-Passive voice (Two Objects) ใน Live Worksheet ช่วั โมงที่ 7 ขนั้ ที่ 1 ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรียน (Warm up) 1. นกั เรยี นช่วยกนั ทบทวนความรู้เดมิ - Passive (Statement) Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle) - Passive (Two Objects) I.O + V.to be + V.3 (past participle) + D.O D.O + V.to be + V.3 (past participle) + to + I.O 2. แจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้วา่ ในหนว่ ยการเรยี นร้นู นี้ ักเรียนจะไดเ้ รยี นรเู้ ก่ียวกบั Passive voice (Question) ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ นำเสนอ (Presentation) 3. นกั เรยี นศกึ ษาโครงสรา้ งประโยคจาก active voice เปน็ passive voice (Question) V.to be + S + V.3 (past participle) Aux. + S + V.to be + V.3 (past participle) Wh-question + V.to be + S + V.3 (past participle) Wh-question + Aux. + S + V.to be + V.3 (past participle) ขั้นที่ 3 ขน้ั ฝึก (Practice) 4. นักเรยี นทำแบบฝึกหัดเกยี่ วกับ Passive voice แบบมีกรรม 2 ตัว ข้อ B ในใบความรู้จำนวน 15 ข้อ ขน้ั ที่ 4 นำไปใช้ (Production) 5. สุ่มเลขที่นักเรียนให้ออกมาเปล่ียนประโยคจาก Active เป็น Passive เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ เชน่ Did they catch the thief? →Was the thief caught? Will The King inaugurate the new bridge? →Will the new bridge be inaugurated by The King? Do they make cars in Korea? →Are cars made in Korea? Do the hounds kill the fox? →Is the fox killed by the hounds?

Did the bull kill the matador? →Was the matador killed by the bull? Have the police found the body? →Has the body been found by the police? Why has the government banned the film? →Why has the film been banned by the government? When did they hijack the plane? →When was the plane hijacked? How did your host family treat you? →How were you treated by the host family? What caused the accident? →What was the accident caused by? Has anyone cleaned the oven yet? →Has the oven been cleaned yet? Is a doctor going to examine you? →Are you going to be examined by a doctor? ขั้นที่ 5 สรุป (Wrap-up) 6. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ บทเรยี น ครูตรวจสอบคำถามโดยส่มุ ให้นกั เรียนแตล่ ะคนอา่ นประโยคทถ่ี ูก เปล่ียนแล้ว ชัว่ โมงท่ี 8 นักเรยี นทบทวนเรื่อง Passive voice (Questions) และทำ Pre-Quiz ชั่วโมงท่ี 9 นกั เรียนทำ Quiz-Passive voice (Questions) ใน Live Worksheet 11. ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ 7. ใบความรู้ 8. ใบงาน 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรูค้ วามสามารถ เครอ่ื งมือ วธิ ีการวดั เกณฑ์การประเมิน - ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60 - แบบฝกึ หดั - ทำแบบฝึกหดั

เครอ่ื งมือ วิธีการวัด เกณฑก์ ารประเมนิ - 10 ข้อ 10 คะแนน - แบบทดสอบหลงั เรียน - ทำแบบทดสอบหลังเรยี น เกณฑก์ ารประเมิน • ดา้ นทักษะกระบวนการ ระดบั คณุ ภาพ 3 ดมี าก เคร่อื งมอื วิธกี ารวดั 2 ดี 1 ตอ้ งปรบั ปรุง -แบบประเมนิ การเขยี น -เขียนประโยคโดยใช้โครงสร้าง Passive แบบ ตา่ งๆได้ • ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เคร่ืองมือ วธิ กี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ -แบบประเมินคุณลกั ษณะ -สงั เกตพฤตกิ รรมเป็นรายบคุ คล 3 ดมี าก 2 ดี อันพงึ ประสงค์ 1 ตอ้ งปรบั ปรุง

บันทึกหลังสอน วชิ าภาษาอังกฤษ 4 ( อ32102 ) กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษต่างประเทศ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่…5…. เร่อื ง…Passive Voice…. วันท่สี อน…………คาบท่ี.........จำนวน…9….คาบ ผลการจดั การเรียนรู้ ช้ัน ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะอนั พึง ปัญหา/ ขอ้ เสนอแนะ ประสงค์ (A) อุปสรรค 5/1 นกั เรยี นร้อยละ 100 นกั เรียนรอ้ ยละ 100 นักเรยี นร้อยละ 100 มี สามารถอธิบายหลักการ สามารถเขยี นประโยค ความตั้งใจและ ใช้ active/passive และ active เปน็ passive ใน กระตือรอื ร้นในการเรียน หลกั การเปลย่ี นประโยค รูปแบบต่าง ๆ ได้อย่าง active เปน็ passive ใน ถูกต้อง รปู แบบตา่ ง ๆ ได้ 5/3 นกั เรียนรอ้ ยละ 100 นักเรยี นร้อยละ 100 นกั เรยี นร้อยละ 100 มี สามารถอธบิ ายหลกั การ สามารถเขียนประโยค ความตง้ั ใจและ ใช้ active/passive และ active เปน็ passive ใน กระตือรอื ร้นในการเรยี น หลักการเปลย่ี นประโยค รูปแบบตา่ ง ๆ ได้อย่าง active เป็น passive ใน ถูกต้อง รูปแบบตา่ ง ๆ ได้ 5/5 นกั เรียนรอ้ ยละ 70 นกั เรยี นรอ้ ยละ 70 นักเรยี นรอ้ ยละ 70 มี สามารถอธิบายหลักการ สามารถเขียนประโยค ความต้งั ใจและ ใช้ active/passive และ active เป็น passive ใน กระตือรือร้นในการเรียน หลกั การเปลีย่ นประโยค รปู แบบตา่ ง ๆ ได้อยา่ ง active เป็น passive ใน ถูกต้อง รปู แบบต่าง ๆ ได้ 5/6 นกั เรียนรอ้ ยละ 70 นกั เรียนร้อยละ 70 นกั เรียนร้อยละ 70 มี สามารถอธิบายหลักการ สามารถเขียนประโยค ความตง้ั ใจและ ใช้ active/passive และ active เป็น passive ใน กระตือรือร้นในการเรยี น หลักการเปลยี่ นประโยค รูปแบบตา่ ง ๆ ได้อยา่ ง active เป็น passive ใน ถกู ต้อง รปู แบบตา่ ง ๆ ได้ 5/10 นกั เรยี นรอ้ ยละ 50 นักเรียนร้อยละ 50 นกั เรยี นรอ้ ยละ 50 มี สามารถอธิบายหลกั การ สามารถเขยี นประโยค ความตง้ั ใจและ ใช้ active/passive และ active เปน็ passive ใน กระตือรือรน้ ในการเรยี น หลักการเปลี่ยนประโยค รูปแบบต่าง ๆ ได้อย่าง active เป็น passive ใน ถูกต้อง รปู แบบต่าง ๆ ได้

ลงชอ่ื ………………………..ครูผู้สอน ลงชื่อ………………………..หัวหนา้ กล่มุ สาระฯ (นางสาวคอฟเสาะ บาเน็ง) (นายรุสลาน สาแม) ………/………………………./……… ………/………………………./……… ลงชอ่ื ………………..…………………… (นางสาวเพริศพศิ คูหามขุ ) รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ ………/……………./………

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 5 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน รหัสวชิ า อ 32102 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 The secrets of success! ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง เร่ือง Champions ครผู ้สู อน นางสาวคอฟเสาะ บาเน็ง โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา สพม.15 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่อื งทีฟ่ ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ ความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ 2. ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.5/4 จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟัง และอา่ นเรอื่ งท่เี ป็นสารคดแี ละบันเทงิ คดี พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผล และยกตวั อยา่ งประกอบ ต 1.2 ม.5/1 สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเองและเรือ่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว/ เหตุการณ์ ประเด็นท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเน่อื งและเหมาะสม ต 1.2 ม.5/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกีย่ วกบั เรอ่ื ง/ประเด็น/ข่าว/เหตกุ ารณ์ทฟ่ี งั และอ่านอยา่ งเหมาะสม 3. จุดเน้น (สพฐ., สพม. , โรงเรยี น/อัตลกั ษณ์) 1 แสวงหาความรเู้ พือ่ การแก้ปัญหา 2. การใช้เทคโนโลยีเพอ่ื การเรียนรู้ 3. ทักษะการคดิ ข้นั สงู 4. การสอ่ื สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ตามช่วงวยั อตั ลักษณ์โรงเรียน เลศิ ปัญญา เปน็ ผู้นำ สรา้ งสรรคส์ งั คม 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านบทความเก่ียวกับความสำเร็จด้านกีฬา พูดถามตอบเก่ียวกับ achievements and results ฟังบทสัมภาษณ์นักกีฬาพิการ และเขียน factual paragraph เกี่ยวกับข้อดีของกีฬา นอกจากเป็นการฝึก ทักษะทางการเรียนภาษาอังกฤษแล้ว ยังช่วยให้นักเรียนได้ขอ้ คิดที่ดวี ่าการจะทำส่ิงใดให้สำเร็จเราตอ้ งมคี วามเพยี ร พยายาม ฝกึ ฝน และอดทน แล้วจงึ จะประสบความสำเรจ็

5. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 5.1 อ่านบทความ เรื่อง The Secrets of Success : Champions แลว้ จบั ใจความสำคัญได้ และตอบ คำถามได้ถูกต้อง 6. สาระการเรียนร้ทู ่ี 1 (K) 6.1 ดา้ นความรคู้ วามสามารถ (K) 1.Reading an article : Champions 6.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ทกั ษะฟัง 2. ทกั ษะการพูด 3. ทักษะการอ่าน 4. ทักษะการเขียน 5. กระบวนการทางภาษา 6.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ความซ่ือสัตย์สจุ ริต 3. ความมวี ินยั 4. ความใฝเ่ รยี นรู้ 5. มจี ิตสาธารณะ 7. สมรรถนะสำคัญ (5 ด้าน) 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการในการใช้ชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. บูรณาการ  ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง  อาเซยี น  ท้องถ่นิ 9. หลักฐานการจดั การเรยี นรู้ (ชิน้ งาน/ภาระงาน) 1. คะแนนจากการทำกิจกรรม 2. การทำแบบฝึกหดั ในใบงาน

10. กิจกรรมการจดั การเรียนการสอน ชวั่ โมงที่ 1 นักเรียนทำกจิ กรรมใน Padlet ขน้ั ก่อนการอา่ น • ข้ัน K K : What we know นักเรียนคิดตอบคำถามว่ามีความรู้อะไรบ้างแล้วเกี่ยวกับเรื่อง Champions ของ Oscar Pistorius และ Erik Weihenmayer แลว้ แบ่งกลุม่ แลกเปลีย่ นความคิด รว่ มกันบนั ทกึ ในช่อง K ครนู ำเสนอหัวขอ้ เรื่อง Champions ให้นักเรียนได้ศกึ ษา เพอ่ื ให้นกั เรียนไดแ้ สดงความคดิ เหน็ และสง่ิ ทีต่ น รู้เกี่ยวกับเรื่องของ Oscar Pistorius และ Erik Weihenmayer โดยเร่ิมจาการท่ีนักเรียนระดมความคิดในกลุ่ม แล้วให้นักเรียนทกุ กล่มุ ระดมสมองกนั อีกครงั้ พร้อมทัง้ เขยี นสง่ิ ที่ตนเองร้ลู งในใบงานช่อง k • ข้ัน W W : What we want to know นักเรียนคิดตอบคำถาม ต้องการรู้อะไรบ้างจากเรื่อง Champions ของ Oscar Pistorius และ Erik Weihenmayer แล้วแลกเปล่ียนความคิดเห็นร่วมกันบันทึกในช่อง W ให้นักเรียนแต่ ละกลุ่ม ต้ังค ำถามถึงสิ่งที่ ต้องการท ราบ เก่ียวกับ เร่ือง Champions ของ Oscar Pistorius และ Erik Weihenmayer ลงในใบงาน ชอ่ ง W ขัน้ ระหว่างอา่ น • ขั้น L L : What we have learned ห ลั งจากอ่ าน เร่ือง Champions ข อ ง Oscar Pistorius แล ะ Erik Weihenmayer แล้วนักเรยี นคิดตอบคำถาม ว่าไดเ้ รียนรูอ้ ะไรบ้าง แล้วแลกเปลี่ยนส่ิงที่ได้เรียนรู้กบั เพื่อนๆ บนั ทึก ในช่อง L ในขณะทอ่ี ่านเรอ่ื ง Champions ของ Oscar Pistorius และ Erik Weihenmayer ให้เขยี นคำตอบใหก้ ับ คำถามท่ีได้ตั้งไว้และเขียนคำตอบหรือความรู้ท่ีได้รับจากบทอ่านลงในช่อง L หากเกิดคำถามเพ่ิมเติมระหว่างอ่าน สามารถตั้งคำถามเพ่ิมเติมในส่วนที่ต้องการทราบเพิ่มเติมในชอ่ ง W โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายผลของคำตอบ ทไ่ี ด้เขยี นลงในช่อง L ข้นั หลังอา่ น • ขัน้ H H : How can we learn more นักเรียนคิดตอบคำถามจะหาความรู้เพ่ิมเติมได้อย่างไร แลกเปลี่ยน ความคิดกับกลุ่ม ร่วมกันบันทึกในช่อง H ครูจะสอบถามถึงคำถามที่ผู้เรียนแต่ละกลุ่มได้ตั้งข้ึนมาใหม่ พร้อมทั้ง สอบถามถึงแนวทางและแหล่งในการสืบค้นข้อมูล เพื่อตอบคำถามที่ได้ต้ังข้ึน โดยให้เขียนวิธีการและแหล่งข้อมูล เหล่าน้ันลงในช่อง H และดำเนนิ การสืบคน้ ขอ้ มลู ตามทีไ่ ด้วางแผนไว้ • ขั้น Summarizing นักเรียนคิดวิเคราะห์สรุปใจความสำคัญเป็น Mind Mapping แล้วแลกเปลี่ยนความคิดกับกลุ่ม และ ร่วมกนั บันทึกในช่องสรุปแต่ละกลุ่มนำผลงานแลกเปล่ียนเรียนรู้กับกลุ่มอื่น รว่ มกันสรุปเป็นความรู้ของท้ัง ชั้นนำไปสกู่ ารประยุกต์ใช้ ซ่งึ จะเป็นข้นั ตอนของการวดั และประเมินผล

11. ส่อื /แหล่งเรียนรู้ 9. ใบความรู้ 10. ใบงาน 12. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรูค้ วามสามารถ วธิ กี ารวดั เกณฑก์ ารประเมิน เครอ่ื งมอื -ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 -กิจกรรมการอ่านแบบ -ประเมินผลจากการกจิ กรรมการอ่านแบบ KWLH -ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 KWLH plus ใน Padlet plus -ใบงาน -ประเมินผลจากการตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑ์การประเมิน ระดับคณุ ภาพ • ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 3 ดีมาก 2 ดี เครอ่ื งมือ วิธีการวดั 1 ต้องปรบั ปรุง -แบบประเมนิ การอ่าน -อา่ นเร่ือง Champion ตอบคำถามได้ แล้วตรวจ คำตอบจากบทอ่าน เกณฑก์ ารประเมิน -แบบประเมินการเขียน -เขยี นคำตอบชอ่ งต่างๆใน Padlet ระดับคุณภาพ 3 ดีมาก • ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2 ดี 1 ตอ้ งปรับปรุง เคร่อื งมอื วธิ ีการวดั -แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ -สงั เกตพฤตกิ รรมเป็นรายบคุ คลและจากการทำ อันพงึ ประสงค์ กิจกรรมกล่มุ

บันทกึ หลังสอน วชิ าภาษาอังกฤษ 4 ( อ32102 ) กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษต่างประเทศ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี…5…. เรอ่ื ง… Champions …. วันทสี่ อน…………คาบที.่ ........จำนวน…2….คาบ ผลการจัดการเรยี นรู้ ช้ัน ความสามารถ (K) ทกั ษะกระบวนการ (P) คุณลกั ษณะอนั พงึ ปัญหา/ ข้อเสนอแนะ ประสงค์ (A) อปุ สรรค นกั เรียนร้อยละ 100 นกั เรยี นร้อยละ 100 นักเรียนรอ้ ยละ 100 มี 5/1 สามารถสรุปเร่อื ง สามารถอ่านบทความเรื่อง ความตง้ั ใจและ Champions แล้วจบั กระตือรอื ร้นในการเรยี น Champions ได้ ใจความและตอบคำถามได้ นักเรยี นรอ้ ยละ 100 นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 มี 5/3 สามารถสรปุ เรอ่ื ง สามารถอา่ นบทความเรอื่ ง ความตง้ั ใจและ Champions แลว้ จบั กระตือรือร้นในการเรียน Champions ได้ ใจความและตอบคำถามได้ นกั เรยี นรอ้ ยละ 85 นักเรียนรอ้ ยละ 85 นักเรียนร้อยละ 85 มี 5/5 สามารถสรปุ เรื่อง สามารถอา่ นบทความเรือ่ ง ความตง้ั ใจและ Champions แลว้ จบั กระตือรือร้นในการเรยี น Champions ได้ ใจความและตอบคำถามได้ นักเรยี นรอ้ ยละ 85 นักเรียนรอ้ ยละ 85 นกั เรยี นร้อยละ 85 มี 5/6 สามารถสรุปเรื่อง สามารถอา่ นบทความเร่อื ง ความต้งั ใจและ Champions แล้วจับ กระตือรือรน้ ในการเรยี น Champions ได้ ใจความและตอบคำถามได้ นกั เรยี นรอ้ ยละ 60 นกั เรียนรอ้ ยละ 60 นกั เรียนรอ้ ยละ 60 มี 5/10 สามารถสรุปเร่ือง สามารถอ่านบทความเรอ่ื ง ความตงั้ ใจและ Champions แล้วจบั กระตือรอื ร้นในการเรยี น Champions ได้ ใจความและตอบคำถามได้ ลงชอ่ื ………………………..ครผู ู้สอน ลงช่อื ………………………..หัวหน้ากล่มุ สาระฯ (นางสาวคอฟเสาะ บาเนง็ ) (นายรุสลาน สาแม) ………/………………………./……… ………/………………………./……… ลงชอ่ื ………………..…………………… (นางสาวเพริศพศิ คหู ามขุ ) รองผ้อู ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ ………/……………./………

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน รหสั วชิ า อ 32102 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 Champion ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลาเรียน 4 ช่ัวโมง เรือ่ ง If-clause, การละ If ในประโยค If-clause ครูผูส้ อน นางสาวคอฟเสาะ บาเน็ง โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา สพม.15 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่อื งทฟี่ งั และอา่ นจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมี เหตุผล มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็น พืน้ ฐานในการพัฒนาแสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเคร่ืองมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ ับสงั คมโลก 2. ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.5/4. จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการฟัง และอา่ นเร่อื งทีเ่ ป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งใหเ้ หตุผล และยกตวั อยา่ งประกอบ ต 2.1 ม.5/2 อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเช่ือ และท่ีมาของขนบธรรมเนียม และประเพณี ของเจ้าของภาษา ต 3.1 ม.5/1 ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุปและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระ การเรียนร้อู ่ืนจากแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ และนำเสนอดว้ ยการพดู และการเขยี น ต 4.1 ม.5/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชนและสงั คม ต 4.2 ม.5/1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้ารวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 3. จดุ เน้น (สพฐ., สพม. , โรงเรียน/อตั ลักษณ)์ 1. แสวงหาความร้เู พ่อื การแก้ปัญหา 2. การใช้เทคโนโลยีเพอ่ื การเรยี นรู้ 3. ทักษะการคิดขน้ั สงู 4. การสือ่ สารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวัย

อัตลกั ษณ์โรงเรียน เลิศปญั ญา เป็นผนู้ ำ สรา้ งสรรค์สงั คม 5. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้น้ีมีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนเรียนรู้โครงสร้างประโยค ความรู้เก่ียวกับการใช้ “If-clause” เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ใหม่ๆ ทางภาษา และสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นพ้ืนฐานในการ เรยี นระดบั ขน้ั ที่สูงขน้ึ ไป 6. สาระการเรยี นรู้ที่ 1 (K) 1. Language focus : If-clause 2. แบบทดสอบหลงั เรียน 6. สาระการเรยี นรทู้ ่ี 1 (K) 6.1 ด้านความรู้ความสามารถ (K1,2,3) โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ (Structure & Grammar) - If-clause และการใช้ Unless 0 - If +S + V1, S + V1 1st - If +S + V1, S + will + V1 2nd - If +S + V2, S + would + V1 3rd - If +S + had +V3, S + would + have + V3 6.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P1,2) ทกั ษะการอา่ น ทกั ษะการเขียน 6.3 ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A1,2) 1. ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ 3. ความมีวนิ ัย 4. ความใฝเ่ รยี นรู้ 5. มีจิตสาธารณะ 7. สมรรถนะสำคัญ (5 ด้าน) 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการในการใชช้ วี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. บรู ณาการ

 ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง  อาเซียน  ท้องถิน่ 9. หลักฐานการจัดการเรียนรู้ (ช้ินงาน/ภาระงาน) 1. คะแนนจากการทำกิจกรรม 2. การทำแบบฝกึ หดั ในใบงาน 10. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงที่ 1 ขน้ั ที่ 1 ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm up) 1. นกั เรยี นทบทวนความรู้เดมิ เกีย่ วกบั If-clause ใหเ้ พ่ือนๆฟงั คร่าวๆ ขนั้ ที่ 2 ขั้นนำเสนอ (Presentation) 2. นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเรื่อง If-clause 3. นักเรียนเรยี นร้เู รื่อง If-clause ในใบความร้พู ร้อมฟังครูอธบิ ายเนื้อหาอยา่ งละเอียด ขัน้ ท่ี 3 ขั้นฝกึ (Practice) 4. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ในใบงาน ขน้ั ท่ี 4 นำไปใช้ (production) 5.นกั เรียนทกุ คนพดู ประโยคใหเ้ พือ่ นฟงั โดยใช้โครงสร้างต่างๆและใช้ Unless ขนั้ ที่ 5 สรปุ (wrap-up) 6.นักเรียนช่วยกันสรุปบทเรยี นและความรู้ท่ไี ด้ ชว่ั โมงท่ี 2 ทำแบบทดสอบเรอื่ ง If-clause ใน Live worksheet ช่วั โมงที่ 3 ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) 1. นักเรยี นทบทวนความรู้เดิมเกีย่ วกับ การละ If ในประโยค If-clause ให้เพ่ือนๆฟงั คร่าวๆ ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ นำเสนอ (Presentation) 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนเรอ่ื ง การละ If ในประโยค If-clause 3. นักเรียนเรียนรู้เรื่อง การละ If ในประโยค If-clause ในใบความรู้พร้อมฟังครูอธิบายเนื้อหา อย่างละเอียด ขั้นท่ี 3 ขน้ั ฝึก (Practice) 4. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ในใบงาน ขน้ั ที่ 4 นำไปใช้ (production) 5. นักเรยี นทุกคนพดู ประโยคใหเ้ พือ่ นฟัง โดยใชโ้ ครงสร้างการละ If ในประโยค If-clause

ขั้นที่ 5 สรปุ (wrap-up) 6. นักเรยี นชว่ ยกันสรุปบทเรยี นและความรทู้ ไี่ ด้ ชัว่ โมงท่ี 4 7. ทำแบบทดสอบเรื่อง การละ If ในประโยค If-clause ใน Live worksheet 11. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ 11. ใบความรู้ 12. ใบงาน 12. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ • ด้านความรคู้ วามสามารถ เครือ่ งมือ วิธกี ารวดั เกณฑ์การประเมิน - ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60 - แบบฝกึ หดั - ทำแบบฝกึ หดั เกณฑก์ ารประเมิน - แบบทดสอบหลังเรยี น - ทำแบบทดสอบหลงั เรียน ระดบั คุณภาพ 3 ดีมาก • ดา้ นทักษะกระบวนการ 2 ดี 1 ตอ้ งปรบั ปรุง เครือ่ งมือ วธิ กี ารวัด -แบบประเมินการอ่าน -อ่านบทอา่ นและสรปุ ใจความสำคญั ได้ -แบบประเมนิ การเขยี น -เขยี นประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ ง การละ If ใน ประโยค If-clause • ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เครือ่ งมอื วิธีการวัด เกณฑ์การประเมนิ -แบบประเมนิ คุณลักษณะ -สังเกตพฤติกรรมเป็นรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ อันพึงประสงค์ 3 ดีมาก 2 ดี 2 ตอ้ งปรบั ปรุง

บนั ทึกหลังสอน วชิ าภาษาอังกฤษ 4 ( อ32102 ) กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษต่างประเทศ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี…5…. เรือ่ ง… If-clause, การละ If ในประโยค If-clause …. วันที่สอน…………………………..………คาบที่.........จำนวน…4….คาบ ผลการจดั การเรยี นรู้ ชนั้ ทกั ษะกระบวนการ (P) คุณลักษณะอนั พงึ ปัญหา/ ขอ้ เสนอแนะ ความสามารถ (K) ประสงค์ (A) อุปสรรค นักเรียนร้อยละ 100 นักเรียนร้อยละ 100 สามารถเขยี นประโยคโดย นกั เรยี นร้อยละ 100 มี ใชโ้ ครงสรา้ ง If-clause, ความตั้งใจและ 5/1 สามารถสรุปการใช้ If- การละ If ในประโยค If- กระตือรือร้นในการเรยี น clause, การละ If ใน clause ได้ นกั เรียนรอ้ ยละ 100 นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 มี ประโยค If-clause ได้ สามารถเขยี นประโยคโดย ความตั้งใจและ ใช้โครงสรา้ ง If-clause, กระตือรอื ร้นในการเรยี น นักเรียนร้อยละ 100 การละ If ในประโยค If- clause ได้ นักเรยี นรอ้ ยละ 80 มี 5/3 สามารถสรุปการใช้ If- นกั เรยี นรอ้ ยละ 80 ความตั้งใจและ clause, การละ If ใน สามารถเขียนประโยคโดย กระตือรอื ร้นในการเรยี น ใชโ้ ครงสรา้ ง If-clause, ประโยค If-clause ได้ การละ If ในประโยค If- นักเรียนรอ้ ยละ 80 มี clause ได้ ความตง้ั ใจและ นกั เรยี นร้อยละ 80 นักเรยี นรอ้ ยละ 80 กระตือรอื รน้ ในการเรยี น สามารถเขียนประโยคโดย 5/5 สามารถสรุปการใช้ If- ใช้โครงสร้าง If-clause, นกั เรียนรอ้ ยละ 60 มี clause, การละ If ใน การละ If ในประโยค If- ความต้งั ใจและ clause ได้ กระตือรอื ร้นในการเรียน ประโยค If-clause ได้ นกั เรียนร้อยละ 60 สามารถเขียนประโยคโดย นกั เรียนร้อยละ 80 ใชโ้ ครงสร้าง If-clause, การละ If ในประโยค If- 5/6 สามารถสรปุ การใช้ If- clause ได้ clause, การละ If ใน ประโยค If-clause ได้ นกั เรยี นรอ้ ยละ 60 5/10 สามารถสรปุ การใช้ If- clause, การละ If ใน ประโยค If-clause ได้

ลงชอ่ื ………………………..ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ………………………..หัวหน้ากลุม่ สาระฯ (นางสาวคอฟเสาะ บาเนง็ ) (นายรสุ ลาน สาแม) ………/………………………./……… ………/………………………./……… ลงช่อื ………………..…………………… (นางสาวเพริศพิศ คหู ามขุ ) รองผ้อู ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ ………/……………./


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook