Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 ม.3 - เฟาซียะห์ บือฮะ

ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 ม.3 - เฟาซียะห์ บือฮะ

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2022-02-09 14:26:59

Description: ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 ม.3 - เฟาซียะห์ บือฮะ

Search

Read the Text Version

2) ม่งุ มน่ั ในการทาํ งาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้ัน Warm up ครูถามคาํ ถามเพอื่ ดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียน  Do you like listening to music?  Can you play musical instrument? Which one can you play?  What musical instrument do you want to play? Why? ข้ัน Pre-reading 1. ครูทบทวนเรื่อง passive โดยเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบุวา่ ประโยคใดเป็น ประโยค passive และประโยคใดเป็นประโยค active I play the guitar. (Active) The guitar was played by me. (Passive) ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกหลกั การเปลี่ยนประโยค active เป็นประโยค passive แลว้ ครูช่วยสรุป ดงั น้ี  นาํ กรรมของประโยค active ไปเป็นประธานของประโยค passive  เปล่ียนคาํ กริยาของประโยค active ใหอ้ ยใู่ นรูป passive คือ verb to be + past participle (กริยา ช่องท่ี 3)  ยา้ ยประธานของประโยค active ไปเป็นผกู้ ระทาํ ในประโยค passive โดยมี preposition “by” นาํ หนา้ จากน้นั ครูเขียนประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนเปล่ียนใหอ้ ยใู่ นรูป passive เช่น Tom painted that picture last week. (That picture was painted by Tom last week.) Mum cleans the house every day. (The house is cleaned by mum every day.) I gave him a wallet for his birthday. (He was given a wallet for his birthday by me.) 2. หนังสือเรียน หน้า 88 Ex. 1 นกั เรียนฟังเสียงดนตรีจาก CD และจบั คู่กบั ชนชาติท่ีเป็นตน้ กาํ เนิด ครูรวบรวม คาํ ตอบจากนกั เรียน แลว้ เฉลยคาํ ตอบ พร้อมท้งั เปิ ด CD ใหฟ้ ังตามไปดว้ ย a6 b3 c7 d4 e8 f 1 g5 h2 i 9 3. ครูนาํ เสนอคาํ ศพั ทเ์ ก่ียวกบั ประเภทของเครื่องดนตรี โดยเขยี นคาํ ศพั ทบ์ นกระดาน wind instrument, string instrument, percussion instrument ใหน้ กั เรียนอ่านพร้อมกนั แลว้ ลองเดาความหมาย จากน้นั ครูอธิบาย ความหมายที่ถกู ตอ้ ง

wind instrument (n) = a musical instrument in which sound is produced by the vibration of air, typically by the player blowing into the instrument (เคร่ือง เป่ า) string instrument (n) = a musical instrument with a set of strings that vibrate to produce sound when they are pulled, hit, or rubbed with a bow (เครื่องดีด) percussion instrument (n) = a musical instrument that is sounded by being struck or scraped by a beater (including attached or enclosed beaters or rattles); struck, scraped or rubbed by hand; or struck against another similar instrument (เคร่ืองตีหรือเคาะ) 4. หนงั สือเรียน หน้า 88 Ex. 2a นกั เรียนเขียนหวั ขอ้ ประเภทของเครื่องดนตรีท้งั 3 ประเภทลงในสมดุ แลว้ เขียนช่ือเคร่ืองดนตรีโดยแยกตามประเภทใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกชื่อเครื่องดนตรีแต่ละ ประเภท ครูเขยี นบนกระดาน โดยช่วยเหลือเรื่องคาํ ศพั ทท์ ่ีนกั เรียนไม่รู้ wind: flute, trumpet, trombone, saxophone, recorder, clarinet string: guitar, violin, double bass, cello percussion: xylophone, drum, tambourine, cymbals 5. นกั เรียนอ่านคาํ ศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 88 ซ่ึงเป็นคาํ ศพั ทท์ ี่จะไดพ้ บในบท อา่ น แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คาํ ใดที่ไมร่ ู้สามารถเปิ ดพจนานุกรมได้ oval (adj) = shaped like a circle that is flattened so that it is like an egg (ซ่ึงเป็น รูปไข่) string (n) = a thin wire that is stretched across a musical instrument and is used to produce a range of notes depending on its thickness, length and tightness (สาย, เชือก, เส้น) band (n) = a group of musicians who play modern music together (วงดนตรี) royal courts (n) = the official home of a queen or king (ราชสาํ นกั ) feature(v) = to include someone or something as an important part (ทาํ ใหเ้ ด่น) made from (v) = to create or produce somehing from (ทาํ จาก) brass (n) = a bright yellow metal made from copper and zinc (ทองเหลือง) tube (n) = a long hollow pipe made of metal, plastic, rubber etc., through which liquids or gases move from one place to another (ท่อ) mouthpiece (n) = the part of a musical instrument that you place between your lips (ส่วนที่ ใชป้ ากเป่ าหรือคาบ) beggar (n) = a poor person who lives by asking others for money or food (ขอทาน)

6. หนงั สือเรียน หน้า 88 Ex. 2b นกั เรียนดูภาพและเดาวา่ เครื่องดนตรีชิ้นใดเป็นเคร่ืองเป่ า (wind instrument) ชิ้นใดเป็นเครื่องดีด (string instrument) เคร่ืองดนตรีเหลา่ น้ีมีตน้ กาํ เนิดจากท่ีใด และปัจจุบนั น้ียงั มีคนเล่น อยหู่ รือไม่ ข้ัน Reading นกั เรียนอ่านบทอา่ นเรื่อง Musical Instruments Around The World ในหนงั สือเรียน หนา้ 88 เพื่อหาคาํ ตอบ ของคาํ ถามใน Ex. 2b Background information วง The Beatles ประกอบดว้ ยสมาชิกในวง คือ John Lennon, Paul McCartney, George Harrison และ Ringo Starr วง The Beatles เป็นวงดนตรีท่ีประสบความสาํ เร็จมากท่ีสุด ในประวตั ิศาสตร์เพลงป๊ อป มียอดขายทวั่ โลกมากกวา่ พนั ลา้ นแผน่ George Harrison เป็นมือกีตาร์ นกั แต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ เขาเป็นหน่ึงในสมาชิกของวง The Beatles เสียชีวติ ในปี ค.ศ. 2001 Titanic เป็นภาพยนตร์ท่ี James Cameron เป็นผกู้ าํ กบั เขียนบท และร่วมผลิต ภาพยนตร์ เรื่องน้ีมีเน้ือหาเกี่ยวกบั เรือเดินสมุทร RMS Titanic ที่จมลงระหวา่ งทางในปี ค.ศ. 1912 เหตกุ ารณ์คร้ังน้ีมีผโู้ ดยสารเสียชีวติ มากกวา่ 1,500 คน ข้ัน Post-reading 1. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาํ ตอบใน Ex. 2b จากน้นั ครูเฉลยคาํ ตอบ The tin whistle is a wind instrument. The sitar is a string instrument. The tin whistle is from Ireland and the sitar is from South Asia. They are still played nowadays. 2. หนังสือเรียน หน้า 88 Ex. 3 นกั เรียนหาประโยค passive ในบทอ่าน เมื่อพบแลว้ ใหข้ ดี เส้นใตแ้ ละบอกครูวา่ มีประโยคใดบา้ ง ครูใหน้ กั เรียนเขียนประโยคใหม่ใหอ้ ยใู่ นรูป active จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขยี น ประโยคบนกระดาน Passive: It is believed that the Indian sitar was invented in the 13th century and it was often played at royal courts. Active: People believe that they invented the Indian sitar in the 13th century and they often played it at royal courts.

Passive: In the 1950s, the sitar was used by western jazz bands and became popular in Europe and America. Active: In the 1950s, Western jazz bands used the sitar and became popular in Europe and America. Passive: Today, the electric sitar is played by many different musicians around the world. Active: Today, different musicians play the electric sitar around the world. Passive: It is made from a long, narrow, brass tube with six holes and a plastic mouthpiece. Active: People make it from a long, narrow, brass tube with six holes and a plastic mouthpiece. Passive: It is also called the penny whistle because in the past many beggars used to play it in the streets for money. Active: They also call it the penny whistle because in the past many beggars used to play it in the streets for money. Passive: Today, it is played by many musicians and in many styles of music. Active: Today, Many musicians play it and in many styles of music. 3. หนังสือเรียน หน้า 88 Ex. 4a นกั เรียนทาํ งานคู่ เขียนสิ่งที่ไดเ้ รียนรู้จากบทอ่านน้ีมา 4 อยา่ ง แลว้ ครูสุ่มเรียก นกั เรียน 2-3 คู่ อ่านใหเ้ พื่อนฟัง The tin whistle is a wind instrument from Ireland. The sitar is a string instrument from India. The theme tune from the film ‘Titanic’ had a tin whistle in it. George Harrison from the Beatles played a sitar. จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะคู่เลือกเขยี นบรรยายเครื่องดนตรีในบทอ่านมา 1 ชนิด แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ (ไมซ่ ้าํ กบั คทู่ ี่เรียกไปแลว้ ) อ่านใหเ้ พ่ือนฟัง A tin whistle is a wind instrument that looks like a small flute. It is made from brass with a plastic mouthpiece. A sitar is a string instrument that has got an oval body and a long neck with metal strings. 4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนค่เู ดิมไปคน้ ควา้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เครื่องดนตรีพ้นื เมืองของไทยจากอินเทอร์เนต็ สารานุกรม หรือหนงั สืออา้ งอิงอื่น ๆ ตามรายละเอียด ดงั น้ี name, type, description, how/play, other facts พร้อมท้งั หาภาพประกอบ ถา้ นกั เรียนมีความพร้อมดา้ นอุปกรณ์ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนหาเสียงของเครื่อง ดนตรีดงั กล่าวมาดว้ ย

5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 58 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาํ เป็นการบา้ น ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั Warm up ครูเปิ ดคลิปวิดีโอจากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=17V-bP1XEao ใหน้ กั เรียนดูและออก เสียงตาม จากน้นั ครูถามวา่ มีเคร่ืองดนตรีชนิดใดบา้ งในคลิปวิดีโอที่นกั เรียนไม่รู้จกั ข้ัน Presentation 1. ครูทบทวนคาํ ศพั ทเ์ ก่ียวกบั ประเภทของเครื่องดนตรี wind instrument, string instrument, percussion instrument โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายลกั ษณะของเคร่ืองดนตรีแต่ละประเภท 2. ครูทบทวนเกี่ยวกบั เครื่องดนตรี 2 ชนิด ท่ีไดเ้ รียนรู้จากบทอา่ น โดยสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ใหพ้ ดู บรรยาย ลกั ษณะของเคร่ืองดนตรีใหค้ รูและเพอื่ นฟัง ข้ัน Practice 1. หนงั สือเรียน หน้า 88 Ex. 4b นกั เรียนจบั คกู่ บั เพื่อน แลว้ ใหแ้ ต่ละคนคดิ วา่ เคร่ืองดนตรีชนิดใดที่ตอ้ งการ เลน่ เพราะเหตใุ ด จากน้นั ใหน้ กั เรียนพูดใหค้ ู่ของตนเองฟัง ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน แลว้ สุ่มเรียก นกั เรียน 2 คน พูดใหเ้ พ่ือนในช้นั ฟัง A: I would like to play the piano because I like how it sounds and I think it would be a good skill to have. B: I’d like to play the guitar and then one day I can be in a rock band. 2. หนังสือเรียน หน้า 88 Ex. 5 นกั เรียนแต่ละครู่ วบรวมขอ้ มูลที่คน้ ควา้ มาได้ และสรุปขอ้ มูลตามหวั ขอ้ name, type, description, how/play, other facts จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะคู่เขียนบรรยายเกี่ยวกบั เคร่ืองดนตรีพ้ืนเมืองของ ไทย เม่ือเขยี นเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนแบง่ หนา้ ที่กนั เพื่อฝึกพูดนาํ เสนอ Name bouzouki Type Description traditional Greek string instrument How/play pear-shaped body with a round hole in it and a long neck, comes in two different types (6 strings or 8 strings) with a plectrum

Other facts a similar instrument dates back to 4th century BC but the modern bouzouki comes from 19th century Asia Minor, played in Greek music, and cabaret clubs called ‘Bouzoukia’ The bouzouki The bouzouki is a traditional Greek string instrument. It has got a pear-shaped body with a round hole in it and a long neck. It comes in two different types; either with six strings or with eight. It is played with a plectrum. It dates back to the 4th century BC but the modern bouzouki comes from 19th century Asia Minor. It is played in bouzouki music and at cabaret clubs called ‘Bouzoukia’. ข้ัน Production 1. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคูอ่ อกมาพดู นาํ เสนอเครื่องดนตรีพ้ืนเมืองของไทย พร้อมท้งั แสดงภาพประกอบให้ เพอ่ื นดู ถา้ นกั เรียนและช้นั เรียนมีความพร้อมดา้ นอุปกรณ์ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดเสียงของเครื่องดนตรีดงั กล่าว ใหเ้ พื่อนฟังดว้ ย 2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ และเปรียบเทียบวา่ มีเคร่ืองดนตรีของไทยท่ีมีคลา้ ยคลึงกบั เครื่องดนตรีของประเทศ ทางตะวนั ตกหรือไม่ ถา้ มี ให้นกั เรียนเปรียบเทียบความเหมือน/ความตา่ งในเร่ืองประเภทเคร่ืองดนตรี ลกั ษณะของเคร่ืองดนตรี วสั ดุของเคร่ืองดนตรี เช่น ขลุ่ยกบั ฟรุต ระนาดกบั ไซโลโฟน 3. นกั เรียนทาํ Language Review 7e & Prepositions Exs. 3-4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 111 4. นกั เรียนทาํ Vocabulary Bank 7 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 120-124 7. การวัดและการประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน ตรวจการเขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สมดุ นกั เรียน - เคร่ืองดนตรีที่เรียนรู้จากเรื่องที่อา่ น สังเกตการพูดเก่ียวกบั เคร่ืองดนตรีท่ี แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ตอ้ งการเล่น ประเมินการคน้ ควา้ เครื่องดนตรี แบบประเมินการสาํ รวจ/คน้ ควา้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ พ้นื เมืองของไทยและพูดนาํ เสนอ สังเกตการเปรียบเทียบเครื่องดนตรีของ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ไทยกบั เครื่องดนตรีของประเทศทาง ตะวนั ตก

สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ในการทาํ งาน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 3 ม. 3 3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3 4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 5) พจนานุกรมออนไลน์ 6) อินเทอร์เน็ต สารานุกรม หรือหนงั สืออา้ งอิงอื่น ๆ 7) คลิปวดิ ีโอ

บันทึกหลังสอน วชิ าภาษาอังกฤษพื้นฐาน 6 ( อ23102 กลุมสาระการเรียนรูภ าษตา งประเทศ หนว ยการเรียนรูที…่ 7…เรือ่ ง… Entertainment …วนั ที่สอน……………..……คาบท่.ี ........จำนวน…2..คาบ ผลการจดั การเรียนรู ช้ัน ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คุณลักษณะอันพงึ ปญ หา/ ขอเสนอแนะ ประสงค (A) อปุ สรรค นกั เรียนรอยละ 100 -นักเรียนรอยละ 100 นักเรียนรอ ยละ 100 มี สามารถพดู เก่ียวกบั ความใฝร แู ละมงุ ม่ันใน 3/1 สามารถบอกรายละเอียด เครื่องดนตรีที่อยากเลน่ การเรยี น ได้ ของเรื่อง Entertainment ได นักเรยี นรอ ยละ 100 -นักเรยี นรอ ยละ 100 นักเรียนรอยละ 100 มี สามารถบอกรายละเอียด สามารถพดู เก่ียวกบั ความใฝร แู ละมงุ มนั่ ใน เคร่ืองดนตรีที่อยากเล่น การเรียน 3/2 ของเรื่อง Entertainment ได้ ได -นกั เรียนรอ ยละ 80 นกั เรยี นรอ ยละ 80 สามารถ สามารถพูดเก่ียวกบั นกั เรียนรอยละ 80 มี 3/5 บอกรายละเอียดของเร่ือง เคร่ืองดนตรีท่ีอยากเล่น ความใฝร แู ละมุงมั่นใน Entertainment ได ได้ การเรยี น -นักเรยี นรอยละ 80 นกั เรียนรอ ยละ 80 สามารถ สามารถพูดเกี่ยวกบั นกั เรยี นรอยละ 80 มี 3/6 บอกรายละเอียดของเร่ือง เครื่องดนตรีท่ีอยากเล่น ความใฝร ูแ ละมงุ มั่นใน Entertainment ได ได้ การเรียน นกั เรยี นรอยละ 50 สามารถ -นกั เรยี นรอ ยละ 50 นกั เรียนรอ ยละ 50 มี สามารถพดู เกี่ยวกบั ความใฝร ูและมงุ มนั่ ใน 3/10 บอกรายละเอียดของเร่ือง เครื่องดนตรีท่ีอยากเล่น การเรยี น ได้ Entertainment ได

ลงช่ือ ครผู ูส อน ลงชื่อ………………………..หัวหนากลมุ สาระฯ (นางเฟาซียะห บือฮะ) (นายรสุ ลาน สาแม) 30 มกราคม 2565 30 มกราคม 2565 ลงชือ่ ………………..…………………… (นางสาวเพริศพิศ คูหามุข) รองผอู ำนวยการฝายวชิ าการ ………/……………./………

แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 6 กลมุ สาระการเรียนรู ภาษาตางประเทศ รายวิชา ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน 6 รหสั วชิ า อ 23102 หนวยการเรียนรทู ี่ 7 Entertainment (Writing 7f) ชั้น มัธยมศึกษาปท่ี 3 เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง ครผู สู อน นางเฟาซียะห บอื ฮะ โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา สพม.15 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมี เหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบุหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูดและ การเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 3/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/เร่ือง/ประเดน็ ตา่ ง ๆ ท่ี อยใู่ นความสนใจของสังคม ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมท้งั ให้ เหตุผลประกอบ 2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด การเรียนรู้คาํ ศพั ทท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ละครโทรทศั น์ จะช่วยใหพ้ ดู /เขยี นสื่อสาร แสดงความคดิ เห็นและ ความรู้สึกเก่ียวกบั ละครโทรทศั น์ ซ่ึงเป็นเร่ืองใกลต้ วั และอยใู่ นความสนใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verbs (appeal, can’t wait) Nouns (cast, storyline) Adjective (up-to-date) Functions: Describing about favourite TV series

2) Language Skills My favourite TV series is Grey’s Anatomy It’s a hospital drama. Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ Writing: เขยี นสรุปขอ้ มูลของอีเมลที่อ่าน, 4. สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน เขียนอีเมลเก่ียวกบั ละครโทรทศั น์ท่ีช่ืนชอบ 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) ม่งุ มน่ั ในการทาํ งาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั Warm up 1. ครูเขยี นคาํ วา่ series บนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย series (n) = a set of television or radio broadcasts on the same subject or using the same characters but in different situations (ละครที่ออกอากาศหลาย ๆ ตอนโดยใชช้ ื่อ และตวั ละครเหมือนเดิม) series เป็นคาํ นามนบั ได้ มีรูปเดียวเทา่ น้นั คือ series (ไม่มี serie) เช่น The first episode of the new series is on Saturday. 2. ครูถามนกั เรียนวา่ รู้จกั หรือเคยดูซีรียข์ องอเมริกาหรือขององั กฤษเร่ืองอะไรบา้ ง ครูอาจจะเปิ ดคลิปวดิ ีโอให้ นกั เรียนดูเพอื่ ดึงความสนใจของนกั เรียน ข้ัน Presentation 1. นกั เรียนอา่ นคาํ ศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 89 ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบาย ความหมาย ถา้ คาํ ใดไม่รู้ ใหน้ กั เรียนเปิ ดหาในพจนานุกรม cast (n) = the actors in a film, play or show (ผูร้ ่วมแสดงภาพยนตร์หรือละคร) storyline (n) = the plot (= the series of events that happen in it) (โครงเร่ือง) up-to-date (adj) = modern, recent or containing the latest information (ทนั สมยั ) appeal (v) = to interest or attract someone (ดึงดูดความสนใจ)

can’t wait (v) = to be very excited about something and eager to do or experience it (รู้สึก ตื่นเตน้ ในการทาํ บางส่ิงบางอยา่ ง, อดใจรอไมไ่ หว) 2. นกั เรียนอ่านวลีในหนงั สือเรียน หนา้ 89 Ex. 1a ตามครู แลว้ ช่วยกนั เดาความหมายของวลี a really great series = เป็นละครท่ีเยยี่ มจริง ๆ appeals to everyone = เป็นท่ีน่าสนใจกบั ทุก ๆ คน can’t wait = อดใจรอไมไ่ หว are always up-to-date = ทนั สมยั เสมอ never miss an episode = ไม่เคยพลาดแมแ้ ต่ตอนเดียว 3. ครูนาํ เสนอประโยคที่น่าสนใจที่ใชบ้ รรยายเก่ียวกบั ละครโทรทศั น์ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบาย ความหมายของประโยคเหลา่ น้ี Positive: That series keeps me on the edge of my seat. (ละครเร่ืองน้ีทาํ ฉนั นง่ั ไมต่ ิดเกา้ อ้ีเลย = น่าลุน้ , น่าติดตาม) I can’t bear to miss an episode of ... (ฉนั ทาํ ใจไม่ไดท้ ี่ตอ้ งพลาดตอน ...) This is a really great series. (ละครเรื่องน้ีดีมาก ๆ) I can’t wait … (อดใจรอดู ... ไมไ่ หว) I’m looking forward to watching … (ฉนั ต้งั หนา้ ต้งั ตารอดู ...) This series appeals to everyone. (ละครเร่ืองน้ีเป็นที่น่าสนใจกบั ทกุ คน) Up-to-date series. (เป็นละครท่ีทนั สมยั ) I never miss an episode. (ฉนั ไม่เคยพลาดแมแ้ ต่ตอนเดียว) Negative: Most drama series send me to sleep. (ละครส่วนใหญ่ทาํ ใหฉ้ นั งว่ ง หรือ ละครเร่ืองน้ี น่าเบ่ือมาก ดูแลว้ งว่ ง) I think this series is boring. (ละครเรื่องน้ีน่าเบื่อ) I find … really depressing. (ฉนั คิดวา่ ... น่าหดหู่) ข้ัน Practice Poor cast. (นกั แสดงแยม่ าก) 1. หนงั สือเรียน หน้า 89 Ex. 1a ครูบอกนกั เรียนวา่ วลี A-E ปรากฏอยใู่ นอีเมลดา้ นล่าง ใหน้ กั เรียนเดาวา่ ผเู้ ขียนอีเมลรู้สึกอยา่ งไรกบั ซีรีย์ The writer likes the series very much.

2. หนังสือเรียน หน้า 89 Ex. 1b นกั เรียนอา่ นอีเมลและเติมวลี A-E จาก Ex. 1a ลงในช่องวา่ ง เสร็จแลว้ สุ่ม เรียกนกั เรียนบอกคาํ ตอบ และครูตรวจคาํ ตอบ จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นอีเมลที่เติมคาํ สมบูรณ์แลว้ พร้อมกนั 1 A a really great series 2 E never miss an episode 3 D are always up-to-date 4 C appeals to everyone 5 B can’t wait 3. ครูถามคาํ ถามเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน เช่น  What is Beth’s favourite TV series?  When is it on?  What is it about? ข้ัน Production 1. ครูพิมพอ์ ีเมลดา้ นล่างน้ีแจกนกั เรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านและสรุปขอ้ มูลตามหวั ขอ้ ดงั น้ี series’ name, what channel, what time/when, what it about, writer’s feel/opinion Hi Jeff, My favourite TV series is “Gossip Girls”. It’s on channel 3 at 9.30 every evening from Monday to Wednesday. It’s a really great series about teenagers who have high status in the society. They are high school students. It’s the best teen series and I never miss an episode. The cast is great, storylines are always up-to-date and there are lots of interesting moments I think it has something that appeals to everyone. Do they show it in your country? I’m going to watch it tonight. I just can’t wait. Well, I have to go now. Lee Series’ name: Gossip Girls What channel: channel 3 What time/When: 9:30 pm on Monday to Wednesday What it about: teenagers who have high status in the society Writer’s feel/opinion: best teen series, the cast is great, storylines are always up-to- date, appeals to everyone 2. นกั เรียนทาํ Exs. 5-6 (Collocations & Phrasal verbs) ใน Language Review 7 หนงั สือเรียน หนา้ 111 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 59 Exs. 1-5 ใหน้ กั เรียนทาํ เป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2 ข้นั Warm up ครูใหน้ กั เรียนบอกชื่อละครที่นกั เรียนประทบั ใจ อาจเป็นละครในอดีตหรือปัจจุบนั ก็ได้ พร้อมท้งั บอก เหตุผลที่ทาํ ใหน้ กั เรียนประทบั ใจ ข้นั Pre-writing 1. นกั เรียนอา่ น Study Skillsในหนงั สือเรียน หนา้ 89 และช่วยกนั สรุป 2. หนังสือเรียน หน้า 89 Ex. 2 นกั เรียนอ่านขอ้ ความในกรอบสีเขยี วโดยเฉพาะคาํ ท่ีขดี เสน้ ใต้ แลว้ ตอบคาํ ถาม ท่ีกาํ หนดให้ เสร็จแลว้ ครูรวบรวมคาํ ตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาํ ตอบ 1 my English penfriend, an email in reply to hers/his 2 about my favourite TV series 3 50-60 words 3. หนงั สือเรียน หน้า 89 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนนึกถึงละครโทรทศั น์ท่ีตนเองชื่นชอบ และตอบคาํ ถามโดยเขียน คาํ ตอบลงในสมดุ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื่อนผลดั กนั พดู ถาม-ตอบ 1 Grey’s Anatomy 2 a hospital drama 3 every Wednesday at 7 pm 4 a group of young doctors and medical students 5 the storylines are interesting, the acting is very good and it can be sad one moment and funny the next. 6 Yes, it’s the best hospital drama ever. 4. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 89 Ex. 4 วา่ นกั เรียนจะไดใ้ ชค้ าํ ตอบจาก Ex. 3 มาเขียนอีเมล เกี่ยวกบั ละครโทรทศั นท์ ี่ชื่นชอบตามโครงร่างท่ีกาํ หนดให้ ความยาว 50-60 คาํ 5. นกั เรียนดูโครงร่างการเขยี นอีเมลใน Ex. 4 แลว้ บอกวา่ มีกี่ยอ่ หนา้ (3 ยอ่ หนา้ ) ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบวุ า่ แต่ ละยอ่ หนา้ ตอ้ งเขียนอะไร ยอ่ หนา้ ท่ี 1 ทกั ทาย บอกช่ือละครท่ีชื่นชอบ บอกช่อง วนั และเวลาออกอากาศ บอก เน้ือเร่ือง ของละครวา่ เก่ียวกบั อะไร ยอ่ หนา้ ท่ี 2 ใหค้ วามคิดเห็นเก่ียวกบั โครงเร่ือง นกั แสดง และอ่ืนๆ ยอ่ หนา้ ที่ 3 บอกความรู้สึกที่มีต่อละคร เขยี นปิ ดทา้ ยอีเมล

ข้นั Writing หนงั สือเรียน หน้า 89 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนเขยี นร่างอีเมลตามโครงร่างที่กาํ หนดให้ Dear Sally, My favourite TV series is ‘Grey’s Anatomy’. It’s on Channel 11 at 7 pm every Wednesday evening. It’s a really great series about a group of young doctors and medical students. The storylines are interesting and the acting is very good. It can be sad one moment and funny the next. It’s the best hospital drama ever! Do they show it in your country? Well, I have to go now. Love, Patricia ข้นั Post-writing 1. ครูใหน้ กั เรียนตรวจทานร่างงานเขยี นของตนเอง โดยดูไวยากรณ์ การสะกดคาํ ยอ่ หนา้ และการใชภ้ าษา แลว้ แลกเปล่ียนกนั ตรวจกบั เพื่อน จากน้นั ใหน้ กั เรียนแกไ้ ขร่างงานเขยี นของตนเองให้ถูกตอ้ ง แลว้ เขียน อีเมลส่งครูตามร่างงานเขยี นท่ีแกไ้ ขแลว้ 2. นกั เรียนทาํ Self-Check 7 ในหนงั สือเรียน หนา้ 119 3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 59 Exs. 6-7 ใหน้ กั เรียนทาํ เป็นการบา้ น 7. การวัดและการประเมนิ ผล วธิ กี ารวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน ตรวจการตอบคาํ ถามจากการอ่าน แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ตรวจการเขยี นสรุปขอ้ มลู ของอีเมล สมดุ นกั เรียน - ท่ีอ่าน ประเมินการเขียนอีเมลเกี่ยวกบั ละคร แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้ โทรทศั นท์ ่ีชื่นชอบ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น ในการทาํ งาน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3

3) แบบฝึกหดั SPARK 3 ม. 3 4) คลิปวิดีโอ

บนั ทกึ หลังสอน วชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน 6 ( อ23102 กลุมสาระการเรียนรภู าษตา งประเทศ หนวยการเรยี นรทู …่ี 7…เรือ่ ง… Entertainment …วนั ท่สี อน……………..……คาบท.่ี ........จำนวน…2..คาบ ผลการจดั การเรยี นรู ชั้น ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คุณลักษณะอันพงึ ปญ หา/ ขอเสนอแนะ ประสงค (A) อปุ สรรค 3/1 - นกั เรียนรอ ยละ นกั เรียนรอ ยละ 100 นักเรียนรอ ยละ 100 มี 100สามารถบอก สามารถเขยี นสรุป ความใฝรูและมุงมั่นใน บอกรายละเอียด ขอ้ มูลของอีเมลที่อ่าน การเรยี น ของเรื่องท่ีอา่ น ได้ ได้ 3/2 - นกั เรยี นรอยละ นกั เรยี นรอ ยละ 100 นักเรียนรอ ยละ 100 มี 100สามารถบอก สามารถเขยี นสรุป ความใฝร ูและมุง มน่ั ใน บอกรายละเอียด ขอ้ มลู ของอีเมลที่อ่าน การเรยี น ของเรื่องท่ีอา่ น ได้ ได้ 3/5 - นกั เรยี นรอยละ นักเรยี นรอ ยละ 80 นกั เรยี นรอ ยละ 80 มี 80 สามารถบอก สามารถเขยี นสรุป ความใฝร ูและมุงมัน่ ใน บอกรายละเอียด ขอ้ มูลของอีเมลที่อ่าน การเรียน ของเรื่องท่ีอา่ น ได้ ได้ - นักเรียนรอ ยละ นักเรยี นรอยละ 80 80 สามารถบอก สามารถเขยี นสรุปขอ้ มลู 3/6 บอกรายละเอียด ของอีเมลท่ีอา่ นได้ นกั เรยี นรอยละ 80 มี ของเรื่องท่ีอา่ น เสียง สะกคำ คำศัพท ความใฝรูแ ละมุงมนั่ ใน ได้ เรือ่ ง Music therapy การเรียน ได

3/10 - นักเรียนรอ ยละ นักเรียนรอยละ 50 นกั เรียนรอยละ 50 มี 50 สามารถบอก สามารถเขียนสรุป ความใฝรแู ละมุงม่ันใน บอกรายละเอียด ขอ้ มูลของอีเมลท่ีอา่ น การเรียน ของเรื่องท่ีอา่ น ได้ ได้ ลงชอื่ ………………………..ครผู สู อน ลงชอ่ื ………………………..หัวหนากลมุ สาระฯ (นางเฟาซยี ะห บอื ฮะ) (นายรุสลาน สาแม) 30 มกราคม 2565 30 มกราคม 2565 ลงช่อื ………………..…………………… (นางสาวเพรศิ พิศ คูหามขุ ) รองผูอำนวยการฝา ยวชิ าการ ………/……………./………

กลุมสาระการเรยี นรู ภาษาตางประเทศ แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 7 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน 6 รหสั วชิ า อ 23102 หนวยการเรยี นรทู ่ี 7 Entertainment ( ASEAN corner 7) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ครผู สู อน นางเฟาซียะห บอื ฮะ โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา สพม.15 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 3/3 ระบแุ ละเขียนสื่อที่ไมใ่ ช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ ใหส้ มั พนั ธก์ บั ประโยคและขอ้ ความท่ีฟัง หรืออ่าน ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด และการเขียน ตวั ช้ีวดั ต 1.3 ม. 3/2 พูดและเขียนสรุปใจความสาํ คญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เร่ืองท่ีไดจ้ ากการวิเคราะห์เร่ือง/ข่าว/ เหตุการณ์/สถานการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม ต 1.3 ม. 3/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบ 2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การเรียนรู้งานวรรณกรรม ช่วยใหร้ ู้วิถีชีวติ ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมและประเพณีของชาติตา่ ง ๆ รวมถึง เขา้ ใจความสมั พนั ธใ์ นอดีตระหวา่ งประเทศตา่ ง ๆ ผา่ นงานวรรณกรรมที่มีเคา้ โครงเรื่องคลา้ ยคลึงกนั ตลอดจน ตระหนกั ถึงความสาํ คญั และเห็นคณุ ค่าของงานวรรณกรรม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทักษะเฉพาะวิชา 1) Language Features and Functions Vocabulary: Verb (abduct)

Nouns (morality, folktale, deed, obstacle, gratitude, compassion) Functions: Talking about literature What is your famous story/literature? It’s Phra Apaimanee. 2) Language Skills Speaking: เลา่ เรื่องวรรณคดีไทย, พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั คณุ ค่าของ งาน Reading: วรรณกรรม, เล่าเรื่องประกอบภาพ 4. สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน อา่ นเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) ม่งุ มน่ั ในการทาํ งาน 3) อนุรักษค์ วามเป็นไทย 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up 1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกชื่อวรรณคดีไทยท่ีนกั เรียนรู้จกั เช่น รามเกียรต์ิ อิเหนา พระอภยั มณี แลว้ ครูเลือก มา 1 เรื่อง ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เล่าเรื่องยอ่ 2. ครูใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็นวา่ ประเทศอื่น ๆ ในภมู ิภาคอาเซียนมีงานเขียนดา้ นวรรณกรรมหรือไม่ ถา้ มี นกั เรียนคิดวา่ จะมีวรรณกรรมท่ีมีโครงเรื่องคลา้ ยกบั วรรณคดีไทยหรือไม่ ข้นั Pre-reading 1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นชื่อเรื่อง Sinxay ในหนงั สือเรียน หนา้ 90 แลว้ แสดงความคิดเห็นวา่ ชื่อน้ีน่าจะเป็นช่ือของ อะไร (e.g. literature, character, town) 2. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ อ่านเร่ือง Sinxay ในหนงั สือเรียน หนา้ 90 อยา่ ง รวดเร็วเพื่อหาคาํ ศพั ทย์ าก ครูใหน้ กั เรียนบอกคาํ ศพั ท์ โดยครูเขียนคาํ ศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่าน คาํ ศพั ทต์ ามครูพร้อมกนั จากน้นั ช่วยกนั บอกความหมายของคาํ ศพั ท์ ถา้ คาํ ใดไม่รู้ใหห้ าความหมายจาก พจนานุกรม เช่น morality (n) = principles concerning right and wrong or good and bad behaviour (ความ มีศีลธรรม)

folktale (n) = a very old traditional story from a particular place that was originally abduct (v) passed on to people in a spoken form (นิทานพ้นื บา้ น) = to take somebody away illegally, especially using force (ลกั พาตวั ) obstacle (n) = a situation, an event etc. that makes it difficult for you to do or achieve something (อปุ สรรค) deed (n) = a thing that somebody does that is usually very good or very bad (การ กระทาํ ) gratitude (n) = the feeling of being grateful and wanting to express your thanks (การ รู้คุณ, ความกตญั �)ู compassion (n) = a strong feeling of sympathy for people who are suffering and a desire to ข้นั Reading help them (ความเมตตากรุณา) หนังสือเรียน หน้า 90 Ex. 1 นกั เรียนอ่านประโยคท่ีกาํ หนดใหแ้ ละขดี เส้นใตค้ าํ สาํ คญั แลว้ อ่าน บทอา่ น โดยมองหาคาํ พอ้ งความหมาย (synonym) คาํ ที่มีความหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือกลมุ่ คาํ /วลีที่มี ความหมายเหมือนกนั หรือต่างกนั กบั คาํ สาํ คญั ท่ีขีดเสน้ ใตไ้ ว้ เม่ือพบแลว้ อา่ นใหเ้ ขา้ ใจ แลว้ จึงตอบวา่ ประโยคถูกหรือผิด จากน้นั ครูเฉลยคาํ ตอบ 1T 2F 3T 4F ข้นั Post-reading 1. หนังสือเรียน หน้า 90 Ex. 2 ใหน้ กั เรียนนึกถึงวรรณคดีไทย 1 เรื่อง แลว้ ตอบคาํ ถามท่ีกาํ หนดให้ ลงใน สมุด จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ผลดั กนั เล่าเร่ืองใหเ้ พ่ือนฟัง โดยครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน A: What is your famous story/literature? B: It’s Phra Apaimanee. A: Who is your favourite character? B: It’s Sudsakorn. He is a boy who goes on a journey to find his father, Phra Apaimanee. He receives a gift from his teacher which is a flying horse-like creature called Mar Nin Mang Korn. A: Did the main character meet any obstacles? B: Yes, he did. He had overcome many obstacles. He had to fight with ghosts, a naked man who wanted to steal his creature and giants who wanted to kill him before he met his father. A: What did you learn from this story? B: We should be brave and determined.

2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั คุณคา่ ของงานวรรณกรรม เช่น ไดเ้ รียนรู้วิถีชีวติ ความคิด ความเช่ือของคนในอดีต ไดเ้ รียนรู้ขนบธรรมเนียม ประเพณีโบราณ 3. หนงั สือเรียน หน้า 90 Ex. 3 นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 5-6 คน ครูใหแ้ ต่ละกล่มุ คน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียนมา 1 เรื่อง แลว้ มาเล่าเร่ืองประกอบภาพให้ เพือ่ นฟัง หรือจะทาํ เป็น storyboard ก็ได้ 7. การวัดและการประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน วธิ ีการวัด สมดุ นกั เรียน ร้อยละ 60 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ตรวจการตอบคาํ ถามจากเร่ืองที่อา่ น แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ สงั เกตการเลา่ เร่ืองวรรณคดีไทย แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น สังเกตการพูดแสดงความคิดเห็น อนั พึงประสงค์ เก่ียวกบั คณุ ค่าของงานวรรณกรรม ประเมินชิ้นงานเร่ืองเล่าประกอบภาพ สังเกตความใฝ่เรียนรู้ ความมุ่งมน่ั ใน การทาํ งาน และการอนุรักษค์ วามเป็น ไทย 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3 2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ 3) พจนานุกรมออนไลน์ 4) อินเทอร์เน็ต

บนั ทึกหลังสอน วิชาภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน 6 ( อ23102 กลุมสาระการเรียนรภู าษตา งประเทศ หนว ยการเรียนรทู …ี่ 7…เร่อื ง… Entertainment …วันที่สอน……………..……คาบที่.........จำนวน…2..คาบ ผลการจัดการเรยี นรู ชนั้ ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คุณลกั ษณะอนั พงึ ปญหา/ ขอ เสนอแนะ ประสงค (A) อปุ สรรค นักเรียนรอยละ 100สามารถ - นักเรียนรอย นักเรยี นรอ ยละ 100 มี บอกรายละเอียดของเร่ือง ละ 100 ความใฝรแู ละมงุ มน่ั ใน 3/1 วรรณกรรมท่ีอ่านได้ สามารถพดู การเรยี น แสดงความ คิดเห็น เก่ียวกบั งาน วรรณกรรม ได้ นักเรยี นรอ ยละ 100สามารถ นักเรยี นรอ ยละ 100 นักเรยี นรอ ยละ 100 มี บอกรายละเอียดของเร่ือง สามารถพูดแสดงความ ความใฝร ูและมุงม่ันใน 3/2 วรรณกรรมท่ีอ่านได้ คดิ เห็นเกี่ยวกบั งาน การเรยี น วรรณกรรมได้ นักเรยี นรอ ยละ 80 นักเรียนรอ ยละ 80 นกั เรียนรอ ยละ 80 มี สามารถบอกรายละเอียด สามารถพดู แสดงความ ความใฝรูและมงุ มน่ั ใน 3/5 ของเรื่องวรรณกรรมท่ีอา่ น การเรยี น ได้ คิดเห็นเกี่ยวกบั งาน วรรณกรรมได้ 3/6 นักเรียนรอยละ 80 สามารถ นกั เรยี นรอยละ 80 นักเรยี นรอ ยละ 80 มี บอกรายละเอียดของเร่ือง สามารถพดู แสดงความ ความใฝรแู ละมุงมัน่ ใน วรรณกรรมที่อ่านได้ การเรยี น คดิ เห็นเก่ียวกบั งาน วรรณกรรมได้

3/10 นกั เรียนรอยละ 50 นักเรยี นรอ ยละ 50 นกั เรียนรอยละ 50 มี สามารถบอกรายละเอียด สามารถพดู แสดงความ ความใฝรูและมุงม่นั ใน ของเรื่องวรรณกรรมที่อ่าน การเรียน ได้ คิดเห็นเกี่ยวกบั งาน วรรณกรรมได้ ลงชื่อ ครูผูสอน ลงชอื่ ………………………..หัวหนา กลมุ สาระฯ (นางเฟาซียะห บือฮะ) (นายรสุ ลาน สาแม) 30 มกราคม 2565 30 มกราคม 2565 ลงชอื่ ………………..…………………… (นางสาวเพรศิ พิศ คูหามขุ ) รองผูอำนวยการฝายวชิ าการ ………/……………./………

กลมุ สาระการเรียนรู ภาษาตางประเทศ แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 8 รายวชิ า ภาษาองั กฤษrพื้นฐาน 6 รหสั วิชา อ 23102 หนว ยการเรียนรูท่ี 7 Entertainment (O-NET practice & Fun time 7) ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ 3 เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง ครผู สู อน นางเฟาซยี ะห บือฮะ โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา สพม.15 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี เหตุผล ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม. 3/4 เลือก/ระบหุ วั ขอ้ เรื่อง ใจความสาํ คญั รายละเอียดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ งประกอบ สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาํ ไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ต 2.1 ม. 3/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ 2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาํ ศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยใหพ้ ูด/เขียนสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้ อยา่ งเหมาะสม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Features and Functions Vocabulary: คาํ ศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 2) Language Skills Listening: Writing: ฟังเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาที่เรียนมาแลว้

4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มุง่ มน่ั ในการทาํ งาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm up ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม เพื่อเลน่ เกม Hangman ทบทวนคาํ ศพั ทเ์ ก่ียวกบั รายการโทรทศั น์ ข้นั Presentation 1. ครูทบทวนไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 ดว้ ยการใหน้ กั เรียนระดมสมองพดู บอกไวยากรณ์ที่เรียนรู้ใน หน่วยน้ี ครูเขียนตามที่นกั เรียนบอกบนกระดานในรูปของ mind map จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั พูดบอก โครงสร้างประโยคและหลกั การใช้ a/an - the The The passive causative ไวยากรณ์ (hdaovnees)th หน่วยการ เรียนรู้ท่ี 7 REemflpehxaivtiec/ pronouns 2. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ผลดั กนั ส่งตวั แทน 1 คน ออกมาหนา้ ช้นั เพื่อเขยี นประโยค active 1 ประโยคบนกระดาน ใหก้ ลมุ่ อ่ืน ๆ เปล่ียนเป็นรูป passive กลมุ่ ที่เขียนประโยคถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน กลุ่ม ใดมีคะแนนมากท่ีสุดจะเป็นผชู้ นะ

ข้นั Practice 1. หนงั สือเรียน หน้า 92 Ex. 1 นกั เรียนรวมกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน แข่งขนั กนั ทาํ อกั ษรไขว้ เสร็จแลว้ ใหต้ วั แทน แตล่ ะกลุม่ บอกคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดาน เพอ่ื หาคาํ ศพั ทท์ ่ีอยใู่ นแถบสีม่วง 1 musician 2 stadium 3 percussion 4 cinema 5 band 6 programme Hidden words: string 2. หนังสือเรียน หน้า 92 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนทาํ quiz โดยห้ามเปิ ดดูเน้ือหา เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนเปรียบเทียบ คาํ ตอบกบั เพ่ือน จากน้นั ครูจึงเฉลยคาํ ตอบ 1T 2T 3 T 4 F (It is a string instrument) 5 F (Andrew Stanton did) 6T 3. หนงั สือเรียน หน้า 92 GAME ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม เพอ่ื เลน่ เกม ใหแ้ ต่ละทีมส่งตวั แทนออกมาเล่นเกม คร้ังละ 1 คน โดยให้ตวั แทนทีมหน่ึงพูดคาํ กริยา 1 คาํ ในรูป active และตวั แทนอีกทีมหน่ึงตอ้ งแต่งประโยค passive จากคาํ กริยาดงั กลา่ ว ถา้ แตง่ ประโยคถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมใดมีคะแนนมากกวา่ จะเป็นผชู้ นะ เช่น Team A S1: played Team B S1: The sitar was played by the royal courts. 4. หนงั สือเรียน หน้า 92 Ex. 4 นกั เรียนอ่านคาํ /วลีท่ีใหม้ า และเดาวา่ คาํ /วลีเหลา่ น้ีเก่ียวขอ้ งกบั ดนตรีอยา่ งไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านเน้ือเพลงตามไปดว้ ยเพื่อหาคาํ ตอบ They can all be used to make music. 5. หนังสือเรียน หน้า 91 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาํ ขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาํ ตอบร่วมกนั ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพิม่ เติม Ex. 1 1 d 2b Ex. 2 1 a 2 b 3 b 4 a 5 d ข้นั Production หนังสือเรียน หน้า 68 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั ครูแจกกระดาษใหค้ ูล่ ะ 1 แผน่ ใหแ้ ต่ละคู่คิดคาํ ถาม quiz 5-6 ขอ้ เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 โดยเขยี นคาํ ตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ ครูช่วยยกตวั อยา่ ง เช่น

James Cameron stars in Terminator 2. (F) จากน้นั ให้นกั เรียนทาํ งานโดยสามารถเปิ ดดูเน้ือหาได้ เมื่อทกุ ค่คู ิดคาํ ถามเสร็จแลว้ ให้แลกกนั ทาํ quiz กบั คู่อ่ืน 1 Arnold Schwarzenegger stars in Terminator 2. (T) 2 The Dark Knight is a film about Batman. (T) 3 The Magic Flute was composed by Giuseppe Verdi. (F) 4 Pablo Picasso painted The Mona Lisa. (F) 5 The tin whistle is made of tin. (F) 6 The sitar has metal strings. (T) 7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน วิธีการวัด - ร้อยละ 60 ตรวจการเขยี น quiz เกี่ยวกบั เน้ือหา แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 อนั พึงประสงค์ สงั เกตความมงุ่ มน่ั ในการทาํ งาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน SPARK 3 ม. 3 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 3 ม. 3

บนั ทึกหลังสอน วชิ าภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 6 ( อ23102 กลุมสาระการเรียนรภู าษตางประเทศ หนว ยการเรยี นรูท่…ี 7…เรือ่ ง… Entertainment …วนั ท่ีสอน……………..……คาบที่.........จำนวน…2..คาบ ผลการจัดการเรยี นรู ช้นั ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) คณุ ลักษณะอนั พงึ ปญ หา/ ขอ เสนอแนะ ประสงค (A) อุปสรรค นกั เรยี นรอยละ 100 นักเรียนรอยละ 100 นักเรียนรอ ยละ 100 มี สามารถบอกความหมาย สามารถเขยี น quiz ความใฝรูและมุงมน่ั ใน 3/1 ของคำศัพทคาํ ศพั ทแ์ ละ เกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีเรียน การเรยี น ไวยากรณ์ที่เรียนมาแลว้ ใน มาแลว้ ได้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 นกั เรยี นรอยละ 100 นักเรียนรอยละ 100 นักเรยี นรอ ยละ 100 มี สามารถบอกความหมาย สามารถเขยี น quiz ความใฝร แู ละมงุ ม่ันใน 3/2 ของคำศัพทคาํ ศพั ทแ์ ละ เกี่ยวกบั เน้ือหาที่เรียน การเรียน ไวยากรณ์ที่เรียนมาแลว้ ใน มาแลว้ ได้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 นกั เรยี นรอยละ 80 สามารถ นกั เรียนรอ ยละ 80 นักเรยี นรอ ยละ 80 มี บอกความหมายของคำศัพท สามารถเขียน quiz ความใฝร แู ละมงุ ม่นั ใน 3/5 คาํ ศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ที่ เกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีเรียน การเรียน เรียนมาแลว้ ในหน่วยการ มาแลว้ ได้ เรียนรู้ท่ี 7 นักเรยี นรอ ยละ 80 สามารถ นักเรยี นรอยละ 80 นกั เรียนรอ ยละ 80 มี บอกความหมายของคำศัพท สามารถเขียน quiz ความใฝรูและมงุ มน่ั ใน 3/6 คาํ ศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ที่ เกี่ยวกบั เน้ือหาที่เรียน การเรียน เรียนมาแลว้ ในหน่วยการ มาแลว้ ได้ เรียนรู้ท่ี 7

นกั เรียนรอ ยละ 50 สามารถ - นักเรียนรอย บอกความหมายของคำศัพท ละ 50 3/10 คาํ ศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ที่ สามารถเขียน นกั เรียนรอ ยละ 50 มี เรียนมาแลว้ ในหน่วยการ quiz เก่ียวกบั ความใฝร แู ละมุงมน่ั ใน เน้ือหาท่ีเรียน การเรยี น เรียนรู้ท่ี 7 มาแลว้ ได้ ลงชอ่ื ครูผสู อน ลงช่อื ………… ……………. .หวั หนา กลมุ สาระฯ (นางเฟาซยี ะห บอื ฮะ) (นายรสุ ลาน สาแม) 30 มกราคม 2565 30 มกราคม 2565 ลงชอ่ื ………………..…………………… (นางสาวเพริศพิศ คหู ามขุ ) รองผอู ำนวยการฝา ยวชิ าการ ………/……………./………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook