การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ิตประจำวนั ดสุ ิตา ครฑุ สา กลมุ่ 8 เลขที่ 15 รายงงานนี้เปน็ ส่วนหนึ่งของการศึกษาวชิ าการคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ สาขาเทคโนโลยีดจิ ิทลั เพือ่ การศกึ ษา คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ิตประจำวนั ดสุ ิตา ครฑุ สา กลมุ่ 8 เลขที่ 15 รายงงานนี้เปน็ ส่วนหนึ่งของการศึกษาวชิ าการคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ สาขาเทคโนโลยีดจิ ิทลั เพือ่ การศกึ ษา คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564
ก คำนำ รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อปฏิบัติการเขียนรายงานการค้นคว้าทีถ่ ูกต้องอย่างเป็นระบบ อัน เป็นสว่ นหนึ่งของการศึกษารายวชิ า 01-210-017 การค้นคว้าและการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ ซ่ึงจะ นำไปใช้ในการทำรายงานค้นคว้าสำหรับรายวิชาอื่นได้อีกต่อไป การที่ผู้จัดทำเลือกทำเรื่อง “การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวนั ” เนื่องด้วยในปัจจุบันการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาชว่ ย ปฏิบตั งิ านในด้านต่าง ๆ อยา่ งมปี ระสิทธผิ ล มีมากมายหลายด้าน ดงั น้นั จึงมคี วามจำเป็นอย่างมากท่ี จะตอ้ งนำเสนอความร้คู วามเข้าใจท่ถี กู ต้องเกย่ี วกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ิตประจำวัน รายงานเลม่ นีก้ ลา่ วถึงเนื้อหาเกยี่ วกับความหมาย ประเภท ความสำคัญ วัตถุประสงค์ของการ บำรุงรักษาเครื่องจักร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในชีวติ ประจำวันท่ถี กู ตอ้ ง และทราบแนวทางการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ติ ประจำวนั ขอขอบคุณผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และคำแนะนำโดย ตลอด และขอขอบคุณบรรณารักษ์และเจ้าที่ของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนสนเทศ และ ห้องสมุดคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่ให้ความสะดวกในการค้นหาข้อมูล รวมไปถึงท่านเจ้าของ หนังสือ บทความ ที่ผู้เขียนใช้อ้างอิงทุกท่าน หากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้เขียนข้อน้อมรับไว้เพ่ือ ปรับปรุงต่อไป ดุสติ า ครพุ สา 18 ตุลาคม 2564
ข สารบัญ หนา้ คำนำ................................................................................................................................................. ก สารบญั .............................................................................................................................................. ข บทท่ี 1 บทนำ…………………………………………………………………………………………………………………………… 1 1.1 ความหมายของการใช้เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั ………………………………………………………. 1 1.2 ความสำคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ……………………………………………………………………….. 4 1.3 การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาใช้ในชีวติ ประจำวนั ………………………………………………… 5 1.4 ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ…………………………………………………………………………… 6 1.5 ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศตอ่ ชวี ิตความเป็นอยแู่ ละสงั คม……………………………….. 13 2 ขน้ั ตอนของการใช้เทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวัน…………………………………………………………………. 16 2.1 วิเคราะหเ์ นื้อหาของการใชเ้ ทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั ……………………………………………… 17 2.2 ระบุคำสำคัญหรือคำคน้ หา เขยี นสาระสำคัญ เขียนแหลง่ อา้ งองิ ของคำสำคญั ……………… 17 2.3 กำหนดช่องทางการเผยแพร่ฐานความรขู้ องการใชเ้ ทคโนโลยีในชวี ติ ประจำวัน……………… 18 2.4 ดำเนินการอธิบายเก่ียวกับการใชเ้ ทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวนั ……………………………………… 18 2.5 ประเมนิ คุณภาพของการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน……………………………………………… 19 3 การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในชีวติ ประจำวนั ………………….…………………………………… 20 3.1 ค้นหาความร้แู ละการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ติ ประจำวนั ……………………………………. 20 3.2 ค้นหาทรพั ยากรความรู้การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในชีวติ ประจำวนั ……………………………. 23 3.3 อธิบายการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ิตประจำวนั ทรัพยากรความร้…ู ……………………..... 26 เกยี่ วกบั การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในชีวติ ประจำวัน 4 สรปุ …………………………………………………………………………………………………………………………….. 29 บรรณานุกรม…………………………………………………………………………………………………………………… 31
บทท่ี 1 บทนำ การใช้เทคโนโลยีในชวี ิตประจำวันในยุคนคี้ งจะไม่สามารถท่จี ะปฏิเสธไดเ้ ลยวา่ เทคโนโลยีไม่มี ความจำเป็นสำหรบั การดำเนนิ ชวี ิตของมนุษย์ เพราะทกุ คนลว้ นใช้เทคโนโลยเี พ่ืออำนวยความสะดวก ในชีวิตในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การตื่นนอนจนถึงการเข้านอน ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับ มนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ชีวิตประจำวันมีแต่ความเร่งรีบต้องแข่งขันกับเวลา การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่นอกจากจะช่วย อำนวยความสะดวกในการทำงานแลว้ ยงั ช่วยยน่ ระยะเวลาทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ให้สั้นลง แต่อย่างไรก็ตาม การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะในบางคร้ังก็นำโทษมาให้แก่มนุษยด์ ว้ ยเช่นกัน ยกตัวอย่างทสี่ ามารถเห็นไดช้ ัดเจนก็คงจะหนีไม่ พ้นเรอ่ื งท่เี ป็นขา่ วตามหนา้ หนังสอื พิมพ์ในเรื่องของการถูกลวงไปข่มขืน โดยสาเหตุหลกั ๆ ของการถูก ล่อลวงไปข่มขืน ก็เป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากการพูดคุยกันผ่าน ทางโปรแกรมการสนทนาออนไลน์(Chat) และจากการที่สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นสื่อเสรีไม่มีองค์กรใด ๆ เขา้ มาควบคมุ ดูและจงึ ทำใหอ้ นิ เตอร์เนต็ กลายเปน็ ช่องทางหนง่ึ ในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างกลุ่มคน ที่ไม่หวังดี เช่น กลุม่ กอ่ การร้าย หรอื กล่มุ คนท่ีตอ้ งการกอ่ ดังนั้นกลุ่มข้าพเจ้าคิดโครงงานนี้เพื่อศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน และเพอ่ื เป็นแนวทางในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทคได้อยา่ งถูกต้องและหลากหลาย จากท่ีกล่าวมาจะ เหน็ ได้ว่าเทคโนโลยีมีทั้งประโยชน์และโทษ ดงั นัน้ การใชเ้ ทคโนโลยีที่ถูกวิธจี ึงเป็นส่ิงท่ีสำคัญ และต้อง ไม่ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดท่ีจะส่งผลใหเ้ กิดความเสียหายต่อทั้งตนเองและผู้อื่น และในขณะเดียวกนั มนุษยเ์ รากจ็ ะตอ้ งหันกลับมาพึ่งพาตัวเองบา้ ง และใช้เทคโนโลยีเฉพาะเท่าท่จี ำเป็น 1.1 ความหมายของการใช้เทคโนโลยใี นชีวิตประจำวนั 1.1.1 ทำให้งานมีความสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่ นำมาใช้ในงานสำนักงาน ได้แก่ เครือ่ งพิมพ์ดีด อิเลก็ ทรอนิกส์ โทรศพั ท์ เครอ่ื งถา่ ยเอกสาร ผลิตภัณฑ์ เหล่านี้นำไปประยกุ ตใ์ ช้กบั งานสำนกั งานได้หลายลักษณะ เช่น 1.งานจัดเตรียมเอกสาร เป็นการใช้เครื่องประมวลผลคำหรือเครื่องประมวลผล เนื้อหา เป็นเครื่องมือในการจัดเตรียม อุปกรณ์ประกอบการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ เครื่อง คอมพวิ เตอร์ โมเดม็ และชอ่ งทางการส่อื สาร ระบบประมวลผลคำ แบ่งออกได้ 2 ระบบ คอื
2 ระบบเดี่ยว (Stand – alone) เป็นระบบที่สามารถประมวลผลได้ภายใน คอมพิวเตอรช์ ุดเดยี ว หรอื จะเช่อื มโยงไปยังคอมพวิ เตอร์อนื่ ๆ ระบบเชื่อมโยงกับข่ายการสื่อสาร เป็นระบบที่มีการเชื่อมโยงสารสนเทศซึ่งกัน และกนั ผา่ นเครือขา่ ยโทรคมนาคม เช่น เครือขา่ ยโทรศัพท์ เครือขา่ ยคอมพิวเตอรง์ านกระจายเอกสาร เป็นการกระจายข้อมูลสารสนเทศไปยังผู้ใช้ ณ จุดต่าง ๆ อาจกระทำโดยการเชื่อมโยงผ่านเครือข่าย โทรคมนาคม อุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศที่สามารถปฏิบัติงานกระจายเอกสารไดโ้ ดยอัตโนมัติ ได้แก่ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ งานจัดเก็บและค้นคืนเอกสาร สามารถทำได้ทั้งระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือผ่านเครือข่ายโทคมนาคมรูปแบบอื่น เช่นระบบฐานข้อมูล เป็นต้น งานจัดเตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ดำเนินงาน ดงั กล่าว ไดแ้ ก่ เครื่องคอมพวิ เตอร์ เครือ่ งสแกนเนอร์ โทรทัศน์ งานส่ือสารสนเทศด้วยเสยี ง เชน่ โทรศพั ท์ การประชมุ ทางโทรศัพท์ งานสื่อสารสนเทศด้วยภาพและเสียง เช่น ระบบมัลติมีเดีย ระบบการประชุม ทางไกลด้วยภาพและเสยี ง เป็นต้น 2. การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในงานอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเข้ามาช่วยในการจัดการระบบงานการ ผลติ การสง่ั ซือ้ การพสั ดุการเงิน บคุ ลากร และงานด้านอน่ื ๆ 3. การประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในรูปแบบของเครื่องเบกิ ถอนเงนิ อตั โนมัติ เพ่อื อำนวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน และนำคอมพิวเตอรร์ ะบบออนไลน์และออฟไลนเ์ ข้ามาชว่ ยในการทำงานประจำวันของ ธนาคารดว้ ยการเชอื่ มโยงข้อมูลของธนาคารตา่ งสาขา ต่างธนาคาร ทำใหผ้ ูใ้ ชบ้ ริการสามารถเบิก ถอน โอนเงินชำระเงนิ ค่าใชจ้ ่ายตา่ ง ๆ ไดโ้ ดยสะดวก 4. การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานด้านการส่ือสาร ได้แก่ การบริการโทรศัพท์วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสอื่ สารร่วมระบบดจิ ติ อล 5. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานดา้ นสาธารณสุข ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ถูกนำมาใช้ในระบบงานเวชระเบียน ระบบข้อมูลยาการรักษาพยาบาล การคิดเงิน รวมทัง้ การสง่ เวชระเบยี นผา่ นระบบโทรคมนาคมทอ่ี าจเรยี กว่า โทรเวชได้
3 ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาใช้ในการดูแลรักษาโรคระบาดใน ท้องถิ่น เชน่ เมอ่ื มีผปู้ ่วยโรคอหิวาตกโรคในหมบู่ า้ น ซ่ึงอาจกลายเปน็ โรคระบาดได้ ระบบผู้เชี่ยวชาญ เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยโรค เช่น ระบบ Mycin ของมหาวิทยาลัยสแดนฟอร์ด โดยเริ่มมาใช้ในการวินจิ ฉัยโรคพืชและโรคสัตว์ ที่ใช้หลกั การเก็บข้อมลู ต่าง ๆ ไว้โดยละเอียดแล้วใช้หลักปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เป็นแนวคิดในการทำให้ คอมพิวเตอรท์ ำงานได้เหมอื นมนุษย์ 6. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศกับงานด้านการฝึกอบรมการศึกษา การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นการนำเอาคำอธิบาย บทเรียนมาบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้วนำบทเรียนนั้นมาแสดงแก่ผู้เรียน เมื่อผู้เรียนอ่านคำอธิบาย เหล่านั้น คอมพิวเตอร์จะมสี ่วนที่ใช้ทดสอบความเข้าใจของผู้เรียนดว้ ยว่าถูกต้องหรือไม่ หากเข้าใจไม่ ถูกตอ้ งคอมพวิ เตอร์จะทำการอธบิ ายเน้ือหาเพ่ิมเติมให้เขา้ ใจมากขนึ้ แล้วถามซ้ำอกี การศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการจัดการศึกษาทางไกลมีหลายแบบตั้งแต่ แบบง่าย ๆ เช่น การเรียนการสอนผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ออกอากาศให้ผู้เรียนศึกษาเอง ตามเวลาที่ ออกอากาศ ไปจนถึงใช้ระบบแพร่ภาพการสอนผ่านดาวเทียม หรือการประยุกต์ใช้ระบบประชุม ทางไกล โดยผู้สอนและผู้เรียนสามารถสื่อสารถึงกันได้ทันที่ เพ่ือสอบถามข้อสงสัยหรอื อธิบายคำสอน เพ่มิ เติม เครือข่ายการศึกษา เป็นการจัดทำเครือข่ายการศึกษาเพื่อให้ครูอาจารย์และนักศึกษามี โอกาสใช้เครือขา่ ยเพ่ือแสวงหาความรู้ท่ีมีอยูม่ ากมายในโลก และใช้บรกิ ารต่าง ๆ ทเ่ี ป็นประโยชน์ทาง การศึกษา เช่น บริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail : E-mail) การเผยแพร่และ คน้ หา ขอ้ มลู ในระบบเวิลดไ์ วด์เว็บ (World Wide Web) การใช้งานในห้องสมุด มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการดำเนินงานโดยมี เครอื ข่ายตา่ ง ๆ ท่ใี ห้การสง่ เสริมสนบั สนนุ ในการใหบ้ รกิ ารหอ้ งสมุด การนำเทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ในห้องสมุดให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการยืม คืน การค้นหา หนังสอื วารสาร ส่ิงพิมพ์ หรือการค้นหาข้อมลู ทต่ี อ้ งการทำไดอ้ ย่างสะดวกและรวดเร็วมาก การใช้งานในห้องปฏิบัติการ มีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำงานใน ห้องปฏิบัติการร่วมกับอุปกรณ์เครื่องมืออื่น ๆ เช่น การจำลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟ้า การ ควบคุม การทดลอง การใช้ในงานประจำและงานบริหาร เช่น การจัดทำทะเบียนประวัติของนักเรียน นักศึกษา การเลือกวิชาเรียน การลงทะเบียนเรียน การแสดงผลการเรียน การแนะแนวอาชีพ การแนะแนว
4 การศึกษาต่อ การเก็บข้อมูลผู้ปกครองหรือข้อมูลครู ซึ่งทำให้ครูอาจารย์สามารถติดตามและดูแล นกั เรียนได้ใกลช้ ิดมากข้ึน รวมทั้งครอู าจารยส์ ามารถพฒั นาตนเองไดส้ งู ขึน้ 1.2 ความสำคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีพัฒนาการที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว มีการปรับปรุงเครื่องมือ เครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์กับงานสารสนเทศอยู่ตลอดเวลา ทำให้วงการวิชาชีพหันมาปรับปรงุ กลไกใน วิชาชีพของตนให้ทันกับสังคมสารสนเทศ เพื่อให้ทันต่อกระแสโลก จึงทำให้เกิดการบริการรูปแบบ ใหม่ๆ ขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต การให้บริการส่งข่าวสาร SMS หรือการ โหลดเพลงผา่ นเครือขา่ ยโทรศัพทม์ ือถือ นอกจากนหี้ น่วยงานตา่ งๆ ยังได้สรา้ งระบบงานสารสนเทศใน หน่วยงานของตนเองขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น การทำเว็บไซด์ของหน่วยงานเพื่อใช้ประโยชน์จาก สารสนเทศเหลา่ น้นั เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางและคุม้ ค่า โดยสารสนเทศเข้ามามีบทบาทใน การจัดทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อใช้ในการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ การปฏิบัติงาน การแก้ปัญหา หรือ การตัดสนิ ใจ เพื่อการวางแผนและการจัดการดงั นนั้ เทคโนโลยสี ารสนเทศจึงมีบทบาทและความสำคัญ มากในปัจจุบัน และมีแนวโน้วที่จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในอนาคต เพราะเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือใน การดำเนินงานสารสนเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นับตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ การ ประมวลผล การเรยี กใช้ การสอื่ สารสารสนเทศ การแลกเปลี่ยนและใชท้ รพั ยากรสารสนเทศร่วมกันให้ เกดิ ประโยชน์อย่างเตม็ ท่ีความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ (สนุ ทร แกว้ ลาย. 2531:166) พอสรุป ไดด้ ังนี้ 1.ช่วยในการจัดระบบขา่ วสารจำนวนมหาสารในแตล่ ะวัน 2.ช่วยเพมิ่ ประสิทธิภาพการผลิตสารสนเทศ 3.การจัดเรียงลำดับสารสนเทศ ฯลฯ 4.ชว่ ยในการจดั เกบ็ สารสนเทศไว้ในรปู ท่เี รียกใช้ได้ทุกครัง้ อย่างสะดวก 5.ช่วยในการจัดระบบอัตโนมัติ เพื่อการจัดเกบ็ การประมวลผล และการเรียกใชสารสนเทศ 6.ชว่ ยในการเขา้ ถึงสารสนเทศไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ มปี ระสิทธิภาพมากขน้ึ 7.ช่วยในการสื่อสารระหว่างกันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดอุปสรรคเกี่ยวกับเวลาและ ระยะทาง โดยใช้ระบบโทรศพั ท์ และอ่นื ๆ
5 1.3 การนำเทคโนโลยสี ารสนเทศเข้ามาใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธ ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)หรือที่เรียกว่าITได้ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นการสื่อสาร ข้อมลู เป็นไปดว้ ย ความรวดเร็วและเชอื่ มโยงกนั อย่างทว่ั ถึงและกว้างขวาง(Globalization) เทคโนโลยี ทางด้านการสื่อสาร(Communication)และคอมพิวเตอร(์ Computer) ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือใน การติดตอ่ แลกเปลย่ี นสารสนเทศ (Information) ท่ีมีประสิทธภิ าพทำให้เกดิ เครือขา่ ยขอ้ มูลครอบคลุม ทั่วโลกหรอื WWW(Worldwide Web)ท่เี ราเห็นไดจ้ ากการใช้งานในระบบอินเตอร์เนต็ (Internet)ซ่ึงได้ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวติ ประจำวันไปแล้วและกำลังขยายปริมาณจำนวนผู้ใช้มากขึ้นๆในทุกวนั มี การใช้Internetในการสืบค้นขอ้ มูลความรูท้ ่วั ไปการติดต่อ ส่อื สารในรูปแบบตา่ ง ๆเชน่ การส่งจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail), การพูดคุย (Chat)หรือ การใช้ Video conference เป็นต้น การทำธุรกิจ การค้า(e-commerce)การใช้เพื่อการบันเทิงต่างๆ เป็นการดูหนัง,ฟังเพลง,การอ่านนิตยสาร อิเล็กทรอนิกส์(e-Magazine) รวมทั้งe-Bookที่อาจมาแทนที่กระดาษโนอนาคตอันใกล้ ในปัจจุบันน้ี การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอาจส่งผลกระทบได้ทั้งทางบวกและทางลบ กล่าวคือ ผลกระทบทางบวก นนั้ ไดแ้ ก่ ในด้านการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวันน้นั เทคโนโลยีชว่ ยสง่ เสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ช่วย ทำให้ความเปน็ อยขู่ องมนุษยด์ ีขึ้น ชว่ ยสง่ เสรมิ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้มนุษย์มีเวลาว่าง เพื่อใช้ในในทางที่เกิดประโยชน์มากขึน้ มีเครื่องมือสื่อสาร โทรคมนาคมทีท่ ันสมัยใหม่ ให้ติดต่อกันได้ สะดวกรวดเร็ว และยงั มเี ครื่องอำนวยความสะดวกอีกหลายๆ อย่าง แมแ้ ต่ในภาคหนว่ ยงานราชการก็ ยังมกี ารนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยกุ ต์ใช้ เช่น สำนกั บรหิ ารการทะเบียน กรมการปกครองได้นำ ยุทธศาสตร์ e-Government มาใช้ในการเก็บข้อมูลทะเบียนราษฎร์หกสิบหกล้านระเบียน, บันทึก ทะเบียนเกิด ทะเบียนแต่งงาน ทะเบียนหย่า ทะเบียนปืน, บันทึก ตรวจสอบการย้ายเข้า-ออก การ เปลี่ยนชื่อ-สกุล, อำนวยความสะดวกในการจัดทำบัตรประชาชน กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ได้ใช้ เทคโนโลยีในการบันทึกราคาสนิ ค้าในจังหวดั ตา่ ง ๆ เป็นประจำ, สง่ ขอ้ มูลราคาสนิ ค้าจากจังหวัดเข้าสู่ กรมฯ, คำนวณสถติ ริ าคาสินคา้ และดชั นีค่าครองชีพ, จัดทำฐานข้อมูลราคาสินค้าต่าง ๆ หรือแม้แต่ใน มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาก็ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ในการลงทะเบียนวิชาเรียนและเก็บค่า หน่วยกิต, ตรวจข้อสอบและคิดระดับคะแนน, บันทึกข้อมูลและจัดทำฐานข้อมูลนักศึกษา, บันทึก ข้อมูลหนังสือ และ การยืมคืน, จัดทำบัญชี และ รายงานเกี่ยวกับการศึกษา ส่วนโรงพยาบาลได้ นำมาใชใ้ นการบนั ทึกและค้นหาเวชระเบียนผูป้ ว่ ย, จัดทำฐานข้อมลู ยาและเวชภณั ฑ์, คดิ เงินคา่ ยาและ จัดทำบัญชีต่าง ๆ , จัดทำสถิติผู้ป่วยและพิมพ์รายงานส่งกระทรวง, ใช้อุปกรณ์การแพทย์ที่ควบคุม
6 ด้วยคอมพิวเตอร์ ในภาคธุรกิจก็นำมาใช้เช่นเดียวกัน ได้แก่ ธนาคารมีการใช้ระบบฝากถอนเงินทุก ประเภท ระบบ ATM, ระบบตรวจสอบสินเชื่อ, OFFICE BANKING & HOME BANKING งานค้าปลีก มีการใช้ระบบซ้ือสินค้ามาขาย, ระบบสินค้าคงคลังและการจัดทำรหสั แท่ง(Bar Code), ระบบเก็บเงนิ ลูกค้า, ระบบบัญชี, ระบบบัตรเครดิต โรงแรมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจองห้องพักแบบต่าง ๆ, การ ลงทะเบียนเข้าพัก, การคิดเงินค่าห้องพักและบริการต่าง ๆ , การจัดทำบัญชีต่าง ๆ , การให้บริการ สื่อสารและอินเทอร์เน็ต ในภาคอุตสาหกรรมมกี ารออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยระบบ Computer Aided Design, ตรวจสอบแบบผลิตภัณฑ์โดยอัตโนมัติ, จัดทำโปรแกรมควบคุมเครื่องจักรการผลิต, บันทึก ระบบวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง, ระบบ Computer Integrated Manufacturing เป็นต้น อย่างไรก็ ตามการนำเทคโนโลยีมาใช้ก็อาจส่งผลกระทบทางลบได้เช่นเดียวกัน กล่าวคือ เทคโนโลยีสามารถ นำมาใช้ในการอาชญากรรมได้ โจรผูร้ ้ายใชเ้ ทคโนโลยีในการวางแผนปล้น ลกั ลอบข้อมมลู ฯลฯ , การ ใชค้ อมพวิ เตอร์หรืออปุ กรณส์ อื่ สาร โดยไม่ต้องเหน็ ตัว ทำให้ความสมั พันธ์กับผูอ้ ืน่ ลดน้อยเสื่อมถอยลง, ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวลว่าอาจจะต้องตกงานเพราะ โรงงานส่วนมากจะใช้เครื่องจกั รแทนคนงานมากขึ้น ซึ่งความคิดเหล่านี้จะเกิดกับคนบางกลุ่มเท่านั้น, เกิดการพัฒนาอาวุธมากขึ้นสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างเป็นอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายล้างสูง ทำเส่ยี งตอ่ การเกิดสงคราม ฯลฯ เป็นตน้ ดังนั้นจะเห็นว่าเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นเป็นสิ่งที่ยังคงเกี่ยวข้อง สัมพันธ์กับการดำรงชีวิตของมนุษย์ ตราบใดที่เรายังต้องพ่ึงเทคโนโลยีอยู่ แต่ผลกระทบต่อมนุษยท์ ีจ่ ะเกิดแก่มนุษย์น้ันจะร้าย ดี มากน้อย เพยี งใดขน้ึ อยู่กับมนษุ ย์ซง่ึ เป็นผู้ประดษิ ฐ์ คดิ ทำ และนำเทคโนโลยีสารสารเทศมาใชน้ ัน่ เอง 1.4 ประโยชนข์ องเทคโนโลยีสารสนเทศ การนำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้กับสังคมสารนิเทศใน ปัจจุบันก่อให้เกิดการสื่อสารและการ ใช้ประโยชน์ จากสารนิเทศได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพ ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารนิเทศมี ดงั ต่อไปนี้ คอื 1. ช่วยให้ติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างสะดวกรวดเร็ว โดยใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์หรือ ในรูปของ สงิ่ พิมพต์ า่ ง ๆ 2. ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจำนวนมหาศาล ซง่ึ ผลติ ออกมาในแต่ละวนั 3. ชว่ ยให้เก็บสารนเิ ทศไว้ในรูปทสี่ ามารถเรียกใช้ได้ครงั้ แลว้ ครั้งเล่าอย่างสะดวก
7 4. ช่วยเพิ่มประสทิ ธิภาพการผลิตสารนเิ ทศ เชน่ ช่วยนกั วิทยาศาสตร์ วศิ วกร ดว้ ยการช่วย คำนวณตวั เลขทยี่ ่งุ ยาก ซับซอ้ นซงึ่ ไม่สามารถทำใหส้ ำเร็จไดด้ ว้ ยมอื 5. ช่วยให้สามารถจดั ระบบอัตโนมตั ิเพ่ือการเกบ็ เรยี กใช้และประมวลผลสารนเิ ทศ 6. สามารถจำลองแบบระบบการวางแผนและทำนาย เพ่ือทดลองกบั สิ่งท่ยี งั ไมเ่ กดิ ขนึ้ 7. อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสารนิเทศดีกว่าสมัยก่อน ทำให้ผู้ใช้สารนิเทศมี ทางเลอื กทด่ี กี ว่า มีประสทิ ธภิ าพกว่า และสามารถแข่งขนั กับผู้อน่ื ไดด้ กี ว่า 8. ลดอปุ สรรคเก่ียวกับเวลาและระยะทางระหวา่ งประเทศ เทคโนโลยีสารนิเทศเบื้องต้นที่ควรนำมาใช้ในการดำเนินงานทั่วๆไป คือการใช้เครื่อง ไมโครคอมพวิ เตอรใ์ นการจดั การข้อมูล ในบรรดาองคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารนิเทศท้ังหมดคอมพวิ เตอร์นับว่ามีบทบาทมากท่ีสุด ต่อการเปน็ องค์ประกอบท่สี ำคญั คอมพิวเตอร์เปน็ อุปกรณ์สื่อสารนิเทศที่มีบทบาทอย่างมากต่อสังคม สารนิเทศคอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงสภาพการให้บริการสารนิเทศในห้องสมุดจากการเสียเวลาสืบค้น สารนิเทศหลาย ๆ นาทีหรือหลายชั่วโมงมาเป็นเสียเวลาเพียงไม่กี่วินาที คอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลง สภาพความเป็นอยู่ของคนในสังคมเป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตท่ีมีบทบาทยิ่งกว่าเครื่องมือหรือ อุปกรณ์ใด ๆ ที่มนุษย์ได้ผลิตขึ้นใช้ในโลกมาก่อน คนในสังคมสมัยสังคมสารนิเทศจะเห็นพัฒนาการ ดา้ นนไี้ ด้อย่างเด่นชัด นบั ตั้งแต่มีการประดิษฐเ์ คร่ืองคอมพิวเตอร์ขนึ้ ใชเ้ ปน็ ครัง้ แรก คอมพิวเตอร์ไม่ใช่ เพียงสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่กลับเป็นสิ่งที่คนในสังคมสารนิเทศต้องรู้จักและมีส่วน เกี่ยวข้องด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นอุปกรณ์และองค์ประกอบที่สำคัญของเทคโนโลยีสารนิเทศท่ี บรรณารักษ์จะต้องนำมาใช้อยู่ตลอดเวลา เครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับการพัฒนามาโดยลำดับ ตั้งแต่ยุค แรก (พ.ศ. 2487-2501) จนถึงยุคปัจจุบัน (พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา) ได้มีการนำเครื่อง คอมพิวเตอร์ มาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เช่น งานจัดการเอกสารข้อมูลแบบ ต่าง ๆ งานระบบสารนิเทศเพื่อการ จัดการและงานด้านระบบสนบั สนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) เปน็ ต้น และจากการ แข่งขัน ในการผลิตเคร่ืองคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มรี าคาถกู และสามารถใช้ กันอย่างแพร่หลายเป็นส่งิ หน่งึ ท่จี ำเปน็ ในสังคมสารนเิ ทศปจั จบุ ัน ในสงั คมสารนเิ ทศปจั จุบัน กล่าวได้วา่ คอมพวิ เตอรเ์ ขา้ มามบี ทบาท ในชวี ติ ประจำวนั ของคน ในสงั คมมากยิ่งข้ึน บทบาทของคอมพวิ เตอร์มีมากย่ิงขนึ้ สำหรับผู้ที่ต้องการสารนิเทศ และสำหรับผู้ท่ี
8 ไม่ต้องการสารนิเทศเพื่อใช้ประโยชน์ กับตนเองก็หลีกเล่ียงการ ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ด้านอน่ื ๆ ไม่ได้บทบาทของคอมพิวเตอร์ท่ีมตี อ่ การใช้สารนเิ ทศในสังคมมดี ังต่อไปนี้ ดา้ นการศึกษา การใชค้ อมพิวเตอร์ในด้านการศึกษา แบง่ ไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คือ ใช้เป็นเครอื่ งมือในการศึกษา และใช้เป็นเครื่องมือในการสอน การใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาเกี่ยวข้องกับการบริหารการศึกษา ซึ่งผู้บริหารการศึกษา จำเป็นต้องทราบสารนิเทศต่าง ๆ ทางด้าน นักศึกษา ด้านแผนการเรียน ด้าน บุคลากร ด้านการเงิน และด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ ข้อมูลแต่ละด้านที่ได้จากคอมพิวเตอร์ ผู้บริหารการศึกษาสามารถนำมาใช้ช่วย ในการตัดสินใจได้ การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเป็นเครื่องมือใน การสอน เป็นการชว่ ยให้ครูใช้ความรู้ ความสามารถพิเศษใหเ้ ป็นประโยชน์แก่ระบบการศึกษาได้มาก ขึ้น การนำคอมพิวเตอร์เข้า มามีส่วนช่วยในการสอน และการศึกษามีประโยชน์ในเรื่องดังต่อไปนี้ คือ 1. เพื่อการสอนแบบตัวต่อตัว 2. เพ่อื ฝกึ ทักษะตา่ ง ๆ ในการเรียน 3. เพ่อื การสาธติ 4. เพ่อื การเล่นเกมและสถานการณ์จำลอง 5. เพื่อสอนงานด้านการเขยี น 6. เพอ่ื การเกบ็ รวบรวมข้อมลู เกีย่ วกบั การเรยี นการสอน 7. เพ่ือชว่ ยผ้เู รยี นท่มี ีปญั หาเฉพาะตัว ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์กำลังมีบทบาทต่อการศึกษาด้านภาษาเป็นเพราะว่าแต่เดิมมานั้น คอมพิวเตอร์มบี ทบาทเฉพาะการเกบ็ ขอ้ มูลท่ีเกีย่ วข้องกับภาษาองั กฤษ ทั้งนี้เพราะคอมพิวเตอร์ไดร้ บั การประดิษฐ์ขึ้นในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษแต่ในขณะนี้สังคมข่าวสารไม่ได้สกัดกั้นในการรับรู้ สารนิเทศในภาษาอื่น ๆ มีการสร้างโปรแกรมภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน รัสเซีย สเปน และแม้แต่ภาษาทางดา้ นตะวนั ออก เชน่ ภาษาอารบคิ จนี ฮบิ รู ญีป่ ุ่น เกาหลี การสรา้ ง โปรแกรมภาษาตา่ ง ๆ จดั ทำโดยผทู้ รี่ ู้ภาษาน้นั ๆ โดยตรงหรือผู้ท่สี นใจในการสร้างโปรแกรมภาษาต่าง ๆ เช่น การสร้างโปรแกรม การใช้ภาษาไทย หรือ ภาษาลาว ตลอดจนการใช้โปรแกรมภาษาพม่า ซ่ึง
9 ประดิษฐ์ขึ้นโดยวิศวกรไทย คอมพิวเตอร์จะเป็นตัวกลางในการขจัดปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจภาษา ระหว่างชนชาติในอนาคต ในประเทศสหรัฐอเมริกา คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมีบทบาทในด้าน การศึกษามีการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้นในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษามีการคาดหมายว่าจะมี การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในชั้นเรียน จาก 1:40 ในปี พ.ศ. 2529 เป็น 1 ต่อ 20 ภายในปี พ.ศ. 2533 คอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร ทางด้านการศึกษาได้ เป็นอย่างดีไม่เฉพาะแต่ ภายในสถานศกึ ษาเท่านน้ั บริษทั เอกชนตา่ ง ๆ สามารถนำคอมพวิ เตอร์ มาใช้ฝกึ อบรมเจา้ หนา้ ทข่ี อง ตนใหไ้ ดร้ ับการศึกษาหรือฝึกอบรมในงานหน้าท่ีได้เป็นอย่างดีดว้ ย การใช้คอมพิวเตอร์เพ่ือการศึกษา จะเปน็ เร่ืองธรรมดาในระบบการศึกษาต่อไป ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข คอมพิวเตอร์มีบทบาทอย่างสูงทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข คอมพิวเตอร์เป็น เครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างยิ่งในด้านการแพทย์ เริ่มตั้งแต่การรักษาพยาบาลทั่ว ๆไป โรงพยาบาลบางแห่งใช้คอมพวิ เตอร์ในการทำทะเบียนคนไข้ตลอดจนการวนิ ิจฉยั และรกั ษาโรคต่าง ๆ จากการใช้ประโยชน์ของสารนิเทศที่ได้ จากเคร่อื งคอมพิวเตอร์การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการแพทย์ และสาธารณสุขอาจเกี่ยวข้องในด้านต่อไปนี้ คือ ด้านการ รักษาพยาบาลทั่วไป ด้านการบริหาร การแพทย์ ด้านหอ้ งทดลอง ดา้ นตรวจวนิ ิจฉัยโรค และดา้ นการศกึ ษา และวจิ ยั ทางการแพทย์ การใช้ ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่สำคัญในปัจจุบันคือด้านวินิจฉัยโรคและด้าน การศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถค้นคว้าข้อมูลทางการแพทย์ เพิ่มเติมได้ตลอดเวลาเป็นการพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และการสาธาร ณสุข อย่างไม่หยุดยั้ง คอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการให้ข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับทำการรักษาได้ อย่างรวดเรว็ และแม่นยำขึน้ ในวงการแพทยเ์ ร่ิมร้จู ักใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ท่ี เรียกว่า อีเอ็ม ไอสแกนเนอร์ (EMI Scanner) เมื่อปี พ.ศ. 2515 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้ถ่ายภาพ สมองมนุษย์เพื่อตรวจดูเนื้องอก พยาธิ เลือดออกในสมองและความผิดปกติอื่น ๆ ในสมอง ต่อมาได้ พัฒนาให้ถ่ายภาพหน้าตัดได้ทั่วร่างกาย เรียกชื่อว่าซีเอที ( CAT-Computerized Axial Tomographic Scanner) มีวิธีการฉายแสงเป็นจังหวะไปรอบ ๆ ร่างกายของมนุษย์ที่ต้องการ ถ่าย เอกซเรยแ์ ละเครือ่ งรับแสงเอ็กซเรย์ทอ่ี ยู่ตรงข้ามจะเปลีย่ นแสงเอกซเรย์ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าไปเก็บไว้ ในจานหรอื แถบแมเ่ หล็กแลว้ นำสัญญาณไฟฟา้ เหล่าน้เี ข้าไปวิเคราะห์ในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงเมื่อได้ ผลลัพธ์ออกมาก็นำไปเก็บในส่วนความจำ และพิมพ์ภาพออกมาหรือแสดงเป็นภาพทางจอโทรทัศน์ เครื่องเอกซเรยค์ อมพิวเตอรจ์ งึ เปน็ ตวั อย่างของการใชค้ อมพิวเตอร์ในการวนิ ิจฉัยและรักษาโรค
10 ดา้ นอตุ สาหกรรม คอมพิวเตอร์มีส่วนช่วยพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม โดย นักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้ในบ้านและหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ทั้งนี้หุ่นยนต์จะเป็น อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพ่ือเลยี นแบบการทำงานของอวัยวะ ส่วนบนของมนุษย์ประกอบด้วยระบบทางกล ของหนุ่ ยนต์และระบบควบคุมห่นุ ยนต์ ประกอบดว้ ยอุปกรณ์ควบคมุ ซึง่ ควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ โดยอตั โนมตั ิด้วยคอมพวิ เตอร์ นับเปน็ ส่วนสำคัญที่สุดของหุ่นยนต์ ระบบควบคมุ น้ีทำหน้าที่เป็นสมอง เก็บข้อมูลสั่งหุ่นยนต์ให้ทำงานตรวจสอบและควบคุมรายละเอียดของการทำงานให้ถูกต้อง การ ประดิษฐห์ นุ่ ยนต์อุตสาหกรรมอำนวยประโยชน์ในการชว่ ยทำงานในอตุ สาหกรรมที่สำคญั คืองานท่ีต้อง เสี่ยงภัยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรงงานยา ฆ่าแมลง โรงงานสารเคมี งานที่ต้องการความ ละเอียดถูกต้อง และรวดเร็ว เช่น โรงงาน ทำฟันเฟืองนาฬิกา โรงงานทำเลนส์กลอ้ งถ่ายรูป และงาน ที่ต้องทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ และ น่าเบื่อหน่าย เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานประกอบวงจร เบ็ดเสร็จ หรือไอซี และโรงงานทำแบตเตอรี่ เป็นต้น การประดิษฐ์สิ่งของหรือผลิตภัณฑ์บางอยา่ ง ใน โรงงานอุตสาหกรรม คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทอย่างสูงต่อการ ควบคุม การผลิตสินค้าโดยไม่ต้อง ใช้แรงงานคนมาก เป็นการประหยัดแรงงาน นอกจากด้านการผลติ สนิ ค้าแล้ว คอมพวิ เตอร์ยังมีส่วน ชว่ ยต่อการจัดสง่ สินค้าตามใบสัง่ สินค้า การควบคมุ วัสดุคงคลงั และการคิดราคาต้นทนุ สินค้า เปน็ ต้น ด้านเกษตรกรรม การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม ได้แก่ การจัดทำระบบข้อมูลเพ่ือ การเกษตร ซึ่งอาจมีทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติสำหรับระดับนานาชาติน้ัน อาจจะเริ่มด้วยสำมะโนเกษตรนานาชาติ ซึ่งสถาบันการเกษตรระหว่างประเทศ (International Institute of Agriculture) ได้เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2473โดยมีประเทศต่าง ๆ ร่วมเก็บข้อมูลรวม 46 ประเทศ ต่อมาองคก์ ารอาหารและเกษตร(FAO) ได้ดำเนนิ งานต่อในปี พ.ศ. 2493 และมีประเทศต่าง ๆ ร่วมโครงการเพิ่มเติมมากขึ้น ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ข้อมูลเพื่อเกษตรกรรมทางดา้ นสำมะ โนเกษตร นอกจากน้ยี งั ใชค้ อมพิวเตอรช์ ่วยทำแบบจำลอง พยากรณค์ วามต้องการพยากรณ์ผลผลิต ดา้ นการเกษตร เปน็ ตน้ ดา้ นการเงินการธนาคาร การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการเงินและการธนาคาร เป็นการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในงาน ด้านการบัญชี และด้านการบริหาร การฝากถอนเงิน การรับจ่าย การโอนเงิน แบบอิเล็กทรอนิกส์
11 การหักบัญชีอัตโนมัติ ด้านสินเชื่อ ด้านแลกเปลี่ยนเงินตรา บริการข่าว สารการธนาคาร บริการฝาก ถอนเงินนอกเวลาและบริการอื่น ๆ การใช้คอมพิวเตอร์ด้านการเงินการธนาคารที่ประชาชนรู้จักและ ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ บริการฝากถอนเงินนอกเวลา ซึ่งมีใช้กันทั้งในต่างประเทศและใน ประเทศไทย ซ่ึงเรยี กชอื่ ว่า บรกิ ารเงนิ ดว่ น หรอื บรกิ ารเอทีเอม็ ( Automatic Teller Machine - ATM ) ที่ธนาคารต่าง ๆ สามารถให้บริการเงินด่วนแก่ลูกค้าได้ ทำ ให้เกิดความสะดวกรวดเร็วต่อการใชเ้ งนิ ในการดำเนินงานทางธุรกจิ ต่างๆได้ ดา้ นธรุ กิจการบิน ธรุ กจิ สายการบินมคี วามจำเปน็ ตอ้ งนำคอมพวิ เตอร์มาใช้เพื่อให้สามารถใหบ้ ริการได้รวดเร็ว เพื่อการแข่งขันกับสายการบินอื่น ๆ และเพื่อรักษาความปลอดภัยในการบินโดยช่วยตรวจสอบสภาพ เครื่องและอุปกรณ์ได้ อย่างถูกต้องแน่นอนและสม่ำเสมอ ธุรกิจที่มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ด้านการ บิน อาจแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ผู้โดยสาร สินค้าพัสดุภัณฑ์ และ บริการอื่นๆของสายการบิน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือระบบบริการผู้โดยสาร อาจจะเริ่มด้วยระบบบันทึกตารางการบิน ซ่ึง บนั ทกึ และเปล่ยี นแปลงแก้ไขข้อมลู เที่ยวบิน เส้นทางบนิ เวลาออกและเวลาถงึ จำนวนทนี่ งั่ สารนิเทศ ด้านการบริการผู้โดยสารมีความสำคัญอย่างมาก และจำเป็นต้องได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็ว โดย ปราศจากปัญหาทางด้านเวลา และสถานที่ รายการบินต่าง ๆ จึงได้แข่งขันในการสร้างฐานข้อมูล ทางดา้ นน้ี บางสายการบินได้รวมตวั กนั เพอื่ ใหเ้ กดิ ความคล่องตวั ในการใชส้ ารนิเทศร่วมกัน ด้านกฎหมายและการปกครอง ทางด้านกฎหมายและการปกครอง มีการใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหาด้านกฎหมาย คืองาน ระบบข้อมูลทางกฎหมายมีการนำสารนเิ ทศท่ีเก่ียวข้องกับตัวบทกฎหมายทกุ ฉบบั รฐั ธรรมนูญทกุ ฉบับ กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง พระราชบัญญตั ิ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวงประกาศต่างๆและอื่น ๆ เข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด หลังจากนั้น คอมพิวเตอร์จะช่วยในการค้นสารนิเทศทางด้านกฏหมายได้อย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างในประเทศ สหรัฐอเมริกา มีการใช้คอมพิวเตอร์ระบบแอสเปน (Aspen System Corporation) ซึ่งเป็นระบบ ขอ้ มลู ทางด้านกฎหมายท่ีใช้กันมากกว่า 50 แห่ง นักกฎหมายและผทู้ ี่เกีย่ วข้องจึงได้ประโยชน์ในการ ค้นสารนเิ ทศในเวลาอันรวดเร็ว
12 โดยเฉพาะในการค้นข้อมูลเกี่ยวกับคดีต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว เป็นต้น แทนที่จะค้นจากหนังสือ ซ่ึง ตอ้ งเสยี เวลาเป็นอันมาการใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการปกครองสว่ นใหญ่ใช้ในกจิ กรรมการเลือกตั้งดัง เช่นในประเทศไทย เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาล่าสุด มีการใช้คอมพิวเตอร์มาประมวลผลข้อมูล การเลือกตงั้ ทำให้ประชาชนไดท้ ราบผลการเลือกต้งั ไดอ้ ย่างรวดเร็ว ด้านการทหารและตำรวจ มกี ารใชค้ อมพิวเตอรด์ ้านการทหารและตำรวจอยา่ งแพร่หลายในประเทศตา่ งๆ ในประเทศ สหรัฐอเมริกา การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการทหารได้เจริญก้าวหน้าไปมากกว่าประเทศอื่นใดใ นโลก แต่ผลงานด้านนี้มักจะเป็นผลงานชนิดลับสุดยอดต่าง ๆ เท่าที่พอจะทราบกัน ได้แก่ การใช้ คอมพิวเตอร์ในวงจรสื่อสารทหาร ใช้ในการควบคุม ประสานงาน ด้านการท หารใช้แปลรหัสลับใน งานจารกรรมระหว่างประเทศ ใช้ในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ใช้ในการทำสงครามจิตวิทยา ใช้ใน การวิจัยเตรียมทำสงครามเชื้อโรค ใช้ในการสร้างขีปนาวุธ และใช้ในการส่งดาวเทียม จารกรรม เป็นต้น กรมตำรวจ กระทรวง มหาดไทย มีศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ มีคอมพิวเตอร์ ขนาด กลางใช้ทำทะเบยี นปืน ทำทะเบียนประวัติอาชญากรรม ทำให้เกิดความสะดวกต่อการสืบสวนคดีต่าง ๆ ด้านอุตสาหกรรมการพิมพแ์ ละธรุ กจิ อนื่ ๆ บทบาทของคอมพิวเตอร์ต่อธุรกิจอุตสาหกรรมการพิมพ์ในปัจจุบันมีมาก หน่วยงาน ทางการพมิ พ์ ตลอดจนสำนักข่าวใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอรใ์ นการจดั พิมพต์ น้ ฉบับตรวจแก้ไข จนกระทั่ง จัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม ทำให้การจัดทำหนังสือพิมพ์ วารสาร และหนังสือต่าง ๆดำเนินไปด้วยความ รวดเร็ว และถึงมือผู้อ่านได้อย่างทันท่วงที อุตสาหกรรมการพิมพ์เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศ ตา่ ง ๆ อย่ใู นขณะน้ี และเปน็ ธรุ กิจท่ีเกยี่ วข้องกบั สารนเิ ทศ มีรายงานวา่ มีเจ้าหนา้ ที่คนงานในประเทศ สหรัฐอเมริกากว่า 50 ล้านคน ไดใ้ ชป้ ระโยชน์จากการใช้คอมพวิ เตอร์ ในการดำเนินงาน ทางธุรกิจ มี การใช้อุปกรณ์สื่อสารระบบสำนักงาน อัตโนมตั ิและเทคโนโลยีโทรคมนาคมอืน่ ๆ รว่ มกบั คอมพิวเตอร์ ทำใหก้ ารดำเนินงานทาง ธุรกิจต่าง ๆ ดำเนนิ ไปดว้ ยความรวดเรว็ และมปี ระสิทธภิ าพ ทำให้ธรุ กิจตา่ งๆ ไมม่ ีปญั หาทางด้านระยะเวลาและสถานท่ตี อ่ การตดิ ต่อทางธรุ กิจอีกตอ่ ไป
13 ดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ทางด้านวิทยาศาสตร์มีมากในสถาบันการศึกษา ตลอดจน สถาบันวิจยั ตา่ งๆมกี ารใช้คอมพวิ เตอร์เพื่อการวิจัยทดลองทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เช่น การวจิ ัยในทาง นวิ เคลยี รฟ์ ิสิกส์ ซ่ึงเป็นวชิ าวา่ ดว้ ยส่วนประกอบที่เล็กทสี่ ุดของสสาร การค้นคว้าทดลองทางวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ทำให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง เช่น ทางดา้ นวิศวกรรมศาสตร์มีการใช้คอมพวิ เตอร์ ให้มีสว่ นรว่ มตอ่ การออกแบบโครงสร้าง ทางวิศวกรรม ที่ยุ่งยากสลับซับซอ้ น ทำให้มีส่วนช่วยต่อการออกแบบทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมได้อย่าง ไม่มีขอบเขตจำกัด บทบาทของคอมพิวเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตรจ์ ึงมี ประโยชน์ต่อการพัฒนาข้อมูล สารนเิ ทศอย่างไมห่ ยดุ ยงั้ จากการเชื่อมโยงเครือข่ายขอ้ มลู สารนิเทศโดยระบบโทรคมนาคมคอมพิวเตอร์มีบทบาทอย่าง สูง ต่อการให้บริการข้อมูลอย่างไม่มีขอบเขตจำกัด ผู้ใช้สารนิเทศสามารถเรียกค้นข้อมูลจ ากผู้ ให้บริการสารนิเทศตั้งแต่เรื่องทั่ว ๆไปจนกระทั่งขอค้นรายละเอียดจากหนังสือสารานุกรมได้ และ ภายในบ้านเรือนคอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการใช้ของสมาชิกภายในครอบครัวทุกคนภายในบ้านมี โอกาสได้เล่นเกมวีดิทัศน์ ด้วยความบนั เทงิ สนุกสนาน และ ศึกษาความรูจ้ ากบทเรียนสำเร็จรูปไปด้วย ในตัว คอมพิวเตอร์สำหรบั บ้าน เป็นอุปกรณท์ ี่จำเป็น สำหรับนักธุรกิจในการจดั เตรียมจดหมาย การ จัดเก็บรวบรวมข้อมูลสารนิเทศส่วนบุคคล และ การดำเนินงานกิจการต่าง ๆ ของสมาชิกภายใน ครอบครัว บทบาทของคอมพวิ เตอร์ ยงั มีอีกมากมายทางด้านต่าง ๆ ขน้ึ อยกู่ บั ผู้ใชส้ ารนิเทศ ต้องการ ใชใ้ นด้านใด คอมพิวเตอรเ์ มื่อนำมาใช้รวมกับระบบโทรคมนาคมการส่ือสาร สามารถจะเปลีย่ นอนาคต ของสังคมปัจจบุ ัน เปลย่ี นวิถชี ีวิตประจำวนั ของประชาชนตอ่ การทำ กจิ กรรมตา่ ง ๆ สงิ่ ที่บรรณารักษ์ จะหลีกเล่ียงต่อไปไมไ่ ด้ คือการนำเคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการจัดการข้อมลู ภายในห้องสมดุ โรงเรยี น นบั ต้ังแตก่ ารนำมาใช้แทน เครื่องพมิ พ์ดีดในขอบเขตของงานเอกสาร ตลอดจนกระทั่งถึงงาน การให้บริการขอ้ มูลจากฐานข้อมลู สำเร็จรปู หรือ งานฐานขอ้ มลู ท่ีสร้างขนึ้ เอง 1.5 ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศตอ่ ชวี ติ ความเปน็ อยู่และสงั คม -ผลกระทบดา้ นบวก เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร การบริการและการผลิต ชีวิตคนในสังคมได้รับความ สะดวกสบาย เช่น การติดต่อผ่านธนาคารด้วยระบบธนาคารที่บ้าน (Home Banking) การทำงานท่ี บา้ น ตดิ ตอ่ สอ่ื สารด้วยระบบเครือข่ายอินเทอรเ์ นต็ การบันเทงิ พกั ผอ่ นดว้ ยระบบมลั ตมิ ีเดยี เปน็ ตน้
14 เป็นสงั คมโลกแห่งการสื่อสารเกิดขนึ้ โดยสามารถเอาชนะเร่อื งระยะทาง เวลา และสถานท่ีได้ ด้วยความเร็วในการติดต่อสื่อสารที่เป็นเครือข่ายความเร็วสูง และที่เป็นเครือข่าย แบบไร้สาย ทำให้ มนษุ ยส์ ามารถติดตอ่ ถงึ กันอย่างรวดเร็ว มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ในฐานข้อมูลความรู้ เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านที่เกี่ยวกับ สาธารณสุขและการแพทย์ แพทย์ที่อยู่ในชนบทก็สามารถวินิจฉัยโรคจากฐานข้อมูลความรู้ของ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางการแพทย์ ในสถาบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงได้ทั่วโลก หรือใช้วิธีปรึกษา แพทย์ ผเู้ ชย่ี วชาญในระบบทางไกลไดด้ ้วย เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ หรือผู้ด้อยโอกาสจากการพิการทางร่างกาย เกิดการสร้างผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือคนพิการ ให้สามารถพัฒนาทักษะและความรู้ได้ เพื่อให้คน พิการ เหล่านน้ั สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ผพู้ ิการจึงไม่ถูกทอดท้ิงใหเ้ ป็นภาระของสังคม พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา โดยเกิดการศึกษาในรูปแบบใหม่ กระต้นุ ความสนใจแก่ผเู้ รียน โดย ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอน (Computer-Assisted Instruction : CAI) และการ เรียนรู้โดยใช คอมพิวเตอร์ ( Computer-Assisted Learning : CAL ) ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในใน บทเรียนมากยิง่ ขึ้น ไม่ซำ้ ซากจำเจผู้เรียนสามารถเรยี นรูส้ งิ่ ต่าง ๆ ได้ดว้ ย นอกจากนัน้ ยงั มีบทบาท ต่อ การนำมาใชใ้ นการสอนทางไกล (Distance Learning) เพือ่ ผ้ดู อ้ ยโอกาสทางการศึกษาได้อกี ดว้ ย การทำงานเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น กล่าวคือช่วยลดเวลาในการทำงานให้น้อยลง แต่ได้ ผลผลิตมากขน้ึ เชน่ การใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยคิดบัญชี การสรา้ งกราฟ แผนภมู ิ ออกแบบงาน ลกั ษณะตา่ งๆ เป็นต้น ผู้บริโภคไดร้ ับประโยชน์จากการบริโภคสนิ คา้ ทห่ี ลากหลายและมีคุณภาพดีขึ้น ความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยี ทำให้รูปแบบของผลิตภัณฑ์มีความแปลกใหม่และหลากหลายมากยิ่งขึ้น ผู้ผลิตผลิต สนิ ค้าทมี่ คี ณุ ภาพ ผ้บู ริโภคสามารถเลือกซ้ือไดต้ ามต้องการ และช่องทางทางการค้าก็มีใหเ้ ลือกมากข้ึน เช่น การเลอื กซอื้ สินค้าทางอนิ เทอร์เนต็ และการพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นต้น ผลกระทบดา้ นลบ ก่อให้เกิดความเครียดในสังคมมากขึ้น เนื่องจากมนุษย์ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เคยทำอะไร แบบใดมักจะชอบทำอย่างนั้นไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปเปลี่ยนแปลง
15 บุคคลที่รับต่อการเปลี่ยนแปลงไม่ได้จึงเกิดความวิตกกังกล จนกลายเป็นความเครียด กลัวว่า คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศจะทำให้ คนตกงาน เพราะสิ่งเหลา่ น้ีจะเข้ามาทดแทนมนษุ ย์ ก่อใหเ้ กิดการรับวัฒนธรรม หรือแลกเปลย่ี นวัฒนธรรมของคนในสังคมโลกทำให้ พฤติกรรมที่ แสดงออก ด้านการแต่งกาย และการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป การมอมเมาเยาวชน ในรูปของเกมส์ อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอารมณ์และจิตใจของเยาวชน เกิดการกลืนวัฒนธรรม ดัง้ เดมิ ซึง่ แสดงถงึ เอกลักษณข์ องสังคมนั้นๆ ก่อให้เกิดผลด้านศีลธรรม การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วในระบบเครือข่ายมีผลก่อให้เกิดโลกไร้ พรมแดน แตเ่ มอ่ื พิจารณาศีลธรรมของแตล่ ะประเทศพบวา่ มีความแตกต่างกนั ประเทศต่างๆ ผู้คนอยู่ ร่วมกันได้ด้วยจารีตประเพณี และศีลธรรมดีงามของประเทศนั้นๆ การแพร่ภาพหรือข้อมูลข่าวสารท่ี ไมด่ ไี ปยังประเทศต่างๆ มผี ลกระทบต่อความรสู้ ึกของคนในประเทศนัน้ ๆ ท่นี ับถอื ศาสนาแตกตา่ งกนั การมสี ่วนร่วมของคนในสังคมลดน้อยลง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ทำใหเ้ กดิ ความสะดวก รวดเร็วในการสื่อสาร และการทำงาน แต่ในอีกด้านหน่ึงการมสี ว่ นรว่ มของกจิ กรรมทาง สังคมที่มีการ พบปะสงั สรรค์กันจะมนี อ้ ยลง ผู้คนมกั อยแู่ ตท่ ่ีบ้านหรือทที่ ำงานของตนเองมากข้นึ การละเมดิ สิทธิเสรีภาพสว่ นบคุ คลโดยการเผยแพรข่ ้อมูลหรือรูปภาพต่อสาธารณชน ซ่งึ ขอ้ มูล บางอย่างอาจไมเ่ ปน็ จริงหรือยังไม่ได้พสิ ูจน์ความถูกต้องออกสู่สาธารณชน กอ่ ให้เกิดความเสียหายต่อ บุคคลโดยไม่สามารถป้องกันตนเองได้ การละเมิดสิทธิส่วน บุคคล เช่นนี้ต้องมีกฎหมายออกมาให้ ความคุม้ ครองเพ่อื ใหน้ ำขอ้ มลู ต่างๆ มาใชใ้ นทางท่ถี ูกต้อง เกิดช่องว่างทางสังคม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องกับการลงทุน ผู้ใช้จึงเป็นชน ชนั้ ในอกี ระดับหน่ึงของสังคม ในขณะทีช่ นชัน้ ระดบั รองลงมามีอยจู่ ำนวนมากกลับไมม่ ี โอกาสใช้ และ ผู้ทีย่ ากจนก็ไมม่ ีโอกาสรู้จักกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ อาชญากรรมบนเครือข่าย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศก่อใหเ้ กิดปญั หาใหมๆ่ ข้ึน เช่น ปัญหาอาชญากรรม ตัวอย่างเช่น อาชญากรรมในรูปของการขโมยความลับ การขโมย ข้อมูล สารสนเทศ การให้บรกิ าร สารสนเทศที่มกี ารหลอกลวง รวมถงึ การบ่อนทำลายขอ้ มูลและไวรัส ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงาน การศึกษา บันเทิง ฯลฯ การจ้องมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีผลเสียต่อสายตาซึ่งทำให้สายตา ผิดปกติ มี อาการแสบตา เวียนศรีษะ นอกจากนัน้ ยังมผี ลตอ่ สุขภาพจิต เกิดโรคทางจติ ประสาท
บทท่ี2 ข้นั ตอนของการใชเ้ ทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ในยุคนี้คงจะไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่าเทคโนโลยีไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนิน ชวี ติ ของมนษุ ย์ เพราะทกุ คนลว้ นใชเ้ ทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในชีวติ ในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การ ตื่นนอนจนถึงการเข้านอน ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างย่ิ งผู้ท่ี อาศัยอย่ใู นเมอื งท่ชี ีวิตประจำวนั มีแต่ความเร่งรบี ตอ้ งแขง่ ขนั กับเวลา การนำเทคโนโลยีเขา้ มาช่วยจึงมี ความจำเป็นอย่างยง่ิ เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานแล้ว ยังช่วยย่นระยะเวลาทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ให้สนั้ ลง แต่อย่างไรก็ตาม การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะใน บางครง้ั ก็นำโทษมาใหแ้ ก่มนุษย์ด้วยเชน่ กนั ยกตวั อยา่ งทส่ี ามารถเหน็ ไดช้ ัดเจนก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่ เป็นขา่ วตามหนา้ หนงั สือพมิ พ์ในเรอื่ งของการถูกลวงไปข่มขืน โดยสาเหตุหลัก ๆ ของการถูกล่อลวงไป ข่มขืน ก็เป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากการพูดคุยกันผ่านทาง โปรแกรมการสนทนาออนไลน์(Chat) ที่เมอื่ มกี ารพูดคุยกันก็มีการนัดมาเจอกันและเกิดเหตุการณ์การ ล่อลวงไปข่มขืน เพราะการพูดคุยผ่านการChat นี้เป็นการพูดคุยที่อิสรเสรี ผู้พูดสามารถที่จะพูดคุย อะไรออกไปก็ได้ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม และนอกจากนี้ก็ยังมีการนำเสนอเว็ปไซด์ท่ี เป็นเว็ปไซด์โป๊ หรือมีการนำเสนอส่ิงที่อนาจารลงในเว็ปไซด์ และทำให้เป็นการยั่วยุทางอารมณ์ของผู้ เลน่ จนนำมาสกู่ ารกระทำอันผิดศีลธรรม และเกดิ คดคี วามได้ และจากการทีส่ อื่ อินเตอรเ์ นต็ เป็นสื่อเสรี ไม่มีองค์กรใด ๆ เข้ามาควบคุมดูและจึงทำให้อินเตอร์เน็ตกลายเป็นช่องทางหนึ่งในการติดต่อสื่อสาร กันระหว่างกลุ่มคนที่ไม่หวังดี เช่น กลุ่มก่อการร้าย หรือ กลุ่มคนที่ต้องการก่ออาชญากรรม โดยกลุ่ม คนเหล่านี้ก็จะใช้อินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน โดยอาจมีเว็ปไซด์เป็น กลุ่มของตนเอง หรือใช้การส่ง E-mail เป็นทอด ๆ ระหว่างกันและมีการแปลรหัสจากการส่ง E-mail โดยไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้ได้ และในบางครั้งก็มีคนที่มีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์และ อินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดี คนเหล่านี้ก็นำความเก่งกาจของตนเองมาใช้ในทางที่ผิด เช่น การลักลอบ ขโมยข้อมูลในองค์กรต่าง ๆ เพอ่ื นำมาใช้ก่ออาชญากรรม เชน่ ลกั ลอบคน้ ขอ้ มูลของบริษัทบัตรเครดิต หรือ ธนาคาร หรือข้อมูลบัญชีเงินฝากและATM เพอ่ื ลักลอบนำเงนิ ไปใช้ นอกจากนีบ้ างคร้ังก็มีการใช้ อินเตอร์เน็ตเพื่อปล่อยหรือสร้างข่าวที่มีความบิดเบือน เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความ หวาดกลัวให้กับประชาชน เช่น ในบางครั้งกลุ่มก่อการร้าย ก็อาจใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเพื่อสร้างข่าว บดิ เบอื น เพือ่ จงู ใจประชาชนใหม้ าเขา้ รว่ มในขบวนการและร่วมเปน็ สว่ นหนง่ึ ในการก่อการรู้
17 นอกจากนี้จากการที่มนุษย์เราพึ่งพาเทคโนโลยีมากจนเกินไป ก็ทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวเราได้ ด้วยเช่นกัน เพราะการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปจะทำให้คนเราเกิดความเคยชินจากการนำ เทคโนโลยีมาใชอ้ ำนวยความสะดวกในชวี ิต จนทำใหบ้ างคร้งั เราก็ทำอะไรไม่เปน็ ไมส่ ามารถคิดอะไรได้ เพราะมีเทคโนโลยีมาช่วย และอาจส่งผลให้ในอนาคตมนุษย์จะมีความสามารถลดน้อยลง และ เทคโนโลยหี รือเคร่ืองจักรต่าง ๆ กจ็ ะมีความสำคัญมากกว่ามนุษย์ จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีมีทั้งประโยชน์และโทษ ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีที่ถูกวิธี จงึ เป็นส่งิ ท่ีสำคัญ และต้องไม่ใชเ้ ทคโนโลยีในทางที่ผิดท่ีจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อท้ังตนเองและ ผอู้ ื่น และในขณะเดยี วกนั มนุษยเ์ ราก็จะตอ้ งหันกลับมาพ่ึงพาตัวเองบา้ ง และใช้เทคโนโลยีเฉพาะเท่าที่ จำเป็นเท่านั้น และในบางครั้งผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองก็ต้องเข้ามาดูแลเด็ก และให้คำแนะนำแก่เด็กด้วย เพือ่ ไมใ่ ห้เด็กเหล่าน้เี ขา้ ไปเสพย์สือ่ ท่ีผิดบิดเบอื นและผิดศลี ธรรม 2.1 วิเคราะห์เนอื้ หาของการใชเ้ ทคโนโลยีในชวี ติ ประจำวนั เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการ สารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีทีเ่ กี่ยวข้องตัง้ แต่การรวบรวม การจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศยงั รวมถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบ การใหบ้ ริการ การใช้ และการดูแลขอ้ มูลด้วย 2.2 ระบคุ ำสำคัญหรอื คำคน้ หา เขยี นสาระสำคัญ เขยี นแหล่งอ้างองิ ของคำสำคญั และจดั เขา้ กลุ่ม ตามเนอ้ื หาและสาระในเรอ่ื งนน้ั ๆ ประกอบดว้ ยขนั้ ตอนย่อย ดงั นี้ คำสำคญั หรอื คำค้นหาจากส่ือ เป็นการนำคำค้นหาหรือข้อความที่ได้จากการวิเคราะห์เนื้อหา ที่บันทึกไว้ในแบบบันทึกคำสำคัญ แล้วจัดเรียงตามเนื้อหาของสื่อ และนำมาจัดเรียงอีกครั้งตาม พยญั ชนะในแตล่ ะเนอ้ื หา คำสำคญั หลายคำ เรยี กว่า ชุดคำสำคัญหรอื ชุดคำคน้ หา เขยี นสาระสำคัญของแตล่ ะคำไขหรือคำสำคัญ เปน็ การให้ความหมายของคำสำคัญโดยนำมา จากสื่อนำคำสำคัญที่คัดเลือกมาจากเนื้อหาในสื่อที่รวบรวมคำสำคัญที่มีลักษณะเจาะจงและลักษณะ รอง แลว้ นำมาปรบั ปรุงภาษาให้ง่าย สั้นกะทัดรัด อ่านเข้าใจง่าย ดังน้นั คำสำคญั คำไข หรือคำค้นหา ทุกคำจะตามดว้ ย “หมายถึง” และคำอธิบายความของคำสำคญั นั้นซง่ึ เกิดจากหลายๆ คำมารวมกัน
18 เขียนแหล่งอ้างอิงของคำสำคัญ เป็นการระบุที่มาของคำสำคัญนั่น ประกอบด้วย ชื่อและ นามสกุลผูเ้ ขียน ปีพทุ ธศกั ราชที่เขียน ชอ่ื หน่วย หนา้ ท่อี า้ งอิง ช่ือชดุ วิชา และตามด้วยสาขาหรือคณะ และชอื่ มหาวทิ ยาลัยนัน้ เพื่อใหผ้ ้สู นใจไดค้ ้นหาเพม่ิ เติมตอ่ ไป 2.3 กำหนดช่องทางการเผยแพร่ฐานความรู้ของการใชเ้ ทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวัน เป็นการเผยแพร่ฐานความรู้แบบออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ประหยัดค่าใช้จ่ายและ สามารถเผยแพร่ไปยังผู้สนใจจำนวนมากสามารถใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลาที่มีออนไลน์ (Online) ผ่าน เครือข่ายอินเตอร์เน็ตและอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้แก่ Google, Wikipedia, Bing, Facebook, Line เปน็ ต้น ในรปู แบบออนไลน์ยงั มีเครื่องมือท่ีใช้ในการสื่อสารแบบ ประสานเวลา (Synchronous Communication Tool) และเครื่องมือแบบไม่ประสานเวลา (Asynchronous Communication Tool) ซึ่งช่วยให้การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้ฐานความรู้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น และแบบออฟไลน์ (Offline) ผ่านทาง DVD, Flash Drive, SD Cards และ Memory zones 2.4 ดำเนนิ การอธิบายเก่ียวกบั การใชเ้ ทคโนโลยีในชวี ิตประจำวัน 1.เทคโนโลยีสารสนเทศทำใหส้ งั คมเปล่ียนจากสงั คมอุตสาหกรรมมาเป็นสงั คมสารสนเทศ 2.เทคโนโลยสี ารสนเทศทำใหร้ ะบบเศรษฐกจิ เปลยี่ นจากระบบแหง่ ชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลกที่ ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิด สังคมโลกาภิวัฒน์ 3.เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมลี ักษณะผูกพันมีการบงั คับบัญชาแบบแนวราบมากขึน้ หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง และเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย การดำเนินธุรกิจมีการ แข่งขันกันในด้านความเร็วโดยอาศัยการใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคม เปน็ ตวั สนบั สนุน เพื่อใหเ้ กิดการแลกเปล่ียนข้อมูลไดง้ ่ายและรวดเรว็ 4.เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัสและสามารถตอบสนองตามความ ตอ้ งการการใช้เทคโนโลยใี นรปู แบบใหมท่ เี่ ลือกไดเ้ อง 6.เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพทางการทำงานแบบทกุ สถานที่และทุกเวลา 7.เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้นอีกทั้งยังทำให้วิถี การตัดสินใจหรอื เลือกทางเลือกไดล้ ะเอยี ดข้ึน
19 2.5 ประเมนิ คุณภาพของการใชเ้ ทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวัน ในชีวิตประจำวันของเรา เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเป็น อย่างมาก ในขณะที่ในทุก ๆ วันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราเองก็ต้องเรียนรู้และ ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนั้นมีทั้งคุณประโยชน์และ โทษในเวลาเดียวกัน เพื่อให้เรามีความรูแ้ ละสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประโยชนแ์ ละปลอดภัย ก็ จำเปน็ ที่จะต้องมีความรเู้ กีย่ วกบั ความรทู้ างดา้ นต่าง ๆ ต่อไปน้ี 1.การร้เู ทา่ ทันสอ่ื 2.แนวทางการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมจี รยิ ธรรม 3.การรกั ษาข้อมลู สว่ นตวั 4.การรบั มือการคกุ คามทางออนไลน์ 5.ลขิ สิทธิแ์ ละความเป็นเจ้าของผลงาน 6.กฎหมายเกี่ยวกับคอมพวิ เตอรแ์ ละการกระทำความผิดทางคอมพวิ เตอร์
บทที่3 การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความจำเป็นในชีวิตประจำวันและเป็นส่วนที่ช่วยให้การ ดำเนินภาระกิจในประจำวันมีความสะดวกรวดเร็ว เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้สามารถรับรู้ข่าวสาร ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วไมว่ า่ จะอยูใ่ นสถานท่ีห่างไกลกนั มากๆ ฉะนัน้ ในการดำเนินชวี ติ ในประจำวันจึงมี ความจำเป็นที่จะต้องมีเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการ ติดตอ่ สอ่ื สารระหว่างกันไดอ้ ย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาโดยการต่ ิดตอ่ ทางโทรศัพท์ กระประชมุ ผา่ นทาง อินเตอร์เน็ต ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความถูกต้อง เเม่นยำ และสามารถช่วยในการ จัดเก็บข้อมูลที่มีความสะดวกต่อการเรียกใช้งาน นำมาใช้เป็นเเหล่งข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าในการ เรียนรู้ อีกทั้งยังนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการ ทอ่ งเที่ยว ธรุ กจิ ขายสนิ ค้าออนไลน์ (E commerce) เปน็ ต้น 3.1 คน้ หาความรู้และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ติ ประจำวนั ปฏเิ สธไมไ่ ด้ว่าปจั จบุ นั เรามเี ทคโนโลยที ี่คอยมาชว่ ยเหลือเราในชีวิตประจำวนั และแนน่ อนไม่ว่าคุณจะ ธุรกิจไหนก็ต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง วันนี้เราเลยมานำเสนอ เทคโนโลยี10ประเภทที่ถูกนำมาใชใ้ นชีวิตประจำวันของเรา 1. เทคโนโลยีในธรุ กจิ ทุกวันนี้ในธุรกิจมีการแข่งขันกันสูง ด้านเจ้าของธุรกิจก็ต้องการลดต้นทุนแต่ยังคง คุณภาพในตัวสินค้าและบริการอยู่ การดึงเอาเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจทำให้สามารถประหยัดต้นทุน ทางธุรกิจได้ เม่อื เปรียบเทยี บกบั จำนวนเงินที่ใชจ้ ้างพนกั งานและการมคี วามตรงต่อเวลาสูง 2. การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอ่ื สาร ในอดีตเมื่อการสื่อสารถูกจำกัดเฉพาะการเขยี นจดหมาย และรอให้ไปรษณยี ์สง่ มอบ ข้อความของคุณ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้ข้อมูลการติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถร่าง ข้อความธุรกิจและส่งอีเมล์หรือแฟกซ์ได้ภายในสองวินาทีโดยที่พวกเขาสามารถตอบกลับคุณทันที เชน่ กัน จงึ ทำใหส้ ะดวกสบายและทำให้การเตบิ โตเป็นไปไดม้ ากยง่ิ ข้นึ
21 3. การใช้เทคโนโลยใี นความสัมพันธ์ระหวา่ งมนุษย์ ในขณะที่โลกกำลังพัฒนาผู้คนทำงานหนักขึ้นทำให้พวกเขาไม่ค่อยมีเวลา ที่จะหา ความสัมพันธ์ ดังนั้นเทคโนโลยีจงึ มีสว่ นช่วยในเรือ่ งนี้อย่างมาก วันนี้ผูค้ นใช้ App โทรศัพท์มือถอื เพื่อ พบปะและเชื่อมต่อกับเพื่อนเก่าและใหม่ เครือข่ายทางสังคมเช่น Facebook.com , Tagged.com อย่างไรก็ตามความสัมพันธเ์ สมือนไมแ่ ข็งแรงเท่าความสัมพันธ์ทางกายภาพ ดงั นน้ั ฉันจึงแนะนำให้คุณ สละเวลาและพบคนที่ตอ้ งการจะสานสมั พันธ์ 4. การใช้เทคโนโลยีเพ่อื การศึกษา วันนี้เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกการศึกษา ด้วยการประดิษฐ์ เทคโนโลยีและ App บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งจะช่วยให้เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น คุณสามารถเข้าถึงห้องสมุด แบบเตม็ รูปแบบผา่ นApp บนอปุ กรณเ์ คล่อื นท่ีผ่าน Smartphone หรอื iPad ได้ 5. การใชเ้ ทคโนโลยใี นซือ้ ของออนไลน์ เทคโนโลยีทำให้การซื้อและขายมีความยืดหยุ่น ด้วยระบบการชำระเงินแบบ e- Payment เช่น Paypal.com และ Net bank ต่างๆ ผู้ใช้สามารถซื้อสิ่งต่างๆทางออนไลน์ได้โดยไม่ ตอ้ งออกจากบา้ นเพ่ิมความสะดวกสบายในบ้าน 6. การใชเ้ ทคโนโลยีในการเกษตร ดูจะไมเ่ ปน็ เร่อื งท่ีไปด้วยกันได้ซักเท่าไหร่แต่เทคโนโลยีแสดงให้เหน็ ว่ามันสามารถทำ ได้ทุกอย่าง แม้แต่เรื่องเกี่ยวกับการเกษตร ด้วยการประดิษฐ์ Mobile App สำหรับเกษตรกรพวกเขา สามารถใช้ App เช่น \"FamGraze\" เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น App\"FamGraze\" จะช่วยให้เกษตรกรจัดการหญ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการแนะนำ อาหารที่ถูกที่สุดสำหรับปศุสตั ว์ของตน app นี้จะคำนวณปริมาณของหญ้าสัตว์ของคุณมีในเขตข้อมูล ช่วยใหค้ ุณมีเวลามากขึน้ ในขณะทีอ่ ย่ใู นไร่ 7. การใช้เทคโนโลยีในการธนาคาร ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์โอนได้ง่ายมาก การสร้างบัตรวีซ่าอิเลคโทรนิคทำให้การโอน เงินทำไดง้ า่ ยขน้ึ โดยไมต่ ้องกลวั ว่าจะถูกโจรกรรมไป คณุ สามารถซ้ืออะไรกไ็ ด้ด้วยบัตรวซี ่าอเิ ลคโทรนิค ดังนั้นในกรณีนี้คุณจะไม่ต้องพกเงินสด ธนาคารใช้ซอฟต์แวร์เครือข่ายเพื่อตรวจจับการฉ้อโกง
22 ซอฟต์แวร์มปี ระสทิ ธ์ิภาพสูงในการจำแนกรูปแบบดังน้ันหากโปรไฟล์ของคุณมีลักษณะคล้ายกับของผู้ ทต่ี ง้ั ค่าเริม่ ต้นธนาคารจะดำเนินการและช่วยคุณจากการถกู ปลน้ 8. การ ใชเ้ ทคโนโลยีในการควบคุมธรรมชาติ ธรรมชาตสิ ง่ ผลกระทบทางเศรษฐกจิ ทุกวัน ตวั อยา่ งเชน่ นำ้ ทว่ มพน้ื ท่ีเพาะปลูกและ ที่อยู่อาศัยของพวกเขา ทำให้ดินชั้นบนที่อุดมสมบูรณ์เสียหายและทำลายการเจริญเติบโตของพืช นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดไฟไหม้อาคารพืชผลและป่าไม้ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีชว่ ยให้มนุษยส์ รา้ งเข่ือนขนาดใหญ่ซึ่งสามารถกักน้ำสว่ นเกินและใชน้ ้ำเพื่อผลติ กระแสไฟฟ้า ได้ นอกจากนีแ้ สงอาทิตยย์ งั ชว่ ยใหบ้ ้านของเราอุ่นและแปลยื่ นแปลงพลังงานกลบั มาใช้มีการใช้ลมเพ่ือ ผลติ กระแสไฟฟ้า ท้ังหมดนเ้ี ปน็ ผลมาจากการใชเ้ ทคโนโลยีในการควบคุมธรรมชาติ 9.การใช้เทคโนโลยีในการคมนาคมขนส่ง การคมนาคมเป็นหนึ่งในพื้นฐานของทุกอุตสากรรม เวลาคือเงินดังนั้นเราต้องมี วธิ กี ารขนสง่ ที่มปี ระสิทธภิ าพลองจินตนาการถึงชีวติ ท่ีไม่ต้องเสียไปบนท้องถนน หรอื สามารถส่งสินค้า ไดท้ ันทที ล่ี ูกค้าส่ังอย่างไรก็ตามเทคโนโลยีการขนส่งมีการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆจนถงึ ปีที่ผ่านมา และ ตอนนี้เทคโนโลยีการขนส่งที่กำลังเข้ามามีชื่อว่า Hyperloop One ที่สามารถสร้างความเร็วได้ที่ 1,200 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือเทียบง่ายๆคือจากกรุงเทพไปจังหวัดลำพูนใช้เวลา 35 นาที ซึ่งไวกว่า เครื่องบินมาก และทำใหเ้ ราประหยัดเวลาได้มากขน้ึ 10. เทคโนโลยใี หมท่ ่ีเราจะได้ใชใ้ นชีวิตประจำวัน แน่นอนว่าความต้องการของเราไมส่ ิ้นสุดและเทคโนโลยีใหมๆ่ จะมาชว่ ยตอบโจทยส์ ิ่งเหล่าน้ัน ซึ่งบางย่างก็ดูใช้เฉพาะกลุ่มเป็นอย่างมากและแน่นอนว่าพวกมันชว่ ยทำให้ชีวิตเรามีคุณภาพขึ้นอย่าง แนน่ อน ถงึ ตอนนี้ผู้อ่านคงอยากรู้แล้วว่ามันมีอะไรบ้าง อยา่ งนั้นเรามาเรม่ิ ท่ีชน้ิ แรกกกันเลย HAPIfork มันเป็นตัวปรับปรุงพฤติกรรมการกินและสุขภาพของคุณ HAPIfork นี้เป็นส้อม อัจฉรยิ ะท่ีติดตามสิ่งท่ีคุณกำลังนสิ ัยการกนิ สำหรบั ผ้ทู ต่ี ้องการลดน้ำหนักเทคโนโลยีส้อมอัจฉริยะนี้จะ ช่วยให้คุณรับประทานได้มีสุขภาพดีและยังช่วยกำหนดความเร็วในการรับประทานอาหาร ถ้าคุณ ต้องการตรวจสอบความเร็วที่คุณกำลังรับประทานอยู่คุณจะปรับปรุงระบบการย่อยอาหารของคุณ และลดนำ้ หนักของคุณดว้ ย
23 อย่างต่อมาคือกล่องรักษาความปลอดภัยทางด้านข้อมูลบริษัท ตอนนี้การเว็บไซค์จัดเก็บ ข้อมูลออนไลน์จำนวนมากที่ให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลและมีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งต้อเสียเงินเพิ่มตามจำนวน พื้นที่ที่เพิ่มขึ้น แต่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีกต่อไปแต่ตอนนี้ Space Monkey ได้เข้ามาแก้ปัญหานี้ แล้ว ซึ่งจะเก็บข้อมูล Cloud จากศูนย์ข้อมูลระยะไกลและนำมาไว้ในบ้านหรือที่ทำงานของคุณดงั นัน้ คุณจึงสามารถควบคุมสิ่งที่คุณเก็บไว้ใน Space Monkey และทั้งหมดที่กล่าวมาเมื่อพิจารณาถึง ต้นทุนคุณจะใชจ้ ่ายเพียง 35บาท สำหรบั พื้นท่เี ก็บขอ้ มูลขนาด 1,000 กิกะไบต์ อย่างสุดท้ายคือ Coolest Cooler ตู้แช่ที่ให้คุณได้มากกว่า ปัจจุบันการไปนอนเที่ยวเลน่ นัง่ ดื่มเครื่องดื่มริมชายหายหรอื ปิกนิค เป็นเรื่องปกติของวัยรุน่ ซะแล้วซ่ึงถา้ จะไปแต่ละทีก็ต้องยกของไป กันมากมายเพื่อจัดปาร์ตี้ แต่ตอนนี้ปัญหาได้ถูกแก้ไขโดย Coolest Cooler ซึ่งเป็นตู้แช่มีฟังชั่นครบ ครนั ไมว่ า่ จะเป็น เคร่ืองปนั่ ในตวั , ลำโพงท่ีปอ้ งกนั น้ำไดแ้ บบไร้สาย , USB Chargerโทรศพั ท์มือถือ, มี LED LID Light เป็นไฟสอ่ งสว่างท่ีอย่ภู ายในตวั , มี Gear Tie-Down ไวม้ ดั และจัดเก็บอุปกรณ์การปิก นิคของคณุ , มี Essential Storage เอาไว้เกบ็ พวกจานมีดและสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ มที ี่เปิดขวดคุณจะได้ ไม่ต้องมาจำว่าที่เปดิ ขวดอยู่ตรงไหนเพียงแค่เดินไปที่ Coolest Cooler มันก็มีพร้อมสำหรับคุณ เป็น ตน้ เรยี กไดว้ ่าครบครนั สำหรบั คนทชี่ อบไปปกิ นิคหรือชอบแคมป์ป้งิ เลยทีเดียว 3.2 คน้ หาทรัพยากรความร้กู ารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวัน การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิผล มี มากมายหลายดา้ น ได้แก่ 1. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานสำนักงาน ปัจจุบันสำนักงานได้นำเทคโนโลยี สารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อให้งานในสำนักงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น กล่าวคือ ทำให้งานมีความสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในงาน สำนักงาน ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดีด อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ เครื่องถ่ายเอกสาร ผลิตภัณฑ์เหล่านี้นำไป ประยุกตใ์ ชก้ บั งานสำนักงานได้หลายลกั ษณะ เชน่ งานจัดเตรียมเอกสาร เป็นการใช้เคร่ืองประมวลผลคำหรือเครื่องประมวลผลเน้อื หา เป็นเครื่องมือในการจัดเตรียม อุปกรณ์ประกอบการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้แก่ เครื่อง คอมพวิ เตอร์ โมเดม็ และชอ่ งทางการสื่อสาร ระบบประมวลผลคำ แบ่งออกได้ 2 ระบบ คือ ระบบเดี่ยว (Stand – alone) เป็นระบบที่สามารถประมวลผลได้ภายใน คอมพิวเตอรช์ ดุ เดียว หรือจะเชื่อมโยงไปยงั คอมพิวเตอร์อน่ื ๆ
24 ระบบเชื่อมโยงกับข่ายการสื่อสาร เป็นระบบที่มีการเชื่อมโยงสารสนเทศซึ่งกันและ กนั ผา่ นเครอื ข่ายโทรคมนาคม เช่น เครอื ขา่ ยโทรศพั ท์ เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ งานกระจายเอกสาร เป็นการกระจายข้อมูลสารสนเทศไปยังผู้ใช้ ณ จุดต่าง ๆ อาจ กระทำโดยการเชอื่ มโยงผา่ นเครอื ข่ายโทรคมนาคม อปุ กรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศท่สี ามารถปฏิบัติงาน กระจายเอกสารได้โดยอัตโนมัติ ไดแ้ ก่ ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ งานจัดเก็บและค้นคืนเอกสาร สามารถทำได้ทั้งระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ ผ่านเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ หรอื ผ่านเครอื ข่ายโทคมนาคมรูปแบบอ่ืน เช่นระบบฐานข้อมลู เปน็ ตน้ งานจัดเตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ดำเนินงาน ดงั กล่าว ได้แก่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เคร่อื งสแกนเนอร์ โทรทศั น์ งานสื่อสารสนเทศด้วยเสยี ง เช่น โทรศพั ท์ การประชุมทางโทรศัพท์ งานส่อื สารสนเทศดว้ ยภาพและเสียง เช่น ระบบมัลติมเี ดีย ระบบการประชุมทางไกล ดว้ ยภาพและเสยี ง เป็นตน้ 2. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมนำ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเข้ามาช่วยในการจดั การระบบงานการผลิต การสั่งซื้อ การพัสดุ การเงนิ บคุ ลากร และงานด้านอื่น ๆ ในโรงงาน 3. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในรูปแบบของเครื่องเบิกถอนเงินอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอน เงิน และนำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาช่วยในการทำงานประจำวันของธนาคาร ด้วยการเชือ่ มโยงข้อมลู ของธนาคารต่างสาขา ต่างธนาคาร ทำใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการสามารถเบกิ ถอน โอนเงิน ชำระเงนิ ค่าใชจ้ ่ายตา่ ง ๆ ไดโ้ ดยสะดวก 4. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านการสื่อสาร ได้แก่ การบริการโทรศัพท์ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบรกิ ารสือ่ สาร ร่วมระบบดิจติ อล 5. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานด้านสาธารณสุข เชน่
25 ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ถูกนำมาใช้ในระบบงานเวชระเบียน ระบบข้อมูลยา การรกั ษาพยาบาล การคดิ เงิน รวมทงั้ การสง่ เวชระเบียนผา่ นระบบโทรคมนาคมที่อาจเรยี กวา่ โทรเวช ได้ ระบบสาธารณสุข เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาใช้ในการดูแลรักษาโรคระบาดใน ท้องถิน่ เช่น เม่อื มีผูป้ ่วยโรคอหิวาตกโรคในหมูบ่ า้ น ซงึ่ อาจกลายเปน็ โรคระบาดได้ ระบบผู้เชี่ยวชาญ เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยโรค เช่น ระบบ Mycin ของมหาวิทยาลัยสแดนฟอร์ด โดยเริ่มมาใชใ้ นการวินิจฉัยโรคพืชและโรคสัตว์ ที่ใช้หลกั การเก็บข้อมลู ต่าง ๆ ไว้โดยละเอียดแล้วใช้หลักปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เป็นแนวคิดในการทำให้ คอมพิวเตอรท์ ำงานได้เหมือนมนุษย์ 6. การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศกบั งานดา้ นการฝึกอบรมการศึกษา ดังนี้ การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นการ นำเอาคำอธิบายบทเรียนมาบรรจุไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้วนำบทเรยี นน้นั มาแสดงแก่ผู้เรียน เมื่อผู้เรียน อ่านคำอธิบายเหล่านัน้ คอมพิวเตอร์จะมีส่วนท่ีใช้ทดสอบความเขา้ ใจของผู้เรียนด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ หากเข้าใจไม่ถกู ตอ้ งคอมพิวเตอร์จะทำการอธิบายเน้ือหาเพ่ิมเติมให้เข้าใจมากขึ้น แลว้ ถามซำ้ อีก การศึกษาทางไกล เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการจัดการศึกษาทางไกลมีหลาย แบบตั้งแต่แบบง่าย ๆ เช่น การเรียนการสอนผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ออกอากาศให้ผู้เรียนศึกษาเอง ตามเวลาที่ออกอากาศ ไปจนถึงใช้ระบบแพร่ภาพการสอนผ่านดาวเทียม หรือการประยุกต์ใช้ระบบ ประชุมทางไกล โดยผู้สอนและผู้เรียนสามารถส่ือสารถงึ กันได้ทันที่ เพื่อสอบถามข้อสงสัยหรืออธบิ าย คำสอน เพม่ิ เติม เครือข่ายการศึกษา เป็นการจัดทำเครือข่ายการศึกษาเพื่อให้ครูอาจารย์และ นักศึกษามีโอกาสใช้เครือข่ายเพื่อแสวงหาความรู้ที่มีอยู่มากมายในโลก และใช้บริการต่าง ๆ ที่เป็น ประโยชน์ทาง การศึกษา เช่น บริการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail : E-mail) การ เผยแพรแ่ ละค้นหา ขอ้ มูลในระบบเวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ (World Wide Web) การใช้งานในห้องสมุด มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาใช้ในการดำเนินงานโดย มีเครอื ขา่ ยต่าง ๆ ทใ่ี ห้การสง่ เสริมสนับสนุนในการให้บริการห้องสมุด การนำเทคโนโลยสี ารสนเทศมา
26 ใช้ในห้องสมุดให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการยืม คืน การค้นหาหนังสือ วารสาร สิง่ พิมพ์ หรือการคน้ หาข้อมูลทต่ี อ้ งการทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมาก การใชง้ านในห้องปฏิบัตกิ าร มีการนำเอาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการทำงานใน ห้องปฏิบัติการร่วมกับอุปกรณ์เครื่องมืออื่น ๆ เช่น การจำลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟ้า การ ควบคมุ การทดลอง การใช้ในงานประจำและงานบริหาร เช่น การจัดทำทะเบียนประวัติของนักเรียน นกั ศกึ ษา การเลอื กวิชาเรียน การลงทะเบียนเรยี น การแสดงผลการเรยี น การแนะแนวอาชพี การแนะ แนวการศกึ ษาต่อ การเกบ็ ข้อมูลผู้ปกครองหรือข้อมลู ครู ซึ่งทำให้ครูอาจารยส์ ามารถติดตามและดูแล นกั เรียนได้ใกล้ชดิ มากขึ้น รวมทงั้ ครอู าจารยส์ ามารถพฒั นาตนเองได้สูงข้นึ 3.3 อธิบายการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวันทรัพยากรความรู้เกี่ยวกับการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ิตประจำวนั ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าในสังคมปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญและมีความจะเป็น อยา่ งมากในชีวิตประจำวัน ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อส่ือสารใหม้ ีความรวดเร็ว เเม่นยำ ทัน ต่อเวลา และประหยดั และมแี นวโน้วท่ีจะมบี ทบาทมากยิ่งข้นึ ในอนาคต เพราะเทคโนโลยีเปน็ เครอื่ งมือในการดำเนินงานสารสนเทศใหเ้ ปน็ ไปอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ นับตง้ั แต่การผลิต การจัดเก็บ การประมวลผล การเรยี กใช้ การส่อื สารสารสนเทศ การแลกเปล่ยี นและใช้ทรพั ยากรสารสนเทศร่วมกนั ใหเ้ กดิ ประโยชน์อย่างเตม็ ที่ 1. การประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการสอน เช่น การ สอนด้วยสอื่ อุปกรณืท่ีทันสมัยใช้ (Video Projector) คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เป็นการนำเอาเทคโนโลยี รวมกับการออกเเบบโปรเเกรมการสอนมาชว่ ยใช้ในการสอน ซ่งึ เรียกนั วา่ บทเรยี น CAI (Computer- Assisted Instruction) เป็นต้น 2. การประยุกต์ใช้ในงานทะเบียนของสถานศึกษา การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการ ลงทะเบียนเรียน การประมวลผลการเรียน การตรวจสอบการจบการศึกษา และการส่งงานของ นักศึกษา เป็นตน้
27 3. การประยุกต์ใชใ้ นดา้ นการเเพทย์ เปน็ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการลงทะเบียน ผู้ป่าย การให้คำปรึกษาทางไกลโดยเเพทย์ผู้ชำนาญ ช่วยในการส่งข้อมูลที่เปนเอกสารหรือภาพเพ่ือ ประกอบการพจิ ารณาของเเพทย์ได้ 4. การประยุกตใ์ ชใ้ นสำนกั งานของภาครัฐและเอกชน การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาชว่ ง การทำงานด้านต่างๆ เช่นการทำบัตรประจำตัวประชาชน การจ่ายค่าสาธารณูปโภคต่างๆ การนำ เทคโนโลยีมาใชใ้ นสำนกั งานเพ่อื อำนวยความสะดวกและมคี วามรวดเร็วยิ่งขึน้ 5. การประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรปู แบบของเครือ่ งเบิกถอนเงินอตั โนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน และนำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลนเ์ ขา้ มาชว่ ยในการทำงานประจำวนั ของ ธนาคารด้วยการเชอ่ื มโยงขอ้ มลู ของธนาคารต่างสาขา ต่างธนาคาร ทำให้ผใู้ ช้บริการสามารถเบกิ ถอน โอนเงนิ ชำระเงนิ คา่ ใชจ้ า่ ยต่าง ๆ ไดโ้ ดยสะดวก 6. การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานอตุ สาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมนำเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการเขา้ มาชว่ ยในการจดั การ ระบบงานการผลิต การสัง่ ซ้อื การพสั ดกุ ารเงิน บุคลากร และงานด้านอื่น ๆ ในโรงงาน 7. การประยุกต์ใช้ในงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มนักวิทยาสตร์ วิศวกรท่ี ต้องการศกึ ษาพฤตกิ รรมบางอยา่ งของสงิ่ มีชวี ต รวมถงึ สิ่งแวดลอ้ มต่างๆ เช่นศกึ ษาชีวติ ความเปน็ อยขู่ องสตั ว์ปา่ ต่าง ๆ การพึ่งพาอาศัยซ่งึ กันและกัน ตลอดจนระบบนิเวศวิทยา ความสนใจในการจำลองความเปน็ อยู่ของ สง่ิ มีชีวิตไดม้ มี านานแลว้ โดยการใชโ้ ปรเเกรมต่างๆทคี่ ดิ ค้นข้ึนมาสำหรับงานดา้ นวิทยาศาสตร์
28 8. การประยุกต์ใช้ในงานด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม เทคโนโลยีของการสื่อสารและ โทรคมนาคมในปจั จบุ นั ก้าวไกลไปมากมีบริการมากมายท่ีทันสมัยและตอบรบั กับการนำมาประยุกต์ใช้ ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้โทรศัพท์ในปจั จุบันน้ีก็มไิ ด้มไี วเ้ พยี งสำหรับคุยสนทนาเพียงอย่างเดียว อีกต่อไป แต่มนั สามารถช่วยงานได้มากขนึ้ 9. การประยกุ ตใ์ ช้ในงานห้องสมดุ เพ่ือใหม้ ีสะดวกรวดเรว็ ความรวดเร็วในการค้นคว้าหนังสือ ในแตล่ ะ่ หมวด สะดวกในการใหบ้ รกิ ารยืมคืน การคน้ หาหนงั สือ วรสาร ส่งิ พมิ พต์ ่างๆไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
บทท่ี4 สรปุ ในยุคนี้คงจะไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่าเทคโนโลยีไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนิน ชีวิตของมนุษย์ เพราะทุกคนลว้ นใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ืออำนวยความสะดวกในชีวติ ในทุก ๆ ดา้ น ต้ังแต่การ ตื่นนอนจนถึงการเข้านอน ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างย่ิ งผู้ท่ี อาศัยอย่ใู นเมืองทช่ี ีวติ ประจำวันมีแต่ความเร่งรบี ต้องแขง่ ขนั กบั เวลา การนำเทคโนโลยเี ขา้ มาช่วยจึงมี ความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานแล้ว ยงั ชว่ ยยน่ ระยะเวลาทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ให้สนั้ ลง การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะในบางครั้งก็นำโทษมา ให้แก่มนุษย์ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างที่สามารถเห็นได้ชัดเจนก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่เป็นข่าวตามหน้า หนังสือพิมพ์ในเรื่องของการถูกลวงไปข่มขืน โดยสาเหตุหลัก ๆ ของการถูกล่อลวงไปข่มขืน ก็เป็นผล มาจากการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากการพูดคุยกันผ่านทางโปรแกรมการสนทนา ออนไลน์(Chat) ที่เมื่อมีการพูดคุยกันก็มีการนัดมาเจอกันและเกิดเหตุการณ์การล่อลวงไปข่มขืน เพราะการพดู คุยผ่านการChat นีเ้ ป็นการพูดคยุ ท่ีอสิ รเสรี ผพู้ ดู สามารถที่จะพูดคยุ อะไรออกไปก็ได้ไม่ ว่าจะเปน็ ความจริงหรือไม่ก็ตาม และนอกจากน้ีก็ยังมีการนำเสนอเวบ็ ไซด์ที่เป็นเวบ็ ไซด์โป๊ หรือมีการ นำเสนอสิ่งที่อนาจารลงในเว็บไซด์ และทำให้เป็นการยั่วยุทางอารมณข์ องผู้เล่นจนนำมาสู่การกระทำ อันผิดศีลธรรม และเกิดคดีความได้ และจากการที่สื่ออินเตอร์เน็ตเป็นสื่อเสรีไม่มีองค์กรใด ๆ เข้ามา ควบคุมดูและจึงทำให้อินเตอร์เน็ตกลายเป็นช่องทางหนึ่งในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างกลุ่มคนที่ไม่ หวังดี เช่น กลุ่มก่อการร้าย หรือ กลุ่มคนที่ต้องการก่ออาชญากรรม โดยกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะใช้ อินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน โดยอาจมีเว็บไซด์เป็นกลุ่มของตนเอง หรือใช้การส่ง E-mail เป็นทอด ๆ ระหว่างกันและมีการแปลรหัสจากการส่ง E-mail โดยไม่มีใคร สามารถที่จะล่วงรู้ได้ และในบางครั้งก็มีคนที่มีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เป็นอย่างดี คนเหล่านี้ก็นำความเก่งกาจของตนเองมาใช้ในทางที่ผิด เช่น การลักลอบขโมยข้อมูลใน องคก์ รต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้กอ่ อาชญากรรม เชน่ ลกั ลอบคน้ ข้อมูลของบริษทั บัตรเครดิต หรอื ธนาคาร หรือข้อมูลบัญชีเงินฝากและATM เพื่อลักลอบนำเงินไปใช้ นอกจากนี้บางครั้งก็มีการใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อปล่อยหรือสร้างข่าวที่มีความบิดเบือน เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความหวาดกลัวให้กับ ประชาชน เช่น ในบางครั้งกลุ่มก่อการร้าย ก็อาจใช้สื่ออินเตอร์เน็ตเพื่อสร้างข่าวบิดเบือน เพื่อจูงใจ ประชาชนให้มาเข้ารว่ มในขบวนการและร่วมเป็นส่วนหน่งึ ในการกอ่ การร้าย
30 จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีมีทั้งประโยชน์และโทษ ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีที่ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และ ต้องไม่ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดที่จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทั้งตนเองและผู้อื่น และใน ขณะเดียวกันมนุษย์เราก็จะต้องหันกลับมาพึ่งพาตัวเองบ้าง และใช้เทคโนโลยีเฉพาะเท่าที่จำเป็น เท่านั้น และในบางครั้งผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองก็ต้องเข้ามาดูแลเด็ก และให้คำแนะนำแก่เด็กด้วยเพื่อ ไม่ให้เดก็ เหล่านเ้ี ขา้ ไปเสพย์สอ่ื ทผี่ ิดเบือนและผดิ ศีลธรรม
31 บรรณานกุ รม “การนำเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/site/lifezgaming/khwam-sakhay-laea-bthbath-khxng- thekhnoloyi-sarsnthes [สบื ค้นเม่อื 18 ตลุ าคม 2564]. “การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในชีวิตประจำวนั ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://hborinz.blogspot.com/2013/11/blog-post_11.html [สบื ค้นเม่อื 18 ตุลาคม 2564]. “กำหนดช่องทางการเผยแพร่ฐานความรู้ของการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน” [ออนไลน์]. เข้าถึง ได้จาก : https://sites.google.com/site/informationsystemis2/8rabb-sar-sn-the-sxun/rabb-phu- cheiywchay 2559. [สืบค้นเมือ่ 18 ตลุ าคม 2564]. “ขัน้ ตอนของการใช้เทคโนโลยใี นชีวิตประจำวัน” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/thekhnoloyisarsnthes05/bthkhwam-thi-keiywkhxng/kar- chi-thekhnoloyi-ni-chiwit-praca-wan [สบื ค้นเม่ือ 18 ตุลาคม 2564]. “คน้ หาความรแู้ ละการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ิตประจำวัน” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : https://dip-sme-academy.com/knowleagehub/article/40-10- [สบื คน้ เมอื่ 18 ตุลาคม 2564]. “คน้ หาทรพั ยากรความรูก้ ารใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ิตประจำวนั ” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/perarpong/sarsnthes-ni-chiwit-praca [สืบค้นเมื่อ 18 ตุลาคม 2564]. “ความสำคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/technologyby403/tawxyang-thekhnoloyi-ni-chiwit-praca- wan [สบื ค้นเมื่อ 18 ตุลาคม 2564]. “ความหมายของการใชเ้ ทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://sites.google.com/site/kasesayapak39656/khorng-ngan-reuxng-kar-chi- thekhnoloyi-sarsnthes-ni-chiwit-praca-wan [สบื ค้นเมอื่ 18 ตุลาคม 2564]. “ดำเนนิ การอธิบายเกยี่ วกบั การใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวนั ” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://comkrubee.blogspot.com/2020/. [สืบค้นเมือ่ 18 ตลุ าคม 2564].
32 บรรณานกุ รม(ต่อ) “ประเมนิ คุณภาพของการใชเ้ ทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวัน” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://www.scimath.org/article-technology/item/11534-2020-05-01-03-32-41 [สืบคน้ เมื่อ 18 ตลุ าคม 2564]. “ประโยชน์ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ได้จาก : https://sites.google.com/site/rattikan581031029/prayochn-khxng-thekhnoloyi- sarsnthes [สบื ค้นเมือ่ 18 ตุลาคม 2564]. “ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศตอ่ ชวี ติ ความเป็นอยแู่ ละสังคม” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/site/teknology20169/bth-thi-1-khwam-ru-beuxng-tn-keiyw- kab-thekhnoloyi-sarsnthes/1-5-phlk-ra-thb-khxng-thekhnoloyi-sarsnthes [สืบค้นเมื่อ 18 ตลุ าคม 2564 “ระบคุ ำสำคญั หรือคำคน้ หา เขยี นสาระสำคัญ เขยี นแหลง่ อ้างองิ ของคำสำคัญ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้ จาก : https://www.gotoknow.org/posts/354835, [สืบค้นเม่ือ 18 ตุลาคม 2564]. “วเิ คราะหเ์ นอื้ หาของการใช้เทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวัน” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก : https://comkrubee.blogspot.com/2020/ [สบื ค้นเมอ่ื 18 ตุลาคม 2564]. “สรปุ ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://phatcharinloetru5711165145.wordpress.com/2015/08/10/ [สืบค้นเมื่อ 18 ตุลาคม 2564]. “อธิบายการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวันทรัพยากรความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในชีวิตประจำวนั ” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก : http://hborinz.blogspot.com/2013/11/blog-post_11.html [สืบค้นเม่ือ 18 ตลุ าคม 2564].
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: