เอกสารประกอบการบรรยาย ศ.ดร. สมคิด เลิศไพฑูรย์

สมาคมสถาบันอดุ มศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชปู ถมั ภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี (สสอท.) การอบรม สัมมนา หัวข้อ “ความกระจา่ งและความชดั เจนของ เกณฑ์การขอตาแหนง่ ทางวชิ าการ” : วเิ คราะหเ์ กณฑ์เกา่ ส่เู กณฑ์ใหม่ โดย ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ 2 ธันวาคม 2564

บรรยายโดย ศาสตราจารย์ ดร.ผดงุ ศกั ดิ์ รตั นเดโช

 การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการพจิ ารณาตาแหนง่ วิชาการ  ประธานกรรมการตอ้ งดารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ (เกณฑเ์ ดมิ ไมไดร้ ะบ)ุ  ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 คน และเกิน 10 คนได้ (เกณฑเ์ ดิม เกนิ 10 คนไมไ่ ด)้  การแตง่ ตง้ั ใหด้ ารงตาแหนง่ วิชาการโดยวิธปี กติ  จบ ป.ตรี/ป.โท/ป.เอก เป็ นอาจารย์ และทาการสอนไมน่ อ้ ยกวา่ 6 ปี /4 ปี /1 ปี และพน้ ทดลองงานทกี่ าหนดโดยสถาบันนน้ั ๆ (เกณฑเ์ ดมิ 9 ปี /5 ปี /2 ปี ) ไมไ่ ดก้ าหนดเรื่องทดลองงาน  กรณี อจ.พิเศษ ใหเ้ ทียบคา่ ไดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 3 หนว่ ยกติ ระบบทวภิ าคหรือปฏิบัตงิ านดา้ นวชิ าชพี นนั้ มาคานวณเวลาในการสอนให้ 3 ใน 4 สว่ นของเวลาท่ีทา การสอน (เกณฑเ์ ดมิ เทยี บไดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 2 หนว่ ยกิตระบบทวิภาค และไมไ่ ดก้ ลา่ วถึงการปฏบิ ัตงิ านดา้ นวิชาชพี )  ผลการสอนตอ้ งประเมนิ คณุ ภาพการสอนของผขู้ อทค่ี รอบคลมุ ขอ้ มลู ทจี่ าเป็ นทกุ ๆ ดา้ น โดยเฉพาะความสามารถในการถ่ายทอดความรใู้ นทกุ ระดบั ไมไ่ ด้ กลา่ วถึงเอกสารประกอบการสอนและเอกสารคาสอน (เกณฑเ์ ดมิ ไมไ่ ดร้ ะบกุ ารประเมนิ คณุ ภาพการสอน แตก่ าหนดหลกั เกณฑเ์ ร่ืองเอกสารประกอบการ สอนเอกสารคาสอน)  ชวั่ โมงการสอน ผขู้ อตอ้ งมชี วั่ โมงสอนประจาทีเ่ ทยี บคา่ ไดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 3 หนว่ ยกิตระบบทวิภาค และตอ้ งเสนอหลกั ฐานทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ การสอนทผี่ ลติ ขน้ึ ตามภาระงานสอน (เกณฑเ์ ดมิ ไมไ่ ดร้ ะบกุ ารเทียบคา่ หนว่ ยกิตและเสนอเอกสารประกอบการสอนเทา่ นน้ั )  กรณีสอนหลายวชิ าหรือสอนรว่ มกนั หลายคน ตอ้ งเสนอเอกสารหลกั ฐานท่ใี ชใ้ นการประเมนิ ผลการสอนในทกุ วชิ าหรือทกุ หวั ขอ้ ที่ผขู้ อเป็ นผสู้ อน ซึ่งรวมกนั ไดไ้ มน่ อ้ ยกวา่ 3 หนว่ ยกิตระบบทวิภาค (เกณฑเ์ ดิม เสนอเอกสารประกอบการสอนเทา่ นน้ั และไมไ่ ดร้ ะบหุ นว่ ยกิตรวมกนั )

ขอกาหนดตาแหนง่ \"ผู้ชว่ ยศาสตราจารย\"์ วจิ ยั ผลงานในลักษณะอน่ื ผลงานรบั ใช้สังคม ตารา/หนงั สือ บทความวชิ าการ หมายเหตุ เกณฑใ์ หม่ (2560) ทางเลือกที่ 1 2 ทางเลือกที่ 2 ทางเลือกท่ี 3 11 1 คณุ ภาพ \"ด\"ี ทางเลือกท่ี 4 1 เกณฑเ์ ดิม (ฉบบั ท่ี 2-10) 11 ประเภทใดประเภทหน่ึง 1 ชนิ้ คณุ ภาพ \"ด\"ี ขอกาหนดตาแหนง่ \"รองศาสตราจารย\"์ วจิ ยั ผลงานในลักษณะอน่ื ผลงานรบั ใชส้ ังคม ตารา/หนงั สือ บทความวชิ าการ เกณฑใ์ หม่ (2560) วธิ ีที่ 1 หมายเหตุ ทางเลือกที่ 1 2 1 ทางเลือกที่ 2 11 1 คณุ ภาพ \"ด\"ี ทางเลือกที่ 3 1 11 ทางเลือกที่ 4 1 1 วธิ ีท่ี 2 หมายเหตุ ทางเลือกที่ 1 3 คณุ ภาพ \"ดมี าก\" 2 \"ด\"ี 1 ทางเลือกที่ 2 21 คณุ ภาพวจิ ยั \"ดมี าก\" 2, ผลงานในลกั ษณะอน่ื \"ด\"ี 1 ทางเลือกท่ี 3 21 คณุ ภาพวจิ ัย \"ดมี าก\" 2, ผลงานรับใชส้ งั คม \"ด\"ี 1 ทางเลือกท่ี 4 (เฉพาะสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร)์ ประเภทใดประเภทหนึ่ง 1 ช้นิ 2 คณุ ภาพประเภทใดประเภทหน่ึง \"ด\"ี 1, ตารา/หนงั สอื \"ดมี าก\" 2 เกณฑเ์ ดิม (ฉบบั ท่ี 2-10) ประเภทใดประเภทหน่ึง 1 ชนิ้ 1 คณุ ภาพ \"ด\"ี ขอกาหนดตาแหนง่ \"ศาสตราจารย\"์ วจิ ยั ผลงานในลักษณะอนื่ ผลงานรบั ใช้สังคม ตารา/หนงั สือ บทความวชิ าการ เกณฑใ์ หม่ (2560) วธิ ีท่ี 1 หมายเหตุ ทางเลือกที่ 1 5 1 คณุ ภาพ \"ดมี าก\" และวจิ ยั ตอ้ งเผยแพรใ่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาติ ทางเลือกท่ี 2 1 มีอยา่ งน้อย 1 ประเภท รวมวจิ ยั ไม่น้อยกวา่ 5 1 คณุ ภาพ \"ดมี าก\", วจิ ยั และผลงานในลกั ษณะอน่ื ตอ้ งเผยแพรใ่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาติ ทางเลือกที่ 3 (เฉพาะสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร)์ 2 2 คณุ ภาพ \"ดมี าก\" และวจิ ยั ตอ้ งเผยแพรใ่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาต/ิ TCI กลมุ่ 1 ทางเลือกที่ 4 (เฉพาะสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร)์ 1 มีอยา่ งน้อย 1 ประเภท รวมวจิ ยั ไม่นอ้ ยกวา่ 2 2 คณุ ภาพ \"ดมี าก\" และวจิ ยั ตอ้ งเผยแพร่ในฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาต/ิ TCI กลมุ่ 1 วธิ ีที่ 2 หมายเหตุ ทางเลือกท่ี 1 5 คณุ ภาพ \"ดเี ดน่ \" และวจิ ัยตอ้ งเผยแพรใ่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาติ ทางเลือกท่ี 2 1 มีอยา่ งนอ้ ย 1 ประเภท รวมวจิ ัยไม่น้อยกวา่ 5 คณุ ภาพ \"ดเี ดน่ \", วจิ ยั และผลงานในลกั ษณะอน่ื ตอ้ งเผยแพรใ่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาติ ทางเลือกที่ 3 (เฉพาะสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร)์ 3 คณุ ภาพ \"ดเี ดน่ \" และวจิ ัยตอ้ งเผยแพรใ่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาต/ิ TCI กลุ่ม 1 ทางเลือกท่ี 4 (เฉพาะสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร)์ วจิ ยั หรือตารา/หนังสอื 1, ผลงานในลกั ษณะอน่ื /ผลงานรบั ใชส้ งั คม 1, รวมกนั ไม่นอ้ ยกวา่ 3 คณุ ภาพ \"ดเี ดน่ \" และวจิ ัยตอ้ งเผยแพรใ่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาต/ิ TCI กลุ่ม 1

 ผลงานทางวิชาการ (เพิ่มเตมิ )  **ผลงานทกุ ประเภทตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ การเผยแพร่นน้ั ไดผ้ า่ นการประเมนิ คณุ ภาพ โดยคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิในสาขาวิชาน้ัน ๆ หรือ สาขาวิชาท่ีเก่ยี วขอ้ งท่มี าจากหลากหลายสถาบนั (เกณฑเ์ ดมิ ไมไ่ ดร้ ะบไุ วช้ ดั เจน)  จริยธรรมและจรรยาบรรณ  ความซ่ือสตั ยท์ างวิชาการ ตอ้ งไมค่ ดั ลอกขอ้ ความใด ๆ จากผลงานเดิมของตน โดยไมอ่ า้ งอิงผลงานเดมิ ตามหลกั วิชาการ (เกณฑเ์ ดมิ ไมม่ ีขอ้ ความดงั กลา่ ว)  ***หากผลงานทางวิชาการมีการใชข้ อ้ มลู จากการทาการวิจยั ในคนหรือสตั ว์ ผขู้ อจะตอ้ งย่ืนหลกั ฐานแสดงการอนญุ าตจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจยั ของสถาบนั ที่มีการดาเนนิ การ (เกณฑเ์ ดมิ ไมไ่ ดก้ าหนดไว)้  ขอ รศ. เป็ น ผศ.ไมน่ อ้ ยกว่า 2 ปี ขอได้ (เกณฑเ์ ดมิ กาหนดไวอ้ ยา่ งนอ้ ย 3 ปี )  ผลการสอน กรณีขอ ศ. ตอ้ งมชี วั่ โมงสอนประจาวิชาหนง่ึ วิชาใดเทา่ นน้ั (เกณฑเ์ ดมิ ตอ้ งมคี วามเชยี่ วชาญในการสอน โดยผา่ นการประเมินจาก กพว.)

 การแตง่ ตง้ั ทกุ ตาแหนง่ โดยวิธปี กติ  เกณฑก์ ารตดั สิน ผลงานทางวิชาการตอ้ งมีปริมาณและคณุ ภาพทแ่ี สดงความเป็ นผทู้ รงคณุ วฒุ ิในสาขาวิชานน้ั ๆ เกณฑใ์ หมไ่ มไ่ ดก้ ลา่ วถึง (เกณฑ์ เดมิ ระบไุ วช้ ดั เจน)  กรณีผขู้ อเสนอผลงานวิชาการรบั ใชส้ งั คม ใหส้ ภาฯ แตง่ ตงั้ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิในชมุ ชนหรือผทู้ ีป่ ฏิบตั งิ านร่วมกบั ชมุ ชนทาหนา้ ท่เี ป็ นกรรมการ โดยไมไ่ ด้ ระบจุ านวนคนและตอ้ งไดร้ บั ความเห็นชอบจาก ก.พ.อ. กอ่ น (เกณฑเ์ ดมิ กาหนดไวเ้ พิ่มเตมิ ไดอ้ ีก 2 คน ซ่ึงตอ้ งไดร้ บั ความเห็นชอบจาก ก.พ.อ. กอ่ น ดาเนนิ การแตง่ ตง้ั )  เมอ่ื กพว. พิจารณาความเห็นของคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ใหเ้ สนอตอ่ สภาฯ เพ่ือพิจารณาอนมุ ตั แิ ละให้ อธก. ออกคาสงั่ แตง่ ตง้ั และแจง้ ให้ ก.พ.อ.ทราบภายใน 30 วนั นบั แตอ่ อกคาสงั่ พรอ้ มเอกสารหลกั ฐานประกอบการพิจารณาตามที่ ก.พ.อ. กาหนด ***ทงั้ นี้ ก.พ.อ. จะพิจารณาการ ปฏิบตั ติ ามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการทกี่ าหนดในประกาศน้ี รวมทง้ั สาระและความถกู ตอ้ งเหมาะสมของการพิจารณาอนมุ ตั ิ และแจง้ ผลการพิจารณาให้ สภาฯ ทราบตอ่ ไป และใหส้ ภาฯ ปฏิบตั ติ ามนน้ั (เกณฑเ์ ดมิ ระบเุ พียงแคแ่ จง้ ทราบ ไมม่ ปี ระโยค ***ทงั้ น้ี .....)  การแตง่ ตง้ั กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ไมว่ ่าวิธีท่ี 1 หรือ 2 ใหแ้ ตง่ ตง้ั จานวน 3-5 คน (เกณฑเ์ ดมิ วิธีท่ี 1 จานวน 3-5 คน วิธีที่ 2 จานวน 5 คน)

 การแตง่ ตง้ั ทกุ ตาแหนง่ โดยวิธีพเิ ศษ  กรณีขอ ผศ. หรือ รศ. (เสนอผลงานไดเ้ ฉพาะวิธีท่ี 1) ใหแ้ ตง่ ตงั้ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิจานวนอย่างนอ้ ย 5 คน โดยการประชมุ ใหถ้ ือเสียงขา้ งมาก การตดั สนิ ใจของ ท่ีประชมุ ใหถ้ ือเสยี งขา้ งมาก และคณุ ภาพผลงานฯ ตอ้ งอยใู่ นระดบั “ดีมาก” (เกณฑเ์ ดิม ใชเ้ กณฑก์ ารตดั สนิ ของท่ีประชมุ 4 ใน 5) ขณะท่ีกรณีขอ ศ. เสนอไดเ้ ฉพาะวิธี ที่ 1 ใชเ้ สยี ง 4 ใน 5 และคณุ ภาพผลงานฯ ตอ้ งอยใู่ นระดบั “ดีเดน่ )  กรณีผลการพิจารณาผลงานทางวิชาการเดมิ แตล่ ะชนิ้ ที่ผา่ นการพิจารณามาแลว้ นนั้ ไมว่ ่าโดยผขู้ อคนเดมิ หรือผขู้ อคนใหม่ ไมต่ อ้ ง พิจารณาผลงานใหม่ **เวน้ แตค่ ณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ เห็นว่าเป็ นผลงานท่ีลา้ สมยั หรือมเี หตสุ มควรอ่ืนทจ่ี ะไมใ่ ชผ้ ลการพิจารณา นน้ั อีกตอ่ ไป ทงั้ นคี้ ณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิตอ้ งระบเุ หตผุ ลทางวิชาการโดยชดั แจง้ ดว้ ย (เกณฑเ์ ดมิ ไมม่ ขี อ้ ความผขู้ อคนเดิมหรือผขู้ อ คนใหม่ และไมไ่ ดร้ ะบเุ หตใุ หย้ กเวน้ ไมใ่ ชผ้ ลการพิจารณาเดมิ )  บทลงโทษ  นอกจากกรณีการระบกุ ารมสี ว่ นรว่ มในผลงานไมต่ รงกบั ความจริงหรือมีการลอกเลยี นผลงานผอู้ ่ืน กรณีนาผลงานของตนเองในเรื่องเดยี วกนั ไป เผยแพร่ในวารสารวิชาการมากกว่า 1 ฉบบั หรือ คดั ลอกขอ้ ความใด ๆ จากผลงานเดมิ ของตนโดยไมอ่ า้ งอิงผลงานเดมิ ตามหลกั วิชาการ ท้ังนใ้ี น ลกั ษณะที่จะทาใหเ้ ขา้ ใจผดิ ว่าเป็ นผลงานใหม่ และกระทาการใด ๆ ท่ีเบ่ียงเบนผลการศึกษาหรือวิจยั และไมเ่ สนอผลงานตามจริง กาหนดโทษหา้ ม ไมใ่ หเ้ สนอขอตาแหนง่ ฯ ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 ปี แตไ่ มเ่ กนิ 10 ปี (เกณฑเ์ ดมิ ไมไ่ ดร้ ะบเุ หตเุ หลา่ นไ้ี วช้ ดั เจนและไมไ่ ดก้ าหนดขอบเขตการหา้ มไวไ้ มเ่ กิน 10 ปี )

 การเสนอขอทบทวนผลการพจิ ารณา  ในครงั้ ที่ 2 ใหแ้ ตง่ ตงั้ คณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิเพิ่มเตมิ จากทแี่ ตง่ ตง้ั ไวเ้ ดมิ 2-3 คน (เกณฑเ์ ดมิ ไมไ่ ดร้ ะบจุ านวนที่ใหแ้ ตง่ ตง้ั เพ่ิมเตมิ )  ภายใตบ้ งั คบั กรณีมปี ัญหาท่จี ะตอ้ งวินจิ ฉยั ตามหมวดนี้ ใหส้ ภาฯ เป็ นผวู้ ินจิ ฉยั ชข้ี าดและใหถ้ ือเป็ นทส่ี ดุ (เกณฑเ์ ดมิ ไมไ่ ดก้ ลา่ วไว)้  การมีผลบังคบั ใชต้ าม ขอ้ 2 และบทเฉพาะกาล ขอ้ 15 ในประกาศ ก.พ.อ. พ.ศ.2560  แบบฟอรม์ ก.พ.อ.03 (เกณฑเ์ ดิม ไมม่ ี)  ระบคุ วามเชย่ี วชาญ นอกเหนอื จาก สาขาวิชาทข่ี อกาหนดตาแหนง่  ระบวุ ิธีทีเ่ คยยื่นเมื่อไดร้ บั การแตง่ ตงั้ ใหด้ ารงตาแหนง่ กอ่ นหนา้ (วิธีปกติ วิธีพิเศษ)  กรณีเคยบรรจรุ บั ราชการในตาแหนง่ อ่ืนหรือเคยดารงตาแหนง่ อาจารยป์ ระจา อาจารยพ์ ิเศษในสงั กดั อื่น ใหร้ ะบดุ ว้ ย  คาอธิบายในเอกสารแนบทา้ ยท่ีชดั เจนมากย่ิงขนึ้ เชน่ ลกั ษณะการมีสว่ นร่วมในผลงานวิชาการ แบบแสดงหลกั ฐานการมีส่วนร่วมใน ผลงาน แนวทางการประเมินผลการสอน ผลงานทางวิชาการ เป็ นตน้









ผขู้ อ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ประเภทผลงาน การเผยแพร่ คณุ ภาพ