วร์ดอย ท ั แมฮ่ ่องสอน
©A สารบญั 1.ปางอุ๋ง 1 2.วดั พระธาตุดอยกองมู 3 3.อุทยานแห่งชาติหว้ ยนำ้ ดงั 5 4.ทุ่งบวั ตองดอยแม่อคู อ 7 5.ภูโคลน คนั ทรีคลบั เฮลท์ มดั สปา 9
©B 6.สะพานประวตั ิศาสตร์ท่าปาย 11 7.วดั จองกลาง - วดั จองคำ 13 8.วนอุทยานถำ้ แกว้ โกมล 15 9.อุทยานแห่งชาติถำ้ ปลา - ผาเสือ 17
©1 ปางอ๋งุ ปางอ๋งุ หรือที่มีช่ือเรียกเตม็ ๆ วา่ “โครงการพระราชดำริปางตอง2(ปางอุ๋ง)” น้นั เป็นโครงการในพระราชดำริของ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า อ ยู่ หั ว ท่ี ท ร ง เ ห็ น ว่า พ้ื น ที่ บ ริ เ ว ณ น้ี เ ป็ น พ้ื น ท่ี อัน ตราย อยตู่ ิดแนวชายแดนพม่ามีกองกำลงั ต่างๆ มีการขนส่ง ปลกู พืชเสพติด รวมไปถึ งการบุ กรุ กพ้ืนที่ ตัดไม้ทำลาย ป่ าอยู่เสมอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หวั และ สมเดจ็ พระราชินีนาถจึงมีพระ ราชดำริ ให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริ เวณน้นั และ พฒั นาความเป็นอยู่ ส่งเสริม อาชีพปลกู ป่ า สร้างอ่างเกบ็ นำ้ โดยมีพร ะราชประสงค์สร้างความมนั่ คงแนวชาย แดน พฒั นาความเป็นอยขู่ อง ราษฎร ใหด้ ี ข้ึนและฟ้ื นฟูอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ ใหส้ มบูรณ์ยงั่ ยนื ตลอดไป ปางอุ๋ง มีลกั ษณะเป็นพ้ืนท่ีเป็น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริ ม อ่ า ง เ ก็ บ น้ ำ เ ป็ น ทิ ว ส น ที่ ปลกู เรียงรายกนั ปางอุ๋ง ท่ีหลายๆ คนอาจยงั ไม่เขา้ ใจความหมาย คำวา่ “ปาง” ซ่ึงหมายถึงที่พกั ของคนทำ งานในป่ า ส่วน “อุ๋ง” น้นั เป็นภาษา เหนือหมายถึงท่ีลุ่มต่ำคลา้ ยกระทะใบ ใหญ่มีนำ้ ขงั เฉอะแฉะ กน็ ่าจะหมา ยถึงท่ีพกั ริมอ่างเกบ็ นำ้ น่ีเอง ภาพอั นสวยงามของไอหมอกท่ีลอยเหนือ ทะเลสาป กบั บรรยากาศอนั หนาวเห น็บในยามเชา้ ทำใหป้ างอุ๋ง กลาย เป็น เป็นสถานที่ท่องเี่ที่ยวมาแรง ยอดฮิต สุ ด แ ส น โ ร แ ม น ติ ก ติ ด อั น ดั บ ต้ น ๆ ข อ ง แ ม่ ฮ่ อ ง ส อ น จนไดร้ ับขนานนาม วา่ เป็น “สวติ เซอร์แลนดแ์ ห่งเมืองไทย” ยงิ่ ยามพระอาทิตยข์ ้ึนจะสะทอ้ นผืนน้ำ ผา่ นทิวสนและไอหมอกบางๆ ยงิ่ เป็ ็ นภาพที่สร้างความประทบั ยากจะลืม เลือน แมใ้ นกระทงั่ เวลาท่ีหมอกเลือน ลางหายไปกย็ งั คงความงาม
©2 ท่ีปางอุ๋งนอกจากชมบรรยากาศของ สายหมอกในยามเชา้ แลว้ กิจกรรมอีก อยา่ งหน่ึงที่พลาดไม่ได้ คือ การนงั่ แพ ชมทศั นียภาพและบรรยากาศโดยรอบ รวมถึงชมนดาราแห่งปางอุ๋ง นนั่ กค็ ือ หงส์พระราชทานจากสมเด็จพระราชิ นี ซ่ึงเป็นหงส์ดำและหงส์ขาวอยา่ งละ 1 คู่ ด้ว ย กัน แ ล ะ ไ ม่ ค ว ร พ ล า ด ท่ี จ ะ ไ ป ช ม ส ว น ป า ง อ๋ ุ ง ใ ก ล้ กั บ ท่ี ท ำ ก า ร ข อ ง โครงการพระราชดำริฯ ซ่ึงจดั สร้าง ข้ึนมาเพื่อให้มีพืชพรรณท่ีกลมกลืนกั บ ส ภ า พ ภู มิ ป ร ะ เ ท ศ บ น ท่ี สู ง ท ด แ ท น ไร่ ฝ่ิ นร้างแต่ด้ังเดิมซ่ึงไว้ลูกพืชที่ให้ ประโยชน์ทางดา้ นอาหารและยาแพทย ์แผนไทย และสร้างความกลมกลืนกบั ภมู ิประเทศ เช่น อะโวคาโด พลบั สาลี่ บ๊วยอี กท้ังยังมี การตกแต่งด้ว ย ส ว น ไ ม้ ด อ ก ไ ม้ ป ร ะ ดั บ เ มื อ ง ห น า ว เช่น กหุ ลาบ ไฮเดรนเยยี พวงแสด อี ก ท้ั ง ยั ง มี ก า ร พ ย า ย า ม น ำ พื ช แ ล ะ สัต ว์ป ร ะ จ ำ ถิ่ น ข อ ง พ้ื น ที่ ป า ง อุ๋ ง ก ลั บ ม า เ ช่ น เ อ้ื อ ง แ ซ ะ แ ล ะ ก ล้ ว ย ไ ม้ ต่ า ง ๆ และสตั วอ์ ยา่ งเขียดแลน เป็นตน้
©3 วดั พระธาตุดอยกองมู วดั พระธาตุดอยกองมู เป็นวดั ศกั ด์ิสิทธ์ ิคู่บา้ นคู่ เมืิองของชาวจงั หวดั แม่ฮ่องสอนมาชา้ นาน ต้งั อยบู่ น ดอยกองมู ทาง ทิศตะวนั ตกของตวั เมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 ก.ม.เดินทางโดยแยกจากทางหลวงสาย 108 ตรงบริเวณ อนุสา วรียพ์ ระยาสิงหนาทราชาข้ึนไปทางซา้ ยมือ เป็นทางลาดยางข้ึ นภเู ขาไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร กจ็ ะถึง บริเวณวดั พระธา ตุดอยกองมูเดิมมีชื่อเรียกวา่ วดั ปลายดอย ประกอบดว้ ยพระธา ตุเจดียท์ ่ีสวยงาม 2 องค์พระเจดียอ์ งคใ์ หญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เม่ือ พ.ศ. 2403เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคลั ลานะเถระ ซ่ึงนำมา จากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดียอ์ งคเ์ ลก็ สร้างเมื่ อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจา้ เมืองแม่ฮ่องสอน คนแรก จากวดั พระธาตุ ดอยกองมูน้ีสามารถมองเห็นภู มิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน และสวยงามมากวดั น้ีมีงานเทศกาลประจำปี หลายงาน เช่น ในวนั ปี ใหม่ วนั สงกรานต์ โดยเฉพาะในวนั ออกพรรษา จะมีการตกั บาตรดาวดึงส์ หรือ
©4 สิ่งที่น่าสนใจ 1.พระธาตุเจดียอ์ งคใ์ หญ่ ของวดั พระธาตุดองกองมูสร้างโดยพ่อค้าชาวไทยใหญ่ ช่ือ “จองต่องสู่” เมื่อ พ.ศ. 2403 ลกั ษณะเป็นเจดียท์ รง เครื่องแบบมอญ ประดบั ลวดลายปูนป้ัน มีฐานแปดเหลี่ยมซอ้ นสามช้นั บริเวณฐานดา้ นล่างประดบั ด้ วยซุม้ พระตาม ทิศท้งั แปด 2.พระธาตุเจดียอ์ งคเ์ ลก็ ของวดั พระธาตุดอยกองมูสร้างเมื่อ พ.ศ. แ24ม1่ฮ7่องสอนโคดนยแรกเพ“อ่ื พญาสเปิง็นหทน่ี่ีราะทลรึกาชในา”การข้ึนเคจรา้ อผงคู้ แรมอ่ฮง่ องสอน เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคลั ลานะเถระ ซ่ึงนำมาจากพม่าลกั ษณะ เป็น เจดียท์ รงเครื่องแบบมอญ มี ฐานสี่เหลี่ยมจตั ุรัสซอ้ นสามช้นั ตรงมุมท้งั สี่ของฐานมีปู นป้ันรูปสิงห์ประดบั อยู่ บริเวณฐานดา้ นล่างประดบั ดว้ ย ซุม้ พระแบบศิลปะมอญ ซุม้ ประธานมีหลงั คาประดบั เรือ นยอดสามยอด แต่ละยอด เป็นทรงประสาทซอ้ นสามช้นั ประดบั ลวดลายปูนป้ันสวยงามวิหารวดั พระธาตุดอยกอ งมู อยตู่ ิดกบั พระธาตุเจดีย์ องคใ์ หญ่ สร้างข้ึนพร้อมกนั มีลกษณะเป็นอาคารทรงโรงเปิ ดโล่ง ผงั รูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ หลงั คาซอ้ นสามช้นั มุงดว้ ย กระเบ้ืองไมแ้ ละตกแต่งโลหะ ฉลุลวดลายตามแบบศิลปะไทใหญ่ 3.วหิ ารวดั พระธาตุดอยกองมู อยตู่ ิดกบั พระธาตุเจดียอ์ งคใ์ หญ่ สร้างข้ึนพร้อมกนั มีลกั ษณะเป็นอาคารทรงโรงเปิ ดโล่ง ผงั รูปสี่เหลี่ยมผนื ผา้ หลงั คา ซอ้ นสามช้นั มุงดว้ ยกระเบ้ืองไม้ และตกแต่งโลหะฉ ลุลวดลายตามแบบศิลปะไทใหญ่ 4.จุดชมววิ ากจุดน้ีของวดั พระธาตุดอยกองมู เป็นสถานที่ชมทศั นียภาพ เมืองแม่ฮ่องสอนท่ีสวยงาม
©5 อทุ ยานแห่งชาติห้วยน้ำดงั อุทยานแห่งชาติหว้ ยนำ้ ดงั มี พ้ื น ที่ ค ร อ บ ค ลุ ม อ ำ เ ภ อ แ ม่ แ ต ง อำเภอเวยี งแหง จงั หวดั เชียงใหม่ และอำเภอปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน รวมเน้ือที่ท้งั หมดประมาณ 1,252 ตารางกิโลเมตร ลกั ษณะภมู ิป ร ะ เ ท ศ เ ป็ น เ ทื อ เ ข า แ ล ะ ภู เ ข า สู ง สลบั ซบั ซอ้ น มีภเู ขาที่สูงท่ีสุด คือดอยชา้ ง เป็นป่ าตน้ นำ้ ลำธาร มีลำหว้ ยนอ้ ยใหญ่มากมาย การ เดินทาง ใชท้ างหลวงหมายเลข 1095 สายปาย – แม่มาลยั ถึงกิโลเมตรท่ี 65 – 66 มีทางแยกซา้ ยเขา้ ไปประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงบริเวณท่ีทำการอุทยานฯ มีบา้ นพกั และ สถานท่ีกางเตน็ ทบ์ ริการนกั ท่องเท่ียว สำร องบา้ นพกั และเคร่ืองนอนเตน็ ทไ์ ดท้ ่ี โทร. 0-5326-3910, 0-5324-8491, 0-5381-9349 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0-2562-0760 www.dnp.go.th สิ่งที่น่าสนใจในอุทยานฯ จุดชมววิ บริเวณหว้ ยนำ้ ดงั (ดอยกิ่วลม) ต้งั อยทู่ ี่ตำบลก้ึดช่าง อำเภอแม่แตง เป็นท่ีต้งั ของหน่วยพฒั นาตน้ นำ้ ที่ 2 (หว้ ยนำ้ ดงั ) เป็นจุดชมววิ ท่ีสวยงาม และมีช่ือเสียงมาก นกั ท่องเที่ยวจะไดช้ มทะเลหมอกในช่วงเชา้ ตรู่ และชมพระอาทิตยข์ ้ึนงดงามมาก จุดชมววิ ดอยชา้ ง ห่ า ง จ า ก ท่ี ท ำ ก า ร อุ ท ย า น ฯ ไปตามทางลกู รังอกั ประมาณ 20 กิโลเมตร ดอยชา้ งเป็นยอดดอยท่ีสูงท่ีสุ ดในอุทยานฯ เป็นจุดที่สามารถมองเห็น สภาพธรรมชาติของทิวเขาอนั สลบั ซับซ้ อน และทะเลหมอกในยามเชา้ ตรู่ ดอยช้ างปกคลุมดว้ ยป่ าดิบเขาอนั อุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งอาศยั ของนกบนที่สูงนานา ชนิด เช่น นกเดินดง นกจบั แมลง นกเขน นกปรอด ฯลฯ นบั เป็นแหล่งดูนกที่น่าสน ใจมากแห่งหน่ึง
©6 หว้ ยนำ้ รูและดอยสามหมื่นเดินทางจากดอยชา้ งไปอีกประมาณ10กิโลเมตรจะถึงหว้ ยนำ้ รูลกั ษณะเป็นตานำ้ เลก็ ๆที่สร้าง ความชุ่มชื่นใหแ้ ก่ผนื ป่ า และเป็นตน้ นำ้ ของลำนำ้ แม่แตงที่ไหลลงสู่ลำนำ้ ปิ ง ส่วนดอยสามหมื่นเป็นท่ีต้งั ของหน่วยจดั การตน้ นำ้ ซ่ึงมีจุดชมทิวทศั นอ์ ยบู่ น ยอดดอย โป่ งเดือดป่ าแป๋เป็นบ่อนำ้ พรุ ้อนแบบไกเซอร์(Geysertype)ขนาดใหญ่ซ่ึงมีอุณหภมู ิสูงและมีแรงดนั สูงมากลกั ษณะของ นำ้ พรุ ้อนพงุ่ สู่ผวิ ดินตลอดเวลา บางคร้ังจะพงุ่ ข้ึนถึง 2 เมตร มีกลิ่นค่อนขา้ งแรง จากลานจอดรถจะตอ้ งเดินไปประมาณ 500 เมตร การเดินทางใชท้ างหลวงหมายเลข 1095 สายปาย – แม่มาลยั กิโลเมตรท่ี 42 มีป้ ายใหเ้ ล้ียวซา้ ยเขา้ ไป 6.5 กิโลเมตร * มีบา้ นพกั 8 หลงั ๆ ละ 3,000 บาท มีเตน็ ทพ์ ร้อมเคร่ืองนอนใหเ้ ช่า และบริการอาบนำ้ แร่เด่ียว : ผใู้ หญ่ 50 บาท เดก็ 20 บาท และอาบรวม : ผใู้ หญ่ 20 บาท เดก็ 10 บาท ติดต่อโทร. 0-5322-9636-7, 0-8322-6754 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ กรุงเทพฯ โทร. 0-2562-0760 www.dnp.go.th หมายเหตุ : กรมอุทยานแห่งชาติฯ ประกาศจำกดั จำนวนนกั ท่องเท่ียวเขา้ พ้ืนที่ ดงั น้นั กรุณาสอบถามการเขา้ ใชบ้ ริการล่วงหนา้ ก่อนการเดินทางโดยตรงท่ี โทร. 0-5326-3910 (24 ชวั่ โมง), 0-5324-8491
©7 ทุ่งดอกบวั ตองดอยแม่อคู อ ทุ่งดอกบวั ตองดอยแม่อคู อ เม่ือฤดูหนาวเขา้ มาเยอื นเมืองแม่ฮ่องสอน ทุ่งดอกบวั ตองดอ ยแม่อคู อจะบานสะพรั่งดึงดูดนกั ท่องเที่ยวใหเ้ ขา้ มา เยอื น แล ะชมความงดงามของทอ้ งทุ่งที่เต็มไปดว้ ยสีเหลืองส้มปกคลุ มเตม็ เทือกเขา ทุ่งบวั ตองอยใู่ นเขต บา้ นสุรินทร์ ต.ยวมนอ้ ย อ.ขนุ ยวม มีพ้นื ที่ครอบคลุมบริเวณประมาณ 1,000 ไร่ และจะบานสะพร่ังในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ตน้ เดือนธนั วาคม เกือบสุดปลายทางถนน 108 ท่ีอำเภอขนุ ยวมในฤดูหนาวนกั ท่อ งเที่ยวสามารถ เท่ียวชมทุ่งดอกบวั ตองบาน ทุ่งดอกบวั ตองท่ีใ หญ่ที่สุดในประเทศไทย ซ่ึงมีใหช้ มเพยี งปี ละคร้ังเท่าน้นั • ทุ่งบวั ตองดอยแม่อคู อ ต้งั อยหู่ ม่ทู ่ี 6 ตำบลแม่อคู อ อำเภอขนุ ยวม ตามเสน้ ทางหมายเลข 108 (แม่ฮ่องสอน- ขนุ ยวม) ก่อนถึงตวั อำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกซา้ ยตามทางหลวงสาย 1263 เขา้ สู่ทุ่งบวั ตองอีก 26 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีพ้นื ท่ีครอบคลุมเป็นเขาก วา้ งประมาณ 1 พนั ไร่ อยใู่ นความรับผดิ ชอบของโครงกา รพฒั นาป่ าไมท้ ่ีสูง หน่วยที่ 5 กองอนุรักษต์ น้ นำ้ • ดอกบวั ตองบาน ดอกบวั ตองท่ีน่ีเม่ือบานพร้อมๆ กนั ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จะเหลืองอร่ามปกคลุมทวั่ ท้ั งภเู ขา มีความสวยงามมาก นอกจากน้ี ยงั มีบริการใหเ้ ช่ าเตน็ ทค์ า้ งแรมบนดอย ซ่ึงจะมีสถานที่สำหรับต้งั เตน็ ท์ ไดป้ ระมาณ 100 หลงั ผสู้ นใจสามารถติดต่อไดโ้ ดยตรง บริเวณหน่วยทำการบนทุ่งบวั ตอง หรือหากตอ้ งการ จองล่วงหน้าให้ติดต่อกับทางอำเภอขุนยวมโดยตรง และบริเวณดา้ นหลงั จุดชมววิ ยงั มีร้านอาหารไวบ้ ริการนั กท่องเที่ยวดว้ ย
©8 ทุ่งดอกบวั ตองดอยแม่อคู อ ห่างจากท่ีทำการอำเภอขนุ ยวม 25 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่อ งเท่ียวทางธรรมชาติอีก แห่งหน่ึงของจงั หวดั แม่ฮ่องสอน มีลกั ษณะเป็นทิวเขาเขียวสูงข้ึนสลบั ดว้ ยทิวทุ่งดอกบวั ตอง เหลืออร่ามทวั่ พ้ืนเขา มีพ้ืนท่ีประมาณ 500 กวา่ ไร่ เมือ่เดิน ข้ึนไปยงั ดอยแม่อคู อแลว้ นกั ท่องเท่ียวสามารถชมววิ ไดท้ วั่ มีศาลาชมววิ ท่ี สร้างข้ึนไวร้ องรับนกั ท่องเที่ยวอยหุ่ ลายแห่ ง ซ่ึงจากศาลาชมววิ สามารมองเห็นทุ่งดอกบวั ตองได้ 360 องศา นอกจากน้ีในระหวา่ งทา่งชมทุ่งดอกบวั ตอง ตรงจุด พกั รถขา้ งทางใกลห้ มู่บา้ นก่อนถึงดอยแม่อคู อประมาณ 2 กิโลเมตรนกั ท่องเท่ียว
©9 ภูโคลน คนั ทรีคลบั เฮลท์ มัด สปา ภโู คลน คนั ทรีคลบั เฮลท์ มดั สปา ปัจจุบนั เป็นที่รู้จกั กนั ดีในแง่ของสถานที่ท่องเท่ียว และการใหบ้ ริการดา้ นสุขภาพและ ความงามดว้ ยโคลนและนำ้ แร่ธรรมชาติ แก่นกั ท่องเท่ียวผมู้ าเยอื น ไดร้ ับการส่งเสริมและสนบั สนุนโดยการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย บรรจุไวใ้ นโครงการ UNSEEN IN THAILAND และ SPA PARADISE เพอื่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ปัจจุบนั ภโู คลน ไดร้ ับการจดั อนั ดบั ใหเ้ ป็นแหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย และใหเ้ ป็นแหล่งโคลน 1 ใน 3 แหล่งของโลกที่มีแร่ธาตุ หลกั ท่ีเหมือนกนั รองจากทะเลสาป เดดซี และโคลนภเู ขาไฟจากประเทศโรมาเนีย จากโครงการ UNSEEN IN THAILAND และ SPA IN PARADISE ของการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย เพ่ือส่งเสริมการท่องเท่ียวเพ่ือสุขภาพ และผลิตภณั ฑโ์ คลนและนำ้ แร่ธรรมชาติยงั ไดถ้ กู คดั สรรใหเ้ ป็นผลิตภณั ฑ์ OTOP PRODUCT CHAMPION 5 ดาวระดบั ประเทศ ประเภทสินคา้ สมุนไพรไม่ใช่อาหารและยาอีก ดว้ ย เสน่ห์ของการนำโคลนข้ึนมาใชเ้ ชิงสุขภาพบำบดั สำหรับ ภโู คลน คนั ทรีคลบั เฮลท์ มดั สปา ประเทศไทยน้นั อาจจะเหนือกวา่ โค ลนจากอิสราเอลและ โรมาเนีย ตรงที่เราไดม้ ีการประยกุ ตน์ ำเอาเร่ืองของคุณภาพของสมุนไพรไทยท่ีมีช่ือเสียงเป็นท่ียอมรับในต่างประ เทศ เขา้ มาเป็นส่วนผสมใหม้ ีกลิ่นหอมละมุนนอกเหนือจาก ไอดินแต่เพยี งอยา่ งเดียว ไดแ้ ก่ ตะไคร้หอม แตงกวา ขมิ้น มะนาวเป็นตน้
©10 ความเป็นมาของการนำโคลนมาใชเ้ พ่ือสุขภาพและควา มงาม ในช่วงหลายสิบปี ท่ีผา่ นมา โคลนท่ีเป็นที่รู้จกั กนั ในวงการอุตส าหกรรมความงามและสุขภาพมากที่สุดคือ โคลนจากทะเลสาบ DEAD SEA ในประเทศอิสราเอล, จอร์แดน แหล่งโคลนเพือ่ สุขภาพและความงามในโลกที่มีแร่ธาตุหลกั เหมือนกนั 1. แหล่งโคลนจากทะเลสาบ DEAD SEA ในประเทศอิสราเอลและจอร์แดน เป็นโคลนจากทะเลนำ้ เคม็ เกิดจากการละลายตวั ของหิมะบนเทือกเขาสูงในประเทศซีเรียแ ละจอร์แดน ไดพ้ าเอาดินโคลนบริสุทธ์ิจากเทือกเขาไหลลงมาร วมกนั ที่ทะเลเดดซี สะสมมานานนบั พนั ๆปี 2. แหล่งโคลนจากลาวาภเู ขาไฟหรือโคลนจากภเู ขาไฟ ในประเทศโรมาเนีย 3. แหล่งโคลนบ่อนำ้ พรุ ้อนที่โป่ งเดือดแม่สะงา หรือ ภโู คลน จ.แม่ฮ่องสอน ประเทศไทย เร่ืองน่ารู้เกี่ยวกบั โคลนธรรมชาติ ภโู คลน จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ภโู คลน ในลกั ษณะทางธรณีวทิ ยา หมายถึง แหล่งโคลนและนำ้ แร่ธรรมชาติ ที่มีความร้อนระหวา่ ง 60 – 140 องศาเซลเซียส เป็นโคลนเดือดบริสุทธ์ิ สีดำ ท่ีข้ึนมาพร้อมกบั สายนำ้ แร่ธรรมชาติใตด้ ินท่ีสะอาด ไม่มีกล่ินของกำมะถนั ซ่ึงอุดมไปดว้ ยแร่ธาตุท่ีเป็นประ โยชนต์ ่อผวิ หนงั และระบบไหลเวยี นโลหิตของมนุษย์ โคลนธรรมชาติ ภโู คลน (PHU KLON HOT SPRING MINERAL MUD) หรือ (PHU KLON MINERAL CLAY) จดั อยใู่ นประเภทขอ งแร่หรือดินโคลนท่ีมีส่วนผสมจากแร่ธาตุจากธรรมชาติ มีสีเทาดำ มีชื่อเรียกทางวทิ ยาศาสตร์ (BOTANICAL NAME) หรือ INCI NAME ทางฝ่ังทวปี อเมริกาจะเรียกวา่ BENTONITE CLAY หรือ MONTMORILLONITE CLAY ถือเป็นกลุ่มสินแร่ในตระกลู SMECTITE GROUP เม่ือถกู ละลายดว้ ยนำ้ หรือของเหลว สามารถปลดปล่อยแร่ธาตุหลากหลายชนิด เพอื่ ใหม้ ีการดูดซึมและนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ( LON EXCHANGE ) มีคุณภาพแตกต่างกนั ตามปริมาณของแร่ธาตุ และแหล่งท่ีพบ โดยจะพบในบริเวณเขตรอยแยกของเปลือกโลกท่ีโครง สร้างพ้นื ดินอุดมไปดว้ ยแร่ธาตุหลายชนิด แหล่งโคลนบ่อนำ้ พรุ ้อนท่ีโป่ งเดือดแม่สะงา หรือ ภโู คลน จ.แม่ฮ่องสอน ประเทศไทย เกิดในบริเวณท่ีมีแหล่งความร้อนใตพ้ ิภพ (Geother- mal Gradients) และมีรอยเล่ือนขนาดใหญ่ แม่ฮ่องสอน, ทำใหน้ ำ้ ท่ีอยใู่ ตด้ ินเคลื่อนที่ข้ึนสู่ผวิ ดิน ประกอบกบั มีแรงดนั และอุณหภมู ิที่สูง จึง สามารถละลายเอาแร่ธาตุจากช้นั หินข้ึนมาพร้อมกบั นำ้ และดินโคลน แร่ธาตุหลกั ที่ถกู คน้ พบจากโคลนธรรมชาติ ภโู คลน - แคลเซียม (CALSIUM) ช่วยปรับสภาพความสมดุลของ ผวิ ไม่ใหเ้ กิดความแหง้ กร้าน - โบรไมน์ (BROMINE) สามารถฆ่าเช้ือโรคไดอ้ ยา่ งปลอด ภยั โดยไม่ระคายเคืองผวิ - คลอไรน์ (CHLORIDE) สามารถทำความสะอาดผวิ ได้ ลึกถึงรูขมุ ขน - โปรแตสเซียม (POTASSIUM) ช่วยบำรุงและควบคุมควา มชุ่มช้ืนของเซลลผ์ วิ - แมกนีเซียม (MAGNESIUM) สร้างและซ่อมแซมเซลส์ผิ วที่เส่ือมสภาพไป - โซเดียม (SODIUM) สามารถกระตุน้ การเปลี่ยนแปลง ของเซลลผ์ วิ ใหท้ ำงานอยา่ งมีประสิทธิภาพ
©11 สะพานประวตั ิศาสตร์ท่าปาย ส ะ พ า น ป ร ะ วัติ ศ า ส ต ร์ ท่ า ป า ย อยทู่ ี่บา้ นท่าปาย ตำบลแม่ฮ้ี อำเภอปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ก่อนถึงตวั อำเภอปาย ประมาณ 10 กิโลเมตร บนเสน้ ทางหมายเลข 1095 ถือเป็นหนา้ ด่านของอำเภอปาย ส ะ พ า น ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ท่ า ป า ย มี ลั ก ษ ณ ะ ค ล้ า ย กั บ ส ะ พ า น ข้ า ม แ ม่ น้ ำ แ ค ว จงั หวดั กาญจนบุรี ที่เป็นเสน้ ทางประวตั ิศาสตร์ สมยั สงครามโลกคร้ังที่ 2 โดยกองทพั ญี่ ป่ ุ น ใ ช้ เ ป็ น เ ส้ น ท า ง เ ดิ น ทัพ จ า ก เ ชี ย ง ใหม่ ผา่ นอำเภอปายไปยงั ประเทศพม่า แต่เดิมน้นั เป็นสะพานไม้ ภายหลงั สงคราม สิ้นสุดทหารญ่ีป่ ุนถอยทัพกลับได้เผาทำลา ยสะพานไมท้ ิ้ง และชาวบา้ นไดช้ ่วยกนั สร้า งข้ึนมาใหม่อีกคร้ัง จนกระทงั่ ปี พ.ศ. 2516 เกิดอุทกภยั คร้ังใหญ่ สะพานถกู นำ้ พดั หายไป ทางอำเภอจึงไดข้ อสะพานเหลก็ “นวรัฐ” เดิมของจงั หวดั เชียงใหม่ ซ่ึงขณะน้นั ไม่ไดใ้ ชก้ ารแลว้ มาใชท้ ดแทน ซ่ึงกค็ ือ “สะพานประวตั ิศาสตร์ท่าปาย” ในปัจจุบนั
©12 สะพานประวตั ิศาสตร์ท่าปาย ถกู สร้างข้ึนในสมยั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 โดยกองทหารประเทศญี่ป่ ุน เพื่อ ใชเ้ ป็ นเส้นทางลำเลียงเสบียงและอาวุธขา้ มแม่น้ำปาย เขา้ ไปยงั ประเทศพม่า มีประวตั ิความเป็นมาดงั น้ี พ.ศ. 2482 ความขดั แยง้ เกิดข้ึนในวงกวา้ ง ครอบคลุมเกือบทุกประเทศ และทุกทวปี เกิดเป็นมหาสงครามโลกคร้ังท่ี 2 พ.ศ. 2484 ญี่ป่ ุนประกาศสงครามกบั ฝ่ ายสมั พนั ธมิตร และไดเ้ คล่ือนกำลงั พลเขา้ มาต้งั ฐาน ทพั ในประเทศไทย เพ่อื ลำเลียงเสบียงอาหาร และยทุ โธปกรณ์ต่างๆ โดยผา่ นจงั หวดั แม่ฮ่องสอน เพื่อเขา้ โจมตีประเทศพม่า (เมืองข้ึนของประเทศองั กฤษในขณะน้นั ) แต่ดว้ ยการเดินทพั อนั ยากลำบาก บนเสน้ ทางท่ีเป็นหุบเหว และมีลำนำ้ ปายขวางก้นั กอง ทหารญ่ีป่ ุนจึงไดเ้ กณฑช์ าวไทยจากหมู่บา้ นต่างๆ ใหข้ ดุ ถางเสน้ ทางจากจงั หวดั เชียงใหม่ไปยงั จงั หวดั แม่ฮ่องสอน โดยจ่ายเป็นค่าจา้ งแรงงานต่อคนวนั ละ 50 สตางค์ - 1.50 บาท ในขณะเดียวกนั ชาวบา้ นอีกฝั่งหน่ึงจากจงั หวดั แม่ ฮ่องสอน กถ็ กู เกณฑว์ า่ จา้ งใหข้ ดุ ถางเสน้ ทางมุ่งหน้ าไปจงั หวดั เชียงใหม่ โดยมาบรรจบกนั ที่ฝั่งแม่นำ้ บริเวณบา้ นท่าปาย อำเภอปาย แลว้ จึงร่วมแรง กนั ใชช้ า้ งลากไมใ้ หญ่หนา้ 30 นิ้ว ออกจากป่ า ต้งั เป็นเสาสร้างข้ึนเป็นสะพาน บรรจบท้งั สองฝ่ังเขา้ ดว้ ยกนั เหนือแม่นำ้ ปาย กลายเป็นเสน้ ทางและสะพานแห่ง ประวตั ิศาสตร์สงคราม พ.ศ. 2489 สงครามโลกสิ้นสุดลง ก อ ง ท ห า ร ญี่ ป่ ุ น ไ ด้ ถ อ ย ทั พ ก ลั บ และทำการเผาสะพานไมท้ ิ้ง ส่งผลใหช้ าวเมืองท่ีเคยใช้ สะพานร่วมกบั ทหารญ่ีป่ ุน ต่างเกิดความไม่สะดวกที่ตอ้ ง กลบั ไปใชว้ ธิ ีโดยสารทางเรือ ซ่ึงขดุ จากไมซ้ ุงเพ่ือขา้ มฟาก ชาวบา้ นซ่ึงเคยชินกบั การใชส้ ะพานขา้ มลำนำ้ ต่างไดร้ ่วม แรงกนั สร้างสะพานไมข้ ้ึนมา เพอื่ ใชข้ า้ มแม่นำ้ ปายอีกคร้ัง พ.ศ. 2516 เกิดอุทกภยั คร้ังใหญ่ในเดือนสิงหาคม ส่งผลข้นั รุนแรง ทำลายเรือกสวนไร่นาเสียหาย รวมท้งั นำ้ ป่ าไดพ้ ดั สะพานไมห้ ายไป ทางอำเภอปายจึงไดท้ ำเ ร่ืองขอสะพานเหลก็ “นวรัฐ” เดิมของจงั หวดั เชียงใหม่ ซ่ึงขณะน้นั ไม่ไดใ้ ชก้ ารแลว้ นำมาใชแ้ ทนสะพานไมท้ ี่ถกู กระแสนำ้ พดั ทำลายไป พ.ศ. 2518 สะพานนวรัฐจากจงั หวดั เชียงใหม่ ได้ ถกู ทยอยขนยา้ ยข้ึนมาประกอบใชใ้ หม่ ที่อำเภอปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน พ.ศ. 2519 หลงั จากน้นั 1 ปี เตม็ จึงไดป้ ระกอบข้ึนจนแลว้ เสร็จ เป็ น “สะพานประวตั ิศาสตร์ท่าปาย” ในปัจจุบนั
©13 วดั จองกลาง - วดั จองคำ วั ด จ อ ง ค ำ แ ล ะ วั ด จ อ ง ก ล า ง เ ป รี ย บ โดยช่างฝีมือชาวไทยใหญ่รูปทรงจุฬามณี ความสูง 32 เสมือนวดั แฝด ดว้ ยต้งั อยใู่ นกำแพงเดียวกนั ศอก ฐานสี่เหลี่ยมมีมุข 4 ดา้ น พร้อมสิงห์ดา้ นละหน่ึงตวั เม่ือมองจากดา้ นหนา้ วดั จองคำ จะอยดู่ า้ นซา้ ยมือ ประดิษฐานพระพทุ ธรูปนงั่ ดา้ นละหน่ึงองคแ์ ละ เริ่มสร้าง ส่วนวดั จองกลางจะอยทู่ างขวามือ วดั จองคำและวดั จองกลางต้งั เม่ือเดือนมีนาคม พ.ศ.2456 สร้างแลว้ เสร็จในเดือนมกราคม อยกู่ ลางเมืองแม่ฮ่องสอน และ เป็นเสมือนสญั ลกั ษณ์ทางวฒั นธ พ.ศ.2458 สร้างข้ึนโดยศรัทธาขนุ เพียร (พอ่ เล้ียงจองนุ) รรมของเมืองไทใหญ่แห่งน้ี เพราะนอกจากความงดงามทางศิล พริ ุญกิจและแม่จองเฮือนคหบดี ชาวแม่ฮ่องสอนและในองคพ์ ร ปะแลว้ วดั ท้งั สอง ยงั เป็น ศนู ยก์ ลางของกิจกรรมทางวฒั นธรรม ะเจดียไ์ ดบ้ รรจุพระบรมสาีรีริกธาตุ ไว้ เพอ่ื เป็นศิริมงคลแก่ผทู้ ี่ และประเพณีของชาวแม่ฮ่องสอน พ้ืนท่ีดา้ นหนา้ ของวดั ซ่ึงเป็น มานมสั การองคพ์ ระเจดีย์ สวนสาธารณะหนองจองคำยงั เอ้ือใหใ้ ชเ้ ป็นสถานที่ประกอบพิธี ตามประเพณีต่าง ๆ ในรอบปี อีกดว้ ย 2.อุโบสถ วดั จองคำ หรือพระอารามหลวงวดั จองคำ วดั จองคำ ต้งั อยขู่ า้ งหนองนำ้ เป็นอาคารรูปทรงมณฑปรูปสี่เหลี่ยมผนื ผา้ กวา้ ง 6 เมตร ซ่ึงชาวแม่ฮ่องสอนเรียกวา่ ”หนองจองคำ”เป็นวดั ท่ีสร้างข้ึนเมื่อปี ยาว 12 แมตร หลงั คาเป็นคอนกรีตเสริมเหลก็ รูป พระเจดีย์ พ.ศ. 2340 เป็นวดั แรกของเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นวดั เก่าแก่ 5 ยอด ภายในเขียนภาพพทุ ธประวตั ิที่ฝาผนงั บานประตู สร้างตามแบบอยา่ งศิลปไทย ใหญสิ่งท่ีโดดเด่นหลงั คาทรง หนา้ ต่าง ทำดว้ ยไมแ้ กะสลกั ภายในมี พระประธาน ในอุโบส ถทางวดั ไดท้ ำพิธีเททองหล่อข้ึน เม่ือวนั ที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2522 เบิกพระเนตรเม่ือวนั ที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2523 3.วหิ ารหลวงพอ่ โต ภายในเป็นท่ีประดิษฐานพระประธาน คือ “หลวงพอ่ โต” สร้างเม่ือปี พ.ศ.2496 โดยช่างชาวพม่าเป็นพระพทุ ธรูป ขนาดใหญ่ มีขนาดหนา้ ตกั กวา้ ง 4.85 ม. จำลองมาจาก พระศรีศากยมุนี (หลวงพอ่ โต) ที่วดั สุทศั นเ์ ทพวราราม วิ ห า ร แ ห่ ง น้ ี มี ลัก ษ ณ ะ ท า ง ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม แ บ บ ไ ท ใ ห ญ่ ผ ส มฝรั่ง อาคารมีผงั เป็นรูปตวั แอล ผนงั ก่ออิฐถือปูน ประตู หนา้ ต่างตอนบนโคง้ ประดบั ลวดลายแบบสถาปัตยกรรมตะ วนั ตก หลงั คามุงสงั กะสี เชิงชายมีลกู ไมฉ้ ลุ แบบขนมปังขิง ซป่ึงรเะปส็นาพทร9ะพชทุ ้นั ธรแูปละมอีศงคาสใ์ หนญสถ่ทา่ี น่่สี ทุด่ีสขำอคงญั แคมือ่ฮ่อวงหิสาอรนหลสวรงพ้างอ่ เมโื่ตอ พ.ศ.2477 โดยช่างชาวพม่าในวหิ ารเป็นท่ีประดิษฐาน ของหลวงพอ่ โต ซ่ึงเป็นพระประธาน มีขนาดหนา้ ตกั กวา้ ง 4.85 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2469 โดยช่างฝีมือชาวพม่า และมีพระพทุ ธรูป ขนาดใหญ่ซ่ึงจำลองมาจากพระศรีศากยมุนีท่ี วหิ ารวดั สุทศั น์ เหตุท่ีเรียกช่ือวดั จองคำ เนื่องจาก เสาวดั ประดบั ดว้ ยทองคำเปลว สิงท่ีน่าสนใจในวดั จองคำ 1.เจดียว์ ดั จองคำ ชาวไทยใหญ่เรียกวา่ “กองมู” เจดียม์ ีลกั ษณะคลา้ ยมณีทบ
©14 วดั จองกลาง (เปิ ด 08.00-18.00 น. ทุกวนั ) ต้งั อยบู่ นวดั จองกลาง จดั แสด งตุก๊ ตาไมแ้ กะสลกั เป็นรูปคนและสตั วพ์ ระเวสสนั ดร ชาดก ภ า ย ใ น วิ ห า ร มี แ ท่ น บู ช า ต้ั ง พ ร ะ พุ ท ธ สิ หิ ง ค์ จ ำ ล อ ง ฝีมือช่างชาวพม่า มีจำนวนท้งั สิ้น 33 ตวั นำมาจากพม่าตงั่ แต่ปี ปิ ดทองเหลืองอร่ามไปท้งั องค์ มีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีกเช่น ตุก๊ ตา พ.ศ.2400 นอกจากน้ียงั มีพระพทุ ธรูป หินอ่อนองคเ์ ลก็ แกะด้ แกะสลกั ดว้ ยไมเ้ ป็ นรูปคนและสัตวเ์ ก่ียวกบั พระเวสสันดรชาด วยฝีมือประณีตอ่อนชอ้ ยงดงามมาก มีคมั ภีร์โบราณ ถว้ ยชาม ก ฝีมือแกะสลกั ของช่างชาวพม่า ซ่ึงนำมาจากพม่า ต้งั แต่ พ.ศ. และเครื่องใชโ้ บราณอีกหลายชิ้น 2400นอกจากน้ีทางดา้ นจิตรกรรม ยงั มีภาพวาดบนแผน่ กระจก 3.แผน่ กระจกเขียนสี เร่ืองพระเวสสนั ดรชาดก และ ภาพประวตั ิเจา้ ชายสิทธตั ถะ ตลอ เป็นเรื่องพระเวสสนั ดรชาดกและพทุ ธประวตั ิ ตลอดจนภาพแสดงวถิ ี ดจนภาพแสดงใหเ้ ห็นถึงชีวติ ความเป็นอยขู่ องคนสมยั น้นั หลายภ ชีวติ ความเป็นอยขู่ องคนในสมยั ก่อนหลายสิบ ภาพ มีคำบรรยายใตภ้ าพ มีคำ บรรยายใตภ้ าพเป็นภาษาพม่า และมีบนั ทึกบอกไวว้ า่ เป็น าพเป็นภาษาพม่าและมีบนั ทึกบอกวา่ เป็นผมี ือช่างไทใหญ่จากมณั ฑะ ฝีมือของช่างไทยใหญ่จากมณั ฑะเลย์ เลย์ กระจกเขียนสี เหล่าน้ีติดอยบู่ ริเวณฝาก้นั หอ้ งเจา้ อาวาสบนจองวั ดจองกลาง วหิ ารเลก็ มีหลงั คาเรือนยอดทรงปราสาท ซอ้ นช้นั หา้ ช้ั สิ่งที่น่าสนใจในวดั จองกลาง นประดบั ยอดดว้ ยฉตั รทองสามช้นั หลงั คามุงสงั กะสี มีโลหะฉลุลาย ตกแต่งเรือนยอดและเชิงชาย 1.เจดียป์ ระธาน เป็นเจดียท์ รงเครื่องแบบมอญ บนยอดประดบั ฉตั รสามช้นั มีกลุ่มเจดียส์ ่ีทิศลอ้ มรอบ องคเ์ จดียก์ ่ออิฐถือปูนทา สีขาว ส่ว นลายปูนป้ันที่องคเ์ จดียท์ าสีทอง ในยามค่ำคืนเมื่อประดบั ไฟ สีทองจะเปร่งรัศมีสวยงามยงิ่ นกั 2.วหิ ารใหญ่ เป็นอาคารเอนกประสงค์ คือ เป็นท่ีประดิษฐานพระพทุ ธรูป ใชป้ ระกอบพิธี เช่น ทำบุญ จดั แสดงพิพิธภณั ฑร์ วม ท้งั เป็น หอฉนั และกฏุ ิของเจา้ อาวาสดว้ ย ลกั ษณะเด่นของอาคาร คือ การซอ้ นช้นั หลงั คา นอกจากจะยกคอสอง แลว้ ยงั ยกจวั่ ซอ้ นช้นั บ นคอสองอีกทีหน่ึง ที่ปลายขอบชายคาตกแต่งดว้ ยลายฉลุ 3.หอ้ งพพิ ธิ ภณั ฑ์
©15 วนอทุ ยานถ้ำแก้วโกมล • วนอุทยานถำ้ แกว้ โกมล เดิมเรียกช่ือถำ้ ผลึกแคลไซตแ์ ม่ลานอ้ ย ต้งั อยบู่ ริเวณเขาดอยถำ้ หม่ทู ี่ 14 บา้ นหว้ ยมะไฟ ต.แม่ลานอ้ ย อ.แม่ลานอ้ ย จ.แม่ฮ่องสอน ในเขตประทานบตั รเหมืองแร่ฟลอู อไร ต์ ของหา้ งหุน้ ส่วนจำกดั พี. วี ซพั พรายส์ (ไทยแลนด)์ อยใู่ นพ้นื ที่ป่ าสงวนแห่งชาติ ป่ าแม่ยวมฝ่ังซา้ ย แผนท่ีระวาง มาตราส่วน 1 : 50,000 ชุด L 7071 ระวาง 4545 – 3 พิกดั 391620341 • ถำ้ แกว้ โกมล ไดถ้ กู คน้ พบโดยวศิ วกรเหมืองแร่ ประจำสำนกั งานทรัพยากรธรณี จงั หวดั แม่ฮ่องสอน เมื่อวนั ท่ี 10 พฤศจิกายน 2536 สภาพภายในถำ้ เตม็ ไปดว้ ยผลึกแคลไซต์ (Calcite) รอบดา้ นท้งั บริเวณผนงั พ้ืน และเพดานของถำ้ ผลึกมีรูปร่างลกั ษณะ แ ต ก ต่ า ง กั น ม า ก ม า ย ห ล า ย แ บ บ จั บ ตั ว กั น ม อ ง ดู คลา้ ยปะการัง ดอกกระหล่ำ เกลด็ นำ้ แขง็ ดอกเขม็ และโคมไฟเพดาน มีสีขาวใส เหลือง แดง และนำ้ ตาล มีความสวยงามมากตามธรรมชาติ มีคุณค่าและความสำคญั ต่อการศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั • ในปี พ.ศ.2538 กรมทรัพยากรธรณี ไดท้ ำการ พัฒนาด้านความสะดวกและความปลอดภัยใน การเขา้ เท่ียวชมถำ้ ไดด้ ำเนินการกนั เขตพ้นื ที่บริเว ณรอบถำ้ ในเขตรัศมี 200 เมตร ครอบคลุมเน้ือท่ี 51 ไร่ 1 งาน 04 ตารางวา ออกจากพ้ืนท่ีประทานบตั ร โดยอาศยั อำนาจตามความในมาตรา 9 ตรี แห่ง พ.ร.บ เหมืองแร่ พ.ศ.2510 ซ่ึงเป็นอำนาจของรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะรัฐมนตรีไดม้ ีมติเ ม่ือวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2540 ใหพ้ ้ืนท่ีกลบั ไปมีสภาพเป็น ป่ าสงวนแห่งชาติ ภายใตก้ ารกำกบั ดูแลของกรมป่ าไม้ โดยจดั ต้งั เป็นวนอุทยานแม่ลานอ้ ยตามความในมาตรา 19 แห่ง พ.ร.บ ป่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 • ในปี พ.ศ.2543 ไดม้ ีการส่งมอบและรับมอบถำ้ ผลึก แคลไซตแ์ ม่ลานอ้ ยระหวา่ งกรมทรัพยากรธรณี กบั กร มป่ าไมโ้ ดยผวู้ า่ ราชการจงั แม่ฮ่องสอน เป็นผรู้ ับมอบ เม่ือวนั ที่ 15 ธนั วาคม 2543 ณ วนอุทยานถำ้ แม่ลานอ้ ย
©16 • ลกั ษณะเด่นของถำ้ แกว้ โกมล คือเป็นโพรงลึกลงไปในแนวดิ่งถึง 30 เมตร มีทางเดินและทางออกทางเดียวประมาณ 120 เมตร กล่าวกนั วา่ ถำ้ แกว้ โกมลแห่งน้ีเป็นถำ้ ผลึกแคลไซดท์ ี่สวยงามที่สุดในประเทศไทย และพบเป็นแหล่งท่ี 2 ในทวปี เอเชีย โดยแห่งแรกอยทู่ ่ีประเทศจีน • การเกิดผลึกแคลไซด์ หรือแคลเซียมคาร์บอเนต เกิดจากกระบวนการกลนั่ ตวั ตกผลึก (Crystallizaton) ของไอนำ้ ร้อนท่ีละลาย สารแคลเซียมในถำ้ จนอ่ิมตวั แลว้ เกิดเป็นผลึกจบั ตามผนงั ถำ้ ชื่อวา่ ถำ้ แกว้ โกมลเดิมเป็นทางนำ้ ร้อนใตด้ ิน เม่ือกระแสนำ้ ร้อนละลายส ารแคลเซียมท่ีฟ้ ุงกระจายอยใู่ นโพรงถำ้ ภายใตอ้ ุณภมู ิที่เหมาะสมจึงเกิดเป้ นผลึกแร่บริสุทธ์และอ่อนนุ่มราวหิมะ ซ่ึงพบเห็นไดย้ ากมาก ภายในถำ้ แกว้ แบ่งออกเป็นโถงถำ้ ท้งั หมด 5 หอ้ ง เมื่อผา่ นทางเขา้ ปากถำ้ คุณสามารถเดินชมถำ้ แกว้ ไปตามทางเดินท่ีเชื่อมถึงกนั ตล อด โถงถำ้ ท่ีน่าสนใจไดแ้ ก่หอ้ งท่ี 4 ซ่ึงมีผลึกแคลไซด์ บริสุทธ์ิที่มีรูปร่างคลา้ ยปะการัง ผลึกรูปเขม็ และเกร็ดนำ้ แขง็ และหอ้ งที่ 5 ซ่ึง เป็นหอ้ งท่ีอยู ลู่ ึกท่ีสุดมีความสวยงามมากที่สุด มีผลึกแคลไซดท์ ี่สมบูรณ์มากตามพ้ืนและผนงั ท้งั ผลึกรูปเขม็ และผลึกรูปปะการังสีขาว อยา่ งไรกด็ ี เนื่องจากพ้นื ท่ีบริเวณน้ีเป็นพ้ืนที่ที่มีความเปราะบาง คุณจึงควรระวงั ไม่ใหช้ นกบั ผลึกแคลไซดภ์ ายในถำ้ ขณะเดินชม เพราะ อาจก่อใหเ้ กิดความเสียหายได้ • ในวนั ท่ี 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2544 สมเดจ็ พระนางจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถไดเ้ สดจ็ พระราชดำเนินทอดพระเนตร ถำ้ แม่ลานอ้ ย และ ไดพ้ ระราชทานนามถำ้ แม่ลานอ้ ยเป็นชื่อ “ ถำ้ แกว้ โกมล “ และไดพ้ ระราชทานนามช่ือหอ้ งในถำ้ แกว้ โกมลซ่ึงอยภู่ ายในถำ้ เป็นช้นั ๆ จำนวน 5 ช้นั ดงั น้ี • ช้นั ท่ีหน่ึง นามหอ้ ง พระทยั ธาร • ช้นั ที่สอง นามหอ้ ง วมิ านเมฆ • ช้นั ท่ีสาม นามหอ้ ง เฉกหิมพานต์ • ช้นั ที่ส่ี นามหอ้ ง ม่านผาแกว้ • ช้นั ท่ีหา้ นามหอ้ ง เพริดแพร้วมณีบุปผา •ช่วงเวลาในการเ่ีท่ียวชมถำ้ แห่งนีสามารถเท่ียวไดต้ ลอดปี แต่ช่วงที่ดีท่ีสุดคือช่วงเดือนตุลาคม-เมษายนเพราะเป็นช่วงที่นำ้ ในถำ้ แหง้ ส นิทไม่เปี ยกช้ืนรวมถึงไม่มีหยดนำ้ จากเพดานถำ้ ใหร้ ำคาญและเน่ืองจากถำ้ แกว้ เป็นโพรงถำ้ ที่อยลู่ ึกลงไปใตด้ ินอากาศถ่ายเทไม่สะดวก นกั ท่องเที่ยวท่ีมีสุขภาพไม่ค่อยแขง็ แรงหรือมีโรคประจำตวั จึงไม่ควรเขา้ ไปในถำ้ หรือหากตอ้ งการเขา้ ไปชมภายในถำ้ ควรแจง้ เจา้ หนา้ ท่ีท่ีพาชมก่อนเพ่ือความปลอดภยั • ปัจจุบนั วนอุทยานแม่ลานอ้ ยไดเ้ ปล่ียนช่ือเป็น “ วนอุทยานถำ้ แกว้ โกมล” ไดร้ ับการพฒั นา ปรับปรุงและอยใู่ นความดูแลของสำนกั อุ ทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พชื
©17 อทุ ยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเส่ือ • อุทยานแห่งชาติถำ้ ปลา-ผาเส่ือ • อุทยานแห่งชาติถำ้ ปลา-ผาเสื่อ มี พ้ื น ท่ี ค ร อ บ ค ลุ ม พ้ื น ท่ี ว น อุ ท ย า น ถ้ ำ ป ล า และวนอุทยาน นำ้ ตกผาเส่ือ ทอ้ งที่ป่ าสงวนแ ห่งชาติแม่ปายฝ่ังขวา ทอ้ งท่ีอำเภอเมืองและ ก่ิงอำเภอปางมะผา้ และดว้ ยเทือกเขาสูงสลบั ซบั ซอ้ น แนวเทือกเขาจะทอดยาวตามแน วเหนือใต้ อีกท้งั ยงั เป็นแหล่งตน้ นำ้ ลำธาร มีเอกลกั ษณ์ทางธรรมชาติ คือ ถำ้ ปลา- นำ้ ตกผาเส่ือ ท่ีสวยงามเป็นที่รู้จกั ของประชาช นทวั่ ไป เหมาะสำหรับการไปพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ อุทยานแห่งชาติถำ้ ปลา-ผาเสื่อมีเน้ือที่ประมาณ 488 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 305,000 ไร่ • แหล่งท่องเท่ียวอุทยานถำ้ ปลา-ผาเส่ือ • ถำ้ ปลา เป็นถำ้ ใตเ้ ชิงเขา มีนำ้ ไหลออกมาตลอดปี สามารถมองเห็นฝงู ปลาขนาดใหญ่ มีสีดำเทาอม ฟ้ าอยกู่ นั เป็นจำนวนมาก เรียกวา่ ปลามุงหรือพลวง นอกจากน้ีถำ้ ปลายงั มี ทิวทศั น์ สภาพป่ า หนา้ ผา เขา หินปูนอนั เป็นธรรมชาติท่ีสวยงามมาก มีในฤดูหนาว และฤดูร้อนมีนกั ท่องเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เนื่องจ ากมีลำธารนำ้ ไหลตลอดท้งั ปี • นำ้ ตกผาเสื่อ เกิดจากลำแม่นำ้ สะงา เป็นนำ้ ตกสูงประมาณ 10 เมตร กวา้ งประมาณ 15 เมตร ในช่วงฤดูฝนจะมีนำ้ ไหลเตม็ หนา้ ผากวา้ งท ำใหม้ ีรูปร่างคลา้ ยเสื่อ จึงเรียกวา่ “นำ้ ตกผาเสื่อ” ในฤดูแลง้ จะมีนำ้ นอ้ ย ทำใหเ้ ห็นหินที่สวยงามเหมาะ สำหรับพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ • เขื่อนพลงั นำ้ แม่สะงา เป็นเข่ือนดินมีความสูง 37 เมตร ยาว 160 เมตร สามารถกกั เกบ็ นำ้ ไดป้ ระมาณ 780,000 ลกู บาศกเ์ มตร ซ่ึงทำใหม้ ีทศั นียภาพเหนือ เข่ือนที่สวยงามเหมาะสำหรับเป็ นสถานท่ีพกั ผ่อน หยอ่ นใจ
©18 • นำ้ ตกแม่สะงากลาง เป็นนำ้ ตกที่อยเู่ หนือเขื่อนแม่ส ะงาข้ึนไป มีความสูงประมาณ 15 เมตร กวา้ งประมาณ 10 เมตร เป็นนำ้ ตกท่ีสวยงาม มีนำ้ ไหลตลอดท้งั ปี ระยะทางเดินเทา้ เขา้ ไปไม่ไกลนกั • นำ้ ตกหว้ ยโป่ งอ่อน เป็นนำ้ ตกที่อยรู่ ะหวา่ งเสน้ ทา งเขา้ หมู่บา้ นหว้ ยโป่ งอ่อน มีความสูงประมาณ 7 เมตร กวา้ งประมาณ 5 เมตร เป็นนำ้ ตกที่มีนำ้ ไหลตลอดปี มีทศั นียภาพท่ีสวยงาม มีแอ่งนำ้ ที่สามารถ เล่นนำ้ ไดใ้ นพ้ืนที่ 40 ตารางเมตร • ถำ้ พระบาทคู่หรือถำ้ จกั ตอก เป็นถำ้ ท่ีมีความกวา้ งดา้ น หนา้ ประมาณ 5x8 เมตร อยบู่ นดอยถำ้ ปลาตอ้ งใชเ้ วลาในกา รเดินเทา้ ประมาณ 1 ชวั่ โมงเศษ ภายในถำ้ มีหินยอ้ ยท่ีสวยงา มแต่เสน้ ทางเดินชนั และไกล
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: