97 สรุปผลการนเิ ทศกจิ กรรม กศน. คร่ึงปีหลงั ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 (เมษายน – กันยายน 2561) ***************************************** พน้ื ที่นเิ ทศ ศึกษานิเทศก์ส่วนกลางปฏิบัติการนิเทศร่วมกับศึกษานิเทศก์ส่วนภูมิภาค รวมทั้งผู้ปฏิบัติ หน้าท่ีนิเทศ ซ่ึงผ่านการพัฒนาโดยหน่วยศึกษานิเทศก์ ปฏิบัติการนิเทศสถานศึกษาในพื้นที่สานักงาน กศน. จังหวัด ตามคาสั่งสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่ 203/2560 ลงวันท่ี 22 ธันวาคม 2560 วธิ กี ารนเิ ทศ ใช้วิธีการนิเทศท่ีหลากหลาย โดยยึดความจาเป็นและความต้องการของผู้รับการนิเทศเป็น สาคัญ เช่น การซักถาม การตรวจสอบเอกสาร การอธิบาย การทบทวนความรู้ความเข้าใจ การชี้แจง การใหค้ าแนะนา การเสนอแนะ การสาธิต การยกตัวอย่าง การประชุมชแ้ี จง เป็นตน้ ประเด็นการนเิ ทศ หน่วยศึกษานิเทศก์กาหนดการนิเทศตามนโยบายจุดเน้นของสานักงาน กศน. จานวน 14 ประเด็น ดังนี้ 1) การขับเคล่ือนการดาเนินงานตามโครงการไทยนิยม ย่ังยืน 2) การขับเคลื่อน การดาเนินงานโครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย 3) โครงการ สรา้ งเครือข่ายดจิ ิทลั ชมุ ชนระดบั ตาบล 4) ศนู ยเ์ รียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจาตาบล 5) โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 6) ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล 7) โครงการ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านอาชีพ 8) การจัดการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกร ปราดเปร่ือง) 9) กศน.ตาบล 4G 10) การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน 11) การศึกษาต่อเนื่อง 12) การศึกษาตามอัธยาศัย 13) การประกันคุณภาพการศึกษา และ 14) ประเด็นการขับเคลื่อนงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอกสรุ เชษฐ์ ชยั วงศ์) สรปุ สภาพท่พี บจากสถานศึกษาและผลการนเิ ทศ 1. การขับเคลอื่ นการดาเนินงานตามโครงการไทยนยิ ม ยั่งยนื ตามมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ให้มีการขับเคล่ือน ยุทธศาสตร์ชาติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ เพื่อเสริมสร้าง ความม่ันคงของชาติไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยขบั เคลื่อนการทางานร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในพ้ืนท่ีทุกระดับ ต้ังแต่ ระดับจังหวัด อาเภอ ตาบล และระดับหมู่บ้าน โดยวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการการขับเคล่ือนงาน/โครงการ ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายลงพ้ืนท่ีในระดับหมู่บ้านร่วมกัน เพื่อพัฒนา แก้ไขปัญหาในมิติเศรษฐกิจ สังคมและความม่ันคง และเพ่ือสร้างความตระหนักถึงบทบาทหน้าท่ีของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการ พัฒนาประเทศและการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยใช้คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตาบล เป็นแกนหลักในการสร้างความเข้าใจกับประชาชน มีกรอบหลัก ในการดาเนินงานโครงการทั้งหมด ๑๐ เร่ือง ไดแ้ ก่ ๑) สัญญาประชาคมผูกใจไทยเป็นหน่ึง ๒) คนไทยไม่ทิ้งกัน ๓) ชุมชนอยู่ดีมีสุข ๔) วิถีไทย วิถีพอเพียง ๕) รู้สิทธิรู้หน้าท่ีและรู้กฎหมาย ๖) รู้กลไกการบริหารราชการ ๗) รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม ๘) รู้เท่าทันเทคโนโลยี ๙) บูรณาการการดาเนินงานของทุกภาคส่วนในการ
98 ป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร และ ๑๐) งานตามภารกิจของทุกหน่วยงาน (Function) รัฐบาลได้ กาหนดกลไกการขบั เคลื่อน โดยการจดั เวทีประชาคมในระดับตาบลทว่ั ประเทศตาม Roadmap จานวน 4 ครั้ง สานกั งาน กศน.ได้ร่วมขับเคลอื่ นนโยบายดงั กล่าวลงไปสู่การปฏิบัติด้านการศึกษาทั้งในส่วนกลางและในระดับ พ้ืนท่ี โดยมีภารกิจสาคัญของสานักงาน กศน. ที่สอดคล้องกับการดาเนินงานตามกรอบหลักของโครงการไทย นิยม ยั่งยืน 5 โครงการ คือ 1) โครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย 2) โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 3) โครงการศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจาตาบล 4) โครงการศูนย์สง่ เสรมิ ประชาธิปไตยตาบล 5) โครงการสร้างเครือข่ายดิจิทัลชุมชนระดับตาบล สรปุ ไดด้ ังนี้ สภาพทพี่ บ การขับเคลือ่ นโครงการไทยนิยม ยงั่ ยนื ในระดับอาเภอ ผู้บริหาร กศน.อาเภอได้รับการแต่งตั้ง เป็นคณะทางานระดับอาเภอ ครู กศน.ตาบลเป็นคณะกรรมการขับเคล่ือนระดับตาบล ๆ ละ 1 คน ได้รับ การชี้แจงก่อนดาเนินงาน มอบหมายให้เป็นวิทยากรกระบวนการในการจัดเวทีประชาคมเพื่อรับฟังปัญหา ความต้องการของประชาชนและสรา้ งการรับรู้ ตามกรอบหลัก 10 เร่อื ง จดั เวทีประชาคม 4 คร้งั ในทุกหมู่บ้าน ร่วมวิเคราะห์ความต้องการของชุมชน สรุปปัญหาความต้องการและรายงานผลการจัดเวทีเข้าสู่ระบบ DMIS ของสานักงาน กศน. และ ครูบางรายได้รับมอบหมายให้รายงานผลเข้าสู่ระบบสารสนเทศของกระทรวงมหาดไทย การจัดเวทปี ระชาคม จานวน 4 ครัง้ ไดด้ งั น้ี ครั้งท่ี 1 เวทีปรับทุกข์ ผูกมิตร เพื่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับตาบล ได้ไปเยี่ยมเยียน ครัวเรือน รับทราบความทุกข์ยากและปัญหาของหมู่บ้าน/ชุมชน รวมท้ังค้นหาปัญหาและความต้องการของ ประชาชน โดยยดึ หลกั การมีส่วนรว่ ม ครั้งท่ี 2 เวทีการสร้างการต่ืนรู้ในสิทธิและหน้าที่ และการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ การอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความสามัคคี ตื่นตัวในความร่วมมือ เพื่อพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามหลักประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ ครั้งที่ 3 เวทีสร้างการรับรู้ ปรับความคิด ด้วยการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติในชีวิตประจาวันและ เขา้ ใจการมสี ว่ นรว่ มในการบริหารราชการแผน่ ดนิ วถิ ไี ทย วิถพี อเพยี ง ครั้งท่ี 4 เวทีสร้างการรับรู้ ปรับความคิด เพ่ือสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในเร่ือง ที่จาเป็นต้องรู้ในการดาเนินชีวิตและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ กลุ่มเป้าหมายเข้าใจและพึงพอใจ ในการเข้าร่วมเวทีประชาคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน ผู้สูงอายุว่างงาน และเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สว่ นกลุ่มคนวยั ทางานและเยาวชนเข้าร่วมนอ้ ย แต่ละอาเภอสามารถดาเนินการทันตามกาหนดเวลา โดยจัดใน เวลากลางวัน ผู้นาชุมชน กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ความร่วมมือดีมาก และคาดหวังว่าจะได้รับงบประมาณ มาพัฒนาชุมชนของตน ดาเนินการติดตามการจัดเวทีประชาคม โดยคณะกรรมการขับเคล่ือนระดับอาเภอ ท้ังนี้ได้แบ่งความรับผิดชอบให้แต่ละหน่วยงานควบคุมดูแลเป็นรายตาบล และมีคณะทางานระดับจังหวัด สมุ่ มาเย่ยี มเปน็ ครัง้ คราว ข้อมูลด้านปัญหาและความต้องการของประชาชนตามลาดับ ได้แก่ ความต้องการเรื่องไฟฟ้า น้าดื่ม น้าใช้ ถนน ฝึกอาชีพ น้าเพ่ือการเกษตร การเล้ียงสัตว์ เพาะปลูก ยาเสพติดและขยะ ส่วนปัญหา ด้านการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ได้แก่ การท้องในวัยเรียน เด็กออกกลางคัน ความประพฤติก้าวร้าว ติดยาเสพติด ติดเกม ตดิ โซเชยี ล มกี ารบริหารจัดการเชอื่ มโยงปัญหา/ความต้องการสู่การแก้ไขในรูปแบบของการดาเนินงาน โครงการ/กิจกรรม โดยอาเภอจัดทาแผนปฏิบัติการและมอบให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไขในส่วนที่ไม่เกิน
99 ศักยภาพของอาเภอ ส่วนที่เกินศักยภาพของอาเภอให้จังหวัดบรรจุในแผนพัฒนาจังหวัด ซึ่งขณะน้ี ได้ดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมแก้ไขไปบ้างแล้วใน 3 รูปแบบ คือ โครงการ/กิจกรรมท่ีหมู่บ้าน/ชุมชน ทาได้เอง ร่วมทากับหน่วยงานภายนอก ผลจากการจัดทาเวทีประชาคม ทาให้ ครู กศน.เป็นท่ีรู้จักและได้รับ การยอมรับในระดับพ้ืนที่มากยิ่งข้ึน มีโอกาสเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์งาน กศน. มากข้ึน และ เพ่ิมกลุ่มเป้าหมายได้มากข้ึน รับทราบข้อมูลปัญหาและความต้องการในระดับชุมชนที่เป็นปัจจุบัน สามารถ นามาใช้ในการจัดกิจกรรมแก้ปัญหาและสนองความต้องการของประชาชน ผ่านโครงการของ กศน. 5 โครงการ โดยการจัดกิจกรรมการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปกครองระบอ บประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเป็นพลเมืองดีมีจิตสาธารณะ และจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย ในชมุ ชน พร้อมจัดกจิ กรรมฝึกทกั ษะอาชพี เพ่มิ รายไดแ้ ละการมีงานทาใหก้ ับประชาขนในพ้ืนท่ีเสริมสร้างทักษะ ในการดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้สามารถพ่ึงพาตนเองได้พัฒนาความรู้และทักษะ การใช้เทคโนโลยีสูย่ คุ 4.๐ อีกท้ังสามารถนากิจกรรม กศน. เข้าสูแ่ ผนพฒั นาระดับตาบล ปัจจัยที่สง่ ผลต่อความสาเร็จ 1. ดาเนนิ การประชุมช้แี จงทุกระดบั และมคี มู่ ือดาเนินงาน 2. กาหนดแนวทางการบูรณาการ โดยมอบหมายบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ การดาเนินงาน ขบั เคลื่อนของหน่วยงานทีร่ ับผิดชอบให้เปน็ เอกภาพ ลดปญั หาความสบั สน สรา้ งความชดั เจนในการทางาน 3. ประชาชนให้ความร่วมมือและพึงพอใจ เนื่องจากทีมขับเคล่ือนมาจากหลายหน่วยงาน สามารถตอบสนองปญั หาไดห้ ลายเรอ่ื ง 4. การเพม่ิ ความรคู้ วามสามารถ และทักษะและกระบวนการของทีมขบั เคลื่อน ปัญหาอุปสรรค ๑. การจัดเวทีส่วนใหญ่จัดในเวลาราชการ ทาให้ประชากรวัยแรงงานซึ่งต้องประกอบอาชีพ เข้าร่วมเวทีได้น้อย ผู้เข้าร่วมเวทีส่วนใหญ่จึงเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับทราบปัญหาและความต้องการเฉพาะกลุ่ม ไมห่ ลากหลายและไมค่ รอบคลุมครบถ้วนทกุ ประเด็นตามความต้องการของชุมชนอยา่ งแท้จรงิ 2. ครู กศน.ตาบล ทเี่ ป็นคณะกรรมการขับเคล่อื นต้องเขา้ รว่ มเวทที ุกคร้ังหรือต้องรับงานแทน คณะกรรมการขับเคลอ่ื นของหน่วยงานอน่ื ส่งผลต่อการปฏบิ ตั ิงานของภารกิจหลัก โดยเฉพาะการจัดการเรียน การสอนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่ีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่าและงบประมาณในการดาเนินงานล่าช้าไม่ทัน ต่อการดาเนินงาน ขอ้ นิเทศ ๑. ผู้นิเทศเสนอแนะให้ครู กศน.ตาบลที่เป็นทีมขับเคลื่อนเสนอผู้มีอานาจเพ่ือเปลี่ยนแปลง เวลาการจัดเวทีประชาคมเป็นช่วงเย็น หลังจากประชาชนเลิกจากการประกอบอาชีพแล้ว เพ่ือให้ทุกคนได้มี สว่ นรว่ ม โดยพร้อมเพรียงกนั ๒. ผู้นิเทศเสนอแนะให้ครูท่ีต้องไปร่วมจัดเวทีประชาคมวางแผนการจัดการเรียน การสอน เพ่อื มอบหมายให้ครคู นอ่นื ดาเนนิ การแทน ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การพัฒนา ขอ้ เสนอแนะต่อสถานศึกษา 1. ควรบริหารจัดการให้บุคลากรสามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ทั้งภารกิจของ กศน. และ ภารกิจในการเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกรณีที่ครูคนใดคนหนึ่งต้องปฏิบัติงาน ซา้ ซอ้ นในเวลาเดยี วกนั
100 2. ควรรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพจากผลการเข้าร่วมกระบวนการขับเคล่ือน โครงการไทยนิยม ย่ังยืน อย่างครบถ้วน เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีที่สอดคล้องกับ ความต้องการของกลมุ่ เป้าหมาย ข้อเสนอแนะตอ่ สานักงาน กศน.จงั หวดั ควรรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ และสรุปผลการเข้าร่วมกระบวนการขับเคล่ือน โครงการไทยนิยม ย่ังยืน ของสถานศึกษาอย่างครบถ้วน เพ่ือเป็นข้อมูลในการสนับสนุน ส่งเสริมการจัด กจิ กรรมของสถานศึกษาตอ่ ไป ขอ้ เสนอแนะต่อสานักงาน กศน. 1. ควรกาชับให้ผู้บริหารสานักงาน กศน.จังหวัด ชี้แจงผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากร ในสังกดั ใหม้ ีความร้คู วามเขา้ ใจบทบาทและภารกิจในการรว่ มขับเคลอ่ื นโครงการไทยนิยม ยั่งยนื อยา่ งชัดเจน 2. ควรรายงานผู้บริหารระดับสูงขึ้นไปถึงสภาพการปฏิบัติหน้าที่ของครู กศน.ตาบลท่ีเป็น คณะกรรมการขับเคล่ือนร่วมเวทีประชาคมทุกครั้ง ซึ่งส่งผลต่อการปฏิบัติภารกิจหลัก โดยเฉพาะการจัด การเรียนการสอนการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานทมี่ ีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนตา่ 2. การขับเคลอ่ื นการดาเนินงานโครงการอบรมประวตั ิศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู รัชกาลที่ ๑๐ ทรงมพี ระราชกระแสรับส่ัง ในด้านการศึกษา โดยเน้นให้การศึกษาต้องมุ่งสร้างพ้ืนฐานให้แก่ผู้เรียน การสร้างทัศนคติ ที่ถูกต้อง (อุปนิสัย) ที่ม่ันคงเข้มแข็ง การสอนให้มีอาชีพ มีงานทา รวมถึงการทาให้เยาวชนมีความสนใจและเข้าใจในเร่ืองของ สถาบันพระมหากษตั รยิ ์และประวัตศิ าสตร์ชาติไทยไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ท้ังน้ี นโยบายด้านการศึกษาของคณะรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) ใหป้ ลกู ฝงั คา่ นิยมและจิตสานึกที่ดี นโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ค่านิยมหลัก 12 ประการ ให้มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในส่ิงท่ีดีงามเพื่อส่วนรวม เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขท่ีถูกต้อง มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทา รู้ปฏิบัติ ยุทธศาสตรเ์ พอ่ื การปฏริ ูปการศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ดา้ นหลกั สตู รและกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนา ระบบการผลิต การสรรหาและการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา และนโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วม ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ (สานักงาน กศน.) ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ส่งเสริมการจัด การเรยี นรูต้ ามพระบรมราโชบายด้านการศกึ ษาของรชั กาลท่ี ๑๐ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเป็นพลเมืองดี เคารพความคิด ของผู้อ่ืน ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ รวมทั้งสังคมพหุวัฒนธรรม และ ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะและอุดมการณ์ ความยึดม่ัน ในสถาบันหลักของชาติ โดย สานักงาน กศน. ได้กาหนดนโยบายและแผนงานบูรณาการร่วมกับศูนย์ ประสานงานปฏิบัติที่ 1 กองอานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ขยายผล การดาเนินงานการอบรมโครงการประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 แก่ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู กศน. ทุกประเภท ในสังกัดสานักงาน กศน. เพ่ือเป็นฐานในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเข้มแข็ง ม่ันคง และยั่งยืน และเป็นการนา องค์ความรูอ้ ุดมการณร์ ักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยไปขยายผลกับนักศึกษา กศน. ท่ีเป็นเยาวชน และประชาชนทว่ั ไปไดอ้ ย่างถูกต้อง จานวน ๔ หลักสตู ร ดงั นี้
101 1) การอบรมประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย และบุญคณุ ของพระมหากษตั ริย์ไทย ครูอาสาสมัคร กศน. 2) การประชุมเชิงปฏิบัติการเพ่ือจัดทาคู่มือการจัดกิจกรรม กระบวนการเรียนการสอนเพื่อ การเรยี นรูเ้ ร่อื งประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย 3) การอบรมการจัดกจิ กรรม กระบวนการเรยี นการสอนเพ่ือการเรยี นรูเ้ ร่อื งประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย 4) ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทยสาหรบั การนิเทศ กากับ ตดิ ตาม การดาเนนิ งาน ผลจากการดาเนินการดงั กล่าว สรปุ ได้ดงั น้ี สภาพทีพ่ บ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครู ครู กศน. ทุกประเภท ในสังกัด สานักงาน กศน. เข้ารับการอบรม ท้ัง ๔ หลักสูตร สานักงาน กศน.จังหวัดได้ดาเนินโครงการอบรม ประวัติศาสตรช์ าติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย จานวน ๒ หลักสูตร คือ หลักสูตรเรื่องการอบรม การจัดกิจกรรม กระบวนการเรียนการสอนเพ่อื การเรียนรเู้ รอ่ื งประวัติศาสตร์ชาติไทยระดับจังหวัด โดยวิทยากร จาก กอ.รมน. หรือ บุคลากร กศน.ที่ผ่านการอบรมตามโครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของ พระมหากษัตริย์ไทยของสานักงาน กศน. และหลักสูตรการอบรมวิทยากรประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยสานกั งาน กศน. ประสานวิทยากรจาก กอ.รมน. เป็นวิทยากรหลักในการอบรม โดยผู้เข้ารับการอบรม คือ ครู กศน. ท่สี ถานศึกษาพจิ ารณาคดั เลือกและทหารในพื้นท่ีตามจานวนทส่ี านกั งาน กศน.กาหนด สถานศึกษาในสังกัดสานักงาน กศน. ขยายผลการให้ความรู้และการสร้างจิตสานึก ในการ เสรมิ สรา้ งอดุ มการณ์รักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย โดยการจดั โครงการอบรมประวัติศาสตร์ ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทยแก่นักศึกษา กศน. ในรูปแบบค่ายแบบไป - กลับ หรือค่ายแบบ ค้างคืน โดยครู กศน. ท่ีผ่านการอบรม “หลักสูตร : การอบรมวิทยากรประวัติศาสตร์ชาติไทย” เป็นวิทยากร ให้ความรู้ตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย กระบวนการอบรมใช้สื่อเอกสารประกอบการบรรยาย (powerpoint) ส่ือวีดิทัศน์ ใบความรู้ ใบงาน ชุดนิทรรศการ ภูมิปัญญาเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถ่ิน โดยประเมินผลเน้ือหา การเรยี นรดู้ ว้ ยแบบทดสอบกอ่ นและหลังอบรม การบันทกึ การเรยี นรู้ การประเมินความพึงพอใจ ผู้บริหารและ ครูมีความตระหนักในการดาเนินงาน นักศึกษาให้ความสนใจและร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี นอกจากน้ี สถานศึกษาในภาคใต้ได้ขยายผลสู่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ได้แก่ ผู้นาชุมชน กานัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มผู้สูงอายุ อสม. โดยใช้กระบวนการพูดคุยแลกเปล่ียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถ่ินที่ร้านน้าชา บ้านหนังสอื ชุมชน สถานศึกษาลงทะเบียนรายวิชาเลือกประวัติศาสตร์ชาติไทยฯ แก่นักศึกษา กศน.หลักสูตร การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ต้ังแต่ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา ๒๕๖๑ และจดั กจิ กรรมราลึกถงึ บญุ คุณของพระมหากษัตรยิ ์ไทยในการจัดกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ปจั จัยทส่ี ่งผลต่อความสาเร็จ ๑. สานักงาน กศน. กาหนดนโยบายในการดาเนินงานการขยายผลแก่นักศึกษา กศน.และ ประชาชน ๒. สานักงาน กศน. ได้พัฒนาบุคลากรทุกระดับ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาความรู้ ความเข้าใจ ไปจัดกระบวนการเรียนการสอนใหก้ บั นักศึกษาและประชาชนทว่ั ไปได้ ๓. สานักงาน กศน. ได้จัดทาหลักสูตร เน้ือหา ครอบคลุม สามารถนาไปถ่ายทอดขยายผล แก่กลุ่มเป้าหมายได้ ๔. สานกั งาน กศน.จังหวัด มอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติแก่สถานศึกษาและจัดการอบรม ให้ความรูแ้ ก่ผบู้ รหิ าร ครู และบุคลากร กศน.ท่เี กีย่ วขอ้ ง และนเิ ทศตดิ ตามผลการดาเนินงานอย่างตอ่ เนื่อง
102 ๕. สถานศกึ ษาลงทะเบียนรายวิชาเลอื กเสรีแก่นักศึกษา กศน.ตามแนวทางท่ีสานักงาน กศน. กาหนดและจัดหาสื่อประกอบการเรียนการสอน ทั้งส่ือหนังสือ ส่ือเอกสาร สื่อนิทรรศการ เพื่อใช้ในการเรียน การสอน ๖. ผ้บู ริหาร ครู กศน.และผเู้ กี่ยวขอ้ ง มคี วามตระหนกั ในการดาเนินงานตามนโยบาย ปัญหาอุปสรรค 1. ครู กศน. ไม่มีส่ือประกอบการอบรมหรือส่ือประกอบการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ชัดเจน เพอ่ื สรา้ งความมั่นใจในการนาเนอ้ื หาความรไู้ ปถ่ายทอดแกน่ ักศึกษา ประชาชน และกลมุ่ เปา้ หมายของ กศน. 2. ครู กศน. จัดกระบวนการเรียนรู้ตามรูปแบบที่ครูได้รับการอบรม คือ ใช้ส่ือเอกสาร ประกอบการบรรยาย (Power Point) และส่ือวีดิทัศน์ เนื่องจากครูยังไม่ม่ันใจในการถ่ายทอดเนื้อหา ประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย และมีทักษะไม่เพียงพอในการผลิตสื่อ ประกอบการอบรม สอ่ื ประกอบการเรียนการสอน 3. ครู กศน. มีทักษะไม่เพียงพอในการถ่ายทอดความรู้ เก่ียวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย และ บุญคณุ ของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย ข้อนิเทศ ศกึ ษานิเทศก์ได้ดาเนนิ การพฒั นาครู ดังนี้ 1. แนะนาให้ครูทบทวน ซักซ้อม เล่าเน้ือหา การค้นหาเนื้อหาท่ีใช้ในการอบรม การจัดการเรียน การสอนเพอื่ สร้างความรู้ ความเข้าใจทถ่ี กู ต้อง ๒. แนะนาเทคนิคกระบวนการเป็นวิทยากร เทคนิคการจัดกระบวนการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ฯ แก่ ครู กศน. ให้สามารถเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับเนื้อหาในการอบรม หรือเนื้อหาท่ีจัดการเรียน การสอน ๓. สาธิตการเป็นวิทยากร การใช้สื่อ ในการให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทยฯ แก่ ครู กศน. เพอื่ พฒั นาทกั ษะการเป็นวทิ ยากร การใชส้ ่ือ ในการใหค้ วามรเู้ ร่อื งประวัตศิ าสตรไ์ ทยฯ ขอ้ เสนอแนะเพื่อการพฒั นา ข้อเสนอแนะตอ่ สถานศกึ ษา กศน. ๑. ควรกาหนดเป็นนโยบาย แผนการปฏิบัตงิ าน กิจกรรมที่ชัดเจน ประเมินผลการปฏิบัติงาน อย่างต่อเน่ือง เพื่อพัฒนากระบวนการดาเนินงาน ตลอดจนการรายงานผลการดาเนินงานเมื่อเสร็จสิ้น การดาเนินงาน ๒. ควรรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ท้องถ่ิน และจัดทาเป็นสื่อเพื่อใช้ในการจัดการเรียน การสอนแก่นักศึกษา กศน. และประชาชนในพนื้ ที่ ข้อเสนอแนะต่อสานกั งาน กศน.จงั หวดั ควรนิเทศ ติดตามการจัดกิจกรรมของสถานศึกษาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือพัฒนากระบวนการ จดั การเรียนการสอนและการจดั กจิ กรรมของครู กศน. ข้อเสนอแนะต่อสานักงาน กศน. ๑. ควรผลิตสื่อในการจัดการเรียนรู้แก่นักศึกษา/สื่อการอบรม พร้อมคู่มือการใช้ เพื่อให้ครู นาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนหรือการอบรมขยายผลแก่นักศึกษาและประชาชนให้เป็นไปในแนวทาง เดียวกนั ๒. ควรพัฒนาทักษะการเป็นวทิ ยากรประวตั ิศาสตร์ แก่ ครู กศน. ๓. ควรกาหนดนโยบายใหห้ นว่ ยงาน สถานศกึ ษาในสังกัด ปฏบิ ัตอิ ยา่ งตอ่ เนื่อง
103 3. โครงการสรา้ งเครอื ขา่ ยดิจิทัลชมุ ชนระดบั ตาบล ตามนโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของสานักงาน กศน. ยุทธศาสตรท์ ี่ 2 ด้านการพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพ่ือสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ ข้อท่ี ๒.๒ พัฒนากาลังคนให้เป็น “Smart Digital Persons (SDPs)” ท่ีมีทักษะด้านภาษาและทักษะ ดิจิทัล เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ ได้แก่ ๑) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้าน Digital เพ่ือให้ประชาชน มคี วามร้พู น้ื ฐานดา้ น Digital และความรู้เร่ืองกฎหมายว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์สาหรับ การใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน รวมทั้งการพฒั นาและการเข้าสู่อาชีพ ๒) สร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะ พ้ืนฐานให้กับประชาชนเกี่ยวกับการทาธุรกิจและการค้าออนไลน์ (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) เพ่ือร่วมขับเคลื่อน เศรษฐกิจดจิ ิทัล สานักงาน กศน. สภาพทพี่ บ สานกั งาน กศน.จังหวัด จดั อบรมวทิ ยากรแกนนา ครู ก ตามหลกั สตู รสร้างความรู้ความเข้าใจ ดิจิทัลชุมชนระดับตาบล (Digital Literacy Curriculum) เพื่อเป็นวิทยากรแกนนา และนาความรู้ไปขยายผล ให้กับวิทยากรแกนนา ครู ข และ ครู ค ในระดับจังหวัด/อาเภอ ให้ครู ข และ ครู ค นาความรู้ไปจัดกิจกรรม ดจิ ิทลั ชมุ ชนระดับตาบลให้กบั ประชาชนในพืน้ ทที่ ีร่ บั ผิดชอบ รวมทง้ั ครู กศน.ตาบล ได้ศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติม จากสื่ออินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการทาธุรกิจการค้าออนไลน์ (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) สิทธิความรับผิดชอบ การเข้าถงึ สื่อดิจิทัล การสอ่ื สารยุคดิจิทลั ความปลอดภยั ยุคดิจิทัล กฎหมายดิจิทัล เพ่ือนาความรู้ไปจัดกิจกรรม ดิจิทัลชุมชนระดับตาบลให้กับประชาชน ซึ่งพบว่ามีประชาชนท่ีเข้ารับการอบรมสามารถเรียนรู้ได้ และบางส่วน นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันในการขายสินค้าออนไลน์ อย่างไรก็ดี ยังพบว่าประชาชนท่ีเข้ารับการอบรม บางส่วนขาดความรู้พ้ืนฐานด้านดิจิทัล (Digital Literacy) ประกอบกับอุปกรณ์ (โทรศัพท์เคล่ือนท่ี) ท่ีใช้อยู่ รวมทัง้ สัญญาณอนิ เทอร์เนต็ ไม่รองรับการใช้งานดา้ นเทคโนโลยีดิจิทัล และประชาชนขาดความรู้เร่ืองกฎหมาย เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์สาหรับการใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวัน และท่สี าคญั ครู กศน.ตาบล ขาดการติดตามผล การนาความรู้ไปใช้หลังการอบรมอย่างเป็นระบบและจริงจัง ทาให้สรุปไม่ได้ว่า ประชาชนได้นาความรู้ไปใช้ ได้จริงตามวตั ถุประสงคข์ องโครงการหรอื ไม่ อย่างไร ปัจจัยที่สง่ ผลต่อความสาเรจ็ 1) สานักงาน กศน. มีหลักสูตรดิจิทัลชุมชนระดับตาบลที่ชัดเจน คือหลักสูตร Digital Literacy และ E-commerce 2) สานักงาน กศน.จังหวัด จัดอบรมวิทยากรแกนนาครู กศน.ตาบล อย่างเป็นระบบ (ครู ก/ครู ข/ครู ค) 3) สถานศึกษามีแผนงาน/โครงการ หลักสูตร คาส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินงาน อย่างชัดเจน 4) มีงบประมาณที่เพียงพอและมีหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายงบประมาณที่ชัดเจนโดยใช้ระเบียบการ ฝกึ อบรมประชาชน 5) มีเครอื ข่ายร่วมดาเนนิ งานที่บูรณาการหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงดิจิทัลเพ่ือพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ TOT และ DTAC 6) การจัดกิจกรรมฝึกอบรม ตามหลักสูตรดิจิทัลชุมชนระดับตาบล เป็นเรื่องที่ทันสมัยทันต่อเหตุการณ์ทาให้ประชาชนเกิดความสนใจ ในการเรียนรู้ ๗) ครู กศน. ส่วนใหญ่จัดการเรียนการสอนเป็นทีมเพ่ือช่วยเหลือกันแต่ละตาบล เนื่องจาก ครู กศน. มีความสามารถถ่ายทอดในแต่ละเนื้อหาแตกต่างกัน ส่งผลให้การอบรมประชาชนในหลักสูตรดิจิทัล ชมุ ชนระดับตาบลประสบความสาเรจ็ ปญั หาอุปสรรค พบวา่ 1) ครู กศน. บางคนไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการใช้ดิจิทัลชุมชนระดับตาบล ถึงแม้จะผ่านอบรมวิทยาการแกนนาในระดับต่าง ๆ แล้ว แต่ยังไม่สามารถเป็นวิทยากรที่มีความรู้ความเข้าใจ ที่พร้อมจัดอบรมตามหลักสูตรดิจิทัลชุมชนระดับตาบล ทาให้ไม่เกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง 2) การกาหนด
104 เปา้ หมายใหค้ รู กศน.ตาบล จัดฝึกอบรมประชาชนตามหลกั สูตรดจิ ทิ ลั ชุมชนระดับตาบล จานวน 15 คน ซ่ึงใน แต่ละพ้ืนที่ไม่สามารถรับสมัครประชาชนเข้ารับการฝึกอบรมได้ครบตามเป้าหมาย ทั้ง 15 คน 3) ประชาชน ที่ เ ป็ น ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย มี พ้ื น ฐ า น ค ว า ม รู้ ใ น ก า ร ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี ดิ จิ ทั ล แ ต ก ต่ า ง กั น แ ล ะ ใ ช้ โ ท ร ศั พ ท์ เ ค ล่ื อ น ท่ี ที่มีคุณสมบัติพื้นฐานแตกต่างกัน ส่งผลต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ 4) สถานศึกษา ขาดระบบการติดตามผลการนาความรู้ไปใช้ของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย จึงสรุปไม่ได้ว่าประชาชนท่ีจบ หลักสตู รดิจิทลั ชุมชนระดบั ตาบล นาความร้ไู ปใช้ประโยชน์เป็นช่องทางการพัฒนาอาชีพการค้าออนไลน์ได้จริง หรือไม่ อย่างไร 5 ) เคร่ืองมืออุปกรณ์ที่ให้บริการในศูนย์ดิจิทัลชุมชนระดับตาบล ชารุด เสียหาย ไม่สามารถ ใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ได้ และไม่มีงบประมาณซ่อมแซม 6) กลุ่มเป้าหมายท่ีเข้ารับการอบรม ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุทาให้มีความเข้าใจเร่ืองดิจิทัลและเทคโนโลยีได้ช้า 7) สัญญาณอินเทอร์เน็ตยังไม่ ครอบคลุมพื้นท่ีทุกหมู่บ้าน 8) การดาเนินโครงการสร้างเครือข่ายดิจิทัลชุมชนระดับตาบล ส่วนใหญ่ยังไม่ เกิดผลสาเร็จเป็นรปู ธรรมท่สี ่งผลต่อการนาไปใช้ในการประกอบอาชีพหรือการดาเนินชวี ติ ได้จรงิ ข้อเสนอแนะเพอ่ื การพฒั นา ข้อเสนอแนะตอ่ สานกั งาน กศน. 1) ควรกาหนดแนวทางให้สานักงาน กศน.จังหวัด/กทม.และสถานศึกษาสามารถสรรหา บุคลากรที่มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมเป็นวิทยากรจัดอบรมประชาชน ในระดับพน้ื ทต่ี ามหลกั สูตรดจิ ทิ ัลชมุ ชนระดับตาบล เพ่ือให้ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ ทักษะท่ีนาไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตไดอ้ ย่างแทจ้ รงิ 2) ควรให้ความสาคัญกบั ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลมากกว่าผลเชิงปริมาณ ซึ่งการกาหนด เป้าหมายควรให้มีความยืดหยุ่น เหมาะสมกับพื้นที่ ไม่ควรกาหนดเป้าหมายในแต่ละพื้นท่ีเท่ากัน เพราะใน บางพ้ืนที่มีประชาชนสนใจ มีความพร้อมมากน้อยแตกต่างกัน ในขณะเดียวกันบางพื้นท่ีอาจไม่มีประชาชน สนใจหรอื ไมม่ คี วามพรอ้ มทส่ี ามารถจัดกิจกรรมได้ตามเปา้ หมายท่ีสานกั งาน กศน.กาหนด 3) ควรกาหนดแนวทางการตดิ ตามผลการจัดกิจกรรมฝึกอบรม (Output) และการนาความรู้ ไปใชข้ องประชาชน (Outcome) ให้มคี วามชัดเจน 4) ควรจัดสรรงบประมาณสาหรับซ่อมบารุงอุปกรณ์ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ที่ให้บริการหรือจัด กิจกรรมในศูนย์ดิจิทัลชุมชนระดับตาบล รวมท้ังงบประมาณการจัดกิจกรรมฝึกอบรม ตามหลักสูตรดิจิทัล ชมุ ชนระดบั ตาบลอย่างตอ่ เน่อื ง 5) ควรเสนอกระทรวงดจิ ทิ ัลเพือ่ เศรษฐกจิ และสังคม ปรับโครงสร้างพื้นฐานเร่ืองของอุปกรณ์ สัญญาณอินเทอร์เน็ต ให้มีความพร้อมบริการครอบคลุมทุกพ้ืนที่ให้ประชาชนสามารถเข้าไปใช้งานได้อย่าง ทั่วถงึ เพือ่ รองรบั โครงการสร้างเครือข่ายดจิ ิทลั ชมุ ชนระดบั ตาบล 4. ศนู ย์เรยี นร้หู ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่ประจาตาบล การดาเนินการตามนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของ สานักงาน กศน. ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ภารกิจต่อเนื่อง ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ข้อที่ ๑.๓ การศึกษาต่อเนื่อง ข้อ ๔) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในรปู แบบต่าง ๆ ให้กบั ประชาชน เพือ่ เสริมสร้างภมู คิ มุ้ กัน สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างม่ันคง และมีการบริหาร จัดการอยา่ งเหมาะสมตามทิศทางการพัฒนาประเทศสูค่ วามสมดุลและย่ังยืน
105 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพีย งและเกษตรทฤษฎีใหม่ ประจาตาบลตามนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ผลการนิเทศสรุปไดด้ ังนี้ สภาพท่ีพบ จากการนิเทศ พบว่า สถานศึกษาจัดทาแผน โครงการ และหลักสูตรเสนอขออนุมัติ เพ่ือให้ครนู าไปปฏิบตั ิ โดยสอดแทรกเนือ้ หาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่นกั ศึกษา กศน. และจัดโครงการ ฝึกอบรมให้แก่ประชาชนในพ้ืนที่ให้มีความรู้เรื่องหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามองค์ประกอบของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข จัดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง การทา บัญชีครัวเรือน การปลูกผักปลอดสารพิษ การลด ละ เลิก อบายมุข และการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงไปใช้ในการครองตน ครองคน ครองงาน ให้กลุ่มเป้าหมาย โดยวิทยากรผู้ให้ความรู้เป็นภูมิปัญญา ท้องถ่ิน ปราชญ์ชาวบ้าน และศึกษาเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ รวมทั้งมีการจัดทาแฟ้มข้อมูล ทาเนียบ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ปราชญ์ชาวบ้าน แหล่งเรียนรู้ และบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์เพื่อสะดวกในการสืบค้น ขอ้ มูล สถานศึกษาได้ติดตามประเมินผลแต่ไม่ต่อเนื่อง และขาดการนาเสนอผลการติดตามที่เป็น การวิเคราะห์สภาพและกระบวนการที่ทาให้ประสบความสาเร็จ จึงทาให้ไม่ทราบข้อมูลท่ีชัดเจน ส่งผลให้ สถานศึกษาไม่มีข้อมูลท่ีสมบูรณ์ในการพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมและกาหนดทิศทางการพัฒนาศูนย์ เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบลให้บรรลุตามวัตถุประสงค์อย่าง สงู สุด ปัจจยั ที่ส่งผลตอ่ ความสาเร็จ ผบู้ รหิ าร สานกั งาน กศน.จงั หวัด อาเภอ ผู้นิเทศ ครู กศน.ตาบล ผู้นาชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน และภาคีเครือข่าย รว่ มกาหนดแนวทางการดาเนนิ งาน กจิ กรรม ศูนยเ์ รยี นรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎใี หม่ประจาตาบล ให้สอดคล้องกับนโยบายท่ี สานักงาน กศน.กาหนด โดยส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาบุคลากรเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ การปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ จัดกิจกรรม ด้านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงท่ีมีความหลากหลายตรงตามความต้องการของชุมชน สร้างเครือข่าย ปราชญ์ชุมชน และแหล่งเรียนรู้ รวมท้ังมีการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ท้ังศึกษาดูงาน ฝึกปฏิบัติจริง จากปราชญ์มีการใช้สื่อดิจิทัลมาประกอบการจัดกิจกรรมและการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ด้วยระบบ ออนไลน์ ปัญหาอปุ สรรค ๑. สถานศกึ ษานิเทศกากับตดิ ตามผลการดาเนินงานไม่ต่อเนื่อง 2. ศนู ย์เรียนรู้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฏีใหม่ประจาตาบลบางแห่ง ขาดการพัฒนาด้านกายภาพทัง้ ภายในและภายนอก 3. ไม่มีการประเมินหลกั สตู รทนี่ ามาใชใ้ นการจดั กิจกรรม ข้อเสนอแนะเพ่อื การพฒั นา ข้อเสนอแนะต่อสถานศกึ ษา 1. ควรนิเทศภายในเพ่ือติดตามการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การพัฒนานักศึกษา กศน.และ ประชาชน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดาเนินงาน และดาเนินการประเมินหลังการอบรมหรือจัด กิจกรรมการเรยี นรู้ทุกคร้ังและพฒั นาครูให้เรียนรู้และนาไปใช้ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
106 2. ควรสนับสนนุ งบประมาณในการพฒั นาศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ เกษตรทฤษฏีใหม่ประจาตาบลตามความต้องการของนักศึกษา กศน.และประชาชน เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้ ท่ีมีประสทิ ธภิ าพ 3. ควรจัดกิจกรรมพัฒนา กศน.ตาบล ให้เป็นศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฏีใหม่ประจาตาบลท่ีมีชีวิต สามารถให้บริการความรู้ท่ีเช่ือมโยงกับเครือข่ายการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ของตาบลน้ันๆ เช่น การพัฒนาครูและบุคลากรที่เก่ียวข้อง การพัฒนาหลักสูตรการอบรมให้ สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของชุมชน จัดประชุมแลกเปล่ียนเรียนรู้ และบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการ ประจาปงี บประมาณของหน่วยงานอยา่ งต่อเนื่อง ขอ้ เสนอแนะต่อสานกั งาน กศน.จงั หวดั 1. ควรติดตาม ประเมิน ประกวด คัดเลือก ผู้บริหาร ครู นักศึกษาและประชาชนท่ีมีผล การปฏบิ ตั ิงานดีเด่น และเผยแพร่ผลงานเพอ่ื สร้างขวญั และกาลงั ใจ 2. จัดอบรมพัฒนาครูเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโครงการเศรษฐกิจพอเพียง การจดั ทาหลกั สตู รหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฏใี หม่ มาใชป้ ระกอบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขอ้ เสนอแนะต่อสานกั งาน กศน. 1. ควรจัดการพัฒนาครู กศน.อย่างเป็นระบบและต่อเน่ืองเพื่อเพ่ิมความรู้ ทักษะให้ครู กศน. นาความรูแ้ ละประสบการณไ์ ปใชไ้ ด้อยา่ งถูกต้องและมคี ุณภาพ 2. สนับสนุนงบประมาณเกี่ยวกับการจัดอบรมประชาชน ค่าตอบแทนวิทยากร ค่าวัสดุ ฝกึ อบรมให้เพียงพอ 5. โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน สานักงาน กศน.กาหนดนโยบายเร่งด่วนเพื่อร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ โดยได้กาหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ จึงได้จัดต้ังโครงการศูนย์ฝึก อาชีพชุมชนเพื่อให้การดาเนินงานเป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และได้กาหนด แนวทางการดาเนินงานศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน สู่ “วิสาหกิจชุมชน : ชุมชนพ่ึงตนเอง ทาได้ ขายเป็น” เพื่อให้ หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาในสังกดั ดาเนินการ ดังน้ี ๑. ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพท่ีสอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความต้องการ ของตลาด รวมทั้งสร้างเครือข่ายการรวมกลุ่มในลักษณะวิสาหกิจชุมชน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ให้ชุมชน พง่ึ พาตนเองได้ ๒. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับสินค้า การทาช่องทางเผยแพร่และ จาหน่ายผลติ ภัณฑข์ องวิสาหกจิ ชุมชนใหเ้ ปน็ ระบบครบวงจร สภาพทีพ่ บ สานักงาน กศน.จังหวัดและสถานศึกษาในสังกัด ได้ดาเนินงานศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ตามยุทธศาสตร์ของสานกั งาน กศน. โดยสถานศกึ ษาสว่ นใหญไ่ ด้นาหลกั สตู รของ สานักงาน กศน. มาใช้ในการ จัดกระบวนการเรียนรู้ มีสถานศึกษาบางแห่งใช้หลักสูตรของหน่วยงาน/สถานศึกษาอื่น เช่น หลักสูตร ของสถาบันอาชวี ศึกษา หลกั สูตรของสถานศึกษาอนื่ ในสังกัดสานักงาน กศน. นอกจากนี้ สถานศึกษาได้พัฒนา หลักสูตรของสถานศึกษาข้ึนใช้เอง เป็นหลักสูตรที่มีองค์ประกอบ เน้ือหาท่ีมีความสอดคล้องกับความต้องการ ของผู้เรียนและบริบทของชุมชน มีแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรชัดเจน โดยครู กศน.ตาบล วิทยากร ผู้สอนร่วมกันจัดทาแผนการเรียนรู้ วิทยากรส่วนใหญ่เป็นผู้รู้ ภูมิปัญญา ปราชญ์ชาวบ้าน เน้นการเรียน
107 การสอนแบบฝึกปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ผู้จบหลักสูตรส่วนใหญ่นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน ไม่สามารถ พัฒนาต่อยอดสู่วิสาหกิจชุมชนได้ เน่ืองจากการฝึกอาชีพในระดับพื้นฐาน ผู้เข้าเรียนบางคนนาความรู้ไปใช้ ในการประกอบอาชีพเสริมและบางส่วนสามารถพัฒนาอาชีพเดิมให้มีรายได้เพ่ิมข้ึน และบางส่วนพัฒนาอาชีพ หลักใหม้ รี ายไดเ้ พ่มิ มากข้ึน การรวมกลุ่มของชุมชนมีน้อยท่ีจะทาได้ขายเป็น นอกจากมีกลุ่มของตนเองอยู่แล้ว ผจู้ บหลักสูตรใชเ้ ทคโนโลยเี ป็นช่องทางในการเผยแพรผ่ ลิตภณั ฑค์ ่อนข้างน้อย จากการนิเทศ ติดตาม การดาเนินงานศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยการศึกษาเอกสารหลักสูตร การศึกษารายงานผลการดาเนินงาน การสอบถาม การสังเกตการสอน พบว่า สถานศึกษาทุกแห่งสามารถ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามยุทธศาสตร์ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพ ของชุมชน และความต้องการของตลาด รวมทั้งสร้างเครือข่ายการรวมกลุ่มในลักษณะวิสาหกิจชุมชน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ ส่วนกิจกรรมตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี ในการสรา้ งมลู ค่าเพ่ิมให้กับสินค้า การสร้างช่องทางเผยแพร่และจาหน่ายผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนให้เป็น ระบบครบวงจร สถานศึกษาสามารถสอนการใช้ช่องทางการค้าขายออนไลน์แก่ผู้เรียนได้ แต่ผู้เรียนส่วนใหญ่ ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร ต้องการนาความรู้ท่ีได้ไปพัฒนาอาชีพ เสริมรายได้หรือพัฒนาอาชีพเดิมของ ตนเองเทา่ นัน้ ปัจจัยทสี่ ง่ ผลต่อความสาเรจ็ 1. สานักงาน กศน. จัดทาคู่มือการดาเนินงานและแนวทางปฏิบัติท่ีชัดเจนแก่หน่วยงานและ สถานศึกษาในสังกัด ๒. สานกั งาน กศน. จัดทาหลักสูตรอาชีพทห่ี ลากหลาย เพื่อให้สถานศกึ ษานาไปใช้ ๓. สานกั งาน กศน.จงั หวัด กาหนดนโยบาย นเิ ทศ กากบั ติดตาม การดาเนนิ งานอย่างต่อเน่ือง ๔. สถานศึกษามีแผนงาน/โครงการ สอดคล้องกบั ความต้องการของผู้เรียน ชมุ ชน ๕. สถานศกึ ษาพัฒนาหลักสูตรของสถานศกึ ษาให้สอดคล้องกับความต้องการของผ้เู รยี น ชุมชน ๖. สถานศึกษานาวิทยากร/ ภูมิปัญญา ผู้มีความรู้ ความสามารถเฉพาะทาง มาเป็นผู้สอน ตามหลกั สตู ร ๗. สถานศึกษาได้เพ่มิ เติมและสอนเนอื้ หาความร้เู กีย่ วกับการขายออนไลน์แกผ่ ้เู รียน ปญั หาอปุ สรรค 1. สถานศึกษาไม่ได้อบรมเทคนิควิธีสอนแก่วิทยากร เน่ืองจากไม่มีงบประมาณในการจัด อบรมครวู ิทยากรผสู้ อน ทาให้วทิ ยากรขาดเทคนคิ ในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ โดยเฉพาะในภาคทฤษฎี 2. สถานศกึ ษาไม่จัดทาทาเนียบวทิ ยากร เพอื่ สะดวกในการตดิ ตอ่ คดั เลือกวทิ ยากรมาสอน 3. การจัดสรรงบประมาณ ค่าวัสดุไม่เพียงพอและไม่สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน 4. การจัดหาวสั ดใุ นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนบางหลกั สูตร ไม่มขี ายในทอ้ งถิ่น ๕. สถานศึกษาจัดทาหลักสูตรไม่เป็นไปตามกระบวนการพัฒนาหลักสูตร และไม่มี การประเมนิ หลักสูตรเพื่อการพัฒนา ๖. การจัดการเรียนการสอนการค้าออนไลน์ ผู้เรียนบางคนต้องการเรียนเพื่อรู้แต่ไม่ประสงค์ จะค้าขายออนไลน์ ผู้เรียนไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนจึงไม่ประสงค์จะขายออนไลน์ ทาให้การดาเนินงาน ไม่เป็นไปตามนโยบาย
108 ๗. สถานศกึ ษาไมจ่ ัดทาขอ้ มูลสารสนเทศเก่ียวกับการค้าออนไลน์ เช่น มีสินค้าก่ีชนิด มีสินค้า อะไรบา้ ง ๘. ผู้เรยี นที่จบหลกั สูตรจาก กศน.ยังไม่สามารถสอบผ่านเพอื่ มใี บรับรองมาตรฐานอาชีพ ๙. ผู้เรยี นทจ่ี บหลกั สตู ร ไม่มีการรวมกลมุ่ อาชพี เพอื่ ส่วู ิสาหกิจชมุ ชน ข้อนิเทศ ผ้นู ิเทศได้แนะนาพัฒนาการจดั กระบวนการเรียนรู้ ดงั น้ี ๑. ทบทวน นโยบายและแนวทางการดาเนินงานศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน เพ่ือนาสู่การปฏิบัติ ตามนโยบาย ๒. อธิบายขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรท้องถ่ิน เพื่อให้สถานศึกษาสามารถพัฒนาหลักสูตร ท้องถน่ิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ตามขน้ั ตอนของการพัฒนาหลกั สตู ร ๓. แนะนาเทคนิคกระบวนจัดการเรียนการสอนวิชาชีพ การใช้สื่อ การวัดผลประเมินผล แกว่ ทิ ยากรใหส้ ามารถเลือกใช้เทคนคิ ที่เหมาะสมกับการเรยี นการสอน ๔. แนะนาใหส้ ถานศกึ ษาจดั ระบบการตดิ ตามการนาความรู้ไปใช้ของผู้เรียน เม่ือจบหลักสูตร เพื่อนาขอ้ มูลไปพฒั นาปรบั ปรุงในส่วนทเี่ ก่ียงข้อง ๕. แนะนาให้สถานศึกษาจัดทาฐานข้อมูลหลักสูตร ข้อมูลผู้จบ ข้อมูลวิทยากร ภูมิปัญญา ข้อมูลสินคา้ ออนไลน์ ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การพัฒนา ขอ้ เสนอแนะตอ่ สถานศกึ ษา 1. ควรพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนาหลกั สูตรทอ้ งถิน่ 2. ควรประเมินเพอ่ื ปรบั ปรงุ หลักสูตรทอ้ งถิน่ ตามหลกั เกณฑ์ 3. ควรอบรมเทคนคิ วิธสี อนแก่วทิ ยากรกอ่ นจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 4. ควรจัดทาคลังหลักสูตรและข้อมูลวิทยากรในรูปแบบข้อมูลสารสนเทศ เทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์ หรอื จัดทาในเว็บไซต์ หรือ Facebook ของสถานศกึ ษา 5. ควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการสอบในมาตรฐานอาชีพ เพื่อพัฒนาหลักสูตร การจัด กิจกรรมการเรยี นการสอนให้ผ้เู รียนสามารถสอบผา่ นและได้รบั ใบรับรองมาตรฐานอาชีพ 6. ควรจดั กระบวนการกลมุ่ อาชีพ กระต้นุ การรวมกลมุ่ อาชีพ เพ่อื พฒั นาเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ขอ้ เสนอแนะต่อสานกั งาน กศน.จังหวดั 1. ควรนิเทศ ตดิ ตามการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน อย่างต่อเนอื่ ง 2. ควรจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ มหกรรมอาชีพชุมชน การจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ ของศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน เพอื่ หาตลาดรองรับผลติ ภณั ฑช์ ุมชน ๓. ควรจัดกิจกรรมนาเสนอและประกวดผลงานและผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบเกียรติบัตรส่งเสริม สนับสนุนแก่ผทู้ ่มี ีผลงานดีเดน่ 4. ควรทาบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานในการทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงาน ข้อเสนอแนะตอ่ สถาบัน กศน.ภาค 1. ควรจัดมหกรรมอาชีพ นาเสนอผลงาน ประกวดผลงานและผลิตภัณฑ์ และมอบ ใบประกาศเกยี รติบัตรสาหรบั ผมู้ ีผลงานดเี ด่น เพอ่ื เสริมสรา้ งขวญั และกาลงั ใจแกผ่ ู้ปฏบิ ัตงิ าน ๒. ควรรวบรวมและจดั ทาฐานข้อมลู ร้านค้าออนไลน์
109 ขอ้ เสนอแนะตอ่ สานกั งาน กศน. ๑. ควรพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่าวัสดุรายหัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปจั จุบัน ๒. ควรพิจารณาชอ่ งทางในการประชาสมั พันธ์และการจาหนา่ ยผลติ ภัณฑข์ องชมุ ชน ๓. ควรสร้างแบรนด์ กศน. เพ่ือรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเพื่อสร้างความมั่นใจ ในคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์แกผ่ ูซ้ ้ือ 6. ศูนยส์ ่งเสริมพัฒนาประชาธปิ ไตยตาบล คณะกรรมการการเลอื กตงั้ (กกต.) ไดม้ มี ติครั้งท่ี ๑๑๒/๒๕๕๗ เม่ือวันท่ี ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ เร่ือง การขับเคล่ือนกิจกรรมการสร้างพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย และการขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมพัฒนา ประชาธิปไตยตาบล โดยความร่วมมือกับสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สานักงาน กศน.) ทั้งน้ี ได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล (ศส.ปชต.) ข้ึนในศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตาบลทุกตาบล โดยมีคณะกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยและ การเลือกต้ังตาบล จานวน 9 คน เป็นผู้ขับเคล่ือนการส่งเสริมพัฒนาและให้ความรู้เก่ียวกับประชาธิปไตยและ การเลือกต้ังในตาบล โดยบูรณาการความร่วมมือ กกต. และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้ศูนย์ ส่งเสรมิ พฒั นาประชาธปิ ไตยตาบล (ศส.ปชต.) เป็นศูนย์รวมใจของประชาชนทุกคนในตาบลในการทากิจกรรม ส่งเสริมและพัฒนาประชาธปิ ไตย โดยศนู ยส์ ง่ เสรมิ พฒั นาประชาธิปไตยตาบล (ศส.ปชต.) มีวัตถุประสงค์ในการ จัดตง้ั ดังน้ี 1. เพ่ือให้ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตาบล เป็นศูนย์กลาง การปฏบิ ตั งิ านและประสานงานเครือข่ายในการพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกต้ังระดับตาบลของพลเมือง อาสาพฒั นาประชาธิปไตยในรปู คณะกรรมการศูนย์สง่ เสริมพฒั นาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตาบล 2. เพื่อให้สามารถเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิและหน้าที่ในระบอบประชาธิปไตย และให้ความรู้ เก่ียวกับการเลือกต้ังในชุมชนในทุกรูปแบบ เพ่ือปลูกจิตสานึกให้เยาวชน นักศึกษา และประชาชนอันเป็นการ พัฒนาประชาธปิ ไตยและการเลือกต้งั ในระยะยาวอย่างมนั่ คงและยัง่ ยืน 3. เพื่อให้ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล เป็นศูนย์กลางในการเก็บรวบรวมข้อมูล การสรรหากรรมการประจาหน่วยเลอื กต้ัง ท้ังในภาวะปกติ และในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์เพ่ือเป็นหลักประกัน วา่ จะมีกรรมการประจาหนว่ ยเลือกตงั้ ปฏิบตั หิ น้าทีใ่ นทุกสถานการณ์ 4. เพ่ือเป็นเครือข่ายในการช่วยสอดส่องสังเกตการณ์ และแจ้งข่าวการทุจริตและฝ่าฝืน กฎหมายเลือกต้ัง ซ่ึงจะทาให้ กกต. มเี ครอื ขา่ ยอย่ทู ว่ั ทกุ ชมุ ชน สภาพทพี่ บ สานักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังประจาจังหวัดร่วมกับสานักงาน กศน.จังหวัด จัดกิจกรรมคัดเลือกศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยดีเด่นระดับจังหวัด ระดับอาเภอ เพ่ือสร้างขวัญ กาลังใจ ในการปฏิบตั ิงานให้กับคณะกรรมการศนู ย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบลและสถานศึกษาให้ดาเนินการจัด กิจกรรม/โครงการ ที่เก่ียวข้องกับการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับการรณรงค์ส่งเสริมให้นักศึกษาประชาชน ในพนื้ ทม่ี คี วามร้เู กย่ี วกบั สทิ ธแิ ละหน้าท่ขี องประชาชน โดยมีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยประจาตาบล พร้อมท้ังดาเนินการอย่างต่อเนื่องจากปีงบประมาณที่ผ่านมา ซึ่งผลการดาเนินงานของครู กศน.ตาบล โดยส่วนใหญ่เป็นการทางานร่วมกับ กกต.จังหวัด ซึ่งบางสถานศึกษายังมีปัญหาในการดาเนินงานร่วมกับ กกต.จังหวัด ในการประสานงานและภาระท่ีได้รับมอบหมาย ทั้งน้ี ในการดาเนินงานในปีงบประมาณ
110 พ.ศ. 2561 สานกั งาน กศน.บางแห่ง ได้ทบทวนการดาเนินงานร่วมกับ กกต.จังหวัด เพื่อสะท้อนปัญหา และ แก้ไขปัญหาการดาเนินงาน และร่วมกันกาหนดทิศทางการดาเนินงานร่วมกัน โครงการท่ีดาเนินงาน เช่น โครงการสร้างจิตสานึกวิถีประชาธิปไตยในชุมชน ของ กศน. โครงการ กศน.ตาบลเสริมสร้างความเป็น ประชาธิปไตยในชุมชนเพ่ือจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตยและพลเมืองดี โครงการส่งเสริมประชาธิปไตย ในสถานศึกษา โครงการสร้างจิตสานึกพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย โดย (ศส.ปชต.) การเผยแพร่รัฐธรรมนูญ ในชุมชน โครงการสร้างเสริมความรู้ประชาธิปไตยการเลือกตั้งหมู่บ้านไม่ขายเสียง ได้ดาเนินการขยายผล โดยการจัดต้ังหมู่บ้านไม่ขายเสียงต้นแบบ จัดโครงการผู้ปฏิบัติงานเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ มอื อาชพี โดยจดั ใหม้ กี ารอบรมผูจ้ ดั การประจาหน่วยเลอื กตัง้ มอื อาชพี (ผจ.ปน) หรือผ้ทู ่ไี ดร้ ับการแต่งต้ังให้เป็น ประธานประจาหน่วยเลือกต้ัง หน่วยละ ๑ คน และตัวแทนกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล แห่งละ ๑ คน ปจั จัยทสี่ ง่ ผลต่อความสาเร็จ 1. ผู้บริหารระดับจังหวัดและระดับอาเภอ เห็นความสาคัญและให้การสนับสนุนในการนา นโยบายสู่การปฏิบตั ิอย่างตอ่ เนือ่ ง 2. ครู กศน.มีความรู้ความเข้าใจ ความเสียสละ และความรับผิดชอบในการดาเนินงานและ สามารถทางานร่วมกบั คณะกรรมการส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล จดั กิจกรรมอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 3. คณะกรรมการส่งเสริมประชาธิปไตยตาบลให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมได้หลาย รูปแบบและต่อเนอื่ ง 4. ภาคีเครือข่ายให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดาเนินงานการจัดกิจกรรมส่งเสริม ประชาธิปไตยตาบลไดเ้ ป็นอย่างดี ปญั หาอุปสรรค 1. คณะกรรมการการเลือกต้ังประจาจังหวัด (กกต.) ขาดการประสานงานอย่างเป็นระบบ ตามลาดับการบังคบั บัญชา และประสานงานล่าช้า ไมม่ ีแผนการจัดกิจกรรม /โครงการทีช่ ัดเจน แนน่ อน 2. ครู กศน. ส่วนใหญ่จัดกิจกรรมในศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล (ศส.ปชต.) ไมต่ อ่ เนอ่ื ง เพราะมีภารกจิ งานประจาและงานทไ่ี ด้รับมอบหมายจานวนมาก 3. ประชาชนในพนื้ ท่ีบางแห่ง ไม่เห็นความสาคญั ของการสง่ เสริมประชาธิปไตย 4. กศน.ตาบลขาดงบประมาณ สอ่ื และอปุ กรณ์ในการดาเนินงาน ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา ขอ้ เสนอแนะตอ่ สถานศึกษา ควรมอบหมายให้ครูจัดทาแผนการดาเนินงาน และแผนการสอนเก่ียวกับการส่งเสริม ประชาธิปไตยใน กศน.ตาบลและในชมุ ชนอย่างชัดเจนและสามารถนาไปปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ ข้อเสนอแนะต่อสานักงาน กศน.จงั หวดั ควรประสานงานและวางแผนการจัดกิจกรรมร่วมกันกับคณะกรรมการการเลือกตั้งประจา จงั หวดั (กกต.) ตง้ั แต่ตน้ ปงี บประมาณและมีการประสานการดาเนนิ กิจกรรมตามลาดบั ขน้ั การบังคบั บญั ชา ขอ้ เสนอแนะตอ่ สานักงาน กศน. 1. ควรทบทวนบันทึกข้อตกลง (MOU) และวิธีการดาเนินการร่วมกันของสานักงาน กศน. กับคณะกรรมการการเลือกต้ัง (กกต.) โดยให้มีการประสานการดาเนินงานตามลาดับการบังคับบัญชา เพอ่ื รว่ มกนั ขบั เคล่อื นการดาเนนิ งานอย่างเป็นระบบ
111 2. ควรกาหนดนโยบายและการดาเนินงานกจิ กรรมโครงการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล (ศส.ปชต.) ใหช้ ัดเจน 3. ควรประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สนับสนุนงบประมาณ และสื่อ อุปกรณใ์ นการขบั เคล่ือนศนู ยส์ ่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล (ศส.ปชต.) ทกุ แห่ง 7. โครงการภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สารด้านอาชพี สถานศึกษาได้นายุทธศาสตร์ด้านการพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพ่ือสร้างขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยพัฒนาความรู้ ความสามารถ และพัฒนาทักษะการใช้ ภาษาอังกฤษของครูและบุคลากร กศน. เช่น Boot Camp หลักสูตรภาษาอังกฤษ การจัดหลักสูตรภาษาเพื่อ อาชีพ เพ่ือพัฒนากาลังคนให้เป็น “Smart Digital Persons” (SDPS) ให้มีทักษะด้านภาษาและทักษะดิจิทัล เพ่ือรองรับการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของประชาชน ในรปู แบบการจัดกจิ กรรมท่หี ลากหลายอยา่ งเป็นรปู ธรรม สภาพทพี่ บ จากการนเิ ทศพบว่า สถานศกึ ษาต่าง ๆ ไดจ้ ัดกจิ กรรมตามประเด็นที่พบ ดงั น้ี ด้านหลักสูตร สถานศึกษาได้นาผลการสารวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย มากาหนด เป็นกรอบเน้ือหาสาระตามหลักสูตร เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและบริบทของพื้นที่ โดยมีหลักสูตรที่สาคัญ และสอดคล้องกับนโยบาย ได้แก่ ภาษาอังกฤษเพ่ืออาชีพเกษตร ภาษาอังกฤษเพื่อพนักงานขับรถ รับจ้าง ภาษาองั กฤษเพื่อพนกั งานอาชีพเสริมสวย ภาษาอังกฤษเพือ่ พนกั งานนวดแผนไทย ภาษาอังกฤษเพื่อขายสินค้า ภาษาอังกฤษเพ่ือกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (ตารวจ) พยาบาล สาหรับสถานศึกษาในภาคใต้ ได้จัดทาหลักสูตร ภาษาอังกฤษเพ่ือการท่องเท่ียว ในจังหวัดภูเก็ต นราธิวาส ยะลา ปัตตานี พัทลุง ตรัง และจังหวัดพังงา ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของเมืองท่องเที่ยว นอกจากนี้ ได้จัดหลักสูตรส่งเสริมการค้าออนไลน์ตามนโยบายศูนย์ ดิจิทัลชุมชน ได้แก่ ภาษาอังกฤษเพ่ือการค้าออนไลน์ ภาษาอังกฤษเพ่ือการซื้อขาย ซ่ึงสถานศึกษา จัดกระบวนการพฒั นาหลักสตู รโดยบุคลากร ภูมิปญั ญา และผ้เู ชี่ยวชาญทางด้านเน้ือหามีส่วนร่วมในการจัดทา จัดประชุมชี้แจงบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้มีความเข้าใจร่วมกันในการนาหลักสูตรไปใช้ให้บรรลุเป้าหมายตาม นโยบายทก่ี าหนด ด้านวิทยากร สถานศึกษาส่วนใหญ่ใช้วิทยากรท้องถ่ิน ท่ีมีความรู้ ความสามารถ ตามเน้ือหา หลักสูตร เช่น อาชีพครู ข้าราชการบานาญ เป็นต้น ซ่ึงสามารถใช้เทคนิคการถ่ายทอดความรู้ได้ดี เน่ืองจาก เป็นผู้ที่จบการศึกษาตรงกับสาขาที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสามารถใช้ส่ือเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม ไดแ้ ก่ สื่อวดี ทิ ศั น์ สื่อคลิปวดี ีโอ ส่ือบุคคล สื่อแหล่งเรียนรู้จากสถานที่จริง โดยออกแบบจัดกระบวนการเรียนรู้ ร่วมกับครู กศน.ตาบล กาหนดแผนที่ชัดเจน เพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามลาดับเน้ือหาจากง่ายไปหายากจนเกิด การเรยี นรู้ตามจดุ ประสงค์ทก่ี าหนด ด้านการจัดกระบวนการเรียนรู้ สถานศึกษาส่วนใหญ่ได้ใช้กระบวนการกลุ่ม สถานการณ์ จาลอง การนาฝึกพูดหน้าชั้น การตอบคาถามเป็นภาษาอังกฤษ การจับคู่สนทนา การฝึกพูดกับชาวต่างชาติ โดยการนาผู้เรียนไปฝึกประสบการณ์จริง ฝึกการใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ ท่ีสอดคล้องกับอาชีพของผู้เรียน ในสถานที่ท่ีเป็นแหล่งประกอบอาชีพหรือสถานท่ีท่องเที่ยวของจังหวัด เช่น ภูเก็ ต สงขลา พัทลุง พระนครศรีอยุธยา ประจวบคีรีขันธ์ ชลบรุ ี เชยี งใหม่ เป็นต้น
112 ด้านการวัดและประเมินผล สถานศึกษาส่วนใหญ่ได้วัดความรู้ ทักษะของผู้เรียนจากสภาพจริง เช่น การตอบคาถาม การฝึกออกเสียง การเขียนตอบใบงาน การสังเกตการณ์การเข้าร่วมกิจกรรม คลิป สัมภาษณ์ชาวต่างชาติ เป็นต้น เพ่ือวัดความรู้ความเข้าใจ ของผู้เรียนตามท่ีกาหนดไว้ในวัตถุประสงค์ ของหลักสูตร เม่ือจบหลักสูตรตามเกณฑ์ที่กาหนด สถานศึกษาได้อนุมัติการจบหลักสูตร และมอบวุฒิบัตร ให้กบั ผผู้ ่านการอบรมตามหลักสูตร พรอ้ มจดั ทาสรปุ ผลการดาเนินงานเสนอสถานศกึ ษาเมอื่ สนิ้ สุดโครงการ ดา้ นการนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผล สถานศึกษาสว่ นใหญ่ได้ติดตามผู้เรียนท่ีจบหลักสูตร ไปแล้วประมาณ 1 เดือน ซึ่งติดตามด้วยแบบสอบถามออนไลน์และแบบสอบถาม โดยครู กศน.ตาบล เปน็ ผู้ติดตามดว้ ยตนเอง ด้านผู้เรียน พบว่า กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจในการเรียนรู้ เนื่องจากหลักสูตรเนื้อหา สอดคล้องกับอาชีพหรือความต้องการของผู้เรียน นอกจากน้ียังพบว่าผู้เรียนมีความหลากหลายและ มีพน้ื ฐานความรู้ภาษาอังกฤษท่ีแตกต่างกัน ซ่ึงพบว่าบางคน/กลุ่ม มีทักษะภาษาอังกฤษน้อย ทาให้ไม่สามารถ สื่อสารได้ตามเน้ือหาที่กาหนดหรือบางคนยังขาดความม่ันใจในการส่ือสารด้านภาษาอังกฤษเขินอายท่ีต้อง สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต้องใช้เวลามากในการปรับความรู้พ้ืนฐานก่อนการเรียนรู้ ตามเน้อื หาทหี่ ลกั สูตรกาหนด นอกจากนี้ สถานศึกษาบางแห่งไม่สามารถหากลุ่มเป้าหมายที่มีอาชีพเดียวกันได้ ในแต่ละรุ่น เพื่อจัดการศึกษาได้ตามที่สานักงาน กศน.กาหนด จึงต้องกระจายกลุ่มเป้าหมายให้แต่ละตาบล จัดหา ส่งผลให้ผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายไม่สะดวกในการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรม ติดภาระในการประกอบอาชีพ ทาใหไ้ มส่ ามารถเขา้ รว่ มอบรมตามระยะเวลาทห่ี ลกั สตู รกาหนดไดต้ ามเกณฑ์ ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1. ผบู้ ริหารใหก้ ารสนับสนุนส่งเสริมใหบ้ คุ ลากรพัฒนาตนเองดา้ นการพัฒนาทักษะครูต้นแบบ การสอนภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสารและเทคนิคการจัดกระบวนการเรยี นรู้ (Boot Camp) 2. หลักสูตรภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารด้านอาชีพได้ผ่านการคิดวิเคราะห์ ปรับปรุง จากผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ โดยแต่ละสถานศึกษามีหลักสูตร ท่ีหลากหลาย หลักสูตรมีความยืดหยุ่นในด้านเนื้อหาสาระ ระยะเวลาเรียน และเป็นไปตามความต้องการ ของประชาชนในแต่ละพน้ื ท่ี 3. ผู้นาชุมชน ปราชญ์ ภูมิปัญญา และภาคีเครือข่าย แนะนาวิทยากรท่ีมีความสามารถ ด้านการถา่ ยทอดองค์ความรู้และเทคนิคการจัดการเรยี นรูด้ า้ นภาษาองั กฤษ 4. ชมุ ชนได้รับประโยชน์ เช่น การส่งเสริมรายได้และอาชีพ การต่อยอดอาชีพ การให้บริการ ด้านขา่ วสารข้อมลู ทง่ี า่ ย ๆ ในชุมชนแกช่ าวตา่ งชาติ 5. ครู กศน. มีความสามารถในการประสานงานกับวิทยากรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพอื่ จัดกระบวนการเรียนรูภ้ าษาอังกฤษดา้ นอาชพี 6. สภาพบรรยากาศเอื้อต่อการจดั การเรยี นรู้ ปญั หาอุปสรรค ด้านสถานศกึ ษา 1. สถานศึกษาบางแห่งไม่มีการถอดสรุปบทเรียนวิธีปฏิบัติท่ีดีเพ่ือใช้เป็นแนวทางในการจัด กจิ กรรมท่ีมปี ระสทิ ธิภาพตามจุดม่งุ หมาย 2. สถานศึกษาขาดการประเมิน ระบบการติดตามความก้าวหน้า การนาเอาความรู้ท่ีได้รับ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั และการพัฒนาหลกั สตู รอยา่ งต่อเนือ่ ง ใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทของท้องถ่ิน
113 3. การบริหารจัดการในบางพ้ืนที่มีกลุ่มเป้าหมายตามท่ีสานักงาน กศน. กาหนดมากเกินไป ทาให้การจัดหากลุ่มเป้าหมายเป็นไปในลักษณะไม่เจาะจงและขาดการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมกับ หลักสูตร เช่น บางสถานศึกษาคัดเลือกนักศึกษา กศน. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มาอบรม ซง่ึ ไม่สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั อบรม 4. ในบางพืน้ ที่กาหนดระยะเวลาในการฝึกอบรมภาษาอังกฤษสั้นเกินไป ไม่สามารถช่วยให้ผู้เรียน สื่อสารกบั ชาวต่างชาติไดเ้ ทา่ ท่ีควร 5. ค่าตอบแทนวิทยากรน้อยเกินไป ไม่จูงใจให้วิทยากรท่ีมีความรู้ ความสามารถมาเข้าร่วม โครงการ สถานศึกษาบางแหง่ ไม่มสี ่ือการสอนเพียงพอ จงึ ทาใหผ้ ้เู รยี นบางคนไม่เกิดการเรยี นรู้ได้ตามจดุ ประสงค์ 6. สถานศึกษาขาดการประเมนิ ผลและพฒั นาหลักสตู รให้เหมาะสมกบั บริบทของท้องถนิ่ ด้านครู 1. ครูบางส่วนยังขาดองค์ความรู้ด้านเน้ือหาและเห็นภาษาอังกฤษเป็นวิชาท่ียาก ทาให้ ยังขาดความม่นั ใจในการจัดกระบวนการเรยี นการสอนในรูปแบบ Boot Camp ได้ตามท่สี านักงาน กศน.กาหนด 2. ครูบางส่วนยังคงใช้วิธีการสอนแบบเดิม ๆ จึงยังไม่สามารถนาความรู้ที่ได้จากการอบรม สู่การปฏบิ ัติจริงได้ ดา้ นผเู้ รยี น 1. จากการสารวจในบางพ้ืนท่ีพบว่าประชาชนไม่ต้องการเรียนเพราะไม่สามารถนาความรู้ ด้านภาษาอังกฤษไปใช้ในการประกอบอาชีพ หรือบางรายมาเรียนไม่สม่าเสมอทาให้ขาดความต่อเน่ือง ในการเข้าร่วมโครงการและเกดิ การสูญเสยี งบประมาณ 2. ผ้เู ขา้ รับการอบรมมพี ืน้ ฐานความรทู้ แ่ี ตกต่างกัน บางรายไม่กล้าแสดงออก มีความกังวลใน การออกเสียง ทาให้ขาดความม่ันใจในการใช้ภาษา 3. ครูบางส่วนยังขาดความม่ันใจในการจัดการเรียนการสอน ควรหาวิทยากรชาวไทยหรือ ชาวต่างชาติท่มี คี วามเชี่ยวชาญจัดกระบวนการเรียนรภู้ าษาองั กฤษดา้ นอาชีพ ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนา ข้อเสนอแนะตอ่ สถานศกึ ษา 1. ผู้บริหารสถานศึกษาควรคัดกรองกลุ่มเป้าหมาย โดยร่วมมือกับบุคลากรในสังกัดกาหนด คุณสมบตั ขิ องกลมุ่ เปา้ หมายทีจ่ ะเขา้ รับการอบรมให้ชดั เจนและเหมาะสมกับหลักสตู ร 2. ผู้บริหารสถานศึกษาควรพัฒนาครู กศน. ให้มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ เพ่ือนาความรู้ ไปใชใ้ นการเสริมเติมเต็มความรใู้ หก้ บั ผูเ้ รียนและประชาชน รวมท้งั สรา้ งชอ่ งทางการสนทนาภาษาอังกฤษให้กับ ผเู้ รียนผา่ นสื่อออนไลน์ เพอื่ ฝึกการสนทนาภาษาองั กฤษอย่างต่อเนอื่ ง 3. ผู้บริหารสถานศึกษาควรกากับให้มีการนิเทศ จัดให้มีระบบติดตามความก้าวหน้า ของผู้เรียนว่าได้นาความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ เพ่ือจะได้รับรู้ถึงผลผลิตและผลลัพธ์ท่ีเกิดขึ้น รวมถึงปัญหา อปุ สรรค เพอื่ นาข้อมูลมาปรบั ปรุงแกไ้ ขใหก้ ารจดั การเรียนรปู้ ระสิทธภิ าพย่ิงขึน้ ต่อไปอยา่ งต่อเน่ือง 4. ผู้บริหารสถานศึกษาควรสร้างขวัญกาลังใจและประชาสัมพันธ์ให้การยอมรับกับบุคลากร ที่สามารถจัดกจิ กรรมไดต้ ามกาหนดอย่างมีคุณภาพและปฏิบัตติ ามระเบยี บของทางราชการอยา่ งเคร่งครัด 5. สถานศึกษาควรจัดให้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งกับประชาชนชุมชนในพ้ืนที่ให้ครอบคลุม ทวั่ ถงึ และต่อเนือ่ ง
114 6. ผู้บริหารและคณะนิเทศภายในสถานศึกษา ควรนิเทศ กากับ ติดตามผลการดาเนินงาน ของบุคลากรทุกกิจกรรม และให้ความสาคัญในการรวบรวมข้อมูล สรุปรายงานผลการจัดกิจกรรมให้เป็น ปจั จบุ นั เพอ่ื นาผลไปใชใ้ นการพัฒนาปรับปรงุ การดาเนินงานให้มคี ุณภาพย่ิงขน้ึ ข้อเสนอแนะต่อสานกั งาน กศน.จังหวัด 1. ควรร่วมมือกับสถานศึกษาพัฒนาหลักสูตรการสนทนาภาษาอังกฤษ แยกหลักสูตร เปน็ ระดับการเรยี นรู้จากความรู้พ้นื ฐานสู่การตอ่ ยอดความรู้ในระดับทส่ี ูงขึ้น ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพพนื้ ท่ี 2. ควรร่วมมือกับสถานศึกษาติดตามผลการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรการสนทนาภาษาอังกฤษ อยา่ งตอ่ เนื่อง ข้อเสนอแนะตอ่ สถาบนั กศน.ภาค 1. ควรพัฒนาหลักสตู รการสนทนาภาษาองั กฤษ โดยแยกระดับการเรียนรู้จากความรู้พ้ืนฐาน สกู่ ารตอ่ ยอดความรู้ในระดบั ทส่ี งู ขึน้ 2. ควรมีโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับ ครู กศน.ตาบล อย่างต่อเน่ือง โดยแยก หลกั สตู รเป็นระดบั การเรียนรู้จากความรู้พนื้ ฐานสกู่ ารต่อยอดความรูใ้ นระดบั ทสี่ ูงข้ึน 3. ควรมีการพัฒนาส่ือการเรียนรู้การสนทนาภาษาอังกฤษในกลุ่มอาชีพต่าง ๆ จากระดับ ความรู้พื้นฐานสู่การต่อยอดความรู้ในระดับสูงข้ึน เพื่อใช้เป็นส่ือในการอบรมตามหลักสูตร รวมถึงเป็นส่ือการ เรยี นรตู้ ามอธั ยาศัยสาหรับผู้สนใจ ข้อเสนอแนะต่อสานักงาน กศน. 1. ควรกาหนดนโยบายการสอนภาษาอังกฤษอยา่ งต่อเน่ือง 2. ควรจัดงบประมาณสนบั สนนุ ให้พียงพอเพ่ือการจดั กิจกรรมอย่างต่อเนอื่ ง 3. ควรลดจานวนผเู้ รียนหรอื ผูเ้ ข้ารบั การอบรมแต่ละกลมุ่ ใหน้ อ้ ยลง 4. ควรปรบั อตั ราคา่ ตอบแทนวทิ ยากรใหส้ งู ขึ้น 5. ควรจัดสรรงบประมาณให้เฉพาะสถานศึกษาที่ประชาชนในพ้ืนที่มีความต้องการจริงๆ เพ่ือไมท่ าใหเ้ กิดการสญู เสียงบประมาณ หรือจัดสรรงบประมาณตามคาขอของสถานศึกษา 8. การจัดการเรยี นรู้ด้านเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปร่ือง) ตามนโยบายสานักงาน กศน. ยุทธศาสตร์ท่ี ๓ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพคนให้มีคุณภาพ ๓.๒ ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปรื่อง) โดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและนวัตกรรมในการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมท่ีเหมาะกับบริบทของ พ้ืนที่และความต้องการของชุมชน รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร และสร้างช่องทางการจาหน่ายสินค้า ผ่านชอ่ งทางตา่ ง ๆ โดยตระหนกั ถึงคณุ ภาพของผลผลติ และความปลอดภัยต่อระบบนิเวศน์ ชมุ ชน และผู้บริโภค สานักงาน กศน. ได้ดาเนินโครงการ Smart ONIE เพ่ือสร้าง Smart Farmer ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยส่งเสริม และพัฒนาเกษตรกรไทยให้เป็น Smart Farmer คือ ให้มีการนาความรู้ หลักวิชาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยในการทาเกษตรกรรมให้ผลิตน้อยลงแต่ได้ราคามากขึ้น ใช้พ้ืนที่ให้น้อยลงแต่ผลผลิตเพิ่มข้ึน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้พัฒนาความรู้ด้านการเกษตร และยกระดับเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer ตามความเหมาะสมกบั บริบท และความต้องการของท้องถิ่น ชุมชน ผ่านกระบวนการที่หลากหลายตามเน้ือหา ความรเู้ รือ่ งการบริหารจดั การพื้นที่ การเข้าถงึ แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศและเทคโนโลยี การบริหารจัดการผลผลิต และการตลาด คุณภาพของสินค้าและความปลอดภัยของผู้บริโภคสอดคล้องตามมาตรฐาน ความรับผิดชอบ ต่อส่ิงแวดล้อมด้านกระบวนการผลิตไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทาลายส่ิงแวดล้อมและความภาคภูมิใจในการเป็น
115 เกษตรกร มีความรกั และหวงแหนพ้ืนท่ใี นการประกอบอาชีพการเกษตร โดยจัดสรรงบประมาณให้ กศน.ตาบล ทุกแห่ง ๆ ละ 25,200 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดาเนินการจัดอบรมให้กับประชาชน ตาบลละ 10 คน ข้นึ ไป หลกั สูตร 18 ช่ัวโมง จานวน 3 วนั โดยมจี ุดมงุ่ หมายให้ใชเ้ ทคโนโลยี (ICT) และนวัตกรรมจัดกระบวนการเรียนรู้ ด้านเกษตรกรรม เพอ่ื สรา้ งมลู ค่าเพม่ิ ให้สนิ ค้าทางการเกษตรและสรา้ งช่องทางการจาหนา่ ยสินคา้ สภาพท่ีพบ จากการนิเทศ พบว่า สถานศึกษาได้ศึกษาข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายเพ่ือการจัดการเรียนรู้ และนาข้อมูลความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมาจัดทาหลักสูตรและพัฒนาหลักสูตร ให้มีความทันสมัย ทันเหตุการณ์ ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพ่ือส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจในการเป็น Smart Farmer และเข้าใจในเร่ืองการทาเกษตร ตามความเหมาะสมของพื้นท่ี และเห็นช่องทาง หรือพัฒนา อาชีพด้านการเกษตร ผ่านกระบวนการท่ีหลากหลาย สามารถยกระดับเป็น Smart Farmer ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ โดยจัดกลุ่มเป้าหมายประชาชนตาบลละ 10 – 15 คนขึ้นไป หลักสูตร 18 ชั่วโมง จานวน 3 วัน การจัดกระบวนการเรียนรู้ ใช้กระบวนการฝึกอบรม โดยวิทยากรจากเครือข่าย กศน. ได้แก่ สานักงานเกษตรอาเภอ สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอ หมอดินอาสาฯ สาธารณสุขอาเภอ ปราชญ์ชาวบ้าน และธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) โดยเป็นการให้ความรู้เบ้ืองต้นแก่ผู้เข้ารับการอบรม ให้ครบท้ัง 6 หัวข้อ ให้มีความเข้าใจในการทาเกษตรกรรมตามความเหมาะสมกับบริบท และสอดคล้อง กับความต้องการเพื่อพัฒนาตนเอง พัฒนาต่อยอดผลิตผล การใช้เทคโนโลยีเพ่ือจาหน่ายผลิตภัณฑ์ ผา่ นระบบออนไลน์ โดย ครู กศน. ไดจ้ ดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ร่วมกับวิทยากร ในการจัดการเรียนรู้โดยการฝึกอบรม ทาให้ประชาชนท่ีเข้ารับการอบรม มีความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องการทาเกษตรกรรมตามความเหมาะสมของพนื้ ท่ีและสามารถเห็นช่องทาง หรือพัฒนาอาชีพ ด้านการเกษตร เมื่อจบหลกั สูตรแลว้ สามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพ มีงานทา มีรายได้ และมีการรวมกลุ่ม ในชุมชนตามเป้าหมาย “ชุมชนพึ่งตนเอง ทาได้ ขายเป็น” สามารถใช้เทคโนโลยีเป็นช่องทางการเผยแพร่ จาหน่ายผลิตภัณฑ์ และสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลท้ังจากเจ้าหน้าที่และผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดถึงการสื่อสารอ่ืนๆ เช่น Internet , Mobile Phone, Smart Phone เป็นต้น และยกระดับตนเอง ในการเป็น Smart Farmer จากการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนเมื่อส้ินสุดการดาเนินงานจัดการเรียนรู้ ผู้เรียนทุกหลักสูตร มีความพึงพอใจต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ แต่ในการติดตามผลการนาความรู้ไปใช้ ตามระบบยังมีไม่มาก จากการติดตามผลพบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการได้นาความรู้ด้านการเกษตรไปใช้ในการ ประกอบอาชีพ หรือพฒั นาต่อยอดอาชีพเกษตรกร ปัจจัยทสี่ ่งผลตอ่ ความสาเร็จ 1. กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้มีความรู้พื้นฐานในด้านการเกษตร เมื่อมาเข้ารับการฝึกอบรม จึงเปน็ การเติมเต็มความรใู้ นเร่ืองวชิ าการและการใชเ้ ทคโนโลยีใหม่ ๆ 2. กลุ่มเป้าหมายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว และมีแรงจูงใจที่จะพัฒนา ประกอบกับต้องการต่อยอดอาชีพเกษตรกรรม และมีความเชื่อมั่น ศรัทธาและ มีความภูมิใจในความเป็นเกษตรกร 3. วทิ ยากรมีความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้เหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 4. หน่วยงานต้นสังกัดทุกระดับ จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดาเนินงานให้ผู้บริหาร สถานศึกษา
116 5. สถานศกึ ษาจัดการศึกษาดงู านแหลง่ เรยี นร้ดู ้านการเกษตรให้แก่กลุ่มเป้าหมายผู้รบั การอบรม 6. สานักงาน กศน.จังหวัดและสถานศึกษา ได้ติดตามผลสรุปรายงานตามที่สานักงาน กศน. กาหนด และการนาผลการดาเนนิ งานรุ่นแรกไปวางแผนพัฒนาการดาเนินงานในพืน้ ท่ีตาบลทเ่ี หลือในร่นุ ต่อไป ปัญหาอุปสรรค 1. สถานศกึ ษาบางแห่งขาดการตดิ ตามผลการนาความรู้ไปใชข้ องกลุ่มเป้าหมาย 2. การเข้าร่วมโครงการของกลุ่มเป้าเหมายบางส่วนติดภารกิจสาคัญ ทาให้เข้าร่วมโครงการ ไมค่ รบตามเวลา 3. สัญญาณอินเทอร์เนต็ ณ จดุ อบรมไม่เสถยี ร เกิดปญั หาในการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต 4. พ้ืนฐานความรู้ด้านเทคโนโลยีของกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกัน และบางคนมีโทรศัพท์มือถือ ทไี่ มท่ นั สมัยทาใหเ้ กิดปัญหาในการเช่ือมต่อสญั ญาณอนิ เทอร์เนต็ 5. ตามกรอบเนื้อหาที่สานักงาน กศน.กาหนดบางหัวข้อค่อนข้างยาก กลุ่มเป้าหมายบางคน ไม่มีพน้ื ฐานความรู้ในเนื้อหานัน้ ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา ข้อเสนอแนะตอ่ สถานศกึ ษา 1. ควรดาเนินการตดิ ตามความกา้ วหน้าดาเนนิ งานโครงการ Smart ONIE เพ่อื สร้าง Smart Farmer และรายงานผลการดาเนินงานในพ้ืนที่ท่ีรับผิดชอบให้ต้นสังกัดทราบ และนาผลไปใช้ในการปรับปรุง/พัฒนา อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 2. ควรเตรียมกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจ ต้องการเข้ารับการอบรมอย่างแท้จริง และ สามารถเขา้ รบั อบรมไดอ้ ย่างต่อเน่อื งตลอดหลักสูตร 3. ควรปรับปรงุ ระบบสัญญาณอนิ เทอรเ์ นต็ ในจุดอบรมให้สามารถเช่อื มต่อไดร้ วดเร็ว 4. ควรจัดกิจกรรมอบรมแต่ละรุ่น โดยจัดกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสม มีพ้ืนฐานความรู้ ใกล้เคยี งกัน 5. ควรมีการถอดบทเรียนการดาเนินงานท่ีประสบความสาเร็จ ระหว่าง Smart Farmer ต้นแบบ กับเกษตรกรรายอื่น ๆ ซึ่งจะนาไปสู่การพัฒนาเกษตรกรในพ้ืนที่ และต่อยอดผลิตผลทางการเกษตรได้อย่าง เหมาะสม ขอ้ เสนอแนะต่อสานักงาน กศน.จงั หวดั ควรส่งเสริมใหผ้ ู้นิเทศภายในช่วยเหลอื หรอื ให้คาแนะนาในการดาเนินงานของครู กศน.ตาบล อยา่ งตอ่ เน่อื ง 9. กศน.ตาบล 4G การดาเนินงาน กศน.ตาบล 4G สานักงาน กศน. ได้กาหนดยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษา โดยมุ่งพัฒนา กศน.ตาบล สู่ กศน.ตาบล 4G โดยให้สถานศึกษาพัฒนา ครูและบุคลากรที่เก่ียวข้องกับการจัดกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ : Good Teacher ให้เป็นตัวกลาง ในการเช่ือมโยงความรู้กับผู้รับบริการ มีความเป็น “ครูมืออาชีพ” มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการ เปล่ยี นแปลงของสงั คม เปน็ ผูจ้ ดั การความรทู้ ด่ี ี รวมทั้งเปน็ ผู้ปฏิบัติงานอย่างมีความสุข พัฒนา กศน.ตาบล ให้มี บรรยากาศและสภาพแวดล้อมทเี่ อือ้ ตอ่ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง : Good Place Best Check-In มีความพร้อม ในการให้บริการการศึกษาและการเรียนรู้ มีส่ิงอานวยความสะดวก เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะท่ีง่ายต่อการเข้าถึง และสะดวกต่อการเรียนรูต้ ลอดชีวติ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ดงึ ดูดความสนใจ และมีความปลอดภัยสาหรับผู้รับบริการ
117 สง่ เสรมิ การเรยี นรใู้ น กศน.ตาบล : Good Activities ให้มีความหลากหลาย น่าสนใจ ตอบสนองความต้องการ ของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของประชาชน รวมท้ังเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามาจัดกิจกรรม เพ่ือเช่ือมโยงความสัมพนั ธ์ของคนในชุมชนและเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของชุมชน : Good Partnership เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมอื ในการส่งเสริม สนบั สนุน และจดั การศึกษาและการเรยี นร้ใู ห้กบั ประชาชนอย่างมีคุณภาพ สภาพทพี่ บ จากการนิเทศติดตามการดาเนินงาน กศน.ตาบล 4G สานักงาน กศน. มี กศน.ตาบลท้ังหมด 7,424 แหง่ พบวา่ ด้าน Good Teacher : ความเป็นครูมืออาชีพ ครู กศน.ตาบลทุกคน ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ที่จาเป็นในการปฏิบัติงาน เช่น การอบรมการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ การจัดทา หลักสูตรรายวิชาเลือก การพัฒนาช่องทางการเรียนรู้และระบบคลังความรู้ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือการ ขับเคล่ือนกระบวนการจัดการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ การประชุมช้ีแจงการประกันคุณภาพภายใน การอบรมหลกั หลกั สูตรสะเต็มศึกษาดว้ ยระบบทางไกล ประชุมเชิงปฏิบัติการการใช้งานโปรแกรมทะเบียนนักศึกษา โปรแกรม ITW 51 การสร้างห้องเรียนออนไลน์ (Google classroom) ครูต้นแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือการสื่อสาร (Mini English Camp/Boot Camp) การจัดทาคลิปวิดีโอประกอบการเรียนการสอน เป็นต้น ในการจัดกิจกรรมการศึกษาครูทุกคนจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ครูนาแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการมาใช้ ในการจัดการเรียนการสอนและใชแ้ ผนการเรียนรู้แบบรายวิชาในบางวิชา ครูส่วนใหญ่ใช้ส่ือในการจัดกิจกรรม ท่ีหลากหลายทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการ จัดกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้อย่างสม่าเสมอ พัฒนา หลกั สูตรสถานศึกษา หลักสตู รรายวิชาเลอื กของสถานศึกษา จัดทาแผนพัฒนาตนเองโดยการศึกษาด้วยตนเอง อย่างต่อเน่ือง จัดกิจกรรมระหว่างครูกับนักศึกษา เช่น โครงการจิตอาสา โครงการค่ายทักษะวิชาการ ครูส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80) นาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นการจัดกระบวนการเรียนการสอน เช่น การจัดทาห้องเรียนออนไลน์ ข้อสอบออนไลน์ และมีการจัดระบบติดตามผู้เรียน เช่น กลุ่ม Line Facebook ครูทุกคนมีผลการปฏิบัติงาน ตามแนวทางการดาเนนิ งานในระบบ DMIS ด้าน Good Place Best Check-In : สภาพแวดล้อมสวยงาม สะอาด บรรยากาศเอ้ือต่อการเรียนรู้ กศน.ตาบลมีพื้นที่ที่เป็นเอกเทศ บางแห่งได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง บางแห่งอยู่ร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น อบต. วัด สานักงานเทศบาล กศน.ตาบลทุกแห่งมี ส่ือ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้/ชั้นวาง/คอมพิวเตอร์สภาพ พร้อมใช้งานและเพียงพอ จัดมุมส่งเสริมการอ่าน มุมเศรษฐกิจพอเพียง มุมส่งเสริมประชาธิปไตย มุมข้อมูล ภูมิปัญญาท้องถ่ิน สถานที่สะอาดปลอดภัย และพร้อมในการจัดกิจกรรม กศน.ตาบลส่วนใหญ่ (ร้อยละ70) ให้บริการอินเทอร์เน็ต เน็ตประชารัฐ สามารถสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ผู้รับบริการ มคี วามพงึ พอใจมาก เขา้ มาใช้บรกิ ารอย่างต่อเน่ือง สมา่ เสมอ มจี านวนผ้รู ับบริการเพม่ิ ข้นึ ด้าน Good Activities : กิจกรรมที่ยืดหยุ่น หลากหลาย ครู กศน.ตาบลส่วนใหญ่ออกแบบ กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้อย่างน่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของชุมชน และส่งเสริมการพัฒนาทักษะท่ีจาเป็น ในศตวรรษท่ี 21 เชน่ สมาร์ทโฟน แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เสรมิ ดว้ ยกิจกรรมใหผ้ ู้เรยี น/ผู้เขา้ รับการอบรมมีโอกาส ได้ไปในแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และได้ฝึกปฏิบัติจริง เช่น โครงการ Smart ONIE เพ่ือสร้าง Smart Farmer โครงการมหกรรมวิทยาศาสตร์ “science Variety” จัดกิจกรรมฝึกการอยู่ร่วมกัน การเป็นผู้นา การแสดง ความสามารถต่าง ๆ เช่น กีฬา กศน. กิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาด กิจกรรมค่าย กิจกรรม กพช. รวมท้ังการทา โครงงานท่ีสอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้เรียน ฯลฯ จัดกิจกรรมร่วมกับเครือข่าย เช่น กิจกรรมส่งเสริม ประชาธิปไตย กิจกรรมค่ายยาเสพติด การดูแลสุขภาพกายใจ การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
118 นอกจากน้ียังพบว่าครูฝึกทักษะให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์/การคิดแก้ปัญหาค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ใช้เพียง ใบงาน ใบความรู้ การอภิปรายกล่มุ การค้นควา้ จากอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการสร้างกลุ่ม Line เพื่อเป็นชุมชน ในการแลกเปล่ียนความรู้ระหว่างครูกับครู และครูกับกลุ่มผู้เรียน ทาให้กลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการมีความพึงพอใจ ในการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม รวมถึงการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต ทาให้ผู้รับบริการ มีคุณภาพชีวิตท่ีดี มีสุขภาพอนามัยดีข้ึน มีทักษะการเรียนรู้ สามารถคิดแก้ปัญหา และวางแผนดาเนินชีวิตได้ อย่างเหมาะสม มอี าชพี มีงานทา ดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดา้ น Good Partnership : มีภาคีเครือข่ายที่ดี สามารถทางานร่วมกันได้อย่างเข้มแข็ง กศน. ตาบล จัดกิจกรรมที่ดีที่เกิดจากการประสานความร่วมมือกับเครือข่าย เช่น กอ.รมน. สานักงานสถิติแห่งชาติ องค์การโทรศัพท์ TOT สานักงานคณะกรรมการเลือกต้ัง สานักงานสาธารณสุข สานักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ มีการประสานงานร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องท่ีหลากหลายท้ังในและนอก พ้ืนที่ เช่น เทศบาล/อบต./ผู้นาชุมชน/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล คณะกรรมการของ กศน.ตาบล ทีเ่ ขม้ แขง็ มศี กั ยภาพ และความพรอ้ มในการทางาน มีการประชาสมั พันธ์หลากหลายช่องทาง จัดทาฐานข้อมูล เครือข่าย ประชาสัมพันธ์กิจกรรมด้วยช่องทางส่ือท่ีหลากหลาย เช่น Facebook จดหมายข่าว/แผ่นพับ ประชาสัมพันธ์ ดาเนินงานโดยการประสานงานการจัดกิจกรรมกับเครือข่ายและ/หรือคณะกรรมการ กศน. ตาบล อย่างตอ่ เนื่อง โดยเข้าร่วมประชุมประชาคมเพ่อื หารือกับกลุม่ เป้าหมายอย่างสมา่ เสมอ ปัจจยั ท่สี ง่ ผลต่อความสาเรจ็ 1. นโยบายของสานักงาน กศน. ในปีงบประมาณ 2561 เกี่ยวกับเร่ือง กศน. ตาบล 4G มคี วามชัดเจนและมกี ารให้บรกิ ารแก่ผปู้ ฏบิ ัติงานดว้ ยความเหมาะสม 2. ภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนในการจัดการศึกษาและเห็นความสาคัญของการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ของ กศน.ตาบลอยา่ งต่อเน่อื ง 3. ครู กศน.ตาบล ส่วนใหญม่ ีการดาเนนิ งานในลักษณะครูมอื อาชีพ (Good Teacher) 4. กศน.ตาบล มีการจดั กจิ กรรมทห่ี ลากหลายและเหมาะสมกบั กลุม่ เปา้ หมาย 5. ผู้บริหารระดับจงั หวดั ระดับอาเภอ ให้ความสาคัญและพฒั นาครู กศน.ตาบล อย่างต่อเน่อื ง ปัญหาอุปสรรค 1. ดา้ น Good Teacher 1) ครู ศรช. ที่ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีแทน ครู กศน.ตาบล ทั้งการจัดกิจกรรมและดูแลพ้ืนที่ ทาให้มี ภาระงานเพิม่ ข้นึ และขาดขวญั กาลงั ใจ เน่อื งจากขาดความม่ันคงและความก้าวหนา้ ในการปฏิบัติงาน 2) ครู กศน.ตาบลบางพื้นท่ี ต้องรับผิดชอบดูแลการจัดกิจกรรมในพ้ืนที่มากกว่า 1 ตาบล เนื่องจากมคี รู กศน. ตาบล ไมค่ รบทกุ พ้ืนท่ี 3) ครู กศน.ตาบล ในบางสว่ น โดยเฉพาะในเมอื งอตุ สาหกรรมมีการเปล่ียนแปลงบ่อยครั้ง (ลาออก) สง่ ผลใหภ้ ารกิจของ กศน.ตาบล ๔ G ขาดความต่อเนอ่ื ง 2. ด้าน Good Place Best Check-In สถานท่ีต้ัง กศน.ตาบล หลายแห่งยังไม่เป็นเอกเทศ ทาให้ไม่สามารถอานวยความสะดวก กบั ผูใ้ ช้บริการได้มากเท่าท่คี วร
119 ขอ้ เสนอแนะเพื่อการพัฒนา ข้อเสนอแนะต่อสานักงาน กศน.จังหวัด 1. ควรมีการพัฒนา ครู กศน. ให้สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพ่ือใหค้ รูสามารถจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนได้อย่างหลากหลายและมปี ระสิทธิภาพได้มากยง่ิ ขน้ึ 2. ควรมีการพัฒนาครู เรือ่ งการจดั บรรยากาศแห่งการเรียนรู้ โดยการศึกษาดูงานจาก กศน.ตาบล ที่ประสบความสาเรจ็ ทัง้ ในระดบั กลุม่ กศน.จงั หวดั ระดับภาค และระดับประเทศ 3. ควรพัฒนาครูเพื่อเพ่ิมองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) เพอื่ นามาประยกุ ตใ์ ชก้ ับการดาเนนิ งาน กศน.ตาบลในพน้ื ที่ ข้อเสนอแนะต่อสานักงาน กศน. 1. ควรจดั สรรงบประมาณสนับสนนุ ใหส้ ถานศกึ ษาพฒั นา กศน.ตาบล ดา้ น Good Place 2. ควรพิจารณาจัดสรรกรอบอตั รากาลัง ครู กศน.ตาบล ใหค้ รบทกุ ตาบล 3. ควรทบทวนบทบาทหน้าที่และภารกิจของหน่วยงานที่ได้ทาบันทึกข้อตกลงในการปฏิบัติ หนา้ ท่ีรว่ มกัน 10. การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน : หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สานักงาน กศน.) ได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 พร้อมกัน ท่ัวประเทศตั้งแต่ภาคเรียนท่ี 1/2553 โดยหลักสูตรดังกล่าวได้พัฒนาข้ึนตามหลักการและปรัชญาการศึกษา นอกโรงเรียน นโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทแี่ ก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 ตลอดจนพระราชบญั ญัตสิ ่งเสริมการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2551 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา และมีศักยภาพในการประกอบอาชีพ การศึกษาต่อ และสามารถดารงชีวิตอยู่ในครอบครัว ชุมชน สังคมได้อย่างมีความสุข ท้ังนี้ สถานศึกษาสามารถนาสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ไปพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของผู้เรียน ชุมชน สังคม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของสถานศึกษา โดยให้เป็นไปตามหลักการที่หลักสูตรกาหนดไว้ จากการดาเนินการนิเทศการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สรุปผลการนิเทศในภาพรวม ได้ดงั นี้ สภาพท่พี บ ด้านหลักสูตร สถานศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่มีการประเมินหลักสูตรเพ่ือนาไปสู่การพัฒนา หลักสูตรสถานศึกษาตามข้ันตอนท่ีถูกต้อง การพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเลือกเสรีที่ดาเนินการอยู่เป็นรายวิชา ที่เป็นเนื้อหาเก่ียวกับบริบทของท้องถ่ิน บางสถานศึกษาจัดให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนรายวิชาเลือกบังคับ ท้ัง 6 รายวิชา เพ่ือลดภาระงานในการจัดทาส่ือ การจัดทาข้อสอบปลายภาคเรียน และตอบสนองนโยบาย สานักงาน กศน. ด้านการจัดการเรียนรู้ ครูผู้สอนไม่สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ตามแผน เนื่องจาก มีภาระงานท่ีได้รับมอบหมายจากหน่วยงานอื่น ๆ ครูผู้สอนบางคนแก้ปัญหาด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผ่านสื่อออนไลน์ ครูบางคนใช้ Google Classroom Line และ Facebook ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กรณีที่ผู้เรียนไม่มีเวลามาพบกลุ่ม ครูมีการติดตามผู้เรียนด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การเย่ียมบ้านและติดตามผู้เรียน
120 ทางกลุ่มออนไลน์ และมีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนหลากหลายตามกรอบแนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนา คณุ ภาพผเู้ รยี นที่สานักงาน กศน. กาหนด ด้านส่ือการเรียนรู้ ครูส่วนใหญ่ใช้สื่อแบบเรียน ใบงาน ใบความรู้ คลิปวีดีโอ โปรแกรม Kahoot สื่อจาลอง สมุดบันทึกกิจกรรม แหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาชาวบ้าน ในขณะท่ีครูบางคนที่ยังใช้เพียง หนงั สอื เรียนไม่ไดน้ าส่อื เทคโนโลยีมาใชใ้ นการจัดกระบวนการเรียนร้เู ท่าทคี่ วร ด้านการวัดผลและประเมินผล สถานศึกษาได้ดาเนินการวัดผลและประเมินผลในรายวิชา บังคับและวิชาเลือกบังคับ ใช้แบบทดสอบจากส่วนกลางและในการสอบรายวิชาเลือกเสรี สถานศึกษาและ สานักงาน กศน.จังหวัดร่วมกันจัดทาแบบทดสอบ บางรายวิชามีการออกแบบวิธีการวัดผลและประเมินผล ที่เหมาะสมกับรายวิชา เช่น วิชาโครงงานวิทยาศาสตร์แต่ครูส่วนใหญ่ยังใช้การวัดผลจากแบบทดสอบ ใบงาน และการสังเกต ยังขาดการประเมินตามสภาพจริง สถานศึกษาบางแห่งขาดการวิเคราะห์ข้อมูลจานวนผู้เรียน ที่เขา้ สอบคะแนนผลสมั ฤทธ์ิทางเรยี น ทาให้ขาดขอ้ มลู สารสนเทศเพอื่ นาไปใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รียน สาหรับการดาเนินการสอบปลายภาคเรียน พบว่าสถานศึกษาบางแห่งไม่จัดสอบรายวิชา บังคับตามตารางสอบของสานักงาน กศน. ซึ่งผู้นิเทศได้ให้แนวปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ ท่ีสานักงาน กศน.กาหนด ทั้งน้ี คะแนนเฉลี่ยของผู้เข้าสอบ N-NET ประจาภาคเรียนท่ี 2/2560 ของ สถานศึกษาในสังกัดสานักงาน กศน. แยกตามรายภาคและระดับการศึกษา สรุปได้ดังนี้ (ข้อมูลจากสานัก ทดสอบทางการศึกษา) ระดับประถมศึกษา คร้ังที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ประเภท ทักษะ ทกั ษะ ทกั ษะ การพฒั นา คะแนน การ ความรู้ การ การ สังคม เฉล่ีย ระดบั ประเทศ เรียนรู้ พนื้ ฐาน ประกอบ ดาเนิน กรงุ เทพมหานคร ชีวิต 40.71 ภาคกลาง อาชีพ 47.13 ภาคตะวนั ออก 43.66 ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 38.65 35.45 40.08 47.20 42.15 46.35 ภาคใต้ 41.56 ภาคเหนือ 44.05 38.55 47.07 56.20 49.77 38.67 37.76 40.50 37.14 43.22 51.44 46.02 42.71 39.50 45.94 55.27 48.31 38.24 36.26 41.20 49.02 43.10 37.54 33.98 38.87 43.05 39.92 37.13 33.57 36.49 42.98 38.63 จากข้อมูลตารางคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอก ระบบโรงเรียน (N-NET) ประจาปีการศึกษา 2560 ระดับประถมศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน. พบว่าคะแนนเฉล่ียทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับประเทศเท่ากับ 40.71 เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคภาคและ กรุงเทพมหานคร พบวา่ กรุงเทพมหานคร มคี ะแนนเฉลีย่ สูงสุด (47.13) ซง่ึ สูงกว่าคะแนนเฉล่ียระดับประเทศ และภาคเหนือ มีค่าคะแนนเฉลี่ยน้อยท่ีสุด (37.76) ซ่ึงหากพิจารณาในภาพรวมมี 3 ภาค (ภาคกลาง
121 ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และกรุงเทพมหานคร ท่ีมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉล่ีย ระดบั ประเทศ โดยทกุ ภาค รวมถึงกรุงเทพมหานครมีคะแนนตา่ กว่าเกณฑม์ าตรฐาน หากวิเคราะห์เป็นรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่ากลุ่มสาระทักษะการดาเนินชีวิตมีคะแนนเฉล่ีย ระดบั สงู สุด (47.20) โดยกรุงเทพมหานคร มคี ะแนนเฉล่ยี (56.20) ภาคตะวันออก (55.27) และภาคกลาง (51.44) มีคะแนนเฉล่ียสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (49.02) ภาคใต้ (43.05) และภาคเหนอื (42.98) มีคะแนนเฉลี่ยต่ากว่าเกณฑม์ าตรฐาน หากพิจารณารายภาค พบว่า คะแนนเฉล่ียรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ของกรุงเทพมหานคร มีคะแนนเฉล่ียสูงสุดทุกวิชา ยกเว้นความรู้พื้นฐาน ซ่ึงภาคตะวันออก (39.50) มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดและ ภาคเหนอื มคี ะแนนเฉลีย่ นอ้ ยสุดทกุ กล่มุ สาระการเรียนรู้ รองลงมาคอื ภาคใต้ เมอ่ื พจิ ารณาภาพรวมพบว่าทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีคะแนนต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐาน ยกเว้น กลุ่มสาระการเรียนรทู้ กั ษะการดาเนินชีวิตของกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีคะแนนเฉล่ีย สูงกวา่ เกณฑ์มาตรฐาน ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ครงั้ ที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 ประเภท ทกั ษะการ ความรู้ ทักษะ ทักษะ การ คะแนน เรยี นรู้ พ้ืนฐาน การ การ พัฒนา เฉลยี่ ระดบั ประเทศ ประกอบ ดาเนิน สงั คม กรงุ เทพมหานคร อาชพี ชวี ิต 37.85 ภาคกลาง 42.46 ภาคตะวันออก 36.91 30.6 39.32 46.42 35.99 39.95 ภาค 41.27 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ 41.5 32.99 44.07 53.58 40.18 ภาคใต้ 35.87 ภาคเหนือ 38.72 31.64 41.63 49.95 37.82 36.9 40.08 32.01 43.06 52.23 38.96 38.74 34.82 29.69 37.34 43.21 34.3 36.86 30.13 37.91 44.48 35.12 37.55 30.92 40.35 48.27 36.63 จากข้อมูลตารางผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของสถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน. พบวา่ ทกุ กลุม่ สาระการเรียนรู้ มคี ะแนนเฉล่ียระดบั ประเทศเท่ากับ 37.85 โดยในภาพรวมกรุงเทพมหานครมี คะแนนเฉลี่ยสูงสุด (42.46) รองลงมาคือภาคตะวันออก (41.27) ภาคกลาง (39.95) ภาคเหนือ (38.74) ซ่ึงมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนนเฉล่ียระดับประเทศ โดยภาคใต้ (36.90) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (35.87) มีคะแนนเฉล่ยี น้อยกว่าคะแนนเฉล่ียระดับประเทศ
122 สาหรับการวิเคราะห์เป็นรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า สาระทักษะการดาเนินชีวิต มีคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศสูงสุด 46.42 โดยกรุงเทพมหานคร มีคะแนนเฉลี่ย (53.58) ภาคตะวันออก (52.23) ภาคกลาง (49.95) ภาคเหนอื (48.27) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย คร้ังท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 ประเภท ทกั ษะการ ความรู้ ทักษะ ทกั ษะ การ คะแนน เรยี นรู้ พน้ื ฐาน การ การ พัฒนา เฉล่ีย ระดับประเทศ ประกอบ ดาเนิน สังคม กรุงเทพ 35.34 อาชีพ ชวี ติ 33.30 ภาคกลาง 40.79 38.28 ภาคตะวันออก 37.03 27.49 40.05 40.08 23.55 35.09 ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 38.65 36.38 ภาคใต้ 32.80 30.00 48.75 46.18 25.67 30.96 ภาคเหนอื 35.58 32.99 36.08 28.43 43.44 42.62 23.92 34.23 28.96 45.57 44.32 24.40 26.33 36.12 36.94 22.63 27.26 39.24 39.28 23.58 27.96 41.15 41.77 24.18 จากข้อมูลตารางผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของสถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน. พบว่า ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้มีคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศเท่ากับ 33.30 โดยในภาพรวม กรุงเทพมหานครมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด (38.28) รองลงมาคือภาคตะวันออก (36.38) ภาคกลาง (35.09) ภาคเหนือ (34.23) ซ่ึงมีคะแนนเฉล่ียสูงกว่าระดับประเทศ โดยภาคใต้ (32.99) และภาค ตะวันออกเฉยี งเหนือ (30.96) มคี ะแนนเฉล่ียนอ้ ยกวา่ คะแนนเฉลยี่ ระดบั ประเทศ สาหรับการวิเคราะห์เป็นรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า สาระทักษะการดาเนินชีวิต มีคะแนนเฉล่ียระดับประเทศสูงสุด 40.08 โดยกรุงเทพมหานคร มีคะแนนเฉลี่ย (46.18) ภาคตะวันออก (44.32) ภาคกลาง (42.62) และ ภาคเหนือ (41.77) มีคะแนนค่าเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ ส่วนภาคใต้ (39.28) และภาคตะวันออกเฉียงเหนอื (36.94) มคี คะแนนเฉลยี่ นอ้ ยกวา่ คะแนนเฉล่ยี ระดบั ประเทศ การพิจารณาในภาพรวม พบว่า กรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ มีคะแนนเฉล่ียสูงกว่าระดับประเทศทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยท่ีสาหรับภาคใต้มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ระดับประเทศในสาระทกั ษะการเรียนรู้และพัฒนาสงั คม ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีคะแนนเฉลี่ยน้อยกว่า คะแนนเฉล่ยี ระดบั ประเทศทกุ กลุม่ สาระการเรียนรู้ สาหรับในการสอบปลายภาคเรียนที่ 2/2560 คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธ์ิปลายภาคเรียนใน รายวิชาบังคบั ทัง้ 3 ระดับ มีคะแนนดังนี้
123 คะแนนเฉล่ียการสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ปิ ลายภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 รหัสรายวิชา ชือ่ รายวชิ า ผูเ้ ขา้ สอบ คะแนนเตม็ คะแนน ค่าเฉลี่ย SD คา่ Y* ต่าสดุ สงู สดุ ประถมศกึ ษา ทร11001 ทกั ษะการเรียนรู้ 8,465 60 2 55 28.69 11.98 28.35 พท11001 ภาษาไทย 7,353 40 1 35 19.32 7.65 19.09 พต11001 ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน 8,198 40 1 40 18.68 9.53 18.40 พค11001 คณิตศาสตร์ 5,168 40 2 39 15.93 7.82 15.64 พว11001 วิทยาศาสตร์ 18,559 40 2 39 19.16 7.69 19.01 อช11001 ชอ่ งทางการเข้าสู่อาชีพ 6,831 40 2 40 22.29 8.91 22.01 อช11002 ทักษะการประกอบอาชพี 6,708 60 1 55 27.57 10.79 27.23 อช11003 พฒั นาอาชีพใหม้ ีอยมู่ กี ิน 15,997 40 2 36 18.73 7.12 18.58 ทช11001 เศรษฐกิจพอเพียง 8,884 40 3 39 23.72 9.82 23.45 ทช11002 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา 6,437 40 2 38 20.35 7.88 20.09 ทช11003 ศลิ ปศึกษา 14,007 40 2 36 18.38 6.88 18.23 สค11001 สังคมศกึ ษา 5,457 40 2 34 19.45 7.49 19.18 สค11002 ศาสนาและหน้าที่พลเมือง 7,116 40 2 39 20.94 9.78 20.64 สค11003 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สงั คม 17,479 40 1 38 20.27 8.87 20.09 มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ทร21001 ทักษะการเรียนรู้ 47,959 60 2 53 25.94 8.96 25.83 พท21001 ภาษาไทย 44,881 60 1 56 30.98 11.23 30.84 พต21001 ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั 60,205 60 1 59 20.23 8.67 20.13 พค21001 คณิตศาสตร์ 36,860 60 1 55 21.04 7.68 20.93 พว21001 วทิ ยาศาสตร์ 50,828 60 1 53 20.90 6.48 20.82 อช21001 ช่องทางการพฒั นาอาชีพ 34,857 40 1 34 18.61 6.33 18.52 อช21002 ทักษะการพฒั นาอาชพี 39,689 60 1 50 23.97 8.23 23.86 อช21003 พฒั นาอาชีพใหม้ คี วามเข้มแข็ง 108,561 40 1 33 15.53 5.63 15.48 ทช21001 เศรษฐกิจพอเพียง 110,174 40 1 38 20.55 7.96 20.48 ทช21002 สุขศึกษา พลศกึ ษา 27,221 40 1 37 20.29 7.23 20.17 ทช21003 ศิลปศึกษา 99,942 40 1 33 15.38 5.49 15.33 สค21001 สังคมศกึ ษา 34,152 40 1 36 15.19 5.79 15.10 สค21002 ศาสนาและหน้าท่ีพลเมือง 38,770 40 1 38 17.75 7.34 17.65 สค21003 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม 119,727 40 1 38 16.96 6.86 16.90
124 รหสั รายวิชา ชอ่ื รายวชิ า ผู้เขา้ สอบ คะแนนเต็ม คะแนน คา่ เฉลยี่ SD คา่ Y* ต่าสดุ สูงสุด มธั ยมศึกษาตอนปลาย ทร31001 ทกั ษะการเรียนรู้ 65,746 60 3 52 28.22 9.59 28.12 พท31001 ภาษาไทย 61,345 60 1 50 28.51 8.47 28.42 พต31001 ภาษาอังกฤษเพอื่ ชวี ติ และสังคม 74,309 60 1 57 19.88 9.45 19.79 พค31001 คณติ ศาสตร์ 55,588 60 2 56 19.61 6.68 19.53 พว31001 วทิ ยาศาสตร์ 74,582 60 1 50 21.94 6.14 21.88 อช31001 ช่องทางการขยายอาชีพ 55,584 40 2 34 18.31 5.50 18.25 อช31002 ทักษะการขยายอาชีพ 40,887 60 2 42 22.84 6.06 22.76 อช31003 พัฒนาอาชีพใหม้ ีความม่ันคง 152,851 40 1 35 16.21 5.61 16.17 ทช31001 เศรษฐกจิ พอเพียง 148,190 40 1 38 20.51 7.63 20.45 ทช31002 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา 51,832 40 1 35 19.52 6.06 19.45 ทช31003 ศิลปศึกษา 77,117 40 1 33 15.21 4.95 15.16 สค31001 สงั คมศึกษา 55,265 40 2 33 16.06 5.27 16.00 สค31002 ศาสนาและหน้าท่ีพลเมือง 58,866 40 1 36 18.22 6.72 18.14 สค31003 การพฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม 178,397 40 1 38 20.35 7.27 20.30 * คา่ Y หมายถึง คา่ ขีดจากัดลา่ ง ด้านการยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของครู ครูผู้สอนได้รับการพัฒนาเพ่ือการ ยกระดบั ประสทิ ธภิ าพการปฏิบตั งิ านในเรอ่ื งต่าง ๆ ดังน้ี 1. การใชเ้ ทคโนโลยใี นการจดั การเรยี นการสอนและการประชาสัมพันธ์ 2. การอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างขอ้ สอบวดั ผลสัมฤทธิป์ ลายภาค 3. การทาแผนการเรยี นการสอนวิชาประวตั ิศาสตรช์ าติไทยและบุญคุณของพระมหากษตั รยิ ์ไทย 4. การอบรม สะเตม็ ศกึ ษา 5. การใช้ Digital Literacy และ E-Commerce 6. การผลิตสื่อ การใช้ส่ือการสอนและการใช้เทคโนโลยีในการช่วยสอน เช่น Google Classroom จากการพัฒนาดังกล่าวครูผู้สอนได้นาความรู้ท่ีได้รับไปปรับใช้ในการจัดก ระบวนการเรียนรู้ ใหแ้ ก่ผู้เรียน แตเ่ น่อื งจากผลจากการอบรม ครบู างรายการต้องนาความรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ในภาคเรียน ตอ่ ไป จึงยงั ไมเ่ กิดผลต่อการนาความรู้ไปใชใ้ นการจัดการเรียนรู้ในขณะน้ัน ปจั จยั ที่ส่งผลต่อความสาเร็จ 1. ผู้บริหารระดับจังหวัด ระดับอาเภอ ผู้นิเทศ ครู กศน. ร่วมกาหนดแนวทางการพัฒนา คุณภาพการจดั การศกึ ษาตามนโยบายทีส่ านักงาน กศน.กาหนด เชน่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น รอ้ ยละของการเขา้ สอบ การพัฒนาคุณธรรม ค่านิยม และการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและควรมีการกากับติดตามผลการ ดาเนนิ งานอยา่ งตอ่ เนื่อง
125 2. ครูได้รับการอบรมและพัฒนาเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สามารถใช้ส่ือการเรียนรู้ ท่หี ลากหลาย เชน่ การใชห้ ้องเรียนออนไลน์ ดิจิทัล โปรแกรม Kahoot การสอบออนไลน์โดยใช้ Google form และ การวิจยั ในชน้ั เรยี น เปน็ ต้น 3. ครูนาเทคโนโลยีและส่ือการเรียนรู้ที่หลากหลายทันสมัย สามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น คลิปวิดีโอชว่ ยแก้ปญั หาในรายวชิ าท่ีครขู าดความชานาญในเนอ้ื หา 4. สถานศึกษาจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เช่น สอนเสริมในรายวิชาที่ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นต่า และติวเขม้ กอ่ นสอบ เป็นตน้ 5. การสนับสนุนของเครือข่าย ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม การเออื้ เฟอื้ สถานที่ วัสดุ และงบประมาณ เป็นตน้ 6. การให้กาลังใจ ชื่นชม เสริมแรงแก่ผู้เรียน โดยการสนับสนุนให้มีความสามารถด้าน วิชาการ เช่นการจัดประกวดโครงงาน การมอบเกยี รตบิ ตั รสถานศึกษาท่มี ีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนเพ่มิ ขนึ้ ปญั หาอุปสรรค 1. ครูยังคงมีภาระงานนอกเหนือจากหน้าที่ประจา เช่น โครงการไทยนิยม ยั่งยืน โครงการ ดิจิทัลชุมชน และอื่น ๆ ทาให้ไม่มีเวลาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียนขาดสอบมากขึ้น และผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนต่า 2. การบันทึกหลังการจดั การเรยี นการสอนไม่เป็นปัจจุบันหรือไม่จัดทาบันทึก ข้อมูลท่ีบันทึก ไม่สะทอ้ นผลการจัดการเรียนรู้ จงึ ไม่สามารถเช่ือมโยงไปส่กู ารทาวิจยั ในชน้ั เรียนหรือพัฒนาการเรียนการสอนได้ 3. ครูบางส่วนยังขาดทักษะในการทาวิจัยเพ่ือแก้ปัญหาในชั้นเรียน และไม่พยายาม หาแนวทางในการแก้ปญั หาการจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ส่ี ง่ ผลต่อการพัฒนาความรู้ของผเู้ รียน ข้อเสนอแนะเพือ่ การพัฒนา ข้อเสนอแนะตอ่ สถานศกึ ษา 1. ควรจดั ให้ครไู ด้แลกเปล่ียนเรียนรอู้ ยา่ งสม่าเสมอ โดยใชก้ ระบวนการ PLC (Professional Learning Community) เพื่อพฒั นาการจดั การเรยี นรู้อย่างต่อเน่ือง 2. ควรนาข้อมูลผลการสอบปลายภาคและผลการทดสอบ N-NET มาวิเคราะห์หาจุดแข็ง จุดออ่ น เพือ่ จดั ทาโครงการ/กจิ กรรม พฒั นาคณุ ภาพผู้เรียนไดต้ รงกับสภาพปัญหา ขอ้ เสนอแนะตอ่ สานกั งาน กศน.จังหวดั 1. ควรพัฒนาบุคลากรของสถานศึกษาให้มีความรู้ในการพัฒนาหลักสูตร การประเมิน หลกั สูตร การวิจยั ในช้นั เรียน และการใช้เทคโนโลยอี อนไลน์ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ 2. ควรจัดการนาเสนอผลการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานทุกภาคเรียน เพื่อนาปัญหา อุปสรรค ขอ้ เสนอแนะไปพฒั นาปรับปรงุ ผลสมั ฤทธ์ิใหส้ งู ขน้ึ ข้อเสนอแนะต่อสานกั งาน กศน. 1. ควรให้ความสาคัญกับ ครู กศน. ให้ทาหน้าที่ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน เป็นหลัก เพ่ือพัฒนาความรู้ผู้เรียนให้ได้ตามมาตรฐานของหลักสูตรและพิจารณาให้บทบาทหน้าที่ร่วมกับ หน่วยงานอืน่ เปน็ หนา้ ทรี่ อง 2. ควรพัฒนาโปรแกรม ITW ให้ประมวลผลเพ่ือตอบสนองกับการประเมินครู กศน. เช่น จานวนผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ีย 2.00 ในรายวิชาบังคับต่อภาคเรียนเม่ือเทียบกับจานวน ผลู้ งทะเบยี น เปน็ ตน้
126 11. การศึกษาตอ่ เน่อื ง ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ สานักงาน กศน. กาหนดนโยบายในการจัดการศึกษาต่อเน่ือง ซ่ึงเปน็ ภารกิจต่อเนอ่ื ง โดยกาหนดกรอบใหส้ ถานศกึ ษาดาเนินการจัดกิจกรรม ดังนี้ ๑) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือ การมีงานทาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อตุ สาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชพี เฉพาะทางหรือการบริการที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ในแต่ละพ้นื ท่ี ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีหนึ่งอาชีพเด่นต่อหนึ่งศูนย์ฝึกอาชีพ รวมท้ังให้มีการกากับ ติดตาม และรายงานผลการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ๒) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุท่ีสอดคล้องกับ ความต้องการจาเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีทักษะการดารงชีวิต ตลอดจนสามารถ ประกอบอาชพี พึง่ พาตนเองได้มคี วามร้คู วามสามารถในการบรหิ ารจัดการชีวิตตลอดจนสามารถประกอบอาชีพ พ่ึงพาตนเอง อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ๓) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและ การจัดกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การประชุม สัมมน า การจัดเวที แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดกิจกรรมจิตอาสา การสร้างชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอื่น ๆ ท่ีเหมาะสมกับ กลมุ่ เปา้ หมายและบริบทของชมุ ชนแต่ละพ้นื ท่ี สภาพท่ีพบ จากการนิเทศพบว่า สถานศึกษาจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานอย่างยั่งยืนในรูปแบบ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิต การศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชนได้สอดคล้อง ตรงกับสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชน สถานศึกษาพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาข้ึนใหม่ให้มี เนื้อหาที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์และความต้องการของชุมชนกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับแนวทาง การพัฒนาประเทศแต่ยังไม่มีการประเมินหลักสูตร มีแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรชัดเจน โดย ครู กศน.ตาบล วิทยากรผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันจัดทาแผนการเรียนรู้ตามหลักสูตรท่ีเปิดสอน วิทยากรส่วนใหญ่เป็นผู้รู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ปราชญ์ชาวบ้าน ท่ีอยู่ในชุมชน ซ่ึงเป็นผู้ท่ีมีความรู้ ความสามารถ และเทคนิคการถ่ายทอด ท่ีเหมาะสมด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย โดยการบรรยาย สาธิต และการฝึกปฏิบัติ ผู้จบหลักสูตรส่วนใหญ่ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน แต่ไม่สามารถพัฒนาต่อยอดสู่วิสาหกิจชุมชนได้ ผู้เรียนบางคน นาความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพเสริม บางคนสามารถพัฒนาอาชีพเดิมให้มีรายได้เพิ่มข้ึน และบางคน พัฒนาอาชีพหลักให้มีรายได้เพ่ิมมากข้ึน การรวมกลุ่มของชุมชนมีน้อย ท่ีจะทาได้ขายเป็น นอกจากมีกลุ่มของ ตนเองอยู่แล้ว ผู้จบหลักสูตรใชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ ช่องทางในการเผยแพร่ผลิตภณั ฑ์คอ่ นขา้ งน้อย ปัจจัยทีส่ ง่ ผลตอ่ ความสาเร็จ 1. สถานศึกษาวางแผนการดาเนินงาน/โครงการ/กิจกรรม สอดคล้องกับความต้องการ นโยบาย/จุดเนน้ ของสานกั งาน กศน. 2. สถานศึกษาได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายในพ้ืนที่ด้านต่าง ๆ เช่น การให้ความ อนุเคราะหส์ ถานท่ี การสนบั สนนุ วทิ ยากร เปน็ ตน้ 3. ผู้บริหารสถานศึกษาให้ความสาคัญต่อการดาเนินงาน มีความเสียสละ มีความรับผิดชอบ มีความสามารถในการแก้ปัญหาได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 4. ครูและบุคลากรท่ีเกย่ี วขอ้ งมีความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะในการปฏิบัติงาน มีการพัฒนา ตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง นาข้อบกพร้องทพี่ บมาปรบั ปรุงเพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรม 5. สถานศึกษามีหลักสูตรที่หลากหลาย และสอดคล้องกับตามความต้องการของ กล่มุ เป้าหมาย
127 6. วทิ ยากร มีองค์ความรู้ และสามารถจัดกระบวนการเรยี นรู้ไดต้ ามจดุ ประสงค์ของหลกั สูตร 7. สถานศึกษาปรับแผนการดาเนินงานจากการทาเวทีประชาคมไทยนิยมยั่งยืน เพื่อให้ สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทและความตอ้ งการของประชาชน ปัญหาอปุ สรรค 1. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีภารกิจในการประกอบอาชีพ ทาให้ไม่มีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม หรือ บางครัง้ เข้าร่วมกจิ กรรมแล้วแตไ่ มส่ ามารถอย่รู ว่ มจนจบหลกั สตู ร 2. สถานศกึ ษาขาดการตดิ ตามผลหลังการจดั กิจกรรม ทาให้ไม่มีข้อมูลในการพัฒนาหลักสูตร การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ และการนาความรู้ไปใช้ 3. ครผู รู้ ับผดิ ชอบในพ้ืนทไ่ี ม่สามารถจดั กิจกรรมตามแผนทีก่ าหนดเนื่องจากมภี ารกิจเร่งด่วน 4. สถานศึกษาบางแห่งขาดการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการจัดหรือ ร่วมจดั กิจกรรมการศึกษาตอ่ เนื่อง 5. วิทยากรบางคนขาดเทคนิคการถ่ายทอดความรู้ และวิธีการวัดและประเมินผล ทห่ี ลากหลาย ขอ้ เสนอแนะเพ่ือการพัฒนา ขอ้ เสนอแนะตอ่ สถานศกึ ษา 1. ควรมีการประเมนิ หลักสูตร และพัฒนาหลกั สตู รให้ทันสมัยอยูเ่ สมอ 2. ควรกากบั ติดตามผลการนาไปใชข้ องผู้เรยี นหลังจบหลักสตู ร 3. ควรทบทวนและปรับแผนการจัดกิจกรรมใหส้ อดคลอ้ งกบั กลุ่มเปา้ หมาย 4. ควรสง่ เสริมสนบั สนนุ ภาคเี ครอื ขา่ ยให้มสี ว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ เช่น การทา บันทึกขอ้ ตกลง (MOU) เป็นตน้ 5. ควรส่งเสริม สนับสนุนให้วิทยากร มีเทคนิคการถ่ายทอดความรู้ และวิธีการวัดและ ประเมินผลทหี่ ลากหลาย 6. ควรนเิ ทศ ติดตาม และรายงานผลการดาเนินงานอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 12. การศึกษาตามอธั ยาศยั ตามนโยบายขับเคลื่อนการดาเนินงานของสานักงาน กศน. ได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่ 3 คือ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนให้มีคุณภาพ ข้อ 3.4 เพ่ิมอัตราการอ่าน ของประชาชน โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น ห้องสมุดประชาชน โครงการห้องสมุด เคลื่อนท่ีสาหรับชาวตลาด ตามพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี บ้านหนังสือ ชุมชน อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดเคล่ือนที่ เป็นต้น สาหรับภารกิจต่อเน่ือง ข้อท่ี 1 ด้านการจัด การศึกษาและการเรียนรู้ และในส่วนข้อย่อย 1.4 การศึกษาตามอัธยาศัย การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย มีหลากหลายรูปแบบ ในท่ีน้ีจะได้กล่าวถึงกิจกรรม ห้องสมุดประชาชน โครงการห้องสมุดเคล่ือนที่สาหรับ ชาวตลาด และบา้ นหนงั สอื ชุมชน ดังน้ี 1. ห้องสมดุ ประชาชน ห้องสมุดประชาชน เป็นห้องสมุดที่ให้บริการสาหรับประชาชนทุกอาชีพ ทุกเพศทุกวัย ไม่จากัดอายุ เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูล ส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยห้องสมุด จะเปน็ สถานทีร่ วบรวมสรรพวชิ าการต่าง ๆ ทจี่ ะใหค้ วามรู้ เช่น หนังสอื วารสาร จลุ สาร สงิ่ พิมพ์ต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งยังให้บริการไวไฟ อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์อีกด้วย สาหรับห้องสมุดประชาชน สังกัดสานักงานส่งเสริม
128 การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สานักงาน กศน.) ท่ัวประเทศน้ัน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท รวม 905 แห่ง ได้แก่ ประเภทท่ี 1 หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี” จานวน 86 แห่ง ประเภทที่ 2 ห้องสมดุ ประชาชนจงั หวัด จานวน 73 แหง่ ประเภทที่ 3 ห้องสมุดประชาชนอาเภอ จานวน 745 แหง่ ประเภทท่ี 4 หอสมดุ รชั มงั คลาภเิ ษก พระราชวงั ไกลกังวล อาเภอหวั หนิ จังหวดั ประจวบครี ขี ันธ์ จากการรายงานผลการนิเทศการจัดกิจกรรม การให้บริการห้องสมุดประชาชน จากทกุ ภาคทว่ั ประเทศ สรปุ ภาพรวมดงั นี้ สภาพท่พี บ ห้องสมุดประชาชนส่วนใหญ่มีสภาพความพร้อมสาหรับการให้บริการ บรรยากาศ ทัง้ ภายนอกและภายในเออ้ื ตอ่ การให้บรกิ าร การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ โดยภายในห้องสมุดได้จัดมุมการเรียนรู้ ต่าง ๆ ได้แก่ มุมแสดงหนังสือใหม่ มุมหนังสือสาหรับเด็ก มุมให้บริการอินเทอร์เน็ตและไวไฟ ห้องสมุด ประชาชนทุกแห่งได้จัดทาฐานข้อมูลทะเบียนหนังสือ วารสารและสื่ออิเลคทรอนิกส์ ทั้งน้ี ในส่วนของ ฐานข้อมูลสมาชิก ผู้ใช้บริการและข้อมูลหนังสือ ได้ดาเนินการจัดทาฐานข้อมูลด้วยโปรแกรมระบบบริการ งานห้องสมุด (PLS) และระบบเช่ือมโยงฐานข้อมูล (Learning Resource Linkage System) แต่บางแห่งขาด การทาฐานข้อมูลความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ห้องสมุดประชาชนทุกแห่ง มีความพร้อมในด้านการ บริการหนังสือเป็นหลัก ปัจจุบันเป็นยุคของการส่ือสารไร้พรหมแดน เกิดการแข่งขันด้านต่าง ๆ มากมาย วิถีชีวิต ของประชาชนในชุมชน สังคมเปล่ียนแปลงไป การติดต่อส่ือสารเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว ทันสมัย อุปกรณ์ด้านไอทีเข้ามามีบทบาทในการดาเนินชีวิต ห้องสมุดประชาชนส่วนใหญ่ของหน่วยงาน สถานศึกษา สังกัดสานักงาน กศน. ได้พัฒนารูปแบบการให้บริการที่ทันสมัย เกือบทุกแห่งมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Page Line เป็นต้น อีกท้ังมีการนาเทคโนโลยีมาสนับสนุน การดาเนินงานส่งเสริมการอ่าน เช่น การทา QR Code แนะนาหนังสือ บทความสุขภาพ บทความอาหาร การแนะนาสถานทีท่ ่องเทยี่ ว เส้นทางประวัตศิ าสตร์ต่าง ๆ เปน็ ตน้ ห้องสมุดประชาชนส่วนใหญ่มีการออกแบบกิจกรรมท่ีหลากหลาย สอดคล้องกับความ ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมวันรักการอ่าน รถโมบายเคล่ือนท่ีสู่ชุมชน กิจกรรมห้องสมุด Delivery กิจกรรมอาสาฯพาหนังสือไปให้อ่านในพื้นท่ี เมืองนักอ่าน การจัดนิทรรศการ ให้ความรู้วันสาคัญต่าง ๆ เป็นต้น ท้ังน้ี ห้องสมุดทุกแห่งมีภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนด้านการจัดกิจกรรม สถานท่ี งบประมาณ และบุคลากร ซึ่งมากน้อยแตกต่างกันออกไปตามความพร้อมของแต่ละพ้ืนที่ สาหรับ ปัญหาอุปสรรคมีบ้างในบางพื้นท่ีเกี่ยวกับบุคลากร พบว่าบางแห่งไม่มีบรรณารักษ์ หรือบุคลากรท่ีเป็ น เจ้าหน้าที่ห้องสมุดที่จบบรรณารักษ์ ทาให้ขาดความรู้ความเข้าใจในการจัดให้บริการหนังส่ือ สื่อการเรียนรู้ และการจัดกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศยั ขอ้ นเิ ทศ ศึกษานิเทศก์ได้แนะนาสถานศึกษาในเรื่องการปรับรูปแบบการให้บริการห้องสมุดให้เป็น เชิงรุก ทันสมัย สะดวกรวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง วิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT) เพื่อกาหนด เป้าหมายและวิธีการพัฒนาการบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณ์โลกปจั จบุ นั
129 ปจั จยั ทีส่ ่งผลต่อความสาเร็จ บรรณารักษแ์ ละเจา้ หน้าท่ีห้องสมุดประชาชน มีความรู้ความสามารถและตระหนักในการ ปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบ ภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนทรัพยากรในการจัดกิจกรรมของห้องสมุดประชาชน และการบรหิ ารจัดการทเี่ ปน็ ระบบ ผู้บรหิ ารในทุกระดับให้ความสาคัญและการนิเทศกจิ กรรมอยา่ งตอ่ เน่ือง ปัญหาอปุ สรรค 1. หอ้ งสมดุ บางแหง่ ไม่มเี จ้าหนา้ ที่ท่ีสาเร็จการศกึ ษาเฉพาะด้านวิชาเอกบรรณารักษ์ศาสตร์ 2. บรรณารักษบ์ างคนมีภาระงานอน่ื ๆ เชน่ งานทะเบียน การเงิน พสั ดุ เป็นต้น 3. จานวนผู้ใช้บริการห้องสมดุ ลดลง 4. ขาดแคลนอุปกรณด์ า้ นไอที ข้อเสนอแนะ ควรจัดสรร/กาหนดอัตรากาลังตาแหน่งบรรณารักษ์ และควรจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการให้บริการห้องสมุด ความรู้เก่ียวกับการจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ให้กับ เจ้าหน้าที่/บุคลากร ห้องสมุดประชาชนเป็นประจาอย่างต่อเน่ือง โดยกาหนดหลักสูตรให้ทันสมัย เท่าทั น เทคโนโลยี และสังคมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากน้ี หน่วยงาน สถานศึกษา ควรวางแผนและ กาหนดกรอบแนวทางการจัดทาสารสนเทศของห้องสมุดให้เป็นระบบและเป็นปัจจุบัน ควรสนับสนุน ด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพ่ือการให้บริการท่ีมีประสิทธิภาพทันสมัย และผู้บริหารสานักงาน กศน. ควรนิเทศ ติดตามผลการดาเนินงานโครงการกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและให้ความสาคัญต่อการรวบรวมข้อมูลสรุปผล รายงานผลเพือ่ นาไปใชใ้ นการพฒั นาปรับปรงุ การดาเนนิ งานให้ดีข้ึนต่อไป 2. บา้ นหนังสอื ชมุ ชน สานักงาน กศน. ได้ดาเนินงานบ้านหนังสือชุมชน เพื่อให้เป็นแหล่งการอ่าน การจัด กิจกรรมสร้างเสริมการอ่านและการเรียนรู้ของคนในชุมชน โดยมีเจ้าของบ้าน หรืออาสาสมัครทาหน้าที่ดูแล ใหบ้ รกิ าร และจัดกจิ กรรม ซึ่งบ้านหนงั สือชมุ ชนนั้น กระจายอยทู่ ุกตาบลทวั่ ประเทศ สภาพทพ่ี บ การจัดกิจกรรมบ้านหนังสือชุมชน โดย ครู กศน.ตาบลเป็นผู้รับผิดชอบในการประสาน การจัดกิจกรรม กับประชาชนในพ้ืนท่ีน้ัน ๆ มีการประสานการดาเนินการร่วมกับบรรณารักษ์ห้องสมุด ประชาชน บ้านหนังสือชุมชน นับเป็นหน่วยส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีเข้าถึงบริการถึงประชาชน ในชุมชนทาใหเ้ กิดความสะดวกในการใช้บรกิ าร และคนในชุมชนดูแลรับผิดชอบเองได้ สภาพท่ีพบบ้านหนังสือ ชุมชนส่วนใหญ่จะอยู่ร่วมกับร้านค้าในชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล กิจกรรมท่ีจัดเป็นประจา คือ มุมหนังสือและกิจกรรมกลุ่มสนใจ ท่ีทาง ครู กศน.ตาบลจัดสาหรับเร่ืองการให้บริการมีบ้านหนังสือชุมชน สว่ นน้อยทพี่ ร้อมให้บรกิ ารสัญญาณ wi-fi จากการนิเทศติดตามผล พบว่า มีบ้านหนังสือชุมชนที่จัดกิจกรรมโดยเจ้าของบ้าน และชมุ ชนเป็นผจู้ ัดกิจกรรมเอง ภายใต้การส่งเสริมและสนับสนุนของ กศน.อาเภอ ซึ่งสามารถดาเนินการได้ดี และสามารถเปน็ ตน้ แบบได้หลายแห่ง เชน่ บ้านหนังสอื ชมุ ชนตาบลปากกราน อาเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ ติดกับ กศน.ตาบลปากกราน มีการจัดสถานท่ีที่สวยงาม อยู่ในชุมชน เหมาะสาหรับการใช้บริการ ท้ัง กศน. ตาบลปากกราน ยังให้บริการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ และให้บริการอินเทอร์เน็ต แก่ประชาชนในชมุ ชน
130 บ้านหนังสือชุมชนหลายแห่งมีสภาพความพร้อมมาก ท้ังด้านสถานที่ และส่ืออ่ืน ๆ ส่วนผู้ดูแลบ้านหนังสือมีความพร้อม มีจิตสาธารณะในการให้บริการและมีศักยภาพในการส่งเสริมการอ่าน บ้านหนังสือชุมชนหลายแห่งเปิดให้บริการอย่างสม่าเสมอ สถานท่ีมีแสงสว่างเพียงพอ จัดบริเวณท่ีน่ังอ่าน หนังสือให้เป็นสัดส่วน มีโต๊ะเก้าอี้สาหรับน่ังอ่าน อุปกรณ์ ช้ันวางหนังสือ บางแห่งมีบริการน้าดื่ม บางแห่ง เป็นศูนย์บริการเน็ตประชารัฐ การจัดกิจกรรมและการหมุนเวียนสื่อ สิ่งพิมพ์ บางแห่งจัดเป็นตะกร้า กระเป๋า หนังสือ หมุนเวียนจาก กศน.ตาบล ไปยังบ้านหนังสือต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน อื่น ๆ เช่น เข่งการอ่าน ตู้เย็นหนังสือ ถังความรู้ โมบายคิวอาร์โค้ด เป็นต้น บ้านหนังสือชุมชนยังเป็นท่ีพบปะ สนทนาแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ระหวา่ งสมาชิก จากการนิเทศติดตามผลในภาพรวมยังพบบางแห่งที่มีการหมุนเวียน สือ่ หนงั สอื ตา่ ง ๆ นอ้ ยกว่าทค่ี วร ขาดการสารวจความตอ้ งการของผ้ใู ชบ้ ริการ หรือประชาชนในพื้นที่ บางแห่ง ปา้ ยบ้านหนังสือชมุ ชนไม่ชัดเจน ข้อนิเทศ ศึกษานิเทศก์ได้เน้นการให้ความสาคัญต่อการดาเนินงานการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และการส่งเสริมการเรียนรู้ภายในบ้านหนังสือชุมชน จัดให้มีการประชุมอาสาสมัครบ้านหนังสือชุมชนทุกปี และประเมินผลสัมฤทธิ์ผู้ใช้บรกิ ารบ้านหนังสือชุมชน ปัจจัยท่ีสง่ ผลตอ่ ความสาเร็จ บ้านหนังสือชุมชนได้รับการสนับสนุนจากผู้นาชุมชนและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ตลอดจน ผู้บริหารระดับจังหวัด สถานศึกษา และศึกษานิเทศก์ กากับ ติดตามการดาเนินงานอย่างต่อเน่ือง นอกจากน้ี มกี ารหมุนเวียนหนังสือ การจดั กจิ กรรมใหต้ รงตามความตอ้ งการของกล่มุ เป้าหมาย ปัญหาอุปสรรค การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ในบ้านหนังสือชุมชนมีน้อย และการหมุนเวียนหนังสือ ไมต่ ่อเน่ือง หนังสอื ทีใ่ หบ้ ริการบางแห่งเป็นหนงั สือเก่า ไมท่ นั สมยั ข้อเสนอแนะ ควรนาผลการประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการ หรือผลการสารวจความต้องการ มาวิเคราะห์เพื่อนาสู่การพัฒนา ปรับปรุงการดาเนินงานบ้านหนังสือชุมชน และจัดประกวด คัดเลือก บา้ นหนังสือชมุ ชนอย่างต่อเนอ่ื ง 3. หอ้ งสมุดเคลื่อนที่สาหรบั ชาวตลาด ตามท่ี สานักงาน กศน. มีนโยบายให้สานักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง และสานักงาน กศน. จังหวัดกรุงเทพมหานคร ดาเนินการจัดให้มี “ห้องสมุดเคลื่อนท่ีสาหรับชาวตลาด” ตามพระราชดาริสมเด็จ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นต้นแบบ ต้ังแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 จังหวัดละ 1 แห่ง รวม 77 แห่ง โดยใช้หลักการมีส่วนร่วม โดยชุมชน ของชุมชน เพื่อชุมชน และมีนโยบายให้ดาเนินการจัดทา โครงการต่อเน่ืองในปีงบประมาณ 2561แบบคู่ขนานตามความพร้อมและความเหมาะสมด้วยน้ัน จากการ รายงานผลการนเิ ทศทกุ ภาคสรุปภาพรวมดงั น้ี สภาพทีพ่ บ ห้องสมุดเคล่ือนที่สาหรับชาวตลาดส่วนใหญ่ไม่มีสถานท่ีเป็นเอกเทศ ข้ึนอยู่กับบริบทและ ความพร้อมของผจู้ ดั หรอื เคล่ือนทีไ่ ปตามตลาดนัดของชุมชนในพ้ืนท่ีต่าง ๆ เน่ืองจากตลาดเป็นพ้ืนที่เศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของตลาดในการจัดกิจกรรม แต่สถานศึกษาส่วนใหญ่สามารถจัดกิจกรรมได้ตาม วัตถุประสงค์แม้ต้องเคล่ือนท่ีไปตามความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 77 แห่ง ท่ีเป็นต้นแบบ ส่วนใหญ่ เปิดให้บริการทุกวัน บางแห่งให้บริการเฉพาะช่วงท่ีเปิดตลาด จัดมุมสาหรับน่ังอ่านหนังสือ มีช้ันวางหนังสือ
131 ที่สามารถเคล่ือนย้ายสะดวก บางแห่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านสาหรับเด็กและเยาวชน เช่น การประดิษฐ์ กล่องใส่ดินสอ การสอนน้องอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ฝาผนัง นอกจากน้ีพบว่าการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ในการให้บริการ เช่น แผ่นพับ เสียงตามสาย หอกระจายข่าว อาสาสมัครฯ เป็นต้น การจัดห้องสมุดเคลื่อนท่ี สาหรับชาวตลาดน้ันแต่ละแห่งดาเนินการหมุนเวียนหนังสือจากห้องสมุดอย่างสม่าเสมอ หนังสือท่ีคัดเลือก จากการรับบริจาค ส่วนใหญ่ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังพบการประสานงานกับเครือข่าย เชน่ เทศบาลตาบล เทศบาลนคร เจ้าของหรอื ผู้จัดตลาด ในการใหบ้ ริการ ขอ้ นิเทศ ศึกษานิเทศก์ได้แนะนาให้สถานศึกษาพัฒนาคุณภาพการบริการโดยการสอบถามหรือจัด ใหม้ ตี รู้ บั การแสดงความคิดเห็นของผู้รับบริการ และนาผลการแสดงความคิดเห็นมาวิเคราะห์ร่วมกับเครือข่าย เพ่ือกาหนดแนวทางการพัฒนารูปแบบการจดั กจิ กรรมใหม้ ีความเหมาะสมยง่ิ ขนึ้ ตอ่ ไป ปจั จัยที่สง่ ผลต่อความสาเรจ็ ชุมชนและภาคีเครือข่ายในพื้นท่ีให้การสนับสนุน ส่วนผู้บริหารระดับจังหวัด สถานศึกษา และศกึ ษานเิ ทศก์ มีการกากับ ติดตามการดาเนินงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้มีการหมุนเวียนหนังสือ การจัด กจิ กรรมท่ีตรงตามความตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมาย และการประชาสัมพันธ์ผา่ นชอ่ งทางที่หลากหลาย ปญั หาอุปสรรค ห้องสมุดเคลื่อนที่สาหรับชาวตลาด 77 แห่ง ท่ีเป็นต้นแบบ ส่วนใหญ่สามารถจัด กจิ กรรมไดอ้ ย่างตอ่ เนื่อง เหมาะสม แต่ห้องสมุดบางแห่งไม่เออ้ื ต่อการจดั กจิ กรรมห้องสมุดเคล่ือนที่สาหรับชาว ตลาด บางครั้งพื้นมีน้านอง ฝนตก ฝุ่นละออง กลิ่น เสียงรบกวน และแม่ค้า ประชาชน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ไมม่ จี ุดประสงคใ์ นการอ่านหนังสอื ไม่มีเวลาเพียงพอสาหรับการรว่ มกิจกรรมหรอื การอา่ นหนงั สือ ขอ้ เสนอแนะ พัฒนาวิธีการจัดห้องสมุดเคลื่อนที่สาหรับชาวตลาดอย่างต่อเน่ือง เช่น จัดในรูปแบบ รถห้องสมุดเคล่ือนที่แบบต่างๆ พัฒนาส่ือนวัตกรรมท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายสามารถ ให้ความรู้ความ บันเทงิ ในเวลาท่ีจากัด และปรับกิจกรรมใหเ้ หมาะสมสาหรบั กลุ่มเปา้ หมาย 13. การประกนั คุณภาพการศึกษา ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ลงวันท่ี 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 กาหนดให้ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอ/เขต เป็นเป้าหมายในการจัดและพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย ให้กับ ผู้เรียน/ผู้รับบริการ รวมถึงผลผลิต และผลลัพธ์ท่ีเกิดขึ้นจากกระบวนการจัด การศึกษาของสถานศึกษา เพ่ือให้สถานศึกษามีมาตรฐานการศึกษา เกิดความเท่าเทียมทางการศึกษา และ เป็นทีย่ อมรบั ของผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสยี ไดแ้ ก่ ผู้เรยี น ผูร้ ับบริการ กศน. ชุมชน สังคม และประชาชน แนวคิด หลกั การประกนั คุณภาพการศกึ ษา การประกันคุณภาพการศกึ ษา เป็นการบรหิ ารจัดการและการดาเนินกจิ กรรมตามภารกิจปกติ ของสถานศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ผู้รับบริการ อย่างต่อเน่ือง สร้างความมั่นใจให้ผู้รับบริการ ทางการศกึ ษาโดยตรง ไดแ้ ก่ ผู้เรียน ผู้ปกครอง และผู้รับบริการทางอ้อม ได้แก่ สถานประกอบการ ประชาชน และสังคมโดยรวม โดยสถานศึกษาจะดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความจาเป็น ความต้องการของ ผ้เู รียน เพื่อพัฒนาผู้เรียน ผู้รับบรกิ ารใหม้ คี ุณภาพ
132 การประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั การประเมินคุณภาพการศึกษา การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั มี 2 ลกั ษณะ 1. การประเมินตนเองของสถานศึกษา (ประเมินเพ่ือพัฒนา) คณะกรรมการประเมิน 3 - 5 คน (ประธาน กรรมการ เลขา) 2. การประเมินสถานศึกษาโดยต้นสังกัด ตามปกติจะประเมินอย่างน้อย 1 คร้ังในทุก 3 ปี ผู้ประเมนิ จะต้องผ่านการอบรมหลกั สตู รผูป้ ระเมินคณุ ภาพสถานศึกษาโดยตน้ สงั กดั สภาพทพี่ บ จากการนิเทศ พบว่า จากที่ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้แทนบุคลากรในสถานศึกษา เข้ารับฟัง การประชุมชแ้ี จงแนวทางการประเมินคุณภาพการศึกษา (3 มาตรฐาน 20 ตัวบ่งชี้) จากกลุ่มสานักงาน กศน. จังหวัดที่จัดให้แล้วบุคลากรในสถานศึกษามีความกระตือรือร้นท่ีจะดาเนินการ ซ่ึงสถานศึกษาได้ดาเนินการ ประกันคุณภาพเป็นเรื่องการทางานตามปกติ ในการประกันคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยใหม่ มีความแตกต่างจากเดิมซ่ึงยังมีครูและบุคลากรท่ีไม่ได้เข้ารับฟัง การช้ีแจงแนวทางการประเมินคุณภาพการศึกษา จากกลุ่มสานักงาน กศน.จังหวัด สถานศึกษาได้ชี้แจง บุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ มาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 รวมทั้งปรับโครงการ/กิจกรรมให้มี ความสอดคล้องกับ 3 มาตรฐาน 20 ตัวบ่งชี้ นอกจากน้ีพบว่าสถานศึกษาบางแห่งยังไม่สามารถตั้งค่า เป้าหมายได้ ควรต้องได้รับการแนะนาปรึกษาเพิ่มเติม รวมท้ังการเขียนรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ท้ังน้ี สถานศึกษาได้ตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา โดยการประเมินและสรุปผลการดาเนินงาน ในรอบ 6 เดอื นแรก เพือ่ นาผลมาพัฒนาปรับปรุงการดาเนินงานในรอบ 6 เดือนหลัง และสถานศึกษาทุกแห่ง มีการประเมินคุณภาพภายใน จัดทารายงานการประเมินตนเอง (SAR) อย่างสม่าเสมอทุกปี และนาผล การประเมนิ ไปใช้เปน็ ขอ้ มลู ในการวางแผนเพอื่ พัฒนาการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเรจ็ 1. บคุ ลากรทกุ สว่ นท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการประกนั คณุ ภาพการศึกษามีความตระหนักและให้ความ สนใจกบั 3 มาตรฐาน 20 ตัวบ่งชี้ 2. บุคลากรในสถานศึกษาได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐาน การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั โดยการอบรม ประชุมชแ้ี จง ฝึกปฏิบตั ิ และ ศึกษาดูงาน 3. คณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่าย และชุมชน ให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการจัด การศึกษาและการประกนั คณุ ภาพการศึกษา 4. สถานศึกษามีแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัติการ ท่ีสอดคล้องกับนโยบาย จุดเนน้ ของการจัดการศกึ ษาทุกระดับ และนาไปปฏบิ ัตอิ ย่างแท้จรงิ ปญั หาอุปสรรค 1. สถานศึกษาบางแหง่ ยงั มคี วามเขา้ ใจการตั้งค่าเป้าหมาย ในมาตรฐานท่ี ๑ ไม่ชัดเจน 2. สถานศึกษาบางแห่งยังไม่ประกาศใช้มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ ตามที่สานักงาน กศน. กาหนด และยงั ไมไ่ ดป้ รบั แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา 3. สถานศึกษาบางแห่งขาดการจัดระบบสารสนเทศ ทาให้ไม่สามารถนาข้อมูลมาประเมิน คุณภาพภายในของสถานศกึ ษา 4. สถานศึกษาบางแห่ง ไม่ได้นาข้อเสนอแนะจากผลการประเมินตนเองปีที่ผ่านมา มา ปรับปรงุ พฒั นา หรอื นาไปจัดทาแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา และแผนปฏบิ ัติการประจาปี
133 ขอ้ นิเทศ ศึกษานเิ ทศก์และผไู้ ด้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ีนิเทศ ได้ดาเนนิ การ ดังน้ี 1. จัดประชมุ ชีแ้ จงแนวทางการดาเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้กับผู้บริหาร และบคุ ลากรของสถานศึกษาที่เก่ียวข้อง โดยศึกษานเิ ทศก์ร่วมเป็นวทิ ยากรหลัก 2. แนะนาให้สถานศึกษาจัดทาระบบสารสนเทศ ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน เพ่ือให้ สถานศึกษาประเมินตนเองไดถ้ กู ต้อง มีคุณภาพ 3. แนะนาให้สถานศึกษาปรับแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ระบุค่าเป้าหมายตามมาตรฐาน และตวั บ่งชี้ใหเ้ ป็นปัจจุบัน และใหค้ วามรู้ทบทวนการเขยี นรายงานการประเมนิ ตนเองตามแนวทางใหม่ ข้อเสนอแนะเพือ่ การพฒั นา ข้อเสนอแนะตอ่ สถานศกึ ษา 1. ควรทบทวน ทาความเข้าใจ การตั้งค่าเป้าหมายให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ตามแนวทางทก่ี าหนดและนาไปปรับปรงุ และระบุไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2. ควรเร่งประกาศใชม้ าตรฐาน ตวั บง่ ชี้ ให้เป็นตามประกาศของสานักงาน กศน. 3. ควรจดั ทาระบบสารสนเทศ ใหถ้ ูกตอ้ ง ครบถ้วน โดยมอบหมายให้ ผรู้ ับผิดชอบรายงานผล และมีการตดิ ตามผลการดาเนินงานเปน็ ระยะ 4. ควรรวบรวมผลการประเมิน ที่เป็นปัญหา อุปสรรค นามาพัฒนา ปรับปรุง ตามวงจร คณุ ภาพ PDCA 5. ควรประเมนิ ตนเองโดยการมีส่วนร่วมตามแนวทางการดาเนินงานไม่เป็นการประเมินแยก ส่วนเปน็ รายมาตรฐานเหมือนคร้งั ท่ีผา่ นมา ข้อเสนอแนะตอ่ สานักงาน กศน.จังหวดั สานกั งาน กศน.จังหวัด ควรนิเทศ กากับ ติดตามการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา อย่างตอ่ เนือ่ งเพ่ือใหก้ ารจดั การศึกษามคี ุณภาพตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ข้อเสนอแนะต่อสานกั งาน กศน. สานักงาน กศน. ควรมีทีมงานที่เชี่ยวชาญสามารถให้คาปรึกษา แก้ไขปัญหาการดาเนินงาน ประกนั คุณภาพภายในของสถานศกึ ษา ทุก ๆ ดา้ น 14. ประเดน็ การขบั เคล่ือนงานของรฐั มนตรชี ่วยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) พบว่า นอกจากการขยายผลชุมชนต้นแบบฯ (ข้อ 1) การเปิดพ้ืนท่ี กศน.อาเภอ/ตาบล ท่วั ประเทศเป็น OOCC (ข้อ 2) การแกป้ ัญหาประชากรวัยเรยี นท่ีอยูน่ อกระบบการศึกษา (ข้อ 3) ซึ่งสานักงาน กศน.จังหวัดร่วมกับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกลุ่มเป้าหมายพิเศษ (ศกพ.) ดาเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และการส่งเสริมดูแลสุขภาวะของประชาชนในพ้ืนท่ี (ข้อ 4) ได้กล่าวมาแล้ว ในการนิเทศตดิ ตามผลยังพบว่า การส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย สานักงาน กศน.จังหวัด ได้จัดทาแบบสารวจข้อมูล ผู้ไม่รู้หนังสือร่วมกับผู้นาชุมชนและเครือข่าย กลุ่มเป้าหมายคือผู้ลืมหนังสือและผู้ไม่รู้หนังสือ ซ่ึงได้ส่งเสริม การเรียนรู้อ่ืน ๆ แก่ผู้ผ่านการประเมินผล โดยการแนะแนวให้ผู้เรียนศึกษาต่อในระดับที่สูงข้ึนเข้าสู่ กระบวนการเรียนข้ันพื้นฐาน ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือการศึกษาเพ่ือการมีอาชีพ การมีงานทา อย่างไรก็ตามพบว่าผู้เรียนส่วนมากเป็นผู้สูงวัย การเรียนรู้ค่อนข้างช้า ทาให้การเรียนบางคร้ังไมเ่ ป็นไปตามแผน สง่ ผลให้ผู้เรียนบางคนอาจเบือ่ หนา่ ย
134 การเพ่ิมอัตราการอ่านของประชาชน กิจกรรม 3 กิจกรรม คือห้องสมุดประชาชน บา้ นหนังสือชุมชน และห้องสมุดเคล่ือนที่ชาวตลาดเป็นปัจจัยสาคัญในการขับเคลื่อน โดยการประสานกิจกรรม ร่วมกับจังหวัด/อาเภอเคลื่อนที่ ซ่ึงควรให้บรรณารักษ์ช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อเพ่ิมจานวนสมาชิกห้องสมุด ประชาชน ส่งเสริมการยืมหนังสือไปอ่าน และออกติดตามบ้านหนังสือชุมชนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 คร้ัง เพ่อื นามาใชพ้ ฒั นางานต่อไป *******************************
135 ตัวอย่างกิจกรรม/โครงการทีป่ ระสบผลสาเรจ็ (Best Practice) 1. การศึกษาข้ันพื้นฐาน เช่น สำนักงำน กศน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย กศน.อำเภอสบเมย ได้รับ คัดเลือกให้ได้รับรำงวัลระดับภำค ในกำรใช้นวัตกรรมกำรใช้แถบสีเทียบอักษรเพื่อพัฒนำกำรอ่ำนคำศัพท์ ภำษำองั กฤษในกำรแกไ้ ขปัญหำกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนในวชิ ำภำษำต่ำงประเทศ 2. โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน เช่น กศน.อำเมืองขอนแก่น ได้จัดตั้งศูนย์ฝึกอำชีพชุมชนระดับ อำเภอ ในเขตอำเภอเมอื งขอนแก่น เพื่อเป็นศูนย์กลำงในกำรฝึก พัฒนำ สำธิต และสร้ำงอำชีพของผู้เรียนและ ชุมชน อย่ำงเป็นระบบครบวงจร และเป็นกำรจัดกำรศึกษำตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้ำงควำมม่ันคงให้แก่ ประชำชนและประเทศชำติ เช่น โครงกำรอำชีพช่ำงตัดผมชำย ได้จัดกำรเรียนกำรสอนในอำคำรศูนย์ฝึกอำชีพ ชมุ ชนอำเภอเมอื งขอนแก่น เปน็ ต้น 3. การศึกษาตอ่ เนอ่ื ง เช่น กิจกรรมส่งเสริมสุขภำพผู้สูงอำยุโดยภำพรวมของสำนักงำน กศน.จังหวัด ฉะเชิงเทรำ ต้ังแต่ ปี พ.ศ. 2550 จนเป็นชมรมผู้สูงอำยุดีเด่นระดับจังหวัด และเป็นพ้ืนท่ีนำร่องในกำรดูแล ผู้สูงอำยุระยะยำว โดยมีศูนย์อนำมัยที่ 3 ชลบุรี สนับสนุนในกำรจัดทำแผนที่ทำงเดินยุทธศำสตร์ของชมรม ผสู้ งู อำยุ 4. ห้องสมุดประชาชน เช่น สำนักงำน กศน.จังหวัดขอนแก่น ได้รับรำงวัลชนะเลิศ ห้องสมุดเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ระดับสำนักงำน กศน. 5. ห้องสมุดเคลื่อนท่ีสาหรับชาวตลาด เช่น ห้องสมุดเคล่ือนท่ีสำหรับชำวตลำดน้ำวัดใหม่นำบุญ อำเภอศรีมหำโพธิ จังหวัดปรำจีนบุรี มีผู้เข้ำมำใช้บริกำรจำนวนมำก สัปดำห์ละ 40 - 50 คน จัดกิจกรรม ทกุ วนั อำทิตย์ เชน่ เปดิ ต้เู ย็นเหน็ หนงั สือ วำดภำพระบำยสี ปริศนำคำทำนำย เปน็ ตน้ 6. ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบล เช่น สำนักงำน กศน.จังหวดั ลพบุรี ศนู ยเ์ รียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ นำยสำนึก อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบรุ ี นำควำมรมู้ ำต่อยอดในกำรประกอบอำชีพ ดำเนินชีวิตโดยยึดหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และพัฒนำตนเองอยำ่ งต่อเนือ่ ง จนสำมำรถพัฒนำพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชนในพื้นที่ และชุมชน ใกลเ้ คียง 7. การขับเคล่ือนการดาเนินงานโครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย เชน่ สำนักงำน กศน.จังหวดั สงขลำ กศน.อำเภอระโนด นำระบบ e-learning MOOC มำใช้ในภำคเรียนที่ 1 ปี กำรศึกษำ 2561 โดยมีเนื้อหำ คือ วิชำประวัติศำสตร์ชำติไทยทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ 1) วิชำประวัติศำสตร์ชำติไทย สมัยสุโขทัยในระดับประถมศึกษำ 2) วิชำประวัติศำสตร์ชำติไทยสมัยธนบุรีและอยุธยำในระดับมัธยมศึกษำ ตอนต้น และ 3) วิชำประวัตศิ ำสตร์ชำตไิ ทยสมยั กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ในระดบั ช้นั มธั ยมศึกษำตอนปลำย 8. โครงการภาษาอังกฤษเพือ่ การสือ่ สารดา้ นอาชพี เช่น กศน.อำเภอนำโยง จังหวัดตรัง ได้ขยำยผล กำรอบรมกำรสอนภำษำอังกฤษ Boot Camp สูป่ ระชำชน โดยจัดโครงกำรภำษำอังกฤษเพื่อกำรสื่อสำรด้ำนอำชีพ มีกำรฝึกสนทนำกำรซอื้ ขำยสนิ ค้ำและสื่อสำรกบั ชำวต่ำงชำติ 9. การขับเคลื่อนการดาเนินงานตามโครงการไทยนิยม ย่ังยืน เช่น ชุมชนต้นแบบบ้ำนหินเทิน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้รับรำงวัลชนะเลิศหมู่บ้ำนสำรสนเทศตำบลต้นแบบเพ่ือกำรพัฒนำ คุณภำพชวี ติ ระดบั เขตตรวจรำชกำร 10. กศน.ตาบล 4G เช่น กศน.ตำบลป่ำยุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ได้รับรำงวัลดีเด่น กศน.ตำบล 4G ในระดบั จงั หวดั จำกสำนักงำน กศน.จงั หวัดระยอง
136 11. การจัดการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปร่ือง) เช่น นำงจำรุวรรณ ถนัดรบ อำเภอเมือง จังหวัดปรำจีนบุรี ทำธุรกิจฟำร์มไก่ระบบปิด โดยนำเทคโนโลยี Application : Smart Pluge บนมือถอื มำบริหำรจัดกำรและควบคุมระยะเวลำให้นำ้ และอำหำรไก่ 12. บ้านหนังสือชุมชน เช่น บ้ำนหนังสือชุมชนบ้ำนควนชะลิก อำเภอหัวไทร จังหวัด นครศรีธรรมรำช ได้รับรำงวลั ยอดเยย่ี มจำกกำรคัดเลอื กบำ้ นหนงั สอื ชมุ ชนตน้ แบบ ระดบั ประเทศ ปี 2560 13. โครงการสรา้ งเครอื ขา่ ยดิจิทลั ชุมชนระดบั ตาบล เช่น สำนักงำน กศน.จังหวัดระยอง ได้รับถ้วย รำงวัลรองชนะเลิศ กำรนำเสนอและจัดนิทรรศกำรผลกำรจัดกำรเรียนกำรสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยี และ กิจกรรม Professional Learning Community (PLC) ของ สถำบัน กศน. ภำคตะวนั ออก 14. ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล เช่น ศูนย์ส่งเสริมประชำธิปไตยตำบลบำงช้ำง อำเภอ สำมพรำน จังหวัดนครปฐม ไดเ้ ปน็ หม่บู ำ้ นไม่ขำยเสียงดเี ด่นทัง้ ในระดบั อำเภอ จังหวัด และภำคกลำง การถอดบทเรียนความสาเร็จดีเด่น (Best Practice) ประจาปี 2561 ***********************************
137 ผลการดาเนนิ งานโครงการ สำนักงำน กศน. ได้จัดสรรงบประมำณให้กับหน่วยศึกษำนิเทศก์เพื่อดำเนินกำรเฉพำะเป็นรำย โครงกำรให้สอดคล้องกับนโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน สำนักงำน กศน. ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 จำนวน 6 โครงกำร สรุปภำพโดยรวมไดด้ ังน้ี 1. โครงการนเิ ทศเพ่ือพฒั นาคุณภาพการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ปีงบประมาณ 2561 หลักการและเหตผุ ล ตำมที่ สำนักงำน กศน. กำหนดยุทธศำสตร์และจุดเน้นกำรดำเนินงำนกำรศึกษำนอกระบบ และกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ประจำปีงบประมำณ 2561 โดยกำหนดวิสัยทัศน์ คือ คนไทยได้รับโอกำส กำรศึกษำและกำรเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่ำงมีคุณภำพ สำมำรถดำรงชีวิตท่ีเหมำะสมกับช่วงวัย สอดคล้องกับ หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะท่ีจำเป็นในโลกศตวรรษที่ 21 ดังนั้น เพื่อตอบสนอง ยุทธศำสตร์ดังกล่ำว หน่วยศึกษำนิเทศก์ ในฐำนะหน่วยงำนท่ีมีบทบำทหน้ำที่นิเทศ ติดตำมผล ประเมินผล และรำยงำนผลกำรจัดกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยของสถำนศึกษำและสถำนศึกษำข้ึนตรง สังกัดสำนักงำน กศน. จึงจัดทำโครงกำรนิเทศเพ่ือพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ปีงบประมำณ 2561 เพื่อให้สถำนศึกษำ สังกัดสำนักงำน กศน. สำมำรถดำเนินงำนกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศึกษำตำมอัธยำศัยบรรลุตำมยุทธศำสตร์และจุดเน้นของสำนักงำน กศน. อย่ำงมีคุณภำพ สอดคล้องตำม มำตรฐำนสำนักงำน กศน. วัตถุประสงค์ 1. นิเทศ ตดิ ตำม และรำยงำนผลกำรจดั กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยของ สถำนศึกษำสังกัดสำนักงำน กศน. ให้เป็นไปตำมยุทธศำสตร์และจุดเน้นกำรดำเนินงำนของสำนักงำน กศน. ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2561 2. นิเทศและพัฒนำทำงวิชำกำรแก่สถำนศึกษำสังกัดสำนักงำน กศน. ในกำรจัดกิจกรรม กศน. ให้มคี ุณภำพตำมยทุ ธศำสตร์ จุดเนน้ และมำตรฐำน กศน. ผลการดาเนนิ งาน ศึกษำนิเทศก์ส่วนกลำงปฏิบัติกำรนิเทศร่วมกับศึกษำนิเทศก์ส่วนภูมิภำค รวมทั้งผู้ปฏิบัติ หน้ำท่ีนิเทศ ซึ่งผ่ำนกำรพัฒนำโดยหน่วยศึกษำนิเทศก์ ปฏิบัติกำรนิเทศสถำนศึกษำในพื้นที่สำนักงำน กศน. จังหวัด ตำมคำส่ังสำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ที่ 203/2560 ลงวันที่ 22 ธนั วำคม 2560 หนว่ ยศกึ ษำนิเทศก์ได้ประมวลและสรุปรำยงำนผลกำรนเิ ทศ จำนวน 2 ครงั้ คอื 1. สรุปผลกำรนิเทศครึ่งแรก ปีงบประมำณ 2561 (ตุลำคม 2559 – มีนำคม 2560) โดย หน่วยศึกษำนิเทศก์จัดประชุมสรุปผลกำรรำยงำนกำรนิเทศครึ่งปีงบประมำณ 2561 เมื่อวันท่ี 12 - 14 มถิ ุนำยน 2561 ณ หอ้ งประชุมบรรจง ชูสกลุ ชำติ ช้นั 6 สำนักงำน กศน. มีผเู้ ขำ้ ร่วมประชุม จำนวน 29 คน 2. สรุปผลกำรนิเทศครึ่งหลัง ปีงบประมำณ 2561 (เมษำยน – กันยำยน 2561) โดยหน่วยศึกษำนิเทศก์จัดประชุมสรุปผลกำรนิเทศปลำยปีงบประมำณ 2561 เมื่อวันท่ี 11 - 14 กันยำยน 2561 ณ โรงแรมเนวำด้ำ คอนเวนชั่น โฮเทล จงั หวัดอุบลรำชธำนี มีผู้เขำ้ ร่วมประชุม จำนวน 90 คน
138 ท้ังนี้ ได้สรุปภำพโดยรวมผลกำรนิเทศกำรขับเคลื่อนกิจกรรมตำมนโยบำย จุดเน้น จำนวน 14 เร่ืองในแต่ละประเด็นไดด้ ังนี้ 1. การขบั เคลือ่ นการดาเนนิ งานตามโครงการไทยนิยม ย่ังยืน พบว่ำ จำกกำรที่ผู้บริหำร กศน. ได้รับกำรแตง่ ตง้ั เปน็ คณะทำงำนในทุกระดับ และครู กศน.ตำบล เป็นทีมขับเคล่ือนระดับตำบล ทำให้กำรสร้ำง ควำมเข้ำใจ ควำมพึงพอใจ และการค้นหาความต้องการของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อรำยงำนผล เข้ำสู่ระบบ DMIS ของสำนักงำน กศน. เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ และในหลำยพื้นที่ได้มอบให้ครู กศน. รำยงำนผลตรงสู่ระบบสำรสนเทศของกระทรวงมหำดไทยด้วย ซึ่งนอกเหนือจำกควำมต้องกำรพ้ืนฐำน ด้ำนสำธำรณูปโภค และสิ่งแวดล้อม ยังมีด้ำนสังคมและกำรศึกษำที่สะท้อนควำมไม่พึงพอใจของชุมชนหลำยด้ำน เชน่ ปญั หำกำรตง้ั ทอ้ งในวัยเรียน เด็กออกกลำงคัน ติดยำเสพติด ติดเกมหรือโซเชียลมีเดีย ซ่ึงได้รับการแก้ไข ปัญหาด้วยกิจกรรมโครงการระดับอาเภอ โดยชุมชนทำเองหรือร่วมกับหน่วยงำนภำยนอกแก้ไขปัญหำและ สถานศึกษา กศน. จัดกิจกรรมผ่านโครงการบรรจุเป็นแผนพัฒนา 5 โครงกำร คือ 1) โครงกำรอบรม ประวัติศำสตร์ชำติไทย และบุญคุณของพระมหำกษัตริย์ไทย 2) โครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน 3) โครงกำร ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล 4) โครงกำรศูนย์ส่งเสริม พัฒนำประชำธิปไตยตำบล 5) โครงกำรสรำ้ งเครือข่ำยดิจทิ ัลชุมชนระดบั ตำบล ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จ 1) กำรบูรณำกำรกิจกรรมของหน่วยงำนภำครัฐ คู่มือ กำรดำเนินงำน และกำรช้ีแจงผู้ท่ีเก่ียวข้องทุกระดับ ทำให้ประชำชนให้ควำมร่วมมือและพึงพอใจ เน่ืองจำก ทีมขับเคล่ือนมีหลำยหน่วยงำน ตอบสนองกำรแก้ไขปัญหำได้ในหลำยเรื่อง 2) สมรรถนะของบุคลำกร กิจกรรม และโครงกำรของ กศน. ตอบสนองเป้ำหมำยของโครงกำรได้เป็นอยำ่ งดี ปัญหา อุปสรรค 1) ครู กศน.ตำบลเป็นทีมขับเคล่ือนในทุกเวที รวมท้ังอำจต้องทดแทน ทีมบูรณำกำรอื่นด้วย จึงเกิดควำมกังวลว่ำจะส่งผลต่อกำรประเมินตำมตัวช้ีวัดกำรปฏิบัติงำนด้ำนอ่ืน ๆ 2) กำรจดั ทำเวทีเป็นช่วงเวลำรำชกำร จงึ ทำใหข้ ำดข้อมลู ของประชำกรวัยแรงงำน ข้อนิเทศ ได้แนะนำให้ครูที่ไปร่วมจัดเวทีประชำคมวำงแผนกำรจัดกำรเรียนกำรสอน ให้เหมำะสม โดยอำจใช้เทคโนโลยีมำช่วยในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนหรืออำจมอบหมำยให้ครูมีกำรรับผิดชอบแทนกัน และให้ครูประสำนเวลำท่ีเหมำะสมในกำรจัดเวทีและประชำสัมพันธ์ทุกช่องทำงเพื่อให้ประชำกร ทกุ กลุ่มเปำ้ หมำย โดยเฉพำะวัยแรงงำนไดม้ ีโอกำสมสี ว่ นรว่ มในเวทมี ำกขน้ึ ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน.ควรสร้ำงควำมเข้ำใจกับผู้บริหำรในกำรช้ีแจง ให้สถำนศึกษำเข้ำใจในบทบำทและภำรกิจของโครงกำรที่มีควำมสำคัญไม่น้อยไปกว่ำภำรกิจด้ำนอ่ืน เพ่ือลด ควำมกังวลของครูที่มีต่อกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน 2) สถำนศึกษำควรรำยงำนข้อมูลและใช้ข้อมูล ท้ังเชิงปริมำณและเชิงคุณภำพ เพื่อใช้ในกำรจัดกิจกรรมให้ตรงตำมควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย และ ในกำรแก้ไขปญั หำของชมุ ชนตอ่ ไป 2. 2. การขับเคล่ือนการดาเนินงานโครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของ พระมหากษัตริย์ไทย พบว่ำ ผู้บริหาร ข้าราชการครู และครู กศน.ทุกประเภทได้เข้ารับการอบรมใน 4 หลักสูตร คือ 1) การอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ครูอาสาสมัคร กศน. 2) การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทาคู่มือการจัดกิจกรรม กระบวนการเรียนการสอนเพ่ือการเรียนรู้ เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย 3) การอบรมการจัดกิจกรรม กระบวนการเรียนการสอนเพื่อการเรียนรู้ เร่ืองประวัตศิ าสตรช์ าติไทย 4) ประวัตศิ าสตรช์ าติไทยสาหรับการนเิ ทศ กากับ ติดตาม การดาเนินงาน
139 ท้ังน้ี 1) สำนักงำน กศน.จังหวัดได้จัดอบรมในระดับจังหวัด โดยเชิญวิทยำกรจำก กอ.รมน. หรือบุคลำกร กศน.ท่ีผ่ำนกำรอบรมตำมโครงกำรฯ ของสำนักงำน กศน. 2) สถำนศึกษำได้ขยำยผลให้ควำมรู้ และสร้ำงจิตสำนึกโดยจัดกำรอบรมแก่นักศึกษำ กศน. ในรูปแบบค่ำยไป-กลับ หรือค่ำยพักแรม โดยครู กศน. ท่ีผ่ำนกำรอบรมแล้วเป็นวิทยำกร และ 3) เปิดลงทะเบียนรำยวิชำเลือกเสรีประวัติศำสตร์ชำติไทย แก่นักศึกษำ กศน. หลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน 2551 ตั้งแต่ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2561 ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) สำนักงำน กศน. มีแนวทำงกำรดำเนินงำนท่ีชัดเจน หลักสูตรครอบคลุม สำมำรถนำไปขยำยผลให้กับกลุ่มเป้ำหมำยได้ถูกต้อง 2) ผู้บริหำรสถำนศึกษำ และ บุคลำกรทุกระดับตระหนักในนโยบำย ซ่ึงเน่ืองมำจำกกำรพัฒนำให้ควำมรู้ควำมเข้ำใจจนสำมำรถ จัดกระบวนกำรเรียนกำรสอน โดยเปิดสำขำเรียนรำยวิชำเลอื กเสรีแก่นกั ศกึ ษำ และจดั หำสอื่ ประกอบกำรเรียน กำรสอน ท้ังส่ือ หนงั สอื เอกสำร นิทรรศกำรได้ ปัญหาอุปสรรค อย่ำงไรก็ดี พบว่ำเนื้อหำวิชำประวัติศำสตร์ชำติไทย และบุญคุณของ พระมหำกษัตริย์ไทยมีควำมละเอียดอ่อน ครูต้องมีควำมเข้ำใจอย่ำงถ่องแท้ และมีเอกสำรอ้ำงอิงท่ีเช่ือถือได้ จึงจำเป็นอย่ำงย่ิงที่จะต้องพัฒนำทักษะกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้และกำรผลิตสื่อประกอบกำรสอน ให้ครู สำมำรถต่อยอดและจัดกำรควำมรู้ไดด้ ้วยตนเอง ข้อนิเทศ ผู้นิเทศได้แนะนำเทคนิคกระบวนกำรใช้กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ โดยกำรสำธิต กำรใช้ส่อื กำรเลำ่ เน้อื หำ กำรค้นคว้ำเน้ือหำข้อเท็จจริงท่ีจะใช้ในกำรจัดกระบวนกำรเรียนกำรสอน เพ่ือพัฒนำ ใหค้ รมู ีศักยภำพ สำมำรถถ่ำยทอดควำมรไู้ ดบ้ รรลวุ ตั ถุประสงค์ ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน.ควรจัดหำหรือผลิตสื่อในกำรเรียนรู้สำหรับนักศึกษำ / สื่อกำรอบรมพร้อมคู่มือกำรใช้ สำหรับครูนำไปใช้จัดกำรเรียนกำรสอนได้อย่ำงเหมำะสม รวมท้ังติดตำมผล ยกย่องชมเชยครูหรือสถำนศึกษำท่ีมีผลกำรปฏิบัติที่ดี 2) ควรนิเทศติดตำมผลและสนับสนุนกำรจัดกิจกรรม และกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงต่อเน่ือง 3) สถำนศึกษำควรรวบรวมข้อมูลประวัติศำสตร์ท้องถิ่นเพ่ือจัดทำ เป็นส่ือในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนแก่นักศึกษำ และให้ควำมรู้สร้ำงสำนึกรักบ้ำนเมืองแก่ประชำชน ในพืน้ ที่ 3. โครงการสรา้ งเครือข่ายดิจิทลั ชุมชนระดับตาบล พบว่ำ สำนักงำน กศน.จังหวัดได้อบรม วิทยำกรครู ก ตำมหลักสูตร ควำมร้คู วำมเข้ำใจดจิ ิทัลชุมชนระดับอำเภอ (Digital Literacy Curriculum) เพื่อ ขยำยผลให้ครู ข และ ครู ค ในระดับจังหวัดและอำเภอ ไปจัดกิจกรรมดิจิทัลชุมชนให้กับประชำชนในพ้ืนท่ี รับผิดชอบ และครูได้สืบค้นควำมรู้เร่ืองกำรทำธุรกิจกำรค้ำออนไลน์เพ่ิมเติมจำกสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งประชำชน สนใจเข้ำรับกำรอบรมเรยี นร้ไู ด้และบำงรำยสำมำรถนำควำมรู้ไปประยุกตใ์ ช้เพ่ือขำยสนิ คำ้ ออนไลน์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จ 1) หลักสูตร คือ Digital Literacy และ E- commerce ทใี่ ชอ้ บรมครูมีควำมชัดเจน สื่อครบถ้วน สอดคล้องกับหลักกำรและสำนักงำน กศน.จังหวัด จัดอบรมวิทยำกร แกนนำ ครู ก ครู ข และ ครู ค ไดอ้ ย่ำงเปน็ ระบบ 2) งบประมำณในกำรดำเนินกำรมีเพียงพอ และหลักเกณฑ์ กำรเบิกจ่ำยงบประมำณชัดเจนโดยใช้ระเบียบกำรฝึกอบรมประชำชน 3) มีเครือข่ำยดำเนินงำนอย่ำงมี ประสิทธิภำพ ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหำดไทย กระทรวงศึกษำธิกำร TOT และ DTAC 4) ครู กศน.จัดทีมเพื่อช่วยเหลือกันในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในแต่ละอำเภอเกิดกำรบูรณำกำร ด้ำนทักษะ ควำมรู้ ของครูที่หลำกหลำย ประชำชนได้รับควำมรู้ครบถ้วน 5) กิจกรรมเน้ือหำหลักสูตรดิจิทัล ชุมชนระดบั ตำบล เปน็ เรอื่ งทที่ นั สมยั ทนั เหตกุ ำรณ์ ประชำชนเกิดควำมสนใจในกำรเรยี นรู้
140 ปญั หา อุปสรรค 1) อปุ กรณแ์ ละสัญญำณรองรบั ท้ังของโครงข่ำยและของประชำชนยังไม่ สำมำรถรองรับกำรจัดกำรเรียนกำรสอนได้สมบูรณ์ 2) ครูบำงส่วนที่ผ่ำนกำรพัฒนำแล้วยังไม่สำมำรถดำเนิน บทบำทของวิทยำกรหลกั สูตรดิจทิ ลั ชุมชนระดับตำบลได้ 3) บำงพื้นท่ีไม่สำมำรถรับสมัครผู้เข้ำรับกำรอบรมได้ ครบ 15 คน ตำมท่ีสำนักงำน กศน.กำหนด 4) สถำนศึกษำยังไม่มีกำรติดตำมผลกำรนำควำมรู้ไปใช้ ของกลมุ่ เป้ำหมำย ข้อเสนอแนะ สำนักงำน กศน. ควร 1) พิจำรณำปรับแนวทำงให้สำนักงำน กศน.จังหวัด อำจสรรหำบุคลำกรอ่ืนท่ีมีควำมสำมำรถร่วมเป็นวิทยำกร 2) พิจำรณำยืดหยุ่นกำรกำหนดจำนวน กลุ่มเป้ำหมำยตำมควำมเหมำะสมของพื้นที่ เพ่ือให้กำรจัดกำรเรียนกำรสอนสอดคล้องกับควำมสนใจและ มีประสิทธิผลยิ่งข้ึน 3) ให้ควำมสำคัญต่อกำรจัดสรรงบประมำณในกำรซ่อมบำรุงอุปกรณ์ เพ่ือกำรดำเนินงำน ไดต้ อ่ เนือ่ ง 4. ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบล พบว่ำสถำนศึกษำจัดทำแผนงำน โครงกำร และหลักสูตร เสนอขออนุมัติแล้วครูนำไปสู่กำรปฏิบัติ โดยสอดแทรกเนื้อหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา กศน. และจัดโครงการฝึกอบรม ประชาชนในพืน้ ทีใ่ ห้มีควำมรู้เรื่อง หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ตำมองค์ประกอบ ของปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง ๓ ห่วง ๒ เง่ือนไข จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้ำหมำย ในเร่ืองกำรทำ บัญชีครัวเรือน กำรปลูกผักปลอดสำรพิษ กำรลด ละ เลิก อบำยมุข และกำรครองตน ครองคน ครองงำน เป็นต้น วิทยำกรผู้ให้ควำมรู้ส่วนใหญ่เป็นภูมิปัญญำท้องถิ่น ปรำชญ์ชำวบ้ำน และศึกษำเรียนรู้ จำกแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ รวมท้ังสถำนศึกษำได้จัดทำแฟ้มข้อมูล ทำเนียบภูมิปัญญำท้องถ่ิน ปรำชญ์ชำวบ้ำน แหล่งเรียนรู้ และบันทกึ เป็นข้อมลู สำรสนเทศเพื่อสะดวกในกำรสบื คน้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จ ผู้บริหำร สำนักงำน กศน.จังหวัด อำเภอ ผู้นิเทศ ครู กศน.ตำบล ผู้นำชุมชน ปรำชญ์ชำวบ้ำน และภำคีเครือข่ำย ร่วมกำหนดแนวทำงกำรดำเนินงำน กิจกรรม ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลให้สอดคล้องกับนโยบำยของ สำนักงำน กศน. เช่น กำรพัฒนำบุคลำกรเพื่อถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ กำรปรับปรุงพัฒนำอำคำรสถำนที่ให้เป็น แหล่งเรียนรู้ ดำเนินกิจกรรมหลำกหลำยตำมควำมต้องกำรของชุมชน สร้ำงเครือข่ำยปรำชญ์ชุมชน และ แหล่งเรียนรู้ รวมทั้งใช้รูปแบบกำรจัดกิจกรรมที่หลำกหลำย ทั้งศึกษำดูงำน ฝึกปฏิบัติจริงจำกปรำชญ์ชุมชน ใช้ส่อื ดจิ ทิ ัลในกำรจัดกิจกรรมและกำรสบื ค้นขอ้ มลู จำกแหลง่ เรยี นรู้ ปัญหา อุปสรรค ๑) ควำมไม่ต่อเนื่องในกำรนิเทศ ติดตำมผลของสถำนศึกษำบำงแห่ง และขำดกำรพัฒนำด้ำนกำยภำพทั้งภำยในและภำยนอก เพื่อสร้ำงควำมเชื่อถือและจูงใจนักศึกษำและ ประชำชน 2) ไม่มกี ำรประเมินหลักสูตรทนี่ ำมำใช้ในกำรจดั กิจกรรม ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน. ควรจัดสรรงบประมำณสนับสนุนกำรจัดอบรม ประชำชนและกำรพัฒนำทักษะของครู กศน. เพื่อเพ่ิมพูนควำมรู้และประสบกำรณ์แนวคิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ 2) สำนักงำน กศน.จงั หวดั ควรติดตำมประเมินผล และประกวดคัดเลอื กผบู้ ริหำร ครู นักศึกษำ และประชำชน ท่ีดีเด่น และเผยแพร่เพื่อสร้ำงขวัญกำลังใจ 3) สถำนศึกษำควรพัฒนำ กศน.ตำบลให้เป็นศูนย์เรียนรู้ หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล ที่สำมำรถให้บริกำรควำมรู้เชื่อมโยง กับภำคีเครือข่ำยของตำบลนั้น เช่น กำรพัฒนำครู และบุคลำกรที่เก่ียวข้อง พัฒนำหลักสูตรให้สอดคล้อง กบั บรบิ ทของชมุ ชน จัดประชมุ แลกเปล่ยี นเรยี นรอู้ ยำ่ งต่อเน่ือง
141 5. โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน พบว่ำ สถำนศึกษำทุกแห่งสำมำรถจัดกำรศึกษำอำชีพ ได้สอดคล้องกับควำมต้องกำรของชุมชน สนองควำมต้องกำรของตลำดและหลักสูตรมีองค์ประกอบครบถ้วน โดยพฒั นำจำกหลักสตู รของสำนกั งำน กศน. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จ 1) กำรบริหำรจัดกำรที่เป็นระบบของสถำนศึกษำ เช่น แต่งต้ังคณะกรรมกำรศูนย์ฝึกอำชีพ กำรสำรวจควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย และวิเครำะห์ตลำด รวมทั้ง กำรพัฒนำหลักสูตรท่ีทันสมัยและกำกับ ติดตำมโดยสำนักงำน กศน.จังหวัดอย่ำงต่อเนื่อง 2) กำรเลือกใช้ วตั ถุดิบธรรมชำติในท้องถิน่ ไปเพิม่ มลู คำ่ โดยกำรแปรรูปพัฒนำผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับควำมนิยมในปัจจุบัน 3) กำรพฒั นำต่อยอดอำชพี ของประชำชนในชุมชนในรปู แบบของเครือขำ่ ย ควำมร่วมมอื กนั ภำยในชมุ ชน ปัญหา อุปสรรค 1) วสั ดอุ ปุ กรณ์ฝึกในบำงหลักสูตร มีรำคำสูง เช่น หลักสูตรช่ำงพื้นฐำน 2) ครูผู้สอนยังไม่ได้ใช้แบบติดตำมผู้เรียนและแบบติดตำมยังมีเนื้อหำไม่ละเอียดครบถ้วน ทำให้ขำดข้อมูล ทจี่ ำเป็นในกำรวำงแผนตอ่ ยอดอำชพี ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน. ควรจัดสรรงบประมำณให้เพียงพอต่อกำรจัดซ้ือวัสดุ ในกำรฝกึ ทกั ษะและควำมชำนำญ สำมำรถนำไปใช้สร้ำงอำชีพ สร้ำงรำยได้ พัฒนำหรือต่อยอดอำชีพได้อย่ำงแท้จริง 2) สถำนศึกษำควรนิเทศติดตำม โดยแบบติดตำมท่ีเหมำะสม และเร่งจัดทำข้อมูลศูนย์ฝึกอำชีพชุมชน ด้ำนหลกั สูตร วทิ ยำกร และสรปุ ผลเพือ่ ประชำสัมพนั ธ์ทำงเว็บไซต์ตอ่ ไป 6. ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตาบล พบว่ำ ในกำรร่วมมือขับเคล่ือนงำนระหว่ำง คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง (กกต.) กับ สำนักงำน กศน. โดยกำรจัดต้ังศูนย์ส่งเสริมพัฒนำประชำธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) ใน กศน.ตำบลทุกตำบล สำนักงำน กกต.ได้สร้ำงขวัญกำลังใจโดยจัดกิจกรรมคัดเลือก ศส.ปชต. ดีเด่นระดับอำเภอ และระดับจังหวัด และทบทวนกำรดำเนินงำนและกำหนดทิศทำงกำรพัฒนำร่วมกัน ในรูปแบบโครงกำรต่ำง ๆ เช่น โครงกำรสร้ำงจิตสำนึกวิถีประชำธิปไตย โครงกำรเสริมสร้ำงประชำธิปไตย ในชุมชน โครงกำรสร้ำงเสริมควำมรู้ประชำธิปไตย กำรรณรงค์หมู่บ้ำนไม่ขำยเสียง และจัดทำหมู่บ้ำนไม่ขำยเสียง ต้นแบบ ไปแลว้ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) ผู้บริหำรทุกระดับให้กำรสนับสนุนอย่ำงต่อเนื่อง 2) ครูมีควำมเข้ำใจและมีควำมเสียสละรับผิดชอบ และสำมำรถดำเนินกำรร่วมกับ กกต. ได้อย่ำงมี ประสทิ ธภิ ำพ 3) ภำคเี ครือขำ่ ยให้ควำมรว่ มมือจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ ประชำธิปไตยเป็นอย่ำงดี ปัญหา อุปสรรค 1) คณะกรรมกำร กกต.จังหวัดขำดกำรประสำนงำนตำมระบบ 2) กศน.ตำบลขำดงบประมำณ ส่ือ อุปกรณ์ในกำรดำเนินงำน 3) ครูยังไม่สำมำรถบูรณำกำรเน้ือหำ กบั กิจกรรมกำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ของ กศน.ได้ เชน่ กจิ กรรมค่ำย กจิ กรรมลูกเสอื ฯลฯ ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน. ควรประสำนและวำงแผนกำรจัดกิจกรรมร่วมกับ คณะกรรมกำร กกต. ทุกระดับ ต้ังแต่ต้นปีงบประมำณ และมีกำรสั่งกำรและควบคุมติดตำม ลำดับ กำรบังคับบัญชำ 2) สถำนศึกษำควรมอบหมำยให้ครูจัดทำแผนกำรทำงำนและกำรสอนตำมกิจกรรม ของ กศน.ในเนือ้ หำอยำ่ งชัดเจน 7. โครงการภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสารด้านอาชีพ พบว่ำ สถำนศึกษำได้จัดหลักสูตร โดยกำรสำรวจและวิเครำะห์ ควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย และควำมเหมำะสมกับวิถีชีวิตในพื้นที่ โดยหลักสูตรมีควำมสอดคล้องกับนโยบำยในกำรสร้ำงขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของประเทศ ได้แก่ ภำษำอังกฤษเพื่อขำยสินค้ำ ภำษำอังกฤษเพื่อกำรท่องเท่ียว (ในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต ตรัง พังงำ พระนครศรีอยุธยำ) ภำษำองั กฤษเพื่อพนกั งำนนวดแผนไทย วิทยำกรมีควำมรู้ ควำมสำมำรถและอยู่ในท้องถ่ิน ใช้สื่อคลิปวิดีโอ และสื่อแหล่งเรียนรู้สถำนท่ีจริง ฝึกประสบกำรณ์จริง ฝึกคำศัพท์ง่ำย ๆ ท่ีสอดคล้องกับอำชีพ
142 ของผู้เรียน วัดผลควำมรู้ของผู้เรียนตำมสภำพจริง เช่น กำรตอบคำถำม กำรเข้ำร่วมกิจกรรม หำกผ่ำนเกณฑ์ ทกี่ ำหนดจะไดร้ บั มอบวุฒบิ ัตร และครู กศน. จะตดิ ตำมผู้เรยี นทเี่ รียนจบหลกั สตู รไปแลว้ โดยระบบออนไลน์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จ 1) โครงกำรพัฒนำครูต้นแบบกำรสอนภำษำอังกฤษ (Boot Camp) ทำใหบ้ ุคลำกรทีม่ คี วำมรู้ ควำมสำมำรถ เหมำะสมในกำรดำเนนิ งำนให้บรรลุเป้ำหมำย 2) ชุมชน ได้รับประโยชน์จำกกำรพัฒนำอำชีพ เช่น ผู้นำชุมชน ให้ควำมร่วมมือในกำรคัดสรรวิทยำกร 3) ครู กศน. มีควำมสำมำรถในกำรประสำนงำนกับวิทยำกรท้ังชำวไทยและชำวต่ำงชำติ เพื่อจัดกระบวนกำรเรียนรู้ ภำษำอังกฤษดำ้ นอำชพี ปัญหาอุปสรรค 1) ครูบำงส่วนยังต้องพัฒนำควำมสำมำรถในกำรนำรูปแบบกำรจัดกำรเรียน กำรสอน แบบ Boot Camp ไปใช้ให้เหมำะสมตำมท่ีสำนักงำน กศน.กำหนด 2) ในบำงพ้ืนที่ ผู้เรียนมำเรียน ไมส่ มำ่ เสมอ ขำดควำมตอ่ เนอื่ งหรอื อำจไม่ได้มีวตั ถปุ ระสงคจ์ ะนำควำมร้ไู ปใช้ในงำนอำชพี 8. การจัดการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปร่ือง) พบว่ำ ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ ไ ด้ ศึ ก ษ ำ ก ลุ่ ม เ ป้ ำ ห ม ำ ย เ พ่ื อ น ำ ข้ อ มู ล ม ำ ใ ช้ จั ด ก ำ ร เ รี ย น รู้ แ ล ะ จั ด ท ำ ห ลั ก สู ต ร ใ ห้ ทั น ส มั ย ทันเหตุกำรณ์ เพ่ือส่งเสริมให้เกษตรกรมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในกำรเป็น Smart Farmer เห็นช่องทำง หรือ พัฒนำอำชีพด้ำนกำรเกษตร ผ่ำนกระบวนกำรท่ีหลำกหลำย สามารถยกระดับเป็น Smart Farmer ของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจัดสอนกลุ่มเป้ำหมำยประชำชน ตำบลละ 10 – 15 คนขึ้นไป ระยะเวลำ 18 ชั่วโมง (3 วัน) วิทยำกรจำกเครือข่ำย ได้แก่ สำนักงำนเกษตรอำเภอ สำนักงำนพัฒนำชุมชนอำเภอ หมอดินอำสำ ทำให้ประชำชนที่เข้ำรับกำรอบรม มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในเร่ืองกำรทำเกษตรกรรมตำมควำม เหมำะสมของพ้ืนที่และเห็นช่องทำง หรือพัฒนำอำชีพทำงกำรเกษตร เมื่อจบหลักสูตรแล้วสำมำรถนำควำมรู้ ไปประกอบอำชีพ มีงำนทำ มีรำยได้ และมีกำรรวมกลุ่มในชุมชนตำมเป้ำหมำย “ชุมชนพ่ึงตนเอง ทำได้ ขำยเป็น” สำมำรถใช้เทคโนโลยีเป็นช่องทำงกำรเผยแพร่ จำหน่ำยผลิตภัณฑ์ และสำมำรถเข้ำถึงแหล่งข้อมูลท้ังจำก เจำ้ หนำ้ ทแี่ ละผ่ำนทำงระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศ ตลอดถงึ กำรสื่อสำรอื่น ๆ เช่น Internet , Mobile Phone, Smart Phone เป็นต้น และยกระดับตนเองในกำรเป็น Smart Farmer จำกกำรประเมินควำมพึงพอใจของผู้เรียน พบว่ำ ผ้เู รยี นทุกหลกั สูตร มคี วำมพึงพอใจตอ่ กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ แต่ข้อมูลกำรติดตำมผลกำรนำควำมรู้ ไปใช้ยังมีไม่มำก พบเพียงว่ำ ผู้เข้ำร่วมโครงกำรได้นำควำมรู้ด้ำนกำรเกษตรไปใช้ในกำรประกอบอำชีพ หรือ พฒั นำต่อยอดอำชพี เกษตรกร ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) กลุ่มเป้ำหมำยให้ควำมร่วมมือเป็นอย่ำงดีในกำรจัด กระบวนกำรเรียนรู้เพรำะเป็นเรื่องใกล้ตัว และมีแรงจูงใจที่จะพัฒนำตนเอง ประกอบกับต้องกำรต่อยอดอำชีพ เกษตรกรรมและมีควำมเช่ือมั่น ศรัทธำและมีควำมภูมิใจในควำมเป็นเกษตรกร 2) สำนักงำน กศน.จังหวัด และสถำนศึกษำ ติดตำมผล สรุปรำยงำนตำมที่สำนักงำน กศน.กำหนด และกำรนำผลกำรดำเนินงำน รุ่นแรกไปวำงแผนพัฒนำกำรดำเนินงำนในพ้นื ท่ีตำบลที่เหลอื ในรุน่ ต่อไป ปัญหาอุปสรรค 1) สัญญำณอินเทอร์เน็ต ณ จุดอบรมไม่เสถียร 2) พื้นฐำนควำมรู้และ อปุ กรณ์และดำ้ นเทคโนโลยขี องกล่มุ เป้ำหมำยแตกต่ำงกัน ข้อเสนอแนะ 1) สถำนศึกษำควรถอดบทเรียนควำมสำเร็จเปรียบเทียบระหว่ำง Smart Farmer ต้นแบบกับเกษตรกรรำยอื่น ๆ เพ่ือพัฒนำเกษตรกรในพ้ืนที่ได้อย่ำงเหมำะสม 2) สำนักงำน กศน.จังหวัด ควรส่งเสรมิ ให้ผนู้ ิเทศภำยในชว่ ยเหลือหรือใหค้ ำแนะนำในกำรดำเนินงำนของครู กศน.ตำบลอยำ่ งต่อเน่ือง
143 9. กศน.ตาบล 4 G พบว่ำ Good Teacher ครู กศน.ตำบลพร้อมเป็นครูมืออำชีพ จำกกำร พัฒนำทักษะต่ำง ๆ เช่น การจัดทาแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการ การจัดทาหลักสูตรรายวิชาเลือก การจัด กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ เป็นต้น ครูร้อยละ 80 นาเทคโนโลยีสารสนเทศมาจัดการเรียน การสอน ได้หลากหลาย ทันสมัย เช่น เรียนออนไลน์ ข้อสอบออนไลน์ ติดตำมผู้เรียนโดยกลุ่ม Line และ Facebook เป็นต้น Good Places Best Check-In กศน.ตำบล ร้อยละ 70 1) มีสภำพแวดล้อมสะอำด สวยงำม 2) มีจำนวนคอมพิวเตอร์เพียงพอใช้งำนและให้บริกำรตำบล และ 3) ให้บริกำรอินเทอร์เน็ตได้ ตำมโครงกำรเนต็ ประชำรัฐ ซงึ่ ทำให้จำนวนผูร้ บั บรกิ ำรเพม่ิ มำกข้นึ เขำ้ มำใช้บรกิ ำรอย่ำงสม่ำเสมอ และมีควำม พงึ พอใจในกำรรับบริกำรมำก Good Activities กำรจัดกิจกรรมสำมำรถ 1) ตอบสนองควำมต้องกำรของชุมชนและ เสรมิ สรำ้ งคณุ ภำพชีวิต เช่น กำรดูแลสุขภำพกำยใจ กำรอนุรักษ์ธรรมชำติ กำรดำรงชีวิตตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพียง 2) สำมำรถพัฒนำศักยภำพของคนในชุมชนให้มีคุณภำพ โดยมีการใช้สมาร์ทโฟน แอพพลิเคช่ันท่ีควรรู้ การคิดวิเคราะห์ แลกเปลยี่ นควำมรู้ระหวำ่ งครูกบั ครู ครูกับผูเ้ รียน และประยุกต์ใช้ในกำร ดำเนนิ ชีวติ สำมำรถแกไ้ ขปญั หำในกำรดำเนินชวี ติ และอำชพี ได้ Good Partnerships ด้ำนเครือข่ำย สำมำรถประสำนควำมร่วมมือจำกเครือข่ำยที่หลำกหลำย เชน่ กอ.รมน. องคก์ ำรโทรศัพท์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรเลอื กตั้ง โรงพยำบำลสตั ว์ ฯลฯ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) นโยบำยมีควำมชัดเจนและตรงกับศักยภำพของ บคุ ลำกร 2) กำรนเิ ทศ ตดิ ตำม แนะนำเป็นไปอยำ่ งใกล้ชดิ สม่ำเสมอ ปัญหา อุปสรรค 1) ด้ำนขวัญกำลังใจของครู กศน.ตำบลบำงแห่งยังเป็นครู ศรช. รับผิดชอบ ไม่มีควำมม่ันคงในอำชีพและในเขตเมืองครูลำออกบ่อย กำรปฏิบัติงำนไม่ต่อเน่ือง 2) กศน.ตำบล หลำยแหง่ ยังไมเ่ ป็นเอกเทศ ยงั ไมส่ ะดวกในกำรใหบ้ รกิ ำร ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน. ควรจัดสรรอัตรำกำลังครู กศน.ตำบลให้ครบทุกตำบล 2) สำนักงำน กศน. ควรพัฒนำครู กศน.ตำบลให้สำมำรถกำรออกแบบกิจกรรมกำรเรียนรู้ท่ีมีควำม น่ำสนใจ หลำกหลำย และมีประสิทธิภำพ รวมท้ังจัดประสบกำรณ์เรียนรู้ศึกษำดูงำนจำก กศน.ตำบลท่ีประสบควำมสำเร็จ ในระดับกล่มุ ระดับภำคและระดบั ประเทศ 10. การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พบว่ำ ครูผู้สอนจัดกำรเรียนรู้ผ่ำนส่ือออนไลน์ได้อย่ำงหลำกหลำย ชอ่ งทำง เชน่ Google Classroom Line และ Facebook เพื่อช่วยเหลือผู้เรียนท่ีมีเวลำน้อย และในกรณีที่ครู ไม่สำมำรถจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ได้ตำมแผนท่ีกำหนดไว้ โดยเสริมด้วยกำรเยี่ยมบ้ำนติดตำมผู้เรียน และ กิจกรรมพัฒนำผู้เรียนอื่น ๆ ตำมแนวทำงท่ีสถำนศึกษำกำหนด โดยครู ร้อยละ 80 ใช้ส่ือภูมิปัญญำชำวบ้ำน สมุดกิจกรรม และเรียนรู้วิธีกำรนำส่ือคลิปวิดีโอมำช่วยในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน อย่ำงไรก็ตำม ครูร้อยละ 20 ท่ียงั คงใช้เพียงหนังสอื เรียนอย่ำงเดยี ว สำหรับกำรวัดผล/ประเมินผล ในกำรสอนรำยวิชำเลือกเสรีสถำนศึกษำสำมำรถกำหนด จัดทำแบบเรียนรว่ มกัน แตพ่ บว่ำร้อยละ 90 ยังขำดกำรประเมินตำมสภำพจริง และยงั ขำดกำรวิเครำะห์ข้อมูล ผเู้ รียนท่เี ขำ้ สอบ/คะแนนผลสัมฤทธิท์ ำงกำรเรียนและสำรสนเทศในกำรพัฒนำผู้เรยี น ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จ 1) ผู้บริหำรระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ผู้นิเทศ ครูร่วม กำหนดแนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพและกำกับติดตำมอย่ำงต่อเนื่อง 2) กำรอบรมและพัฒนำครูให้สำมำรถ ใช้สื่อกำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำยและทันสมัย เช่น กำรใช้ห้องเรียนออนไลน์ ส่ือดิจิทัล โปรแกรม ช่วยแก้ปัญหำ ในรำยวิชำที่ครูขำดควำมชำนำญในเน้ือหำ 3) สถำนศึกษำจัดกิจกรรมพัฒนำคุณภำพผู้เรียน เช่น สอนเสริม
144 ในรำยวิชำท่ีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนต่ำ และติวเข้มก่อนสอบ 4) กำรสนับสนุนของเครือข่ำย ในเรื่องต่ำง ๆ เช่น กำรให้ควำมร่วมมือในกำรจัดกิจกรรม กำรอนุเครำะห์เอื้อเฟ้ือสถำนที่ วัสดุอุปกรณ์ และสนับสนุน งบประมำณ เป็นตน้ ปัญหา อุปสรรค 1) ครูยังไม่ได้ปรับกระบวนกำรทำงำนโดยจัดลำดับควำมสำคัญ ของงำน เช่น งำนชุมชน งำนนโยบำยเร่งด่วน และงำนพบกลุ่ม โดยใช้เทคนิคและวิธีกำร รวมท้ังสื่อช่วยสอน ต่ำง ๆ มำประยุกต์ใช้ในกำรทำงำนตำมเกณฑ์กำรประเมิน 2) ครูร้อยละ 50 ยังไม่ได้ให้ควำมสำคัญในกำร จัดทำบันทึกหลังกำรสอน จึงไม่สำมำรถเช่ือมโยงไปสู่กำรแก้ปัญหำและกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ของผู้เรียน ไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน. ควรให้ควำมสำคัญและพัฒนำโปรแกรม ITW ให้ สำมำรถประเมินผล เพ่ือตอบสนองกับกำรประเมินครู กศน. 2) สถำนศึกษำควรจัดให้ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ อยำ่ งสม่ำเสมอ โดยใช้ประบวนกำร PLC (Professional Learning Community) เพ่ือจดั กำรเรยี นรู้อยำ่ งต่อเนื่อง 11. การศึกษาต่อเนื่อง พบว่ำ สถำนศึกษำ 1) จัดกำรศึกษำอำชีพเพื่อกำรมีงำนทำอย่ำงยั่งยืน ในรูปแบบศูนย์ฝกึ อำชพี ชมุ ชน 2) จัดกำรศึกษำเพื่อพัฒนำทักษะชีวิต กำรศึกษำเพ่ือพัฒนำสังคมและชุมชนได้ สอดคล้องตรงกับสภำพปัญหำและควำมต้องกำรของชุมชน และพัฒนำหลักสูตรให้มีเน้ือหำที่ทันสมัย สอดคลอ้ งกบั ชุมชนกลมุ่ เป้ำหมำย และแนวทำงกำรพฒั นำประเทศ ทงั้ นี้ ยงั ไม่มกี ำรประเมินหลักสูตร วิทยำกร สว่ นใหญเ่ ปน็ ผู้รู้ ภมู ิปัญญำ ปรำชญ์ชำวบำ้ น ทอี่ ยู่ในชุมชน ผู้จบหลักสูตรส่วนใหญ่นำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจำวัน แต่ไม่สำมำรถพัฒนำต่อยอดสู่วิสำหกิจชุมชนได้ บำงคนนำควำมรู้ไปใช้ในกำรประกอบอำชีพ เสริมหรือพัฒนำอำชีพเดิมให้มีรำยได้เพ่ิมขึ้น กำรรวมกลุ่มของชุมชนมีน้อยท่ีจะทำได้ขำยเป็น ยกเว้นกรณีมี กลุ่มของตนเองอยู่แล้ว ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) สถำนศึกษำได้รับกำรสนับสนุนจำกภำคีเครือข่ำย ในพื้นท่ีด้ำนต่ำง ๆ เช่น กำรให้ควำมอนุเครำะห์สถำนท่ี กำรสนับสนุนวิทยำกร เป็นต้น 2) สถำนศึกษำมีหลักสูตร ที่หลำกหลำย และสอดคล้องกับตำมควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย 3) วิทยำกร มีองค์ควำมรู้ และสำมำรถ จัดกระบวนกำรเรียนรู้ได้ตำมจุดประสงค์ของหลักสูตร 4) สถำนศึกษำปรับแผนกำรดำเนินงำนจำกกำรทำเวที ประชำคมไทยนิยม ยัง่ ยืน เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทและควำมต้องกำรของประชำชน ปัญหา อุปสรรค 1) ผู้เข้ำร่วมกิจกรรมมีภำรกิจในกำรประกอบอำชีพ ทำให้ไม่มีเวลำ เข้ำร่วมกิจกรรม หรือไม่สำมำรถอยู่ร่วมจนจบหลักสูตร 2) สถำนศึกษำขำดกำรติดตำมผลหลังจัดกิจกรรม ทำใหไ้ มม่ ีขอ้ มูลในกำรพฒั นำหลักสตู ร กำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ และกำรนำควำมรู้ไปใช้ ขอ้ เสนอแนะ สถานศึกษาควรกากับ ติดตามผลการนาไปใชข้ องผเู้ รยี นหลังจบหลกั สตู ร 12. การศึกษาตามอัธยาศัย ห้องสมุดประชาชน พบว่ำ ส่วนใหญ่มีสภำพควำมพร้อมให้บริกำร ทั้งด้ำนงบประมำณ ซ่ึงได้รับการสนับสนุนด้านการพัฒนาจากภาคีเครือข่ายหลากหลาย เช่น งบยุทธศาสตร์จังหวัด งบพัฒนา ท้องถ่ิน เป็นต้น และกำรจัดกิจกรรม โดยได้พัฒนำกิจกรรมให้หลำกหลำยและทันสมัย เช่น กำรใช้ แอปพลิเคช่ันสนับสนุนกำรส่งเสริมกำรอ่ำน เช่น QR Code Facebook แนะนำหนังสือ/สถำนท่ีท่องเที่ยว/ เส้นทำงประวตั ิศำสตร์ต่ำง ๆ เปน็ ต้น จัดมุมกำรเรียนรู้ มุมแสดงหนังสือใหม่/หนังสือเด็ก มุมอินเทอร์เน็ต และ wi-fi กำรจัดทำฐำนข้อมูลทะเบียนหนังสือ โดยใช้โปรแกรมระบบบริกำรงำนห้องสมุด (PLS) และระบบเชื่อมโยง ฐำนข้อมูล สำมำรถทำได้ครบทุกห้องสมุดประชำชน อย่ำงไรก็ดี พบว่ำมีบำงแห่งยังขำดฐำนข้อมูลด้ำนควำม ตอ้ งกำรของผู้ใช้บรกิ ำร
145 ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) บรรณำรักษ์และเจ้ำหน้ำท่ีห้องสมุดประชำชน มีควำมรู้ควำมสำมำรถ และตระหนักในบทบำทหน้ำที่ของตนเอง 2) ภำคีเครือข่ำยให้กำรสนับสนุนทรัพยำกร ในกำรจดั กิจกรรมของห้องสมุดประชำชน 3) ผู้บรหิ ำรทุกระดบั ให้ควำมสำคัญและนิเทศกิจกรรมอย่ำงต่อเนื่อง ปัญหาอุปสรรค 1) ห้องสมุดประชำชนบำงแห่งไม่มีเจ้ำหน้ำท่ีที่จบสำขำวิชำ เอกบรรณำรกั ษ์ 2) ในบำงแห่งบรรณำรกั ษต์ อ้ งช่วยรับผดิ ชอบงำนอ่นื ด้วย เช่น งำนทะเบยี น กำรเงิน และพัสดุ 3) จำนวนผูใ้ ชบ้ รกิ ำรหอ้ งสมุดลดลง 4) ขำดแคลนอปุ กรณ์ดำ้ นไอที ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน. ควรสรรหำบุคลำกรที่มีควำมรู้เฉพำะด้ำน บรรณำรักษ์ศำสตร์และพัฒนำบุคลำกรด้ำนห้องสมุดประชำชนอย่ำงต่อเนื่อง โดยกำหนดเนื้อหำหลักสูตร ท่ีทันสมัย เท่ำทันต่อเป้ำหมำยกำรเรียนรู้ในวิถีชีวิตปัจจุบัน 2) ผู้บริหำรทุกระดับควรสนับสนุนกำรร่วมมือ ด้ำนเครอื ขำ่ ยเพ่อื พัฒนำอุปกรณ์ทที่ นั สมยั และบริกำรทม่ี ีประสิทธภิ ำพ บ้านหนังสือชุมชน พบว่ำ ครู กศน.ตำบลร่วมประสำนงำนกับบรรณำรักษ์ห้องสมุด ประชำชนอำเภอ เพ่ือให้เกิดหน่วยส่งเสริมกำรศึกษำตำมอัธยำศัยที่เข้ำถึงครัวเรือนประชำชน ท่ีชุมชนดูแล รับผิดชอบเอง ซึ่งบ้ำนหนังสือชุมชนมักอยู่ร่วมกับร้ำนค้ำในชุมชน โรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพตำบล จัดกิจกรรม มมุ หนงั สือ กลุม่ สนใจ (โดยครู กศน.ตำบล) และมบี รกิ ำรสญั ญำณ wi-fi ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จ 1) ได้รับกำรสนับสนุนจำกผู้นำชุมชนและภำคีเครือข่ำย ในพื้นที่ 2) ผู้บริหำร กศน. ทุกระดับให้ควำมสำคัญ โดยนิเทศ ติดตำมด้วยตัวเองหรือมอบหมำยให้ศึกษำนิเทศก์ แนะนำช่วยเหลือ 3) มีกำรหมุนเวียนหนังสือและจัดกิจกรรมตรงตำมควำมต้องกำรของกลุ่มเป้ำหมำย 4) กำรให้รำงวัลประเภทต่ำง ๆ เช่น บ้ำนหนังสือชุมชนต้นแบบระดับประเทศ รำงวัลประเภทบุคคล เป็นกำร สร้ำงขวญั กำลงั ใจท่ีดี ปัญหาอุปสรรค กำรหมุนเวียนหนังสือไปที่บ้ำนหนังสือชุมชนยังขำดแคลน หนงั สอื ใหม่ ๆ และทนั สมัย ข้อเสนอแนะ ควรนำผลกำรประเมินควำมพึงพอใจของผู้รับบริกำร หรือผลกำรสำรวจ ควำมต้องกำรมำวิเครำะห์เพื่อนำสู่กำรพัฒนำ ปรับปรุงกำรดำเนินงำนบ้ำนหนังสือชุมชน และจัดประกวด คดั เลอื กบ้ำนหนงั สือชมุ ชนอย่ำงตอ่ เนอื่ ง ห้องสมุดเคล่ือนท่ีสาหรับชาวตลาด พบว่ำ กำรจัดกิจกรรมเป็นไปตำมควำมพร้อมของ บุคลำกร ไมก่ ำหนดสถำนท่แี น่นอน มักเคลื่อนท่ไี ปตำมควำมถนดั ชุมชนในพน้ื ท่ีตำ่ ง ๆ แตก่ ็สำมำรถจัดกิจกรรม ได้เหมำะสม โดยเฉพำะห้องสมุดเคล่ือนที่ต้นแบบ 77 แห่ง (ภำคกลำง 17 แห่ง ภำคเหนือ 17 แห่ง ภำคใต้ 14 แหง่ ภำคตะวนั อออก 9 แห่ง และภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 แหง่ ) ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) ชุมชนและภำคีเครือข่ำยในพ้ืนท่ีให้กำรสนับสนุน 2) สำนักงำน กศน.จังหวัด และสถำนศึกษำ นิเทศ ติดตำมผลอย่ำงต่อเน่ือง 3) มีกำรประชำสัมพันธ์ ผำ่ นช่องทำงทหี่ ลำกหลำย ปัญหาอุปสรรค ห้องสมุดเคล่ือนที่ต้นแบบ จำนวน 77 แห่ง ซึ่งกำหนดเป้ำหมำย จัดกิจกรรมต่อเน่ือง ต้องเผชิญปัญหำสภำพพื้นที่น้ำนองพื้น ฝุ่นละออง กล่ิน และเสียงรบกวน รวมทั้งผู้ค้ำ และผสู้ ัญจรไปมำ อำจไมม่ เี วลำเพียงพอจะนง่ั อ่ำนหนงั สือ ข้อเสนอแนะ 1) สำนักงำน กศน.ควรจัดรวบรวมข้อมูลและประชุมทำงวิชำกำร เพื่อพัฒนำวิธีกำรจัดกำรห้องสมุดเคล่ือนที่ชำวตลำดอย่ำงต่อเน่ือง 2) สถำนศึกษำควรปรับเปล่ียนและพัฒนำ วิธีกำรเพื่อกระตุ้นกำรอ่ำนท่ีหลำกหลำยและเหมำะสมกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้ำหมำยท่ีมีเวลำน้อย เช่น บริกำรให้ยืมกลบั บำ้ น หรือตำมควำมเหมำะสม เปน็ ต้น
146 13. การประกันคุณภาพการศึกษา พบว่ำ กลุ่มสำนักงำน กศน.จังหวัดและสถำนศึกษำ ทั่วประเทศเข้ำร่วมกิจกรรมกำรประชุมช้ีแจงแนวทำงกำรประเมินคุณภำพกำรศึกษำ (3 มำตรฐำน 20 ตัวบ่งช้ี) แต่สถำนศึกษำบำงแห่งยังไม่สำมำรถต้ังค่ำเป้ำหมำยได้ กำรนิเทศแนะนำช่วยพัฒนำทักษะกำรเขียนรำยงำน กำรประเมินตนเอง (SAR) เพิ่มเติม จึงเป็นส่ิงจำเป็นอย่ำงย่ิง ซึ่งศึกษำนิเทศก์สำนักงำน กศน.จังหวัด ร้อยละ 75 ไดเ้ ข้ำร่วมดำเนินกำรชีแ้ จงในรูปแบบกลุม่ จงั หวัดขับเคลอ่ื นแนวทำงกำรประกันคุณภำพ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จ 1) บุคลำกรในสถำนศึกษำมีควำมตระหนักในเรื่อง มำตรฐำนตัวบ่งช้ีจำกกำรอบรม ประชุมชี้แจง ฝึกปฏิบัติ และศึกษำดูงำน 2) เครือข่ำยและชุมชนให้ควำมร่วมมือ และมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำและกำรประกันคณุ ภำพกำรศึกษำ ปัญหา อุปสรรค 1) สถำนศึกษำบำงแห่งยังไม่เข้ำใจกำรต้ังค่ำเป้ำหมำยในมำตรฐำน ท่ี 1 และบำงแห่งขำดกำรจัดระบบฐำนข้อมูลสำรสนเทศ ทำให้ไม่สำมำรถนำข้อมูลมำประเมินคุณภำพภำยใน ของสถำนศกึ ษำ ข้อเสนอแนะ สำนักงำน กศน. ควร 1) เร่งทบทวน สร้ำงควำมเข้ำใจ และสร้ำงควำมชัดเจน ในกำรประกันคุณภำพของสำนักงำน กศน. 2) ควรมีทีมงำนที่เช่ียวชำญ สำมำรถให้คำปรึกษำแก้ไขปัญหำ กำรดำเนินงำนคุณภำพภำยในสถำนศึกษำทุกดำ้ น 14. ประเด็นการขับเคล่ือนงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์) พบว่ำ นอกเหนือไปจำกที่ได้กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น คือ กำรขยำยผลชุมชนต้นแบบฯ (ข้อ 1) กำรเปิดพ้ืนที่ กศน.อำเภอ/ตำบลทั่วประเทศเป็น OOCC (ข้อ 2) กำรแก้ปัญหำประชำกรวัยเรียนท่ีอยู่นอก ระบบกำรศึกษำ (ข้อ 3) ซ่ึงสำนักงำน กศน.จังหวัดร่วมกับศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำม อัธยำศัยกลุม่ เป้ำหมำยพเิ ศษ (ศกพ.) ดำเนินกำรอย่ำงเปน็ รปู ธรรม และกำรส่งเสรมิ ดแู ลสุขภำวะของประชำชน ในพืน้ ท่ี (ขอ้ 4) ไดก้ ลำ่ วมำข้ำงต้น ในกำรนเิ ทศตดิ ตำมผลยังพบวำ่ การส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาไทย สำนักงำน กศน.จังหวัด ได้จัดทำแบบสำรวจข้อมูล ผู้ไม่รู้หนังสือร่วมกับผู้นำชุมชนและเครือข่ำย กลุ่มเป้าหมายคือผู้ลืมหนังสือและผู้ไม่รู้หนังสือ ซ่ึงได้ส่งเสริม กำรเรียนรู้อ่ืน ๆ แก่ผู้ผ่ำนกำรประเมินผล โดยกำรแนะแนวให้ผู้เรียนศึกษำต่อในระดับที่สูงขึ้น เข้ำสู่ กระบวนกำรเรียนข้ันพื้นฐำน ระดับประถมศึกษำ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น และระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย หรือกำรศึกษำเพื่อกำรมีอำชีพ กำรมีงำนทำ อย่ำงไรก็ตำมพบว่ำผู้เรียนส่วนมากเป็นผู้สูงวัย กำรเรียนรู้ ค่อนข้ำงชำ้ ทำให้กำรเรียนบำงคร้ังไม่เปน็ ไปตำมแผน ส่งผลให้ผ้เู รียนบำงคนอำจเกิดกำรเบือ่ หน่ำย การเพ่มิ อตั ราการอา่ นของประชาชน จำกกำรดำเนินงำนรวม 3 กิจกรรม คือห้องสมุด ประชาชน บ้านหนังสือชุมชน และห้องสมุดเคลื่อนท่ีสาหรับชาวตลาดเป็นปัจจัยสาคัญในการขับเคลื่อน โดยกำรประสำนกิจกรรมร่วมกับจังหวัด/อำเภอเคลื่อนที่ ซ่ึงควรให้บรรณำรักษ์ช่วยประชำสัมพันธ์เพื่อเพ่ิม จำนวนสมำชกิ หอ้ งสมุดประชำชน ส่งเสริมกำรยืมหนังสือไปอ่ำน และออกติดตำมบ้ำนหนังสือชุมชนอย่ำงน้อย สัปดำหล์ ะ 1 ครั้ง เพ่ือนำมำใช้พัฒนำงำนต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220