Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เถาวัลย์แก่งกระจาน

เถาวัลย์แก่งกระจาน

Description: ปรากฎการณ์ “ป่าถล่ม” หรือ การที่เถาวัลย์ขึ้นปกคลุมอย่างหนาแน่น เป็นเหตุให้เกิดการหักโค่น ยุบลงของต้นไม้มาทับกองบนพื้นดินเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่า และสภาพแวดล้อมของป่า จึงได้เกิดเป็นโครงการวิจัยเพื่อศึกษาเถาวัลย์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขึ้น การศึกษาในครั้งนี้พบ เถาวัลย์ทั้งหมด 33 ชนิด เช่น หนามเฮื้อง เครือออน กระดูกกบ รางแดง สะแกเถา สะแล กำแพงเจ็ดชั้น

Search

Read the Text Version

45 MALVACEAE

เถาวัลย์แก่งกระจาน 46 MALVACEAE ละหงุ่ เครอื Byttneria andamanensis Kurz MALVACEAE ชื่ออืน่ : ไก่ปล่อย ซีหย่อ ย่ำนมนั แดง สำเครอื ลกั ษณะทว่ั ไป : ไมเ้ ถำ หรอื ไมพ้ มุ่ ทอดเลื้อย กง่ิ ออ่ นเป็นสนั ตำมยำว และมขี นปกคลุ ม ใบเดย่ี ว เรยี งสลับ รูปหวั ใจหยักเวำ้ 3 แฉก ปลำยใบเปน็ ต่ิงแหลม ขอบใบหยักซฟ่ี ันหรือจกั ฟันเลื่อย โคนใบรปู หัวใจ ดอกแบบชอ่ กระจกุ หรือชอ่ ซร่ี ม่ ตำมซอกใบ ดอกสีแดงอ่อน หรอื สแี ดงอมชมพู กลบี เล้ยี งสขี ำว 5 กลีบ มขี นปกคลุมทงั้ สองด้ำน กลบี ดอกสแี ดงอมชมพู 5 กลีบ ผลแห้งแล้วแตก ทรงกลม มหี นำมเปน็ ปุ่ม ผลออ่ นสีเขียว เมอื่ แก่สดี ำแตก 5 พู เมลด็ สดี ำ รปู รี เปน็ สนั ตำมยำว 3 สัน นเิ วศวทิ ยา : พบตำมปำ่ ดิบชน้ื ป่ำดิบแลง้ สองข้ำงนำ้ และท่ีโดนแผ้วถำง ทคี่ วำมสูง 50 – 700 เมตร จำกระดบั ทะเลปำนกลำง ออกดอกระหว่ำงเดอื นสิงหำคม - พฤศจกิ ำยน ประโยชน์ : ท้ังต้น มัดประคบแก้ปวดบวม ขดู เปลือกผสมนำ้ มะนำวใชส้ ระผม น้ำในเถำใชด้ ืม่ แก้ หน้ำมดื วิงเวยี น ค่า (IVI) / ลาดบั ท่ี คา่ (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคัญของละหุ่งเครือในแปลงตัวอย่างท่ีศึกษา คำ่ IVI (%) กโิ ลเมตรที่ 3 กโิ ลเมตรท่ี 8 กโิ ลเมตรท่ี 15 แปลงตดั เถาวัลยป์ ี 2553 ลำดบั ท่คี ำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตัดเถาวัลย์ คะแนน -- - - 3.25 - -- - แปลงควบคุม -- - - 32 - -- - -- - -2 - -- - นอ้ ย คะแนนรวม 2 ระดับควำมสำคัญ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่า และพันธุ์พชื

47 OLEACEAE

เถาวลั ยแ์ ก่งกระจาน 48 OLEACEAE ฝนแสนห่า Myxopyrum smilacifolium (Wall.) Blume subsp. smilacifolium OLEACEAE ช่อื อื่น : เครือเขำเล่ียม เถำวลั ย์ปลิง พูพ่อคำ้ ลักษณะทวั่ ไป : ไม้เถำเน้อื แข็ง กงิ่ กำ้ นเป็นสี่เหลย่ี มคม เกลย้ี ง ใบ รูปรี – รูปไข่ ปลำยใบแหลม – เรยี วแหลม โคนใบแหลม – กลม ขอบใบเรยี บ - จักฟันเล่อื ยทปี่ ลำยใบเลก็ นอ้ ย แผน่ ใบ เหนยี ว เรยี บเกลย้ี ง มเี สน้ แขนงใบ 1 คู่ ออกจำกโคนใบ ดอกแบบช่อแยกแขนง ออกทซี่ อกใบ มีขนสนั้ ประปรำย ดอกขนำดเลก็ สีเหลอื งอมเขียว ผลสดมีเนือ้ ทรงกลม เสน้ ผ่ำนศูนยก์ ลำง 5 – 10 มิลลเิ มตร ผวิ เกลีย้ ง ผลออ่ นสเี ขียว เมือ่ สกุ สแี ดง – สีมว่ ง มี 2 – 4 เมลด็ นิเวศวทิ ยา : พบตำมป่ำดิบแลง้ และปำ่ ดิบชืน้ เกอื บท่ัวประเทศ ทค่ี วำมสงู ประมำณ 100 เมตร จำกระดบั ทะเลปำนกลำง ออกดอกระหว่ำงเดือนตลุ ำคม - พฤศจิกำยน ประโยชน์ : ลาตน้ และใบ แช่นำ้ ทำอำกำรชำตำมแขนขำ เถา รสเมำเบ่ือ ขบั เหง่ือ ดับร้อน ขบั พิษไข้ ขบั พิษรอ้ นภำยใน เป็นยำอันตรำย ใช้มำกทำใหเ้ หงอื่ ออกมำก หนำวส่ัน ตวั ซดี เห่ยี วตำย คา่ (IVI) / ลาดบั ที่ คา่ (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคัญของฝนแสนห่าในแปลงตวั อยา่ งทีศ่ กึ ษา ค่ำ IVI (%) กิโลเมตรท่ี 3 กิโลเมตรที่ 8 กิโลเมตรท่ี 15 แปลงตัดเถาวลั ย์ปี 2553 ลำดับทคี่ ่ำ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไมต่ ดั เถาวัลย์ คะแนน -- - -- - - - 1.07 แปลงควบคุม -- - -- - - - 43 -- - -- - -- 1 นอ้ ย คะแนนรวม 1 ระดับควำมสำคญั กรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพนั ธ์ุพืช

49 FABACEAE

เถาวัลย์แก่งกระจาน 50 FABACEAE แกว้ มอื ไว Pterolobium micranthum Gagnep. FABACEAE ชอ่ื อืน่ : เถำกล่ำตำหนู เถำหนำมหนั พญำเทครวั หนำมงำย ลกั ษณะทั่วไป : ไม้เถำเนื้อแข็ง ลำตน้ และกิ่งมหี นำมงองุ้ม แหลมคม ก่ิงอ่อนมีรอ่ งตำมยำว ใบประกอบ แบบขนนกสองชนั้ ปลำยคู่ ใบย่อยเรียงตรงขำ้ ม ใบย่อยชั้นที่ 1 มี 4 – 6 คู่ ใบยอ่ ยชนั้ ท่ี 2 รูปรีแกมขอบขนำน ปลำยมน โคนใบตัดและเบย้ี ว ขอบใบหยกั ซี่ฟนั แผ่นใบเกลยี้ ง มี 4 – 7 คู่ ดอกออกเปน็ ชอ่ แยกแขนงตำมปลำยยอด สีขำวอมชมพูขนำดเล็ก มี 5 กลบี ผลเป็นฝัก เมื่อแกไ่ ม่แตก มปี ีกแบนทป่ี ลำยดำ้ นหน่งึ ของเมล็ด เกล้ยี ง ผลอ่อนปีกสีเขียว เมื่อใกลแ้ กเ่ ปน็ สี แดงคลำ้ มี 1 เมล็ด นิเวศวทิ ยา : พบตำมปำ่ ดิบแลง้ ท่โี ล่ง ปำ่ เบญจพรรณ ตำมชำยปำ่ ทีค่ วำมสูงประมำณ 100 เมตร จำกระดับทะเลปำนกลำง เป็นพืชถ่ินเดยี วของไทย (endemic species) พบเฉพำะบริเวณ จงั หวัดเพชรบรุ ี และประจวบครี ขี ันธ์ ออกดอกระหวำ่ งเดือนเมษำยน - สิงหำคม ประโยชน์ : - ค่า (IVI) / ลาดับที่ ค่า (IVI) / คะแนน และระดับความสาคัญของแกว้ มือไวในแปลงตัวอย่างทศ่ี กึ ษา คำ่ IVI (%) กโิ ลเมตรที่ 3 กโิ ลเมตรท่ี 8 กโิ ลเมตรที่ 15 แปลงตดั เถาวัลยป์ ี 2553 ลำดับที่ค่ำ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตดั เถาวัลย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคมุ -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มขี อ้ มูลเน่อื งจำกมขี นำด DBH <4.5 เซนติเมตร ในแปลงตวั อยำ่ งที่ศกึ ษำ กรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพันธุพ์ ืช

51 ICACINACEAE

เถาวลั ยแ์ ก่งกระจาน 52 ICACINACEAE ตองอาน Phytocrene bracteata Wall. ICACINACEAE ชอ่ื อื่น : อแี รด ลักษณะทวั่ ไป : ไม้เถำเนอื้ แขง็ ลำตน้ มีตุม่ หนำมเล็ก ๆ ขนำด 1 มิลลิเมตร กิ่งมขี นแขง็ คลุมและ หนำมเล็ก ๆ ใบกวำ้ ง รปู ไขก่ ว้ำง บำงครง้ั หยกั 3 พู ปลำยใบแหลม โคนรปู หวั ใจ แผน่ ใบ ด้ำนบนเกล้ียง – สำกคำย ด้ำนลำ่ งมขี นนุ่มหนำแนน่ ชอ่ ดอกแยกเพศ ออกตำมตำขำ้ งบนก่งิ แก่ ช่อดอกเพศผ้แู บบแยกแขนง ช่อดอกเพศเมียแบบช่อกระจุกแนน่ ทรงกลม สีขำวอมเขียว ผลกลมุ่ มีผลย่อยอดั แน่น ทรงกลม เสน้ ผ่ำนศนู ย์กลำงไดถ้ ึง 20 เซนตเิ มตร ผลยอ่ ยแบบผนัง ชน้ั ในแขง็ รูปไข่กลบั มขี นนมุ่ สีเหลอื งอมน้ำตำลหนำแน่น นิเวศวทิ ยา : พบในป่ำดิบแล้งและปำ่ ดบิ ชนื้ ต้งั แตจ่ ังหวัดเพชรบรุ ลี งไปถึงภมู ิภำคมำเลเซยี ท่ีควำม สงู ถงึ 450 เมตร จำกระดบั ทะเลปำนกลำง ประโยชน์ : - ค่า (IVI) / ลาดบั ท่ี คา่ (IVI) / คะแนน และระดับความสาคัญของตองอานในแปลงตวั อย่างท่ศี กึ ษา ค่ำ IVI (%) กโิ ลเมตรท่ี 3 กโิ ลเมตรที่ 8 กโิ ลเมตรที่ 15 แปลงตดั เถาวลั ย์ปี 2553 ลำดับที่ค่ำ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไมต่ ัดเถาวลั ย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคมุ -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มขี ้อมูลเนอ่ื งจำกมีขนำด DBH <4.5 เซนติเมตร ในแปลงตวั อย่ำงท่ีศึกษำ กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธุพ์ ืช

53 OLEACEAE

เถาวัลย์แก่งกระจาน 54 OLEACEAE เถาลาเหลี่ยม Nyctanthes aculeata Craib OLEACEAE ช่อื อื่น : กรรณกิ ำร์แกง่ กระจำน เถำหนำมเหล่ียม ลกั ษณะท่ัวไป : ไมเ้ ถำเน้อื แข็ง ลำต้นและกงิ่ เป็นสี่เหลีย่ มและมีสันนูนทง้ั 4 ดำ้ น มหี นำมสัน้ แหลมคม กระจำยทว่ั ใบเดย่ี ว เรียงตรงขำ้ ม รูปไข่ – ไขก่ วำ้ ง ปลำยใบแหลม ขอบใบจักฟันเล่ือยหำ่ ง ๆ – เรียบ โคนใบมน แผน่ ใบหนำคล้ำยหนังและมขี นสำกแขง็ ทั้งสองขำ้ งคลำ้ ยกระดำษทรำย ดอกออกเป็นช่อกระจุกตำมซอกใบ และปลำยยอด มี 1 - 3 ดอกตอ่ ช่อ กลีบดอกสเี หลอื ง ผลแบบเปลอื กแขง็ รูปหวั ใจแบน ๆ กว้ำง 1.5 - 2 เซนติเมตร นิเวศวิทยา : พบตำมป่ำดิบแล้ง และป่ำเบญจพรรณ ตำมชำยป่ำ ออกดอกระหว่ำงเดือน พฤศจิกำยน - ธันวำคม ประโยชน์ : - คา่ (IVI) / ลาดบั ท่ี คา่ (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคัญของเถาลาเหล่ียมในแปลงตัวอย่างทศ่ี กึ ษา คำ่ IVI (%) กิโลเมตรที่ 3 กิโลเมตรท่ี 8 กโิ ลเมตรท่ี 15 แปลงตดั เถาวลั ย์ปี 2553 ลำดับทีค่ ่ำ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตดั เถาวลั ย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคุม -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มีขอ้ มูลเน่ืองจำกมขี นำด DBH <4.5 เซนตเิ มตร ในแปลงตวั อยำ่ งที่ศึกษำ กรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธพุ์ ืช

55 APOCYNACEAE

เถาวลั ยแ์ ก่งกระจาน 56 APOCYNACEAE เถาวลั ย์แดง Toxocarpus villosus (Blume) Dence. APOCYNACEAE ชือ่ อื่น : เครือซุด เครือมะแตก อบเชยเถำ ลกั ษณะทว่ั ไป : ไม้เถำเนือ้ คอ่ นขำ้ งแขง็ ก่ิงออ่ นมขี นอยุ สีสนมิ มนี ำ้ ยำงสีขำวขุน่ ใบเดยี่ ว เรยี งตรงขำ้ ม รปู รีกว้ำง – รีแกมรูปขอบขนำน ปลำยใบและโคนใบแหลม แผน่ ใบหนำคลำ้ ยแผ่นหนงั ด้ำนลำ่ งมี ขนหนำแนน่ ดอกแบบช่อแยกแขนง มีขนสสี นิม ดอกสขี ำวอมเหลือง – เหลือง มีกลิ่นหอม ผล แบบ แห้งแตกแนวเดียว ออกเปน็ ฝักเดีย่ วหรือคู่ เมล็ดแบน มีกระจกุ ขนสีขำวตดิ ท่ปี ลำยเมลด็ ด้ำนเดยี ว นิเวศวิทยา : พบในป่ำดิบ และป่ำเบญจพรรณ ตำมชำยปำ่ หรอื ที่โล่งทวั่ ประเทศ ที่ควำมสูงถงึ 1,300 เมตร จำกระดบั ทะเลปำนกลำง ประโยชน์ : - ค่า (IVI) / ลาดบั ท่ี ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคัญของเถาวลั ย์แดงในแปลงตวั อย่างทศี่ ึกษา คำ่ IVI (%) กิโลเมตรท่ี 3 กโิ ลเมตรที่ 8 กโิ ลเมตรที่ 15 แปลงตดั เถาวลั ย์ปี 2553 ลำดับทค่ี ำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตัดเถาวลั ย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคุม -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไมม่ ขี อ้ มูลเนือ่ งจำกมขี นำด DBH <4.5 เซนติเมตร ในแปลงตวั อยำ่ งทีศ่ ึกษำ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพันธุ์พชื

57 ANNONACEAE

เถาวัลย์แก่งกระจาน 58 ANNONACEAE นมชะนี Artabotrys burmanicus A. DC. ANNONACEAE ชื่ออน่ื : - ลักษณะท่ัวไป : ไม้เถำเนอื้ แขง็ กง่ิ อ่อนมขี นสีทองปกคลมุ หนำแน่น ก่งิ แกเ่ รยี บเกลยี้ ง สีนำ้ ตำลเขม้ มีช่องหำยใจเป็นขีดสีขำวตำมยำว ใบรปู ขอบขนำนแกมรูปหอก โคนใบรปู ลิ่ม ปลำยใบเรยี วแหลม ใบหนำ กรอบ ผิวใบด้ำนบนเรยี บเปน็ มัน ดำ้ นล่ำงมขี นออ่ นนมุ่ ดอกเดีย่ ว ออกตรงขำ้ งใบ ตอ่ จำกตะขอ ดอกสเี หลอื งอมเขียว มกี ล่นิ หอมแรงเฉพำะช่วงพลบคำ่ ผลกลุม่ ผลย่อยรปู ไขก่ ลับ เปลอื กเรียบ ปลำยผลมตี ่ิงแหลม ผลแก่สเี หลือง มี 2 เมลด็ นเิ วศวิทยา : พบตำมป่ำดิบชื้น และป่ำดิบแล้งทำงภำคตะวนั ตกเฉียงใต้ ท่ีควำมสูง 100 - 600 เมตร จำกระดับทะเลปำนกลำง ประโยชน์ : ผลเปน็ อำหำรของสตั ว์ป่ำ ปลกู เป็นไม้ดอกหอม คา่ (IVI) / ลาดับท่ี ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคญั ของนมชะนีในแปลงตวั อยา่ งท่ศี กึ ษา คำ่ IVI (%) กโิ ลเมตรท่ี 3 กโิ ลเมตรที่ 8 กิโลเมตรที่ 15 แปลงตดั เถาวลั ย์ปี 2553 ลำดับทคี่ ำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตดั เถาวลั ย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคมุ -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มีข้อมูลเนอื่ งจำกมขี นำด DBH <4.5 เซนตเิ มตร ในแปลงตวั อยำ่ งทีศ่ ึกษำ กรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่า และพนั ธพ์ุ ืช

59 ANNONACEAE

เถาวลั ยแ์ ก่งกระจาน 60 ANNONACEAE พีพวนนอ้ ย Uvaria rufa Blume ANNONACEAE ชอ่ื อนื่ : ติงตงั ตีนตั่งเครอื นมควำย นมแมว นมแมวป่ำ นมววั บหุ งำใหญ่ พีพวน สมี ว่ น หำลิง ลักษณะท่วั ไป : ไม้เถำเนื้อแขง็ และเหนยี ว เปลอื กมรี อ่ งปรติ ำมยำว ตำมกง่ิ และยอดอ่อนมขี นสั้น หนำแน่น ใบรปู รี - ขอบขนำน โคนใบเว้ำเลก็ น้อย ปลำยใบแหลม - เรียวแหลม ใบด้ำนบนเกลย้ี ง ยกเว้นเสน้ กลำงใบและเส้นแขนงใบ ใบด้ำนลำ่ งมีขนส้นั หนำแนน่ ดอกเดี่ยว ออกระหวำ่ งข้อ หรือตรงขำ้ มใบ ดอกสีแดงเลือดนก ผลกลุ่ม ผลย่อยแต่ละผลรูปกลมรีถงึ รปู ทรงกระบอก ผลออ่ น สีเขียว ผลแก่สแี ดงส้ม มีเมล็ดมำก นิเวศวทิ ยา : พบตำมปำ่ ดบิ ชน้ื ปำ่ ดบิ แล้งและปำ่ ผลัดใบท่ัวประเทศ ทค่ี วำมสงู 50 – 1,000 เมตร จำกระดับทะเลปำนกลำง ประโยชน์ : ผลสกุ รสหวำน – หวำนอมเปรีย้ ว มนษุ ยแ์ ละสัตวป์ ำ่ กนิ ได้ เถำเนอื้ เหนยี วใช้ทำขอบ กระบงุ ตะกร้ำ หรอื โครงสวงิ ค่า (IVI) / ลาดบั ที่ ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคญั ของพีพวนน้อยในแปลงตัวอย่างทศี่ ึกษา คำ่ IVI (%) กิโลเมตรที่ 3 กิโลเมตรท่ี 8 กโิ ลเมตรที่ 15 แปลงตดั เถาวลั ย์ปี 2553 ลำดับทค่ี ำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตัดเถาวัลย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคุม -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มีขอ้ มลู เนอื่ งจำกมขี นำด DBH <4.5 เซนตเิ มตร ในแปลงตวั อยำ่ งท่ีศกึ ษำ กรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตวป์ ่า และพนั ธุพ์ ืช

61 ACANTHACEAE

เถาวัลยแ์ ก่งกระจาน 62 ACANTHACEAE รางจดื Thunbergia laurifolia Lindl. ACANTHACEAE ชอื่ อน่ื : กำลงั ช้ำงเผือก ขอบชะนำง คำย เครอื เขำเขยี ว จอลอดเิ ออ ชั้งกะ ดุเหว่ำ ทิดพุด น้ำนอง ปง้ั กะลำ พอหน่อเตอ ยำเขยี ว ย่ำแย้ รำงเยน็ รำงจดื เถำ หนำมแน่ แอดแอ ลกั ษณะทั่วไป : ไมเ้ ถำเน้ือคอ่ นขำ้ งแขง็ ตำมลำต้นมขี อ้ บวมชัดเจน กิ่งอ่อนเกลย้ี ง ใบเด่ยี ว เรียงตรงขำ้ ม รปู ขอบขนำน ปลำยใบเรยี วแหลม โคนใบเว้ำ – มน แผ่นใบเกลยี้ ง เน้ืออ่อนน่มุ ดอกออกเป็นช่อ ตำมซอกใบหรือปลำยกง่ิ สีมว่ งอมฟ้ำหรือขำว ผลเปน็ ฝกั ยำว เมือ่ แก่จะแตกเป็น 2 ซกี นเิ วศวิทยา : พบตำมปำ่ ดบิ แลง้ ปำ่ เบญจพรรณ ตำมชำยปำ่ ทั่วทกุ ภำคของประเทศไทย ออกดอก ระหวำ่ งเดือนพฤศจิกำยน – มีนำคม ออกผลระหว่ำงเดือนกุมภำพนั ธ์ – พฤษภำคม ประโยชน์ : ราก แกอ้ กั เสบ แก้ปวดบวม ราก เถา และใบ ถอนพษิ เบื่อเมำ แก้เมำคำ้ ง แกป้ ระจำเดือน ไม่ปกติ แกป้ วดหู แกป้ วดบวม แก้ไข้ ใบ ถอนพษิ ท้ังปวง ค่า (IVI) / ลาดับที่ ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคญั ของรางจดื ในแปลงตวั อยา่ งทศี่ กึ ษา ค่ำ IVI (%) กโิ ลเมตรที่ 3 กโิ ลเมตรท่ี 8 กโิ ลเมตรท่ี 15 แปลงตดั เถาวลั ยป์ ี 2553 ลำดบั ที่คำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตัดเถาวัลย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคุม -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มขี ้อมลู เนอ่ื งจำกมขี นำด DBH <4.5 เซนตเิ มตร ในแปลงตวั อย่ำงทศ่ี ึกษำ กรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั ว์ปา่ และพนั ธ์ุพืช

61 APOCYNACEAE

เถาวัลย์แก่งกระจาน 64 APOCYNACEAE วา่ นตรุ Epigynum cochinchinense (Pierre) D. J. Middleton APOCYNACEAE ช่อื อื่น : ตะลมุ่ นก ตำไก้ น้ำนอง มะตอ่ มไก่ หลมุ นก ลกั ษณะทั่วไป : ไม้เถำเนื้อค่อนข้ำงแข็ง ก่ิงออ่ นมีขนส้ันหนำน่มุ มยี ำงสีขำวขุ่น ใบเด่ยี วเรยี งตรงข้ำม รปู รี รปู ขอบขนำน หรือรูปไขก่ ลับ ปลำยใบเรียวแหลม หรอื ยำวคล้ำยหำง โคนใบมน - เว้ำรูปหัวใจ เล็กน้อย แผน่ ใบดำ้ นล่ำงเกลยี้ งหรอื มขี นสน้ั หนำนมุ่ ประปรำย ดอกออกเปน็ ชอ่ กระจุกสั้น ๆ มขี นสนั้ หนำน่มุ ดอกตมู เรียวแคบบดิ เป็นเกลยี วตำมเข็มนำฬกิ ำ ดอกบำนรูปดอกเขม็ กลบี ดอกสี ขำวหรอื สีชมพู ผลแบบแห้งแตกแนวเดียว ออกเป็นฝกั คู่ รูปคล้ำยเสน้ ด้ำย เส้นผำ่ นศูนย์กลำง 0.6 เซนตเิ มตร ยำว 30 – 35 เซนตเิ มตร เมล็ดแบน มีกระจกุ ขนทีป่ ลำยดำ้ นเดยี ว นิเวศวทิ ยา : พบตำมปำ่ เตง็ รงั ปำ่ ดบิ แลง้ และปำ่ ดิบช้ืน บำงคร้งั พบตำมเขำหนิ ปนู ทั่วประเทศ ทค่ี วำมสงู ประมำณ 800 เมตร จำกระดับทะเลปำนกลำง ออกดอกระหว่ำงเดือนพฤศจกิ ำยน - พฤษภำคม ประโยชน์ : ดอกมกี ล่ินหอมสำมำรถนำไปเปน็ ไมป้ ระดบั คา่ (IVI) / ลาดับท่ี ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคญั ของว่านตรุในแปลงตวั อย่างท่ีศกึ ษา คำ่ IVI (%) กโิ ลเมตรที่ 3 กโิ ลเมตรท่ี 8 กโิ ลเมตรที่ 15 แปลงตัดเถาวัลยป์ ี 2553 ลำดับทค่ี ำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตัดเถาวัลย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคุม -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มขี อ้ มลู เนอื่ งจำกมีขนำด DBH <4.5 เซนติเมตร ในแปลงตวั อย่ำงทศ่ี ึกษำ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ปา่ และพนั ธพุ์ ืช

65 CAPPARACEAE

เถาวัลยแ์ ก่งกระจาน 66 CAPPARACEAE สะแอะ Capparis zeylanica L. CAPPARACEAE ช่ืออ่ืน : สำลีค้อนก้องเครือ เถำหลั่งหมำกเก็บ เย่ียวไก่ ร้ำนฝีป้ำน ลำนผีป้ำย สำลีแก่นใจ สำยชูใหญ่ ลกั ษณะทวั่ ไป : ไมเ้ ถำเนื้อแขง็ กง่ิ ออ่ นมีขนสีแดงอมน้ำตำลหรือสีเขียวปกคลุม ใบเด่ยี วออกเรียงสลับ รปู ไข่ - รปู รกี ว้ำง ปลำยใบแหลม – กลม โคนมนหรือเวำ้ เปน็ รปู หวั ใจ มหี นำมโค้งกลับ 1 คทู่ ่ีซอกใบ ดำ้ นลำ่ งมขี นสน้ั ดอกเดี่ยว ออกเปน็ กระจกุ เรียงเปน็ แถวทซี่ อกใบใกลป้ ลำยกิ่ง กอ่ นท่ีใบจะผลิ ดอกสขี ำว - สีชมพูอมม่วง เกสรเพศผจู้ ำนวนมำก ผลแบนมเี นอ้ื หลำยเมลด็ รูปทรงกลมหรอื มนรี ผิวเรยี บเปน็ มัน ผลสุกสีแดงสม้ หรอื ม่วง ภำยในมเี มลด็ สนี ำ้ ตำลจำนวนมำก นเิ วศวิทยา : พบตำมป่ำดิบแล้ง และปำ่ เบญจพรรณ ตำมชำยปำ่ หรือพืน้ ท่ีโล่งเกือบทัว่ ประเทศ ยกเวน้ ภำคใต้ ทค่ี วำมสูงถึง 500 เมตร จำกระดับทะเลปำนกลำง ประโยชน์ : ก่ิง ฝำนเป็นแผ่นแลว้ ใชเ้ ขำ้ ยำแก้นว่ิ รวมกับลำตน้ มะตนั ขอ ฝำง ไพล ใบ สบั ตำกแหง้ ใช้เข้ำยำห่มตำรับไทลื้อ บำรงุ ร่ำงกำยและผิวพรรณ กง่ิ ทีม่ ีหนำม ใชแ้ ชป่ ระพรมนำ้ มนต์ กิง่ ใช้ ผกู เปลนอนเดก็ เช่อื ว่ำใชป้ อ้ งกนั ภตู ผี คา่ (IVI) / ลาดบั ท่ี ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคญั ของสะแอะในแปลงตวั อย่างที่ศกึ ษา คำ่ IVI (%) กิโลเมตรท่ี 3 กิโลเมตรท่ี 8 กโิ ลเมตรท่ี 15 แปลงตัดเถาวัลย์ปี 2553 ลำดบั ทค่ี ำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไมต่ ัดเถาวลั ย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคมุ -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไมม่ ขี อ้ มลู เน่อื งจำกมีขนำด DBH <4.5 เซนติเมตร ในแปลงตัวอยำ่ งท่ีศกึ ษำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป์ ่า และพนั ธ์ุพชื

67 FABACEAE

เถาวัลยแ์ ก่งกระจาน 68 FABACEAE แสลงพันเถา Lasiobema pulla (Craib) A. Schmitz FABACEAE ชือ่ อื่น : กำหลง ลกั ษณะทัว่ ไป : ไมเ้ ถำเนอื้ แข็ง เถำแกค่ ดงอพบั ไปมำ คล้ำยเถำกระไดลิง ก่งิ ออ่ นมมี อื เกำะ มขี นสั้น นุ่มสีเทำ ต่อมำเกล้ยี ง ใบเด่ียว รปู ไข่กว้ำงเกือบกลม ปลำยแยก 2 แฉก ลึกประมำณก่ึงหนึ่งหรอื สองในสำมของควำมยำวใบ ปลำยแฉกแหลม โคนใบรปู หวั ใจ แผน่ ใบดำ้ นบนเกลย้ี งเปน็ มนั เงำ ด้ำนลำ่ งเกลี้ยง - มีขนนมุ่ ดอกแบบช่อกระจะ ออกตำมปลำยกิง่ และซอกใบ ดอกจำนวนมำก เรยี งอดั กันแนน่ รปู คลำ้ ยปิรำมดิ ตง้ั ขึน้ ยำวได้ถึง 20 เซนตเิ มตร สเี ขยี วออ่ น มีกลน่ิ หอมหวำน ผลเป็นฝกั แบน แห้งแตก 2 เสยี่ ง รูปแถบ ยำวไดถ้ งึ 30 เซนติเมตร ผนังฝกั แขง็ คลำ้ ยเนอื้ ไม้ มขี นแบบกำมะหย่ี เมลด็ มี 10 - 20 เมล็ด นเิ วศวิทยา : พบในป่ำดิบแล้ง และปำ่ เบญจพรรณ ข้ึนตำมชำยปำ่ ท่ีควำมสูงถึง 600 เมตร จำกระดบั ทะเลปำนกลำง ในบรเิ วณพ้ืนทต่ี อนกลำง และดำ้ นตะวันตกของประเทศ ประโยชน์ : เถา มรี สเบื่อเมำ ต้มหรือตำกนิ แกพ้ ิษท้ังปวง เมล็ด ถ่ำยพยำธิ แกร้ ้อนใน ขบั เหงื่อ แกไ้ ข้ แกพ้ ษิ ฝี คา่ (IVI) / ลาดบั ที่ ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคัญของแสลงพันเถาในแปลงตวั อย่างท่ศี กึ ษา ค่ำ IVI (%) กิโลเมตรท่ี 3 กิโลเมตรที่ 8 กโิ ลเมตรที่ 15 แปลงตัดเถาวัลยป์ ี 2553 ลำดบั ทีค่ ำ่ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไมต่ ัดเถาวลั ย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคมุ -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไมม่ ีข้อมูลเนอ่ื งจำกมขี นำด DBH <4.5 เซนตเิ มตร ในแปลงตวั อยำ่ งท่ศี ึกษำ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั ว์ปา่ และพันธพ์ุ ืช

69 FABACEAE

เถาวลั ยแ์ ก่งกระจาน 70 FABACEAE หมามุย่ ลาย Mucuna interrupta Gagnep. FABACEAE ช่อื อืน่ : - ลักษณะทัว่ ไป : ไม้เล้ือยเน้อื แข็ง กิ่งอ่อนมขี นแนบผวิ สนี ำ้ ตำลทอง ใบประกอบแบบขนนก มใี บ ย่อย 3 ใบ เรียงสลบั รูปไข่ หรือรปู รี ปลำยใบแหลม โคนใบมน ใบข้ำง 2 ใบ โคนใบเบย้ี ว แผ่นใบมีขนส้ันแนบผวิ ทั้ง 2 ดำ้ น ดอกแบบชอ่ กระจะ หอ้ ยลง ดอกสีขำวครมี กลีบเลย้ี งมีขน แนบผิวสนี ำ้ ตำลทอง ผลแบบฝกั รปู ขอบขนำน ยำว 13 – 15 เซนตเิ มตร ขอบฝกั นนู หนำ คล้ำยครบี ผิวฝกั เป็นรอ่ งริ้วจำนวนมำก มขี นสนี ้ำตำลทองหนำแนน่ และทำใหร้ ะคำยเคืองผิว มี 3 เมล็ด สีนำ้ ตำลแดง รูปกลมแกมรปู ไต นเิ วศวทิ ยา : พบในป่ำดิบแลง้ ตำมชำยปำ่ ท่ีควำมสูงถึง 1,000 เมตร จำกระดบั ทะเลปำนกลำง พบเกือบท่วั ประเทศ ยกเว้นภำคใต้ ประโยชน์ : เปลอื ก, ตน้ มีสำรกลุ่มซำโปนนิ ใชล้ ำ้ งแผล สระผม นำมำต้มนำ้ ผสมเกลอื อมแกป้ วดฟนั เมลด็ เผำ บดเปน็ ผงผสมกับนำ้ มนั มะพร้ำว ทำแก้คัน และโรคผิวหนงั คา่ (IVI) / ลาดับที่ ค่า (IVI) / คะแนน และระดบั ความสาคญั ของหมามุย่ ลายในแปลงตวั อย่างทีศ่ กึ ษา ค่ำ IVI (%) กโิ ลเมตรที่ 3 กโิ ลเมตรที่ 8 กโิ ลเมตรที่ 15 แปลงตดั เถาวัลย์ปี 2553 ลำดบั ท่คี ่ำ IVI 1 23 12 3 12 3 แปลงไม่ตัดเถาวลั ย์ คะแนน -- - -- - -- - แปลงควบคมุ -- - -- - -- - -- - -- - -- - หมำยเหตุ ไม่มีขอ้ มลู เน่อื งจำกมีขนำด DBH <4.5 เซนติเมตร ในแปลงตวั อยำ่ งทศี่ ึกษำ กรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพันธุ์พืช

หนามเฮ้อื ง - เครือออน กำใบ้ดง คำ้ งเบ้ยี งวงชมุ จั่งบง่ั ท้องปลิง เบย้ี พญำโจร พวงประดิษฐ์ พลูหบี ลว้ งสมุ่ ขำว ล้วงสมุ่ ตัวผู้ สะแกบ สังขยำ ออนแดง กระดูกกบ กงกำง กงกำงเครือ กงเกง กระดูกแตก กระพัดแมม่ ำ่ ย โกงกำง ขงเขง็ ขำเปีย ควำยแก่รอ้ งไห้ คอแรว้ เครอื ขำเปยี จะก้ำ จ๊ำเปอ๋ื ย ตนี ตัง่ ลม เปือ๋ ยเครือ รางแดง ก้องแกบ กะเลียงแดง เขำแกลบ ชอเพำะแหล่โม เถำมวกเหล็ก เถำวลั ย์เหล็ก ทรงแดง ปลอกแกลบ แสงอำทติ ย์ ฮองหนัง สะแกเถา แก สะแกเครอื สะแล แกแล ข่อยย่ำน คนั ซง ชง ชะแล ซงแดง แทแหล สะแล สำแล ย่ำนน้ำลำยควำย กาแพงเจด็ ชนั้ ตะลุม่ นก ตำไก้ นำ้ นอง มะต่อมไก่ สำมชน้ั หลมุ นก หนามข้แี รด - เครือเขาน้า ยำ่ นสำยพำน มะกาเครือ สะไอ สะไอเครอื หสั คุณผี หสั อัยเครือ ไอหน่วย เล็บมือนาง จะม่ัง จำ๊ มง่ั ไท้หม่อง มะจมี ่งั อะดอนง่ิ หนามหัน หนำมตะหนิน หนำมเฮื้อง หนั กระด้ำง คัดเค้าหมู คดั เค้ำหนู ตังขุย ตังผี ตังหยู มะก๋ังผี หชู ะลวง ถอบแถบนา้ แควบทะเล ถอบแถบทะเล ถว่ั น้ำ ทบั แถบ ผกั แถบ เขกา - กระไดลงิ กระไดวอก โชกน้ยุ มะลืมดำ ขมิ้นเครอื โคคลำน จุม๊ รว่ มพนม เถำขะโนม เถำพนม เถำวัลย์ทองชักโครง แมน่ ำ้ นอง ลมุ ปรี ลุ่มปรี วำ่ นนำงลอ้ ม วำร์ลำลงพนม หวำยดนิ อมพนม มา้ ทลายโรง กำโร นอนหลบั พญำนอนหลับ มนั ฤำษี มำดพร้ำยโรง มำ้ กระทบื โรง ย่ำนขไี้ ก่ ส้มกงุ้ ก๊โิ ก่ย กยุ่ เครอื อีโก่ย เถำเปร้ยี ว เถำวลั ย์ขน ส้มกยุ่ ส้มออบ อง่นุ ปำ่ หนามเลบ็ เหยย่ี ว ตำฉ่แู ม พุทรำขอ มะตันขอ เลบ็ แมว ยบั ยวิ้ เล็ดเยีย่ ว เลบ็ เหยี่ยว ไลชมู ี สัง่ คัน แสงคำ หมำกหนำม หนำมเลบ็ แมว ละหงุ่ เครือ ไก่ปลอ่ ย ซหี ยอ่ ยำ่ นมันแดง สำเครือ ฝนแสนหา่ เครอื เขำเลี่ยม เถำวัลยป์ ลงิ พูพอ่ ค้ำ แก้วมอื ไว ตะกล่ำตำหนู เถำหนำมหัน พญำเทครวั หนำมงำย ตองอาน อแี รด เถาลาเหล่ยี ม กรรณกิ ำร์แก่งกระจำน เถำหนำมเหล่ียม เถาวลั ย์แดง เครือซดุ เครือมะแตก อบเชยเถำ นมชะนี - พีพวนน้อย ติงตัง ตีนตง่ั เครอื นมควำย นมแมว นมแมวป่ำ นมววั บหุ งำใหญ่ พีพวน สมี ่วน หำลิง รางจืด กำลังช้ำงเผือก ขอบชะนำง คำย เครือเขำเขยี ว จอลอดเิ ออ ชั้งกะ ดุเหว่ำ ทิดพดุ นำ้ นอง ปง้ั กะลำ พอหน่อเตอ ยำเขยี ว ย่ำแย้ รำงเยน็ รำงจดื เถำ หนำมแน่ แอดแอ วา่ นตรุ ตะลุ่มนก ตำไก้ นำ้ นอง มะต่อมไก่ หลุมนก สะแอะ ค้อนก้องเครือ เถำหลั่งหมำกเก็บ เย่ียวไก่ ร้ำนฝีป้ำน ลำนผีป้ำย สำลีแก่นใจ สำยชูใหญ่ แสลงพนั เถา กำหลง หมามุ่ยลาย -

บรรณานุกรม กรมอุทยำนแห่งชำติ สัตวป์ ำ่ และพันธ์ุพืช. (2554). รายงานการวิจัยการศึกษาผลกระทบของ การปกคลุมเถาวัลย์อย่างหนาแน่นในป่าธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน. สำนักวิจัยกำรอนุรักษ์ป่ำไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำ และพันธ์ุพืช. กรุงเทพฯ กอ่ งกำนดำ ชยำมฤต และ คริสเตียน พุฟ. (2550). พรรณไม้ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน. พมิ พค์ รง้ั ที่ 1. กรมอุทยำนแหง่ ชำติ สัตว์ป่ำ และพนั ธุ์พืช. กรุงเทพฯ ก่องกำนดำ ชยำมฤต และ ลีนำ ผู้พัฒนพงศ์. (2545). สมุนไพรไทย ตอนที่ 7. พิมพ์คร้ังที่ 1. หอพรรณไม้ กรมปำ่ ไม.้ กรงุ เทพฯ จรัญ มำกน้อย. (2556). พรรณไม้ ภูสวนทราย. พิมพ์คร้ังที่ 1. ห้ำงหุ้นส่วนจำกัดวนิดำ กำรพิมพ.์ จงั หวดั เชียงใหม่ ปิยะ เฉลิมกล่ิน และ อภิชัย อิงควุฒิ . (2544). พรรณไม้ วงศ์กระดังงา. สำนักพิมพ์บ้ำน และสวน. กรุงเทพฯ ทรรศนีย์ พัฒนเสรี และ ชูจิตร อนันตโชค. (2548). สมุนไพรในพ้ืนที่พรุจังหวัดนราธิวาส. จงั หวดั นรำธวิ ำส พงษ์ศักด์ิ พลเสนำ. (2550). พืชสมุนไพรในสวนป่าสมุนไพรเขาหินซ้อน ฉบับสมบูรณ์. ห้ำงหุ้นส่วนจำกดั เจตนำรมณ์ภณั ฑ์. จังหวัดปรำจีนบุรี. สุภำภรณ์ ปิติพร. (2556). บันทึกของแผ่นดิน 4 สมุนไพร ยากาลัง. พิมพ์คร้ังที่ 3. ปรมัตถ์ กำรพมิ พ.์ กรุงเทพฯ รำชันย์ ภู่มำ และ สมรำน สุดดี (บรรณำธิกำร). (2557). ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมติ นิ นั ทน์ ฉบบั แกไ้ ขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: สำนักงำนหอพรรณไม้ สำนกั วิจยั กำรอนุรกั ษ์ป่ำไม้และพันธุ์พชื กรมอทุ ยำนแหง่ ชำติ สัตวป์ ่ำ และพนั ธุ์พชื ลีนำ ผู้พัฒนพงศ์ และ ธวัชชัย วงศ์ประเสริฐ. (2530). สมุนไพรไทย ตอนท่ี 5. พิมพ์คร้ังที่ 1. หอพรรณไม้ กรมปำ่ ไม.้ กรงุ เทพมหำนคร วำสนำ พลำยเล็ก. (2555). คูม่ อื คนรักตน้ ไม้ ชุดท่ี 6 ไม้เลื้อย. บ้ำนและสวน อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนดพ์ ับลชิ ช่ิง. กรุงเทพฯ วุฒิ วุฒิธรรมเวศ. (2554). คัมภีร์เภสัชรัตนโกสินทร์. พิมพ์คร้ังท่ี 3. บริษัท ศิลป์สยำมบรรจุภัณฑ์ และกำรพมิ พ์ จำกดั . กรุงเทพฯ

บรรณานกุ รม (ตอ่ ) สมชัย ประเสริฐไทยเจริญ. (2553). พรรณไม้สวนรุกขชาติหนองตาอยู่ จังหวัดชลบุรี. บริษัท ซีนิท เซน็ ทรงั จำกดั . จังหวดั ชลบรุ ี. สวนรุกขชำติ 100 ปี กรมป่ำไม้ (ซับลังกำ). (2551). พรรณไม้ ในสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ (ซบั ลังกา) เลม่ 1. พมิ พ์คร้ังที่ 1. โรงพมิ พ์วิสทุ ธก์ิ ำรพิมพ์. จังหวัดนครสวรรค์ สวนรุกขชำติ 100 ปี กรมป่ำไม้ (ซับลังกำ). (2552). พรรณไม้ ในสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ (ซบั ลังกา) เล่ม 2. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1. โรงพิมพ์วิสทุ ธก์ิ ำรพมิ พ์. จงั หวัดนครสวรรค์ ส่วนพัฒนำและเผยแพร่องค์ควำมรู้. (2557). พืชสมุนไพรในสวนพฤกษศาสตร์และสวน รกุ ขชาตใิ นประเทศไทย. บริษทั ดอกเบ้ยี จำกัด. กรงุ เทพฯ สำนักวิจัยกำรอนุรักษ์ป่ำไม้และพันธ์ุพืช.(2556). ความหลากหลายของพรรณพืชในกลุ่มป่า แก่งกระจาน. พิมพ์ครั้งที่ 1. ชุมนุมสหกรณ์กำรเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. กรงุ เทพฯ หอพรรณไม้. (2549). พรรณไม้ห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี. ชุมนุมสหกรณ์กำรเกษตร แหง่ ประเทศไทย จำกัด. กรุงเทพฯ อฤชร พงษไ์ สว. (2543). คูม่ อื คนรักตน้ ไม้ ไมเ้ ล้อื ย เลม่ 1. สำนกั พิมพบ์ ำ้ นและสวน. กรงุ เทพฯ Nielsen, I. C. 1985, Leguminosae – Mimosoideae, pp.131-222. In T. Smitinand and K.Larsen, eds. Flora of Thailand 4 (2). The Forest Herbarium, Royal Forest Department. Bangkok. Sleumer, H. 1970-1981. Icacinaceae, pp.91-92. In T. Smitinand and K. Larsen, eds. Flora of Thailand. Vol. II. Thailand Institute of Scientific and Technological Research. Bangkok.