สถานที่สำคัญ

สารบัญ 01 ขนาดและที่ตั้ง 02 ลักษณะภูมิประเทศ 03 แม่น้ำสำคัญ 04 ลักษณะอากาศ 05 ทรัพยากรธรรมชาติ 06 การคมนาคม 07 ประวัติความเป็นมาตำบลบางนอน

สารบัญ 08 โครงสร้างชุมชน 09 โครงสร้างเศรษฐกิจและอาชีพ 10 ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม 11 สถานที่สำคัญ 12. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม 14. การพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ (การยกระดับสินค้า OTOP / อาชีพอื่นๆ)

6. การคมนาคม 1. ถนนเพชรเกษม เป็นถนนลาดยางตลอดสาย 2. ถนนบำรุงสถาน เป็นถนน คสล. ตลอดสาย 3. ถนนบางนอนใน – นายัง เป็นถนนลาดยางตลอดสาย 4. ถนนเขาพริกไทย เป็นถนนลาดยางตลอดสาย 5. ถนนซอยโยธาพัฒนา เป็นถนนลาดยางตลอดสาย 6. ถนนทวีสินค้า เป็นถนนลาดยางตลอดสาย 7. ถนนปากน้ำ – เขานางหงส์ เป็นถนนลาดยางตลอดสาย 8. ถนนระนองธานี – นายัง เป็นถนนลาดยางตลอดสาย 9. ถนนบ้านทรายทอง – นายัง เป็นถนน คสล. ตลอดสาย



9. โครงสร้างด้านเศรษฐกิจและอาชีพ จังหวัดระนองเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพสามารถพัฒนา เศรษฐกิจ เนื่องจากจังหวัดระนองมี ภูมิประเทศติดชายฝั่งทะเลอันดามัน มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และมีพื้นที่ ติดกับประเทศพม่า จึงทำให้ระนองเป็นศูนย์กลางในการทำ ประมงและกระจายสินค้าต่างๆ ไปยังประเทศเพื่อน บ้าน อีกทั้งจังหวัดระนอง มีภูมิประเทศที่เหมาะแก่การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากจังหวัดระนอง ติด กับชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งมีชายหาดที่ค่อนข้างสวยงามเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ โครงสร้างด้าน เศรษฐกิจและอาชีพของตำบลบางนอน คือการพัฒนาองค์ความรู้สู่ชุมชน สร้างชุมชนเทศบาลตำบลบางนอนให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ที่มุ่งเน้นคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา มีการส่งเสริมและจัดทำแผนแม่บทชุมชน และแผนปฏิบัติการชุนชน การรวมกลุ่มทางสังคม องค์กรชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาความ ยากจน และการสร้างเครือข่ายการพัฒนาเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับมิติความเป็นเมืองน่าอยู่ ชุมชนน่าอยู่อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของการ สร้างความเข้มแข็งให้กับภาคประชาชนและชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพของคนในชุมชนและจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งการจัดสวัสดิการที่จำเป็นพื้นฐานสำหรับการ พัฒนาเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ และการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ภาคการเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร และพัฒนา อาชีพ ที่เหมาะสมกับสภาวะและบริบทของท้องถิ่นและความสามารถของประชาชนพัฒนายกระดับ และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา กระบวนการสร้างระบบเศรษฐกิจชุมชนและอาชีพในชุมชน ผลิตภัณฑ์ชุมชน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ภ าพที่ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น กลุ่ม OTOP นวัตวิถีบ้านบางนอนใน หมู่ที่ 1 ปี พ.ศ. 2559 นางกุศล ลิ้มสุวรรณ ได้ริเริ่มการทำเกษตรพื้นบ้านตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ขณะนั้นมีสมาชิกเพียงแค่ตนและน้องเพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งทาง หน่วยงานราชการได้เล็งเห็นถึงความสามารถและให้ความขยันในการ ทำงานของนางกุศล กรมพัฒนาชุมชน ของจังหวัดระนอง ได้เข้ามาสนับสนุนและผลักดันการผลิตสินค้าของตน เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนและมี สมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยเรื่อยในเวลาต่อมา ปี พ.ศ.2560 นางกุศล ลิ้มสุวรรณ ได้เล็งเห็นโอกาสและ สมรรถภาพของตนเองและกลุ่มเกษตรของตนจึงได้ยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน นั่นคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ให้เป็นที่รู้จักโดยเข้าร่วมการขึ้นทะเบียนสินค้า “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) โดยใช้ชื่อว่า กลุ่ม OTOP นวัตวิถี บ้านบางนอนใน โดยมีดาบตำรวจประนอม รอดแคล้ว นายกเทศมนตรีตำบลบางนอนได้ให้การสนับสนุน ผลักดันและให้คำแนะนำกับกลุ่มของ นางกุศล ลิ้มสุวรรณ มาจนถึงปัจจุบัน

ปี พ.ศ. 2561 สมาชิกกลุ่ม OTOP นวัตวิถี ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสมาชิกมากกว่า 30 ชีวิต ทางกลุ่มจึงได้คิดที่จะเพิ่มราย ได้ให้แก่สมาชิกกลุ่ม จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ นั่นคือ การถักพรมเช็ดเท้า และการถักที่รองหม้อ โดยสำนักงานจัดหางานและ สำนักงานส่งเสริมอาชีพได้ให้การสนับสนุน ปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากเกิด สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ทำให้ทางกลุ่มได้ เล็งเห็นช่องทางการค้าขาย เพิ่มขึ้น โดยการผลิตหน้ากากอนามัย ที่ทำด้วยผ้าปาเต๊ะ ลวดลายสวยงามเฉพาะตัว สีสันสดใส และได้นำเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บ หน้ากากอนามัย มาใช้ในการทำพวงกุญแจซึ่งเป็นการทำขายกันเองในกลุ่ม ประยุกต์โดยการใช้เศษผ้าและสายใยฟู อัดกาว ปั้นให้เป็นรูป ร่างามต้องการจำหน่ายในราคาเพียง 15-20 บาท สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1. ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย 2. ช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บ 3. ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวพรรณให้สดใส 4. เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย 5. ช่วยเผาผลาญพลังงานและปกป้องไม่ให้เกิดไขมันสะสม 6. มีสารต้านอนุมูนอิสระ 7. ช่วยเรื่องการขับถ่าย จะเห็นได้ว่าการทำน้ำมะพร้าวสกัดเย็นเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในหมู่ที่ 1 บ้านบางนอนใน ซึ่ง สามารถแสดงถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ศิลปวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ของคนในหมู่บ้าน ทำให้ชุมชนได้เป็น ที่รู้จักและมีความน่าสนใจ เกิดแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เที่ยวชมได้อีกช่องทางหนึ่ง ไม้กวาดดอกอ้อ ภาพที่ ไม้กวาดดอกอ้อ กลุ่ม OTOP นวัตวิถีบ้านบางนอนใน หมู่ที่ 1 บ้านบางนอนใน ไม้กวาดดอกอ้อ เป็นผลิตภัณฑ์อีกอย่างหนึ่งที่กลุ่ม OTOP นวัตวิถีบ้านบางนอนในได้ผลิตขึ้น ซึ่งนางเพ็ญจันทร์ หวังอิน ได้เล็งเห็นว่าใน ชุมชนมีดอกอ้อเป็นจำนวนมาก ถ้าจะตัดทิ้งก็เสียดาย ถ้าจะปล่อยให้ตาย ก็คงจะรก ไม่สะอาดในพื้นที่ชุมชน นางเพ็ญจันทร์ เป็นสมาชิก อีกคนหนึ่งในกลุ่มเกษตรกรหมู่บ้านหมู่ที่ 1 (อกม.) จึงได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของดอกอ้อและนำมาผลิตเป็นงานหัตถกรรมการทำไม้กวาด ดอกอ้อ นำมาสู่การวางขายในที่สุด และได้เป็นวิทยากรสอนการทำไม้กวาดดอกอ้อ ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ หมู่ที่ 1 ตำบลบางนอนใน ด้วยสโลแกนที่ว่า “คุ้มค่า ทนทาน ไม้กวาดยายเพ็ญจันทร์” การทำไม้กวาดดอกอ้อถือได้ว่าเป็นการนำทรัพยากรธรรมชาติที่มีในท้องถิ่นนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุดซึ่งสามารถสร้างรายได้ เสริมจากอาชีพหลักของครัวเรือนได้ ทั้งยังช่วยให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง และมีความสามัคคีเกิดขึ้นอีกด้วย

ส่วนใหญ่ผู้คนตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง มีความเชื่อและนับถือศาสนาพุทธมากกว่าศาสนา อิสลาม เมื่อสมัยก่อนได้มีคนมาทำเหมืองแร่ในหมู่บ้านบางนอน จำนวนหลายเหมืองด้วยกันเพราะมีสายแร่ดีบุกดีอยู่ เป็นจำนวนมากอยู่มาวันหนึ่งได้พบพระรูปหนึ่งอยู่ในรางเหมืองแร่ เป็นปางพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอน การที่ขุดได้ พระนอนครั้งนี้ประชาชนเข้าใจว่าคงจะเป็นนิมิตหมายที่ดีพระองค์นี้คงจะเป็นสิริมงคลในหมู่บ้านเป็นแน่แท้จึงได้ตั้งชื่อ หมู่บ้านว่า บ้านบางนอน ตามที่ไปพบพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนในครั้งนั้น ต่อมาหลวงพ่อดวนมาสร้างวัดก็ได้หล่อ พระนอนองค์ใหญ่แทนพระนอนองค์เล็กที่ขุดพบในครั้งนั้น พระนอนองค์ใหญ่ประดิษฐ์สถานอยู่ที่วัดบางนอน(วัดวารี บรรพต) ถึงปัจจุบัน ประเพณีของจังหวัดระนอง 10. ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม 1. ประเพณีลอยกระทง วันลอยกระทง ของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตาม ปฏิทินจันทรคติไทย หรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะตรงกับ ภาพที่ เดือนยี่ และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวเดือนพฤศจิกายนซึ่ง เดือน 12 เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึงเย็นสบาย และอยู่ในช่วง ฤดูน้ำหลาก มีน้ำขึ้นเต็มฝั่ง ทำให้เห็นสายน้ำอย่างชัดเจน อีกทั้ง วันขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงทำให้สามารถเห็นแม่น้ำ ที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบลงมาเป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การ ชมเป็นอย่างยิ่งและวันลอยกระทง 2564 ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤศจิกายน 2. ประเพณีวันสารทไทย เป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ทุกคนนำอาหารคาวหวาน ไป ถวายพระสงฆ์และนำโกศ อัฐิ ของปู่ ย่า ตา ยาย หรือบิดา มารดา ผู้ล่วงลับไปแล้วเพื่อให้พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล ทำบุญอุทิศให้แก่ท่าน 3. ประเพณีวันสงกรานต์ ภาพที่ ภาพที่ วันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยแบบโบราณ เมื่อมี โอกาสดี ๆ มาถึง บรรดาลูกหลานจึงไปคารวะผู้ใหญ่ที่มีอายุ มาก ๆ เพราะบางครั้งตนอาจจะกระทำล่วงเกินไปบ้าง โดยรู้ เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ดังนั้น จึงมี การกราบเพื่อขอขมาและขอศีลขอพร โดยนำดอกไม้ ธูปเทียน ข้าวเกรียบ เงินใส่พาน เสื้อผ้าชุดใหม่ ผ้าขาวม้าใหม่ หรือผ้าถุง ใหม่ ไปขอขมาและขอศีลขอพร กำหนดจัดงานในวันที่ 13 - 15 เมษายน ของทุกปี

11. สถานที่สำคัญ 1.วัดวารีบรรพต หรือวัดบางนอน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขา วัดแห่งนี้สร้างโดย หลวงพ่อด่วน ถามวโร ท่านเป็นพระธุดงค์ที่มาจากจังหวัดสงขลา เป็นพระ ภาพที่ เกจิอาจารย์ด้านวิปัสสนา ชาวบ้านเลื่อมใสและศรัทธาในตัวท่านมากเนื่องมา ภาพที่ จากหลวงพ่อด่วนได้นำหลวงพ่อทวดวัดช้างไห้มาปลุกเสก และได้ให้ ประชาชนนำไปบูชา มีอภินิหาร เช่น เชื่อว่าอาวุธปืนยิงไม่ออก จึงได้พากัน นิมนต์ท่านให้จำพรรษา ณ ที่แห่งนี้ ที่ด้านบนวัดตั้งอยู่บนเนินเขามองเห็นวิวได้โดยรอบ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ มีความยาวถึง 22 เมตร ในการ ก่อสร้างพระมีนายช่างของกรมศิลปกรมาควบคุมการก่อสร้าง พระพุทธรูปจึง มีสัดส่วนและรูปทรงที่สวยงามมาก ​ ที่ด้านล่างของวัดเป็นที่ตั้งของมหาทุติยเจดีย์ศรีบรรพพซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีรูป ทรงคล้ายกับทางพม่า เนื่องจากวัดนี้เป็นที่ศรัทธาของชาวพม่าที่อาศัยอยู่ใน ระนอง จึงมีพระพม่า และช่างฝีมือของพม่ามาช่วยทำการสร้างเจดีย์นี้ ถือว่า เป็นเรื่องแปลกที่วัดไทยมีเจดีย์แบบพม่า 2. วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจชุมชนโกโก้ระนอง ก่อตั้งเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2563 กับเงินลงทุนหลักหมื่นบาท จุดเริ่มต้นธุรกิจ นี้เกิดจากตนเองเปิดบริษัททำการตลาดอยู่กรุงเทพ ทำให้เห็นเทรนด์ธุรกิจเกษตรที่มี แนวโน้มเติบโตสูง บวกกับความต้องการกลับมาพัฒนาชุมชนบ้านเกิดที่จังหวัดระนอง โดยตัดสินใจนำโกโก้มาปลูกที่ระนองเนื่องจากต้องการพัฒนาพื้นที่ให้กลายเป็นธุรกิจ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยภายในฟาร์มจะมีค่าเฟ่ การสาธิตวิธีแปรรูปโกโก้ รวมถึงร้าน ขายต้นกล้าโกโก้ และโกโก้แมส หรือช็อกโกแลตแท้ 100% แบ่งเป็นพื้นที่เปิดให้ท่อง เที่ยวเชิงเกษตร 4 ไร่ พื้นที่เพาะปลูก 11 ไร่ พร้อมทั้งเป็นวิทยากรมอบความรู้การ เพาะปลูกโกโก้ให้ชาวบ้านในจังหวัด ภาพที่

3. สุสานเจ้าเมืองระนอง สุสานเจ้าเมืองระนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2426 เป็นสุสานของพระยาดำรง สุจริตมหิศรภักดี (คอซูเจียง) อดีตเจ้าเมืองระนองโดยบริเวณสุสานเป็นที่ดิน ที่ได้ ภาพที่ รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นเกียรติประวัติให้แก่ตระกูล ณ ระนอง ที่ คอซูเจียง เป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ชาวบ้าน เรียกท่านว่า เจ้าคุณเฒ่า ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในท้องถิ่น เป็น ตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งๆ ที่อพยพมาจากประเทศจีน เข้ามา เป็นกรรมกรรับจ้าง จนได้ตำแหน่งเป็นเจ้าเมือง เพราะเป็นคนที่มีความกตัญญู กตเวที ซื่อตรง อดทน มัธยัสถ์ รอบรู้ และมองการณ์ไกลรู้จักการจัดการและการ แก้ปัญหาทำประโยชน์ให้แผ่นดิน สุสานเจ้าเมืองระนแงตั้งตามหลักการฮวงซุ้ยหลังติดเขาหันหน้าออกสู่ทะเล ระหว่างทางจากทางเข้าถึงสุสาน ประดับด้วยบริวารตามหลัก ฮวงจุ้ยศาสตร์ ซึ่ง ประกอบด้วย ​ รูปปั้นขุนนางฝ่ายบู หมายถึง นักรบ ทหาร ความมั่นคงเข็มแข็งของตระกูลและ เมือง ​รูปปั้นขุนนางฝ่านปุ่น หมายถึงบัณฑิต นักปราชญ์ สติปัญญา ​รูปปั้นแพะ หมายถึง โภคทรัพย์ ความโอบอ้อมอารี ​รูปปั้นเสือ หมายถึง พลังอำนาจ ความยิ่งใหญ่ ​รูปปั้นม้า หมายถึง ความรวดเร็ว ปราดเปรียว การค้าขายที่คล่องแคล่ว เ​สาศิลา 2 ต้น หมายถึง สรรเสริญความงดงามของเมืองระนอง ความเป็นเมือง สงบ น้ำตกปุญญบาล อดีตใช้ชื่อน้ำตกเม็ดตะกวด จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้ง 4. น้ำตกปุญญบาล อระยู่นในอเงขตมีอวุิทวทยิาวนทัแศหน่์งสชวายตงิลาำมน้นำ้กำรตะกบมุีรดี้วย กันเป็3นนช้ั้ำนตกมีทีค่สววายมตสูลงอรดาปวีขอ1ง5จังเหมตวัดร ต้นกำเนิดมาจากลำน้ำห้วยเล็กๆ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าละอุ่น ป่าราชกรูด โดย น้ำตกปุญญาบาล จะเป็นน้ำตกชั้นแรก มีลักษณะเป็นสายน้ำที่ไหลลงจาก หน้าผาสูง ประมาณ10 เมตร มีน้ำไหลแรง และสามารถมองเห็นได้จากริมถนน สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่หน่วยจัดการป่าชายเลนที่รน.3 อำเภอ เมือง (เส้นทางที่จะเดินทางไปอำเภอละอุ่น) นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความ สะดวกต่างๆ อีกมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็น ลานจอดรถ ร้านอาหาร และห้องน้ำ ไว้ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมได้ง่ายๆ เพราะจะมีเส้นทาง ชมน้ำตกให้ และเส้นทางศึกษานิเวศฯป่าดิบชื้น จากชั้นที่ 1 จนถึงชั้นที่ 3 ระยะ ทางราว 300 เมตร ในแต่ละชั้น จะมีความน่าสนใจแตกต่างกัน ชั้นที่ 1 ปุญญ บาล เป็นชั้นที่สวยที่สุด ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงมาตามเชิงชั้นสูงประมาณ 20 เมตร รอบ ๆ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้นๆ น้ำตกชั้นที่ 2 เรียกว่าน้ำตกโตนไม้ไผ่ และน้ำตกชั้นที่ 3 เรียกว่าน้ำตกโตนต้นเฟิร์น ที่สำคัญที่ นี่เป็นน้ำตกที่ไหลตลอดทั้งปี

12. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม อดีต ตำบลบางนอน อยู่ในเขตการปกครองของตำบลปากน้ำ แต่ประชากรและหมู่บ้านเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อ เนื่อง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2490 ได้จัดตั้งตำบลบางนอนแยกออกจากตำบลปากน้ำ ซึ่งแยกออกมาปกครองตนเอง โดยที่ตำบลบางนอน อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอเมือง ต่อมามีประกาศกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเป็นองค์การ บริหารส่วนตำบลบางนอนตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2538 และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 มีประกาศกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเป็นเทศบาลตำบลบางนอน มีดวงตราประจำตำบลเป็นรูป พระพุทธรูปปางไสยาสน์ (พระนอน)

14. การพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ โครงการที่ 1 การส่งเสริมสัมมาชีพใหม่แก่ประชาชนหรือครัวเรือนที่มีรายได้ (การยกระดับสินค้า OTOP / อาชีพอื่นๆ) น้อยในพื้นที่ตำบลบางนอน อำเภอ เมืองระนอง จังหวัดระนอง -​ กิจกรรมย่อยที่ 1 การส่งเสริมและฝึกอบรมสัมมาชีพการทำปุ๋ยคอก ปุ๋ย อินทรีย์) ​- กิจกรรมย่อยที่ 2 การส่งเสริมและฝึกอบรมสัมมาชีพการทำสบู่สมุนไพร วัน เดือน ปี ที่จัดโครงการ/กิจกรรม ​ระยะเวลาดำเนินโครงการ วันที่ 16 – 22 สิงหาคม 2564 หลักการและเหตุผล ​ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เป็นพื้นที่บริเวณ ชานเมือง เนื่องจากตั้งห่างจากพื้นที่ ตัวเมืองเพียงเล็กน้อย ในอดีตนั้น ตำบลบางนอนอยู่ในเขตการปกครองของตำบลปากน้ำอำเภอเมือง ระนอง จังหวัดระนอง แต่เนื่องด้วยจำนวนประชากรและการตั้งถิ่นฐาน หมู่บ้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2490 บ้านบางนอน ได้ยกฐานะขึ้นเป็นตำบลบางนอนแยกออกจาก ตำบลปากน้ำ โดยภายหลังมี ประกาศกระทรวงมหาดไทย ให้จัดตั้งเป็น องค์การบริหารส่วนตำบลบางนอนตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2538 ต่อมามี ประกาศกระทรวงมหาดไทย ให้จัดตั้งเทศบาลตำบลบางนอน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 โดยตำบลบางนอน แบ่ง ขอบเขตการปกครองออกเป็น 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1 บ้านบางนอนในหมู่ที่ 2 บ้านเขาพริกไทย หมู่ที่ 3 บ้านบางนอนนอก และหมู่ที่ 4 บ้านหลุมถ่าน เมื่อสืบค้นข้อมูล เดิมของตำบลบางนอนจากสำนักงานวัฒนธรรม เป้าหมาย ​1) เป้าหมายเชิงปริมาณ -​ ผู้เข้ารับการอบรมและถ่ายทอดการสร้างสัมมาชีพใหม่แก่ประชาชนหรือครัวเรือนยากจนและ ประชาชนที่มีรายได้น้อยในตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง จำนวน 2 รุ่น รุ่นละ 50 คน รวม 100 คน ​2) เป้าหมายเชิงคุณภาพ ​- ผู้เข้าร่วมโครงการอบรมและรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านการพัฒนาสัมมาชีพ มีความพึง พอใจในการจัดโครงการ/กิจกรรม ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 80

ขั้นตอนการดำเนินงาน ​1) การจัดเตรียมกิจกรรม ​- ทำการวางแผนการจัดกิจกรรม เขียนโครงการอบรมสัมมาชีพในพื้นที่ตำบล บางนอน อำเภอ เมืองระนอง จังหวัดระนอง ​- ทำการลงพื้นที่สำรวจผู้เข้าร่วมกิจกรรม ติดต่อสถานที่ และเทียบเชิญวิทยากร ผู้ดำเนินการ ฝึกอบรมสัมมาชีพ ​- ทำการกำหนดกิจกรรมและตารางการดำเนินกิจกรรมที่ชัดเจน - ขออนุมัติ โครงการ/กิจกรรม -​ แจ้งประชาสัมพันธ์โครงการ/กิจกรรม 2​ ) ดำเนินกิจกรรม ​- จัดกิจกรรมฝึกอบรมสัมมาชีพและเสริมทักษะแก่ครัวเรือนยากจนและ ประชาชนที่มีรายได้น้อย ในตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ​3) ประเมินผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม ​- ทำแบบประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรม ​– สรุปผลการดำเนินกิจกรรม เพิ่มข้อความใน 2. ผลตามตัวชี้วัด 14 ตัวชี้วัด โ​ดยจากผลติดตามตัวชี้วัด 14 ตัวชี้วัดสามารถสรุปผลได้ ดังนี้ 1​ . ทำการดำเนินการสำรวจและคัดเลือกครัวเรือนมา 15 ครัวเรือนยากจน ในการพัฒนาสัมมาชีพตาม ความสนใจ ของครัวเรือนนั้น ๆ ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ที่ให้ความสนใจในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสัมมาชีพ 2​ . ทำการจัดโครงการเพื่อพัฒนาตำบลบางนอน โดยแบ่งเป็น 4 โครงการ ดังนี้​- โครงการที่ 1 การส่งเสริมสัมมาชีพ ใหม่แก่ประชาชนหรือครัวเรือนที่มีรายได้น้อยในพื้นที่ตำบล บางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 100 คน ​- โครงการที่ 2 การพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน, หรือสินค้า OTOP ในพื้นที่ตำบล บางนอน อำเภอ เมืองระนอง จังหวัดระนอง จำนวน 1 รุ่น ๆ ละ 50 คน ​- โครงการที่ 3 การสร้างเส้นทางท่องเที่ยวและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง จำนวน 1 รุ่น ๆ ละ 50 ​- โครงการที่ 4 การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในการส่งเสริมการสร้างรายได้และสร้าง เศรษฐกิจหมุนเวียนสู่ ชุมชนตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง จำนวน 1 รุ่น ๆ ละ 50 คน เนื้อหาเล็กน้อย

3​ . ได้รับความช่วยเหลือและคำแนะนำในการปฏิบัติงาน จากผู้นำชุมชน อาทิเช่น กำนันตำบลบางนอน ผู้ใหญ่บ้าน 4 หมู่บ้านในพื้นที่ อสม.ประจำหมู่บ้าน และ ประชาชนในพ้นที่ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ​4. มีการส่งเสริมองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วยในกระบวนการการแปรรูป ผลิตภัณฑ์สินค้า และ เพื่อเพิ่มผลผลิต ซึ่งจะนำมาสู่การเพิ่มขึ้นของรายได้ในชุมชน รวมถึงส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเพิ่ม ช่องทางในการเข้าถึงกลุ่ม ลูกค้าและการวางแผนการค้าขายออนไลน์ 5​ . ส่งเสริมการแปรรูปทรัพยากรและวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชน เพื่อก่อให้เกิดรายได้ และเพิ่มมูลค่าให้แก่ ทรัพยากรนั้น ๆ และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน 6​ . องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน องค์กรชุมชน กลุ่มอาชีพต่าง ๆ วิสาหกิจ ชุมชน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุน ช่วยเหลือในการดำเนิน โครงการ ​7. เกิดกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ประชาชนสามารถร่วม แสดงความคิดเห็นและให้ ความร่วมมือตลอดการเนินโครงการ เนื่องจากเป็นผู้ได้ รับผลกระทบโดยตรง 8​ . การแปรรูปทรัพยากรในท้องถิ่นเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และบริการเพื่อเพิ่มราย ได้ 9​ . ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล สมาชิกสภา เทศบาล อสม. ประจำหมู่บ้านร่วมให้ข้อมูลเพื่อการดำเนินโครงการ 1​ 0. วิศวกรสังคมได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายข่าวและเป็นส่วนหนึ่งของการ ดำเนินการในการ ป้องกันและควบคุมโรคระบาด COVID-19 1​ 1. กลุ่มชาวบ้านที่ตั้งตัวเพื่อทำธุรกิจผลิตสินค้าจากทรัพยากรหรือวัตถุดิบใน ชุมชนพร้อมกับการสร้าง เป้าหมายใหม่เพื่อเกิดเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งมากยิ่ง ขึ้นในอนาคต 1​ 2. การจัดหาอาชีพที่เหมาะแก่ครอบครัวคนยากจน และช่วยส่งเสริมให้แก่ครัว เรือนดังกล่าวสามารถ พึ่งพาตนเองได้ในอนาคต 1​ 3. จัดแบ่งสัมมาชีพตามลักษณะการเป็นอยู่และตามความเหมาะสมของแต่ละ ครัวเรือน โดยการคัดเลือก สัมมาชีพในการอบรมจากประชาชนในพื้นที่ 1​ 4. ในการฝึกอบรมหรือการส่งเสริมสัมมาชีพ มีการจัดจ้างวิทยากรที่มีความรู้ 3. ผลที่คาดว่าจะได้ทั้งที่วัดได้และวัดไม่ได้ ความสามารถเฉพาะด้านใน แต่ละสัมมาชีพ เพื่อสอนทักษะในแต่ละสัมมาชีพแก่ ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการ ก่อให้เกิดทักษะและองค์ความรู้ที่ ชัดเจน ผ​ ลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับโครงการในภาพรวม ดังนี้ ​6.1 ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในรอบ 1-3 เดือน 1​ ) วิศวกรสังคมตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลจาก การเฝ้าระวัง COVID-19 โดยมีการสำรวจตรวจสอบเป็นประจำทุก ๆ เดือน เดือนละไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 จาก สถานที่พักอาศัย สถานศึกษา ตลาด และศาสนสถาน เพื่อการเฝ้าระวังที่ทันท่วงที2​ ) วิศวกรสังคมตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ได้ดำเนิน การสำรวจพื้นที่ เก็บ ข้อมูล สอบถามและสัมภาษณ์ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเรื่องแนวทางการพัฒนา พื้นที่และสถานที่สำคัญ ๆ ในตำบลบางนอน สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต

​3) วิศวกรสังคมตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ได้ดำเนิน การจัดเก็บข้อมูลกลุ่ม วิสาหกิจ กลุ่มพัฒนาบทบาทและสตรี กลุ่มแม่บ้าน และส่วนธุรกิจอื่น ๆ ในพื้นที่ เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทำฐานข้อมูล สารสนเทศทางด้านเศรษฐกิจ 4​ ) วิศวกรสังคมตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ได้ดำเนิน การจัดเก็บข้อมูล เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ โดยมีหัวข้อการจัดเก็บตาม ฐานข้อมูล TPMAP และฐานข้อมูล จปฐ. ของกรมการ ปกครอง กระทรวง มหาดไทย เพื่อให้ได้ข้อมูลประชากรที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ​6.2 ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในรอบ 1 ปี ​1) ประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะครัวเรือนยากจน 15 ครัวเรือนที่ได้ทำการ จัดเก็บข้อมูล รวมถึง ประชาชนรายได้น้อยที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมทักษะ และพัฒนาสัมมาชีพ มีการประกอบอาชีพได้ตามที่ส่งเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้ แก่ตนเองและครอบครัวตนเอง ​2) เกิดการยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่จังหวัดระนอง และนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป ​3) มีผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ที่ใช้วัตถุดิบและทรัพยากรหลักในพื้นที่ตำบลบาง นอน อย่างคุ้มค่า และเกิดการจัดสรรทรัพยากรในพื้นที่ที่เป็นธรรม ​4) มีการเพิ่มขึ้นของรายได้ครัวเรือนและรายได้เฉลี่ยของประชากรในตำบล บางนอน อำเภอเมือง ระนอง จังหวัดระนอง ​6.3 ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะกลางและระยะยาว ​1) ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ต้องยกระดับจากการ ประเมินศักยภาพ ตำบล 16 ประการเป้าหมาย สู่ตำบลที่มีความยั่งยืนใน อนาคต 2​ ) ประชาชนในพื้นที่ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง มี คุณภาพชีวิตเป็นอยู่ที่ดี ขึ้นเป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้ง 4 หมู่บ้าน

1 5 . ก า ร ส ร้ า ง แ ล ะ พั ฒ น า ก า ร ส ร้ า ง เ ส้ น ท า ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว แ ล ะ ย ก ร ะ ดั บ CREATIVE ECONOMY แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว ชุ ม ช น เ ชิ ง อ นุ รั ก ษ์ ใ น พื้ น ที่ ตำ บ ล บางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ( ก า ร ย ก ร ะ ดั บ ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ) 3.1 เพื่อสำรวจ เก็บรวบรวมข้อมูล สอบถาม และสัมภาษณ์หน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่สำหรับแนวทางการพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ 3.2 เพื่ออบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ และรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนในพื้นที่สำหรับโอกาสและแนวทางการพัฒนา 3.3 เพื่อออกแบบและพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง 3.4 เพื่อจัดทำแผนที่เส้นทางการท่องเที่ยวและแผนที่ท่องเที่ยวชุมชนในตำบลบาง นอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ต้นแบบ สำหรับการประชาสัมพันธ์ใน อนาคตสถานที่ท่องเที่ยวในชุมชนตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัด ระนอง

16. การส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม / Circular Economy (การเพิ่มรายได้ หมุนเวียนให้แก่ชุมชน) ก​ ารถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในการส่งเสริมการ สร้างรายได้และสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่ ชุมชนตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง วัตถุประสงค์ของกิจกรรม ​4.1 เพื่อจัดสร้างหนังสือประวัติศาสตร์ชุมชนและการพัฒนาโครงการยก ระดับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากรายตำบลแบบบูรณาการ ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ​4.2 เพื่อจัดทำวีดิโอสำหรับการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินโครงการใน พื้นที่ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง 4​ .3 เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีในการต่อยอดและการ สร้างรายได้ รวมถึงการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนแก่ประชาชน ในพื้นที่ตำบลบางนอน อำเภอเมืองระนอง จังหวัด ระนอง