Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การวิเคราะห์ หนังสือเรียนนายธนพนธ์ ชูนาม

การวิเคราะห์ หนังสือเรียนนายธนพนธ์ ชูนาม

Published by santa46826, 2021-09-28 16:54:53

Description: การวิเคราะห์ หนังสือเรียนนายธนพนธ์ ชูนาม

Search

Read the Text Version

การวิเคราะห์ หนังสือเรียน แบบเรียนภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เล่มที่ 2 (มานีมานะ) นำ เ ส น อ โ ด ย นายธนพนธ์ ชูนาม

วิเคราะห์หนังสือ เรียนภาษาไทย ชั้น ป.4 เล่มที่ 2 1.การวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของหนังสือ 2.การวิเคราะห์เนื้ อหา

การวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของหนังสือ 1.ลักษณะทั่วไป 1.1ขนาด ขนาดของหนังสือเรียนที่เหมาะสมกับนักเรียนนั้น คสรมีขนาดที่พอเหมาะพอดี ไม่ควรใหญ่มากหรือเล็กมาก เพราะจะทำให้การหยิบจับของเด็กในขณะที่อ่านนั้นมีความ ยากลำบากเกินไป โดยจากการไปสืบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ หนังสือภาษาไทย(มานีมานะ)ป.4เล่มที่2นี้ จะมีขนาดอยู่ที่ 150x210มม. โดยถ้านำไปเทียบกับหนังสือภาษาพาที วรรณคดีลำนำชั้นป.6แล้วนั้น จะพบว่า หนังสือภาษาพาที จะมีขนาดอยู่ที่ 190x261มม. ซึ่งถือว่ามีขนาดที่ห่างกันไม่ มากเท่าไหร่นัก นั่นหมายความว่าหนังสือเรียนภาษา ไทย(มานีมานะ)มีขนาดที่พอเหมาะกับเด็กนักเรียนที่ใช้ในการ อ่านการเรียน

1.2องค์ประกอบอื่นๆของหนังสือ ตามที่ได้ศึกษาลักษณะของหนังสือเรียนที่ดีนั้น ก็ได้พบ ว่ามีการกำหนดองค์ประกอบต่างๆที่ควรจะมีภายในหนังสืออยู่ ดังนี้ 1.2.1สารบัญ หนังสือเรียนที่ดีควรจะมีสารบัญเพื่อแจ้งหรือเป็ นการ บอกให้นักเรียนทราบว่าจะต้องศึกษาอะไรบ้างในหนังสือเล่มนี้ ทั้งนี้ การที่หนังสือเรียนควรมีสารบัญก็เพราะเพื่อความ สะดวกในการเปิดหาหน้าหนังสือในแต่ละหน้าโดยไม่ต้อง ทำการเปิดทีละหน้า โดยจากการที่สำรวจรูปเล่มของหนังสือ ภาษาไทย(มานีมานะ) ก็พบว่าหนังสือเล่มนี้มีสารบัญที่บอก รายละเอียดอยู่ครบถ้วนเลยทีเดียว 1.2.2ปก สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างของหนังสือเรียนก็คือปก หนังสือ เพราะปกหนังสือเรียนนั้นจะเป็นตัวบอกเกี่ยวกับชื่อ หนังสือ ชื่อผู้แต่ง ระดับชั้น ราคาหนังสือ ปีที่พิมพ์ โดยหนังสือ ภาษาไทย(มานีมานะ)เล่มนี้มีองค์ประกอบบนปกที่ค่อนข้าง ครบเลยทีเดียว แต่จากการวิเคราะห์ตามหลักของหนังสือเรียน ที่ดีแล้วนั้น ปกของหนังสือเล่มนี้ยังขาดภาพและสีสันที่ชวนให้ นักเรียนอ่าน แต่อาจจะด้วยช่วงระยะเวลาของสมัยนั้นการ พิมพ์ภาพสีอาจจะมีต้นทุนที่สูงมากจึงทำให้ตัดในส่วนนี้ออก ไป

1.2.3คำนำ คำนำก็เป็ นอีกหนึ่งส่วนขององค์ประกอบภายใน หนังสือโดยตามหลักการวิเคราะห์หนังสือเรียนแล้วนั้น คำนำควร จะมีการระบุจุดมุ่งหมายการแต่ง ระบุการปรับปรุงในการตีพิมพ์ ในแต่ละครั้ง และมีการแนะนำการใช้หนังสือทุกครั้ง และคำนำที่ ดีควรมีการใส่ชื่อผู้แต่งไว้ด้วยในกรณีที่มีผู้แต่งเกิน 5 คนขึ้นไป ซึ่งจาการอ่านหนังสือภาษาไทยป.4เล่มที่2(มานีมานะ)ก็พบว่า คำนำของหนังสือเล่มนี้มีองค์ประกอบครบทุกองค์ประกอบตาม หลักการวิเคราะห์หนังสือเรียนได้ตั้งไว้

1.3รูปเล่มและการพิ มพ์ รูปเล่มของหนังสือเรียนภาษาไทยป.4เล่มที่2(มานี มานะ)นั้นหากทำการวิเคราะห์ตามหลักการวิเคราะห์หนังสือเรียน นั้น ปกจะเป็นข้อพิจารณาเป็นอย่างมาก เพราะปกของหนังสือ จะเป็นการใช้สีเพียงอย่างเดียวที่ปรากฎบนปก ไม่มีรูปภาพ ประกอบที่สวยงามแต่อย่างใด แต่หากมองย้อนกลับไปในความ เป็นจริงนั้น หนังสือเล่มนี้ได้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ปี พศ.2523 นั่นหมายความว่าหากนำเอาหลักการวิเคราะห์หนังสือ แบบเรียนในปัจจุบันไปตัดสินแบบเรียนในอดีตย่อมไม่สามารถ ทำได้ในทุกจุดเช่นกัน เพราะว่าในปีพศ.2523นั้น เทคโนโลยีการ ตีพิ มพ์ ในสมัยนั้นยังไม่ก้าวหน้าและมีแพร่หลายอย่างปัจจุบัน และการจะตีพิ มพ์ รูปภาพที่ลงสีอย่างสวยงามในสมัยนั้นเป็น เรื่องที่ค่อนข้างยากและต้องใช้ต้นทุนที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว จึงทำให้ปกของหนังสือเล่มนี้ไม่มีรูปภาพสีสวยงามบนปก นั่นเอง

การพิมพ์ภายในเล่ม ในการพิจารณาการวิเคราะห์จากการพิมพ์ ภายในหนังสือเล่มนี้นั้น พบว่าการพิมพ์หนังสือเล่มนี้มีการพิมพ์ ที่ตรงตามหลักการวิเคราะห์หนังสือแบบเรียน เช่นขนาดของตัว พิมพ์ในหนังสือ 16พอยท์ ในหนังสือเล่มนี้ก็มีการใช้ขนาตัวอักษร ประมาณ 16พอยท์โดยประมาณ มีการเว้นวรรคที่ถูกต้องตาม หลักการใช้ภาษา สามารถอ่านได้ง่าย คำไม่ฉีก มีรูปภาพประกอบ เพื่ อให้ผู้อ่านและผู้เรียนสามารถอ่านและจินตนาการได้ง่ายมากขึ้น จากการอ่านเนื้อหาและมาดูรูปภาพประกอบ ความถูกต้องในการพิมพ์ พบว่าในการพิมพ์หนังสือ เรียนเล่มนี้นั้นมีการพิมพ์ที่ค่อนข้างดี มีการตรวจทานคำผิดค่อน ข้างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสะกดคำ การใส่ เครื่องหมายวรรคตอนก็ใส่และพิมพ์ได้ถูกต้อง เหมาะสมและควร แก่การนำมาเป็นแบบเรียนแก่นักเรียน

1.4ผู้แต่ง ผู้แต่งหนังสื อภาษาไทย ป4 เล่ม2 คือ อาจารย์รัชนี ศรีไพร วรรณ นับว่าเป็นผู้แต่งบทเรียนภาษาไทยที่เข้าใจและอยู่กับภาษาไทย มานานแสนนาน และมีผลงานทางงานภาษาไทยเป็นจำนวนมากโดยที่ มีชื่อเสี ยงได้แก่ หนังสื อประกอบการเรียนภาษาไทยเรื่อง กระต่ายน้อย และฝนหลวง และ มานีมานะ ที่หลายๆคนรู้จักนั่นเองทั้งนี้ ท่านยังมี วรรณกรรมที่แต่งขึ้นอีก1เรื่อง คือวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง ทางช้าง เผือก ซึ่งจากการที่ได้สื บหาข้อมูลของท่านอาจารย์รัชนี สามารถ วิเคราะห์และสรุปได้ว่าผู้แต่งหนังสื อเรียนภาษาไทย(มานีมานะ)เล่นี้มี ความเหมาะสมและเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีความชำนาญและความ เข้าใจในด้านการใช้ภาษาไทยอยู่มากทีเดียว



2.การวิเคราะห์ เนื้อหา 2.1หนังสือแบบเรียนชั้นต้น 2.2หนังสือแบบเรียนสำหรับผู้ที่มีความสามารถ 2.3การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบและ เนื้อหาไปพร้อมกัน โดยจากการอ่านหนังสือแบบเรียนภาษาไทย ป.4เล่มที่2แล้วนั้นพบว่าจะเป็นหนังสือที่ตรงกับ ลักษณะในประเภทที่ 1 คือหนังสือแบบเรียนชั้น ต้น เพราะเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสำหรับเด็กที่พึ่ง เริ่มการอ่านการเขียน จึงทำให้เนื้อหาค่อนข้าง น้อย แต่เน้นการปฏิบัติเพื่อให้เด็กที่เริ่มเรียนมี ความเคยชินในการการเขียนเพื่อให้เกิดการฝึก ทักษะเหล่านี้จนชำนาญมากขึ้นนั่นเอง

คุณค่าในด้านต่างๆที่ใช้ ในการวิเคราะห์ 11..คคุุณณคค่่าาดด้้าานนววรรรรณณศศิิลลปป์์ 22..คคุุณณคค่่าาททาางงเเนนืื้้ออหหาา 33..คคุุณณคค่่าาดด้้าานนสสัังงคคมม 44..คคุุณณคค่่าาจจาากกกกาารรนนำำไไปป ปปรรัับบใใชช้้ใในนชชีีววิิตตปปรระะจจำำววัันน

1.คุณค่าทางวรรณศิลป์ จ า ก ก า ร อ่ า น ห นั ง สื อ แ บ บ เ รีย น ภ า ษ า ไ ท ย ชั้ น ป ร ะ ถ ม ศึ ก ษ า ปี่ ที่ 4 เ ล่ ม ที่ 2 ก็ พ บ ว่ า มี ก า ร แ ต่ ง เ นื้ อ เ รื่ อ ง ใ น แ บ บ เ รีย น ค่ อ น ข้ า ง เ รีย บ ง่ า ย ต า ม รู ป แ บ บ ข อ ง ห นั ง สื อ เ ด็ ก แ ต่ ก็ มี ค ว า ม พั ฒ น า ม า ก ขึ้ น จ า ก ชั้ น ป . 1 - ป . 3 เ พ ร า ะ ชั้ น ป . 4 นั้ น จ ะ อ ยู่ ใ น ช่ ว ง ที่ เ ป็ น ป ร ะ ถ ม ต อ น ป ล า ย แ น่ น อ น ว่ า ก า ร อ่ า น ก า ร เ ขี ย น จ ะ มี ค ว า ม ค ล่ อ ง แ ค ล่ ว ชำ น า ญ ก ว่ า เ ด็ ก ป ร ะ ถ ม ต อ น ต้ น แ ล ะ ก า ร แ ต่ ง นั้ น มี ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ที่ เ ข้ า ใ จ ง่ า ย ไ ม่ ใ ช้ คำ ย า ก ม า ก จ น เ กิ น ไ ป แ ต่ ก็ ยั ง ใ ช้ ค ว า ม ไ พ เ ร า ะ ใ น ด้ า น ก า ร เ ล่ น คำ ซ้ำ คำ พ้ อ ง เ สี ย ง อ ยู่ ตั ว อ ย่ า ง เ ช่ น พู ด เ สี ย ง อ่ อ ย ๆ ( ใ น บ ท ที่ 1 6 ) แ ล ะ มี ก า ร ส อ น ใ น เ รื่ อ ง ข อ ง ก า ร ใ ช้ คำ พ้ อ ง เ สี ย ง เ ช่ น กิ่ ง ไ ม้ ท า น น้ำ ห นั ก ไ ม่ ไ ห ว ขึ ง ต ก ล ง ไ ป ใ น ลำ ธ า ร ( บ ท ที่ 1 8 ) เ ป็ น ต้ น ทั้ ง นี้ แ ม้ จ ะ ใ ช้ คำ ใ น ก า ร แ ต่ ห นั ง สื อ ที่ ค่ อ น ข้ า ง เ รีย บ ง่ า ย แ ต่ ใ น บ า ง คำ นั้ น ก็ ยั ง เ ป็ น คำ ที่ ใ ช้ ใ น ยุ ค ส มั ย นั้ น แ ล ะ อ า จ ทำ ใ ห้ เ ด็ ก ใ น ยุ ค ส มั ย นี้ จ ะ เ ข้ า ใ จ ที่ ค่ อ น ข้ า ง ย า ก เ พ ร า ะ ใ น ส มั ย นี้ ไ ม่ ไ ด้ ใ ช้ คำ นั้ น ๆ แ ล้ ว ห รือ ถึ ง ใ ช้ ก็ ไ ม่ ไ ด้ แ พ ร่ ห ล า ย ม า ก เ ท่ า ใ ด

2.คุณค่าทางเนื้อหา 2.1รู ปแบบ จากการอ่านหนังสือแบบเรียนเล่มนี้ มีลักษณะคำ ประพันธ์แบบร้อยแก้วโดยมีการแทรกร้อยกรอง อยู่บางส่วน มีการใช้คำและเนื้อหาที่ค่อนข้าง เหมาะสมกับเด็กที่กำลังศึกษาในชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 2.2สาระ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อ นักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แน่นอนว่า แก่นหลักที่สำคัญของหนังสือเล่มนี้ คือเน้นใน ด้านของวิชาการ หลักการอ่านคำต่างๆเพื่อให้ เด็กชั้น ป.4 ได้มีความจำและเคยชินในการมาขึ้น เพื่อให้มีความชำนาญมากขึ้นจนสามารถที่จะไป เจอบทเรียนในระดับชั้นต่อไปที่มีความซับซ้อน มากขึ้น

2.3โครงเรื่อง แบบเรียนเล่มนี้ มีการแต่งขึ้นมาโดยใช้ โครงเรื่องหลักที่ไม่ซับซ้อน แต่ก็แฝงความนัย ด้วยคุณธรรมจริยธรรมในเรื่องด้วย ซึ่งกล่าวได้ ว่า นอกจากจะเน้นในด้านวิชาการแล้ว ใน หนังสือก็ยังต้องการปลูกฝังในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมไปในตัวอีกด้วย 2.4ตัวละคร ตัวละครในแบบเรียนเล่มนี้นั้น โดย ส่วนมากแล้ว จะเป็นตัวนักเรียนและครูเสียส่วน ใหญ่ และจะแต่งให้ตัวละครในส่วนของนักเรียน นนั้น เป็นคนดี มีความรับผิดชอบ มีความ ซื่อสัตย์ มีจิตใจโอบอ้อมอารี ตัวอย่างเช่น ใน บทที่29 เป็นบทที่เล่าถึงไฟไหม้ตลาด ในเนื้อ เรื่องได้เล่าว่ามานีได้เข้าไปช่วยถือของให้ผู้ที่หลบ หนีออกมาจากที่ไฟไหม้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้แต่ง ต้องการจะปลูกฝังคุณธรรมความมีน้ำใจมีจิต อาสาให้เด็กที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้นั่นเอง

2.5ฉากและบรรยากาศ ฉากในแบบเรียนเล่มนี้ ส่วนมาก แล้วจะเป็นภาพของชมชุมชนบท มีการ อยู่อาศัยที่ค่อนข้างเรียบง่าย มีภาพ ตลาดที่มีพ่ อค้าแม่ค้าหยอกล้อกัน สนุกสนาน มีงานกาชาดที่สมัยปัจจุบันนี้ หาได้ยาก และจะมีงานกาชาดได้ก็ยาก มากในแต่ละครั้ง เพราะในบางครั้งสถาน ที่ไม่อำนวย และฉากของแบบเรียนนี้ ยัง พู ดถึงป่าไม้ ทุ่งนาอีกด้วยเป็นการสะท้อน ให้เห็นว่า ในสมัยนั้นคนไทยทำอาชีพ เกษตรกร และค้าขายเป็นหลักนั่นเอง 2 . 6 ก ล วิ ธี ใ น ก า ร แ ต่ ง แบบเรียนเล่มนี้ มีการแต่งโดยใช้ คำและการนำเสนอที่ตรงไปตรงมา เพราะ ว่าเป็นแบบเรียนสำหรับเด็ก หากมีการนำ เสนอที่ซับซ้อนมากเกินไป จะทำให้เด็กไม่ เ ข้ า ใ จ แ ล ะ จ ะ ทำ ใ ห้ เ นื้ อ ห า เ กิ น ก ว่ า ร ะ ดั บ ชั้ น ของเด็ก แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีเนื้อหาที่แต่งขึ้น ม า ใ น บ ท เ รี ย น ที่ เ ข้ ม ข้ น ขึ้ น ม า ก ก ว่ า ร ะ ดั บ ชั้นที่ผ่านมา เพราะถือว่ามีความเป็นเด็ก โ ต กั น แ ล้ ว นั่ น เ อ ง

3.คุณค่าทางสังคม 3.1คุณค่าทางสังคมในด้านการดำเนินชีวิต ในแบบเรียนเล่มนี้ได้มีการสะท้อนภาพของสังคมและการ ดำเนินชีวิตของคนในยุคสมัยนั้นออกมาได้ชัดเจนมาก ไม่ ว่าจะเป็นการตัดไม้ไผ่มาทำงานฝีมือของนักเรียน หรืออาจ จะนำมาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้นั่นเอง ทั้งนี้ยังมีการ บรรยายภาพของตลาด ที่มีแม่ค้าพ่อค้าขายของ และยัง บรรยายถึงเด็กในสมัยนั้นที่จะถูกที่บ้านสอนทั้งเรื่องของ งานฝีมือและการทำขนมไทย และที่สำคัญ ภาพที่สะท้อนให้ เห็นการใช้ชีวิตในยุคสมัยนั้นของประเทศไทยได้ชัดมาก ที่สุด คือ ในหนังสือมีการใช้โทรเลขในการติดต่อสื่อสาร ข่าวสารจากที่บ้านอยู่นั่นเองจากบทที่ 17 ที่ปู่ของสมคิด ป่วยแล้วที่บ้านส่งโทรเลขมาบอกข่าวสารนั่นเอง ซึ่งจะเห็น ได้ว่า หนังสือเล่มนี้ มีการสะท้อนภาพของสังคมในยุคนั้น ออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก ทั้งวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ การสอนลูกหลานในบ้าน และทัศนคติของคนในยุคสมัยนั้น ที่เกิดขึ้นมาจริงๆและในปัจจุบันก็ยังพอมีหลงเหลือบ้างแต่ ไม่มากแล้ว ซึ่งหากอยากรู้ว่าในสมัยนั้นคนไทยมีความเป็น อยู่อย่างไรนั้น สามารถศึกษาได้จากแบบเรียนเล่มนี้ ซึ่งได้ ความรู้ที่มากพอเลยทีเดียว

3.2คุณค่าทาง ด้านความเชื่อ ในด้านของความเชื่อนั้น ก็ยังสะท้อนให้เห็นว่า ในวัยเด็ก ยังเชื่อว่าผีมีจริง สังเกตได้จากในบท ที่ 16 ที่เจ้าโตที่เป็นหมาเอาหัวไปติดในกระป๋อง อาหารไก่ แล้วมานีและมานะเดินไปหาเจ้าโต มานีรู้สึกกลัวเมื่อเห็นใบไม้แกว่งในความมืด ก็ คิดว่ามีผี และอีกความเชื่อหนึ่งของคนไทยที่ ปัจจุบันยังเชื่ออยู่ คือเชื่อว่า เมื่อนกแสกร้องจะ มีผีหรือมีคนตายนั่นเอง ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ก็ ยังคงแสดงออกมาในบทเรียนนั่นเอง

วัฒ3น.3ธครุณรมค่ขาปนทรบาะงธเพสรัรงณคมี มเนดี้ยามนและ ว่2าแ2ศหสปิผลัูนทดจ้จััชป้งงงใจะาุะนสใหมบืยวนีัดอมักนจ้ฒงเาดาอะลานน่รนใยนมีูข้ก่สธลแพ่น้รอลีโิลว้่กเร้จงา็ศนวมมปวงีษแกขกถรทึลทัรีะาอง้้่งวจะรเกงันพแเีดสไา้บยตทณระขั่ึีนง้เยรทนแ่ป้มแาต็อีมัลน้รยลงนูาะปวระแัอวำฒผขัตูซอฒ้่ึปหอ่ในงกรนนงญกธมะินธยารังุการคกรรใเอรเรชนสม่ร่บมาีนมผไยั้เยนทักายพน้ัรนยถนนทลัุำีท้ง่นัจงใ้จแังเสมเดช่สะลพิ่ืชา้ว่เนนุะ่อจหดาห็ในน่เนรนมปำำถ็ไบึสนไดง้ปทใโบทดี่ยซึ่ง

แอทสคเนปเวบีิัุรรื้ดืมชาจว่กอบัาอ้ไงางวาจยๆทมก่งุกนอัม่ัาบคง้อขเมันาจยเพพนรอ่ัชรดาีก้ืะาง่นยออไังไกงล้ทดแนังีมภ่เแ้ท่น่ีตามหแเย่มล่ี็าหกัวอีตนกย็งพร่ัะนไลูยภคจงาปูด่วส่ภ้รคาัะงาภวฒะวบาส่มงพาาีทพมรสนแ้อใพรอานอเธลอนยพปนนแรัยะด้ใาร่นรรบขนยายแะามัใอบงเงกนะทรปชืเงใแ่ใัสออรรชดรนสีัต้กยัแงบะง่เบงกจใคนลเขใ็าคพนนทอนเมะงลมณำถสงเ่ิีึรใม่งงหา้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook