The Researcher Jiku

1. แนะนำตวั ชื่อ อาจารย์รัตนาพร นรรัตน์ ค่ะ ที่มหาวิทยาลัย นักศึกษาเรียก อาจารย์จิ๊กุ เป็น อาจารย์ประจาสาขาวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร วิทยา เขตเชียงราย จบปริญญาเอก สาขาวิชาฟิสิกส์ เช่ียวชาญทางด้านการประยุกต์ใช้ไอออน บีมในการบันทึกภาพความละเอียดสูง จาก University of Jyvaskyla ประเทศ ฟิ น แ ล น ด์ แ ล ะ มี โ อ ก า ส ไ ด้ ท า ง า น วิ จั ย ร ะ ดั บ ป ริ ญ ญ า เ อ ก ที่ Institut des Microtechnologies Appliquées Arc (IMA-ARC) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จากนั้น กลับมาทางานท่ี มทร.ล้านนา เชียงราย ปี 2556 ปัจจุบันสอนวิชาฟิสิกส์สาหรับวิศวกร ให้กับนักศึกษาสาขาวิศวกรรมและเป็นนักวิจัยในกลุ่มศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการด้านการประยุกต์ใช้ไฟฟ้าแรงดันสูงพลาสมา และไมโครนาโนบับเบิล้ เพ่ือการเกษตรช้ันสูง ภาพประกอบ : บรรยายงานวิจัยในการสอบวิทยานิพนธร์ ะดับปริญญาเอกท่ปี ระเทศฟนิ แลนด์

2. แรงบันดำลใจในกำรทำวจิ ยั แรงบันดาลใจในการทาวิจัย รักในอาชีพครูค่ะ ก็เลยให้ความสาคัญกับการสอน หลังจากจบปริญญาเอกก็กลับมาสอนอีกคร้ังที่ มทร.ล้านนา เชียงราย ในปี 2556 รู้สึกว่าเป็นเร่ืองท่ีท้าทาย เน่ืองจากเด็กท่ีน่ีความรู้ในระดับพื้นฐานค่อนข้างต่า เช่น การคานวณ หรือความเข้าใจในทางทฤษฎีน้อยมากและเด็กไม่มีความม่ันใจในตัวเองเพราะเค้าคิดว่าตัวเองเป็นเด็กหลังหอ้ ง เรียนหนังสือไม่เก่ง แตเ่ รากลับมองเหน็ พรสวรรค์ที่หาไดย้ ากจากเด็กเรยี นท่ัว ๆ ไป คือ เป็นความเปน็ บณั ฑติ นกั ปฏบิ ตั ิ มีทักษะการเอาตัวรอดสูง กลา้ ที่ จะลองผิดลองถูก คิดนอกกรอบหรือแม้กระทั่งการน้อมรับคาแนะนาจากคนอื่น (น้าคร่ึงแก้ว) ขอเพียงแต่ว่าอาจารย์ต้องเปล่ียน ทัศนคติและยอมรับว่าในการสอนในศตวรรษท่ี 21 อาจารย์ไม่ใช่ศูนย์กลางในห้องเรียนอีกต่อไป เราควรจะสอนให้เค้าคิดเป็น แก้ปัญหาเป็น นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ของวิชาชีพของตนและประเมินการเรียนของเค้าจากสิ่งท่ีเค้าเป็น ไม่ใช่แค่การใช้ข้อสอบมา วัดคุณค่าในตัวเดก็ ส่วนอาจารยก์ ็ตอ้ งมีการพฒั นาตนเองตลอดเวลา ไมใ่ ชว่ า่ จะสอนแตต่ าราเดมิ ๆ ดงั น้นั ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจใน การทางานวิจัยเกี่ยวกับการนาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพ่ือเพ่ิมผลิตทางด้านเกษตรกรรม เพราะประเทศไทยเป็นประเทศ เกษตรกรรมควรจะมีการนาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยให้เกษตรกรกลายเป็น Smart farmer โดยมีการพัฒนาท่ียั่งยืน (เนอ้ื หาอยูใ่ นงานวจิ ยั ไม่ขึน้ หิ้ง) และสามารถเพ่มิ มูลคา่ ในผลติ ภณั ฑ์และเพม่ิ ขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ภาพประกอบ : (บน) การสอนในห้องเรยี น (ลา่ ง) การใช้ไฟฟา้ แรงดันสูงในการกระตนุ้ การออกดอกของเหด็ หอม

3. ผลงำน / ชิน้ งำนท่ีภำคภมู ิใจ ในความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ภูมิใจทุก ๆ ผลงานที่เราได้ทา โดยเฉพาะการทาวิจัยร่วมกับนักศึกษาและลองเอางานวิจัยไปลงกับชุมชน โดยเราได้เห็นถึงพัฒนาการของเด็ก ๆ จากที่ไม่มีความรู้และความมั่นใจในการทางาน จนกระทั่งเค้าสามารถคิด วิเคราะห์ปัญหา ดว้ ยตนเอง สามารถนาความรู้ของตวั เองทไี่ ดจ้ ากงานวิจัยนาไปเผยแพร่ใหก้ บั เกษตรกรได้ เชน่ การกระตุ้นการใช้ไฟฟา้ แรงดันสูงกับ การออกดอกของเหด็ ในประเทศไทย หรอื การยกระดับการเล้ียงปลานิล ใน อ.พาน จ.เชยี งราย โดยใช้เทคโนโลยไี มโครนาโนบับเบิ้ล ซ่ึงศตวรรษที่ 21 โลกได้เปล่ียนไป เราต้องเผชญิ กบั การเปลี่ยนแปลงของโลกและภูมิอากาศที่เปล่ียนไปอย่างรวดเรว็ ดังนั้นในการท่ี จะให้เด็กรุ่นใหม่ปรับตัวเข้ากับโลกทุกวันน้ี คือการสอนให้เค้าใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในวิชาชีพของตน มีคุณธรรมจริยธรรมใน วชิ าชพี และมีความรับผดิ ชอบตอ่ สว่ นรวม ภาพประกอบ : ทมี วจิ ัยการใช้เทคโนโลยไี มโครนาโนบบั เบิล้ ในการยกระดับการเลี้ยงปลานิล อ.พาน จ.เชยี งราย 4. ขอ้ คดิ ในกำรทำงำน/ คำแนะนำสำหรบั นักวิจัยรุ่นใหม่ Credit by www.pinteres.com เคยไดย้ นิ คาคมของ Lonely Planet “If you can’t change the world, change yourself. And if you can’t change yourself, change your world” ในโลกการทางานไม่มอี ะไร ท่ไี ด้ตามใจเราทุกอย่าง แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าเปลี่ยนใครไมไ่ ด้ ก็ เปล่ียนตัวเองนีแ่ หละคะ่ ตอนอาจารยม์ าทางานครงั้ แรกรู้สึกเควง้ คว้างไมร่ ูจ้ ะเรม่ิ ต้นทางานวิจัยยงั ไงดี เนอ่ื งจากเครื่องมือที่ใช้ ตัง้ แตเ่ รียนปริญญาตรีถงึ เอกมรี าคาแพงมาก พอกลับมาทางานปี แรก งานสอนเยอะมาก ทุนวิจัยก็ไมม่ ี ห้องแลบ็ และเครอ่ื งมือไม่มี เลย ยังคดิ อยู่ในใจเรยี นมาขนาดนี้เพอื่ อะไร ปัจจยั ภายนอกไม่เออ้ื เอาซะเลย แต่พอทางานไปเรอื่ ย ๆ ก็เรมิ่ คิดไดต้ ามคาคมนเี้ ลยคะ่ หากนักวจิ ยั คนใหนสนใจ อา่ นตอ่ ได้ทคี่ อลมั น์ “งานวิจยั ไม่ข้ึน ห้ิง”