แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ รหสั วชิ า วชิ าปฐพกี ลศาสตร์ เรยี นรคู้ รง้ั ท่ี ๑-๒ หนว่ ยท่ี ๑ ๓๐๑๒๑-๒๐๐๓ เวลาเรียนรู้ ๔ ชวั่ โมง ช่อื หนว่ ยเรยี นรู้ งานศกึ ษาความรเู้ กี่ยวกบั คณุ สมบตั ิของดนิ หัวขอ้ งาน/หวั ขอ้ เรอื่ ง. งานศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั คุณสมบตั ขิ องดนิ ๑.๑ ความร้ทู วั่ ไปเกย่ี วกับคุณสมบตั ขิ องดนิ ๑.๒ การจาแนกดนิ สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้ แสดงความรู้เก่ียวกับคณุ สมบัติของดิน สาระสาคญั คุณสมบตั ขิ องดนิ ดนิ เปน็ ส่งิ แวดลอ้ มที่เกดิ ขน้ึ ตามธรรมชาติ เกิดจากหินและแร่ท่ีแตกหักสลายตัวด้วยกระบวนการ ผพุ งั รวมกับซากพชื ซากสตั ว์ นา้ และอากาศ ประกอบดว้ ยส่วนท่ีเป็นของแข็ง ของเหลว และก๊าซ ดินแต่ละแห่ง จะมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกันข้ึนอยู่กับปริมาณส่วนประกอบของดิน ทาให้ดินมีเน้ือดิน สีของดิน และ ปริมาณแร่ธาตุแตกต่างกัน จากการศึกษาเร่ืองลักษณะของดิน โดยการขุดดินชั้นบน ( ลึกจากผิวดินประมาณ 20 เซนตเิ มตร) นามาศกึ ษาพบวา่ ๑.) ลักษณะเน้ือดิน คือ คุณสมบัติทางกายภาพของเน้ือดินท่ีสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า บางชนิดเนื้อละเอียด บางชนิดเน้ือหยาบ ชิ้นส่วนเล็กๆ ของดินประกอบด้วยกรวด ทราย ดินตะกอน ดิน เหนียวและฮิวมสั ๒.) สีของดิน คือ สีที่เกิดจากสารประกอบในดินทาให้ดินมีสีต่างกัน เช่น ดินท่ีมีฮิวมัสปนอยู่ มาจะมี สคี ลา้ ดินท่ีมีเหลก็ ปนอยมู่ ากจะมสี ีน้าตาลแดง การใช้สีบอกลักษณะของดิน สีของดินทาให้ทราบลักษณะท่ีสาคัญบางอย่างของดิน เช่น การ ระบายน้า การถ่ายเทอากาศ ความอดุ มสมบรู ณแ์ ละอ่ืน ๆ ๑.๑) ดินสีแดง เป็นดินที่มีอายุมากผ่านการสลายตัวอย่างรุนแรง มีสภาพการระบาย นา้ และถ่ายเทอากาศไดด้ ี ดินท่ปี ลกู พืชอยเู่ สมอจะสูญเสียสารอนิ ทรยี ไ์ ป ทาใหด้ ินมสี ีจางลง ๑.๒) ดินสีเหลอื ง เปน็ ดนิ ท่มี สี ภาพระบายน้าและอากาศไม่ดี ๑.๓.) ดินที่มีแถบสเี หลือง สแี ดง หรอื น้าตาลเทา เป็นดินที่ระบายน้าไม่ดี เช่น ดินท้อง นา เปน็ ต้น ๑.๔) ดนิ สเี ทาจดั หรือสีเขยี วคลา้ ปนน้าเงิน เป็นดินช้ันล่างที่มีน้าขังมีการระบายน้าไม่ ดีมกั จะพบในดนิ ชน้ั ล่างท่มี ีน้าขังหรอื แชน่ า้ แผนการจดั การเรียนรู้ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ โดยครูกัณธมิ า ทวสี ินธ์
สขี องดินเกิดจากกระบวนการเกดิ ดนิ และวตั ถุต้นกาเนิดที่เป็นองค์ประกอบ สารประกอบที่ให้ สแี กด่ ิน ตาราง ๑ แสดงสีดินและสารประกอบในดิน สารประกอบในดนิ สขี องดนิ เหลก็ เขียว เขยี วปนน้าเงนิ แมงกานสี ดา สารอินทรีย์ ดา สคี ล้า สารประกอบเปอรอ์ อกไซด์ เหลอื งปนนา้ ตาล หรอื เทา ๓.) ความพรนุ (Porosity) คือ ช่องว่างระหวา่ งเม็ดดนิ เป็นทสี่ าหรบั ให้น้าและอากาศผ่านเข้า ไปในเน้ือดิน ดนิ ชัน้ บนมคี วามพรุนมากกวา่ ดินชั้นลา่ ง ๔.) ความเปน็ กรดเป็นเบสของดิน หรือ pH ของดนิ คอื ปรมิ าณของโฮโดรเจนท่ีมีอยู่ในดินทา ให้ดินมีสภาพเป็นกรดหรือเบส ซ่ึงมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ดินท่ีเหมาะกับการเพาะปลูก มีค่า pH เท่ากับ 6-7 คือ สภาวะความเป็นกลาง ค่า pH ต่ากว่า 6 มีสภาวะเป็นดินเปร้ียว หรือ ดินกรด ถ้า pH สูง กว่า 7 มสี ภาวะเป็นดินเค็ม ๑.๔.๑) สาเหตุที่ทาให้ดินเป็นกรด ได้แก่ การใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ มากเกนิ ไป ป๋ยุ อินทรีย์จะสลายตัวใหก้ ๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ เมื่อรวมกับน้าในดินจะเกิดคาร์บอนิกทาให้ดิน เปน็ กรด ๑.๔.๒) การแก้ดินเป็นกรด ทาได้โดยการใส่ปูนขาวหรือดินมาร์ล ซึ่งเป็นดินท่ีมี สารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนใหญ่ ปัจจัยหรือสาเหตุท่ีทาให้ดินเป็นกรด ได้แก่ การเน่าเป่ือย ของสารอนิ ทรยี ์ในดนิ การใส่ปุ๋ยเคมี บางชนิด สารท่ปี ล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท วิธีการทดสอบความเปน็ กรด-เบส วธิ ีทดสอบไดด้ งั น้ี ๑.) ใชก้ ระดาษลติ มัสสนี ้าเงินหรือสีแดง โดยนากระดาษลิตมัสทดสอบกับสารท่ีสงสัย ถ้าเป็น กรดจะเปล่ยี นกระดาษลติ มัสสนี ้าเงนิ เปน็ สแี ดง และถ้าเป็นเบสจะเปลย่ี นกระดาษลิตมสั สีแดงเป็น สนี ้าเงนิ ๒.) ใช้กระดาษยนู เิ วอร์แซลอินดิเคเตอร์ โดยนากระดาษยูนิเวอร์แซลอินดิเคเตอร์ทดสอบกับ สารแล้วนาไปเทียบกับแผน่ สที ข่ี า้ งกล่อง ๓.) ใชน้ า้ ยาตรวจสอบความเปน็ กรด- เบส เช่น สารละลายบรอมไทมอลบลูจะให้สีฟ้าอ่อนใน สารละลายที่มี pH มากกว่า 7 และใหส้ เี หลืองในสารละลายที่มี pH นอ้ ยกวา่ 7 ปจั จยั หรือสาเหตุท่ีทาให้ดินเป็นกรด ได้แก่ การเน่าเป่ือยของสารอินทรีย์ในดิน การใส่ปุ๋ยเคมี บางชนิด สารท่ปี ล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท ปัจจัยที่ทาให้ดินเป็นเบส ได้แก่ การใส่ปูนขาว (แคลเซียมโฮดรอกไซด์ ความเป็นกรด – เบส ของดินมีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพืช พชื แตล่ ะชนิดเจริญเตบิ โตได้ดีท่ีมี ค่า pH ที่เหมาะสมแก่พืชเท่านั้นๆ ถา้ สภาพ pH ไมเ่ หมาะสมทาให้พืชบางชนิดไม่สามารถดดู ซมึ แร่ธาตุท่ตี อ้ งการท่ีมีในดินไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ แผนการจดั การเรียนรู้ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ โดยครูกัณธิมา ทวสี ินธ์
การแก้ไขปรบั ปรงุ ดนิ ๑.) ดินเปน็ กรด แก้โดยการเตมิ ปูนขาว หรือดินมารล์ (Marl) ท่ไี ดจ้ ากการสลายตัวของหินปูน ซ่ึงมีแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นองค์ประกอบ เมื่อบีบน้ามะนาวจะทาปฏิกิริยากับแคลเซียมคาร์บอเนต เกิด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นฟองฟู่ขึ้นดูเผินๆ เหมือนดินนั้นพองตัว จึงเรียกว่าดินสอพอง โบราณใช้ทาแป้ง ประร่างกาย เพ่ือให้เย็นสบายเมื่อผสมน้าหอมลงไปเรียกว่าแป้งกระแจะ ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ดิน มาร์ลเป็นปริมาณมากเพื่อลดสภาพความเป็นกรดของดิน (หรือท่ีมักกล่าวกันว่าแก้ดินเปรี้ยว) ใช้ผสมทาธูป ทาปูนซีเมนต์ เพราะเสียค่าขุดและค่าบดต่ากว่าหินปูนซึ่งมีเน้ือเป็นสารประกอบชนิดเดียวกัน แหล่งใหญ่ที่ พบดินมาร์ลในประเทศไทย ไดแ้ ก่ จงั หวัดสระบรุ ี จงั หวดลพบุรี และจังหวัดนครสวรรค์ ๒.) ดินเป็นเบส แก้ได้โดยการเติมแอมโมเนียมซัลเฟต หรือผงกามะถัน จะต้องวิเคราะห์ ปรมิ าณทีจ่ ะใส่ให้พอดี ถ้าใสม่ าไปดนิ จะมสี ภาพเปน็ กรดได้ ชั้นของดนิ แบง่ ออกเปน็ 2 ชัน้ คือ ๑.) ดนิ ช้ันบน มีสารอินทรีย์มาก จึงทาให้ สีเข้ม เนื้อดินหยาบ เม็ดดินมีขนาดใหญ่ เม่ือนาไป ละลายนา้ เกิดตะกอนเป็นเศษก่ิงไม้ใบไม้ ซากแมลงอยู่ข้างบน เนื้อดินตกตะกอนอยู่ข้างล่างและตกตะกอน ชา้ อาจมีเศษกิ่งไมใ้ บไม้และซากสัตว์บา้ งเล็กน้อย ๒.) ดินชั้นล่าง มีสารอินทรีย์น้อยกว่าดินชั้นบน จึงทาให้มีสีอ่อน เนื้อดินละเอียด เม็ดดินมี ขนาดเลก็ เม่อื นาไปละลายนา้ เนอื้ ดินตกตะกอนอยูข่ า้ งล่างและตกตะกอนช้า อาจมีเศษกิ่งไม้ใบไม้และ ซาก สตั วล์ ้างเลก็ นอ้ ย ตารางท่ี ๒ ลักษณะของดนิ ชั้นบนและดนิ ชั้นลา่ ง ดนิ ชน้ั บน ดนิ ชนั้ ล่าง ๑. ดินนับจากผวิ ดินจนถงึ ดินทลี่ ึกประมาณ20เซนตเิ มตร ๑. ดนิ ที่อยู่ลึกกว่า 20 เซนตเิ มตร ขึ้นไป ๒. ดนิ ทม่ี สี ารอินทรยี ์สะสมมากทาให้ดนิ มีสคี ล้า ๒. ดนิ ทม่ี ีสารอนิ ทรีย์สะสมนอ้ ยทาใหด้ ินมสี จี าง ๓. เม็ดดินมีขนาดโต ทาให้ช่องว่างระหว่างเม็ดดินมี ๓. เม็ดดินมขี นาดเล็ก ทาให้ช่องว่างระหว่างเม็ดดิน ขนาดใหญน่ ้า และอากาศผ่านสะดวก มีขนาดเลก็ น้าและอากาศผ่านยาก ดินช้ันบนร่วนซุย และเม็ดดินมีขนาดใหญ่กว่าดินช้ันล่าง ทาให้มีช่องว่างขนาดใหญ่ น้าและ อากาศผ่านได้ดีกว่าดินชั้นล่าง และมีฮิวมัสซึ่งเป็นอาหารของพืชมากกว่า ดินช้ันบนจึงเหมาะกับการ เพาะปลูกมากกวา่ การจาแนกดนิ การจาแนกตามลกั ษณะของเนือ้ ดนิ ได้ 3 ประเภท คอื ๑.) ดินทราย ไดแ้ ก่ ดินท่มี ที รายประกอบอยู่ตง้ั แตร่ ้อยละ 70 ขึ้นไปโดยน้าหนัก ดินมีลักษณะ เป็นเม็ดใหญ่และมีอากาศในเนื้อดนิ มากน้าซึมผ่านได้งา่ ยจงึ มคี วามชืน้ ในดนิ น้อย ๒.) ดินเหนยี ว ไดแ้ ก่ ดนิ ที่มดี ินเหนยี วประกอบอยู่ต้งั แต่ร้อยละ 40 ข้ึนไป โดยท่ัวไปเป็นดินที่ มีลกั ษณะเมด็ เลก็ ละเอยี ดและมชี อ่ งวา่ ในเน้ือดนิ น้อย ล่นื มอื อุ้มน้าไดด้ ี แผนการจดั การเรียนรู้ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ โดยครูกณั ธิมา ทวีสินธ์
๓.) ดินร่วน ได้แก่ ดินท่ีมีส่วนประกอบดินทราย โคลนตม และดินเหนียวโดยปริมาณดิน เหนียวและดินทรายไม่มากนัก เม็ดดินขนาดพอเหมาะ ฉะน้ัน น้าและอากาศจึงไหลผ่านดินร่วนได้ดีกว่าดิน เหนียว ประโยชน์ของดนิ ดนิ เป็นทรพั ยากรธรรมชาติชนิดหมนุ เวียนทมี่ ีสว่ นเกอื้ หนนุ ต่อสิง่ มีชีวิต ทาให้สิ่งมีชีวิตสามารถ ดารงอยู่ในโลกได้ โดยใช้ผลผลิตท่ีเกิดจากดินหรือได้จากใต้ดิน นอกจากน้ีดินยังเป็นแหล่งกาเนิดและแหล่ง ผลิตปัจจัยสาคัญที่เก่ียวข้องกับการดารงชีวิต ซ่ึงได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค รวมถงึ บริเวณผิวโลกสว่ นท่ีลึกยังประกอบด้วยทรัพยากรที่มีค่า เช่น น้ามันปิโตเลียม แร่ธาตุชนิดต่างๆ เป็น ตน้ ประโยชนข์ องดิน แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ๑. ประโยชน์ของดินต่อมนุษย์ การที่มนุษย์ดารงชีพอยู่ได้จาเป็นต้องอาศัยปัจจัยส่ีได้แก่ อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ท่ีอยู่อาศัยและยารักษาโรค ปัจจัยท้ังหมดนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ได้มาจากดินทั้งส้ินไม่ ทางตรงก็ทางออ้ ม - อาหารของมนุษย์ ไดม้ าจากพืชและสัตว์ พืชต้องอาศัยดินในการยังชีพและเจริญเติบโต สตั ว์กไ็ ดอ้ าหารจากพชื และสตั วด์ ้วยกัน ดงั นัน้ มนษุ ย์จงึ ไดร้ ับอาหารจากดินในทางออ้ ม - เคร่ืองนุ่งห่มของมนุษย์ส่วนมากได้มาจากเส้นใยของพืช หรือจากขนสัตว์ น่ันคือมนุษย์ ไดเ้ ครือ่ งนุ่งห่มจากดินในทางออ้ ม - ทอ่ี ย่อู าศยั และสิง่ ปลูกสร้างต่างๆ ของมนุษย์ได้มาจากวัสดุที่กาเนิดจากดิน เช่น ไม้ อิฐ ซีเมนต์ และเหล็ก เป็นต้น - ยารักษาโรค เราได้ยารักษาโรคต้นตารับท่ีมาจากพืชสมุนไพรต่างๆ นอกจากน้ี จลุ ินทรียต์ ่าง ๆ ทใ่ี ช้ในการผลติ ยา เชน่ ยาเพนนซิ ิลลนิ กเ็ ป็นจุลนิ ทรยี ท์ ี่อาศยั อย่ใู นดนิ ๒. ประโยชน์ของดินต่อพืช ดินมีความจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยสามารถสรุปได้ ดงั นี้ - ดนิ เป็นทีย่ ึดเกาะของรากพชื เพอื่ ใหพ้ ชื ยืนตน้ อยไู่ ด้ - ดนิ เปน็ ทก่ี กั เกบ็ น้า สาหรบั ใชใ้ นการเจริญเติบโตของพืช - ดินใหแ้ ร่ธาตอุ าหารต่างๆ ท่จี าเปน็ ตอ่ การเจริญเติบโตของพชื - ดินใหอ้ ากาศแก่รากพชื ดินถมทั่วไป เหมาะสมกับการถมดินสร้างบ้าน ซึ่งดินประเภทนี้จะเป็นดินเหนียวสีเทา หรือ ดา เม่ือถมมีความแน่น แต่สามารถนามาปลูกต้นไม้ได้ สามารถบดอัดจนถึงระดับสร้างบ้านได้ แต่ในการ สรา้ งบ้านไม่จาเป็นต้องมีการบดอัดพิเศษอะไร เนื่องจากงานก่อสร้างบ้านเป็นงานขุดเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น เม่ือตอก หรือ เจาะเสาเขม็ แล้ว ก็จะมีการขุดลงไปทาฟุตต้ิง และ คานคอดิน เพ่ือเป็นฐานรองรับน้าหนักตัว บ้าน อีกท้ังตัวบ้านมีการท้ิงตัวลงบนเสาเข็มเกือบ ๑๐๐% ไม่ได้ท้ิงตัวลงบนดิน เหมือนลานจอดรถ หรือ ถนน และดินชนิดนม้ี ีการดดู ซบั ความชน้ื และ คลายความชน้ื ในดินได้ช้ากวา่ ดินชนิดอื่น ทาให้เกิดอุณหภูมิท่ี แผนการจดั การเรยี นรู้ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ โดยครูกณั ธมิ า ทวสี นิ ธ์
ต่า กว่าดนิ ชนิดอ่ืน ทาใหอ้ ยู่บ้านแลว้ จะรสู้ ึกเยน็ สบายมากกว่า ดงั น้ันเม่ือเทียบกบั ดนิ ประเภทอ่ืน ทั้งในเรื่อง ผลการก่อสรา้ ง และความร้สู กึ อยู่เยน็ สบาย สามารถปลูกต้นไมไ้ ด้ และในพ้ืนทีก่ รุงเทพ ดนิ ถมทั่วไป ยังราคา ถูกกว่าดนิ ชนดิ อนื่ ๆ จงึ เปน็ ทแ่ี นะนาในการถมเพอ่ื สร้างบา้ น หน้าดนิ สามารถถมดินสร้างบ้านได้ดี แต่ ราคาสูงมาก ๒-๓ เท่า เมื่อเทียบกับดินถมทั่วไป จึง แนะนาให้ใช้หน้าดนิ ในส่วนเฉพาะ การจัดสวน หรอื ปลูกตน้ ไม้ ดินดา ดินบ่อ สามารถถมดินสร้างบ้านได้ดีและเป็นดินบริสุทธ์ิจากบ่อดิน ถ้านามาถมดินใน พื้นที่กรุงเทพ แต่ราคาค่อนข้างสูง เม่ือเทียบกับดินถมทั่วไป แต่ถูกกว่าหน้าดิน จึงแนะนาให้ถมในบริเวณ พ้ืนทป่ี รมิ ณฑล รอบ ๆ เขตกรุงเทพ ซ่ึงใกลแ้ หลง่ ดิน และ ทาให้ราคาค่าถมดินไม่แพง ดินลูกรัง เป็นดินท่ีบดอัดได้ดีมาก ใช้ในการสร้างถนน โรงงาน แต่อาจจะไม่เหมาะสมสาหรับ การสร้างบ้านพักอาศัยเท่าไร เน่ืองจากดินประเภทนี้ปลูกต้นไม้ได้ดี ถ้าเป็นพ้ืนที่ใกล้แหล่งดิน เช่น สระบุรี ราชบรุ ี ฉะเชิงเทรา จะนิยมใช้ดินประเภทน้ีถมเพื่อสร้างบ้าน เนื่องจากราคาค่าถมดินถูก แต่ถ้าเป็นพื้นที่ใน กรุงเทพ ราคา ถมดินชนดิ น้จี ะแพง เนอื่ งจากระยะทางในการขนส่ง ดินดาน เป็นดินท่ีใช้ถมสร้างบ้านได้ ดินประเภทน้ีสามารถบดอัดได้ดี การทรุดตัวน้อย แต่ ปลูกตน้ ไมไ้ ดไ้ มด่ ี การอมความชืน้ นอ้ ย จะมีลกั ษณะ รอ้ นในตอนกลางวัน ถ้าพื้นที่อยู่ใกล้แหล่งดินก็สามารถ ใช้ดินประเภทนี้ถมสร้างบ้านได้ แต่ถ้าเป็นพื้นท่ีในกรุงเทพ ไม่แนะนา เนื่องจาก ราคาค่าถมดินแพง เน่ืองจากระยะทางขนส่งไกล แต่ไม่เหมาะสมเท่าไร ดินประเภทนี้เหมาะสมสาหรับใช้ในการสร้างโรงงาน โกดงั เสริมฐานรากถนน หรือ สงิ่ ปลกู สรา้ งทีต่ อ้ งการรบั นา้ หนักเยอะ ๆ ดินทางด้านวิศวกรรม เป็นวัสดุก่อสร้างพื้นฐานในงานวิศวกรรมโยธา ใช้เป็นวัสดุถมในงาน ก่อสร้างต่าง ๆ เช่นงานถมยกระดับบริเวณอาคาร ถนน เข่ือน และ ใช้เป็นวัสดุผสมสาหรับทาอิฐ ในบาง กรณีอาจเพ่ิมวัสดุอื่น เช่นปูนขาว เพื่อช่วยในการปรับปรุงคุณภาพดินให้มีคุณสมบัติในการรับกาลังได้มาก ข้ึนเพ่ือผลทางด้านวิศวกรรม ทั้งน้ีต้องปฏิบัติตนให้เป็นไปตามคุณลักษณะของนักทดสอบท่ีดี มีเหตุผล ใน การเกบ็ รายละเอียด มีความพอประมาณ ในการหาคุณสมบัติของดิน เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ดีของดินและการ จาแนกดินที่ถกู ตอ้ ง อันจะ เกิดภูมคิ มุ้ กัน กับผู้ทาการทดสอบ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้เู ชงิ พฤตกิ รรม หลังจากศึกษาหน่วยนแี้ ล้ว ผ้เู รยี นรสู้ ามารถ ๑. ดา้ นความรู้ ๑.๑ บอกความหมายความสาคัญของดนิ ได้ถูกต้อง ๑.๒ อธบิ ายลักษณะของดนิ ได้ถกู ต้อง ๑.๓ อธิบายชนิดของดนิ ไดถ้ ูกต้อง ๑.๔ อธบิ ายคุณสมบัติได้ถูกต้องมีเหตผุ ล ๑.๕ อธบิ ายการจาแนกดนิ ได้ถกู ต้อง ๑.๖ อธิบายการใชด้ นิ ในงานก่อสร้างไดถ้ ูกต้องมีเหตผุ ล ๒. ด้านคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีกิจนิสัยในการทางานอย่างมีวินัย ความละเอียดรอบคอบ ความปลอดภัย แผนการจดั การเรยี นรู้ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ โดยครูกณั ธิมา ทวสี นิ ธ์
พฤตกิ รรมบ่งชท้ี ตี่ อ้ งการเนน้ ในขณะศกึ ษาหนว่ ยนี้ ผู้เรยี นรูต้ อ้ งมีพฤติกรรมบง่ ช้ี ดังนี้ ๑. มกี ารเตรียมความพร้อมในการเรียนและปฏิบัติงาน ๒. ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บข้อบงั คบั ข้อตกลงต่างๆ ๓. ซักถามปญั หาข้อสงสัย ๔. มสี ัมมาคารวะ ๔. ใหค้ วามร่วมมือกับผู้อ่นื เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ ๑.๑ ความรูท้ ่วั ไปเกยี่ วกับคุณสมบตั ขิ องดนิ ๑.๒ การจาแนกดิน กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ ในขณะศึกษาหน่วยน้ี ผู้เรยี นรู้ตอ้ งปฏบิ ัติงานตามขน้ั ตอน ดงั น้ี ๑. แบบทดสอบก่อนเรียนรู้ ๒. ศึกษาใบความรู้งานศึกษาเกย่ี วกบั คุณสมบตั ิของดิน ๓. ศกึ ษาดนิ ท่ใี ช้ในงานก่อสรา้ ง ๔. อภิปรายกลมุ่ ๕. ประเมินพฤติกรรมบง่ ช้ี ๖. ทาแบบทดสอบหลังเรียนรู้ วสั ด-ุ อุปกรณ/์ เครอื่ งมอื /เครอื่ งจกั ร ๑. เครือ่ งฉายภาพ ๒. กระดาษ A 4 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. เตรยี มการเข้าสบู่ ทเรยี น ๑.๑ เตรียมแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนรู้ ๑.๒ เตรยี มเอกสารประกอบการเรียน เรื่องงานศกึ ษาเกีย่ วกับคุณสมบัตขิ องดิน ๑.๓ เตรียม power point เรอ่ื งงานศึกษาเกีย่ วกับคณุ สมบตั ขิ องดนิ ๑.๔ เตรยี มแบบวดั ผลประเมนิ ผล แบบประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๒. การเรยี นรู้ ๒.๑ กลยุทธ์การเรียนรู้ ให้ผู้เรียนศึกษาแผนท่ีที่กาหนดให้ แล้วต้ังคาถามให้ผู้เรียน อภิปรายหาคาตอบ ร่วมกันสรุปคน้ หาคาตอบในประเดน็ ของเนอื้ หาทกี่ าหนด ๒.๒ กิจกรรมการเรียนรู้ ๑) ปฐมนิเทศแนะนารายวิชาและกาหนดการเรียนรู้ร่วมสร้างข้อตกลงในการเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ผล แนะนาเอกสารคน้ คว้าเพิ่มเติม แผนการจดั การเรียนรู้ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ โดยครูกัณธิมา ทวสี นิ ธ์
๒) แบ่งกลุ่มงานกลุ่มละ ๔-๕ คน แตล่ ะกลุ่มคละกนั ระหวา่ งเพศ ๓) แจกเอกสารประกอบการเรียนให้แต่ละกลุ่มศึกษา ฉาย power point อธิบาย ชี้แนะ แนะนา ทาให้ดู ตอบข้อซกั ถาม ควบคมุ สังเกต ประเมนิ พฤติกรรมบ่งชี้ ๓. สรปุ การเรยี นรู้ รว่ มสรุปเน้ือหา ชีแ้ นะข้อควรปรับปรงุ กบั ผู้เรียน ๔. การวดั ผลประเมนิ ผล ๔.๑ แจกแบบทดสอบกอ่ นการเรยี นรู้ ๔.๒ แจกแบบประเมนิ ผลพฤติกรรมบ่งช้ี ๔.๓ แจกแบบทดสอบประจาหน่วย ๔.๔ ประเมินผล ๔.๕ ทดสอบผู้ไม่ผา่ นเกณฑ์ใหม่ งานทม่ี อบหมาย/กจิ กรรม ให้ผู้เรียนร้แู ต่ละคนปฏิบัติศึกษาข้อมลู จากเอกสารประกอบการเรียนรู้ และปฏิบัตงิ านทดสอบ รายงานผลการทดสอบ ขอ้ ควรระวงั ในการปฏิบตั งิ านต้องเตรียมเครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ทใี่ นใช้ในการทดสอบ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนเรียนรู้ ๓. แบบทดสอบประจาหน่วย ๒. ใบประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. เอกสารประกอบการเรยี น เร่อื งงานศึกษาเกี่ยวกบั คณุ สมบัตขิ องดิน ๒. power point เรื่องงานศึกษาเก่ยี วกบั คุณสมบัตขิ องดิน ๓. ใบงาน เรือ่ งงานศึกษาเกี่ยวกับคณุ สมบตั ิของดิน ๔. ตวั อย่างดนิ ในแต่ละพืน้ ที่ การวดั ผล/ประเมนิ ผล หนว่ ยนว้ี ดั ผลโดยวธิ ีการ ดงั นี้ ๑. กอ่ นเรยี นรู้ ใช้แบบทดสอบก่อนเรยี นรู้ ๒. ขณะเรยี นรู้ สงั เกต สัมภาษณ์ ใช้ใบประเมินพฤติกรรมบ่งช้ี ๓. หลงั การเรยี นรู้ ใช้แบบทดสอบประจาหน่วย การประเมนิ ผล ๑. ประเมินผลพฤติกรรมบ่งช้ี โดยถือเกณฑ์ผ่านสาหรับผู้ที่ได้คะแนนจากการประเมิน ๓ คะแนนขน้ึ ไป ๒. ประเมนิ ผลความรู้ โดยถอื เกณฑผ์ ่านสาหรับผทู้ ่ไี ดค้ ะแนนจากการวดั ผลรอ้ ยละ๖๐ ข้ึนไป แผนการจดั การเรยี นรู้ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ โดยครูกณั ธิมา ทวสี ินธ์
แบบทดสอบหนว่ ยท่ี ๑ งานศึกษาความรเู้ กย่ี วกบั คณุ สมบตั ขิ องดนิ จงเลอื กคาตอบที่ถูกทส่ี ดุ ๑. การจาแนกตามลกั ษณะของเนื้อดินได้กี่ประเภท ก. ๔ ประเภท ข. ๓ ประเภท ค. ๒ ประเภท ง. ๕ ประเภท 2. ดนิ สแี ดงมีลักษณะเป็นอย่างไร ก. เปน็ ดนิ ที่มอี ายุมากผ่านการสลายตัวอยา่ งรนุ แรง มสี ภาพการระบายน้า และถา่ ยเทอากาศได้ดี ดินที่ ปลูกพืชอยเู่ สมอจะสญู เสยี สารอินทรียไ์ ป ทาใหด้ นิ มีสีจางลง ข. เป็นดินท่ีมสี ภาพระบายน้าและอากาศไม่ดี ค. เป็นดินท่รี ะบายน้าไม่ดี เชน่ ดินท้องนา เป็นต้น ง. เปน็ ดนิ ชน้ั ลา่ งท่ีมนี า้ ขังมกี ารระบายน้าไมด่ ีมักจะพบในดิน 3. ประโยชน์ของดนิ มีกป่ี ระเภท ก. ๔ ประเภท ข. ๓ ประเภท ค. ๒ ประเภท ง. ๕ ประเภท 4. ดนิ ร่วนมลี กั ษณะเปน็ อย่างไร ก. ดินท่ีมที รายประกอบอย่ตู ้ังแตร่ ้อยละ 70 ข้ึนไปโดยน้าหนกั ดนิ มีลักษณะเป็นเม็ดใหญ่และมีอากาศ ในเนอ้ื ดินมากนา้ ซึมผ่านได้งา่ ยจงึ มีความชื้นในดินน้อย ข. ดินทม่ี ดี ินเหนียวประกอบอยูต่ งั้ แต่ร้อยละ 40 ขนึ้ ไป โดยทัว่ ไปเปน็ ดินที่มลี กั ษณะเม็ดเล็กละเอียด และมีชอ่ งวา่ ในเนือ้ ดินน้อย ล่ืนมือ อุ้มนา้ ได้ดี ค. ดนิ ทีม่ สี ่วนประกอบดนิ ทราย โคลนตม และดนิ เหนียวโดยปรมิ าณดนิ เหนียวและดินทรายไมม่ ากนัก เมด็ ดนิ ขนาดพอเหมาะ ฉะนน้ั นา้ และอากาศจึงไหลผา่ นดินรว่ นไดด้ ีกวา่ ดนิ เหนียว ง. ถกู ทุกข้อ 5. ดนิ สีเหลืองมลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร ก. เปน็ ดินทีม่ อี ายุมากผา่ นการสลายตวั อยา่ งรนุ แรง มสี ภาพการระบายนา้ และถ่ายเทอากาศไดด้ ี ข. เป็นดินทีร่ ะบายนา้ ไม่ดี เช่น ดนิ ท้องนา ค. เป็นดินช้ันลา่ งทมี่ ีนา้ ขงั มีการระบายนา้ ไมด่ ีมักจะพบในดินช้ันลา่ งที่มีน้าขงั หรือแชน่ า้ ง. เป็นดินท่ีมสี ภาพระบายนา้ และอากาศไม่ดี แบบตอบคาถามหนว่ ยท่ี ๑ งานศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั คณุ สมบตั ิ ข้อที่ 1 ก ข ค ง ข้อท่ี 2 ก ข ค ง ข้อท่ี 3 ก ข ค ง ข้อท่ี 4 ก ข ค ง ข้อที่ 5 ก ข ค ง แผนการจดั การเรยี นรู้ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ โดยครูกณั ธิมา ทวีสนิ ธ์
ใบประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ชท้ี ต่ี ้องการเนน้ ในกลมุ่ ท่ี................... หนว่ ยท่ี ๑ งานศกึ ษาความรเู้ กีย่ วกบั คณุ สมบตั ิของดนิ องค์ประกอบและเกณฑ์การให้คะแนน เป็นดังนี้ ชอ่ื ,สกุล มีความพร้อมในการเรียนรู้ หมายเหตุ ปฏิ ับติตามกฎระเ ีบยบ ้ขอตกลง ่ตาง ๆ เกณฑ์การให้คะแนน 1. ซักถาม ัปญหาข้อสงสัย รวม ในแตล่ ะองคป์ ระกอบ 2. มีสัมมาคารวะ 1= ปฏบิ ัติไม่พบข้อบกพรอ่ ง 3. ให้ความร่วม ืมอกับผู้อื่น 0.5 = ปฏิบัตพิ บข้อบกพร่อง 4. 0 = ไม่ปฏบิ ัติ / ขาดเรียน 5. เกณฑ์การประเมนิ ได้ 3 คะแนน ถือวา่ ผา่ น ลงชื่อ................................................ผูป้ ระเมนิ (................................................) วนั ท่ี.......เดอื น.........................พ.ศ. ............ แผนการจดั การเรียนรู้ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ โดยครูกณั ธมิ า ทวีสนิ ธ์
แบบเฉลยตอบหน่วยท่ี ๑ งานศกึ ษาความรเู้ กยี่ วกบั คณุ สมบตั ขิ องดนิ ข้อท่ี 1 ก ข ค ง ข้อท่ี 2 ก ข ค ง ข้อที่ 3 ก ข ค ง ข้อที่ 4 ก ข ค ง ข้อท่ี 5 ก ข ค ง แผนการจดั การเรยี นรู้ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ โดยครูกณั ธมิ า ทวสี นิ ธ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: