โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภททดลอง เรอื่ ง แก่นตะวันกบั ไขมนั ของคณุ ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี โรงเรยี นบา้ นใหญพ่ ิ ทยาคม อาเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
ค ณ ะ ผู้ จั ด ทำ 1. นำยธนกฤต ร ว ม ค ร บุ รี 2 . น ำ ย พ ง ศ์ พั ฒ น์ ห ม อ ก ค ร บุ รี 3 . น ำ ง ส ำ ว พ ณิ ต ำ แ ช ก ร ะ โ ท ก ค รู ที่ ป รึ ก ษ ำ 1 . น ำ ย จ รุ ณ แ ฝ ง ก ร ะ โ ท ก 2 . น ำ ง ส ำ ว ช ล ธิ ด ำ พุ ฒ ส ร ะ น้ อ ย
ท่ี ม า แ ล ะ ค ว า ม สา คั ญ จากการศึกษาวจิ ัยทางเภสัชวิทยา พบวา่ แกน่ ตะวันมฤี ทธิล์ ดนา้ ตาลและไขมัน ในเลอื ดได้ เนอื่ งจากส่วนหวั ของแกน่ ตะวนั มีสาร อนิ นูลนิ (inulin) และฟรกุ โตโอลโิ ก แซคคาไรค์ (fructooligosaccharides) เป็นสว่ นประกอบสาคญั คณะผศู้ กึ ษาสนใจทจ่ี ะทดลองเกีย่ วกับ แกน่ ตะวนั ประเดน็ ท่วี า่ แกน่ ตะวนั ชว่ ยดกั จบั ไขมนั หรือคอเลสตอรอล และแกน่ ตะวัน ยังสามารถรับประทานไดห้ ลายรูปแบบ แปร รูปไดห้ ลากหลายซ่ึงอาจเป็นอาชพี เสรมิ ไดใ้ น อนาคต
วัต ถุปร ะสงค์ 1. เพื่อทดสอบการจบั ไขมนั ของแกน่ ตะวนั 2. เพอ่ื ศกึ ษาประโยชน์ของแกน่ ตะวนั 3. เพื่อแปรรูปแก่นตะวันให้มีความ หลากหลายในการรบั ประทาน
ประโยชน์และสรรพคุณ ของแกน่ ตะวัน 1. ชว่ ยลดนา้ หนกั 2. ชว่ ยปอ้ งกนั โรคเบาหวาน 3. ช่วยลดไขมนั ในเลอื ด 4. ชว่ ยลดนา้ ตาลในเลอื ด 5. ช่วยลดคอเลสเตอรอลสงู 6. ช่วยขบั ปัสสาวะ 7. แกท้ อ้ งผกู 8. แกท้ อ้ งเสยี 9. ช่วยระบบขบั ถา่ ย 10. ชว่ ยยอ่ ยอาหาร 11. ชว่ ยเจรญิ อาหาร 12. ชว่ ยขบั สารพษิ 13. ชว่ ยสรา้ งภมู คิ ้มุ กนั รา่ งกาย 14. ชว่ ยปอ้ งกนั โรคภมู แิ พ้ 15. ชว่ ยปอ้ งกนั โรคมะเรง็ ลาไส้ 16. ช่วยปอ้ งกนั โรคหวั ใจ
ก า ร แ ป ร รู ป แ ก่ น ต ะ วั น หวั ใช้รับประทานสด ๆ เป็นผกั ซึ่ง หัวสดจะมรี สชาตคิ ลา้ ย ๆ กับแหว้ หรอื อาจนามาประกอบอาหารทงั้ คาวและหวาน หรอื คงสามารถนามาใช้เป็นอาหารแทนมัน ฝรัง่ ได้ เพราะมีเน้อื สัมผัสเชน่ เดียวกนั เพี ยงแตว่ ่ามรี สหวานกวา่ จงึ เหมาะ สาหรบั ใสใ่ นสลัดผักตา่ ง ๆ และยัง สามารถนาไปแปรรูปเปน็ ผลติ ภณั ฑไ์ ด้ หลากหลาย
วั ส ดุ อุ ป ก ร ณ์ 1. บกี เกอร์ 2. ตาชัง่ 3. น้า 4. น้ามันพื ช 5. ผงแกน่ ตะวัน
วิ ธี ท ด ล อ ง ชุดท่ี 1 ควบคมุ ปรมิ าณนา้ มนั และผงแก่นตะวนั ใสน่ ้าสามบกี เกอรใ์ นปรมิ าณ 50 80 100 ml ตามลาดบั ใส่น้ามนั บีกเกอร์ละ 10 ml ใส่ผงแกน่ ตะวนั บีกเกอร์ละ 10 g ชดุ ที่ 2 ควบคมุ ปรมิ าณน้า และผงแกน่ ตะวนั ใสน่ ้าสามบกี เกอร์ ในปรมิ าณ 100 ml ใส่น้ามัน ในปรมิ าณ 15 10 5 ml ตามลาดบั ใส่ผงแกน่ ตะวนั บีกเกอรล์ ะ 10 g ชุดที่ 3 ควบคุมปรมิ าณน้า และนา้ มนั ใส่น้าสามบีกเกอร์ ในปริมาณ 100 ml ใสน่ ้ามัน บีกเกอร์ละ 10 ml ใส่ผงแกน่ ตะวัน ปรมิ าณ 5 10 15 g ตามลาดบั
ผลการทดลอง การทดลองชดุ ที่ 1 ผลการทดลองแกน่ ตะวนั สามารถจบั นา้ มนั ไดด้ ี เทา่ กันทุกบีกเกอร์ การทดลองชดุ ที่ 2 ผลการทดลอง แก่นตะวนั สามารถจบั ไขมนั ปรมิ าตร 10 ml ได้ดีที่สดุ การทดลองชดุ ท่ี 3 ผลการทดลอง แก่นตะวันปรมิ าณ 10 g สามารถ ดกั จบั นา้ มนั ปริมาตร 10 ml ไดด้ ีทส่ี ุด
ส รุ ป ผ ล ก า ร ท ด ล อ ง ชดุ การทดลองทง้ั 3 ชุด พบวา่ ยิ่งเพ่ิ ม ปรมิ าณของผงแก่นตะวนั มากขึน้ ก็จะทาให้ นา้ มันบนผวิ น้าจับตัว และตกตะกอนมากขึ้น ด้วย และพบว่า ผงแกน่ ตะวันสามารถดดู ซับ น้ามนั และขยายตัวไดด้ ใี นของเหลว จงึ เปน็ สาเหตุทที่ าให้เรารู้สกึ อ่มิ นานขึ้นเมือ่ ทานแก่น ตะวัน ชว่ ยให้เราทานอาหารอย่างอ่ืนได้นอ้ ยลง จึงช่วยควบคมุ น้าหนกั หรอื เปน็ ทางเลือกในการ ลดความอว้ น และยังช่วยลดปรมิ าณไขมนั ใน เลอื ดได้ดีอกี ด้วย
ป ร ะ โ ย ช น์ ที่ ไ ด้ รั บ 1. ไ ด้ ผ ล ก า ร ท ด ล อ ง ว่ า แ ก่ น ต ะ วั น สามารถจับไขมนั ได้ 2. ได้ความรู้เก่ียวกับประโยชน์ของแก่น ตะวัน 3. ได้ผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปแก่น ตะวนั
โรงเรยี นบ้านใหญ่พิ ทยาคม อาเภอครบุรี จังหวดั นครราชสมี า
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: