Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่3 วิกฤตด้านทรัพยากรธรรมชาติ

หน่วยที่3 วิกฤตด้านทรัพยากรธรรมชาติ

Published by kingmanee2614, 2021-02-04 04:31:13

Description: หน่วยที่3 วิกฤตด้านทรัพยากรธรรมชาติ

Search

Read the Text Version

เรอ่ื งนา่ รู้ “ตน้ ไมเ้ กา่ แกท่ สี่ ดุ ในโลก” 1. ตน้ ไมแ้ หง่ ชวี ติ (Tree of Life) หา่ งออกไป 2 กโิ ลเมตร จาก ภเู ขาแหง่ หมอกควนั (Jebel Dukhan) ในซาอดุ อี าระเบยี ตน้ ไมแ้ หง่ ชวี ติ น้ี มอี ายกุ วา่ 400 ปี อยรู่ อดไดใ้ นทะเลทรายทไี่ มม่ นี ้ําแมแ้ ตห่ ยดเดยี ว 2. ตน้ ยคู าลปิ ตสั สรี ุง้ หรอื มนิ ดาเนากมั เป็ นตน้ ไมท้ มี่ คี วามสงู ถงึ 246 ฟตุ เมอื่ ตน้ เรมิ่ โตจะแตกเป็ นรว้ิ สเี ขยี วไล่จากเขยี วออ่ นไปจนถงึ เขยี วเขม้ กอ่ นจะกลายเป็ นสนี ํ้าเงนิ สมี ว่ ง และชมพอู มสม้ 3. ตน้ ไหมจรุ หี รอื งว้ิ สชี มพู เป็ นตน้ ไมใ้ นตระกลู Malva มถี น่ิ กําเนดิ ในป่ าเขตรอ้ นทางอเมรกิ าใต ้ บางตน้ อาจสงู ถงึ 81 ฟตุ ลําตน้ และ กงิ่ กา้ นจะเต็มไปดว้ ยหนามแหลม เพอื่ รกั ษานํ้าในฤดแู ลง้ 4. Methuselah ตน้ ไมพ้ ันธสุ์ นชนดิ หนงึ่ มตี น้ กาํ เนดิ ในรัฐยทู าห์ เนเวอรด์ า และแคลฟิ อรเ์ นยี เป็ นตน้ ไมท้ มี่ กี ารเจรญิ เตบิ โตอยา่ งชา้ ๆ ในปี ค.ศ. 1957 มันมอี ายถุ งึ 4,789 ปี 51

เรอื่ งนา่ รู้ “ประโยชนข์ องตน้ ไม ้ 1 ตน้ ” เก็บกกั คารบ์ อนได้ 1–1.7 ตนั คารบ์ อน และกา๊ ซพษิ อนื่ ๆ ใหอ้ อกซเิ จน 200,000–250,000 ลติ รตอ่ ปี รองรบั ความตอ้ งการไดถ้ งึ 2 คนตอ่ ปี (1 คน ตอ้ งการออกซเิ จน 130,000 ลติ รตอ่ ปี ) นาํ้ จากการคายนาํ้ ทใี่ บชว่ ยลด อณุ หภมู ไิ ด้ 2–4 องศาเซลเซยี ส ป้ องกนั แสงและความรอ้ น จากดวงอาทติ ย์ เป็ นแหลง่ อาหาร ยารกั ษาโรค ดกั จบั อนภุ าคมลพษิ เชน่ ฝ่ นุ ควนั และทอ่ี ยอู่ าศยั ของสง่ิ มชี วี ติ ไดถ้ งึ 1.4 กโิ ลกรมั /ปี 52

เรอ่ื งนา่ รู้ “ประโยชนข์ องไสเ้ ดอื นดนิ ” ชว่ ยพลกิ กลับดนิ โดยการกนิ ดนิ ชว่ ยยอ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ใ์ นดนิ ทม่ี แี รธ่ าตดุ า้ นลา่ งและถา่ ยมลู ซากพชื ซากสตั ว์ และอนิ ทรยี วตั ถตุ า่ ง ๆ บรเิ วณผวิ ดนิ ดา้ นบน ชว่ ยเพม่ิ และแพรก่ ระจายจลุ นิ ทรยี ์ ชว่ ยใหด้ นิ รว่ นซยุ ทําใหก้ ารถา่ ยเท ในดนิ ทม่ี ปี ระโยชนต์ อ่ พชื น้ําและอากาศในดนิ ดขี น้ึ 53

เรอ่ื งนา่ รู้ “ขมุ ทองคําในประเทศไทย” เชยี งราย แพร่ เลย ลําปาง สโุ ขทัย พจิ ติ ร เพชรบรู ณ์ ประจวบครี ขี นั ธ์ แหลง่ แรท่ องคํา 54

เรอ่ื งนา่ รู้ “เพชรทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ ในโลก” เพชรสที อง นํ้าหนัก 545.67 กะรัต เป็ นเพชรนํ้ างามท่ีใหญ่ท่ีสุดในโลก พบที่ เหมอื งพรีเมยี รท์ างแอฟรกิ าตอนใตใ้ นปี ค.ศ. 1985 เพชรนถ้ี กู นํามาถวายใหก้ บั กษัตรยิ ข์ อง ไทย (ในหลวงรัชกาลท่ี 9) ในปี ค.ศ. 1997 เ น่ื อ ง ใ น ว โ ร ก า ส พ ร ะ ร า ช พ ิธีก า ญ จ น า ภ ิเ ษ ก ครองราชยค์ รบ 50 ปี เพชรน้ีเรยี กชอื่ เรยี กอกี ชอื่ หนง่ึ วา่ the Unnamed Brown 55

สรปุ วกิ ฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ วกิ ฤตการณด์ า้ นสงิ่ แวดลอ้ ม และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย มลพษิ ทางอากาศ สภาพอากาศทม่ี มี วลสารเจอื ปน ทรพั ยากรป่ าไม้ ป่ าไมใ้ นไทยแบง่ ออกเป็ น ป่ าไมผ่ ลดั ใบ มคี วามเขยี วชอมุ่ ตลอดปี อยมู่ าก สาเหตจุ ากธรรมชาติ เชน่ ลมทพ่ี ดั ควันไฟป่ า ป่ าผลดั ใบ ผลดั ใบเป็ นระยะเวลายาวนานในฤดแู ลง้ ในอดตี ประเทศไทยมปี ่ าไมท้ อ่ี ดุ มสมบรู ณอ์ ยทู่ วั่ ทกุ ภาค ลมพดั พาฝ่ นุ ละอองมา ปัจจบุ นั เนอ้ื ทปี่ ่ าไมล้ ดลงอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สาเหตจุ ากมนุษย์ เชน่ ควนั จากเครอ่ื งยนตป์ ลอ่ ยไอ ทรพั ยากรดนิ ปัญหาความเสอื่ มโทรมของดนิ ไดแ้ ก่ เสยี สบู่ รรยากาศ การปลอ่ ยควนั พษิ ของโรงงาน การพงั ทลายของหนา้ ดนิ การสญู เสยี ความอดุ มสมบรู ณ์ ปัญหาสภาพดนิ ทไี่ มเ่ หมาะสมแกก่ ารเพาะปลกู อตุ สาหกรรม การทง้ิ ขยะมลู ฝอยทําใหเ้ กดิ กา๊ ซมเี ทน การแกไ้ ขปัญหาดนิ เสอื่ มคณุ ภาพ คอื การแกไ้ ขฟ้ืนฟู มลพษิ ทางเสยี ง เสยี งทไี่ มพ่ งึ ประสงคแ์ ละเกนิ ขดี ท่ี ระบบธรรมชาติ และการแกไ้ ขโดยการใหค้ วามรแู ้ ละ โสตประสาทจะรบั ได ้ ความดงั เกนิ 85 เดซเิ บลขน้ึ ไป สรา้ งจติ สํานกึ ใหก้ บั ประชาชน ทรพั ยากรนาํ้ วกิ ฤตการณท์ รพั ยากรนํ้าของไทย คอื จะรบกวนและเป็ นอนั ตรายตอ่ ระบบการไดย้ นิ ความไมส่ มํ่าเสมอของปรมิ าณฝน การเกดิ น้ําเน่าเสยี มลพษิ ทางนาํ้ น้ําทเี่ สอ่ื มคณุ ภาพ เนอื่ งจากมสี ารพษิ และปรมิ าณน้ําทจ่ี ะใชป้ ระโยชนม์ ปี รมิ าณลดลง ทรพั ยากรแร่ วกิ ฤตการณเ์ กย่ี วกบั ทรัพยากรแร่ คอื ปนเปื้ อน ทําใหร้ ะบบนเิ วศในนํ้าเปลยี่ นแปลง เป็ น ปัญหาจากการลดปรมิ าณลงของแร่ และผลกระทบจาก แหลง่ เชอื้ โรค เป็ นแหลง่ เพาะพันธยุ์ งุ กรรมวธิ กี ารผลติ ทไี่ มเ่ หมาะสม ทรพั ยากรสตั วป์ ่ า ปัจจบุ นั สตั วป์ ่ ามจี ํานวนลดลงหรอื มลพษิ ในดนิ ดนิ ทม่ี สี ารพษิ เกดิ ขนึ้ จากดนิ ถกู ทําลาย สญู พนั ธไุ์ ป เนือ่ งจากการตดั ไมท้ ําลายป่ า ทําใหส้ ตั วป์ ่ า ขาดอาหารและทอ่ี ยอู่ าศยั และการลา่ ของมนุษย์ คณุ ภาพและความอดุ มสมบรู ณล์ ง วกิ ฤตการณข์ องสตั วน์ ้ําจดื และน้ําเค็ม เนือ่ งจากการจบั ทผี่ ดิ วธิ แี ละผดิ ฤดกู าล การเกดิ วกิ ฤตการณข์ องแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว การป้องกนั และการรกั ษาใหแ้ หลง่ ทอ่ งเทย่ี วมแี นวทาง ในการปฏบิ ตั ดิ งั น้ี การกําหนดเขตพนื้ ทแี่ หลง่ ทอ่ งเทย่ี ว การใชม้ าตรการทางกฎหมายจดั การแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว การสํารวจและบรู ณะแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว การสรา้ งจติ สํานกึ ดา้ นการอนุรกั ษ์แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว แกผ่ เู ้ กย่ี วขอ้ ง 56

วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มของโลก วกิ ฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของโลกทเี่ กิดข้ึนใน ปัจจบุ นั แบง่ ออกตามกลุม่ ของปัญหา ได้ 3 กลุม่ ทส่ี าํ คญั คอื ปญั หา ปญั หาจากการทาํ ลาย การลดลงของ ระบบนเิ วศ ทรพั ยากรธรรมชาติ ปญั หา การเกดิ มลพษิ 57

สาเหตกุ ารเกดิ วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มของโลก การเพม่ิ ของจาํ นวนประชากร เป็นปัจจยั สาํ คญั ของการเกิด วกิ ฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของโลก จากกราฟ เห็นไดว้ า่ อตั ราการเพิ่มจาํ นวนประชากรของ ประเทศทีพ่ ฒั นาแลว้ มีอตั ราการเพิ่มของประชากรคอ่ นขา้ ง ตาํ่ เม่ือพิจารณาถึงผลกระทบแลว้ การขยายของชุมชน เมืองเป็ นวกิ ฤตการณแ์ รกทเ่ี กิดข้ึนในทง้ั 2 กลมุ่ ประเทศ สง่ ผลใหเ้ กิดปัญหาการขาดแคลนท่ดี นิ ทาํ กินและปัญหา ทางดา้ นเศรษฐกิจ กราฟแสดงจํานวนของประชากรโลกทเ่ี พม่ิ ขนึ้ ตงั้ แต่ พ.ศ. 2493 58 และการคาดคะเนจํานวนประชากรเมอื่ ถงึ พ.ศ. 2593

สาเหตกุ ารเกดิ วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ของโลก ตารางแสดงจํานวนประชากรของประเทศทมี่ จี ํานวนประชากรมากทส่ี ดุ 10 อนั ดับแรก พ.ศ. 2552 การเพม่ิ ของจํานวนประชากรยงั สง่ ผลใหเ้ กดิ กระบวนการแปรรปู ทรัพยากรธรรมชาติ เพอื่ นํามาใชป้ ระโยชนม์ มี ากขน้ึ โดยเฉพาะการปรับเปลย่ี นสภาพของพนื้ ทปี่ ่ าไม ้ โดยการบกุ รกุ ทําลายเพอ่ื ใชเ้ ป็ นทอ่ี ยอู่ าศัยและพนื้ ทเี่ กษตรกรรม ทําใหพ้ น้ื ทปี่ ่ าไมท้ อ่ี ดุ มสมบรู ณล์ ดลง 59

วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มของโลก สาเหตุการเกดิ วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มของโลก การใชว้ ิทยาการและเทคโนโลยที ่ีทนั สมยั จาํ นวนประชากรทเ่ี พ่ิมข้ึน ในโลกสง่ ผลกระทบทาํ ใหเ้ กิดความตอ้ งการสงิ่ จาํ เป็นสาํ หรบั การ ดาํ รงชวี ติ และสง่ิ อาํ นวยความสะดวกตา่ ง ๆ เพ่ิมข้นึ ตามไปดว้ ย เชน่ การใชส้ ารเคมีกาํ จดั แมลง ซง่ึ ทาํ ใหเ้ กิดสารพิษตกคา้ ง การใชเ้ ครอื่ งมอื ในการสํารวจ ขดุ เจาะ และนําทรพั ยากรธรรมชาตทิ ม่ี อี ยอู่ ยา่ งจํากดั มาใช ้ 60 เป็ นการทําลายทรพั ยากรธรรมชาตโิ ดยออ้ มทางหนงึ่

วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มของโลกในปัจจบุ นั สญั ลกั ษณข์ องโครงการ การเพิ่มจาํ นวนของประชากรโลกและมกี ารใช้ สง่ิ แวดลอ้ ม ประโยชนจ์ ากวทิ ยาการและเทคโนโลยที ไี่ ม่ เหมาะสมเป็ นสาเหตุหนึ่งในการเกิดวกิ ฤตการณ์ แหง่ สหประชาชาติ ทางดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของ โลกในเดอื นมิถนุ ายน พ.ศ. 2515 องคก์ าร สหประชาชาตไิ ดม้ กี ารจดั การประชุมในหวั ขอ้ สงิ่ แวดลอ้ มมนุษย์ ณ กรุงสตอกโฮลม์ ประเทศ สวเี ดน ผลจากการประชุมครงั้ นนั้ ไดม้ ีการจดั ตง้ั โครงการสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ สหประชาชาติ และ กาํ หนดวนั ท่ี 5 มถิ ุนายนเป็ นวนั สงิ่ แวดลอ้ มโลก 61

วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของโลกในปัจจบุ นั วิกฤตการณเ์ กยี่ วกบั การตดั ไมท้ าํ ลายป่ า การทป่ี ระชาชนเพ่ิมข้นึ เทา่ กบั เป็นการเพิ่มแรงกดดนั ในเรอ่ื ง ปัญหาทเ่ี กี่ยวกบั ทด่ี นิ และความตอ้ งการพ้ืนทเี่ พาะปลูกขนาด ใหญ่ เกิดการบุกรุกป่ าเพื่อเสาะแสวงหาทดี่ นิ ทาํ กินเพิ่มข้ึนใน รูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ การเปลีย่ นแปลงป่ าใหเ้ ป็ นทเี่ พาะปลูก การตดั ไมท้ าํ ลายป่ าเป็นวกิ ฤตการณท์ ม่ี ีผลกระทบตอ่ แหลง่ นาํ้ แหลง่ อาหาร และกา๊ ซออกซเิ จนแหลง่ ใหญข่ องโลก นอกจากน้ียงั มีสว่ นทาํ ใหส้ งิ่ มชี นิดตา่ ง ๆ สญู พนั ธุไ์ ปจากโลก 62

แผนภมู แิ สดงพ้นื ทีป่ ่ าไมใ้ นภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก และความเปลีย่ นแปลง ของพ้นื ทีป่ ่ าไมใ้ นชว่ งพ.ศ. 2533‒2543 63

วกิ ฤตการณเ์ กย่ี วกบั ความเสอ่ื มโทรมของแหล่งนา้ํ จดื ความเสอ่ื มโทรมของแหลง่ นาํ้ ในประเทศตา่ ง ๆ มกั เกดิ ข้ึน ในประเทศทก่ี าํ ลงั พฒั นา เชน่ ไทย อนิ โดนีเซยี อนิ เดยี สาเหตุมาจากการตดั ไมท้ าํ ลายป่ าเพ่ือใชใ้ นการทาํ การเกษตร สง่ ผลใหเ้ กิดการชะลา้ งพงั ทลายของดนิ ลงสู่ แหลง่ นาํ้ ทาํ ใหน้ าํ้ ขุน่ ขน้ และต้นื เขิน สาเหตุจากการ ขยายตวั เมอื งของและชมุ ชน ซง่ึ มกี ารปลอ่ ยนาํ้ เสยี ลงสู่ แหลง่ นาํ้ มากข้นึ ทาํ ใหน้ าํ้ มคี ณุ ภาพเสอ่ื มโทรม ไม่ เหมาะสมทจ่ี ะนาํ มาใชป้ ระโยชน์ 64

แหล่งนา้ํ จืดสาํ หรบั อปุ โภคบริโภคหลายแหง่ กาํ ลงั เสอื่ มคณุ ภาพลงเพราะ กิจกรรมตา่ ง ๆ ของมนุษยท์ ีข่ าดจิตสาํ นกึ ทีถ่ กู ตอ้ ง 65

วิกฤตการณเ์ กย่ี วกบั การความเสอ่ื มโทรมของดนิ ดนิ ทม่ี ีคณุ ภาพไมเ่ หมาะแก่การทาํ เกษตรกรรม มสี าเหตุหลกั เกิด จากการใชด้ นิ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ งและไมเ่ หมาะสม ไดแ้ ก่ การขุดดนิ เพ่ือนาํ ดนิ มาใชป้ ระโยชน์ ในดา้ นอุตสาหกรรมและการกอ่ สรา้ ง การใชด้ นิ ผดิ ประเภทและผดิ วธิ ี เชน่ มกี ารขุดตกั หนา้ ดนิ ทเ่ี หมาะ สาํ หรบั การเพาะปลกู ไปถมท่ี สภาพของดนิ ทถี่ กู น้ํากดั เซาะจนเกดิ การพังทลาย ทําใหห้ นา้ ดนิ ขาดความอดุ มสมบรู ณ์ 66

วิกฤตการณเ์ กย่ี วกบั การขยายตวั ของพ้นื ที่แหง้ แลง้ สบื เนื่องมาจากการลดลงของพ้ืนป่ าไม้ โดยเฉพาะป่ าดบิ ช้นื สง่ ผล ทาํ ใหอ้ ากาศแปรปรวน ความช้นื ในบรรยากาศลดลง ปรมิ าณนาํ้ นอ้ ยลง และหากเกิดฝนตก นาํ้ ฝนก็จะชะลา้ งหนา้ ดนิ อยา่ งรุนแรง เน่ืองจากขาดพ้ืนทป่ี ่ าทคี่ อยดูดซบั นาํ้ และชะลอความเรว็ ในการ ไหลของนาํ้ สง่ ผลใหด้ นิ ขาดความอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นพ้ืนท่ี แหง้ แลง้ สภาพของดนิ ทแ่ี ตกระแหงเน่อื งมาจากสภาวะแหง้ แลง้ 67 จนไมส่ ามารถนํามาใชใ้ นการเพาะปลกู ได ้

วิกฤวติกกฤาตรกณาด์รณา้ นด์ ทา้รนพั ทยราพักยราธกรรรธมรชรามตชิแาลตะแิสง่ิลแะสวง่ิดแลวอ้ ดมลขอ้อมงขโลอกงโใลนก ปั จจุบนั แผนทแ่ี สดงการขยายตวั ของพนื้ ทแ่ี หง้ แลง้ ของโลก 68

วิกฤตการณเ์ กยี่ วกบั การเปลย่ี นแปลงของภมู ิอากาศ วกิ ฤตการณเ์ กย่ี วกบั การเปล่ยี นแปลงของอุณหภมู ขิ องภูมิอากาศทเ่ี ก่ียวขอ้ ง กบั ปัญหาสภาพแวดลอ้ มโลกทเ่ี ปลย่ี นไป มปี ัญหาดงั น้ี ปัญหาภาวะโลกรอ้ น เป็นปรากฏการณท์ แี่ สดงใหเ้ ห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดข้ึนจาก อณุ หภูมขิ องโลกทสี่ งู ข้ึน สง่ ผลกระทบตอ่ ระบบนิเวศและความ สมดุลทางธรรมชาตสิ าเหตุทสี่ าํ คญั เกิดจากกา๊ ซเรอื นกระจกทเ่ี พ่ิม มากข้นึ ในชนั้ บรรยากาศโลก กา๊ ซเหลา่ น้ีดูดซบั ความรอ้ นไดด้ ี ทาํ ให้ รงั สคี วามรอ้ นทสี่ ะทอ้ นออกมาจากพ้ืนผิวโลกไมร่ ะบายออกสู่ ภายนอกโลก แตส่ ะสมตวั อยูใ่ นชนั้ บรรยากาศ ทาํ ใหอ้ ุณหภูมิของ โลกรอ้ นข้ึน 69

กา๊ ซเรอื นกระจกทง้ั 4 ชนิด มีสมบตั แิ ละแหลง่ ทม่ี าดงั ตอ่ ไปน้ี ภาวะโลกรอ้ นและปรากฏการณ์ เรอื นกระจกยงั มีผลกระทบดา้ น อนื่ ๆ เชน่ ทาํ ใหเ้ ป็ นมะเร็ง ผวิ หนงั ทาํ ใหพ้ ้ืนทแ่ี ละสภาพ อากาศไมเ่ หมาะแกก่ ารทาํ การเกษตร และมีการระบาด ของแมลงศตั รูพืชมากข้ึน ทาํ ใหเ้ กิดความแหง้ แลง้ ดนิ เคม็ นาํ้ ทว่ ม จนพืชและสตั ว์ บางชนิดสญู พนั ธุไ์ ด้ 70

ปัญหาชนั้ โอโซนถูกทาํ ลาย เน่ืองจากสารคลอโรฟลู ออโรคารบ์ อนทใ่ี ชเ้ ป็ นสว่ นประกอบในผลิตภณั ฑต์ า่ ง ๆ เชน่ สารขบั ดนั ในกระป๋ องสเปรย์ สารทาํ ความเย็น ในเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้ า สารในการผลติ โฟม สารดงั กลา่ ว เมอ่ื ลอยเขา้ สบู่ รรยากาศชน้ั สแตรโทสเฟียร์ จะทาํ ใหช้ น้ั โอโซนในบรรยากาศถกู ทาํ ลาย สง่ ผลใหก้ า๊ ซโอโซนใน ชนั้ บรรยากาศมปี รมิ าณนอ้ ยลง ไมส่ ามารถป้ องกนั รงั สอี ลั ตาไวโอเลตจากดวงอาทติ ยไ์ ด้ 71

รงั สอี ลั ตราไวโอเลตเป็ นอนั ตรายต่อสงิ่ มีชวี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม ดงั น้ี 1. ผลกระทบต่อมนุษย์ เชน่ ทาํ ใหผ้ ิวไหมเ้ กรยี ม ผวิ หนา้ เหยี่ ว ยน่ แกเ่ กินวยั 2. ผลกระทบต่อพชื และสตั ว์ เชน่ ทาํ ใหโ้ ปรตนี ในถว่ั เหลอื ง ลดลง แพลงกต์ อนในทะเลถูกทาํ ลาย 3. เมื่อรงั สอี ลั ตาไวโอเลตทาํ ปฏกิ ริ ยิ ากบั ไอเสยี รถยนตแ์ ละ อากาศเสยี จากโรงงานอตุ สาหกรรมเกดิ กา๊ ซพิษเป็ นอนั ตราย ตอ่ สง่ิ มชี วี ติ และทาํ ใหส้ ขี องบา้ นเสอ่ื มคณุ ภาพ 72

วิกฤตการณเ์ กยี่ วกบั พลงั งาน ทรพั ยากรพลงั งานเป็นทรพั ยากรทไ่ี ม่ สามารถสรา้ งทดแทนได้ เชน่ นาํ้ มนั ถ่านหนิ กา๊ ซธรรมชาติ พลงั งานเป็นสง่ิ สาํ คญั ในการดาํ เนินกิจกรรม ตา่ ง ๆ ของมนุษยใ์ น ปัจจบุ นั การเพิ่มข้ึนของประชากรทาํ ใหค้ วามตอ้ งการใชท้ รพั ยากร พลงั งานเพ่ือการผลติ และการบรกิ ารเพ่ิมมากข้นึ พลงั งานลมและพลงั งานแสงอาทติ ย์ 73 เป็นพลงั งานทางเลอื กทนี่ าํ มาใชท้ ดแทนพลงั งาน เชือ้ เพลิงฟอสซิลทกี่ าํ ลงั หมดไป

วิเคราะหส์ ถานการณอ์ ณุ หภมู ิโลกจากกราฟที่กาํ หนดให้ อณุ หภมู เิ ฉลยี่ ของโลกมี อตั ราสงู ขนึ้ ตอ่ เนอื่ งทกุ ปี และมแี นวโนม้ วา่ จะสงู ขนึ้ เป็ นวกิ ฤตการณก์ าร เปลย่ี นแปลงของภมู อิ ากาศ ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ มนุษย์ และสงิ่ แวดลอ้ ม 74

เรอ่ื งนา่ รู้ “ชายจนี ฟ้องรฐั บาลบกพรอ่ งแกป้ ัญหามลพษิ ” ชาวจนี รายหนงึ่ ฟ้องรฐั บาลในมณฑลเหอเป่ ย ฐานบกพรอ่ งใน การแกป้ ัญหาหมอกควนั และมลพษิ ซงึ่ เป็ นปัญหาใหญใ่ นหลายพนื้ ที่ จน ทําใหเ้ ขาตอ้ งเสยี เงนิ ซอ้ื หนา้ กากปิดจมกู เครอื่ งฟอกอากาศ และลวู่ ง่ิ ไฟฟ้า เพราะไมส่ ามารถไปเดนิ หรอื ออกกําลงั กายนอกบา้ นได ้ พรอ้ มกบั เรยี กคา่ ชดเชยใหก้ บั ประชาชนทกุ ชวี ติ ในเมอื ง ปัญหามลพษิ ในหลายพน้ื ทน่ี ี้ โดยเฉพาะในกรงุ ปักกง่ิ วดั คา่ มลพษิ ได ้ 444 ไมโครกรัมตอ่ ตารางเมตร ซงึ่ เกนิ ระดบั ความปลอดภยั เกอื บ 18 เทา่ และยังปกคลมุ ชนั้ บรรยากาศหนาจนแทบมองไมเ่ ห็นดวง อาทติ ย์ สง่ ผลกระทบตอ่ อตุ สาหกรรมและการเกษตร 75

เรอ่ื งนา่ รู้ “เซนทราเลยี เมอื งหมอกควนั ” เมอื งเซนทราเลยี รัฐเพนซลิ เวเนยี เมอื งอตุ สาหกรรมเหมอื งถา่ นหนิ แตใ่ น ค.ศ. 1962 ไดเ้ กดิ เหตกุ ารณ์ไฟไหมใ้ หญข่ น้ึ โดยตน้ เพลงิ มาจากคน จดุ ไฟเผาขยะในบอ่ เหมอื งใตด้ นิ จากนัน้ ไฟไดต้ ดิ ถา่ นหนิ และขยายวงกวา้ ง จนคลมุ พน้ื ทใ่ี ตด้ นิ ของบา้ นเรอื นทัง้ หมด แมม้ กี ารพยายามใชเ้ งนิ นับลา้ นใน การดับไฟ แตก่ ไ็ มเ่ ป็ นผล และยังไหมอ้ ยจู่ นทกุ วนั นี้ (นานกวา่ 50 ปี) หลายคนไดร้ ับพษิ คารบ์ อนมอนอกไซดท์ ัง้ ในอากาศและการปนเปื้อน รวมถงึ เกดิ เหตดุ นิ ยบุ ลกึ ลงไปเป็ นรอ้ ยฟตุ จนทางการตอ้ งหาทอ่ี ยใู่ หมใ่ หแ้ ก่ ชาวเมอื ง แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามบางครอบครวั เลอื กทจ่ี ะอยตู่ อ่ แมว้ า่ ทางการรัฐ เพนซลิ เวเนยี จะประกาศหา้ มใชต้ กึ ทกุ หลงั และกรมไปรษณยี ส์ หรัฐอเมรกิ า ไดย้ กเลกิ รหัสพน้ื ทขี่ องทน่ี ั่นก็ตาม ใน ค.ศ. 1981 เซนทราเลยี มผี คู ้ นอาศัยอยถู่ งึ 1,000 ครวั เรอื น แตใ่ น ค.ศ. 2010 เหลอื อยเู่ พยี ง 10 คนเทา่ นัน้ 76

เรอ่ื งนา่ รู้ “ถงุ ผา้ สารพัดประโยชน”์ ทําความสะอาดงา่ ย ชว่ ยลดการปนเปื้อนของ ไมก่ ดทับฝ่ ามอื สารประกอบไดออกซนิ ที่ เทา่ ถงุ พลาสตกิ มคี วามทนทาน เป็ นสารกอ่ มะเร็ง ชว่ ยลดปรมิ าณขยะ ตกแตง่ ความสวยงาม ไดต้ ามใจชอบ ยอ่ ยสลายงา่ ย ไมต่ กคา้ ง ไมท่ ําใหเ้ กดิ กา๊ ซ เรอื นกระจก ถา้ คนเราใชถ้ งุ ผา้ สปั ดาหล์ ะ 1 วนั จะชว่ ยลดการใชถ้ งุ พลาสตกิ ไดม้ ากกวา่ 100 ลา้ นถงุ ตอ่ ปี 77

เรอ่ื งนา่ รู้ “ลดโลกรอ้ นดว้ ย 10 R” Re j e c t R e d u ce R e u se n R e c y c le p Re f i l l t a w i h r ซอ่ มแซมสง่ิ ทสี่ กึ หรอ คดิ ใหมไ่ มใ่ หเ้ กดิ ปัญหา i นําสง่ิ ทใี่ ชแ้ ลว้ มาใชใ้ หม่ R e t u rn ek บํารงุ รักษาใหม้ อี ายยุ นื ยาว f ปฏเิ สธสง่ิ ทท่ี ําลายทรัพยากร u ใชส้ งิ่ ของทนี่ ํามาหมนุ เวยี นได ้ s ปฏเิ สธ หลกี เลย่ี ง และไมใ่ ชเ้ ลย e ใชส้ งิ่ ของทนี่ ําชน้ิ สว่ นมาแลกใหมไ่ ด ้ ใชส้ งิ่ ของทเ่ี ตมิ ผลติ ภัณฑใ์ นภาชนะเดมิ ได ้ นําสง่ิ ทไี่ มใ่ ชแ้ ลว้ มาผา่ นกระบวนการผลติ ใ7ห8 ม่

สรปุ วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของโลก สาเหตกุ ารเกดิ วกิ ฤตการณ์ดา้ น วกิ ฤตการณ์การขยายตวั ของพนื้ ทแี่ หง้ แลง้ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของโลก การลดลงของพน้ื ป่ าไม ้ โดยเฉพาะป่ าดบิ ชนื้ ทําให ้ การเพม่ิ ของจํานวนประช ากร เป็ นปัจจยั สําคญั ของ อากาศแปรปรวน ความชนื้ ในบรรยากาศลดลงปรมิ าณ การเกดิ วกิ ฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม ฝนนอ้ ยลง หากเกดิ ฝนตกหนัก น้ําฝนกจ็ ะชะลา้ งหนา้ การใช ว้ ทิ ยาการและเทคโนโลยที ที่ นั สมยั เชน่ การ ดนิ อยา่ งรนุ แรง สง่ ผลใหก้ ลายเป็ นพนื้ ทแี่ หง้ แลง้ ใชส้ ารเคมกี ําจดั แมลง ทําใหเ้ กดิ สารพษิ ตกคา้ ง วกิ ฤตการณ์เกยี่ วกบั การเปลยี่ นแปลงของ ภมู อิ ากาศ วกิ ฤตการณ์เกยี่ วกบั การตดั ไมท้ าํ ลายป่ า ปัญหาภาวะโลกรอ้ น เกดิ ขนึ้ จากอณุ หภมู ขิ องโลกที่ เกดิ ปัญหาทดี่ นิ และความตอ้ งการพน้ื ทเ่ี พาะปลกู เกดิ สงู ขนึ้ สง่ ผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศและความสมดลุ ทาง การบกุ รกุ ป่ า ธรรมชาติ สาเหตทุ ส่ี ําคญั เกดิ จากกา๊ ซเรอื นกระจก วกิ ฤตการณค์ วามเสอื่ มโทรมของแหลง่ นาํ้ จดื ปัญหาชนั้ โอโซนถกู ทําลาย เพราะสารคลอโรฟลอู อ- โดยเฉพาะในประเทศทกี่ ําลงั พัฒนา สาเหตมุ าจากการ โรคารบ์ อนจากกจิ กรรมตา่ ง ๆ ลอยขน้ึ สชู่ นั้ บรรยากาศ ตดั ไมท้ ําลายป่ าเพอ่ื ใชใ้ นการทําการเกษตร ทําใหเ้ กดิ ทําลายชนั้ โอโซน ทําใหก้ า๊ ซโอโซนมปี รมิ าณนอ้ ยลง การชะลา้ งพงั ทลายของดนิ ลงสแู่ หลง่ นํ้า ทําใหน้ ้ําขนุ่ ไมส่ ามารถดดู ซมึ รังสอี ลั ตาไวโอเลตได ้ สง่ ผลตอ่ ขน้ และตนื้ เขนิ การขยายตวั ของเมอื ง มกี ารปลอ่ ยน้ํา สภุ าพของมนุษย์ เสยี ลงสแู่ หลง่ นํ้า ทําใหน้ ้ํามคี ณุ ภาพเสอื่ มโทรม ไม่ วกิ ฤตการณ์เกย่ี วกบั พลงั งาน เหมาะทจ่ี ะนํามาใชอ้ ปุ โภคบรโิ ภค นํ้ามัน ถา่ นหนิ และกา๊ ซธรรมชาติ เป็ นทรพั ยากรทใี่ ช ้ วกิ ฤตการณ์เกย่ี วกบั การความเสอ่ื มโทรมของดนิ แลว้ ไมส่ ามารถเกดิ ขนึ้ ทดแทนได ้ การเพมิ่ ขนึ้ ของ เกดิ จากการใชด้ นิ ทไี่ มถ่ กู ตอ้ งและไมเ่ หมาะสม เชน่ ประชากรทําใหค้ วามตอ้ งการใชท้ รัพยากรพลงั งาน การขดุ ดนิ เพอื่ นําดนิ มาใชป้ ระโยชนท์ างดา้ น เพอื่ การผลติ และบรกิ ารมมี ากขนึ้ ทําใหเ้ กดิ การขาด อตุ สาหกรรมและการกอ่ สรา้ ง หรอื การขดุ ตกั หนา้ ดนิ ท่ี แคลนพลงั งาน เหมาะสําหรบั การเพาะปลกู ไปถมที่ 79


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook