Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 2 กฎหมายแพ่งที่ควรรู้

หน่วยที่ 2 กฎหมายแพ่งที่ควรรู้

Published by kingmanee2614, 2021-01-25 08:10:18

Description: หน่วยที่ 2 กฎหมายแพ่งที่ควรรู้

Search

Read the Text Version

1) หล ักเกณฑก ารทาํ สญั ญาคํ้าประกนั การทาํ สัญญาค้าํ ประกันน้นั จะตองมีหลักฐานเปนหนงั สือลง ลายมือชื่อผคู ้าํ ประกัน 2) ชนิดของสัญญาคํ้าประกัน แบงออก 2 ชนิดคือ 1. สัญญาค้ําประกนั ชนิดไมจาํ กดั ความรับผิดคือ เมื่อลูกหน้ีตองรบั ผิดชดใชหน้ีใหแกเจาหน้ีผูค้ําจะตอง ชดใชเทากัน

2) ชนิดของสญั ญาคํ้าประกนั แบงออกได 2 ชนิด 1. สัญญาค้ําประกนั ชนิดไมจาํ กัดความรบั ผิดชอบ คือเมื่อลกู หน้ีตองรบั ผิดชอบชดใชหน้ีใหแกเจาหน้ี เทาใดผูค้ําประกันจะตองชดใชแกเจาหนี้จาํ นวน เทากัน 2. สญั ญาค้าํ ประกันที่จํากดั ความรบั ผิดชอบคือผู ค้ําประกันไดระบุจาํ นวนเงินทีอ่ ยูในสัญญา

3) ความระงับแหง สัญญาค้าํ ประกนั สัญญาค้ํา ประกนั จะระงบั สิ้นไปดวยเหตตุ าง ๆดงั น้ี 1. เมื่อหน้ีของลูกหนี้น้นั ระงบั ไป 2. เมือ่ ผคู ้ําประกันบอกเลิกสัญญาค้าํ ประกัน สาํ หรบั กิจการที่ทํากันอยางตอเนือ่ ง 3. เมื่อเจาหน้ีผอนเวลาใหกบั ลกู หนี้ 4. เมือ่ เจาหนี้ไมรบั ชาํ ระหนี้จากผคู ้ําประกัน

5.6 สญั ญาจาํ นอง สัญญาจํานอง คือ สญั ญาซึง่ บคุ คลหนึ่งเรียกวา “ผูจาํ นอง” เอาทรพั ยสินของตนเชน ทีด่ ิน หรือสังหา ริมทรพั ยที่กฎหมายกาํ หนดใหจาํ นองได แบงออกได 2 ประเภท 1.การนําทรัพยของตนเองไปจํานองเพื่อประกัน การชาํ ระหน้ีของตนเอง

2.การนําทรพั ยของตนเองไปจาํ นองเพือ่ ประกนั หน้ีที่ บคุ คลอืน่ เปนหน้ี ทรัพยท ี่สามารถนาํ ไปจาํ นองได ไดแ ก 1. อสังหาริมทรพั ย เชน ที่ดิน บานเรือน สิง่ ปลกู สรางที่ติดกับทีด่ ิน 2. สังหาริมทรัพยที่กฎหมายกาํ หนดใหจํานองได * เรือทีม่ ีระวางต้ังแตหาตนั ข้ึนไป

* แพะ * สัตวพาหนะ * ทรพั ยส์ นิ อ่ืนท่ีกฎหมายบญั ญตั ใิ หจ้ ดทะเบียนได้ เชน่ เครอ่ื งจกั รขนาดใหญ่ การทาํ สญั ญาจาํ นองจะตอ้ งทาํ เป็นหนงั สือและจด ทะเบียนตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีมฉิ ะนนั้ จะตกเป็นโมฆะ

ความระงับแหง สัญญาจาํ นอง สญั ญาจํานองจะ ระงับดวยเหตุตาง ๆดงั น้ี 1. หน้ีทีป่ ระกนั ไวระงบั 2. การปลดจํานองใหแกผูจํานองดวยหนังสือเปน สาํ คญั 3. เมือ่ ทรัพยสินซึง่ จาํ นองถกู ขายทอดตลาดเนือ่ ง จากการบังคับจาํ นอง

5.7 สัญญาจํานาํ สญั ญาจาํ นํา คือ สญั ญาซึง่ บคุ คลหนึง่ เรียกวา“ผูจํานํา”นาํ สงั หาริมทรัพยสงมอบ ใหกบั อีกคนหนึ่งเรียกวา “ผรู บั จาํ นํา”

ความระงบั แหง สัญญาจาํ นาํ มีดังตอไปน้ี 1. หนี้ซึง่ ประกนั อยนู ้นั ระงบั ไป 2. ผูรับจํานําคืนทรพั ยสินที่จาํ นาํ กลับไปสู ความครอบครองของผูจาํ นํา

6. กฎหมายเกี่ยวกบั ครอบครวั 6.1 การหม้นั 1)ความหมายของการหม้นั หมายความถึง การทีช่ ายหญิงทําสัญญาวาจะทาํ การสมรสกันและ อยูกินฉนั สามีภรรยาและฝายชายไดมอบของหม้ันไว แกฝายหญิง

2) เงื่อนไขการหมน้ั กฎหมายกาํ หนดของการหม้ัน ไว 2 ประเภท 2.1) ชายหญิงตองมีอายุสิบเจด็ ปบ ริบรู ณ 2.2) ผเู ยาวทีอ่ ายเุ กินสิบเจด็ ปแ ตยังไมครบยีส่ ิบป บริบรู ณตองไดรบั ความยินยอมจากบุคคลดงั น้ี 1. บิดามารดาในกรณีที่มีท้ังบิดามารดา 2. บิดามารดาในกรณีที่บิดาหรือมารดาตาย

3. ผูรบั บุตรบญุ ธรรม ในกรณีทีผ่ ูเยาวเปน บุตรบญุ ธรรม 4. ผูปกครองในกรณีที่ไมมีบุคคลซึง่ อาจใหความ ยินยอมตามขอ 1,2 และ 3การหม้ันของผเู ยาวทํา ปราศจากความยินยอมถือวาเปน โมฆียะ

3) การผิดสญั ญาหม้นั เมื่อชายหญิงไดหม้ันกัน แลวถาฝายใดฝายหนึง่ ผิดสัญญาหม้ันอีกฝายหนึ่งมี สิทธิเรียกใหรับผิดใชคาทดแทน 1. ทดแทนความเสียหายตอกายหรือชื่อเสียงของ ชายหรือหญิงน้ัน 2. ทดแทนความเสียหายเนือ่ งจากการที่คหู ม้นั บิดามารดาไดใชจายการเตรียมการสมรส

3.ทดแทนความเสียหายเนือ่ งจากการที่คูหม้ันได จดั การทรัพยสินหรือกระทาํ การอืน่ อนั เกีย่ วกบั อาชีพ หรือทางทํามาหารายได ขอยกเวน ในกรณีตอไปนี้จะเรียกคาทดแทน ไมได 1. คูหม้ันฝายหนึง่ ตายกอนสมรส อีกฝายจะ เรียกคาทดแทนมิได

2.ในกรณีทีม่ ีเหตุสําคญั เกิดแกหญิงคูหม้ันทาํ ใหชาย ไมสมควรสมรสกับหญิงน้นั ชายมีสิทธิบอกเลิกสญั ญา หม้ันไดและหญิงตองคืนของหม้นั แกชาย 3.ในกรณีที่มีเหตุผลสาํ คญั เกิดแกชายคูหม้ันทําให หญิงไมสมควรสมรสกับชายมีสิทธิบอกเลิกสญั ญา หม้นั ไดและหญิงไมตองคืนของหม้นั แกชาย

4.ในกรณีที่มีเหตุอนั ทําใหคหู ม้นั บอกเลิกสญั ญา หม้นั เปน เพราะการกระทาํ ชวั่ อยางรายแรง

6.2 การสมรส 1) เงื่อนไขการสมรส 1.1) การสมรสจะทําไดตอเมือ่ ชายและหญิงมี อายุสิบเจ็ดปบ ริบูรณถาชายและหญิงยงั ไมบรรลุนิติ ภาวะตองไดรบั ความยินยอมจากบิดามารดา 1.2) ชายหรือหญิงจะตองไมเปน คนวิกลจริต หรือบคุ คลซึง่ ศาลสั่งใหเปน คนไรความสามารถ

1.3) ชายหรือหญิงตองไมเปน ญาติสืบสายโลหิต โดยตรง 1.4) ชายหรือหญิงจะทําการสมรสในขณะที่ตนเองมี คูสมรสอยูไมได 1.5) หญิงทีส่ ามีตายหรือการสมรสไดส้ินสุดลงจะ สมรสใหมไดไมนอยกวา 310 วนั

2) ความสมั พนั ธร ะหวางสามีภรรยา เมื่อชายหญิง  ไดทําการจดทะเบียนสมรสกนั แลวยอมเปน สามี ภรรยากนั ตามกฎหมายจึงมีความสมั พันธดงั น้ี 1. สามีภรรยาตองอยูกินดวยกันฉันสามีภรรยาตอง ชวยเหลือเล้ียงดกู นั ตามความสามารถและฐานะตน 2. ในกรณีทีก่ ารอยรู วมกันของสามีภรรยาจะเปน อนั ตรายแกกายหรือจิตใจ

3.ในกรณีที่ศาลส่งั ใหสามีภรรยาเปน คนไรความ สามารถหรือเปรียบเสมือนไรความสามารถ 4. ถาสามีหรือภรรยาเปนคนวิกลจริตอีกฝาย หนึ่งตองอปุ การะเลี้ยงดแู ละกระทําการตามสมควร

3) ทรพั ยสินระหวางสามีภรรยา กฎหมายกาํ หนดเปน 2 ประเภท สินสว นตัว ไดแ ก 1. ทรัพยสนิ ท่ีฝา ยใดฝายหนึง่ มีอยูกอนสมรส 2. ทรัพยส ินทีเ่ ปนเครือ่ งใชสอยสวนตัว เครือ่ งแตงกาย หรือเครื่องประดบั 3. ทรพั ยสินทฝ่ี า ยใดฝายหนงึ่ ไดม าระหวา งสมรสโดย การรับมรดกโดยการใหโ ดยเสนหา 4. ทรพั ยส ินทีเ่ ปนของหมัน้

สินสมรส ไดแก 1. ทรพั ยสินที่คูสมรสไดมาระหวางสมรส 2. ทรพั ยสินที่ฝายใดฝายหนึ่งไดมาระหวางสมรส โดยพินยั กรรมยกระบวุ าเปนสินสมรส 3. ทรพั ยสินที่เปนดอกผลของสินสวนตัว

6.3 บ ิดามารดากบั บุตร 1) สิทธิหนา ที่ของบิดามารดาและบตุ ร 1. บตุ รมีสิทธิใชชื่อสกุลของบิดาในกรณีทีบ่ ิดา ไมปรากฏใหบตุ รมีสิทธิใชชื่อสกลุ ของมารดา 2. บตุ รจะฟองบพุ การีของตนเปนคดีแพงหรือ คดีอาญามิได 3. บุตรตองอุปการะเลี้ยงดบู ิดามารดา

4. บิดามารดาตองอุปการะเลี้ยงดูแกบุตรตาม สมควรในระหวางที่เปนผูเยาว 5. บิดามารดาตองอุปการะเลี้ยงดูแกบุตรผูทพุ พล ภาพและหาเล้ียงตนเองไมไดถึงแมวาบตุ รน้ันจะบรรลุ ภาวะแลวกต็ าม

2) อํานาจปกครองของบิดามารดา บตุ รซึ่งยังไมบรรลุ นิติภาวะตอ งอยูใตอ าํ นาจปกครองของบดิ ามารดาในกรณี ดังตอไปนี้ 1. มารดาหรือบิดาตาย 2. ไมแ นน อนวา มารดาหรือบิดามชี วี ติ อยูห รือตาย 3. มารดาหรือบิดาถูกศาลสง่ั ใหเปนคนไรค วาม สามารถหรือเสมือนไรค วามสามารถ 4. มารดาหรือบดิ าตองเขารกั ษาตัวในพยาบาลเพราะ จติ ฟน เฟอน

5. ศาลสงั่ ใหอ ํานาจปกครองอยูกบั บดิ าหรือมารดา ผูใชอ าํ นาจปกครองมสี ิทธิ ดังตอ ไปน้ี 1. กําหนดท่อี ยขู องบตุ ร 2. ทาํ โทษบตุ รตามสมควรเพือ่ วากลาวสงั่ สอน 3. ใหบตุ รทําการงานตามสมควรแกความสามารถและ ฐานานุรปู 4. เรยี กบุตรคืนจากบคุ คลอืน่ ซ่ึงกักขงั บตุ รไวโดยไมชอบ ดว ยกฎหมาย

กฎหมายไดกาํ หนดหามผใู ชอาํ นาจปกครองทํานิติ กรรมทีเ่ กี่ยวกบั ทรัพยสินของผเู ยาวไวหลายประการ ไดแก 1. ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก ใหเชาซื้อ จํานอง ปลดจํานองหรือโอนสิทธิจาํ นองซึ่งอสังหาริมทรัพย หรืออสงั หาริมทรัพยทีอ่ าจจํานองได 2. ใหเชาอสงั หาริมทรัพยเกินสามป

3. ใหกยู ืมเงิน 4. ใหโดยเสนหา 5. รับการใหโดยเสนหาที่มีเงือ่ นไขหรือภาระติดพัน 6. ประนีประนอมยอมความ

6.4 บตุ รบุญธรรม 1) ความหมายของบุตรบญุ ธรรม เปน บตุ รของผอู ื่นท่ี ขอมาเล้ียงดูเสมือนบตุ รของตน 2) หลกั เกณฑก ารรับบุตรบญุ ธรรม มดี งั น้ี 1. ผูทจี่ ะรับบุญบญุ ธรรมไดจ ะตองมอี ายไุ มต าํ่ กวา 25 ปแ ตแ กก วาบตุ รไมน อ ยกวา 15 ป 2. การรับบุตรบุญธรรมนัน้ ถาผทู จ่ี ะเปน บุญธรรมมี อายตุ ํา่ กวา 15 ปผ ทู ี่จะเปนบุญธรรมจะตอ งใหรบั ความ ยินยอม

3. การรับบุตรบญุ ธรรมจะตองไดรบั ความยินยอม จากบิดามารดา 4. ผจู ะรบั บุตรบุญธรรมหรือผจู ะเปน บตุ รบญุ ธรรม ถามีคูสมรสตองไดรับความยินยอมจากคูสมรส 5. ผเู ยาวทีเ่ ปน บตุ รบุญธรรมของบุคคลอื่นจะเปน บุตรบุญธรรมอีกคนหนึ่งในขณะเดียวกนั ไมได 6. การรับบตุ รบุญธรรมจะสมบูรณตอเมือ่ จด ทะเบียนตามกฎหมาย

7. บตุ รบุญธรรมมีฐานะเชนเดียวกบั บุญชอบดวย กฎหมาย 8. การรบั บุตรบญุ ธรรมไมกอใหเกิดสิทธิรบั มรดก ของบตุ รบญุ ธรรมในฐานะทายาท

7. กฎหมายเกีย่ วกับมรดก 7.1 ความหมายของมรดก กองมรดก คือ ทรัพยสินทุกชนิดของผูตายรวม ท้ังสิทธิและหนาที่ตลอดจนความรบั ผิดชอบตาง ๆ เกี่ยวกับทรัพยสินไดแก หนี้สิน

7.2 การแบงทรพั ยม รดกระหวางทายาทโดยธรรม  บุคคลทมี่ สี ทิ ธิรบั มรดกของผตู ายคือทายาทแบง ออกเปน 2 ประเภทคือทายาทโดยธรรมและผูรับพินัยกรรม *ทายาทโดยธรรมมี 2 พวกคอื ญาตแิ ละคูสมรส ทายาททเี่ ป็ นญาติ มี 6 ลาํ ดบั 1. ผสู้ บื สนั ดาน 2. บิดามารดา 3. พ่ีนอ้ งรว่ มบิดามารดาเดียวกนั 4. พ่ีนอ้ งรว่ มบิดาหรอื รว่ มมารดาเดยี วกนั 5. ป่ ู ยา่ ตา ยาย 6. ลงุ ปา้ นา้ อา

7.3 พินัยกรรม พนิ ยั กรรมเปนนิตกิ รรมฝา ยเดียวทบ่ี ุคคลไดแ สดงเจตนา กําหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพยส ินของตนเอง 1) หลกั ท่ัวไปของการทําพนิ ยั กรรม ดงั ตอ ไปนี้ 1. ผูท จี่ ะทาํ พนิ ยั กรรมไดตอ งมีอายุครบ 15 ป 2. บคุ คลผูอยูในความปกครองจะทําพนิ ัยกรรมยก ทรัพยม รดกของตนใหแ กผ ปู กครองหรือคสู มรส บุพการหี รือ ผูสืบสนั ดาน

3. ผูเขียนหรือพยานในพินัยกรรมจะเปน ผรู ับทรัพย ตามพินยั กรรมน้นั ไมได 4. บคุ คลตอไปน้ีจะเปน พยานในการทาํ พินัยกรรม ไมได * ผูซึ่งไมบรรลุนิติภาวะ * บุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศาลสั่งใหผูเสมือน ไรความสามารถและบคุ คลหูหนวก เปนใบ ตาบอด

2) แบบของพินยั กรรม ดังตอไปน้ี 1. พินยั กรรมที่เขียนเองท้งั ฉบับคือ ผูทําพินัย กรรมตองเขียนดวยมือตนเองทําดวยตนเองและลง ลายมือชื่อของตน 2. พินัยกรรมที่ทาํ ตามแบบคือ ทาํ เปน หนังสือ ลงวัน เดือน ป มีพยานอยางนอย 2 คน

3. พินยั กรรมแบบเอกสารฝายเมือง คือ ผทู าํ พินัย กรรมไปแจงใหนายอําเภอเปนผจู ัดทํา 4. พินัยกรรมแบบเอกสารลับผทู ําพินยั กรรมเขียน ขอความเปนพินยั กรรมลงลายมือชือ่ แลวปดผนึก พินัยกรรมลงลายมือชื่อคาบรอยผนึก 5. พินัยกรรมแบบพิเศษเชนพินยั กรรมดวยวาจา

6. พินัยกรรมทาํ ในตางประเทศทํา 2 แบบคือตาม แบบกฎหมายของประเทศน้ันๆหรือทาํ แบบกฎหมาย ไทยกไ็ ด 7. พินัยกรรมในระหวางสงคราม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook