สขุ ศึกษา ม. 5
บทท่ี 1 การวางแผนดแู ลสุขภาพ ของตัวเองและครอบครัว
• ความหมายของการดแู ลสุขภาพ – การวางแผนสขุ ภาพคอื กระบวนการกาหนดวิธีทางตดั สินใจหรือรูปแบบในการ ดแู ลสขุ ภาพตามทีต่ ้องการ รวมถงึ การกาหนดแนวทางในการปฏิบตั เิ พ่ือ สขุ ภาพทด่ี ี หลกั การวางแผนสขุ ภาพ 1. สารวจรูปแบบวิถีการดาเนินชีวติ ของตนเองและบคุ คลในครอบครัว 2. นาข้อมลู ทีไ่ ด้จากการสารวจมาวางแผนการดแู ลสขุ ภาพ 3. ปฏิบตั ิตามแผนดแู ลสขุ ภาพและประเมนิ ผลเป็นระยะ 4. หากพบวา่ ไมส่ ามารถปฏิบตั ิตามแผนได้ ต้องทบทวนและวเิ คราะห์วา่ เกิดจาก สาเหตอะไรและปรับแผนดแู ลสขุ ภาพใหม่ให้เหมาะสม
วธิ กี ารวางแผนดแู ลสขุ ภาพของตวั เองและครอบครวั 1. โภชนาการ การรบั ประทานอาหารอยา่ งเหมาะสมจะทาใหม้ สี ขุ ภาพทด่ี ี ควรรบั ประทาน อาหารใหเ้ หมาะกบั เพศและวยั และตองรบั ประทานอาหารใหค้ รบั ทงั้ หา้ หมู่ 2. การออกกาลงั กาย การออกกาลงั กายจะทาใหอ้ วยั วะทางานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ศกึ ษาการออกกาลงั กายใหเ้ หมาะสมกบั เพศ วยั และสภาพรา่ งกายของแตล่ ะคน ควร ปฏบิ ตั คิ รงั้ ละไมต่ ่ากวา่ 30 นาที อยา่ งน้อยสปั ดาหล์ ะ 3 วนั 3. การพกั ผอ่ น การพกั ผอ่ นชว่ ยใหร้ า่ งกายไดผ้ อ่ นคลาย และเสรมิ สรา้ งกระดกู ทแ่ี ขง็ แรง ยง่ิ ขน้ึ การพกั ผอ่ นชว่ ยใหร้ า่ งกายไดซ้ ่อมแซมสว่ นตา่ งๆเพอ่ื ใชใ้ นการดาเนินชวี ติ ต่อไป 4. การตรวจสขุ ภาพ หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมทเ่ี สย่ี งต่อโรค สงั เกตสงิ่ ผดิ ปกตทิ เ่ี กดิ ขน้ึ กบั ตนเอง และวางแผนการตรวจสขุ ภาพ
ประโยชน์ของการวางแผนดแู ลสขุ ภาพของ ตนเองและบคุ คลในครอบครวั 1. ทาใหม้ องเหน็ วธิ ดี าเนนิ การทจ่ี ะปฏบิ ตั หิ รอื เลอื ปฏบิ ตั ิ เพอ่ื การดแู ลสขุ ภาพอยา่ งเป็น ระบบ ทงั้ การดแู ลสขุ ภาพของตนและบุคคลอน่ื ๆ 2. ทาใหม้ พี ฤตกิ รรมสขุ ภาพทด่ี ี ซง่ึ สง่ ผลดตี อ่ สขุ ภาพกายและจติ ทงั้ ของตนเองและบคุ คลใน ครอบครวั 3. ลดภาวะความเจบ็ ปว่ ย ความพกิ าร หรอื การเสยี ชวี ติ กอ่ นวยั อนั ควร เป็นการป้องกนั การ เกดิ ภาวะเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพเบอ้ื งตน้ 4. ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาล 5. เป็นการสรา้ งความเขม้ แขง็ แก่สงั คม ลดปญั หาดา้ นการสาธารณะสขุ
บทที่ 2 ค่านิยมเร่อื งเพศตามวฒั นธรรม
วฒั นธรรม ศีลธรรมจรรยาในเร่อื งเพศ • วฒั นธรรมในเรื่องเพศ 1. ซอ่ื สตั ย์ตอ่ กนั ไมน่ อกใจกนั 2. สร้างครอบครัวให้มน่ั คง มีความสงบสขุ ในครอบครัว 3. อบรมเลยี ้ งบตุ รด้วยความรัก ความเอาใจใส่ 4. มีเพศสมั พนั ธ์อยา่ งปลอดภยั ด้วยการใช้ถงุ ยางอนามยั
• ศลี ธรรมจรรยาในเรอ่ื งเพศ 1. การปฏบิ ตั ติ นทด่ี ตี ่อกนั 2. การใหเ้ กยี รตยิ กยอ่ งซง่ึ กนั และกนั 3. มเี จตคตทิ างเพศดา้ นบวก 4. มคี วามรบั ผดิ ชอบในเรอ่ื งตา่ งๆ 5. มคี วามตระหนกั ถงึ การกระทาทผ่ี ดิ ศลี 5 ขอ้ ท่ี 3 คอื การละเวน้ จากการประพฤตผิ ดิ ใน กาม 6. มคี วามตระหนกั ถงึ ความผดิ ในเรอ่ื งของการทาแทง้ หากตงั้ ครรภใ์ นเวลาทไ่ี ม่สมควร 7. มคี วามตระหนกั และรสู้ กึ ผดิ ในการหลอกลวงฝา่ ยตรงขา้ ม
ค่านิ ยมในเร่ืองเพศ • ความรสู้ กึ การเหน็ คณุ คา่ หรอื ความเชอ่ื ทม่ี ตี ่อเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ ในเร่อื งเพศ เกดิ จากการ สงั่ สอนในสถาบนั ครอบครวั การศกึ ษา และประสบการณ์ 1. คา่ นิยมเรอ่ื งเพศดา้ นบวก ยดึ มนั่ ในเรอ่ื งการรกั นวลสงวนตวั การรกั ษาพรหมจารี การเขา้ ตามตรอกออกตามประตแู ละคบหากนั อยา่ งเปิดเผยโดยทพ่ี อ่ แมข่ องทงั้ สองฝา่ ยรบั รู้ มี การแสดงออกทางเพศอยา่ งเหมาะสมและนกึ ถงึ กาละเทศะ 2. คา่ นยิ มในเรอ่ื งเพศทางดา้ นลบ ไมร่ กั นวลสงวนตวั มคี วามสมั พนั ธท์ างเพศกอ่ นแต่งงาน การคบผชู้ ายหรอื ผหู้ ญงิ หลายคน
• คา่ นิยมในเรอ่ื งเพศทถ่ี กู ตอ้ งตามวฒั นธรรมไทย 1. การเขา้ ตามตรอกออกตามประตู 2. การใชเ้ วลาคบหาดใู จกนั เป็นเวลาพอสมควร 3. การรกั นวลสงวนตวั 4. การไมส่ าสอ่ นทางเพศ 5. ผชู้ ายมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อฝา่ ยหญงิ 6. การวางตวั ในทส่ี าธารณะทเ่ี หมาะสม • คา่ นิยมในเรอ่ื งเพศทไ่ี มถ่ กู ตอ้ งตามวฒั นธรรมไทย 1. การยกยอ่ งใหฝ้ า่ ยชายเป็นใหญ่มากกวา่ ฝา่ ยหญงิ 2. การไมส่ นบั สนุนใหค้ ยุ เรอ่ื งเพศอยา่ งเปิดเผยในครอบครวั 3. การคดิ วา่ ฝา่ ยหญงิ เป็นฝา่ ยตอบสนองความตอ้ งการของฝา่ ยชาย 4. การคดิ วา่ การมเี พศสมั พนั ธก์ อ่ นการแตง่ งานไมใ่ ชเ่ รอ่ื งเสยี หาย 5. คดิ วา่ การมคี วามสมั พนั ธท์ างเพศโดยไมต่ อ้ งเป็นคนรกั เป็นเรอ่ื งปกติ
คา่ นิยมในเรอ่ื งเพศทเ่ี หมาะสมกบั วฒั นธรรมไทย 1. ผชู้ ายควรใหเ้ กยี รตแิ ละชว่ ยป้องกนั อนั ตรายใหแ้ กผหู้ ญงิ 2. ผชู้ ายและผหู้ ญงิ มสี ทิ ธเิ ทา่ เทยี มกนั ตามหลกั มนุษยชน 3. การแสดงออกในเรอ่ื งความพงึ พอใจหรอื ความสนใจแก่เพศตรงขา้ ม 4. ปฏบิ ตั ติ นในเรอ่ื งเพศและพฤตกิ รรมทางเพศใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ธรรมศาสนาทต่ี นเอง นบั ถอื 1. ไมถ่ อื โอกาสถกู เน้ือตอ้ งตวั ฝา่ ยตรงขา้ มดว้ ยเจตนาลว่ งเกนิ 2. รจู้ กั รกั นวลสงวนตวั ทงั้ ผชู้ ายและผหู้ ญงิ 3. การเลอื กคคู่ รองเป็นไปดว้ ยความสมคั รใจ 4. การเขา้ พธิ สี มรสอยา่ งถกู ตอ้ ง 5. การจดทะเบยี นสมรส 6. การแสดงออกถงึ ความรกั ใครต่ อ้ งอยใู่ นความเหมาะสม
11. สามภี รรยาควรยดึ ถอื คา่ นิยมในการครองคชู่ วี ติ คแู่ บบครอบครวั เดยี ว 12. การมคี วามรสู้ กึ ผดิ ผดิ และกลวั การทาแทง้ ซง่ึ เป็นการกระทาทผ่ี ดิ กฏหมาย 13. การมคี า่ นยิ มในการมเี พศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั
ค่านิยมในเร่ืองเพศตามวฒั นธรรมอ่ืน • คา่ นิยมทางเพศทเ่ี หมาะสมตามวฒั นธรรมตะวนั ตก 1. การใหเ้ กยี รตผิ หู้ ญงิ 2. การมคี วามซอ่ื สตั ยต์ อ่ สามภี รรยา 3. ผชู้ ายมคี วามรกั ความรบั ผดิ ชอบต่อครอบครวั 4. ผหู้ ญงิ สามารถแสดงความคดิ เหน็ หรอื โตแ้ ยง้ ฝา่ ยชายได้ 5. การมเี พศสมั พนั ธอ์ ยา่ งปลอดภยั โดยการใชถ้ งุ ยางอนามยั • คา่ นิยมทางเพศทไ่ี มเ่ หมาะสมตามวฒั นธรรมตะวนั ตก 1. การแตง่ กายลอ่ แหลม 2. การคบเพอ่ื นตา่ งเพศทลี ะหลายๆคน 3. การไปเทย่ี วกบั เพอ่ื นตา่ งเพศสองต่อสอง 4. แสดงความสนใจตอ่ เพศตรงขา้ มจนเกนิ งาม
5. การแสดงความรกั ในทส่ี าธารณะอยา่ งเปิดเผย 6.การไปเทย่ี วกลางคนื กบั เพอ่ื นตา่ งเพศในสถานบนั เทงิ 7.การมเี พศสมั พนั ธก์ อ่ นแต่งงาน 8.การถ่ายคลปิ วดิ โี อลามก •คา่ นยิ มในเรอ่ื งเพศทม่ี คี วามเหมาะสมของครู่ กั 1.การคบหากนั ควรหลกี เลย่ี งการกระทาทจ่ี ะเป็นการล่วงละเมดิ อกี ฝา่ ย 2.ไมอ่ ยใู่ นทล่ี บั สายตาคนอน่ื สองตอ่ สอง 3.ผหู้ ญงิ ตอ้ งรจู้ กั การปฏเิ สธอยา่ งจรงิ จงั และเดด็ ขาด 4.ไมน่ ดั คา้ งคนื กนั สองต่อสอง 5.มคี วามเมตตาต่อกนั ไมท่ ารา้ ยทงั้ ทางรา่ งกายและจติ ใจ
บทที่ 3 การค้มุ ครองผบู้ ริโภค
สิทธิพืน้ ฐานของผบู้ ริโภค • ความหมายของผบู้ รโิ ภค คอื ผซู้ อ้ื หรอื ผไู้ ดร้ บั บรกิ ารจากผปู้ ระกอบธุรกจิ หรอื ผซู้ ง่ึ ไดร้ บั การเสนอหรอื การชกั ชวนจากผปู้ ระกอบธุรกจิ เพอ่ื ใหซ่ อ้ื สนิ คา้ หรอื รบั บรกิ าร • สทิ ธขิ องผบู้ รโิ ภคในมาตรฐานสากล 1. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั สนิ คา้ และบรกิ ารทจ่ี าเป็นตอ่ การดารงชวี ติ 2. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความปลอดภยั จากการใชส้ นิ คา้ และบรกิ าร 3. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั การคมุ้ ครองจากการหลอกลวงของโฆษณา 4. สทิ ธทิ จ่ี ะไดเ้ ลอื กซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ ารในราคายตุ ธิ รรม 5. สทิ ธทิ จ่ี ะแสดงความคดิ เหน็ ในฐานะตวั แทนผบู้ รโิ ภคเพอ่ื ใหไ้ ดร้ บั ประโยชน์ทพ่ี งึ ได้ 6. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั คา่ ชดเชยในกรณีทถ่ี ูกละเมดิ 7. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความรอู้ นั จาเป็นตอ่ การบรโิ ภคอยา่ งเทา่ ทนั 8. สทิ ธทิ จ่ี ะดารงชวี ติ อยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ มทด่ี ี และยงั ชพี ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั
• สทิ ธขิ องผบู้ รโิ ภคตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผบู้ รโิ ภค 1. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ขา่ วสารรวมทงั้ คาพรรณนาคณุ ภาพทถ่ี ูกตอ้ งและเพยี งพอเกย่ี วกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ าร 2. สทิ ธทจ่ี ะมอี สิ ระในการเลอื กหาสนิ คา้ หรอื บรกิ าร 3. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความปลอดภยั จากการใชส้ นิ คา้ หรอื บรกิ าร 4. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความเป็นธรรมในการทาสญั ญา 5. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั บการพจิ ารณาและชดเชยความเสยี หาย
กฏหมายท่ีค้มุ ครองผบู้ ริโภค • พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผบู้ รโิ ภค 1. พจิ ารณาเรอ่ื งราวรอ้ งทุกขจ์ ากผบู้ รโิ ภคทไ่ี ดร้ บั ความเดอื ดรอ้ น 2. ดาเนนิ การเกย่ี วกบั สนิ คา้ ทอ่ี าจเป็นอนั ตรายแก่ผบู้ รโิ ภค 3. แจง้ หรอื โฆษณาขา่ วสารเกย่ี วกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ ารทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายต่อสทิ ธิ ของผบู้ รโิ ภค 4. ดาเนินคดเี กย่ี วกบั การละเมดิ สทิ ธขิ องผบู้ รโิ ภค
• การคมุ้ ครองของผบู้ รโิ ภค 1. สทิ ธผิ บู้ รโิ ภค 1. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ขา่ วสารรวมทงั้ คาพรรณนาคณุ ภาพทถ่ี กู ตอ้ ง 2. สทิ ธทิ จ่ี ะมอี สิ ระในการเลอื กหาสนิ คา้ หรอื บรกิ าร 3. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความปลอดภยั จากการใชส้ นิ คา้ หรอื บรกิ าร 4. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ความเป็นธรรมในการทาสญั ญา 5. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั การพจิ ารณาและชดเชยความเสยี หาย
2. การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคดา้ นการโฆษณา 1. ขอ้ ความทเ่ี ป็นเทจ็ เกนิ ความจรงิ 2. ขอ้ ความทจ่ี ะก่อใหเ้ กดิ ความเขาใจผดิ ในสาระสาคญั เกย่ี วกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ าร 3. ขอ้ ความทเ่ี ป็นการสนบั สนุนโดยตรงหรอื โดยออ้ มใหม้ กี ารกระทาผดิ กฏหมายหรอื ศลี ธรรมหรอื นาไปสคู่ วามเสอ่ื มเสยี ในวฒั นธรรมของชาติ 4. ขอ้ ความทจ่ี ะทาใหเ้ กดิ ความแตกแยก 3. การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นฉลาก 1. ระบขุ อ้ ความทต่ี รงความจรงิ ไมม่ ขี อ้ ความทท่ี าใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ 2. บนฉลากตอ้ งระบขุ อ้ ความทแ่ี สดงใหเ้ ขา้ ใจวา่ สนิ คา้ นนั้ คอื อะไร 3. ระบขุ อ้ ความทม่ี คี วามจาเป็น
• การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคในดา้ นสญั ญา 1. ขอ้ ความในสญั ญาจะตอ้ งไมเ่ ป็นลกั ษณะทท่ี าใหผ้ บู้ รโิ ภคเสยี เปรยี บผปู้ ระกอบธุรกจิ 2. หา้ มใชข้ อ้ สญั ญาทไ่ี มเ่ ป็นธรรมต่อผบู้ รโิ ภค • การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคโดยประการอน่ื 1. สงั่ ใหผ้ ปู้ ระกอบการดาเนนิ การทดสอบหรอื พสิ จู น์เมอ่ื มเี หตอุ นั ควรสงสยั ในสนิ คา้ นนั้ ๆ 2. เขา้ ดาเนนิ คดเี กย่ี วกบั การละเมดิ สทิ ธขิ องผบู้ รโิ ภค 3. ใหส้ มาคมทม่ี วี ตั ถุประสงคใ์ นการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค ดาเนินคดที เ่ี กย่ี วกบั การละเมดิ ของ ผบู้ รโิ ภคได้
• การดาเนนิ คดผี ปู้ ระกอบธรุ กจิ 1. ผบู้ รโิ ภคดาเนนิ การฟ้องดว้ ยตวั เอง 2. คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค 3. สมาคมทท่ี าหน้าทใ่ี นการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค • การรกั ษาสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องผบู้ รโิ ภค 1. ผบู้ รโิ ภคควรเลอื กสนิ คา้ จากธุรกจิ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 2. ผบู้ รโิ ภคควรหมนั่ หาความรเู้ กย่ี วกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ ารทต่ี อ้ งการ 3. ผบู้ รโิ ภคควรมคี วามซ่อื สตั ยไ์ มเ่ อาเปรยี บผปู้ ระกอบธุรกจิ
บทท่ี 4 โรคทางพนั ธกุ รรมและโรคจากการประกอบอาชพี
สาเหตกุ ารเจบ็ ป่ วยของคนไทย • โรคตดิ ต่อ เกดิ จากเชอ้ื โรคและสารเคมหี รอื สารพษิ โรคตดิ ต่อจากสตั วถ์ งึ คน โรคตดิ ต่อทางทางเดนิ หายใจ โรคภมู คิ มุ้ กนั บกพรอ่ ง • โรคไมต่ ดิ ตอ่ 1. โรคมะเรง็ 2. อบุ ตั เิ หตุและการเป็นพษิ 3. ความดนั เลอื ดสงู และโรคหลอดเลอื ดในสมอง 4. โรคหวั ใจ 5. ไตอกั เสบ กล่มุ อาการของไต 6. จากการฆา่ ตวั ตายและถกู ฆา่ 7. โรคทเ่ี กย่ี วกบั ตบั และตบั ออ่ น
ความเจบ็ ป่ วยจากโรคเน่ืองจากความผิดปกติทางพนั ธกุ รรม • ธาลสั ซเี มยี 1. ถา้ พอ่ แมเ่ ป็นพาหะของโรค โอกาสทล่ี กู จะเป็นธาลสั ซเี มยี เป็น 25% โอกาสทล่ี กู จะเป็น พาหะมี 50% โอกาสทจ่ี ะเป็นปกตมิ ี 25% 2. ถา้ พอ่ หรอื แมเ่ ป็นพาหะของโรคเพยี งคนเดยี ว โอกาสทล่ี กู จะเป็นโรคจะเป็น 50-50% 3. ถา้ พอ่ หรอื แมเ่ ป็นโรคคนนงึ อกี คนนงึ เป็นพาหะ ลกู จะมสี ทิ ธเิ ป็นโรค 50% และเป็นพาหะ 50% 4. ถา้ พอ่ หรอื แมเ่ ป็นโรค อกี คนไมเ่ ป็น โอกาสทล่ี กู จะเป็นพาหะมี 100% • โรคปญั ญาออ่ นหรอื ดาวน์ซนิ โดรม เป็นโรคทเ่ี กดิ จากความผดิ ปกตขิ องโครโมโซม คอื การ มโี ครโมโซมคทู่ ่ี 21 เกดิ มาเป็นสามแทง่ จากปกตทิ ม่ี สี องแทง่
• โลหติ จางจากเมต็ เลอื ดแดงแตกเน่อื งจากภาวะบกพรอ่ งของเอนไซม์ จซี กิ พดี ี มสี าเหตุ จากความผดิ ปกตทิ างพนั ธกุ รรมทโ่ี ครโมโซม x สว่ นมากจะปรากฏอาการในเพศชาย • โรคผวิ หนงั ทถ่ี ่ายทอดทางพนั ธุกรรม เชน่ โรคดกั แด้ โรคเดก็ หน้าแก่ โรคทา้ วแสนปม โรค เหลา่ น้จี ะทาใหผ้ ปู้ ว่ ยมรี ปู รา่ งหน้าตาแปลกจากเดก็ ทวั่ ไป • โรคเบาหวาน เป็นความผดิ ปกตขิ องรา่ งกายทไ่ี มส่ ามารถสรา้ งฮอรโ์ มนอนิ ซลู นิ ทค่ี วบคมุ การใชน้ ้าตาลของรา่ งกายไดเ้ พยี งพอ หรอื อาจะเป็นการตดิ ตอ่ กนั ทางพนั ธกุ รรม • โรคหลอดเลอื ดหวั ใจ ปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ โรคหลอดเลอื ดหวั ใจ เกดิ จาก อายุ เพศ พนั ธกุ รรม ซง่ึ หากพอ่ หรอื แมเ่ ป็นโรคหลอดเลอื ดหวั ใจ มโี อกาสสงู ทล่ี กู จะป็นไปดว้ ย
ความเจบ็ ป่ วยจากโรคเนื่องจากการประกอบอาชีพ • โรคพษิ จากสารปราบศตั รพู ชื เกดิ จากการสมั ผสั หรอื ไดร้ บั สารเคมขี องสารปราบ ศตั รพู ชื เขา้ สรู่ า่ งกายจากการหายใจ ถกู ผวิ หนงั หรอื เขา้ ทางปาก • โรคฉ่หี นู เกดิ จากเชอ้ื แบคทเี รยี โดยมหี นูเป็นพาหะนาโรคสาคญั โดยหนูจะปล่อยเชอ้ื ออกมาจากปสั สาวะ เชอ้ื โรคจะเขา้ สรู่ า่ งกายทางบาดแผลหรอื ปนเป้ือนไปกบั การ รบั ประทานอาหาร • โรคพษิ จากสารตะกวั่ เกดิ จากการไดร้ บั สารตะกวั่ จากการรบั ประทานอาหาร น้าดม่ื หรอื การหายใจรบั สารตะกวั่ เขา้ ไป • โรคมะเรง็ ปอด เกดิ จากการไดร้ บั สารเคมซี ง่ึ เป็นสารกอ่ มะเรง็ ซง่ึ อยใู่ นโรงงาน อตุ สาหกรรมโลหะหนกั การกอ่ สรา้ งอาคาร โรงงานทาผา้ เบรก ฯลฯ • โรคผวิ หนงั อกั เสบ เกดิ จากการสมั ผสั กบั สารทม่ี คี วามรุนแรงต่อผวิ หนงั • การบาดเจบ็ จากอบุ ตั เิ หตุตา่ งๆ
ปัจจยั ที่มีผลต่อสขุ ภาพของคนไทย 1. สารเคมี ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั การดารงชวี ติ ทงั้ ในดา้ นการรบั ประทานอาหาร 2. การระบาดของโรคตดิ เชอ้ื เกดิ จากการเปลย่ี นแปลสภาพแวดลอ้ มของโลก ทาใหเ้ กดิ โรคใหมๆ่ เพม่ิ ขน้ึ 3. พฤตกิ รรมสขุ ภาพ เกดิ จากการมพี ฤตกิ รรมการดแู ลสขุ ภาพทไ่ี มเ่ หมาะสม และวถิ ี ชวี ติ ในสงั คมเปลย่ี นไป ทาใหม้ พี ฤตกิ รรมเสย่ี ง 4. ปญั หามลพษิ และสง่ิ แวดลอ้ ม 5. ปญั หาความรนุ แรง
แนวทางป้ องกนั ปัจจยั เสี่ยงทางสขุ ภาพ 1. ลดการใชส้ ารเคมลี งใหน้ ้อยทส่ี ดุ 2. ตดิ ตามและเฝ้าระวงั การระบาดของโรคตดิ เชอ้ื เกดิ ใหมอ่ ยเู่ สมอ 3. ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสขุ ภาพของตนเองใหเ้ หมาะสม 4. รว่ มกนั รณรงคใ์ นการดแู ลรกั ษาสภาพแวดลอ้ มใหส้ ะอาด 5. เฝ้าสงั เกตและตดิ ตามสถานการณ์ความรนุ แรงในสงั คม
บทที่ 5 ผลกระทบจากการครอบครอง การใช้และการจาหน่ายยาเสพติด
• ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการครอบครอง การใช้ การจาหน่ายสารเสพตดิ – ผลทเ่ี กดิ จากการครอบครองและการจาหน่าย • ผลต่อตนเอง 1. จะทาใหไ้ ดร้ บั โทษ ซง่ึ มที งั้ จาคกุ ปรบั เงนิ หรอื อาจถงึ ขนั้ ประหารชวี ติ 2. เสอ่ื มเสยี ชอ่ื เสยี งและความน่าเชอ่ื ถอื 3. อาจถกู ฆาตกรรมเน่อื งจากากรหกั หลงั 4. เสยี ชวี ติ เน่อื งจากสกู้ บั เจา้ หน้าทต่ี ารวจ • ผลตอ่ ครอบครวั 1. ทาใหค้ รอบครวั ขาดกาลงั สาคญั ของครอบครวั ไป 2. เสอ่ื มเสยี ชอ่ื เสยี งของวงตระกลู 3. ทาใหค้ รอบครวั ไมม่ คี วามสขุ • ผลต่อเศรษฐกจิ 1. เสยี เงนิ คา่ ปรบั 2. ขาดกาลงั สาคญั ในการพฒั นาประเทศ 3. รฐั ตอ้ งเสยี งบประมาณในการปราบปราม
• ผลต่อสงั คม 1. ทาใหเ้ กดิ อาชญากรรมในสงั คม 2. การทาใหส้ งั คมปนั ่ ปว่ น • ผลต่อประเทศชาติ 1. ทาใหป้ ระเทศชาตขิ าดความน่าเชอ่ื ถอื 2. ทาใหป้ ระเทศชาตอิ ่อนแอ 3. เป็นการทาลายชาตโิ ดยทางตรง
– ผลทเ่ี กดิ จากการใช้ หรอื การเสพ • ผลตอ่ ตนเอง 1. รา่ งกายทรดุ โทรม 2. มผี ลต่ออวยั วะภายใน 3. ทาใหส้ มองเสอ่ื ม 4. ทาใหเ้ กดิ โรคภยั ไขเ้ จบ็ ต่างๆ 5. ภมู ติ า้ นทานของรา่ งกายลดลง 6. ทาใหเ้ สยี บุคลกิ ภาพ 7. อารมณ์แปรปรวนงา่ ย 8. ไมส่ นใจการงาน 9. ไมส่ นใจการเรยี น 10. ทาใหเ้ สยี อนาคต 11. ประสบอบุ ตั เิ หตุไดง้ า่ ย 12. อาจตดิ คกุ 13. เสยี ชวี ติ 14. ไดร้ บั ความทกุ ทรมานจากการอดยา อยากยา
• ผลต่อครอบครวั 1. ทาใหค้ รอบครวั ไมม่ คี วามสขุ 2. ทาใหเ้ สอ่ื มเสยี วงตระกลู 3. ทาใหค้ รอบครวั ขาดความอบอนุ่ 4. ทาใหค้ รอบครวั ขาดรายได้ 5. ครอบครวั เดอื ดรอ้ น 6. เป็นภาระของครอบครวั 7. มกี ารใชก้ ารกระทาทร่ี ุนแรงกบั บคุ คลในครอบครวั • ผลต่อเศรษฐกจิ 1. ทางานอยา่ งไรป้ ระสทิ ธภาพ 2. สญู เสยี แรงงานในการผลติ 3. รฐั สญู เสยี งบประมาณเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ในการบาบดั 4. รฐั เสยี งบประมาณในการปราบปราม
• ผลต่อสงั คม 1. เกดิ ปญั หาอาชญากรรม 2. การกอ่ อาชญากรรมเพอ่ื หวงั ทรพั ยส์ นิ 3. ผเู้ สพอาจกอ่ ปญั หาฉุดครา่ 4. ทาใหค้ นในสงั คมเกดิ ความระแวง 5. ทาใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตุ ทาใหผ้ อู้ ่นื บาดเจบ็ หรอื อาจเสยี ชวี ติ 6. ผเู้ สพมกั จะจบั คนอน่ื เป็นตวั ประกนั 7. ตดิ เชอ้ื เอดสจ์ ากการใชเ้ ขม็ ฉดี ยารว่ มกนั • ผลตอ่ ประเทศชาติ 1. ทาใหต้ อ้ งสญู เสยี กาลงั คนหรอื ทรพั ยากรบคุ คลไป 2. ทาใหป้ ระเทศออ่ นแอ 3. รฐั ตอ้ งทมุ่ กาลงั คนและงบประมาณ 4. ผลผลติ ของชาติ รายไดข้ องประเทศจะลดลงไป 5. มผี ลกระทบตอ่ ความมนั่ คงของชาติ
บทท่ี 6 การสรา้ งเสริมความปลอดภยั ในชมุ ชน
กระบวนการสร้างเสริมความปลอดภยั ในชมุ ชน 1. รวมตวั กนั เพอ่ื ตงั้ กลมุ่ ชมรม สมาคม มลู นิธหิ รอื หน่วยงานในระดบั ชมุ ชน เพอ่ื ดาเนิน การเฝ้าระวงั และป้องกนั อนั ตรายต่างๆทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ไดภ้ ายในชมุ ชน 2. มกี ารรณรงคเ์ พอ่ื สรา้ งจติ ใตส้ านึก เป็นการกระตุน้ เตอื นใหป้ ระชาชนในชุมชนมี จติ สานึกทด่ี ใี นการป้องกนั อนั ตรายตา่ งๆ 3. รว่ มมอื กบั หน่วยงานอน่ื ทงั้ ภาครฐั และเอกชน เพอ่ื รว่ มกนั แกไ้ ขปญั หาในเรอ่ื งความไม่ ปลอดภยั 4. มกี ารจดั การใหค้ วามรู้ โดยการสอน การฝึกอบรมในเรอ่ื งความปลอดภยั ในชมุ ชน 5. มกี ารสารวจสภาพความปลอดภยั ภายในชมุ ชน 6. มรี ะบบเตรยี มความพรอ้ มในการรบั เหตุการณ์ฉุกเฉิน 7. มกี ารประเมนิ ผลกระบวนการสรา้ งเสรมิ ความปลอดภยั
แนวคิดการใช้กระบวนการประชาสงั คมสร้าง เสริมความปลอดภยั ในชมุ ชน 1. ผนู้ าชมุ ชน ซง่ึ มบี ทบาทอยา่ งมากในการพฒั นาชมุ ชนใหเ้ จรญิ 2. ความสาคญั ของกลมุ่ สมาชกิ ตอ้ งพยายามทาหน้าทเ่ี พอ่ื สว่ นรวมอยา่ งเตม็ ท่ี 3. การสรา้ งความตระหนกั เมอ่ื คนเรามคี วามตระหนกั กจ็ ะมจี ติ สานกึ ในเรอ่ื งความ ปลอดภยั 4. ความรบั ผดิ ชอบซง่ึ เป็นแรงจงู ใจทส่ี าคญั ในการทาใหบ้ คุ คลมพี ฤตกิ รรมทถ่ี กู ตอ้ ง 5. ประชาธปิ ไตย แนะนาใหค้ นในชมุ ชนรจู้ กั ประชาธปิ ไตยในการปกครองและการทางาน 6. คา่ นยิ มของสงั คมในเรอ่ื งการสรา้ งเสรมิ ความปลอดภยั 7. การสรา้ งเครอื ขา่ ยรวมพลงั จติ สานึกของกลุ่ม 8. แนวคดิ เรอ่ื งการเสยี สละ
การสรา้ งเสริมความปลอดภยั ในชมุ ชน • ตอ้ งทาความรจู้ กั กบั เพอ่ื นบา้ นเมอ่ื มาอยใู่ นระแวกเดยี วกนั โดยการพดู คยุ กนั ตามสมควร หากพบเหน็ วา่ มสี ง่ิ ปกตคิ วรบอกใหค้ นในครอบครวั และเพอ่ื นบา้ นทราบ ควรรจู้ กั แหลง่ ท่ี ใหค้ วามชว่ ยเหลอื เมอ่ื ฉุกเฉนิ และจดั ใหม้ ยี ามหรอื พนกั งานรกั ษาความปลอดภยั
บทท่ี 7 ปัญหาความรนุ แรงในสงั คมไทย
ความรนุ แรงในสงั คมไทย • ประเภทของความรนุ แรง – ความรนุ แรงทบ่ี ุคคลทาต่อตนเอง – ความรนุ แรงระหวา่ งบุคคล – ความรนุ แรงทเ่ี กย่ี วกบั กล่มุ คน • รปู แบบของความรุนแรง – ความรนุ แรงทางรา่ งกาย – ความรนุ แรงทางเพศ – ความรนุ แรงทางจติ ใจ – การลดิ รอนสทิ ธิ
• ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ ความรุนแรงในสงั คมไทย 1. ตวั บคุ คล 2. ครอบครวั 3. คา่ นยิ มทผ่ี ดิ 4. สอ่ื มวลชน 5. ปญั หาการเมอื ง • ปญั หาความรนุ แรงทส่ี าคญั ในประเทศไทย 1. ความรนุ แรงทางเพศทเ่ี กดิ กบั ผหู้ ญงิ และเดก็ 2. การใชค้ วามรนุ แรงกบั ผหู้ ญงิ และเดก็ 3. ปญั หานกั เรยี นตกี นั 4. การฆา่ ตวั ตาย 5. ความรนุ แรงทางการเมอื ง 6. เหตุการณ์ความไมส่ งบในภาคใต้
การป้ องกนั และแก้ไขปัญหาความรนุ แรงภายในสงั คม • การป้องกนั ปญั หาความรนุ แรงในสงั คม – การสรา้ งความผกู พนั ระหวา่ งเดก็ กบั ผใู้ หญ่ – ฝึกการแกป้ ญั หาพาะตวั – สรา้ งบรรยากาศในครอบครวั – นาเดก็ เขา้ ใกลธ้ รรมะ – ลดอทิ ธพิ ลของสอ่ื มวลชน • การแกป้ ญั หาความรุนแรงในสงั คม – รฐั บาลควรมงุ่ เน้นการป้องกนั ปญั หาพน้ื ฐานของสงั คม – การป้องกนั ความรนุ แรงในครอบครวั – การชว่ ยเหลอื เดก็ และครอบครวั
รปู แบบการใช้ความรนุ แรงที่กระทาต่อเดก็ และสตรี 1. การใชแ้ รงงานเดก็ 2. เดก็ ถกู ผใู้ หญ่หรอื พอ่ แมท่ ารา้ ยรา่ งกายและจติ ใจ 3. เดก็ ถกู ทอดทง้ิ 4. ผหู้ ญงิ ถกู แอบถ่ายภาพ 5. ผหู้ ญงิ ถกู ลงภาพโป๊ในอนิ เตอรเ์ น็ต 6. ถกู ลวนลามทางโทรศพั ท์ 7. ถกู ลวนลามโดยตรงและถกู กระทาอนาจาร 8. ถกู ขม่ ขนื 9. ถกู หลอกไปคา้ ประเวณี 10.ถกู สามที ารา้ ย 11.สามนี อกใจ 12.ตดิ เชอ้ื เอชไอวี
13. ภรรยาถกู ทอดทง้ิ 14. ถกู พาไปมเี พศสมั พนั ธแ์ ละถา่ ยรปู เกบ็ ไวข้ ม่ ขทู่ หี ลงั 15. ถกู ล่อลวงทางอนิ เตอรเ์ น็ต 16. ถกู ชงิ ทรพั ย์ 17. ถกู คนเมายาบา้ จบั ตวั ไปเป็นตวั ประกนั 18. ผชู้ ายไมร่ บั ผดิ ชอบเอฝา่ ยหญงิ ตงั้ ครรภ์ 19. ผหู้ ญงิ ยนิ ยอมหรอื ไมก่ ลา้ ขดั ขนื เมอ่ื ผชู้ ายขอมเี พศสมั พนั ธด์ ว้ ย 20. ถกู มอมยา 21. สามตี ดิ สรุ า 22. สามตี ดิ สารเสพตดิ 23. สามตี ดิ การพนนั
แนวทางการป้ องกนั การใช้ความรนุ แรงต่อเดก็ และสตรี 1. การจดั ทาฐานขอมลู ความรนุ แรงระดบั ประเทศ 2. รณรงคใ์ หท้ กุ หน่วยงานทงั้ ภาครฐั และเอกชนตระหนกั ถงึ ปญั หาการใชค้ วามรนุ แรงต่อ สตรแี ละเดก็ 3. ผชู้ ายตอ้ งมคี วามรบั ผดิ ชอบ 4. ปรบั เจตคตแิ ละบรรทดั ฐานของสงั คมในเรอ่ื งความรนุ แรง 5. จดั ตงั้ กลุ่มลกู ผชู้ ายทแ่ี ทจ้ รงิ 6. การจดั หลกั สตู รการอบรมและสมั มนา 7. โครงการผชู้ ายเลกิ เหลา้ และครอบครวั เป็นสขุ 8. กจิ กรรมเพอ่ื ผชู้ ายโดยผชู้ าย เพอ่ื ขจดั ปญั หาความรนุ แรง
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: