เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๑๑ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา พระราชบญั ญตั ิ การศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเด็จพระเจา้ อยู่หวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปที ี่ ๔ ในรชั กาลปัจจบุ นั สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยท่เี ปน็ การสมควรมกี ฎหมายว่าดว้ ยการศกึ ษาพระปรยิ ัตธิ รรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของ สภานติ บิ ัญญตั แิ หง่ ชาติทาหน้าที่รัฐสภา ดงั ตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ (๑) พระราชบัญญัติกาหนดวิทยฐานะผู้สาเร็จวิชาการพระพทุ ธศาสนา พ.ศ. ๒๕๒๗ (๒) พระราชบัญญัติกาหนดวิทยฐานะผู้สาเรจ็ วชิ าการพระพุทธศาสนา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ินี้
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๑๒ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา “การศึกษาพระปริยัติธรรม” หมายความว่า การศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ท่ปี รากฏในพระไตรปฎิ ก “วดั ” หมายความว่า วดั ตามกฎหมายว่าดว้ ยคณะสงฆ์ “สถานศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม” หมายความว่า สานกั เรยี น สานักศาสนศึกษา หรอื โรงเรียน “สานักเรียน” หมายความว่า สถานศึกษาที่วดั จัดการศึกษาพระปริยตั ิธรรมแผนกบาลีสนามหลวง หรอื แผนกธรรมสนามหลวง ทม่ี หาเถรสมาคมประกาศจดั ต้งั “สานักศาสนศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาที่วัดจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีสนามหลวง หรือแผนกธรรมสนามหลวง ไม่ว่าจะจัดการศึกษาในรูปแบบของศูนย์การเรยี น สานกั ศาสนศึกษาวดั สานักศาสนศึกษาประจาตาบล หรือสานกั ศาสนศกึ ษาประจาอาเภอ “โรงเรียน” หมายความวา่ สถานศึกษาทว่ี ัดจัดการศึกษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา “สานกั งาน” หมายความวา่ สานักงานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ “ผ้อู านวยการ” หมายความว่า ผอู้ านวยการสานักงานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม มาตรา ๕ การจัดการศกึ ษาพระปรยิ ตั ิธรรมมีวัตถุประสงค์ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) เพ่ือให้การศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นไปตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาท่ีปรากฏใน พระไตรปฎิ ก โบราณราชประเพณี และสอดคล้องกับมาตรฐานการศกึ ษาของชาติ (๒) เพื่อให้พระภิกษุและสามเณรมีการนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาใช้ให้เกิดการพัฒนา จิตใจและปญั ญา และมกี ารรักษาพระธรรมวินัยให้เปน็ ไปอย่างถกู ต้องดีงามโดยเครง่ ครัด เป็นทีเ่ ลอ่ื มใส ศรทั ธาแก่พทุ ธศาสนกิ ชนทั่วไป (๓) เพื่อให้พุทธศาสนิกชนนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ในการดารงชวี ติ ได้ อย่างถูกตอ้ ง มาตรา ๖ การศึกษาพระปรยิ ัติธรรมมีสามแผนก ดงั ต่อไปนี้ (๑) การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีสนามหลวง เป็นการศึกษาพระพุทธศาสนา ภาคภาษาบาลี
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๑๓ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมสนามหลวง เป็นการศึกษาพระพุทธศาสนา ภาคภาษาไทย (๓) การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เป็นการศึกษาพระพุทธศาสนา ทั้งแผนกบาลีสนามหลวงและแผนกธรรมสนามหลวง ควบคู่กับหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐานของ กระทรวงศกึ ษาธิการ การศึกษาพระปริยัติธรรมตาม (๑) (๒) และ (๓) อาจศึกษาโดยใช้ภาษาอื่นในการจัด การศกึ ษาดว้ ยก็ได้ มาตรา ๗ เพื่อประโยชน์ต่อการส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตามมาตรา ๕ ให้สานักงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจัดทาแผนการศึกษาพระปริยัติธรรม และมาตรฐานสถานศึกษาพระปริยัติธรรม และแผนงบประมาณเพื่อการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม เสนอตอ่ มหาเถรสมาคมพิจารณาให้ความเหน็ ชอบ เพ่ือให้การดาเนินการเป็นไปตามแผนการศึกษาพระปริยัติธรรมตามวรรคหนึ่ง ให้รัฐอุดหนุน งบประมาณสาหรบั การจดั การศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรมตามความเหมาะสมและจาเปน็ มาตรา ๘ ให้มีคณะกรรมการการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรมคณะหนง่ึ ประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการรูปหนึ่ง ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งต้ังโดยความเห็นชอบของ มหาเถรสมาคม (๒) รัฐมนตรซี ึง่ นายกรัฐมนตรมี อบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ (๓) กรรมการโดยตาแหน่ง ได้แก่ แม่กองบาลีสนามหลวง แม่กองธรรมสนามหลวง ประธานกรรมการการศึกษาพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา อธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณ ราชวทิ ยาลยั อธิการบดีมหาวิทยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลยั ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ผู้อานวยการ สานกั งบประมาณ และเลขาธกิ าร ก.ค.ศ. (๔) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนหกรูปหรือคน ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม
เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๐ ก หน้า ๑๔ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ให้ผู้อานวยการสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ ผอู้ านวยการกองพทุ ธศาสนศึกษา เปน็ กรรมการและผชู้ ่วยเลขานุการ มาตรา ๙ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๘ (๔) มีวาระ การดารงตาแหนง่ คราวละสามปี และอาจได้รบั แต่งตง้ั อีกได้ เม่ือครบกาหนดตามวาระในวรรคหนงึ่ หากยงั มิไดม้ ีการแตง่ ต้ังประธานกรรมการหรอื กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๘ (๔) ขึ้นใหม่ ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการซ่ึงพ้นจากตาแหน่ง ตามวาระนั้นอยู่ในตาแหน่งเพ่ือปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปจนกว่าประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๘ (๔) ซ่ึงได้รับแตง่ ตั้งใหมเ่ ขา้ รับหนา้ ที่ มาตรา ๑๐ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๙ ประธานกรรมการและ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิตามมาตรา ๘ (๔) พน้ จากตาแหนง่ เมื่อ (๑) ตายหรอื มรณภาพ (๒) ลาออก (๓) พน้ จากความเปน็ พระภกิ ษุ (๔) สมเด็จพระสงั ฆราชมีพระบัญชาใหอ้ อกโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม (๕) เปน็ บุคคลล้มละลายทจุ รติ (๖) เป็นคนไร้ความสามารถหรอื คนเสมือนไรค้ วามสามารถ (๗) ถกู จาคกุ โดยคาพพิ ากษาถึงท่ีสุดใหจ้ าคกุ มาตรา ๑๑ ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๘ (๔) พ้นจากตาแหน่งก่อนครบวาระ ให้ผู้ที่ได้รับแต่งต้ังแทนตาแหน่งที่ว่างอยู่ในตาแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ ของประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงตนแทน เว้นแต่วาระเหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวัน จะไมแ่ ต่งต้ังประธานกรรมการหรือกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิแทนกไ็ ด้ ในกรณีท่ีประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๘ (๔) พ้นจากตาแหน่ง ก่อนครบวาระ ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการท้งั หมดเท่าทีม่ ีอยเู่ พื่อปฏิบตั หิ น้าท่ตี ่อไป จนกวา่ จะมีการแต่งตั้งประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทน และในกรณีท่ีประธานกรรมการ พน้ จากตาแหน่งกอ่ นครบวาระ ให้รองประธานกรรมการทาหนา้ ทเี่ ป็นประธานกรรมการชั่วคราว
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๑๕ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๑๒ คณะกรรมการมหี น้าที่และอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) กาหนดนโยบาย แผนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมและมาตรฐานสถานศึกษา พระปริยัติธรรม ควบคุมดูแลและกากับการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตามมาตรา ๕ (๒) กาหนดมาตรฐานการศกึ ษาพระปรยิ ัตธิ รรมและการประกันคุณภาพการศึกษา (๓) อนุมัติหลักสูตรการศึกษาพระปริยัติธรรม ท้ังนี้ สาหรับหลักสูตรการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีสนามหลวง และการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนกธรรมสนามหลวง ตอ้ งเปน็ ไปโดยความเห็นชอบ ของมหาเถรสมาคม สาหรับการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ให้เป็นไปตามหลักสูตร การศกึ ษาข้นั พื้นฐานของกระทรวงศึกษาธกิ ารและตามที่มหาเถรสมาคมกาหนด (๔) กาหนดพืน้ ความรู้ คุณสมบัติ หลกั เกณฑก์ ารเข้าศึกษา และเง่อื นไขในการสาเรจ็ การศกึ ษา (๕) อนมุ ัติให้ปรญิ ญาและประกาศนยี บัตร (๖) กาหนดหน้าท่ีและอานาจและหลักเกณฑ์การบริหารงานของแม่กองบาลีสนามหลวง แม่กองธรรมสนามหลวง และประธานกรรมการการศึกษาพระปรยิ ัตธิ รรมแผนกสามัญศกึ ษา (๗) กาหนดมาตรฐานกลางการบริหารงานบุคคลสาหรับผู้ปฏิบัติงานตามมาตรา ๑๘ เก่ียวกับ การกาหนดตาแหน่ง อัตรากาลัง เงินเดือน เงินประจาตาแหน่ง เงินวิทยฐานะ เงินค่าตอบแทน ค่าจ้าง สวัสดกิ าร และสทิ ธิประโยชน์อื่น การสรรหา การบรรจุ การแต่งตงั้ การพัฒนา การพ้นจากตาแหน่ง การรักษาวินัย การดาเนินการทางวินัย การร้องทุกข์ การอุทธรณ์ และการลงโทษ ท้ังน้ี ในส่วน ท่เี กี่ยวกบั การกาหนดเงนิ เดอื น เงนิ ประจาตาแหนง่ เงนิ วทิ ยฐานะ เงนิ ค่าตอบแทน ค่าจ้าง สวัสดกิ าร และสทิ ธิประโยชนอ์ ่นื ตอ้ งไดร้ ับความเหน็ ชอบจากกระทรวงการคลัง (๘) ออกข้อบังคับ ระเบียบ หรือประกาศเก่ียวกับการจัดต้ังสถานศึกษาพระปริยัติธรรม โครงสรา้ งการบรหิ ารงาน การจดั การศึกษาพระปริยัตธิ รรมและสถานศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม (๙) ออกระเบียบเก่ียวกับการบริหารและจัดการการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินของ สถานศึกษาพระปริยัตธิ รรม รวมท้ังการบัญชีและการจาหน่ายทรัพย์สนิ จากบญั ชเี ปน็ สูญ (๑๐) ออกระเบยี บเกยี่ วกบั การปฏิบัติหนา้ ทข่ี องผตู้ รวจสอบภายใน (๑๑) ออกขอ้ บงั คับ ระเบยี บ หรือประกาศเพื่อปฏบิ ตั กิ ารตามพระราชบัญญตั นิ ้ี
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๑๖ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา (๑๒) แต่งตง้ั คณะอนุกรรมการหรอื คณะทางานเพือ่ ปฏบิ ตั ิการตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย (๑๓) จัดทารายงานผลการดาเนินงานเสนอต่อมหาเถรสมาคมเพ่อื ทราบ (๑๔) กระทาการอื่นใดท่ีจาเป็นหรือต่อเนื่องเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา พระปริยตั ิธรรม หรือตามที่มหาเถรสมาคมมอบหมาย มาตรา ๑๓ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของ จานวนกรรมการทงั้ หมด จงึ จะเปน็ องค์ประชมุ ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในท่ีประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ ปฏบิ ตั ิหนา้ ทไ่ี ด้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในทีป่ ระชุม ถ้ารองประธานกรรมการไม่มาประชุม หรอื ไมอ่ าจปฏิบตั หิ นา้ ท่ีได้ ใหท้ ปี่ ระชมุ เลอื กกรรมการรูปหนง่ึ ทาหนา้ ทเ่ี ป็นประธานในท่ปี ระชมุ การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการรูปหน่ึงหรือคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่ง ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสียงเท่ากนั ให้ประธานในท่ีประชมุ ออกเสียงเพ่ิมข้ึนอกี เสียงหนงึ่ เปน็ เสียงชข้ี าด คณะกรรมการต้องมกี ารประชุมอยา่ งน้อยปีละสค่ี รัง้ มาตรา ๑๔ ให้สานักงานเป็นหน่วยงานกลางในการส่งเสริม สนับสนุน ประสานงานการศกึ ษา พระปริยัติธรรม และเป็นสานักงานเลขานกุ ารของคณะกรรมการ มีหน้าที่ด้านงานธุรการและสนับสนุน งานวิชาการให้แก่คณะกรรมการ รวมท้งั มหี นา้ ท่ตี ามที่กฎหมายบญั ญตั ิ และปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามท่ีคณะกรรมการ มอบหมาย มาตรา ๑๕ ในการบริหารงานการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรมตามมาตรา ๖ (๑) (๒) และ (๓) ให้มีแม่กองบาลีสนามหลวง แม่กองธรรมสนามหลวง และประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา แล้วแต่กรณี ที่มหาเถรสมาคมแตง่ ตง้ั ทาหนา้ ที่เปน็ ผูร้ บั ผดิ ชอบงานการจัดการศึกษา พระปริยตั ิธรรมแตล่ ะแผนก มาตรา ๑๖ ให้วัดมสี ทิ ธิจัดตัง้ สถานศึกษาพระปรยิ ัติธรรมได้ตามหลกั เกณฑ์ท่คี ณะกรรมการ กาหนด สถานศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดจัดต้ังข้ึนตามวรรคหน่ึง ให้จัดการศึกษาตามวัตถุประสงค์ ในมาตรา ๕ และตอ้ งคานึงถึง
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๑๗ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา (๑) การใหก้ ารศึกษาวิชาการทางพระพุทธศาสนาเพอื่ ความเป็นเลิศที่เปีย่ มดว้ ยปญั ญาพุทธธรรม (๒) การส่งเสริมความร้แู ละความเข้าใจในคุณค่าแห่งหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา (๓) การผลิตผู้เรียนให้มีคุณธรรมนาความรู้ เป็นศาสนทายาทท่ีดีของพระพุทธศาสนา สานกึ ในความเปน็ คนไทย มีความรกั และผกู พนั ตอ่ ทอ้ งถ่นิ (๔) มาตรฐานการศึกษาของชาติและวิธีการดาเนินงานของการจัดการศึกษาตามกฎหมาย ว่าด้วยการศึกษาแหง่ ชาติ มาตรา ๑๗ สถานศึกษาพระปริยัตธิ รรมตอ้ งมุง่ ปลกู ฝงั ให้ผเู้ รยี นมีคณุ ลกั ษณะ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เป็นศาสนทายาทท่ีดขี องพระพทุ ธศาสนาและพลเมอื งทีด่ ขี องสงั คม (๒) มคี วามรู้และทักษะในวิชาการทางพระพทุ ธศาสนา (๓) มนี ิสยั ใฝห่ าความรู้ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ บงั คับ ระเบยี บและวนิ ยั สงฆ์ (๔) มีสุขภาพดีทัง้ ร่างกายและจติ ใจ (๕) รจู้ ักบารงุ รกั ษาศาสนสมบตั ิ อนรุ ักษ์ และเสรมิ สร้างสภาพแวดลอ้ ม (๖) มีความภูมใิ จความเป็นสมณะ จงรกั ภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ (๗) มีความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมสนับสนุนแนวทางปฏิบัติให้เกิดความเจริญแก่ชุมชน สงั คม และพระพทุ ธศาสนา มาตรา ๑๘ ในสถานศกึ ษาพระปรยิ ัติธรรมให้มีผปู้ ฏบิ ัติงานสองประเภท ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ประเภทผู้ปฏิบัติงานสอน ได้แก่ ครูสอนพระปริยัติธรรม และครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา (๒) ประเภทผู้สนับสนุนการศึกษา ได้แก่ บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปฏิบัติหน้าท่ีด้านวิชาการ ซึ่งทาหน้าที่ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดกระบวนการการเรียน การสอน การนิเทศก์ และการบริหารการศึกษาในสถานศึกษาพระปริยัติธรรม ได้แก่ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ บรรณารักษ์ ผู้ปฏิบัติหน้าท่ีงานแนะแนว ผู้ปฏิบัติหน้าที่เทคโนโลยีการศึกษา ผู้ปฏิบัติหน้าท่ี งานทะเบียนวดั ผล ผปู้ ฏบิ ตั หิ น้าท่บี รหิ ารงานทวั่ ไป หรอื ผปู้ ฏิบัตหิ น้าท่อี น่ื ตามที่คณะกรรมการกาหนด
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๑๘ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๑๙ ให้สถานศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรมจัดให้มีการจัดทาบญั ชีตามหลักเกณฑท์ ีค่ ณะกรรมการ กาหนด และต้องจัดใหม้ ีการตรวจสอบภายในเกยี่ วกับการเงิน การบัญชี และการพัสดขุ องสถานศกึ ษา พระปรยิ ตั ิธรรม ตลอดจนรายงานผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการอย่างน้อยปีละหน่ึงคร้งั ในการตรวจสอบภายใน ให้มีผู้ปฏิบัติงานของสถานศกึ ษาพระปริยัติธรรมทาหน้าท่ีเปน็ ผู้ตรวจสอบ ภายในโดยเฉพาะ ท้ังน้ี ตามระเบยี บทีค่ ณะกรรมการกาหนด มาตรา ๒๐ ให้สถานศึกษาพระปริยตั ิธรรมจัดให้มกี ารประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของผูป้ ฏิบัติงาน ในสถานศึกษาพระปรยิ ัตธิ รรมตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และระยะเวลาที่คณะกรรมการกาหนด มาตรา ๒๑ ให้การศึกษาพระปริยัติธรรมที่ได้จัดให้แก่สามเณรซึ่งเป็นเด็กตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยการศึกษาภาคบงั คบั และมพี ืน้ ความรไู้ มต่ า่ กวา่ ระดบั ประถมศกึ ษาปที ีห่ กหรอื เทยี บเทา่ ซ่งึ ไดศ้ ึกษา วิชาสามัญเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไขที่คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามกฎหมายว่าด้วย การศึกษาแห่งชาตกิ าหนดโดยคาแนะนาของมหาเถรสมาคม เป็นการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) แผนกธรรมสนามหลวง ช้ันนักธรรมเอก เปน็ การศึกษาในระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น (๒) แผนกบาลีสนามหลวง ชั้นเปรียญธรรมสามประโยค เป็นการศึกษาในระดับมัธยมศกึ ษา ตอนปลาย มาตรา ๒๒ ให้ผู้เรียนที่พ้นการศึกษาภาคบังคับซึ่งได้สาเร็จการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรมสนามหลวง และแผนกบาลสี นามหลวง มวี ิทยฐานะ ดงั ต่อไปน้ี (๑) แผนกธรรมสนามหลวง ชนั้ นกั ธรรมเอก มวี ทิ ยฐานะระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ (๒) แผนกบาลีสนามหลวง ช้ันเปรียญธรรมสามประโยค มีวิทยฐานะระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย มาตรา ๒๓ ให้การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่ได้จัดให้แก่พระภิกษุและ สามเณรเป็นการศึกษาระดบั มัธยมศึกษาตอนต้นหรือระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แลว้ แต่กรณี มาตรา ๒๔ ให้ผู้สาเร็จการศึกษาตามหลักสูตรพระปริยัติธรรม แผนกธรรมและแผนกบาลี สนามหลวง ช้ันเปรียญธรรมเก้าประโยค มีวิทยฐานะระดับปรญิ ญาตรี เรียกว่า “เปรียญธรรมเก้าประโยค” ใช้อักษรยอ่ วา่ “ป.ธ. ๙”
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๑๙ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานุเบกษา ในกรณีท่ีผู้สาเร็จการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลีสนามหลวงชั้นใด ได้ทาการศึกษาเพิ่มเติม ตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการกาหนด ให้ผู้นัน้ มวี ทิ ยฐานะระดบั ใด ๆ โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม และตามหลกั เกณฑท์ ่ีคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาแห่งชาตกิ าหนด มาตรา ๒๕ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๒๔ ให้ผู้สาเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบตั ร ปริญญา และหนังสือรบั รองการศึกษาหรือกจิ กรรมเกีย่ วกบั การเรียนการสอนแก่ผู้สาเร็จการศึกษาพระปริยัติธรรมได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ กาหนด มาตรา ๒๖ คณะกรรมการอาจกาหนดให้มีเคร่ืองหมายวิทยฐานะและการใช้เคร่ืองหมาย วิทยฐานะของผู้สาเร็จการศึกษาได้ เครื่องหมายวิทยฐานะตามวรรคหนงึ่ ให้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๒๗ สถานศึกษาพระปริยัติธรรมอาจกาหนดให้มีตรา เคร่ืองหมาย หรือสัญลักษณ์ และการใชต้ รา เครือ่ งหมาย หรือสัญลกั ษณข์ องสถานศกึ ษาพระปรยิ ัตธิ รรมได้ ตรา เครอื่ งหมาย หรือสัญลกั ษณต์ ามวรรคหนง่ึ ใหป้ ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๒๘ ผู้ใดใช้เครื่องหมายวิทยฐานะ ตรา เคร่ืองหมาย หรือสัญลักษณ์ของสถานศึกษา พระปริยัติธรรมโดยไมม่ สี ิทธิจะใช้ หรือแสดงดว้ ยประการใด ๆ ว่าตนมปี ระกาศนยี บัตร ปริญญา หรอื ตาแหน่งของสถานศึกษาพระปริยัติธรรมโดยที่ตนไม่มีสิทธิ ถ้าได้กระทาเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่า ตนมีสิทธิจะใช้หรือมีวิทยฐานะหรือตาแหน่งเช่นนั้น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน ห้าหมน่ื บาท หรอื ทั้งจาทงั้ ปรับ มาตรา ๒๙ ให้ผู้มีวิทยฐานะช้ันปริญญาตรีตามกฎหมายว่าด้วยการกาหนดวิทยฐานะ ผู้สาเรจ็ วชิ าการพระพุทธศาสนา มวี ทิ ยฐานะระดบั ปรญิ ญาตรีตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ให้ถือว่าผ้ทู ี่อยู่ในระหว่างการศกึ ษาหลักสูตรพระปรยิ ัติธรรม แผนกธรรมและแผนกบาลีสนามหลวง กอ่ นวนั ทพ่ี ระราชบัญญตั ินี้ใช้บงั คบั เปน็ ผ้เู รยี นตามพระราชบัญญตั นิ ้ี มาตรา ๓๐ ให้แม่กองบาลีสนามหลวง แม่กองธรรมสนามหลวง และประธานกรรมการ การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศกึ ษา ซ่ึงดารงตาแหนง่ อยู่ในวันกอ่ นวนั ท่ีพระราชบัญญัตนิ ้ใี ช้บังคับ
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๐ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา เป็นแม่กองบาลีสนามหลวง แม่กองธรรมสนามหลวง หรือประธานกรรมการการศกึ ษาพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา ตามพระราชบัญญตั นิ ้ี แล้วแตก่ รณี มาตรา ๓๑ ให้สานักเรียนและสานักศาสนศึกษาตามประกาศมหาเถรสมาคม ว่าด้วย การจัดการศึกษาพระปรยิ ัติธรรม แผนกธรรมและแผนกบาลี พ.ศ. ๒๕๕๕ และโรงเรียนตามประกาศ มหาเถรสมาคม ว่าด้วยโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓ ท่ีได้รับอนุญาต ใหจ้ ดั ตั้งอยู่ในวันกอ่ นวนั ท่พี ระราชบัญญัตินีใ้ ชบ้ ังคบั เปน็ สถานศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรมตามพระราชบัญญตั นิ ี้ มาตรา ๓๒ ในระหว่างที่ยังมิได้ออกกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คาส่ัง มติ และประกาศ เพ่อื ปฏิบตั ิตามพระราชบัญญตั นิ ้ี ให้นากฎ ขอ้ บังคบั ระเบยี บ คาสง่ั มติ และประกาศมหาเถรสมาคม ทีเ่ กย่ี วข้องกับการจดั การศกึ ษาพระปริยัติธรรมมาใชบ้ ังคบั โดยอนุโลมเท่าทไี่ ม่ขัดหรอื แย้งกับพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๓๓ ให้นายกรัฐมนตรีรกั ษาการตามพระราชบัญญัติน้ี ผรู้ ับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี
เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๐ ก หน้า ๒๑ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ ราชกจิ จานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่โบราณราชประเพณี สถาบัน พระพุทธศาสนามีบทบาทสาคัญในการจัดการศึกษาของชาติมาโดยตลอด ซ่ึงคณะสงฆ์ได้ดาเนินการ จัดการศึกษาพระปริยัตธิ รรมอันเปน็ ส่วนเฉพาะของการศึกษาของคณะสงฆ์ควบคู่กันไปกับการศึกษาวชิ าสามัญ ดังน้ัน เพื่อให้การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมได้รับการสนับสนุนส่งเสริมด้วยดีจากภาครัฐ และสามารถ บริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองนโยบายการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์และของชาติ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี จึงจาเป็นต้องตราพระราชบญั ญตั ิน้ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: