คำนำ จำกสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โรค COVID-19) ซ่ึงมีผู้ติดเช้ือและ ผู้ป่วยเพ่ิมข้ึนจำนวนมำก และสถำนพยำบำลจะต้องเตรียมกำรเพื่อรองรับผู้ป่วยเหล่ำน้ี เพื่อเป็นกำรเตรียม ควำมพร้อมในด้ำนต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นระบบงำนกำรให้บริกำรผู้ติดเช้อื และผู้ป่วยโรค COVID-19 เป็นไปโดย เรียบร้อย บุคลำกร เจ้ำหน้ำที่ ตลอดจนผู้ป่วยทั่วไป และญำติท่ีเข้ำรับบริกำร ณ สถำนพยำบำลมีควำม ปลอดภัย ไมเ่ สย่ี งตอ่ กำรติดเชื้อ โรงพยำบำลธรรมศำสตรเ์ ฉลิมพระเกียรติมีควำมพรอ้ มด้ำนสถำนทสี่ ำมำรถรับ ผู้ป่วยท่ีติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (โรค COVID-19) ได้ และในกำรเตรียมควำมพร้อมของสถำนพยำบำล ด้ำนหนึ่งที่มีควำมสำคัญ คือกำรเตรียมด้ำนบุคลำกร ซึ่งกำรเตรียมควำมพร้อมด้ำนบุคลำกรมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บุคลำกรมีกำรปฏิบัติตำมมำตรฐำนกำรดูแลผู้ป่วยติดเช้ือ กำรป้องกันและควบคุมโรคอย่ำงเคร่งครัด รวมทั้งบุคลำกรมีควำมปลอดภัยจำกกำรติดเช้ือ แต่เน่ืองจำกสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคน้ันไม่สำมำรถ คำดกำรณ์ล่วงหน้ำได้ และปัจจุบันพบว่ำมีผู้ป่วยที่มีกำรติดเช้ือเพิ่มขึ้นอีกครั้ง บุคลำกรจึงต้องเตรียมควำม พร้อมในกำรรับผูป้ ่วย COVID-19 ตลอดเวลำ ทั้งด้ำนกำรดูแลผ้ปู ่วยตำมแนวทำงปฏบิ ัติต่ำง ๆ กำรมีทักษะใน เรอ่ื งกำรทำหัตถกำรที่สำคญั รวมถึงกำรใส่-ถอดชุดเครื่องปอ้ งกันส่วนบุคคล (PPE) ได้อยำ่ งถูกต้อง สำขำกำรพยำบำลหอผู้ป่วยวิกฤตเห็นถึงควำมสำคัญของกำรเตรียมควำมพร้อมดังกล่ำว จึงได้มีกำรจัด โครงกำรเตรียมควำมพร้อมของบุคลำกร ทั้งแพทย์ พยำบำล ผู้ช่วยพยำบำล เจ้ำหน้ำที่ธุรกำร และคนงำน เพื่อให้บุคลำกรในทีมสหสำขำวิชำชีพมีทักษะในกำรดูแลผู้ป่วยได้อย่ำงถูกต้องและเป็นไปตำมมำตรฐำน เช่น กำรใส่-ถอดชุดเครื่องป้องกันส่วนบุคคล (PPE), กำรจัดท่ำ Prone position, กำรช่วยฟื้นคืนชีพ และกำรใช้ เครื่อง Automated CPR, กำรใส่-ถอดท่อช่วยหำยใจ, กำรดูดเสมหะ, กำรเคล่ือนย้ำยผู้ป่วย และกำรกำจัด ขยะมูลฝอย เป็นต้น หลังจำกนั้นจึงได้รวบรวมเป็นคู่มือกำรดูแลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID- 19) ของฝ่ำยกำรพยำบำล เพื่อเป็นแนวทำงสำหรับบุคลำกรในกำรดูแลผู้ป่วยที่ติดเช้ือติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) ต่อไป คณะทำงำนเตรียมควำมพรอ้ มรบั ผ้ปู ่วย COVID-19 สำขำกำรพยำบำลหอผปู้ ่วยวิกฤต
สำรบญั หนำ้ เรือ่ ง 1 6 กำรควบคมุ โรคติดเช้ือโรคโคโรนำไวรัสสำยพนั ธใ์ุ หม่ 2019 8 Criteria for severe COVID-19 patients 11 กำรเตรยี มบคุ ลำกร 11 แนวปฏบิ ัติกำรดแู ลผูป้ ่วยวกิ ฤตโควิด-19 12 13 แนวปฏบิ ัติกำรใส่-ถอดชดุ Full PPE 15 แนวปฏบิ ตั กิ ำรใส่-ถอดชดุ Standard PPE 16 แนวปฏิบัตกิ ำรใสท่ ่อชว่ ยหำยใจ 17 แนวปฏิบตั กิ ำรถอดท่อช่วยหำยใจ 21 แนวทำงกำรเคลือ่ นย้ำยผปู้ ่วยวกิ ฤต COVID-19 24 แนวทำงกำรสง่ PCR for Covid-19 27 แนวทำงปฏิบัติกำรกำรกู้ชพี ขั้นสูงผปู้ ว่ ยวกิ ฤต COVID-19 34 แนวทำงกำรจดั ท่ำนอนคว่ำเพ่ือกำรบำบัด (Prone Position) แนวทำงกำรจัดกำรศพผ้ปู ่วยติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ 2019 (Covid-19) 35 เอกสำรอำ้ งองิ 36 ภำคผนวก นโยบำย/แนวทำงต่ำง ๆของโรงพยำบำล ภำพกิจกรรมกำรเรยี นกำรสอนจำลองสถำนกำรณ์เสมือนจริง
1 กำรควบคมุ โรคตดิ เชอื้ โรคโคโรนำไวรสั สำยพนั ธใุ์ หม่ 2019 กำรควบคุมโรคโคโรนำไวรัสสำยพันธุ์ใหม่ 2019 (Novel Coronavirus: nCoV) มีควำมสำคัญ อย่ำงยิ่ง ในภำรกิจดแู ลรักษำผู้ป่วย มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผ้ปู ่วยปลอดภัยและไม่มีภำวะแทรกซ้อนจำกกำรดูแล รกั ษำ รวมถึงใหบ้ คุ ลำกรผูป้ ฏิบัติหนำ้ ทไ่ี มต่ ิดเชือ้ จำกกำรดแู ลรักษำพยำบำลผู้ปว่ ย และเพ่อื ปอ้ งกนั และควบคุม กำรแพร่กระจำยเช้อื โรคโคโรนำไวรัสสำยพันธใ์ุ หม่ 2019 1. แนวปฏบิ ัตกิ ำรใช้อุปกรณ์ป้องกนั รำ่ งกำยส่วนบุคคล 2. คณุ ลกั ษณะและองค์ประกอบของห้องแยกโรคสำหรบั ผู้ปว่ ยภำวะวกิ ฤต 3. กำรทำควำมสะอำดห้องแยกโรค 4. กำรกำจดั มูลฝอยและสงิ่ ปฏิกูล 1. แนวปฏบิ ตั กิ ำรใชอ้ ุปกรณป์ ้องกนั รำ่ งกำยสว่ นบคุ คล 1.1 กำรใช้อุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคล (Personal protective equipment) แนะนำบุคลำกร ทำงกำรแพทย์ทีด่ แู ลผู้ป่วยให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคลทง้ั 4 ชิน้ คือ - เส้ือคลุมแขนยำวรดั ข้อมือ (gown) - หน้ำกำกกรองอำกำศ (surgical mask) หรือหนำ้ กำกกรองอนุภำค เชน่ N95, N100 ขึน้ อยกู่ ับ อำกำรและอำกำรแสดงของผู้ป่วย หรือหตั ถกำร/กิจกรรมกำรพยำบำลในกำรดแู ลผปู้ ว่ ย - แว่นปอ้ งกนั ตำ (goggle) หรือ กระจังกนั ใบหน้ำ (face shield) - ถงุ มือ ท้ังน้ีอุปกรณ์ที่แนะนำให้ใชค้ รั้งเดียวแล้วทิ้งเป็นมูลฝอยติดเช้ือ ได้แก่ ถุงมือและหน้ำกำกปิดปำก จมูก ชนดิ ต่ำง ๆ ส่วนทใ่ี ชแ้ ล้วสำมำรถนำมำทำควำมสะอำดก่อนใช้ใหม่ ได้แก่ แว่นปอ้ งกันตำ/กระจังกนั ใบหน้ำ 1.2 ขอ้ แนะนำกำรใชอ้ ปุ กรณป์ อ้ งกันรำ่ งกำยสว่ นบุคคล (PPE) ดงั น้ี 1. ในกิจกรรมท่ีมีควำมเส่ียงสูง ได้แก่ กำรกู้ชีพขั้นสูง กำรใส่/ถอดท่อช่วยหำยใจ กำรดูดเสมหะ หรือ กำรดูแลผู้ปว่ ยทม่ี ภี ำวะปอดอักเสบ หรอื มีอำกำรไอมำก ใหใ้ ชอ้ ุปกรณป์ ้องกนั ร่ำงกำยสว่ นบุคคล ดงั น้ี 1) เส้ือคลมุ กนั น้ำแขนยำวรดั ข้อมือ (gown) 2) หน้ำกำกกรองอนภุ ำค เช่น N95 mask/N 100/P 100 หรอื สูงกว่ำ 3) Goggle หรือ Face Shield 4) หมวกคลุมผม (ใช้ในกรณีที่กจิ กรรมนั้นก่อให้เกิดฝอยละอองขนำดเลก็ (aerosol) หรอื ผ้ปู ว่ ยมีอำกำรไอมำก 5) ถงุ มอื 2. กรณีท่ีผู้ป่วยไม่ไอ ไม่จำม หรือไม่ได้ทำหัตถกำรท่ีจะก่อให้เกิดฝอยละอองขนำดเล็ก (aerosol- generating procedures) ในกำรดูแลผ้ปู ว่ ยใหใ้ ช้อปุ กรณ์ป้องกนั รำ่ งกำยส่วนบคุ คล ดงั น้ี 1) เสอื้ คลมุ กันน้ำแขนยำว (gown) 2) Surgical mask หรือ N95 3) ถุงมือ
2 1.3 กำรตดิ ตำมกำกบั กำรใชอ้ ุปกรณป์ อ้ งกนั รำ่ งกำยสว่ นบคุ คล มีกำรติดตำมกำรใช้อุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคลตำมหลัก Isolation Precautions อย่ำง เครง่ ครัด ดังน้ี 1) มีกำรฝึกซ้อมกำรใส่ - ถอด อุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคล และมีกำรกำกับติดตำมควำม ถกู ตอ้ งเปน็ ระยะ ขน้ึ อยูก่ ับควำมเสย่ี งในกำรดูแลผู้ปว่ ย และตำมควำมเหมำะสม 2) มกี ำรใหค้ วำมรู้ต่ำง ๆ ดังน้ี - กำรทำควำมสะอำดมือและกำรปฏบิ ัตติ ำมสขุ อนำมยั ส่วนบคุ คล - ปฏิบัติตำมมำตรฐำนกำรป้องกันกำรติดเช้อื และกำรแพร่กระจำยเชื้อ โดยเฉพำะ Droplet และ Contact Precautions รวมทั้ง Respiratory Hygiene and Cough Etiquette - กำรใชอ้ ปุ กรณ์ป้องกันรำ่ งกำยสว่ นบคุ คลตำมควำมเหมำะสม 3) มกี ำรตรวจตดิ ตำมกำรปฏิบัติงำนเปน็ ระยะ 4) ใชร้ ะบบเพ่อื นเตือนเพ่ือน คือ กำรจบั คใู่ นกำรปฏิบัตงิ ำน (Buddy system) ในกำรปฏบิ ัติงำน กำร ใส่และถอดอุปกรณป์ ้องกนั ร่ำงกำยส่วนบุคคล 5) มกี ำรจัดทำโปสเตอร์/รปู ข้ันตอนกำรใส่ - ถอด อปุ กรณป์ อ้ งกันรำ่ งกำยสว่ นบุคคล/กำรล้ำงมือ 6) กำรติดกระจกเงำในห้อง ใส่ - ถอด อุปกรณ์ป้องกนั รำ่ งกำยสว่ นบุคคล 2. คุณลกั ษณะและองคป์ ระกอบของหอ้ งแยกโรคสำหรบั ผปู้ ว่ ยภำวะวกิ ฤต - หอผู้ป่วยวิกฤตที่มีลักษณะเป็นห้องรวมแยกโรค ใช้ในกรณีท่ีผู้ป่วยติดเช้ือชนิดเดียวกันมำอยู่ ร่วมกันได้ ห้ำมนำผู้ป่วยที่ยังไม่ทรำบเช้ือท่ีก่อโรคมำอยู่ร่วมกัน และควรจัดระยะห่ำงระหว่ำงเตียงมำกกว่ำ 1 เมตร โดยกั้นพื้นท่ีแต่ละเตียงด้วยม่ำนท่ีทำจำกวัสดุที่สำมำรถทำควำมสะอำดง่ำย เป็นห้องท่ีมีระบบระบำย อำกำศและควบคุมควำมดันภำยในห้องเป็นลบ (negative pressure) มีห้อง Ante room และมีห้องควบคุม ควำมดันภำยในหอ้ งเปน็ ลบสงู กว่ำห้องอน่ื ๆ 1 ห้อง สำหรบั ทำหตั ถกำรทเี่ สยี่ งต่อกำรแพรก่ ระจำยเชอื้ สูง
3 3. กำรทำควำมสะอำดหอ้ งแยกโรค - ทำควำมสะอำดห้องเป็นประจำอย่ำงน้อยวันละ 1-2 ครั้ง ตำมควำมจำเปน็ โดยเน้นพ้ืนผิวแนว ระนำบ (Horizontal surface) โดยเฉพำะบริเวณใกล้ผู้ป่วย อุปกรณ์ที่ต้องจับบ่อย ๆ ให้เช็ดทำควำมสะอำด ด้วย 70 %Alcohol โถชักโครกสำหรับทิ้งสิ่งปฏิกูลให้ใช้สำรละลำย การใช้ Sodium hypochlorite ๕๐๐ ppm หรือ ๐.๐๕% Sodium hypochlorite (วิธีการผสมคือ Steri tab® ๓ เม็ด ผสมน้า ๑๐ liter) สามารถ ใช้เช็ดพืนผิวได้กรณีที่ไม่มีการปนเปื้อนมาก หากมีการปนเป้ือนเลือด สารคัดหล่ังปริมาณมาก หรือกรณีแช่ อุปกรณ์ เพื่อท้าลายเชือจ้าเป็นต้องใช้ความเข้มข้น ๐.๕% รำดทิ้งไว้ 30 นำที ระหว่ำงรอเวลำให้ไปทำควำม สะอำดในห้องผู้ป่วย เก็บขยะ และถูพ้ืน ส่วนอุปกรณ์ของใช้ต่ำง ๆ ทำควำมสะอำดเสร็จแล้วให้แยกใช้เฉพำะ เตยี งนั้น ๆ ไมป่ ะปนของใชก้ บั ผปู้ ว่ ยรำยอนื่ - กรณีมีเลือดหรือสารคัดหลงั่ หกปริมาณมาก ใช้กระดาษหรือผ้ากันเลือดหรือสารคัดหลั่งโดยรอบ และคลุมด้วยผ้าหรือกระดาษ ราด ๐.๕% Sodium hypochlorite หรือ Sodium hypochlorite เข้มข้น ขนำด 5,000 ppm (วิธีการผสมคือ Steri tab® ๓ เม็ด ผสมน้า ๑,๐๐๐ ml) จากด้านนอกเข้าด้านใน ทิงไว้ ๓๐ นาที ใชอ้ ปุ กรณ์ตักทิงถงั ขยะตดิ เชือ และเช็ดท้าความสะอาดอกี ครงั - กรณีมีเลือดหรือสารคัดหลั่งหกปริมาณเล็กน้อย และเร่งด่วนจ้าเป็นต้องใช้พืนท่ี เช็ดเลือดหรือ สารคัดหลงั่ และเช็ดด้วย ๗๐% alcohol พกั ไว้ ๑๐ นาทีและเชด็ ออกใหส้ ะอาด 4. กำรกำจดั มลู ฝอยและสง่ิ ปฏกิ ลู - มูลฝอยในห้องผู้ป่วยท้ังหมดให้ถือเป็นมูลฝอยติดเชื้อ พนักงำนทำควำมสะอำดสวมอุปกรณ์ป้องกนั ร่ำงกำยส่วนบุคคลดังนี้ สวมรองเท้ำบูท (กรณีมีสิ่งคัดหล่ังปนเป้ือนพื้นเป็นจำนวนมำก ให้ใส่ Leg cover ก่อน ใส่รองเท้ำบูท) เส้ือคลุมกันน้ำแขนยำวรัดข้อมือ (gown) หน้ำกำกอนำมัย (surgical mask) กรณีท่ีผู้ป่วยมี หัตถกำรที่เกิดละอองฝอย เช่น พ่นยำ ดูดเสมหะ ใส่ - ถอดท่อช่วยหำยใจ (ให้ใส่หน้ำกำกกรองอนุภำค เช่น N95, N100) แว่นป้องกันตำ (goggle) /กระจังกันใบหน้ำ (face shield) ถุงมือ 1-2 ช้ัน โดยชั้นนอกสุดเป็น ถงุ มอื แม่บ้ำนอย่ำงหนำ - จำกัดจำนวนบุคลำกรในกำรเข้ำหอ้ งผู้ป่วย โดยเข้ำไปปฏิบัติหน้ำท่ีในครำวเดียว เช่น กำรเข้ำไปทำ ควำมสะอำดห้องผู้ป่วย กำรเก็บมูลฝอย โดยเตรยี ม - ถังมูลฝอยติดเช้ือใบใหม่ท่ีทำควำมสะอำดไว้แล้วสำหรับไปเปลี่ยนถังใส่มูลฝอยติดเชื้อที่ เตียงผู้ป่วย 1 ถัง ถุงแดงสำหรับใส่ในถังมูลฝอย 2 ใบ (ถุงชั้นในสุดให้พับปลำยถุงไว้ข้ำงในถังชน้ั ใน ถุงมูลฝอย สีแดงใบนอกให้พับปลำยถุงไวข้ ำ้ งนอกถังมูลฝอย) - ผ้ำสะอำดสำหรับเช็ดถุงมูลฝอย (สำหรับใช้ 70%Alcohol spray ใส่ผ้ำและเชด็ รอบถุงมูลฝอย 3 ผืน และ อีก 3 ผืนใช้ 70%Alcohol spray ใส่ผ้ำเช็ดรอบถังมูลฝอย อีก 1 ผืนเผ่ือไว้สำหรับเช็ดบริเวณท่ีเห็นกำร ปนเปื้อน : หลักการใช้ ๗๐% alcohol spray คือต้องพรมใส่ผ้าแล้วเช็ด ห้ามฉีดโดยตรง ป้องกันการฟุ้ง กระจายของเชอื โรค) - ถงุ มูลฝอยสีแดง - 70%Alcohol spray 1 ขวด เมื่อใช้เสร็จสำมำรถนำขวดออกมำล้ำงทำควำมสะอำดเพื่อ นำกลบั มำใชง้ ำนใหม่ได้ - น้ำสะอำดผสมสำรละลำย Sodium hypochlorite เข้มข้น ขนำด 500 ppm (วิธีการ ผสมคือ Steri tab® ๓ เมด็ ผสมน้า ๑๐ liter) สำหรบั ทำควำมสะอำดพน้ื ในหอ้ งผ้ปู ่วย
4 - น้ำสะอำดผสมสำรละลำย Sodium hypochlorite เข้มข้นขนำด 5,000 ppm (วิธีการ ผสมคอื Steri tab® ๓ เมด็ ผสมนา้ ๑,๐๐๐ ml) สำหรับทำควำมสะอำดพ้นื ในห้องท้ิงสงิ่ ปฏกิ ลู ผูป้ ว่ ย - ทำควำมสะอำดพื้นภำยในห้องผู้ป่วยด้วยน้ำสะอำดผสม Sodium hypochlorite เข้มข้น ขนำด 500 ppm เช็ดถูโดยรอบห้อง (หำกมีสำรคัดหล่ังปนเปื้อนส่ิงแวดล้อม เช่น อุจจำระ ปัสสำวะ อำเจียน ให้นำกระดำษชำระซ้อนทับหลำยๆ ช้ินวำงให้สิ่งคัดหลั่งซึม เทรำดบนกระดำษ/เศษผ้ำ ด้วย Sodium hypochlorite 5,000 ppm ทิ้งไว้ 10–15 นำที ก่อนเชด็ ดว้ ยกระดำษชำระ ทง้ิ กระดำษชำระ ในถุงมูลฝอย ติดเชื้อ เช็ดซ้ำบริเวณนั้นด้วย Sodium hypochlorite 5,000 ppm อีกครั้ง) เม่ือกำจัดสิ่งคัดหล่ังหมดแล้ว ใหถ้ อดถงุ มอื ลำ้ งมอื ด้วยนำ้ ยำฆ่ำเชือ้ หลำยๆ ครง้ั กอ่ นใส่ถุงมือคู่ใหม่ ข้ันตอนกำรทำควำมสะอำด - นำอปุ กรณ์ทเ่ี ตรียมไวเ้ ข้ำไปในหอ้ งคนไข้ - ทำกำรเก็บมูลฝอยในห้องผู้ป่วยโดยใช้เท้ำเปิดฝำถังมูลฝอยและทำควำมสะอำดถุงมูลฝอย ดำ้ นนอกโดยใช้ 70%Alcohol spray ลงบนผำ้ เชด็ ปำกถุงช้ันแรกก่อน นำปำกถุงชน้ั ท่ีสองมำผูกดว้ ยอุปกรณ์ ผกู ปำกถงุ และใช้ 70%Alcohol spray รอบ ๆ ถุงมลู ฝอยกอ่ นนำไปใส่ในถงั มลู ฝอยเพ่อื เตรียมให้พนักงำนขน ย้ำยมลู ฝอยนำไปจดั กำรเผำตำมมำตรฐำนขยะติดเชือ้ - นำน้ำสะอำดผสมสำรละลำย Sodium hypochlorite เข้มข้นขนำด 500 ppm สำหรับ ทำควำมสะอำดบริเวณพ้ืนห้องผู้ป่วย โดยเทน้ำสะอำดที่เตรียมไว้ลงในถังตำมด้วย Sodium hypochlorite 5 ml ที่เตรยี มไว้ ลงในถังสำหรบั ทำควำมสะอำดพ้ืน และเร่มิ ถูพนื้ โดยรอบห้อง - เม่ือทำกำรเก็บมูลฝอย เก็บผ้ำเปื้อน ถูพ้ืนห้องเสร็จแล้ว จึงเข้ำไปทำควำมสะอำดในโถทิ้ง ส่ิงปฏกิ ลู - เมื่อเสร็จภำรกิจเรียบร้อยแล้วก่อนออกจำกห้องใช้ 70%Alcohol spray บนผ้ำเช็ดรอบ ถังมลู ฝอย - ถอดอุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคลที่บริเวณ Waste Way ตำมขั้นตอนกำรถอด อปุ กรณป์ ้องกนั ร่ำงกำยสว่ นบคุ คล กำรจดั กำรผำ้ เปอื้ น 1. สวมอุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคล ดังน้ี สวมรองเท้ำบูท (กรณีมีสิ่งคัดหล่ังปนเปื้อนพื้นเป็น จำนวนมำก ใส่ Leg cover ก่อนใส่รองเท้ำบูท) เส้ือคลุมกันน้ำแขนยำว (gown) หน้ำกำกอนำมัย (surgical mask) (กรณีที่ผู้ป่วยมีหัตถกำรที่เกิดละอองฝอย เช่น พ่นยำ ดูดเสมหะ ใส่ท่อช่วยหำยใจ ให้ใส่หน้ำกำกกรอง อนภุ ำค เชน่ N95, N100) แว่นปอ้ งกนั ตำ (goggle) /กระจังกนั ใบหน้ำ (face shield) สวมถงุ มือ 1-2 ชน้ั 2. ถังสำหรบั ใส่ผ้ำเป้ือนใบใหม่ 1 ถัง - อุปกรณส์ ำหรบั รดั ปำกถุง จำนวน 2 อัน - 70%Alcohol spray สำหรับสเปรยบ์ นผำ้ นำไปเช็ดรอบปำกถุง - ผ้ำสะอำดสำหรับเช็ดรอบถังผ้ำเปอื้ น จำนวน 2 ผืน 3. วธิ กี ำรขนย้ำยผ้ำเปอื้ นติดเช้ือ - นำอปุ กรณ์ทเี่ ตรียมไว้เข้ำไปในห้องผู้ป่วย - เปิดถังผ้ำเป้ือนติดเชื้อ รัดปำกถุงด้วยอุปกรณ์รัดปำกถุง จำกน้ันใช้ 70%Alcohol spray บนผ้ำสะอำดเช็ดโดยรอบปำกถุงพลำสตกิ ปดิ ฝำถังให้รอบถังผ้ำเปื้อนด้วยเทป - นำ 70%Alcohol spray บนผ้ำผืนใหม่เช็ดรอบ ๆ ถังผ้ำเป้ือนใหท้ ่ัว (ผ้ำที่ใช้เช็ดเสร็จแลว้ ให้ทิง้ เปน็ มลู ฝอยตดิ เชอื้ )
5 - นำ 70%Alcohol spray ให้ท่ัวถังผ้ำก่อนนำออกจำกห้องผู้ป่วย เข็นผ้ำออกมำท่ี Waste Way เพอ่ื รอให้แผนกโลจสิ ติกขน้ึ มำรับ - จำกนัน้ ถอดอุปกรณ์ปอ้ งกนั ร่ำงกำยสว่ นบุคคลทบี่ ริเวณ Waste Way ตำมขน้ั ตอนกำรถอด อปุ กรณป์ อ้ งกันร่ำงกำยสว่ นบคุ คล หมำยเหต;ุ 1. กำรใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ในกำรดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ข้ึนอยู่กับกิจกรรม กำรพยำบำล กำรเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยท่ีมำกเกินไป จะทำให้มีโอกำสปนเป้ือนได้สูงในขณะที่ถอด อุปกรณ์เหล่ำนัน้ และกำรเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ปอ้ งกนั รำ่ งกำยท่นี ้อยเกินไป จะไม่สำมำรถชว่ ยป้องกันกำรติดเชอื้ ได้ 2. อุปกรณ์ป้องกันร่ำงกำยส่วนบุคคล (PPE) ที่สำมำรถนำกลับมำใช้ใหม่ได้ ได้แก่ แว่นตำ (safety glass หรือ goggle) กระจังกันใบหน้ำ (face shield) รองเท้ำบูท ทำควำมสะอำดโดยกำรแช่ด้วย Sodium hypochlorite เข้มข้น 500 ppm. นำน 30 นำที หรือล้ำงด้วยน้ำผสม detergent เช็ดให้แห้ง และเช็ดซ้ำ ดว้ ย 70%Alcohol
6 Criteria for severe COVID-19 patients Criteria for admission : any one of the following 1. Need for HFNC or invasive respiratory support ( Endotracheal intubation & Mechanical ventilation) 2. Need for respiratory/ hemodynamic/ metabolic/ neurologic monitoring : unstable SpO2/vital signs, severe hypoglycemia/hyperglycemia, electrolyte disturbances, seizure 3. Need for special procedures : Central venous catheterization, Therapeutic hypothermia, Plasmapheresis/Leukapheresis, Peritoneal dialysis/Hemodialysis 4. Discretion of attending staff or On-duty staff (ดุลยพินิจของอำจำรย์ท่ีปฏิบัติงำนหรือ อำจำรยท์ อี่ ยเู่ วรในขณะน้ัน) Criteria for HFNC : any of 1-2 (with 3) and (4 or 5) below 1. 25 /min 2. SpO2 90% on room air or SpO2 94% with O2 cannula 5 L/min 3. PaCO2 or End-tidal CO2 45 mmHg (if arterial blood gas analysis or capnography monitoring is done) 4. No history of underlying chronic respiratory failure 5. Do-not-intubate order Criteria for Endotracheal intubation (and Mechanical ventilation) : any one of the following 1. Severe acute respiratory failure, defined by any one of following criteria : - RR 30 /min - pH 7.35 or PaCO2 45 mmHg - SpO2 90% for 15 min despite HFNC use 2. No improvement of clinical conditions (e.g., persistent use of accessory muscle of respiratory) after using HFNC or NIV for 1 hr 3. Technical difficult/dysfunction of NIV or HFNC 4. Hemodynamic instability : SBP 90 mmHg, MAP 65 mmHg or vasopressor requirement 5. Inability to maintain airway patency or protect airway, - Glasgow coma scale 12 points - lost airway or jeopardized airway - inadequate cough reflex, copious secretions - cardiopulmonary arrest Criteria for extubation : all of the following 1. Resolving from respiratory/cardiovascular failure : RSBI 100 breaths/min/L, minute ventilation 15 L/min, RR 25 /min, SpO2 ≥ 95% on room air (P/F ratio ≥ 300 mmHg, S/F ratio ≥ 235)
7 2. Passed cuff-leak test/cuff-leak volume 3. Able to maintain/protect airway : good consciousness, adequate cough reflex (cough peak flow ≥ 60 L/min) 4. Good respiratory drive : good consciousness, RR ≥ 10 /min, P0.1 is between -2 and -6 cmH2O 5. Stable hemodynamics : MAP ≥ 65 mmHg without vasopressor Criteria for admission : any one of the following 1. Need for HFNC or invasive respiratory support ( Endotracheal intubation & Mechanical ventilation) 2. Need for respiratory/ hemodynamic/ metabolic/ neurologic monitoring : unstable SpO2/vital signs, severe hypoglycemia/hyperglycemia, electrolyte disturbances, seizure 3. Need for special procedures : Central venous catheterization, Therapeutic hypothermia, Plasmapheresis/Leukapheresis, Peritoneal dialysis/Hemodialysis 4. Discretion of attending staff or On-duty staff (ดุลยพินิจของอำจำรย์ที่ปฏิบัติงำนหรือ อำจำรย์ทีอ่ ย่เู วรในขณะนนั้ ) Criteria for discharge : any one of the following 1. Temperature 37.8 ̊C for 48 hrs without anti-pyretic agents 2. RR 12-20 /min 3. SBP 100-150 mmHg or MAP 65-90 mmHg without vasopressor 4. P 60-100 /min 5. Resting SpO2 ≥ 94% on room air 6. Good consciousness & sensorium 7. No acute symptomatic changes : dyspnea, diaphoresis, chest pain, palpitation, syncope, etc. Susceptible health care workers who should not take care of COVID-19 patients : - Pregnancy - Obesity (BMI ≥ 30 kg/m2) - Age 55 years - Asthma - COPD - Cirrhosis - DM - Cardiovascular disease (especially HT, Heart failure) - Cerebrovascular disease (Stroke) - Severely immunocompromised host ( e. g. receiving immunosuppressive agents, neutropenia, hematologic malignancy, HIV infection)
8 กำรเตรียมบุคลำกร สอนท้ังทำงภำคทฤษฎี และภำคปฏิบัติ ที่มีกำรจำลองสถำนกำรณ์จริง โดยคณะอำจำรย์แพทย์ด้ำน อำยุรกรรมระบบทำงเดนิ หำยใจ แพทยว์ สิ ญั ญี อำจำรย์พยำบำล พยำบำลผเู้ ชี่ยวชำญ และทีมวชิ ำกำรพยำบำล ของ ICU COVID-19 โดยมีตำรำงกำรสอน ดงั นี้ แผนกำรสอนภำคทฤษฎเี พ่อื เตรยี มควำมพร้อม ICU COVID วนั ที/่ เวลำ/สถำนที่ เน้ือหำ ผ้สู อน ผศ.พญ. พิชญำภำ รจุ วิ ิชชญ์ คลปิ วดี ีโอสอน - แนวทำงกำรรักษำผู้ปว่ ย COVID ในภำวะ รศ.นพ.ณรงค์กร ซำ้ ยโพธก์ิ ลำง ผศ.นพ. ฐิติ ศรีเจรญิ ชัย วกิ ฤต และยำ รศ.พญ. ภัทรนิ ภิรมย์พำนชิ อ.อิสรีย์ ศรศี ภุ โอฬำร คลปิ วดี ีโอสอน - กำรใช้ HFO พว.ปวณี ำ งำมสิงห์ คลิปวีดีโอสอน - กำรใช้ Ventilator; Bennett 840, Vela - กำรแปลผล capnography คลิปวดี ีโอสอน -กำรหย่ำเครือ่ งชว่ ยหำยใจ สอนออนไลน์ - กำรดูแลผปู้ ว่ ยที่ on Ventilator วนั ที่ 15 เม.ย. 63 เวลำ 9.00-12.00 น. App “Zoom” คลิปวีดีโอสอน - กำรพ่นยำ MDI - กำรใช้ closed suction system แผนกำรสอนภำคปฏบิ ตั ิ (work shop)เพือ่ เตรยี มควำมพรอ้ ม ICU COVID วนั ที่ เวลำ เนอ้ื หำ ผสู้ อน สถำนที่ 31 มี.ค. 63 11.00 น. -กำรใส-่ ถอด PPE IC หอ้ งประชมุ CCU (เฉพำะคณะกรรม 1 เมย. 63 13.00 น. คณะกรรมกำรวำงแผนกำรทำคลิปวดี โี อเรอ่ื ง hygiene วชิ ำกำรและอำจำรย์ 2 เมย. 63 care แพทย์) 13.30 น. กำรใส่ PPE IC หอ้ งประชมุ ICU 14-15 น. -Ventilator mobile เครื่องมือแพทย์ ห้องประชมุ สถำพร 2 หอ้ ง RCU (รอบท่ี 1) -(+/-)กำรต่อ circuit เครอื่ งชว่ ยหำยใจ/ กำร test กติ ติวฒั นำ ระยะ 3 เครือ่ ง/ กำรเก็บหลงั ใช้งำน ห้อง RCU และกำรดูแลรกั ษำ 15-16 น. -Ventilator mobile เครอื่ งมือแพทย์
9 วนั ที่ เวลำ เนื้อหำ ผสู้ อน สถำนที่ กติ ติวัฒนำ ระยะ 3 (รอบที่ 2) -(+/-)กำรตอ่ circuit เครือ่ งช่วยหำยใจ/ กำร test หอ้ ง RCU เคร่ือง/ กำรเก็บหลังใช้งำน กติ ติวฒั นำ ระยะ 3 และกำรดูแลรักษำ ห้อง RCU 3 เมย. 63 10.30 น. -Automated CPR auto เครอ่ื งมือแพทย์ กิตติวฒั นำ ระยะ 3 (รอบที่ 1) pump Infusion pump ตวั ใหม่/ ห้องประชมุ CCU syringe pump -เครอ่ื ง feed BD 13.00 น. -Automated CPR auto เคร่อื งมอื แพทย์ (รอบท่ี 2) pump Infusion pump ตัวใหม่/ syringe pump -เครือ่ ง feed BD 7-30 เมย. 63 9-12 น. -สอบกำรใส่และถอด PPE พว.กญั ญ์ญำภัค ผำสขุ 13-16 น. (บคุ ลำกรตึกดุลโสภำคย์) พว.จุฑำจติ สร้อยซำ 9-12 น. -สอบกำรใส่และถอด PPE พว.เอมอร เอ่ียมสำอำง หอ้ งเคร่ืองมือแพทยเ์ กำ่ 13-16 น. (บุคลำกรตึกกติ ตวิ ัฒนำ) พว.จุฑำรตั น์ วรศิริ 9 เมย.63 9-12น. Prone position, ผศ.พญ.พิชญำภำ ห้องประชุมสถำพร2 14 เมย.63 Transport, Automated และทมี (เฉพำะหวั หน้ำและ CPR พยำบำลsenior) 16 เมย.63 , Extubation ผศ.พญ.พิชญำภำ และทีม หอ้ งประชุมสถำพร1 9.30- - จัดท่ำ prone position (รอบพยำบำล) 12.30น. - กำรเคลื่อนยำ้ ยผู้ป่วย ผศ.พญ.พิชญำภำ และทีม ห้องประชุมสถำพร1 - กำร CPR ใช้ Automated (รอบพยำบำล) CPR - Intubation & Extubation OET 9.30- - จดั ท่ำ prone position 12.30น. - กำรเคลอื่ นยำ้ ยผู้ปว่ ย - กำร CPR ใช้ auto CPR - Intubation & Extubation OET
10 1. กำรเตรียมบุคลำกรด้ำนควำมรู้ โดยกำรเรียนออนไลน์ ในหวั ข้อดังตอ่ ไปนี้ -กำรใช้ High flow oxygen โดย รศ.นพ.ณรงค์กร ซำ้ ยโพธ์ิกลำง -Ventilator setting in COVID-19 โดย รศ.พญ.ภัทรนิ ภริ มยพ์ ำนิช -กำรใชเ้ ครือ่ งช่วยหำยใจ, Capnography โดย ผศ.นพ.ฐติ ิ ศรเี จริญชยั -แนวทำงกำรรกั ษำ COVID-19 โดย ผศ.พญ.พิชญำภำ รจุ วิ ชิ ชญ์ -กำรดูแลผูป้ ่วยท่ีใชเ้ ครือ่ งชว่ ยหำยใจ โดย อำจำรยอ์ ิสรีย์ ศรีศุภโอฬำร 2. กำรเตรียมบคุ ลำกรดำ้ นทักษะและกำรปฏิบัติ โดยกำรเรียนกำรสอนจำลองสถำนกำรณ์เสมือนจริง ในหัวข้อ ดงั น้ี -กำรใส่ - ถอดทอ่ ช่วยหำยใจ -กำรดูดเสมหะ -กำรพ่นยำ -กำรจัดท่ำ Prone position -กำรกู้ชพี ขั้นสูง -กำรใส่ - ถอดชุด PPE -กำรใช้เคร่ืองมือทำงกำรแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหำยใจ, Infusion/syringe pump, Automated CPR, Transfer monitor, Defibrillator
11 แนวปฏบิ ตั กิ ำรใส-่ ถอดชดุ full PPE
12 แนวปฏบิ ตั กิ ำรใส-่ ถอดชดุ standard PPE
13 แนวปฏบิ ตั กิ ำรใส่ทอ่ ชว่ ยหำยใจ 1. กำรเตรยี มควำมพร้อม 1.1 กำรเตรยี มพ้ืนที่ -ห้องทำหตั ถกำรควำมดันลบสำหรบั กำรใสท่ ่อชว่ ยหำยใจ 1.2 กำรเตรียมบุคลำกรทีจ่ ะเข้ำทำหัตถกำร -กรณีในเวลำรำชกำร ประกอบด้วย วสิ ญั ญแี พทย์ 1 คน พยำบำลวิสญั ญี 1 คน -กรณนี อกเวลำรำชกำร ประกอบดว้ ย แพทยร์ ะบบทำงเดินหำยใจ 1 คน พยำบำลวิชำชีพ 1 คน 1.3 กำรเตรียมอปุ กรณ์และยำ -อุปกรณ์ PAPR -ชุด Full PPE -เครื่องช่วยหำยใจชนิด disposable และต่อกับข้อต่อพ่นยำ End tidal CO2 และ Close suction เรียบรอ้ ยแล้ว ดงั ภำพ -เปิดเครื่องช่วยหำยใจไว้ โดย setting ให้ใช้แนวทำงของ protective lung strategy สำหรับผู้ป่วย ARDS ได้แก่ TV 6-8 ml/Kg, -FiO2 ต่ำท่ีสุดที่จะรักษำระดับ SpO2 > 90%, RR 14-22 /min, PEEP 8- 12 mmHg -Monitor bedside -รถอปุ กรณ์ Emergency -ถุงขยะตดิ เช้อื -ยำนำสลบ/ยำหยอ่ นกล้ำมเนื้อ/ยำนอนหลบั ตำมแผนกำรรักษำ -กลอ่ งสเ่ี หลีย่ ม acrylic ปอ้ งกนั กำรฟ้งุ กระจำย -Video laryngoscope -artery clamp -Oxygen cannula -Surgical mask 1.4 กำรเตรยี มผปู้ ว่ ย -จัดท่ำนอนหงำยศีรษะสูงเล็กน้อย ใส่ออกซิเจน cannula โดยเปิด flow ได้ไม่เกิน 6 LPM และใส่ surgical mask ปิดทับ(ดงั ภำพ)
14 -เปดิ เส้นและตอ่ 3-way กบั extension with T ดำ้ นใกลต้ ัวผ้ปู ว่ ยกอ่ นตอ่ กบั IV fluid -Monitor vital signs ทกุ 5 นำที ระหว่ำงรอใส่ทอ่ ชว่ ยหำยใจ 2. ข้นั ตอนกำรใส่ทอ่ ชว่ ยหำยใจ 2.1 วำงกล่องส่ีเหลี่ยม acrylic ครอบศีรษะของผู้ปว่ ย 2.2 ฉีดยำนำสลบ/ยำหย่อนกลำ้ มเนอ้ื /ยำนอนหลบั ตำมแผนกำรรักษำ 2.3 Monitor vital signs ทุก 5 นำที 2.4 เมือ่ ผู้ปว่ ยมกี ล้ำมเนื้อหยอ่ นเต็มที่ แพทยใ์ สท่ ่อช่วยหำยใจโดยใช้ Video laryngoscope 2.5 หลังจำกใส่ท่อช่วยหำยใจ ให้ inflate cuff ก่อน แล้วดึง stylet ออก และถอดถุงมือออก 1 ชั้น ทง้ิ ในถงุ พลำสตกิ ตดิ เช้ือสีแดง จำกนน้ั ใช้ artery clamp หนีบที่ทอ่ ช่วยหำยใจเพอ่ื ให้มีลมรั่วออกมำนอ้ ยทสี่ ดุ 2.6 ต่อ ventilator เขำ้ กบั ทอ่ ช่วยหำยใจแล้วจึงคลำย artery clamp และเปดิ ventilator เมือ่ ต่อ circuit เรียบรอ้ ยแล้วเทำ่ น้นั โดยทำอยำ่ งระมัดระวังดว้ ยควำมรวดเรว็ ท่สี ดุ 2.7 Strap ทอ่ ช่วยหำยใจและข้อต่อต่ำง ๆ ให้แนน่ โดยเฉพำะจดุ ทเ่ี สี่ยงตอ่ กำรหลดุ 2.8 แพทย์ตรวจดูกำรเคล่ือนไหวของทรวงอกและดูค่ำ End tidal CO2 ให้หลีกเล่ียงกำรยืนยัน ตำแหนง่ ทอ่ ชว่ ยหำยใจโดยกำรฟงั ปอดด้วย stethoscope 2.9 Mobile chest x-ray เพ่ือยืนยนั ตำแหนง่ ทอ่ ช่วยหำยใจและดูพยำธสิ ภำพของโรค 2.10 หลงั ใสท่ อ่ ชว่ ยหำยใจแลว้ พิจำรณำให้ยำ sedation อย่ำงตอ่ เน่อื งไปอีกอย่ำงน้อย 48 ชว่ั โมง ขอ้ แนะนำเพิม่ เติม -ในกำรดูดเสมหะ แนะนำให้ใช้ close suction ทุกรำย โดยไม่แนะนำให้ disconnect เคร่ืองช่วย หำยใจหรอื ใช้ self-inflating bag ในระหว่ำงดูดเสมหะ -ไมแ่ นะนำให้ disconnect เครอ่ื งช่วยหำยใจเพ่ือกำรพ่นยำขยำยหลอดลมในรูปแบบ nebulization -หำกจำเป็นต้อง disconnect สำยหรือท่อของเคร่ืองช่วยหำยใจ ไม่ว่ำกรณีใด ๆ ให้ทำกำร clamp สำยหรือทอ่ น้ัน ๆ กอ่ นทุกครง้ั และต้องระมัดระวังกำรปนเป้อื นของเชอื้ ดว้ ย
15 แนวปฏบิ ตั กิ ำรถอดทอ่ ชว่ ยหำยใจ 1. กำรเตรยี มควำมพรอ้ ม 1.1 กำรเตรยี มพ้นื ที่ -หอ้ งทำหตั ถกำรควำมดนั ลบสำหรับกำรใสท่ อ่ ชว่ ยหำยใจ 1.2 กำรเตรียมบุคลำกรที่จะเขำ้ ทำหัตถกำร -แพทยร์ ะบบทำงเดนิ หำยใจ 1 คน พยำบำลวิชำชีพ 1 คน 1.3 กำรเตรยี มอุปกรณ์และยำ -อปุ กรณ์ PAPR -ชดุ Full PPE -Monitor bedside -รถอุปกรณ์ Emergency -ถุงขยะตดิ เช้อื -กล่องส่ีเหลีย่ ม acrylic ปอ้ งกันกำรฟุ้งกระจำย -Artery clamp -Oxygen cannula -Surgical mask 1.4 กำรเตรียมผปู้ ่วย -จัดทำ่ นอนหงำยศีรษะสงู เลก็ นอ้ ย เตรียม Oxygen cannula และ Surgical mask คลอ้ งหูผู้ป่วยไว้ -Monitor vital signs ทกุ 5 นำที ระหว่ำงรอถอดทอ่ ชว่ ยหำยใจ 2. ข้นั ตอนกำรถอดทอ่ ช่วยหำยใจ 2.1 วำงกล่องสเี่ หลย่ี ม Acrylic ครอบบรเิ วณศีรษะของผปู้ ่วย 2.2 ปิดเคร่ืองช่วยหำยใจ พร้อมกับใช้ artery clamp หนีบท่ีท่อช่วยหำยใจและ deflate cuff โดย ใหท้ ำอย่ำงรวดเร็ว 2.3 หลังจำกน้ันดึงท่อช่วยหำยใจออก พร้อมกับใส่ Oxygen cannula แล้วดึง Surgical mask มำ ปิดครอบทจ่ี มกู และปำกของผ้ปู ว่ ย
16 แนวทำงกำรเคลื่อนยำ้ ยผ้ปู ว่ ยวกิ ฤต COVID-19 กรณเี คลอื่ นยำ้ ยผปู้ ว่ ยไปทห่ี อ้ งผ่ำตดั 1. เจ้ำหนำ้ ท่เี ก่ียวขอ้ ง -แพทย์ 1 คน -พยำบำล 2 คน -เจำ้ หนำ้ ท่ีเวรเปล 2 คน -พนกั งำนรกั ษำควำมปลอดภัย (รปภ.) 2. อุปกรณ์ที่ใชใ้ นกำรเคลือ่ นย้ำย -Transport ventilator -Transfer monitor -เปลนอนเคล่อื นยำ้ ยผู้ป่วยแรงดนั ลบ (Patient Transportation Chamber) -Board สำหรับเคล่อื นย้ำยผ้ปู ว่ ยระหวำ่ งเตียงกับเปลนอน 2. กำรปฏบิ ัตกิ ำรเคล่อื นยำ้ ยผ้ปู ่วยวิกฤต COVID-19 2.1 เจ้ำหน้ำท่ีขนย้ำย และเจ้ำหน้ำที่ไปส่งผู้ป่วย : สวมชุด PPE หมวก mask N95 face shield และ ถงุ มอื 2 ชน้ั 2.2 พยำบำลเจำ้ ของไขโ้ ทรส่งเวรกบั ทำงหอ้ งผ่ำตัด เพื่อเตรยี มห้องพร้อมรับผปู้ ่วยวกิ ฤต COVID-19 2.3 หัวหนำ้ หอผ้ปู ว่ ย (ในเวลำรำชกำร) หรือพยำบำลตรวจกำร (นอกเวลำรำชกำร) โทรแจ้งศนู ย์วิทยุเพื่อ แจง้ พนกั งำนรกั ษำควำมปลอดภัย (รปภ.) เคลยี ร์เสน้ ทำง 2.4 ตำมเปลนอนเคลื่อนย้ำยผู้ป่วยแรงดันลบ (Patient Transportation Chamber) พร้อม เจำ้ หนำ้ ท่ี 2.5 ใส่ surgical mask ให้ผู้ป่วยโดยใส่ให้แนบสนิทกับใบหน้ำ กรณีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหำยใจและ Ventilator ตอ้ งตดิ HEPA filter ด้วย และกำรเคล่ือนย้ำยใหใ้ ช้ Transport ventilator 2.6 เม่ือเปลนอนมำให้ติดตั้งอุปกรณ์ไว้ข้ำงเปลให้เรียบร้อย ได้แก่ Transport ventilator, Transfer monitor และ infusion pump (ถำ้ ม)ี 2.7 วัดสัญญำณชีพก่อนส่งผู้ป่วยไปห้องผ่ำตัดตำมแนวทำงปฏิบัติ และติด Transfer monitor กับ ผู้ป่วย 2.8 สอด Board สำหรบั เคล่ือนย้ำยผปู้ ว่ ยระหวำ่ งเตียงกับเปลนอน 2.9 แพทย์ต้ัง setting Transport ventilator จำกน้ันปิด ventilator ที่ใช้กับผู้ป่วยในขณะนั้น พร้อมกับ clamp endotracheal tube จำกน้ันต่อ Transport ventilator ท่ี standby พร้อมใช้ทันทีเมื่อตอ่ กับผู้ป่วย และคลำย clamp endotracheal tube 2.10 เคลื่อนย้ำยผู้ป่วยตำมเสน้ ทำงที่กำหนด โดยข้ึนลิฟท์ของอำคำร ม.ร.ว.สุวพรรณ สนิทวงศ์ ไปท่ี ช้ัน 2 ผำ่ น ศนู ยห์ วั ใจ ไปทำง cover way เพ่ือเข้ำทำงพเิ ศษของห้องผำ่ ตัด 2.11 พนักงำนรักษำควำมปลอดภัย (รปภ.) เคลียร์เส้นทำงกำรเคลื่อนย้ำย อำนวยควำมสะดวกที่ ลฟิ ต์ และใชแ้ ถบขำวแดงกัน้ หนำ้ ลิฟต์ และติดป้ำยหำ้ มเขำ้ 2.12 วศิ วกรรมซอ่ มบำรุงลอ็ คลฟิ ต์ไม่ใหเ้ ปิดใชง้ ำน 1 ชัว่ โมง 2.13 แม่บำ้ นทำควำมสะอำดลิฟต์หลงั ส้นิ สดุ กำรล็อค
17 แนวทำงกำรสง่ PCR for Covid-19 อปุ กรณ์ในกำรเกบ็ ส่ิงสง่ ตรวจ 1. Nasopharyngeal swab (NPS) 2. Throat swab (TS) 3. Viral Transport Media (VTM) หรือ Universal Transport Media (UTM) ได้มำจำก EID 4. กรณีผูป้ ว่ ย on OET tube ใช้ Mucous extractor (เก็บ sputum) 5. กลอ่ งโฟม 6. ไม้กดลิน้ (แล้วแตค่ วำมถนดั ของแพทย์) 7. ถงุ ซิปลอ็ คแดง 3 ซอง ขนำด เลก็ (1), กลำง(2), ใหญ่(3) 8. Gauze 3x3 จำนวน 3 ห่อ เท 70% Alcohol ใส่ gauze 9. แผน่ Parafilm 10. ice pack; 2 pack : 1-2 specimens, 3 pack : 3-4 specimens 11. เทปกำวใหญ่/แลคซนี 12. Sticker label ช่อื ผ้ปู ่วย 2 อัน เขยี น \"วนั ที.่ ......, NPS+TS\" 13. Full PPE เอกสำรท่ตี อ้ งจัดเตรียม 1. ใบ Check list ขั้นตอนกำรสง่ PCR for Covid-19 2. ใบส่งตรวจโรคปอดอักเสบจำกเชอ้ื โคโรนำไวรสั สำยพันธุ์ใหม่ 2019 (นำส่งคณะสหเวชศำสตร)์ 3. ใบขออนมุ ตั ิสง่ ตรวจพเิ ศษ พร้อม Copy 4. ใบยินยอมรบั กำรตรวจหำสำรพันธุกรรมเชือ้ โคโรนำไวรัสสำยพนั ธ์ุใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ข้ันตอนกำรสง่ PCR for Covid-19 1. ประเมินผปู้ ว่ ยตำมแบบคดั กรองผูป้ ว่ ยเข้ำขำ่ ยสงสัยตดิ เชอ้ื COVID-19 2. กรอกข้อมูลใบ novelcorona 1 ให้ครบถ้วน และถ่ำยรูปใบ novelcorona 1 ในกลุ่ม line สำหรับ ขอ code case ซ่ึงผู้พิจำรณำและดำเนินกำรออก code case ในเวลำรำชกำรงำนส่งเสริมสุขภำพ (เบอร์ติดต่อ 9022) นอกเวลำรำชกำรงำนควบคุมโรคติดเช้ือเป็น (กด9 ติดต่อ ICN เวร) เม่ือออก code แล้วจะแจ้งกลับมำตำมช่องทำง line เดิม 3. แพทย์เขียนคำส่งั กำรรักษำ “ส่งตรวจ PCR for COVID-19” 4. โทรขอรับชดุ อุปกรณต์ รวจได้ท่ีห้องปฏบิ ตั กิ ำร (ห้อง serology) โดยนำใบ request lab ไปดว้ ย 5. Print ใบส่งตรวจโรคปอดอักเสบจำกเช้ือโคโรนำไวรัสสำยพันธใ์ หม่ 2019 (นำส่งคณะสหเวช) กรอก ขอ้ มลู 1) Code : HN 2) ID : บตั รประชำชนของผู้ป่วย 6. Key ใบ request : PCR for COVID 19 (Lab นอก) รหสั 91142 จำนวน 2 ใบ โดย request lab PCR for COVID-19 (reprint) ให้ระบุ code case และลงชื่อผู้ส่ง (ด้วยปำกกำแดงเพื่อให้เห็น ชัดเจน) แล้วนำส่งงำนรำยได้ 7. เขยี นใบขออนุมัติส่งตรวจพิเศษ/ใบยนิ ยอมรับกำรตรวจ 7.1 สง่ งำนรำยได้ ได้แก่ 1) ใบขออนุมตั ิ 2) ใบ request : PCR for Covid-19 7.2 เกบ็ ในแฟ้ม ไดแ้ ก่ 1) ใบขออนมุ ตั ิ 2) ใบยนิ ยอมรบั กำรตรวจหำสำรพันธกุ รรมเชือ้ โคโรนำไวรัส 8. กำรเตรยี มเก็บ specimen
18 8.1 ตรวจ check อุปกรณ์ที่ได้มำ ประกอบด้วย Nasopharyngeal swab (NPS) และ Throat swab (TS) ก้ำนทำดว้ ยลวด หรือพลำสติกอ่อน และไม่เคลือบสำร calcium alginate เนื่องจำกอำจ รบกวน กำรอ่ำนผล PCR Viral Transport Media (VTM) หรอื Universal Transport Media (UTM) Respiratory viral transported media (VTM) Universal transported media (UTM) ใชส้ ำหรบั ไขห้ วัดใหญ่, ไขห้ วัดนก, Corona virus ใชส้ ำหรับเช้อื ไวรสั ทกุ ชนิด (MERs-CoV), ILI, RSV, หัด ***กรณีผปู้ ่วย on OET tube ใช้ Mucous extractor (เกบ็ sputum)***
19 8.2 เตรียมอุปกรณ์ 1) Sticker label ชอื่ ผปู้ ่วย 2 อัน เขยี น \"วนั ท.่ี ......, NPS+TS\" ติดที่ VTM/UTM และ ถงุ ซปิ ล็อคแดง ใหญ่ (3) + ติดเทปใสทับ label อกี คร้งั 2) ถุงซิปล็อคแดง 3 ซอง ขนำด หรือ เลก็ 1 ถงุ ใหญ่ 2 ถงุ 3) Gauze 3x3 จำนวน 3 ห่อ เท 70% Alcohol ใส่ gauze 4) แผ่น Parafilm 5) Ice pack ; 2 pack : 1-2 specimens, 3 pack : 3-4 specimens 6) เทปกำวใหญ/่ แลคซีน อปุ กรณ์ท่ตี ้องเตรียม 9. แพทยแ์ ละพยำบำล ใส่ชดุ PPE 10.กำรเก็บพยำบำลแกะซอง Nasopharyngeal swab สง่ ใหแ้ พทย์ แพทยส์ อดไมป้ ำ้ ยเข้ำไปในโพรงจมูก อย่ำงช้ำ ๆ ให้ทิศทำงของไม้ปลำยอ่อนต้ังฉำกกับใบหน้ำ และ ชิดผนังแผ่นกลำงของรูจมูก ควำมลึก ของกำรใส่คือ วัดจำกตำแหน่งต้ังแต่ต่ิงหูถึงปลำยจมูก หรือเมื่อรู้สึกว่ำไม้ swab สัมผัสด้ำนหลังของ บริเวณ Nasopharynges หมุนไม้ swab 2-3 รอบโดยประมาณ แล้วจึงค่อยๆ เลื่อน swab ออกมำ จุ่มลงในหลอด UTM สีแดง หักปลำย swab และปิดฝำหลอดไว้ก่อนช่ัวครำว จำกนั้นเตรียมเก็บ ตัวอย่ำง Throat swab ตอ่
20 11.พยำบำลแกะซอง Throat swab ให้แพทย์ แพทย์ใช้ไม้กดลิ้นผู้ป่วย และใช้ swab ถูบริเวณสองข้ำง ของ tonsil และ posterior pharynx แช่ swab ใน หลอดเดียวกับท่ีใส่ตัวอย่ำง Nasopharyngeal swab แลว้ หกั ปลำยไมท้ ง้ิ ปิดหลอดใหส้ นิท 12. พยำบำลปิดฝำ tube ใหส้ นิท และ พนั Parafilm เช็ด tube ดว้ ย gauze ชบุ 70% alcohol 13. ใส่ถุงซิปล็อคแดงเล็ก กลำง และใหญ่ ตำมลำดับ โดยเช็ดรอบถุง ทั้ง 3 ถุง ด้วย gauze ชุบ 70% alcohol 14. ม้วนถุงซิปล็อคแดงออกจำกตัว วำงใส่กล่องโฟม ที่ม่ี ice pack ; 2 pack : 1-2 specimens, 3 pack : 3-4 specimens และปดิ กล่อง 15. ปิดฝำกล่องโฟมให้สนทิ และพนั เทปกำว/แลคซีน รอบฝำกล่องให้เรยี บร้อย ปอ้ งกันฝำกล่องโฟมเปิด ออกระหว่ำงกำรขนส่ง 16. เช็ดรอบกล่อง ดว้ ย gauze ชบุ 70% alcohol 17. ส่งกล่องใหพ้ ยำบำลในห้อง Ante room (โดยพยำบำลทร่ี อรับใสถ่ ุงมือ และ surgical mask) คนงำน น้าส่ิงส่งตรวจและเอกสาร (ใบcorona 1 และ ใบ request lab) ส่งที่ห้องปฏิบัติการชัน 1 ตึกกิตติ วัฒนา โดยใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย และถอดถุงมือทิงขยะติดเชือและล้างมือบริเวณห้องปฏิบัติการ ชนั 1 ตึกกิตตวิ ัฒนา หลงั เสร็จสนิ ภาระกิจ
21 แนวทำงปฏบิ ตั ิกำรกำรกชู้ พี ขนั้ สงู ผปู้ ว่ ยวกิ ฤต COVID-19 หลักกำรทัว่ ไป : 1. แนะนำให้มีกำรประเมินผู้ป่วยด้วย Early Warning Score เพื่อค้นหำผู้ป่วยที่อำจมีอำกำรทรุดลงได้ อย่ำงรวดเร็ว และสำมำรถตำม Rapid Response Team มำให้กำรดูแลรักษำได้อย่ำงทันท่วงที เพ่ือ ป้องกนั กำรเกดิ ภำวะ Cardiac Arrest ใหน้ ้อยทส่ี ดุ 2. กรณี Sudden Cardiac Arrest ข้อแนะนำกำรรักษำส่วนใหญ่ ยังยึดถือตำม Standard TRC Guidelines ปจั จุบัน ขอ้ แนะนำเพิม่ เตมิ เพ่ือลดควำมเสย่ี งต่อกำรติดเชือ้ ของบุคลำกรทำงกำรแพทยจ์ ำกกำร resuscitation มีดงั ตอ่ ไปนี้ 1. Chest Compression - Chest Compression ทำให้เกิดกำรกระจำยของฝอยละอองสำรคัดหล่ังออกจำกปำก และจมูกของ ผู้ป่วย จึงมีโอกำสเกิดกำรฟุ้งกระจำยของเชื้อไวรัส COVID-19 ดังนั้นแนะนำให้ใส่ Endotracheal tube และ ตอ่ Ventilator แก่ผู้ปว่ ยทุกรำย กอ่ นเริม่ ทำ Chest Compression เสมอ - ใช้ Mechanical Chest Compression device 2. Airway Issue - เตรียม Ventilator ทีพ่ รอ้ มใชง้ ำนไวเ้ สมอ - แนะนำใหใ้ ช้ Endotracheal Tube ไมแ่ นะนำ Supraglottic Airway Device - ใส่ Endotracheal tube เมื่อ Ventilator (Closed circuit) พรอ้ มเท่ำน้นั - ถำ้ Ventilator มีปัญหำ หรอื ยังไมพ่ ร้อมใชใ้ หต้ อ่ Self-Inflating Mask with HEPA filter เทำ่ นั้น - ไมแ่ นะนำ Bag-Mask Ventilation - หลีกเล่ียงกำร Suction ในปำก (กอ่ น Intubation) - ไม่แนะนำกำร Clamp Endotracheal tube เนอ่ื งจำกอำจมี Positive Pressure ระหวำ่ งกำรทำ Chest Compression ทำให้เกดิ Pneumothorax ได้ - แนะนำให้ตดิ HEPA Filter กบั ปลำย Endotracheal Tube เสมอ - เน่ืองจำกกำรทำ Airway Manipulation ( ไดแ้ ก่ Suction/Nasopharyngeal Airway/ Oropharyngeal Airway ) มโี อกำสเกดิ ฝอยละอองได้ แนะนำใหห้ ลีกเลยี่ งกำรทำโดยไมจ่ ำเป็น - ในกรณีผู้ป่วยมีกำรใช้ Oxygen Cannula แล้วเกดิ Sudden Cardiac Arrest แนะนำให้ใส่ Surgical Mask ปิดทบั สำย Oxygen Cannula ทนั ที (ดงั รูป)
22 3. Defibrillation - แนะนำให้ใช้ Adhesive pads - ขอ้ บง่ ชีแ้ ละปรมิ ำณพลงั งำนไฟฟ้ำ ยดึ ตำม Standard TRC Guidelines ปัจจบุ ัน 4. Medications ให้ยึดตำม Standard TRC Guidelines ปัจจุบัน 5. กำรทำ CPR ถือเป็นหัตถกำรที่ทำให้เกิดฝอยละออง (Aerosol generating procedures) แนะนำให้ ทำใน Airborne Infection Isolation Rooms (AIIRs) ถ้ำมี หรือเป็นห้องพื้นท่ีแยก (Single room with door closed) 6. Post Arrest Care ให้ยึดตำม Standard TRC Guidelines และนโยบำยควบคุมกำรติดเช้ือของแต่ ละโรงพยำบำล และปรกึ ษำผเู้ ชี่ยวชำญตำมสำขำวชิ ำทีเ่ กย่ี วข้อง 7. บันทึกรำยช่ือ ผู้เข้ำร่วมในกำรทำ CPR ทุกคนให้สำมำรถติดตำมได้ง่ำย กรณีผล COVID-19 พบเชื้อ ภำยหลัง ขัน้ ตอนกำรทำ Resuscitation ในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ : เมื่อพบผปู้ ว่ ยหมดสติไมต่ อบสนอง ใหป้ ฏบิ ัติดังตอ่ ไปนี้ 1. Sudden Arrest ในผ้ปู ่วยที่ยงั ไม่มี Endotracheal Tube ผเู้ ข้ำช่วยเหลือผปู้ ว่ ย - แนะนำให้สวมชุดป้องกัน PPE ให้เหมำะสม โดยมีอุปกรณ์อย่ำงน้อยดังต่อไปน้ี ได้แก่ N95 Respirator / Face Shield ± Goggle / Gloves / หมวกคลุมผมชนิดกันนำ้ / เส้ือกำวน์กันน้ำแขนยำวถงึ ขอ้ มอื - ตะโกนขอควำมชว่ ยเหลอื Activate Team CPR - ประเมินผู้ป่วยโดยคลำชีพจรภำยใน 5-10 วินำทีว่ำคลำได้ ชัดเจน หรือไม่ พร้อม ๆกับ มองดูว่ำมีกำร หำยใจหรอื ไม่ หรือมเี พยี งกำรหำยใจเฮอื ก - ถำ้ มี Defibrillator พรอ้ มใชง้ ำน ใหต้ ิด Adhesive Pads - ถำ้ เปน็ VF หรอื pulseless VT ให้รบี ทำ Defibrillation 1 คร้ัง จำกนัน้ กดหน้ำอกตอ่ ทนั ที ตำม Standard Guidelines - ประเมนิ ผ้ปู ่วยทกุ 2 นำที จนกว่ำทีม CPR จะมำถึง - ถ้ำ Defibrillator ไม่พร้อมใช้งำน หรือผู้เข้ำช่วยเหลือผู้ป่วยไม่สำมำรถใช้เครื่องได้ ให้นำ Automated CPR ตอ่ เข้ำกับผู้ป่วย และกดเคร่ืองเพ่ือเร่มิ กำรทำงำนทนั ที บทบำทและหนำ้ ทีข่ องทมี CPR : - ทมี CPR ควรใส่ชุดปอ้ งกนั Full PPE กอ่ นเขำ้ ช่วยเหลอื ผู้ปว่ ย - เม่ือทมี CPR มำถงึ ให้ผู้เข้ำช่วยเหลอื ผ้ปู ่วย รำยงำนข้อมูลและส่งต่อผปู้ ่วยใหท้ มี CPR แล้วออกจำก พื้นทไี่ ป เพื่อ Decontamination ตนเอง
23 - Team role 1 : Airway management - ทำ Airway and Breathing Assessment โดยตรวจสอบว่ำ Endotracheal Tube อยู่ในตำแหน่ง ท่ีถูกตอ้ ง และ Ventilator ทำงำนได้อยำ่ งปกติ - แนะนำให้ใช้ Capnography ตำม Standard Guidelines - แนะนำ Ventilator setup : FiO2 1.0 ระหว่ำง CPR สำหรับ Parameter อ่ืน ให้ข้ึนกับดุลยพินิจ ของแพทยผ์ รู้ กั ษำ - กรณี Ventilator มีปัญหำ อนุโลมให้ใช้ Self-Inflating Bag โดยต่อ HEPA filter ที่ปลำย Endotracheal Tube และช่วยหำยใจ Rate 10 /min, บบี ด้วย Tidal Volume น้อยท่สี ุดท่ที ำให้เห็นหน้ำอก ขยบั ระหว่ำงรอกำรแกไ้ ข และรบี ตอ่ ventilator ให้เร็วทีส่ ุด - Team role 2 : Defibrillation - แนะนำใหร้ ีบติด Adhesive pads และเปิดใช้งำน Defibrillator ทันที - ข้อบง่ ช้แี ละปรมิ ำณพลงั งำนไฟฟ้ำ ยึดตำม Standard TRC Guidelines ปจั จบุ ัน - Team role 3 : Chest compression - ให้ทำ High-Quality Chest Compression ตำม Standard TRC Guidelines ปัจจุบัน โดยใช้ Mechanical Chest Compression Device - Team role 4 : Team leader / IV medication / code recorder - ใหก้ ำรรกั ษำตำม Standard TRC Guidelines Pulseless Arrest ปจั จุบัน - ให้มีบุคลำกรในทีม CPR น้อยที่สุดเท่ำท่ีจำเป็นต่อกำรปฏิบัติงำน เพื่อลดโอกำสสัมผัสเช้ือของ บุคลำกร โดยได้กำหนดไว้ 4 คน ได้แก่ - แพทย์ 1 คน - พยำบำล 3 คน คนที่ 1 ดูแลเครอื่ ง Mechanical Chest Compression Device คนที่ 2 IV medication คนท่ี 3 code recorder
24 แนวทำงกำรจดั ทำ่ นอนควำ่ เพอ่ื กำรบำบดั (Prone Position) 1. ในกำรจดั ท่ำนอนคว่ำเพอ่ื กำรบำบดั (Prone Position) เพื่อควำมปลอดภยั ควรใชบ้ คุ คลำกรอยำ่ งน้อย 5 คน 2. เมื่อมีคำส่ังกำรรักษำให้ทำ “ Prone Position” ให้หัวหน้ำทีมพยำบำลประเมินสภำพผู้ป่วยและ เตรียมควำมพร้อมของทีมกำรพยำบำล จำกน้ันขำนตำแหน่งเตียงและเวลำทำ Prone Position แก่ ทีมกำรพยำบำล โดยขำนว่ำ เตียง….ทำ Prone Position เวลำ… ท้ังน้ีเพื่อให้สมำชิกทีมแต่ละทีมได้มี เวลำจัดบุคลำกรเพ่ือทำ Prone Position พยำบำลเจ้ำของไข้ประเมินสภำพผู้ป่วยและจัดอุปกรณ์ ต่ำงๆให้เรียบร้อย (ประเมินควำมยำวของสำยน้ำเกลือต่ำง ๆ หำกสำยสั้นให้ทำกำรต่อสำยให้มีควำม ยำวเหมำะสม ตรวจสอบที่ยึดท่อช่วยหำยใจให้แน่นหนำ ดูดเสมหะและน้ำลำยให้เรียบร้อย เตรียม red dot เตรยี มผำ้ ทีส่ ำหรับใช้เล่ือนตัวผ้ปู ่วยใหอ้ ยูใ่ นทำ่ นอนควำ่ และถอดหวั เตียง ) 3. เมื่อถึงเวลำทีก่ ำหนดใหส้ มำชกิ ทมี ที่ได้รบั มอบหมำยมำยังเตียงผปู้ ่วย โดยกำหนดให้ 3.1 แพทย์อยู่ตำแหน่งที่ 1 ทำงศีรษะของผู้ป่วยทำหน้ำท่ียึดท่อช่วยหำยใจขณะทำกำรเปล่ียนท่ำ ผูป้ ว่ ย 3.2 สมำชกิ ทมี ท่ีเหลืออกี 4 คน ยนื อยู่ข้ำงผปู้ ่วยฝ่งั ละ 2 คน (ดงั รปู ) ภำพแสดงตำแหน่งของแพทยแ์ ละพยำบำลผูร้ บั ผิดชอบร่ำงกำยและอปุ กรณข์ องผ้ปู ว่ ยในระหว่ำงกำรทำ Prone position - RN 1 ยืนอยู่ตำแหน่งที่ 2 บริเวณแขนของผปู้ ่วยข้ำงท่ีใส่ Central line ทำหน้ำที่ตรวจสอบกำรผูก ยดึ สำย Central line ตรวจสอบควำมยำวของสำยให้ IV ว่ำจะมกี ำรดึงร้ังหรอื ไมท่ ำกำรต่อสำยให้ IV ใหม้ คี วำม ยำวเหมำะสมรวมทั้งกำรตรวจข้อต่อ T way ให้แน่นหนำ ทำหน้ำท่ีประคองแขนและไหล่ของผู้ป่วยขณะที่ เปลย่ี นท่ำผูป้ ว่ ย - RN 2 ยืนอยู่ตำแหน่งท่ี 3 บริเวณขำของผู้ป่วยข้ำงท่ีใส่ Central line ทำหน้ำท่ีตรวจสอบสำยสวน ปัสสำวะหรือ drain ต่ำงๆ ทำกำร clamp สำยสวนปัสสำวะหรือสำย drain รวมทั้งจัดวำงสำยสวนปัสสำวะ หรือสำย drain ในตำแหน่งที่เหมำะสมก่อนทำกำรเปล่ียนท่ำผู้ป่วย ระหว่ำงกำรเปลี่ยนท่ำทำหน้ำที่ประคอง สะโพกและขำของผูป้ ว่ ย - RN 3 ยืนอยู่ตำแหน่งท่ี 4 บริเวณแขนข้ำงท่ีมี Monitor และ Ventilator ให้ทำหน้ำที่ย้ำยสำย EKG มำยังตำแหน่งหัวไหล่ทั้งสองข้ำงและต้นขำซ้ำยด้ำนนอกเพื่อจะได้ไม่กดทับเมื่อผู้ป่วยนอนคว่ำ รวมท้ัง
25 ตรวจสอบควำมยำวของ Circuit ventilator ทำหนำ้ ที่ประคองสำย Circuit ventilator ระหว่ำงทำกำรเปล่ียน ทำ่ ผูป้ ่วย - PN 1 ยืนอยู่ตำแหน่งท่ี 5 ทำหน้ำท่ีตรวจสอบอุปกรณ์ในกำรเปลี่ยนท่ำผู้ป่วย ได้แก่ ผ้ำขวำง 2 ผืน และหมอน 3 ใบ ระหว่ำงกำรเปลีย่ นท่ำทำหนำ้ ท่ปี ระคองสะโพกและขำของผู้ป่วย 4. หวั หน้ำทมี ขำน “Check patient” ใหส้ มำชกิ แต่ละคนตรวจสอบควำมเรยี บรอ้ ยในเขตรับผดิ ชอบของ ตนเองเม่ือเรียบร้อยดีให้ขำน “OK” โดยขำนเรียกดังนี้ “Tube OK , Line OK ,Monitor OK, Drain OK” เมื่อทกุ อยำ่ งเรียบรอ้ ย ใหด้ ำเนินกำรในลำดับถัดไป 5. หัวหน้ำทีมขำน “Prepare prone position” เพื่อทำกำรจัดท่ำนอนคว่ำในลำดับถัดไปให้สมำชิกทีม จัดท่ำผู้ป่วยให้แขนแนบลำตัว ปูผ้ำคลุมบนร่ำงกำยผู้ป่วย จำกน้ันนำหมอนหรือผ้ำห่มมำวำงบน ร่ำงกำยผู้ป่วยในตำแหน่งหนำ้ อก หน้ำท้อง สะโพก จำกน้ันคลุมผ้ำอีกชั้นบนผำ้ ห่มหรือหมอน ม้วนผ้ำ มำแนบลำตวั ผูป้ ว่ ยเพ่ือช่วยในกำรยำ้ ยตวั ผู้ปว่ ย 6. หัวหน้ำทีมขำน “Slide right/left” เพ่ือทำกำรเลื่อนตัวผู้ป่วยโดยยึดทิศทำงกำรเล่ือนผู้ป่วยตำมกำร on ventilator (ใหเ้ ล่ือนผปู้ ว่ ยไปดำ้ นตรงข้ำมกบั ventilator กอ่ น) 7. หัวหนำ้ ทมี ขำน “Tune right/left” เพื่อทำกำรพลิกตัวผู้ป่วย เมือ่ คว่ำผปู้ ว่ ยเสร็จสน้ิ แล้วให้ตรวจสอบ อำกำรของผปู้ ว่ ยและควำมเรยี บรอ้ ยของอุปกรณ์ตำ่ ง ๆอีกคร้งั 8. ลงบนั ทึกในแบบบันทึกกำรนอนคว่ำเพ่ือกำรบำบดั (Prone Position) แบบบนั ทกึ กำรนอนควำ่ เพอ่ื กำรบำบดั (Prone Position) NAME ……………………….AGE… DATE HN………................. Dx. Time to turn potition …………………. ……….Min. ………..Min. ……….Min. ……….Min. Prone position………………………….. Y YN Y Y Supine position…………………………. N N N Complication………………………… Y YN Y Y N N N Unstable hemodynamics……………… Y YN Y Y Displacement tube……………………. N N N Displacement line…………………….. Y YN Y Y N N N Y YN Y Y N N N Y YN Y Y N N N
26 Checklist ผปู้ ว่ ยกอ่ นกำรทำ Prone positioning อุปกรณช์ ว่ ยชวี ิต อุปกรณใ์ ส่ tube ในกรณี tube เลอ่ื นหรือหลดุ (Emergency cart) ควำมยำวของ corrugate tube ของเครื่องช่วยหำยใจท่ีควรยำวพอในกำรทำ prone positioning (ยำว เทำ่ กบั ควำมกวำ้ งของเตียงผู้ป่วย) Remove อปุ กรณใ์ นปำกไดแ้ ก่ oropharyngeal airway device Suction ผู้ป่วยให้เรียบร้อย (ใช้ close suction) และตรวจสอบตำแหน่งของ ET tube fixed tube ให้ มัน่ คง และดูแล cuff pressure Pre-oxygenate ดว้ ย กำรเพิม่ FiO2 เป็น 100% ประมำณ 10 นำทกี อ่ นทำ Dressing ตำ และสว่ นของร่ำงกำยทจ่ี ะเกิดแผลกดทบั ได้แก่ ปลำยคำง iliac crest และหวั เขำ่ (ดูแลดวงตำ และผวิ หนงั ดวงตำควรปดิ ตำตลอดเวลำเพื่อไม่ให้เกดิ cornea ulcer ผิวหนงั ปอ้ งกันกำรเกดิ แผลกดทับ ได้แก่ ปลำยคำง หน้ำอก iliac crest และหัวเขำ่ ทำสำรใหค้ วำมชุ่มชน่ื บริเวณหนำ้ Check สำยต่ำง ๆ เช่น arterial line, central line, intercostal chest drain ตำแหน่งของ infusion pump ควำมยำวของสำยต่ำง ๆ ให้ยำวพอในกำรพลกิ ท่ำควำ่ สำยและท่อท่ีไม่จำเป็นให้ปลดออกช่ัวครำวและปิดไว้ เช่นสำย CVP ,IV line drip antibiotic or KVO, non-invasive BP ตดิ electrode ท่แี ขนทง้ั สองข้ำง Check NG tube และ NPO อยำ่ งนอ้ ย 2 ชวั่ โมง ก่อนกำรจัดท่ำนอนคว่ำ ดแู ลใหผ้ ปู้ ่วยได้รบั ยำกลอ่ มประสำท ยำลดควำมปวดและยำกดเสน้ ประสำทอย่ำงเพยี งพอ เตรียมอุปกรณห์ มอนในกำร support ชว่ งทอ้ งพน้ จำกพื้นที่นอนในท่ำนอนคว่ำ
27 แนวทำงกำรจดั กำรศพผปู้ ว่ ยตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (Covid-19) เม่ือแพทย์ท่ีรักษำผู้ป่วยติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 ลงควำมเห็นว่ำผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว ให้แจ้งญำติ รับทรำบ เพ่ือมำติดต่อดำเนินกำรแจ้งตำยตำมระเบียบของโรงพยำบำล และรับศพไปประกอบพิธีกรรมทำง ศำสนำต่อไป ซ่ึงแนวทำงกำรจัดกำรศพตำมแนวทำงกำรจัดกำรศพท่ีติดเชื้อหรือสงสัยว่ำติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 กองบริหำรกำรสำธำรณสขุ (กบรส.) สำนกั งำนปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ มีดังน้ี 1. โทรศัพท์แจ้งเจ้ำหน้ำท่ีห้องศพทรำบเพื่อให้มำทำกำรเก็บศพ ระหว่ำงท่ีรอเจ้ำหน้ำที่ห้องศพให้ เจ้ำหนำ้ ที่ ICU สวมชุด PPE (ดังเอกสำรแนบ 1 และ 2 กำรเตรยี มบคุ ลำกรและวัสดุอปุ กรณส์ ำหรบั กำรจัดกำร ศพติดเช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019) ทำควำมสะอำดรำ่ งกำยศพ (เชน่ เดยี วกบั กำรเชด็ ตัวบนเตียง) 2. ถอดอปุ กรณท์ ่ีตดิ อยู่กบั ศพออกและท้ิงลงถงั ขยะติดเชื้อ ไม่ควรถอดอปุ กรณท์ ำงกำรแพทย์ท่สี มั ผัส กั บ ส ำ ร คั ด ห ลั่ ง จ ำ ก ท ำ ง เ ดิ น ห ำ ย ใ จ อ อ ก จ ำ ก ศ พ เ ช น Endotracheal tube, Nasogastric tube, Oropharyngeal airway (ยกเว้นในกรณีที่มีควำมจำเป็นตองเก็บสำรคัดหลงั่ ท่ีปนเป้ือนอุปกรณ์ทำงกำรแพทย์ น้ัน ๆ เพ่ือสงตรวจจยืนยันเช้ือสำมำรถถอดอุปกรณ์ดงั กล่ำวได้และนำสงตำมแนวทำงกำรเก็บส่ิงสงตรวจของห องปฏบิ ตั กิ ำร) 3. ใช สำลีก้อนชุบ 0.5%Hypochlorite solution อุดในรูจมูก ช องปำก และปลำยท่อของ Endotracheal tube และ Oropharyngeal airway รวมทั้งผูกมัดสำย Nasogastric tube เพื่อปองกันกำร ไหลของสำรคัดหลั่งออกมำเปรอะเป้ือนในขณะทำกำรยกศพใสถุงศพ แล้วสวมชุดที่ญำติจัดเตรียมไว้ให้และ ตรวจสอบควำมเรยี บร้อยอกี ครง้ั กอ่ นบรรจุศพลงถงุ ศพ 4. เจ้ำหน้ำท่ีห้องศพให้ใส่ชุด PPE และเตรียมถุงบรรจุศพ (ดังเอกสำรแนบ 1 และ 2 กำรเตรียม บุคลำกรและวัสดุอุปกรณ์สำหรับกำรจัดกำรศพติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019) และบรรจุศพใส่ถุงศพ โดยปฏิบัติ ตำมแนวทำงกำรบรรจุศพอย่ำงเคร่งครัดทุกขั้นตอน (ตำมเอกสำรแนบ 3 ขั้นตอนกำรบรรจุศพใส่ถุงศพกรณี เสียชีวติ ในโรงพยำบำล) 5. ไม่ควรปิดถุงบรรจุศพอีกหลังกำรเก็บศพ เพ่ือปองกันกำรแพรกระจำยของเชื้อโรคจำกกำรสัมผัส สำรคัดหล่ังจำกทำงเดนิ หำยใจของผู้ตำย 6. ไม่มีกำรอำบนำ้ ศพ ไม่รดนำ้ ศพ และไมฉ่ ดี ยำรักษำสภำพศพ 7. มอบให้ญำติไปดำเนินกำรตำมพิธีกรรมทำงศำสนำโดยไม่มีกำรเปิดถุงศพอย่ำงเด็ดขำด ซ่ึงสำมำรถ ใชได้ท้ังวิธีกำรเผำศพและกำรฝงศพ ทั้งนี้ใหคำนึงถึงควำมเชื่อและประเพณีตำมศำสนำของผู้เสียชีวิต (ตำม เอกสำรแนบ 4 คำแนะนำสำหรับญำตผิ ู้เสียชวี ติ และผู้ปฏิบัตงิ ำนในกำรประกอบพธิ ที ำงศำสนำ) 8. เจำหนำที่เข็นรถเข็นศพ เจำหนำที่เคลื่อนย้ำยศพ ผู้ปฏิบัติงำนอื่น ๆ และญำติผู้ตำยสำมำรถ สัมผัสถุงศพภำยนอกท่ีผ่ำนกำร decontamination มำแลว โดยใสถุงมือแบบใชแลวทิ้งและไม่ต้องสวมชุด PPE หมำยเหตุ : ผู้ปฏบิ ตั งิ ำนตองสวมชดุ PPE ขณะทำงำนตลอดเวลำ และถอดชดุ ออกทนั ทีหลังเสรจ็ สิ้นกำรจัดกำร ศพ : ผู้ปฏบิ ตั ิงำนควรเคยผ่ำนกำรอบรมกำรใสและถอดชดุ PPE และกำรจดั กำรศพติดเช้ือมำก่อน
28 เอกสำรแนบ 1 ตำรำงกำรเตรยี มบคุ ลำกรสำหรบั กำรจัดกำรศพตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 ทมี จดั กำรศพตดิ เชอ้ื จำนวน หนำท่ี กำรสวมใสอปุ กรณปองกนั สวนบคุ คล อันตรำย (คน) (PPE) หัวหนำทีม 1 - ควบคมุ ขน้ั ตอนกำรเก็บ ชดุ scrub + Surgical mask + Shoe ศพใหเป็นไปตำมแนวทำง cover - ตรวจสอบกำรใสและถอด ชุด PPE ของสมำชิกในทีม เจำหนำท่บี รรจศุ พ 2-3 - ยกศพและบรรจุศพใสถงุ ชดุ scrub + Surgical cap + Face ศพ shield/Goggles + Surgical mask - เช็ดนำ้ ยำฆ่ำเชอื้ ภำยนอกถงุ + Coverall or Long-sleeve ศพ impermeable gown + Double gloves + Boot + Boot cover เจำหนำท่ฆี ่ำเชอ้ื 1 - เชด็ น้ำยำฆำ่ เชอ้ื รถเข็นศพ ชดุ scrub + Surgical cap + Face - สงอปุ กรณสำหรับกำรฆำ่ shield/Goggles + Surgical mask เชอ้ื ภำยนอกถุงใหเจำหนำท่ี + Coverall or Long-sleeve บรรจศุ พ impermeable gown + Double - กด/บีบแอลกอฮอล์ล้ำงมอื gloves + Boot + Boot cover ใหเจำหนำที่คนอื่น เจำหนำทเี่ กบ็ สิง่ 1 - เก็บตัวอยำ่ งสิ่งสงตรวจเพื่อ ชดุ scrub + Surgical cap + Face สงตรวจ ยนื ยันเชือ้ (กรณีที่จำเป็น) shield/Goggles + Surgical mask* (กรณที ีจ่ ำเป็น) - ชว่ ยสอดถุงศพใบแรกลอด + Coverall or Long-sleeve ใตศพ ขณะเจำหนำท่บี รรจุ impermeable gown + Double ศพยกศพลอยขนึ้ จำกเตียง gloves + Shoe cover *เปลยี่ นเป็น ผ้ปู ว่ ย N95 mask กรณเี ก็บ Tracheal suction หรอื ทำ Lung necropsy หมำยเหตุ: กรณีหัวหนำทีมเป็นแพทย์และจะเป็นผู้เก็บส่ิงส่งตรวจเอง ใหสวมใสอุปกรณ์ปองกันสวนบุคคล เหมอื นเจำหนำท่ีเกบ็ สงิ่ สงตรวจ
29 ชดุ scrub เอกสำรแนบ 2 กำรเตรียมวสั ดุอปุ กรณ์สำหรบั กำรจดั กำรศพตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 อุปกรณป์ องกนั รำ่ งกำยสวนบคุ คล (PPE) ชุดคลมุ ทั้งตัวหรอื ชุดกำวนยำวคลุมแขน (Coverall or Longsleeve impermeable gown) กระบงั หนำแบบใส หนำกำกอนำมัย (Face shield) (Surgical mask) แวน่ ตำปองกนั แบบใส หนำกำก N95 (N95 (Goggles) particulate mask) หมวกคลมุ ผม ถุงมือยำงธรรมชำติ (Surgical cap) (Disposable rubber gloves) ถงุ มือยำงสังเครำะห์ รองเทำบูทยำง แบบยำวคลุมแขน (Rubber boot) (Longsleeve synthetic rubber ถุงคลุมรองเทำบูท gloves) (Boot cover) ถุงคลมุ รองเทำ (Shoe cover)
30 ถงุ บรรจศุ พ (Body bag) และวสั ดทุ ่ีใชในกำรบรรจศุ พ กรณีใชถงุ บรรจุศพ - ถงุ มซี ปิ ตัวยูด้ำนบนหรือ ตำมทองตลำดทว่ั ไป ดำนขำ้ ง (Commercial - หนำอยำ่ งนอ้ ย 150 body bag) ไมครอน หรอื 6 มิล (mil) จำนวน 2 ถงุ ตอศพ - เชือ่ มรอยต่อขอบถุงด้วย ควำมรอ้ น กรณีใชถงุ บรรจุศพ - ถงุ มซี ปิ ตวั ยดู ้ำนบน แบบมำตรฐำน - หนำอย่ำงน้อย 450 (OSHA standard ไมครอน หรอื 18 มิล (mil) body bag) - มีหจู บั ยกอย่ำงน้อย 4 หู จำนวน 1 ถงุ ตอศพ - เช่ือมรอยต่อขอบถุงด้วย ควำมร้อน สำยเคเบลิ้ คลองซปิ ปำ้ ยสัญลกั ษณ (Zip tie) แสดงวัตถอุ ันตรำย ทำงชวี ภำพ (Biohazard tag)
31 เอกสำรแนบ 3 ข้ันตอนกำรบรรจุศพใสถงุ ศพ กรณเี สยี ชวี ติ ในโรงพยำบำล
32 เอกสำรแนบ 4 คำแนะนำสำหรบั ญำตผิ เู้ สยี ชวี ติ จำกโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 และผปู้ ฏบิ ตั งิ ำนในกำรประกอบพธิ ที ำงศำสนำ ศพผู้ตำยได้รับกำรบรรจุใสถุงศพ และผนกำรทำควำมสะอำดฆ่ำเชื้อภำยนอกถุงศพตำมมำตรฐำนทำง กำรแพทยเ์ พื่อปองกนั กำรแพรกระจำยของเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ทอี่ ยู่ในสำรคดั หล่ังจำกทำงเดินหำยใจของ ผู้ตำย ญำติผู้เสียชวี ิตและผู้ปฏบิ ัติงำนในกำรประกอบพิธีทำงศำสนำ สำมำรถสัมผัสถุงศพภำยนอกที่ผ่ำนกำรทำ ควำมสะอำดฆ่ำเชื้อมำแลว โดยใสถุงมือยำงแบบใชแลวท้ิงชั้นเดียว และไม่มีควำมจำเป็นตองสวมใสอุปกรณ์ ปองกันชนิดอื่นอีก อย่ำงไรก็ตำมไม่แนะนำใหสัมผัสถุงศพถำไม่จำเป็น เพ่ือปองกันอันตรำยจำกกำรสัมผัสกับ เชือ้ โรคอ่นื ๆ และน้ำยำฆ่ำเชอ้ื ทเ่ี ปือ้ นอย่ดู นนอกถุงซึ่งอำจทำใหเกิดกำรระคำยเคืองตอผวิ หนัง ห้ำมเปิดถงุ บรรจุศพเพื่อดศู พ รดนำ้ ศพ ทำควำมสะอำดศพ เปล่ียนเส้ือผำ ฉีดนำ้ ยำรักษำสภำพศพ หรือ ประกอบพธิ ีทำงศำสนำอืน่ ๆ กำรเปิดถงุ บรรจุศพอำจทำใหเกิดกำรแพรกระจำยเช้ือโรคจำกกำรสัมผัสสำรคัด หลั่งของผู้ตำย และถึงแม้จะมีกำรนำศพกลับไปบรรจุในถุงเดิมหลังนำศพออกมำ กำรปนเปื้อนเชื้อโรคก็จะยัง พบได้บรเิ วณภำยนอกถงุ ศพ สำมำรถใชวิธีกำรเผำศพหรือกำรฝงศพสำหรับผู้เสียชีวิตท่ีตรวจพบกำรติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 ก็ได้ ทง้ั นใ้ี หคำนงึ ถงึ ควำมเชอื่ และประเพณีตำมศำสนำของผู้เสียชีวิต กำรจัดตงั้ ศพเพอื่ ประกอบพธิ ีทำงศำสนำสำมำรถกระทำได้ตำมปกติ อย่ำงไรกต็ ำมแนะนำใหทำกำรเผำศพ หรือฝงศพโดยเร็ว เนื่องจำกศพไม่ได้ผ่ำนกำรฉีดน้ำยำรักษำสภำพศพ ทำใหศพมีกำรเปลี่ยนแปลงสภำพได้เร็ว และอำจทำใหเกดิ กำรร่ัวซึมของของเหลวท่เี กิดจำกกำรเนำ กำรเกบ็ เถ้ำกระดกู สำมำรถกระทำไดต้ ำมปกติ เนอื่ งจำกเชือ้ ไวรสั ถกู ทำลำยด้วยอณุ หภูมทิ สี่ ูงไปหมดแลว ปฏิบตั ติ ำมคำแนะนำของเจำพนกั งำนควบคุมโรคตดิ ตอหรือเจำหนำทสี่ ำธำรณสุขในพื้นท่ีอย่ำงเคร่งครัด คำแนะนำแนวทำงกำรจดั กำรศพมสุ ลมิ ทเี่ สยี ชวี ติ จำกโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 1. หำ้ มญำตผิ ู้เสียชวี ิตและผู้มำเยีย่ ม สัมผัสหรอื จูบศพ (มัสยิด) 2. ใหบุคคลท่ีเป็นมุสลิมทำกำรตะยัมมุมแทนกำรอำบน้ำศพ ในหองปลอดเช้ือหรือสถำนท่ีที่จัดเตรียมไว เฉพำะ โดยผู้ทำหนำที่ตะยัมมุม สวมชุด PPE เหมือนกับเจำหนำท่ีเก็บสิ่งสงตรวจ (เอกสำรแนบ 1 กำรเตรียมบุคลำกรสำหรับกำรจัดกำรศพติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019) หำกเป็นไปได้ผู้ทำหนำท่ีตะยัม มมุ ควรเป็นบุคลำกรทำงสำธำรณสุขท่ีเคยผ่ำนกำรอบรมกำรใสและถอดชดุ PPE มำกอ่ น 3. ข้ันตอนกำรตะยัมมุมเป็นดังน้ี 1) ใหผู้ทำตะยัมมุมตั้งเจตนำ (เนียต) วำ “ข้ำพเจำต้ังใจตะยัมมุมแทนกำรอำบน้ำใหแกศพน้ี เพ่อื อัลลอฮ์ ตะอำลำ” โดยใหเนยี ตขณะยกฝำมือข้ึนหลังจำกตบฝุ่นแลว 2) ใชฝำมือท้ังสองขำ้ งตบฝุ่นคร้ังทห่ี นึ่ง เพื่อลบู บริเวณใบหนำศพ 3) ใชฝำมอื ทั้งสองข้ำงตบฝุ่นครั้งท่ีสอง แลวใชฝำมือขวำลบู มือขวำของศพถงึ ข้อศอกหลังจำกน้ัน ใชฝำมอื ซ้ำยลูบมือซำ้ ยของ ศพจนถงึ ขอ้ ศอกหรืออย่ำงนอ้ ยท่ีสุดลบู ใหถึงข้อมือทั้งสองข้ำง 4. หำกกำรสัมผสั ศพโดยตรงนั้นไมป่ ลอดภัยตอผู้ปฏิบัติงำนหรือผู้ทำตะยัมมุม อนุญำตใหทำตะยัมมุมบน ถุงบรรจุศพโดยไม่ตองแกะถุงออก และใหปฏิบัติตำมขั้นตอนที่ระบุในขอที่ 3 กำรทำตะยัมมุมบนถุง
33 บรรจุศพที่ผ่ำนกำรทำควำมสะอำดฆ่ำเช้ือแลวใหผู้ทำตะยัมมุมสวมใสหนำกำกอนำมัยและถุงมือแบบ ใชแลวท้ิงชน้ั เดยี ว โดยไม่ตองสวม PPE เตม็ ชดุ 5. หลงั กำรตะยมั มุมใหปิดถุงบรรจศุ พโดยถือเอำถุงบรรจุศพเปน็ กะฝน ขนั้ ตอนกำรบรรจศุ พและทำควำม สะอำดฆ่ำเชื้อภำยนอกถุง บรรจศุ พใหกระทำเหมือนกับกำรขน้ั ตอนกำรบรรจศุ พติดเช้อื ตำมปกติ 6. ใหผู้ทำหนำท่ตี ะยมั มมุ ทำกำรละหมำดใหแกศพ ณ สถำนทน่ี ั้น ก่อนกำรเคลือ่ นย้ำยศพ 7. กรณผี ู้ทำตะยัมมุมได้ละหมำดญะนำซะหใหแกศพแลว ใหรีบนำศพไปฝงทีส่ ุสำน (กุโบร) ทันที 8. หำกยังมิได้ละหมำดญะนำซะหใหแกศพใหญำติของผู้เสียชีวิต (เฉพำะญำติใกลชิดเทำนั้น) ละหมำดที่ สุสำนโดยใหผู้ร่วมละหมำด ปองกันตนเองโดยกำรสวมใสหนำกำกอนำมัยหรือหนำกำกผำ และเว้น ระยะห่ำงระหวำ่ งกัน 2 เมตร 9. ใหฝงศพผู้เสียชีวติ ในทำนอนตะแคงขวำหนั หนำไปทำงทิศกิบลัต (ทิศตะวนั ตก) กรณีไม่มีบุคลำกรหรือแพทย์มุสลิม ขอใหทำงโรงพยำบำลหรือญำติของผู้เสียชีวิตติดตอคณะกรรมกำร อิสลำมประจำจังหวัดหรืออิหม่ำมในพ้ืนท่ีของผู้เสียชีวติ มำรับศพไปจัดกำรละหมำดและฝงทันที โดยใหปฏิบตั ิ ตำมคำแนะนำของเจ ำหน ำที่สำธำรณสุขอย่ำงเคร่งครัดจนกำรฝ งแลวเสร็จ ทั้งนี้หำกจังหวัดใดไม่มี คณะกรรมกำรอิสลำมประจำจังหวัด ใหโรงพยำบำลหรือญำติของผู้เสียชีวิตติดตอมำยังสำนักจุฬำรำชมนตรี ห ม ำ ย เ ล ข โ ท ร ศั พ ท์ 02- 9494278, 02- 9494288, 02- 9494312- 3, 094- 5535655, 089- 6353554 เพ่ือ ประสำนงำนในสวนทเ่ี ก่ยี วของตอไป
34 เอกสำรอำ้ งองิ กองบริหำรกำรสำธำรณสุข (กบรส.) สำนกั งำนปลดั กระทรวงสำธำรณสขุ . (2563). แนวทำงกำรจัดกำรศพที่ ติดเช้ือหรือสงสัยวำตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 Guidance for Handling of Human Remains of Confirmed or Suspected COVID 2019. สืบคน้ จำก https://covid.saraburi.go.th/ กรมกำรแพทย์กระทรวงสำธำรณสขุ ร่วมกับ คณำจำรย์ผเู้ ชยี่ วชำญจำกคณะแพทยศำสตรม์ หำวิทยำลัยต่ำง ๆ. (2563). แนวทำงกำรดูแลผปู้ ว่ ยฉกุ เฉนิ ในสถำนกำรณก์ ำรระบำดของ COVID-19. สบื คน้ จำก https://covid19.dms.go.th/Content/Select_Landding_page?contentId=69 คณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชวี ิต สมาคมแพทย์โรคหวั ใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. (2563). แนวทำงปฏิบัติกำรชว่ ยชีวิต สำหรับบุคลำกรทำงกำรแพทย์ ในช่วงสถำนกำรณ์ COVID-19. สืบค้น จำก:https://tinyurl.com/u2l89g8. สมำคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย. (2563). แนวทำงปฏบิ ตั ใิ นกำรดแู ลรกั ษำผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 ชนดิ รนุ แรง. สืบคน้ จำก https://r8way.moph.go.th/r8wayadmin/page/ uploads_file/20200401104854_6%20TSCCM%20guidelines%20on%20severe%20COVI D-19%20MARCH%2022%202020.pdf สำนักงำนป้องกนั ควบคุมโรคตดิ เช้ือและเชื้อดอื้ ยำในโรงพยำบำล สถำบันบำรำศนรำดรู . (2563). ข้อแนะนำ แนวปฏบิ ตั กิ ำรป้องกนั และควบคมุ โรคตดิ เช้ือ กรณีโรคโคโรนำไวรสั สำยพนั ธใ์ุ หม่ 2019 (Novel Corona virus: nCoV) (ฉบับวนั ท่ี 3 กมุ ภำพนั ธ์ 2563). สบื คน้ จำก http://www.kkpho.go.th/i/index.php /component/attachments/download/7977 D’Silva, D.F, McCulloch, T.J, Lim, J.S, Smith, S.S, Carayannis, D. (2020). Extubation of patients with COVID-19. Br J Anaesth Advance Access; 125: e192e5
35 นโยบำย/แนวทำงต่ำง ๆของโรงพยำบำล https://www.hospital.tu.ac.th/nursing/Covid-19/index.html แนวทำงปฏบิ ัติสำหรับบคุ ลำกรทำงกำรแพทย์โรงพยำบำลธรรมศำสตร์เฉลมิ พระเกยี รติ กรณีเตรยี มรับผูป้ ่วย โรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19) - ฉบับปรบั ปรุง 1 พฤษภำคม 2563 แนวทำงกำรตรวจทำงรังสวี นิ ิจฉยั COVID-19 แนวทำงปฏบิ ัตสิ ำหรับผ้ปู ่วยทีต่ ้องเข้ำรบั กำรผ่ำตัดแบบไม่รีบด่วนโดยมวี สิ ัญญีแพทยด์ แู ล แบบคัดกรองผู้ป่วยสงสัย PUI วิธกี ำรปฏบิ ัตเิ ม่ือได้รับส่งิ ส่งตรวจตดิ เช้อื อันตรำยสงู แนวทำงกำรรบั -ส่งผปู้ ว่ ยสงสยั ตดิ เชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 กำรให้บรกิ ำรตรวจทำงหอ้ งปฏิบัติกำรเทคนิคกำรแพทยผ์ ้ปู ่วยสงสัยติดเชอ้ื COVID-19 แนวทำงกำรส่งสิ่งส่ง ตรวจผปู้ ว่ ยสงสัย/ ตดิ เชอื้ COVID ห้องปฏบิ ัติกำร/ ห้องจุลชวี วทิ ยำ/ งำนธนำคำรเลือด แบบคดั กรองตัวเองเพื่อประเมินควำมเส่ียงในกำรแพร่เชอ้ื โคโรนำไวรัส 2019 แบบสอบถำมหลังปฏบิ ัติงำน เพ่อื ประเมินควำมเสย่ี งในกำรสัมผัสเช้ือ COVID-19 แผนผังวธิ ีปฏิบตั กิ ำรตรวจวเิ ครำะห์กำรเข้ำกนั ได้ของเลือดผู้ป่วย Patient Under Investigation (PUI) และ ผู้ปว่ ย COVID-19 (SARS-CoV2) ใบยนิ ยอมรับกำรตรวจหำสำรพนั ธกุ รรมเชอื้ ไวรัสโคโรนำ 2019 (SARS-CoV-2) ขน้ั ตอนกำรขอ Code ผู้ปว่ ยทส่ี งสยั เขำ้ ข่ำยเฝำ้ ระวังสอบสวน (PUI)
36 ภำพกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนจำลองสถำนกำรณเ์ สมือนจรงิ
37
38
39
40
41
42
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: