ความรู้เกียว กับโควิด และ การปฏิบัติตัว #หยุดการแพร่เชือ
คําแนะนาํ การปฏบิ ตั ิตวั สาํ หรับผู้ปวย COVID-19 หลังเเพทย์จาํ หนา่ ยให้กลบั ไปพั กฟนทีบา้ น 1.การดูเเลสขุ อนามยั ใหส วมหนา กากอนามยั หรือหนากากผา เมอ่ื ตองอยูรว มกบั ผูอ ่ืน 2. ลา งมือดวยสบูแ ละนํา้ เปน ประจาํ โดยเฉพาะหลังจากถายปส สาวะหรืออจุ จาระหรือถู มอื ดว ยเจลแอลกอฮอลก อ นและหลังสมั ผัสจุดเส่ียงท่มี ีผูอน่ื ในบา นใชร ว มกัน เชน ลกู บดิ ประตู ราวบนั ได มอื จบั ตูเยน เปนตน 3. ไมใ ชอุปกรณร ับประทานอาหารและเเกว น้าํ รว มกับผูอื่น 4. ด่มื น้าํ สะอาดใหเ พียงพอ รับประทานอาหารใหค รบถวนตามหลักโภชนาการ 5. หากมอี าการปว ยเกดิ ขนึ้ ใหมห รืออาการเดมิ มากขน้ึ เชน ไขส งู มาก ไอมาก เหน่อื ย แนน หนา อก หอบ หายใจไมส ะดวก เบือ่ อาหาร ใหรีบติดตอ สถานพยาบาล หากตอง เดนิ ทางมาสถานพยาบาล แนะนําใหส วมหนากากระหวา งเดินทาง ไมใชรถหรอื เรือ สาธารณะ ควรใชรถยนตส วนตัว หรอื ขอรถพยาบาลมารับ #หยุดการแพร่เชือ
Covid-19 คอื อะไร
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด - 19(COVID - 19) เปนโรคที่เกิดจากไวรัสในกลุมโคโรนาที่เพ่ิงมีการคนพบใหม (ไมเคยมี การพบการติดเชื้อในคนมากอน) โดยเร่ิมมีการระบาดตั้งเเตเดือน ธันวาคม 2562 เปนตนมา โดยเริ่มท่ีมณฑลหูเปย สาธารณรัฐประชาชน จีน และแพรระบาดไปหลายประเทศท่ัวโลก โดยไวรัสน้ีสามารถแพร กระจายจากคนสูคนผานทางการไอ จาม สัมผัสโดยตรงกับสารคัดหล่ัง เชน นา้ํ มูก นา้ํ ลาย โรคน้ีทาํ ใหเกิดอาการปวยในโรคระบบทางเดิน หายใจ ผูปวยจะมีอาการไข รวมกับ อาการทางเดินหายใจ เชน ไอ จาม มีน้ํามูก เหนื่อยหอบ เปนตน #หยุดการแพรเ่ ชือ
ระยะฝกตวั ของโรค ระยะฝกตัวของโรค หมายถงึ ระยะเวลาตงั้ เเตวนั ทม่ี กี ารตดิ เชอ้ื จนถงึ วนั ที่ เร่มิ มีการแสดงอาการของโรค คาดวาโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 มรี ะยะ ฝกตวั ของโรคใชเวลาประมาณ 1-14 วันโดยเฉล่ยี 5-6 วนั โดยสวนใหญผ ู ติดเช้อื จะแพรโ รคไดเ มอ่ื มอี าการและเเสดงตวั #หยุดการแพรเ่ ชือ
การจาํ กดั สถานทีใหผ้ ้ตู ้องสงสยั ว่าตดิ เชอื กักกันตนเองใช้เวลากีวนั ? โดยทว่ั ไป ใชเวลา 14 วนั ในการจาํ กดั สถานท่ใี หผูต อ งสงสัยในระยะ 1 ถึง 14 วันแรก ของระยะฟก ตัวใหอยใู นโรงพยาบาลหรอื สถานที่ที่อยูในความดแู ล ของกระทรวงหรอื แพทยท ่ไี ดรับมอบหมาย หากผูน นั้ ไมมีอาการใด ๆ(ไอหรอื ไข) และผลการตรวจดวยวิธี qRT-PCR จากสิ่งคัดหล่งั ในระบบหายใจใหผ ลลบ ก็ สามารถกลบั ไปอยูท ี่บา นได เพือ่ เพิม่ ความปลอดภยั ใหแกช ุมชน เมอื่ ผสู ัมผัส เชือ้ กลับไปอยทู ี่บา นหลงั 14 วันแลว ผูนน้ั ควรอยใู นบาน เขาไปในท่ีชมุ นมุ ชน ใหน อยทสี่ ดุ และเทา ท่จี ําเปน ใหส วมหนา กากอนามยั ถา ตองเขาไปในทชี่ มุ นุม ชนหรอื ขน้ึ รถโดยสารหรอื เขาไปในหา งสรรพสนิ คา หลังจาก 24 วนั แลว ยังไมม ี ไขห รือไอ ใหถอื วา ผนู ัน้ ไมแพรเ ชื้อและไมต ดิ เชอ้ื ไวรสั SARS-CoV-2
การดูแลรกั ษาผตู้ ิดเชือ โรคนคี้ ลา ยกบั ไขห วัดใหญ คอื ผูปวยสว นใหญ (ประมาณ รอยละ 80) มอี าการนอย และหายไดเ อง แตตอ งปฏิบัติตัวใหรา งกายไดซอมแซมตัวเอง 1. การรักษา 1.1 การรกั ษาทั่วไป: 1.พกั ผอ นทนั ทีทเ่ี ริ่มปว ย และพกั ผอนใหพ อ ใหรางกายอบอุน กนิ อาหาร และดื่ม น้ําใหเพียงพอ รกั ษาตามอาการ เชน ลดไข 2.ปรกึ ษาแพทย เพอ่ื การดูแลรกั ษา ถา เปนผูเสี่ยงตอ การท่จี ะปว ยรุนแรง เชน ผสู ูง อายุ ผูมีโรคประจ าตัว หญิงมีครรภ หรอื มีอาการหนกั 3.ผูปว ยท่มี ีอาการนอ ย สามารถรกั ษาตัวทบี่ า น ผปู วยท่มี ีอาการหนักตองรับการ รักษาในโรงพยาบาล ในระยะท่ผี ูตดิ เช้อื ยงั ไมมากเกินกาํ ลังควบคุมดูแล มีขอกาํ หนดใหรับผตู ิด เชอื้ ไวใ นสถานพยาบาลทัห้ มด เพื่อการดแู ลรกั ษาและปอ งกนั การแพรเ ช้อื 1.2 เฉพาะโรค: เรม่ิ มียาตานไวรสั ตอไวรสั ชนิดนีใ้ นข้ันทดลองในวงกวา งแลว 2. การปองกนั 1.ในระยะทคี่ วบคมุ การระบาด ตองรายงานเจาพนักงาน เมอ่ื มีผูติดเช้ือ 2.ปอ งกนั การแพรเ ช้อื ใหคนอนื่ ตามขอ แนะนาํ #หยุดการแพรเ่ ชือ
ภมู ติ า้ นทานหลงั ตดิ เชือ คนทีเคยตดิ เชอื ไวรัส COVID-19 แล้ว จะตดิ เชอื นอี กี ไหม ? แมว า จะยงั ไมม ขี อ มลู ทชี่ ดั เจนในเรอื่ งน้ี แตข อ มลู จากการตดิ เชอื้ โคโรนา ไวรสั อน่ื ทคี่ ลา ยคลงึ กนั เชน โรค SARS ในป 2545 และ MERS-CoV ในป 2557 ชแี้ นะวา ภมู ิ ตา นทานทเ่ี กดิ จากการตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา ไมใ ชภ มู ติ า นทานทจ่ี ะอยนู าน ไมน า จะมี การตดิ เชอ้ื ซํา้ ในระยะเวลาใกล ๆ เชน ภายใน1ป ทงั้ นก้ี ารสรา งภมู ติ า นทานตอ COVID-19 ยงั ไมเ ปน ทเ่ี ขา ใจดนี กั
การปองกนั การแพร่เชอื และการตดิ เชอื ลา งมอื ดว ยน้าํ และสบใู หท ว่ั และนานพอ (ประมาณ 20 วนิ าท)ี และเชด็ มอื ใหแ หง การลา งมอื ดว ยนํา้ และสบจู ะกําจดั คราบสกปรก และฆา เชอื้ ไวรสั ไมจ ําเปน ตอ งใช สบทู ผ่ี สมสารฆา เชอื้ ถา ไมม นี ้าํ และสบู จงึ ใชแ อลกอฮอล (60-70 % ซง่ึ มกั อยใู นรปู เจลหรอื สเปรย) ทาทว่ั มอื ทไ่ี มเ ปย กเพอ่ื ฆา เชอื้ โรค (ถา มอื เปย ก แอลกอฮอลจ ะเจอื จางจนฆา เชอ้ื ไมไ ด) ทง้ิ ใหแ หง หา มลา งนํ้าตอ เพราะจะลา งแอลกอฮอลห มดไป แตถ า มอื สกปรกตอ งลา ง มอื ดว ยนาํ้ และสบู เพราะแอลกอฮอลจ ะไมส ามารถฆา เชอ้ื โรคทอ่ี ยใู นคราบเปอ น ไมเ อามอื จบั หนา ปาก จมกู หรอื ตา ถา จ าเปน ควรทาํ มอื ใหส ะอาดกอ น3 เวน ระยะหา ง จากคนอน่ื ทอี่ าจจะแพรเ ชอื้ (keep distance) ไดแ ก คนทม่ี อี าการซง่ึ อาจจะเกดิ จากการตดิ เชอ้ื ทางเดนิ หายใจ เชน ไข ไอ จาม หลกี เลย่ี งการไปในทท่ี ม่ี คี นหนาแนน โดยเฉพาะอยา งยงิ่ คนทไี่ มร จู กั และอาจตดิ เชอื้ โดยไมส ามารถอยหู า งกนั เกนิ 1 เมตร ไดต ลอดเวลา ถา จําเปน ควรใสห นา กาก อนามยั และไมห นั หนา เผชญิ กนั เพราะเขาอาจไอ จามรดได ทาํ ความสะอาดสงิ่ แวดลอ ม โดยเฉพาะอยา งยง่ิ บรเิ วณทอ่ี าจปนเปอ นเสมหะ นาํ้ มกู น้าํ ลาย จากผปู ว ย และมไี วรสั #หยุดการแพร่เชือ
#หยดุ การแพรเ่ ชอื
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: