Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดซื้อจัดจ้าง

การจัดซื้อจัดจ้าง

Published by kamon.ut, 2020-01-23 11:43:39

Description: การจัดซื้อจัดจ้าง

Search

Read the Text Version

48 กรณีท่ีหนวยงานของรฐั ไมเหน็ ดวยกับอุทธรณ ไมวาทั้งหมดหรือบางสวนใหเรง รายงานความเหน็ พรอ ม เหตผุ ลไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ ภายในสามวันทําการนบั แตว ันท่ี ครบกาํ หนด 16.6 เม่ือไดรับรายงานจากหนว ยงานของรฐั ใหคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณพิจารณา อุทธรณให แลวเสร็จภายในสามสบิ วันนับแตวนั ท่ไี ดร บั รายงานดังกลา วหากเร่ืองใดไมอาจพจิ ารณาได ทันในกําหนดนนั้ ให คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณขยายระยะเวลาออกไปได ไมเกินสองครั้ง ครั้งละ ไมเกินสิบหาวันนับแตวันที่ ครบกําหนดเวลาดังกลาว และแจงใหผูอุทธรณและผูชนะการจัดซื้อจัดจาง หรือผูไดรับการคัดเลือกทราบใน กรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณเห็นวาอุทธรณฟงขึ้นและมีผล ตอการจัดซ้ือจัดจางอยางมีนัยสําคัญ ให คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณสั่งใหหนวยงานของรัฐ ดําเนินการใหมีการจัดซ้ือจัดจางใหมหรือเริ่มจาก ข้ันตอนใดตามที่เห็นสมควร ในกรณีท่ีคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณเห็นวาอุทธรณฟงไมข้ึนหรือไมมีผลตอ การจัดซ้ือจัดจางอยางมีนัยสําคัญ ใหแจง หนวยงานของรัฐเพ่ือทําการจัดซ้ือจัดจางตอไปการวินิจฉัยของ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณใหเปน ท่ีสุดในกรณที ่พี นกําหนดระยะเวลาพจิ ารณาอุทธรณตามวรรคหน่ึงแลว คณะกรรมการพิจารณา อุทธรณยังพิจารณาไมแลวเสร็จ ใหยุติเรื่อง และใหคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ แจงผูอุทธรณและ ผูชนะการจัดซื้อจัดจางหรือผูไดรับการคัดเลือกทราบ พรอมกับแจงใหหนวยงานของรัฐทํา การจัดซ้ือ จัดจางตอไปผูอุทธรณผูใดไมพอใจคําวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ หรือการยุติเร่ือง และ เห็นวาหนวยงานของรัฐตองรับผิดชดใชคาเสียหาย ผูน้ันมีสิทธิฟองคดีตอศาลเพ่ือเรียกใหหนวยงาน ของ รัฐชดใชคาเสียหายได แตการฟองคดีดังกลาวไมมีผลกระทบตอการจัดซ้ือจัดจางที่หนวยงานของ รัฐไดลงนาม ในสัญญาจดั ซือ้ จดั จา งน้นั แลว 17. การรองเรียน 17.1 ผูใดเห็นวาหนวยงานของรัฐมิไดปฏิบัติใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการที่กําหนด ใน กฎหมายวาดวยการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ท่ีออกตาม ความในกฎหมายวาดวยการจัดซ้ือจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ มีสิทธิรองเรียน ไปยังหนวยงานของรัฐ นัน้ หรอื คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ แลวแตก รณกี ็ได 17.2 การยื่นขอรองเรียน ตองดําเนินการ ภายใน 15 วัน นับแตวันที่รูหรือควรรูวา หนวยงาน ของรัฐน้ันมไิ ดป ฏิบัติใหเปน ไปตามหลักเกณฑแ ละวธิ กี ารท่ีกําหนดในกฎหมายวา ดว ยการ จดั ซือ้ จดั จางและการ บริหารพัสดุภาครัฐ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความใน กฎหมายวาดวยการจัดซื้อจัดจาง และการบริหารพัสดุภาครฐั 17.3 การรองเรียนตองทําเปนหนังสือลงลายมือชื่อผูรองเรียน ในกรณีผูรองเรียนเปนนิติบุคคล ตอ งลงลายมอื ช่ือของกรรมการซึง่ เปนผมู ีอาํ นาจกระทําการแทนนติ บิ ุคคลและประทบั ตราของนติ ิ บุคคล (ถา มี) หนังสือรองเรียน ตองใชถอยคําสุภาพ และระบุขอเท็จจริงและเหตุผลอันเปนเหตุแหง การรองเรียนใหชัดเจน พรอ มแนบเอกสารหลกั ฐานทเี่ กีย่ วขอ งไปดว ย 17.4 ในกรณีที่หนว ยงานของรฐั ไดร ับเรื่องรองเรียน ใหหนวยงานของรัฐพิจารณาขอรองเรยี น ให แลวเสร็จโดยเรว็ แลวแจงผลใหผรู องเรยี นทราบโดยไมชกั ชา พรอมทั้งแจงใหคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ ทราบดว ย 17.5 ในกรณีท่ีคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณไดรับเรื่องรองเรียนใหคณะกรรมการพิจารณา อทุ ธรณพจิ ารณาขอ รองเรยี นใหแ ลว เสร็จโดยเร็ว แลวแจง ผลใหผ รู องเรียนและหนวยงานของรฐั ทราบ ดว ย 17.6 คาํ วนิ จิ ฉยั ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ ใหเปน ทส่ี ุด

49 บทที่ 4 การดาํ เนนิ การจัดซอ้ื จดั จา งในสาํ นกั งานเลขาธิการครุ สุ ภา 4.1 โครงสรางการดาํ เนินงานของสํานักงานเลขาธิการคุรสุ ภา ในการดําเนินงานของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภากฎหมายพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากร ทางการศึกษา พ.ศ.2546 ไดกาํ หนดใหมสี ภาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา เรยี กวา“ครุ สุ ภา” มีฐานะเปนนิติ บุคคล อยูในกํากับของกระทรวงศึกษาธิการ1011 ทั้งน้ีในการตราพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการ ศึกษา พ.ศ.2546 ไดระบุเหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ ครู ผูบริหารสถานศึกษา ผูบ รหิ ารการศึกษาและบคุ ลากรทางการศกึ ษาเปนผูมีบทบาทสาํ คญั ตอการจัดการศกึ ษาของชาติ จึงตอ งเปนผมู ี ความรู ความสามารถ และทกั ษะอยา งสูง ในการประกอบวชิ าชีพ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและประพฤติปฏิบัติตน ตามจรรยาบรรณของวชิ าชพี รวมทั้งมีคุณภาพและมาตรฐานเหมาะสมกับการเปนวิชาชีพชั้นสงู จึงจําเปนตอง ตรากฎหมายเพ่ือ1112 1. พัฒนาวิชาชพี ครู และสงเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู และบคุ ลากรทางการศึกษา 2. เพ่ือ ปรับสภาในกระทรวงศึกษาธิการตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 เปนองคกรวิชาชีพครู และใหมี สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกชื่อวา “คุรุสภา” มีอํานาจหนาที่กําหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและ เพกิ ถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กํากบั ดแู ลการปฏบิ ัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวชิ าชีพ และการ พัฒนาวิชาชีพ และ 3. เพื่อสืบทอดประวัติศาสตรและเจตนารมณของการจัดตั้งคุรุสภาใหเปนสภาวิชาชีพครู ตอไป และกําหนดวตั ถุประสงคข องคุรสุ ภา อํานาจหนาที่ของคุรสุ ภา โครงสรางของครุ สุ ภา ดังตอไปน้ี 4.1.๑ วตั ถุประสงคข องครุ สุ ภา1213 1) กําหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพกิ ถอนใบอนุญาต กํากับ ดแู ลการปฏิบัตติ ามมาตรฐานวชิ าชพี และจรรยาบรรณวชิ าชพี รวมทงั้ การพัฒนาวิชาชีพ 2) กาํ หนดนโยบายและแผนพัฒนาวชิ าชีพ 3) ประสาน สง เสรมิ การศึกษาและการวิจยั เก่ียวกับการประกอบวชิ าชีพ ๔.๑.๒ อํานาจหนาทคี่ ุรสุ ภา1314 1) กําหนดมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณของวชิ าชีพ 2) ควบคุม ความประพฤติและการดําเนนิ งานของผูประกอบวชิ าชพี ทางการศึกษาใหเ ปน ไปตาม มาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ 3) ออกใบอนญุ าตใหแกผขู อประกอบวชิ าชพี 4) พกั ใชใ บอนุญาตหรือเพกิ ถอนใบอนญุ าต 5) สนบั สนุนสงเสริมและพัฒนาวิชาชพี ตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวชิ าชพี 6) สงเสริม สนบั สนนุ ยกยอ ง และผดงุ เกียรติผูป ระกอบวิชาชีพทางการศกึ ษา 7) รับรองปริญญา ประกาศนียบตั ร หรอื วฒุ ิบัตรของสถาบนั ตาง ๆ ตามมาตรฐานวชิ าชพี 11 สํานกั งานเลขาธกิ ารครุ ุสภา,เร่ืองเดมิ , หนา 14 -15 12 หมายเหตุ ทายพระราชบญั ญตั ิสภาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2546 13 มาตรา 8 ของพระราชบัญญัตสิ ภาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2546 14 มาตรา 9 ของพระราชบญั ญัติสภาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546

50 8) รบั รองความรูและประสบการณท างวชิ าชพี รวมทัง้ ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพ 9) สงเสริมการศกึ ษาและการวิจยั เกยี่ วกับการประกอบวิชาชีพ 10) เปน ตวั แทนผปู ระกอบวชิ าชพี ทางการศึกษาของประเทศไทย 11) ออกขอ บังคบั คุรุสภาวาดวย 11.1) การกาํ หนดลักษณะตองหา มมาตรา 13 11.2) การออกใบอนญุ าต อายุใบอนุญาต การพักใชใบอนญุ าต การเพิกถอนใบอนุญาต และ การรับรองความรู ประสบการณทางวิชาชพี ความชาํ นาญในการประกอบวชิ าชีพ 11.3) หลักเกณฑและวิธีการในการขอรับใบอนญุ าต 11.4) คุณสมบตั แิ ละลักษณะตองหา มของผูขอรับใบอนญุ าต 11.5) จรรยาบรรณของวชิ าชีพและการประพฤตผิ ดิ จรรยาบรรณอนั จะนํามาซง่ึ ความเส่ือมเสีย เกยี รตศิ ักดแ์ิ หง วชิ าชีพ 11.6) มาตรฐานวชิ าชพี 11.7) วิธกี ารสรรหา การเลือก การเลือกตั้ง และการแตง ต้ังคณะกรรมการครุ ุสภาและคณะ กรรมกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี 11.8) องคป ระกอบ หลักเกณฑ วธิ กี ารคดั เลอื กคณะกรรมการสรรหา 11.9) หลักเกณฑแ ละวิธีการสรรหาเลขาธกิ ารคุรุสภา 11.10) การใด ๆ ตามท่ีกําหนดในพระราชบญั ญตั นิ ี้ 12) ใหคําปรกึ ษาหรือเสนอแนะตอ คณะรัฐมนตรีเก่ยี วกบั นโยบายหรอื ปญ หาการพฒั นาวิชาชีพ 13) ใหค ําแนะนําหรือเสนอความเห็นตอ รฐั มนตรีเกยี่ วกบั การประกอบวชิ าชีพ หรือการออก กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศตาง ๆ 14) กําหนดใหม ีคณะกรรมการเพื่อกระทาํ การใด ๆ อนั อยูในอาํ นาจหนาที่ของครุ ุสภา 15) ดาํ เนนิ การใหเ ปน ไปตามวัตถปุ ระสงคของครุ สุ ภา ขอ บังคับของครุ ุสภาตาม 11 นัน้ ตอ งไดรบั ความเห็นชอบจากรัฐมนตรี และเมื่อไดป ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษาและใหใ ชบ งั คบั ได นอกจากนค้ี ุรุสภายังมีอํานาจกระทาํ กิจการตางๆ ภายในขอบแหง วัตถุประสงค ดังตอไปนีด้ ว ย ๑) ถอื กรรมสิทธ์ิ หรอื มสี ิทธิครอบครองในทรพั ยสนิ หรือดําเนินการใดๆ เกย่ี วกับทรัพยสิน ตลอดจน รบั ทรพั ยส นิ ทีม่ ผี ูอุทิศให ๒) ทํานติ ิกรรมสญั ญาหรือขอตกลงใดๆ ๓) กยู มื เพ่ือประโยชนในการดาํ เนินการตามวัตถปุ ระสงคข องครุ ุสภา ๔) สนบั สนุนการปฏิบัตงิ านของหนว ยงานอืน่ ทเี่ ก่ียวของ ครุ สุ ภาอาจมีรายได ดังน้ี ๑) คา ธรรมเนยี มตามพระราชบญั ญตั ินี้ ๒) เงินอุดหนนุ จากงบประมาณแผนดิน ๓) ผลประโยชนจ ากการจดั การทรพั ยส นิ และการดาํ เนนิ กจิ การของคุรุสภา ๔) เงินและทรัพยส ินซ่งึ มีผูอุทิศใหแ กค ุรุสภา ๕) ดอกผลของเงินและทรัพยสินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)

51 ๔.๑.๓ โครงสรางของครุ สุ ภา โครงสรางของคุรุสภาประกอบดวย คณะบุคคลและสวนงานท่ีมีหนาที่ปฏิบัติงานตาม พระราชบัญญัตสิ ภาครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ดังนี้ (1) คณะกรรมการครุ สุ ภา พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๖ กําหนดใหมีคณะกรรมการ คุรุสภา มีจํานวน 39 คน อยูในตําแนงคราวละ 4 ปประกอบดวยคณะบุคคลที่มาจากบุคคล 4 กลุม คือ กรรมการโดยตําแหนง 8 คน กรรมการผูทรงคุณวุฒิ 7 คน กรรมการจากผูดํารงตําแหนงคณบดคี ณะครุศาสตร หรือศึกษาศาสตรหรือการศึกษาและสภาบันอุดมศึกษาเอกชน 4 คน และกรรมการจากผูประกอบวิชาชีพ ทางการศึกษา 19 คน สาํ หรบั ตาํ แหนง ประธานกรรมการคุรุสภา คณะรัฐมนตรเี ปน ผูแ ตง ต้งั จากผทู รงคุณวุฒิที่ มีความรู ความเชี่ยวชาญและประสบการณส ูง โดยมีเลขาธิการคุรุสภาเปน เลขานุการของคณะกรรมการคุรุสภา 15 มอี าํ นาจหนา ที่ ดังตอ ไปน1้ี516 14 (1.1) บริหารและดาํ เนินการตามวัตถปุ ระสงคแ ละอํานาจหนา ที่ของคุรสุ ภาซึ่งกําหนด ไวในพระราชบัญญตั ิน้ี (1.2) ใหคาํ ปรึกษาและแนะนําแกค ณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี (1.3) พิจารณาวนิ ิจฉยั อทุ ธรณคําสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชพี ตามมาตรา (1.4) เรงรัดใหพนกั งานเจา หนา ท่สี วนราชการ หรอื คณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชีพ ปฏบิ ัติตามอํานาจและหนา ทที่ ก่ี ฎหมายกําหนด (1.5) แตงตั้งคณะอนุกรรมการเพ่ือกระทําการใดๆ อันอยใู นอาํ นาจและหนา ท่ีของ คณะกรรมการครุ ุสภา (1.6) ควบคุมดแู ลการดาํ เนินงานและการบริหารงานทัว่ ไป ตลอดจนออกระเบียบ ขอ บังคับ ประกาศ หรอื ขอกําหนดเก่ียวกบั สํานักงานเลขาธกิ ารครุ ุสภาในเรอื่ งดังตอ ไปนี้ (ก) การจัดแบง สว นงานของสํานักงานเลขาธกิ ารครุ สุ ภาและขอบเขตหนาทีข่ อง สว นงานดังกลาว (ข) การกาํ หนดตาํ แหนง คุณสมบัติเฉพาะ อตั ราเงินเดอื น คาจา ง และ คา ตอบแทนอน่ื ของพนักงานเจา หนาท่ีของคุรุสภา (ค) การคัดเลือก การบรรจุ การแตงต้ัง การถอดถอน วินัยและการลงโทษทางวินัย การออกจากตาํ แหนง การรอ งทกุ ข และการอุทธรณก ารลงโทษของเจาหนา ที่ รวมทงั้ วิธีการ เงอ่ื นไขในการจาง พนกั งานเจาหนา ทข่ี องคุรุสภา (ง) การบริหารและจดั การการเงนิ การพัสดุ และทรัพยส นิ ของครุ ุสภา (จ) กาํ หนดอํานาจหนา ทแ่ี ละระเบยี บเกย่ี วกบั การปฏิบตั ิหนาที่ของผูตรวจสอบภายใน (1.7) กาํ หนดนโยบายการบริหารงาน และใหค วามเหน็ ชอบแผนการดําเนินงานของ สาํ นักงานเลขาธิการคุรุสภา (1.8) ปฏิบตั กิ ารอ่ืนใดตามท่กี ฎหมายกําหนดไวใหเ ปนอํานาจและหนา ทข่ี อง คณะกรรมการคุรุสภา (1.9) พิจารณาหรือดําเนนิ การในเรอ่ื งอนื่ ตามทร่ี ฐั มนตรมี อบหมาย 15 มาตรา 12 ของพระราชบญั ญตั ิสภาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2546 16 มาตรา 20 ของพระราชบัญญตั สิ ภาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2546

52 ปจจุบันหัวหนาคณะรักษาความสงบแหงชาติไดมีคําสั่งท่ี ๑๗/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ กําหนดใหมีคณะกรรมการคุรุสภา ประกอบดวย รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ เปนประธาน กรรมการ รัฐมนตรีชวยวาการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา เลขาธิการคณะกรรมการขา ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผูอ าํ นวยการ สํานักบริหารงานคณะกรรมการสงเสริมการศึกษาเอกชน และหัวหนาสํานักงานคณะกรรมการมาตรฐานการ บริหารงานบคุ คลสวนทอ งถิน่ เปนกรรมการ และใหเ ลขาธิการครุ สุ ภาเปนกรรมการและเลขานุการ (2) คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ นอกจากคณะกรรมการคุรุสภาดังกลาวแลวยังมีคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งมีจํานวน 17 คน ประกอบดวย กรรมการโดยตําแหนง 3 คน กรรมการผูท รงคณุ วุฒิ 4 คน กรรมการโดยเลือกต้งั 8 คน ตาํ แหนง ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ รัฐมนตรีจะแตงตงั้ จากกรรมการผูทรงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการคุรุ สภาและมีเลขาธิการคุรุสภาเปนเลขานุการของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ1617 ท้ังน้ีกรรมการที่ไมใช กรรมการโดยตําแหนง จะอยใู นตาํ แหนง คราวละ 4 ป 18 โดยคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมหี นาท่ี ดงั ตอไปน้ี 19 17 18 (2.1) พจิ ารณาการออกใบอนญุ าตใหแ กผ ูประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และการพกั ใชหรือ เพกิ ถอนใบอนุญาต (2.2) กํากับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของผูประกอบวิชาชีพทางการ ศึกษา (2.3) สงเสริม พัฒนา และเสนอแนะคณะกรรมการคุรุสภากําหนดมาตรฐานและ จรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ (2.4) สงเสริม ยกยอง และพัฒนาวิชาชีพไปสูความเปนเลิศในสาขาตางๆ ตามท่ี กําหนดใน ขอบงั คบั ของคุรุสภา (2.5) แตงตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ หรือมอบหมายกรรมการมาตรฐาน วิชาชีพเพ่ือ กระทําการใดๆ อนั อยใู นอาํ นาจและหนาทีข่ องคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชพี (2.6) ปฏิบัติการอื่นใดตามทก่ี ฎหมายกําหนดไวใหเปนอํานาจและหนา ทีข่ อง คณะกรรมการ มาตรฐานวิชาชีพ (2.7) พิจารณาหรือดําเนินการในเรื่องอ่ืนตามท่ีรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการคุรุสภา มอบหมาย ใหคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพเสนอรายงานการดําเนินงานประจําปตอคณะกรรมการคุรุสภา ตามระเบียบทค่ี ณะกรรมการครุ สุ ภากาํ หนด 17 มาตรา 21 ของพระราชบัญญัตสิ ภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 18 มาตรา 24 ของพระราชบัญญัติสภาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 19 มาตรา 25 ของพระราชบญั ญตั สิ ภาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2546

53 (3) สาํ นกั งานเลขาธิการคุรสุ ภา1920 สํานักงานเลขาธกิ ารคุรุสภามีหนา ที่ ดงั ตอ ไปนี้ (3.1) รบั ผดิ ชอบเกี่ยวกับการดําเนินงานของครุ ุสภา (3.2) ประสานและดําเนินการเกี่ยวกบั กิจการอนื่ ทีค่ รุ ุสภามอบหมาย (3.3) จัดทํารายงานประจําปเกยี่ วกับการดําเนินงานเสนอตอคุรุสภา (4) เลขาธิการครุ ุสภา เลขาธิการคุรุสภาเปนตําแหนงในการบริหารงานของคุรุสภา มีหนาท่ีบริหารกิจการของ สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาใหเปนไปตามกฎหมาย2021 รวมทั้งมีอํานาจในการบรรจุแตงตั้งพนักงานเจาหนาท่ี ของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา โดยอยูในตําแหนงคราวละ 4 ป 22 ปจจุบันหัวหนาคณะรักษาความสงบ 21 แหงชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแหงชาติมีคําส่ัง 7/2558 ใหรัฐมนตรีวาการ กระทรวงศกึ ษาธิการพจิ ารณามอบหมายใหรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือขา ราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ ในระดับเดียวกันขึ้นไปปฏิบัติหนาที่ในตําแหนงเลขาธิการคุรุสภาไปพลางกอนและการดําเนินงานกิจการ สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ดังตอไปน้ี (๔.๑) รับผดิ ชอบเก่ยี วกับการดาํ เนินงานของคุรสุ ภา (๔.๒) ประสานและดาํ เนนิ การเก่ยี วกับกจิ การอน่ื ทค่ี รุ สุ ภามอบหมาย (๔.๓) จดั ทํารายงานประจาํ ปเกย่ี วกบั การดาํ เนินงานเสนอตอครุ สุ ภา และเสนอตอรัฐบาลเพอื่ พฒั นาวชิ าชพี ทางการศึกษา โดยเลขาธิการคุรุสภามีหนาท่ีบริหารกิจการของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาใหเปนไป ตาม กฎหมาย วตั ถปุ ระสงคข องครุ ุสภา ระเบยี บ ขอ บงั คับ ขอ กาํ หนด นโยบาย มติและประกาศของ คณะกรรมการ คุรุสภาและเปนผูบังคับบัญชาพนักงานเจาหนาที่ทุกตําแหนง เวนแตผูดํารงตําแหนงผูตรวจสอบ ภายในใหข้ึน ตรงตอ ประธานกรรมการครุ สุ ภาตามระเบียบทีค่ ณะกรรมการครุ สุ ภากาํ หนดรวมท้ังใหมีหนา ที่ ดังตอไปนี้ (๑) ดูแลรักษาทะเบยี นผไู ดรับใบอนุญาต (๒) ควบคมุ ดแู ลทรัพยสนิ ของคุรสุ ภา (๓) เสนอรายงานประจําปเกี่ยวกับผลการดําเนินงานดานตางๆ ของสํานักงานเลขาธิการคุรุ สภารวมทง้ั รายงานการเงินและบัญชี ตลอดจนเสนอแผนดําเนินงาน แผนการเงิน และงบประมาณของปตอไป ตอคณะกรรมการคุรุสภาเพอื่ พิจารณา (๔) เสนอความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงกิจการและการดําเนินงานใหมีประสิทธิภาพ และ เปนไปตามวัตถุประสงคของคุรุสภาตอคณะกรรมการคุรุสภา เลขาธิการคุรุสภาตองรับผิดชอบตอ คณะกรรมการครุ ุสภาในการบรหิ ารกจิ การของสํานักงานเลขาธกิ ารครุ สุ ภา ปจจบุ นั หวั หนาคณะรักษาความสงบแหงชาติไดมีคาํ ส่งั ที่ ๑๑/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ กําหนดใหคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ประกอบดวย ประธานกรรมการ กรรมการโดยตําแหนง จํานวน ๕ คน คือ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการขาราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการสง เสรมิ การศึกษา เอกชน เลขาธิการสํานักงานสงเสริมการศึกษานอระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กรรมการผูทรงคุณวุฒิ 20 มาตรา 3๔ ของพระราชบัญญัตสิ ภาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 21 มาตรา 39 ของพระราชบัญญตั ิสภาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2546 22 มาตรา 40 ของพระราชบัญญัตสิ ภาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2546

54 จํานวน 4 คน กรรมการจากคณาจารย จํานวน ๒ คน กรรมการจากผูประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จํานวน ๔ คน และมีเลขาธกิ ารครุ สุ ภาเปน กรรมการและเลขานกุ าร (๕) สวนงานสาํ นักงานเลขาธกิ ารคุรุสภา สํานกั งานเลขาธกิ ารครุ ุสภา แบงออกเปน 7 สํานกั 1 หนว ย ดังน้ี (๕.๑) สํานักนโยบายและแผน (๕.๒) สํานกั มาตรฐานวชิ าชีพ (๕.๓) สาํ นักใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี (๕.๔) สํานักจรรยาบรรณวชิ าชพี และนติ ิการ (๕.๕) สํานักอํานวยการ (๕.๖) สาํ นกั พัฒนาและสงเสรมิ วิชาชพี (๕.๗) สํานกั เทคโนโลยีสารสนเทศ (๕.๘) หนว ยตรวจสอบภายใน นอกจากน้ี คุรุสภาไดมีนโยบายกระจายอํานาจดานการบริการไปยังสวนภูมิภาค โดยมีพนกั งานเจาหนา ทค่ี ุรสุ ภาในแตละจงั หวัด ปฏิบัติหนาท่ใี นสํานักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด มีหนาทใ่ี หบริการ เก่ียวกับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เชน การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ การ ตออายุใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพ การขออนุญาตปฏิบตั ิการสอนโดยไมมีใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพครู สังกัด กลุมการประชมุ และประสานงาน สาํ นักอํานวยการ เปน ตน http://www.ksp.or.th/ksp2018/org_chart/

55 4.2 การจัดซอ้ื จัดจา งของสาํ นกั งานเลขาธกิ ารคุรุสภา ในการดําเนินการจัดซื้อจัดจางและการบรหิ ารพัสดุสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาจะตองดําเนนิ การตาม พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจางและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาได กําหนดกลุมงานท่ีรับผิดชอบการจัดซื้อจัดจางของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาและมีมาตรการภายในเพื่อ สงเสรมิ ความโปรงใสและปอ งกนั ทจุ รติ ดงั ตอไปนี้ ๔.๒.๑ กลมุ งานท่รี บั ผดิ ชอบการจัดซอ้ื จัดจางของสาํ นกั งานเลขาธิการครุ สุ ภา สาํ นกั งานเลขาธิการคุรุสภาไดมีประกาศสํานักงานเลขาธิการครุ ุสภา เรื่อง การจดั แบง สว นงานภายใต สํานักในสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ลงวันท่ี 21 กันยายน 2560 โดยกําหนดใหสํานักอํานวยการ กลมุ การพัสดุและอาคารสถานท่ี มีหนาทีแ่ ละความรบั ผดิ ชอบเกี่ยวกับการดาํ เนินงาน ดังตอไปน้ี2223 (1) ศกึ ษา วิเคราะห พฒั นา วางระบบการบรหิ ารพสั ดุและอาคารสถานศึกษา (2) วางแผนและดําเนินการเก่ียวกับการจัดหา จัดซ้ือ จัดจาง เกี่ยวกับการพัสดุ และการจัดทําขอ ผกู พันสัญญาการจัดซอ้ื จัดจาง (3) ตรวจรับพสั ดุ (4) ควบคุมคลังวสั ดุกลางของสาํ นักงานเลขาธิการครุ ุสภา (5) ควบคุมและจัดทําทะเบียนครุภัณฑของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา รวมทั้งการดูแล ซอมบํารุง เก็บรกั ษา และจาํ หนา ย (6) ตรวจสอบพัสดปุ ระจําป (7) ควบคุมดูแลความปลอดภัยและความสะอาดของอาคารสถานที่และบริเวณพ้ืนท่ีโดยรอบของ สาํ นักงานเลขาธิการคุรสุ ภา (8) ควบคมุ ดูแลและบํารุงรกั ษาระบบสาธารณูปโภค (9) ใหบรกิ ารหอ งประชมุ และการจัดเลยี้ งรบั รองในการประชมุ (10) ใหคําปรึกษาแนะนําเก่ียวกบั การดําเนนิ งานทางพัสดุ (11) ปฏบิ ตั ิงานอื่นท่ีไดรบั มอบหมาย ๔.๒.๒ มาตรการภายในเพือ่ สง เสริมความโปรงใสและปอ งกนั ทุจริต ในการดาํ เนินงานของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาไดกําหนดมาตรการภายในสงเสริมความโปรงใสและ ปองกันทจุ รติ ดงั ตอ ไปนี้ (๑) มาตรการสง เสรมิ ความโปรง ใสในการจดั ซอ้ื จดั จาง สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาไดมีประกาศสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา เรื่อง มาตรการสงเสริมความ โปรงใสในการจัดซ้ือจัดจาง ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒ โดยกําหนดนโยบายวากระบวนการจัดซ้ือจัดจาง ภาครัฐ (Public procurement) นับเปนกระบวนการสําคัญ ในการปองกันปญหาการทุจริตในการบวนการ จัดซ้ือจัดจาง (Corruption in Public procurement) โดยการตราพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจางและ การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ และระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการจัดซื้อจัดจางและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ มาใชบังคับ เพ่ือการดําเนินการจัดซ้ือจัดจางเปนไปตามหลักธรรมาภิบาล มีความ 23 ขอ 7 ของประกาศสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา เรอ่ื ง การจัดแบงสว นงานภายใตส าํ นกั ในสาํ นักงาน เลขาธิการคุรสุ ภา ลงวนั ท่ี 21 กนั ยายน 2560

56 โปรงใส ตรวจสอบได สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา จึงกําหนดมาตรการสงเสริมความโปรงใส ในการจัดซื้อจัด จา ง ดังน2ี้324 ๑.ใหพนักงานเจาหนาท่ีสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาซึ่งปฏิบัติหนาท่ีเก่ียวกับจัดซ้ือจัดจางดําเนินการ เผยแพรแผนการจัดซ้ือจัดจางใหเปนไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ ๒.ใหเจาหนาท่ีสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาซึ่งปฏิบัติหนาที่เกี่ยวกับการจัดซ้ือจัดจางดําเนินการบันทกึ รายละเอียด วิธีการและข้ันตอนการจัดซ้ือจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ ใหเปนไปตามขั้นตอน ของ ระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ โดยดําเนินการใน ระบบเครือขายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางผานทางระบบจัดซื้อจัดจางภาครัฐดวยอิเล็กทรอนิกส (Electronic Government Procurement e-GP) ตามวธิ กี ารท่ีกรมบญั ชกี ลางกาํ หนดแตละขัน้ ตอน ดงั นี้ ๒.๑ จัดทําแผนจัดซือ้ จัดจา ง ๒.๒ ทํารายงานขอซอ้ื หรอื ขอจาง ๒.๓ ดาํ เนินการจัดหา ๒.๔ ขออนมุ ัตสิ ่งั ซ้อื หรอื จา ง ๒.๕ การทําสญั ญา ๒.๖ การบริหารสัญญา ๒.๗ การควบคุมและการจาํ หนาย ๓. หา มมใิ หเ จาหนา ท่ขี องสาํ นักงานเลขาธิการครุ สุ ภาซ่งึ ปฏิบตั หิ นาทเ่ี กยี่ วกับการจดั ซ้ือจัดจา งเขาไปมี สวนไดเสีย กับผูย่ืนขอเสนอหรือคูสัญญาของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาและใหคณะกรรมการตางๆ ที่ไดรับ การแตง ตั้งใหม ีหนาทรี่ ับผดิ ชอบเกย่ี วกบั การจัดซอื้ จัดจางจะตองใหค าํ รับรองเปน หนังสือวา จะไมเขา ไปมสี วนได เสียกบั ผูย่นื ขอ เสนอหรือคสู ัญญาของสาํ นกั งานเลขาธิการคุรุสภา ๔. หา มมใิ หเจาหนา ทส่ี ํานักงานเลขาธิการคุรสุ ภาซ่ึงปฏิบัตหิ นาที่เก่ียวกับการจดั ซ้ือจัดจางยอมใหผูอื่น อาศัยหนาท่ีของตนหาประโยชนจากการจดั ซ้อื จดจางของสาํ นักงานเลขาธิการครุ ุสภา ๕. ใหหัวหนาสวนราชการ กํากับดูแล การปฏิบัติหนาที่ของเจาหนาท่ีผใู ตบังคับบัญชาซ่ึงปฏบิ ัติหนา ท่ี เก่ียวกับการจดั ซื้อจดั จางใหเ ปนไปดว ยความเรียบรอ ย กรณีปลอ ยปละละเลยใหถ อื เปน ความเปนทางวนิ ยั ๖. ใหสํานักอํานวยการ ติดตามความกาวหนาการดําเนินการตางๆ และรายงานผลการดําเนินการ สง เสรมิ ความโปรง ใส ในการจดั ซื้อจดั จาง ตอ ผูบ รหิ ารสํานกั งานเลขาธกิ ารคุรสุ ภา 24 ประกาศสํานักงานเลขาธกิ ารครุ ุสภา เร่ือง มาตรการสงเสรมิ ความโปรง ใสในการจดั ซอื้ จัดจา ง ลง วนั ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒

57 (๒) มาตรการการเปด โอกาสผมู สี ว นไดเ สียเขา มามสี ว นรว มในการดําเนนิ งาน2425 สาํ นักงานเลขาธกิ ารคุรสุ ภาไดมีประกาศ เร่อื ง มาตรการการเปด โอกาสผูมสี ว นไดเสยี เขามามีสว นรวม ในการดําเนินงาน ลงวันท่ี ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒ ตามท่ีรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ได มงุ เนน ในประเดน็ การคมุ ครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยใหประชาชนมีบทบาทและมีสว นรว มในการ ตรวจสอบการใชอํานาจรัฐอยางเปนรูปธรรม สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา จึงไดกําหนดมาตรการและกลไกใน การเปดโอกาสใหประชาชน ผูประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และผูมีสวนไดเสียเขามามีสวนรวมในการ ดําเนินงาน เพื่อแสดงใหเห็นถึงความโปรง ใสในการดําเนินงาน รวมทั้งการเผยแพรขอมูลและ/หรือรับฟงความ คิดเห็นของประชาชน ผูประกอบวิชาชพี ทางการศึกษา และผูมีสวนไดเสีย เพอื่ ใหก ารดําเนนิ งานมคี ุณภาพมาก ยง่ิ ข้นึ ขนั้ ตอนการดําเนนิ งานเพอื่ เปด โอกาสใหป ระชาชน ผูประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผมู ีสวนได เสียเขา มามีสว นรวมในการดาํ เนินงานของสาํ นกั งานเลขาธกิ ารครุ สุ ภา ๑.เผยแพรขอมูลขาวสารของโครงการในชองทางที่หลากหลาย เชน ส่ือส่ิงพิมพ นิทรรศการ จดหมาย ขา ว แถลงขาว ติดประกาศ เว็บไซต ๒.รับฟงความคิดเห็นของประชาชน ผูประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และผูมีสวนไดเสีย เพื่อใหไดมา ซ่ึงขอเทจ็ จรงิ และความคดิ เหน็ ประกอบการดาํ เนนิ งานของสาํ นักงาน ๓.เปดโอกาสใหประชาชน ผูประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และ/หรือผูมีสวนไดเสียไดเขามามีสวน รวมในการปฏิบัติงาน ไมวาจะเปนในลักษณะการเขารวมในการจัดทําแผนงาน การวางแผนงานหรือการ ดําเนินงาน (๓) มาตรการในการเผยแพรขอ มูลตอ สาธารณะ2526 สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาไดมีประกาศสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา เรื่อง มาตรการในการเผยแพร ขอมูลตอสาธารณะ ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒ เพื่อใหการเปดเผยขอมูลของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา มี ความถูกตอง ครบถวน ชัดเจน และเปนปจ จุบัน ประชาชน ผปู ระกอบวิชาชีพทางการศึกษา และผมู ีสวนไดเ สีย สามารถเขาถึงขอมูลขาวสารไดโดยสะดวก สามารถตรวจสอบผลการดําเนินงานของสํานักงานเลขาธิการคุรุ สภาได จึงกาํ หนดมาตรการในการเผยแพรข อ มูลตอ สาธารณะ ดงั น้ี ๑. หนว ยงานท่ีรับผิดชอบในการเผยแพรข อ มลู ๑.๑ สํานักเทคโนโลยีสาสนเทศและการสื่อสาร มีหนาที่เผยแพรขอมูลขาวสารผานเว็บไซตของ สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา (www.ksp.or.th) และปรับปรับปรุงขอมูลใหเปนปจจุบัน โดยอยางนองตอง ประกอบดวยโครงสรางสํานักงาน ภารกิจของสํานักงาน ผูบริหารสํานักงาน นโยบายและยุทธศาสตรของ สํานักงาน แผนปฏิบัตงิ านประจําป และการติดตามประเมินผลการดําเนินการตามแผนงานประจําป ขอมูลการ 25 ประกาศสาํ นักงานเลขาธิการคุรสุ ภา เรื่อง มาตรการการเปดโอกาสผูมสี ว นไดเ สยี เขามามีสวนรว ม ในการดาํ เนนิ งาน ลงวนั ที่ ๒๘ มิถนุ ายน ๒๕๖๒ 26 ประกาศสาํ นกั งานเลขาธกิ ารครุ สุ ภา เรื่อง มาตรการในการเผยแพรขอมูลตอสาธารณะ ลงวนั ท่ี ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒

58 จัดซ้ือจัดจาง มาตราหรือคูมือการปฏิบัติงาน มาตรฐานและข้ันตอนการใหบริการ ตลอดจนมีหนาท่ีเผยแพร ขอ มูลขา วสารผา นชองทางอ่นื ๆ เชน ส่อื สงั คมออนไลน ปด ประกาศภายในสํานักงาน เอกสารขาว ฯลฯ ๒. การกํากบั ติดตามการเผยแพรข อมูล ๒.๑ ใหรองเลขาธิการคุรุสภา ดูแลสวนงานท่ีรับผิดชอบในการเผยแพรขอมูลของสาํ นกั งาน ตาม ขอ ๑ กํากับ ดูแล และติดตามผลการดําเนินงาน และรายงานผลการดําเนินงาน และปญหาอุปสรรคืตอ เลขาธกิ ารครุ ุสภา ๒.๒ ใหสวนงานท่ีรับผิดชอบในการเผยแพรขอมูลจัดทําสถิติการใหบริการและการเขาถึงขอมูล ขาวสาร รายงานตอ รองเลขาธกิ ารคุรสุ ภา และเลขาธกิ ารครุ ุสภา (๔) มาตรการปอ งกนั การรับสินบน2627 สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาไดมีประกาศสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา เร่ือง มาตรการปองกันการรับ สินบน ลงวันท่ี ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ ดวยสถานการณทุจริตการับสินบนท่ีเกิดขึ้นในปจจุบัน เปนสาเหตุสําคญั ที่ทําใหเกิดความเสียหายตอหนวยงาน อีกท้ังเพื่อใหการดําเนินงานของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาเปนไป ตามหลักเกณฑการประเมินคุณธรรม และความโปรงใส ในการดําเนินงานของหนวยงานภาครัฐ ตาม หลกั ธรรมาภิบาล มีความโปรง ใส ตรวจสอบได จึงกําหนดมาตรการปองกนั การรับสนิ บน ดงั นี้ ๑.การดําเนินการจัดซื้อจัดจางใหเปนไปไปตามกฎหมาย ระเบียบ และขอบังคับโดยเครงครัด ให เจาหนา ที่ผมู ีหนาที่ตรวจสอบแตละหนวยภายในสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ดําเนินการตรวจสอบและควบคุม กระบวนการจัดซ้ือจัดจางโดยเครงครัด หากพบวามีกรณีเปนท่ีสงสัยวามีการเรียกรับสินบนในกระบวนการ จัดซื้อจัดจางในทุกข้ันตอน ใหรายงานผูบังคับบุญชาตามลําดับข้ันโดยเร็ว เพ่ือพิจารณาใชมาตรการทาง ปกครองและมาตรการทางกฎหมายท้ังทางแพง และทางอาญาอยางเดด็ ขาดและรวดเร็ว ๒.การแตงต้ัง โยกยาย หรือการสรรหาบุคคลเพื่อดํารงตําแหนงใหพ ิจารณาสรรหาหรือแตงต้ังบคุ คลผู มีความรูความสามารถดวยความเปนธรรม ใหหลักธรรมาภิบาลเพ่ือประโยชนแกสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา หรือแตงตั้งคณะกรรมการเปนผพู ิจารณากล่ันกรองเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของผูมีอํานาจสงั่ บรรจุ ๓.ใหสวนที่มีหนาท่ีใหบริการในเรื่องการอนุญาต อนุมัติ หรือใหความเห็นชอบ พิจารณาดําเนินการ ตามอํานาจหนาที่ดวยความรวดเร็ว โปรงใส และเปนธรรมใหแลวเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมาย ระเบียบ ขอบังคับ กาํ หนดไว และจดั ทํากระบวนงานในการดําเนนิ งานแตละขั้นตอนใหมีความชัดเจนเผยแพรใหผูมารับ บริการรับทราบและผูมีสว นไดเสียทราบ หากกระบวนงานมีระยะเวลาที่ไมเหมาะสม หรือทาํ ใหเ กิดความลาชา โดยไมจาํ เปน ใหทบทวนและกาํ หนดระยะเวลาในการดําเนินการใหมเ พ่ือใหเกิดความรวดเร็ว ๔. ใหผูบังคับบัญชาและหัวหนาสวนงานทุกระดับเขมงวด กวดขัน การปฏิบัติหนาท่ีของ ผูใตบังคับบัญชา เพ่ือปองกันมิใหมีชองทางในการเรียกรับสินบน และตองปฏิบัติตนเปนแบบอยางท่ีดี รวมท้ัง 27 ประกาศสาํ นักงานเลขาธิการคุรสุ ภา เรื่อง มาตรการปอ งกันการรบั สนิ บน ลงวนั ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๒

59 หากพบวาผูใตบังคับบัญชามีพฤติกรรมเรียกรับสินบน และตองปฏิบัติตนเปนแบบอยางที่ดี รวมทั้งหากพบวา ผใู ตบ งั คับบัญชามีพฤตกิ รรมเรยี กรบั สินบนใหด ําเนินทางวนิ ัยและอาญาตอไป ๕. ใหทุกสวนงานในสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาจัดใหมีชองทางและประชาสัมพันธการรองเรียนหรือ ใหขอมูลเพ่ือเปนการเปด โอกาสใหเจาหนาท่ีฯ ผรู ับบรกิ าร หรือผูมสี ว นไดเ สยี เขามามีสว นรว มในการตรวจสอบ เฝา ระวัง และแจง เบาะแสการรบั สนิ บน ๖. ใหทุกสวนงานในสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาดําเนินการตามมาตรการปองกันการรับสินบอยาง เครง ครัด และรายงานผลตอ ผูบริหารสาํ นกั งานเลขาธกิ ารครุ สุ ภาทราบ (๕) มาตรการปอ งกนั การขัดกันระหวางผลประโยชนส ว นตนและประโยชนสว นรวม2728 สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาไดมีประกาศ เร่ือง มาตรการปองกันการขัดกันระหวางผลประโยชนสวน ตนและประโยชนสวนรวม ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒ เพื่อใหการดําเนินงานของสํานักงานเลขาธิการคุรุ สภา เปนไปตามเจตจาํ นงของผูบ รหิ ารสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ในการยึดม่นั คณุ ธรรมและนิติธรรม ซอ้ื สัตย สุจริต โปรงใส ตรวจสอบได รวดเร็ว ฉับไว เต็มใจใหบริการ เปนแบบอยางที่ดี สนองนโยบายของรัฐบาลตาม ยุทธศาสตรใ นการปอ งกันและปราบรามการทุจริต สนบั สนนุ ใหส ํานกั งานเปนองคกรท่ีใสสะอาด ปราศจากการ ทุจริตคอรัปช่ันทุกรูปแบบ จึงกําหนดมาตรการปองกันการขัดกันระหวางผลประโยชนสวนตนและประโยชน สว นรวม ดังนี้ ๑.กาํ หนดใหเ ลขาธกิ ารคุรสุ ภา ประกาศเจตจํานงในการบรหิ ารสํานักงาน อยางซ่อื สัตย สจุ รติ โปรงใส ตรวจสอบได รวดเร็ว ฉับไว เต็มใจใหบริการ เปนแบบอยางอยา งทด่ี ี สนองนโยบายของรฐั บาลตามยทุ ธศาสตร ในการปองกันการทุจริต สนับสนุนใหสํานักงานเปนองคกรที่ใสสะอาด ปราศจากทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ โดยเผยแพรป ระชาสมั พนั ธใหประชาชน ผปู ระกอบวชิ าชีพทางการศกึ ษา และผูมสี วนไดเ สียทราบ ๒.กําหนดบทบาทและหนาที่ของผูบริหาร และพนักงานเจาหนาที่ทุกระดับใหครอบคลุมถึงการ ประพฤติตนเปนแบบอยางที่ดี ควบคุมกํากับติดตาม และรวมกันปองกันปองกันการกระทําท่ีเขาขายตอการ กระทําดงั กลา ว ตลอดจนใหค วามรวมมือในการตรวจสอบขอเท็จจริงตางๆ ๓.ใหก ารสนับสนุน ยกยอ ง ชมเชย ใหรางวัล แกพนกั งานเจาหนา ทีท่ ี่มีความซ่ือตรง ซือ่ สัตยส จุ ริตและ สนับสนุนการดําเนินงานเพื่อการปองกันการทุจริตและขัดกันระหวางผลประโยชนสวนตนและผลประโยชน สว นรวม ๔. ใหทุกสวนงานในสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาดําเนินการตามมาตรการปองกันการขัดกันระหวาง ผลประโยชนสวนตนและผลประโยชนสวนรวมอยางเครงครัด และรายงานผลตอผูบริหารสํานักงานเลขาธิการ คุรสุ ภาทราบ 28 ประกาศสาํ นกั งานเลขาธกิ ารคุรสุ ภา เร่อื ง มาตรการปอ งกันการขดั กนั ระหวา งผลประโยชนสว นตน และประโยชนสว นรวม ลงวนั ที่ ๒๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๒

60 จากการศึกษาเก่ียวกับการดําเนินการจัดซื้อจัดจางในสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาจะเห็นวาระบบการ ดําเนินการจัดซ้ือจัดจางของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภามีระบบท่ีรัดกุม โดยมีการกําหนดหนาที่ของ ผูรับผิดชอบและมีมาตรการในการปองกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจางโดยสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาได กําหนดใหส าํ นกั อาํ นวยการ กลุมการพสั ดแุ ละอาคารสถานที่ มหี นา ทแี่ ละความรับผิดชอบเกี่ยวกับเกีย่ วกับการ จัดซื้อจัดจาง เชน ๑.การดําเนินงานศึกษา วิเคราะห พัฒนา วางระบบการบริหารพัสดุและอาคารสถานศึกษา 2. วางแผนและดาํ เนินการเก่ยี วกับการจัดหา จัดซ้ือ จดั จา ง เก่ียวกับการพัสดุ และ การจดั ทาํ ขอผูกพันสัญญา การจัดซื้อจัดจาง 3. ตรวจรับพัสดุ 4. ควบคุมคลังวัสดุกลางของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา 5. ควบคุมและ จัดทําทะเบียนครุภัณฑของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา รวมท้ังการดูแล ซอมบํารุง เก็บรักษา และจําหนาย 6. ตรวจสอบพสั ดุประจาํ ป 7. ควบคุมดูแลความปลอดภยั และความสะอาดของอาคารสถานทแี่ ละบริเวณพื้นท่ี โดยรอบของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา 8. ควบคุมดูแลและบํารุงรักษาระบบสาธารณูปโภค และ ๙.ใหคาํ ปรึกษาแนะนาํ เกี่ยวกบั การดําเนนิ งานทางพัสดุ เปน ตน สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาไดกําหนดมาตรการใหเจาหนาท่ีซ่ึงปฏิบัติหนา ที่เก่ียวกับการจัดซื้อจัดจา ง ดําเนินการบันทึกรายละเอียด วิธีการและข้ันตอนการจัดซ้ือจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ ใหเปนไปตาม ข้ันตอน ของระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการจัดซ้ือจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ โดย ดําเนินการในระบบเครือขายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางผานทางระบบจัดซื้อจัดจางภาครัฐดวย อิเล็กทรอนิกส (Electronic Government Procurement e-GP) ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกําหนดแตละ ข้ันตอน ดังน้ี ๑. จัดทําแผนจัดซื้อจัดจาง ๒. ทํารายงานขอซ้ือหรือขอจาง ๓. ดําเนินการจัดหา ๔. ขออนุมัติ ส่ังซ้อื หรือจาง ๕.การทาํ สญั ญา ๖. การบริหารสญั ญา ๗. การควบคุมและการจําหนา ย และหามมใิ หเ จาหนาที่ ของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาซ่ึงปฏิบัติหนาท่ีเก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจางเขาไปมีสวนไดเสีย กับผูย่ืนขอเสนอ หรือคูสัญญาของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาและใหคณะกรรมการตางๆ ที่ไดรับการแตงตั้งใหมีหนาท่ี รับผิดชอบเก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจางจะตองใหคํารับรองเปนหนงั สือวา จะไมเขาไปมีสว นไดเสียกับผยู ื่นขอเสนอ หรอื คูส ญั ญาของสาํ นกั งานเลขาธิการครุ สุ ภา จากขอเท็จจริงท่ีผูศึกษาไดศึกษาเก่ียวกับระบบการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุของสํานักงาน เลขาธกิ ารครุ ุสภาและวเิ คราะหพ บวา มีปญ หาและขอ จํากดั ในดานตางๆ ดังตอไปนี้ 1. ดา นบุคลากร ๑.๑ คณะกรรมการจัดซ้ือจัดจาง คณะกรรมการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะ คณะกรรมการตรวจ รับพัสดุ ไมม คี วามรแู ละความชาํ นาญเพยี งพอ กอใหเ กดิ การจดั ซอ้ื จัดจางที่ลา ชา และไมม ีประสทิ ธิภาพ ๑.๒ เจา หนาทที่ ป่ี ฏิบัติงานดานพสั ดุ ขาดแรงจูงใจ โดยพระราชบญั ญัติการจัดซื้อ จัดจา งและการ บริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มีบทลงโทษเจาหนาท่ีหรือผมู ีอํานาจปฏบิ ัติหรือละเวน การปฏิบัติหนาท่โี ดย ทุจริตตองระวางโทษจําคุก ทาํ ใหเ จาหนา ทีไ่ มต อ งการเปนเจาหนา ทเ่ี ก่ยี วกบั การ จัดซอื้ จดั จางของหนวยงาน ๑.๓ เจาหนาที่ที่ปฏิบัติงานดานพัสดุ มีจํานวนนอย ทําใหผลงานขาดประสิทธิภาพ เกิดความ ผิดพลาดโดยไมเจตนา

61 2. ดา นการบรหิ ารจดั การ ๒.๑ การเรงรัดการเบิกจายงบประมาณอาจทําใหระยะเวลาในการจัดซ้ือจัดจางมีจํากัดและ เกิดความเส่ียงที่จะดาํ เนินการผดิ ขนั้ ตอนของระเบียบและกฎหมาย ๒.๒ การขาดความไมเขาใจกระบวนการจัดซื้อจัดจา ง โดยเฉพาะการดําเนินการ ตามระเบียบใน ดานเอกสารพรอมกับในระบบ e-GP ตามท่ีกรมบัญชีกลางกําหนดอาจดําเนินการผิดขั้นตอนของระเบียบและ กฎหมาย ๒.๓ ในการบริหารสัญญาอาจไมเปนไปตามระยะเวลาที่กําหนด ทําใหงานลาชาตองมีการเรงรัด สง ผลใหผลงานไมม คี ณุ ภาพ ดังนั้นจึงเห็นวาการจดั ซ้ือจดั จางและการบรหิ ารพัสดุภาครัฐ เปน กฎหมายใหมท บ่ี ังคับใชกับหนว ยงาน ของรัฐและสํานักงานเลขาธกิ ารคุรุสภาเปนหนวยงานของรัฐประเภทองคการมหาชน จึงตองเรงทําความเขาใจ ในแนวทางการปฏิบัติแกพนักงานเจาหนาที่เพ่ือใหมีความรู ความเขาใจ สามารถปฏิบัติงานจัดซ้ือจัดจางได อยา งถกู ตองตอไป

62 บทท่ี 5 ขอ เสนอแนะ เน่ืองจากพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ประกาศในราช กิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ 2560 ใหใชบังคับเม่ือพนกําหนด 180 วันนับแตวันประกาศ พระราชบัญญัตินี้มีวัตถุประสงคใหการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุของหนวยงานของรัฐกอใหเกิด ประโยชนสูงสุด ตามหลักการ \"คุมคา โปรงใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได\" และใชแทน บทบัญญัติที่เก่ียวกับพัสดุ การจัดซ้ือจัดจาง หรือการบริหารพัสดุ ในกฎหมาย ระเบียบ ขอบังคับ ประกาศ ขอบัญญัติ และขอกําหนดใดๆ ของหนวยงานของรัฐท่ีมีอยูเดิม ซึ่งรวมถึงระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี วาดวย การพัสดุ พ.ศ. 2535 และท่ีแกไขเพิ่มเติม และระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการพัสดุดวยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส พ.ศ. 2549 รวมถึงกฎหมายในการดําเนินการเก่ียวกับพัสดุของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ดวย เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ คือ เพื่อใหการดําเนินการจัดซื้อจัดจางและการบริหาร พัสดุภาครัฐมีกรอบการปฏิบัติงานที่เปนมาตรฐานเดียวกัน โดยการกําหนดเกณฑมาตรฐานกลางเพ่ือให หนวยงานของรัฐทุกแหงนําไปใชเปนหลักปฏิบัติ โดยมุงเนนการเปดเผยขอมูลตอสาธารณชนใหมากที่สุด เพื่อใหเกิดความโปรงใสและเปด โอกาสใหมีการแขงขันอยางเปน ธรรม มีการดําเนินการจัดซ้อื จัดจางท่ีคํานึงถงึ วตั ถปุ ระสงคข องการใชงานเปนสําคัญซึ่งจะกอใหเกดิ ความคุมคา ในการใชจายเงินมีการวางแผนการดาํ เนินงาน และมกี ารประเมินผลการปฏิบัติงานซ่ึงจะทําใหการจัดซื้อจัดจางมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทัง้ เพ่ือให เปนไปตามหลักธรรมาภิบาล มีการสงเสริมใหภาคประชาชนมีสวนรวมในการตรวจสอบการจัดซื้อ จัดจาง ภาครัฐซึ่งเปนมาตรการหนึ่งเพ่ือปองกันปญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในการจัดซ้ือจัด จางภาครัฐ ประกอบกบั มาตรการอื่นๆ เชน การจัดซือ้ จัดจางดวยวธิ ีการทางอเิ ล็กทรอนิกส ซึง่ จะทําใหเกดิ ความโปรงใสใน การดําเนินการจัดซ้ือจัดจางภาครัฐ อันจะเปนการสรางความเชื่อมั่นใหกับ สาธารณชนและกอใหเกิดผลดีกับ การจดั ซ้อื จดั จา งภาครัฐใหเปนทยี่ อมรบั โดยท่วั ไป การดําเนินการจัดซ้ือจัดจางในสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาจึงตองดําเนินการตามพระราชบัญญัติการ จัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาไดกําหนดมาตรการ ในการปองกันการทุจริตในการจัดซ้ือจัดจางที่มีความรัดกุม ดังท่ีไดกลาวมาแลวในบทที่ ๔ และเพ่ือใหการ ดําเนินการจัดซื้อจัดจางมีความถูกตองตามกฎหมายและผูจัดทําการจัดซื้อจัดจางปฏิบัติหนาท่ีไดอยางถูกตอง และมีประสิทธภิ าพ ผศู กึ ษามขี อเสนอแนะเพอื่ เปน แนวทางในการดําเนนิ การดงั ตอ ไปน้ี ๑. มาตรการเพิม่ ประสิทธิภาพ สงเสริม สนับสนุน และเพ่ิมประสิทธิภาพ การจัดซื้อจัดจางและ การบริหารพัสดุภาครัฐของ สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาเพ่ือใหสอดคลองกับพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กฎกระทรวง ระเบียบ และ กฎหมายที่เก่ียวของ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อจดั จางและการ บริหารพัสดุภาครัฐ โดยการพฒั นาบคุ ลากรเพอื่ ใหส ามารถปฏบิ ตั งิ านการจดั ซ้ือจดั จา งไดอยางถูกตอง ๒. การขบั เคล่อื นและติดตามผล การขับเคล่ือนการดําเนินการตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อจัดจางและการบริหาร พัสดุภาครัฐ ของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ควรจัดทําคูมือปฏิบัติงานใหทุกสวนงานทราบและถือปฏิบัติ ภายในระยะเวลาทกี่ ําหนด

63 ๓. การพิจารณาของคณะกรรมการ ในการดําเนินการจัดซ้ือจัดจางแตละครั้งระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการจัดซื้อจัดจางและ การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กําหนดใหหัวหนาหนวยงานของรัฐแตงต้ังคณะกรรมการซื้อหรือจางขึ้น เพ่อื ปฏิบตั กิ ารตามระเบียบนี้ พรอ มกับกาํ หนดระยะเวลาในการพิจารณาของคณะกรรมการ แลวแตก รณี ดังน้ี ๑) คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส ๒) คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา ๓) คณะกรรมการซ้ือหรือจางโดยวิธีคัดเลือก ๔) คณะกรรมการซ้ือหรือจางโดยวิธีเฉพาะเจาะจง และ ๕) คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ท้ังน้ี ใหคณะกรรมการซ้ือหรือจางแตละคณะ รายงานผลการพิจารณาตอ หัวหนาหนวยงานของ รัฐภายในระยะเวลาท่ีกําหนด ถามีเหตุที่ทําใหการรายงานลาชา ใหเสนอหัวหนา หนวยงานของรฐั พจิ ารณาขยายเวลาใหต ามความจําเปน ในการพิจาณาของคณะกรรมการจะตองปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยมาตรา ๑๓ กําหนดวาเจาหนาท่ีดังตอไปนี้จะทําการพิจารณาทางปกครองไมได ๑) เปน คกู รณเี อง ๒) เปนคหู มัน้ หรอื คูส มรสของคูกรณี ๓) เปน ญาตขิ องคูกรณีคอื เปนบุพการีหรอื ผูส ืบสนั ดาน ไมวาช้ันใดๆ หรือเปน พี่นองหรือลูกพ่ีลูกนองนับไดเพียงภายในสามชั้น หรือเปนญาติเก่ียวพันทางแตงงานนับ ไดเพียง สองช้ัน ๔) เปนหรือเคยเปนผูแทนโดยชอบธรรมหรือผูพิทักษหรือผูแทนหรือตัวแทนของคูกรณี ๕) เปน เจา หน้ีหรือลูกหนหี้ รือเปนนายจา งของคูกรณี ๖) กรณีอ่นื ตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง และมาตรา ๑๔ กําหนดวาเม่ือมีกรณีตามมาตรา ๑๓ หรือคูกรณีคัดคานวาเจาหนาที่ผูใดเปน บุคคลตามมาตรา ๑๓ ให เจาหนาท่ีผูน้ันหยุดการพิจารณาเรื่องไวกอน และแจงใหผูบังคับบัญชา เหนือตนข้ึนไปช้ันหน่ึงทราบ เพื่อที่ ผูบังคับบัญชาดังกลาวจะไดมีคําสั่งตอไป และการยื่นคําคัดคาน การพิจารณาคําคัดคาน และการส่ังให เจา หนา ที่อ่นื เขา ปฏบิ ตั ิ หนา ทแ่ี ทนผทู ถี่ กู คัดคา นใหเปนไปตามหลักเกณฑแ ละวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง ดังนั้น สํานักงานเลขาธิการคุรุสภา จําตองสรางความเขาใจเกี่ยวกับการหลักความเปนกลางและการเปนผูมี สวนไดเสียแกผูปฏิบัติงานการจัดซื้อจัดจางตามที่กําหนดในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ดวย ๔. มาตรการในการกําหนดความรบั ผดิ จากการศึกษาการดําเนินการจัดซ้ือจัดจางของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภาผูศึกษาเห็นวาสํานักงาน เลขาธิการคุรุสภายังไมมีการกําหนดโทษ หรือแนวทางในการพิจารณาการกําหนดโทษเก่ียวกับการจัดซ้ือจัด จางไว ทั้งนี้ เพ่ือเปนแนวทางในเสริมสรางความรูความเขาใจเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจางและการบริหารพัสดุ ของสํานักงานเลขาธิการคุรุสภา ผูศึกษาไดศึกษาจึงไดศึกษาแนวทางการพิจารณากําหนดโทษทางวินัย ความ รับผิดทางอาญามานําเสนอ และความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาที่เพื่อประกอบในการพัฒนาเจาหนาที่ที่มี หนา ท่ีในการจดั ซ้ือจัดจาง ดงั รายละเอียดตอ ไปน้ี ๔.๑ บทกําหนดโทษทางวินยั สํานักงานเลขาธิการคุรุสภาควรสรางความตระหนักรูและสํานึกในความรับผิดชอบในการ ดําเนินการจัดซ้ือจัดจาง โดยวางแนวทางในการกําหนดโทษทางวินัยเกี่ยวกับการจดั ซื้อจัดจางที่ชดั เจน ท้ังนี้ ผู ศึกษาไดศึกษาเก่ียวกับแนวทางความรับผิดทางวินัยที่เก่ียวกับการจัดซื้อจัดจางพบวามีแนวทางในการกําหนด โทษเกี่ยวกับความผิดท่ีเก่ียวของกับงานพัสดุ ท่ีไดมีการกําหนดไวท้ังตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวย การพัสดุ พ.ศ.2535 ไดร ะบุการกระทาํ ที่เปน ความผิด ดังน้ี

64 1) จงใจ หรือประมาทเลินเลอ 2) เจตนาทุจรติ 3) ทาํ โดยปราศจากอาํ นาจ หรอื ทํานอกอํานาจหนาท่ี 4) เอือ้ อํานวยใหม ีการขัดขวางการแขง ขนั ราคาอยางเปนธรรม ในการเสนอราคา หรอื เสนองาน โทษตามความผดิ มแี ตกตา งกันดงั น้ี 1) เจตนาทจุ ริต/ทาํ ใหร าชการเสียหาย อยา งรา ยแรง โทษอยางตํ่า ปลดออก 2) ทําใหราชการเสียหาย แตไมร ายแรง โทษอยางตํา่ ตัดเงนิ เดอื น 3) ทําความผิดแตไมเสียหายรายแรง โทษอยางตา่ํ ภาคทัณฑ หรอื วากลาวตักเตือนเปน ลาย ลกั ษณอักษร นอกจากนน้ั ตามระเบียบคณะกรรมการตรวจเงนิ แผนดิน วา ดวยวนิ ัยทางงบประมาณและการคลัง พ.ศ. 2544 มีการกําหนดโทษความผิดท่ีเกยี่ วของกับการพัสดุ ซ่ึงมบี ทกาํ หนดโทษดงั น้ี 1) โทษชั้นท่ี 1 โทษปรบั ไมเกนิ เงินเดือน 1 เดือน 2) โทษขั้นท่ี 2 โทษปรับเทากับเงินเดือนตัง้ แต 2 เดอื น ถึง 4 เดอื น 3) โทษขัน้ ที่ 3 โทษปรบั เทากบั เงินเดือนตงั้ แต 5 เดือน ถงึ 8 เดือน 4) โทษขั้นท่ี 4 โทษปรบั เทากบั เงนิ เดือนต้ังแต 9 เดอื น ถึง 12 เดอื น ประเภทของความผิดทางพสั ดุ พอสรุปไดดังน้ี 1) การจัดซ้ือจัดจา ง กรณีเปน เจา หนาท่ี มีหนาทด่ี ําเนนิ การจดั ซือ้ หรือจัดจาง ปฏิบตั ิหรอื ละเวน การปฏิบตั หิ นาทโี่ ดย มิชอบ โดยแบง แยกวงเงิน ซ้อื หรือจาง เพ่ือใหอ ํานาจ หรือวธิ กี ารสั่งซอื้ สั่งจางเปลีย่ นแปลงไป เปน เหตุใหเกิด ความเสียหายแกร ฐั โดยจงใจ ผกู ระทาํ ผดิ ตองโทษโทษปรบั ทางปกครองชั้นที่ 4 2) การจัดซื้อท่ีดินและสิ่งกอสราง กรณีเปนเจา หนาทม่ี ีหนา ที่จดั ซือ้ ท่ีดินหรือสง่ิ กอ สรางปฏิบตั ิหรือละเวน การปฏิบัตหิ นาทโ่ี ดย มิชอบ เปนเหตุใหเ กิดความเสียหายแกรฐั โดยจงใจ ผูก ระทําผดิ ตอ งโทษโทษปรบั ทางปกครองชนั้ ท่ี 4 3) การกําหนดราคากลาง หรือ คณุ สมบตั ิผเู สนอราคา หรือจัดทาํ รายละเอียดหรือคุณ ลักษณะเฉพาะ กรณีเปนเจาหนา ที่มีหนา ทก่ี ําหนดราคากลาง หรือคุณสมบตั ิผูเสนอราคาหรือจัดทาํ รายละเอยี ด หรือคุณลักษณะ เฉพาะ ปฏิบตั หิ รือละเวนการปฏบิ ตั ิหนาที่โดยมชิ อบ กดี กนั หรือเอื้อประโยชนแกผ มู ีอาชีพ ขายหรือรับจา ง เปน เหตุใหเกิดความเสยี หายแกร ัฐ โดยจงใจ ผกู ระทําผิดตองโทษโทษปรับทางปกครองช้นั ที่ 4 4) การปดประกาศหรือจดั สงเอกสารสอบราคา หรอื ประกวดราคา กรณีเปน เจา หนา ที่ มีหนาทีป่ ด ประกาศหรือจัดสงเอกสารสอบราคา หรือ ประกวดราคา ละเลย ไมปดประกาศหรือไมจ ัดสง เอกสารเพ่ือทราบหรือเผยแพรโ ดยไมม เี หตุผลอันสมควร หรอื โดยจงใจ ปฏิบัติหรือ ละเวนการปฏบิ ัติหนาทโี่ ดยมิชอบ ใหเ กดิ ความเสยี หายแกร ัฐ ผูก ระทาํ ผดิ ตอ งโทษโทษปรับทางปกครองช้นั ท่ี 1 ถาการกระทาํ ความผิดตามวรรคหน่งึ เปน การปฏบิ ตั ิหรอื ละเวนการปฏิบัติหนา ท่ีตามกฎหมาย หรือระเบียบทีใ่ ชบ งั คับกับหนวยรับตรวจโดยมิชอบ เปน เหตใุ หเ กดิ ความเสยี หายแกรฐั เจาหนา ทผี่ กู ระทําตอง

65 รบั โทษปรับทางปกครอง ช้ันท่ี 4 5) การพิจารณาผลการประกวดราคา หรือเปด ซองสอบราคา กรณีเปนเจา หนาทีม่ หี นาท่พี จิ ารณาผลการประกวดราคา หรือเปด ซองสอบราคา รบั พจิ ารณาผู เสนอราคาทป่ี ฏบิ ัติไมถูกตองตามเงอ่ื นไข รูหรือควรจะรูขอ เท็จจริง เปน เหตใุ หเ กดิ ความเสยี หายแกรฐั โดยจงใจ ผกู ระทําผดิ ตองโทษโทษปรับทางปกครองช้ันที่ 3 6) การพจิ ารณาเสนอความเห็นใหซื้อหรือจาง กรณีเปนเจาหนา ทม่ี ีหนา ทพี่ ิจารณาเสนอความเห็นใหซอ้ื หรือจาง ไมป ฏบิ ัตหิ รือปฏบิ ตั ิหนาที่ไม ถูกตอง หรือไมพจิ ารณาเสนอใหซอ้ื หรือจางผเู สนอราคาตํ่าสดุ โดยไมม ีเหตผุ ลอันสมควร เปนเหตใุ หเ กดิ ความ เสียหายแกร ฐั โดยจงใจ ผูกระทาํ ผดิ ตองโทษโทษปรบั ทางปกครองชัน้ ท่ี 3 7) การทําสัญญาซ้ือขายหรือจาง กรณีเปน เจา หนา ท่ีมีหนา ทเี่ กี่ยวกับการทําสัญญาซ้อื ขายหรอื จา ง ปฏิบัตหิ รือละเวนการปฏิบัติ หนาท่ีโดยมชิ อบ เปนเหตุใหเกดิ ความเสียหายแกรฐั โดยจงใจ ผกู ระทําผิดตองโทษโทษปรับทางปกครองชนั้ ท่ี 4 8) การควบคมุ งานและตรวจการจาง กรณีเปน เจา หนา ท่ี มีหนา ท่คี วบคมุ งานหรือตรวจการจางไมปฏบิ ัติหรือปฏบิ ตั หิ นา ทีไ่ มถูกตอง ปฏบิ ัตหิ รือละเวนการปฏิบัตหิ นา ทีโ่ ดยมชิ อบ เปนเหตุใหเ กิดความเสียหายแกร ฐั โดยจงใจผกู ระทาํ ผิดตองโทษ โทษปรับทางปกครองชั้นที่ 3 ถา กรณเี จา หนาทซี่ งึ่ มหี นาทค่ี วบคมุ งานหรอื ตรวจการจาง ปฏบิ ตั หิ รือละเวนการปฏบิ ัตหิ นาทต่ี าม กฎหมายหรอื ระเบียบทใ่ี ชบ งั คับกบั หนว ยรับตรวจโดยมชิ อบ เปนเหตใุ หเกดิ ความเสยี หายแกรฐั ตองรบั โทษ ปรบั ทางปกครอง ชั้นท่ี 4 9) การตรวจรับพัสดุ กรณีเปนเจาหนา ที่ มีหนา ทต่ี รวจรับพสั ดุ ปฏบิ ัตหิ รือละเวน การปฏบิ ัติหนาที่โดยมิชอบ เปน เหตุ ใหเ กดิ ความเสยี หายแกรัฐ โดยจงใจ ผูก ระทาํ ผิดตอ งโทษโทษปรบั ทางปกครองชน้ั ที่ 4 10) การเบกิ จายพสั ดุ หรอื จดั ทําบัญชี หรือ ทะเบียนพัสดุ กรณีเปน เจา หนาทม่ี ีหนา ทเ่ี บิกจายพัสดุ หรอื จดั ทําบัญชี หรือ ทะเบยี นพัสดุ ไมปฏิบัตหิ รอื ปฏิบัติ หนาทไ่ี มถกู ตอง เปนเหตใุ หเ กิดความเสยี หายแกร ฐั โดยจงใจ ผูกระทาํ ผิดตองโทษโทษปรับทางปกครองชั้นที่ 2 11) การตรวจสอบพัสดุประจาํ ป กรณีเปนเจาหนา ที่ มีหนาทต่ี รวจสอบพัสดุประจาํ ป ไมปฏบิ ตั ิหรือปฏบิ ัติหนาทีไ่ มถ ูกตอ ง เปนเหตุ ใหเกิดความเสยี หายแกร ัฐโดยจงใจ ผกู ระทําผิดตองโทษโทษปรบั ทางปกครองช้นั ที่ 2 ผูบังคับบญั ชาผูใดมีหนาที่แตงต้ังเจาหนา ท่ีตรวจสอบพัสดปุ ระจําปต ามกฎหมายหรือระเบยี บที่ใช บังคบั กับหนว ยรบั ตรวจ ไมแตง ตง้ั เจาหนา ทตี่ รวจสอบพสั ดปุ ระจาํ ป เปน เหตุใหเกิดความเสียหายแกรัฐ ตองรบั โทษปรบั ทางปกครอง ชั้นที่ 3 12) เจา หนา ที่ผูใดมหี นาทีต่ ามกฎหมายหรือระเบยี บวา ดวยยานพาหนะของหนวยรบั ตรวจทีใ่ ช บังคบั กับหนว ยรับตรวจ ปฏิบตั ิหรือละเวน การปฏบิ ตั ิหนาที่ตามกฎหมายหรือระเบียบดังกลาวโดยมชิ อบ เปน เหตุใหเ กิดความเสียหายแกร ฐั ตองรับโทษปรบั ทางปกครองชน้ั ที่ 2

66 ถาเจา หนาท่ผี ูก ระทาํ ความผดิ หรอื มีสวนรวมในการกระทาํ ความผดิ ในสว นน้ี เปน ผูบังคับบัญชา ตอ งรบั โทษปรับทางปกครองในชน้ั ทส่ี งู กวา อัตราโทษปรับทางปกครองตามท่กี ําหนดไวส าํ หรบั ความผิดนน้ั หน่ึง ชั้น เวนแตความผิดนั้นกาํ หนดอตั ราโทษปรับทางปกครองไวใ นช้ันท่ี 4 แลว ๔.๒ บทกาํ หนดโทษทางอาญา พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจา งและการบริหารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ ไดก ําหนดเกย่ี วกบั ความผิด ทางอาญา ไวด งั ตอไปนี้ มาตรา ๑๒๐ ผูใดเปนเจาหนาที่หรือเปนผูมีอํานาจหนาท่ีในการดําเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจาง หรือการบริหารพัสดุ ปฏิบัติหรือละเวนการปฏิบัติหนาท่ีในการจัดซื้อจัดจางหรือการบริหารพัสดุ ตาม พระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ีโดยมิชอบ เพื่อให เกิดความเสียหายแกผูหนึ่งผูใด หรือปฏิบัติหรือละเวนการปฏิบัติหนาที่ในการจัดซ้ือจัดจาง หรือการบริหาร พสั ดตุ ามพระราชบัญญตั ินี้ กฎกระทรวง ระเบยี บ หรอื ประกาศทอ่ี อกตามความในพระราชบญั ญตั ิน้ี โดยทจุ ริต ตอ งระวางโทษจําคุกตัง้ แตห น่ึงปถ งึ สบิ ป หรือปรบั ต้ังแตสองหมืน่ บาทถงึ สองแสนบาท หรอื ท้งั จาํ ทัง้ ปรับ ผใู ดเปนผใู ชห รอื ผูส นับสนนุ ในการกระทําความผิดตามวรรคหน่ึง ผูน้ันตองระวางโทษตามที่ กําหนดไว สําหรับความผดิ ตามวรรคหนึง่ มาตรา ๑๒๑ ผูใดไมปฏิบัติตามคําส่ังของคณะกรรมการวินิจฉัยตามมาตรา ๓๑ หรือคําสั่งของ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณตามมาตรา ๔๕ และคณะกรรมการวินิจฉัยหรอื คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ แลวแตกรณี พิจารณาแลวเห็นวา เปน การไมปฏิบัติตามคําสัง่ โดยไมมีเหตุผลอันสมควร ผูน้ันมีความผิด ฐานขัด คําสั่งเจาพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาใหดาํ เนนิ คดีแกผนู ัน้ ตอไป ๔.๓ ความรับผดิ ทางละเมิดของเจา หนาที่ พระราชบัญญัติ ความรับผิดทางละเมิดของเจาหนาที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๔ กําหนดวา “เจา หนาที่” หมายความวา ขา ราชการ พนักงาน ลูกจาง หรือผูปฏบิ ตั งิ านประเภทอน่ื ไมวาจะเปน การ แตงต้ัง ในฐานะเปนกรรมการหรือฐานะอื่นใด “หนวยงานของรัฐ” หมายความวา กระทรวง ทบวง กรม หรือสวน ราชการท่ีเรียกชื่ออยางอื่นและมี ฐานะเปนกรม ราชการสวนภูมิภาค ราชการสวนทองถิ่น และรัฐวิสาหกิจที่ ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราช กฤษฎีกา และใหหมายความรวมถึงหนวยงานอ่ืนของรัฐท่ีมีพระราช กฤษฎีกากําหนดใหเปนหนวยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้ดวย และมาตรา ๕ หนวยงานของรัฐตองรับผดิ ตอผูเสียหายในผลแหงละเมิดที่เจาหนาท่ีของตนไดกระทําในการ ปฏิบัติหนาท่ี ในกรณีนี้ผูเสียหายอาจฟอง หนวยงานของรัฐดังกลาวไดโดยตรง แตจะฟองเจาหนาที่ไมได ถาการละเมิดเกิดจากเจาหนาที่ซึ่งไมไดสังกัด หนว ยงานของรัฐแหง ใดใหถ อื วา กระทรวงการคลงั เปน หนวยงานของรัฐทีต่ อ งรบั ผิดตามวรรคหนง่ึ ท้ังน้ี มาตรา ๘ กําหนดวาในกรณีที่หนวยงานของรัฐตองรับผิดใชคาสินไหมทดแทนแกผูเสียหายเพ่ือ การละเมิดของ เจาหนาท่ี ใหหนวยงานของรัฐมีสิทธิเรียกใหเจาหนาท่ีผูทําละเมิดชดใชคาสินไหมทดแทน ดังกลาวแกหนวยงานของ รัฐไดถาเจาหนาท่ีไดกระทําการนั้นไปดวยความจงใจหรือประมาทเลินเลออยาง รายแรง สิทธิเรียกใหชดใชคาสินไหมทดแทนตามวรรคหนึ่งจะมีไดเพียงใดใหคํานึงถึงระดับความรายแรงแหง การ กระทําและความเปนธรรมในแตละกรณีเปนเกณฑโดยมิตองใหใชเต็มจํานวนของความเสียหายก็ได ถา การละเมิดเกิดจากความผิดหรือความบกพรองของหนวยงานของรัฐหรือระบบการดําเนินงาน สวนรวม ใหหัก สวนแหงความรับผิดดังกลาวออกดวย ในกรณีที่การละเมิดเกิดจากเจาหนาที่หลายคน มิใหนําหลักเรื่องลูกหนี้ รว มมาใชบ งั คับและเจา หนาที่ แตล ะคนตองรับผิดใชค าสนิ ไหมทดแทนเฉพาะสวนของตนเทานนั้

67

68

69

70

บรรณานกุ รม สํานกั งานเลขาธกิ ารคุรสุ ภา,การพัฒนาเตรียมความพรอมสูการเปน ผูบริหาร หลกั สตู ร “พฒั นาศักยภาพ ผูนํายุคใหม รนุ ที่ ๒”กรุงเทพมหานคร,2562 สพุ ศิ ประณีตพลกรัง,กฎหมายพสั ดุ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซ้อื จัดจา งและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ.๒๕๖๐,กรงุ เทพมหานคร,สํานักพมิ พบณั ฑิตอักษร,๒๕๖๑ คณะทํางานตรวจสอบและจัดทาํ คําแนะนาํ ฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม,คูม ือปฏบิ ัตงิ าน ตามพระราชบญั ญัติการจดั ซื้อจดั จา งและการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐,กรงุ เทพมหานคร, ๒๕๖๑

ผจู ัดทํารายงาน ๑. นายสชุ าติ แสนภมู ิ ตําแหนง เจา หนา ทีบ่ รหิ ารทั่วไปปฏบิ ตั กิ าร กลุมการประชุมและประสานงาน สาํ นักอาํ นวยการ ปฏบิ ตั ิงานในสํานักงานศึกษาธิการจังหวดั รอ ยเอด็ การศึกษา นิติศาสตรบัณฑติ มหาวิทยาลยั รามคําแหง ประกาศนยี บัตรวชิ าวาความ สํานกั ฝก อบรมวชิ าวา ความ สภาทนายความ ประกาศนยี บตั รบัณฑติ ทางดานกฎหมายมหาชน มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน สถาบันบัณฑติ พัฒนบริหารศาสตร (นดิ า ) ประสบการณการทํางาน ทนายความ บริษัทท่ีปรึกษากฎหมายสกุลธญั แอนด แอสโซซเิ อทส จํากดั นติ ิกร ฝา ยกฎหมายและบริหารหลักทรพั ย บรษิ ัท ล็อกซเลย จํากดั (มหาชน) เจาหนาทก่ี ฎหมายปฏิบตั ิการ กลมุ วินยั อทุ ธรณ และรองทุกข ศนู ยครุ สุ ภาจงั หวดั สาํ นักงานเลขาธิการครุ สุ ภา นติ กิ รปฏบิ ตั ิการ กลุมนติ ิการ และกลมุ อุทธรณ สาํ นกั จรรยาบรรณวชิ าชีพและนติ ิการ สํานกั งานเลขาธิการคุรสุ ภา โทร ๐๘ ๙๗๗๕ ๙๘๖๑ Email: [email protected] ๒. นางสาวกมลชนก อดุ ยะเขอ่ื น ตาํ แหนง นกั วชิ าการ กลุม สง เสรมิ จรรยาบรรณวิชาชพี สาํ นักพัฒนาและสง เสริมวิชาชพี การศึกษา ปรญิ ญาตรี คอมพวิ เตอรธ รุ กิจ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา ปริญญาโท การบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยกรุงเทพธนบุรี กําลังศกึ ษา วิทยาศาสตรข อ มูล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร โทร 06 2392 9155 Email : [email protected] ทักษะความสามารถทางคอมพิวเตอร: การใชโ ปรแกรม Microsoft Office ระดับดีมาก การใชโ ปรแกรม Adobe Photoshop, Adobe Illustrator, Adobe Premiere Pro ระดบั ดี การศึกษาดงู าน ป 2550 การศึกษาดูงานในตางประเทศ เก่ียวกับการศึกษา ประเทศเยอรมัน และประเทศสวิสเซอรแลนด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook