Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การผลิตผักกาดเค็มแม่แสงจันทร์

การผลิตผักกาดเค็มแม่แสงจันทร์

Published by มธุริน บุตรพรม, 2021-09-23 06:31:48

Description: การผลิตผักกาดเค็มแม่แสงจันทร์

Search

Read the Text Version

โครงงาน การพัฒนาเวบ็ ไซต์ เรอ่ื ง การผลิตผกั กาดเคม็ โดย นางสาวมธุรนิ บตุ รพรม นางสาวนนั ทดิ า เป่ียมชู แผนกวชิ าคอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกจิ ปกี ารศกึ ษา 2564 วิทยาลัยอาชวี ศึกษาพิษณโุ ลก รายงานฉบบั นี้เป็นส่วนประกอบของโครงงานการประมวลผลแบบคราวด์ ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้นั สงู (ปวส.)

โครงงาน การพฒั นาเวบ็ ไซต์ เร่ือง การผลิตผักกาดเคม็ โดย นางสาวมธุรนิ บตุ รพรม นางสาวนนั ทิดา เปี่ยมชู แผนกวิชาคอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ ปีการศกึ ษา 2564 วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาพิษณุโลก ครทู ี่ปรึกษา นายภมู ิพัฒน์ วนพิพฒั นพ์ งศ์

-ก– ชอ่ื เรอื่ ง โครงงานคอมพิวเตอร์ การพฒั นาเวบ็ ไซต์เพอื่ การศึกษา เร่อื ง การผลติ ผกั กาดเค็ม ประเภทโครงงาน โครงงานพฒั นาสื่อการศึกษา การศกึ ษา ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชั้นสงู (ปวส.) โดย นางสาวนันทิดา เปยี่ มชู นางสาวมธุรนิ บุตรพรม การศกึ ษา แผนกวชิ าคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพษิ ณุโลก ครทู ป่ี รกึ ษา นายภูมิพฒั น์ วนพพิ ัฒน์พงศ์ ปีการศกึ ษา 2564 บทคดั ยอ่ (Abstract) โครงการวิจยั คร้ังนี้มีวัตถปุ ระสงค์เพอ่ื ศึกษาเหตุการณ์และเร่อื งราวตา่ ง ๆ ในการทำ เวบ็ ไซต์การผลิตผกั กาดเค็ม เพื่อใหไ้ ด้รับความรจู้ ากการสรา้ งเวบ็ ไซต์ การผลิตผักกาดเคม็ ดว้ ยสอ่ื เว็บบไซต์ เรื่อง การผลติ ผักกาดเค็ม จากการทดสอบ พบว่าเว็บไซต์ เร่ือง การผลิตผกั กาดเค็ม ที่ได้พฒั นาข้นึ นส้ี ามารถทำงาน ไดค้ รบความตอ้ งการของผ้ใู ช้ คือ มชี ่องทางการสง่ั ซ้ือสนิ คา้ ศึกษาเน้อื หาเกย่ี วกบั การผลิต โดย ผลติ ภณั ฑ์จะมคี วามแตกต่างแปลกใหม่เหมือนทีไ่ ม่เคยมีมาก่อน ซึง่ ผวู้ ิจยั จะออกแบบและสร้างเว็บไซต์ เพื่อให้มีความสะดวกรวดเรว็ ในการขายสินค้า การเลือกซ้อื หรอื การเดินทาง ลูกค้าสามารถเลือกซอื้ สนิ ค้าผ่านทางเว็บไซต์ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งเดนิ ทางไปรา้ นคา้ เองและมบี ริการจัดสง่ สินค้าให้ถึงที่

-ข- กิตติกรรมประกาศ การออกแบบและพฒั นาเว็บไซต์ ความรู้เก่ยี วกับการผลิตผกั กาดเค็ม กรณีศกึ ษา : การ ผลิตผักกาดเคม็ บ้านเลขท่ี 76/13 ชมุ ชนเลอไท ถนนประเวศนคร ตำบลธานี อำเภอเมือง จังหวดั สุโขทัย 64000 โครงการวจิ ัยฉบับน้ี สำเรจ็ ลุล่วงได้ดว้ ยความกรณุ าชว่ ยเหลอื และให้คำปรึกษาอย่างดีย่งิ จากครผู ้สู อนและทปี่ รกึ ษาโครงการวจิ ัย นายภมู พิ ฒั น์ วนพพิ ัฒน์พงศ์ ครูทป่ี รึกษาโครงการวจิ ัย ทไี่ ด้ ถ่ายถอดความรแู้ นวคิดวธิ กี ารคำแนะนำและตรวจสอบแก้ไขข้อยกพร่องตา่ ง ๆ ด้วยความเอาใจใส่ย่ิง ผู้วจิ ัยกราบขอบพระคณุ เป็นอยา่ งสงู ขอบพระคุณผู้เชย่ี วชาญทกุ ท่านทีก่ รุณาตรวจสอบคุณภาพเครอื่ งมอื ท่ีใช้ในโครงการววจิ ยั ไดก้ รุณาปรับปรุงแกไ้ ขข้อบกพร่อง และใหค้ ำแนะนำในการทำโครงการวิจยั ให้ถูกตอ้ งงสมบรู ณ์ยง่ิ ขน้ึ ขอขอบพระคณุ บดิ า - มารดา และญาตพิ นี่ อ้ งทกุ ท่านท่ีคอยชว่ ยเหลือท้งั ดา้ นกำลังใจ ด้านทรพั ย์ ด้านความคิดเหน็ และให้ความเมตตาแก่ผวู้ ิจัยมาโดยตลอดเป็นกำลังใจสำคัญทีท่ ำให้การ ศึกษาวิจยั ฉบบั นส้ี ำเรจ็ ลลุ ่วงไดด้ ้วยดี นางสาวมธุรนิ บุตรพรม นางสาวนันทิดา เปยี่ มชู

-ค- คำนำ โครงการการออกแบบและสรา้ งเว็บไซต์การผลติ ผกั กาดเค็มเพ่อื การค้าฉบับน้ี เปน็ ส่วน หนงึ่ ของการศึกษาในระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สงู (ปวส.) สาขาคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยอาชวี ศึกษาพิษณุโลก เน้ือหาส่วนใหญภ่ ายในจะกล่าวถงึ การผลิต ผกั กาดเค็มเพอ่ื การค้า มีการลงพื้นทป่ี ฏบิ ัติงานในสถานทจี่ ริง และมกี ารศึกษาหาความรู้เพ่มิ เติมทาง เวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ เพือ่ นำปญั หาท่เี จอมาแก้ไขหรอื พฒั นาตอ่ ใหด้ ีกว่าเดมิ โดยผลิตภัณฑ์จะมคี วามแตกตา่ งแปลกใหม่เหมือนท่ไี ม่เคยมีมากอ่ น ซ่งึ ผวู้ จิ ยั จะออกแบบ และสร้างเวบ็ ไซต์ เพื่อให้มคี วามสะดวกรวดเรว็ ในการขายสินคา้ การเลอื กซื้อ หรอื การเดนิ ทาง ลกู คา้ สามารถเลือกซ้อื สนิ ค้าผา่ นทางเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปร้านค้าเองและมีบริการจดั ส่ง สนิ คา้ ใหถ้ งึ ท่ี คณะผู้จดั ทำหวังวา่ โครงการเลม่ น้ี จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผทู้ ่ีสนใจศกึ ษาเรอ่ื งเกี่ยวกับการ ผลติ ผกั กาดเคม็ เพ่ือการคา้ หากโครงการเลม่ นม้ี สี ิ่งผดิ พลาดประการใดคณะผู้จัดทำก็ขออภยั มา ณ ทน่ี ้ี และจะนำปญั หาที่ไดร้ ับไปปรบั ปรุง แกไ้ ขและพฒั นาในการทำโครงการครั้งต่อไป ผู้จัดทำ นางสาวมธรุ ิน บุตรพรม นางสาวนนั ทดิ า เปี่ยมชู

สารบญั -ง- เรอ่ื ง หนา้ บทคดั ย่อ (Abstract) ก กติ ตกิ รรมประกาศ ข คำนำ ค สารบัญ ง สารบญั (ตอ่ ) จ บทที่ 1 บทนำ 1 1. ความเปน็ มาของปัญหา 1 2. จดุ มุ่งหมายของโครงงาน 1 3. ความสำคัญของโครงงาน 2 4. ขอบเขตของโครงงาน 2 5. ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะไดร้ ับ 3 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกยี่ วข้อง 1. ความร้เู ก่ยี วกับการทำผกั กาดเคม็ 4 2. ความรู้เกยี่ วกบั การสร้างเวบ็ ไซต์ 4 3. ความรเู้ กีย่ วกบั การเก็บรวบรวมข้อมลู กก 7 4. ความรู้เก่ียวกบั การสรา้ งแบบสอบถาม 9 บทท่ี 3 วธิ กี ารดำเนนิ โครงงาน 1.กกเคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ยั 13 2.กกขน้ั ตอนการดำเนินงาน 13

สารบัญ (ต่อ) -จ- เร่อื ง หนา้ บทที่กก4 ผลการดำเนนิ งาน 1.กกผลการพัฒนาเวบ็ ไซต์ 14 2.กกการทดสอบการพฒั นาเว็บไซต์ 19 3.กกผลการประเมิลประสทิ ธิภาพ 20 บทท่ีกก5กกสรปุ ผลการดำเนินงาน และขอ้ เสนอแนะ 1. สรปุ ผลการพฒั นาเวบ็ ไซต์ 21 2. การทดสอบการพฒั นาเว็บไซต์ 21 3. ผลการประเมินประสิทธิภาพ 21 4. อปุ สรรคในการทำโครงงาน 21 5. ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาตอ่ 22

บทท่ีกก1 บทนำ 1.กกความเปน็ มาของปัญหา หัวไชโป๊ว มสี รรพคุณ ลา้ งพิษ ขบั พิษในร่างกาย ช่วยให้เจรญิ อาหาร แถมยงั ช่วยให้นอน หลบั งา่ ยอกี ด้วย หัวไชโป๊ว (Pickle turnip) หรอื หวั ไชเทา้ ดองเปน็ อาหารอีกชนิดหนง่ึ ท่ีเปน็ ท่นี ิยม รบั ประทานกันมา ทง้ั ยงั สามารถเก็บไวบ้ รโิ ภคไดน้ านทัง้ ปี หวั ไชเทา้ ดองมีด้วยกนั 2 ชนิด คือ หวั ไชโป๊ว ดองเค็ม และ หวั ไชโป๊วหวาน อาหารท่ีนิยมใชห้ วั ไชโป๊วมาเปน็ สว่ นประกอบได้แก่ หัวไชโปว๊ ดองเค็มผดั กับไข่ ไขเ่ จยี วไช โปว๊ ไส้สาคุ และในหน้ารอ้ นคนไทยนิยมรบั ประทานข้าวแช่ ซงึ่ ก็มหี วั ไชโปว๊ ผัดหวานเป็นเคร่อื งเคยี ง ด้วยเชน่ กนั ผกั กาดหัวหรอื หวั ไชเทา้ (Raphanus sativus Linn) เป็นพืชพื้นเมอื ง ของเอเชีย นิยมปลูก กันอย่างแพรห่ ลายในประเทศไทย เนอื่ งจากเปน็ พชื ที่ ปลกู งา่ ย เตบิ โตเร็ว แต่มีข้อเสยี วา่ เมื่อถงึ กำหนดเก็บเก่ียวแลว้ จะตอ้ งถอน หัวข้ึนมาทันที เพราะหากปลอ่ ยไวจ้ ะทำใหห้ ัวฟ่าม ขายได้ราคาตำ่ เหตุนี้จงึ ทำใหเ้ กษตรกรต้องรีบขายหวั ผักกาดนไ้ี ปโดยเรว็ ถึงแมจ้ ะไดร้ าคานอ้ ยกต็ าม การแปรรูปผกั กาดหัวใหเ้ ป็นผักกาดเคม็ ผกั กาดดองหวานทีเ่ รียกว่า หวั ไชโปว๊ เปน็ วิธถี นอม อาหารอีกวิธหี นึ่งท่ีชว่ ยให้เกษตรกรไม่จำเป็นตอ้ งรีบ ขายหวั ผกั กาดสดให้แกพ่ อ่ คา้ ไปในราคาถกู หวั ผักกาดเคม็ เป็นอาหารอกี ชนิดหนึง่ ทเ่ี ปน็ ที่นยิ มรบั ประทานกันมาก และยงั สามารถเก็บไวบ้ รโิ ภคได้ ทง้ั ปีหลงั จากทีเ่ หลอื จากการจำหน่ายแล้ว 2.กกจุดมุง่ หมายของโครงงาน กกกกกกก1.2.1 เพื่อประยกุ ต์ใชค้ วามร้ทู ่ีไดจ้ ากการศกึ ษามาจดั ทำโครงงาน กกกกกกก1.2.2 ศกึ ษาการออกแบบการพัฒนาเว็บไซตค์ วามรเู้ กี่ยวกับการผลติ ผกั กาดเค็ม ชมุ ชนเลอ ไท ถนนประเวศนคร ตำบลธานี อำเภอเมือง จงั หวดั สโุ ขทยั 64000 กกกกกกก1.2.3 นำเวบ็ ไซตท์ ี่ได้ออกแบบและพฒั นา ไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดจ้ รงิ เพือ่ กอ่ ให้เกิดประโยชน์ต่อ ผู้ผลิต กกกกกกก1.2.4 เพือ่ เปน็ แนวทางในการสร้างมูลคา่ เพ่มิ จากผลติ ภัณฑ์หวั ผกั กาดใหก้ บั กลุ่มผู้ปลูกหวั ผักกาด และหน่วยงานท่ีสนับสนุนการสง่ เสริมการสร้างมูลคา่ เพิ่ม รวมทง้ั ผไู้ ดร้ บั ประโยชนจ์ ากการ ประกอบธุรกจิ ทใี่ ชป้ ระโยชน์จากหัวผกั กาด เช่น อตุ สาหกรรมอาหาร การแปรรปู ผลิตภัณฑ์ทาง การเกษตร เป็นต้น

-2- 3.กกความสำคัญของโครงงาน กกกกกกกเพ่ือเป็นแนวทางในการสร้างมูลคา่ เพิ่ม และสรา้ งทางเลือกใหม่ในการประกอบอาชีพ สามารถแปรรปู ในอตุ สาหกรรมอาหาร และการแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์ทางการเกษตร 4.กกขอบเขตของโครงงาน กกกกกกก1.4.1 ขอบเขตด้านพน้ื ท่ี กกกกกกกกกกรณีศกึ ษา : การผลติ ผกั กาดเคม็ 76/13 ชุมชนเลอไท ถนนประเวศ ตำบลธานี อำเภอเมือง จงั หวัดสโุ ขทัย 64000 กกกกกกก1.4.2 ขอบเขตดา้ นขอ้ มูล กกกกกกกกก1.4.2.1 ข้อมลู ราคา การผลิตผักกาดเคม็ กกกกกกกกก1.4.2.2 ขอ้ มูลชอ่ งทางการติดตอ่ การผลิตผกั กาดเคม็ กกกกกกกกก1.4.2.3 ขอ้ มลู ตำแหน่งทตี่ ง่ั การผลติ ผกั กาดเค็ม กกกกกกกกก1.4.2.4 ข้อมูลขนั้ ตอนการผลิตผักกาดเคม็ กกกกกกก1.4.3 ขอบเขตดา้ นเทคโนโลยี กกกกกกกก1.4.3.1 ขอบเขตดา้ นซอฟแวร์ (Software) กกกกกกกกกกก1.4.3.1.1 Micrososft Word กกกกกกกก1.4.3.2 ขอบเขตด้านฮารด์ แวร์ (Hardware) กกกกกกกกกกก TOSHIBA OS : Windows 10 Pro 64 Bit CPU : Intel Core i3-4000M GPU : Intel (R) HD Graphics 4600 RAM : 4 GB DDR3.กกกกกกก 1.4.4กกขอบเขตความสามารถของโปรแกรม กกกกกกกกก1.4.4.1 สามารถดูลายระเอียดและขนั้ ตอนการทำผกั กาดเค็มได้ กกกกกกกกก1.4.4.2 สามารถระบุตำแหน่งท่ีตง่ั ของโรงผลติ ผกั กาดเคม็ กกกกกกกกก1.4.4.3 ระบุราคาของผลิตภัณฑผ์ กั กาดเคม็ กกกกกกกกก1.4.4.4 ระบชุ ่องทางการติดตอ่

-3- 5.กกประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ กกกกกกก5.1 ไดน้ ำความรทู้ ีศ่ ึกษามาประยุกตใ์ ชใ้ นการทำโครงงาน กกกกกกก5.2 ไดน้ ำเว็บไซตท์ ี่ออกแบบมาประยกุ ตใ์ ชเ้ พื่อเป็นอีกทางเลอื กหน่งึ ให้กบั ลกู คา้ ที่จะใช้ บรกิ ารผลติ ภัณฑผ์ ักกาดเคม็ กกกกกกก5.3 สร้างรายได้มลู คา่ เพม่ิ และสะดวกต่อลูกคา้ ทใี่ ช้บริการ

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ ก่ียวข้อง กกกกกกกในการศึกษาโครงงาน การสร้างเวบ็ ไซต์ เร่อื ง การผลติ ผักกาดเค็ม มเี อกสารและโครงงานทเี่ ก่ยี วข้อง ดังตอ่ ไปนี้ 1. ความรู้เกย่ี วกบั การทำผักกาดเคม็ 2. ความรู้เกย่ี วกับการสรา้ งเวบ็ ไซต์ 3. ความรู้เกี่ยวกบั การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 4. ความรู้เก่ียวกับการสร้างแบบสอบถาม 1. ความรเู้ กี่ยวกบั ธรุ กิจการผลิตผักกาดเคม็ การศกึ ษาโอกาสและความเป็นไปได้ของอตุ สาหกรรมขนาดเล็กและขนาดย่อม กรณีศกึ ษาหวั ไชโป๊ พชื แปรรปู เศรษฐกจิ สร้างสรรค์จงั หวดั สโุ ขทยั กรณีศกึ ษาโอกาสและความเปน็ ไป ไดใ้ นศักยภาพและการสร้างมูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ ในครง้ั น้ี ผูศ้ กึ ษาได้คน้ คควา้ รวบรวมเอกสารและ งานวจิ ัยต่าง ๆ เพ่อื ศึกษาตน้ ทุนผลตอบแทนจากการดำเนนิ ธุรกจิ การแปรรปู สนิ ค้าเกษตรในจงั หวัด สโุ ขทัย เพอ่ื แสวงหาความเป็นไปได้ของการดำเนินอตุ สาหกรรมเกษตรในสนิ ค้าประเภทหวั ผักกาด ในการสรา้ งมลู ค่าเพิ่มทางเศรษฐกจิ ให้มากยง่ิ ขน้ึ ซงึ่ นอกจากจะเปน็ การถนอมสนิ ค้าเกษตรให้มีอายุ ยาวนานขนึ้ เพือ่ ลดการล้นตลาดของสนิ ค้าเกษตรหัวผกั กาด ยังเปน็ การชว่ ยเหลอื เกษตรกรที่ปลกู หัว ผกั กาดให้มีระดับราคาดีขึ้น เป็นการแปรรปู สินคา้ เกษตรให้มีรายได้แก่เกษตรเพิ่มมมากขน้ึ การศึกษาในคร้งั น้ี ได้ประมวลแนวคดิ ทางด้านต้นทนุ ดา้ นผลตอบแทนของการบรหิ ารธุรกิจการแปร รูปสนิ ค้าเกษตร มกี ารศึกษางานวิจัย และเอกสารทเี่ ก่ยี วข้องท่ีมีสาระท่เี ป็นประโยชนต์ ่อการทำวจิ ยั ใน คร้งั น้ี อันจะทำใหส้ ามารถพิจารณาประเด็นท่ที ำการศกึ ษาได้อย่างชดั เจน 2. ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ กกกกกกกเวบ็ ไซต์ เป็นสงิ่ ท่สี งั คมยคุ ใหม่ตา่ งก็รจู้ ักกนั ดี เพราะเป็นสอื่ ในการนำเสนอข้อมูลหรอื เรื่องราวต่าง ๆ ผา่ นทางอินเทอร์เนต็ ซึ่งเว็บไซต์กม็ ีองคป์ ระกอบหลายอยา่ ง และมปี ระโยชนต์ ่อ ผใู้ ช้งานเป็นอย่างมาก 2.1 ความหมายของเว็บไซต์และองค์ประกอบตา่ ง ๆ เว็บไซต์ (Website) หมายถึง หน้าเว็บเพจทีจ่ ัดทำข้ึน เพือ่ นำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ผา่ นทาง คอมพิวเตอร์และอนิ เทอรเ์ น็ต โดยจะมหี นา้ เวบ็ เพจหลายๆ หน้าทเ่ี ชื่อมโยงเข้ากบั ไฮเปอร์ลิงค์ เพอื่ ให้สามารถเปดิ ไปยังหนา้ เพจตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งงา่ ยดายและถูกจัดเกบ็ ไว้ใน www. (เวลิ ด์ไวด์เว็บ) โดย

-5- เวบ็ ไซต์ส่วนใหญ่นั้นกม็ ีทงั้ เว็บไซตท์ ่เี ปดิ ให้เข้าชมได้ฟรี และเว็บไซตท์ ี่ตอ้ งสมคั รสมาชกิ และเสยี คา่ บริการ จงึ จะเข้าใชง้ านเว็บได้ ซ่ึงข้อมลู ในเวบ็ ก็จะมีหลากหลายแบบ ขน้ึ อยู่กับความตอ้ งการ นำเสนอของเจ้าของเว็บไซต์ การเรียกดูเวบ็ ไซต์จะเรียกดูผ่านทางซอฟต์แวร์ ในลักษณะของ เบราวเ์ ซอร์ เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ (Web browser) คือโปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ใี่ ชใ้ นการท่องเว็บ และมกี าร จดั เก็บข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ดว้ ยภาษาเฉพาะ เชน่ ภาษา HTML ซง่ึ ก็เปรียบเสมือนกบั เป็น เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการติดตอ่ กบั เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกวา่ เวลิ ด์ไวดเ์ วบ็ นอกจากนี้ยงั สามารถดเู อกสารในเว็บเซิร์ฟเวอรไ์ ดไ้ มว่ ่าเว็บเหล่านนั้ จะแสดงข้อมลู ในลักษณะของภาพระบบ มลั ติมีเดียรปู ภาพหรอื ข้อความในปจั จบุ ันเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ท่รี องรบั ระบบ HTML 5 สามารถอ่าน CSS 3 ไดอ้ ยา่ งสวยงาม และกำลงั ได้รับความนยิ มมากท่ีสุด ก็มี 4 ประเภทดังน้ี กกกกกกกกกกก1. Internet Explorer กกกกกกกกกกก2. Mozilla Firefox กกกกกกกกกกก3. Google Chrome กกกกกกกกกกก4. Safari โฮมเพจ (Home Page) ก็คือหน้าแรกของเวบ็ ไซต์เม่อื เปิดเข้าไปยังเว็บไซต์ใดเวบ็ ไซต์หนง่ึ โดยหนา้ แรกนีจ้ ะรวมเมนูและเร่ืองราวตา่ ง ๆ ไวม้ ากมายซึ่งก็มคี วามสำคญั เป็นอย่างมาก เพราะหาก หน้าแรกมกี ารออกแบบไดอ้ ย่างสวยงามและจัดหน้าอยา่ งเป็นระเบียบกจ็ ะทำให้ผู้ชมเกดิ ความสนใจ และอยากเขา้ ชมเว็บมากขึ้น เว็บเพจ (Web Page) ก็คือหน้าเอกสารต่าง ๆ ท่อี ยู่ในรปู ของ HTML โดยจะนำเสนอขอ้ มลู หรือเรอื่ งราวต่าง ๆ เปน็ หนา้ ๆ ไปและใช้การเช่ือมโยงเพ่อื ใหส้ ามารถคลิกไปหน้าเว็บเพจแตล่ ะหน้าได้ ง่ายขึ้น เว็บ Static คอื เว็บท่แี สดงผล เพอ่ื ให้ความรู้หรอื ข้อมลู แก่ผูเ้ ข้าชมเว็บเพยี งอย่างเดยี ว ไม่ สามารถโต้ตอบหรอื รบั สง่ ข้อมูลกับผทู้ ่ีเขา้ ชมเว็บได้ ซ่ึงส่วนใหญแ่ ล้วเวบ็ ไซต์ประเภทนี้ กจ็ ะเปน็ เว็บ Gallery รูปภาพ เวบ็ ของบริษัทหรอื องคก์ รตา่ ง ๆ และเว็บให้ความรทู้ ่ัวไป เว็บ Dynamic เปน็ เวบ็ ไซตท์ ี่สามารถตอบโต้ และรบั สง่ ข้อมูลระหว่างผเู้ ขา้ ชมกบั เวบ็ ไซต์ได้ ซงึ่ เว็บเหลา่ นีส้ ว่ นใหญก่ จ็ ะมรี ะบบเว็บบอร์ด รวมไปถงึ Social Media ประเภทตา่ ง ๆ มีการสมัคร สมาชิก หรือเป็นเว็บขายสนิ คา้ ออนไลนท์ ่มี ีระบบแชทกบั ผขู้ าย เปน็ ตน้

-6- Web Service เป็นบริการด้านขอ้ มลู ทีส่ ามารถดึงข้อมลู ของอีกเวบ็ หนึ่งไปแสดงผลในอกี เวบ็ หน่งึ ได้ Hosting เป็นพ้ืนท่ขี องคอมพวิ เตอร์แมข่ ่าย ท่ที างผู้ใหบ้ รกิ ารได้ทำการจดั สรรมาให้เชา่ โดยส่วนใหญจ่ ะมกี ารใหเ้ ช่าเปน็ แบบรายเดอื น รายปีหรือตามแตผ่ ้ใู ห้บริการกำหนด อนิ เตอร์เนต็ (Internet) เป็นตัวกลางในการเชอ่ื มต่อให้ผู้คนสามารถทอ่ งเว็บไซต์ตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างง่ายดาย และชว่ ยใหก้ ล่มุ องค์กร ธุรกิจหรือบริษทั สามารถนำเสนอข้อมูลของตนลงบน อนิ เทอร์เน็ต ผ่านทางเวบ็ ไซต์ เป็นการให้ความรู้และแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ขา่ วสารต่อกนั ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 2.2 ประโยชนข์ องการทำเว็บไซต์ ประโยชนข์ องการทำเว็บไซต์ ไมเ่ พยี งแต่มีประโยชนใ์ นการนำเสนอข้อมลู ให้กบั ผู้ใชง้ าน ไดท้ ราบเท่าน้ัน แต่ยงั มีประโยชนอ์ ่ืน ๆ อกี มากมาย ไดแ้ ก่ 1. ขยายช่องทางในการขายสนิ คา้ และบริการ ซึง่ สามารถเขา้ ถึงกล่มุ ลูกค้าท่ตี อ้ งการ ได้มากข้ึน และไม่ตอ้ งเสยี คา่ ใช้จา่ ยท่ีสงู เกินไป [บริการ: 1Belief รบั ทำการตลาดออนไลน์] 2. สำหรับการทำธุรกจิ รา้ นค้าออนไลน์หรือขายของบนเว็บไซต์ จะทำใหม้ หี น้าร้านเปน็ ของตวั เอง ซ่งึ ก็คอื โฮมเพจ และเปน็ การเปดิ ตวั สินค้าสตู่ ลาดโลก 3. เป็นการเสรมิ สรา้ งภาพลักษณะขององคก์ ร ร้านคา้ และบรษิ ัท ใหม้ คี วามนา่ เชื่อถือและ ทันสมัยมากย่ิงข้ึน 4 มีความเป็นสากล ดว้ ยช่องทางการตดิ ต่อลกู ค้าทหี่ ลากหลาย ทั้งอีเมล Facebook Line และอน่ื ๆ 5 เพ่ิมความสะดวกให้กบั กล่มุ ผบู้ ริโภค โดยสามารถซื้อสนิ คา้ หรือบรกิ ารผ่านทางเวบ็ ไซต์ ได้ตลอดเวลา 6 ชว่ ยโฆษณาบรษิ ทั องค์กรและสนิ คา้ ใหเ้ ป็นทรี่ จู้ ักอย่างแพรห่ ลาย ท้ังในประเทศและ ตา่ งประเทศ 7 ทำหน้าท่ใี นการส่งเสรมิ การขาย และบรกิ ารของบริษทั 8 ชว่ ยยกระดับมาตรฐานในการซ้อื ขายระหว่างประเทศ และสามารถเสรมิ สรา้ งธรุ กจิ ใหม้ ี ความแข็งแรงได้ดี 2.3 ข้ันตอนในการพัฒนาเว็บไซต์

-7- นอกจากการสร้างเว็บไซต์ข้นึ มาแลว้ กต็ ้องมีการพัฒนาเว็บไซต์บ่อย ๆ เพอ่ื ใหม้ คี วาม ทันสมัยและทันตอ่ เทคโนโลยที ่ีเปล่ยี นแปลงไปเสมอ โดยมขี ้ันตอนในการพฒั นาเว็บไซต์ดังน้ี 1. กำหนดวัตถุประสงค์ว่าต้องการพัฒนาเวบ็ ไซต์อย่างไรบ้าง เน้นเน้อื หาเว็บไซต์เกี่ยวกับ อะไร และพัฒนาในสว่ นไหนอยา่ งไร 2. กำหนดกลมุ่ เป้าหมายที่ต้องการใหเ้ ข้าชมเว็บมากที่สดุ เพือ่ จะได้เลอื กวธิ กี ารนำเสนอ การใช้กราฟกิ รูปภาพและโทนสีได้อย่างเหมาะสม 3. เตรยี มแหล่งขอ้ มลู ท่ีจะนำเน้อื หาสาระมานำเสนอ ซ่งึ แหล่งขอ้ มลู เหลา่ นจี้ ะต้องมคี วาม น่าเช่อื ถอื และครบถ้วนสมบูรณ์ 4. เตรียมบุคลากร ท่ีมคี วามสามารถในด้านการพัฒนาเวบ็ ไซต์ให้พร้อม โดยจะมกี ่คี นกไ็ ด้ ขน้ึ อยกู่ ับวา่ ตอ้ งการบุคลากรดแู ลในดา้ นใดบา้ ง 5. เตรียมทรพั ยากรที่จำเปน็ ต้องใชส้ ำหรบั การพัฒนาเว็บไซต์ เชน่ โปรแกรมตา่ ง ๆ มัลติมเี ดีย เป็นต้น 6. เร่มิ ลงมอื สร้างข้อมูลครบทงั้ หมดแลว้ จึงนำข้อมูลที่ได้มาสร้างเปน็ เว็บไซต์ เพ่ือให้ เหมาะสมกบั 5 ข้อด้านบน 7. ปรับปรุงพัฒนาหลงั จากทำเว็บไซต์เสร็จแล้ว ควรมกี ารทำการตลาดออนไลน์ ปรับปรงุ SEO มกี ารดูแลเว็บไซต์ใหเ้ หมาะสมเพ่ือสง่ เสริมวัตถปุ ระสงค์ในการดำเนนิ งาน เพราะ เวบ็ ไซต์ท่ีดที สี่ ุด คอื เวบ็ ไซต์ที่ยงั สร้างไม่เสรจ็ สว่ นเวบ็ ไซตท์ ่สี ร้างเสรจ็ คอื เว็บไซตท์ ต่ี ายไปแลว้ 3. ความรเู้ ก่ียวกบั การเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล เปน็ ขั้นตอนหน่ึงของกระบวนการทางสถิติท่มี คี วามสำคญั เพ่อื ให้ ไดม้ าซง่ึ ข้อมูลทต่ี อบสนองวัตถุประสงค์ และสอดคล้องกับกรอบแนวความคิดสมมตุ ิฐานเทคนคิ การ วดั และการวิเคราะห์ข้อมูล ซ่งึ หมายรวมท้ังการเก็บขอ้ มูล (Data Collection) คือ การเก็บขอ้ มูล ขึ้นมาใหม่และการรวบรวมข้อมูล (Data Compilation) ซงึ่ หมายถึง การนำเอาขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทผี่ ู้อนื่ ได้ เกบ็ ไว้แล้วหรือรายงานไวใ้ นเอกสารตา่ ง ๆ มาทำการศกึ ษาวเิ คราะห์ต่อ กกกกกกก3.1 ประเภทของขอ้ มูล ข้อมลู หมายถงึ ข้อเทจ็ จรงิ เก่ียวกับตวั แปรทส่ี ำรวจโดยใช้วิธกี ารวัดแบบใดแบบหนงึ่ โดยทัว่ ไปจำแนกตามลักษณะของข้อมลู ได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. ขอ้ มลู เชิงปริมาณ (Quantitative Data) คือ ขอ้ มูลทเ่ี ป็นตวั เลขหรือนำมาให้รหัสเปน็ ตวั เลข ซง่ึ สามารถนำไปใช้วิเคราะห์ทางสถติ ไิ ด้

-8- 2. ข้อมูลเชิงคณุ ภาพ (Qualitative Data) คอื ข้อมูลท่ไี ม่ใชต่ ัวเลขไมไ่ ด้มีการใหร้ หัส ตัวเลขที่จะนำไปวเิ คราะห์ทางสถติ ิ แต่เปน็ ข้อความหรอื ขอ้ สนเทศ 3.2 แหล่งที่มาของขอ้ มูล กกกกกกกกกแหลง่ ข้อมูลท่สี ำคัญ ได้แก่ บคุ คล เช่น ผใู้ ห้สัมภาษณ์ ผกู้ รอกแบบสอบถาม บคุ คลท่ถี ูก สังเกตเอกสารทกุ ประเภท และขอ้ มลู สถติ จิ ากหน่วยงานรวมไปถึง ภาพถา่ ย แผนท่ี แผนภูมิ หรอื แมแ้ ต่ วัตถุสง่ิ ของกถ็ ือเปน็ แหล่งข้อมลู ได้ทั้งสิ้น โดยทั่วไปสามารถจัดประเภทขอ้ มลู ตามแหล่งที่มา ได้ 2 ประเภท คือ 1. ขอ้ มลู ปฐมภูมิ (Primary Data) คือ ขอ้ มูลทีผ่ ู้วิจัยเกบ็ ขึน้ มาใหมเ่ พ่ือ ตอบสนอง วัตถุประสงค์การวิจยั ในเร่อื งนน้ั ๆ โดยเฉพาะการเลอื กใชข้ อ้ มูลแบบปฐมภมู ิ ผวู้ ิจยั จะสามารถเลอื ก เกบ็ ข้อมลู ไดต้ รงตามความต้องการและสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ ตลอดจนเทคนิคการวเิ คราะห์ แตม่ ี ข้อเสยี ตรงท่สี นิ้ เปลืองเวลาค่าใช้จา่ ย และอาจมคี ุณภาพไมด่ พี อ หากเกดิ ความผดิ พลาดในการเกบ็ ข้อมูลภาคสนาม 2. ข้อมูลทุติยภมู ิ (Secondary Data) คือ ข้อมูลต่าง ๆ ที่มผี ู้เก็บหรือรวบรวมไว้กอ่ นแลว้ เพียงแตน่ ักวจิ ยั นำขอ้ มลู เหลา่ นั้นมาศกึ ษาใหม่ เชน่ ขอ้ มลู สำมะโนประชากรสถิติจากหนว่ ยงาน และ เอกสารทุกประเภท ช่วยใหผ้ ู้วิจัยประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย ไมต่ ้องเสยี เวลากับการเกบ็ ขอ้ มลู ใหม่ และ สามารถศึกษายอ้ นหลงั ได้ ทำให้ทราบถึงการเปล่ยี นแปลงและแนวโน้มการเปลย่ี นแปลงของ ปรากฏการณท์ ศ่ี กึ ษา แตจ่ ะมขี ้อจำกัดในเรอ่ื งความครบถว้ นสมบรู ณ์ เนอ่ื งจากบางครัง้ ขอ้ มูลทมี่ ีอยู่ แลว้ ไม่ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ของเร่ืองท่ีผู้วจิ ัยศกึ ษา และปัญหาเร่อื งความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มูลก่อนจะ นำไปใช้จงึ ตอ้ งมกี ารปรบั ปรุงแก้ไขข้อมลู และเกบ็ ขอ้ มูลเพ่ิมเติมจากแหล่งอน่ื ในบางส่วนทีไ่ ม่สมบูรณ์ 3.3 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมลู กกกกกกกกกอาจแบ่งเปน็ วิธีการใหญ่ๆ ได้ 3 วธิ ี คือ 1. การสงั เกตการณ์ (Observation) ทง้ั การสังเกตการณ์แบบมสี ว่ นรว่ ม (Participant Observation) และการสังเกตการณแ์ บบไม่มสี ่วนรว่ ม (Non-participant Observation) หรอื อาจจะ แบ่งเปน็ การสังเกตการณแ์ บบมีโครงสร้าง (Structured Observation) และการสังเกตการณ์แบบไม่ มีโครงสร้าง (Unstructured Observation) 2. การสมั ภาษณ์ (Interview) นิยมมากในทางสงั คมศาสตร์ โดยเฉพาะการสมั ภาษณโ์ ดย ใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) การสัมภาษณ์แบบเจาะลกึ (In-depth

-9- Interview) หรอื อาจจะจำแนกเปน็ การสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล และการสมั ภาษณ์เป็นกลมุ่ เช่น เทคนิคการสนทนากล่มุ (Focus Group Discussion) ซึ่งนิยมใชก้ นั มาก 3. การรวบรวมขอ้ มูลจากเอกสาร เช่น หนงั สือรายงานวจิ ยั วทิ ยานิพนธ์ บทความ ส่งิ พมิ พต์ า่ ง ๆ เปน็ ต้น 3.4 ข้ันตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.1 กำหนดข้อมูลและตวั ช้ีวดั 3.2 กำหนดแหลง่ ข้อมลู 3.3 เลือกกลุม่ ตัวอยา่ ง 3.4 เลอื กวธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.5 นำเครือ่ งมอื รวบรวมข้อมลู ไปทดลองใช้ 3.6 ลงมอื เก็บรวบรวมข้อมลู 3.5 ประเภทของเครือ่ งมอื รวบรวมข้อมลู ตวั อย่างเชน่ แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบสมั ภาษณ์ แบบประเมินค่าและมาตรวดั เจตคติ และแบบวดั อน่ื ๆ 4. ความร้เู กยี่ วกบั การสรา้ งแบบสอบถาม แบบสอบถามเป็นเครอ่ื งมอื ชนดิ หนงึ่ ท่สี รา้ งขึน้ เพื่อวัดความคิดเหน็ ตา่ ง ๆ หรอื วดั ความจรงิ ที่ ไม่ทราบ อนั จะทำให้ได้มาซ่งึ ข้อเท็จจรงิ ท้ังในอดตี ปจั จบุ ัน และการคาดคะเนเหตกุ ารณ์ในอนาคตสว่ น ใหญ่จะอยูใ่ นรปู ของคำถามเป็นชุด ๆ เพื่อวัดส่ิงท่ีตอ้ งการวัดโดยมีคำถามเปน็ ตัวกระตุ้นเร่งเร้าให้บคุ คล ตอบออกมา นบั ว่าเป็นเคร่อื งมือทน่ี ิยมใชว้ ัดทางดา้ นจติ พิสยั (Affective Domain) 4.1 โครงสร้างของแบบสอบถาม แบบสอบถามมหี ลายชนิดแตไ่ ม่วา่ จะเป็นแบบสอบถามชนิดใดจะมีโครงสร้างหรือ ส่วนประกอบทส่ี ำคัญ 3 ส่วน ดังน้ี 1. คำช้แี จงในการตอบแบบสอบถาม 2. สถานภาพท่ัวไปในส่วนน้ีเป็นรายละเอียดส่วนตัวของผู้ตอบ 3. ขอ้ คำถามเก่ียวกบั พฤตกิ รรมทจ่ี ะวดั จะถามเกี่ยวกับส่ิงทต่ี ้องการจะวดั 4.2 การสรา้ งแบบสอบถาม แบบสอบถามมีขั้นตอนในการสรา้ งดงั นี้

- 10 - 1. กำหนดจดุ มุง่ หมายของแบบสอบถาม ผู้สรา้ งแบบสอบถามตอ้ งระบุจดุ มุ่งหมายของ แบบสอบถามใหช้ ดั เจน ระบุให้ได้วา่ แบบสอบถามจะถูกนำไปใชใ้ นเรอื่ งอะไร 2. กำหนดประเดน็ หลัก หรือพฤติกรรมหลกั ที่จะวัดใหค้ รบถ้วนครอบคลุมวา่ จะมปี ระเดน็ อะไรบา้ ง หรอื อาจเรยี กว่าเป็นการกำหนดกรอบแนวคดิ หรือโครงสร้างของแบบสอบถาม 3. กำหนดชนิด หรือรปู แบบของแบบสอบถาม โดยเลือกใหเ้ หมาะสมกบั เรือ่ งทจี่ ะวดั และลกั ษณะของกลมุ่ ผู้เรยี น 4. กำหนดจำนวนข้อคำถาม โดยอาจจะกำหนดในเบ้อื งตน้ ว่าต้องการจะให้แบบสอบถาม มีความยาวมากน้อยเพียงใด และคลุมประเดน็ หลกั ประเดน็ ย่อยอยา่ งไรบา้ ง 5. สรา้ งข้อคำถามตามจดุ ม่งุ หมาย ชนดิ หรือรปู แบบ จำนวนขอ้ ในประเด็นต่าง ๆ ที่ กำหนดไว้ตามโครงสร้างของแบบสอบถาม 6. ตรวจทานเพอื่ การแกไ้ ขปรับปรุง แบง่ ออกเปน็ 2 ตอน คือ ตอนแรกตรวจทานโดย ผู้สร้างแบบสอบถามเอง ตอนที่สองตรวจสอบพิจารณาให้คำแนะนำและวจิ ารณโ์ ดยผ้รู ูห้ รอื ผู้เช่ยี วชาญ หรอื ผชู้ ำนาญการ 7. นำแบบสอบถามไปทดลอง การนำไปทดลองใช้ (Try out) ควรนำไปทดลองกบั กลมุ่ ที่ มลี ักษณะเหมอื น หรอื ใกล้เคยี งกับกล่มุ ท่ีจะไปเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จรงิ 8. วเิ คราะหแ์ บบสอบถาม โดยการนำผลจากการไปทดลองมาวิเคราะห์เพื่อหาคุณภาพ และปรับปรงุ แบบสอบถามในส่วนท่ยี งั มขี ้อบกพร่องตา่ ง ๆ 9. จัดพิมพแ์ บบสอบถาม เพอ่ื เตรียมนำไปใช้จริงต่อไป 4.3 รูปแบบของแบบสอบถาม กกกกกกกกกแบง่ รูปแบบของแบบสอบถามได้ 2 แบบ คือ รูปแบบของแบบสอบถาม

- 11 - 1. แบบสอบถามแบบปลายเปดิ (Open-ended Form) แบบสอบถามแบบนี้ไม่ได้ กำหนดคำตอบไว้ผตู้ อบสามารถเขยี นตอบหรอื แสดงความคิดเหน็ ได้อย่างอสิ ระด้วยคำพดู ของตนเอง คล้ายกับข้อสอบแบบอัตนยั 2. แบบสอบถามแบบปลายปิด (Closed-ended Form) แบบสอบถามแบบน้ี ประกอบด้วยขอ้ คำถามและตวั เลือก ( คำตอบ ) ซ่งึ ตัวเลอื กนส้ี ร้างขน้ึ โดยคาดว่าผ้ตู อบแบบสอบถาม สามารถเลือกตอบไดต้ ามต้องการ และมีอย่างเพียงพอเหมาะสมแบบสอบถามแบบน้ีสรา้ งยาก ใช้เวลา ในการสร้างมากกว่าแบบสอบถามแบบปลายเปิด แต่ผตู้ อบตอบง่าย สะดวก รวดเร็ว นอกจากน้ขี ้อมลู ทไี่ ดส้ ามารถนำไปวิเคราะห์ 4.4 ลกั ษณะของมาตราส่วนประมาณค่า มาตราสว่ นประมาณค่ามีลกั ษณะท่สี ำคัญดังน้ี 1. ผู้ตอบหรือผู้ประเมนิ จะตอ้ งพจิ ารณาตอบตามความคิดเห็นเหตผุ ลสภาพความเปน็ จริง เพียงคำตอบเดยี วจากระดับความเขม้ ข้นท่ีกำหนดให้พจิ ารณาตงั้ แต่ 3 ระดบั ขึน้ ไป 2. ส่วนท่พี ิจารณาประเมนิ หรอื มาตราสว่ น (Scale) เป็นค่าตอ่ เนือ่ ง (Continueous) 3. ระดับท่ใี หพ้ ิจารณาประเมนิ อาจเปน็ ชนดิ ทมี่ ีทั้งด้านบวกและด้านลบในขอ้ เดยี วกัน หรือมเี ฉพาะด้านบวก หรอื มีเฉพาะด้านลบโดยท่ีอกี ดา้ นหนึ่งเปน็ ศูนย์หรอื ระดบั นอ้ ยมาก 4. อาจสร้างใหม้ ีลกั ษณะเชิงนิมาน (Positive) หรอื ลกั ษณะเชิงนิเสธ (Negative) 5. สามารถแปลงผลการพิจารณา หรือประเมนิ ซึ่งอยู่ในรูปของขอ้ ความให้เป็นคะแนนได้ 4.5 การสร้างมาตราสว่ นประมาณค่า ดำเนินการตามขัน้ ตอนตอ่ ไปนี้ 1. กำหนดลกั ษณะของสงิ่ ทีจ่ ะวดั หรือตรวจสอบ 2. กำหนดและอธิบายส่ิงที่จะวดั ( เช่น พฤตกิ รรม เจตคติ ฯลฯ ) ที่ ชดั เจนทีบ่ ง่ ช้ี คณุ ลกั ษณะของสง่ิ ทีจ่ ะวดั 3. เลือกรูปแบบของมาตราสว่ นประมาณค่าว่าจะใชแ้ บบใดจึงจะเหมาะสมมากทสี่ ุด 4. เขียนข้อความที่จะวัดแตล่ ะข้อ 5. นำไปทดลองใช้ และปรบั ปรงุ 4.6 ข้อดขี องมาตราส่วนประมาณค่า 1. สามารถนำไปใช้วดั หรอื สังเกตพฤติกรรม หรือการปฏิบตั ิได้อยา่ งละเอียดชัดเจน 2. สามารถนำผลการประเมินไปพิจารณาปรบั ปรุงไดด้ ี

- 12 - 4.7 ข้อจำกัดของมาตราส่วนประมาณค่า 1. ในการประเมินเป็นรายบคุ คลโดยใช้การสงั เกตจะใชเ้ วลามาก 2. บางครัง้ ตัดสนิ ใจพจิ ารณาได้ยาก 3. ไมถ่ ามในเรอ่ื งทร่ี ู้แล้ว หรอื ถามในสิ่งที่วัดไดด้ ว้ ยวธิ อี ืน่ เชน่ จากการสงั เกต จาก เอกสารรายงานเป็นตน้ 4. ไม่ถามในเรอื่ งที่เป็นความลับ หรือคอ่ นขา้ งเป็นเร่ืองส่วนตวั มากเกนิ ไป เพราะจะทำให้ ผูต้ อบตอบไม่ตรงกับความจรงิ 5. ขอ้ คำถามตอ้ งเหมาะสมกบั ผู้ตอบ คอื ตอ้ งคำนึงถึงระดบั การศกึ ษา ความสามารถ สตปิ ัญญา อายุ ความสนใจ ฯลฯ 6. ขอ้ คำถามข้อหนึ่ง ๆ ควรถามเพียงปญั หาเดยี ว เพือ่ ใหไ้ ดค้ ำตอบท่ีชัดเจนและตรงจุด 7. คำตอบ หรือตัวเลอื กในขอ้ คำถามควรเหมาะสมกับข้อคำถามนนั้ 8. คำตอบทไ่ี ดจ้ ากแบบสอบถาม ควรจะสามารถแปลงออกมาในรปู ของปรมิ าณ และใช้ สถติ ิอธิบายขอ้ เท็จจรงิ ได้ 4.8 ข้อดีของแบบสอบถาม 1. สรา้ งได้ง่าย ใช้สะดวก 2. ประหยดั เวลาและคา่ ใช้จา่ ย 3. คำตอบสามารถนำมาวิเคราะห์และสรปุ ผลได้งา่ ย 4. สามารถเกบ็ ขอ้ มลู ทอ่ี ย่หู า่ งไกล กระจัดกระจายกนั ได้โดยอาศัยระบบการ ส่ือสารทาง ไปรษณีย์ 5. สามารถเก็บขอ้ มลู ไดเ้ ป็นจำนวนมาก 4.9 ข้อจำกัดของแบบสอบถาม 1. ใช้ได้ดีกับผูท้ ่ีสามารถอา่ นออกเขียนได้ ถา้ ผตู้ อบอา่ นไมอ่ อกเขียนไม่ได้ หรอื มีปญั หา ด้านการอา่ นและเขยี นก็ควรใชว้ ิธกี ารสัมภาษณ์ 2. แบบสอบถามท่ีดีสร้างได้ยาก แบบตรวจสอบรายการจะให้ประเมนิ หรือตดั สินว่ามี หรือไมม่ ี (Yes or No) แบบตรวจสอบ รายการจะไม่ใช้ในการประเมินที่มีระดบั หรอื ความถ่ีของสงิ่ ที่เกิดข้นึ นอกจากน้ีแบบตรวจสอบรายการ สามารถใช้ประเมินผลรวม (Products) เช่น ประเมินคณุ ลักษณะของนักเรยี น ประเมินบคุ ลิกภาพ ประเมินการปรับตัว

บทที่ 3 วธิ ีการดำเนินโครงงาน กกกกกกกในการศึกษาวจิ ัย การสร้างเวบ็ ไซต์ เร่ือง การผลติ ผักกาดเค็มมีวิธีการดำเนินการวิจยั ดังตอ่ ไปน้ี 1.กกเครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั 2.กกข้ันตอนการดำเนนิ งาน 1. เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ัย กกกกกกก1.1 เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ พรอ้ มเชอื่ มต่อระบบเครอื ข่ายอินเตอร์เนต็ 1.2 โปรแกรมที่ใชใ้ นการดาํ เนินงาน ได้แก่ 1. โปรแกรม Microsoft Word 2. โปรแกรม Microsoft 365 3. โปรแกรม Google Sites 5. โปรแกรม Google Forms และ Google sheets 6. Canva 2. ข้ันตอนการดําเนนิ งาน 2.1 คิดหัวขอ้ โครงงานเพื่อนําเสนอครูท่ปี รกึ ษาโครงงาน 2.2 ศกึ ษาและคน้ คว้าขอ้ มูลทเ่ี ก่ยี วข้องกับเรื่องทีส่ นใจ คอื เรือ่ งการผลิตผกั กาดเคม็ และ ศกึ ษาค้นคว้าเพมิ่ เติมจากเวบ็ ไซต์ต่าง ๆ และจัดเกบ็ ข้อมลู เพ่ือจัดทำเนอ้ื หาต่อไป 2.3 ศกึ ษาการสร้างเวบ็ ไซต์โดยใชโ้ ปรแกรม Google Sites 2.4 จัดทำโครงร่างโครงงานการผลลิตผกั กาดเคม็ เพื่อนําเสนอครูที่ปรกึ ษา 2.5 จดั ทำโครงงานการพัฒนาเว็บไซต์เร่ืองการผลติ ผกั กาดเค็ม โดยสรา้ ง การคา้ ที่สนใจตามแบบเสนอโครงรา่ งทเ่ี สนอ 2.6 นาํ เสนอรายงานความกาวหนา้ ให้ ครทู ่ีปรึกษาโครงงานไดต้ รวจสอบ ซง่ึ ครทู ่ีปรึกษา จะใหข้ อ้ เสนอแนะต่าง ๆ เพื่อใหจ้ ัดทำเน้ือหาและการนําเสนอที่นา่ สนใจ ทัง้ น้เี มื่อไดร้ บั คำแนะนาํ ก็จะนํามาปรบั ปรงุ แก้ไขใ้ ห้เปน็ ท่ีน่าสนใจยิ่งข้ึน 2.7 จดั ทำเอกสารรายงานโครงงานการผลิตผกั กาดเคม็ 2.8 ประเมินผลงานโดยให้ครทู ีป่ รกึ ษาประเมนิ ผลงาน และให้เพื่อนผทู้ ่ีสนใจร่วมประเมนิ

บทท่ีกก4 ผลการดำเนนิ งาน กกกกกกกการจัดทำโครงงาน การพัฒนาเวบ็ ไซต์ เรื่อง การผลิตผกั กาดเคม็ ผลการดำเนินโครงงาน ดงั น้ี 1.กกผลการพัฒนาเว็บไซต์ 1.1 เปิดเวบ็ ไซต์ https://bit.ly/เวบ็ ไซตก์ ารผลิตผกั กาดเค็ม จะปรากฏหน้าจอ ดังน้ี ภาพที่กก1กกแสดงหน้าแรก หรอื หน้าหลักของเว็บไซต์ ภาพท่ี 2 เมนู

- 15 - จากภาพท่ี 2 ประกอบด้วยเมนู ดงั น้ี 1. หน้าแรก 2. การแปรรปู หัวไชโป๊ว 3. สรรพคณุ 4. อุปกรณ์ 5. วิธีการทำ 6. รายการสินค้า 7. ชอ่ งทางการส่งั ซ้ือ 8. ที่ตง่ั การผลติ สินค้า 9. เกยี่ วกบั 10. แบบสอบถาม ภาพที่กก3กกการแปรรปู หวั ไชโป๊ว

- 16 - ภาพที่กก4กกสรรพคุณ ภาพท่ีกก5กกวตั ถุดิบ และอุปกรณ์

- 17 - ภาพท่ี 6 วิธกี ารททำ ภาพท่ีกก7กกแสดงหนา้ เกีย่ วกบั การแสดงแผนท่ี

- 18 - ภาพที่ 8 ชอ่ งทางการสง่ั ซอื้ ภาพที่ 9 ที่ตง่ั การผลติ สอนค้า หรือแผนที่

- 19 - ภาพที่ 10 เก่ยี วกบั หรือ ผจู้ ดั ทำ ภาพท่ี 11 แบบสอบถามความพงึ พอใจ 2.กกการทดสอบการพัฒนาเวบ็ ไซต์ ในการทดสอบ การพฒั นาเว็บไซต์ เรือ่ ง การผลติ ผักกาดเค็ม ผจู้ ดั ทาํ ไดใ้ ชว้ ธิ ีการทดสอบ โดยผ้จู ัดทํา ทดสอบการเลือกใชเ้ มนตู ่าง ๆ การทำแบบทดสอบการศกึ ษาเน้ือหา ขอ้ มลู ท่ีนาํ มาทดสอบ เป็นทงั้ ข้อมูลทถี่ กู ตอ้ งและข้อมลู ทผ่ี ิดพลาด จากการทดสอบ พบว่าเวบ็ ไซต์ เร่ือง การผลิตผกั กาดเคม็ ที่ได้พัฒนาข้ึนน้สี ามารถทำงานได้ ครบความตอ้ งการของผใู้ ช้ คอื มชี อ่ งทางการสั่งซื้อสินค้า ศกึ ษาเนอ้ื หาเก่ยี วกับการผลิต

- 20 - 3.กกผลการประเมิลประสทิ ธิภาพ ผลการประเมินประสิทธิภาพของ การพัฒนาเวบ็ ไซต์ เรอื่ ง การผลิตผักกาดเคม็ แสดงคา่ คะแนนเฉล่ีย ( X ) สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และคา่ ระดับ ประสทิ ธภิ าพของกลมุ่ ตัวอย่างของผูใ้ ช้งานจำนวน 21 คน มีดังตอ่ ไปนี้ ตารางท่ี 1 แบบประเมนิ เพ่อื หาประสทิ ธภิ าพของการพัฒนาเว็บไซต์ เรอื่ ง การผลิตผกั กาดเคม็ ขอ้ คำถาม ค่าเฉลย่ี S.D ระดับความพึงพอใจ ความสวยงามของเว็บไซต์ 4.47 0.98 มาก เนอื้ หามคี วามสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ของโครงงาน 4.57 0.74 มากท่ีสุด ภาพและสขี องเวบ็ ไซตม์ คี วามเหมาะสม 4.52 0.81 มากทสี่ ุด หลกั การใช้ภาษามีความอา่ นงา่ ยและเข้าใจ 4.61 0.74 มากท่สี ดุ การเชอ่ื มโยงลิงค์ภายในภายนอกของเวบ็ ไซต์ไดอ้ ยา่ ง 4.52 0.67 มากทส่ี ุด ถูกต้อง การจดั ตำแหน่งของเน้อื หาแตล่ ะส่วนในเวบ็ ไซตไ์ ดอ้ ย่าง 4.47 0.74 มาก เหมาะสม ข้อมูลมคี วามครบถ้วนตามจุดประสงค์และมีความทันสมยั 4.61 0.66 มากทีส่ ดุ ขนาดของตวั อักษรมคี วามเหมาะสม 4.57 0.92 มากที่สดุ สามารถนำไปใช้ในการค้นควา้ ข้อมูลบนอนิ เทอร์เนต็ ได้ 4.66 0.73 มากที่สุด เว็บไซต์มีความน่าเชอ่ื ถอื ความน่าสนใจ 4.66 0.57 มากที่สุด รวม 4.57 0.75 มากทส่ี ดุ จากตารางท่ี 1 แบบประเมินเพอ่ื หาประสิทธภิ าพของ การพัฒนาเวบ็ ไซต์ เรือ่ ง การผลิตผักกาดเคม็ มีค่าเฉล่ยี รวม อยู่ในระดบั ดี ( X =4.57)

บทท่ี 5 สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ การจัดทำโครงงาน การพฒั นาเว็บไซต์ เร่ือง การผลิตผักกาดเคม็ นสี้ รปุ ผลการดําเนนิ งาน โครงงานและข้อเสนอแนะ ไดด้ ังน้ี 1. สรุปผลการพัฒนาเว็บไซต์ ผู้จัดทําได้พฒั นาเว็บไซต์ เรื่อง การผลิตผกั กาดเคม็ ซ่ึงมีรายละเอียด ดงั น้ี 1.1 การแปลรูปหวั ไชโป๊ว 1.2 สรรพคุณ 1.3 อุปกรณ์ 1.4 วธิ ีการทำ 1.5 รายการสินค้า 1.6 ช่องทางการส่ังซอ้ื 1.7 ท่ีต่ังการผลติ สนิ คา้ 1.8 เกีย่ วกับเว็บ 1.9 แบบสอบถาม 2. การทดสอบการพัฒนาเวบ็ ไซต์ ในการทดสอบ การพัฒนาเวบ็ ไซต์ เร่ือง การผลติ ผักกาดเคม็ ผูจ้ ัดทาํ ได้ใชว้ ิธีการทดสอบ โดยผู้จดั ทาํ ทดสอบการเลอื กใชเ้ มนูต่าง ๆ การทำแบบทดสอบการศกึ ษาเน้ือหา ข้อมลู ทีน่ าํ มาทดสอบ เปน็ ท้ังข้อมลู ทถี่ กู ต้องและขอ้ มลู ทีผ่ ิดพลาด จากการทดสอบ พบว่าเวบ็ ไซต์ เรอ่ื ง การผลติ ผกั กาดเคม็ ทไ่ี ดพ้ ัฒนาขน้ึ น้สี ามารถทำงานได้ ครบความตอ้ งการของผู้ใช้ คอื มชี ่องทางการสงั่ ซ้อื สนิ ค้า ศกึ ษาเนื้อหาเกย่ี วกับการผลิต 3. ผลการประเมินประสิทธภิ าพ ผลการประเมินประสทิ ธภิ าพของ การพัฒนาเว็บไซต์ เรือ่ ง การผลติ ผักกาดเค็ม มคี ่าเฉล่ีย รวมอยู่ในระดบั ดี ( X =4.57) 4. อปุ สรรคในการทำโครงงาน การพฒั นาเวบ็ ไซต์ เร่ือง การผลติ ผกั กาดเคม็ และได้มกี ารทดลองใช้งานทำใหพ้ บปญั หาต่าง ๆ ดังน้ี

- 22 - 1. คู่ในการทำโครงงานไม่มคี อมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊ค และตอ้ งเดนิ ทางมาทำงานดว้ ยกนั ท่ี หอพกั 2. อินเทอร์เน็ตมีปญั หาบอ่ ยจงึ ทำให้ล่าช้าตอ่ การทำงาน 5. ข้อเสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาต่อ 1. ควรมกี ารเพม่ิ เน้อื หาทม่ี ีความหลากหลายใหม้ ากกว่านี้ 2. ควรเพ่มิ ช่องทางการสัง่ ซื้อทีร่ วดเรว็ ทนั ใจกวา่ นี้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook