กู้เงนิ คา้ ประกนั จานอง จานา ซือ้ ขาย ขายฝาก เช่าทรัพย์ เช่าซือ้ ความรู้กฎหมาย เกีย่ วกบั นิตกิ รรมสัญญา แหลง่ ทมี่ า : เว็บไซต์กรมสอบสวนคดพี เิ ศษ https://www.dsi.go.th/th/Type/Law-for-everyday-life
กฎหมายเกยี่ วกับชวี ิตประจําวนั ในชีวิตประจําวันของคนเราน้ัน จะตองมีติดตอสัมพันธกับผูอ่ืนหลายดาน ถาตองการใหความ สมั พนั ธน ั้น มผี ลทางกฎหมาย กต็ องมีการทาํ นติ ิกรรมสญั ญาระหวา งกัน ในเรือ่ งการทาํ นติ ิกรรมสญั ญา ในทีน่ ีจ้ ะกลา วถึงเรื่องตอไปน้ี ก. กูยืมเงนิ ข. คํา้ ประกนั ค. จํานอง ง. จาํ นํา จ. ซอ้ื -ขาย ฉ. ขายฝาก ช. เชา ทรพั ย ซ. เชา ซ้อื
ก. กยู ืมเงนิ ๑. ความหมาย การกูยืมเงินเปนสัญญาอยางหนึ่ง ซ่ึงเกิดจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกวา “ผูกู” มี ความตองการจะใชเงิน แตตนเองมีเงินไมพอ หรือไมมีเงินไปขอกูยืมจากบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกวา “ผูใหกู” และผูกูตกลงจะใชคืนภายในกําหนดเวลาใดเวลาหน่ึง การกูยืมจะมีผลสมบูรณก็ตอเมื่อ มีการสงมอบเงิน ทย่ี ืมใหแกผ ทู ย่ี มื ในการกูยืมนี้ผใู หก ูจ ะคดิ ดอกเบี้ยหรอื ไมก็ได ตัวอยาง นายดํา ตองการจะซื้อรถราคา ๑๕๐,๐๐๐ บาท แตนายดําไมมีเงิน นายดําจึงไปขอยืม เงินจากนายแดง โดยตกลงจะใชคืนภายใน ๑ ป นับต้ังแตวันที่กูยืม ดังน้ันเมื่อครบกําหนด ๑ ปแลว นายดาํ (ผกู )ู ตองใชเ งนิ คนื ใหแกน ายแดง ๒. ดอกเบยี้ ในการกูยืมเงินกันนี้ เพ่ือปองกันมิใหนายทุนบีบบังคับคนจน กฎหมายจึงไดกําหนดอัตราดอก เบ้ียข้ันสูงสุดท่ีผูใหกูสามารถเรียกได วาตองไมเกินรอยละ ๑๕ ตอป คือรอยละ ๑.๒๕ ตอเดือน (เวนแต เปนการกูยืมเงินจากบริษัทเงินทุนหรือธนาคาร ซ่ึงสามารถเรียกดอกเบ้ียเกินอัตราดังกลาวไดตาม พ.ร.บ. ดอกเบี้ยเงินใหกูยืมของสถาบันการเงิน) ถาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราดังกลาวถือวาขอตกลงเรื่องดอกเบ้ียนั้น เปนอันเสียไปทั้งหมด คือ ไมตองมีการใชดอกเบ้ียกันเลยและผูใหกูอาจมีความผิดทางอาญาฐานเรียกดอก เบ้ียเกินอัตราดวย คือ อาจตองระวางโทษจําคุกไมเกิน ๑ ป หรือปรับไมเกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือท้ังจําท้ัง ปรับ ตาม พ.ร.บ. หามเรียกดอกเบย้ี เกินอัตรา พ.ศ. ๒๔๗๕ ๓. หลักฐานการกยู มื ในการตกลงทําสัญญากูยืมเงินนั้น ถาหากวากูยืมกันเปนจํานวนเงินเล็กนอยไมเกิน ๕๐ บาท กฎหมายไมไดบังคับวาตองทําหลักฐานเปนหนังสือ แสดงถึงการกูยืมหรือทําสัญญาไวตอกัน เชน ยืมเงิน ๒๐ บาท หรือ ๓๐ บาทแลวเพียงแตพูดจาตกลงกันก็พอ แตถาหากวากูยืมเปนจํานวนเกินกวา ๕๐ บาท ตองทําหลักฐานแหงการกูยืมเปนหนังสือหรือทําหนังสือสัญญากูไวตอกัน เพ่ือจะไดใชเปนหลักฐานในการ ฟองรองบังคับคดีในกรณีที่ไมปฏิบัติตามสัญญา ในหลักฐานแหงการกูเปนหนังสือดงั กลาวนี้ตองมีขอความ แสดงวา ไดก ยู มื เงินเปนจาํ นวนเทาใดมีกาํ หนดใชคนื เมอ่ื ใดและท่สี าํ คัญจะตอ งมีการลงลายมอื ชอ่ื ผกู ู
ตัวอยา ง หลกั ฐานการกยู ืมเงนิ ขาพเจา นายดํา ไดกูยืมเงินจากนายสมศักด์ิเปนจํานวน ๓,๐๐๐ บาท (สามพันบาทถวน) เม่ือ วนั ท่ี ๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๐ มกี าํ หนดใชค ืนภายใน ๑ ป ดอกเบ้ยี รอยละ ๑๕ ตอป ลงชอื่ ดาํ ผกู ู หากวาในขณะกูยืมเงินกันแตมีการตกลงรับเอาส่ิงของแทนจํานวนเงินที่กูยืมกันน้ัน ตองคิดราคา ของตลาดของส่ิงน้ันเปนจํานวนเงินที่กูจริงนั้น เชน มีการตกลงกูยืมเงินกัน ๕๐๐ บาท แตมีการตกลงให รบั ขาวสารแทน ๒ กระสอบ ซ่ึงในขณะนนั้ ขาวสารกระสอบละ ๑๕๐ บาท ดังนั้น เราถอื วามกี ารกูยืมเงนิ กันจรงิ เพียง ๓๐๐ บาทเทาน้นั ๔. อายคุ วาม การฟองรอ งเรียกเงินตามสญั ญากูจะตองกระทําภายในกําหนดอายุความ ซึ่งกฎหมายกาํ หนดไววา จะตองฟอ งภายใน ๑๐ ปนบั แตวันทถี่ งึ กําหนดชาํ ระเงินคืน ตัวอยาง แดง กูยืมเงิน ดํา เมื่อ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๐ จํานวน ๑๐,๐๐๐ บาท เปนเวลา ๑ ป ดังนั้นหนี้รายน้ีถึงกําหนดในวันท่ี ๒๗ มิถุนายน ๒๕๓๑ ผูใหกูตองฟองเรียกเงินที่กูยืมคืน ภายใน ๒๗ มิถนุ ายน ๒๕๔๑ ๕. ขอควรระมัดระวังในการกูยมื (๑) อยา ไดลงลายมือช่อื ในกระดาษเปลาเปนอันขาด (๒) อยา ไดน ําโฉนดไปใหเ จาหน้ียดึ ถอื ไวเ ปน ประกัน (๓) จะตอ งนับเงินใหถูกตอ งครบถวนตามสญั ญา (๔) ผยู มื จะตองเขียนจาํ นวนเงินเปน ตวั หนังสือดวย (๕) สัญญาท่ีกูตองทําอยางนอย ๒ ฉบับ โดยใหผูกูยึดถือไวฉบับหน่ึง และใหผูใหกูยึดถือไว อีกฉบับหนึง่ (๖) ในสัญญากคู วรมพี ยานฝา ยผกู ูลงลายมือช่อื เปนพยานอยา งนอย ๑ คน ๖. ขอ ปฏิบตั ใิ นการชําระเงิน เมื่อผูกูนําเงินไปชําระไมวาจะเปนการชําระท้ังหมดหรือบางสวนก็ตามผูกูควรทําอยางใดอยาง หน่ึงดงั ตอไปน้ี มฉิ ะนัน้ จะอางยนั ผใู หก ูวา ชําระเงินกูใหเขาคืนแลว ไมได
ส่ิงทผี่ ูกูควรกระทาํ เมอ่ื ชําระเงนิ คอื (๑) รับใบเสร็จเงินหรือหนังสือท่ีมีขอความวาไดชําระเงินท่ีกูมาแลวท้ังหมดหรือเพียงบางสวน และมีลายเซ็นผูใหกกู ํากบั ไวดว ย ตัวอยาง ขาพเจา นายสมศักดิ์ ร่ํารวยทรัพย ไดรับเงินคืนจาก นายดํา เกิดมาก ผูกูเปนจํานวน ๕,๐๐๐ บาท ลงชอ่ื สมศกั ด์ิ รํ่ารวยทรัพย ผูใหกู ๒๗ มิถนุ ายน ๒๕๓๐ (๒) รับหนังสือสญั ญากูเงนิ ทไี่ ดทาํ ไวแ กผใู หกูคนื มาในกรณที ช่ี าํ ระเงนิ ครบตามจาํ นวนเงินที่กู (๓) มีการบนั ทึกลงในสญั ญาก็วา ไดนําเงนิ มาชําระแลวเทา ไรและใหผูใหก เู ซน็ ชอ่ื กํากับไว ผูให กตู อ งเซ็นชอ่ื กํากับไวทกุ ครั้งทม่ี กี ารชาํ ระเงินจึงจะอา งยนั ไดวา ไดชําระเงนิ ไปแลว
ข. คา้ํ ประกนั คนเราถาขัดสนเงินทองก็ตองกูเปนหน้ีเขา แตเขาอาจจะไมยอมใหกถู าไมมีอะไรเปนหลักประกัน ใหความม่ันใจวาเขาจะไดรับชําระหนี้คืน ค้ําประกันก็เปนหลักประกันอันหน่ึง คํ้าประกัน คือการท่ีใครคน หนึ่งทําสัญญากับเจาหน้ีวาถาลูกหน้ีไมชําระหนี้ ผูค้ําประกันจะชําระหนี้นั้นแทน เมื่อลูกหนี้ไมชําระหนี้ เจาหนก้ี ็ยอมมสี ิทธิเรียกรองหรอื ฟองใหผคู ํา้ ประกนั รับผดิ ได การท่ีจะฟองใหผูคํ้าประกันรับผิดตามสัญญาคํ้าประกันไดน้ัน จะตองมีหลักฐานเปนหนังสือ ลง ลายมือชื่อผูค้ําประกันเปนสําคัญมิใชตกลงกันดวยปากเปลาซ่ึงฟองไมได ตามธรรมดาถาทําสัญญาค้ํา ประกันตามแบบซ่ึงมีขายอยูทั่วไป ก็ไมคอยมีปญหาเพราะเปนแบบซ่ึงทําโดยผูรูกฎหมาย แตถาทํากันเองก็ อาจเกิดปญหาได ถาเราเปน เจา หนีก้ ต็ องระมดั ระวงั ในขอน้ี ในเอกสารน้นั ตองมีขอความอันเปน สาระสําคญั วา ถาลูกหนี้ไมชําระหนี้ผูคํ้าประกันจะชําระหน้ีแทน มิฉะนั้นอาจฟองผูคํ้าประกันไมได เพราะไมใชเปน สญั ญาคา้ํ ประกันตามกฎหมาย ขอบเขตความรับผิดชอบของผคู ้ําประกนั ผูค้ําประกัน จะไมจํากัดความรับผิดหรือจะจํากัดความรับผิดชอบของตนไวในสัญญาคํ้าประกัน ดวยก็ได ถาไมตองการรับผิดอะไรบาง หรือตองการจํากัดขอบเขตความรับผิดไวเพียงใด ก็ตองระบุใน สัญญาใหชัดเจน เชน ลูกหนี้กูเงินเจาหน้ี ๑๐๐,๐๐๐ บาท อัตราดอกเบ้ียรอยละ ๑๕ ตอป ผูคํ้าประกันจะ จํากัดความรับผิดเฉพาะกรณีทบี่ ุคคลน้นั ทําความเสียหายเน่ืองจากทจุ รติ ตอหนาท่ีไมรวมถึงประมาทเลนิ เลอ ดวยก็ได เม่ือจํากัดความรับผิดไวแลวก็รับผิดเทาท่ีจํากัดไว แตถาไมจํากัดความรับผิดเมื่อลูกหน้ีผิดสัญญา ตอ เจา หนี้ ไมชําระเงินหรือคาเสียหายมากนอ ยเพยี งใด ผูค้ําประกนั ก็ตอ งรับผิดจนส้ินเชงิ เชนเดยี วกับลกู หน้ี ทุกอยาง เม่ือทําสัญญาประกันแลวผูคํ้าประกันตองผูกพันตามสัญญาน้ัน เจาหน้ีมีสิทธิเรียกรองหรือฟองให รบั ผดิ ได เมอ่ื ลูกหน้ีไมช ําระหน้ตี ามกําหนด สทิ ธิของผูคํา้ ประกนั (๑) เมือ่ ผคู ้าํ ประกันถูกเรยี กรองใหชําระหนีแ้ ทนลกู หนี้ มใิ ชผ ูค้ําประกันตอ งชําระหนท้ี ันทีแตมี สทิ ธิท่ีจะเกี่ยงใหเ จา หน้ี ไปเรยี กรอ งเอาจากลูกหนก้ี อ นได ทั้งนภ้ี ายใตขอยกเวน บางประการและถา เจาหน้ี ฟอ งเปนจําเลยรวมกับลูกหน้ีก็ยังมีสิทธิพิสูจนตอศาลวาลูกหน้ีมีทรพั ยสินชําระหน้ีไดและการท่ีจะบังคบั จาก ลูกหน้ีนั้นไมเปน การยาก ถาผูคาํ้ ประกันนําพยานเขาสืบและฟงไดเชน นั้น ศาลก็ตองบังคับเอาจากทรัพยสิน ของลูกหนี้กอนเพราะหนี้ที่ผูคํ้าประกันตองชําระมิใชเปนหนี้ของผูค้ําประกันเอง ผูค้ําประกันเปนลูกหน้ี ชัน้ ทส่ี อง
บางกรณีเจาหนี้เอาเปรียบลูกหน้ีและผูคํ้าประกัน ในสัญญาสําเร็จรูป จะมีความวา “ใหผูคํ้า ประกันยอมรับผิดรวมกับลูกหน้ี” คือเปนลูกหนี้รวมเทากับใหผูคํ้าประกันรับผิดหนักข้ึน ดังนั้นกอนเซ็น สัญญาคํ้าประกัน จึงตองพิจารณาวาจะยอมรับผิดเชนนั้นหรือไม ถายอมรับผิดรวมกับลูกหนี้ก็ไมมีสิทธิที่ จะเกย่ี วดังกลา วขางตน (๒) เมื่อผูค้ําประกันชําระหน้ีใหแกเจาหนี้แลว ไมวาชําระแตโดยดี หรือชําระหนี้โดยถูกบังคับ ตามคําพิพากษา ผูคํ้าประกันก็มีสิทธิรับชวงสิทธิของเจาหน้ี ในอันที่จะเรียกเอาเงินชําระใหเจาหน้ีใชแลว น้นั คนื จากลกู หน้ีไดต ามจาํ นวนทีช่ าํ ระไปตลอดจนท้งั คาเสียหายตา ง ๆ เน่ืองจากการคาํ้ ประกนั การเปนผูค้ําประกันน้ันมีแตเสีย ตามคําพังเพยท่ีวาเน้ือไมไดกินหนังไมไดรองน่ัง มีแตเอากระดูกมาแขวน คอ เพราะฉะนน้ั กอนที่จะเซ็นชอื่ ในสัญญาคํ้าประกัน ตองพิจารณาตัวลกู หนี้ซึง่ เปนผูคํ้าประกันจะชําระหน้ี แทนใหดีวามีความสามารถชําระหน้ีใหเจาหน้ีไดแคไ หน และมีความซื่อสัตยสจุ ริตเพียงใด ท้ังตองพิจารณา ขอ ความในสัญญาใหรอบคอบ บางทกี าํ หนดใหผูค ้ําประกนั รับผดิ หนักข้ึน หรือสละสทิ ธิบางอยางอันอาจทํา ให ไลเ บย้ี เอาจากลกู หนี้ไมไ ด เม่อื เขาใจขอความในสญั ญาดแี ลวจงึ คอ ยลงช่อื ในสัญญาคา้ํ ประกนั การพน ความรบั ผิดของผคู ้าํ ประกนั เมื่อเซ็นช่ือในสัญญาแลวผูคํ้าประกันก็มีภาระจะตองรับผิดตอเจาหนาท่ีจนกวาหนี้ของลูกหน้ี จะระงับไป ตราบใดที่หนี้ของลูกหน้ียังมีอยูผูค้ําประกันก็ไมพนความรับผิด แตมีพฤติการณบางอยางที่ กฎหมายกําหนดไวใ หผ ูคาํ้ ประกันพนความรับผดิ (๑) เจาหน้ีผอนเวลาใหแกลูกหนี้ คือถาไดกําหนดวันชําระหนี้ไวแนนอนแลว เจาหนี้ยืดเวลา ตอ ไปอกี ผคู าํ้ ประกนั กพ็ น ความรบั ผดิ (๒) เมื่อหน้ีของลูกหน้ีถึงกําหนดชําระแลว ผูคํ้าประกันเอาเงินไปชําระแกเจาหน้ีไวแนนอนแลว แตเจาหน้ีไมย อมรบั โดยไมม ีเหตอุ นั จะอางกฎหมายได ผคู ํา้ ประกนั กห็ ลดุ พนจากความรบั ผิดเชนเดยี วกัน
ค. จํานอง จํานองก็เปนหลักประกันอีกประการหนึ่ง จํานอง คือ การที่ใครคนหนึ่งเรียกวา ผูจํานอง เอา อสังหาริมทรัพยอันไดแก ท่ีดิน บานเรือน เปนตน ไปตราไวแกบุคคลอีกคนหน่ึงเรียกวา ผูรับจํานอง หรือ นัยหนึ่ง ผูจํานองเอาทรัพยสินไปทําหนังสือจดทะเบียนตอ เจาพนักงาน เพื่อเปนการประกันการชําระหน้ีของ ลูกหน้ี โดยไมตองสงมอบทรัพยที่จํานองใหเจาหนี้ ผูจํานองอาจเปนตัวลูกหนี้เองหรือจะเปนบุคคลภายนอก ก็ได เชน นายดํากูเงินนายแดง ๑๐๐,๐๐๐ บาท เอาท่ีดินของตนเองจํานองหรือนายเหลืองซ่ึงเปนบุคคล ภายนอกเอาท่ีดินจํานองจดทะเบียนท่ีสํานักงานที่ดินเปนประกันหนี้ของนายดําก็ทําไดเชนเดียวกัน เม่ือ จํานองแลวถาลูกหนี้ไมชําระหนี้เจาหนี้ก็มีอํานาจยึดทรัพยท่ีจํานองออกขายทอดตลาดเอาเงินชําระหนี้ได และมีสทิ ธพิ เิ ศษไดรับชาํ ระหนี้กอ นเจา หนี้ธรรมดาท่ัวไป กูเงินแลวมอบโฉนด หรือ น.ส.๓ ใหเจาหนี้ยึดไวมิใชจํานอง เจาหน้ีไมมีสิทธิพิเศษเปนเพียง เจา หนธ้ี รรมดา แตมีสทิ ธยิ ึดโฉนดหรอื น.ส.๓ ไวตามขอตกลงจนกวาลูกหนี้ชําระหน้ี ฉะน้นั ถา จะทําจาํ นองก็ ตอ งจดทะเบยี นใหถ ูกตอง ทรพั ยส นิ ท่ีจาํ นอง ทรัพยสินที่จํานองได คือ อสังหาริมทรัพย อันหมายถึง ทรัพยที่ไมสามารถเคลื่อนที่ได เชน ที่ดิน บานเรือน เรือกสวนไรนา เปนตน นอกจากน้ันสังหาริมทรัพยท่ีเคลื่อนท่ีไดบางอยาง เชน เรือกําปน เรือกลไฟ แพที่อยูอาศัย และสัตวพาหนะ ถาไดจดทะเบียนไวแลว ก็อาจนํามาจํานองไดดุจกัน เมื่อเจาของ ทรัพยนําไปจํานองไมจําเปนตองสงมอบทรัพยท่ีจํานองใหแกเจาหน้ี เจาของยังคงครอบครองใชประโยชน เชน อาศัยอยูในบาน หรือทําสวนไรหาผลประโยชนไดตอไป นอกจากน้ันอาจจะโอนขายหรือนําไปจํานอง เปนประกันหนี้รายอื่นตอไปก็ยอมได สวนเจาหนี้น้ันการที่ลูกหน้ีนําทรัพยไปจดทะเบียนจํานอง ก็นับไดวา เปนประกนั หนี้ไดอยา งม่นั คงไมจ ําเปน ตอ งเอาทรพั ยน ้นั มาครอบครองเอง ผจู ํานองตอ งระวัง ผูมีสิทธิจํานองได คือเจาของหรือผูมีกรรมสิทธในทรัพยสิน ถาเจาของจํานองทรัพยสินดวยตน เองก็ไมมีปญหา แตถามอบอํานาจใหผูอ่ืนไปทําการจํานองแทน บางกรณีก็อาจเกิดปญหาได ขอควร ระมัดระวังคือ ควรเขียนใบมอบฉันทะหรือใบมอบอํานาจใหชัดเจนวาทําการจํานอง ไมควรเซ็นแตช่ือแลว ปลอยวา งไว อันบุคคลอืน่ น้นั อาจกรอกขอ ความเอาเอง แลวนาํ ไปทาํ ประการอ่นื อันไมตรงตามความประสงค ของเรา เชน อาจเพ่ิมเติมขอความวามอบอํานาจใหโอนขาย แลวขายเอาเงินไปใชประโยชนสวนตัวเสีย เปนตน เราผูเปนเจาของทรัพย ผูมอบอํานาจอาจจะตองถูกผูกพันตามสัญญาซ้ือขายน้ัน เพราะถือวาประมาท เลนิ เลออยดู ว ย
ผรู ับจํานองตอ งระวัง ผูรับจํานองทรัพยสินก็ตองระมัดระวังเชนกัน ควรติดตอกับเจาของทรัพยหรือเจาของที่ดินโดย ตรง และควรตรวจดูท่ีดินทรัพยสินท่ีจํานองวามีอยูจริงตรงกับโฉนด เคยปรากฏวามีผูนําโฉนดที่ดินไป ประกันผตู องหาหรอื จาํ เลย แตทีด่ นิ ตามโฉนดน้ันกลับเปนถนนเหลือจากการจัดสรร หรือทีด่ ินตามโฉนดนั้น พังลงนํ้าไปหมดแลว ดังน้ัน ผูรับจํานองจึงไมควรรับจํานอง หรือติดตอสัญญากับคนอ่ืนหรือผูท่ีอางวาเปน ตัวแทน เพราะถาปรากฏในภายหลังวาบุคคลนั้นทําใบมอบฉันทะ หรือใบมอบอํานาจปลอมขึ้นแลวนําที่ดิน ของผูอืน่ มาจาํ นองโดยชําระหนี้ใหแกเจาหนี้ มิฉะน้ัน เจาหน้ีก็มีสิทธทิ ี่จะบังคับจํานองยึดทรัพยเอาท่ีดินออก ขายทอดตลาด ซึ่งถาผูร บั โอนสูราคาไมไ ด ทรพั ยหลุดมอื ไปเปน ของคนอนื่ ดังนน้ั ท่ซี ือ้ มากเ็ สียเงนิ เปลา ผูร บั โอนและผูรับจาํ นองซอนกต็ องระวงั ทรัพยที่จํานองนั้นเจาของจะนําไปจํานองซํ้า หรือโอนขายตอไปก็ยอมทําได ผูรับจํานองคนหลัง ตองพิจารณาวาทรัพยน้ันเม่ือขายทอดตลาดจะมีเงินเหลือพอชําระหน้ีของตนหรือไม เพราะเจาหน้ีคนแรกมี สิทธิไดรับชําระหนี้กอน คนหลังมีสิทธิแตเพียงจะไดรับชําระหน้ีเฉพาะสวนที่เหลือ ผูรับโอนหรือผูซ้ือ ทรัพยที่จํานองก็ตองระวังเชนเดียวกัน เพราะรับโอนทรัพยโดยมีภาระจํานองก็ตองไถถอนจํานองโดยชําระ หนใ้ี หแ กเ จา หน้ี มฉิ ะนั้นเจา หนกี้ ็มีสทิ ธทิ ีจ่ ะบงั คับจํานองยดึ ทรัพยเ อาทด่ี ินออกขายทอดตลาด ซง่ึ ถาผูรับโอน สรู าคาไมไ ด ทรัพยห ลดุ มือไปเปน ของคนอ่นื ดังนนั้ ที่ซอ้ื มาก็เสยี เงินเปลา
ง. จาํ นํา สัญญาจํานํา คือ สัญญาซึ่งบุคคลคนหน่ึงเรียกวา ผูจํานํา สงมอบสังหาริมทรัพยใหแกบุคคลอีกคน หน่งึ เปนผูค รอบครองเรียกวา ผูรับจาํ นํา เพ่ือประกันการชําระหน้ี ทรพั ยส ินที่จาํ นําไดคือ ทรพั ยส ินที่สามารถ เคลือ่ นทไี่ ด เชน วทิ ยุ โทรทัศน ชา ง มา โค กระบอื และเครือ่ งทองรูปพรรณ สรอย แหวน เพชร เปน ตน ตัวอยางเชน นาย ก กูเงนิ นาย ข จํานวน ๕๐,๐๐๐ บาท เอาแหวนเพชรหน่ึงวงมอบใหนาย ข ยึดถือ ไวเปนประกันการชําระหนี้เรียกวา นาย ก เปนผูจํานํา และนาย ข เปนผูรับจํานํา ผูจํานําอาจเปนบุคคลภาย นอก เชน ถาแทนที่นาย ก จะเปนผูสงมอบแหวนเพชรใหเจาหนี้กลับเปนนาย ค ก็เรียกวา เปนผูจํานํา ผูจํานํา ไมจ ําเปน ตอ งเปนลกู หน้ีเสมอไป ผรู ับจาํ นาํ ตองระวงั ผูจํานําตองเปนเจาของทรัพย คือ มีกรรมสิทธ์ิในทรัพยสินที่จํานําใครอ่ืนจะเอาทรัพยของเขาไป จํานําหาไดไม เพราะฉะน้ันถายักยอก ยืมหรือลักทรัพยของเขามาหรือไดทรัพยของเขามาโดยไมชอบดวย กฎหมายประการอ่ืนแลวเอาไปจํานํา เจาของอันแทจริงก็ยอมมีอํานาจติดตามเอาคืนไดโดยไมตองเสียคาไถ เพราะฉะนั้นผูรับจํานําตองระวังควรรับจํานําจากบุคคลท่ีรูจัก และเปนเจาของทรัพยเทาน้ัน มิฉะนั้นอาจจะ เสยี เงินเปลา ๆ สิทธหิ นา ท่ีผรู บั จาํ นาํ เมื่อรับจํานําแลวทรัพยสินท่ีจํานําก็อยูในความครอบครองของผูรับจํานําตลอดไป จนกวาผูรับ จาํ นาํ จะรับคนื ไปโดยการชาํ ระหนี้ ในระหวา งนั้น ผรู ับจาํ นาํ มหี นา ท่เี กีย่ วกบั ทรัพยส ินทีจ่ ํานาํ บางประการ ๑. ตองเก็บรักษาและสงวนทรัพยที่จํานําใหปลอดภัย ไมใหสูญหาย หรือเสียหาย เชน รับจํานํา แหวนเพชรกต็ อ งเก็บในทีม่ ่ันคง ถา ประมาทเลินเลอ วางไวไมเปน ที่เปน ทาง คนรา ยลักไปอาจจะตองรับผิดได ๒. ไมเอาทรัพยท่ีจํานําออกไปใชเอง หรือใหบุคคลภายนอกใชสอยหรือเก็บรักษา มิฉะน้ันถาเกิด ความเสียหายใด ๆ ข้ึนตองรับผิดชอบ เชน เอาแหวนที่จํานําสวมใสไปเที่ยวถูกคนรายจี้เอาไปก็ตองใชราคา ใหเ ขา ๓. ทรัพยสินท่ีจํานําบางอยาง ตองเสียคาใชจายในการบํารุงรักษา เชน จํานําสุนัขพันธุดี โค กระบือหรือมาแขง อาจจะตองเสียคาหญา อาหารและยารักษาโรค ผูจํานําตองชดใชแกผูรับจํานํา มิฉะนั้น ผรู ับจํานาํ ก็มสี ทิ ธยิ ดึ หนวงทรัพยท ีจ่ าํ นําไวกอ น ไมย อมคนื ใหจนกวา จะไดรบั ชาํ ระหน้ีครบถว น
การบังคบั จาํ นํา เม่อื หนถ้ี งึ กําหนดลกู หนไ้ี มช ําระหน้ี ผูร ับจาํ นาํ กม็ ีสิทธบิ ังคับจาํ นาํ ได คอื ๑. เอาทรัพยสินท่ีจํานําออกขายทอดตลาด คือกระทําไดเองไมตองขออํานาจซ่ึงตามธรรมดาก็ให บุคคลซ่ึงมีอาชีพทางดําเนินธุรกิจขายทอดตลาดเปนผูขาย แตกอนท่ีจะขายทอดตลาดผูรับจํานําจะตองบอก กลาวเปนหนังสือไปยังลูกหนี้กอนใหชําระหน้ีและหน้ีท่ีเก่ียวเน่ืองกัน เชน ดอกเบี้ย คารักษาทรัพยที่จํานํา เปน ตน ภายในเวลาอันสมควร ๒. ถาผูรับจํานําไมบังคับตามวิธีท่ี ๑ เมื่อลูกหนี้ไมชําระหน้ีเพื่อไถถอนทรัพยท่ีจํานําคืนไป เจาหน้ผี รู บั จํานํายื่นฟอ งตอ ศาล ใหขายทอดตลาดทรพั ยท จี่ ํานาํ กย็ อ มได ไมม ีอะไรหาม ขอสงั เกต (๑) เงินที่ไดจากการขายทอดตลาดตองนํามาชําระหนี้พรอมดวยอุปกรณ คือคาใชจายตางๆ ถามี เงินเหลือก็คืนแกผูจํานําไป เพราะเปนเจาของทรัพย ถามีเจาหน้ีหลายคน ผูรับจํานําก็มีสิทธิไดรับชําระหน้ี กอ นเจา หนอ้ี ื่น (๒) เม่ือถึงกําหนดชําระหน้ีแลวคูสัญญาจะตกลงกันใหทรัพยสินท่ีจํานําตกเปนของผูรับจํานําก็ ยอมทําได ถือวาเปนการชําระหน้ีดวยของอ่ืน แตจะตกลงกันเชนน้ีในขณะทําสัญญาจํานํา หรือกอนหน้ีถึง กาํ หนดหาไดไม
จ. ซอื้ ขาย ในชีวิตประจําวันของเราแตละคนนั้น ตองทําสัญญากันวันละหลายๆ คร้ัง ในบางครั้งเราเองอาจ จะ ไมรูสึกวาเปนการทําสัญญา เพราะเปนไปในลักษณะของความเคยชินที่เกิดข้ึนในแตละวัน สัญญาที่ทํากัน บอยมากน้ัน ก็ไดแก สัญญาซื้อขาย เพียงแคเราต่ืนข้นึ มา เราอาจตองทําสัญญาซื้อยาสีฟน แปรงสีฟน ตอง ทําสัญญาซ้ือขาว รับประทานหรือซ้ือเคร่ืองด่ืม แมแตโคกแกวเดียว ก็ถือวาเราไดทําสัญญาซื้อขายแลว ดังน้ัน เราจะเห็นไดวา การซื้อขายท่ีทํากันโดยปกติท่ัวไปดังท่ีไดยกตัวอยางมานั้นไมไดมีปญหา หรือ ความสลับซับซอนอะไรมากมาย จนจะทําใหเราตองนึกถึงกฎหมายในเรื่องของสัญญาซื้อขาย แตเน่ืองจาก การซ้ือขายทรัพยสินบางอยางในปจจุบันอาจเปนสินทรัพยท่ีมีราคาคางวด หรือมีความสําคัญตอชีวิตของเรา อยางมาก กฎหมายจึงกําหนดวิธีการในการซื้อขายทรัพยสินดังกลาวไวเปนพิเศษวา สัญญาซื้อขายทรัพยสิน ดังกลาวนั้นจะตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ เพ่ือท่ีผูซ้ือหรือผูขายจะไดคิด ไตรตรองใหรอบคอบกอนที่จะทาํ การซื้อขายกันใหเสรจ็ สิ้นไป และเพื่อที่จะไดมีหลักฐานในการซ้ือขายกัน อยางชัดเจน ตลอดท้ังการท่ีจะรูแนนอนวาใครเปนเจาของทรัพยสิน ดังกลาวนั้น การซ้ือขายทรัพยสิน เหลานก้ี เ็ ชน การซอื้ ขายบา นและทดี่ นิ ทีเ่ ราใชอ ยอู าศัย เปน ตน ดังน้ัน เราจึงควรทําความเขาใจหลักเกณฑในการซื้อขายทรัพยสินประเภทตาง ๆ ไวบาง เพ่ือ หลีกเลี่ยงปญ หาทอี่ าจจะเกดิ ข้นึ ได สําหรับสัญญาซ้ือขายนั้น ก็คือ สัญญาที่ผูขายโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยสินใหแกผูซื้อ และผูซ้ือ ตกลงวา จะใชราคาทรัพยสนิ นัน้ ใหแกผขู าย การโอนกรรมสิทธิ์ หมายถึง การโอนความเปนเจาของในทรัพยสิน ที่ซ้ือขายนั้นไปใหแกผูซ้ือ ผูซ อ้ื เม่ือไดเปนเจาของกส็ ามารถที่จะใช ไดร บั ประโยชน หรอื จะขายตอไปอยางไรก็ได สําหรับเรื่องราคาทรัพยสิน จะชําระเม่ือไรน้ันเปนเร่ืองที่ผูซื้อผูขายจะตองตกลงกัน ถาตกลงกัน ใหชําระราคาทันทีก็เปนการซ้ือขายเงินสด ถาตกลงกันชําระราคาในภายหลงั ในเวลาใดเวลาหน่ึงเพียงคร้ังเดียว ตามที่ตกลงกัน กเ็ ปน การซ้ือขายเงินเชื่อ แตถาตกลงผอนชําระใหกันเปนคร้ังคราวก็เปนการซื้อขายเงินผอน สําหรับ การซ้ือขายเงินผอนน้ันเปนที่นิยมมากในปจจุบัน เนื่องจากความตองการในทางวัตถุมีมาก แตรายไดมีนอย ไมเพียงพอที่จะซ้ือส่ิงอํานวยความสะดวกไดทันทีหลาย ๆ อยาง เชน โทรทัศน วิทยุ ตูเย็น วิดีโอ ก็เลย นยิ มท่ีจะซอ้ื เงนิ ผอน อยางไรก็ตาม โดยปกติในการทําสัญญาซ้ือขายทรัพยสินนั้นทันทีท่ีทําสัญญา กรรมสิทธ์ิในทรัพย สินช้ินนั้นก็จะโอนไปยังผูซ้ือทันที แมวาจะยังไมไดสงมอบทรัพยสินชิ้นน้ันใหผูซื้อหรือแมผูซ้ือจะยังไมไดชําระ เงินคาทรัพยสินนั้นก็ตาม ผูซื้อก็ไดความเปนเจาของไปแลว ยกเวนแตในกรณีของการซ้ือเงินผอนนั้น ผูซื้อ และผูขายอาจจะตกลงกันวาเม่ือผอนชําระเงินกันเสรจ็ แลว กรรมสิทธิ์คอยโอนไปเชนนี้ก็ทําได แตเน่ืองจาก การซ้ือเงินผอนน้ี ผูซ้ือมักไดทรัพยสินไปใชกอน แลวคอย ๆ ผอนใชราคาทรัพยสินท่ีจะตองจายจึงมักจะ รวมดอกเบี้ยไปดวย ทําใหผูซ้ือ ซื้อทรัพยสินน้ันในราคาที่แพงกวาทองตลาดหรือเม่ือซื้อเปนเงินสด ดังนั้น
หากผูซ้ือไมลําบากจนเกินไปในการซ้ือเปนเงินสดแลว ก็ควรจะซ้ือเปนเงินสด จะไดประหยัดไมตองซื้อ ของแพง ๑. หลักเกณฑใ นการทาํ สัญญาซอ้ื ขาย (๑) ตองมีบุคคล คือ ตัวผูซ้ือและตวั ผูข าย ซงึ่ ทัง้ สองคนนั้นจะตอ งมีความคดิ สติปญ ญาพอสม ควรที่จะตัดสินใจทําสัญญากันไดเอง ซึ่งก็คือ ตองเปนคนบรรลุนิติภาวะ โดยปกติก็คือมีอายุ ๒๐ ป บริบรู ณ (๒) ผูซื้อตองมีความตองการท่ีจะซื้อและผูขายตองมีความตองการที่จะขายทรัพยสินส่ิงนั้นจริง ๆ โดยทั้งสองฝายไดแ สดงความตอ งการของตนใหอกี ฝา ยหนึ่งรูดว ย (๓) ผูซื้อและผูขายตองมีเปาหมายในการทําสัญญาซ้ือขาย ซึ่งก็คือ ผูซื้อมีเปาหมายที่จะได กรรมสิทธ์ิหรือความเปนเจาของทรัพยสินนั้น สวนผูขายก็มีเปาหมายท่ีจะไดเงินหรือราคาของทรัพยสินน้ัน และเปาหมายของท้ังสองฝายนี้จะตองไมมีกฎหมายหาม ไมขัดตอความสงบเรียบรอยและศีลธรรมอันดีของ ประชาชน และตองเปนเปาหมายที่อาจจะเกิดขึ้นไดดวย ตัวอยาง แดงทําสัญญาซ้ือเฮโรอีนจากดํา สัญญา ซื้อขายนี้บังคับกันไมได เพราะการซ้ือขายเฮโรอีนมีเปาหมายท่ีผิดกฎหมาย หรือเขียวทําสัญญาซื้อบานจาก เหลืองเพ่ือทําเปนซองโสเภณี สัญญาซ้ือขายนี้ก็บังคับไมไดเพราะเปนเปาหมายขัดตอความสงบเรียบรอยของ ประชาชน หรือขาวทําสัญญาขายเด็กหญิงฟา ซ่ึงเปนบุตรสาวใหกับนํ้าเงิน สัญญาซื้อขายนี้ก็บังคับไมได เพราะมเี ปาหมายขดั ตอ ศีลธรรมอนั ดขี องประชาชน (๔) ผูขายตองโอนกรรมสิทธิ์ใหกับผูซ้ือ เราตองเขาใจดวยวาการโอนกรรมสิทธิ์นี้ ตัว กรรมสิทธเ์ิ ปน สง่ิ ท่ีไมม ีตัวตนแตเปน ส่ิงทก่ี ฎหมายสมมติขึ้น การโอนกรรมสทิ ธจ์ิ งึ อาจจะเกิดขน้ึ แมวา ผูซ อ้ื จะยงั ไมไ ดรบั มอบทรัพยไ ปไวใชส อยหรือไปไวใ นความครองครองก็ตาม (๕) ผูซื้อตองตกลงวาจะชําระราคาทรัพยสินน้ันใหกับผูขาย ในกรณีนี้เพียงแตตกลงวาจะชําระ ก็พอแลว ยังไมจําเปน ตอ งมีการชาํ ระกันจริง ๆ ก็ได ๒. วธิ กี ารในการทาํ สญั ญาซ้ือขาย (๑) วธิ กี ารในการทาํ สัญญาซ้อื ขายโดยปกติ คือการทผี่ ซู ้อื และผูขายตางไดแ สดงความจํานงวา ตองการซ้อื ขายทรัพยส ินสง่ิ ใดส่ิงหน่ึง ซึง่ การแสดงความจํานงน้ันอาจจะทาํ โดยปากเปลาก็ได หรือทาํ เปน ลายลกั ษณอกั ษรก็ได หรือโดยวธิ กี ารอยา งอื่นก็ได และสําหรับตวั ทรัพยส ินทจี่ ะซือ้ ขายกัน โดยวิธีนไ้ี ด คอื สังหาริมทรพั ยธรรมดา ซึง่ กค็ อื ทรพั ยส ินทีส่ ามารถจะโยกยายเคลื่อนท่จี ากที่หน่งึ ไปยังอกี ทห่ี น่ึงได เชน โทรทัศน พดั ลม โตะ เกา อี้ รถยนต ปากกา ดนิ สอ ไมบ รรทดั เปน ตน สาํ หรบั การซื้อขายทรัพยสิน ประเภทน้ี เม่อื ไมต อ งทําตามวิธีการเฉพาะอะไร ฉะนั้น เมอ่ื มีการตกลงซ้ือขายกันแลว กรรมสิทธ์ิโอนไป ทันที และการเกดิ สญั ญาซอื้ ขายยงั เปน การกอใหเ กดิ “หน้ี” ทฝ่ี า ย ผูซอื้ และผขู ายจะตองชาํ ระใหแ กก นั อกี ดวย
(๒) วิธกี ารเฉพาะที่กฎหมายกําหนดไวใหผซู ื้อผขู ายตองทํา และถาไมทําตามทกี่ ฎหมายกําหนด ไวแลว สญั ญาซ้ือขายนัน้ แมจะไดต กลงวาจะซ้อื จะขายกไ็ มอาจบงั คบั กนั ได เพราะกฎหมายถือวาเสยี เปลา หรอื เปนโมฆะ คือ ใชไ มไ ดน ั่นเอง วิธกี ารเฉพาะดังกลา วนค้ี ือ การทําเปนหนังสือและจดทะเบยี นตอพนักงานเจาหนา ที่ ซึง่ กฎหมาย กําหนดไวส าํ หรบั ทรพั ยส ินบางประเภท คือ อสงั หารมิ ทรพั ยแ ละสังหารมิ ทรพั ยชนิดพเิ ศษ ซึง่ ขออธิบาย ใหเ ขา ใจดังน้ี (ก) อสงั หาริมทรัพย หมายถงึ ทรัพยท ่เี คลือ่ นท่ีไมได ไดแก ๑) ที่ดนิ ๒) ทรัพยท ต่ี ิดกบั ทดี่ ินในลกั ษณะตรงึ ตราแนนหนาถาวร เชน บา นเรือน ตกึ แถว อาคาร ส่งิ ปลกู สรา งซ่ึงตรึงตรากบั ที่ดินอยา งถาวร ไมย นื ตน เปน ตน ๓) ทรพั ยซ งึ่ ประกอบเปนอันเดยี วกบั ท่ดี ิน เชน แมนํ้า ลําคลอง แรธ าตุ กรวด ทราย เปนตน ๔) สิทธทิ ้ังหลายอันเกี่ยวกบั กรรมสทิ ธ์ใิ นทีด่ ิน เชน ภาระจาํ ยอม สทิ ธิอาศยั สทิ ธิเก็บ กนิ และสิทธิจํานอง เปนตน (ข) สังหาริมทรพั ยชนดิ พิเศษ ไดแก ๑) เรือกาํ ปน หรือเรือมรี ะวางตงั้ แต ๖ ตนั ข้นึ ไป เรือกลไฟ หรอื เรอื ยนตมีระวางตัง้ แต ๕ ตันขน้ึ ไป ๒) แพ หมายความเฉพาะแตแ พที่เปน ท่อี ยูอ าศยั ของคน ๓) สัตวพ าหนะ หมายความถงึ สัตวท ีใ่ ชในการขับขล่ี ากเขญ็ และบรรทุก ซ่งึ สัตวเหลา นี้ ตองทาํ ตัว๋ รปู พรรณแลว ไดแ ก มา ชาง โค กระบอื สําหรับสถานที่รับจดทะเบียนตามประเภทของทรัพย คอื ๑. ทีด่ นิ (ก) ถา เปน ท่ีดินมโี ฉนด ตองไปขอจดทะเบียนตอ เจา พนักงานท่ีดนิ ณ สาํ นกั งานทีด่ นิ จังหวดั หรือ สํานกั งานท่ดี นิ สาขา (ข) ถา เปน ทดี่ นิ มหี นงั สอื สาํ คัญอยางอื่น เชน น.ส.๓ ตองไปขอจดทะเบยี นตอนายอาํ เภอ ณ ที่วาการอาํ เภอ (ค) ถาเปนการจดทะเบียนเกี่ยวกบั โรงเรือนหรือสง่ิ ปลูกสรางอยางอื่น เชน จดทะเบียนเชา อาคาร บา นเรอื น ตอ งไปขอจดทะเบียนตอ นายอาํ เภอ ณ ท่วี า การอําเภอ แตถา จดทะเบยี นโรงเรือนรวมกับทีด่ ินมี โฉนด ตองไปขอจดทะเบียนทส่ี ํานกั งานทด่ี ินจงั หวดั หรอื ถา จดทะเบยี นรวมกับทีด่ ินทม่ี ี น.ส.๓ กต็ องไปขอ จดทะเบยี น ณ สํานกั งานทด่ี นิ จังหวัดหรือสาํ นักงานที่ดนิ สาขาดวยเชน กัน
การขอจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมตามความดังกลาว สาํ หรับทด่ี ินมโี ฉนด หรอื หนังสือรับรอง การทําประโยชน คูกรณีอาจย่ืนคาํ ขอตอพนักงานเจา หนา ท่ี ณ กรมทด่ี ิน เพอ่ื ใหพ นกั งานเจาหนา ทดี่ ังกลา ว ดาํ เนินการ จดทะเบยี นใหก็ได เวน แตการจดทะเบยี นท่ตี องมีการประกาศหรอื ตองมีการรังวัด ๒. เรือ การจดทะเบียน การเปลี่ยนใบอนุญาต และการเปลี่ยนช่ือเจาของเรือตองทําตอ นายทะเบยี น ณ กรมเจา ทา ๓. แพ ตอ งจดทะเบียนตอนายอาํ เภอ ณ ทว่ี า การอําเภอ หรอื เขต ๔. สัตวพาหนะ ตองจดทะเบียนตอนายอําเภอ หรือผูท่ีไดรบั มอบหมายจากรัฐมนตรีผูรักษาการ ณ ทีว่ า การอาํ เภอ ๓. สาระสําคัญของสญั ญาซ้ือขาย (ก) ตอ งมีการโอนกรรมสิทธใิ์ นทรพั ยสินทซี่ อ้ื ขาย ปญหาวากรรมสิทธิ์ในทรพั ยสนิ ท่ีซอ้ื ขายนน้ั โอนไปเมอ่ื ไร หลัก กรรมสิทธ์ิในทรพั ยสนิ นัน้ จะโอนไปยงั ผซู อื้ ตัง้ แตเมือ่ ไดต กลงทําสญั ญาซ้อื ขายกนั ขอยกเวน กรรมสทิ ธใิ์ นทรัพยส ินนั้นยังไมโอนไป ในกรณดี ังตอ ไปนี้ ๑) สัญญาซอ้ื ขายเสร็จเดด็ ขาดท่ีมีเงอื่ นไขหรอื เงอ่ื นเวลา ซงึ่ กรรมสิทธิ์จะโอนก็ตอ เมือ่ เกิด เงอ่ื นไขหรือถึงกําหนดเงือ่ นเวลา สําหรับสัญญาซื้อขายที่มีเงื่อนไขนั้น หมายถึง การที่ผูซื้อผูขายตกลงกันเอาเหตุการณใน อนาคตท่ี ไมแนนอนบางอยางมากําหนดไววา ถาเหตุการณนั้นเกิด กรรมสิทธิ์ก็โอน เพราะฉะน้ัน กรรมสิทธ์ิจึงยังไมโอน จนกวาเหตุการณน้ันเกิด ตัวอยางเชน จอยตกลงซ้ือเครื่องสีขาวโดยผอนใชเงินกับ ดว ง โดยมีขอ ตกลงกันวา เครอ่ื งสีขาวยังเปนของดวงอยูจนกวาจะใชเงนิ เสร็จ เชนนี้ตราบใดท่ีจอยยังไมใช เงินจนครบจาํ นวนกจ็ ะไมไ ดกรรมสทิ ธใิ์ นเครอื่ งสขี าวนัน้ สวนสัญญาซ้ือขายที่มีเง่ือนเวลาน้ัน หมายถึง การท่ีผูซื้อผูขายตกลงกันใหกรรมสิทธ์ิใน ทรัพยสินที่ ซ้ือขายน้ันโอนไปเมื่อถึงเวลาใดเวลาหน่ึง ซ่ึงไดกําหนดไว ตัวอยางเชน นายดําขายขาวให นายขาว แตตกลงกันวาใหกรรมสิทธิ์ในขาวนั้นโอนไปยังนายขาวเม่ือถึงส้ินเดือนสิงหาคม เชนน้ีตราบใดที่ ยังไมถึงสิน้ เดือนสิงหาคม กรรมสิทธ์ใิ นขาวน้นั ก็ยงั ไมโอนไปยังนายขาว ๒) สญั ญาซ้ือขายทรัพยท ่ียังไมเปนทรัพยเฉพาะส่งิ หมายถงึ สัญญาซื้อขายทรัพยส ินทย่ี ัง ไมไดกําหนดประเภทหรอื จํานวนไวแนนอนวาอันไหน ส่ิงไหน ตัวไหน ในกรณีเชนนี้กรรมสิทธจิ์ ะโอนก็ ตอเมื่อไดทําใหเปนทรัพยเฉพาะสิ่งแลว โดยการนับ ชั่ง ตวง วัด หรือคัดเลือกทรัพย เพ่ือใหเกิดความ แนนอนวา ชิ้นไหน อันไหน ตัวไหน หรือจํานวนไหน ตวั อยางเชน ตกลงซ้ือมะพราว ๕๐ ลกู ซ่ึงรวมอยู ในกองใหญ กรรมสิทธ์ยิ ังไมโอนจนกวาจะเลือกมะพรา ว ๕๐ ลกู นน้ั ออกมาจากกองกอ น ๓) สัญญาซ้ือขายทรัพยเฉพาะสิ่งท่ียังตองดําเนินการบางอยางเพื่อใหรูราคาแนนอน ใน กรณีนี้กรรมสิทธิ์ยังไมโอนไปจนกวาจะไดมีการกระทํา เพ่ือใหรูราคานั้นกอน ตัวอยางเชน ซื้อมะพราว
ทัง้ กองในราคาลูกละ ๑ บาท ความจริงมะพราวท้งั กองนั้นก็เปน ทรพั ยเฉพาะสิ่งแลว เพียงแตยงั ไมทราบวา มะพราวทั้งกองน้ัน มีก่ีลูกเพ่ือที่จะคํานวณราคาเทาน้ัน เพราะฉะน้ันจะตองรูกอนวามะพราวกองนั้นมีก่ีลูก กรรมสิทธจ์ิ งึ จะโอน ๔) การซื้อขายอสังหาริมทรัพยหรือสังหาริมทรัพยชนิดพิเศษกรรมสิทธิ์จะโอนก็ตอเม่ือมี การทําเปนหนงั สอื และจดทะเบยี นตอ พนักงานเจา หนา ทเี่ รยี บรอ ยแลว (ข) ตองมีการตกลงวาจะชําระราคา เพียงแตตกลงกันวาจะชําระราคาก็เปนการเพียงพอแลว ยงั ไมตอ งชาํ ระราคากนั ทนั ที จะตกลงชําระกนั ในภายหลงั หลังจากท่ีสัญญาเกิดขึ้นแลว กไ็ ด (ค) บุคคลท่ีมีสิทธิทําสัญญา ดังไดกลาวมาในตอนแรกแลววาทั้งผูซื้อและผูขายจะตองเปนคน บรรลุ นิติภาวะ คืออายุ ๒๐ ปบริบรู ณ หรือบรรลุนติ ิภาวะโดยการสมรส ถา ท้ังชายและหญงิ ตา งมีอายุ ๑๗ ปบริบูรณแลว อยางไรก็ตาม เหตุการณที่เราพบกันอยูในชีวิตประจําวัน จะเห็นวาผูเยาวหรือคนที่ยังไมบรรลุ นิติภาวะตางก็ไปทําสัญญาซ้ือขายตาง ๆ มากมาย เชน ซ้ือสมุด ดินสอ ยางลบ หรืออาหารกลางวันรับ ประทานที่โรงเรียนตรงน้ีปญหาวา เขาจะทําไดหรือไม คําตอบอยูในบทยกเวนในเรื่องการทํานิติกรรมของผูเยาว ซึ่งในกรณีเหลานี้ถือวาสามารถท่ีจะทําได เพราะเปนการกระทําที่สมแกฐานานุรูปและจําเปนแกการดํารงชีพ ดว ย สําหรับผูซ้ือนั้น เม่ือมีคุณสมบัติที่กลาวขา งตน ก็พอเพียงที่จะเปนผูซื้อแลว สําหรับผูข ายนนั้ เพียง แตบรรลุนิติภาวะอยางเดียวยังไมพอ ยังตองเปนผูมีสิทธิท่ีจะขายทรัพยสินนั้น เพื่อท่ีผูซื้อจะไดกรรมสิทธ์ิโดย สมบรู ณไดอ กี ดวย สาํ หรับผูท่ถี อื วา “มสี ทิ ธิทจ่ี ะขายทรพั ยส นิ ” น้นั ไดแก ๑) เจาของกรรมสิทธ์ิ หมายถึง ผูท่ีเปนเจาของทรัพยสินที่จะขายน่ันเอง ซ่ึงตามหลักกฎหมาย แลว ผูที่เปนเจาของกรรมสิทธ์ิยอมมีอํานาจในการจําหนายจายโอนทรัพยสินของตน ซึ่งคําวา “จําหนาย” ในที่ นี้หมายถึง การโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยสินนั้นไมวาโดยการกระทําใด ๆ ก็ตาม เพราะฉะน้ันในเวลาท่ีจะทําสัญญา ซ้ือขาย ผูซื้อก็จะตองมีความระมัดระวังพิจารณาดูใหดีวาผูขายเปนเจาของกรรมสิทธ์ิหรือไม เพราะถาไมเปน หากผูซื้อทําการซื้อไปก็จะไมไดกรรมสิทธิ์ ตามหลักเร่ือง “ผูรับโอนไมมีสิทธิดีกวาผูโอน” เพราะถาผูโอนหรือ ผูขายในกรณีน้ีไมมีกรรมสิทธ์ิ ผูรับโอนหรือผูซ้ือก็ยอมไมมีกรรมสิทธ์ิไปดวย ตัวอยางเชน นายแดงซ้ือเรือมาด จากนายดําซึ่งเปนเรือมาดที่นายดําขโมยนายขาวมา เมื่อนายดําไมมีกรรมสิทธิ์ ไปขายใหนายแดง นายแดงก็ไมได กรรมสทิ ธไิ์ ปดว ย เพราะเจา ของกรรมสิทธ์ิท่แี ทจ รงิ ของเรอื มาดลําน้ีคือนายขาว ๒) บคุ คลอื่นซึ่งมสี ทิ ธิขายไดต ามกฎหมาย เชน ๒.๑) ผูจัดการมรดก ซ่ึงมีหนาท่ีตามกฎหมายท่ีจะรวบรวมทรัพยสินของเจามรดกผูตาย เพือ่ ชําระหน้ี และแบง ปนใหแกท ายาท ๒.๒) ผูใชอํานาจปกครอง ซ่ึงมีสิทธิขายอสังหาริมทรัพยของผูอยูใตอํานาจปกครอง เชน ของผเู ยาว แตจะขายไดก็ตอเมื่อไดร บั อนุญาตจากศาลแลว ๒.๓) เจาพนักงานขายทอดตลาดบังคับคดี มีสิทธิขายทอดตลาดทรัพยสินของลูกหนี้ ตามคาํ สง่ั ศาล
๒.๔) เจาพนักงานพิทักษทรัพย มีอํานาจจัดการทรัพยสินของลูกหนี้ผูที่ถูกศาล พิพากษาใหลมละลาย และมอี าํ นาจขายทรัพยส นิ ของลกู หนีผ้ ทู ถี่ ูกศาลพพิ ากษาใหล มละลายได ๔. หนา ทแ่ี ละความรับผิดของผูขาย เมอ่ื สญั ญาซอื้ ขายเกิดข้ึนแลว กลา วคือเมือ่ มกี ารแสดงเจตนาที่ประสงคต อ งตรงกนั ระหวางผูซอื้ กบั ผูข าย (ทีบ่ รรลนุ ิตภิ าวะแลว) ในทรพั ยสง่ิ ใดส่งิ หนงึ่ เพอ่ื ทีผ่ ซู ้อื จะไดไปซ่งึ กรรมสิทธ์ิในทรัพยแ ละเพ่อื ที่ผูขาย จะไดร ับราคาของทรัพยน ั้น ดังน้ี เราเรยี กวา สญั ญาไดเ กดิ ข้นึ แลว และผขู ายกม็ ี “หนี้” หรอื “หนา ที”่ ทจี่ ะ ตองปฏิบัติตามสัญญาซอ้ื ขายตอไป ถา ผูขายบิดพลิ้ว ไมยอมปฏบิ ตั ิตามนนั้ ยอมกอใหเ กิด “ความรบั ผิด” ตามมา สาํ หรบั “หน”ี้ หรอื “หนา ท”่ี ของผูขายน้ัน ไดแก (๑) การสงมอบ ผขู ายตองสง มอบทรพั ยส นิ ท่ขี ายใหแกผ ซู อ้ื ดวยความสมัครใจ ซง่ึ จะสง มอบดวยวธิ ี การใดๆ กไ็ ด ขอเพยี งใหทรัพยสินนนั้ เขาไปอยูใ นเงอ้ื มมือของผูซ อื้ กพ็ อแลว เชน การสงมอบหนงั สอื อาจใช วิธยี นื่ ใหการสงมอบรถยนต อาจใชวิธสี ง มอบกญุ แจกไ็ ด แตท สี่ ําคัญคือวา จะตองสงมอบภายในเวลาและ ณ สถาน ที่ท่ีตกลงกนั ไว ถาไมมกี ารตกลงกนั และทรพั ยท ซ่ี ้ือขายนั้นเปน ทรัพยเ ฉพาะส่งิ แลว ตามกฎหมายผูขายตอ ง สง มอบ ณ สถานทีท่ ีท่ รพั ยนัน้ อยใู นเวลาที่ทําสัญญาซ้อื ขาย แตถ า ไมใชท รพั ยเฉพาะสิ่ง ตองสง มอบ ณ ภูมิลําเนาปจ จบุ นั ของผูซอ้ื ผขู ายตอ งสง มอบทรัพยสินตามจํานวนท่ีตกลงกนั ไวไ มม ากเกนิ ไป หรอื ไมน อยเกนิ ไป และตอ ง ไมน าํ ทรพั ยอืน่ มาปะปนดว ย เพราะถา สงมอบนอ ยเกินไปสาํ หรบั สงั หารมิ ทรัพย ผซู ื้อมีทางเลือก ๒ ทาง คอื (ก) ไมร ับมอบไวเ ลย หรอื (ข) รับมอบไว แตใ ชร าคานอยลงตามสวนของทรัพยส นิ ท่ีสงมอบ แต ถา สงมอบมากเกินไปสําหรบั สงั หารมิ ทรพั ย ผูซ ื้อมีทางเลือก ๓ ทางคือ (ก) อาจจะรบั ไวเฉพาะตาม จํานวนที่ตกลงกนั ในสญั ญา และสว นทีเ่ กินก็ไมรบั เลยได (ข) ไมรับทัง้ หมดเลย หรือ (ค) รับไวท ั้งหมด แตต องใชราคาสําหรับสว นท่ีรบั เกนิ ไวด ว ย สวนกรณีทผี่ ขู ายสง มอบทรพั ยส นิ ตามสญั ญาปะปนกบั ทรพั ยสิน อืน่ ๆ มาดวย ผูซอ้ื มที างเลือก ๒ ทางคือ (ก) รบั มอบเฉพาะทรัพยสนิ ตามที่ตกลงในสัญญา และไมรบั มอบ ทรพั ยส นิ สวนทปี่ ะปนมา หรือ (ข) ไมรับมอบไวเ ลยไมว า สว นท่ีเปนไปตามสญั ญาหรือสวนท่ีปน เขามา ก็ตาม แตถา การสงมอบทรพั ยสินทม่ี ากเกินไปหรอื นอยเกนิ ไปนั้นเปน อสงั หารมิ ทรพั ย ผซู อ้ื มที างเลอื ก ๒ ทางคอื (๑) รบั มอบเฉพาะทรัพยต ามจาํ นวนทีส่ ัญญากนั ไว แลว ใชราคาตามจาํ นวนทร่ี บั ไวจรงิ หรือ (๒) ไมร ับมอบไวเ สียเลย (๒) ผูข ายตองสง มอบทรพั ยส ินท่ไี มชาํ รดุ บกพรอ ง ซง่ึ ความชํารุดบกพรองในทน่ี หี้ มายถงึ ลักษณะทท่ี รพั ยสนิ ทซี่ ื้อขายในตวั ของมนั เองมีความชํารุดหรือมีความบกพรอ งอยูจนเปน เหตใุ หทรัพยน ้ัน ราคาตก หรือไมเ หมาะแกการใชป ระโยชนตามปกติหรอื ตามสภาพของทรพั ยสินน้นั และความชาํ รดุ หรือ ความบกพรองนีจ้ ะตองมีอยูกอนหรอื ในเวลาท่ที าํ สญั ญาซื้อขายเทา น้ัน ตัวอยางเชน นายเขยี วซ้ือแจกนั จาก นายเหลอื งหนึง่ ใบในราคา ๕๐ บาท ปรากฏวากอนสง มอบหรือขณะสง มอบน้นั แจกนั เกดิ รา วขึ้นมา
นายเหลืองผูขายกจ็ ะตองรับผิดไมวา จะรหู รือไมรูว า มีความชาํ รุดบกพรองอยกู ต็ าม ยิ่งถา รหู รอื เปน คนทาํ ให ทรัพยส นิ ทีซ่ อ้ื ขายนน้ั ชาํ รุดบกพรองเองดวยแลวยิง่ ตองรบั ผิดเลยทีเดยี ว อยา งไรกต็ าม ในบางกรณีแมทรพั ยสนิ ทซ่ี ื้อขายน้นั จะชํารุดบกพรอ งมากอ น หรือในขณะทซ่ี ้ือ ขายกัน ผูข ายอาจจะไมต อ งรบั ผิด ในกรณี ๑) ถา ผูซ ื้อไดร ูอยูแลวในเวลาซ้อื ขายวามีความชํารุดบกพรองหรือควรจะไดร ู ถา เขาใช ความระมัดระวงั ตามปกติ ตัวอยางเชน ผซู ือ้ เห็นทเุ รียนเนาอยูแลวในเวลาซอ้ื ขาย หรอื ผขู ายเจาะไวใหด ู ควรจะดู กไ็ มด ู กลบั ซ้อื ไป ผขู ายก็ไมตองรบั ผิด ๒) ถา ความชํารดุ บกพรองนนั้ ไดเห็นอยูแ ลวในเวลาสง มอบและผซู อ้ื รบั ไวโ ดยมิไดทกั ทวงประการใด ๓) ถาผซู ือ้ ทรัพยส ินนัน้ จากการขายทอดตลาด เพราะในการขายทอดตลาดนั้นเปน การ ขายท่เี ปดเผยตอ สาธารณะ ผูซอื้ นา จะไดมโี อกาสตรวจสอบกอ นแลว ๔) ทั้งผูซอ้ื และผขู ายไดตกลงกนั ไววา ผูขายไมตอ งรับผดิ ในความชํารุดบกพรอ งของ ทรัพยสนิ ทีซ่ ้ือขาย (๓) ผูขายมีหนาทต่ี อ งสง มอบทรัพยส ินทปี่ ลอดจากการถูกรอนสทิ ธิ กลา วคือเม่อื ผูขายสง มอบ ทรพั ยส นิ ท่ีซือ้ ขายไปแลว ผซู ื้อจะตอ งไมถูกคนอ่นื มารบกวนขดั สิทธใิ นการครองทรพั ยสินน้ันโดยปกตสิ ขุ ตวั อยางเชน นายแดงซื้อเรอื มาดจากนายดํา ตอ มานายขาวอางวาตนเปน เจา ของเรอื มาดทแ่ี ทจรงิ เพราะนายดํา ไดขโมยเรอื มาดของตนไป ดงั น้ี ถอื วา เปนกรณที ีบ่ ุคคลภายนอกเขามาอางวาตนมีสิทธดิ ีกวาผซู ้ือ เทากับผูซ ้ือ คือนายแดงถกู รอนสิทธแิ ลว อยางไรกต็ าม มีบางกรณที ผี่ ขู ายไมต อ งรับผดิ เม่ือผูซอ้ื ถกู รอนสิทธิ คือ ๑) ผซู ้อื รูอ ยูแลวในเวลาซอ้ื ขายวา บุคคลภายนอกมสี ิทธิดีกวา เทา กับสมัครใจยอมรับผลท่ีจะ เกิดตามมา ๒) ถา การรอนสทิ ธิเกดิ จากความผดิ ของผูซอื้ เอง ในกรณีดงั ตอไปน้ี ๒.๑) เมอ่ื ไมม กี ารฟอ งคดีและผูข ายพิสูจนไดวาสิทธขิ องผซู อื้ ไดสญู ไปเพราะผูซือ้ เอง ตัวอยา งเชน ผอมซอ้ื ของมาจากอวน ตอ มาโองมาบอกวา ของนัน้ เปนของโอง ผอมกเ็ ช่ือและใหข องนนั้ แกโอง ไปโดยไมถามอว น เชน นีอ้ ว นไมตองรับผิด ๒.๒) เมอื่ มกี ารฟองคดี และผูซอ้ื ไมไดเรียกผขู ายเขามาในคดี ทง้ั ผขู ายยังพสิ ูจนไ ด วาถา ไดเ รยี ก เขามาในคดี คดฝี ายผซู ือ้ จะชนะดังนี้ ผขู ายก็ไมต องรับผดิ ๒.๓) เมื่อมกี ารฟอ งคดี และผูขายไดเขา มาในคดแี ลว แตศาลยกคํารอ งเพราะความ ผิดของผซู อ้ื เอง เชน ผูซอ้ื ขาดนดั (ไมมาศาลตามเวลาทศ่ี าลนัดไว) หรอื ไมนําพยานมาสืบ ๓) มีขอตกลงในสัญญาวาผขู ายไมต อ งรบั ผิดในการรอนสทิ ธิ แตข อ ตกลงไมใ หผ ูข ายตอง รบั ผิดน้ี ไมคุมครองผขู าย ถาการรอนสิทธเิ กดิ เพราะความผิดของผูข ายเอง หรอื ผขู ายรอู ยแู ลววา มีการรอนสทิ ธิ แตปกปดเสยี
๕. สทิ ธิของผซู ้อื เม่ือกลาวถงึ “หน้”ี หรือ “หนาที”่ ของผูขายแลว ยอ มตอ งมีสทิ ธขิ องผูซือ้ อยูดวยซ่ึงไดแก (๑) สทิ ธทิ ่ีจะไดตรวจตราดูทรพั ยสินทผี่ ขู ายสงมอบ (๒) สทิ ธทิ จี่ ะไมร บั มอบทรัพยส นิ จากผขู าย เมื่อผูข ายสงมอบทรัพยสนิ นัน้ นอ ยเกนิ ไป (ขาดตก บกพรอ ง) กวาทีไ่ ดต กลงกัน หรอื มากเกินไป (ลาํ้ จํานวน) กวาทีไ่ ดตกลงกัน (๓) สิทธิทจ่ี ะเรยี กใหผขู ายปฏิบตั ิการชาํ ระหนห้ี รอื ปฏบิ ตั กิ ารชําระหนใี้ หถ ูกตอ งตรงตามท่ีไดต ก ลงกันไว (๔) สทิ ธิทจ่ี ะยดึ หนว งราคา ในกรณดี ังตอ ไปนี้ (ก) ผซู ือ้ พบเห็นความชาํ รุดบกพรอ งในทรพั ยส นิ ท่ีซื้อ ผซู ือ้ มีสทิ ธิท่จี ะไมช ําระราคา จน กวา ผูขายจะหาประกันอนั สมควรให (ข) ผซู ้อื ถกู ผรู ับจาํ นองหรือคนที่จะเรยี กรอ งเอาทรัพยสนิ ท่ีขายนน้ั ขูวา จะฟองเปน คดหี รอื มี สาเหตทุ เ่ี ช่ือไดวา จะถกู ขู ผซู ้อื จะชําระราคาใหตอเมื่อผขู ายหาประกันให หรอื ตอ เม่ือผูขายไดแกไขใหเปนท่ี เรียบรอยแลว (ค) เมือ่ ผูข ายผิดนัดไมส งมอบทรพั ยส นิ ท่ีขายให ผซู อื้ ก็จะยงั ไมช าํ ระราคาจนกวา ผขู ายจะ จดั การสง มอบทรัพยส ินทีข่ ายให (๕) สทิ ธิในการไดรับการชดใชคาสินไหมทดแทนความเสียหายเมื่อผขู ายปฏบิ ัติการชาํ ระหน้ไี ม ถูกตอ ง เชน สง มอบทรัพยท ีช่ ํารุดบกพรอ ง หรอื ทรัพยทบ่ี คุ คลอ่นื มสี ทิ ธิเหนือทรพั ยน นั้ ดกี วาผซู อื้ (ถกู รอนสิทธิ) (๖) สิทธิในการเลกิ สัญญาและเรียกคาเสียหายไดอ ีก ตามหลกั ทวั่ ไป ๖. หนาท่แี ละความรบั ผิดของผซู อ้ื ผูซ้ือมี “หนี้” หรอื “หนาท”ี่ ทเี่ กิดจากสญั ญาซือ้ ขายเชน เดียวกับผูขาย ซง่ึ ถา ผซู อ้ื ไมป ฏิบัติตาม “หน้”ี หรอื “หนาท่ี” ดงั กลา วแลว ยอ มกอใหเ กิด “ความรับผิด” ตามมาในทาํ นองเดยี วกัน สาํ หรบั หนาทหี่ ลกั ของผูซ ื้อ ไดแ ก (๑) หนาท่ีในการรบั มอบทรพั ยส ินท่ีซ้อื ขายตามเวลา ตามสถานท่ีและดว ยวิธีการตามทตี่ กลงกนั ในสัญญา ซ้ือขาย เวน แตผ ซู อ้ื จะมสี ทิ ธบิ อกปดในกรณที ่ีเปนสังหารมิ ทรพั ยเมื่อผขู ายสงมอบทรพั ยสนิ ใหมาก เกินไป หรอื นอ ยเกนิ ไปกวา ท่ไี ดตกลงกัน หรือผขู ายสงมอบทรัพยสนิ ตามท่ีตกลงกนั ปะปนกับทรพั ยส ินอยาง อ่นื หรือในกรณีทเ่ี ปน อสงั หาริมทรพั ย ผูข ายสง มอบอสงั หาริมทรพั ยนนั้ มากเกนิ ไปหรือนอยเกินไปจากที่ได ตกลงกนั ไว (๒) หนาทใ่ี นการชาํ ระราคาทรัพยส ินทซ่ี ้ือขายตามราคาที่กําหนดไวในสญั ญา หรอื ตามทางการท่ี คูสญั ญา เคยประพฤติปฏบิ ตั ิตอ กัน แตถา ไมไ ดก าํ หนดราคาไวเ ปน ทีแ่ นนอน ผซู ้อื ก็ตองชาํ ระราคาตามสมควร
และการชําระราคาก็ตอ งชาํ ระภายในเวลาทีก่ าํ หนดตามสัญญาดวย แตถ า หากไมไ ดกาํ หนดเวลาไว ใหชาํ ระ ราคาในเวลาเดยี วกับเวลาท่สี งมอบทรัพยสนิ ที่ซ้ือขายนั้น (๓) หนาท่ีในการชําระคาธรรมเนียมในการซื้อขาย หากตกลงกันไวใ นสญั ญาวาใหผ ูซ อื้ ชาํ ระคน เดยี วท้ังหมด แตถา ไมไดต กลงกนั ไว ผซู อื้ กม็ หี นาทตี่ อ งชาํ ระคาธรรมเนยี มครง่ึ หนงึ่ ๗. สิทธขิ องผขู าย เมื่อกลาวถงึ “หน้”ี หรือ “หนาที่” ของผซู ้ือแลว ยอมตอ งมสี ทิ ธิของผูขายเคียงคมู าดว ย ซงึ่ ได แก (๑) สิทธิท่จี ะยึดหนว งทรัพยส ินน้นั ไวจนกวา จะไดรับการชาํ ระราคาจากผซู อื้ ซึง่ การยดึ หนวงจะมี ไดกต็ อเมอ่ื ทรัพยส ินทีซ่ อ้ื ขายนัน้ ยงั อยูใ นความครอบครองของผขู ายเทาน้ัน (๒) สิทธทิ ีจ่ ะยึดหนว งทรพั ยส นิ นนั้ ไว ในกรณีที่ผูซ ื้อกลายเปน คนลม ละลายภายหลังการซื้อขาย แต กอนการสงมอบทรพั ยส นิ หรอื ในกรณีทผี่ ูซ้ือลม ละลายอยแู ลวในเวลาทท่ี ําการซอ้ื ขายโดยที่ผูขายไมรูถ งึ การลม ละลายนนั้ หรอื ผูซื้อทําใหหลกั ทรัพยท่ใี หไวเ ปนประกัน การชาํ ระราคานนั้ เสือ่ มเสีย หรือลดนอยถอยลง เชน นายแสดซอ้ื ตูจากนายสมในวันท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๓๖ กําหนดสง ตูก นั ในวนั ท่ี ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๖ ชาํ ระราคา วนั ท่ี ๑๘ มีนาคม ๒๕๓๖ ตอมาในวนั ท่ี ๗ มีนาคม ๒๕๓๖ นายแสดถกู ศาลสั่งใหเปน คนลมละลาย ดังน้ีนาย สมไมต องสง ตูใหนายแสดในวนั ที่ ๑๕ มนี าคม ๒๕๓๖ (๓) สิทธิท่จี ะเรียกใหผ ูซอ้ื ชําระหนี้ ซึง่ ถา ผูซ้อื ไมชําระ ผขู ายอาจนําทรัพยส นิ ทยี่ ดึ หนว งไวออกขาย ทอดตลาด กไ็ ด (๔) สิทธใิ นการรบิ มัดจาํ (ถา ไดม กี ารใหม ดั จํากันไว) และเรียกคา เสยี หาย (๕) สิทธใิ นการเลิกสญั ญา และเรียกคาเสยี หายไดอ กี ๘. อายุความในการฟองรอ ง เมอ่ื ผขู ายปฏิบัตกิ ารชําระหนี้ หรอื ปฏิบัตหิ นา ทต่ี ามสัญญาซ้อื ขายไมถูกตอง ผูซอื้ มสี ทิ ธทิ จี่ ะฟองรอง ตอ ศาลภายในอายคุ วามตามกรณี ดงั ตอ ไปนี้ (๑) ในกรณที ผ่ี ขู ายสงมอบทรพั ยสนิ ใหม ากเกินไปหรอื นอยเกนิ ไปกวา ทตี่ กลงกนั ในสญั ญา ผูซอ้ื จะ ตอ งฟองรองภายใน ๑ ป นับแตเวลาท่ีสงมอบทรัพยสิน (๒) ในกรณที ี่ผูขายสงมอบทรพั ยส ินทีช่ ํารุดบกพรอง ผซู ื้อจะตองฟอ งรอ งภายใน ๑ ป นบั แตเวลาท่ี พบเห็นความชาํ รดุ บกพรอ งน้นั เชน นายดาํ ทําสัญญาซ้อื โทรทศั นจ ากนายเหลอื ง โดยสง มอบโทรทศั นกัน ใน วนั ท่ี ๕ เมษายน ๒๕๓๖ และนายดํากร็ ับมอบไวแ ลว ตอ มาวนั ท่ี ๒๐ เมษายน ๒๕๓๖ จงึ พาชา งมาตรวจสอบดู ปรากฏวา หลอดภาพเสียใชไมได ดังน้ี นายดาํ ก็ตอ งฟองคดี เพ่ือความชาํ รดุ บกพรองภายในวนั ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๓๗ การทไี่ ปตอ วา ทวงถามเรียกคา เสยี หายจากผขู ายไมใ ชก ารฟอ งคดี
(๓) ในกรณีท่ีมกี ารรอนสทิ ธิ ผูซ ือ้ ตอ งฟองรอ งภายใน ๓ เดือน นับแตคาํ พิพากษาเดมิ ถึงทส่ี ดุ หรอื นับตงั้ แตว ันท่มี ขี อ ตกลงยอมความกนั หรือวนั ท่ยี อมตามบคุ คลภายนอก คาํ วา “คดเี ดมิ ” หมายถงึ คดที ี่เปน ความกนั ระหวางผูซอื้ กับบุคคลภายนอก โดยทผี่ ูซ ือ้ ไมไดเ รยี ก ผขู ายเขา มาเปน โจทกรวมกบั ตนในคดีน้ันดว ย ดังกลาวมาแลว ตัวอยา ง (ก) ผูซ ้อื ถกู บุคคลภายนอกซงึ่ เปนเจา ของท่แี ทจรงิ ฟองเรยี กทรพั ยสินคนื ผูซ ้อื ไมได เรยี กผขู ายเขา มาในคดี ศาลพิพากษาใหผูซ ือ้ แพคดี คดถี ึงที่สุดเม่อื ใดผูซอื้ ตองฟองผขู ายภายใน ๓ เดอื น (ข) ผูซ ้อื ซึ่งถกู เจาของท่แี ทจ ริงฟอ งเรียกทรพั ยส นิ คนื ผูซ ้ือทาํ สัญญาประนีประนอม ยอมความสง ทรพั ยส นิ คนื เชน น้ี ผซู ้อื ตองฟอ งผขู ายภายใน ๓ เดอื น นบั แตวันประนปี ระนอมยอมความ (ค) ผซู ื้อถูกเจาของทรัพยส ินเรยี กรอ ง โดยอา งวามีคนรายลกั ทรัพยน ้ันมาแลว ก็โอน ให ผูซ ้อื ผซู อ้ื จงึ ยอมโอนทรัพยสนิ น้นั ให ก็ตองฟองคดภี ายใน ๓ เดือน นบั แตว ันทย่ี อมตามขอ เรยี กรอ งของ เจาของทแี่ ทจ ริง
ฉ. ขายฝาก ๑. ความหมาย สัญญาขายฝากเปน สัญญาซอ้ื ขายซึ่งสทิ ธิแหง ความเปนเจาของในทรัพยส ินตกไปยังผซู ้ือ โดยผซู ือ้ ตกลงในขณะทาํ สญั ญาวาผขู ายมีสทิ ธไิ ถท รัพยส นิ นนั้ คืนไดภายในกาํ หนดเวลาเทา ใด แตต องไมเกนิ เวลาท่ี กฎหมายกําหนดไว เชน ขายทีด่ นิ โดยมีขอตกลงวา ถาผูขายตอ งการซื้อคนื ผซู ้อื จะยอมขายคืน เชน นถี้ อื วา เปน ขอตกลงใหไถค นื ได ตวั อยาง นายสีนําสวนทุเรียนไปขายกบั ผใู หญผ ิน โดยมีขอตกลงในขณะทาํ สญั ญาวา ผูใ หญผนิ ยนิ ยอมใหน ายสไี ถท ส่ี วนทุเรยี นนัน้ คนื ไดภายในกาํ หนด ๑ ป นับแตว นั ทซี่ ้ือขายทส่ี วนกัน สัญญาชนิดน้ี เรียกวา สญั ญาขายฝาก ขอ ตกลงทีว่ า “ผูข ายอาจไถท รัพยค ืนได” ขอ ตกลงนีจ้ ะตอ งมขี ้นึ ในขณะท่ีทําสญั ญาซอ้ื ขายกัน เทานั้น ถาทาํ ขึ้นภายหลงั จากทีไ่ ดท ําสัญญาซอ้ื ขายกนั แลว สัญญาดงั กลา วไมใชสญั ญาขายฝาก แตเปนเพยี ง คํามนั่ วาจะขายคนื เทานั้น ๒. ทรพั ยส นิ ทส่ี ามารถขายฝากได ทรัพยส ินทุกชนิดไมว า จะเปนประเภทใดกต็ าม เชน ท่ดี ิน ทีส่ วน ไรน า บา น รถยนต เรอื เกวยี น โทรทัศน ฯลฯ ยอมสามารถขายฝากไดเ สมอ ๓. แบบของสญั ญาขายฝาก (๑) ถาเปนการขายฝากอสังหาริมทรัพย (คือ ทรัพยท ่ีเคลื่อนทไี่ มได) เชน ท่ดี ิน ทน่ี า บาน ฯลฯ ตอ งทาํ เปน หนังสอื และจดทะเบยี นตอ พนักงานเจาหนา ท่ี ในกรณที ี่เปน ท่ีดินตองจดทะเบียนตอเจา พนกั งาน ทด่ี ิน ถา เปน บา นก็จดทะเบยี นตอทว่ี า การอําเภอท่ีบานนัน้ ตั้งอยู ถา ไมทําตามนีแ้ ลวถอื วาสญั ญาขาย ฝากนเี้ สียเปลาเปน อันใชไ มไ ด เทากับวา ไมไ ดท ําสัญญากนั เลย ตวั อยา ง นายทเุ รยี นตอ งการขายฝากทด่ี นิ ๑ แปลงแกน ายสม โอ กต็ องทาํ สญั ญาขายฝากทด่ี ินและ จดทะเบยี นการขายฝากท่ดี นิ น้ีตอเจา พนักงานทีด่ นิ ถา ไมท าํ เชนน้ีแลว ถือวา สัญญาขายฝากรายน้เี สยี เปลา ใช ไมไ ดม าแตแรก (๒) ถาเปน การขายฝากสังหาริมทรพั ยช นิดพเิ ศษ (คือ ทรพั ยเ คลอ่ื นทีไ่ ด ซง่ึ กฎหมายกาํ หนดไว เปนพเิ ศษวาจะตอ งทาํ เปนหนงั สอื และจดทะเบยี นตอ เจาหนา ที่) เชน แพ เรอื ยนต สัตวพาหนะ ฯลฯ ตอ งทาํ เปน หนงั สอื และจดทะเบียนทอ่ี าํ เภอ ถา ไมทําตามน้แี ลวถือวา สญั ญาขายฝากจะเสียเปลา ใชบังคบั ไมไ ดเลย (๓) ถาเปนการขายฝากสงั หาริมทรัพยชนดิ ธรรมดา (คอื ทรัพยที่เคลอื่ นที่ไดแตกฎหมายไดกําหนด ไวว าตองทาํ เปน หนงั สอื และจดทะเบียนตอ พนักงานเจา หนา ท่)ี ทมี่ รี าคาตั้งแต ๕๐๐ บาทขน้ึ ไป เชน รถยนต
ตเู ยน็ แหวน สรอย นาฬกิ า โทรทศั น ฯลฯ การขายฝากชนิดน้ีตองมหี ลกั ฐานเปนหนงั สอื ลงลายมือชอ่ื ฝา ยท่ี ตองรับผดิ เปนสําคญั หรอื ตองมีการวางมดั จาํ หรอื จาํ ตอ งมกี ารชาํ ระหนบ้ี างสว น อยา งใดอยา งหนง่ึ กไ็ ด ถา ไมทํา ตามนี้แลว กฎหมายถือวา สัญญาขายฝากรายนต้ี อ งหามมใิ หม ีการฟองบังคบั คดี ๔. ขอตกลงไมใ หผ ซู ื้อฝากจําหนา ยทรัพยสนิ ท่ขี ายฝาก ในการตกลงฝากคสู ัญญาจะตกลงกันไมใ หผ ูซื้อฝากจําหนา ยทรัพยส ินทขี่ ายฝากกไ็ ด แตถา ผซู อ้ื ฝากฝา ฝน ขอ ตกลงทก่ี าํ หนดในสัญญา โดยนําทรพั ยส ินท่ีขายฝากไปจําหนายใหผ ูอนื่ ผูซอื้ ฝากจะตอง รับผดิ ชดใชค วามเสยี หาย ใดๆ ทเี่ กิดข้ึนแกผ ขู ายฝาก ตวั อยา ง นางดํา นําแหวนแตง งานของตนซ่งึ มรี าคา ๗๐,๐๐๐ บาท ไปขายฝากตอ เถาแกเ ฮงใน ราคา ๕๐,๐๐๐ บาท โดยในสัญญาตกลงวา “หา มเถาแกเฮงนําแหวนไปขายใหแกบ คุ คลอ่นื ” ตอมาเถาแก เฮงนําแหวนไปขายใหแ กน างจวิ๋ โดยนางจว๋ิ ไมท ราบวา แหวนนีเ้ ปนของผูใด เปนเหตุใหนางดําไมสามารถ ตดิ ตามเอาแหวนคืนได เชนนี้ เถา แกเฮงตอ งชดใชคา เสยี หายอนั เปนราคาแหวน ๒๐,๐๐๐ บาท ใหแ ก นางดํา ๕. กําหนดเวลาในการไถทรพั ยสินคนื (๑) ถา เปนการขายฝากอสังหารมิ ทรพั ย ตอ งกาํ หนดเวลาในการใชสทิ ธิไถค ืนไมเกนิ ๑๐ ป นบั แตวนั ท่ีมี การซื้อขายฝากกัน แตถ าไมไ ดกาํ หนดเวลาในการไถเ อาไว หรือกําหนดเวลาไวเกนิ กวา ๑๐ ป กฎหมายใหล ดเวลาลงเหลือแค ๑๐ ปเทา นน้ั (๒) ถาเปนสงั หาริมทรัพยช นดิ พเิ ศษและชนิดธรรมดา ตอ งกาํ หนดเวลาไถคนื ไมเกิน ๓ ป นับแตว นั ท่ีมีการซ้อื ขายฝากกนั แตถา ไมไดก าํ หนดเวลาในการไถค นื เอาไว หรือกําหนดเวลาไวเ กินกวา ๓ ป ใหลดเวลาลงเหลือ ๓ ป เทา นั้น กฎหมายกาํ หนดไวว า “หา มมใิ หมกี ารขยายเวลาไถถอนออกไป” (คอื การท่ีคกู รณีท้ัง ๒ ฝาย ตกลงกัน เลื่อนกาํ หนดเวลาในการไถท รัพยส นิ คืนออกไปจากระยะเวลาเดิม) ถา คูกรณีตกลงใหมีการขยาย เวลาไถอ อกไป กฎหมายใหถ อื วา ขอ ตกลงนม้ี ผี ลเสยี เปลา ใชบงั คบั ไมไ ด ตวั อยาง นายแขก ทาํ สญั ญาขายฝากควาย ชอื่ วา เผอื ก ตอมานายไข กําหนดเวลาในการใชส ทิ ธิ ไถไ ว ๖ เดอื น เม่อื ถึงกําหนดไถ นายแขกยังหาเงินมาไมไ ดจงึ ไปตกลงกบั นายไขวา “ตนขอเวลาในการใช สิทธิไถอ อกไป ๓ เดอื น” ขอตกลงน้ีแมว า นายไขจะตกลงกต็ ามแตก ฎหมายถือวาขอ ตกลงนเ้ี สยี เปลาใช บังคบั ไมได ดังน้นั เม่อื เลยกําหนดเวลา ๖ เดอื นแลวนายแขกยงั ไมม าไถ ถือวาเลยกาํ หนดเวลาไถ ทรพั ยสนิ ท่ีขายฝากจะตกเปนของนายไขท นั ที ดังนั้นเม่ือนายแขกนาํ เงินมาไถในภายหลัง นายไขจ งึ มีสิทธิ ไมใ หไถค วายคนื ได
ช. เชาทรพั ย ๑. ทรัพยทใ่ี หเ ชา ได ทรัพยสิง่ ของใด เจา ของยอมนําออกใหผอู นื่ เชา ไดเสมอไมว าทรพั ยน ัน้ จะมีขนาดเล็กหรอื ใหญ เคล่อื นยา ยไดหรือไมไดก ็ตาม ทรัพยที่เชาน้ีแบง ได ๒ ประเภท (๑) อสังหารมิ ทรัพย คือ สิ่งที่ยึดตดิ อยกู บั พ้ืนดินเคลอื่ นยา ยไมไ ด เชน ท่ีดนิ สวน บา น ตึกแถว เปน ตน (๒) สงั หาริมทรพั ย คือ ส่ิงท่สี ามารถเคล่ือนยายได เชน ชาง มา วัว ควาย รถยนต เรือ เกวียน เปน ตน ๒. หลักฐานการเชา การเชาอสงั หาริมทรัพย ตองมกี ารทําหลกั ฐานเปน หนังสอื ลงลายมือชือ่ ฝา ยทีต่ อ งรับผดิ (ผเู ชา หรอื ผใู หเ ชา) ถา ไมมีหลักฐานเปนหนงั สือ จะฟองรองใหปฏบิ ัติตามสัญญาเชาไมไ ด ๓. หลกั ฐานเปน หนงั สือ ไมจ าํ เปน จะตอ งเปน รปู หนังสอื สญั ญาเชา อสงั หารมิ ทรพั ยท งั้ ฉบบั แตจ ะเปนหนงั สอื ใดๆ กย็ อม ได เชน จดหมายทผ่ี ูใหเ ชาหรอื ผูเชา เขียนถงึ กันเพือ่ ตกลงราคาคา เชา หรอื ใบเสร็จรับเงนิ คาเชา เปนตน ดงั น้ันหลกั ฐานเปน หนังสอื จะเปนในลกั ษณะใดก็ได สาํ คัญอยทู ่ีวา ขอ ความในหนังสือน้ันแสดงใหเหน็ วา ไดม ีสัญญาเชาอสังหารมิ ทรพั ยก็พอจะใชย นั ผใู หเชา หรือผเู ชาแลว หลกั ฐานเปน หนงั สอื น้ี ไมจ ําเปน จะตอง มอี ยูในขณะตกลงทาํ สัญญาเชาอสงั หารมิ ทรัพยน้นั แมจ ะมขี ้นึ ภายหลังจากการตกลงทาํ สัญญาเชา อสงั หารมิ ทรพั ยแลวกใ็ ชได ถามีการเชา อสงั หาริมทรัพยเกนิ กวา ๓ ป (กฎหมายหา มเกนิ ๓๐ ป) หรอื มีกําหนดตลอดอายุ ของผเู ชาหรอื ผูใหเ ชา จะตองนําสัญญานน้ั ไปจดทะเบยี นการเชา ตอพนักงานเจา หนาที่ ถา เปนการเชาบา น หรอื ตกึ แถวตองไปจดทะเบยี น ณ ทวี่ าการอาํ เภอ ทบ่ี า น หรอื ตึกแถวนนั้ ตัง้ อยู ถาเชา ท่ีดนิ (รวมทงั้ บาน ดวยกไ็ ด) ตองไปจดทะเบยี นท่สี าํ นักงานท่ดี นิ ประจําจังหวัด การเชาสงั หารมิ ทรัพย แมวา ไมมีหลกั ฐานเปน หนงั สือ เชน ตกลงทาํ สัญญาเชาดวยวาจาก็ฟองรอ ง บงั คับกนั ได
๔. การโอนความเปน เจาของ (๑) ในอสังหาริมทรัพยท เ่ี ชา ไมท าํ ใหส ัญญาเชาที่ทาํ ไวเดิมสิ้นสุดลง เจาของคนใหมตองยอม รับรูและผูกพนั ตามสญั ญาเชา ทเ่ี จา ของเดิมทําไว เจา ของคนใหมจ งึ กลายเปน ผูใ หเชา (๒) ในสงั หารมิ ทรัพย ทําใหส ัญญาเชาส้ินสุดลง เจาของคนใหมเ รียกเอาทรพั ยท ีเ่ ชา คนื ได ถา ผูเ ชา เสยี หาย เชน ใหคาเชาลวงหนา ๒ เดือนก็ตองไปทวง คือ เอาจากเจาของเดิม ๕. เชาชวง คอื การท่ีผูเชาเอาทรพั ยท่ตี นเชา ใหคนอืน่ เชาตอ ไมวา จะท้งั หมดหรือแตบางสวน เชน ก เชา เรอื ข แลว ก เอาเรอื ทตี่ นเชา ไปให ค เชา ตอ การเชาชว งถอื เปนการผิดสัญญาเชา ผใู หเชามีสิทธิบอกเลกิ สัญญาเรยี กเอาทรพั ยท่เี ชา คืนได เวนแต ผใู หเชาอนญุ าต ในกรณีเชนนี้เม่ือมีการเชาชวง ผเู ชาชว งตองรับผิดชอบโดยตรงตอ ผูใหเชา ๖. สญั ญาตา งตอบแทนชนิดพิเศษนอกเหนอื ไปจากสัญญาเชา ธรรมดา คอื การทผี่ เู ชาตกลงทาํ การอยา งหน่ึงอยา งใดใหเกดิ ประโยชนใ นทรัพยท ีเ่ ชา เชน ผูเชารบั ซอมแซมและตอ เติมบานเชา ปลกู ตนไมลงในทีด่ นิ ทเ่ี ชา หรอื ออกเงนิ ชวยคากอสรา งตกึ ทเี่ ชา เปนตน สัญญาชนดิ นม้ี ผี ลผกู พนั และฟอ งรองบังคบั กันได แมไมมีหลกั ฐานการเชา หรอื แมว าเปนการเชา อสังหารมิ ทรัพยเกนิ กวา ๓ ป กไ็ มต อ งทําหนงั สือและจดทะเบยี นตอ พนกั งานเจาหนา ที่ นอกจากน้ีผูเชา ยงั สามารถฟองบังคับผูใ หเ ชาใหจ ดทะเบียนการเชาไดดว ย เมอ่ื ผเู ชาตายสัญญาชนดิ น้ีไมร ะงับ ทายาทของผูเ ชา (พอ แม ลกู หลานของผูเชา) มีสิทธเิ ชา ไดตอ ไป จนกวา จะครบอายสุ ัญญา ๗. การส้นิ สุดแหง สัญญาเชา (๑) ถาเปน สญั ญาเชา มกี าํ หนดเวลาการเชาไว เมือ่ สนิ้ เวลาท่ไี ดตกลงกันไวแ ลว สัญญาเชาก็หมด อายุ (๒) สญั ญาเชายอมระงบั ลงเม่อื ทรพั ยส ินซึ่งใหเชา สูญหายไปทั้งหมด เชน บานท่ีเชา ถกู ไฟไหม (๓) สญั ญาเชาระงบั ลงเมื่อผูเ ชาถึงแกค วามตาย (๔) วธิ ีการบอกเลกิ สญั ญาเชาชนิดทไ่ี มกําหนดระยะเวลาท่ใี หเ ชานนั้ ทง้ั ฝา ยผูใหเชา และผเู ชา ตา ง มีสทิ ธบิ อกเลิกสัญญาไดโดยการใหค ําบอกกลาวเลกิ สญั ญา ซึ่งตองบอกกลาวลวงหนา ในระยะเวลาไมน อย กวา กําหนดชําระคา เชาระยะหนึง่ เชน กาํ หนดชําระคาเชา เปน รายเดือน ใหบอกกลาวลว งหนา ๑ เดอื น (๕) ถา ผเู ชา ผดิ นัดไมช ําระคาเชา ผใู หเชา สามารถบอกเลกิ สญั ญาเชา ไดทนั ที ถา การเชานัน้ มีการ ตกลงชําระคา เชากนั นอ ยกวา รายเดอื น เชน ชาํ ระเปนรายวัน รายสปั ดาห หรือ ๒ สปั ดาห เปนตน แตห ากมีการตกลงชาํ ระคา เชากนั เปนรายเดอื น หรือกวา รายเดอื น ผใู หเ ชาตองบอกกลา วแกผูเชา ใหชําระ คา เชา ภายในเวลา อยางนอย ๑๕ วัน หากผเู ชา ไมชาํ ราํ คาเชาในเวลาทีก่ ําหนด ผใู หเ ชา บอกเลกิ สญั ญาเชาได
ซ. เชาซื้อ ๑. ความหมาย สญั ญาเชา ซ้ือ คือ สัญญาที่เจา ของทรัพยสินเอาทรัพยสนิ ของตนออกใหผ ูอื่นเชาเพอ่ื ใชสอยหรือ เพ่ือใหไ ดรบั ประโยชน และใหค ํามน่ั วาจะขายทรพั ยน นั้ หรือจะใหทรพั ยสินทเี่ ชาตกเปนสทิ ธิแกผูเ ชาซือ้ เม่อื ไดใ ชเ งนิ จนครบตามทตี่ กลงไวโ ดยการชําระเงินเปน งวด ๆ จนครบตามขอ ตกลง สัญญาเชาซอ้ื มใิ ชส ัญญาซ้ือขายผอ นสง แมว าจะมลี ักษณะคลายคลงึ กนั เร่ืองชําระราคาเปนงวดๆ ก็ตาม เพราะการซอื้ ขายผอนสง นั้นกรรมสทิ ธิใ์ นทรัพยสนิ เปน ของผซู ้ือทนั ทีขณะทาํ สญั ญา ไมต องรอให ชาํ ระราคาครบแตประการใด สวนเรื่องสญั ญาเชา ซื้อ เม่อื ผเู ชาบอกเลกิ สญั ญาบรรดาเงินที่ไดชาํ ระแลว ให ริบเปน ของเจาของทรพั ยส นิ และเจาของทรัพยสินชอบท่จี ะกลับเขาครอบครองทรพั ยส ินทีเ่ ชาได ๒. แบบของสญั ญาเชาซอ้ื สัญญาเชา ซ้ือจะตอ งทําเปนหนังสอื จะทําดว ยวาจาไมได มฉิ ะน้ันจะเปน โมฆะเสียเปลา ทาํ ให ไมมีผลตามกฎหมายที่จะผูกพันผูเชา ซอ้ื กับผูใหเ ชาซือ้ ได การทาํ สญั ญาเปนหนงั สือนน้ั จะทํากันเองกไ็ ด ไมจ าํ เปน ตองทําตอ พนักงานเจา หนา ท่ี ผูเ ชาซื้อจะเขียนสญั ญาเอง หรือจะใชแ บบพมิ พท่มี ไี วก รอกขอ ความ ลงไปก็ได หรอื จะใหใครเขยี นหรือพิมพใหทง้ั ฉบบั กไ็ ด แตสัญญานน้ั จะตอ งลงลายมอื ชอื่ ของผูเชาซ้ือ และ ผูใหเชาซ้อื ทัง้ สองฝาย หากมีลายมอื ชอ่ื ของคูส ญั ญาแตเ พียงฝา ยใดฝายหน่ึง เอกสารนั้นหาใชสัญญาเชา ซื้อ ไม ๓. สิทธิและหนา ที่ของคูสญั ญา ผเู ชา ซอื้ มสี ิทธไิ ดร ับมอบทรัพยส นิ ท่เี ชา ซ้ือในสภาพท่ปี ลอดจากความชํารุดบกพรองหรือในสภาพ อันซอมแซม ดแี ลว เพราะผูใหเ ชาซอื้ มหี นา ที่และความรับผดิ ชอบในเรือ่ งทรัพยสนิ ท่ีชํารุดบกพรอง แมวา ผใู ห เชาซื้อจะทราบถงึ ความชํารุดบกพรอ งหรือไมกต็ าม ดงั นัน้ เวลาทานไปทําสญั ญาเชาซื้อทีวสี เี ครอ่ื งหน่ึง เจา ของรา นมีหนา ท่ีตองสงมอบทวี สี ใี น สภาพทีส่ มบูรณ ไมม ีสวนท่ผี ดิ ปกติแตประการใด ถา ทานตรวจพบวา ปมุ ปรับสหี ลวมหรอื ปมุ ปรับเสียง หลวมกด็ ี ทา นตอ งบอกใหเจา ของรา นเปล่ยี นทวี ีสเี ครอื่ งใหมแ กทา น เพราะในเร่ืองน้เี ปนสิทธิของทานตาม กฎหมายและเจา ของรานไมมสี ิทธทิ ีจ่ ะบังคบั ทานใหร บั ทีวสี ีท่ชี าํ รุดได ผูเชา ซือ้ มสี ิทธบิ อกเลกิ สัญญาในเวลาใดก็ไดด ว ยการสงมอบทรพั ยส ินกลบั คนื ใหแ กผ ใู หเ ชาซอื้ โดยตนเอง จะตอ งเสียคา ใชจ ายในการสง คนื การที่กฎหมายบญั ญตั ิเชน นี้ ก็เพราะเงินท่ีผเู ชาซ้ือไดชําระให แกผูใหเ ชาซอื้ เปน งวดๆ เปรยี บเสมอื นการชําระคาเชา ดังนั้น ผูเชา ซ้อื จะบอกเลิกสญั ญาก็ได การแสดง เจตนาบอกเลิกสัญญาจะตองสง มอบ ทรพั ยสนิ คืนใหแ กเจา ของ ถามีการแสดงเจตนาวาจะคืนทรัพยส นิ ให
ในภายหลัง หาเปนการเลิกสญั ญาที่สมบูรณไม การบอกเลกิ สญั ญาจะตอ งควบคไู ปกับการสง คืนใน ขณะเดียวกนั ผเู ชา ซอ้ื ผิดนัดไมชําระเงนิ สองคราวตดิ กนั หรอื กระทําผิดสัญญาในขอ ทีเ่ ปนสาระสาํ คญั เจา ของ ทรัพยสินทใี่ หเ ชา ซ้ือมสี ทิ ธบิ อกเลิกสญั ญาเมอื่ ใดก็ได สวนเงินท่ชี าํ ระราคามาแลว แตกอ น ใหต กเปนสทิ ธิของ เจา ของทรัพยสนิ โดยถอื เสมอื นวา เปนคา เชา ผเู ชา ซือ้ ไมม สี ทิ ธิเรียกคนื จากเจา ของได และเจาของทรพั ยสินก็ ไมมสี ิทธเิ รยี กเงนิ ทีค่ างชาํ ระได การผดิ นัดไมช ําระจะตอ งเปน การไมช ําระสองงวดตดิ ตอ กัน หากผิดนัดไม ใชเ งินเพยี งครง้ั เดยี ว หรือหลายครง้ั แตไมต ิดๆ กัน เชน ผดิ นัดไมใ ชเ งนิ เดือนกุมภาพันธ, เมษายน, มิถุนายน, สิงหาคม ฯลฯ แตชาํ ระคาเชา ซอื้ สาํ หรับเดือนมกราคม, มีนาคม, พฤษภาคม, กรกฎาคม ฯลฯ สลับกันไปเชนนี้ แมจะผิดนดั กคี่ ร้ังก่หี น กต็ าม ผูใ หเชา ซือ้ หาอาจใชส ิทธิบอกเลกิ สญั ญาไดไ ม ในการผดิ สัญญาในสวนท่เี ปนสาระสําคญั หมายความวาสัญญาเชา ซอื้ นัน้ มีวตั ถุประสงคใ หผเู ชา ซื้อมีสทิ ธิใชสอยทรัพยส ินาและเคารพในกรรมสทิ ธ์ขิ องผูใ หเ ชา ซือ้ จนกวาจะชําระราคาครบตามขอ ตกลง ถา ผเู ชาซื้อนําทรพั ยส นิ ไปจํานาํ และไมช าํ ระเงนิ ถอื วาผิดสัญญาเชา ซ้อื เจา ของมีสิทธบิ อกเลกิ สัญญาและผู เชาซื้อมคี วามผิดอาญาฐานยกั ยอกทรัพยไดอกี เน่อื งจากกรรมสิทธิ์ในทรัพยสนิ ยงั เปน ของผใู หเชาซอ้ื อยู อนึง่ ในกรณีผูเชาซ้อื กระทําผดิ สัญญา เพราะผิดนดั ไมใ ชเงนิ ซง่ึ เปน งวดสดุ ทายน้นั เจาของ ทรพั ยสิน มีสทิ ธจิ ะริบบรรดาเงินทีช่ ําระมาแลว แตกอน และยดึ ทรัพยกลับคนื ไปไดตอเมื่อรอใหผ เู ชา ซื้อมา ชําระราคาเม่อื ถงึ กําหนดชําระราคาในงวดถัดไป ถาไมมาผูใหเ ชาซอ้ื ริบเงนิ ได
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: