Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุมชนตำบลนาหมื่นศรี เล่ม

ชุมชนตำบลนาหมื่นศรี เล่ม

Published by tanakorn6235, 2022-02-02 05:46:48

Description: ชุมชนตำบลนาหมื่นศรี เล่ม

Search

Read the Text Version

ชุมชนตำบลนาหมน่ื ศรี นายธนากร อว่ิ สง ม.5/4 เลขที่ 4 นางสาวณฐั ธดิ า หวงั ดี ม.5/4 เลขท่ี 14 นางสาวตรี ยา ย่องซือ่ ม.5/4 เลขท่ี 15 นางสาวอภญิ ญา ไชยทอง ม.5/4 เลขที่ 19 นางสาวสนุ นั ทินี กาญจนพรหม ม.5/4 เลขที่ 24 นางสาวอัญชนา สีสขุ ม.5/4 เลขท่ี 38 นำเสนอ ครูเทิดพงศ์ ชัยรยั น์ รายงานการคน้ คว้านเ้ี ปน็ ส่วนหน่งึ ของวิชา การส่ือสารและการนำเสนอ (Communication and Presentation : IS.2) ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษไทย โรงเรยี นสภาราชินี จังหวัดตรัง อำเภอเมอื งตรงั จังหวดั ตรัง



ก ชื่อเรอ่ื ง ชมุ ชนตำบลนาหมนื่ ศรี ผูเ้ ขียน นายธนากร อว่ิ สง, นางสาวณัฐธิดา หวงั ดี, นางสาวตีรยา ยอ่ งซ่ือ, นางสาวอภญิ ญา ไชยทอง นางสาวสุนนั ทินี กาญจนพรหม, นางสาวอัญชนา สีสุข ที่ปรกึ ษา ครทู ิดพงศ์ ชัยรัตน์ วชิ า การสือ่ สารและการนำเสนอ (Communication and Presentation : IS.2) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5/4 โรงเรียน สภาราชนิ ี จังหวดั ตรงั ปกี ารศกึ ษา 2564 บทคัดยอ่ การศกึ ษารายงานการศึกษาค้นคว้ารายวชิ าการสอื่ สารและการนำเสนอ (Independent Study : IS2) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 เรือ่ ง ชุมชนตำบลนาหมื่นศรี เป็นงานเขียนที่ถา่ ยทอดองคค์ วามรูจ้ ากการศึกษา คน้ คว้าและขอ้ คน้ พบ โดยมีคำถาม(วัตถุประสงค์) ในการศึกษาคน้ ควา้ ดังน้ี 1) เพ่อื ต้องการศกึ ษาวถิ ชี วี ิต สถานทท่ี ่องเท่ียวและเอกลกั ษณ์ของชุมชนตำบลนาหมื่นศรี 2) เพ่ือตอ้ งการเผยแพร่ข้อมูลเพ่ืออนรุ ักษ์ วฒั นธรรมของชุมชนตำบลนาหมื่นศรี การดำเนนิ งานศกึ ษาค้นควา้ เร่อื ง ชมุ ชนตำบลนาหมนื่ ศรี ผู้ศกึ ษาคน้ ควา้ ไดด้ ำเนนิ การศึกษาคน้ คว้า โดย สบื คน้ ข้อมูลเกี่ยวกับวิถชี ีวติ ของคนในชมุ ชนตำบลนาหมน่ื ศรี สถานที่ท่องเทีย่ ว และเอกลักษณ์ของชมุ ชน ตำบลนาหมื่นศรี จากนั้นเกบ็ รวบรวมข้อมลู และเผยแพร่ในรูปแบบ E-Book ผา่ นแอปพลเิ คชนั Facebook และInstagram Story ผลการศึกษา พบวา่ วถิ ชี วี ิตของคนในชมุ ชนตำบลนาหม่นื ศรีเป็นชมุ ชนที่มีความสงบ มีความร่มร่ืน มี อากาศทบี่ ริสทุ ธิ์ เพราะชมุ ชนนี้มีธรรมชาติท่ีสวยงาม พ้นื ที่ส่วนใหญ่เป็นทุง่ นาท่ีเขียวขจี และยังมสี ิ่งทีท่ ำให้ ชมุ ชนตำบลนาหมืน่ ศรีมีเสนห่ ์ท่นี า่ ดงึ ดูดอกี มากมาย ได้แก่ การมีวิถชี วี ติ ความเปน็ อย่ใู นชนบททเ่ี รียบงา่ ย มี การทำขวัญข้าวทปี่ จั จบุ ันหาดูได้ยากแลว้ มเี ทศกาลลกู ลมท่ีเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะของชุมชนน้ี และยงั มี สถานทท่ี ่องเท่ยี วขน้ึ ช่ือของชมุ ชนนีอ้ ีกมากมาย อยา่ งเชน่ สถานทท่ี ่องเท่ยี วทางธรรมชาติก็คือ ถำ้ เขาช้างหาย ที่มตี ำนานความเชือ่ ตา่ งๆ อีกทง้ั ยังมสี ถานท่ีท่องเทีย่ วทางประวัตศิ าสตร์ เช่น พพิ ิธภัณฑ์มรดกพน้ื บา้ นตำบล นาหมน่ื ศรี วดั หวั เขา และวัดหัวถนน ยังมีแหล่งท่องเทย่ี วเชงิ อาหาร เช่น ร้านไร่มีตาลตะวัน รา้ นภูหลวงลูกลม และรา้ นรมิ ธารชมทงุ่

ข คำนำ รายงานการศกึ ษาคน้ คว้าเรอื่ ง ชุมชนตำบลนาหมนื่ ศรี ฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวชิ าการ ส่ือสารและการนำเสนอ(Communication and Presentation : IS.2) จดั ทำขน้ึ มาเพือ่ ให้ผอู้ ่านไดศ้ ึกษาค้นควา้ เก่ียวกับชุมชนตำบลนาหม่นื ศรี ท้ังในเรื่องวถิ ีชีวิต สถานที่ ท่องเที่ยวตา่ งๆ และเอกลกั ษณ์ของชมุ ชนตำบลนาหม่นื ศรี ข้อมูลต่างๆทเ่ี ป็นประโยชน์ใน การศึกษาคน้ ควา้ และสามารถนำความรทู้ ไ่ี ดร้ บั จากรายงานฉบับนีไ้ ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นดา้ น ตา่ งๆ ท้ังน้ีเพอื่ เปน็ ประโยชน์แก่การนำไปศกึ ษาต่อของบุคคลทีม่ คี วามสนใจ คณะผูจ้ ัดทำหวังวา่ รายงานการศึกษาคน้ คว้าเรื่อง ชุมชนตำบลนาหมนื่ ศรี ฉบับน้ี จะมี ประโยชน์ในดา้ นต่างๆและเปน็ แหล่งศกึ ษาค้นคว้าหาความรทู้ ใี่ ห้นักเรียน นกั ศึกษา ตลอดจนผู้ทมี่ ี ความสนใจเกีย่ วกบั ชุมชนนาหมนื่ ศรีไม่มากกน็ ้อย หากผดิ พลาดประการใด คณะผ้จู ดั ทำกข็ ออภัย ไว้ ณ ทีน่ ด้ี ว้ ย คณะผู้จดั

ค กติ ติกรรมประกาศ รายงานการศึกษาการคน้ คว้ารายวิชาการสื่อสารและการนำเสนอ(Communication and Presentation:I2) เร่อื ง ชุมชนตำบลนาหม่ืนศรี สำเรจ็ ลลุ ว่ งไดด้ ้วยความกรุณา แนะนำ และให้ ความรู้อย่างดียิง่ จาก นายเทดิ พงศ์ ชยั รตั น์ คณุ ครผู สู้ อนรายวชิ าการส่อื สารและการนำเสนอ (Communication and Presentation:I2) ผู้จดั ทำรายงานการศึกษาค้นคว้า ขอขอบคณุ เป็น อยา่ งสูง คณุ ค่าและประโยชน์ทไี่ ดร้ บั จากรายงานศกึ ษาค้นคว้าฉบับนี้ ผู้จัดทำโครงงานการศกึ ษา ขอบคุณเป็นกตัญญูกตเวทีแด่ บดิ า มารดา และบรู พาจารย์ทคี่ อยอบรมส่ังสอน ตลอดจนผมู้ ี พระคณุ ทกุ ทา่ น นายธนากร อิ่วสง นางสาวณฐั ธดิ า หวังดี นางสาวตีรยา ยอ่ งซ่ือ นางสาวอภิญญา ไชยทอง นางสาวสุนนั ทินี กาญจนพรหม นางสาวอญั ชนา สสี ุข

ค สารบัญ เร่ือง หน้า บทคัดย่อ………………………………………………………………………………………………………………………….ก คำนำ……………………………………………………………………………………………………………………………….ข กติ ติกรรมประกาศ…………………………………………………………………………………………………………....ค บทท่ี 1 บทนำ…………………………………………………………………………………………………………………..1 -ที่มาและความสำคญั ………………………………………………………………………………………………..1 -วตั ถปุ ระสงค์……………………………………………………………………………………………………………1 -สมมตฐิ าน.............................................................................................................................2 -ขอบเขตของการศกึ ษา……………………………………………………………………………………………..2 -การเขยี นนิยามศพั ทเ์ ฉพาะ……………………………………………………………………………………….2 บทที่ 2 เอกสารท่เี กย่ี วขอ้ งกบั การศึกษาคน้ ควา้ .............................................................................4 บทท่ี 3 วธิ กี ารดำเนนิ การค้นคว้า..................................................................................................15 บทที่ 4 ผลการศึกษาคน้ คว้า.........................................................................................................17 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และ ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………….19 บรรณานุกรม................................................................................................................................20

ง สารบัญรปู ภาพ เรือ่ ง หน้า ภาพท่ี 1. ภาพถนนรมิ ทุ่ง..………………………………………………………………………………………………….5 ภาพที่ 2. ภาพถ้ำเขาช้างหาย………….………………………………………………………………………………….6 ภาพท่ี 3. ภาพกลุ่มผา้ ทอนาหมน่ื ศรี……………………………………………..…………………………………....7 ภาพที่ 4. ภาพวัดหวั เขา……………………………………………………………………………………..……………..8 ภาพท่ี 5. ภาพร้านไรม่ ตี าลตะวนั ...................................................................................................8 ภาพที่ 6. ภาพร้านภูหลวงลูกลม....................................................................................................9 ภาพท่ี 7. ภาพร้านริมธารชมทงุ่ ...................................................................................................10 ภาพที่ 8. ภาพโพสต์ใน story ig………………………………………………………………………………………18 ภาพที่ 9. ภาพผลงานE-Book………………………………………………………………………………..………..18 ภาพที่ 10. ภาพผลงานE-Book………………………………………………………………………………………..18 ภาพท่ี 11. ภาพโพสต์ใน Facebook………………………………………………………………………………..18

จ สารบญั ตาราง เร่ือง หน้า ตาราง 1 ตารางแสดงวิธกี ารดำเนินงาน……………………………………………………………………….…….15 ตาราง 2 ตารางแสดงปฏทิ นิ การดำเนนิ โครงงาน…………..…………………………………………………….16

1 บทท่ี 1 บทนำ ท่ีมาและความสำคญั ตรังเป็นหน่ึงในจงั หวดั ท่มี ีสถานทท่ี อ่ งเที่ยวธรรมชาตเิ ปน็ จำนวนมาก เชน่ ภูเขา ทะเล น้ำตก หว้ ยหนอง คลอง บึง ทุ่งนา มรี า้ นอาหารทโ่ี ดง่ ดังมากมาย เพราะเมืองตรงั ได้ฉายานามว่า “เมืองนักกนิ ” ยงั มีโบราณ สถานทม่ี ตี ำนานมานานกวา่ 100 ปี เมอื งตรงั ยังมีภูมปิ ัญญาชาวบ้านท่ีสบื ทอดกันมารุน่ สู่รุ่น และในจงั หวัด ตรังมชี มุ ชนท่ีถือได้วา่ เปน็ ชุมชนแบบอยา่ งของจงั หวดั คือ ชมุ ชนตำบลนาหมื่นศรี ชมุ ชนตำบลนาหมื่นศรี ตัง้ อยู่ที่ ตำบลนาหมืน่ ศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรงั มีช่อื เสียงในด้านผ้าทอ พืน้ เมืองของจังหวดั ตรัง รวมไปถงึ ประเพณตี ามความเช่ือ เชน่ ลกู ลม เปน็ เร่อื งของเทพนิยายโบราณ ทเ่ี ลา่ สบื ต่อกันมาจนถงึ ปัจจบุ ัน ชาวบ้านในชุมชนได้นำมาทำเป็นอุปกรณท์ ่ชี ่วยในการประกอบอาชีพ กลา่ วคอื เนอ่ื งจากชมุ ชนตำบลนาหมน่ื ศรี มพี ้ืนท่ีเปน็ ท่ลี ุ่ม ชาวบา้ นส่วนใหญจ่ งึ นิยมทำอาชพี ชาวนา ซึ่งไดน้ ำตวั ลกู ลมน้ี มาช่วยในการไลก่ าไลน่ กทีม่ ากดั กินเมล็ดข้าวในทงุ่ นา อีกท้ังยงั มพี ิธีกรรมที่สืบทอดกนั มายาวนาน คอื การทำ ขวญั ขา้ ว ซึ่งเป็นพธิ ีกรรมตามความเชอ่ื ของชาวบา้ นตำบลนาหมนื่ ศรี รวมทง้ั ยงั มีสถานท่ีทอ่ งเทย่ี วเชิงธรรมชาติ เชิงโบราณ รา้ นอาหารตา่ งๆ ซ่ึงจะเหน็ ไดว้ ่าในชุมชนตำบลนาหมื่นศรี มีเรื่องราว วฒั นธรรมมากมายที่ผู้คนบาง กลุม่ ยงั ไมท่ ราบ จากที่มาและความสำคัญขา้ งต้นทางผ้จู ดั ทำรายงานไดเ้ ห็นถึงปญั หาและต้องการเป็นสื่อในการเผยแพร่ ขอ้ มลู ของชุมชนตำบลนาหม่ืนศรี เพื่อเป็นประโยชนต์ ่อผู้คนทีจ่ ะมาทอ่ งเทีย่ วในชมุ ชนตำบลนาหม่ืนศรี วัตถุประสงค์ 1.เพื่อต้องการศึกษาวิถีชวี ิต สถานท่ีท่องเท่ียวและเอกลักษณ์ของชมุ ชนตำบลนาหมื่นศรี 2.เพอ่ื ต้องการเผยแพร่ข้อมลู เพ่อื อนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมของชมุ ชนตำบลนาหมืน่ ศรี

2 สมมติฐาน ทราบถงึ วิถชี ีวติ สถานท่ที ่องเที่ยว เอกลกั ษณ์ของชุมชนตำบลนาหมื่นศรี และนำไปเผยแพรส่ ู่สงั คมได้ ขอบเขตของการศึกษา ขอบเขตดา้ นสถานท่ี: 102/1 ม.4 ต.ท่างิ้ว อ.หว้ ยยอด จ.ตรงั 92130 ขอบเขตดา้ นระยะเวลา: ต้งั แต่วนั ท่ี 17 มกราคม 2565 ถงึ วนั ท่ี 9 กมุ ภาพันธ์ 2565 การเขียนนิยามศพั ทเ์ ฉพาะ งานลูกลม หมายถึง ประเพณีการแขง่ ขนั ลูกลม” จะมี ลูกลม หรอื กังหันลม ท่ีเอาไว้ไล่กาด้วยเสียง มี ลักลักษณะเปน็ กังหันเม่ือมลี มพัดจะทำให้เกิดเสียง ซ่ึงถือเป็นการละเล่นพ้ืนบา้ นที่สืบต่อมายาวนาน จนถอื เป็น ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ของ ตำบลนาหม่นื ศรี อำเภอนาโยง จังหวดั ตรงั จัดในชว่ งเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปี ต่อเนอ่ื งมา 17 ปีแล้ว เนื่องจากเปน็ ชว่ งทีม่ กี ระแสลมแรง เทศกาล ลกู ลม จัดตรงกับชว่ งเก่ียวข้าวของตำบลนา หม่ืนศรี ในทางวิทยาศาสตร์อาจมองไดว้ า่ ลูกลม มีหลักการทำงานเดียวกนั กับหนุ่ ไลก่ า คือใช้ไล่นกท่ลี งมากิน ข้าวในแปลงนา แต่ลูกลมที่ตำบลนาหมน่ื ศรีแห่งน้ี มีความเชือ่ มโยงกบั ความเชอ่ื และการเคารพในธรรมชาติ ผ่านตัวแทนความศักดส์ิ ิทธ์แิ ห่งเทพธรรมชาตนิ ั่นเองประวัตคิ วามเปน็ มาของลูกลม เปน็ เร่ืองของเทพนยิ าย โบราณ ท่เี ล่าสบื ตอ่ กันมา เป็นเรอื่ งของครอบครัวเล็กๆของพระพายบนสวรรค์ วนั หนึ่งเปน็ วันฤดูเก็บข้าว ซ่งึ บนสวรรค์มฤี ดเู กบ็ เกี่ยวขา้ วเหมือนกัน ลมพัดแรง เม่อื ขา้ วในนาเริม่ สุก มีนกลา นกไผ นกกระจาบ และนก อ่ืนๆ ออกมากินขา้ ว พระพายไม่มเี วลาเฝ้าทุกวนั เพราะต้องไปอยเู่ วรทำพัดลมทำความเย็นใหเ้ ทวดา จึงมอบ ให้ลกู ลมลกู ของพระพายทำหน้าทโี่ ห่นก ไลก่ าแทน ลกู ลมซึ่งข้เี กียจแต่มีปัญญา จงึ คดิ วธิ ีทีไ่ มต่ ้องใชเ้ สียงของ ตัวเองในการไลน่ ก จึงทำสิง่ ที่มีลกั ษณะแบบนี้ข้นึ มาพระพายมาเห็นก็ช่ืนชมและบอกเทวดา และเห็นวา่ ควร เผยแพรไ่ ปยงั เมืองมนุษย์ จงึ แพร่หลายมาตง้ั แต่น้นั และสบื เน่อื งมาถงึ ทุกวันนี้ และประเพณี การทำขวัญข้าว หมายถึง ชุมชนผา้ ทอหม่นื ศรจี ัดขึน้ เพื่อได้เรยี นรู้วิถชี วี ติ ชาวนา รู้คณุ คา่ ของข้าว รวมทั้ง เรียนรูว้ ัฒนธรรมโบราณการทำขวญั ขา้ ว ขอขมาและบชู าพระแม่โพสพ ผ้ายกดอก หมายถึง เปน็ ผา้ ที่ใชด้ า้ ยพงุ่ 2 ชนิด เกิดจากการทอดว้ ยวธิ ียกดอก หรอื การสรา้ งลวดลาย โดยการเพิ่มด้าย มกั ใช้ลวดลายดง้ั เดมิ ท่ีมีความซบั ซอ้ น ใชจ้ ำนวนตะกอ (เขา) มาก ในอดีตมกี ารทอผา้ เป็นคำ สอนในพระพุทธศาสนา ซง่ึ มจี ำนวนตะกอนับรอ้ ย ลวดลายเฉพาะของผ้ายกนาหมน่ื ศรี ได้แก่ ลายลกู แกว้ ลาย

3 แกว้ ชงิ ดวง ลายลูกแกว้ โข่ง ลายลูกแก้วส่หี นว่ ยในลายราชวัตร ลายดอกจนั ทร์ ลายเกสร ลายดอกกก ลายดอก พกิ ลุ ปจั จุบนั มลี วดลายทีน่ ิยมทอเพม่ิ อีกกวา่ 30 ลาย เชน่ ลายพกิ ุลแกว้ ลายดาวลอ้ มเดือน ลายลกู แก้วลูกศร ลายขนมเปียกปูน ลายลูกหวาย ลายจตั ุรัส ลายดาวล้อมเดอื น ลายชอ่ มาลัย ลายชอ่ ลอกอ ลายดอกมะพร้าว

4 บทท่ี 2 เอกสารที่เกย่ี วข้องกับการศกึ ษาค้นคว้า ในการศึกษาเร่ือง ชุมชนตำบลนาหมน่ื ศรี คณะผู้จัดทำไดศ้ ึกษาคน้ คว้าหาข้อมลู จากเอกสารตา่ งๆที่ เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำเสนอดังนี้ 1. วถิ ีชวี ติ ของคนในชุมชนตำบลนาหมนื่ ศรี 2. สถานทีท่ ่องเท่ยี วในตำบลนาหม่ืนศรี 2.1. แหล่งทอ่ งเทีย่ งทางธรรมชาติ 2.2. แหล่งท่องเที่ยวทางประวตั ศิ าสตร์ 2.3. แหล่งท่องเท่ยี วเชิงอาหาร 3. เอกลกั ษณ์ของชมุ ชนนาหมื่นศรี 1. วถิ ชี ีวิตของคนในชมุ ชนตำบลนาหมื่นศรี ในสงั คมเมืองทไี่ ม่เคยไดส้ ัมผัสกบั วิถีชวี ิตชนบทเลย คงจะไม่ร้วู า่ สังคมทเ่ี งียบสงบเปน็ สุขและมีอากาศ ทบ่ี รสิ ทุ ธมิ์ ีแตใ่ นชนบทเท่านน้ั อาจเป็นเพราะชนบทเป็นสังคมทเ่ี อื้ออาทรต่อกนั มีการช่วยเหลอื แบง่ ปนั กัน ระหว่างญาติพ่ีนอ้ งและเพอื่ นบ้าน รวมถึงการมสี ว่ นรว่ มในชมุ ชนดว้ ย ทำใหช้ มุ ชนน่าอยู่มากขึ้นนอกจากน้ีการมี วถิ ชี ีวิตทเ่ี รียบงา่ ยของคนในชนบท เปน็ สง่ิ หน่ึงที่ทำให้ชนบทมีเสนห่ ม์ าก สงิ่ ทีม่ เี สน่หอ์ ย่างหนึ่งของหมบู่ ้านนา หมน่ื ศรี คือประเพณีพน้ื บ้านของชาวบ้าน นั้นก็คือ “ประเพณกี ารแขง่ ขนั ลูกลม” จะมี ลูกลม หรือ กังหันลม ทเ่ี อาไวไ้ ล่กาดว้ ยเสียง มลี ักษณะเป็นกังหันเม่ือมีลมพดั จะทำให้เกิดเสยี ง ซึ่งถอื เปน็ การละเลน่ พื้นบ้านท่ีสบื ต่อมายาวนาน จนถือเปน็ ภูมิปัญญาท้องถนิ่ ของ ตำบลนาหมนื่ ศรี อำเภอนาโยง จังหวดั ตรงั จัดในชว่ งเดอื น มกราคม-มนี าคมของทุกปี ตอ่ เนือ่ งมา 17 ปีแลว้ เนอ่ื งจากเปน็ ช่วงท่มี กี ระแสลมแรง เทศกาล ลกู ลม จัดตรง กบั ชว่ งเกีย่ วขา้ วของตำบลนาหมื่นศรี ในทางวทิ ยาศาสตร์อาจมองได้ว่า ลกู ลม มีหลกั การทำงานเดยี วกนั กบั หุ่น ไล่กา คือใชไ้ ลน่ กท่ีลงมากนิ ข้าวในแปลงนา แตล่ กู ลมท่ีตำบลนาหมนื่ ศรีแห่งน้ี มีความเช่อื มโยงกับความเช่ือ และการเคารพในธรรมชาตผิ า่ นตวั แทนความศักดส์ิ ิทธแ์ิ ห่งเทพธรรมชาตนิ ัน่ เองประวัติความเปน็ มาของลูกลม

5 เปน็ เรอ่ื งของเทพนยิ ายโบราณ ทเ่ี ล่าสืบตอ่ กนั มา เป็นเรื่องของครอบครัวเล็กๆของพระพายบนสวรรค์ วันหนึ่ง เปน็ วนั ฤดเู ก็บขา้ ว ซึ่งบนสวรรค์มีฤดเู ก็บเกี่ยวข้าวเหมอื นกัน ลมพดั แรง เม่ือข้าวในนาเร่ิมสุก มีนกลา นกไผ นกกระจาบ และนกอน่ื ๆ ออกมากนิ ข้าว พระพายไม่มเี วลาเฝา้ ทกุ วนั เพราะต้องไปอยูเ่ วรทำพดั ลมทำความ เย็นให้เทวดา จงึ มอบให้ลกู ลมลกู ของพระพายทำหนา้ ท่ีโหน่ ก ไลก่ าแทน ลูกลมซง่ึ ขเ้ี กียจแตม่ ีปัญญา จึงคิดวิธที ี่ ไมต่ ้องใช้เสียงของตัวเองในการไลน่ ก จงึ ทำส่ิงที่มีลักษณะแบบนี้ขนึ้ มาพระพายมาเห็นกช็ ่ืนชมและบอกเทวดา และเห็นวา่ ควรเผยแพร่ไปยังเมืองมนุษย์ จึงแพร่หลายมาตัง้ แต่น้นั และสบื เน่อื งมาถงึ ทุกวันน้ี และประเพณี “ออกปากเก็บข้าว” ซงึ่ กลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชนผา้ ทอหม่ืนศรจี ัดขึ้นเพื่อได้เรยี นรู้วิถีชีวติ ชาวนา รู้คุณค่าของข้าว รวมทง้ั เรียนรวู้ ฒั นธรรมโบราณการทำขวญั ขา้ ว ขอขมาและบชู าพระแม่โพสพ ซึ่งก่อนเร่มิ เก็บข้าวยายเป็น รกั ชู อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นครหู มอข้าว ตำบลนาหม่นื ศรี อำเภอนาโยง จงั หวดั ตรงั ทำพธิ ีขวัญขา้ วโบราณ ซ่ึงหาดู ได้ยากในรอบหลายสิบปี ท่ีกำลงั จะเลอื นหายไปจากวิถีนา โดยยายเป็น ได้ทำการเลอื กขา้ วในนา มมุ หนงึ่ ของ ผนื นาท้งั หมด เพ่ือทำพิธขี วญั ขา้ ว โดยการนำเอาตน้ อ้อย ต้นกลว้ ยและตน้ ไม้ นาปักไว้บริเวณทเี่ ลอื กพนื้ ที่ข้าว พร้อมนำข้าวสกุ ขนมโค ไข่ต้ม นำ้ กับข้าว แล้วทำพิธสี วดทำขวญั ข้าว เพื่อความเป็นสิรมิ งคลและขอบคณุ พระ แม่โพสพทีด่ ูแลใหค้ วามอดุ มสมบรู ณแ์ ก่ผืนนา โดยเชอื่ กันว่าเม่อื ทำพธิ นี แ้ี ลว้ พระแม่โพสพจะชว่ ยคมุ้ ครองขา้ ว ในนาให้มีผลผลติ ทดี่ ี อีกทัง้ ยังเป็นการสรา้ งขวญั กำลงั ใจแก่ชาวนา ส่วนข้าวท่ไี ด้ทำขวญั ข้าวจะทำการเกบ็ หลงั จากทที่ ุกคนไดร้ ว่ มกนั เก็บขา้ วทั้งหมด ซ่ึงขา้ วส่วนนี้จะนำไปไว้บนสุดของย้งุ ขา้ วท่เี ก็บไว้ และหากมี พธิ ีกรรม ทมี่ ีการใช้รว่ งข้าว ก็จะนำขา้ วท่ีได้มีการทำขวัญข้าวส่วนน้ีไปร่วมในพิธีกรรม ภาพที่ 1. ภาพถนนรมิ ท่งุ นา

6 2. สถานทที่ ่องเท่ยี วในตำบลนาหมนื่ ศรี 2.1. แหลง่ ท่องเทยี่ วทางธรรมชาติ ถำ้ เขาช้างหาย ตง้ั อยู่ใน ตำบลนาหมืน่ ศรี อำเภอนาโยง จังหวดั ตรงั เปน็ ถ้ำท่มี ีหนิ งอกหนิ ย้อยสวยงามสลบั ซบั ซอ้ นกัน อยูเ่ ปน็ จำนวนมาก ตัวของถ้ำจะลึกประมาณ 500 เมตร ต้องใชเ้ วลาเดนิ เข้าไปชมราวๆ 20 นาที ตดิ ไฟตาม เส้นทางทำให้ชมตัวถ้ำได้อยา่ งสะดวกสบาย ขนาดของถ้ำเขาชา้ งหายจะค่อนข้างมีขนาดใหญ่ โดยทม่ี ีความสงู จากพืน้ ดนิ 150 เมตร และยาวมากกวา่ 850 เมตร เปน็ แหล่งทอ่ งเทย่ี วชือ่ ดงั ท่ีอยไู่ มไ่ กลจากเมืองตรัง และ ไดร้ ับความนิยมจากท้ังคนในทอ้ งถนิ่ และนักท่องเทย่ี วอย่างมาก ภายในของถ้ำจะแบ่งเป็นโถงยอ่ ยได้ทั้งหมด 6 ถำ้ คอื ถ้ำเขาชา้ งหายโดยจะโถงถำ้ ท่ีใหญท่ ่สี ุด มลี ำธารเล็กๆ ไหลผา่ น มีหินงอกหนิ ย้อยสวยงาม ถำ้ เพกาโถงท่ี มหี นิ ปูนคล้ายกบั ปะการัง เป็นผลกึ ใส ซึ่งจะพบแคเ่ พยี งโถงน้เี ทา่ นั้น ถ้ำทรายทองโถงนจ้ี ะค่อนขา้ งมหี นิ งอกหิน ยอ้ ยทีส่ วยอ่อนช้อย บางสว่ นก็เปน็ สีเหลืองทองอกี ดว้ ย ถ้ำโอ่งโถงนีจ้ ะเปน็ โพรงลึก ค่อนข้างแคบและทบึ ต้อง ไตบ่ ันไดไม้ไผล่ งไปชม และอีกสองโถงคือ ถำ้ แม่เฒา่ คล้าย ถ้ำลม ภาพที่ 2. ภาพถำ้ เขาช้างหาย

7 2.2. แหล่งท่องเที่ยวทางประวตั ิศาสตร์ พิพธิ ภัณฑ์มรดกพ้นื บ้านตำบลนาหม่นื ศรี ตง้ั อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 8 ตำบลนาหม่ืนศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง พิพิธภัณฑม์ รดกพื้นบ้าน ตำบลนาหมน่ื ศรี ริเริ่มโดยปา้ กศุ ล นิลละออ ทม่ี ีความสนใจศิลปะการทอผา้ จากแม่ คอื นางนาง ช่วยรอด ทำให้ ป้ากศุ ลตัง้ กล่มุ ทอผ้าพื้นบ้านขึ้น คร้ังแรกรวมกลมุ่ ไดก้ ว่า 10 คน ต่อมาทางการไดเ้ ขา้ มาสง่ เสรมิ อบรมเพอ่ื เพิม่ เติมความรู้และเทคนคิ การทอผา้ กลมุ่ ทอผา้ ขยายตวั มากขน้ึ และกลายเปน็ ธุรกิจของชมุ ชนทไ่ี ดร้ บั ความ สนใจทั้งจากคนในชุมชนรวมถงึ ภาครฐั และเอกชน ปจั จุบันคุณอารอบ เรืองสังข์ ทายาทรุ่นหลานไดส้ ืบสานตอ่ และเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชมุ ชนผา้ ทอนาหม่นื ศรี พพิ ธิ ภณั ฑ์มรดกพนื้ บ้านตำบลนาหม่ืนศรี ภายในจัด แสดงผ้าทอพน้ื บา้ นนาหมน่ื ศรที ม่ี ลี วดลายอันเปน็ เอกลักษณเ์ กดิ จากการทอดว้ ยวธิ ียกดอก หรอื การสรา้ ง ลวดลายโดยการเพ่มิ ดา้ ยพุ่ง เช่น ลายแก้วชงิ ดวง ลายลกู แกว้ ลายลกู แก้วผสมลายดอกจัน จนเม่อื พ.ศ. 2558 อาคารเดิมเก่าชำรดุ กลุ่มเซ็นทรัลได้อาสามาปรบั ปรงุ อาคารพพิ ธิ ภัณฑ์และร้านผลติ ภัณฑ์ชุมชน จนกลายเปน็ ศนู ย์การเรียนรู้ชมุ ชนผา้ ทอนาหมนื่ ศรี เพื่อหวงั สืบทอดภูมิปัญญาและใหค้ นได้เห็นคุณค่าของผา้ ทอเมืองตรงั ภาพท่ี 3. ภาพกลมุ่ ผา้ ทอนาหมืน่ ศรี วดั หัวเขา ต้ังอยู่หมู่ 6 ตําบลนาหมนื่ ศรี อาํ เภอนาโยง จังหวดั ตรงั วัดในตำบลนาหมน่ื ศรีมีวัดทีม่ ีชือ่ เสียงแห่ง หนึ่ง คอื วดั หวั เขา ชาวบ้านหรอื นกั ท่องเทย่ี วมกั จะเดนิ ทางมาท่นี ่เี พื่อเคารพสักการะ ทำกิจกรรมร่วมกันทวี่ ัด และมแี หลง่ ท่ีเที่ยวบริเวณรอบ ๆ วดั ด้วย เป็นวดั ท่ีสรา้ งมาหลายรอ้ ยปีแล้ว กล่าวกันว่าเป็นวดั ที่มชี ่อื ของตำบล นาหม่ืนศรีชาวบ้านหรอื นักทอ่ งเทีย่ ว มักจะเดินทางมาทนี่ ่ีเพื่อเคารพสักการะหลวงพ่อจังโหลนและเท่ียวบรเิ วณ รอบ ๆ วัดซงึ่ มที ั้งพืชสมุนไพรสัตว์นานาชนดิ ในดา้ นกฎระเบยี บแบ่งออกเป็นสดั ส่วนทเี่ หมาะสม จะเน้นดา้ น

8 การปฏิบตั ิธรรมกรรมฐานเป็นสว่ นใหญ่ ส่วนด้านพิธีกรรมมีเป็นสว่ นนอ้ ย บนเขาจะมีการสร้างหอเฉลมิ พระ เกยี รตริ ปู ป้ันงขู ้ึนตามความฝันของพระรปู หนึ่ง และยงั สามารถชมววิ โดยรอบ 360 องศา เดินทางจากอำเภอนา โยงถึงวัดหัวเขา ประมาณ 7 กโิ ลเมตร ใชเ้ สน้ ทางตรงั -พัทลุง แล้วเล้ียวเข้าแยกนาหมื่นศรี ถนนหนทางสะดวก ภาพท่ี 4. ภาพวัดหัวเขา 2.3. แหลง่ ท่องเที่ยวเชิงอาหาร ร้านไร่มีตาลตะวัน ตง้ั อยถู่ นนทางหลวงชนบท ตรงั 3067 ตำบลนาหม่นื ศรี อำเภอนาโยง ตรัง 92170 เปน็ ร้านอาหาร กลางน้ำทน่ี ักท่องเทยี่ วแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ร้านอาหารบนเนื้อที่ 8 ไร่ ท่รี ายรอบไปด้วยทุ่งนา ถือเป็นจดุ เช็คอนิ อีกแห่งใน จ.ตรัง ทีน่ ักทอ่ งเทยี่ วทงั้ ในและตา่ งจังหวัดตา่ งแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ถงึ แม้ว่าในช่วง สถานการณโ์ ควดิ -19 แตร่ ้านแห่งนี้กลับไมไ่ ด้รับผลกระทบอยา่ งใด เนื่องจากต้งั อยูใ่ นที่โล่งแจ้ง ไม่แออัด และมี การจดั โตะ๊ นง่ั เปน็ ซุม้ แยกออกจากกัน จึงทำใหเ้ กิดความปลอดภัยสูง นอกจากน้นั ยังมีการจดั พนื้ ท่ีสวนอยา่ ง สวยงามสำหรับถ่ายรูป รวมท้ังมีสระนำ้ เลย้ี งปลาขนาดใหญ่ใหไ้ ด้พายเรอื คายัก หรือให้อาหารปลาเพื่อความ ผอ่ นคลาย ส่วนอาหารที่จำหน่ายก็มีหลากหลาย ตอบโจทย์ทกุ เพศทุกวัย ไดแ้ ก่ อาหารพื้นบ้าน อาหารอีสาน อาหารทะเล หมกู ระทะ สเตก๊ พิชซ่า โรตี นำ้ ผลไม้ กาแฟสด นำ้ แขง็ ไส รวมถึงไอศกรีม ภาพที่ 5. ภาพร้านไรม่ ตี าลตะวนั

9 รา้ นภหู ลวงลกู ลม ตง้ั อยู่ถนนทางหลวงชนบท ตรงั 3067 ตำบล นาหมน่ื ศรี อำเภอนาโยง จงั หวัดตรัง เป็นรา้ นอาหาร ท่ามกลางกล่นิ อายธรรมชาติ บรรยากาศของรา้ นภูหลวงลกู ลม เปน็ รา้ นที่ทำดว้ ยวสั ดุธรรมชาติ รา้ นเปิดโลง่ มที ้งั แบบโต๊ะนัง่ เป็นครอบครัว หรอื มาคนเดยี ว มาเป็นคจู่ ะนงั่ กินลมแบบโต๊ะบาร์ ทางร้านยังมกี ารนำเอา อุปกรณ์การเกษตร เช่น ไซ ซุ่ม กระด้ง มาตกแต่งรา้ น ซง่ึ ใหบ้ รรยากาศความเป็นชุมชน ใครไปใครมาเปน็ ต้อง แวะรบั ประทานอาหาร หรือจะถา่ ยภาพเปน็ ท่รี ะลกึ ถือว่าได้รบั ความนิยมมากในหม่นู ักท่องเทีย่ ว ซึ่งทางรา้ น ไมไ่ ด้มีเพียงแค่อาหารพน้ื บา้ นเทา่ น้ัน แตย่ งั มีอาหารสไตลต์ ะวันตกอีกด้วย และที่พลาดไม่ได้คอื การชื่นชมธรรมชาติ รวมไปถึงวิถชี วี ิตของชาวบา้ นในชุมชน ท่ีไม่อาจหาซอ้ื ได้ มาเก็บภาพ บรรยากาศ ซมึ ซับความเปน็ ท้องถิน่ ของชาว ต.นาหมื่นศรี มาเป็นสว่ นหนึง่ เพื่อพฒั นาการท่องเทยี่ วอย่างยงั่ ยืน ซึ่งการท่องเทย่ี วใน ต.นาหมน่ื ศรี มหี ลายชว่ ง แตล่ ะชว่ งจะใหบ้ รรยากาศท่ีแตกต่างกันออกไป อย่างชว่ งท่งุ นา เขยี วขจี ชว่ งรวงข้าวสีทอง ชว่ งเคลียร์หน้าดินเต็มไปด้วยตน้ ปอเทือง ตลอดจนชว่ งเทศกาลลกู ลม เทศกาลของ ชาวบา้ นในชมุ ชน ทเ่ี ปิดโอกาสใหน้ ักท่องเทีย่ วได้เขา้ มาเย่ียมชมภูมิปญั ญาดัง้ เดิมของชมุ ชน เพ่อื การอนรุ ักษ์ และสบื สานสคู่ วามม่ันคงของชมุ ชน ภาพท่ี 6. ภาพร้านภูหลวงลกู ลม

10 รา้ นรมิ ธารชมทงุ่ ตง้ั อยู่ทท่ี ุ่งนาหม่ืนศรี หมู่ท่ี 5 บ้านหวั เขา ตำบลนาหม่นื ศรี อำเภอนาโยง จังหวดั ตรัง บรรยากาศท่ี โปร่งสบาย ไม่แออดั ทนี่ ง่ั เยอะ มาตรการรักษาความสะอาด และอาหารหลากหลายมาก บรรยากาศรา้ นจาก ดา้ นนอก ใหญโ่ ตกวา้ งขวาง เห็นแต่ไกล นอกจากจะไดก้ ินอาหารพน้ื บา้ นแล้ว ยงั ได้ด่มื ดำ่ ธรรมชาติทีโ่ อบล้อม ด้วยท้องทุ่งนาเขยี วขจีกบั บรรยากาศสวย ๆ วิวพาโนรามาสุดลูกหลู ูกตา แถมยังมีที่นง่ั เก่ไก๋บนแคร่ไม้ไผ่ ไดพ้ ัก สายตา ได้คดิ อะไรเพลิน ๆ ท่ีนี่กลายเป็นจดุ หมายปลายทางเช็คอนิ ของนักท่องเท่ยี วมากมาย ภาพท่ี 7. ภาพรา้ นริมธารชมทุ่ง 3. เอกลกั ษณ์ของชมุ ชนนาหม่ืนศรี ชมุ ชนท่องเที่ยวเชงิ วฒั นธรรมนาหม่นื ศรี ตำบลนาหม่ืนศรี อำเภอนาโยง จงั หวดั ตรัง \"แลลกู ลม ชมนา หาชา้ ง ช่างตอ\" ชุมชนมที ิวทัศน์ท่งุ นาสวยงาม เปน็ แหลง่ ผ้าทอมือ สืบทอดภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ การทำลูกลม (กงั หนั ลม งานประดษิ ฐ์ของชุมชน) และสถานท่ีท่องเที่ยวในชมุ ชนท่นี า่ สนใจ ไดแ้ ก่ ถำ้ เขาชา้ งหาย เต็มไปดว้ ย ประติมากรรมหินงอกหินย้อยทางธรรมชาติอนั สวยงาม นาหม่ืนศรี เปน็ ช่อื ตำบลในพื้นท่ีอำเภอนาโยง จังหวดั ตรัง อยหู่ า่ งจากตัวเมอื งตรงั หรอื ตลาดทับ เท่ียงประมาณ 12 กโิ ลเมตร เม่อื เอย่ ถึงนาหมืน่ ศรี ทุกคนจะนึกถึงผา้ ทอมือทมี่ ีความโดดเด่น มีประวตั ิการสบื ทอดมายาวนาน ไดร้ บั การส่งเสรมิ จนเปน็ ผลติ ภัณฑ์ชุมชนระดบั 5 ดาว ผ้าทอนาหมน่ื ศรีกลายเป็นเอกลกั ษณ์ พืน้ เมืองทห่ี นว่ ยงานต่างๆ นำไปออกแบบเปน็ เคร่ืองแบบประจำองค์กร หรอื การสวมใส่ผ้าไทยของคนตรัง และเป็นท่รี ้จู กั ไปท่วั กลุ่มทอผา้ นาหมนื่ ศรี มกี จิ กรรมทีต่ ่อเน่ืองจากการทอผ้า การผลิตภัณฑจ์ ากผ้าทอมา จำหน่ายไม่ว่ากระเป๋า เสื้อผา้ สำเร็จรปู หมวก และอีกมายมาก มีการจัดทำศูนย์เรยี นรู้ เพ่ือใหบ้ ริการเยาวชน ของสถานศกึ ษา หรือผูท้ ี่มีความสนใจไดเ้ ขา้ มาเรียนรู้ ศึกษาดงู าน กล่มุ ทอผ้านาหม่นื ศรียังได้สง่ เสรมิ กจิ กรรม

11 ให้สมาชกิ มรี ายไดเ้ สริมโดยจดั การทอ่ งเที่ยวในชุมชนมากนิ เที่ยว พกั ค้างคนื ท่ีนาหมืน่ ศรี ภายใตช้ ่ือนาหมน่ื ศรี โฮมสเตย์ นาหมืน่ ศรีโฮมสเตย์ เกดิ ขึ้นจากความคิดของกลุ่มทอผ้านาหมื่นศรี ทต่ี ้องการใหส้ มาชกิ ไดม้ รี ายได้ เสริม และต้อนรบั ผู้ท่มี คี วามสนใจกจิ กรรมทอผา้ ได้เข้ามาพักเพ่ือการเรยี นรู้ โดยการเชื่อมไปถึงแหล่งท่องเท่ียว ของชุมชนดว้ ยไม่ว่าถ้ำเขาชา้ งหาย กลมุ่ เกษตรกรรมข้าวซอ้ มมือ กลมุ่ ทำเคร่ืองแกง กลุ่มปลูกดอกหน้าววั ศลิ ปวฒั นธรรมของชมุ ชนอาทิมโนราห์ หนังตะลงุ นาหมืน่ ศรโี ฮมสเตยไ์ ด้รบั การรบั รองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกฬี า เพ่ือยืนยนั ถึงคณุ ภาพของแหล่งทอ่ งเท่ียวและบริการทม่ี ีความพรอ้ ม สง่ิ ท่ีโดดเด่นไม่แพ้กันคือ ชาวนาหมืน่ ศรมี ีนำ้ ใจต่อกันทั้งกับคนในชมุ ชน และผู้มาเยือน มีวฒั นธรรมแหง่ ผืนผ้า อันมเี ร่ืองราว การทอผ้าหมื่นศรีมีมากกว่า 200 ปีแล้ว คนนาหมื่นศรผี ูกพันกบั ผ้าทอ จนเปน็ วิถีทสี่ ืบทอดในผนื ผา้ คือ 3 ช่วงแห่งชวี ติ คอื 1.ผาตง้ั (ชว่ งแต่งงาน) 2.ผ้าพาด(ชว่ งบวช) 3.ผา้ พานชา้ ง(เตรยี มพาดโรงศพตวั เอง และสามี) มาเที่ยวนาหม่ืนศรที งั้ ที ตอ้ งไปเทยี่ วถ้ำเขาชา้ งหาย เป็นสถานทที่ ่องเท่ียวท่ีมคี วามงามตามธรรมชาติ อกี แห่งหน่ึงของจังหวัดตรงั เปน็ ถำ้ ในภูเขาหนิ ปูนขนาดเล็กตัง้ อยู่กลางทุ่งนา ภายในถ้ำประกอบไปด้วยโถง ตา่ งๆ ท่ปี ระดบั ดว้ ยม่านหนิ ย้อย หินหลอดแกว้ จุดเดน่ มีหินงอกหนิ ย้อยท่ีสวยงาม และมคี วามสมบูรณ์อยู่มาก น้ำตกกะช่อง ประกอบดว้ ยหมูไ่ ม้ใหญ่ - ลำธารนำ้ และนำ้ ตกหลายแห่ง เช่น โตนใหญ่ โตนนอ้ ย หนานกฤษณา และโตนปลวิ เปน็ แหล่งทอ่ งเที่ยวทางธรรมชาติเก่าแก่ของจังหวัด มีทางเดินปา่ ศึกษาธรรมชาติ เพอื่ สมั ผสั ธรรมชาติอย่างใกลช้ ิด ซ่ึงอยู่บรเิ วณเดียวกนั กับสถานีศกึ ษาธรรมชาติ และสัตว์ปา่ เขาช่อง เทศกาลงานประเพณีท่นี า่ สนใจ อย่างเทศกาลลกู ลม จดั ตรงกับช่วงเกย่ี วข้าวของตำบลนาหม่นื ศรี ในทางวิทยาศาสตร์อาจมองได้วา่ ลกู ลม มีหลักการทำงานเดียวกันกบั หนุ่ ไล่กาคือ ใชไ้ ล่นกที่ลงมากนิ ข้าวใน แปลงนา แต่ลูกลม ทต่ี ำบลนาหมนื่ ศรแี หง่ นี้ มีความเชื่อมโยงกับความเช่ือ และการเคารพในธรรมชาติผ่าน ตวั แทนความศักดสิ์ ทิ ธแ์ิ หง่ เทพธรรมชาติ กจิ กรรมและเสน้ ทางการทอ่ งเท่ียวเร่ิมที่ การเทีย่ วชมชุมชน ซ่งึ ชาวบ้านจะคลอ้ งผ้าขาวม้าให้ผู้มาเยือน จบิ ชายอดจิกรมิ ทุ่งนา แลว้ แวะไปชมถ้ำเขาช้างหาย จากน้นั ไป รับประทานอาหารกลางวัน แลว้ เรียนรู้การทำลูกลม เลอื กซ้ือผ้าทอนาหมน่ื ศรีสักผืนกอ่ นเดนิ ทางกลับ

12 ลวดลายของผา้ ทอนาหมืน่ ศรี ผา้ ทอนาหม่ืนศรี แบง่ ตามลกั ษณะโครงสร้างของผนื ผ้า ได้ 3 ชนดิ ได้แก่ ผ้าพื้น ผา้ ตา และ ผ้ายกด อก ซง่ึ แตล่ ะชนิดแบ่งย่อยเป็นช่ือลายต่างๆได้อีกหลายลาย 2.1. ผา้ พ้ืน เป็นผ้าทีใ่ ช้ด้ายยนื สเี ดียว มีผา้ พ้นื ธรรมดา แบง่ เป็นผ้าพน้ื สีเรยี บและผา้ พืน้ สีเหลือบ ผา้ หางกระรอก และผ้าลอ่ ง หรอื ผ้าร้วิ มลี ายตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ลายหัวพลู ลายดอกเข็ม ลายดอกขอ่ ย 2.2. ผ้าตา เปน็ ผ้าที่ใชด้ า้ ยยนื สลบั กนั ตง้ั แต่สองสีขนึ้ ไป ลายตาสมุก ลายลูกโซ่ตาราง ลายตานก และ ลายดอกมุด 2.3. ผา้ ยกดอก เป็นผ้าทใี่ ช้ด้ายพุ่ง 2 ชนิด เกิดจากการทอด้วยวธิ ียกดอก หรอื การสร้างลวดลาย โดย การเพิ่มดา้ ย มักใชล้ วดลายด้งั เดมิ ที่มีความซบั ซ้อน ใชจ้ ำนวนตะกอ (เขา) มาก ในอดีตมกี ารทอผา้ เป็นคำสอน ในพระพทุ ธศาสนา ซงึ่ มีจำนวนตะกอนับรอ้ ย ลวดลายเฉพาะของผา้ ยกนาหม่นื ศรี ได้แก่ ลายลูกแกว้ ลายแก้ว ชงิ ดวง ลายลกู แก้วโข่ง ลายลูกแก้วสหี่ นว่ ยในลายราชวัตร ลายดอกจนั ทร์ ลายเกสร ลายดอกกก ลายดอกพิกลุ ปัจจบุ ันมีลวดลายทีน่ ิยมทอเพ่มิ อกี กว่า 30 ลาย เชน่ ลายพิกลุ แกว้ ลายดาวล้อมเดือน ลายลูกแกว้ ลูกศร ลาย ขนมเปยี กปนู ลายลูกหวาย ลายจัตุรัส ลายดาวล้อมเดอื น ลายชอ่ มาลัย ลายชอ่ ลอกอ ลายดอกมะพรา้ ว ลาย ดอกเทียน ลายท้ายมงั คุด ลายเมด็ แตง ลายขา้ วหลามตัด ลายราชวตั รหอ้ ง ลายทนี ัด ลายครฑุ ลายนกเหวก (นกการะเวก) ลายตุ๊กตาถือดอกบัว ลายกนิ รี ลายตัวหนงั สอื และลายประสม ประเภทผ้าทอนาหม่ืนศรี การทอผ้าของชาวนาหม่นื ศรเี ปน็ การทอเพื่อใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ผา้ ท่ีทอสามารถแบง่ ได้ตามการใช้ งาน ในสมยั ก่อนแบง่ ออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ ผ้านุง่ ผา้ หม่ ผา้ เช็ดหนา้ และผา้ ทท่ี อด้วยจดุ ประสงค์พิเศษ ผ้าแต่ ละชนดิ จะมลี ักษณะและลวดลายต่างกนั ไป 2.1 ผา้ นุ่ง ใชเ้ ปน็ ผา้ ถงุ โจงกระเบน 2.2 ผ้าห่ม ทอยกดอกผืนใหญ่ นิยมใช้สำหรับผชู้ าย เปน็ ผา้ โพกศีรษะ พาดไหล่และคาดเอว หากใช้ เป็นผ้าขาวมา้ จะทำเปน็ ตา ส่วนผู้หญิงจะใชผ้ ืนแคบกว่า เหมาะสำหรบั พาดไหลส่ ไบเฉยี ง นิยมลายลกู แกว้ ลาย ดอกจัน ลายดาวลอ้ มเดอื น ลายชงิ ดวง ลายเมด็ แดง ลายช่อมาลัย ลายช่อลอกอลายประสม ลายรปู สัตว์ รูปคน และลายตวั หนังสือ ถ้าใช้เป็นผา้ ขาวม้าจะทอเป็นผ้าตาลายราชวตั ร ผา้ เหล่านี้เก็บไวใ้ ชใ้ นโอกาสสำคัญเท่าน้ัน

13 เชน่ ไปวัด ทำบุญ ตกั บาตร แต่งงาน บวชนาค ในการใช้เป็นผ้าพาด ผู้หญงิ พาดจากไหลข่ วา ผู้ชายพาดจาก ไหลซ่ ้าย 2.3 ผ้าเชด็ หนา้ 2.4 ผา้ ทอดว้ ยจดุ ประสงค์พิเศษ เช่น ผ้าพานช้าง ใชส้ ำหรับพาดบนโลงศพ ผา้ ต้ัง เป็นผา้ ใชส้ ำหรบั พิธแี ต่งงาน เป็นต้น การทำขวัญขา้ ว เข้ารว่ มกิจกรรม“ออกปากเก็บข้าว” ซึง่ กล่มุ วิสาหกจิ ชมุ ชนผ้าทอหมนื่ ศรจี ัดข้ึนเพือ่ ได้เรยี นรวู้ ถิ ชี ีวิต ชาวนา ร้คู ณุ ค่าของขา้ ว รวมท้งั เรียนร้วู ัฒนธรรมโบราณการทำขวญั ข้าว ขอขมาและบชู าพระแม่โพสพ โดย กจิ กรรมภายในงานได้มกี ารจัดใหล้ งทะเบียนเพื่อรบั แกะท่ีใช้สำหรับเกบ็ ข้าว ส่วนของเด็กๆจะใหเ้ ป็นกรรไกร แทน เพื่อร่วมกจิ กรรมลงแขกเกบ็ ข้าวในนา ซึ่งจะมชี าวบา้ นในพ้ืนทีช่ ำนาญในการเก็บขา้ วแนะนำวิธเี ก็บข้าว ด้วยแกะ สรา้ งการเรียนรเู้ รอ่ื งวถิ นี า ให้แก่เด็กๆและผู้ปกครองทีเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรม โดยเช่อื กนั ว่าเมือ่ ทำพิธีนี้ แลว้ พระแม่โพสพจะชว่ ยคุ้มครองขา้ วในนาใหม้ ผี ลผลติ ทีด่ ี อกี ท้ังยังเป็นการสรา้ งขวญั กำลงั ใจแก่ชาวนา ส่วน ข้าวท่ีได้ทำขวญั ข้าวจะทำการเกบ็ หลังจากที่ทุกคนไดร้ ว่ มกันเก็บขา้ วท้ังหมด ซง่ึ ข้าวส่วนนจี้ ะนำไปไว้บนสุดของ ยุ้งข้าวที่เก็บไว้ และหากมีพิธกี รรม ท่ีมีการใชร้ ว่ งข้าว ก็จะนำขา้ วทไ่ี ด้มีการทำขวญั ข้าวสว่ นนี้ไปรว่ มใน พิธีกรรมอกี ด้วย การเลน่ ลกู ลม การทำลกู ลมมอื ถือจำลอง โดยเฉพาะการเปดิ ตัว “ลานลม” พ้ืนท่ีกิจกรรมชว่ งเกบ็ เก่ยี วข้าวหนา้ ร้อน สำหรบั เลน่ วา่ วนาๆชนดิ พรอ้ มโชว์วา่ วพื้นเมืองภาคใต้วถิ ตี รังนา “วา่ ววงเดอื น” และ “ว่าวหัวควาย” ตลอดจนกจิ กรรมการเลน่ อาทิ ยิงหนงั สติ๊ก (ปางนูในภาษาปกั ษ์ใต้) ดว้ ยกระสุนดนิ เหนยี ว สาธิตทำไก่อบฟาง เขยา่ เสยี งดนตรีจากฝักปอเทือง และอน่ื ๆ อีกมากมาย

14 ทุ่งนาเขยี วขจี ประกอบกับพนื้ ทต่ี ำบลนาหมน่ื ศรี รวมท้ังหลายตำบลใกล้เคียงนับเป็นแหลง่ ทำนาปลูกขา้ วท่ีใหญ่ ท่สี ดุ แหง่ หน่งึ ของ จ.ตรงั อีกท้ังขณะน้กี ็ตรงกับช่วงที่ตน้ ข้าวกำลงั เจรญิ เตบิ โตอย่างเตม็ ท่ี เพ่ือต้ังท้องออกรวง และเกบ็ เก่ียวในช่วงหนา้ แลง้ ท่ีกำลังจะมาถึง จงึ ทำให้แลเห็นท้องนาเขยี วชอมุ่ อันกวา้ งใหญ่ และสวยงามอย่าง ยิ่ง โดยเฉพาะหากไดข้ ึ้นไปมองลงมาจากภาพมุมสูง นอกจากน้นั ยังแลเห็นรา้ นอาหารต่างๆ ที่ต่างพยายาม ตกแตง่ ให้ดกู ลมกลืนกับความเปน็ ธรรมชาติ โดยมนี ักทอ่ งเที่ยวเดินทางมาใช้บริการ พร้อมชมบรรยากาศท่ี แสนงดงาม

15 บทท่ี 3 วธิ กี ารดำเนินการคน้ คว้า ข้นั ตอนการดำเนนิ งาน 1.กำหนดหวั ข้อ 2.นำหัวขอ้ ท่กี ำหนดมาขอคำแนะนำจากคุณครูทีป่ รึกษาโครงงาน 3.กำหนดวัตถุประสงคแ์ ละสมมติฐาน 4.นำวตั ถุประสงค์และสมมตฐิ าน มาขอคำแนะนำจากคณุ ครทู ่ปี รกึ ษาโครงงาน 5.สบื คน้ ขอ้ มูลจากอินเทอรเ์ น็ต 6.นำเนื้อหาของข้อมลู ท่ีเกบ็ รวบรวมมาเรยี บเรียง 7.จดั ทำรูปเล่ม 8.นำเสนอผลงานตอ่ ครูทป่ี รึกษาเพื่อรายงานผลการดำเนินงานโดย canva วธิ กี ารดำเนินงาน ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน วสั ดุอุปกรณ์ ผู้รับผดิ ชอบ 1.กำหนดหวั ข้อ - 2.นำหวั ขอ้ ทก่ี ำหนดมาขอคำแนะนำจากคณุ ครูท่ีปรึกษาโครงงาน - 3.กำหนดวตั ถุประสงค์และสมมติฐาน - 4.นำวัตถุประสงค์และสมมติฐาน มาขอคำแนะนำจากคุณครทู ป่ี รกึ ษาโครงงาน - สมาชกิ ในกลุม่ 5.สืบค้นข้อมลู จากอินเทอรเ์ น็ต google 6.นำเนือ้ หาข้อมลู ที่เกบ็ รวบรวมมาเรียบเรียง word 7.จดั ทำรปู เลม่ word 8.นำเสนอผลงานตอ่ ครูท่ปี รึกษาเพื่อรายงานผลการดำเนินงาน canva ตาราง 1 ตารางแสดงวธิ กี ารดำเนนิ งาน

ปฎิทินการดำเนนิ รายงาน 16 วนั /เดือน/ปี การดำเนินงาน ผูร้ บั ผิดชอบ สมาชกิ ในกล่มุ 17/01/65 กำหนดหวั ข้อโครงงาน 21/01/65 สบื ค้นข้อมูลจากการสังเกตและหาจากอนิ เทอรเ์ นต็ 26/01/65 รวบรวมข้อมลู จดั เรียงเป็นรปู เล่มโครงงาน 09/01/65 นำเสนอโครงงาน ตาราง 2 ตารางแสดงปฏทิ ินการดำเนนิ โครงงาน

17 บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาค้นคว้า การศึกษาเรื่อง ชมุ ชนตำบลนาหมืศ่ รีครั้งน้ีเพื่อตอ้ งการศึกษาวถิ ีชีวิต สถานทีท่ อ่ งเท่ยี วและเอกลกั ษณ์ ของชมุ ชนตำบลนาหมืน่ ศรีและเพ่ือต้องการเผยแพร่ข้อมลู เพื่ออนรุ ักษว์ ฒั นธรรมของชมุ ชนตำบลนาหม่ืนศรี โดยมีผลการศกึ ษาดังน้ี 4.1 ผลการศึกษาวถิ ชี วี ิต สถานที่ท่องเที่ยวและเอกลักษณข์ องชมุ ชนตำบลนาหม่ืนศรี วิถชี ีวติ ของคนในชุมชนตำบลนาหมืน่ ศรีเปน็ ชุมชนท่มี ีความสงบ มีความร่มรื่น มีอากาศที่บรสิ ทุ ธ์ิ เพราะ ชมุ ชนนี้มีธรรมชาติท่ีสวยงาม พน้ื ท่สี ว่ นใหญเ่ ป็นทุ่งนาที่เขียวขจี ชาวบา้ นในชุมชนตำบลนาหมน่ื ศรมี ีการ ช่วยเหลือแบ่งปันกนั ระหวา่ งเครือญาติพ่ีน้องและเพ่ือนบา้ น มคี วามเปน็ มติ รทดี่ ีตอ่ กนั และยังมสี ่งิ ท่ีทำให้ ชมุ ชนตำบลนาหมน่ื ศรีมีสเนห่ ์ทีน่ า่ ดงึ ดูดอกี มากมาย ไดแ้ ก่ การมีวิถชี วี ติ ความเป็นอยูใ่ นชนบททเี่ รียบง่าย มี การทำขวญั ขา้ วทปี่ ัจจุบันหาดูไดย้ ากแลว้ มีเทศกาลลูกลมที่เป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะของชุมชนนี้ และยังมี สถานท่ที ่องเทยี่ วขึ้นชื่อของชมุ ชนนีอ้ ีกมากมายท่ีมชี อื่ เสยี ง มีความเป็นเอกลักษณ์อีกอยา่ งหนึ่ง อย่างเช่น สถานท่ที ่องเทีย่ วทางธรรมชาติก็คือ ถำ้ เขาขา้ งหาย ทีม่ ีทั้งตำนานความเชือ่ ตา่ งๆ และสื่อใหเ้ หน็ ถงึ วถิ ีชีวิตความ เป็นอยู่ในอดตี ของชุมชนนี้ อีกทง้ั ยงั มสี ถานท่ีทอ่ งเทย่ี วทางประวตั ศิ าสตร์ เช่น พิพธิ ภัณฑ์มรดกพนื้ บ้านตำบล นาหมืน่ ศรี วัดหัวเขา และ วันหวั ถนน ยงั มีแหล่งท่องเท่ยี วเชิงอาหาร เชน่ ร้านไรม่ ีตาลตะวัน ร้านภหู ลวง ลูกลม และร้านรมิ ธารชมทุ่ง

18 4.2 การเผยแพรข่ ้อมูลเพ่ืออนรุ กั ษ์วฒั นธรรมของชุมชนตำบลนาหมื่นศรี ในการเผยแพรข่ ้อมูลทางกลุม่ ผู้จัดทำจะเผยแพร่ในรูปแบบ E-BOOK ผา่ น Application Facebook และ Instagram story ภาพที่ 9. ภาพผลงานE-Book ภาพที่ 11. ภาพโพสตใ์ น Facebook ภาพท่ี 8. ภาพโพสต์ใน story ig ภาพท่ี 10. ภาพผลงานE-Book

19 บทท่ี 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และ ข้อเสนอแนะ สรุปผลการศกึ ษาคน้ คว้า จากการศึกษาค้นคว้าโครงงานเรื่อง ชุมชนตำบลนาหมืน่ ศรี จากการสบื คน้ ข้อมูลผา่ นเว็บไซต์ วิถชี วี ิต ของคนในชมุ ชนตำบลนาหมน่ื ศรเี ป็นชมุ ชนท่มี ีความสงบ มีความรม่ รื่น มีอากาศทีบ่ รสิ ทุ ธิ์ เพราะชุมชนนม้ี ี ธรรมชาตทิ ส่ี วยงาม พื้นทส่ี ่วนใหญเ่ ป็นทุ่งนาทเ่ี ขยี วขจี ชาวบา้ นในชมุ ชนตำบลนาหมน่ื ศรีมีการช่วยเหลือ แบ่งปันกนั ระหว่างเครือญาติพี่น้องและเพือ่ นบ้าน มีความเป็นมติ รท่ีดีต่อกัน และยังมีสิง่ ทที่ ำใหช้ ุมชนตำบลนา หมืน่ ศรมี ีสเน่หท์ ี่น่าดึงดูดอีกมากมาย ไดแ้ ก่ การมีวิถีชวี ติ ความเปน็ อย่ใู นชนบททเี่ รียบงา่ ย มีการทำขวัญขา้ วที่ ปัจจุบันหาดูไดย้ ากแล้ว มีเทศกาลลกู ลมท่เี ป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะของชุมชนน้ี และยังมีสถานทีท่ ่องเทีย่ วขนึ้ ช่ือของชมุ ชนนี้อกี มากมายทมี่ ีชอื่ เสยี ง มีความเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง อย่างเชน่ สถานท่ีท่องเที่ยวทาง ธรรมชาตกิ ็คือ ถ้ำเขาขา้ งหาย ทม่ี ที ั้งตำนานความเชอ่ื ต่างๆ และส่อื ใหเ้ หน็ ถงึ วิถชี วี ิตความเป็นอยู่ในอดีตของ ชมุ ชนน้ี อกี ทงั้ ยังมสี ถานท่ีทอ่ งเท่ยี วทางประวัติศาสตร์ เช่น พิพิธภณั ฑ์มรดกพื้นบ้านตำบลนาหมน่ื ศรี วัดหวั เขา และ วนั หวั ถนน ยังมแี หลง่ ท่องเทย่ี วเชิงอาหาร เช่น รา้ นไร่มีตาลตะวนั ร้านภหู ลวงลกู ลม และร้านรมิ ธารชมทงุ่ ซ่ึงในการเผยแพร่ข้อมลู ทางกลุ่มผจู้ ัดทำจะเผยแพร่ในรูปแบบ E-BOOK ผ่าน Application Facebook และ Instagram story อภิปรายผลการศกึ ษาคน้ คว้า จากการศึกษาเร่ือง ชุมชนตำบลนาหม่นื ศรี ซง่ึ มวี ัตถุประสงค์เพื่อต้องการศึกษาวิถีชีวติ สถานท่ี ทอ่ งเท่ียวและเอกลักษณ์ของชุมชนตำบลนาหมนื่ ศรี เพื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลเพอ่ื อนุรักษ์วฒั นธรรมของ ชุมชนตำบลนาหมืน่ ศรีสรุปได้ว่า มผี คู้ นให้ความสนใจกับขอ้ มูลท่เี ราได้เผยแพรใ่ นรูปแบบ E-BOOK ผา่ น Application Facebook และ Instagram story เป็นจำนวนมาก ข้อเสนอแนะ ในการศึกษาคร้ังต่อไปควรศกึ ษารายละเอยี ดของแหล่งทอ่ งเทีย่ วทางธรรมชาตเิ พ่ิมเติม และลงพื้นท่ี เพื่อสำรวจเก็บรวบรวมข้อมูลจากผรู้ ูโ้ ดยตรง

20 บรรณานกุ รม ทเ่ี ทย่ี วธรรมชาติ จังหวัดตรัง.//(2564).//ถ้ำเขาชา้ งหาย.//สืบคน้ เม่ือ 24 มกราคม 2565,/จาก/ https://travel.trueid.net/detail/mLP55e8WYO09 พพิ ิธภณั ฑ์ในประเทศไทย.//(2555).//พพิ ธิ ภณั ฑ์มรดกพน้ื บ้านนาหม่นื ศรี.//สืบคน้ เมือ่ 24 มกราคม 2565,/จาก/https://db.sac.or.th/museum/museum-detail/1092 สำนักงานวัฒนธรรม จงั หวดั ตรงั .//(2564).//วัดหัวเขา.//สืบคน้ เมื่อ 25 มกราคม 2565./จาก/ https://www.m-culture.go.th/trang/ewt_news.php?nid=1570&filename=index เทีย่ วทอ่ งลอ่ งใต.้ //(2564).//“ไรม่ ีตาลตะวัน” ร้านอาหารกลางน้ำรอบท้องทุ่ง จ.ตรัง.//สบื ค้นเมอ่ื 25 มกราคม 2565,/จาก/ https://mgronline.com/south/detail/9640000102271 เทย่ี วทอ่ งล่องใต้.//(2564).//ร้านภูหลวงลกู ลม.//สืบคน้ เมอ่ื 25 มกราคม 2565,/จาก/ https://mgronline.com/south/detail/9610000119435 HatyaiFocus.//(2560).//ร้านริมทางชมทงุ่ จังหวดั ตรัง.//สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2565,/จาก/ https://www.hatyaifocus.com/บทความ/457-กนิ -%26-เท่ยี ว-ร้านรมิ ธารชมทงุ่ -จ.ตรงั -- อาหารหลกั สิบ-วิวหลกั ล้าน/ กรงุ เทพธรุ กจิ .//(2561).//ชุมชนท่องเทีย่ งเชิงวฒั นธรรมนาหม่นื ศร.ี //สืบคน้ เมือ่ 26 มกราคม 2565,/จาก/https://www.bangkokbiznews.com/pr-news/biz2u/248514 ผา้ ทอนาหมืน่ ศรี.//(2560).//ลวดลายผา้ ทอนาหมน่ื ศรี.//สืบคน้ เมอ่ื 26 มกราคม 2565,/จาก/ https://sites.google.com/site/deenamueansri/home/pha-thx-na-hmun-sri Museum Thailand.//(2564).//ความสขุ ณ นาหมื่นศรี.//สบื คน้ เมื่อ 27 มกราคม 2565,/จาก/ https://www.museumthailand.com/en/2367/storytelling/ความสขุ -ณ-นาหมืน่ ศร/ี

21


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook