Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book

E-book

Published by huda14561, 2022-01-09 11:53:13

Description: E-book

Search

Read the Text Version

1

2 เคร่ืองมือคัดกรองและประเมนิ ภาวะโภชนาการทีเ่ ป็ นทยี่ อมรับ (Validated nutrition screening and assessment tools) การแปลผลเคร่ืองมือคัดกรองและประเมนิ ภาวะโภชนาการ

3 Malnutrition Screening Tool (MST) Short Nutritional Assessment Questionnaire (SNAQ)

4 Malnutrition Universal Screening Tool (MUST) Nutritional Risk Screening (NRS 2002)

5

6

7

8

9

10

11 Nutrition care process NCP • ABCD • PES •Tool •Problem •NAF •Etiology •NT • sign/symptom •SGA Nutrition Nutrition Assessment Diagnosis Nutrition Nutrition Interventio Monitoring& Evalution • F/U • MNT • re-assessment •goal •plan

12 กระบวนการให้โภชนบาบัด (Nutrition Care Process) กระบวนการให้โภชนบาบดั (Nutrition Care Process) คือกระบวนการท่ีนกั กาหนด อาหารใชใ้ นการดูแลผปู้ ่ วยดา้ นโภชนาการอยา่ งเป็ นระบบการดูแลผปู้ ่ วยแบบรายบุคคล ประกอบไปดว้ ย 4 ข้นั ตอนหลกั คือ การประเมินภาวะโภชนาการ(Nutriton Assessment) การ วินิจฉยั ทางโภชนาการ(Nutriton Diagnosis) การใหแ้ ผนโภชนบาบดั (Nutrition intervention) และการติดตามประเมินผลของแผนโภชนบาบดั (Nutrition Monitoring & Evalution) ข้นั ตอนท่ี 1 : การประเมินภาวะโภชนาการ(Nutriton Assessment) A : Anthropometry assessment คือ การวดั สดั ส่วนร่างกายของผปู้ ่ วย เช่น การชงั่ น้าหนกั ตวั วดั ส่วนสูง เสน้ รอบวงเอว เส้นรอบวงสะโพก ดชั นีมวลกาย รวมถึงการวดั องคป์ ระกอบของร่างกาย B : Biochemistry assessment คือ ขอ้ มูลตา่ งๆจากหอ้ งปฏิบตั ิการ เช่น ระดบั น้าตาล ระดบั ไขมนั ระดบั ของแร่ธาตตุ า่ งๆในเลือด หรือจะเป็นผลปัสสาวะ C : Clinical assessment คือ อาการแสดงออกที่เกิดข้ึนจากการขาดสารอาหารบางชนิด หรือความผิดปกติของร่างกาย เช่น ภาวะโลหิตจางท่ีเกิดจากการขาดธาตเุ หล็ก จะพบวา่ ผปู้ ่ วยมี ภาวะซีดบริเวณเลบ็ มือหรือผวิ หนงั ใตต้ าหรือภาวะบวมในผปู้ ่ วยโรคไตเร้ือรังจะพบวา่ เม่ือใช้ นิ้วกดไปที่บริเวณหนา้ แขง้ ผวิ หนงั จะยบุ บุ๋มลงไป คา้ งอยนู่ าน เป็นตน้ D : Diettary assessment คือ การประเมินรายละเอียดการบริโภคอาหารของผปู้ ่ วยโดย ละเอียด ซ่ึงเคร่ืองมือที่ใชส้ ่วนใหญ่ คือ การจดบนั ทึกการบริโภคอาหาร 3 วนั (3-day Dietary record) การซกั ประวตั ิรับประทานอาหารยอ้ นหลงั 3 วนั (3-day Dietary recall) การสอบถาม ความถี่ในการบริโภคอาหาร(ประวตั ิการรับประทานอาหาร (Food history) เช่น แพอ้ าหาร ศาสนา ความชอบและความเช่ือที่เกี่ยวขอ้ งกบั การรับประทานอาหาร เป็นตน้

13 คานวณพลงั งานที่ได้รับจากการบริโภคอาหาร โดยการเทียบกบั ตารางรายการอาหารแลกเปลยี่ น หมวดอาหาร ปริมาณ/ส่วน โปรตีน ไขมนั คาร์โบไฮเดรต พลงั งาน (กรัม) (กรัม) (กโิ ลแคลอรี) หมวด ขา้ ว-แป้ง ไมแ่ น่นอน 2 - 18 80 หมวดผกั ประเภท ก. 50-70 กรัม ใหพ้ ลงั งาน นอ้ ย รับประทาน ไดต้ ามชอบ ประเภท ข. 50-70 กรัม 2 - 5 25 หมวดผลไม้ ไม่แน่นอน - - 15 60 หมวดเน้ือสตั ว์ ก. ไม่มีมนั เลย 30 กรัม 7 0-1 - 35 ข. เน้ือลว้ น 30 กรัม 7 3 - 55 ค. ไขมนั ปานกลาง 30 กรัม 7 5 - 75 ง.ไขมนั สูง 30 กรัม 7 8 - 100 หมวดนม นมขาดมนั เนย 240 มล. 8 0-3 12 90 นมพร่องมนั เนย 240 มล. 8 5 12 120 นมธรรมดา 240 มล. 8 8 12 150 หมวดไขมนั 1 ชอ้ นชา - 5 - 45

14 ข้นั ตอนที่ 2 : การวินฉิ ัยทางด้านโภชนาการ (Nutriton Diagnosis) ตารางท่ี 1 : ตวั อยา่ งการวินิจฉยั โรคของแพทยแ์ ละการวินิจฉยั ทางดา้ นโภชนาการ การวนิ จิ ฉัยโรค(Medical Diagnosis) การวินิจฉัยด้านโภชนาการ(Nutrition diagnosis) ระบุช่ือโรคที่เก่ียวขอ้ งกบั อวยั วะตา่ งๆหรือระบบการ ปัญหาที่เก่ียวขอ้ งกบั โภชนาการ ทางานตา่ งๆในร่างกาย การวนิ ิจฉยั โรคจะไม่เปลี่ยนแปลงถา้ ผปู้ ่ วยยงั คงมี การวินิจฉยั ทางดา้ นโภชนาการสามารเปลี่ยนแปลงไดต้ าม อาการน้ีอยู่ การปรับเปล่ียนพฤติกรรมการบริโภคของผปู้ ่ วยแมว้ า่ ผปู้ ่ วยยงั คงเป็นโรคเดิมอยกู่ ต็ าม ตวั อยา่ งการวินิจฉยั โรคของแพทย์ เช่นโรคเบาหวาน ตวั อยา่ งการวินิจฉยั ทางดา้ นโภชนาการ เช่น ผปู้ ่ วยบริโภค คาร์โบไฮเดรตมากเกินกวา่ ที่ร่างกายตอ้ งการ โดยทว่ั ไปในตา่ งประเทศใชร้ ะบบ IDNT atadardized Nutrition Diagnosisในการวนิ ิจฉยั ทางดา้ น โภชนาการ เพ่ือใชเ้ ป็นคาศพั ทส์ ากลในการส่ือสารระหวา่ งนกั กาหนดอาหารกบั ทีมสหวิชาชีพที่ดูแลผปู้ ่ วย นอกจากน้ีควรใชห้ ลกั “PES statement” เพอื่ ใชใ้ นการระบุปัญหาสาเหตุและการวนิ ิจฉยั ทางดา้ นโภชนาการ ของผปู้ ่ วย ▪ P : Problem คอื การระบปุ ัญหาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั โภชนาการของผปู้ ่ วย ▪ E : Etiology คือ สาเหตขุ องปัญหาท่ีระบุไว้ ▪ S : Sign/synptoms คอื อาการแสดงของผปู้ ่ วย หรือหลกั ฐานต่างๆ จากการประเมินผปู้ ่ วย(ตามหลกั A-B-C-D) ท่ีบง่ ช้ีใหเ้ ห็นถึงปัญหาท่ีระบไุ ว้ ข้นั ตอนการวินิจฉยั ทางดา้ นโภชนาการ สามารถประเมินภาวะโภชนาการของผปู้ ่ วยไดอ้ ยา่ งครบถว้ นและ นามาวิเคราะห์ เพื่อสรุปเป็นปัญหาที่จะส่งผลใหข้ ้นั ตอนตอ่ ไป คอื ข้นั ตอนการใหแ้ ผนโภชนบาบดั (Nutrition Intervention) ข้นั ตอนที่ 3 : การให้แผนโภชนบาบดั (Nutrition intervention) ข้นั ตอนน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือแกไ้ ขปัญหาท่ีซ่ึงสามารถเลือกใชว้ ิธีการต่างๆที่ไดว้ นิ ิจฉยั ไว้ มีหลาย วธิ ีข้นึ อยกู่ บั ความเหมาะสมกบั ผปู้ ่ วยแตล่ ะคน เช่น การใหค้ าแนะนาปรึกษาทางดา้ นโภชนาการเป็น รายบคุ คลหรือรายกลมุ่ การใหโ้ ภชนศึกษา การวางแผนเมนูอาหารหรือการจดั การอาหารใหก้ บั ผปู้ ่ วย เป็นตน้

15 ข้นั ตอนที่ 4 : การตดิ ตามและประเมินผลของโภชนบาบัด(Nutrition Monitoring & Evalution) ข้นั ตอนน้ีมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ วดั ผลการปฏิบตั ิตามแผน โดยเป็นการติดตามผลดูวา่ ผปู้ ่ วยสามารถ ปฏิบตั ิตามแผนท่ีวางไวไ้ ดบ้ รรลเุ ป้าหมายหรือไม่ ถา้ ผปู้ ่ วยสามารถปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งดีมีความกา้ วหนา้ ใน แนวทางที่ดีข้ึนนกั กาหนดอาหารควรมีการสรุปประเด็นท่ีผปู้ ่ วยทาไดส้ าเร็จตามเป้าหมายใหก้ าลงั ใจเสริม พลงั ใหผ้ ปู้ ่ วยสามารถที่จะปฏิบตั ิเป็นพฤติกรรมที่ถาวรหรือใหอ้ ยใู่ นช่วงยงั่ ยนื (Maintenance Phase) ใน ขณะเดียวกนั กใ็ หท้ าการประเมินภาวะโภชนาการซ้าอีกคร้ัง(Re-Nutrition assessment)เพื่อคน้ หาปัญหาดา้ น โภชนาการอีกคร้ังโดยอาจจะเป็นปัญหาเดิมที่จะปรับเป้าหมายใหเ้ พิ่มข้ึนหรืออาจจะเป็นปัญหาในที่ประเมิน พบเพ่มิ เติม สาหรับในกรณีที่ผปู้ ่ วยที่ยงั ไม่สามารถปฏิบตั ิตวั ไดบ้ รรลุตามเป้าหมายไดน้ ้นั ตอ้ งช่วยผปู้ ่ วยคน้ หาวา่ ปัญหาอุปสรรคใดบา้ งที่อาจจะขดั ขวางท่ีจะทาใหผ้ ปู้ ่ วยไมส่ ามารถบรรลไุ ดต้ ามเป้าหมายท่ีวางไวแ้ ละ ร่วมกนั หาทางแกไ้ ขปัญหากบั ผปู้ ่ วย โดยตอ้ งใหผ้ ปู้ ่ วยเป็นผทู้ ี่จดั การหลกั ในกระบวนการคน้ หาวธิ ีการแกไ้ ข ปัญหาดว้ ยตนเอง เราทาหนา้ ที่เป็นผรู้ ับฟังที่ดีและคอยแนะนาในส่ิงท่ีผปู้ ่ วยตอ้ งการทราบเพ่ิมจะช่วยใหไ้ ป ถึงเป้าหมายท่ีต้งั ไว้ การคานวณพลงั งานท่ตี ้องการ

16 ➢ Schofield equation (1985) ➢ Harris-Benedict equation ➢ Mifflin-St Jeor equation

17 ➢ Ireton-Jones equation

18 NUTRITION LIFE CYCLE Nutrition for Pregnancy น้าหนกั ตวั : แบง่ ตาม BMI ก่อนต้งั ครรภ์ BMI น้าหนกั ตวั ที่แนะนาตลอดการต้งั ครรภ์ <18.5 125-18 18.5-24.9 11.5-16 25.0-29.9 7-115 >30 5-9 Energy: ปริมาณความตอ้ งการพลงั งานต่อวนั ▪ ไตรมาสที่ 1 50 – 100 kcal ▪ ไตรมาสที่ 2 250 – 300 kcal ▪ ไตรมาสที่ 3 450 – 500 kcal Folate ช่วยเสริมสร้างพฒั นาการของระบบประสาทและสมอง ควรไดร้ ับต้งั แต่ไขม่ ีปฏิสนธิ จนถึง 12 สปั ดาห์ ของสปั ดาห์ของต้งั ครรภ์ Fe หญิงต้งั ครรภเ์ สี่ยงต่อการขาดธาตเุ หลก็ และภาวะซีด ซ่ึงทาใหเ้ กิด Poor hemoglobin product ส่งผลตอ่ มดลกู รก และการขนส่ง oxygen ใหท้ ารก มีผลกบั การพฒั นาสมองของทารกในครรภ์ Nutrition for Lectetion Energy : ปริมาณความตอ้ งการพลงั งานตอ่ วนั ▪ 0-5 เดือน +500 kcal ▪ 6-11เดือน +300 kcal Protein โปรตีนที่ควรไดร้ ับเพมิ่ ข้ึน 25 กรัม/วนั หรือ 1.3 g/kg/day

Nutrition for Infancy and children 19 Energy *EER = estimate energy requirement 16-18 ปี 2370 kcal Age Calculation 1890 kcal 0-3 m (89+ wt(kg)-100) +175 4-6 m (89+ wt(kg)-100) +56 7-12 m (89+ wt(kg)-100) +22 Nutrition for Aldolescent 9-12 ปี 13-15 ปี 1800 kcal 2200 kcal Energy/day 1650 kcal 1860 kcal เพศ อายุ Male Female Nutrition for Adult Female Energy and Protein /day Male Age พลงั งาน (kcal) โปรตีน(g) Age พลงั งาน(kcal) โปรตีน(g) 19-30 2260 61 19-30 1780 53 31-50 2190 60 31-50 1780 52 51-60 2180 60 51-60 1770 52 61-70 1790 59 61-70 1560 50 >70 1740 56 >70 1540 49

20 Nutrition Support Therapy ▪ Oral nutrition คือ การใหอ้ าหารทางปาก จะใหเ้ ม่ือระบบทางเดินอาหารของผปู้ ่ วยทางานไดป้ กติ และไม่มีขอ้ หา้ ม ▪ Oral nutrition supplements คอื การใหอ้ าหารทางปาก จะใหเ้ มื่อระบบทางเดินอาหารของผปู้ ่ วย ทางานไดป้ กติ แต่กินไดน้ อ้ ย ไม่เพียงพอกบั ความตอ้ งการ ▪ Enteral Nutrition คือ การใหอ้ าหารในรูปของเหลวใหแ้ ก่ผปู้ ่ วยผา่ นทางสายยางท่ีตอ่ เขา้ กบั กระเพาะอาหารหรือลาไสเ้ ลก็ เหมาะสาหรับผปู้ ่ วยท่ียงั มีการทางานของระบบทางเดินอาหารทางาน ปกติ ▪ Parenteral Nutrition (การใหส้ ารอาหารทางเส้นเลือด) เป็นการใหส้ ารอาหารแก่ผปู้ ่ วยผา่ นทาง ระบบเลือด โดยจะใชใ้ นกรณีท่ีผปู้ ่ วยไมส่ ามารถรับอาหารทางปากหรือทาง Enteral Feeding ได้ โดยจะเป็นการใหส้ ารอาหารเขา้ สู่ระบบเลือดโดย ตรงผา่ นทางเขม็ Catheter โดยไม่ผา่ นระบบการ ยอ่ ยอาหารของผปู้ ่ วย

21 อาหารทางสายยาง (Tube feeding) อาหารทางสายยาง หมายถึง การใหอ้ าหารเหลวผา่ นทางสายยางเขา้ สู่กระเพาะอาหารโดยตรง เพ่อื ใหไ้ ดร้ ับอาหาร น้า และ ยา เพยี งพอกบั ความตอ้ งการของร่างกาย การใหอ้ าหารทางสายยาง จะใหใ้ นผทู้ ่ี ไม่สามารถรับประทานอาหารไดเ้ องหรือมีปัญหาในการกลืน แพทยจ์ ะใส่สายยางลงไปยงั กระเพาะอาหาร โดยตรง อาหารทางสายยาง โดยหลกั การตอ้ งมีอาหารใหค้ รบ 5 หมู่ ไดแ้ ก่ คาร์โบไฮเดรต (ขา้ ว+แป้ง+ น้าตาล) โปรตีน (เน้ือสตั ว,์ ไข่, นม, ถว่ั ) ไขมนั (น้ามนั , ไขมนั สตั ว)์ เกลือแร่+วติ ามิน (ผกั ต่าง ๆ +ผลไม)้ กลา่ วโดยทว่ั ไปตอ้ งใหไ้ ดค้ าร์โบไฮเดรต 40-50% โปรตีน 20-30% ไขมนั 10-20% เกลือ+วิตามิน 10% แลว้ แตว่ า่ ผปู้ ่ วยตอ้ งการหรือตอ้ งหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท จึงจะจดั ทาสูตรอาหารแตกต่างกนั ไปในแต่ละ บคุ คล นอกจากน้ียงั ข้ึนกบั ทอ้ งถ่ินวา่ จะหาซ้ือหรือจดั หาไดส้ ะดวกอีกดว้ ยหรือผลไม้ ตามฤดูกาลก็ประยกุ ต์ เขา้ กบั สูตรอาหารไดเ้ ช่นกนั เคร่ืองมือทีใ่ ช้ 1. กระบอกแกว้ สาหรับใหอ้ าหารขนาด 50 ซี.ซี. (ลกั ษณะเหมือนกระบอกฉีดยา แตป่ ลายท่ีต่อกบั สาย ยางโตกวา่ ) 2. ภาชนะมีฝาปิ ด สาหรับใส่กระบอกแกว้ 3. สาลี แอลกอฮอล์ (70%) 4. อาหารเหลวตามสูตรท่ีแพทยส์ ่งั อุ่นพอดี 5. ยาตามแพทยส์ ง่ั 6. ใส่น้าสะอาด สาหรับลา้ งสาย 50 – 100 ซี.ซี. ข้อควรระวงั ▪ อาหารป่ันควรใชใ้ หห้ มดภายใน 24 ชว่ั โมง ▪ อาหารท่ีเหลือเกบ็ เขา้ ตูเ้ ยน็ ช้นั ลา่ ง ไม่แช่แขง็ ▪ ภาชนะท่ีใชแ้ ละบรรจุ ควรลวกน้าร้อนก่อนเก็บและแยกชุดตา่ งหาก ไม่ควรใชป้ นกบั ผูอ้ ่ืน

22 การคานวณสูตรอาหารทางการแพทย์ • ความเขม้ ขน้ (1:1),(1.2:1),(1.5:1),(2:1) การ Feed : Bolus , Drip continue , Intermittent ➢ วิธีการคานวณ Ex BD (1.2:1) 400*4 feed = 1600*0.8 Free water = 1280 ➢ วิธกี ารคานวณการใช้นม EX Blendera MF (1:1) 300* 4 Feed/day ใชอ้ าหารทางการแพทย์ กี่กรมั 1200/4.52(มาจากพลงั งานของนม) จะได้ 264 กรมั ➢ การคานวณโปรตีน EX สตู ร EN มโี ปรตีน 16% orderแพทย์ (1:1) 360*4 ผปู้ ่วยจะไดร้ บั โปรตนี ? วิธีคิด P 16% = 16/100 ดงั นนั้ 360*4=1440 มีโปรตีน 16/100 * 1440 = 230.4/4 =57.6 g

23 DASH Diet อาหารทางเลือกสาหรับผู้ป่ วยความดนั โลหิตสูง DASH Diet หรือ Dietary Approaches to Stop Hypertension Diet คอื แนวทางโภชนาการเพ่ือหยดุ ความ ดนั โลหิตสูง หลกั การสาคญั ของการรับประทานอาหารแบบแดช คอื ลดการบริโภคอาหารที่มีเกลือโซเดียม ไขมนั อ่ิมตวั ไขมนั รวม และ คอเรสเตอรอลลง และเพิ่มการรับประทานใยอาหาร โปรตีน แคลเซียม แร่ธาตุ ต่างๆ อยา่ งโพแทสเซียม แมกนีเซียม หลกั การ DASH DIET หลกั การรับประทานอาหารแบบ DASH DIET ไดแ้ ก่ ▪ ลดอาหารท่ีมีเกลือโซเดียม รับประทานไดไ้ ม่เกิน 1,500 มิลลิกรัมตอ่ วนั ▪ ลดอาหารที่มีไขมนั อิ่มตวั ▪ รับประทานอาหารคอเลสเตอรอลต่า ▪ เนน้ ผกั ผลไม้ ▪ เนน้ ธญั พชื ปลา ถวั่ เปลือกแข็ง ▪ ด่ืมนมไขมนั ต่า ▪ เลี่ยงเน้ือแดง น้าตาล เคร่ืองด่ืมรสหวาน เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ▪ เลี่ยงผกั ผลไมก้ ระป๋ องหรือผลิตภณั ฑแ์ ปรรูปตา่ ง ๆ ▪ ปริมาณแคลอร่ีตามความตอ้ งการของร่างกายส่วนบุคคล ไม่เกิน 2,000 แคลอร่ีต่อวนั

24 แนวทางการบริโภคอาหารเพื่อควบคุมโรคความดันโลหติ สูง แนวทางการบริโคอาหารเพ่ือควบคมุ โรคความดันโลหติ สูง แบ่งตามพลังงานทีค่ วรได้รับต่อวนั ของแต่ละบุคคล (DASH Diet Calorie Adjustments) จากัดโซเดยี ม 2,300 มิลลกิ รัม รายการอาหาร/ 1,200 1,600 2,000 2,400 ปริมาณอาหาร 1 ส่วน พลงั งาน กิโลแคลอรี่/วนั กิโลแคลอร่ี/วนั กิโลแคลอรี่/วนั กิโลแคลอร่ี/วนั ปริมาณอาหาร 1 ส่วน (กิโลแคลอร่ี) 3 ทพั พี 6 ทพั พี 6-8 ทพั พี 8-10 ทพั พี ขา้ วไมข่ ดั สีหรือขดั สีนอ้ ย ผลไม้ 3-4 ส่วน 4-5 ส่วน 4-5 ส่วน 4-5 ส่วน สม้ กลว้ ย 1 ผลกลาง, ฝร่ัง แอปเปิ้ ล แกว้ มงั กร ½ ผล ผกั 3-4 ส่วน 4-5 ส่วน 4-5 ส่วน 4-5 ส่วน ใหญ่, ผลไมห้ น่ั 6-8 ชิ้นคา, 2-3 แกว้ น้าผลไม้ 120 มิลลิลิตร. นมพร่องมนั เนยและ 3-4 คร้ังต่อ 3 แกว้ 3 แกว้ 3-4 แกว้ ผกั สุก ½ ถว้ ยตวง (1 องุ้ มือ) นมขาดมนั เนย สัปดาห์ ผกั ดิบ 1 ถว้ ยตวง (2 องุ้ มือ) 3- 4 คร้ังตอ่ 4-5 คร้งั ตอ่ 5 คร้ังตอ่ สัปดาห์ ถว่ั และธญั พืชเปลือก 5 ส่วน หรือ 10 สัปดาห์ สัปดาห์ น้าผกั 120 มิลลิลิตร. แขง็ ชอ้ นกินขา้ ว นม 240 มิลลิลิตร โยเกิร์ต 1 2 ชอ้ นชา 5 ส่วน หรือ 10 7 ส่วน หรือ 14 9 ส่วน หรือ 18 ถว้ ย, เนยแขง็ (ไขมนั ต่า) 45 เน้ือสตั วไ์ ม่ติดมนั (เน้ือสนั ใน) ปลา ไก่ ชอ้ นกินขา้ ว ชอ้ นกินขา้ ว ชอ้ นกินขา้ ว กรัม น้ามนั และไขมนั 3 ชอ้ นชา 4 ชอ้ นชา 5 ชอ้ นชา ถว่ั ลิสง อลั มอนล์ วอลนทั น้าตาล เมด็ กระบก พิตาชิโอ 1 กามือ, ใชน้ อ้ ยเทา่ ท่ีจาเป็น หรือนอ้ ยกว่า 6 ชอ้ นชา เมลด็ ธญั พืช เช่น เมลด็ ทานตะวนั เมลด็ แตงโม 2 ชอ้ นโต๊ะ, ถว่ั เมลด็ แหง้ ตม้ สุก ต่างๆ ½ ถว้ ยตวง เน้ือสัตว์ 2 ชอ้ นกินขา้ ว หรือ ประมาณ 1 ฝ่ ามือ, ลกู ชิ้น 4-5 ลูก, กงุ้ ขนาด 4-5 ตวั , ไข่ 1 ฟอง, ไขข่ าว 2 ฟอง น้ามนั 1 ชอ้ นชา, มายองเนส น้าสลดั 1 ชอ้ นโตะ๊ น้าตาลทราย น้าตาลป๊ี บ น้าผ้งึ 1 ชอ้ นชา

25 ตวั อย่างปริมาณโซเดยี มในเครื่องปรุงต่างๆ เครื่องปรุง ปริมาณ โซเดียม (มลิ ลกิ รัม) เกลือป่ น 1 ชอ้ นชา 2,000 น้าปลา 1 ชอ้ นชา 465-600 ซีอิ้วขาว 1 ชอ้ นโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ชอ้ นโตะ๊ 960-1,420 ซอสหอยนางรม 1 ชอ้ นโตะ๊ 1,150 น้าจิ้มไก่ 1 ชอ้ นโตะ๊ 420-490 ซอสพริก 1 ชอ้ นโต๊ะ 202-227 ผงชูรส 1 ชอ้ นชา 220 1 ชอ้ นชา 492 ผงฟู 339 ข้อควรระวงั ในการใช้ DASH Diet DASH Diet สามารถใชก้ บั ผทู้ ี่มีปัญหาสุขภาพและเจ็บป่ วยดว้ ยโรคตา่ ง ๆ ไดส้ ามารถใช่ร่วมกบั การ รักษาดว้ ยยาแผนปัจจุบนั ตลอดจนการใชร้ ่วมกบั การปรับเปล่ียนพฤติกรรมการดาเนินชีวติ ได้ แตก่ ม็ ีขอ้ ควร ระวงั ในการใชก้ บั ผมู้ ีภาวะผิดปกติดงั น้ี 1. ผปู้ ่ วยท่ีเป็นโรคไตเร้ือรัง โรคตบั เร้ือรัง และผทู้ ี่มีปัญหาระบบเรนิน-แองจิโอเทนซิน (reninangiotensin system, RAS) ซ่ึงควรปรึกษาแพทยแ์ ละนกั กาหนดอาหารก่อนเริ่มรับประทาน DASH Diet 2. กลุ่มผปู้ ่ วยที่มีภาวะหวั ใจลม้ เหลวเร้ือรัง เบาหวานชนิดท่ีไม่สามารถควบคุมได้ ผทู้ ี่แพแ้ ลคโตส แพก้ ลูเตน สามารถใช้ DASH Diet ไดแ้ ต่ควรปรับเปล่ียนอาหารใหเ้ หมาะสมกบั โรคท่ีเป็น 3. กลุ่มผปู้ ่ วยโรคไตเร้ือรัง เพราะมีขอ้ จากดั ดา้ นอาหารเนื่องจากมีผลทาให้ไตทางานหนกั มากข้ึน จึง ตอ้ งปรึกษากบั แพทยเ์ ฉพาะทางดา้ นโรคไตโดยเฉพาะก่อนรับประทาน DASH Diet

26 คาศัพท์เฉพาะทางการแพทย์ ศัพท์เฉพาะ(ภาษาองั กฤษ) ความหมาย Ascites ทอ้ งมาน Actual Body Weight (ABW) น้าหนกั ปัจจุบนั Acute Kidney injury(AKI) ภาวะไตบาดเจบ็ รุนแรง Acute Gastroenteritis(AGE) กระเพาะอาหารหรือลาไสอ้ กั เสบ Fracture กระดูกหกั Dangue Fever ไขเ้ ลือดออกระยะแรก Diabetes Mellitus โรคเบาหวาน Hypertension โรคความดนั โลหิตสูง Dyslipidemia โรคไขมนั ในเลือดสูง Cerebro Vascular Accident โรคทางหลอดเลือดสมอง Acute Renal Failure ไตวายฉบั พลนั Chronic Renal Failure ไตวายเร้ือรัง Acute Myocardial Infarction โรคหวั ใจวายฉบั พลนั Congestive Heart Failure หวั ใจวาย Acute Gastroenteritis ลาไสอ้ กั เสบฉบั พลนั Cancer โรคมะเร็ง Chronic Dento Alveolar abscess เป็ นฝี ท่ีเหงือกเร้ื อรัง

27


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook