Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาศาสตร์น่ารู้ 19 9

วิทยาศาสตร์น่ารู้ 19 9

Published by พีรพัฒน์ การเพียร, 2020-02-03 21:30:10

Description: วิทยาศาสตร์ต่างๆ

Keywords: วิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

วทิ ยาศาสตร์นา่ รู้ รวมเรื่องราวต่างๆไวใ้ นหนงั สือเล่มนี้

คานา

สารบญั ก คานา ข 1 สารบญั 2 กระพรบิ ตา 3 กระบวนการคดิ 4 การทรงตัว 5 ทอ้ งรอ้ งจ๊อกๆ นอนหลับ



กะพรบิ ตา ปกติทว่ั ไปคนเรากระพริบตาบ่อยมากระหวา่ งวนั โดยท่ีเราไม่รู้ตวั คนเราจะกระพริบตาได้ 15-20 คร้ัง ต่อนาที แต่ในผทู้ ี่มีปัญหาสายตา สายตาไม่ดี กลา้ มเน้ือตาจะเกร็งตวั ทาใหจ้ านวนคร้ังในการกะพริบตาลดลงมาก การอยู่ หนา้ คอมพวิ เตอร์หรืออ่านหนงั สือติดต่อกนั เป็นเวลานาน กลา้ มเน้ือตาจะเกร็งและเกิดอาการอ่อนลา้ ควรกระตุน้ กลา้ มเน้ือตาดว้ ยการหลบั ตาลง แลว้ ลืมตาข้ึน เพอื่ ช่วยคลายการลา้ อีกท้งั ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม กลา้ มเน้ือตาไดอ้ ีกดว้ ย ในการกระพริบตาควรหลบั ตาเพียงเบาๆอยา่ งเป็นธรรมชาติ ไม่หลบั ตาแน่นจนเกินไป ข้อดขี องการกระพริบตา  ช่วยกระตุม้ ต่อมน้าตาใหม้ ีน้าตาไหลออกมาในปริมาณคงที่ น้าตาช่วยใหค้ วามชุ่มช้ืนแก่ดวงตา  น้าตาซ่ึงไหลจากต่อมน้าตาทาหนา้ ท่ีชุลา้ งสิ่งสกปรกในดวงตา  การกระพริบตาเป็นการบริหารกลา้ มเน้ือตาซ่ึงมีส่วนช่วยในการปรับโฟกสั  กระตุน้ การหมุนเวยี นเลือดบริเวณรอบดวงตา ช่วยคลายอาการเกร็งของกลา้ มเน้ือตา  น้าตามีคุณสมบตั ิป้ องกนั เช้ือโรคใหด้ วงตา ถือเป็นยาหยอดตาธรรมชาติ

ทอ้ งรอ้ งจอ๊ กๆ เชอื่ วา่ หลายคนตอ้ งไดย้ นิ เสยี งทอ้ งรอ้ งเวลาหวิ สาเหตทุ ท่ี อ้ งรอ้ งก็ เพราะสมองซงึ่ เป็ นสว่ นทค่ี วบคมุ ความรสู ้ กึ หวิ ของเราจะคอยจัดลาดบั การ ทางานของกระเพาะอาหารและลาไส ้ ถา้ ในเลอื ดมสี ารอาหารพอเพยี ง สมองกจ็ ะสงั่ ใหร้ ะบบยอ่ ยอาหารทางานชา้ ลง แตเ่ มอื่ ใดทมี่ สี ารอาหารใน เลอื ดนอ้ ยระบบยอ่ ยอาหารจะทางานเร็วขนึ้ เราจงึ ไดย้ นิ เสยี งทอ้ งรอ้ ง ทาไมทอ้ งถงึ รอ้ งเวลาเราหวิ ? แมว้ า่ ทอ้ งรอ้ ง (growl) จะเป็ นสง่ิ ทเ่ี ราได ้ ยนิ บอ่ ยๆ ซงึ่ เกย่ี วขอ้ งกบั ความหวิ และในกระเพาะไมม่ อี าหาร แตม่ นั สามารถเกดิ ขน้ึ ไดท้ กุ เวลาไมว่ า่ จะตอนทก่ี ระเพาะวา่ งหรอื ไมก่ ต็ าม และ ยงิ่ กวา่ นัน้ เสยี งรอ้ งไมไ่ ดม้ าจากกระเพาะเทา่ นัน้ แตม่ กั จะมาจากลาไสเ้ ล็ก อกี ดว้ ย เสยี งทอ้ งรอ้ งมกั จะเกย่ี วขอ้ งกบั ความหวิ เพราะวา่ มนั มกั จะรอ้ งตอน ทกี่ ระเพาะและลาไสว้ า่ ง และอวยั วะภายในอนื่ ๆ ไมไ่ ดส้ ง่ เสยี งออกมา

การเลน่ กฬี า กีฬาเป็นกิจกรรมนนั ทนาการ อาจจะเล่นเพื่อความสนุกหรือเพ่ือสุขภาพท่ีแขง็ แรง การเล่นกีฬาเป็นสิ่งที่ดี มาก เราสามารถเล่นไดท้ ุกเม่ือ ไม่วา่ จะเป็นกีฬาประเภทไหนกช็ ่วยใหส้ ุขภาพดีไดเ้ หมือนกนั และไม่ใช่ เพยี งแต่เล่นเพอ่ื ความสนุกอยา่ งเดียว ยงั ช่วยฝึกทกั ษะ คลายเครียด แถมยงั ช่วยลดความเสี่ยงของกลุ่ม วยั รุ่นไดอ้ ีกดว้ ย กีฬาแต่ละชนิดกใ็ หค้ ุณประโยชน์ตอ่ สุขภาพร่างกายไม่นอ้ ย ในปัจจุบนั สงั คมไทยสนบั สนุนใหค้ นเล่นกีฬาเพอ่ื สุขภาพ หรืออาจจะต่อตา้ นยาเสพติดกม็ ี ตามโรงเรียน หรือฟิ ตเนสส่วนมากจะส่งเสริมทางดา้ นกีฬาเพ่ือจดั การแขง่ ขนั ข้ึนไม่ใช่เพราะกิจกรรมแต่เป็นเพราะการ สร้างความสามคั คีในหม่นู กั กีฬา ความมีน้าใจ การใหอ้ ภยั ซ่ึงกนั และกนั รู้จกั แพร้ ู้จกั ชนะ เราจะเห็นไดว้ า่ การแข่งขนั กีฬามีหลายระดบั และแข่งขนั กนั หลายประเภทมาก ไม่วา่ จะเป็นระดบั โอลิมปิ ก ระดบั ประเทศ ระดบั โลก และคนทว่ั โลกต่างกใ็ หค้ วามสนใจเป็นอยา่ งมาก

การเคลอ่ื นท่ี การเคลอ่ื นทใี่ นฟิ สิกส์ หมายถึง การเปลี่ยนตาแหน่งของวตั ถุในช่วงเวลาหน่ึง ถกู อธิบายดว้ ย การ กระจดั ระยะทาง ความเร็ว ความเร่ง เวลา และอตั ราเร็ว การเคลื่อนที่ของวตั ถุจะถกู สงั เกตไดโ้ ดยผสู้ งั เกตที่เป็นส่วนหน่ึง ของกรอบอา้ งอิง ทาการวดั การเปลี่ยนตาแหน่งของวตั ถเุ ทียบกบั กรอบอา้ งอิงน้นั ถา้ ตาแหน่งของวตั ถุไม่เปล่ียนแปลงเม่ือเทียบกบั กรอบอา้ งอิง อาจกลา่ วไดว้ า่ วตั ถนุ ้นั อยนู่ ่ิงหรือตาแหน่งคงท่ี (ระบบมี พลวตั แบบเวลายง) การเคล่ือนที่ของวตั ถุจะไม่สามารถเปล่ียนแปลงได้ เวน้ เสียแต่มีแรงมากระทา โมเมนตมั คือปริมาณท่ีใชใ้ นการวดั การเคล่ือนท่ีของวตั ถุ โมเมนตมั ของวตั ถเุ กี่ยวขอ้ งกบั มวลและความเร็วของวตั ถุ และโมเมนตมั ท้งั หมดของวตั ถุท้งั หมดในระบบโดดเดี่ยว (อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงไม่ไดร้ ับผลกระทบจากปัจจยั ภายนอก) ไม่ เปลี่ยนแปลงตามเวลาตามที่อธิบายไวใ้ นกฎการอนุรักษโ์ มเมนตมั เนื่องจากไม่มีกรอบอา้ งอิงท่ีแน่นอนดงั น้นั จึงไม่สามารถระบุการเคลื่อนท่ีแบบสัมบรู ณ์ได[้ 1] ดงั น้นั ทุกส่ิงทุกอยา่ งใน จกั รวาลจึงสามารถเคลื่อนท่ีได้

การหายใจ ระบบทางเดนิ หายใจมีหนา้ ท่ีแลกเปลี่ยนก๊าซใหก้ บั ส่ิงมีชีวติ ในมนุษยแ์ ละสตั วเ์ ล้ียงลกู ดว้ ย นมระบบทางเดินหายใจประกอบไปดว้ ย จมูกหลอดลม ปอด และกลา้ มเน้ือระบบทางเดิน หายใจ ออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซดจ์ ะถูกแลกเปลี่ยนที่ปอดดว้ ยกระบวนการแพร่ โดยนา ออกซิเจนเขา้ สู่ร่างกายและคาร์บอนไดออกไซดอ์ อกจากร่างกาย[1][2] สัตวป์ ระเภทอื่น ๆ เช่น แมลงมีระบบทางเดินหายใจท่ีคลา้ ยคลึงกบั มนุษยแ์ ต่มีลกั ษณะทาง กายวภิ าคที่ง่ายกวา่ ในสัตวค์ ร่ึงบกคร่ึงน้าผวิ หนงั ของสัตวก์ ท็ าหนา้ ท่ีแลกเปล่ียนก๊าซไดด้ ว้ ย พืชก็ มีระบบทางเดินหายใจเช่นกนั แตท่ ิศทางการแลกเปล่ียนก๊าซเป็นไปในทางตรงกนั ขา้ มกบั สัตว์ ระบบแลกเปล่ียนกา๊ ซของพืชประกอบไปดว้ ยรูเลก็ ๆ ใตใ้ บที่เรียกวา่ ปากใบ

การเดนิ การเดนิ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพยี งวนั ละ 30 นาที อยา่ งนอ้ ย 4-5 วนั ตอ่ สปั ดาห์ เป็ นการออกกาลงั กายทไี่ มท่ าใหร้ า่ งกายเหนอ่ื ยลา้ จนเกนิ ไป เกดิ แรงกระแทกทขี่ อ้ เทา้ ตา่ เหมาะสาหรับผทู ้ ม่ี ี น้าหนักมาก ผสู ้ งู อายุ ผทู ้ ไี่ มค่ อ่ ยไดอ้ อกกาลงั กาย หรอื ไมไ่ ดอ้ อกกาลงั กายมาเป็ น เวลานาน หากไมส่ ามารถเดนิ ตดิ ตอ่ กนั ไดน้ าน 30 นาที อาจแบง่ เป็ นชว่ ง ชว่ งละ 10-15 นาที แลว้ คอ่ ย ๆ เพม่ิ เวลาใหย้ าวขนึ้ การเดนิ อาจไมเ่ ผาผลาญพลงั งานไดม้ ากเทา่ การวงิ่ หรอื การออกกาลงั กายดว้ ยวธิ อี น่ื แตก่ ็เพยี งพอตอ่ การรักษาสขุ ภาพ ควรเดนิ ในอตั ราเร็วท่ี ทาใหเ้ หงอื่ ออก หวั ใจเตน้ เร็วขนึ้ กวา่ ปกติ ชพี จรเตน้ เร็ว แตไ่ มถ่ งึ กบั หอบหรอื หายใจไมท่ นั ขณะเดนิ ยงั สามารถพดู คยุ ไดต้ ามปกติ ไมค่ วรเดนิ อยา่ งหกั โหมจนเกนิ ไป ไมต่ อ้ งพยายาม เดนิ ใหเ้ ร็วและนานเทา่ กบั หรอื มากกวา่ คนอน่ื เนอ่ื งจากสภาพรา่ งกายและความแข็งแรงของ แตล่ ะคนไมเ่ หมอื นกนั อยา่ งไรก็ตาม แมว้ า่ การเดนิ เพอ่ื ออกกาลงั กายจะงา่ ย สะดวก และ ปลอดภยั กต็ าม แตก่ ไ็ มเ่ หมาะสาหรับผทู ้ ม่ี ปี ัญหาขอ้ เทา้ และหวั เขา่ เนอื่ งจากการเดนิ มากๆ จะทาใหข้ อ้ และเขา่ เกดิ อาการจ็บปวด ควรเปลย่ี นเป็ นการออกกาลงั ดว้ ยวธิ ี อนื่ เชน่ วา่ ยน้า รามวยจนี เป็ นตน้

การกนิ เรอื่ งของการกนิ อาหารกบั สขุ ภาพเป็ นของคกู่ นั มาตง้ั แตเ่ กดิ ตง้ั แตเ่ ราอยใู่ น ครรภ์ของแมจ่ ากการดแู ลครรภ์ การกนิ อาหารระหวา่ งตง้ั ครรภ์ เมอื่ แรกเกดิ ออกมาก็ดแู ลอาหาร ดว้ ยน้านมจากแมก่ บั อาหารในวยั ทารก ตอ่ มาเป็ นวยั เด็กในระดบั ขน้ั ตอน ตา่ ง ๆ ความสาคญั ของอาหารกบั สขุ ภาพกอ่ เกดิ ในตวั ตนมนุษย์ มนุษย์เรอื่ ง กนิ เป็ นเรือ่ งใหญ่ เรอื่ งกนิ เป็ น เรือ่ งสาคญั และถอื เป็ นเรอื่ งใหญ่ ในเรอื่ งทวี่ า่ จะกนิ อยา่ งไร มีเยอะก็ รบั ประทานเยอะ ไมม่ รี บั ประทานก็กนิ กนั แบบขาดสารอาหาร กนิ หรอื บรโิ ภคมากเกนิ ไปก็ทาใหอ้ ว้ น กนิ อยา่ ง ไมม่ สี ติ กนิ อยา่ งไมร่ ทู้ นั ก็มีโทษ จงึ เหน็ วา่ ความสมั พนั ธอ์ าหารกบั สขุ ภาพ เป็ นสง่ิ สาคญั ทเี่ ราควรจะตอ้ งเรียนรูใ้ นเบอ้ื งตน้

แหลง่ อา้ งองิ ขอบคณุ จาก Yuwadee 2018 83 เรอ่ื งนา่ รทู้ างวทิ ยาศาสตร์ ออนไลน ์

เสนอ คณุ ครู ประภสั สร ก๋าเขียว โรงเรียนแจ้หม่ วิมยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook