ผงั มโนทศั น์ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหสั วิชา อ 21101 ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง First Day at School จานวน 15 ช่ัวโมง : 20 คะแนน Greeting and introduction + กจิ กรรม New Languag (5 ช่ัวโมง) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง First Day at School จานวน 15 ชว่ั โมง โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ Verb to be Wh- Questions: Who, What, - ประโยคบอกเลา่ Where -ประโยคปฏเิ สธ (5 ช่ัวโมง) -ประโยคคาถาม (5 ชัว่ โมง)
แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง First Day at School แผนจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่ือง Greeting and introduction รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ 21101 ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนักเวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ การเรียนร้นู ีม้ ีจดุ มุง่ หมายให้นักเรียนเรยี นรคู้ าศัพท์ อา่ นออกเสยี งบทสนทนา เขา้ ใจบทสนทนาทีอ่ ่านและ ฟงั เขยี นเปรียบเทยี บข้อมูลเก่ียวกับโรงเรยี นของไทยกบั ต่างประเทศ พดู เกีย่ วกับข้อมลู สว่ นตัว และค้นควา้ ขอ้ มูล เกย่ี วกับโรงเรยี นของประเทศต่าง ๆ แลว้ นาเสนอผลงานการคน้ ควา้ 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัดช้นั ปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ (ให้ตรงกบั หลักสูตรแกนกลาง 2551 ปรับปรุง 2560) ต. 1.1 ม.2/4 ระบุหัวขอ้ เรือ่ ง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและ อา่ น บทสนทนา นทิ าน และเรื่องสน้ั ต. 3.1 ม.2/1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู / ข้อเท็จจรงิ ที่เก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจาก แหล่งเรียนรู้ และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน ต. 4.1 ม.2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดขนึ้ ในห้องเรียนและ สถานศึกษา 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge 1. การทกั ทาย ถามและแนะนาตัวเองและผู้อนื่ เกี่ยวกับข้อมูลสว่ นตัวและเรื่องในโรงเรยี น 2. คาศพั ท์ในบทเรยี น grade (n.) ordinal numbers ,(n.) school subjects (n.) = Math, Health, Science, Family and consumer Scienes, Computer Science ,Language Arts, Languages, History, Music, Geography, P.E. , 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรยี นแสดงบทบาทสมมตจิ ากบทสนทนาทฟ่ี ังและอ่านได้ 2. นกั เรียนบอกความหมายคาศัพทร์ ายละเอยี ดจากขอ้ มลู ทฟี่ งั และอ่านได้ 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude
1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งม่ันในการทางาน 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 1 ความสามารถในการส่ือสาร 2 ความสามารถในการคิด 3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คณุ ลักษณะของวิชา ใหเ้ ลอื กเฉพาะที่ตรงหรือสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นในหนว่ ยนีแ้ ละต้องประเมนิ ได้ 1. การฟงั : ฟังข้อมูลและระบุรายละเอยี ด 2. การพดู : พดู ทักทายตวั เองและผู้อื่น 3. การอ่าน : อ่านคา และประโยค 4. การเขียน: เขียนคาและเขียนบรรยายขอ้ มลู ทค่ี ้นควา้ 6. คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุง่ ม่ันในการทางาน 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. การแสดงบทบาทสมมตจิ ากบทสนทนาที่ฟังและอา่ นได้ 2. เขยี นตามคาบอก 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ (จดั กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการใด แสดงตามข้นั ตอน : เวลาทใ่ี ช้ 5 ช่ัวโมง ชัว่ โมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวิเคราะห์/ใฝเ่ รียนรู/้ เทคนิคการสบื ค้น) 1.นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่เรียนรู้/เทคนคิ การสบื ค้น) - ครูพูดแนะนาตนเองและบอกข้อมลู สว่ นตวั ของครโู ดยย่อให้นกั เรียนฟัง - ครูใหน้ กั เรยี นแนะนาตนเองและบอกข้อมลู ส่วนตัวแก่เพ่ือนและครู โดยใชโ้ ครงสรา้ ง ดังน้ี - I’m (…..first name + last name….). My favorite subject is English. - ครูพยายามใหน้ ักเรยี นพูดและครไู มแ่ ก้ไขข้อผดิ พลาดในขณะทนี่ ักเรียนพูด และให้นกั เรยี นพูดหนา้ ช้นั เรยี นจนครบทกุ คน - ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เกย่ี วกบั คานาหน้านาม โดยเขยี นบนกระดาน ดังนี้ Mr. ใชก้ บั ผชู้ าย Mrs. ใชก้ บั ผ้หู ญงิ ท่ีแตง่ งานแลว้ Miss ใชก้ บั ผู้หญงิ ทย่ี ังไม่แต่งงาน Ms. ใชไ้ ด้ท้งั กบั ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และยงั ไม่แต่งงาน
- ครูช้ไี ปที่นักเรยี น 1 คน แล้วพูดวา่ This is (name). และครูให้นกั เรยี นคนนน้ั พูดวา่ I’m (name). เสรจ็ แล้วนกั เรียนคนเดิมชี้ ไปท่ีเพื่อน แล้วพูดเหมือนท่ีครูพูด แล้วนักเรยี นคนที่เพื่อนช้กี พ็ ูดแนะนาตนเองเหมือนท่ี เพื่อนทา ครใู หน้ ักเรียนทากจิ กรรมนีจ้ นครบทุกคน 2. แจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ - ครบู อกนักเรียนว่า ในหน่วยการเรียนรนู้ น้ี กั เรยี นจะได้ฟังและอ่านบทสนทนาเก่ยี วกบั ข้อมลู สว่ นตวั ของ บคุ คล แลว้ สามารถบอกความหมายของคาศพั ท์และรายระเอยี ดของข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการฟงั และอา่ น และแสดง บทบาทสมมติได้ 3. ฟังและอา่ นข้อมลู ของบุคคล (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่เรียนร/ู้ ชว่ ยกันคิดช่วยกนั เรยี น) - ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 2 ให้นักเรียนดูรูปภาพและให้นักเรียนบอกว่า นักเรียนเห็นอะไร ในรปู ภาพ โดยครใู ชค้ าถามนาเพือ่ กระตนุ้ ให้นกั เรียนพดู ดังน้ี - Who are the people? - Where are they? - How old are they? - What are they doing? 4. กจิ กรรม New Language (ขน้ั อธิบายและลงขอ้ สรุป/ขั้นดาเนินการค้นหาคาตอบและตรวจสอบคาตอบ) - ครูเปดิ บทสนทนาในกิจกรรม New Language ให้นักเรยี นฟงั แล้วเปดิ สอ่ื บัตรคาใหน้ กั เรยี นดู 1. Grade = 7. Math= 2. school subjects 8. Computer Science = 3. Science= 9. History= 4. Family and consumer Scienes= 10. P.E. = 4.Languages = 11. Music= 5.Geography= 12.Health = 6. Ordinal numbers = - จากนนั้ ครอู ่านแลว้ ใหน้ ักเรยี นอ่านตามแลว้ ร่วมกันหาคาแปล 1. Grade = ระดับชน้ั เรียน 6. Ordinal numbers = เลขลาดบั 2. school subjects วชิ าเรยี น 7. Math= คณติ ศาสตร์ 3. Science= วชิ าวทิ ยาศาสตร์ 8.Computer Science = วชิ าวทิ ยาศาสตร์คอมพวิ เตอร์ 4. Family and consumer Scienes=,วทิ ยาศาสตรค์ รอบครัวและการบริโภค, 4.Languages = วชิ าภาษาศาสตร์ 9.History= วิชาประวติ ศาสตร์ 11. Music= วชิ าดนตรี 5.Geography= วิชาภูมสิ ตร์ 10. P.E. =วิชาพละศกึ ษา 12Health = วชิ าสขุ ศึกษา
- เมือ่ นักเรียนเรยี นรู้คาศพั ท์แล้ว ครูให้นักเรยี นฟังบทสนทนาอีก 1 ครง้ั เพือ่ เดาบริบทของสถานการณ์ในบท สนทนา จากนน้ั ครูพานกั เรยี นอ่านทลี ะประโยคแล้วร่วมกันแปลความหมายของบทสนทนาน้นั ชวั่ โมงที่ 3 (ขน้ั ขยายความรูแ้ ละนาเสนอผลการคน้ หาคาตอบ) - นกั เรียนทบทวนคาศัพทท์ ี่ไดเ้ รยี นโดยการอ่านและแปลพร้อมกนั - ครูทบทวนบทสนทนาและให้นกั เรยี นนาคาศัพท์ทีไ่ ด้เรียนไปประยุกตใ์ นบทสนทนาเพือ่ แสดงบทบาท สมมตุ เิ ปน็ กลมุ่ ชั่วโมงที่ 4-5 ( ขัน้ สรปุ และประเมินผล ) - ครูสุ่มเขยี นตามคาบอก 10 คาพร้อมเขียนคาแปล 1. Grade= ระดบั ชน้ั เรยี น 10. History= วชิ าประวิติศาสตร์ 2. school subjects วิชาเรยี น 3. Computer Science = วชิ าวิทยาศาสตร์คอมพวิ เตอร์ 4.Family and consumer Scienes=,วิทยาศาสตร์ครอบครวั และการบริโภค, 5. Languages = วชิ าภาษาศาสตร์ 6. Geography= วชิ าภูมสิ ตร์ 7. Ordinal numbers = เลขลาดบั 8. Science= วิชาวิทยาศาสตร์ 9. Physical education (P.E.) = วิชาพละศึกษา - ครูใหน้ ักเรยี นแสดงบทบาทสมมตุ ิเปน็ กลมุ่ - ครูและนักเรยี นสรปุ บทเรยี นรว่ มกัน จานวน สภาพการใชส้ อ่ื 9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1 ชุด ขนั้ ตรวจสอบความรู้เดิม รายการส่อื 1 ชดุ ขน้ั สร้างความสนใจ 1 ชดุ ขน้ั ขยายความรู้ 1. หนังสอื เรยี น New World 2. คลปิ เสียงบทสนทนา 3. ส่ือบตั รคาศัพท์
10. การวัดผลและประเมนิ ผล เป้าหมาย หลักฐานการเรียนรู้ วธิ วี ัด เครื่องมอื วดั ฯ ประเด็น/ เกณฑ์การใหค้ ะแนน การเรยี นรู้ ชิน้ งาน/ภาระงาน แบบทดสอบ เฉลยคาศัพทแ์ ละคา 5 คะแนน ดมี าก เขยี นตามคา แปล 4 คะแนน ดี - บอกความหมาย เขียนตามคาบอก บอก 3 คะแนน ปานกลาง 2 คะแนน พอใช้ คาศัพท์รายละเอยี ด 1 คะแนน ปรบั ปรงุ 5 คะแนน ดมี าก จากข้อมูลท่ีฟังและ 4 คะแนน ดี 3 คะแนน ปานกลาง อ่านได้ 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรุง - แสดงบทบาทสมมติ แสดงบทบาทสมมติ แสดงบทบาท แบบประเมินบทบาท จากบทสนทนาท่ีฟงั สมมตเิ ปน็ กล่มุ สมมติ (การสนทนา) และอ่านได้ 11. การบรู ณาการตามจุดเน้นของโรงเรยี น หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผ้เู รียน พอเพยี ง พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ 1. ความพอประมาณ รู้จกั ใช้เทคโนโลยีมาผลติ สื่อท่ี มีจิตสานึกที่ดี เอ้อื อาทร 2. ความมเี หตผุ ล เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนื้อหาเป็น ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ 3. มีภมู คิ มุ กนั ในตัวที่ดี ประโยชนต์ ่อผู้เรยี นและพัฒนาจากภมู ิ สว่ นรวม/กล่มุ ปัญญาของผู้เรียน - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดนง่ิ ท่หี าหนทางในชวี ิต หลดุ พน้ ถูกต้อง สุจรติ แมจ้ ะตกอยู่ในภาวะขาด จากความทุกขย์ าก (การคน้ หาคาตอบ แคลน ในการดารงชวี ติ เพื่อให้หลุดพ้นจากความไมร่ )ู้ ภมู ิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวัง ระมดั ระวัง สร้างสรรค์
4. เงอื่ นไขความรู้ ความรอบรู้รอบด้าน ความ ความรอบร้ปู รมิ าณที่เกย่ี วข้อง การ รอบคอบทจ่ี ะนาความรเู้ หล่าน้นั มา คานวณสูตรทต่ี ้องใช้ สามารถนา พจิ ารณาใหเ้ ชื่อมโยงกนั เพ่อื ความรู้เหลา่ นัน้ มาพจิ ารณาให้เชอื่ มโยง ประกอบการวางแผน การดาเนนิ การ กัน สามารถประยุกต์ จดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้กบั ผเู้ รียน ใช้ในชวี ิตประจาวนั 5. เงอื่ นไขคุณธรรม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี ความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ และมีความอดทน ความซ่ือสตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ มคี วามเพียร ใชส้ ติปัญญาในการ ดาเนินชวี ติ ดาเนินชีวิต สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ครู ผเู้ รยี น คาศพั ทท์ ่ีเกียวกับรายวิชา การนาสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน -จับใจความสาคัญจากบทสนทนา สวนพฤกษศาสตร์ บรู ณา การส่กู ารเรียนการสอน นิทาน เร่อื งสน้ั เกยี่ วกบั ตน้ ไม้ ส่ิงแวดล้อม ครู ผู้เรียน คาศัพท์และการบรรยายเกยี ว - การใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นเป็น - พดู /เขยี นบรรยายข้อมลู เกีย่ วกับ กบั รายวิชาสวนพฤกษศาสตร์ สอ่ื การเรียนการสอน (พูด/เขียน ตนเอง กจิ วตั รประจาวัน ประสบการณ์ บรรยายข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง กิจวัตร เกี่ยวกับงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประจาวนั ประสบการณ์ เกีย่ วกบั งาน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น) ลงชื่อ..................................................ผ้สู อน (นางสาวพิทยา วิทยาจัดการ) หมายเหตุ - แบบทดสอบเขียนตามคาบอก - เฉลยแบบทดสอบเขียนตามคาบอก - เกณฑ์การคะแนนเขียนตามคาบอก - แบบประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ
Vocabulary แบบทดสอบเขยี นตามคาบอก Name……………………………………………………………………No…………………..Class………… 1. = 2. = 3. = 4. = 5. = 6. = 7. = 8. = 9. = 10. = รวมคะแนน =
Vocabulary เฉลยแบบทดสอบเขยี นตามคาบอก Name……………………………………………………………………No…………………..Class………… 1. Physical education (P.E.) = วิชาพละศกึ ษา 2. Family and consumer Scienes = วิทยาศาสตร์ครอบครวั และการบริโภค 3. Computer Science = วชิ าวทิ ยาศาสตรค์ อมพวิ เตอร์ 4. History = วชิ าประวิตศิ าสตร์ 5. Languages = วชิ าภาษาศาสตร์ 6. Geography = วิชาภูมสิ ตร์ 7. Science = วิชาวิทยาศาสตร์ 8. Ordinal numbers = เลขลาดบั 9. Grade = ระดับช้นั เรียน 9. school subjects = วิชาเรยี น = วชิ าประวติ ิศาสตร์ 10. History
เกณฑ์การคะแนนเขยี นตามคาบอก 5 คะแนน 4คะแนน 3คะแนน 2คะแนน 1คะแนน 0คะแนน (ปรบั ปรุง) (ไม่ผา่ นเกณฑ์) (ดีมาก) (ด)ี (ปานกลาง) (พอใช้) เขยี นคาศัพท์และ เขยี นคาศัพท์และ ความหมายถูกต้อง ความหมายถูกต้อง เขยี นคาศัพท์และ เขยี นคาศัพท์และ เขยี นคาศัพท์และ เขียนคาศัพท์และ 3-2 คะแนน 0-1 คะแนน ความหมายถูกต้อง ความหมาย ความหมาย ความหมาย 9-10 คะแนน ถกู ต้อง 7-8 ถูกต้อง 5-6 ถูกต้อง 4-5 คะแนน คะแนน ปาน คะแนน กลาง
แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ ผปู้ ระเมนิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ครู นกั เรยี น วิชา ภาคเรยี นที่ ปีการศกึ ษา ชัน้ / วันที่ เดือน พ.ศ... กลมุ่ ที่ ชือ่ -สกุล ูพดโต้ตอบได้ตรงประเด็น ขอ้ เสนอแนะ/ ใ ้ชภาษา ูถกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม แสดงบทบาทและใ ้ชน้าเสียงสมจริง น้าเสียงชัดเจน ออกเสียง ูถก ้ตอง ูพดคล่องแคล่ว รวม 111115 เกณฑก์ ารประเมนิ ลงชอ่ื ……………………….ผปู้ ระเมนิ (........................................) 5 คะแนน ดมี าก 4 คะแนน ดี 3 คะแนน ปานกลาง 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ควรปรบั ปรงุ
แบบบันทึกหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นรู้ (Learning Outcome) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ลงชื่อ…………………………………..….…………………….. ( นางสาวพทิ ยา วิทยาจัดการ ) นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู วันท.่ี .....เดอื น..................พ.ศ............
ความคิดเห็นของครูพี่เลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ......................................................ผู้ตรวจ (นายชาญยุทธ สทุ ธธิ รานนท์) ครพู ี่เล้ยี ง วนั ที่ ....../ ........... / ............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………………………………….... (นางวลิ าวัลย์ ปาลี) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 วันท่ี ....../ ........... / ........
แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง First Day at School แผนจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง Verb to be รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ 21101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 น้าหนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชว่ั โมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สาระสาคัญ การเรยี นรู้น้ีมีจุดมุ่งหมายให้นักเรยี นเรยี นรูค้ าศัพท์ อา่ นออกเสียงบทสนทนา เขา้ ใจบทสนทนาทอี่ ่านและ ฟงั เขยี นเปรียบเทียบข้อมลู เกี่ยวกับโรงเรียนของไทยกบั ต่างประเทศ พดู เก่ียวกับข้อมลู ส่วนตัว และค้นควา้ ข้อมูล เกี่ยวกับโรงเรยี นของประเทศตา่ ง ๆ แลว้ นาเสนอผลงานการค้นคว้า 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ช้นั ป/ี ผลการเรียนรู/้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ (ให้ตรงกบั หลกั สตู รแกนกลาง 2551 ปรับปรุง 2560) ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดตา่ ง ๆ และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.2/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้น/คน้ คว้า รวบรวมและสรุปความร/ู้ ข้อมูลต่าง ๆ จาก ส่อื และแหล่งการเรียนรูต้ า่ ง ๆ ในการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชีพ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge - ภาษาที่ใช้ในการสอบถามและใหข้ ้อมูลสว่ นบคุ คล - คาศัพท์และสานวนภาษาที่เกี่ยวข้อง - โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Verb to be - Wh- Questions: Who, What, Where 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - อ่านออกเสียงบทสนทนาท่ีกาหนดไดถ้ ูกต้อง - พูดนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง - ใช้ภาษาในการกรอกแบบฟอร์มใบสมัครได้ถูกต้อง
3.3 คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude - ใช้ภาษาถูกกาลเทศะ - มนั่ ใจในการใช้ภาษา 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น 1 ความสามารถในการสื่อสาร 2 ความสามารถในการคิด 3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. คุณลกั ษณะของวชิ า ให้เลอื กเฉพาะท่ตี รงหรือสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนในหน่วยนแี้ ละตอ้ งประเมนิ ได้ 1. การฟงั : ฟงั ข้อมูลและระบุรายละเอยี ด 2. การพดู : พดู ทักทายตัวเองและผู้อื่น 3. การอา่ น : อ่านคา และประโยค 4. การเขยี น: เขยี นคาและเขียนบรรยายขอ้ มลู ที่ค้นควา้ 6. คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุง่ ม่นั ในการทางาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน -ถอ้ ยคาอา่ นออกเสียง บทสนทนาในกิจกรรม Grammar A -การกรอกแบบฟอร์มใบสมัครในกิจกรรม Grammar C 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (จดั กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาทใ่ี ช้ 5 ชว่ั โมง ชวั่ โมงท่ี 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห/์ ใฝเ่ รยี นร/ู้ เทคนคิ การสืบคน้ ) 1.นาเข้าสู่บทเรียน - ทบทวนความรเู้ ดิมเรื่อง Verb to be โดยครเู ขยี นคาสรรพนามทั้งที่เปน็ เอกพจน์และพหพู จน์บน กระดาน หลงั จากนนั้ ครูวาดตารางซง่ึ มีหวั ข้อ is/am/are และใหน้ ักเรยี นจัดกลุ่มคาสรรพนามกบั Verb to be ท่ี เหมาะสม ครูและนักเรียนเฉลยคาตอบร่วมกัน 2. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ครูบอกนักเรยี นว่า ในหนว่ ยการเรียนรู้น้นี ักเรียนจะได้เรียนร้เู กี่ยวกับโครงสรา้ งทางไวยากรณ์เร่ือง Verb to be และ Wh- Questions แล้วสามารถนาความรูม้ าประยุกตใ์ ช้ได้ 3. เขา้ ใจและใช้ Verb to be - ครใู ห้นกั เรียนศึกษารายละเอยี ดเรื่อง Verb to be จากกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หน้า 5 หลังจากนั้นครเู ขยี นคาสรรพนามบนกระดาน และให้นักเรียนบอก Verb to be ทีใ่ ช้กับคาสรรพนามเหลา่ น้ี
- I You We They He She - ครูให้นกั เรียนบอกรปู ย่อของคาสรรพนามกับ Verb to be และครเู ขียนรปู เต็ม เช่น - He’s = He is - I’m = I am - You’re = You are - She’s = She is - We’re = We are - They’re= They are - ครอู ธบิ ายนกั เรยี นวา่ I, He, She เป็นคาสรรพนามเอกพจน์ We, They เป็นคาสรรพนามพหูพจน์ และ อธิบายนักเรยี นเพิ่มเติมว่า You เปน็ ได้ทง้ั คาสรรพนามเอกพจน์และพหูพจน์ - ครูใหน้ กั เรียนฝกึ การใช้ Verb to be โดยครพู ูดคาสรรพนาม I/You/He/She/We/They แล้วให้ นักเรยี นพดู รูปย่อของคาสรรพนามและ Verb to be ดังนี้ - Teacher: He is - Students: He’s - ครพู ดู เป็นรูปประโยคเตม็ ๆ และนกั เรยี นพดู เป็นประโยครปู ยอ่ เช่น - Teacher: He is tall. - Students: He’s tall. - ครูเขยี นประโยคทีส่ มบรู ณบ์ นกระดาน และใหน้ ักเรียนเขียนเปน็ ประโยคปฏเิ สธ เช่น - Teacher: They are from Mexico. - Students: They aren’t from Mexico. - ครูบอกนักเรยี นวา่ ในการเขียนเปน็ ประโยคปฏเิ สธสามารถเขยี นได้ 2 แบบ และครเู ขียนใหน้ กั เรยี นดบู น กระดาน ดงั น้ี - Teacher: They are from Mexico. - Students: They aren’t from Mexico. They’re not from Mexico. - ครเู ขียนคาสรรพนาม I/You/He/She/We/They แล้วใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคเปน็ รูปปฏิเสธทั้ง 2 แบบ ครูบอกนักเรยี นวา่ การเขยี นประโยคปฏิเสธของประธาน I เขยี นรูปยอ่ ได้แบบเดยี วเทา่ นั้น ครเู ขยี นตัวอยา่ งให้ นกั เรยี นดู บนกระดาน คอื I am not… = I’m not… - ครเู ขียนประโยคบอกเลา่ บนกระดาน และให้นักเรียนอาสาสมัครเปลีย่ นเปน็ ประโยคปฏิเสธ เช่น
- I’m in seventh grade. = …………………………………. - He’s from France. = …………………………………. - ครูใหน้ กั เรยี นทบทวนความรจู้ ากกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หนา้ 5 อกี คร้ัง เสร็จแล้วครถู ามและ ใหน้ กั เรียนตอบโดยใชค้ าถามเหลา่ น้ี คือ - Are you French? - Is John in seventh grade? - หลงั จากน้ันครใู หน้ ักเรียนศึกษาเนื้อหาเกีย่ วกับการถามและการตอบคาถามแบบสั้นจากกรอบ Grammar แลว้ ครูสรปุ ให้นักเรียนฟังว่า รูปแบบการปฏิเสธมี 2 รปู แบบ แตส่ าหรบั ประธานที่เป็นสรรพนาม I สามารถตอบได้ แบบเดียวเท่านั้น - ครอู า่ นคาถามทางซ้ายมือในกรอบ Grammar ให้นักเรยี นตอบรับในรปู ประโยคบอกเล่า หลงั จากน้นั ให้ ตอบปฏเิ สธ โดยใหน้ กั เรียนตอบปฏิเสธท้ัง 2 รูปแบบ - ครูใหน้ ักเรยี นเขยี นประโยคคาถามและคาตอบโดยใช้ Verb to be และให้นักเรยี นพดู นาเสนอคาถาม และให้เพอ่ื นในช้ันเรียนตอบแบบส้ัน - Wh- Questions: Who, What, Where - ครวู าดตารางและเขียน Who, What, Where บนกระดาน และเขียนคาตอบกากับ ดังน้ี Question words Question words Who’s that? That’s Ivan. It’s Petrovitch. What’s his last name? He’s from Russia. Where’s he from? - ครูอา่ นประโยคคาถามและชี้คาตอบให้นักเรยี นอา่ นพร้อมกนั หลังจากนนั้ ครใู ห้นักเรียนศกึ ษาเน้ือหา เรือ่ ง Wh- Questions จากกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หน้า 5 อกี ครงั้ เป็นการทบทวน และครยู า้ ว่า Who’s และ What’s เป็นรูปยอ่ ของ Who is และ What is - ครูอา่ นคาถามทางซา้ ยมือในกรอบ Grammar และครูใหน้ กั เรียนอ่านคาตอบพร้อมกัน - ครูเขยี นคาถามและคาตอบบนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรยี นจับคู่คาถามและคาตอบที่ถูกต้อง ดงั นี้ Match the question words with the answers. Question words Answers 1. What’s Emma’s favorite subject? A. It’s Ivan. 2. Who is the new math teacher? B. It’s science. 3. What’s your name? C.He’s Mr. Wilson. (เฉลยคาตอบ: 1 = B, 2 = C, 3 = A)
- ครอู าจใหน้ ักเรยี นฝึกทาแบบฝกึ หดั ใหม้ าก ๆ เพื่อฝกึ ความชานาญ 4. อา่ นออกเสยี งบทสนทนาท่ีใช้ Verb to be - ครูให้นักเรยี นทากจิ กรรม Grammar A ในหนงั สือเรียน หน้า 5 - ครอู ่านออกเสียงคาสง่ั และอ่านประโยคคาถามแรก และใหน้ ักเรียนเตมิ Verb to be ที่ถกู ต้องลงใน ชอ่ งวา่ ง ครูพูดประโยคที่สมบูรณ์ ดงั น้ี Who is that boy? ครูใหน้ กั เรยี นพูดประโยคท่ใี ช้รูปย่อของ Who is คอื Who’s และครูอธิบายนักเรียนเพ่มิ เติมว่า Who’s นยิ มใช้ในภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน - ครูใหน้ ักเรียนทากิจกรรม Grammar A เป็นรายบุคคลหรือเป็นคู่ได้ เมื่อนักเรยี นทาเสรจ็ ครใู หน้ กั เรียน จับคู่อา่ น ออกเสียงบทสนทนาทีส่ มบูรณ์เพือ่ ตรวจสอบคาตอบที่ถูกต้อง (ดเู ฉลยท้ายเลม่ ) - ครูย้าว่า รปู ยอ่ ของ Verb to be นยิ มใช้หลังคาสรรพนาม และ Wh- Questions - ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่อ่านบทสนทนา ครูสังเกตการออกเสียง - ครปู ระเมินการอ่านออกเสยี งของนักเรยี นโดยใช้แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดบั พอใช้ - ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่แต่งบทสนทนาโดยใชข้ อ้ มลู ของนกั เรยี นเอง ทง้ั ขอ้ มลู รายวิชา หอ้ งเรยี น และ ครผู ูส้ อน หลงั จากนนั้ ใหน้ ักเรียนพดู นาเสนอข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง - ครปู ระเมนิ การพดู ของนักเรียนโดยใชเ้ กณฑ์การประเมินการพดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้ 5. เขียนกรอกแบบฟอร์ม - ครใู หน้ กั เรยี นทากจิ กรรม Grammar C ในหนังสอื เรียน หน้า 6 ใหน้ กั เรยี นบอกช่อื สถานทห่ี รือ สถานการณ์ท่ีผู้คนจาเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง โดยครูใหแ้ นวคดิ ว่า จะเป็นข้อมูลเพื่อ to register for a class, to get official government documents, to buy things online หลังจากนัน้ ครูถาม นักเรียนว่า นักเรียนกรอกแบบฟอร์มครั้งลา่ สุดเม่ือไหร่ - ครูให้นกั เรียนดแู บบฟอร์ม School Registration ในกิจกรรม Grammar C ในหนังสอื เรยี น หน้า 6 และให้นกั เรยี นศกึ ษาทาความเขา้ ใจประเด็นในแบบฟอรม์ ครูอนุญาตใหน้ ักเรียนถามถ้านกั เรยี นไม่เข้าใจ และให้ นักเรียนทากจิ กรรม Grammar C - ครูตรวจการทากจิ กรรม Grammar C ของนักเรียนเป็นรายบุคคล และประเมินโดยใช้เกณฑ์การประเมิน การเขยี น และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดบั พอใช้ - ครใู หน้ กั เรียนจับคู่ และให้นักเรียนถาม-ตอบกันเก่ยี วกับข้อมูลท่นี ักเรยี นเตมิ ในแบบฟอรม์ โดยครูให้ ตวั อย่างคาถาม เช่น What’s your first name? และครูบอกนักเรียนวา่ นกั เรยี นสามารถใช้คาถาม What ในการ ต้งั คาถามได้ทุกประเด็นในแบบฟอร์ม กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา
- ครใู ห้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ข้อ C, D และ E ในหนงั สือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 2-3 เพอ่ื ฝึก ความชานาญเก่ียวกับการแนะนาตวั และการใช้ Verb to be และ Wh- Questions (ดเู ฉลยทา้ ยเล่ม) ชั่วโมงที่ 3 พูดสนทนา - ครใู หน้ กั เรยี นดรู ายวชิ าในตาราง ในกิจกรรม Grammar B ในหนงั สือเรียน หนา้ 6 - ครูแบง่ นักเรียนเปน็ 2 กลุ่ม A และ B ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทสนทนาในกจิ กรรม Grammar B ในหนงั สอื เรียน หน้า 6 และครูตัง้ คาถามใหน้ กั เรียนตอบ โดยใช้ข้อมูลในตาราง ตัวอยา่ งคาถาม เชน่ - Where’s the geography class? - Who’s the art teacher? - ครูใหน้ ักเรยี นจับคู่แต่งบทสนทนาโดยใช้โครงสร้างเหมอื นบทสนทนาตัวอยา่ ง และใช้ข้อมูลในตาราง หลังจากน้ันครใู หน้ ักเรยี นแต่ละคู่อ่านบทสนทนาคลู่ ะ 1 บทสนทนา ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและให้นักเรียน ปรบั ปรงุ แก้ไขตามคาแนะนาของครู ช่ัวโมงที่ 4-5 - ครใู หน้ ักเรียนจับคแู่ ต่งบทสนทนาโดยใช้ขอ้ มลู ของนกั เรียนเอง ทงั้ ขอ้ มูลรายวิชา หอ้ งเรยี น และ ครผู ูส้ อน หลังจากน้นั ใหน้ ักเรียนพดู นาเสนอขอ้ มูลเก่ียวกับตนเอง - ครูประเมินการพดู ของนักเรียนโดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ การพูด และใช้เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้ เขยี นกรอกแบบฟอร์ม - ครูให้นักเรยี นทากจิ กรรม Grammar C ในหนงั สอื เรียน หน้า 6 ใหน้ กั เรยี นบอกชื่อสถานทห่ี รือ สถานการณ์ที่ผ้คู นจาเป็นต้องกรอกแบบฟอรม์ ข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง โดยครใู ห้แนวคิดวา่ จะเปน็ ข้อมลู เพื่อ to register for a class, to get official government documents, to buy things online หลงั จากนน้ั ครูถาม นกั เรียนว่า นกั เรียนกรอกแบบฟอร์มครง้ั ล่าสุดเมื่อไหร่ - ครใู หน้ กั เรยี นดแู บบฟอร์ม School Registration ในกจิ กรรม Grammar C ในหนงั สือเรยี น หนา้ 6 และให้นกั เรยี นศึกษาทาความเขา้ ใจประเด็นในแบบฟอร์ม ครอู นุญาตใหน้ กั เรียนถามถ้านกั เรียนไม่เขา้ ใจ และให้ นักเรยี นทากิจกรรม Grammar C - ครูตรวจการทากจิ กรรม Grammar C ของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล และประเมินโดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การเขยี น และใช้เกณฑผ์ า่ นระดับพอใช้ - ครูให้นกั เรียนจับคู่ และใหน้ ักเรียนถาม-ตอบกันเก่ยี วกับข้อมลู ที่นักเรียนเติมในแบบฟอรม์ โดยครใู ห้ ตัวอย่างคาถาม เชน่ What’s your first name? และครบู อกนักเรยี นวา่ นักเรยี นสามารถใช้คาถาม What ในการ ตงั้ คาถามได้ทุกประเด็นในแบบฟอร์ม กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา
- ครูให้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ข้อ C, D และ E ในหนงั สือแบบฝึกหดั New World 2 หน้า 2-3 เพื่อฝึก ความชานาญเกี่ยวกับการแนะนาตัวและการใช้ Verb to be และ Wh- Questions (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) สานวนภาษา - หน้าทภี่ าษา -To give and ask for personal information โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Verb to be - Wh- Questions: Who, What, Whereา 9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน New World 2 หน้า 5-6 2. หนงั สือแบบฝกึ หัด New World 2 หน้า 2-3
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธีวดั เครือ่ งมอื วดั ฯ ประเด็น/ การเรียนรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน ใบงานการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน อา่ นออกเสยี งบท ถ้อยคาอา่ นออกเสียง สนทนา สนทนา บทสนทนาในกิจกรรม ประเมนิ การอา่ นออก 5 คะแนน ดมี าก ท่กี าหนดไดถ้ ูกต้อง Grammar A แสดงบทบาท สมมตเิ ป็นกลุ่ม เสยี งโดยใช้แบบ 4 คะแนน ดี พดู นาเสนอขอ้ มูล ถ้อยคา นา้ เสยี ง สีหน้า เกย่ี วกับ และอากัปกริ ยิ าทใี่ ช้ใน ประเมินการอ่านออก 3 คะแนน ปานกลาง ตนเอง การพูดนาเสนอ เสยี ง และใช้เกณฑผ์ า่ น 2 คะแนน พอใช้ ระดับพอใช้ 1 คะแนน ปรับปรุง ประเมนิ การพูดโดยใช้ 5 คะแนน ดีมาก เกณฑ์การประเมินการ 4 คะแนน ดี พดู และใชเ้ กณฑผ์ า่ น 3 คะแนน ปานกลาง ระดับพอใช้ 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรับปรงุ ใช้ภาษาในการกรอก การกรอกแบบฟอรม์ ใบ แบบกรอกใบ ประเมนิ การเขยี นโดย 5 คะแนน ดมี าก แบบฟอรม์ ใบสมัคร สมคั รในกิจกรรม สมคั ร ใช้เกณฑ์การประเมนิ 4 คะแนน ดี ไดถ้ ูกต้อง Grammar C การเขยี น และใชเ้ กณฑ์ 3 คะแนน ปานกลาง ผ่านระดบั พอใช้ 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรงุ
11. การบรู ณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น หลักปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผเู้ รยี น พอเพียง พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ 1. ความพอประมาณ รู้จักใช้เทคโนโลยมี าผลติ สอื่ ทเ่ี หมาะสม มีจติ สานึกที่ดี เอ้ืออาทร ประนีประนอม นึกถงึ ประโยชนส์ ว่ นรวม/กลุ่ม 2. ความมเี หตุผล และสอดคล้องเน้ือหาเป็นประโยชนต์ ่อ ผู้เรยี นและพฒั นาจากภูมิปัญญาของ ไม่หยดุ น่งิ ทหี่ าหนทางในชีวติ หลุดพ้นจาก 3. มีภูมิคมุ กนั ในตวั ทดี่ ี ผ้เู รียน ความทุกขย์ าก (การค้นหาคาตอบเพื่อให้ - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพด้วยความ หลุดพน้ จากความไมร่ ู้) ถกู ต้อง สุจรติ แมจ้ ะตกอยู่ในภาวะขาด ภูมิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ แคลน ในการดารงชวี ิต ภูมปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ ระมดั ระวัง 4. เงอ่ื นไขความรู้ ความรอบรรู้ อบด้าน ความรอบคอบ ความรอบรู้ปรมิ าณทเี่ ก่ยี วข้อง การ ที่จะนาความรูเ้ หลา่ นัน้ มาพจิ ารณาให้ คานวณสตู รทีต่ ้องใช้ สามารถนาความรู้ เชอ่ื มโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน เหลา่ นน้ั มาพิจารณาให้เชื่อมโยงกนั การดาเนนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ สามารถประยุกต์ ใหก้ ับผ้เู รยี น ใช้ในชวี ติ ประจาวนั 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม มีความตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม ซ่ือสัตยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มีความ ซอื่ สัตยส์ จุ ริตและมีความอดทน มคี วาม เพยี ร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการดาเนนิ ชีวิต เพียร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชวี ติ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ผู้เรียน คาศัพทท์ ี่เกยี วกับรายวิชา การนาสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น -จับใจความสาคัญจากบทสนทนา นทิ าน เรอ่ื งสัน้ เก่ยี วกบั ตน้ ไม้ สวนพฤกษศาสตร์ บูรณา การสู่การเรียนการสอน
ส่งิ แวดล้อม ครู ผเู้ รียน คาศพั ทแ์ ละการบรรยาย - การใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นเป็นส่อื - พูด/เขียนบรรยายข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง เกียวกบั รายวิชาสวน การเรียนการสอน (พูด/เขยี นบรรยาย กจิ วัตรประจาวัน ประสบการณ์ เกี่ยวกบั พฤกษศาสตร์ ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจวัตรประจาวัน งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประสบการณ์ เกย่ี วกบั งานสวน พฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น) ลงช่อื ..................................................ผู้สอน (นางสาวพทิ ยา วิทยาจดั การ) เกณฑ์การคะแนนเขยี นกรอกแบบฟอร์ม 5 คะแนน 4คะแนน 3คะแนน 2คะแนน 1คะแนน 0คะแนน (ปรบั ปรุง) (ไม่ผ่านเกณฑ์) (ดีมาก) (ด)ี (ปานกลาง) (พอใช้) เขียนกรอก ไม่สามารถกรอก แบบฟอร์มไมต่ รง แบบฟอรม์ ได้ 0- เขียนกรอก กรอกแบบฟอร์ม กรอกแบบฟอร์ม กรอกแบบฟอรม์ ประเด็น 3-2 1 คะแนน คะแนน แบบฟอร์มตรง ได้ค่อนขา้ งตรง ไดบ้ า้ งไม่ได้บา้ ง ไดน้ อ้ ย 4-5 ประเด็นและ ประเด็น 7-8 5-6 คะแนน คะแนน ถกู ต้องทุกประเดน็ คะแนน 9-10 คะแนน
เกณฑ์การประเมนิ การพูด ระดบั คะแนน นา้ หนัก 2 1 ความ ประเดน็ 4 3 คะแนน การประเมนิ สาคัญ รวม - ส่ือสารได้ - ส่ือสารได้ ตรง ความถกู ต้อง ตรงประเดน็ ประเดน็ เป็น - ส่ือสารได้ ตรง - ส่ือสารไมค่ อ่ ยตรง 2 8 ด้านเนือ้ หา สว่ นใหญ่ ประเดน็ เป็น ประเดน็ 2 8 - เนือ้ หาถกู ต้อง บางสว่ น การออกเสียง ตามหวั ข้อท่ี - เนือ้ หาถกู ต้อง - เนือ้ หาไม่คอ่ ย 4 การใช้คาศัพท์ กาหนด เป็นสว่ นใหญ่ - เนือ้ หาถูกต้องเป็น ถกู ต้อง สานวน และ บางสว่ น 20 โครงสร้ างภาษา - ออกเสียง - ออกเสียง - ออกเสียง ถกู ต้อง ได้ถกู ต้อง - ออกเสียงถกู ต้อง ไม่ถกู ต้อง เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน - ใช้คาศพั ท์ - ใช้คาศพั ท์ สานวน สานวน และ - ใช้คาศพั ท์ - ใช้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้ าง โครงสร้ าง สานวน และ และโครงสร้ าง ภาษาแบบ ภาษาถกู ต้อง โครงสร้ างภาษา ภาษาแบบ งา่ ย ๆ และ และเหมาะสม ถกู ต้องเป็นส่วน ง่าย ๆ และ มีข้อผดิ มาก ใหญ่ มีข้อผิดบ้าง - พดู ได้ - พดู ได้ - พดู ได้คลอ่ งแคลว่ - พดู เหมือนทอ่ งจา 1 คลอ่ งแคล่ว คล่องแคล่ว แตไ่ มเ่ ป็น - ประสานสายตากบั - พดู เป็น - พดู เป็น ธรรมชาติ ธรรมชาติ ธรรมชาติ ผ้ฟู ังบ้างเป็นระยะ - ประสาน - ประสานสายตา - ประสานสายตากบั สายตากบั ผ้ฟู ัง กบั ผ้ฟู ัง ความสามารถ ผ้ฟู ังน้อย ในการพูด - แสดงออกทาง - แสดงออกทางสี สีหน้าและ หน้าและทา่ ทาง ทา่ ทางอย่าง บ้างเล็กน้อย เหมาะสม รวม 5
.ใบงาน หนงั สือ New World 2 หนา้ 6
แบบบันทกึ หลงั สอน ผลการจดั การเรยี นรู้ (Learning Outcome) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถา้ มี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ลงชอ่ื …………………………………..….…………………….. ( นางสาวพทิ ยา วทิ ยาจดั การ ) นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู วันท่ี......เดอื น..................พ.ศ............
ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ......................................................ผูต้ รวจ (นายชาญยุทธ สุทธิธรานนท์) ครพู เี่ ลยี้ ง วนั ท่ี ....../ ........... / ............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………………………………….... (นางวลิ าวัลย์ ปาลี) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 วันท่ี ....../ ........... / ........
แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง First Day at School แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง Wh- Questions: Who, What, Where รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ 21101 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 น้าหนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาท่ใี ช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 5 ชั่วโมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจที่คงทน) การเรยี นรูน้ ม้ี จี ดุ มุ่งหมายใหน้ ักเรยี นเรยี นรู้คาศัพท์ อา่ นออกเสียงบทสนทนา เขา้ ใจบทสนทนาท่ีอ่านและ ฟัง เขยี นเปรียบเทียบข้อมูลเก่ียวกับโรงเรยี นของไทยกบั ต่างประเทศ พดู เก่ียวกับข้อมลู ส่วนตัว และคน้ คว้าข้อมลู เก่ยี วกับโรงเรียนของประเทศต่าง ๆ แล้วนาเสนอผลงานการคน้ คว้า 2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั ชั้นปี/ผลการเรียนร้/ู เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ (ใหต้ รงกบั หลกั สตู รแกนกลาง 2551 ปรบั ปรุง 2560) ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ ัว และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน ชวี ิตประจาวันอยา่ งเหมาะสม ต 4.1 ม.2/11. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา และ ชุมชน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge - ภาษาที่ใช้สนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง - คาศัพท์และสานวนภาษาท่ีเก่ียวขอ้ ง - โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ Wh- Questions: Who, What, Where 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude - มั่นใจในการใช้ภาษา - มีปฏิสัมพนั ธ์ทด่ี ีกบั ผู้อนื่ )
4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 1 ความสามารถในการส่ือสาร 2 ความสามารถในการคิด 3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา ใหเ้ ลอื กเฉพาะทตี่ รงหรือสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนในหน่วยนแี้ ละตอ้ งประเมนิ ได้ 1. การฟัง : ฟังข้อมูลและระบรุ ายละเอียด 2. การพูด : พูด ทกั ทายตวั เองและผู้อน่ื 3. การอา่ น : อา่ นคา และประโยค 4. การเขียน: เขยี นคาและเขียนบรรยายข้อมลู ทีค่ น้ คว้า 6. คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. ชิน้ งาน/ภาระงาน -ถอ้ ยคา น้าเสียง สหี นา้ และอากปั กริ ยิ าทีใ่ ชใ้ น การสนทนา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาทีใ่ ช้ 5 ชั่วโมง ช่ัวโมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่เรยี นรู้/เทคนิคการสืบคน้ ) กจิ กรรม Speaking 1. นาเขา้ สบู่ ทเรียน - ครูเขียนชอ่ื คน ตวั เลข จานวนนักเรยี นในห้องเรยี น ตัวเลขระดับชั้น ชอ่ื รายวิชา และชอื่ นักเรยี นใน หอ้ งเรยี น บนกระดาน และใหน้ ักเรียนทายวา่ ข้อมูลทค่ี รูหมายถึงอะไรบา้ ง (คาตอบอาจหลากหลาย) - ครใู ชค้ าถามทีใ่ ช้ Wh- Questions: Who, What, และ Where ในการถามเพื่อใช้ข้อมลู ท่ีครเู ขียนบน กระดานเปน็ คาตอบ 2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ - ครูบอกนักเรียนวา่ ในหนว่ ยการเรยี นรู้นนี้ ักเรยี นจะได้ฝึกพูดถาม-ตอบเกีย่ วกบั ข้อมลู ส่วนตวั แลว้ สามารถพูดสนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองได้ 3. สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง - ครอู า่ นออกเสียงประโยคคาถามจากกจิ กรรม Speaking ในหนังสือเรยี น หน้า 6 และเปิดโอกาสให้ นักเรียนถามถา้ นกั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจประโยคคาถาม - ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นตามประโยคแล้วแปลความหมาย
- ครูใหน้ กั เรยี นจับคทู่ ากิจกรรม Speaking และให้นักเรยี นผลัดเปลย่ี นกันถาม-ตอบ โดยครูคอยสังเกต การสนทนาของนักเรยี น และใหค้ วามช่วยเหลือในเร่อื งคาศัพทแ์ ละการออกเสียงที่ถกู ต้อง - ครูใหน้ กั เรียนแต่ละค่ผู ลัดเปลีย่ นกนั ถาม-ตอบหนา้ ชั้นเรยี น - ครปู ระเมนิ การสนทนาของนักเรียนโดยใชแ้ บบประเมินการสนทนากิจกรรมคู่ และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดบั พอใช้ ช่ัวโมงท่ี 3 ครใู หน้ ักเรียนคน้ หาความรูเ้ พ่ิมเตมิ ในการใช้ โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ Wh- Questions: Who, What, Where โดยครูให้นกั เรียนคน้ หาพร้อมท้งั ตัวอย่างในการใช้ ซ่งึ ครูให้นักเรยี นคน้ หาได้ในแหล่งหาความร้ใู น ที่ตา่ งๆที่นอกเหนือจากในหนังสือเรยี น ชว่ั โมงที่ 4-5 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรยี นรู้ / ชว่ ยกนั คดิ ชว่ ยกันเรยี น) ครูใหน้ กั เรยี นออกมาพูดความหมายและวธิ กี ารใช้โครงสร้าง ประโยค/ไวยากรณ์ Wh- Questions: Who, What, Where พร้อมทัง้ ยกตัวอย่างให้ได้มากทีส่ ุด โดยให้นักเรยี นออกมาพดู นาเสนอเป็นรายบุคคล คาศพั ท์ - สานวนภาษา - หน้าทภ่ี าษา - To give and ask for personal information โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Verb to be - Wh- Questions: Who, What, Whereา 9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น New World 2 หน้า 6 2. พจนานุกรมองั กฤษ-ไทย
10. การวัดผลและประเมินผล เป้าหมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธวี ดั เครื่องมอื วัดฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ชนิ้ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การใหค้ ะแนน คาถามจากใบ สนทนาแลกเปลย่ี น ถ้อยคา นา้ เสยี ง สหี น้า งาน ประเมนิ การสนทนา 5 คะแนน ดีมาก ข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง และอากปั กิริยาท่ีใช้ใน การสนทนา โดยใช้แบบประเมนิ 4 คะแนน ดี การสนทนากจิ กรรมคู่ 3 คะแนน ปานกลาง และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดับ 2 คะแนน พอใช้ พอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรุง 11. การบูรณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรียน หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผูเ้ รยี น พอเพยี ง พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ 1. ความพอประมาณ ร้จู ักใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตส่ือท่ี มีจิตสานึกทีด่ ี เออื้ อาทร 2. ความมีเหตุผล เหมาะสมและสอดคล้องเนอ้ื หาเปน็ ประนปี ระนอม นกึ ถึงประโยชน์ 3. มีภูมคิ มุ กันในตวั ทดี่ ี 4. เงื่อนไขความรู้ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรียนและพัฒนาจากภมู ิ ส่วนรวม/กล่มุ ปญั ญาของผู้เรยี น - ยดึ ถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงทหี่ าหนทางในชวี ติ หลดุ พน้ ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยูใ่ นภาวะขาด จากความทุกข์ยาก (การค้นหาคาตอบ แคลน ในการดารงชีวติ เพื่อใหห้ ลุดพ้นจากความไม่ร)ู้ ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวงั ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ ความรอบร้รู อบด้าน ความ ความรอบรูป้ รมิ าณทเี่ ก่ยี วขอ้ ง การ รอบคอบทจ่ี ะนาความรเู้ หล่านั้นมา คานวณสูตรท่ีต้องใช้ สามารถนา พิจารณาให้เชื่อมโยงกนั เพื่อ ความรเู้ หล่านั้นมาพจิ ารณาให้เชื่อมโยง ประกอบการวางแผน การดาเนนิ การ กนั สามารถประยกุ ต์ ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ใหก้ บั ผูเ้ รียน 5. เงอื่ นไขคุณธรรม มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี ความซ่ือสตั ยส์ จุ ริตและมีความอดทน ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริตและมีความอดทน มีความเพียร ใชส้ ติปญั ญาในการ มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการ ดาเนินชวี ติ ดาเนนิ ชีวิต สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ครู ผเู้ รยี น คาศัพท์ทีเ่ กียวกับรายวิชา การนาสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน -จับใจความสาคญั จากบทสนทนา สวนพฤกษศาสตร์ บูรณา การสกู่ ารเรยี นการสอน นทิ าน เร่อื งสั้น เกยี่ วกับตน้ ไม้ สิง่ แวดล้อม ครู ผ้เู รียน คาศัพท์และการบรรยายเกยี ว - การใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นเปน็ - พดู /เขยี นบรรยายข้อมลู เก่ียวกบั กับรายวชิ าสวนพฤกษศาสตร์ ส่ือ การเรยี นการสอน (พูด/เขียน ตนเอง กจิ วตั รประจาวัน ประสบการณ์ บรรยายขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง กจิ วตั ร เกย่ี วกบั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ประจาวนั ประสบการณ์ เก่ยี วกบั งาน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น) ลงชอื่ ..................................................ผู้สอน (นางสาวพทิ ยา วิทยาจัดการ)
เกณฑ์การประเมินความสามารถในการสนทนา ระดับคะแนน นา้ หนัก ความสา ประเดน็ 4 3 2 1 คะแนนรวม การประเมิน คัญ ออกเสียงถกู ต้องตาม ออกเสียงถกู ต้อง ออกเสยี งถกู ต้อง ออกเสยี ง 4 การออกเสียง หลกั การ ตามหลกั การ เป็นบางสว่ น ไมถ่ กู ต้อง 1 ออกเสียง มีเสยี ง ออกเสียง แตพ่ อเข้าใจ ทาให้ไมเ่ ข้าใจ 12 คาศัพท์ สานวน และ เน้นหนกั ในคา/ เป็นสว่ นใหญ่ 12 โครงสร้ างภาษา ประโยคอยา่ ง ใช้คาศพั ท์ สานวน ใช้คาศพั ท์ สานวน 3 8 สมบรู ณ์ ใช้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้ าง และโครงสร้ าง 4 เนือ้ หา ใช้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้ าง ประโยคแบบ ประโยคแบบ 3 และโครงสร้ างภาษา ประโยคถกู ต้อง งา่ ย ๆ และ งา่ ย ๆ และ 2 40 ความ ถกู ต้องและ เป็นสว่ นใหญ่ มีข้อผิดบ้าง มขี ้อผิดมาก 1 คล่องแคล่ว เหมาะสม แตไ่ มห่ ลากหลาย เนือ้ หาถกู ต้อง เนือ้ หาไมถ่ กู ต้อง เนือ้ หาถกู ต้อง เป็นบางสว่ น หรือมีข้อผิดมาก การแสดงท่าทาง เนือ้ หาถกู ต้อง เป็นสว่ นใหญ่ และนา้ เสียง มรี ายละเอยี ด พดู คล้ายแบบ พดู เป็นแบบ ครบถ้วนสมบรู ณ์ พดู ตดิ ขดั บางครัง้ ทอ่ งจา พอสอ่ื สาร ทอ่ งจา ตะกกุ ตะกกั ประกอบการพูด พดู ได้อยา่ ง แตย่ งั สามารถ ได้บ้าง ส่อื สารได้น้อยมาก เป็นธรรมชาติ ส่อื สารได้ชดั เจน หรือไมไ่ ด้เลย คลอ่ งแคลว่ พดู โดยไมแ่ สดง พดู โดยไมแ่ สดง สอ่ื สารได้ชดั เจน แสดงทา่ ทางและ ทา่ ทางประกอบ ทา่ ทางประกอบ แสดงทา่ ทางและ พดู ด้วยนา้ เสยี ง นา้ เสยี งคล้าย นา้ เสยี งเป็น พดู ด้วยนา้ เสียงที่ ท่ีเหมาะสมกบั การอา่ นหรือ การพดู แบบทอ่ งจา เหมาะสมกบั บทบาท บทบาทและ การทอ่ งจา และสถานการณ์ดี สถานการณ์ มาก ในระดบั ดี รวม 10 หมายเหตุ นาคะแนนทงั้ หมดหาร 2
ใบงาน หนงั สือ New World หนา้ 6
แบบบันทกึ หลงั สอน ผลการจดั การเรยี นรู้ (Learning Outcome) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถา้ มี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ลงชอื่ …………………………………..….…………………….. ( นางสาวพิทยา วิทยาจดั การ ) นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู วนั ที.่ .....เดือน..................พ.ศ............
ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ ......................................................ผูต้ รวจ (นายชาญยุทธ สทุ ธิธรานนท์) ครูพ่เี ล้ียง วันที่ ....../ ........... / ............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………………………………….... (นางวิลาวัลย์ ปาลี) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 วันท่ี ....../ ........... / ........
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: