Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore natsirilsk

natsirilsk

Published by natsirilak55t.23, 2018-02-11 10:29:17

Description: หนังสือวิจัยนัท

Search

Read the Text Version

นางสาวศิรลิ ักษณ์ เดสันเทยี ะ ปวส. 2 คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจนางสาววภิ าดา หงส์สาโรง ปวส. 2 คอมพิวเตอรธ์ ุรกิจ

คำนำ กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นกลุ่มสาระท่ีช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะพ้ืนฐานท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนาความรู้เกี่ยวกับการดารงชีวิต การอาชีพและเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการดาเนินงานอย่างมีความคดิ สรา้ งสรรค์และแข่งขันในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ รักการทางาน และมเี จตคติทดี่ ตี ่อการทางาน สามารถดารงชีวิตอยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งพอเพยี งและมคี วามสุข สาหรบั หนังสือท่ีใช้ประกอบการเรยี นการสอนสาหรับผู้เรยี นในชั้นเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3(ม.3) กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี จัดทาแยกออกเป็น 2 เล่มด้วยกัน กล่าวคือ แยกเป็นการงานอาชีพและเทคโนโลยี เล่มหนึ่ง (ซึ่งจะกล่าวถึงสาระ 1 การดารงชีวิตและครอบครัว สาระท่ี 2 การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ 4 การอาชีพ ) ส่วนอีกเล่มหน่ึง คือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (ซงึ่ เน้นหนักสาระที่ 3 เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร) ทั้งนค้ี รผู ูส้ อนและสถานศกึ ษาพึงใช้ควบคกู่ ัน เพ่ือประสทิ ธิภาพในการเรยี นการสอนและผลฤทธทิ์ างการเรยี นที่ดขี องผู้เรียน โดยเล่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร จะเปน็ สาระเกี่ยวกบั กระบวนการเทคโนโลยี สารสนเทศ การตดิ ต่อสื่อสารการค้นหาข้อมลู การใช้ขอ้ มูลและสารสนเทศ การแกป้ ญั หาหรอื การสรา้ งงาน คุณคา่ และผลกระทบของเทคโนโลยสี ารเทศ ภายในเล่มจัดแบ่งเน้ือหาแยกเป็นหน่วยการเรียนรู้ มีเนื้อหาท่ีสอดคล้องกับสาระการเรียนรู้แกนกลาง รวมทั้งมีระดับความยากง่ายและจานวนเน้ือหาที่เหมาะสมกับคาบเวลาเรียน ทั้งนี้ทางคณะผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนาไปใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาทุกแห่ง ช่วยให้ผู้เรียนได้รับความรู้ มีทักษะ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตลอดจนบรรลุตัวช้ีวัดตามที่หลักสูตรแกนกลางฯ ได้กาหนดไว้ทุกประการ คณะผูเ้ รียบเรียง

สารบญั หนา้ เร่ือง 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 หลกั การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 2-3 4-8 แบบฝึ กหดั ก่อนเรียนบทท่ี 1 9-14 ความหมายและความสาคญั ของโครงงาน 15-22 ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ 23-24 ข้นั ตอนการพฒั นาโครงงาน 24-25 คุณลกั ษณะของโครงงานท่ีดี 26-27 การประเมินผลโครงงาน แบบฝึ กหดั หลงั เรียนบทท่ี 1 28 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 อุปกรณ์ของคอมพวิ เตอร์และการใช้งาน 29-30 31-34 แบบฝึ กหดั ก่อนเรียนบทที่ 2 35-36 ความหมายและความเป็นมา 37-52 องคป์ ระกอบของระบบ 53-54 อุปกรณ์ แบบฝึ กหดั หลงั เรียนบทท่ี 2 55 56-57 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การเทคโนโลยสี ารสนเทศในการนาเสนองาน แบบฝึกหดั ก่อนเรียนบทท่ี 3 58-60 61-67 ความหมายและวตั ถุประสงค์ 68-77 การนาเสนองาน 78-82 การเลือกใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีเหมาะสมกบั การนาเสนองาน 83-93 การเลือกใชอ้ ุปกรณ์แสดงผลและอุปกรณ์สาหรับใชป้ ระกอบการนาเสนองาน 94-95 การพฒั นาผลงานนาเสนอดว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศ แบบฝึ กหดั หลกั เรียนบทที่ 3 96-97 บรรณานุกรม

การจดั ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์เป็นกจิ กรรมที่ทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในดา้ นตา่ งๆไม่ว่าจะเป็นดา้ นการส่ือสารหรอื ดา้ นการคดิ ในลักษณะต่างๆในการแกไ้ ขปญั หาโดยมีวัตถุประสงคเ์ พอ่ื ใหน้ ักเรยี นเกิดการพฒั นาผลงานโดยการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทาใหน้ ักเรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์และนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตประจาวนั ได้

1. ความสามารถที่เกดิ จากการเรียนร้จู ากการทา 6. การพฒั นาโครงงานเราต้องทาอะไรเป็นอย่างแรกโครงงานคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจมคี วามสาคญั อย่กู ่ปี ระการ ก. การอภิปรายข้อเสนอแนะก. 1 ประการ ข. การทดสอบผลงานข. 2 ประการ ค. การเตรียมตัวค. 4 ประการ ง. การลงมอื พัฒนาง. 5 ประการ 7. คุณลกั ษณะที่ดขี องโครงงานต้องทาอย่างไร2. การพัฒนาสอ่ื การเรียนรโู้ ดยมีความรูค้ วามเขา้ ใจ ก. มีข้อมลู ครบถว้ นถูกต้องทกั ษะกระบวนการคอื โครงงานพฒั นาส่ือการศึกษา ข. ผ้จู ัดทามคี วามสนใจโครงงานแบบใด ค. ผู้เรียนให้ความสาคญั กับโครงการก. การพฒั นาเคร่อื งมอื ง. เปน็ ไปตามขอบเขตทกี่ าหนดข. โปรแกรมประยุกต์ 8. การประเมนิ ผลโครงการในคา่ รอ้ ยละ 50ค. สอ่ื เพื่อการศกึ ษา เปอร์เซน็ ต์คืออะไรง. การทดลองทฤษฎี ก. คัดเลอื กหวั ข้อ3. การทดลองทฤษฎีเป็นโครงงานที่พิสจู นท์ ฤษฎีหรือ ข. พัฒนาโครงงานตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงคือโครงงาแบบใด ค. ขอ้ เสนอโครงงานก. การทดลองทฤษฎี ง. ศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลูข. การพฒั นาเคร่ืองมือ 9. การประเมินผลโครงงานในคา่ รอ้ ยละ 20 เปอร์เซ็นต์ค. โปรแกรมประยกุ ต์ คืออะไรง. สื่อเพือ่ การศึกษา ก. พฒั นาโครงงาน4. ขน้ั ตอนการพฒั นาโครงงาน หมายถงึ อะไร ข. เสนอโครงงานก. การจดั ทาโครงงาน ค. รายละเอียดรายงานโครงการข. กระบวนการทาโครงงานเปน็ ลาดับ ง. ศกึ ษาคน้ คว้าค. การมสี ่วนร่วมของโครงงาน 10. การประเมินผลโครงงานมกี ี่หลักเกณฑ์ง. การมพี น้ื ฐานในการทาโครงงาน ก. 15. องคป์ ระกอบของโครงงานคอมพิวเตอรม์ ีกี่ขัน้ ตอน ข. 2ก. 11 ขนั้ ตอน ค. 4ข. 12 ขนั้ ตอน ง. 5ค. 13 ขน้ั ตอนง. 14 ขน้ั ตอน

โครงงำนคอมพวิ เตอร์ คอื กิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ทาให้นกั เรียนมีอิสระทางความคิดทางการศึกษาปัญหาและสิ่งตา่ งๆท่ีตนเองในใจ โดยนกั เรยี นต้องมีการวางแผนการศึกษาและนักเรยี นจะต้องวางแผนการดาเนนิ งาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม หรืออุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้อง โดยใช้ความรู้กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เคร่ืองคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องท่ีนักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเร่ืองท่ีนักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวเิ คราะหข์ ้อมลู การพฒั นาโปรแกรม หรอื ศึกษาเพม่ิ เตมิ จากผลงานเดิมที่มผี ูร้ ายงานไว้ จุดม่งุ หมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือคน้ คว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอรใ์ นการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลท่ีใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่ ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และทาให้เกิดความสามคั คีในการทางานรว่ มกันเป็นกลุม่ รวมถึงการฝึกความกล้าแสดงออกในการน าเสนอผลงานของตน

โครงงานคอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียนโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีมีการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมท้ังเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อยา่ งเหมาะสม โดยมีครเู ป็นทป่ี รึกษาและให้คาแนะนาความสามารถทเี่ กิดจากการท าโครงงานคอมพิวเตอรโ์ ครงงานคอมพวิ เตอรเ์ ปน็ กจิ กรรมการเรียนรู้ทท่ี าใหผ้ ู้เรียนเกิดความสามารถในดา้ นตา่ ง ๆ ที่สาคัญ 5 ประการดงั น้ี 1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถทเ่ี กิดจากการท่ีนักเรียนเป็นผู้ทาโครงงานต้องนาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงานคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรคโ์ ครงงานดว้ ยการเขียน หรือดว้ ยปากเปล่า รวมทงั้ เลือกใชร้ ูปแบบของสือ่อย่างมีประสทิ ธภิ าพเพื่อนาเสนอแนวคดิ ในการจดั โครงงานให้ผู้อ่ืนได้เข้าใจ 2. ความสามารถในการคดิ ซ่ึงผ้เู รยี นจะมกี ารคิดในลักษณะต่าง ๆ ดงั น้ี 2.1 การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการทผี่ ู้เรยี นต้องวเิ คราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตวุ ่าเกิดเนื่องจากอะไร 2.2 การคดิ สังเคราะห์ เกดิ จากการทผี่ ้เู รียนตอ้ งนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรยี นมา รวมท้งั ความรู้จากการค้นหาขอ้ มลู เพ่ือใชใ้ นการแก้ปญั หาหรือการสรา้ งสรรคโ์ ครงงาน 2.3 การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกดิ จากการทผี่ ู้เรยี นนาความรูม้ าสรา้ งสรรค์ผลงานใหม่ ๆ 2.4 การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ เกิดจากการทีผ่ เู้ รียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโครงงานใดและไม่ควรทาโครงงานใดเนื่องจากโครงงานท่ีสร้างข้ึนอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขท่ีคาดว่าสลากกนิ แบง่ รัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสงั คม ทาให้คนในสงั คมเกิดความหมกมนุ่ ในกับการใชเ้ งนิ เล่นหวยมากขึน้ 2.5 การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการท่ีผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ข้ันตอนในการพัฒนาโครงงานคือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน รวมท้ังการสรุปผลและการน าเสนอผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง โดยมีผ้สู อนและผู้ทรงคุณวุฒเิ ป็นผู้ใหค้ าปรึกษา 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์รวมทงั้ ประยุกตค์ วามรู้ ทักษะ และการใช้เครือ่ งมอื ท่เี หมาะสมกบั การแก้ไขปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. เกิดจากการท่ีผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน กอ่ ใหเ้ กดิ การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง อันนาไปสกู่ ารเรยี นรูต้ ลอดชวี ิต 6. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมและมคี ณุ ธรรมข้อมลู จาก : http://www.hs.ac.th/A01%20(2).pdf

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของทุก ๆ สังคมในโลกปัจจุบันน้ีเทคโนโลยีด้านน้ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ จงึ เป็นเร่ืองยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหนา้ อยู่ตลอดเวลาและเป็นสิง่ ท่ีไม่เกิดประโยชน์คมุ้ ค่าอกี ด้วย ดังน้นั การศึกษาเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์จึงตอ้ งศึกษาหลักการและเนื้อหาพ้ืนฐานเป็นสาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นส่ิงจาเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาตคิ อมพิวเตอรไ์ ดเ้ ปล่ยี นแปลงโลกของเราในดา้ นต่าง ๆ มากมายไดแ้ ก่ - สังคมโดยส่วนใหญเ่ ปลี่ยนจากสังคมอตุ สาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ - การตดั สนิ ใจในเรอ่ื งต่าง ๆ มักขึน้ อยกู่ บั ข้อมลู ซงึ่ ไดจ้ ากระบบคอมพิวเตอร์ - คอมพิวเตอรก์ ลายเป็นเครอื่ งมอื ท่ีสาคัญแทนเครอื่ งมืออืน่ ๆ ในอดตี เช่น เคร่ืองพมิ พด์ ีด เครอ่ื งคดิ เลขเปน็ ต้น - คอมพิวเตอร์ถกู ใชใ้ นการออกแบบสถานการณห์ รอื ปญั หาทีซ่ ับซอ้ นต่าง ๆ - คอมพวิ เตอร์เปน็ อปุ กรณ์หลกั ทีใ่ ช้ในการติดต่อสือ่ สารของโลกปัจจบุ ัน นกั เรียนในระดับมธั ยมศกึ ษาเรยี นวทิ ยาศาสตร์ธรรมชาติ เพือ่ ความเขา้ ใจความเป็นไปของธรรมชาติในโลก ในทานองเดียวกันนักเรียนต้องเรียนวิชาทางวิทยาการคอมพิวเตอร์เพ่ือความเข้าใจในสังคมเศรษฐกจิ และวัฒนธรรมของสังคมต่าง ๆ ในยคุ สารสนเทศ เนื้อหาวิชาทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษามีเป้าหมายที่จะพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในวิทยาการของคอมพิวเตอร์และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ ดังนน้ั การจดั ทาโครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็นส่ิงท่ีทาใหน้ กั เรียนสามารถบรรลเุ ปา้ หมายไดอ้ ย่างสมบูรณ์จุดมุ่งหมายท่ีสาคัญประการหนึง่ ของการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรยี น คือการท่ีนักเรยี นได้มีโอกาสฝึกความสามารถในการนาความรู้เก่ียวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐค์ ิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ตา่ ง ๆ ไดด้ ้วยตนเอง ซึ่งวิธีการท่ีมีประสิทธภิ าพมากวธิ หี นึ่งคือการทน่ี ักเรยี นได้มีโอกาสทาโครงงานคอมพวิ เตอร์

โครงงานคอมพวิ เตอร์มีวัตถุประสงคเ์ พ่ือให้นักเรียนได้รู้จักวิธีการออกแบบเร่ิมตั้งแต่กาหนดคุณสมบัติของส่ิงที่ต้องการออกแบบการรจู้ ักเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีต่างๆและมีความคดิ สร้างสรรค์โครงงานคอมพิวเตอรส์ ามารถแบ่งได้ 5 ประเภทดังน้ี

1. โครงงำนพัฒนำสอื่ เพอื่ กำรศกึ ษำ ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทน้ี คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตส่ือเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรยี นแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอรช์ ่วยสอนน้ี ถือว่าคอมพิวเตอร์เปน็ อปุ กรณ์การสอน ซ่ึงอาจเปน็ การพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทน้ีสามารถพัฒนาขึ้นเพ่ือใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่นการเคล่ือนท่ีแบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชากิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานท่ีสาคัญของประเทศไทย เป็นตน้2. โครงงำนประเภทกำรประยกุ ต์ใชง้ ำน โครงงานประยุกต์ใช้งานเป็นโครงงานท่ีใช้คอมพิวเตอร์ในการ สร้างผลงานเพ่ือประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวันอาทิเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานประเภทน้ีจะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ ซ่ึงอาจเป็นการคิดสร้างสิ่งของขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงเปล่ียนแปลงของเดิมท่ีมีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โครงงานลักษณะน้ีจะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลท่ีได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของน้ันๆ ต่อจากน้ันต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทน้ีผู้เรียนต้องใช้ความร้เู กีย่ วกบั เครอื่ งคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเคร่อื งมือต่างๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง

3. โครงงำนพฒั นำเกม โครงงานประเภทน้ีเป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวรเ์ กมเพอ่ื ความรหู้ รือเพ่อื ความ เพลิดเพลิน เกมทพี่ ัฒนาควรจะเป็นเกมท่ีไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทน้ีจะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่นเพ่ือให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมท้ังให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ทม่ี อี ยู่ทัว่ ไป และนามาปรับปรุงหรือพฒั นาขน้ึ ใหม่ เพอ่ื ใหเ้ ป็นเกมทีแ่ ปลกใหม่ และน่าสนใจแกผ่ เู้ ลน่ กลุ่มต่างๆ4. โครงงำนพฒั นำเครอ่ื งมือ โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานเพอื่ พัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกตต์ ่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรปู ซอฟต์แวร์เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวตั ถุในมุมต่างๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพ่อื การพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลคา ซ่ึงจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้ในการพิมพ์งานต่างๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซอฟต์แวร์การวาดรูป พัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้การวาดรูปบนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปได้ โดยง่าย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยการมองวตั ถุในมุมตา่ งๆ ใช้สาหรับช่วยการออกแบบส่ิงของ อาทิเช่น ผ้ใู ช้วาดแจกันดา้ นหน้า และตอ้ งการจะดวู ่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพ่ือพิจารณาและแก้ไขภาพแจกันท่ีออกแบบไว้ไดอ้ ยา่ งสะดวก

5. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนีเ้ ปน็ โครงงานทใี่ ช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จาลองการทดลองของสาขาตา่ งๆ ซึง่ เปน็ งานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซ่ึงอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคาอธิบาย พร้อมท้ังงานจาลองทฤษฏดี ว้ ยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพท่ีได้ก็จะเปล่ียนไปตามสูตรหรือสมการน้ัน ซ่ึงจะทาให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดีย่ิงข้ึน การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้ในเร่ืองนน้ั ๆ เปน็ อย่างดี ตัวอย่างโครงงานจาลองทฤษฎี เชน่ การทดลองเรอื่ งการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปรี ันยา่ และการทดลองเร่ืองการมองเหน็ วตั ถแุ บบสามมิติ เป็นต้น

การจัดทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ถอื เป็นกระบวนการในการทาโครงงานทีต่ ้องดาเนนิ การอย่างเปน็ ลาดบั ขั้นตอน เพือ่ ให้เกดิ ประโยชน์มากทีส่ ุดต่อการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยมีข้นั ตอนดังต่อไปนี้5.1 กำรคัดเลอื กหัวข้อโครงงำน หัวข้อ ส่วนใหญ่ท่ีนามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเร่ืองต่างๆการสังเหตุส่ิงตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วข้องกับระบบคอมพวิ เตอร์ หรือส่ิงต่างๆ รอบตัวปัญหาท่ีจะนา มาพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอรน์ ัน้ ไดจ้ ากแหล่งทตี่ า่ งกัน ได้แก่ การอา่ นค้นควา้ จากหนังสอื เอกสาร หนงั สือพิมพ์หรือวารสารต่างๆ การไปเย่ียมชมสถานท่ีต่างๆ การฟังบรรยายทางวิชาการ รายการวิทยุและโทรทัศน์ ข้อมูลข่าวสารจากอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการสนทนาอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดเห็นระหว่างเพ่ือนนักเรียนหรือกับ บุคคลอ่ืนๆ กิจกรรมการเรียนการสอนในโรงเรียน งานอดิเรกของนักเรียน การเขา้ ชมงานนทิ รรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพวิ เตอร์5.2 กำรศกึ ษำค้นควำ้ จำกเอกสำรและแหล่งข้อมูล การศึกษาค้นคว้าเอกสารและแหล่งข้อมลู รวมถึงการขอคาปรึกษาจากผู้ทรงคุณวฒุ ิจะช่วยให้เกดิ แนวคิดในการกาหนดขอบเขตของเร่ืองท่ีจะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นและได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษา จนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนน้ั ได้อย่างเหมาะสมในการศึกษาคน้ คว้าจากเอกสารและแหลง่ ขอ้ มูลจะต้องได้คาตอบว่า จะทาอะไร ทาไมตอ้ งทา ต้องการใหเ้ กิดอะไร ทาอย่างไร ใชท้ รพั ยากรอะไร ทากบั ใคร และจะเสนอผลงานอย่างไร

5.3 กำรจัดทำขอ้ เสนอโครงงำน การจัดทาข้อเสนอโครงงานเป็นการจดั ทาเค้าโครงของโครงงานเพ่ือเสนอครูทีป่ รึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ ดังน้ี1. ศกึ ษาคน้ คว้ าเอกสารอ้างอิง และรวบรวมขอ้ มูลทีไ่ ด้จากผ้ทู รงคุณวฒุ ิ2. วิเคราะห์ข้อมลู เพ่ือกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงงานที่จะพัฒนา3. ออกแบบการพฒั นา มีการกาหนดลักษณะของเครื่องคอมพวิ เตอร์ ซอฟตแ์ วรแ์ ละตวั แปลภาษาโปรแกรม และอปุ กรณ์ตา่ งๆทตี่ ้องใช้4. กาหนดตารางการปฏบิ ัตงิ านของการจดั ทาเคา้ โครงของโครงงาน ลงมือทาโครงงาน และสรปุ รายงานโครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลาอย่างกวา้ ง5. ทาการพฒั นาโครงงานข้นั ตน้ เพื่อศึกษาความเป็นไปไดเ้ บ้อื งตน้ โดยอาจจะทาการพัฒนาส่วนย่อยๆ บางส่วน ตามที่ได้ออกแบบไวแ้ ล้ว นาผลจากการศึกษาในชว่ งน้ีไปปรับปรงุ แผนการทดลองท่ีออกแบบไวใ้ นครั้งแรกใหเ้ หมาะสมมากยง่ิ ข้ึน6. เสนอเคา้ โครงของโครงงานคอมพวิ เตอร์ต่อครูทป่ี รึกษา เพื่อขอคาแนะนาและปรับปรุงแกไ้ ขเพราะในการวางแผนการศึกษาพฒั นา ความคิดของนักเรียนอาจยังไมค่ รบคลมุ ทุกดา้ น เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ จงึ ควรถ่ายทอดความคดิ ที่ไดศ้ ึกษาและบนั ทึกไวใ้ ห้ครทู ราบเพ่ือรบั คาแนะนา และนาไปปรับใชใ้ ห้เกิดความเหมาะสม



5.4 กำรพัฒนำโครงงำน เมื่อเค้าโครงงานของโครงงานได้รบั ความเห็นชอบจากครูที่ปรึกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไปน้จี ึงเป็นการลงมือพัฒนาโครงงานตามขั้นตอนทวี่ างแผนไว้ เช่น จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม รวมท้ังการกาหนดหน้าท่ี ความรับผิดชอบ ของสมาชิกในกลุ่มให้ชัดเจน แล้วจึงดาเนินการทาโครงงาน ขณะเดียวกันตอ้ งมีการทดสอบ ตรวจสอบ ปรบั ปรุงแก้ไข เพ่ือพัฒนาโครงงานเป็นระยะๆเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานท่ีพัฒนาข้ึนนั้น ทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการท่ีระบุไว้ในเป้าหมาย และเกิดประสิทธิภาพตามขน้ั ตอน ดงั นี้ 1. กำรเตรียมกำร ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอ่ืนๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมและควรเตรียม สมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์สาหรับบันทึกการทากิจกรรมต่างๆ ระหว่างทาโครงงาน ไดแ้ ก่ การดาเนินการเป็นอยา่ งไรได้ผลอยา่ งไร มปี ัญหาและแกไ้ ขได้หรอื ไม่อย่างไร รวมทัง้ ข้อสังเกตตา่ งๆ ทีพ่ บ 2. กำรลงมือพัฒนำ เปน็ การปฏบิ ตั ิตามแผนงานท่ีวางไว้ในเค้าโครง ซึ่งสามารถเปลยี่ นแปลงหรือเพ่มิ เติมได้ หากพบว่าจะ ชว่ ยทาให้ผลงานพัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทางานโดยทาส่วนท่ีเป็นหลักสาคัญให้เสร็จก่อน จึงคอ่ ยทาส่วนที่เป็น สว่ นประกอบหรือส่วนเสรมิ เพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากข้นึ และถ้ามีการแบ่งงานกันทาให้ตกลงรายละเอียดใน การเช่ือมต่อช้ินงานที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งตอ้ งพัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ และครบถ้วน 3. กำรทดสอบผลงำนและแกไ้ ข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาข้ึน ทางานได้ ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบไุ ว้ในเปา้ หมาย และมีประสิทธิภาพ 4. กำรอภิปรำยและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาสรุปด้วยข้อความท่ีส้ันกะทัดรัดครอบคลุม หวั ขอ้ โครงงาน เพือ่ ช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถงึ สิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงานและทาการอภิปรายผล เพ่ือพิจารณาขอ้ มูล และผลท่ีได้ พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธก์ ับหลักการ ทฤษฏี หรือผลงานที่ผู้อ่ืนได้ศึกษาไวแ้ ล้ว ทงั้ น้ียังรวมถงึ การนา หลกั การ ทฤษฏี หรอื ผลงานของผอู้ ืน่ มาใช้ประกอบการอภปิ รายผลที่ได้ 5. แนวทำงกำรพัฒนำโครงงำนในอนำคตและข้อเสนอแนะ เม่ือทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้วนักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะ สาหรับผู้สนใจจะนาไปพัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพ มากย่งิ ขึน้

5.5 กำรเขียนรำยงำนโครงงำน การเขียนรายงาน เป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เก่ียวกับโครงงานน้ัน โดยในการเขียนรายงานน้ัน โดยในการเขียนรายงานน้ัน ควรใช้ภาษาท่อี า่ นง่าย ชดั เจน กระชับ ตรงไปตรงมา รวมทง้ั จดั ทาค่มู ือการใชง้ านซง่ึ ประกอบดว้ ยรายละเอยี ด ดังน้ี 1. ช่ือโครงงาน 2. ความต้องการของระบบคอมพวิ เตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพวิ เตอร์ทต่ี อ้ งมีเพอื่ ท่ีจะใชก้ ับโครงงานน้ัน 3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้กับเคร่ืองคอมพิวเตอร์เพือ่ จะให้โครงงานน้ันทางานได้อย่าง สมบูรณ์ 4. คุณลักษณะของโครงงาน ซ่ึงอธิบายว่าผลงานน้ันทาหน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็น ข้อมูลขาเข้า และอะไรที่ออกมาเป็น ข้อมูลขาออก 5. วธิ ีการใชง้ านของแตล่ ะฟงั กช์ ัน อธิบายวา่ จะตอ้ งกดคาส่ังใด หรือกดปมุ่ ใด เพื่อให้ผลงานทางานในฟังกช์ นั หนง่ึ ๆ5.6 กำรนำเสนอและแสดงโครงงำน การนาเสนอและแสดงโครงงาน เป็นข้ันตอนสุดท้ายหลังจากการพัฒนาโครงงานเสร็จเรียบร้อยตามเป้าหมาย และวัตถุประสงคท์ ่ีได้ตงั้ ไว้ โดยเป็นการนาเสนอรายงานสรุปผลการดาเนินการในการจัดทาโครงงาน และโปรแกรมที่ได้พฒั นาขึ้นมาให้กับคณะกรรมการและผู้เก่ียวข้องของโครงงานน้ันๆ ซ่ึงจัดเป็นข้ันตอนที่สาคัญอีกขั้นตอนหน่ึงของการทาโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลทางความคดิ ความพยายามในการทางานท่ผี ู้ทาโครงงานได้ทุ่มเท และเปน็ วิธีทาให้ผอู้ ื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนัน้

โครงงานที่ดีจะตอ้ งมีคุณลกั ษณะ ดงั น้ี1. สามารถตอบสนองความตอ้ งการหรือแก้ปญั หาของโครงงานได้อย่างครบถ้วน2. เป็นไปตามขอบเขตทีก่ าหนดไว้3. สามารถดาเนินการเปน็ ไปตามแผนท่ีกาหนดไวแ้ ละเสร็จสิ้นตามระยะเวลาที่กาหนด4. ไมก่ อ่ ใหเ้ กิดผลกระทบทางลบตอ่ คณุ ภาพชีวิตในดา้ นต่างๆ ในการทาโครงงานคอมพิวเตอรท์ ี่ดจี ะต้องคานึงถงึ ประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ ับ และต้องมีคุณลักษณะทีด่ ีตามท่ีกล่าวข้างต้น แต่ทั้งน้ีก็ต้องคานึงถึงผลกระทบในทางลบท่ีอาจเกิดขึ้นจากการทาโครงงานซึ่งผู้จัดทาอาจต้องหลีกเล่ียง โ ดยจะต้องคานึงถึงผลกระทบทางลบในดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสงั คมและวัฒนธรรม และด้านสง่ิ แวดล้อม ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี ดำ้ น ตวั อยำ่ งผลกระทบทำงลบดำ้ นเศรษฐกจิ เชน่ ระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขท่คี าดว่าสลากกนิ แบ่งรฐั บาลจะ ออกในแต่ละงวด ส่งผลให้คนในสังคมใช้เงินในการซ้ือสลากกินแบ่งรัฐบาล มากข้ึน ทาให้มีเงนิ สาหรับจับจ่ายใชส้ อยนอ้ ยลง จนบางครัง้ กอ็ าจกอ่ ใหเ้ กิด ปัญหาติดหนสี้ ินมากมายด้ำนสงั คมและวัฒนธรรม เช่น โครงงานเกมต่อสู้ ทาให้นักเรียนที่ติดเกมนั้นใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับ การเล่นเกม ซ่ึงจากการวิจัยของต่างประเทศพบว่า หากเล่นเกมติดต่อกัน นาน 15 สัปดาห์ อาจทาให้ผู้เล่นคลุ้มคลั่งสั่งได้ นอกจากนี้ อาจส่งผล กระทบต่อผู้เล่นอาจเกิดอาการประสาทหลอน ไม่สามารถแยกแยะโลก ความเป็นจริงกับโลกในเกมออกจากกันได้ ทาให้เดก็ เหลา่ น้ีมอี ารมณร์ ุนแรง เกรย้ี วกราดและตดั สินใจแก้ปัญหาด้วยการใชก้ าลงัดำ้ นส่งิ แวดลอ้ ม เช่น โครงงานสารวจมลพิษทางอากาศ เป็นการประเมินมลพิษทางอากาศ บริเวณรอบโรงเรียนทีน่ ักเรียนศึกษาอยู่ ว่ามแี ก๊สประเภทใดท่ีเป็นอันตราย ตอ่ สุขภาพ ทัง้ นีใ้ นปจั จุบันมนษุ ย์ได้ตดั ไมท้ าลายป่า เผาป่า และใชย้ วดยาน พาหนะ ตลอดจนมกี ารทาโรงงานอตุ สาหกรรมเพิ่มมากขน้ึ ทาให้เกิดปัญหา มลพษิ ทางอากาศซง่ึ ทวคี วามรุนแรงมากขน้ึ

การประเมินผลโครงงานเป็นการวัดคุณภาพของผลงานว่ามีคุณภาพเพียงใด โดยอาศัยเกณฑ์ดังตารางด้านล่าง ท้ังน้ีนักเรียนควรทราบเกณฑ์สาหรับการประเมินผล เพ่ือสร้างผลงานท่ีมคี ุณภาพ การเรียนรู้การจัดทาโครงงานน้ัน จะทาให้ผู้เรียนได้นาความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์หลักการและกระบวนการท่ีใช้ในการแกป้ ญั หา หลกั การ

1. ความสามารถทีเ่ กดิ จากการเรียนร้จู ากการทา 6. การพัฒนาโครงงานเราต้องทาอะไรเปน็ อย่างแรกโครงงานคอมพวิ เตอรธ์ ุรกิจมีความสาคัญอยกู่ ่ี ก. การอภิปรายข้อเสนอแนะประการ ข. การทดสอบผลงานก. 1 ประการ ค. การเตรยี มตวัข. 2 ประการ ง. การลงมือพฒั นาค. 4 ประการ 7. คุณลักษณะที่ดีของโครงงานตอ้ งทาอย่างไรง. 5 ประการ ก. มขี อ้ มูลครบถว้ นถูกต้อง2. การพฒั นาสอื่ การเรยี นรู้โดยมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ข. ผู้จดั ทามีความสนใจทักษะกระบวนการคือโครงงานพฒั นาสอ่ื การศกึ ษา ค. ผเู้ รยี นให้ความสาคญั กับโครงการโครงงานแบบใด ง. เปน็ ไปตามขอบเขตที่กาหนดก. การพัฒนาเครอ่ื งมอื 8. การประเมินผลโครงการในค่าร้อยละ 50 เปอรเ์ ซ็นต์คือข. โปรแกรมประยกุ ต์ อะไรค. สอื่ เพ่ือการศึกษา ก. คดั เลอื กหัวข้อง. การทดลองทฤษฎี ข. พฒั นาโครงงาน3. การทดลองทฤษฎีเป็นโครงงานที่พิสจู นท์ ฤษฎี ค. ข้อเสนอโครงงานหรอื ตรวจสอบข้อเท็จจริงคอื โครงงาแบบใด ง. ศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูลก. การทดลองทฤษฎี 9. การประเมินผลโครงงานในค่าร้อยละ 20 เปอร์เซ็นต์คือข. การพัฒนาเครอื่ งมอื อะไรค. โปรแกรมประยุกต์ ก. พฒั นาโครงงานง. สื่อเพอื่ การศกึ ษา ข. เสนอโครงงาน4. ข้ันตอนการพฒั นาโครงงาน หมายถึง อะไร ค. รายละเอยี ดรายงานโครงการก. การจัดทาโครงงาน ง. ศกึ ษาคน้ ควา้ข. กระบวนการทาโครงงานเปน็ ลาดบั 10. การประเมนิ ผลโครงงานมีกีห่ ลักเกณฑ์ค. การมีส่วนร่วมของโครงงาน ก. 1ง. การมีพ้นื ฐานในการทาโครงงาน ข. 25. องคป์ ระกอบของโครงงานคอมพิวเตอรม์ ีก่ี ค. 4ขั้นตอน ง. 5ก. 11 ขั้นตอนข. 12 ขั้นตอนค. 13 ขั้นตอนง. 14 ขน้ั ตอน

คอมพวิ เตอร์ คอื เครื่องมือหรอื อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ (computer นิยมอา่ นในภาษาไทยว่าคอมพวิ เตอร์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทม่ี ีความสามารถในการคานวณอัตโนมตั ิตามคาสงั่ สว่ นท่ีใช้ประมวลผลเรยี กว่าหน่วยประมวลผล ชุดของคาส่งั ท่รี ะบุขนั้ ตอนการคานวณเรียกวา่ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ผลลพั ธท์ ่ีไดอ้ อกมานั้นอาจเปน็ ไดท้ ้งั ตวั เลข ข้อความ รูปภาพ เสียง หรืออยู่ในรปู อน่ื ๆ อกี มากมาย ลักษณะทางกายภาพของคอมพวิ เตอร์นนั้ มหี ลากหลาย มีทั้งขนาดที่ใหญ่มากจนต้องใช้ห้องท้งั ห้องในการบรรจุ และขนาดเล็กจนวางได้บนฝ่ามอื การจดั แบง่ ประเภทของคอมพิวเตอร์สามารถจดั แบ่งได้ตามขนาดทางกายภาพเปน็ สาคญั ซ่ึงมักจะแปลผนั กับประสทิ ธภิ าพความเรว็ ในการประมวลผล โดยขนาดคอมพวิ เตอรท์ ี่มขี นาดใหญท่ ่สี ุดเรียกว่า ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ ใช้กบั การคานวณผลทางวิทยาศาสตร์ ขนาดรองลงมาเรียกว่าเมนเฟรม มักใช้ในบรษิ ัทขนาดใหญท่ ่ตี ้องมีการประมวลผลธรุ กรรมทางธุรกิจจานวนมากๆ สาหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กท่ใี ชใ้ นระดบั บุคคลเรยี กว่า คอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคล และคอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคลที่พกพาไดเ้ รียกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ส่วนคอมพิวเตอรข์ นาดเลก็ ท่สี ามารถวางบนฝ่ามือได้เรียกวา่ พีดเี อ อยา่ งไรกต็ ามคอมพวิ เตอร์มใี ช้กนั อย่างกวา้ งขวางมาก ซงึ่ มอี ุปกรณ์หลายๆชนิดไดน้ าคอมพิวเตอรไ์ ปใชเ้ ปน็ กลไกหลักในการทางาน เช่น กล้องดจิ ทิ ัล เครอ่ื งเลน่ เอ็มพีสาม หรือในรถยนต์เองก็มีคอมพวิ เตอร์ทใ่ี ชช้ ว่ ยในการตรวจสอบระบบการทางานของเครอ่ื งยนต์

1. ความหมายของคอมพิวเตอร์คืออะไร 6. อุปกรณค์ อมพวิ เตอรม์ ี กอ่ี ย่างก. เครือ่ งมือที่ใชค้ านวณคาสั่งอตั โนมัติ ก. 11ข. เป็นเครื่องมอื ที่ใช้ทางาน ข. 12ค. การควบคมุ งาน ค. 13ง. เป็นเครื่องมือที่ทันสมยั ง. 142. องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอรม์ กี สี่ ว่ น 7. ชนดิ ของอปุ กรณจ์ อภาพมอี ยู่ กแ่ี บบก. 3 สว่ น ก. 4 แบบข. 4 ส่วน ข. 1 แบบค. 5 ส่วน ค. 2 แบบง. 6 สว่ น ง. 3 แบบ3. ฮารด์ แวร์ คืออะไร ของคอมพวิ เตอร์ 8. 8 Keyboard เป็นอุปกรณ์ที่คล้ายเคร่ืองพิมพ์ดีดอยากก. สิง่ ทจ่ี ับต้องไม่ได้ ทราบว่าจานวนแป้นพมิ พ์มที ้งั หมดเท่าไรข. ส่ิงท่ีจับตอ้ งได้ ก. 84-150 แป้นค. ส่งิ ทที่ าเป็นขอ้ มลู ข. 85 - 168 แปน้ง. การปฏิบัตงิ านของเจา้ หน้าท่ี ค. 86 - 178 แป้น4. ซอฟตแ์ วร์ คืออะไร ของคอมพิวเตอร์ ง. 70 - 100 แปน้ก. การปฏบิ ตั งิ านของเจ้าหนา้ ท่ี 9. CPU ประกอบไปดว้ ยอะไรบ้างข. สิ่งทจ่ี ะเป็นข้อมลู ก. การคดิ คานวณค. ส่งิ ทีจ่ บั ตอ้ งได้ ข. ส่วนรบั ข้อมูลง. ส่งิ ท่ีจบั ตอ้ งไม่ได้ ค. หนว่ ยแสดงผล5. ขอ้ มูลสารสนเทศ คอื อะไร ง. หน่วยควบคมุก. การปฏบิ ตั งิ านของเจ้าหนา้ ที่ 10. Mouse เปน็ ตวั ชว่ ยบ่งบอกวา่ ขณะที่ทางานอยู่ ณ จุดข. ส่งิ ทจี่ ับตอ้ งได้ ใดบนจอภาพเรียกว่าอะไรค. สง่ิ ทีจ่ บั ต้องไมไ่ ด้ ก. บอกขอ้ มลูง. สิง่ ที่เป็นข้อมลู ข. ตวั ประมวลผล ค. ตวั ชี้ตาแหน่ง ง. ตวั รบั ขอ้ มูล

คอมพิวเตอร์ คือ เคร่ืองมือหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (computer นิยมอ่านในภาษาไทยว่า คอมพิวเตอร์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ท่ีมคี วามสามารถในการคานวณอตั โนมัตติ ามคาสั่ง ส่วนท่ีใชป้ ระมวลผลเรยี กวา่ หน่วยประมวลผล ชุดของคาส่งั ที่ระบขุ ้ันตอนการคานวณเรยี กวา่ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ผลลพั ธ์ทีไ่ ดอ้ อกมานั้นอาจเปน็ ไดท้ ้ัง ตวั เลข ข้อความ รปู ภาพ เสยี ง หรืออยใู่ นรูปอน่ื ๆ อีกมากมายลักษณะทางกายภาพของคอมพิวเตอร์น้ันมีหลากหลาย มีท้ังขนาดท่ีใหญ่มากจนต้องใช้ห้องทั้งห้องในการบรรจุ และขนาดเล็กจนวางได้บนฝ่ามือ การจัดแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์สามารถจัดแบ่งได้ตามขนาดทางกายภาพเป็นสาคัญ ซึ่งมักจะแปลผันกับประสิทธิภาพความเร็วในการประมวลผล โดยขนาดคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ท่ีสุดเรียกว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ใช้กับการคานวณผลทางวิทยาศาสตร์ ขนาดรองลงมาเรียกว่า เมนเฟรม มักใช้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องมีการประมวลผลธุรกรรมทางธุรกิจจานวนมากๆ สาหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้ในระดับบุคคลเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และคอมพิวเตอร์ส่ วนบุคคลที่พกพาได้เรียกว่า คอมพวิ เตอร์โน้ตบุ๊ก สว่ นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สามารถวางบนฝา่ มือได้เรียกวา่ พีดีเอ อย่างไรกต็ ามคอมพิวเตอร์มีใช้กนั อยา่ งกว้างขวางมาก ซึ่งมีอปุ กรณห์ ลายๆชนิดได้นาคอมพิวเตอร์ไปใช้เปน็ กลไกหลักในการทางาน เช่น กลอ้ งดจิ ิทัล เครอ่ื งเลน่ เอ็มพสี าม หรอื ในรถยนตเ์ องกม็ คี อมพิวเตอร์ท่ใี ช้ช่วยในการตรวจสอบระบบการทางานของเคร่ืองยนต์

คอมพิวเตอรป์ ระกอบดว้ ยส่วนสาคัญ 5 สว่ นดว้ ยกนั คอื 1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง ส่ิงที่มองเห็นและจับต้องสัมผัสได้ทั้งหมดท่ีเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ (Case) เมนบอร์ด (Mainboard) และอุปกรณ์ต่อพ่วงรอบข้าง (Peripheral) ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฮาร์ดดิสก์แป้นพิมพ์ เม้าส์ หน่วยประมวลผลกลาง จอภาพ เคร่ืองพิมพ์ และอุปกรณ์อ่ืน ๆ ฮาร์ดแวร์จะไม่สามารถทางานด้วยตัวเองเด่ียวๆ ได้ จะต้องนามาต่อเชื่อมเพ่ือทางานร่วมกันเป็นระบบท่ีเรียกว่า “ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System)” ท่ีมีโครงสร้างของระบบจะทางานตามโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่เขยี นขนึ้ 2. ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรม (Program) หรือชุดคาส่ังที่ควบคุมให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทางานให้ได้ผลลัพธ์ตามทต่ี ้องการ ซง่ึ คอมพวิ เตอร์ฮารด์ แวรท์ ่ปี ระกอบออกมาจากโรงงานจะยังไมส่ ามารถทางานได้ในทันที ตอ้ งมซี อฟต์แวร์ซึ่งเป็นโปรแกรมหรือชุดคาสั่งที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทางานตามต้องการได้ โดยโปรแกรมหรือชุดคาส่ังนั้นจะเขียนจากภาษาต่าง ๆ ท่ีมนุษย์สร้างขึ้น เรียกว่า ภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Language) ภาษาใดภาษาหนึ่ง และมีโปรแกรมเมอร์(Programmer) หรอื นักเขียนโปรแกรมเปน็ ผใู้ ชภ้ าษาคอมพวิ เตอร์เหลา่ นน้ั เขยี นซอฟต์แวรแ์ บบต่าง ๆ ข้นึ มาซอฟต์แวร์ สามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1) ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทาหน้าที่จัดการและควบคุม ทรัพยากรต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ และอานวยความสะดวกด้านเครื่องมือสาหรับการทางานพ้ืนฐานต่าง ๆ ต้ังแตผ่ ู้ใช้เริ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การทางานจะเปน็ ไปตามชุดคาสง่ั ท่ีเขียนข้นึ ตลอดจนควบคุมการสอ่ื สารขอ้ มลู ในระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 2) ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ (Application Software) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สรา้ งหรือพัฒนาขึน้ เพื่อใช้งานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น งานด้านการจัดทาเอกสาร การทาบัญชี การจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนงานด้านอ่ืน ๆตามแต่ผใู้ ช้ตอ้ งการ3. ข้อมูล/สารสนเทศ (Data/Information) คือ ข้อมูลต่างๆ ที่เรานามาให้คอมพิวเตอร์ทาการประมวลผลคานวณ หรือกระทาการอย่างใดอย่างหน่ึงให้ได้มาเป็นผลลัพธ์ท่ีเราต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลบุคลากรเก่ียวกับรายละเอียดประวัติส่วนตัวประวัติการศึกษาหรือ ประวัติการทางาน ซึ่งอาจนามาจาแนกเป็นรายงานต่างๆ เกี่ยวกับบุคลากรในหน่วยงานได้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขมาตรๆ ไฟฟ้าของบ้านแต่ละหลัง ก็ใช้สาหรับคานวณเป็นปริมาณไฟฟ้า ท่ีใช้ในแต่ละเดือน แล้วคิด เป็นเงิน ท่ีจะตอ้ งชาระใหก้ ับการไฟฟ้าฯ

4. บุคคลากร (Peopleware) คือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่างๆ และผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานน้ันๆ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์น้ัน มีความสาคัญมาก เพราะการใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทางานต่างๆ น้ันจะต้องมีการจัดเตรียมเปลี่ยนระบบจัดเตรยี มโปรแกรมดาเนนิ การต่างๆ หลายอย่าง ซ่ึงไม่สามารถทาด้วยตัวเองได้ ถา้ หากไมใ่ ชผ่ ู้ที่ร้เู ร่ืองคอมพิวเตอรม์ ากนัก เราจึงถือว่าบคุ ลากร เป็นส่วนประกอบทสี่ าคัญของ ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึง่ สามารถสรปุ เป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ดงั น้ี – เจ้าหนา้ ทีป่ ฏิบตั กิ าร (Operator) – บคุ ลากรทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ระบบ (System) – ผู้จัดการศูนยป์ ระมวลผลคอมพิวเตอร์ (Electronic Data Processing Manager) – ผูใ้ ชค้ อมพวิ เตอร์ (Computer user)5. กระบวนการทางาน (Documentation/Procedure) เป็นข้ันตอนการทางานเพ่ือให้ได้ ผลลัพธ์หรือข้อสนเทศจากคอมพิวเตอร์ ในการทางานกับคอมพิวเตอร์จาเป็นที่จะต้องให้ผู้ใช้เข้าใจขั้นตอนการทางาน ต้องมีระเบียบปฏิบัติให้เป็นแบบเดียวกัน มีการจัดทาคู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ให้ทุกคนเรียนรู้และใช้อ้างอิงได้นอกจากน้ันเมื่อการใช้มาตรฐาน ช่วยให้การประสานงาน ระหว่างหน่วยงานย่อยๆ ราบร่ืน การจัดซ้ือจัดหา ตลอดจนการบารุงรักษาเครือ่ งคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวรก์ ็จะง่ายขนึ้ เพราะทกุ หนว่ ยงานใช้มาตรฐานเดียวกัน

1. จอภำพ (Monitor) เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่มีความสาคัญมากท่ีสุด เพราะจะติดต่อโดยตรงกบั ผู้ใช้ ชนิดของจอภาพท่ีใช้ในเคร่อื งพีซีโดยทั่วไปจะแบง่ ได้เปน็ 2 ชนิด - จอซีอำร์ที (CRT : Cathode Ray Tube) โดยมากจะพบในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ซึ่งลักษณะ จอภาพชนิดนี้จะคล้ายโทรทัศน์ ซงึ่ จะใชห้ ลอดสญุ ญากาศ จอแบบ CRT การทางานของจอประเภทน้ีจะทางานโดย อาศัยหลอดภาพ ที่สร้างภาพโดยการยิงลาแสงอิเล็กตรอนไปยังท่ีผิวหน้าจอ ท่ีมีสารพวกสารประกอบของฟอสฟอรัส ฉาบอยู่ที่ผวิ ซ่งึ จะเกิดภาพข้ึนมาเมอ่ื สารเหลา่ น้ีเกิดการเรืองแสงข้นึ มา เมือ่ มอี ิเล็กตรอนมากระทบ ซึ่งในส่วยของจอแบบ Shadow Mask น้ัน จะมีการนาโลหะท่ีมีรูเล็กๆ มาใช้ในการกาหนดให้แสงอิเล็กตรอนน้ันยิงมาได้ถูกต้อง และแม่นยา ซึ่งระยะห่างระหว่างรูน้ีเราเรียกกันว่า Dot Pitch ซ่ึงในรูนี้จะมีสารประกอบของฟอสฟอรัสวางเรียงกันอยู่เป็น 3 จุด 3 มุม โดยแต่ละจุดจะเป็นสีของแม่สีนั้นก็คือ สีแดง สีเขียว และสีน้าเงิน ซ่ึงแต่ละจุดน้ีเราเรียกว่า Triad ในส่วนของจอแบบ Trinitron นั้นจะมีการทางานท่ีเหมือนกันแต่ต่างกันที่ ไม่ได้ใช้โลหะเป็นรูแต่จะใช้ โลหะท่ีเป็นเส้นเล็กๆ ขึงพาดไปตาม แนวตั้ง เพ่ือที่จะให้อิเล็คตรอนน้ันตกกระทบกับผิวจอที่มีสารประกอบของฟอสฟอรัสได้มากข้ึน สาหรับจอ Trinitron ในปจั จุบันน่ีได้มีการพัฒนาใหม้ ีความแบนราบมากข้ึนซึ่งจอแบบน้ีจะเรียกกันว่า FD Trinitron (Flat Display Trinitron) ซ่ึงมมี ากมายในปจั จบุ นั และจะเข้ามาแทนทจ่ี ะแบบเดิมๆ อีกท้ังราคายงั ถูกลงเปน็ อยา่ งมากดว้ ย - จอแอลซีดี (LCD : Liquid Crystal Display) ซ่ึงมี ลักษณะแบนราบ จะมี ขนาดเล็กและบาง เมื่อเปรียบเทียบกับจอภาพแบบซีแอลที

จอแบบ LCD การทางานนั้นจะไม่เหมือนกบั จอแบบ CRT แมส้ กั นดิ เดียว ซึ่งการแสดงภาพนนั้ จะซับซอ้ นกวา่ มาก การทางานนั้นอาศยั หลักของการใช้ความร้อนท่ีได้จากขดลวด มาทาการเปลย่ี นและ บังคับให้ผลึกเหลวแสดงสตี ่างๆ ออกมาตามที่ต้องการซ่ึงการแสดงสีนน้ั จะเป็นไปตามทก่ี าหนด ไว้ตามมาตรฐานของแต่ละ บริษทั จึงทาให้จอแบบ LCD มีขนาดทีบ่ างกว่าจอ CRT อยมู่ าก อีกทั้งยังกนิ ไฟนอ้ ยกว่า จึงทาให้ผผู้ ลิตนาไปใช้งานกับ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเคลื่อนที่โน้ตบุค๊ และเดสโน้ต ซึ่งทาให้เคร่ืองมขี นาดที่บางและเล็กสามารถพกพาไปได้สะดวก ในส่วนของการใช้งานกับเคร่ืองเดสก์ท็อปทั่วไป ก็มีซ่ึงจอแบบ LCD นี้จะมีราคาท่ีแพงกว่าจอทัว่ ไปอยู่ประมาณ 2 เท่าของ ราคาในปัจจุบัน2. เคส (Case) เคส คือ โครงหรือกล่องสาหรับประกอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ไว้ภายใน การเรียกช่ือ และขนาด ของเคสจะแตกต่างกนั ออกไป ซง่ึ ในปจั จบุ ันมีหลายแบบทนี่ ยิ มกัน แลว้ แต่ผซู้ อ้ื จะเลือกซือ้ ตามความเหมาะสม ของงาน และสถานที่น้ัน เคส (case)

3. พำวเวอร์ซพั พลำย (Power Supply) เป็นอุปกรณ์ท่ีทาหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับช้ินส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าคอมพิวเตอร์มีอุปกรณ์ต่อพวงเยอะๆ เช่น ฮารด์ ดสิ ก์ ซดี ีรอมไดรฟ์ ดีวีดีไดรฟก์ ็ควรเลือกพาวเวอรซ์ ัพพลายที่มจี านวนวัตต์สงู เพื่อให้สามารถ จ่ายกระแสไฟได้เพียงพอ Power Supply4. คีย์บอร์ด (Keyboard) เป็นอุปกรณ์ในการรับข้อมูลท่ีสาคัญท่ีสุด มีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์ ของเครื่องพิมพ์ดีด มีจานวนแป้น 84 - 105 แป้นขน้ึ อยูก่ ับแปน้ ท่ีเปน็ กลุม่ ตวั เลข (Numeric keypad) กลุ่มฟงั กช์ ัน (Function keys) กลุม่ แปน้ พิเศษ (Special-purpose keys)กลุ่มแป้นตัวอักษร (Typewriter keys) หรือกลุ่มแป้นควบคุมอื่น ๆ (Control keys) ซ่ึงการส่ังงานคอมพิวเตอร์และการทางานหลายๆ อย่างจาเปน็ ตอ้ งใชแ้ ปน้ พมิ พเ์ ปน็ หลัก Keyboard

5. เมำส์ (Mouse) อุปกรณ์รับข้อมูลท่ีนิยมรองจากคีย์บอร์ด เมาส์จะช่วยในการบ่งช้ีตาแหน่งว่าขณะนี้กาลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพเรียกว่า \"ตวั ชี้ตำแหน่ง (Pointer)\" ซงึ่ อาศัยการเลอื่ นเมาส์ แทนการกดปมุ่ บังคบั ทศิ ทางบนคยี บ์ อร์ด Mouse6. เมนบอร์ด (Main board) แผ่นวงจรไฟฟ้าแผ่นใหญ่ท่ีรวมเอาช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ท่ีสาคัญๆมาไว้ด้วยกัน ซ่ึงเป็นส่วนที่ควบคุม การทางานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในพีชีท้ังหมด มีลักษณะเป็นแผ่น รูปร่างสี่เหล่ียมแผ่นที่ใหญ่ที่สุดในพีชี ท่ีจะรวบรวมเอาชิปและไอชี ( IC =Integrated Circuit) รวมท้ัง การด์ ต่อพ่วงอ่ืนๆ เอาไว้ดว้ ยกันบนบอร์ดเพียงอันเดียวเครื่องพีชีทุกเคร่ืองไม่สามารถทางาน ได้ถ้าขาดเมนบอร์ด Mainboard

7. ซีพียู (CPU) ซีพียูหรือหน่วยประมวลผลกลำง เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป (chip) นับเป็นอุปกรณ์ท่ีมีความสาคัญมากท่ีสุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลจากข้อมูลท่ีผู้ใช้ป้อน เข้ามาทางอุปกรณ์นาเข้าข้อมูลตามชดุ คาสงั่ หรอื โปรแกรมท่ีผู้ใช้ต้องการใช้งาน หนว่ ยประมวลผลกลาง ประกอบดว้ ยส่วนสาคัญ 3 ส่วน คือ 1) หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit: ALU) หน่วยคานวณตรรกะ ทาหน้าท่ีเหมือนกับเครื่องคานวณอยู่ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยทางานเกี่ยวกับการคานวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร อีกทั้งยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งท่ีเครื่องคานวณธรรมดาไม่มี คือ ความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ เพ่ือให้ได้คาตอบออกมาว่าเงื่อนไข นั้นเป็น จริง หรือ เท็จ ได้ 2) หน่วยควบคุม (Control Unit) หน่วยควบคุม ทาหน้าที่ควบคุมลาดับข้ันตอนการประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอุปกรณ์นาเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจาสารองด้วย ซีพียูที่มีจาหน่ายในท้องตลาด ได้แก่Pentium III , Pentium 4 , Pentium M (Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon CPU8. กำร์ดแสดงผล (Display Card) การ์ดแสดงผลใช้สาหรับเก็บข้อมูลที่ได้รับมาจากซีพียู โดยท่ีการ์ดบางรุ่นสามารถประมวลผลได้ในตัวการ์ด ซ่ึงจะช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลให้ซีพยี ู จึงทาให้การทางานของคอมพิวเตอร์นนั้ เร็วข้นึ ด้วย ซึ่งตวั การด์ แสดงผลนั้นจะมีหน่วยความจาในตัวของมันเอง ถ้าตัวการ์ดมีหน่วยความจามาก ก็จะรับข้อมูลจากซีพียูได้มากข้ึน ซ่ึงจะช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพมีความเร็วสงู ขึน้ ด้วย Display Card

หลกั กันทางานพืน้ ฐานของการ์ดแสดงผลจะเรมิ่ ตน้ ขึน้ เมอ่ื โปรแกรมตา่ งๆ สง่ ข้อมลู มาประมวลผลท่ี ซีพียูเม่ือซพี ียปู ระมวลผลเสรจ็ แล้ว ก็จะส่งข้อมูลท่จี ะนามาแสดงผลบนจอภาพมาทก่ี ารด์ แสดงผล จากนัน้ การด์ แสดงผล ก็จะส่งขอ้ มูลนี้มาท่จี อภาพ ตามข้อมูลท่ีได้รับมา การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่ ก็จะมีวงจร ในการเร่งความเร็วการแสดงผลภาพสามมิติ และมีหน่วยความจามาใหม้ ากพอสมควร9. แรม (RAM) RAM ย่อมาจากคาว่า Random-Access Memory เป็นหน่วยความจาหลักแต่ไม่ถาวร ซึ่งจะต้องมีไฟมาหล่อเลี้ยงอุปกรณต์ ลอดในการทางาน โดยถา้ เกิดไฟฟา้ กระพรบิ หรือดับ ขอ้ มลู ทถี่ ูกบันทกึ ไว้ในหนว่ ยความจาจะหายไปทนั ที SDRAM DDR-RAM RDRAM โดยหลักการทางานคร่าวๆ ของแรมน้ันเริ่มต้นที่รับข้อมูลจากผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ Input จากน้ันก็จะส่งข้อมูลไปยัง CPU ในการประมวลผล เม่ือ CPU ประมวลผลเสร็จแลว้ แรมจะรบั ข้อมลู ท่ีได้รับการประมวลผลแล้ว ออกไปยังอุปกรณ์ Output ตอ่ ไปโดยหน่วยความจาแรมที่ใช้ในปจั จุบนั มหี ลายชนดิ เช่น SDRAM, DDR-RAM, RDRAM

10. ฮำรด์ ดิสก์ (Hard disk) เปน็ อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มูลหรือโปรแกรมตา่ งๆ ของคอมพวิ เตอร์ โดยฮารด์ ดสิ คจ์ ะมีลักษณะเป็นรปู สเ่ี หลี่ยมที่มีเปลือกนอก เป็นโลหะแข็ง และมีแผงวงจรสาหรับการควบคุมการทางานประกบอยู่ท่ีด้านล่าง พร้อมกับช่องเสียบสายสัญญาณและสายไฟเลี้ยง ส่วนประกอบภายในจะถูกปิดผนึกไว้อย่างมิดชิด โดยฮาร์ดดิสค์ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็ก(platters) สองแผ่นหรือมากกว่ามาจัด เรียงอยบู่ นแกนเดียวกันเรยี ก Spindle ทาให้แผ่นแม่เหล็กหมุนไปพรอ้ ม ๆ กัน จากการขับเคลื่อนของมอเตอร์ แต่ละหน้าของแผ่นจานจะมีหัวอ่านเขียนประจาเฉพาะ โดยหัวอ่านเขียนทุกหัวจะเช่ือมติดกันคล้ายหวีสามารถเคลื่อนเข้าออกระหว่างแทร็กต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ซ่ึงอินเตอร์เฟสของฮาร์ดดิสก์ท่ีใช้ในปัจจุบัน มีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน-IDE(IntegratedDriveElectronics) เป็นระบบของ ฮาร์ดดิสกอ์ ินเตอร์เฟสที่ใช้กันมากในปจั จบุ ันนี้ การต่อไดรฟ์ ฮาร์ดดิสก์แบบ IDE จะต่อผ่านสายแพรและคอนเน็คเตอรจ์ านวน 40 ขาทีม่ ีอยบู่ นเมนบอรด์ สว่ นใหญแ่ ล้วใน 1 คอนเน็คเตอร์ จะสามารถตอ่ ฮาร์ดดสิ ก์ได้ 2 ตัวและบนเมนบอรด์ Harddisk แบบ IDE IDE Cable - SCSI (Small Computer System Interface) เป็นอินเตอร์เฟสที่แตกต่างจากอินเตอร์เฟสแบบอ่ืน ๆ มาก โดยจะอาศัย Controller Card ท่ีมี Processor อยู่ในตัวเองทาให้เป็นส่วนเพิ่มขยายกับแผงวงจรใหม่โดยจะสนับสนุนการต่ออุปกรณ์ได้ถึง 8 ตัว แต่การ์ดบางรุ่นอาจจะได้ถึง 14 ตัวทีเดยี ว โดยสว่ นใหญแ่ ลว้ จะใช้งานในรปู แบบ Server เพราะมีราคาแพงแต่มีความเร็วในการสง่ ขอ้ มลู สูง

Harddisk แบบ SCSI SCSI controller - Serial ATA (Advanced Technology Attachment) เป็นอินเตอร์เฟสแบบใหม่ เปิดตัวคร้ังแรกในวันท่ี 26 มิถุนายน 2545 งาน PC Expo ใน New York มีความเร็วในเข้าถึงข้อมูลถึง 150 Mbytes ต่อ วินาที และให้ผลตอบสนองในการทางานได้เร็วมากในส่วนของ extreme application เช่นGame Home Video และ Home Network Hub โดยเป็นอนิ เตอรเ์ ฟสที่จะมาแทนท่ขี อง IDE ในปัจจุบัน Harddisk แบบ Serial ATA

Serial ATA Cable11. CD-ROM / CD-RW / DVD / DVD-RW เป็นไดรฟ์สาหรับอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีรอม หรือดีวีดีรอม ซึ่งถ้าหากต้องการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นจะต้องใช้ไดรฟ์ที่สามารถเขียนแผ่นได้คือ CD-RW หรือ DVD-RW โดยความเร็วของ ซีดีรอมจะเรียกเป็น X เช่น 16X , 32X หรือ 52X โดยจะมีInterface เดียวกบั Harddisk CD-ROM การทางานของ CD-ROM ภายในซีดีรอมจะแบ่งเป็นแทร็กและเซ็กเตอร์เหมือนกับแผ่นดิสก์ แต่เซ็กเตอร์ในซีดีรอมจะมีขนาดเท่ากัน ทุกเซ็กเตอร์ ทาให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากข้ึน เม่ือไดรฟ์ซีดีรอมเริ่มทางานมอเตอร์จะเร่ิมหมุนด้วยความเร็วหลายค่า ท้งั นเ้ี พ่ือให้อตั ราเร็วในการอา่ นข้อมลู จากซีดรี อมคงท่ีสม่าเสมอทุกเซก็ เตอร์ ไม่วา่ จะเป็นเซก็ เตอร์ ท่ีอย่รู อบนอกกรือวงในก็ตาม จากน้ันแสงเลเซอร์จะฉายลงซีดีรอม โดยลาแสงจะถูกโฟกัสด้วยเลนส์ที่เคลื่อนตาแหน่งได้ โดยการทางานของขดลวดลาแสงเลเซอร์จะทะลุผ่านไปที่ซีดีรอมแล้วถูกสะท้อนกลับ ท่ีผิวหน้าของซีดีรอมจะเป็น หลุมเป็นบ่อ ส่วนที่เป็นหลุมลงไปเรียก\"แลนด์\" สาหรับบริเวณท่ีไม่มีการเจาะลึกลงไปเรียก \"พิต\" ผิวสองรูปแบบนี้เราใช้แทนการเก็บข้อมูลในรูปแบบของ 1 และ 0แสงเมื่อถูกพติ จะกระจายไปไม่สะทอ้ นกลับ แตเ่ ม่ือแสงถกู เลนส์จะสะท้อนกลับผ่านแท่งปริซมึ จากนั้นหักเหผ่านแทง่ ปริซมึ ไปยังตวั ตรวจจบั แสงอีกที ทกุ ๆชว่ งของลาแสงทกี่ ระทบตวั ตรวจจบั แสงจะกาเนิดแรงดนั ไฟฟา้ หรอื เกิด 1 และ 0 ทที่ าใหค้ อมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ ส่วนการบันทึกขอ้ มูลลงแผ่นซีดีรอมนั้นตอ้ งใช้แสงเลเซอรเ์ ช่นกัน โดยมีลาแสงเลเซอรจ์ ากหัวบันทกึ ของเคร่ืองบนั ทกึ ข้อมูลส่องไปกระทบพ้ืนผิวหน้าของแผ่น ถ้าสอ่ งไปกระทบบริเวณใดจะทาให้บริเวณนน้ั เป็นหลุมขนาดเล็ก บรเิ วณทีไม่ถูกบันทกึ จะมลี ักษณะเป็นพื้นเรยี บสลบั กนั ไปเรื่อยๆตลอดทั้งแผ่น

12. ฟล็อปปดี้ สิ ก์ (Floppy Disk) เป็นอุปกรณ์ที่กาเนิดมาก่อนยุคของพีซีเสียอีก โดยเร่ิมจากที่มีขนาด 8 น้ิว กลายมาเป็น 5.25 น้ิว จนมาถึงปัจจุบันซึ่งอยู่ท่ี3.5 นวิ้ ในส่วนของความจเุ ริม่ ตน้ ตง้ั แต่ไม่กี่ร้อยกิโลไบตม์ าเป็น 1.44 เมกะไบต์ และ 2.88 เมกะไบต์ ตามลาดับ Floppy Disk Drive ในปัจจุบันการใช้งานฟล็อปปี้ดิสก์น้ันน้อยลงไปมากเพราะ เน่ืองจากจุข้อมูลได้น้อยซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการแต่ฟล็อปป้ีดิสก์ก็ยังคงเป็นมาตรฐานหนึ่งท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องต้องมี การพัฒนาฟล็อปปี้ดิสก์ก็ไม่ได้หยุดย้ังไปเสียทเี ดยี ว ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ทใี่ ช้ระบบ Optical ทาใหส้ ามารถขยายความจุไปไดถ้ งึ 120 เมกะไบตต์ อ่ แผ่น

1. ความหมายของคอมพิวเตอร์คืออะไร 6. อุปกรณค์ อมพวิ เตอรม์ ี กอ่ี ย่างก. เครือ่ งมือที่ใชค้ านวณคาสั่งอตั โนมัติ ก. 11ข. เป็นเครื่องมอื ที่ใช้ทางาน ข. 12ค. การควบคมุ งาน ค. 13ง. เป็นเครื่องมือที่ทันสมยั ง. 142. องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอรม์ กี สี่ ว่ น 7. ชนดิ ของอปุ กรณจ์ อภาพมอี ยู่ กแ่ี บบก. 3 สว่ น ก. 4 แบบข. 4 ส่วน ข. 1 แบบค. 5 ส่วน ค. 2 แบบง. 6 สว่ น ง. 3 แบบ3. ฮารด์ แวร์ คืออะไร ของคอมพวิ เตอร์ 8. 8 Keyboard เป็นอุปกรณ์ที่คล้ายเคร่ืองพิมพ์ดีดอยากก. สิง่ ทจ่ี ับต้องไม่ได้ ทราบว่าจานวนแป้นพมิ พ์มที ้งั หมดเท่าไรข. ส่ิงท่ีจับตอ้ งได้ ก. 84-150 แป้นค. ส่งิ ทที่ าเป็นขอ้ มลู ข. 85 - 168 แปน้ง. การปฏิบัตงิ านของเจา้ หน้าท่ี ค. 86 - 178 แป้น4. ซอฟตแ์ วร์ คืออะไร ของคอมพิวเตอร์ ง. 70 - 100 แปน้ก. การปฏบิ ตั งิ านของเจ้าหนา้ ท่ี 9. CPU ประกอบไปดว้ ยอะไรบ้างข. สิ่งทจ่ี ะเป็นข้อมลู ก. การคดิ คานวณค. ส่งิ ทีจ่ บั ตอ้ งได้ ข. ส่วนรบั ข้อมูลง. ส่งิ ท่ีจบั ตอ้ งไม่ได้ ค. หนว่ ยแสดงผล5. ขอ้ มูลสารสนเทศ คอื อะไร ง. หน่วยควบคมุก. การปฏบิ ตั งิ านของเจ้าหนา้ ที่ 10. Mouse เปน็ ตวั ชว่ ยบ่งบอกวา่ ขณะที่ทางานอยู่ ณ จุดข. ส่งิ ทจี่ ับตอ้ งได้ ใดบนจอภาพเรียกว่าอะไรค. สง่ิ ทีจ่ บั ต้องไมไ่ ด้ ก. บอกขอ้ มลูง. สิง่ ที่เป็นข้อมลู ข. ตวั ประมวลผล ค. ตวั ชี้ตาแหน่ง ง. ตวั รบั ขอ้ มูล

คอมพวิ เตอร์ คอื เครื่องมือหรอื อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ (computer นิยมอา่ นในภาษาไทยว่าคอมพวิ เตอร์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทม่ี ีความสามารถในการคานวณอัตโนมตั ิตามคาสงั่ สว่ นท่ีใช้ประมวลผลเรยี กว่าหน่วยประมวลผล ชุดของคาส่งั ท่รี ะบุขนั้ ตอนการคานวณเรียกวา่ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ผลลพั ธท์ ่ีไดอ้ อกมานั้นอาจเปน็ ไดท้ ้งั ตวั เลข ข้อความ รูปภาพ เสียง หรืออยู่ในรปู อน่ื ๆ อกี มากมาย ลักษณะทางกายภาพของคอมพวิ เตอร์นนั้ มหี ลากหลาย มีทั้งขนาดที่ใหญ่มากจนต้องใช้ห้องท้งั ห้องในการบรรจุ และขนาดเล็กจนวางได้บนฝ่ามอื การจดั แบง่ ประเภทของคอมพิวเตอร์สามารถจดั แบ่งได้ตามขนาดทางกายภาพเปน็ สาคญั ซ่ึงมักจะแปลผนั กับประสทิ ธภิ าพความเรว็ ในการประมวลผล โดยขนาดคอมพวิ เตอรท์ ี่มขี นาดใหญท่ ่สี ุดเรียกว่า ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ ใช้กบั การคานวณผลทางวิทยาศาสตร์ ขนาดรองลงมาเรียกว่าเมนเฟรม มักใช้ในบรษิ ัทขนาดใหญท่ ่ตี ้องมีการประมวลผลธรุ กรรมทางธุรกิจจานวนมากๆ สาหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กท่ใี ชใ้ นระดบั บุคคลเรยี กว่า คอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคล และคอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคลที่พกพาไดเ้ รียกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ส่วนคอมพิวเตอรข์ นาดเลก็ ท่สี ามารถวางบนฝ่ามือได้เรียกวา่ พีดเี อ อยา่ งไรกต็ ามคอมพวิ เตอร์มใี ช้กนั อย่างกวา้ งขวางมาก ซงึ่ มอี ุปกรณ์หลายๆชนิดไดน้ าคอมพิวเตอรไ์ ปใชเ้ ปน็ กลไกหลักในการทางาน เช่น กล้องดจิ ทิ ัล เครอ่ื งเลน่ เอ็มพีสาม หรือในรถยนต์เองก็มีคอมพวิ เตอร์ทใ่ี ชช้ ว่ ยในการตรวจสอบระบบการทางานของเครอ่ื งยนต์

1. ขอ้ ใดคือความหมายของการนาเสนองาน 6. ข้อใดคือการเลอื กผนู้ าเสนอท่ีมีบคุ ลิกภาพทดี่ ีก. การวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจ ก. กอ่ นจบการนาเสนองานควรย้าส่งิ สาคญั ของเน้ือหาข. การถ่ายทอดข้อมลู หรือความรู้จากผสู้ ่งสารหรือผู้พูดไป ข. มีความรคู้ วามเข้าใจในเนอ้ื หาท่ีแมน่ ยายังผ้รู บั สารหรอื ผฟู้ ัง ค. การนาสื่อมาถา่ ยทอดใหผ้ ู้รับสารค. การกระตนุ้ ความสนใจของผฟู้ ังไดต้ ลอดระยะเวลา ง. เกดิ การเรียนรู้และเข้าใจส่ิงท่ีผ้สู ่งสารตอ้ งการสอ่ื สารให้ง. การผลติ สื่อท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ อยา่ งชัดเจน2. ข้อใดไม่ใช่วตั ถปุ ระสงคก์ ารนาเสนองาน 7. ข้อใดคอื ซอฟต์แวร์นาเสนอท่ีนยิ มใช้ในปัจจบุ ันก. เพ่ือให้ผู้รับสารทราบข้อมูลหรือความรู้ตามที่ผู้ส่งสาร ก. ซอฟตแ์ วร์นาเสนอต้องการถ่ายทอด ข. ซอฟต์แวร์กรรมสิทธิ์ข. เพ่ือให้ผู้รับสารเกิดการเรียนรู้และเข้าใจส่ิงที่ผู้ส่งสาร ค. ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ต้องการส่ือสารใหอ้ ยา่ งชัดเจน ง. ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ค. เพอ่ื ถ่ายทอดความรู้และการยอมรบั 8. คือใดคือความหมายซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ง. เพ่ือโน้มน้าวใจของผู้รับสารให้เกิดการยอมรับตามที่ผู้ ก. เป็นโ ปรแกรมท่ีใช้นาเสนอข้อมูลด้ว ยระบบส่งสารต้องการ คอมพวิ เตอร์3. ข้อใดไม่ใชห่ น้าท่ีของผูส้ ง่ สาร ข. ระบบหน่วยปฏิบัตกิ ารก. ถา่ ยทอดขอ้ มลู หรอื ความรู้ ค. ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมซึ่งเขียนข้ึนเพ่ือการทางานข. ส่อื สารใหผ้ ้รู บั เขา้ ใจ เฉพาะอย่างที่ต้องการค. โน้มนา้ วใจผูร้ บั ง. ซอฟคต์แวร์ท่ีใช้เป็นเคร่ืองมือในการตกแต่งภาพและง. รับทราบขอ้ มูลหรอื ความรู้ การสรา้ งภาพเคล่ือนไหว4. การนาเสนองานเป็นปัจจัยหนึ่งท่ีทาให้การนาเสนอ 9. ขอ้ ใดไม่ใช่ การนาเสนอแบบ Slide Presentationงานประสบความสาเร็จ สื่อท่ีดีและคุณภาพมีข้ันตอนการ ก. โดยใชโ้ ปรแกรม PowerPointออกแบบมีกีข่ ้ันตอน ข. โดยใชโ้ ปรแกรม ProShow Goldก. 2 ค. โดยใช้โปรแกรม Flip Albumข. 3 ง. โดยใชโ้ ปรแกรม Wordค. 4 10. ขอ้ ใดคอื ความหมาย .comง. 5 ก. ไฟล์โปรแกรมที่สามารถรันได้ ทางานได้ตวั มันเอง5. ภาพท่ใี ชใ้ นภาพนิ่งไม่ควรมขี นาดเลก็ กว่า เท่าไร จะทา ข. ไฟลเ์ อกสาร word MS Word, WordPADใหไ้ ม่เห็นรายละเอียด ค. ไฟล์ทีใ่ ชก้ ันอยา่ งแพรห่ ลายบนเว็บไซตท์ ่ีใหบ้ ริการวิดีโอก. 183 x 152 พกิ เซล ผ่านเวบ็ ไซต์ข. 56 x 243 พิกเซล ง. ไฟลภ์ าพที่สามารถแสดงเปน็ ภาพเคล่ือนไหวค. 542 x 98 พิกเซลง. 478 x 1022 พกิ เซล

ปจั จบุ นั การนาเสนองานสามารถทาให้ผฟู้ ังรับรูแ้ ละเข้าใจ รวมทั้งกระตุ้นความสนใจของผู้ฟังได้ตลอดระยะเวลาที่นาเสนอนนั้ ผ้นู าเสนอนิยมใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ไดแ้ ก่ ซอฟต์แวร์ และอปุ กรณ์แสดงผลทม่ี ีประสิทธิภาพ รว่ มกับการใช้เทคนคิ การนาเสนองานเพื่อส่ือสารไปยงั ผู้ฟังไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ การนาเสนองาน คอื การถ่ายทอดข้อมูลหรือความรู้จากผสู้ ง่ สารหรือผพู้ ูดไปยังผูร้ ับสารหรอื ผ้ฟู งั เพอื่ ใหผ้ ู้รับสารทราบไดร้ ับความรู้ หรือโนม้ น้าวใจของผู้รบั สารตามวตั ถปุ ระสงค์ท่ผี ้สู ่งสารต้องการสง่ ไปให้ โดยผู้สง่ สารอาจใช้วิธกี ารเพอื่ ที่จะกระตนุ้ ความสนใจของผูร้ บั สารใหเ้ กิดความสนใจอยา่ งต่อเน่ือง วตั ถุประสงคข์ องการนาเสนองาน 1. เพื่อใหผ้ รู้ ับสารทราบขอ้ มูลหรือความรู้ตามท่ีผสู้ ่งสารตอ้ งการถา่ ยทอด 2. เพื่อใหผ้ รู้ ับสารเกิดการเรียนรู้และเขา้ ใจส่ิงท่ีผสู้ ่งสารตอ้ งการสื่อสารให้ อยา่ งชดั เจน 3. เพื่อโนม้ นา้ วใจของผรู้ ับสารใหเ้ กิดการยอมรับตามที่ผสู้ ่งสารตอ้ งการ ผสู้ ่งสาร ผรู้ ับสาร1. ถา่ ยทอดข้อมูลหรือความรู้ 1. รับทราบข้อมูลหรือความรู้2. ส่ือสารให้ผ้รู ับเข้าใจ 2. เกดิ การเรยี นร้แู ละเข้าใจ 3. เกิดการยอมรับตามที่ผสู้ ่งสารตอ้ งการ3. โนม้ นา้ วใจผู้รบั

2.1 หลกั กำรออกแบบส่ือสำหรับกำรนำเสนองำน สอ่ื สาหรบั การนาเสนองานเป็นปจั จัยหน่ึงทีท่ าให้การนาเสนองานประสบความสาเรจ็ ส่อื ท่ดี แี ละคณุ ภาพมขี ั้นตอนการออกแบบ ดงั นี้1. ขั้นตอนการกาหนดวตั ถุประสงค์ เป็นขน้ั ตอนสาหรับกาหนดเนื้อหาสื่อไดต้ รงกับวตั ถุประสงค์ของผู้รบั สาร การกาหนดวตั ถุประสงคเ์ ปน็ การกาหนดผลลัพธท์ ีต่ ้องการใหเ้ กิดข้นึ กับผรู้ บั สารเม่ือสิ้นสุดการนาเสนอ ได้แก่ การรับทราบ การเกิดความรู้ความเขา้ ใจ หรือการโนม้ นา้ วใจ2. การวิเคราะห์ผูร้ ับสาร เปน็ การวิเคราะห์ตามความตอ้ งการ ความรู้ ความสนใจของผู้รบั สารจากอายุการศึกษา อาชีพ เปน็ตน้ เปน็ การกาหนดเนื้อหา ภาพ และเสยี งทเี่ หมาะสมกบั ผู้รบั สาร ตวั อยา่ ง เช่น ผ้รู ับสารเป็นนักเรยี น ละงานนาเสนอเปน็ งานที่ไม่เป็นทางการ อาจใชภ้ าพประกอบเปน็ การ์ตูนเพื่อดึงดูดความสนใจ หากผ้รู ับสารเปน็ คุณครู และงานนาเสนอเป็นงานวชิ าการที่ต้องการความนา่ เชื่อถือ ควรเลือกใช้ภาพประกอบท่สี มจริง3. การวางโครงสร้างเนื้อหางานาเสนอ เป็นการรวบรวมเน้ือหาของเร่ืองทจ่ี ะผลิต และออกแบบโครงสร้าง เนื้อหา หรือหัวข้อย่อยท่สี อ่ื ความหมายของงานทง้ั หมดให้ครบถ้วนและกระชับ4. การออกแบบบทดาเนินเร่ือง ( storyboard ) เปน็ การเขียนกรอบการดาเนนิ เรื่องโดยออกแบบสไลด์แตล่ ะหน้าวา่ ภาพเสยี ง และเทคนิคการนาเสนออยา่ งไร รวมทั้งลาดบั การนาเสนอของเนื้อหาใหต้ ่อเนื่องต้ังแตเ่ ร่มิ ต้นจนจบ5. การผลิตสื่อท่ีมปี ระสิทธิภาพ เปน็ การสร้างส่ือนาเสนอจากบทดาเนนิ เร่ืองที่ออกแบบไวโ้ ดยอาศัยหลักการทางศลิ ปะ เพ่ือให้ส่อื มีความสวยงามและเหมาะสมกบั การนาเสนองาน

หลักการนาเสนองาน มีดงั น้ี รายละเอยี ด หลกั การสร้างงานนาเสนอ  ภาพนิ่ง 1 ภาพน่งิ ให้สอ่ื ความหมายเพยี ง 1 แนวคิด จานวนภาพนิ่ง (slide) (Concept) รปู แบบตวั อกั ษร (Font)  จานวนภาพนิง่ น้อยท่ีสุดแตส่ ามารถสื่อสารเน้ือหาได้ สีตวั อกั ษร ครบถ้วน รปู แบบตวั อกั ษรควรเลือกใช้ท่ีเป็นมาตรฐานท่ลี งไวใ้ นเคร่ือง คอมพิวเตอร์หากนักเรียนเลือกรูปแบบภาษไทยหรอื ภาษาอังกฤษที่ สร้างขึ้นมาใหม่ เม่ือนาไปใชใ้ นเคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ไ่ี มม่ รี ปู แบบ ตวั อกั ษรดังกลา่ ว จาทาใหผ้ ลงานแสดงรูปแบบตัวอักษรไม่ตรงกับที่ สรา้ งไว้ ซ่ึงรูปแบบตวั อักษรที่แนะนา มดี ังนี้  ภาษาไทย ไดแ้ ก่ Angsana New, Cordia New  ภาษาองั กฤษ ไดแ้ ก่ Times New Roman, Arial ขนาดตวั อักษรต้องเปน็ ขนาดใหญพ่ อท่ที าใหผ้ ู้รับสารอ่านได้ชดั เจน โดยโปรแกรมไมโครซอฟต์ เพาเวอรพ์ อยต์ ไดแ้ นะนาไว้ ดังนี้  ตัวอกั ษรหน่ึงนิ้ว หรือ 72 พอยต์ สามารถอ่านไดใ้ น ระยะไกล 10 ฟตุ หรือ 3 เมตร  ตวั อักษรสองนวิ้ หรือ 144 พอยต์ สามารถอ่านได้ใน ระยะไกล 20 ฟตุ หรือ 6 เมตร  ตวั อกั ษรสามนวิ้ หรือ 216 พอยต์ สามารถอ่านไดใ้ น ระยะไกล 30 ฟตุ หรอื 9 เมตร ทั้งนี้ไม่ควรใช้ตวั หนังสอื หลายบรรทัดเกินไป เพราะจะทาให้ตัวอักษร เลก็ ลงทาให้อา่ นยาก หมำยเหตุ พอยต์(Point) คือ มาตรการวัดขนาดของตวั อักษรทพ่ี ิมพ์ออกมา ตามปกติ 1 พอยต์จะมีเท่ากบั 1/72 นว้ิ ดังนัน้ ตวั อักษรขนาด 12 พอยต์ จะมีขนาดเท่ากบั 1/72*12=0.17 นิ้ว  พ้ืนหลังสีอ่อนควรเลอื กใช้ตวั อกั ษรสีเขม้  พน้ื หลงั สเี ข้มควรเลือกใชต้ ัวอักษรสีอ่อนพืน้ หลงั ภาพนงิ่ พื้นหลังภาพนิ่งควรเป็นสีกลมกลืนกันและไม่สะดดุ ตาจนเกินไปการใสก่ ารเคลื่อนไหว(Animation) เพราะจะดงึ ดูดความสนใจผู้รับสารไปจากเนื้อหาท่ีนาเสนอ ทง้ั นี้ นกั เรียนควรเลือก ธมี (Theme) ทโ่ี ปรแกรมสรา้ งไวใ้ ห้ เพราะถูกออกแบบโดยนัก ออกแบบท่ีพิจารณาความเหมาะสมของสีท่เี ลือกใช้ไวเ้ รียบรอ้ ย การใส่การเคลื่อนไหวให้กับตวั อักษรหรือภาพในสไลดท์ ่ีไมม่ าก จนเกินไป หากผู้ใช้ใส่การเคล่ือนไหวมากเกนิ ไป อาจสรา้ งความ สบั สนและความราคาญ

เกรด็ IT ภาพประกอบมีสว่ นสาคัญที่ทาใหง้ านนาเสนอดงึ ดูดความสนใจของผ้รู บั สาร ซ่งึ ภาพท่ีใช้ในการสร้างสือ่ นาเสนอควรมีลกั ษณะดังน้ี  ขนาดภาพที่ไมเ่ ล็กจนเกนิ ไป โดยภาพท่ีใชใ้ นภาพนงิ่ ไม่ควรมี ขนาดเลก็ กวา่ 183 x 152 พิกเซล ซงึ่ จะทาใหไ้ ม่เห็นรายละเอยี ด และความสาคัญของภาพ  ความละเอยี ดของภาพ ภาพท่ีมคี วามละเอยี ดตา่ จะทาให้ภาพที่ ปรากฏขาดความคมชดั แต่ถา้ ภาพที่มีความละเอียดสูงทาให้ไฟล์ มีขนาดใหญ่ โดยความละเอยี ดของภาพทีม่ ีความเหมาะสมอยู่ ประมาณ 72 dbi  ไม่ควรใช้ภาพคลิปอาร์ตร่วมกับภาพถา่ ยในภาพหนึง่ เดยี วกัน เพราะอาจจะทาใหร้ ับสารเกดิ ความรสู้ กึ ไม่สมจรงิ2.2 เทคนิคกำรนำเสนองำนใหป้ ระสบผลสำเรจ็ นอกจากส่ือสาหรบั การนาเสนองานทน่ี ักเรยี นทาขึน้ มคี วามน่าสนใจและเปน็ สอื่ ทด่ี ีแล้ว แตถ่ า้ นักเรียนใชว้ ิธกี ารนาเสนอดว้ ยการอา่ นสอื่ ใหผ้ ู้รับสารฟงั การนาเสนองานคร้ังนัน้ ก็ไม่อาจประสบความสาเรจ็ ได้ ดงั นั้น ความสาเร็จในการนาเสนองานนอกจากจะขึ้นอยู่กบัสอ่ื ทม่ี ีคุณภาพแลว้ ยังขนึ้ อยู่กับวิธีการนาเสนองานทดี่ ี การนาเสนองานเป็นการนาส่ือมาถ่ายทอดใหผ้ รู้ บั สาร ซ่ึงการนาเสนองานท่ีดตี ้องมีองค์ประกอบสาคญั ท่ีจะชว่ ยให้งานประสบความสาเร็จ ดงั นี้

1) กำรเลือกผนู้ ำเสนอที่มบี ุคลิกภำพท่ดี ี มีหลักกำรเลือก ดงั นี้ 1. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในเน้ือหาทีแ่ มน่ ยา โดยผูน้ าเสนอต้องศึกษาเน้ือหาใหเ้ กิดความเข้าใจในรายละเอยี ดทกุ ประเด็นที่ จะต้องนาเสนอ 2. แต่งกายดว้ ยชุดที่สะอาดและสภุ าพ โดยผู้นาเสนออาจแต่งกายดว้ ยชุดนกั เรียนหรอื สวมชดุ ที่เข้ากับเน้ือหาเร่ืองราวท่ี นาเสนอ แตต่ ้องระลึกเสมอว่าชุดท่นี าเสนอตอ้ งสภุ าพไมโ่ ดดเด่นจนทาใหด้ งึ ดดู ความสนใจผรู้ บั สารจากเนอ้ื หาท่ีนาเสนอ 3. มกี ิริยาทา่ ทางทส่ี ุภาพ และอ่อนน้อมเป็นธรรมชาติ และยิ้มให้กบั ผ้รู ับสาร เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้สึกผอ่ นคลาย 4. ใช้ภาษาท่ถี ูกต้องและมนี าเสียงท่ชี ดั เจน โดยผู้นาเสนอควรใช้ภาษาพูดในการนาเสนอ ไม่ควรใช้ภาเขยี นเพ่ือใหผ้ ้รู ับสาร เขา้ ใจง่าย มจี งั หวะในการพูดและหยุดพูด 5. ออกเสยี งคาควบคลา้ ร-ล ให้ชัดเจน 6. มีความมัน่ ใจในการนาเสนอ โดยผูน้ าเสนอควรสบตาผ้รู บั สารอย่างสมา่ เสมอคร้ังละ 1-2 คน และควรสบตาผู้รับสาร อย่างทั่วถึง2) กำรลำดับข้ันตอนกำรนำเสนอ 1. เรมิ่ ตน้ การนาเสนอใหน้ า่ สนใจดว้ ยการเกร่ินนาสู่เนอื้ หา 2. กระตุ้นให้ผู้ฟงั สนใจอย่างต่อเนือ่ งในระหวา่ งการนาเสนอ โดยการใหผ้ ู้รบั สารมีสว่ นรว่ มในการนาเสนอ เชน่ การต้ัง คาถามให้ผู้รับสารตอบ การใหผ้ รู้ บั สารร่วมเล่นเกม เปน็ ตน้ 3. ก่อนจบการนาเสนองานควรย้าสิง่ สาคัญของเนื้อหาทจี่ ะตอ้ งการจะส่อื สารกับผรู้ ับสารใหเ้ กดิ ความเข้าใจและประทบั ใจ การแตง่ กายสภุ าพรวมถงึ กิรยิ าท่าทางท่ีเปน็ ธรรมชาติ จะชว่ ยใหก้ ารนาเสนองานมีความ สมบรู ณ์ยงิ่ ข้ึน

เมื่อก่อนการนาเสนองานในช้ันเรียนหรือการประชุมนิยมใช้แผ่นใสและเคร่ืองฉายภาพข้ามศีรษะ ( overheadprojector) ซ่ึงงานนาเสนอจะดึงดูดความสนใจของผู้รับสารได้น้อย แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบซอฟต์แวร์ประยุกต์ท่ีทาให้การนาเสนองานทาได้สะดวกและง่าย อีกทั้งยังผลิตผลงานนาเสนอที่สวยงามและเทคนิคที่ทาให้ดึงดูดความสนใจของผูร้ บั สารได้อยา่ งตอ่ เนื่อง 3.1 กำรเลอื กใชซ้ อฟต์แวรน์ ำเสนอ (Presentation Software) ซอฟต์แวร์นาเสนอ เป็นโปรแกรมที่ใช้นาเสนอข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ท่ีสามารถนาเสนอข้อมูลในรูปแบบตัวอักษร ตาราง กราฟ ภาพน่ิง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงทาให้งานนาเสนอมีรูปแบบที่หลากหลายส่งผลให้ผู้รับสารสนใจและเข้าใจกับเน้ือหาได้มากย่ิงข้ึนโดยซอฟต์แวร์นาเสนอในปัจจุบันมีเคร่ืองมือที่สร้างเทคนิคและลูกเล่นตา่ งๆ ทผ่ี ู้ใชส่ ามารถสรา้ งได้อย่างง่ายดายในเวลาทร่ี วดเร็ว ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมซ่ึงเขียนข้ึนเพ่ือการทางานเฉพาะอย่างท่ีต้องการ การทางานร่วมกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์ในงานเฉพาะด้าน ซ่ึงไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระบบผู้ใช้จาเป็นต้องเลือกหาซอฟต์แวร์ให้ตรงตามความตอ้ งการนน้ั ๆ โดยเฉพาะ เชน่ การจัดพมิ พ์รายงาน นาเสนองาน จดั ทาบัญชี ตกแตง่ ภาพ ออกแบบเวบ็ ไซต์ซอฟต์แวร์นาเสนอท่ีนิยมใช้ในปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์กรรมสิทธิ์ (proprietary software) ที่ผู้ใช้ต้องซื้อจากบริษทั ผูเ้ ป็นเจา้ ของ ได้แก่ ไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยต์ โลตัส ฟรแี ลนดก์ ราฟิก โดครเรส พรเี ซน็ เทชัน กราฟิกและซอฟต์แวร์เปิดเผยรหสั (open source) ไดแ้ ก่ โอเพน ออฟฟิศ ปลาดาวออฟฟศิ อมิ เพรส ท่ีผูใ้ ช้สามารถดาวน์โหลดไดฟ้ รี

ซอฟตแ์ วร์กรรมสิทธ์ิ ซอฟตแ์ วร์เปิ ดเผยรหสั

ไฟล์ที่ผลิตจากซอฟต์แวร์กรรมสิทธิ์และซอฟต์แวร์เปิดเผยรหัสมักใช้ร่วมกันได้ แต่ต้องบันทึกเป็นประเภทของไฟล์หรือนามสกลุ ของไฟลต์ รงกับซอฟตแ์ วรท์ ่นี าไปใช้งานปัจจยั การเลือกใชซ้ อฟต์แวรน์ าเสนองาน มีดังน้ี 1. สารวจและเปรยี บเทียบความสามารถของซอฟตแ์ วรเ์ พือ่ เลือกให้ตรงกบั ความต้องการของผ้ใู ชม้ ากทส่ี ดุ 2. สารวจฮารด์ แวร์และระบบคอมพิวเตอร์ของผใู้ ช้งาน ได้แก่ ระบบหนว่ ยปฏบิ ัตกิ าร รุ่นของหน่วยประมวลผลกลาง 3. ขนาดของหน่วยความจาหลกั ความจุของ ฮารด์ ดสิ ก์ 4. ทดลองใชซ้ อฟต์แวร์โดยพจิ ารณาความยากง่ายของการใช้ระบบความช่วยเหลือ ตรวจสอบขอ้ มลู บรกิ ารหลังการขายและระยะเวลาในการรับประกัน 3.2ซอฟตแ์ วร์กราฟิก แอนเิ มชน่ั และมัลติมีเดีย ซอฟต์แวร์กราฟิกแอนิเมชั่น เป็นซอฟคต์แวร์ท่ีใช้เป็นเครื่องมือในการตกแต่งภาพและการสร้างภาพเคลื่อนไหว เพ่ือนาภาพหรือภาพเคล่ือนไหวดังกล่าวไปใช้ในซอฟต์แวร์นาเสนอ ซ่ึงซอฟต์แวร์การฟิกและเอนิเมชันท่ีนิยมใช้น้ันแบ่งเป็นซอฟต์แวร์กรรมสทิ ธิ์ ได้แก่ อะโดบีโฟโตชอป (Adobe Phtoshop) อะโดบี แฟลช (Adobe Flash) ออโตเดสก์ 3 ดีเอสแมกซ์ (Autodesk3ds Max) อะโดบี แคปติเวท (Adobe Captivate) และซาวด์ ฟอกจ์ (Soun Forge) ดังน้ี อะโดบี โฟโตชอป (Adobe Photoshop) เป็นโปรแกรมประยุกต์ด้านกราฟิกสาหรับจัดการแก้ไขและตกแต่งรูปภาพ (photo editing and retouching) โฟโตชอปสามารถจัดการกับไฟล์ได้หลากหลายประเภท เช่น JPG,GIF,PNG,TIF,TGA ปัจจุบันโฟโตชอปได้มีการพัฒนามาถึงรุ่นCS5.5(Creative Suite 5.5)อะโดบี แฟลช (Adobe Flash) โปรแกรมประยุกต์ด้านกราฟิกสาหรับสร้างภาพเคลื่อนไหว (Animation) จากภาพ เสียง โดยสามารถสร้างส่ือที่มีความสามารถในการโต้ตอบ (Interactive) กบั ผู้ใช้ได้ อะโดบี แฟลช จึงนิยมใช้ผลติ สื่อนาเสนอเกม ภาพยนตร์การต์ ูนแอนิเมชันเป็นตน้ ออโตเดสก์ 3 ดีเอสแมกส์ ( Autodesk 3DS Max ) เป็นโปรแกรมประยกุ ต์ด้านกราฟิกสาหรับสร้างภาพเคลื่อนไหวสามมิติและแอนเิ มชนั นยิ มใช้ผลิตสือ่ ในงานโฆษณาและงานภาพยนตร์

อะโดบี แคปติเวท ( Adobe captivate) เป็นโปรแกรมประยุกต์ด้านกราฟิกสาหรับสื่อเพื่อการศึกษาซึ่งรองรับไฟล์มัลติมีเดียไดแ้ ก่ ภาพ เสียง การบรรยายผา่ นไมโครโฟนพร้อมการจบั หน้าจอภาพ การตดั ต่อวิดิโอ เปน็ ตน้ ซาวด์ ฟอกจ์ (Sound Forge) โปรแกรมประยุกต์ที่ใช้สาหรับบันทึกเสียง ปรับแต่งเสียงใส่ Effect หรือ ลูกเล่นให้เสียงสาหรับนาไปใช้เป็นเสียงประกอบในโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ ซ่ึงไฟล์เสียงที่ใช้ในโปรแกรมน้ันสามารถใช้ได้ท้ังWAV,AIFF,MP3 เป็นตน้รปู แบบการเลอื กอุปกรณแ์ สดงผลและอปุ กรณ์สาหรบั ใช้ประกอบการนาเสนองาน ปจั จบุ นั มี 3 รปู แบบ1. กำรนำเสนอแบบ Slide Presentation มี 3 รูปแบบ 1.1โดยใช้โปรแกรม PowerPoint เป็นโปรเเกรมในการนาเสนอได้ในหลายรูปเเบบ ไม่ว่าจะเป็นนาเสนอ เเบบเป็นอักษร ภาพ หรือเสียง โดยตัวโปรเเกรมนั้นสามารถนาสื่อเหล่าน้ีมาผสมผสานได้ อย่าบงลงตัวเเละมีประสิทธิภาพมากท่ีสุด ลักษณะการของโปรเเกรม Power Point การทางานในรูปของภาพนิ่ง (slide) คือเเผ่นเอกสารเดี่ยวๆที่เเสดงสิ่งต่างๆตัวอักษร กราฟตาราง รูปภาพ หรืออ่ืนๆ เเละสามารถเเสดงไลด์ลงบนแผ่นกระดาษหรือเครื่องฉานข้ามศีรษะ หรือหน้าจอคอมพวิ เตอร์ หรือเครอื่ งฉาย 1.2 โดยใช้โปรแกรม ProShow Gold คือ โปรแกรมสาหรับเรียงลาดบั ภาพเพอื่ นาเสนอแบบมัลติมเี ดีย ที่มีความสามารถสร้างผลงานได้ในระดับมืออาชีพ ด้วยเทคนิคพิเศษมากมาย ใช้งานง่าย เหมาะสมต่อการนาเสนอส่ือ การเรียนการสอน การแนะนาอตั ชีวประวตั ิ สามารถเขียนช้ินงานออกมาในรูปแบบของวซี ดี ีได้อยา่ งรวดเรว็ เป็นโปรแกรมที่ช่วยสร้างแผ่นวีซีดีจากรูปภาพต่างๆท่ีทางานได้รวดเร็ว โดยสามารถทาการใส่เสียงเพลงประกอบได้ด้วย และสามารถแปลงไฟล์เป็นไฟล์ต่างๆ ได้ เช่น VCD ,DVDหรือ EXE ฯลฯ ภาพทีไ่ ด้จดั อยูใ่ นคุณภาพดี ซงึ่ โปรแกรมอื่นจะใช้เวลาในการทางานนานพอสมควร

1.3 โปรแกรม Flip Album เปน็ โปรแกรมลักษณะโปรแกรมสาเร็จรปู โดยโปรแกรมท่ีนิยมสร้างอีบุ๊คหรือ หนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์มีความสามารถมากมาย คือ มีการช่ือมโยงกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มอื่นๆได้และมีบราวเซอร์ที่ทาหน้าที่ดึงข้อมูลมาแสดงให้ตามที่ต้องการเหมือนอินเตอร์เน็ตทั่วไป หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดงข้อความ รูปภาพ เสียง ภาพเคล่ือนไหวและแบบทดสอบและสามารถสัง่ พิมพเ์ อกสารทต่ี ้องการออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ได้และสามารถปรับปรงุ ขอ้ มูลใหท้ นั สมัยไดต้ ลอดเวลา

ประเภทไฟล์ทใี่ ช้ใน microsoft powerpointFile Type - ประเภทของไฟล์ หรอื นามสกุลของไฟลจ์ ะเป็นตวั บ่งบอกวา่ เป็นไฟล์อะไร สามารถใช้ โปรแกรมอะไรเปิดไดบ้ ้าง การเรยี นรู้ หรือเขา้ ใจประเภทของไฟล์ต่าง ๆ ยอ่ มจะมีส่วนชว่ ย ใหเ้ ราสามารถทางานได้อย่างมีประสทิ ธิภาพมากขนึ้ ลักษณะของนามสกุลของไฟล์จะอยู่ หลงั ชื่อ เชน่ Readme.txt นามสกุลของไฟลค์ อื .txt เปน็ ตน้.asp = Active Server Page ไฟล์ คือไฟล์เอกสาร asp สาหรับดบู นเว็บ คลา้ ยกับเอกสาร htm, html Text Editor ทัว่ ไป.avi = Video ไฟล์ คือไฟล์ภาพยนตร์ ภาพเคล่ือนไหว Windows Media Player,Quick Time, ACDsee เวอร์ชนั่ ใหมๆ่.bak = Back up ไฟล์ คอื ไฟลส์ ารองของโปรแกรมท่วั ไป ข้นึ อย่กู ับวา่ สร้างโดยโปรแกรมอะไร.bat = Batch ไฟล์ คือ text ไฟล์ทบ่ี รรจุชุดคาส่ังลงไป ทางานโดยเรยี กโปรแกรมอนื่ ๆ.bmp = Bitmap ไฟล์ ถูกสรา้ งขน้ึ มาเพื่อใชเ้ พื่อแสดงผลภาพกราฟฟิคโปรแกรมวินโดวส์ ไม่มกี าร บบี อดั ไฟลจ์ ึงมีลกั ษณะใหญ่ เปน็ ไฟล์ท่ีไมค่ ่อยมีประโยชนใ์ นดา้ นการใชง้ านมากนัก.cda = เป็นแทร็กเสยี งดิจิตอลทรี่ ปู แบบเหมอื นกับไฟล์ Wave บรรจไุ ว้ในแผ่นซีดีเพลงด้วยรปู แบบ พเิ ศษเฉพาะ ซงึ่ มนั ไมใ่ ชไ่ ฟล์ข้อมูลคอมพิวเตอร์อยา่ ง Wave หรอื MP3 คณุ จึงไมส่ ามารถ กอ๊ บป้ีแทร็ก CD Audio เก็บไวใ้ นฮาร์ดิสก์ได้.com = Execute ไฟล์ คอื ไฟล์โปรแกรมท่ีสามารถรันได้ ทางานได้ตัวมนั เอง.dat = ไฟล์ภาพยนตรแ์ ผ่นจาก VCD หรอื อาจเปน็ ไฟล์ของโปรแกรมอืน่ ๆ อีกดว้ ย Power DVD, Windows Media Player และ อนื่ ๆ อีกมาก.dbf = Database ไฟล์ คือไฟล์ฐานขอ้ มลู Dbase,Foxpro, Access,Excel.divx = เปน็ ไฟล์ avi ชนดิ หนึง่ แต่ไฟล์ DivX สามารถเล่นพรอ้ มกับเลือกแสดง Subtitle ได้หลายภาษาในการเล่นไฟลป์ ระเภทนี้ จะตอ้ งติดตงั้ โปรแกรมแสดง subtitle เพม่ิ เติม เพื่อให้ subtitle ปรากฏไปพร้อม ๆ กบั การรับชมภาพยนตรด์ ว้ ย.doc = Document ไฟล์ คือไฟล์เอกสาร word MS Word, WordPAD.dwg = คือ drawing file ของโปรแกรม AutoCAD.exe = Execute ไฟล์ คือไฟลโ์ ปรแกรมทส่ี ามารถรันได้ ทางานได้ตัวมนั เอง.fla = เปน็ ไฟล์ Vector ของโปรแกรม Macromedia Flash ใชใ้ นการสรา้ งอนเิ มชัน่ บนเวบเพจ.fly = เป็นไฟลท์ ี่ใช้กนั อย่างแพร่หลายบนเว็บไซต์ท่ใี ห้บริการวดิ ีโอผา่ นเวบ็ ไซต์ แต่คุณภาพดกี ว่า ไฟล์ 3gp.gif = ไฟลภ์ าพทสี่ ามารถแสดงเป็นภาพเคล่ือนไหวได้ เหมาะกับการเกบ็ ไฟล์รูปภาพขนาดเล็ก และมจี านวนของสีน้อย มีขนาดไฟล์เลก็.hqx = ไฟล์ท่ีแสดงผลในเครอ่ื งMac.htm, html = เอกสาร Hypertext Markup Language สาหรบั ดบู น web site ทัว่ ๆ ไป Browser

นอกจากการเลือกใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศทเ่ี หมาะสมกับการนาเสนองาน โดยการเลือกใช้ซอฟตแ์ วร์ต่างๆ เช่นซอฟตแ์ วร์นาเสนอ ซอฟต์แวรก์ ราฟิก แอนิเมชนั และมลั ตมิ ีเดยี และมลั ติมเี ดียมาชว่ ยใหง้ านนาเสนอดูน่าสนใจและดงึ ดดู ผู้ชมให้ติดตามอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่การนาเสนอจะสมบูรณ์ย่ิงขึ้นเมื่อมีการเลือกใช้อุปกรณ์แสดงผลและอุปกรณ์สาหรับใช้ประกอบการนาเสนองานใหเ้ หมาะสมกับงานนน้ั ๆส่ิงท่ีผู้นาเสนอต้องคานึงถึง คือ การเลือกใช้อุปกรณ์แสดงผลที่ช่วยถ่ายทอดผลงานให้กับผู้รับสารจานวนมากได้อย่างสวยงามและมีประสิทธิผล ปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยใหม่ของอุปกรณ์แสดงผลและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการนาเสนอเกิดข้ึนอย่างต่อเน่ืองและรวดเรว็ ที่ช่วยให้การนาเสนองานเกดิ ความนา่ สนใจ ได้แก่ เคร่ืองฉายภาพ ( Projector ) เครอื่ งฉายภาพวัตถสุ ามมติ ิ ( Digital Visualizer ) กระดานอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Board : E-board ) เมาส์ปากกา ( Mouse Pen/TabletPen/Graphic Tablet ) และเลเซอร์พอยต์เตอร์ ( Laser Pointer ) ซง่ึ มีรายละเอียดดังน้ี 1.1 อุปกรณ์แสดงผลสาหรับการนาเสนองาน1) เครื่องฉายภาพ ( Projector ) เคร่ืองฉายภาพ ( Projector ) เป็นอุปกรณ์ที่ชวยในการแสดงภาพให้มีขนาดใหญ่ข้ึนเหมาะสาหรับการนามาใช้นาเสนองานในชั้นเรียนหรือห้องประชุมเคร่ืองฉายภาพ สามารถนามาต่อกับอุปกรณ์ได้หลายประเภท เชน่ วดิ ีโอ วิดีโอซีดี หรือดวี ดี ี รวมท้งั คอมพิวเตอร์การเช่ือมต่อของเครื่องฉายภาพกับอุปกรณ์อื่นๆ นั้น จะมีพอร์ต( Port ) สาหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ ซ่ึงถ้ามีพอร์ตสาหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ มาก ก็จะทาให้เคร่ืองฉายภาพมีความหลากหลายในการใช้งาน ซ่ึงการนาเสนอด้วยเคร่ืองคอมพิวเตอรน์ ้นั ต้องมก่ี ารเชอื่ มต่อระหว่างคอมพวิ เตอร์และเคร่ืองฉายภาพด้วยพอร์ต VGAปัจจุบันมีการผลิตเครื่องฉายภาพด้วยเทคโนโลยีใหม่ ได้แก่ เครื่องฉายภาพไร้สาย เครื่องฉายภาพสามมิติ มีรายละเอียดดังตอ่ ไปนี้ เคร่อื งฉายภาพไร้สาย เปน็ เครือ่ งฉายภาพทีส่ ามารถสง่ สญั ญาณไปยงั เครื่องคอมพวิ เตอร์ทมี่ ีการด์ เครือข่ายแบบไรส้ าย ( Wireless Card ) โดยใช้สายสัญญาณ ทาใหผ้ นู้ าเสนอสามารถวางคอมพิวเตอร์โน๊ตบกุ๊ ไว้ท่ตี าแน่งที่รบั -ส่งสัญญาณกบั เคร่ือง ฉายภาพก็ได้และสามารถใช้โปรแกรมนาเสนอ เช่น PowerPoint แบบ real time ได้ปกติ ยกเว้นในเร่ืองของ ภาพเคลื่อนไหวซึ่งยังมีข้อจากันอยู่ นอกจากนี้ระบบไร้สายทาให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เคร่ืองสลับกันใช้ งานกบั เครือ่ งฉายภาพเพียงเครือ่ งเดยี ว ทาใหเ้ ครือ่ งฉายภาพไรส้ าย เรยี กกันอีกช่ือหนงึ่ วา่ “เคร่อื งฉายภาพเครือข่าย”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook