กศน .ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอร่อนพบิ ลู ย์ ประวตั ิและปาฏหิ าริยพ์ ระแมเ่ ศรษฐี
แม่เศรษฐี ส่งิ ศักดสิ์ ทิ ธ์คิ ู่บา้ นคูเ่ มอื ง รอ่ นพิบูลย์ วัดร่อนนา หรืออีกช่ือท่ีคนส่วนใหญ่ คนุ้ เคย คือวัดแม่เศรษฐี ซง่ึ เป็นวดั โบราณครง้ั แต่สมัยยุค กรุงศรีอยุธยา ซ่ึงสันนิษฐานว่า ในอดีตเคยเป็นวัด ท่ีรุ่งเรืองแห่งนึงเลย ทีเดียว จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พระพุทธรปู ปางอมุ้ บาตร สูง1.7 เมตร
ประวัติที่เล่าขานกันมาว่าย้อนไปเมื่อ700-800ปี มีครอบครัวเศรษฐี กรงมาศ ที่หลบหนีลี้ภัยจากการปล้นสดมภ์ลงมายังดินแดนใต้ และได้ต้ัง รกรากตงั้ แต่นั้นมา และได้ถอื กาเนิด บุตรี 1คน ซงึ่ เลีย้ งดู ทะนุถนอม ดว้ ย ความรัก เป็นอย่างดี จนเมื่อนางเข้าย่างสู่อายุ 16ปี ได้พากันไปเที่ยว น้าตก พร้อมกับ พี่เลี้ยง กันอย่างสนุกสนาน แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทาให้นางและพี่เล้ียงล่ืนตกสู่ธารน้าตกและสูญหาย จึงนาความไปแจ้ง เศรษฐีกรงมาศ
ด้วยความรักต่อบุตรสาว จึงประกาศให้รางวัลแก่คนที่ตามหาร่างบุตรสาว ตนพบ มีเงินรางวัลเป็นทองคา ร้อยช่ัง ชาวบ้านต่างพากันงมหาร่างที่สูญหาย แทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ไม่พบ ย่ิงทาให้เศรษฐีและเศรษฐีนีกรงมาศเศร้าโศก จึง คิดสร้างรูปปั้นบุตรสาวและพี่เลี้ยง เหล่าช่างต่างๆลงแรงปั้นออกมาเท่าไหร่ก็ไม่ เหมือนและไม่สวยงาม เพราะขาดความชานาญ จนเรื่องน้ีดังไปจนถึง สรวงสววรค์ พระอนิ ทรจ์ งึ ตรสั ใหพ้ ระวิษณกุ รรมลงมาทาให้สาเร็จ จึงแปลงกาย เป็นพราหมณ์เฒ่า ใช้ทองท้ังหมดหล่อข้ึนรูปออกมาเป็นพระพุทธรูปอย่าง สวยงามวิจติ ร
ดังน้ัน ครอบครัวเศรษฐีกรงลาศจึงต้ังจิต อธิฐาน ที่จะลอยพระพุทธรูปน้ีไปตามแม่น้า หากแต่ ร่างของบุตรสาวเสียชีวิต และอยู่ที่แห่งหนตาบลใด กข็ อให้ระพุทธรปู นีจ้ งได้ตงั้ อยทู่ ี่แห่งนน้ั จนลอยมาติด ที่วัดคีรีวงค์ หรือวัดร่อนนาปัจจุบัน จนวันหน่ึงมีเด็ก เล้ียงควาย เห็นเศียรพระโผล่จากดิน แต่คิดว่าคือตอ ไม้ จึงน้าเชือกไปผูกวัวไว้ ตกค่ามีอาการปวดท้อง อยา่ งหนกั ชาวบ้านทม่ี าพบจึงต่างพากันช่วยดงึ ขนึ้ ให้ พ้นดิน หากแต่ทาทาไหร่ก็ไม่เป็นผล ต่อมาเด็กเล้ียง ควายมีอาการส่ันเทาและพูดว่าตอ้ งการใหพ้ ระสงฆ์มา นิมนตร์ข้ึนมา จึงทาตามและสามารถนาท่านขึ้นมา อย่างน้ามหศั จรรย์ จงึ เป็นตานานเลา่ ขานสืบต่อกันมา จวบจนปจั จบุ นั
วดั รอ่ นนา ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตาบลรอ่ นพบิ ลู ย์ อาเภอร่อนพบิ ลู ย์ จงั หวัดนครศรธี รรมราช หากขบั มาบนถนน พหลโยธิน ให้เลย้ี งเข้ามาทางฝัง่ สถานตี ารวจ ร่อนพิบลู ย์ ตรงเข้ามา ประมาณ เกือบ 2 กโิ ล ใหเ้ ล้ยี วซ้ายเข้าสหู่ มูบ่ ้าน รอ่ น นา ขบั ตรงมาจนสดุ ทางจะพบกับวดั ตงั้ อยู่
ทนี่ ่เี ปดิ ใหค้ นเขา้ นมัสการการองคแ์ ม่เศรษฐี ต้งั แต่เวลา 6:00-18:00น ของทุกวนั คนส่วนใหญน่ ิยมมากราบไหวข้ อพรใหเ้ กดิ ความสิรมิ งคลแก่ ครอบครัว และยงั มีคนมาขอลูกกับแม่เศรษฐีและสมหวังดงั ปรารถนาไปแลว้ มากมาย หากใครสมหวงั มกั จะนารปู ถา่ ยเดก็ ๆมา ถวายใหเ้ ปน็ ลกู ของเจ้าแมอ่ ีกดว้ ย
ความศักด์ิสิทธ์ิของแม่เศรษฐี ทาให้เกิด ประเพณีอันย่ิงใหญ่เล่าขานสืบทอดกันมาเมื่อคร้ัง โบราณในงานบุญประเพณีลากพระ พระเเม่เศรษฐีถือ เป็นพระลากที่ขึ้นช่ือ เป็นการลากพระบกที่ยังไม่ใช้ ล้อเล่ือน ยังใช้แรงมหาชนที่เอาศรัทธามาเป็นท่ีตั้ง ใน วันแรม1 ค่า ของทุกปี ประเพณีลากพระ ถือเป็นบุญ ประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวร่อนพิบูลย์ มีการลากพระ จากทุกวันมารวมกันท่ีอาเภอ โดยเอาพระแม่เศรษฐี เป็นประธาน ตลอด 2 วัน 1 คืน จะได้ยินเสียงปะทัด ดังไม่ขาดสาย สาธุชนขอพรพระแม่ได้ทุกเรื่อง แม้แต่ ขอบุตร การเจ็บไขไ้ ดป้ ว่ ย ขอหวย ขอพร เพื่อความอยู่ เย็นเป็นสุข ความศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่ดังไปท่ัวทุก สารทิศ
กศน .ห้องสมุดประชาชนอาเภอรอ่ นพบิ ลู ย์ อา้ งอิง https://th.tripadvisor.com/ShowUserReviews https://thailandtourismdirectory.go.th/
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: