Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2542-11-20 ฟื้นฟูจิตเดิมแท้

2542-11-20 ฟื้นฟูจิตเดิมแท้

Published by alongkorn.arsa, 2022-02-03 15:55:25

Description: 2542-11-20 ฟื้นฟูจิตเดิมแท้

Search

Read the Text Version

仙佛聖訓 พระโอวาทส่ิงศักด์สิ ิทธ์ิ วนั ที่ 19-21 เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2542 ประเทศไทย จงั หวัด ขอนแก่น พทุ ธสถาน กวนอนิ ช้ันเรียน ฟื้ นฟูจิตเดมิ แท้ 泰國 府 年歲 西元 佛 堂 日 日 รวมพระโอวาทบทสนทนา 會 พระโอวาทสิ่งศักด์สิ ิทธ์เิ ป็ นสิ่งสาคัญ กรุณาเก็บรักษาไว้ในท่สี ูง

วันเสาร์ท่ี ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศั+กราช ๒๕๕๒ ประชุมธรรม ๒ วัน ช้ันฟื้ นฟจู ิตเดมิ แท้ ณ พทุ ธสถานกวนอนิ จงั หวัดขอนแก่น ณ.พุทธสถานกวนอนิ จังหวัด ขอนแก่น ( ซ้า* ) บทพระโอวาทนาเสด็จ โล่งใจจริงๆ คิดนานแลว้ โครงการ ฝันเป็นพลงั ผลกั ดนั แรงให้ฉนั ต้งั ตารอวนั ใหม้ าถึงเร็วพลนั อธิษฐานๆ ทกุ คนื มน่ั ในดวงใจวญิ ญาณของคุณครู ไดม้ าดแู ลปกครองคนแถวน้ี ต้งั ใจจริงจงั ปฏิรูปความดี จิตสานึกให้ฟพู ้นื ทุกคน สันติสุขสงั คมโลกเรา กล่อมเกลารักแบง่ ปันรักผคู้ น รู้อภยั หลกี อบายให้พน้ หมนั่ ฝึกฝนจกั เป็นผลช่วยเชิดชู เร่ืองคณุ ธรรมย้ากนั อยบู่ ่อยๆ คอ่ ยบรรจงทานาเป็นเขม็ บอกทศิ พอ่ แม่มีคุณอยา่ ไดร้ ิทาผดิ โปรดหยดุ คดิ สร้างชีวติ เกิดค่าคณุ ข้าพเจ้า พระอาจารย์จี้กง ของศิษย์โง่ ผ้ทู ารักท้ังหลาย รับบญั ชาจาก พระอนุตตรธรรมมารดา ลงมายงั แคนโลกา ถามศิษยร์ ักท้งั หลายสบายดีไหม ? -1-

บทเพลงพระโอวาทพระอาจารย์จกี้ ง โลง่ ใจจริงๆ คิดนานแลว้ โครงการ ฝันเป็นพลงั ผลกั ดนั แรงให้ฉนั ต้งั ตารอวนั ใหม้ าถึงเร็วพลนั อธิษฐานๆ ทกุ คืน มนั่ ในดวงใจวิญญาณของคณุ ครู ไดม้ าดแู ลปกครองคนแถวน้ี ต้งั ใจจริงจงั ปฏริ ูปความดี จิตสานึกให้ฟพู ้ืนทุกคน * สันตสิ ุขสงั คมโลกเรา กลอ่ มเกลารักแบง่ ปันรกั ผคู้ น รู้อภยั หลีกอบายใหพ้ น้ หมน่ั ฝึกฝนจกั เป็นผลช่วยเชิดชู เรื่องคุณธรรมย้ากนั อยบู่ อ่ ยๆ ค่อยบรรจงทานาเป็นเขม็ บอกทศิ พอ่ แมม่ ีคณุ อยา่ ไดร้ ิทาผิด โปรดหยดุ คดิ สร้างชีวิตเกิดค่าคณุ ( ซ้า * ) ทานอง : สวยแล้วหยิ่ง ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๒ ช้ันฟื้ นฟจู ติ เดมิ แท้ประชุมธรรม ๒ วัน ณ พทุ ธสถานกวนอิน จงั หวดั ขอนแก่น -2-

วนั เสาร์ท่ี ๒๐ พฤศจกิ ายน พทุ ธศักราช ๒๕๔๒ ประชุมธรรม ๒ วัน ณ พุทธสถานกวนอนิ จงั หวดั ขอนแก่น ช้ันพื้นฟูจติ เดิมแท้แห่งตน ในโค+รงการอบรมเพ่ือพฒั นาคุณธรรม พระโอวาทพระอาจารย์จกี้ ง ทรงเมตตาประทบั ญาณประทานโอวาทระหว่างเวลา ๑๔.๔๕ - ๑๖.๔๐ -------------------------- พระอาจารยท์ รงเมตตาถามนกั เรียนในช้นั วา่ ...เราเคยรู้จกั กนั หรือเปลา่ ไมม่ ใี ครรู้จกั พระอาจารยส์ ักคน ไมร่ ู้จกั ใครสักคน นอกจากศิษยพ์ ่ฐี าปนพงศ์ เป็นอาจารยฝ์ ่ายปกครอง ไม่ใช่เป็น เพยี งอาจารยฝ์ ่ายปกครองอยา่ งเดียว ยงั เป็นอาจารยแ์ นะนาเรามาใช่ไหม พระอาจารยท์ รงเมตตาถาม นกั เรียนในช้นั ว่า... อาจารยแ์ นะนาดีอยา่ งไร มีพระคุณตอ่ เราอยา่ งไร (รู้จกั คณุ ธรรมมากข้ึน ฝึกฝน ตวั เอง ใหร้ ู้จกั สิ่งท่ีดี ทาใหไ้ ดค้ วามรู้ใหม่ ๆ) ทาให้เรามองโลกทศั น์ไดก้ วา้ งกว่าทีเ่ ราเป็นอยู่ ความเหน็ดเหน่ือยของอาจารยเ์ รารู้หรือเปลา่ ว่าทา่ นเหนด็ เหน่ือยอยา่ งไร เตยี่ นฉวนซือ ทุกคนทราบไหมวา่ ความเหนด็ เหน่ือยของอาจารยท์ ี่ทา่ นพาเรามาถึงที่น่ีได้ เบ้ืองหลงั การมาของ อ.ฐาปนพงศ์ ท่านกราบถึงหน่ึงแสนกราบ มาวนั น้ีไมท่ ราบวา่ ถึงหรือยงั เมือ่ วานน้ีบอกไดแ้ ปดหมื่นแลว้ นนั่ คอื ความในใจที่ทา่ นระบายออกมา (พระอาจารยท์ รงเมตตานาร้อง เพลงพระโอวาททานอง “สวยแลว้ หยง่ิ ”) ศษิ ยท์ กุ คนอาจจะยงั ไมร่ ู้ ไม่เห็น ความเหนื่อยยากของอาจารยท์ ่อี ุตส่าหฝ์ ่าฟัน ท่ีมีความมุ่งมนั่ อยากจะใหศ้ ษิ ยข์ องท่านไดร้ บั รู้ส่ิงที่ดี ไดอ้ ดทน ไดร้ บั ฟังสิ่งทม่ี คี ุณค่าต่อชีวิต ความต้งั อกต้งั ใจของ ทา่ นมีมานาน กอ่ นที่บุญวาระ บุญสัมพนั ธข์ องนกั เรียนหน่ึงร้อยห้าสิบกวา่ คนจะมารวมกนั ไดก้ ไ็ มใ่ ช่ งา่ ยดายเลย เราเคยอบรมอะไรทีค่ นเยอะๆ แบบน้ีไหม ? (เคยครับ, คะ่ ) แตง่ านน้ีกบั ทางโลกแตกตา่ ง กนั รู้ถึงความแตกตา่ งหรือเปลา่ ? (รู้ครบั ,คะ่ ) แตกต่างอยา่ งไร ? มาวนั แรกทุกคนต่างสนุกสนาน ร่าเริง แจ่มใสกนั ใช่ไหม พอมาถงึ เวลาน้ีอะไรจะใหญ่ขนาคน้นั พวกเรานึกไม่ถงึ ว่าจะไดช้ มสถานทมี่ คี วาม โอ่อา่ น่าเกรงขามสถานทีอ่ นั ศกั ด์ิสิทธ์ิทีท่ าให้เรามองเห็นแลว้ ตอ้ งรีบสงบเสง่ียมเจียมตวั ใช่ไหม -3-

พวกเราสงบเสงี่ยมเจียมตวั กนั ไหม ? (เจียมคะ่ , ครับ ) ทกุ คนสงบเสงี่ยมเจียมตวั ดีมาก เป็นนักเรียนที่มี คณุ ภาพมีคณุ ธรรมอยใู่ นตวั ปกติแลว้ จะใหค้ นหลาย ๆ คนมานง่ั ชุมนุมกนั อยา่ งน้ีแลว้ บอกให้ทาตาม อยา่ งน้นั อยา่ งน้ีเขาจะเชื่อยาก แต่ทุกคนเป็นผูม้ ีการศึกษามีคณุ ธรรม รู้ผใู้ หญ่ รู้เด็ก รู้อะไรควรทา อะไร ไม่ควรทา รู้อะไรเป็นสิ่งดี อะไรเป็นส่ิงไมด่ ี เราสามารถบงั คบั ตวั เอง นาพาตวั เองใหม้ านงั่ ในหอ้ งพระ ผ่านการประชุมธรรมไดอ้ ย่างราบร่ืน พอเขา้ มาในหอ้ งพระทุกคนไดร้ ับการแนะนาสถานท่ีพอสงั เขป แลว้ กก็ ราบคารวะส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ จากน้นั กท็ านขา้ วเที่ยงกนั ใช่ไหม (ใช่คะ่ , ครบั ) ไมใ่ ช่ขา้ วเที่ยงน่ีขา้ ว บา่ ย ใช่ไหม บางคนขา้ วม้ือเชา้ ไมไ่ ดต้ กถึงทอ้ งเลย ก็เลยกินขา้ วบา่ ยกนั กข็ ้ึนมายืนอีกสองชว่ั โมงเตม็ ๆ ใช่ไหม ? (ใช่ครบั , คะ่ ) เป็นอะไรที่ทรมานสงั ขารเหลอื เกินแทบจะทนไม่ไหวแลว้ แต่ทกุ คนกผ็ า่ นพน้ วกิ ฤตการณ์น้นั มาได้ ผ่านมาอยา่ งราบรื่นทกุ ประการ นนั่ แสดงว่าทุกคนมีรากบญุ รากกศุ ล เป็นผทู้ ่ี ปฏบิ ตั บิ าเพญ็ เพียรดี เป็นผมู้ ีคุณงามความดีอยใู่ นตวั จึงสามารถทาให้พิธีการรับธรรมะผ่านพน้ ไปได้ อยา่ งราบรื่น พอผ่านพิธีรบั ธรรมะไปแลว้ ก็ขอแสดงความยินดี ยินดีดว้ ย ไดย้ นิ คาว่ายินดีไหม ? (ไดย้ ิน ครับ, ค่ะ) พวกเรารู้หรือเปล่าว่าเขายินดีอะไรกบั เรา (ไมท่ ราบคะ่ ) ยงั ไม่ทราบอกี หรือพุทธบริกรยินดี ทาไม ตอบดงั ๆ หน่อย... พุทธบริกร ไมเ่ ป็นตวั อยา่ งท่ดี ีเลย เพราะทกุ คนไดร้ ับวิถธี รรม ไดร้ ับจุดหลดุ พน้ แลว้ จึงแสดงความยนิ ดี ใช่ไหม (ใช่) หลดุ พน้ ไปแลว้ จะไปไหน จะหลดุ พน้ หรือยงั (ยงั ) ยงั ตอ้ ง บาเพ็ญอกี ใช่ไหม ? (ใช่) แลว้ เขากอ็ ธิบายวา่ วนั น้ีทุกคนไดม้ ารบั วถิ ธี รรม ซ่ึงเป็นวิถแี ห่งจิตวิถแี ห่ง ความหลดุ พน้ การปรกโปรดในวาระกาลช่วงยคุ สุดทา้ ยน้ี เป็นการไดร้ ับธรรมะกอ่ นแลว้ คอ่ ยบาเพญ็ ทีหลงั อยา่ งน้ีใช่ไหม ? (ใช่) เมอื่ ในคร้ังสมยั ก่อนน้นั การถา่ ยทอดวถิ ธี รรมอนั เป็นวิถแี ห่งการหลดุ พน้ น้นั จะตอ้ งเป็นผูท้ ่แี สวงหาธรรม ไดอ้ อกบาเพ็ญเพยี รอยใู่ นป่ าเขา เมอื่ บญุ กุศลถงึ พร้อมแลว้ จึงจะตรัสรู้ ได้ ถงึ จะรู้หนทางการหลุดฟันได้ แต่วนั น้ีศิษยข์ องอาจารยท์ น่ี ง่ั ในที่น้ี ไมม่ ีใครออกบาเพ็ญบวชอยใู่ น ป่ าเขาเลย ใช่ไมใ่ ช่ ? ทุกคนยงั ไปโรงเรียน ทามาหากิน กินขา้ วไปทุกวนั ๆ เรียนหนงั สือทุกวนั ยงั ดารงชีวิตปกติ แต่เราอยดู่ ีๆกไ็ ดร้ ับธรรมะโชคดีไหม ? (โชคดีครับ, ค่ะ) รับธรรมะน้ีบางคนอาจจะ ยงั ไม่เห็นคณุ ค่า ไมเ่ ห็นความสากญั วถิ ีแห่งการหลุดพน้ ซ่ึงสามารถทาให้เราหลุดออกจากวฏั ฏะเวียน ว่ายน้ีได้ เป็นสิ่งท่มี ีคา่ มากไหม (มากครับ, ค่ะ) ถา้ เราไมไ่ ดร้ บั จุดน้ีจะเป็นอยา่ งไร กไ็ ม่รู้ว่าตายแลว้ จะ ไปไหน ใช่ไหม ? (ใช่) ไม่รู้ว่าชีวติ เกิดมาเพอ่ื อะไร ไม่รู้จกั ตวั ตนทีแ่ ทจ้ ริงของตวั เอง อยใู่ นชีวติ อยใู่ น โลกน้ีอยา่ งเล่ือนลอยไร้จุดหมาย ไม่มีเป้าหมาย จึงทาใหช้ ีวติ ไม่เกิดคณุ คา่ ข้ึน แตว่ นั น้ีศิษยท์ ุกคนมาเขา้ อบรมประชุมธรรม ผ่านการรบั วถิ ีธรรม อาจารยถ์ ่ายทอดเบกิ ธรรม ถ่ายทอดธรรมให้แลว้ ถา่ ยทอดจุด เกิดจุดตายให้แลว้ แลว้ บอกวา่ หนทางน้ีคือ หนทางการหลดุ พน้ ถา้ ใครอยากจะหลดุ พน้ จะตอ้ งบาเพ็ญ ในหนทางน้ี เพื่อทีจ่ ะกลบั คืนสู่ตน้ กาเนิดของจิตญาณ เป็นอยา่ งน้ีใช่ไหม (ใช่) ...ลมื หมดแลว้ ค่ะ ฟังอาจารยพ์ ดู เขา้ ใจไหม ? (เขา้ ใจ) ต้งั แต่เมือ่ วานจนถงึ วนั น้ีฟังมาแลว้ ก่ีหวั ขอ้ (สี่หัวขอ้ ) มีอะไรบา้ ง -4-

(เต่ียนฉวนซือเมตตา : เม่อื วานน้ี “สัจธรรมแห่งชีวิต” หัวขอ้ แรก หวั ขอ้ หลกั จริง ๆ วนั น้ีหัวขอ้ เมื่อเชา้ น้ีคือ ธรรมะกบั ศาสนาเป็นหัวขอ้ ที่สอง หัวขอ้ ที่สาม “เหตุตน้ ผลกรรมและจะชาระหน้ีเวรกรรม ไดอ้ ยา่ งไร” และส่ี “ความหมายของการทานเจ” จนกระทง่ั อาจารยบ์ ุญสนองมาเสริมใหป้ ระสบการณ์ ให้เรามนั่ ใจ) ฟังมาแลว้ สี่หวั ขอ้ หา้ หัวขอ้ กบั “ไตรรัตน์” ใช่ไหม ? (ใช่) ฟังมาแลว้ หา้ หวั ขอ้ จาอะไรไดบ้ า้ ง หรือเปล่า หวั ขอ้ กินเจมปี ระโยชน์อยา่ งไร ? (ช่วยให้ร่างกายแขง็ แรง, ระบบขบั ถ่ายสะดวก ไมเ่ บยี ดเบียนส่ิงมีชีวติ แสดงวา่ มจี ิตเมตตา, ทาให้อายยุ ืนยาว) การกินเจมอี ะไรอีกใครตอบไดช้ ่วยกนั ตอบ อยา่ งน้ีตอ้ งมีรางวลั ให้แลว้ ไม่มีใครอยากไดร้ างวลั หรือ (เพอ่ื ตดั เจา้ กรรมนายเวร) และทาให้ อะไร (ทาใหจ้ ิตใจสงบ) ทาให้จิตใจสงบไมฟ่ ้งุ ซ่าน ทาให้อะไรไดอ้ กี ? ทศี่ ษิ ยพ์ ดู วา่ กินเจสามารถตดั เจา้ กรรมนายเวรได้ ทาไมถึงตดั ได้ ? (เพราะวา่ ไม่เบยี ดเบียนชีวติ ของเขา และทาใหไ้ ม่สร้างหน้ี บาปกรรมตอ่ ไป ดว้ ยการไม่ทาร้ายเขา ไม่ไปกินเขาอกี ) สรุปก็คอื ที่ตดั ไดเ้ พราะเราไม่ไปเบียดเบียน ชีวติ เขา ไม่ไปกินเขาอีก ใช่ไหม (ใช่) เขาก็เป็นสุขใช่ไมใ่ ช่ (ใช่) สุขตวั ไหน สุข “ก” หรือ สุข “ข” (สุข “ข”) สุข “ข” ไขน่ ะ จาให้ดี เราตดั เจา้ กรรมนายเวรไดเ้ พราะว่าเราไมไ่ ปเบียดเบยี นชีวติ เขาต่อไป อกี ไมไ่ ดเ้ พม่ิ บาปหน้ีสินเวรกรรมช้นั ใหม่ข้ึนมาอกี ทาใหส้ ตั วท์ ้งั หลายกต็ ่างดารงชีวติ ไปตามบุญตาม กรรมของเขาไป ไมไ่ ดม้ าเก่ียวขอ้ งกนั ไมไ่ ดม้ าเกี่ยวกรรมกนั ใช่ไมใ่ ช่เป็นอยา่ งน้ี (ใช่) กินเจมี ประโยชนม์ ากมายไหม ? (มากมายค่ะ)แลว้ คิดว่าเมอื่ กลบั ไปจะกินเจอกี ไหม? (ไมแ่ น่ครับ) ...ก็เม่ือครู่ บอกว่ากินเจยอ่ ยงา่ ยไม่ใช่หรือทาไมไมก่ ลบั ไปกินตอ่ ล่ะ กลบั ไปก็กินเจตอ่ จะไดย้ อ่ ยงา่ ยๆ ไมม่ ปี ัญหา เร่ือง เรื่องอะไร (เร่ืองการขบั ถา่ ยครับ) ถกู ตอ้ ง ตกลงไม่ไปกินเจตอ่ หรืออยา่ งไร (กินครับถา้ มีโอกาส) ขอใหม้ ีโอกาสทกุ วนั นะ กินเจดีอยา่ งไรอีก (ทาใหม้ จี ิตเมตตา) จะไปกินเขาอกี หรือเปลา่ เมอื่ เกิดจิต เมตตากจ็ ะตอ้ งลดละไปถกู ไม่ถูก ถา้ เราเกิดจิตเมตตาจริงเราจะกลา้ กลบั ไป กินเพอื่ นอกี ไหม ? ถา้ เพอื่ น กินเพอ่ื นดว้ ยกนั จะเป็นอยา่ งไร... กลา้ กินไหม ? ไม่กลา้ ใช่หรือเปล่า แตส่ ัตวโ์ ลกกเ็ ป็นเพ่ือนเราเช่นกนั ใช่ไหม ? เรากลา้ กินเพอ่ื นหรือ..กินเจมอี ะไรอีก (ทาให้มีจิตต้งั มนั่ ในการบาเพญ็ ) กินเจแลว้ ทาให้มีจิต ต้งั มน่ั ในการบาเพญ็ ใช่ไหม ? แลว้ เราต้งั มนั่ ไหม ? (กาลงั จะต้งั ) กาลงั จะต้งั อาจารยก์ ข็ ออวยพร ให้ต้งั มนั่ ให้สาเร็จ ยงั มอี ีกหรือ ? (๑. ประหยดั เงิน เพราะวา่ ผกั ถูกกวา่ เน้ือ ๒. ไมต่ อ้ งเสียเงินคา่ เครื่องสาอาง เพราะอาหารเจทาใหผ้ วิ พรรณสวยงามอยแู่ ลว้ ๓. จะไม่เปลืองค่ารกั ษาพยาบาล เพราะพชื ผกั ไมท่ าให้ เกิดโทษแก่ร่างกาย) อยา่ งน้ีดีไหม ? (ดี) อยากกินเจไหม (อยาก) อยากหรือยงั (ยงั ) ถอ้ ยา่ งน้นั เอาอีก กินเจดีอยา่ งไรอีก ...ไมม่ แี ลว้ นึกไม่ออก จาไมไ่ ด้ อาหารเจเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นอาหารธรรมชาติ เป็นอาหารที่ไร้หน้ีสินเวรกรรม กินเจแลว้ ทาให้เกิดจิตเมตตาข้ึน ทาใหจ้ ิตใจดีข้ึน พวกเรามาท่ีน่ีก็กินเจ กนั ทุกวนั รู้สึกว่าอาหารเจอร่อยไหม ? (อร่อย) อร่อยแลว้ อยากจะกินต่อไหม (อยาก) บรุ ินทร์ไม่ ประสบความสาเร็จเลย พดู ใหค้ นร้อยหา้ สิบกว่าคน ไมม่ ีใครอยากกินเจเลยสกั คน มใี ครอยากกินเจบา้ ง -5-

ยกมือข้ึน (นกั เรียนส่วนใหญย่ กมอื ) เอาใจพบ่ี ุรินทร์ใช่ไหม (ใช่) เม่อื สักครู่ไมม่ ใี ครยกสักคน ตอนน้ี ใครอยากกินเจยกมอื ข้นึ เอามือลง วงเดือนทาไมถงึ อยากกินเจ อยากแขง็ แรงใช่ไหมลุกข้นึ ตอบ (ใช่) การท่ีเราจะฝึกกินเจไดจ้ ะตอ้ งเกิดจากจิตใจที่แทจ้ ริง เกิดจากความต้งั ใจทแี่ ทจ้ ริง ไมไ่ ดเ้ กิดจากกินตาม เขา ไมใ่ ช่วา่ อาจารยจ์ ้ีกงมาถาม แลว้ ใหอ้ าจารยร์ ีบถาม รีบรีบตอบกนั ไป อยากกินเจ อยากกินเจแลว้ ผ่านไป อยา่ งน้ีมไิ ดอ้ อกจากใจจริง ใช่ไหมใช่ ทาไมอาจารยถ์ ึงไดย้ ้าเร่ืองการกินเจ มาถามพวกเราว่า อยากจะกินเจไหม ทาไมถงึ เป็นอยา่ งน้นั เพราะวา่ ทกุ คนมเี จา้ กรรมนายเวรมากมาย มีมากพออยแู่ ลว้ ใช่ ไหมใช่ (ใช่) มีมากลนั พน้ ตวั อยแู่ ลว้ เรายงั จะไปก่อหน้ีสร้างสินอกี แลว้ เราจะคนื เมื่อไร เอาอะไรไปใช้ คนื เขา ชีวติ ตอ้ งชดใชช้ ีวติ ดว้ ยหรือไม่ (ใช่) ชีวิตเรามีกี่ชีวติ (หน่ึงชีวิต) แลว้ หน้ีสินเวรกรรมที่เราฆ่าเขา มกี ่ีชีวิต (หลายชีวติ ) ชีวิตหน่ึงแลกกบั หลายชีวิตคุม้ ไหม (ไม่คมุ้ ) เขายอมหรือเปลา่ เราตอ้ งตายแลว้ เกิด เกิดแลว้ ตายไป ใชเ้ ขาอกี ก่ีภพกี่ชาติ หลายภพหลายชาติใช่ไมใ่ ช่ (ใช่) ถา้ เราสร้างไวม้ ากกินไวม้ าก เราก็ ตอ้ งไปเวียนว่ายตายเกิดภพแลว้ ภพอีก จนกว่าจะหมดเวรหมดกรรมกนั แต่วนั น้ีทกุ คนไดร้ ับวถิ ีธรรม ไดร้ บั วถิ ีแห่งการหลุดพน้ ซ่ึงเป็นหนทางทเ่ี ราไม่เคยไดศ้ กึ ษาเป็นเร่ืองที่เราไม่เคยไดย้ ินมโี องการ สวรรคม์ กี ารบาเพญ็ ทีผ่ ดิ แผกจากการบาเพ็ญของยกุ สมยั ก่อน ทกุ คนวนั น้ีไดม้ ารับรู้เร่ืองราวการกินเจ มีประโยชน์คือ 1) ทาให้เกิดจิตเมตตา 2) ทาใหส้ ุขภาพแขง็ แรง 3) ทาให้ลดลา้ งหน้ีสินเวรกรรมใช่ หรือไม่ (ใช่) สามขอ้ หลกั ๆ น้ีพวกเราตอ้ งสามารถจดจาให้ได้ ในเมื่อทกุ คนตอนน้ีมีหน้ีสินเวรกรรม มากพออยแู่ ลว้ หากตอนน้ีเราไม่หยดุ สร้างกรรมแลว้ กรรมทีเ่ รามีอยนู่ ้นั เราจะไปใช้เขาไดอ้ ยา่ งไร ใช้ หมดไดอ้ ยา่ งไร เอาอะไร ไปใชเ้ ขา ชีวิตมชี ีวิตเดียว ใชห้ มดแลว้ เอาอะไรอีก เรายงั ไมร่ ู้ ใช่หรือไม่ (ใช่) เป็นสิ่งทเี่ ราตอ้ งมาศกึ ษากนั ต่อวา่ ในเม่ือหน้ีสินเวรกรรมเรามากมายอยา่ งน้ีแลว้ ชีวิตชดใชก้ นั ดว้ ยชีวติ แลว้ เรามีชีวิตเดียว ใชไ้ ปหน้ีชีวิตเดียวยงั เหลอื อีกมากมายใชไ้ ม่หมด ยงั มอี ะไรทีส่ ามารถชดใชเ้ ขาได้ อกี นน่ั กค็ อื อะไร บุญกศุ ลใช่ไหม (ใช่) ทกุ คนเคยไดย้ ินบุญกุศลไหม (เคย) บญุ กศุ ลสร้างไดอ้ ยา่ งไร บุญกศุ ลสร้างจากจิต จากใจ สร้างจากความมงุ่ มน่ั ต้งั ใจจริง กุศลแท้ บญุ จริง การทาบุญของเราท่ีทาคอื ไปทาบุญตกั บาตรท่ีวดั ใช่หรือไม่ (ใช่) ทาอาหารไปถวายพระทอดกฐิน ทอดผา้ ป่ า ใช่ไมใ่ ช่ เป็นอยา่ งน้ี หยอดเงินใส่ตู้ บริจาคทว่ี ดั เขามาบริจาคเรากร็ ่วมบุญไป ซองผา้ ป่ า อะไรตา่ ง ๆ น้ี เป็นการสร้างบญุ ท่ี เรารู้จกั กนั ดีใช่ไหม (ใช่) แต่บญุ กุศลเพียงเล็กนอ้ ยเหลา่ น้ี เราสามารถใชค้ นื เขาไดห้ มดไหม (ไม)่ ไม่ได้ อกี เพราะฉะน้นั เราตอ้ งสร้างบุญกศุ ลใช่หรือไม่ (ใช่) สร้างบุญกุศลใหญ่ สร้างไดอ้ ยา่ งไร เรายงั ไม่รู้ การทท่ี กุ คนมารบั ธรรมะเป็นการมารับรู้จิตญาณของตนเอง เป็นการมารับรู้ตวั จริง เป็นการมารับรู้ หนทางหลดุ พน้ เพ่ือท่ีจะบาเพญ็ ธรรมกลบั คืนไป ถา้ เราบาเพญ็ จนสาเร็จไปเป็นสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ พ่อ แม่ ป่ ู ยา่ ตา ยาย ทุกคนไดร้ บั บุญบารมไี ปดว้ ยใช่ไม่ใช่ (ใช่) อยา่ งเช่น พระพทุ ธองคท์ ่านตรัสรู้บาเพญ็ สาเร็จ กลบั คนื ไปแลว้ ท่านก็ไดม้ าโปรดใครอกี โปรดเวไนยสัตวใ์ ช่ไหม โปรดพระบิดา โปรดพระมารดา ของท่านใช่ไม่ใช่ (ใช่) บญุ กศุ ลเผือ่ แผต่ อ่ ไปอีก นนั่ เป็นการสร้างบุญใหญใ่ ช่ไหม (ใช่) ทาให้คนหน่ึง -6-

สามารถเขา้ ใจเปลยี่ นแปลงตนเองเป็นคนดีได้ นนั่ คือการสร้างบุญ สร้างกุศลทยี่ ิ่งใหญ่ อย่างเช่น วนั น้ี ฐาปนพงศ์ไดพ้ าศิษยท์ กุ คนมาอบรมธรรมะก็เพือ่ ทจ่ี ะมจี ุดประสงค์ จะใหน้ กั เรียนทกุ คนมีคุณธรรม มจี ริยธรรม มีความคิด ความอา่ น ทถ่ี กู ตอ้ งเท่ยี งตรงกบั หลกั สจั ธรรม เวลาปฏิบตั ิตวั ออกมา ความประพฤติการดารงชีวติ จึงจะสอดคลอ้ งกบั ทานองคลองธรรม ไมป่ ฏิบตั ิในสิ่งท่ไี ม่ควร ไม่ทาใน ส่ิงที่ผดิ กฎหมาย เป็นการสร้างบาปสร้างกรรมตอ่ ไป นนั่ เป็นการฟ้ื นฟูเปลีย่ นแปลงจิตใจของทุกคนให้ ดีงามใช่ไม่ใช่ (ใช่) บุญกุศลน้ียง่ิ ใหญ่ทาให้คน ๆ หน่ึงสามารถ เมื่อก่อนอาจจะเคยเลว อาจจะเคยไมด่ ี เคยสูบฝิ่น กินกญั ชา อาจจะเคยสูบบหุ ร่ี ด่ืมเหลา้ อาจจะเคยเป็นนกั เรียนท่ีเกกมะเหรกเกเร แตท่ กุ คน ไดม้ าฟังธรรมะ มาศึกษาธรรมะ อบรมธรรม เกิดจิตสานึกท่ดี ีงาม เปลี่ยนแปลงตนเองข้นึ ทาให้คนท่ี เลวกลบั กลายเป็นคนทด่ี ี นน่ั คอื บุญกศุ ลท่ีย่ิงใหญ่ ใช่ไม่ใช่ (ใช่) คน ๆ นน่ั เปล่ยี นแปลงจากคนทไ่ี มด่ ี มาเป็นคนดี กต็ อ้ งบาเพญ็ ตนสาเร็จกลบั ข้ึนไป คนน้นั กไ็ ดเ้ ป็นพุทธะใช่ไหม (ใช่) ส่งเสริมคนหน่ึงคน ให้เป็นพทุ ธะ บุญกุศลยง่ิ ใหญไ่ หม (ย่งิ ใหญ่) เรารู้หรือยงั ว่าการสร้างบญุ สร้างกศุ ลทยี่ ิ่งใหญน่ ้นั สร้าง อยา่ งไร (ทราบ) ทราบวา่ คืออะไร ชกั ชวนนาพาส่งเสริมให้คนไดเ้ ปลี่ยนแปลงเป็นคนดีและต้งั ใจ บาเพ็ญใช่ไหม (ใช่) ผชู้ ายเขา้ ใจหรือเปล่า (เขา้ ใจ) การสร้างบญุ สร้างกุศลทีย่ งิ่ ใหญ่ สร้างอยา่ งไร พดู ไปแลว้ เมอื่ สักครู่น้ี การสามารถเปลยี่ นแปลงคน ๆ หน่ึงให้เป็นคนดีได้ นนั่ ก็คือบุญกุศลใช่ไม่ใช่ (ใช่) เราตอ้ งทาดว้ ยความมงุ่ มนั่ ความต้งั ใจจริงใช่ไหม (ใช่) ถา้ หากเราไปชวนเขา ชวนอยา่ งอยา่ งไม่ต้งั ใจ เธอจะมาไมม่ า กช็ ่าง ฉันก็พูดไปอยา่ งน้นั แหละ พดู ไปตามมารยาท ไมไ่ ดอ้ อกจากใจจริง เขาก็อาจจะ ไมม่ า เรากไ็ มม่ ีกุศลใช่ไหมใช่ (ใช่) กศุ ลเกิดจากจิตใจท่ีแทจ้ ริง เกิดจากความศรทั ธา ถา้ หากเราทาบุญ ไปสองสามบาท ทาไปอยา่ งน้นั แหละโคยทไ่ี ม่มีจิตศรทั ธาอะไรเลย บญุ กุศลก็ไม่เกิด อาจจะไดแ้ คเ่ พียง ส่วนบญุ เลก็ ๆ นอ้ ย ๆ แค่น้นั เอง แต่กศุ ลทแ่ี ทจ้ ริงน้นั ไมเ่ กิดข้นึ เลย เราจะทาอะไรกแ็ ลว้ แต่ ไปฉุดช่วย ส่งเสริมคน ไปพูดธรรมะหรือพดู ส่ิงดี ๆ เป็นการทาให้เขาคนน้นั เกิดสานึกทด่ี ีข้นึ นนั่ กค็ ือการ ช่วยเหลือเขาเปล่ยี นแปลงเป็นคนดี นน่ั ก็คือกุศล เขา้ ใจไหม (เขา้ ใจ) ตอนน้ีรู้แลว้ ว่า เราจะสร้างบญุ มา ชดใชเ้ จา้ กรรมนายเวรไดอ้ ยา่ งไร สร้างอยา่ งไร การท่เี ราชกั ชวนให้เขาเปลี่ยนแปลงเป็นคนดีไดไ้ ม่ใช่ เรื่องง่าย ใช่ไหม (ใช่) ถา้ เกิดเราพูดไปแลว้ เขาไม่เช่ือ เขากลบั กลอกออกไปอีกก็ยิง่ ยงั ไม่สมบรู ณใ์ ช่ ไม่ใช่ (ใช่) บุญกศุ ลเราก็ตอ้ งตดั ทอนไปอกี แตส่ ิ่งทสี่ าคญั ที่สุดคือ ช่วยใหเ้ ขาไดม้ ารบั วิถีธรรม รบั ธรรมะอยา่ งพวกเราอยา่ งน้ี เวลาเขามารบั ธรรมะ มีอาจารยบ์ รรยายมากมายหลายคนอธิบายธรรมะให้ เขาฟัง ทาให้เขาเกิดจิตสานึกทดี่ ีใช่ไม่ใช่ (ใช่) เรากาลงั คนเดียวเราไปพดู แตพ่ ดู แลว้ ไม่มนี ้าหนกั พูด แลว้ เขาไมเ่ ชื่อ พูดแลว้ เขาไมฟ่ ัง เรากต็ อ้ งนาพาให้เขามาท่ีสถานธรรม มาให้ผอู้ าวุโสท่มี คี วามรู้อธิบาย ถึงการทาความดี เปลี่ยนแปลงเป็นคนดี การบาเพญ็ ธรรมใหห้ ลดุ พน้ ไดใ้ หเ้ ขาฟังอยา่ งน้ีถงึ จะเกิด ประโยชนใ์ ช่ไม่ใช่ (ใช่) ถา้ การช่วยเหลือคนอยา่ งวนั น้ีเราเห็นคนขอทานอยบู่ นสะพานลอย เห็นน่า สงสาร ขาก็ไมม่ ี แขนขาด เฮอ้ ! สงสารจงั เลย มเี ศษสตางคอ์ ยหู่ ้าบาท ตอ้ งเอาไปใหเ้ ขา เขาไดห้ า้ บาท -7-

ไป เขาไปซ้ืออะไรได้ ซ้ือน้าไดถ้ ุงหน่ึงใช่ไหม (ใช่) น้าถงุ น้นั กินหมดแลว้ หล่ะ หมดแลว้ ก็หมดไปใช่ ไมใ่ ช่ (ใช่) ไมไ่ ดเ้ หลืออะไรเลย แต่ถา้ หากเราช่วยเหลอื คน ช่วยเหลือใหเ้ ขาไดม้ ารับวถิ ีธรรม ไดม้ ารู้ หนทางการหลดุ พน้ ไดเ้ ปล่ยี นแปลงตนเอง ธรรมะกจ็ ะอยใู่ นใจเขาตลอดเวลาใช่ไมใ่ ช่ (ใช่) ทาใหเ้ ขามี ธรรมะในใจ รู้หนทางการหลดุ พน้ ถึงแมว้ ่า เราจะไมไ่ ดอ้ ยขู่ า้ งกายเขา เราจะไม่ไดส้ ่งเสริมเขา ตลอดเวลา แตเ่ ขามีธรรมะอยใู่ นใจ เขากส็ ามารถบาเพญ็ หลุดพน้ ไปไดอ้ ย่างน้ีเขา้ ใจไหม (เขา้ ใจ) การช่วยเหลอื คนใหไ้ ดม้ ารบั วถิ ธี รรม รับวิถีแห่งการหลุดพน้ คือกศุ ลที่ยง่ิ ใหญ่ หากศิษยข์ องอาจารย์ ทุกคนมีความมงุ่ มน่ั ต้งั ใจอยากจะชดใชห้ น้ีสินบาปเวรกรรมของตนเอง ตอ้ งเร่งสร้างบุญสร้างกุศล เพราะว่าชีวติ น้ีมีชีวติ เดียวใช่ไหม (ใช่) ถา้ หากเราไม่อาศยั กายเน้ือ ไม่อาศยั กายสงั ขาร ไมอ่ าศยั ชีวติ ของเราตอนน้ีสร้างบญุ สร้างกศุ ล เราจะอาศยั อะไรมาสร้างได้ เมอื่ เราไม่มกี ายสังขารเหลือแตว่ ิญญาณ แลว้ จะไปชกั ชวนคน ไปพดู มแี ต่วิญญาณไปพูดแลว้ เขาไดย้ นิ ไหม (ไม่ไดย้ นิ ) อยคู่ นละโลก อยคู่ นละ ภพกนั กส็ ่ือสารกนั ไม่ไดใ้ ช่ไมใ่ ช่ (ใช่) รอใหถ้ งึ ตอนน้นั กส็ ายไปเสียแลว้ เพราะฉะน้นั ตอนน้ีศิษยท์ กุ คนมีร่างกายที่แขง็ แรง มีชีวติ ทร่ี าบรื่น มีชีวิตทส่ี ามารถใชก้ ารใชง้ านอยู่ เราตอ้ งอาศยั โอกาสทเ่ี รายงั มี ชีวติ อยนู่ ้ี สร้างบญุ สร้างกุศลใหก้ บั ตนเองให้ใด้ อยา่ งน้ีฟังเขา้ ใจไหม (เขา้ ใจ) เขา้ ใจแตต่ อ่ หนา้ อาจารย์ น้ีหล่ะ กลวั เหลอื เกินกลบั ไปแลว้ เหตตุ น้ ผลกรรมเจา้ กรรมนายเวรผีวิญญาณมีอยทู่ กุ หนทกุ แห่ง แต่เรามองไม่เห็นเขาเฉย ๆ เรา ไม่สามารถมหี ูทพิ ยต์ าทพิ ย์ เราไมส่ ามารถมีสมั ผสั ทหี่ ก ท่จี ะสัมผสั ถึงเขาได้ เพราะฉะน้นั เราถึงไม่รู้สึก รู้สา ไม่รู้ร้อนเน้ือร้อนใจวา่ เรามีเจา้ กรรมนายเวรอยู่ แต่เมอื่ ใดทเ่ี ขามาให้เห็นเป็นตวั จริง ๆ จงั ๆ แลว้ น่าเกลยี ดน่ากลวั มาเพ่ือทวงหน้ีกบั เรา เรากลวั ไหม? (กลวั ) ตอนน้ีไม่เจอะกด็ ีแลว้ ใช่ไหม ถา้ เจอก็กง หวั ใจวายสลบไปทนั ทเี ลยใช่หรือเปล่า การเห็นสิ่งเหลา่ น้ีไม่ใช่เร่ืองแปลกประหลาด ทุกคนสามารถที่ จะเห็นไดแ้ ลว้ แต่บุญสัมพนั ธ์ แต่ถา้ เห็นแลว้ เราเอาไปคดิ ในทางทเี่ ป็นกุศลหรือว่าคดิ ไปในทางที่ไมด่ ี เห็นแลว้ เฉย ๆ หรือเกิดสานึกรู้ผิดวา่ เราจะตอ้ งใช้คนื เขา เรากไ็ ปทาชดใช้จึงจะเกิดประโยชน์ใช่ไหม แต่ถา้ เรารู้แลว้ เฉยเมยไม่ใส่ใจใยดีก็ไมเ่ กิดอะไรข้นึ แลว้ เขามาทาไม อกี หน่อยพอเกิดเหตเุ ภทภยั ข้ึน ตวั เองมาสานึกทหี ลงั เขามาเตือนแลว้ ไม่รู้จกั ใช้ วนั น้ีเขามาเอาจริง ๆ ช่วยไม่ทนั ใช่ไหม ไมต่ อ้ งไปยดึ ติดกบั สิ่งเหล่าน้นั วา่ เราเห็นอะไร ส่ิงท่ีสากญั ทกุ กนรู้อยแู่ กใ่ จอยแู่ ลว้ วา่ ทุกคนมีเจา้ กรรมนายเวรอยู่ แลว้ ใช่ไมใ่ ช่ นบั กนั ง่าย ๆ ต้งั แต่เราเกิดมา บนประเทศไทย จงั หวดั ศรีสะเกษ เรากินสัตวไ์ ปกี่ตวั แลว้ นบั ไม่ถว้ นเลยใช่ไม่ใช่เราจาไมไ่ ดเ้ ลยวา่ กินหมู กินเป็ดไปก่ีตวั แลว้ ใช่ไมใ่ ช่ แคต่ รงน้ีแคช่ าติน้ีบนโลก ตอนน้ี เราก็สร้างบาปสร้างเวรมากพออยแู่ ลว้ ยงั ไม่นบั กบั ชาติทแี่ ลว้ ทผี่ า่ นมาอกี ว่าเรามีเท่าไหร่ มอง ไมเ่ ห็นใช่ไหม อาจารยถ์ ึงไดบ้ อกทกุ คนมหี น้ีสินอยแู่ ลว้ ลน้ พน้ ตวั ไปหมด เราจะใชค้ นื เขาไดก้ ็คือบุญ กศุ ลเทา่ น้นั ก็คอื การละบาปหน้ีกรรม เวน้ จากการฆา่ สัตว์ เบียดเบียนสตั ว์ ไม่สร้างกรรมกอ่ เวร ไม่ สร้างกรรมก่อเหตสุ ร้างกรรม ทาบุญกศุ ลชดใชค้ ืนอยา่ งน้ีกม็ โี อกาสชาระบาปชาระหน้ีกรรมหมดใช่ -8-

ไหม หัวขอ้ น้ีฟังไปแลว้ ไมใ่ ช่หรือ จะลบลา้ งหน้ีสินเวรกรรมไดอ้ ยา่ งไร ฟังไปแลว้ ไมใ่ ช่หรือ (ฟังแลว้ ) ฟังแลว้ ยงั ไมร่ ู้อีกวา่ เราจะชดใชไ้ ดอ้ ยา่ งไร เพราะฉะน้นั การกินเจสาคญั ไหม สาคญั กบั ชีวิตทุกคนเลย ใช่ไมใ่ ช่ ถา้ ตราบใดเรายงั กินเน้ือสตั ว์ เรายงั เบียดเบยี นสตั วเ์ ขา้ ไปอีก กเ็ ป็นการสร้างบาปหน้ีสินเวร กรรมข้นึ มาอกี สร้างเจา้ กรรมนายเวรมากข้นึ อีก อยา่ งน้ีจะชดใชอ้ ยา่ งไรกไ็ ม่หมดแน่ หรือวา่ เราจะเอา แบบห้าสิบหา้ สิบ ตวั ตอ่ ตวั วนั น้ีกินพรุ่งน้ีชวนคนมาคนหน่ึงแทนกนั เอาอยา่ งน้ีหรือ ไม่ทนั กนั ใช่ไมใ่ ช่ ไมพ่ อดว้ ย ถา้ หากวนั น้ีเราไปชกั ชวนไม่ได้ เรากไ็ มต่ อ้ งกินอดม้อื กินม้อื ไมใ่ ช่อยา่ งน้ีใช่ไม่ใช่ การสร้าง บุญสร้างกุศล การชดใชห้ น้ีสินเวรกรรมไม่ใช่ทาไปแบบอดม้ือกินม้ือ ไม่ไดแ้ บมือสองมือ ใครจะรู้วา่ เราจะมีชีวิตข้ึนยาวไปแคไ่ หน ไมม่ ใี ครบอกไดใ้ ช่ไหม เรารู้หรือเปล่าว่าพรุ่งน้ีเรา จะกลบั บา้ นไป ศรีสะเกษไดห้ รือเปลา่ ? พรุ่งน้ีนอนอยดู่ ี ๆไม่ลุกข้ึนมา กไ็ ม่ตอ้ งพูดถงึ อะไรอีกแลว้ ใช่ไหม ไม่ตอ้ งพูด วา่ ฉันจะไม่ไดก้ ินเจ ฉนั จะตอ้ งลาบาก เพราะฉะน้นั ไม่มีกายสงั ขารให้เราตอ้ งพูดอีกแลว้ ใช่ไมใ่ ช่ ทกุ คนไม่สามารถรู้ถึงอายขุ ยั ของตวั เองได้ เพราะจะน้นั จงอยา่ ต้งั ตวั อยใู่ นความประมาท ถา้ หากเราไม่ รู้จกั สารวม ไม่รู้จกั ใชค้ ุณคา่ ของชีวิตให้เกิดประโยชนแ์ ลว้ กเ็ ท่ากบั ว่าเราประมาทประมาทในชีวติ ของ ตนเอง ถา้ วนั ใดวนั หน่ึงเราจากไปอยา่ งที่ไม่ไดส้ ง่ั เสียใครเลย หน้ีสินเวรกรรมใครจะมาใชใ้ ห้ ไม่ใช่หน้ี บนโลก หรือบนโลกมี พ่อ แม่ พี่ นอ้ ง เราใชเ้ ทนได้ แตห่ น้ีสินเวรกรรมน่ีซิทุกคนแต่ละคนจะตอ้ งไป ชดใชก้ นั เองใช่ไหม (ใช่) เพราะฉะน้นั ตอนน้ีทุกคนมีกายสงั ขารมีแรงมกี าลงั อยเู่ ราตอ้ งรีบอาศยั โอกาส น้ีสร้างบญุ สร้างกุศลให้กบั ตนเอง เพ่ือทจ่ี ะชดใชค้ นื เจา้ กรรมนายเวร อยา่ งน้ีเขา้ ใจไหม อาจารยพ์ ูดมา ต้งั นานแลว้ ผชู้ ายฟังเขา้ ใจไหม จาไดห้ รือเปล่า เช่ือหรือเปล่า ถงึ แมว้ า่ การมาประชุมคร้งั น้ีศิษยท์ ุกคน เห็นแลว้ อาจจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด อาจจะเป็นการนาพาที่เราไมเ่ คยเห็น มีวธิ ีการแตกต่างจาก ประเทศไทยหลาย ๆ อยา่ ง ทาให้บางคนเกิดความลงั เลสงสัย บางคนเกิดจิตใจเคลอื บแฝงข้ึน บางคน ชกั จะไม่แน่ใจวา่ การมาคร้ังน้ีถูกเขาหลอกมาหรือเปลา่ การมาคร้ังน้ีเป็นการมาลา้ งสมองหรือเปลา่ มใี ครคิดอยา่ งน้ีไหม อาจจะมใี ครคิดอยา่ งน้ี ถึงแมว้ า่ วนั น้ีผอู้ าวโุ สลา้ งสมองใหแ้ กเ่ รา แต่เป็นการลา้ ง สมองทีด่ ีใช่หรือไมใ่ ช่ (ใช่) ลา้ งความเขา้ ใจท่ีผิด ๆ ออกไปใช่ไหม (ใช่) แลว้ น่ีเป็นการลา้ งทดี่ ีไหม (ดี) เป็นการลา้ งทด่ี ี ทา่ นสงั่ สอนปลกู ฝังใหเ้ ราเป็นผูท้ ี่มคี ณุ ธรรม จริยธรรม เป็นคนท่รี ู้จกั คา่ ของชีวิต อยา่ งน้ีไมเ่ ป็นการดีหรือ เป็นการดีต่อทกุ คนท้งั สิ้น ถา้ หากยอ้ นคิดกลบั ไป เราไม่ไดม้ าอบรมเช่นน้ี เราไม่ไดผ้ ่านการลา้ งสมองจากผอู้ าวุโส เราก็ไม่ไดร้ บั รู้กฎแห่งกรรม ไมไ่ ดร้ ู้ถงึ คุณคา่ ของชีวติ ตนเอง ต่อไปตายไปกไ็ ม่มีใครสนใจใยดีกบั เราใช่ไหมเจา้ กรรมนายเวรที่จะมาทวงก็จะไม่มใี ครตอ่ รองกบั เรา ให้ อยา่ งน้ีไมใ่ ช่เสียโอกาสไปหรือ วนั น้ีศิษยท์ ุกคนโชคดี ถงึ แมว้ า่ หลายสิ่งหลายอยา่ งที่พดู ไป มนั จะ เป็นนามธรรมทีเ่ รามองไม่เห็น ไหนสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิมีทไี่ หน มีการต่อรองกนั เม่อื ไหร่ เจา้ กรรมนายเวรมี ท่ไี หน เป็นหนา้ ตาอยา่ งไร เรามองไมเ่ ห็นสมั ผสั ไมไ่ ด้ แต่ต้งั แต่โบราณกาลมาจนบดั น้ี เร่ืองกฎแห่ง กรรมท่พี ระพทุ ธองคท์ รงส่งั สอนไวต้ ้งั แต่เม่ือสองพนั ห้าร้อยกวา่ ปี ท่ีแลว้ จนบดั น้ีเรื่องกฎแห่งกรรมก็ -9-

ยงั ถูกกลา่ วขานอยใู่ ช่ไหมใช่ (ใช่) เพราะฉะน้ันกฎแห่งกรรม เจา้ กรรมนายเวร ถงึ แมเ้ ราจะมองไมเ่ ห็น แต่มนั ก็คอื ความจริง มนั คอื สจั ธรรมจริงทีเ่ รารู้และสมั ผสั ไดด้ ว้ ยใจ ถา้ ใครไมเ่ ปิ ดใจ ไมย่ อมสมั ผสั ไม่ยอมเปิ ดรับตรงน้ี ตวั เองก็จะเป็นผเู้ สียโอกาสเอง วนั น้ีศิษยท์ ุกคนไดเ้ ขา้ มาห้องพระไมใ่ ช่เป็นเรื่อง ง่ายดาย ทกุ คนมีเจา้ กรรมนายเวรทุกคนมบี ุญวาระแตกต่างกนั แต่เหตใุ ดทาไมเราต้งั ร้อยกวา่ คน ถึงไดม้ าประชุมกนั ในหอ้ งพระแห่งน้ีดว้ ยความสงบ ไมม่ ีอะไรเกิดข้ึน นน่ั เพราะบุญบารมีของ ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ ทรงคุม้ ครองเรา นน่ั เป็นเพราะบุญบารมีของผูอ้ าวุโสท่ีคอยปกแผ่มาถึงพวกเรา นนั่ เป็น เพราะว่าความต้งั ใจของฐาปนพงศ์ ท่ีมคี วามมุ่งมน่ั ท่ีมบี ญุ สมั พนั ธก์ บั นกั เรียนทกุ คนเมอ่ื ความสัมพนั ธ์ เราลึกซ้ึงแน่นแฟ้น เราตอ้ งมีจิตสานึกขอบพระคุณ ใช่ไหม? (ใช่) มาคร้งั น้ีอาจารยก์ วา่ จะเดินเรื่อง กว่า จะเสนอโครงการ กวา่ จะขอให้นกั เรียนทุกคนมาเขา้ ประชุมไมใ่ ช่งา่ ยดายใช่ไหม ? (ใช่) กวา่ จะเช่ารถ กวา่ จะดาเนินการกว่าจะหาสถานท่ี กวา่ จะหาอาจารยบ์ รรยาย กว่าจะจดั เตรียมอะไรตา่ ง ๆ มากมาย ลว้ นแตต่ อ้ งอาศยั ผูอ้ าวโุ สทุกทา่ นคอยประสานงานกนั อยู่ เพ่ืออานวยความสะดวก ใหศ้ ิษยท์ ้งั หลาย เพราะฉะน้นั พวกเราตอ้ งขอบคณุ ไหม ? (ขอบคุณ) ขอบคุณผอู้ าวโุ สทใ่ี ห้งานธรรมะเรา ขอบคุณทที่ า่ น ปลุกเราให้ตนื่ ใช่ไม่ใช่ ( ใช่) ตอนน้ีศิษยท์ ุกคนตื่นหรือยงั ? (ตื่นแลว้ ) ศิษยท์ กุ คนน่ารกั มาดว้ ยความต้งั ใจ ดว้ ยความสงบ เสงี่ยม นนั่ กค็ ือวา่ เรามรี ากฐานบุญทดี่ ีถงึ ไดน้ ่ังสงบอยทู่ นี่ ่ีได้ หากมิใช่บรรพบุรุษเรามีบุญกุศล หากมใิ ช่เราเป็นผูป้ ฏบิ ตั บิ าเพญ็ เพยี รมา เราจะมานงั่ ในหอ้ งพระน้ีอยรู่ ่วมกบั สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิไดอ้ ยา่ งไร ? (ใช่) ไม่แน่ชาติที่แลว้ เราอาจจะเคยเป็นสาวกของพระพทุ ธองคใ์ ช่ไม่ใช่ (ใช่) ชาตทิ ี่แลว้ ชาติก่อน ๆ มา เราอาจจะเป็นศิษยข์ องท่านขงจ้ือก็ได้ เราผูห้ ญิงชาตทิ แี่ ลว้ ๆ มาอาจจะเคยเป็นแม่ชีมาก่อนก็ได้ ใช่ไหม ? ทกุ คนมรี ากบุญรากกุศลมาประชุมช้นั น้ีไดไ้ ม่ใช่ง่ายดาย จะตอ้ งสานึกขอบพระคุณ และ ขอบคุณถงึ ความต้งั ใจของอาจารยข์ องเราดว้ ย มาประชุมคร้ังน้ีศษิ ยท์ ุกคนไดร้ บั ประโยชน์มากไหม ? (มาก) ไดร้ ับมากอยา่ งไร (ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิทรงเมตตาให้ พุทธบริกรนาพระโอวาทซอ้ นพระโอวาท ช้นั ประชุมธรรม เม่อื วนั ที่ ๓๐ - ๓๑ ตลุ าคม ๒๕๔๒ ณสถานธรรม “มหาสารคาม” มาเขยี นไวบ้ นกระดาน) (พระอาจารยท์ รงเมตตาอธิบายความหมายของ พระโอวาทช้อนพระโอวาท) พงึ แสวงหาใจตนค้นพบหยงั่ ปลายบ้นั ท้ายนงั่ กลางกายฤาจติ ใสข่นุ แยกระวงั ลงพล้งั หมายผดิ ลู่พิสิฐสุขแท้แลให้ชัดเจน... วนั น้ีวลามีไมม่ าก อาจารยจ์ ะพูดรวมๆ วนั น้ีศิษยท์ ุกคนไดม้ ารับธรรมะ มารบั รู้ตวั จริงของ ตวั เอง ในตวั จริงน้ีก็ยงั มตี วั ปลอมอยใู่ ช่ไหม ? (ใช่) ในตวั จริงน้ีก็ยงั มีตวั ปลอมอยสู่ ุดทา้ ขเมอ่ื เราจะจาก ไปแลว้ เราให้ความสาคญั กบั ตวั ปลอมหรือกบั ตวั จริง (ตวั จริง) เราใหค้ วานสาคญั กบั ตวั จริงใช่ไหม - 10 -

แต่ตอนน้ีเรามกี ายสังขารตวั ปลอมอยู่ เรากใ็ ห้ความสาคญั กบั ตวั ปลอมใช่ไหม (ใช่) เพราะวา่ ตวั ปลอม น้ีกายสังขารน้ีสามารถอาศยั ในการสร้างบุญสร้างกศุ ลใช่ไหม (ใช่) แตเ่ มอื่ ใดท่กี ายสังขารน้ีหมด ประโยชน์กายสังขารน้ีกต็ อ้ งคนื กลบั ธาตุ ดิน น้า ลม ไฟ กลบั คนื สู่โลกเช่นเดิม เราจึงให้ความสาคญั กบั จิตญาณต่อไป เพราะว่าจิตเป็นผทู้ ีจ่ ะรบั เหตุผลแห่งกรรมการรับธรรมะเป็นพธิ ีการทศี่ กั ด์ิสิทธ์ิ บางคนไดร้ ับแลว้ อาจไมร่ ู้ถึงพิธีการศกั ด์ิสิทธ์ิว่ามีปริศนาธรรมว่ามีสูงส่งอยา่ งไร ในเวลาช่วงน้นั ทเ่ี รา ไดร้ บั จุดเบิกจากพระวิสุทธิอาจารย์ จุดตรงน้นั มคี วามสาคญั แค่ไหน ตอ่ ไปศิษยท์ ุกคนไดอ้ บรมเขา้ ใจ สัจธรรมแลว้ จะนาไปเปล่ยี นแปลงตวั เองไดอ้ ยา่ งไร ? มโนคิดล่อศรีสุขเหิรมาเกย เลยลดต่าซ้าเดนิ หลงวงอนุสัย ถา้ หากเรามจี ิตใจท่ตี กต่าลงคดิ แตท่ อี่ ยากจะไดแ้ ต่ความสุขความสบายเฉพาะหนา้ ความสุข ความสบายน้นั กจ็ ะมาหาเรา เราก็จะไดค้ วามสุขสบายน้นั เหมอื นกนั แตก่ จ็ ะทาให้จิตญาณของตวั เอง น้นั ลดต่าลง ยงิ่ ลดต่าลงยงิ่ หมองหมน่ ยงิ่ ทาให้ติดในอนุสยั อนุสัย คือ ความเคยชินท่ีไม่ดีท่ีนอนเนื่อง อยใู่ นสันดาน ทมี่ นั มอี ยใู่ นสันดานของเรา เราจะตอ้ งขดุ คน้ มนั ออกมาให้เจอ สลดั ออกไปให้ได้ สาคญั ญาณสง่าโฉมสูงลา้ ละมนุ ละไม สลดั คราบไคลดาคงอมตะญาณประกาย เราจะตอ้ งคน้ หาตวั จริงตวั น้นั ใหไ้ ด้ สลดั คราบไคลขขดั สิ่งทีไ่ มด่ ีออกไปให้ได้ จึงจะสามารถ แสดงพลานุภาพของจิตญาณน้นั ออกมาใหไ้ ด้ (พระโอวาทช่วงกลางทีเ่ วน้ ไว้ คือ พระโอวาทซ้อน พระโอวาทที่ให้ไว้ ณ สถานธรรม “มหาสารคาม” ส่วนบนและลา่ งน้ี อาจารยเ์ พิม่ เตมิ ใหอ้ ีก) ทุกผ้มู หี ลกั ตนคือจติ ญาณ ธรรมรากฐานใสสังขารสร้างทางวมิ ุตติ ควรรู้ต่ืนปฏบิ ัตติ ามงดงามแห่งโพธิ สมาธเิ ป็ นใจเปลือก นอกกายต้องละ กอ็ ยา่ งทีอ่ าจารยไ์ ดพ้ ดู ทุกคนมีหลกั หลกั ในตนก็คอื จิตญาณ ใช่ไหม ? ถา้ วนั น้ีทกุ คนไมม่ ี จิตญาณ ไม่มีหลกั ในตวั เองจะยนื อยจู่ ะนง่ั อยใู่ นหอ้ งน้ีไดไ้ หม ? (ไม่ได)้ เพราะฉะน้นั ทกุ คนมหี ลกั หลกั ของตวั เองก็คอื จิตญาณ มี “ธรรมะ” เป็นรากฐาน มี “จิตญาณ” เป็นตวั หลกั แต่สังขารน้นั เป็นตวั ท่ี เราจะใหส้ ร้างบญุ สร้างกุศล สร้างสมบุญกุศลให้เราข้ึนไปสู่ความวมิ ตุ ติได้ ข้ึนไปสู่ความสว่างได้ ตอนน้ีทกุ คนควรจะรู้ต่ืนปฏิบตั ิตาม ปฏบิ ตั ติ ามครรลองครองธรรม รู้ปฏบิ ตั ติ ามจิตโพธิ โพธิจิต สมาธิ เป็นใจเปลือกนอกกายตอ้ งละ ใจสาคญั ทส่ี ุด แตก่ ายเปลอื กนอกตอ้ งละท้ิง รู้ธาตแุ ท้ประคองใจอาสวะกลบั คืน สารวมเอกใช่อื่นหม่ืนธรรมขันธ์ข่มอาสวะ เตลดิ เพลิดเพลินเรียกหวนสู่ปฐพีพทุ ธะ จติ มกิ ระเจงิ หนง่ึ น่งิ สงบประสบธรรม ตอนน้ีเรารู้จกั “ใจฟ้า - ใจปถุ ุชน” เราจะตอ้ งประคองจิตใจทมี่ ีความสว่าง จิตใจทเ่ี ป็นพุทธะ - 11 -

มีจิตเมตตาไปใหไ้ ด้ สารวมหน่ึงใช่อ่นื หมืน่ ธรรมขนั ธ์หมน่ื อารมณ์ หม่ืนอารมณ์ก็ตอ้ งอาศยั หมื่น พระธรรมขนั ธ์ออกมา ออกมาทาอะไร ? ออกมาต่อสู้กนั มารบลา้ งกนั ใช่ไหม ? มมี ารอยหู่ มื่นตวั ก็ตอ้ ง เอาธรรมะหม่นื ขอ้ มาตอ่ สู้กบั มารใช่ไหม ? (ใช่) ตอนน้ีศิษยม์ มี ารกี่ตวั ? (หลายตวั ) ตอนน้ีเรามีมารอยู่ หลายหม่ืนตวั มารอะไร ? มารอารมณ์ใช่ไหม ? มารโลภโกรธหลงใช่ไหม ? มารโกรธเคียดแคน้ อจิ ฉา ริษยา มารเห็นแกต่ วั ใช่ไหม ? มารเบยี ดเบยี นชีวิตสตั วใ์ ช่ไหม? มารเยอะแยะเลยเรา ตอ้ งอาศยั ธรรมะ มาข่มสิ่งเหล่าน้ีให้ได้ ถา้ หากทุกคนสามารถสารวมจิตของตนเองเป็นหน่ึงเดียวไดน้ ้นั มารก็จะหายไป จิตใจเราก็ไม่กระเจิงออกไปไม่เตลิดเปิ ดเปิ งออกไป นิ่งสงบประสบธรรม เม่อื ใดที่จิตเราสามารถสงบ ลงได้ เรากจ็ ะไดส้ ดบั พระธรรมอนั เลิศรส เราก็จะไดร้ ับรู้ถึงรสชาตขิ องพระธรรมน้นั เป็นอยา่ งไร เอาละ่ ๆ งว่ งนอนกนั แลว้ พดู อะไรเป็นหลกั การทกี จ็ ะหลบั มาวนั น้ีมิใช่ง่ายดายเราตอ้ งมี จิตสานึกคณุ การประชุมธรรมคร้งั น้ี จดั ข้นึ เพ่ือนกั เรียน “โรงเรียนคลีกลงิ้ พฒั นาทร” โดยฉพาะจดั ให้ เราโดยเฉพาะเลยไม่ใช่เร่ืองงา่ ยเลย ผอู้ าวโุ สเตรียมงานกนั ขะมกั เขมน้ ไม่พอ เบ้อื งบนสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ กต็ อ้ งเตรียมดว้ ยใช่ไมใ่ ช่ (ใช่) อยดู่ ี ๆ ประชุมธรรม วางแผนงานกนั อยดู่ ี ๆ แตใ่ นทีส่ ุดกม็ ีช้นั น้ีข้นึ มา แทรกอีก เบ้ืองบนกต็ อ้ งเปล่ยี นกาหนดการใหม่ใช่ไหม จะให้สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิพระองคไ์ หนมาหนอ จะให้ การส่งเสริมนกั เรียนช้นั น้ีไดอ้ ย่างไรท่านกเ็ กิดการเปล่ียนแปลงข้นึ มาอกี เพราะฉะน้นั พวกเรากอ็ าศยั บุญบารมขี องฟ้าเบ้ืองบนคุม้ ครองเราอยู่ อาศยั สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิคอยหนุนส่งให้พวกเรามคี วามสงบราบรื่น ในการบาเพ็ญธรรม จะตอ้ งรู้จกั สารวมใจสารวมกายของตวั เอง อย่าคดิ ฟ้งุ ซ่าน ประชุมธรรมเกิดข้นึ อาจารยบ์ อกว่า ทกุ คนมีบญั ชีบาปบุญใช่ไหม (ใช่) มีสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิบนั ทกึ การประพฤตขิ องเรา ใช่ไม่ใช่ (ใช่) ไมว่ า่ เราจะอยแู่ ห่งไหนอยคู่ นเดียว ทีล่ บั อยใู่ นท่คี นมองไมเ่ ห็น ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิก็จะคอยดเู ราอยู่ ตลอดเวลา เพราะฉะน้นั ทาอะไรจะตอ้ งสารวมระวงั คดิ อะไรความคิดสาคญั ทสี่ ุด อยา่ คดิ ฟุ้งซ่านหรือ อยา่ คดิ เร่ืองไร้สาระ มนั ไมม่ ีประโยชน์เลย ตวั เราอยนู่ ่ีกายเราอยนู่ ่ี ใจก็ตอ้ งอยนู่ ่ีดว้ ย ฟังธรรมะถงึ จะ เขา้ ใจใช่ไหม ถา้ ตวั อยใู่ จไมอ่ ยู่ เกิดประโยชน์ไหม เสียเวลาเฉย ๆ ใช่ไหม (ใช่) มาคร้ังน้ีเราตอ้ งมาเก็บ เกี่ยวความรู้มาเอาสิ่งท่มี ีประโยชน์กลบั ไปใหไ้ ด้ อยา่ มาอยา่ งเปล่าประโยชน์ดีไหม (ดี) ทกุ คนต้งั ใจ ฟังนะ. - 12 -

พุทธระเบียบ ๑๕ ข้อ ๑. เชิดชูบูชาพทุ ธอริยะ ๒. เจริญรอยตามข้างหน้า นาพาคนข้างหลงั ๓. เคร่งครัดเทย่ี งตรง ม่นั คงเป็ นกลาง ๔. เดนิ ตามระเบยี บ เหยยี บย่างวางกรอบ ๕. หน้าที่รับไว้ ใส่บ่าแบกหาม ๖. สาคัญทางอริยะ ลดละทางโลก ๗. นอบน้อมถ่อมตน อ่อนโยนมีอัธยาศัย ๘. พระอริยะโอวาท อย่าประมาทละทงิ้ ๙. มใิ ห้ฝักไฝ ติดในรูปลักษณ์ ๑๐. งานเงนิ มอบหมาย ไม่ค้างชาระ ๑๑. ออกไปให้บอก เข้ามาให้รายงาน ๑๒. ไม่ผิดต่อทางตรงพงศาฯ สายทองของสัจธรรม ๑๓. ถนอมรักษา รู้ค่าส่ิงของส่วนรวม ๑๔. ต่ืนตวั ต่ืนใจ ว่องไวรับสถานการณ์ ๑๕. สารวมระวัง ท้งั กาย วาจา - 13 -


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook