Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตะลุยจักวาลน่ารู้

ตะลุยจักวาลน่ารู้

Published by narisa31355, 2020-02-04 02:23:21

Description: เป็นเรื่องเกี่ยวกับสุริยจักวาล
ดาวต่างๆเเละบริวาลของดาวนั้นๆ

Keywords: วิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

\\

หนังสือคู่มือเรียนรุ้100 แหล่งวิทย์นอกห้องเรียน ตะลุยจักวาลเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของ วชิ าการสรา้ งหนังสืออเิ ลก็ เทรอนิกส์ ข้าพเจา้ ไดร้ ับมอบหมายจากคุณครูให้จัดทาหนังสือ เรื่องนี้ขึ้นตามความสนใจโดยบูรราการกับวิชา วิทยาศาสตร์เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะ ประกอบไปด้วยเรื่องน่ารู้ทางวิทยาศาสตร์และเรื่องดวงดาว จักวาล ซึ่งข้าพเจ้าได้ รวบรวมไว้ในหนงั สือเลม่ น้ี ขอขอบคุณครูปภัสสร ก๋าเขียว ที่ให้คาแนะนา ปรึกษา และเพื่อนๆที่ช่วยให้ คาแนะนา ตลอดจนหนังสือเล่มนี้เสร็จลุล่วงไปด้วยดีหากผิดพลาดประการใดก็ขออภัย มา ณ ที่นี้

เรื่อง หน้า คานา ก สารบญั ข ดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ 1 ดาวพธุ 2 โลก 3 ดาวเนปจูน 4 ดาวยเู รนสั 5 ดาวเคราะห์นอ้ ย 6 แหลง่ อา้ งอิง 7 ผจู้ ดั ทา 8 9

ดวงอาทิตยเ์ ป็นดาวฤกษ์ ณ ใจกลางระบบสุริยะ เป็นพลาสมาร้อนทรงเกือบกลมสมบรู ณ์ โดยมี การเคลื่อนที่พาซ่ึงผลิตสนามแม่เหลก็ ผา่ นกระบวนการไดนาโม ปัจจุบนั เป็นแหล่งพลงั งาน สาคญั ท่ีสุดสาหรับสิ่งมีชีวติ บนโลก มีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 1.39 ลา้ นกโิ ลเมตร ใหญ่กวา่ โลก 109 เท่า และมีมวลประมาณ 330,000 เท่าของโลก คิดเป็นประมาณร้อยละ 99.86 ของมวล ท้งั หมดของระบบสุริยะ มวลประมาณสามในสี่ของดวงอาทิตยเ์ ป็นไฮโดรเจน ส่วนท่ีเหลือเป็น ฮีเลียมเป็นหลกั โดยมีปริมาณธาตุหนกั กวา่ เลก็ นอ้ ย รวมท้งั ออกซิเจน คาร์บอน นีออนและเหลก็

ดวงจนั ทร์เป็นดาราศาสตร์วตั ถุที่โคจรรอบโลก เป็นดาวบริวารถาวรดวงเดียวของโลก เป็ นดาวบริวารใหญ่ท่ีสุดอนั ดบั ท่ี 5 ในระบบสุริยะ และเป็นดาวบริวารขนาดใหญ่สุดเมื่อเทียบ กบั ขนาดของดาวเคราะหท์ ี่โคจร ดวงจนั ทร์เป็นดาวบริวารท่ีมีความหนาแน่นที่สุดเป็นอนั ดบั ท่ี 2 รองจากไอโอของดาวพฤหัสบดี ซ่ึงบางส่วนไม่ทราบความหนาแน่นมากหรือนอ้ ย คาดว่าดวง จนั ทร์ก่อกาเนิดประมาณ 4.51 พนั ลา้ นปี ก่อน ไม่นานหลงั จากโลก คาอธิบายท่ีไดร้ ับการยอมรับ กวา้ งขวางที่สุดคือดวงจนั ทร์ก่อกาเนิดจากเศษที่เหลือจากการชนขนาดยกั ษร์ ะหวา่ งโลกกบั เทห์ ขนาดประมาณดาวองั คารชื่อ ธีอา (Theia) ดวงจนั ทร์หมุนรอบโลกแบบประสานเวลา จะหนั ดา้ นเดียวเขา้ หาโลกเสมอคือดา้ นใกลท้ ี่ มีลักษณะเป็ นทะเลภูเขาไฟมืด ๆ ซ่ึงเติมท่ีว่างระหว่างที่สูงเปลือกโบราณสว่างและหลุม อุกกาบาตท่ีเห็นไดช้ ดั เจน เม่ือสังเกตจากโลก เป็นเทห์ฟ้ าที่เห็นไดเ้ ป็ นประจาสว่างที่สุดอนั ดบั สองในทอ้ งฟ้ าของโลกรองจากดวงอาทิตย์ พ้ืนผวิ แทจ้ ริงแลว้ มืด แมเ้ ทียบกบั ทอ้ งฟ้ าราตรีแลว้ จะ ดูสว่างมาก โดยมีการสะทอ้ นสูงกว่าแอสฟอลตเ์ สื่อมเล็กนอ้ ย อิทธิพลความโนม้ ถ่วงของดวง จนั ทร์ทาใหเ้ กิดน้าข้ึนลงมหาสมุทร และทาใหห้ น่ึงวนั ยาวข้ึนเลก็ นอ้ ย

ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่อย่ใู กลด้ วงอาทิตยม์ ากที่สุด และเป็นดาวเคราะห์ท่ีเลก็ ที่สุดใน ระบบสุริยะ ใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 87.969 วนั ดาวพุธมกั ปรากฏใกล้ หรืออยภู่ ายใตแ้ สง จา้ ของดวงอาทิตยท์ าใหส้ งั เกตเห็นไดย้ ากท่ีสุด ดาวพุธไม่มีดาวบริวาร ยานอวกาศเพียงลาเดียวที่ เคยสารวจดาวพุธในระยะใกลค้ ือยานมาริเนอร์ 10เมื่อปี พ.ศ. 2517-2518 (ค.ศ. 1974-1975) และ สามารถทาแผนที่พ้ืนผิวดาวพุธไดเ้ พียง 40-45% เท่าน้นั ดาวพุธมีสภาพพ้ืนผวิ ขรุขระเน่ืองจาก การพุ่งชนของอุกกาบาต ไม่มีดวงจนั ทร์เป็ นบริวารและไม่มีแรงโนม้ ถ่วงมากพอที่จะสร้างช้นั บรรยากาศ ดาวพธุ มีแกนกลางเป็นเหลก็ ขนาดใหญ่ทาใหเ้ กิดสนามแม่เหลก็ ความเขม้ ประมาณ 1 เปอร์เซ็นตข์ องสนามแม่เหลก็ โลกลอ้ มรอบดาวพุธไว้ ช่ือละตินของดาวพุธ (Mercury) มาจากคา เตม็ วา่ Mercurius เทพนาสารของพระเจา้ สญั ลกั ษณ์แทนดาวพุธ คือ ☿ เป็นรูปคทาของเทพเจา้ เมอคิวรี ก่อนศตวรรษที่ 5 ดาวพุธมีสองช่ือ คือ เฮอร์เมส เม่ือปรากฏในเวลาหวั ค่า และอพอลโล เม่ือปรากฏในเวลาเช้ามืด เชื่อว่าพีทาโกรัสเป็ นคนแรกท่ีระบุว่าท้งั สองเป็ นดาวเคราะห์ดวง เดียวกนั

โลก (องั กฤษ: Earth) เป็นดาวเคราะห์ลาดบั ท่ีสามจากดวงอาทิตย์ และเป็นวตั ถุทางดารา ศาสตร์เพียงหน่ึงเดียวที่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิต จากการวดั อายุดว้ ยกมั มนั ตรังสีและแหล่งหลกั ฐาน อ่ืนไดค้ วามว่าโลกกาเนิดเม่ือประมาณ 4,500 ลา้ นปี ก่อน[24][25][26] โลกมีอนั ตรกิริยะเชิงโนม้ ถ่วงกบั วตั ถุอื่นในอวกาศโดยเฉพาะดวงอาทิตยแ์ ละดวงจนั ทร์ ซ่ึงเป็นดาวบริวารถาวรหน่ึงเดียว ของโลก โลกโคจรรอบดวงอาทิตยใ์ ชเ้ วลา 365.26 วนั เรียกว่า ปี ซ่ึงระหวา่ งน้นั โลกโคจรรอบ แกนตวั เองประมาณ 366.26 รอบ[n 4]แกนหมุนของโลกเอียงทาใหเ้ กิดฤดูกาลต่าง ๆ บนผวิ โลก [27] อนั ตรกิริยาความโนม้ ถ่วงระหวา่ งโลกกบั ดวงจนั ทร์ก่อใหเ้ กิดน้าข้ึนลงมหาสมุทร ทาให้ การหมุนบนแกนของโลกมีเสถียรภาพ และค่อย ๆ ชะลอการหมุนของโลก[28] โลกเป็นดาว เคราะห์ท่ีมีความหนาแน่นสูงสุดในระบบสุริยะและใหญ่สุดในดาวเคราะหค์ ลา้ ยโลก 4 ดวง

ดาวเนปจูน (อังกฤษ: Neptune) มีชื่อไทยว่า ดาวเกตุ เป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ลาดับสุดท้ายมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่เป็นอันดับที่ 4 รองจากดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาว ยูเรนัส และมีมวลเป็นลาดับที่ 3 รองจากดาวพฤหัสและดาวเสาร์ คาว่า \"เนปจูน\" นั้นตั้งชื่อตาม เทพเจา้ แห่งทอ้ งทะเลของโรมันเหนือ (กรีก : โพไซดอน) มสี ญั ลกั ษณเ์ ปน็ (♆) ดาวเนปจูนมีสีน้าเงิน เนื่องจากองค์ประกอบหลักของบรรยากาศผิวนอกเป็น ไฮโดรเจน ฮีเลียม และมีเทน บรรยากาศของดาวเนปจูน มีกระแสลมที่รุนแรง (2500 กม/ชม.) อุณหภูมิ พื้นผิวอยู่ที่ประมาณ -220℃ (-364 °F) ซึ่งหนาวเย็นมาก เนื่องจาก ดาวเนปจูนอยู่ไกลดวง อาทิตย์มาก แตแ่ กนกลางภายในของดาวเนปจูน ประกอบด้วยหินและก๊าซร้อน อุณหภูมิประมาณ 7,000℃ (12,632 °F) ซ่งึ ร้อนกว่าพืน้ ผิวของดวงอาทิตย์ ยานวอยเอเจอร์ 2 เป็นยานอวกาศจากโลกเพียงลาเดียวเท่านั้น ที่เคยเดินทางไปถึงดาว เนปจูนเมื่อ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) ภาพของดาวเนปจูนซึ่งได้ถ่ายลักษณะของดาว มาแสดงให้เราเห็นจุดดาใหญ่ (คล้ายจุดแดงใหญ่ ของดาวพฤหัส) อยู่ค่อนมาทางซีกใต้ของดาว มี วงแหวนบางๆสีเขม้ อยโู่ ดยรอบ (วงแหวนของดาวเนปจนู คน้ พบก่อนหนา้ นน้ั โดย เอ็ดเวิร์ด กิแนน (Edward Guinan)

ดาวยเู รนสั (ภาษาองั กฤษ:Uranus ยเู รนสั หรือ มฤตย)ู เป็นดาวเคราะห์ที่อยหู่ ่างจากดวง อาทิตยเ์ ป็นลาดบั ที่ 7 ในระบบสุริยะ จดั เป็นดาวเคราะหแ์ ก๊ส มีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 50,724 กิโลเมตร นบั ไดว้ า่ มีขนาดใหญ่เป็นอนั ดบั ที่3 ในระบบสุริยะของเรา ยเู รนสั ถูกต้งั ชื่อตามเทพเจา้ ยเู รนสั (Ouranos) ของกรีก สัญลกั ษณ์แทนดาวยเู รนสั คือ หรือ (ส่วนใหญ่ใชใ้ นดาราศาสตร์) ช่ือไทยของยเู รนสั คือ ดาวมฤตยู ผคู้ น้ พบดาวยเู รนสั คือ เซอร์วลิ เลียม เฮอร์เชล(Sir William Herschel) พบในปี พ.ศ. 2324 (ค.ศ. 1781) ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) นกั ดาราศาสตร์จากหอดูดาวไคเปอร์แอร์บอร์น (James L. Elliot, Edward W. Dunham, and Douglas J. Mink using the Kuiper Airborne Observatory) คน้ พบวา่ ดาวยเู รนสั มี วงแหวนจางๆโดยรอบ และเรากไ็ ดเ้ ห็นรายละเอียด ของดาวยเู รนสั พร้อมท้งั วงแหวน และดวงจนั ทร์บริวารในปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) เมื่อยานวอยเอเจอร์ 2 (Voyager 2) เคล่ือนผา่ น

ดาวเคราะห์น้อย (องั กฤษ: asteroid หรือบางครัง้ เรียกวา่ minor planet / planetoid) คอื วตั ถุ ทางดาราศาสตร์ขนาดเล็กกวา่ ดาวเคราะห์ แตใ่ หญ่กวา่ สะเก็ดดาว (ซง่ึ โดยปกตมิ กั มีขนาดราว 10 เมตร หรือน้อยกวา่ ) [1] และไมใ่ ชด่ าวหาง การแบง่ แยกประเภทเชน่ นีก้ าหนดจากภาพปรากฏเมื่อแรกค้นพบ กลา่ วคือ ดาวหางจะต้องมีสว่ นของโคมา่ ที่สงั เกตเห็นได้ชดั และมีรายชื่ออยใู่ นบญั ชีรายชื่อของดาวหาง เอง ดาวเคราะห์น้อยมีลกั ษณะปรากฏคล้ายดวงดาว (คาวา่ asteroid มาจากคาภาษากรีกวา่ αστεροειδής หรือ asteroeidēs ซง่ึ หมายถงึ \"เหมือนดวงดาว\" มาจากคาภาษากรีกโบราณวา่ Aστήρ หรือ astēr ซง่ึ แปลวา่ ดวงดาว) และมีการกาหนดเรียกช่ืออยา่ งคร่าวๆ ตามช่ือปี ที่ค้นพบ จากนนั้ จงึ มี การตงั้ ชื่อตามระบบ (เป็นหมายเลขเรียงตามลาดบั ) และชื่อ ถ้ามีการพสิ จู น์ถงึ การมีอยแู่ ละรอบการ โคจรเรียบร้อยแล้ว สาหรับลกั ษณะทางกายภาพของดาวเคราะห์น้อยโดยสว่ นใหญ่ยงั ไมเ่ ป็นท่ีทราบแน่ ชดั

แหล่งอ้างองิ ขอขอบคุณเน้ือหาจาก แหลง่ อ้างอิง https://th.wikipedia.org/wiki

จัดทำโดย ด.ญ.กญั จนานชุ มีธรรม ม.1/2 เลขที่17 ด.ญ.นริสา ทีเก่ง ม.1/2 เลขท2่ี 2 เสนอ คณุ ครู ประภสั สร ก๋าเขียว โรงเรียนแจ้หม่ วทิ ยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook