Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทุนการศึกษาพระราชทาน

ทุนการศึกษาพระราชทาน

Published by saharatja60, 2017-11-15 04:41:25

Description: ทุนมูลนิธิ “ภูมิพล”
ทุนมูลนิธิ “อานันทมหิดล
ทุนเล่าเรียนหลวง
ทุนการศึกษาสงเคราะห์ในมูลนิธิราชประชานุเคราะห์
ทุนมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์และมูลนิธิโรงเรียนราชประชาสมาสัย
ทุนนวฤกษ์
ทุนการศึกษาพระราชทานแก่นักเรียนเฉพาะกรณี
ทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย
ทุนเศรษฐกิจพอเพียง
ทุนพระราชทาน

Search

Read the Text Version

บทท่1ี บทนา1.แนวคดิ ทมี่ าของโครงงาน ทางคณะผู้จดั ทามองเหน็ ประโยชน์ทางการศกึ ษาในโครงการของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงตระหนักถึงความสาคญั ของ การศึกษาเป็นอยา่ งมาก เพราะทรงถือวา่“การศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาชวี ิตมนุษย์” ดงั จะเห็นไดจ้ ากพระบรมราโชวาทท่ีพระราชทานแก่คณะครแู ละนักเรียน ณ ศาลาดุสดิ าลยั เมือ่ วันท่ี ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ และเม่ือวนั ที่ ๑๓มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๑๘ รวมทั้งท่ีพระราชทานในพิธีพระราชทานปริญญาบตั รของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ มคี วามตามลาดับนี้ “…การศึกษาเปน็ ปจั จยั ในการสรา้ งและพฒั นาความรู้ ความคิด ความประพฤติ และคุณธรรมของบุคคล…“ “…ปจั จัยที่สาคัญประการหนึ่งของทง้ั ชวี ติ และส่วนรวม คือ การศึกษาซ่งึ เป็นรากฐานสง่ เสริมความเจรญิ ม่ันคงเกือบทุกอยา่ งในบุคคล และประเทศชาติ…“ “…การศึกษาเป็นเครื่องมอื ท่ีสาคญั ในการพฒั นาบุคคลใหม้ ีคณุ ภาพ ให้เป็นทรัพยากรทางปญั ญาทีม่ ีคา่ ของชาติ…“ “…งานด้านการศึกษาเปน็ งาน สาคญั ทส่ี ดุ อยา่ งหน่ึงของชาติ เพราะความเจรญิ และความเสอ่ื มของชาตนิ น้ั ขน้ึ อย่กู ับการศึกษาของชาติเปน็ ข้อใหญ่ ตามข้อเท็จจริงที่ทราบกันดีแล้ว ระยะนี้บ้านเมืองของเรามีพลเมืองเพ่ิมข้ึนอย่างรวดเรว็ ทง้ั มสี ญั ญาณบางอย่างเกิดขึน้ ดว้ ยวา่ พลเมอื งของเราบางสว่ นเสอ่ื มทรามลงไปในความประพฤติและจติ ใจ ซ่งึ เป็นอาการทีน่ า่ วิตก ถา้ หากยงั คงเปน็ อย่ตู ่อไปเราอาจจะเอาตวั ไมร่ อด ปรากฏการณ์เชน่ น้ี นอกจากเหตุอืน่ แลว้ ตอ้ งมเี หตุมาจากการจดั การศกึ ษาด้วยอย่างแนน่ อน เราต้องจดั งานดา้ นการศกึ ษาให้เข้มแข็งยงิ่ ขึ้น…”พระบรมราโชวาทที่อัญเชญิ มาน้แี สดงให้เหน็ ถงึ พระราชดารทิ ี่เล็งเหน็ ความสาคญั ของ การศึกษา ทั้งยังพระราชทานพระราชดารใิ ห้เห็นวา่ ประเทศชาติจะพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าได้ กด็ ้วยการพฒั นาบุคคลของชาตใิ หม้ ีคุณภาพโดยการใหก้ ารศกึ ษา ทางคณะผจู้ ัดจงึ เล็งเห็นว่าโครงการน้เี ป็นโครงที่น่าจะศึกษาคน้ ควา้ หาข้อมลู จึงสนิ ใจทจี่ ะศึกษาหาข้อมลู2. วตั ถุประสงค์ของโครงงาน 2.1. เพ่ือศึกษาพระราชกรณยี กจิ ของในหลวงรชั กาลท่ี 9 2.2. เพอ่ื ไดร้ ู้เกี่ยวกับทุนพระราชทานตา่ งๆ3. ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั 3.1. ได้รพู้ ระราชกรณียกจิ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 3.2. ได้รเู้ ก่ียวกับทนุ พระราชทานตา่ งๆ

บทท่ี 2 เอกสารท่เี ก่ยี วขอ้ งดา้ นการพัฒนาบุคคล1. ทุนมูลนิธิ “ภูมพิ ล” ต้ังแตพ่ ุทธศกั ราช 2495 เป็นตน้ มา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรพั ย์สว่ นพระองค์ จานวน 100,000 บาท ใหแ้ ก่มหาวิทยาลยั แพทยศาสตร์ ตง้ั เป็นทนุ “ภมู ิพล” ข้นึ เพื่อเกบ็ ดอกผลพระราชทานเปน็ ทุนแก่นักศึกษามหาวทิ ยาลัยแพทยศาสตรผ์ ู้เรียนดีแต่ขัดสนทนุ ทรัพย์ทุนน้ีจะให้แก่นักศึกษาคนละ 200 บาทตอ่ เดือน เป็นเวลา 1 ปี นอกจากน้ี ไดพ้ ระราชทานทนุ การศึกษาให้แกบ่ ัณฑิตทสี่ อบได้คะแนนยอดเยย่ี มในสาขาวิชาต่างๆ ของจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย และมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ เพอื่ เปน็ รางวลั แก่นสิ ิตนักศึกษาทเี่ รยี นดแี ต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เปน็ ประจาทุกปี ทงั้ นี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมกาลังใจ และการศึกษาของนสิ ิตนกั ศึกษาให้มีความมานะอุตสาหะต่อการศึกษามากขนึ้ และยงั ไดพ้ ระราชทานเป็นรางวลั ดา้ นอื่น ๆอกี ดว้ ย อาทิ การแต่งหนงั สอื การแต่งเรียงความ ต่อมาไดพ้ ระราชทานทุนขยายไปยงั มหาวทิ ยาลยั อนื่ๆ ดังในคราวเสด็จพระราชทานปรญิ ญาบตั ร ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (วทิ ยาลัยวชิ าการศึกษาประสานมติ รเดมิ ) เม่ือวันที่ 18 ธนั วาคม พ.ศ. 2510 ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จานวน 50,000 บาท ตงั้ เป็นทนุ มูลนิธิ “ภูมิพล” และไดต้ ราระเบียบลงวันท่ี 8 มกราคม พ.ศ.2511 แบ่งเป็นทนุ 2 ประเภท ได้แก่(1) ทนุ ประเภทชว่ ยเหลือการศกึ ษา(2) ทนุ ประเภทชว่ ยเหลอื การทาปรญิ ญานิพนธห์ รือการวจิ ัย นอกจากน้นั ยังได้พระราชทานทนุ มลู นิธิ “ภมู ิพล” แก่บัณฑิตท่ไี ดค้ ะแนนยอดเยี่ยมในสาขาวชิ าต่าง ๆ ไปศึกษาต่อในตา่ งประเทศเพิม่ ขน้ึ อกี ซึ่งนักศึกษาที่ไดร้ ับพระราชทานทุนนี้หลงั จากสาเร็จการศึกษากลับสู่ประเทศไทยแลว้ ไดอ้ อกปฏิบตั ิงานด้านพฒั นาเป็นประโยชน์แกป่ ระเทศชาติเปน็ อยา่ งมาก

2. ทุนมลู นิธิ “อานันทมหิดล” พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงตระหนักว่า ประเทศไทยเราตอ้ งอาศัยผเู้ ช่ยี วชาญในวิชาเทคนคิ ช้นั สงู เพื่อมาช่วยพฒั นาประเทศมากขน้ึ จงึ ควรส่งเสรมิ นิสิตนกั ศกึ ษา ท่ีมีความสามารถอยา่ งยอดเยี่ยมให้มโี อกาสไปศึกษาตอ่ ในวชิ าชั้นสูงบางวิชา ณ ตา่ งประเทศ เม่ือสาเร็จแลว้ ได้ทางานเปน็ผ้เู ชยี่ วชาญในสาขาวิชาทเี่ รยี นมาตอ่ ไป จงึ โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองดาเนนิ การด้วยการพระราชทาน“ทนุ อานนั ทมหิดล” ในปี พ.ศ. 2498 แก่นักศึกษาแพทย์ตามรอยพระบาทสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก และเพื่อเปน็ พระบรมราชานสุ รณแ์ ด่สมเดจ็ พระบรมเชษฐาธริ าชพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดล ต่อมาทรงเห็นวา่ ไดผ้ ลสมพระราชประสงค์ จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้จดทะเบียนตราสารทนุ อานันทมหิดล เป็น “มลู นิธิอานันทมหิดล” เมื่อวนั ท่ี 2 เมษายน พ.ศ. 2502 โดยพระราชทานทนุ เรม่ิ แรกจานวน 20,000 บาท มผี ้ไู ด้รับพระราชทานทุนสาขาแพทยศาสตร์ในขณะนน้ั 3 ราย และตอ่ มาเน่ืองจากความต้องการผู้เชี่ยวชาญในวิชาแขนงอื่นมีมากขนึ้ จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้

ขยายงานของมลู นิธิ พระราชทานทนุ การศกึ ษาสาขาวชิ าอื่นต่อไป ปัจจุบนั ทุนมูลนิธิ “อานนั ทมหิดล” ไดข้ ยายขอบเขตการพระราชทานทนุ แกน่ ักศึกษาสาขาต่าง ๆ คอื สาขาแพทยศาสตร์ สาขาวทิ ยาศาสตร์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเกษตรศาสตร์นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รฐั ศาสตร์ สงั คมวิทยา วารสารศาสตร์ และ อกั ษรศาสตร์ โดยมีคณะกรรมการประจาแตล่ ะสาขาคัดเลือกบัณฑิตท่ีมีความสามารถยอดเยี่ยมแตล่ ะสาขาดังกล่าวไปศกึ ษาเพิ่มเติม ณ ต่างประเทศ เพอื่ จะไดก้ ลับมาทางานเป็นผเู้ ชี่ยวชาญในวิชาที่ได้ศกึ ษามาตามพระราชประสงค์ แต่ทัง้ น้ี ไม่มสี ัญญาผูกมัดวา่ ผูไ้ ดร้ บั พระราชทานทนุ จะต้องกลบั มาปฏบิ ัติงานอย่างใดอย่างหนง่ึตามเวลาทกี่ าหนด เพราะมีพระราชประสงค์จะให้ผรู้ บั ทนุ ได้เกิดความสานึกรับผดิ ชอบเอง แต่ผรู้ ับทุนทกุ รายก็กลับมาปฏิบัติงานเป็นคณุ ประโยชน์แก่บ้านเมืองสมพระราชประสงคด์ ้วยดนี อกจากน้ี ยงั มที นุพระราชทาน เรียกวา่ “ทุนส่งเสรมิ บัณฑิต” โดยคณะกรรมการสาขาแพทยศาสตร์ พิจารณาเหน็ ว่าแพทยผ์ ใู้ ดเป็นแพทย์ผูส้ ละเวลาและอุทิศตนปฏบิ ัตงิ านเพ่ือส่วนรวมโดยมไิ ดค้ านงึ ถึงความเหนอื่ ยยากและประโยชนส์ ว่ นตน กจ็ ะขอพระราชทานเงนิ ทนุ สง่ เสรมิ บัณฑิตให้เดือนละ 6,000 บาท เพ่ือช่วยเปน็ ค่าใชจ้ ่ายของแพทย์ผนู้ ้ัน ทนุ ส่งเสรมิ บณั ฑิตนีเ้ ริ่มตง้ั แตเ่ ดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2523 จนถึงปัจจุบันย่ิงไปกว่าน้ันทนุ มูลนิธิอานนั ทมหิดล ได้ส่งเสรมิ การศึกษา ค้นคว้าวจิ ยั ทางแพทย์เฉพาะดา้ น เชน่ การวจิ ัยเกย่ี วกับโลหติ วทิ ยา การวิจยั โรคระบบประสาท การวจิ ัยกระดูกและข้อ และการวิจัยฮอรโ์ มนเปน็ ตน้

3. ทุนเลา่ เรียนหลวง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มีพระราชประสงค์ให้ฟื้นฟู “ทนุ เลา่ เรียนหลวง” (King’sScholarship) ท่พี ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั ได้รเิ ริ่มพระราชทานทุนให้นักเรยี นไปเรียนต่อต่างประเทศ ด้วยการจดั สอบแขง่ ขันอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2440 และได้พระราชทานทนุ เลา่ เรียนหลวงสบื เนอ่ื งกนั มาจนถงึ รชั กาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยหู่ ัว เมื่อมีการเปล่ียนแปลงการปกครองจงึ ยุตไิ ปใน พ.ศ. 2476 ครัน้ มาถงึ รัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั รัชกาลที่ ๙ มีพระราชปรารภฟ้ืนฟูการให้ “ทนุเล่าเรยี นหลวง” ขึน้ ใหม่ โดยการประกาศใช้ “ระเบยี บ ก.พ. วา่ ดว้ ยทนุ เล่าเรยี นหลวง พ.ศ. 2508”ทุนเล่าเรียนหลวงเปน็ ทนุ พระราชทานแกน่ ักเรียนท่สี อบช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลายตามหลักสตู รของกระทรวงศึกษาธกิ ารได้คะแนนดเี ยย่ี มปลี ะ 9 ทนุ คอื แผนกศิลปะ 3 ทุน แผนกวทิ ยาศาสตร์ 3 ทุนและแผนกท่วั ไป 3 ทนุ ให้ไปศกึ ษาต่อระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ และไมม่ ีขอ้ ผูกมัดทจี่ ะต้องกลับมารับราชการ นับตง้ั แต่ พ.ศ. 2508 จนถึง พ.ศ. 2539 มีผู้ได้รับพระราชทานทุนเล่าเรยี นหลวงไปศกึ ษาวิชาการระดบั อุดมศึกษาในต่างประเทศ 50 ทนุ ดังนี้ คอื ศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาจานวน 43 ทนุ ประเทศอังกฤษ จานวน 6 ทุน ประเทศฝร่ังเศส จานวน 1 ทนุ สว่ นทุนเลา่ เรยี นหลวงในระดับการศกึ ษาที่สูงกวา่ ปริญญาตรีน้ัน ได้จัดให้มขี ้นึ ใน พ.ศ. 2518เน่ืองในมหามงคลสมัยพระราชพธิ ีรัชดาภเิ ษกเฉลิมฉลองครบ 25 พรรษาแห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาแหง่ ชาติ สานกั นายกรฐั มนตรี ได้จดักิจกรรมเพือ่ สนองพระราชประสงค์เกยี่ วกับทุนเลา่ เรียนหลวง โดยจัดตั้งทนุ การศึกษาระดบั ปริญญาโท และปรญิ ญาเอก แกน่ กั ศึกษาทเ่ี ปน็ คนไทย และชาวต่างประเทศทมี่ ผี ลการเรียนดเี ด่นเปน็ พเิ ศษของสถาบนั เทคโนโลยีแหง่ เอเชยี ในปัจจุบนั พระราชทานทุนเล่าเรยี นหลวงแก่นกั ศึกษาของสถาบันเทคโนโลยแี ห่งเอเชียปลี ะ 16 ทนุ ทุนละ 220,000 บาทตอ่ ปี

4. ทุนการศกึ ษาสงเคราะห์ในมลู นธิ ิราชประชานเุ คราะห์ นอกจากนี้ พระองค์ท่านไดท้ รงโปรดเกลา้ ฯ ก่อตง้ั “มูลนิธริ าชประชานเุ คราะห์” โดยมีพระราชดารใิ หต้ ้ังทุนเพอื่ หาดอกผลสงเคราะหเ์ ด็กทคี่ รอบครัวต้องประสบวาตภัยภาคใต้ และขาดผู้อปุ การะเลีย้ งดรู วมทั้งช่วยเหลอื ราษฎร ผูซ้ ึ่งประสบสาธารณภัยทว่ั ประเทศดว้ ย หลังจากทีไ่ ด้ชว่ ยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชนในเหตกุ ารณ์เฉพาะหนา้ ในมหาวาตภัยเมื่อ พ.ศ. 2505 และสรา้ งสถานสงเคราะหร์ บั อปุ การะเลย้ี งดูเด็ก ๆ ทก่ี ลายเปน็ เดก็ อนาถาไรท้ ่ีพ่ึง เน่ืองจากบดิ ามารดาและญาติพี่นอ้ งเสียชวี ติ ไปนั้นใน พ.ศ. 2507 จากพระราชดาริประเดิมทนุ 3 ลา้ นบาท กอ่ ตงั้ มูลนธิ ิที่พระราชทานนามวา่ “มูลนธิ ริ าชประชานุเคราะห์” ในความหมายวา่ “พระราชา” และ “ประชาชน” อนเุ คราะหซ์ ึ่งกันและกัน อนั เปน็ การแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งพระมหากษตั ริย์กับประชาชนว่า ไม่สามารถแยกออกจากกนั ได้และทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้อยู่ใน “พระบรมราชูปถัมภ์” โดยจดทะเบยี นเป็นนิติบุคคลเม่ือวันที่23 สิงหาคม พ.ศ. 2506 งานสาคัญของมลู นธิ ริ าชประชานเุ คราะห์ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ก็คือ การชว่ ยสร้างอาคารเรียนหรอื สรา้ งโรงเรยี นขน้ึ ใหม่ และขอพระราชทานนามโรงเรียน ว่า “โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์” โดยโรงเรียนแรกกาเนดิ ท่ีบ้านปลายแหลม ตาบลแหลมตะลุมพุก อาเภอปากพนัง จังหวดั นครศรีธรรมราชไมม่ ีเลขหมาย เพราะเหตวุ า่ แหลมตะลมุ พุกเป็นต้นเหตุใหเ้ กิดการพระราชทานมลู นิธิ ข้ึน ต่อมาจงึ ได้มีหมายเลข ปัจจบุ ันมีอยู่ 30 โรง นอกจากนี้ ยังทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ดัทนุ การศึกษาสงเคราะห์แกเ่ ด็กและเยาวชนท่ีกาลังอยู่ในวยั ศกึ ษาและประสบสาธารณภัย หรอื ได้รับความทกุ ขย์ ากเดอื ดร้อนประการอนื่ ท่ีทางราชการอาจเขา้ ไปไม่ถึงหรอื ขัดตอ่ ระเบยี บหลักเกณฑ์ของทางราชการ อนั เป็นวัตถปุ ระสงค์ทคี่ ณะกรรมการบรหิ ารมูลนิธิ น้อมเกลา้ ฯ นามาแก้ไขเพิม่ เติมตามพระราชกระแสแกค่ ณะกรรมการบรหิ ารทีเ่ ขา้ เฝูาทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตาหนักจติ รลดารโหฐาน เมอื่ เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2511

5. ทนุ มลู นิธริ าชประชาสมาสยั ในพระบรมราชูปถมั ภ์ และมูลนธิ ิโรงเรียนราชประชาสมาสยั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั มีพระมหากรุณาธิคุณต่อราษฎรของพระองค์เทา่ เทยี มกันท่วั ทุกคน แมแ้ ต่ผู้ปวุ ยเปน็ โรคต่าง ๆ ในชมุ ชน โดยเฉพาะผู้ปวุ ยโรคเร้อื น เม่ือ พ.ศ. 2499 โรคเรื้อนกาลังระบาดอยู่ในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และองคก์ ารอนามัยโลกได้ตกลงกันว่าจะพยายามขจดั ให้หมดส้ินไปจากประเทศไทยในระยะเวลา 12 ปี และเจา้ หนา้ ที่กระทรวงสาธารณสุข ไดก้ ราบบังคมทลู พระกรุณาวา่ จะกาจดั โรคเรือ้ นให้หมดภายในเวลา 10 ปไี ด้ ถา้ มสี ถาบนั คน้ ควา้ และวิจัย ซ่งึตอ้ งใช้เงิน 1 ลา้ นบาท พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวจงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ก่อสร้างสถาบนั วจิ ัยคน้ ควา้เรือ่ งโรคเรื้อน ณ อาเภอพระประแดง จงั หวัดสมทุ รปราการ ใน พ.ศ. 2501 และเสดจ็ พระราชดาเนินไปทรงประกอบพิธเี ปดิ สถาบันเมอื่ วนั ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2503 พระราชทานนามสถาบันน้นั ว่า“ราชประชาสมาสยั ”รวมท้ังพระราชทานเงนิ ทนุ ทเี่ หลอื จากการก่อสรา้ งจานวน 217,452 บาท ให้กระทรวงสาธารณสขุ เพื่อเปน็ คา่ ใช้จา่ ยในการดาเนนิ กิจการของสถาบนั ต่อไป ต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้ขอพระราชทานนาเงนิ ดังกลา่ วไปจดทะเบียนจัดตัง้ เปน็ มลู นิธริ าชประชาสมาสัย และได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาใหท้ รงรับมูลนธิ ินี้ไวใ้ นพระบรมราชปู ถมั ภ์ โดยมพี ระราชกระแสตอบมาเมื่อวันท่ี 10 เมษายน พ.ศ. 2504 ว่า ถา้ จะขอให้อยู่ในพระบรมราชปู ถัมภ์ มลู นิธจิ ะต้องเพ่มิ วัตถุประสงคข์ ้ึนอกี ข้อหนงึ่ ว่าจะจดั ตัง้ โรงเรียนสาหรบั บตุ รผู้ปุวยทเ่ี ล้ยี งแยกจากบิดามารดาแตแ่ รกเกิด ดังพระบรมราชาธบิ ายที่พระราชทานถงึ การก่อตัง้ โรงเรียน และพระราชดารสั ในพิธีทรงเปิดโรงเรียนราชประชาสมาสัย เมอื่ วนั ท่ี 16 มกราคม พ.ศ. 2507 มีความตามลาดับ ดงั น้ี “…เดก็ เหลา่ นี้มสี ิทธ์ิที่จะเล่าเรียนเช่นเด็กอ่นื เพราะขณะนน้ั กระทรวงสาธารณสขุ ไม่สง่ เด็กท่ียงั มิได้ปวุ ยให้เข้าเรียนในโรงเรยี นในนิคม หรือในโรงพยาบาลโรคเรอื้ น เนือ่ งจากเกรงว่าจะติดโรคและกระทรวงศึกษาธิการกย็ งั ไม่ยอมรับบตุ รผปู้ วุ ยโรคเรือ้ นเข้าเรยี นในโรงเรยี นกระทรวงศึกษาธิการเนือ่ งจากเกรงวา่ จะไปแพรเ่ ช้ือโรคเรือ้ นแกเ่ ด็กอน่ื ขณะนี้กรมประชาสงเคราะห์ของกระทรวงมหาดไทยมโี รงเรยี นสาหรบั เดก็ ทไี่ ม่มผี ู้อุปการะแล้ว แตก่ ็ไมส่ ามารถรับเด็กเหล่าน้ีไดเ้ พราะเปน็ เด็กผ้มู บี ิดามารดา…” “…การดารสิ รา้ งสถานศกึ ษานี้ขึน้ ก็เพ่ือจะไดช้ ว่ ยเหลือเด็กผพู้ ลอยประสบเคราะหก์ รรมให้มีสถานท่เี ลา่ เรยี น ซงึ่ โดยธรรมชาติควรมีสิทธท์ิ ี่จะกระทาส่งิ ใดได้เช่นผอู้ ่นื การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่โชคชะตาบนั ดาลให้ต้องเกิดมาในภาวะเชน่ นี้ยอ่ มเป็นกศุ ลและเปน็ การช่วยเหลือประเทศชาติ เพราะเดก็ เช่นวา่ นี้เมื่อไดร้ บั การศึกษา อบรมด้วยดีเตบิ โตข้นึ ก็จะเปน็ พลเมอื งทด่ี เี ปน็ ประโยชน์แก่ตนเองและชาตบิ า้ นเมืองในอนาคต…” พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมพระราชทานพระราช

ทรัพย์สว่ นพระองคแ์ ก่มูลนธิ ริ าชประชาสมาสัย จดั สร้างโรงเรียนประจารับเด็กเหลา่ นั้นมาเลี้ยงดอู บรมและโปรดเกลา้ ฯ ใหท้ ่านผู้หญงิ ดษุ ฎีมาลา มาลากลุ ณ อยธุ ยา รองประธานกรรมการบริหารมลู นิธิราชประชาสมาสยั ในขณะนัน้ เป็นผู้อานวยการจัดสร้างโรงเรียนสาหรบั บุตรผ้ปู วุ ยโรคเรอ้ื น และให้การบริหารโรงเรียนขน้ึ ต่อมูลนิธิราชประชาสมาสยั ซง่ึ ตอ่ มาได้ขอพระบรมราชานุญาต แยกจากมลู นิธเิ ดมิมาจดทะเบยี นเป็นมลู นิธิโรงเรียนราชประชาสมาสยั ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ พระราชกรณียกจิ ดังที่ได้กลา่ วมาแล้วขา้ งต้น แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาบารมีที่พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั พระราชทานแก่พสกนิกรของพระองค์ทแ่ี ผ่ไพศาลไปท่วั โดยเฉพาะผูป้ วุ ยโรคเรอื้ นที่มอี ยู่ในชมุ ชน ตลอดจนบตุ รผูป้ ุวยทย่ี งั ไมร่ ับเชื้อโรคเร้ือน6. ทนุ นวฤกษ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว ทรงพระกรุณารเิ รมิ่ ก่อตงั้ “ทนุ นวฤกษ์” ในมูลนธิ ิชว่ ยนกั เรียนขาดแคลนในพระบรมราชูปถัมภ์ เพอื่ ชว่ ยให้นักเรียนท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์แตม่ ีผลการเรียนดี ความประพฤตดิ ี ได้มโี อกาสเขา้ รบั การศกึ ษาต่อในระดบั ต่าง ๆ ท้งั ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาอาชีวศกึ ษา ฝึกหัดครู และอุดมศึกษา ด้วยทรงสละพระราชทรัพย์สว่ นพระองค์ เปน็ ทุนรเิ ร่ิม 51,000 บาท และจากผบู้ ริจาคทรพั ย์โดยเสด็จพระราชกศุ ลสมทบทุนก่อสรา้ งโรงเรียนตามวัดในชนบท ท้งั ระดบั ประถมศกึ ษา และมัธยมศึกษา เพื่อสงเคราะหเ์ ด็กยากจน และกาพร้าใหม้ ีสถานท่ีสาคญั สาหรบั ศึกษาเลา่ เรยี น โดยอาราธนาพระภิกษเุ ปน็ ครสู อนวิชาสามัญศกึ ษาท่ีไม่ขดั ต่อพระวนิ ยั และอบรมศีลธรรม เพ่ือสร้าง

ความสัมพันธร์ ะหวา่ งศาสนากับการศึกษาแกเ่ ด็กท่ีจะได้เป็นพลเมอื งดีของประเทศชาติในอนาคตต่อไป อกี ท้งั ยงั โปรดเกล้าฯ พระราชทานความชว่ ยเหลอื ด้านการศึกษาแกบ่ ุตรในครอบครวั ที่เดือดรอ้ นมากหรือขาดผู้อปุ การะ เชน่ กาพร้าบิดามารดา โดยทรงรับเดก็ เหล่านน้ั ไวเ้ ป็นนกั เรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ ซง่ึ แต่ละปีนักเรยี นดังกลา่ วมจี านวนเพ่มิ มากขน้ึ7. ทุนการศึกษาพระราชทานแกน่ กั เรียนเฉพาะกรณี7.1 ทนุ พระราชทานแกน่ ักเรียนชาวเขา เปน็ ทนุ ทีท่ างกรมสามัญศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการขอพระราชทานจัดให้แกน่ กั เรียนชาวเขาได้ศึกษาต่อตง้ั แต่ช้นั ประถมศกึ ษาตอนปลาย เมอื่ พ.ศ. 2514 เป็นต้นมา เป็นการเสรมิ สรา้ งความสัมพนั ธแ์ ละความเข้าใจอันดรี ะหว่างชาวเขาและชาวไทย และสง่ เสรมิ ให้ชาวเขาสง่ บตุ รหลานมาศกึ ษาในโรงเรยี นมากขน้ึ ทาให้มโี อกาสใช้ภาษาไทยไดด้ ยี ง่ิ ข้นึ และกลบั ไปช่วยพัฒนาท้องถิ่นของตนโดยจะมีคณะกรรมการพจิ ารณาจากความตั้งใจ ความสนใจและความประพฤติของนักเรียน สาหรับจานวนเงินทุนพระราชทานนมี้ ีอัตราไมเ่ ท่ากัน แตกตา่ งกนั ไปตามระดบั ชั้นของนักเรียนผู้ได้รบั ทนุ พระราชทาน เช่น นักเรยี นทุนพระราชทานระดับประถมศึกษาตอนปลาย และมัธยมศกึ ษาตอนต้น ทุนละ 1,000 บาทต่อปี นกั ศึกษาทนุ พระราชทานระดบั วทิ ยาลยั ครูและวทิ ยาลัยเกษตรกรรมทนุ ละ 4,000 บาทตอ่ ปี ต่อมาได้เพิ่มเป็นทุนละ 1,200 บาท และ 4,500 บาท ตามลาดับ นักศึกษาแพทย์ทนุ พระราชทานทนุ ละ 8,000 บาทต่อปี และสว่ นใหญผ่ ไู้ ด้รับทนุ พระราชทานนี้เมื่อสาเร็จการศึกษาแลว้ จะไปเปน็ ครูอยู่ท่ีโรงเรียนชาวเขาหรือทางานเกี่ยวกบั ชาวเขา7.2 ทนุ พระราชทานแก่นักเรียนเฉพาะสถานศึกษา เปน็ ทุนการศกึ ษาที่พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองคจ์ านวนหนึง่ จดั ต้ังเป็นทุน และให้มีการบรจิ าคโดยเสดจ็ พระราชกุศลเป็นรายโรงเรยี นไปเพอื่ ให้มดี อกผลเพ่ิมขึน้ สามารถจดั สรรเปน็ ทนุ การศกึ ษาพระราชทานแกน่ ักเรียนดเี ยี่ยม นกั เรียนที่เรียนดแี ต่ขาดทนุ ทรพั ย์ในโรงเรียนในพระองค์ และโรงเรยี นในพระบรมราชปู ถมั ภ์ เช่น โรงเรยี นจติ รลดา โรงเรียนวงั ไกลกงั วล โรงเรยี นราชวินิต โรงเรยี นราชประชาสมาสัย แล้วเสด็จฯ ไปพระราชทานทนุ เหล่านดี้ ้วยพระองค์เอง พระราชทานทนุ ละ 500 บาท 700 บาท หรอื 900 บาทตามแต่ระเบียบว่าด้วยทนุ พระราชทานที่คณะกรรมการบริหารทนุ โรงเรยี นเหล่านนั้ กาหนดไว้ และเมื่อสาเรจ็ การศกึ ษาจะไดเ้ ปน็ พลเมืองดี มสี ่วนสาคัญในการพัฒนาประเทศชาตติ อ่ ไป7.3 รางวัลพระราชทานแก่นกั เรยี นและโรงเรยี นดีเดน่ โดยพระองค์ท่านทรงมีพระราชปรารภพระราชทานแก่รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร(หมอ่ มหลวง ป่นิ มาลากุล) เมอ่ื คราวเสดจ็ ฯ ทรงเปิดงานศิลปหัตถกรรมนกั เรียน ณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เม่อื วันท่ี 1 ธันวาคม พ.ศ. 2506 ความว่า “…มนี ักเรียนจานวนมาก ซงึ่ มีความประพฤติดีและมีความมานะพยายามศึกษาเล่าเรยี นไดผ้ ลดี

รวมท้ังโรงเรียนซ่ึงจัดการศึกษาดี นักเรียนและโรงเรยี นที่มีคุณสมบัติดงั กลา่ วสมควรจะได้รบัพระราชทานรางวลั ” กระทรวงศกึ ษาธิการได้ประชมุ พจิ ารณาดาเนินการเรอื่ งน้ี โดยเสนอคณะรฐั มนตรีพิจารณาจัดทารางวัลพระราชทานให้แกน่ กั เรยี นที่สอบประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ศ.5) ได้คะแนนสงู สุดท้งั 3 แผนก และโรงเรยี นท่นี ักเรียนสอบประโยคมธั ยมศึกษาตอนปลายไดค้ ะแนนมากที่สดุ 9โรงเรยี นแรกได้พระราชทานโล่ชมเชยเป็นรางวลั ขณะเดยี วกนั พระองค์ไดท้ รงโปรดเกลา้ ฯ ให้เพม่ิ หลักเกณฑร์ างวัลพระราชทานสาหรับระดับประถมศกึ ษา เพิ่มรางวลั ชมเชยเปน็ 12 รางวลั พระราชทานแกน่ กั เรียนในภาคศึกษาทั้ง 12 ภาคภาคละ 1 คน รางวัลสาหรบั โรงเรียนมัธยมศกึ ษา เพ่ิมโล่รางวัลสาหรบั พระราชทานแกโ่ รงเรียนทไี่ ด้รับพระราชทานติดต่อกนั ถงึ 3 ปี การพระราชทานรางวลั นีไ้ ด้ดาเนนิ การมาต้ังแต่ พ.ศ. 2508 จนถึงปจั จบุ นั โดยไดป้ รับปรุงแก้ไขให้มีรางวัลพระราชทานให้เป็นไปตามประกาศและการประเมินของกระทรวงศกึ ษาธิการท่ีพิจารณาตดั สินให้รับพระราชทานรางวัลด้วย8. ทุนเลา่ เรยี นหลวงสาหรบั พระสงฆไ์ ทย นอกจากนี้ พระองคท์ ่านยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหต้ งั้ โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสาหรับพระสงฆไ์ ทย แบง่ เปน็ 10 ประเภท อาทิ ทุนการศกึ ษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปรญิ ญาเอกในมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณ์ราชวทิ ยาลยั (มจร.) และมหาวทิ ยาลยั มหามกฎุ ราชวิทยาลัย (มมร.)ทนุ การศึกษาระดบั เปรียญธรรม 6, 7, 8 และ 9 กากับดูแลโดยกองบาลสี นามหลวง ทุนหน่วยปฏิบตั กิ ารพระธรรมทูตดเี ด่น กากับดูแลโดยกองงานพระธรรมทูต ทุนสานักเรยี นและสานักศาสนศกึ ษาดีเดน่ ส่งเสริมสานักเรยี นและสานกั ศาสนศึกษาในแต่ละเขตปกครองคณะสงฆท์ ่ีมผี ลงานดเี ดน่กากับดูแลโดยกองบาลีสนามหลวง โดยพระองค์ท่านไดพ้ ระราชทานทนุ ปฐมฤกษ์ เมื่อวนั ท่ี 21 พฤษภาคม 2547 จานวน 13 ล้านบาท และต่อมามกี ารบรจิ าคเพิ่มเติมเขา้ มาจากผมู้ จี ติ ศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนาจานวนหน่งึ ปัจจบุ นั น้ีการตั้งโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสาหรับพระสงฆ์ไทย ในปี 2559 นี้ นับเป็นปที ่ี 13 ทถ่ี วายแก่พระภิกษุสามเณรทไี่ ดร้ ับคัดเลอื กจากกองบาลีสนามหลวง 163 ทนุ , พระธรรมทูต 9 ทุน, โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมแผนกสามญั ดีเดน่ 9 ทนุ , ศูนยเ์ ผยแผ่พระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ 16 ทุน, มหาวทิ ยาลยัมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย 222 ทุน, มหาวทิ ยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลยั 36 ทนุ รวมทนุ ทจ่ี ดั ถวายแกพ่ ระภกิ ษุสามเณรทั้งสิน้ 456 ทนุ รวมเปน็ เงนิ ท้งั สิ้น 9,875,000 บาท9. ทนุ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นพระราชดาริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง“พฒั นาเยาวชนใหเ้ ป็นคนดี และคนเก่ง สเู่ สน้ ทางความสาเร็จ ตามแนวทาง หลักปรชั ญาเศรษฐกจิพอเพยี ง” เพอ่ื สง่ เสริมและสนับสนุนนกั เรียน โรงเรียนศูนยก์ ารเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ

พอเพียงให้มโี อกาสศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โดยผูท้ ่ีได้รบั ทนุ นอกจากจะได้ศกึ ษาวิชาการในมหาวิทยาลัยแลว้ ยังได้รบั โอกาสในการร่วมกิจกรรม การศึกษาถึงคุณคา่ ของโครงการตามพระราชดาริต่าง ๆ รวมท้งั หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว โครงการทนุ เศรษฐกิจพอเพยี งก่อตง้ั โดยมูลนธิ สิ านักงานทรพั ย์สนิ ฯ ประเดมิ ทุน ต่อมาภาคเอกชนผมู้ จี ติ ศรัทธาหลายแห่งรว่ มบรจิ าคสมทบทนุ มาจนถึงปัจจุบนั มีนักเรยี นทนุ ในโครงการน้ีจานวน 6 รุ่น 152 คน ในหลากสาขาวชิ าชพี ส่วนใหญเ่ ป็นครู และมีแพทย์ 1 คน โดยผทู้ ไี่ ดร้ ับทุนประกอบไปด้วย ค่าเล่าเรียนตลอดหลักสตู ร ค่าครองชีพเดือนละ 8,000 บาท ค่าอปุ กรณ์การเรยี นปีละ 10,000 บาท ทุนการศึกษาพระราชทาน” หรอื ทุนจากในหลวง ทเ่ี ป็นทนุ ให้เปลา่ ไม่มีข้อผกู มัดใด ๆ เปน็ พระมหากรณุ าธิคุณของในหลวงรัชกาลท่ี ๙ ที่พระองคท์ า่ นโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนทรพั ย์สว่ นพระองค์ เพ่ือช่วยเหลอื การศึกษาในทุกระดับการศึกษา ท้งั นักเรียนท่ีด้อยโอกาส มีฐานะยากจน ขาดแคลนทนุ ทรัพย์ มคี วามประพฤตเิ รยี บร้อย และมีความขยันหม่ันเพยี ร รวมถงึ นักเรียนที่มีผลการเรยี นดีเย่ยี ม เป็นคนดี มีความขยัน อดทน แต่ขาดแคลนทนุ ทรัพย์ โดยพระราชทานเป็นทนุ ประเดมิ และต่อมาผู้มจี ิตศรทั ธาบริจาคโดยเสดจ็ พระราชกุศลอีกเปน็ จานวนมาก จนกระทง่ั ตัง้ เป็นมูลนิธชิ ่วยนักเรยี นขาดแคลนในพระบรมราชูปถัมภ์ ใช้เฉพาะดอกผลเปน็ ทนุ การศึกษาตอ่ ไปในภายภาคหนา้“ทนุ การศกึ ษาพระราชทาน” พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว ทรงตระหนักถึงความสาคัญของการศกึ ษาเป็นอย่างมาก เพราะทรงถอื ว่า “การศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาชวี ิตมนษุ ย์” ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากพระบรมราโชวาททพ่ี ระราชทานแก่คณะครูและนักเรียน ณ ศาลาดุสิดาลยัเม่ือวนั ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 และเมื่อวนั ที่ 13 มถิ ุนายน พ.ศ. 2519 รวมทัง้ ท่พี ระราชทานในพิธีพระราชทานปรญิ ญาบัตรของมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ เม่ือวนั ท่ี 19 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2519 มีความตามลาดับดงั นี้

…การศกึ ษาเป็นปจั จัยในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติ และคุณธรรมของบุคคล…” “…ปัจจยั ทสี่ าคญั ประการหนึ่งของทั้งชีวติ และส่วนรวม คอื การศึกษา ซง่ึ เป็นรากฐานสง่ เสริมความเจริญมน่ั คงเกือบทุกอยา่ งในบคุ คล และประเทศชาติ…” “…การศกึ ษาเป็นเคร่ืองมอื ทีส่ าคัญในการพัฒนาบุคคลใหม้ คี ุณภาพ ให้เป็นทรัพยากรทางปญั ญาท่มี ีค่าของชาติ…” พระบรมราโชวาทที่อญั เชิญมานี้แสดงให้เหน็ ถึงพระราชดาริทีเ่ ล็งเหน็ ความสาคญั ของการศึกษาทั้งยังพระราชทานพระราชดาริ ให้เหน็ ว่า ประเทศชาตจิ ะพัฒนาใหเ้ จรญิ ก้าวหน้าได้ ก็ดว้ ยการพัฒนาบคุ คลของชาติให้มีคณุ ภาพโดยการให้การศกึ ษา ดังพระบรมราโชวาทท่ีนามาเนน้ เปน็ ตัวอย่างอกี คร้ังหนงึ่ ดงั นี้ “…งานด้านการศึกษาเปน็ งานสาคัญท่สี ดุ อยา่ งหน่ึงของชาติ เพราะความเจรญิ และความเสือ่ มของชาตนิ ้ัน ขึน้ อยูก่ ับการศึกษาของพลเมืองเป็นข้อใหญ่ ตามข้อเทจ็ จรงิ ที่ทราบกันดีแล้ว ระยะนี้บา้ นเมอื งของเรามีพลเมืองเพ่ิมข้ึนอยา่ งรวดเรว็ ทั้งมสี ญั ญาณบางอย่างเกิดขึ้น ด้วยวา่ พลเมอื งของเรา

บางส่วนเส่อื มโทรมลงไปในความประพฤตแิ ละจติ ใจ ซ่งึ เป็นอาการทนี่ า่ วิตก ถ้าหากยังคงเปน็ อย่ตู อ่ ไปเราอาจจะเอาตวั ไม่รอด ปรากฏการณ์เช่นนี้ นอกจากเหตุอ่นื แลว้ ต้องมีเหตมุ าจากการจัดการศึกษาด้วยอยา่ งแน่นอน… เราตอ้ งจัดงานดา้ นการศกึ ษาให้เข้มแข็งยิ่งขึน้ …” (พระบรมราโชวาทท่ีพระราชทานในพิธีพระราชทานปริญญาบตั รของมหาวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมติ ร เมื่อวนั ท่ี 12 ธนั วาคม พ.ศ. 2510)

อยา่ งไรก็ตาม พระองคท์ า่ นทรงชีใ้ ห้เหน็ ว่า การให้การศึกษาเปน็ งานใหญ่และกว้างขวางท่ีไม่ใชจ่ ะทาสาเร็จได้โดยใครแตล่ าพัง ต้องอาศยั ความร่วมมือรว่ มใจของคนสว่ นใหญ่ในทุก ๆ ดา้ น การจดั การศึกษาของประเทศ จึงจะเปน็ ผลสาเรจ็ ได้ ดังพระบรมราโชวาทท่ีพระราชทานแก่คณะกรรมการบรหิ ารมลู นิธชิ ว่ ยนักเรียนท่ขี าดแคลนในพระบรมราชูปถมั ภ์ เมื่อวนั ท่ี 20 กนั ยายน พ.ศ. 2512 และพระราชดารัสแกส่ มาชกิ สโมสรไลออนส์แห่งประเทศไทย เมื่อวนั ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2513 มคี วามตามลาดบั ดังนี้ “…ในประเทศไทยนี้ถา้ ดูจากสถิตกิ ็มพี ลเมอื งเพม่ิ ขนึ้ ทุก ๆ วัน จึงสนั นิษฐานได้ว่าพลเมืองของประเทศไทยน้ีอย่ใู นวัยเรยี นอยู่เป็นส่วนมากทุก ๆ ปี การที่สว่ นรวม คือ ประชาชนท้งั ประเทศเล็งเหน็ความสาคัญของการศึกษาเป็นส่งิ ทีด่ ีแล้ว จงึ ต้องช่วยกนั จัดการใหเ้ ยาวชน ให้ประชาชนที่เกิดขึ้นมาใหม่นีม้ โี อกาสไดร้ ับการศึกษาทด่ี ี เราจะไปอาศัยรฐั บาลหรืออาศยั ทางราชการท่จี ะชว่ ยให้บา้ นเมืองมีความเจริญด้านเดียวไมไ่ ด้ เพราะในสมยั นถ้ี ือว่าเปน็ สมยั ประชาธิปไตย ทุกคนมสี ่วนในงานของประเทศชาติ…”…การให้การศึกษาแก่คนน้ีเปน็ ปัญหาของคนทุกคน ไม่ใชข่ องบคุ คลใดบุคคลหน่ึงโดยเฉพาะต้องร่วมมอืกันหลายฝาุ ย ระหวา่ งผทู้ ี่มคี วามรู้ ผ้ทู มี่ ีเจตนาดตี ่อสงั คมและผูม้ ีทนุ ทรัพย์…” จากพระราชดารสั และพระบรมราโชวาทที่อัญเชิญมากลา่ วขา้ งตน้ ย่งิ แสดงใหเ้ ห็นวา่ ทรงสนพระราชหฤทัยในดา้ นการศึกษาอยา่ งลึกซ้ึง ทรงมองเห็นถึงปัญหาและแนวทาง ตลอดจนพรอ้ มทจี่ ะทรงบาเพ็ญพระราชกรณยี กจิ สนับสนุนการศึกษาในทุก ๆ ด้าน ทรงทราบดี

วา่ เด็กและเยาวชนของไทยมิไดข้ าดสติปัญญาทีจ่ ะเล่าเรยี น แต่ด้อยโอกาสและขาดทนุ ทรัพย์ และอีกประการหน่ึงก็คือทรงตระหนักถึงความเจรญิ ก้าวหน้าทางวิชาการ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ทีจ่ ะมามีบทบาทและอิทธิพลต่อแนวคิด จติ ใจ และการดาเนนิ ชีวิตของประชาชนอย่างมาก จึงเป็นเร่อื งสาคญัสาหรบั การก้าวใหท้ ันวิวัฒนาการและความเจรญิ สมยั ใหม่เหลา่ น้ี ส่วนหนึง่ คอื จาเป็นตอ้ งสง่ คนไปศึกษาและดูงานในประเทศทพ่ี ฒั นาแลว้ เพอ่ื นาความร้มู าเผยแพร่ให้เป็นประโยชนแ์ ละก่อใหเ้ กิดการพฒั นาในวทิ ยาการตา่ ง ๆ ของประเทศ พร้อมจัดเตรียมความรู้ข้ันพื้นฐาน สาหรบั ผทู้ ่ีจะเข้ามารองรบั ความรเู้ หล่านั้น จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองคเ์ พอื่ ก่อตง้ั กองทุนการศึกษาขนึ้ หลายทนุ ตั้งแตร่ ะดับประถมศกึ ษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ซ่ึงการใหท้ นุ แตล่ ะทุนน้ัน มวี ัตถุประสงค์แตกต่างกนั ไปดงั น้ี

บทที่ 3 วธิ กี ารดาเนินงาน3.1ขั้นตอนการดาเนนิ โครงงาน 3.1.1 ประชุมกลมุ่ ครั้งแรกเพ่ือแบ่งภาระหน้าท่ีกนั อยา่ งชัดเจน 3.1.2 แยกหาหวั ข้อของตนเองทไี่ ด้มอบหมายของแตล่ ะคน 3.1.3 นาข้อมูลที่ได้หามานามารวบรวมกนั 3.1.4 นาขอ้ มูลที่ผา่ นการรวบรวมมาวเิ คราะห์เพ่ือนาไปทารูปเลม่ 3.1.5 ประชมุ กลมุ่ คร้ังท่ี 2 เพ่ือปรกึ ษากันเพ่อื ทารูปเลม่ E-Book และ Power point 3.1.6 แยกสมาชกิ ในกลุม่ ออกเป็นสองกลุ่ม เป็นการแบง่ หน้าทกี่ ันอยา่ งเจนมีการทาเป็นฝาุ ยทารปู เล่มและฝุายนาเสนอ 3.1.7 กลุ่มการนาเสนอประชุมเพื่อปรึกษารูปแบบการนาเสนอ บทที4่

ผลการดาเนินงาน4.1 ผลการดาเนินงาน ทุนพระราชทานหรือทุนจากในหลวงเปน็ พระมหากรุณาธคิ ุณของในหลวงรชั กาลที 9 มีพระราชปณธิ านทม่ี ุ่งมน่ั จะสรา้ งโอกาสให้กับเยาวชนท่ีจะเตบิ โตไปเป็นกาลงั ของชาตโิ ดยพระราชทานทุนทรพั ย์สว่ นพระองค์ เพ่ือช่วยเหลือในดา้ นการศึกษาในทุกระดับการศึกษาและสรา้ งโอกาสทางการศกึ ษาให้แกเ่ ยาวชนทีย่ ากจน ดอ้ ยโอกาส เรยี นดี มีความประพฤติที่ดีและขยนั หมัน่ เพยี รได้มีโอกาสศกึ ษาเทียบเท่าและต่อเนือ่ งเช่นผ้อู ่นื ทุนพระราชทานหรอื ทุนจากในหลวงทาให้คุณภาพชีวิตของผู้ไดร้ ับทุนดีข้ึนและนักเรียนทนุ ทุกคนนอ้ มสานกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณของพระองค์ทา่ น มีต่อตนซงึ่ ทกุ คนทไี่ ด้รับทนุ จะรูส้ ึกกว่าเหมือนได้ชวี ิตใหม่ มคี วามหวังและซาบซึง้ นพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรชั กาลที่ 9 ที่ทรงมตี ่อพสกนิกรของพระองค์4.2.การนาไปใช้ เม่ือคนทีม่ ีโอกาสไดร้ บั ทนุ พระราชทานแลว้ นกั เรยี นทุนทกุ คนจะนิยมนายึดม่นั ปฏิบตั ติ นตามแนวพระราชดารัส “เรียนดี ความร้ดู ี การงานดี ชวี ิตสดใส ทาประโยชน์ใหก้ ับประเทศชาติ” มาเปน็เปูาหมายในการดารงชีวิตในฐานะที่เปน็ นักเรียนทนุ พระราชทาน ท่มี ีความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์เติบโตเป็นกาลงั ของประเทศ และพร้อมจะตอบแทนคณุ แผ่นดิน โดยการนาความรูค้ วามสามารถทต่ี นไดไ้ ปศึกษามากลบั มาพัฒนาประเทศชาติให้มีประเทศมีความอยดู่ ีกนิ ดี ประชาชนมีชีวิตท่ีดีขนึ้ บทท่5ี

สรปุ ผลการดาเนนิ งาน5.1.สรปุ ผลการดาเนินโครงงาน \"ทุนการศึกษาพระราชทาน” หรอื ทนุ จากในหลวง ทเ่ี ป็นทุนใหเ้ ปล่า ไม่มีข้อผูกมดั ใด ๆ เปน็พระมหากรณุ าธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตรเพอื่ชว่ ยเหลือการศกึ ษาในทุกระดับการศกึ ษา ท้งั นักเรียนท่ดี ้อยโอกาส มีฐานะยากจน ขาดแคลนทนุทรพั ย์ มคี วามประพฤติเรยี บร้อย และมีความขยนั หมัน่ เพยี ร รวมถึงนกั เรยี นทีม่ ีผลการเรียนดเี ยี่ยมแต่ขาดแคลนทุนทรัพยเ์ พื่อสง่ เสริมและสนับสนุนนกั เรียนโดย 9 ทนุ ท่ใี นหลวงรชั กาลท่ี 9 ได้พระราชทานมานน้ั ทาให้นักเรียนทนุ เหล่านตี้ ่างสานึกในพระมหากรุณาธคิ ุณหาทีส่ ุดมิได้ ซง่ึ หลายๆ คนกก็ ลับมาทางานรบั ใชบ้ า้ นเมืองเพื่อสรา้ งความเจริญก้าวหน้าอยา่ งยง่ั ยนื ตามพระราชปณิธานของพระองค์ท่ีพระราชทานในดา้ นการศกึ ษาให้กับนักเรียนทนุ5.2 ปัญหาและอปุ สรรค 5.2.1. เวลาว่างของสมาชิกแต่ละคนในกล่มุ ไม่ค่อยตรงกนั 5.2.2.การบา้ นจากวิชาต่างๆที่ตอ้ งใชเ้ วลานานในการทา และบางครงั้ ต้องออกไปทาในสถานทต่ี ่างๆ ทาใหม้ เี วลาในการปฏบิ ัตโิ ครงงานน้อยลง 5.2.3. การประสานงานกบั ฝุายต่าง ๆ เกดิ ความเขา้ ใจไม่ตรงกนั ทาให้การทางานล่าชา้5.3 ขอ้ เสนอแนะ คณะผูจ้ ดั การโครงการควรมกี ารประชมุ วางแผนกนั มากขนึ้ เพอื่ แก้ปญั หาต่างๆ ท่เี กดิ ข้ึน และคณะผู้จดั การโครงการควรวางแผนในการประสานงานให้เปน็ ระบบ มีการแบง่ หน้าที่ความรบั รบั ชอบให้ตรงตามตาแหน่งงาน เพอื่ การทางานจะได้ มปี ระสทิ ธภิ าพมากย่ิงข้ึน ภาคผนวก

ขน้ั ตอนท่ี 1 ประชมุ กลุ่มเพ่ือแบง่ ภาระหน้าที่ในการทางานของสมาชิกในกลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 สมาชกิ แต่ละคนนาขอ้ มูลทีไ่ ด้หามานามารวบรวมกัน

ขน้ั ตอนที่ 3 รวบรวมข้อมูลจัดทา Power pointขั้นตอนท่ี 4 รวบรวมข้อมูลจัดทารูปเล่มโครงงาน

ข้นั ตอนที่ 5 ฝาุ ยนาเสนอซ้อมการนาเสนอ

ประวตั ิผู้ดาเนนิ งาน1 ชื่อ นาย สหรฐั ใจภักดี รหัสนิสิต 60243148 ภมู ิลาเนา บา้ นเลขที่ 142 หมู่ที่ 2 ตาบล.บา้ นโคน อาเภอ.พิชยั จังหวดั .อุตรดิตถ์ ประวตั กิ ารศึกษา -จบการศึกษาจาก โรงเรียนพิชัย - ปัจจุบันกาลังศึกษา มหาวทิ ยาลัยนเรศวร2 ช่ือ นางสาว สตรีรตั น์ สุกลม รหัสนิสติ 60243063 ภูมลิ าเนา บา้ นเลขท2่ี 1 หมู่ที่.9 ตาบล.ทอ้ งฟูา อาเภอ.บา้ นตาก จังหวดั .ตาก ประวัติการศึกษา -จบการศกึ ษาจาก โรงเรียนตากพิทยาคม - ปัจจบุ ันกาลงั ศึกษา มหาวิทยาลยั นเรศวร3. ช่ือ นางสาวสนุ ิสา สถาพร รหสั นิสิต 60243339 ภมู ิลาเนา บา้ นเลขท่ี 178/1 หมทู่ .ี่ 1 ตาบล.ง้วิ งาม อาเภอ.เมือง จังหวดั .อตุ รดติ ถ์ ประวัตกิ ารศึกษา -จบการศกึ ษาจาก โรงเรยี นอุตรดิตถ์ดรุณี - ปัจจุบนั กาลังศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยนเรศวร4. ช่ือ นางสาว สุภสั สรา ธูปคา รหสั นสิ ิต 60243353 ภูมิลาเนา บ้านเลขท่ี 33 หมู่ท่ี 4 ตาบลบ้านยาง อาเภอวดั โบสถ์ จังหวัดพิษณโุ ลก ประวัตกิ ารศึกษา -จบการศกึ ษาจาก โรงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษาภาคเหนือ -ปจั จุบนั กาลงั ศกึ ษามหาวทิ ยาลัยนเรศวร5. ชอ่ื นางสาวสุภาวดี ชัยชนะศกึ รหัสนิสติ 60243377 ภมู ิลาเนา บ้านเลขท่ี 1005 หมู่ที่ 2 ตาบล.แมป่ ะ อาเภอ.แมส่ อด จังหวดั .ตาก ประวัติการศึกษา -จบการศึกษาจาก โรงเรยี นสรรพวทิ ยาคม -ปจั จุบนั กาลงั ศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร6. ชื่อ นางสาวสนุ ติ า สาระพนิ ิจ รหัสนิสติ 60243384 ภูมลิ าเนา บ้านเลขที่ 31/1 หมทู่ ่ี 3ตาบล.ท่านั่ง อาเภอ.โพทะเล จังหวดั .พจิ ิตร ประวัติการศึกษา -จบการศกึ ษาจาก โรงเรียนท่าเสาพิทยาคม -ปจั จบุ ันกาลังศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั นเรศวร

7. ชื่อ นางสาวสรรพสริ ิ สมนึก รหสั นิสติ 60243100 ภมู ลิ าเนา บ้านเลขที่ 150/3 ตาบล.สวรรคโลก อาเภอ.เมอื งสวรรคโลก จังหวัด.สโุ ขทัย ประวัติการศึกษา -จบการศกึ ษาจาก โรงเรยี นสวรรค์อนนั ตว์ ิทยา -ปัจจบุ นั กาลังศกึ ษา มหาวิทยาลัยนเรศวร8. ชือ่ นาย สรุ ภูมิ สมบญุ พลู พิพัฒน์ รหัสนสิ ติ 60243391 ภูมลิ าเนา บา้ นเลขท่ี45/1 หมทู่ .ี่ 1 ตาบล.ทงุ่ โพ อาเภอ.หนองฉาง จังหวัด.อุทัยธานี ประวตั ิการศึกษา -จบการศึกษาจาก โรงเรียนหนองฉางวิทยา -ปัจจบุ นั กาลังศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยนเรศวร9. ช่ือ นางสาวสุมิตรา อมิ พิมพ์ รหสั นสิ ิต 60243384 ภมู ลิ าเนา บา้ นเลขท่ี 64/1 อาเภอ.ลอง จังหวัด.เเพร่ ประวัตกิ ารศึกษา -จบการศกึ ษาจาก โรงเรยี นลองวทิ ยา -ปจั จบุ ันกาลังศึกษา มหาวทิ ยาลัยนเรศวร10. ชื่อ นาย สทิ ธโิ ชค จิตต์ชนื้ รหสั นิสติ 60243179 ภมู ิลาเนา บ้านเลขท่ี52/199 ถนน.พระองค์ขาว ตาบลในเมือง อาเภอเมือง จงั หวัดพิษณุโลก ประวัติกาศึกษา -จบการศกึ ษาจาก โรงเรียนพิษณโุ ลกพิทยาคม -ปจั จุบนั กาลังศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

บรรณานุกรม .MGR Online (31 ตุลาคม 2559). 9ทนุ พระราชทานของในหลวงรชั กาลท่ี ๙ ใช้การศึกษาพัฒนาชาตมิ น่ั คง แหลง่อ้างอิง:http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9590000108339 สุจิตรา สนั ธนาภรณ์. (2557), ทนุ พระราชทานของในหลวงรชั กาลที่ 9 ,กรงุ เทพ:จนั วาณิชย์ https://teen.mthai.com/education/119324.html.(วันที่ค้นข้อมลู 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2560) http://www.eto.ku.ac.th/s-e/mean-th.html. (วนั ทค่ี น้ ข้อมูล 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560) http://www.winnews.tv/news/17179 (วันที่คน้ ข้อมูล 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560) http://library.stou.ac.th/s.e.a. (วันทคี่ ้นข้อมลู 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook