แผนการจดั การเรียนรู รหัสวชิ า ง 22103 ช่อื วิชา การงานอาชพี 3 (งานเกษตร) กลุ$มสาระการเรียนรกู ารงานอาชีพ ช้นั มธั ยมศกึ ษาป,ท่ี 2 หนว$ ยการเรียนรู 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปก, ารศึกษา 2565 แผนการจดั การเรียนรู 2 เรื่อง การปลูกพืชผักสวนครัว จํานวน 8 ช่ัวโมง เรื่อง หลกั การปลกู ผกั สวนครัว (2) จํานวน 1 ชว่ั โมง วนั ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 1. มาตรฐานการเรยี นรู /ตวั ช้วี ดั ช้ันป, ง 1.1 เขาใจการทํางาน มีความคิดสรางสรรค มีทักษะกระบวนการทํางาน ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแกปญหา ทักษะการทํางานรว! มกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู มคี ุณธรรม และลักษณะนิสยั ใน การทาํ งาน มจี ติ สาํ นกึ ในการใชพลังงาน ทรพั ยากร และส่ิงแวดลอมเพอ่ื การดาํ รงชวี ิตและครอบครัว 2. สาระสาํ คัญ การปลูกผักสวนครัวเป0นการนําเมล็ดพันธุ หรือส!วนต!าง ๆ ของพืช มาปลูกลงในดินหรือวัสดุอื่น เพื่อใหงอกและเจริญเตบิ โตและขยายพนั ธตุ อ! ไปได โดยการปลูกผักสวนครัวใหไดผลผลิตดีนั้น ตองปลูกและดูแลรักษา ตามขน้ั ตอนทถ่ี กู ตองเหมาะสมกบั พชื แตล! ะชนดิ 3. จดุ ประสงคก: ารเรยี นรู • อธบิ ายหลักการปลกู พชื ผักสวนครัวได (K) • ปฏบิ ตั ิการขยายพันธพุ ชื (P) • มีวินยั ใฝ=เรยี นรู ม!งุ มน่ั ในการทํางาน (A) 4. สมรรถนะของผเู รียน • ความสามารถในการสอ่ื สาร • ความสามารถในการคิด - ทักษะการวเิ คราะห - ทักษะการสังเคราะหขอมูล - ทักษะการสรางความรู - การประเมนิ - ทกั ษะกระบวนการคิดแกปญหา - ทกั ษะการสรุปลงความเหน็ • ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต 4. คณุ ลกั ษณะอันพงึ่ ประสงค: • มวี นิ ัย • ใฝเ= รียนรู • มุ!งม่นั ในการทาํ งาน 5. ช้ินงาน / ภาระงาน • ปฏบิ ตั ิการขยายพนั ธุ
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู ชั่วโมงที่ 1 ข้นั นาํ • ครูทบทวนเน้อื หาเพิม่ เติมข้ันตอนการขยายพันธุพชื ขนั้ สอน • นกั เรยี นลงมอื ปฏิบตั ิการขยายพันธพุ ืช ตามขนั้ ตอนในชดุ การสอนการปลูกพชื ผกั สวนครัว เรือ่ ง หลกั การปลูกพืชผักสวนครัว ขนั้ สรุป • นักเรยี นและครูรว! มกนั อภิปรายเพ่ือสรุปการปฏบิ ตั ิงานเรอ่ื ง การขยายพันธุพืช 8. สื่อและแหลง$ เรียนรู • ชดุ การสอนการปลูกพชื ผักสวนครวั เร่ือง หลักการปลกู พชื ผักสวนครัว • เว็บไซต 9. การวดั และประเมนิ ผล การประเมนิ วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ: ดานความรู (K) อธบิ ายการหลกั การปลูกผกั ตรวจแบบทดสอบหลกั การ แบบทดสอบ ผ!านเกณฑรอยละ 70 สวนครวั ได ปลูกผกั สวนครวั ดานทกั ษะ(P) ปฏบิ ตั กิ ารขยายพนั ธพุ ืช สังเกตพฤติกรรมการทาํ งาน แบบสังเกตพฤติกรรมการ ผ!านเกณฑรอยละ 70 กลุม! ทํางานกลุ!ม ดานคณุ ลักษณะ(A) มีวนิ ัย ใฝ=เรียนรู ม!งุ มัน่ สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล แบบประเมินคุณลกั ษณะ แบบประเมินคุณลักษณะ ในการทํางาน อันพึ่งประสงค อันพึง่ ประสงค คะแนน 4 - 6 คือ ผ!าน คะแนนตาํ่ กวา! 4 คือ ไมผ! า! น ลงชอ่ื ……………………… ครูผูสอน (นางสาวชนัฐกันต: ใจเทพ) ตาํ แหน$ง ครูวิทยฐานะครูชํานาญการ
ขอเสนอแนะของผบู รหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………..................…………… ลงชอ่ื ............................................................ (นายอาทิตย พัฒนปฐม) รองผูอาํ นวยการสถานศึกษา โรงเรยี นมัธยมวัดสทุ ธาราม ลงชือ่ .......................................................... (นางอรสา พมุ$ สวัสดิ์) ผูอํานวยการสถานศกึ ษา โรงเรียนมัธยมวัดสทุ ธาราม
แบบทดสอบ คาํ ชี้แจง ใหนักเรียนทําเคร่ืองหมาย x ทับขอที่ถกู ตองท่ีสุด 1. ขอใดคือความหมายของ “ผัวสวนครัว” ก. ผักที่ปลูกไวเผ่อื จําหนา! ย ข. ผักทปี่ ลูกไวเพ่ือประดบั บาน ค. ผักทีป่ ลูกไวเพือ่ แจกเพ่ือนบาน ง. ผักทปี่ ลูกไวเพอื่ ใชเป0นอาหารในชีวติ ประจาํ วัน 2. สดุ าตองการปลกู ผักสวนครวั ไวรับประทานเอง เพือ่ ลดค!าใชจา! ยในครอบครวั แต!บานของสดุ าเปน0 ทาวนเฮาส และมพี นื้ ที่ บรเิ วณหนาบานเพยี งเล็กนอย เธอควรเลือกวิธีการปลกู ผกั แบบใด ก. ปลูกผกั สวนครวั หลังบาน ข. ปลูกผกั สวนครวั ในแนวตง้ั ค. ปลูกผกั สวนครัวแบบสวนหย!อมกินได ง. ปลูกผักสวนครวั ทีเ่ ป0นพันธุไม!เลอ้ื ยกนิ ได 3. ผกั สวนครัวในขอใดเปน0 ผกั กลุ!มเดยี วกัน ก. ถวั่ ลนั เตา ข. ผกั กาดหวั ดอกแค ค. กะหลํ่าปลี แครอท ง. มะเขือเปราะ แตงกวา 4. ปOุยชนิดใดทใ่ี ชในการเตรียมดนิ เพ่ือปลูกผักสวนครวั ก. ปOุยยูเรีย ข. ปOุยคอก ค. ปยOุ พชื สด ง. ปOุยฟอสเฟต 5. เมล็ดพนั ธุผักในขอใดท่ีควรนํามาปลูก ก. เม่ือนําไปแช!นํ้าแลวเมลด็ ท่ดี จี ะจมน้าํ ข. เมื่อนาํ มาฝดแลวเมลด็ ทดี่ จี ะปลิวออกจากกระดงั ค. เม่ือใชมือบบี เบาๆ เมลด็ ท่ีดีจะอ!อนน!มุ และบบุ ตามแรงบีบ ง. เปน0 เมลด็ ทไ่ี ดจากตนพนั ธุสม แข็งแรง มีรอยกดั แทะของแมลงบาง
6. ลกั ษณะของตนกลาทคี่ วรถอดทิ้งเปน0 อันดับแรกคอื ขอใด ก. ตนกลาท่ีเปน0 โรค ข. ตนกลาท่มี ขี นาดเล็ก ค. ตนกลาทม่ี ีขนาดใหญ! ง. ตนกลาทีม่ แี มลงกัดกนิ 7. ผักสวนครัวชนดิ ใดที่ปลกู ดวยการปกชาํ ก. คะนา ข. โหระพา ค. กะหล่าํ ดอก ง. ถวั่ ฝกยาว 8. อปุ กรณในขอใดใชสําหรับการเตรยี มแปลงปลกู พชื ก. สอมพรวนดิน ข. ชอนปลูก ค. จอบ ง. คราด 9.การพรวนดินไกลโคนตนมากเกนิ ไป จะเกิดผลเสียอยา! งไรกบั พืช ก. ทาํ ใหรากพชื ขาด ข. ทําใหดนิ อุมน้ําไดนอย ค. ทําใหน้ําขงั รอบโคนตนพชื ง. แมลงศัตรูพชื ทําลายไดงา! ย 10. ผักสวนครวั ชนดิ ใดควรเกบ็ เกีย่ วดวยวิธถี อนทัง้ ตน ก. คะนา ข. โหระพา ค. ผักบุงจีน ง. พริกขี้หนู
เฉลยแบบทดสอบ แบบทดสอบ ๑.ง ๒.ข ๓.ง ๔.ข ๕.ก ๖.ก ๗.ข ๘.ค ๙.ก ๑๐.ค
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลุม$ กลุ$มท่ี ช่อื -สกลุ การแสดง การยอมรับฟMง การทํางาน ความมีน้าํ ใจ การมี รวม ของผรู ับการ ความคิดเหน็ คนอ่ืน ตามท่ีไดรับ สว$ นร$วมใน 20 มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน ประเมิน ผลงานกลุ$ม 43214321432143214321 ............../.................../................ ลงชอ่ื ...................................................ผูประเมิน เกณฑก: ารใหคะแนน ให 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย!างสม่าํ เสมอ ให 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ!อยครงั้ ให 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมนอยคร้งั เกณฑ:การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว$ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 ต่าํ กว!า 10 พอใช ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค: ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ:การประเมิน เลขท่ี ช่ือ – นามสกุล ีม ิว ันย 2 คะแนน ใฝQเรียนรู2 2 คะแนน ุ$มง ั่มนในกาทํางาน 2 คะแนน ผ$าน ไ $ม $ผาน รวม หมายเหตุ 1 2 3 เกณฑก: ารใหคะแนนการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค: ประเด็นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค: ระดบั คณุ ภาพ 1 2 0 ขาดหัวขอใด หัวขอหนึ่ง ไมป! ฏิบตั ิ มวี ินัย ปฏบิ ัตคิ รบทง้ั 2 หวั ขอ ขาดหัวขอใด หวั ขอหน่ึง ไม!ปฏบิ ัติ 1. ปฏิบัตติ ามขอตกลงในหองเรยี น ปฏบิ ัติครบทั้ง 2 หัวขอ 2. ตรงต!อเวลาในการทํากจิ กรรม ขาดหัวขอใด หัวขอหน่งึ ไม!ปฏบิ ัติ ปฏิบตั ิครบทงั้ 3 หวั ขอ ใฝQเรยี นรู 1. รว! มมือในการทาํ กจิ กกรมตา! ง ๆ เปน0 อย!างดี 2. มกี ารถามคําถามและโตตอบอยา! ง สมํา่ เสมอ ม$ุงม่นั ในการทาํ งาน 1. มคี วามตั้งใจในการทาํ งานอย!างเต็ม ความสามารถ ส!งงานตรงเวลา 2. รบั ผดิ ชอบการทํางานใหสําเร็จ 3. ไม!ยอ! ทอตรงอุปสรรคในการทาํ งาน เกณฑ:การตัดสินคณุ ภาพ ชว$ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 4–6 ผา$ น ตํา่ กว$า 4 ไมผ$ $าน
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: