Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฐานที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับโครงการพระราชดำริ (สื่อการสอนสุขศึกษา)

ฐานที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับโครงการพระราชดำริ (สื่อการสอนสุขศึกษา)

Description: kittirat norkhud 633263005

Search

Read the Text Version

หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และโครงการพระราชดาริทช่ี ่วย แก้ไขปัญหามลพษิ ทางอากาศ กลุม่ อากาศ อาจารย์ทป่ี รกึ ษา อาจารย์วจนิ ี อารรี อบ รายวิชาการจดั การส่งิ แวดลอ้ ม รหสั วชิ า 4073201 สาขาวชิ าสาธารณสขุ ศาสตร์ คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครปฐม

ฐานที่ 3 หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการพระราชดาริทีช่ ว่ ยแกไ้ ขปัญหา มลพษิ ทางอากาศ

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 3. กลุ่มเป้าหมายสามารถอธิบายถึงโครงการอัน เนื่องมาจากพระราชดาริฝนหลวงและโครงการ ปลูกต้นไม้ในชุมชนที่ช่วยแก้ไขปัญหามลพิษ ทางอากาศได้

หลกั การและเหตุผล โครงการฝนหลวงเกดิ ขนึ้ จากพระราชดาริส่วนพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ เมื่อ คราวเสดจ็ พระราชดาเนินเยี่ยมพสกนกิ รในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ทรงรับทราบถึงความเดือดร้อน ทกุ ข์ยาก ของราษฎร และเกษตรกรที่ขาดแคลนน้าอุปโภค และการเกษตร จึงได้มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานโครงการ พระราชดาริ \"ฝนหลวง“ ดาเนินการแก้ไขปัญหาเป็นหลักในอดีต ในปัจจุบันได้น้อมนาโครงการพระราชดาริฝน หลวงนามาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากค่า PM 2.5 ในชั้นบรรยากาศ ของแต่ละชุมชนมีค่าเกินมาตรฐาน ปัจจุบันทางราชการจึงได้น้อมนาโครงการฝนหลวงมาช่วยลดปริมาณมลพิษ ทางอากาศได้เป็นอย่างดี ส่วนโครงการปลูกต้นไม้ในชุมชนนั้นก็ช่วยดูดซับสารพิษและฝุ่นละอองที่เกิดจาก มลพษิ ในช่มุ ชนไดเ้ ป็นอย่างดีเชน่ กัน จากสถติ ิปี 2564 พบว่าค่า PM2.5 กรุงเทพฯ และปริมณฑลส่วนใหญอ่ ยูใ่ นระดบั เรม่ิ มีผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ 31-63 มคก./ลบ.ม. เกินคา่ มาตรฐานเป็นสว่ นใหญ่ ทางผู้จัดทาจึงไดเ้ ลง็ เหน็ ถงึ ความสาคญั ของโครงการพระราชดารทิ ส่ี ามารถนามาประยุกตใ์ ช้ และเปน็ แนวทาง ในการแกไ้ ขปญั หามลพิษทางอากาศในปจั จบุ ันได้ ผ้จู ัดทาจึงได้จดั ทาโครงการ อากาศดี ชีวีแจม่ ใส ชุมชนวัด ห้วยจระเขใ้ ส่ใจไรม้ ลพษิ ทางอากาศ เพอื่ ประยกุ ตใ์ ช้แกไ้ ขปัญหามลพิษทางอากาศและได้นาโครงการพระราชดาริ มาเรียนรู้ให้ทันกับสถานการณ์ปจั จุบนั ร่วมด้วย

คลกิ เลอื กเน้อื หาบทเรยี น 01 04 การใชท้ รัพยากรธรรมชาตติ าม 02 05 4 มติ ิ หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 06 03

ความรู้ คณุ ธรรม รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต ขยนั อดทน สตปิ ัญญา แบง่ ปนั ปรชั ญา เศรษฐกจิ /สังคม/สงิ่ แวดลอ้ ม/วฒั นธรรม ของเศรษฐกิจ สมดลุ /พรอ้ มรบั ตอ่ การเปลยี่ นแปลง พอเพยี ง มภี ูมค้มุ กนั ในตัวทด่ี ี

การใช้ทรัพยากรธรรมชาตติ ามหลัก ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. ยดึ ทางสายกลาง เปน็ การใชท้ รพั ยากรธรรมชาติในปริมาณท่ไี มม่ ากหรอื นอ้ ยเกินไป 2. ความไม่ประมาท เป็นการนาทรัพยากรธรรมชาติไปใช้อย่างเหมาะสมไม่เกินความจาเป็น และตอ้ งมีการสร้างข้นึ ทดแทน 3. ความพอประมาณ เป็นการนาทรัพยากรธรรมชาติมาใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งเหมาะสมโดยไม่ใช้ ปริมาณมากเกนิ ความจาเปน็ หรอื ขาดการควบคมุ 4. ความมีเหตุผล เป็นการใช้เหตุผลพิจารณาและตัดสินถึงระดับความพอเพียงจากเหตุ ปัจจยั ท่ีเกี่ยวข้อง ตลอดจนผลทีค่ าดว่าจะเกิดจากการกระทาอยา่ งรอบคอบ 5. การเตรียมความพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง เป็นการปรับตนให้สามารถพึ่งพาตนเอง ตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ซง่ึ จะเปน็ แนวทางทีท่ าให้คนในชมุ ชนมคี วามสามารถ ในการดารงชีวิตอยู่ได้อย่างย่ังยนื พรอ้ มทจ่ี ะเผชิญกบั ความเปลย่ี นแปลงต่างๆ

3 หว่ ง 1. ความพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล 3. ระบบภมู คิ ุ้มกนั ในตัวทดี่ ี คือ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน หมายถึง หมายถงึ การตัดสินใจดาเนินการเรื่อง หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อ ความพอดีตอ่ ความจาเป็น และเหมาะสมกับ ต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการ ผลกระทบและการเปล่ียนแปลงในด้านตา่ ง ๆ ฐานะของตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้ง หลักกฎหมาย หลักศีลธรรมจริยธรรม และ ไมว่ า่ จะเปน็ ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ไม่มากเกินไป วัฒนธรรมที่ดีงาม โดยพิจารณาจากเหตุ และวัฒนธรรม เพื่อให้สามารถปรับตัวและ ไม่น้อยเกินไป และต้องไม่เบียดเบียน ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคานึงถึงผลที่ รบั มอื ไดอ้ ย่างทนั ท่วงที ตนเองและผู้อืน่ คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทานั้น ๆ อย่าง รอบร้แู ละรอบคอบ

2 เงื่อนไข 1. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องสร้างเสริม 2. เง่ือนไขความรู้ ประกอบด้วยการฝึกตน ใ ห้เ ป ็น พื้น ฐ า น จ ิต ใ จ ข อ งคน ใ น ช า ติ ให้มีความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ประกอบด้วย ด้านจิตใจ คือการตระหนักใน ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มีความรอบคอบ คุณธรรม รู้ผิดชอบชั่วดี ซื่อสัตย์สุจริต ใช้ และความระมัดระวังที่จะนาความรู้ต่าง ๆ สติปัญญาอย่างถูกต้อง และเหมาะสมใน เหล่านั้น มาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน การดาเนินชีวิต และด้านการกระทา คือมี เพื่อประกอบการวางแผน และในข้ันปฏบิ ัติ ความขยันหมั่นเพียร อดทน ไม่โลภ ไม่ ตระหน่รี ู้จกั แบง่ ปนั และรบั ผดิ ชอบในการอยู่ ร่วมกับผู้อ่นื ในสงั คม

4 มิติ 1. ด้านเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย / เพิ่มรายได้ / ใช้ชีวิตอย่างพอควร / คิดและ วางแผน อยา่ งรอบคอบ / มีภูมิค้มุ กนั / ไมเ่ สี่ยงเกินไป / การเผอ่ื ทางเลือกสารอง 2. ด้านสังคม ช่วยเหลือเกื้อกูล / รู้รักสามัคคี / สร้างความเข้มแข็งให้ ครอบครวั และชมุ ชน 3. ด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม รู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและ รอบคอบ / เลือกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างรู้ค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด / ฟื้นฟู ทรพั ยากรเพ่อื ให้เกิดความย่งั ยืนสงู สดุ 4. ดา้ นวฒั นธรรม รักและเห็นคุณค่าในความเป็นไทย เอกลักษณ์ไทย / เห็น ประโยชน์และคุ้มค่าของภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น / รู้จักแยกแยะและ เลือกรบั วัฒนธรรมอ่ืน ๆ

โครงการ อั น เ นื่ อ ง ม า จ า ก พ ร ะ ร า ช ดา ริ ที่ ช่ ว ย แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ม ล พิ ษ ท า ง ด้ า น อ า ก า ศ

โครงการ ฝนหลวง โครงการฝนหลวงเกดิ ขน้ึ จากพระราชดาริสว่ นพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ เมื่อ คราวเสด็จพระราชดาเนนิ เยยี่ มพสกนกิ รในภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ได้ทรงรบั ทราบถงึ ความเดอื ดร้อน ทุกข์ยาก ของราษฎร และเกษตรกรที่ขาดแคลนน้าอุปโภคและการเกษตร จึงได้มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานโครงการ พระราชดาริ \"ฝนหลวง\"ให้กับ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกุล ไปดาเนินการ ซึ่งต่อมาได้เกิดเป็นโครงการค้นคว้าทดลอง ปฏิบัติการฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้น ในสังกัดสานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี ๒๕๑๒ ด้วย ความสาเร็จของโครงการ จงึ ได้ตราพระราชกฤษฏีการก่อตั้งสานักงานปฏิบัติการฝนหลวงขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๘ ใน สงั กัดกระทรวงเกษตรและสหกรณเ์ พือ่ เปน็ หน่วยงานรองรบั โครงการพระราชดาริ \"ฝนหลวง\"ตอ่ ไป สารที่ใช้ทาฝนหลวงในปัจจุบันมีทั้งสิ้น ๗ ชนิด บางชนิดมีคุณสมบัติดูดซับความชื้นได้ดี (hygroscopic substances) บางชนิดมีคุณสมบัติเป็นแกนกลั่นตัว (CCN) ของความชื้นในอากาศ บางชนิดสามารถคายความ ร้อนออกมาเพื่อกระตุ้น หรือเสริมการก่อตัวและเจริญเติบโตของเมฆ บางชนิดสามารถดูดดึงความร้อนทา ให้ อุณหภูมิของอากาศหรือเมฆเย็นตัวลง เร่งการกลั่นตัวของไอน้าและเสริมความหนาแน่นของเมฆจนเกิดเป็นฝน การเลือกใชส้ ารฝนหลวงแตล่ ะชนดิ จึงพิจารณาคุณสมบัติที่กล่าวข้างต้นกับสภาวะของเมฆหรือบรรยากาศในแต่ ละวันเป็นสาคัญ สารฝนหลวงที่ใช้แบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท คือ สารฝนหลวงสูตรร้อน สารฝนหลวงสูตรเย็น และสารฝนหลวงสูตรสร้างแกนกล่นั ตัวของอากาศ

โครงการ ฝนหลวง โครงการฝนหลวงเกิดขึ้นจากพระราชดาริส่วนพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สารฝน หลวงที่ใช้แบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท คือ สารฝนหลวงสูตรร้อน สารฝนหลวงสูตรเย็น และสารฝน หลวงสตู รสรา้ งแกนกลั่นตัวของอากาศ สาหรบั สารฝนหลวงสตู รเยน็ นัน้ มีคุณสมบตั ิเม่อื ดูดซับความช้ืนในอากาศ หรือทาปฏิกิริยากับน้า ทาใหอ้ ุณหภูมลิ ดลงหรือเย็นลง สาหรบั ท่ใี ช้ในปจั จุบนั มี ๓ ชนิดคอื 1. สูตร ๔ ยูเรีย (Urea) 2. สตู ร ๑๙ แอมโมเนียมไนเตรท (Ammonium Nitrate) 3. สตู ร ๓ น้าแข็งแหง้ (Dry ice) โครงการฝนหลวงเป็นนวัตกรรมซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่พสกนิกรเพื่ อ บรรเทาความแห้งแล้ง แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มปริมาณน้าใน เขื่อนต่าง ๆ ไปในตัว อันเปน็ ผลดีต่อการผลติ พลงั งานไฟฟา้ ไปดว้ ย

โครงการ ฝนหลวง \"หลักการ คือ ให้โปรยสารดูดซับ ความชื้น (เกลือทะเล) จากเครื่องบิน เพื่อ ดดู ซบั ความช้นื ในอากาศ แลว้ ใช้สารเย็นจัด (น้าแข็งแห้ง) เพื่อให้ความชื้นกลั่นตัวและ รวมตวั เป็นเมฆ“ ความคดิ เริ่มแรกในการดัด แปรสภาพอากาศ เพื่อใหเ้ กดิ ฝน

โครงการ ฝนหลวง

โครงการ ฝนหลวง

โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาหว้ ยฮ่องไคร้ จังหวดั เชียงใหม่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงห่วงใยในปัญหาปรมิ าณป่าไม้ลดลงเป็นอย่างมาก จึงทรงพยายาม ค้นหาวธิ นี านาประการท่จี ะเพ่ิมปรมิ าณของปา่ ไม้ในประเทศไทยใหเ้ พมิ่ มากข้ึนอย่างมั่นคงและถาวร โดย มีวธิ กี ารที่เรียบงา่ ยและประหยัดในการดาเนินงานตลอดจนเป็นการส่งเสริมระบบวงจรป่าไม้ในลักษณะ อันเปน็ ธรรมชาติดัง้ เดิม หลกั การ เพ่ือหารูปแบบการพฒั นาด้านตา่ ง ๆ ทีเ่ หมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคเหนือ และเผยแพร่แก่ ราษฎรใหส้ ามารถนาไปปฏบิ ัติได้ดว้ ยตนเองต่อไป โดยใหท้ าการศึกษาพฒั นาป่าไม้ 3 อยา่ ง 3 วธิ ี เพ่ือ ประโยชน์ 4 อย่าง คือ มีไม้ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งจะอานวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้า ตลอดจนความชุ่มช้นื เอาไวเ้ ปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งที่ 4 และอนรุ ักษ์พืน้ ทต่ี ้นนา้ ลาธาร ให้ไดผ้ ลอย่างสมบรู ณ์ เป็นหลัก ต้นทางเป็นการศึกษาสภาพพื้นที่ป่าไม้ต้นน้าลาธาร และปลายทางเป็นการศึกษาด้านการ ประมงตามอ่างเก็บน้าต่าง ๆ ผสมกับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์และโคนม และด้าน เกษตรอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นศูนย์ที่สมบูรณ์แบบ ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อราษฎรที่จะเข้ามาศึกษากิจกรรมต่าง ๆ ภายในศูนย์ แล้วนาไปใช้ปฏิบัติอย่างได้ผลต่อไปดังมีพระราชดาริว่า \"ให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ทา หนา้ ที่เสมือนพพิ ิธภัณฑธ์ รรมชาตทิ ่ีมีชีวิต\" หรอื อกี นัยหนึ่งเป็น \"สรุปผลของการพัฒนา\" ที่ประชาชนจะ เขา้ ไปเรยี นรู้และนาไปปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเองได้

โครงการศูนย์ศกึ ษาการพฒั นาห้วยฮ่องไคร้ จงั หวัดเชยี งใหม่ ตวั อย่างโครงการศนู ย์ศกึ ษาการพฒั นาหว้ ยฮอ่ งไคร้ จังหวัดเชียงใหม่

อา้ งองิ มูลนธิ ิชยั พัฒนา. แนวคิดทฤษฎกี ารพัฒนาอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ. สืบค้นเมอ่ื วนั ที่ 5 เมษายน 2565. จาก https://www.chaipat.or.th/site_content/item/3579-2010-10-08- 05-24-39.html. มูลนธิ ชิ ัยพัฒนา. ทฤษฎกี ารพัฒนาฟนื้ ฟปู า่ ไม้อันเนอื่ งมาจากพระราชดาริ. สบื ค้นเมอื่ วนั ท่ี 5 เมษายน 2565. จาก https://www.chaipat.or.th/site_content/item/254-theory- developed-forest-restoration.html. มูลนธิ ชิ ัยพัฒนา. โครงการพระราชดาริ. สืบคน้ เมอื่ วนั ท่ี 5 เมษายน 2565. จาก https://www.chaipat.or.th/royal-projects-in-various-regions/north.html. Museum Thailand(2016). ศูนยศ์ กึ ษาการพัฒนาห้วยฮ่องไครอ้ นั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ. สืบคน้ เมอื่ วนั ท่ี 5 เมษายน 2565. จาก https://www.museumthailand.com/th/museum/huaihongkhrai

ใช่ ไมใ่ ช่