DIGITAL MEDIA
ส่ือโทรทัศนเ พ่ือการศึกษา โทรทัศนเป็นส่ือมวลชนทีม่ ีประสิทธภิ าพยงิ่ ประเภทหน่ึง เน่ืองจากเป็นส่อื ทีส่ ง ไดทัง้ ภาพน่ิง ภาพเคล่ือนไหว และเสียง เม่อื มกี ารนําโทรทัศนมาใชในการศกึ ษา จงึ ทาํ ให เกิดคําวา “โทรทัศนการศึกษา” ข้นึ เพ่อื ถา ยทอดความรูแ กผ ูเรียนหรือผูร ับทางบาน และ “โทรทัศนการสอน” เพ่ือสอนเน้ือหาตามหลักสูตรแตล ะวิชาการใชโทรทศั นการ ศึกษาและการสอนเรา สามารถใชโ ทรทัศนเพ่ือการศึกษาและการสอนไดทงั้ ในระบบ และนอกระบบโรงเรียนใน รูปแบบตางๆ ดงั นี้ 1. การสอนโดยตรง เป็นการใชโ ทรทัศนเพ่อื เสนอรายการที่จดั ทาํ ข้ึนตามเน้ือหาใน หลักสตู รในรปู แบบของโทรทัศนการสอน การสอนโดยตรงนี้สามารถกระทาํ ไดทงั้ ในโทรทัศนระบบ วงจรเปิดและวงจรปิด ถาเป็นการสอนในระบบวงจรเปิดและเป็นการออกอากาศจาก สถานีสง มายัง หองเรียน การสอนลกั ษณะนี้จะมีครปู ระจําชัน้ คอยเป็นพเ่ี ลยี้ งควบคมุ การเรียนและตรวจงาน ปฏิบัตขิ องผเู รยี นในหอ งเรยี นนัน้ แตถาเป็นการสงในระบบ วงจรปิด ผูส อนท่สี อนอยใู นหองเรยี นหรอื ในหองสง จะเป็นผรู ับผิดชอบผูเ รยี นทัง้ หมดดว ยตนเองโดยไมม ผี อู ่นื ควบคุมการเรียนในแตล ะหอง การใชโทรทัศนในการ สอนสามารถใชไดดังนี้
ใชเป็นเคร่อื งมอื ในการสอน โดยมกี ารใชเป็นชดุ การ สอนทีส่ มบูรณ เน่ืองจากมีทัง้ ภาพและเสยี ง ซ่ึงสามารถอาํ นวยประโยชนในการเรียนรไู ดในทุกพิสัย การใช แบบนี้จะใชร ว มกับส่ืออ่นื ดว ยก็ได หรอื อาจจะใชเป็นส่ือการสอนในวธิ ีการสอนเป็นคณะโดยการเชิญวทิ ยากรอ่ืนมารวม สอนดว ย หลกั สําคญั ในการใชโทรทัศนเป็นเคร่ืองมือในการสอนนี้ คือ ผสู อนจะตอ งกาํ หนดแผนการสอนอยา งรดั กุมเสยี กอ น และใชโ ทรทัศนโดย การสอนสดหรอื ใชร ายการท่ีบันทกึ ลงวดี ิทศั นไวมาเป็นสวน หน่ึงของการสอนดว ย ใชเ ป็นส่ือสอนแทนครู ในกรณีที่ขาดแคลนครูผสู อนหรอื ผู เชีย่ วชาญในแตละวชิ า กอ็ าจใชโ ทรทัศนเพ่อื ออกอากาศการสอนของครจู ากหองสงไปยงั หองเรียนในท่ี ตา งๆ ได การสอนนี้จะเป็นการสอนโดยตรงในแตล ะวิชา ใชเ ป็นส่ือเพ่ือเสรมิ ความรู เป็นการใชร ายการ โทรทัศนเพ่ือเสรมิ ความรจู ากเน้ือหาบทเรยี นเพ่ือใหผูเรียนไดร ับความรู เพม่ิ ข้นึ จากทเี่ รียนในหองเรยี น รายการ ตา งๆ เหลา นี้จะมิใชเป็นเน้ือหา บทเรียนโดยตรง เชน รายการตอบปัญหาภาษาอังกฤษ รายการกระจกหกดาน แตจะมีสิ่งท่ีเกีย่ วเน่ือง กับบทเรียนเพ่อื เพิ่มพูนความรปู ระสบการณและ ความคิดแกผ ูเรยี นใหก วา งขวางย่งิ ข้นึ
Mobile Ad สหรฐั อเมริกา Mobile Ad จะสรางรายได 70 พนั ลา นดอลลารส หรฐั ฯ เพ่มิ ข้นึ จากปี พ.ศ.2559 ทมี่ ีรายไดเ พยี ง 47 พันลานดอลลารสหรัฐฯ ซ่ึงแสดงใหเ ห็นวา โฆษณาบนสมา รทโฟนกาํ ลังเป็นท่นี ิยม แตก ม็ ีหลายคนทีไ่ มช อบโฆษณาประเภทนี้อาจดว ยการแจงเตอื น แบบถี่ยิบ หรือแบนเนอรท่แี สดงบอ ยเหลอื เกนิ อยางไรกด็ ี หากมองในมมุ การตลาด ฟีเจอรเหลา นี้ของ Mobile Ad ชวยใหก ลมุ เป าหมายเห็นแบรนดบ อยจงึ ทําใหจดจาํ แบรนดได ผปู ระกอบการเองกส็ ามารถทําการตลาดเลียนแบบ Mobile Ad ไดตามเทคนิค ตอไปนี้เพ่อื ใหแบรนดเ ขาถึงกลมุ เป าหมายไดแ บบเนียนๆ 1. บอกโปรโมชนั หรือขา วสารของแบรนดใ นรูปแบบแบนเนอร แนะนําใหเ ขียนสัน้ ๆ ดว ย คาํ ท่กี ระตุน ใหเ กิดการคลิกเขาไปอานรายละเอยี ดเพิม่ เตมิ และอยา ลมื ใชส ชี มพูสดเป็น พ้ืนหลงั แบนเนอร เพราะชวยใหแ บนเนอรเดน สะดุดตา นอกจากนี้ การใชแ บนเนอรในรูป แบบการแสดงขอ ความยงั ไมไดอ านก็กระตนุ ใหเกิดการคลกิ ไดเ ชนกัน และเป็นการตดั สนิ ใจคลกิ แบบทนั ทดี ว ย เพราะกลุมเป าหมายเขาใจวา มขี อความเขามาจรงิ ๆ ตองรู : อยาสง แบนเนอรท ่ีแสดงขอความเดิมไปใหล ูกคา คนเดิม เพราะนอกจากจะไมถูก คลกิ แลว ยงั ทาํ ใหพวกเขาเกดิ ความรสู กึ รําคาญ และนําไปสกู ารบล็อกแบนเนอรใ นทีส่ ุด
2. ทําโฆษณาใน Instagram Stories ฟีเจอรนี้นอกจากใชอัพเดตเร่อื งราวรายวนั ของแบรนดไ ดแ ลว ยังทาํ โฆษณาผา นภาพนิ่งหรือ วดิ ีโอท่ีมคี วามยาวไมเกนิ 15 วินาทีไดดวย ซ่งึ Stories ทีเ่ ป็นโฆษณาจะมีคาํ วา Sponsored ข้ึนชัดเจน และเม่ือคลิกไปที่คําวา See More Learn More หรอื Watch More จะลิงกไปยังเว็บไซตของแบรนดโดยอัตโนมัติ ตองรู : กระตนุ ใหล ูกคาคลกิ Stories เพ่อื ลงิ กไ ปยังเวบ็ ไซตของแบรนดดว ยการวางเสนโคง ทม่ี ลี ักษณะคลา ยเสนผมไวก ลางภาพ วิธนี ี้ กระตุนใหก ลุมเป าหมายแตะทีห่ น าจอโทรศัพทไดอ ยางแนนอน 3. ตงั้ คาใหโ ฆษณาของแบรนดโชวใ นเกม และสรางปุม X ปลอมๆ ท่มี ุมขวาบน ซ่ึงเม่อื คลกิ ทปี่ มุ นี้แลวจะถูกลิงกไปท่ีหน าเว็บไซตของ แบรนด วธิ นี ี้คอ นขา งใชไ ดผ ลเพราะคนสวนใหญเม่อื เหน็ โฆษณาเดงในเกมจะคลกิ ปุม X ทันที เพราะคดิ วาเป็นปมุ ปิดโฆษณา
ส่อื กจิ กรรม ความหมายของส่อื กจิ กรรม ส่อื หมายถึง ส่งิ ตา งๆทเี่ ป็นตัวกลางทีจ่ ะนํามาใชก ารถา ยทอดความรู ประสบการณ ทศั นคติ คานิยม หรอื ทกั ษะทม่ี ีไปสเู ด็กไดอยา ง มปี ระสิทธภิ าพ และเด็กเกิดการเรยี นรตู ามจดุ มุงหมายไดด ีทีส่ ุด กจิ กรรม หมายถึง การทผ่ี เู รยี นปฏบิ ตั ิการอยา งใดอยางหน่ึงเพ่ือการเรยี นรู ส่ือกิจกรรม หมายถงึ กระบวนการจัดการเรยี นการสอนเพ่อื ใหผเู รยี นไดป ระสบการณหรือเรียนรูเน้ือหาบทเรียนดว ย การดู การฟัง การสงั เกต การทดลอง การสมั ผัส จับตอ งดวยตนเอง รวมถงึ การรว มแสดงความคดิ เหน็ การแสดงบทบาทในละคร การละเลน เกม กีฬา การแขงขนั ตางๆตลอดจนการทาํ งานรว มกบั บุคคลอ่ืน ทําใหผ ูเรียนไดรับประสบการณแปลกใหมดว ยความเพลิดเพลิน บาง กิจกรรมอาจใชส ่ือวัสดุหรืออุปกรณเขา มาชว ยในการถา ยทอดความรูเ พ่ือใหผ เู รยี นรบั รแู ละเรยี นรูเ น้ือหาสาระในกจิ กรรมไดชดั เจนย่ิง ข้นึ
ความสําคัญของส่ือ 1.เป็นเคร่ืองมอื สง เสรมิ เดก็ ใหกลาแสดงออกและเกดิ การเรยี นรู อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. เป็นตวั กลางในการถา ยทอดความรู ประสบการณ ทัศนคติ คานิยม หรือทักษะของผสู อนไปสผู เู รียน 3. เป็นเคร่ืองมอื เรา ความสนใจของเดก็ ใหติดตามเร่ืองราวดวย ความสนใจและไมเกดิ ความรูสึกวาเป็นการ “เรียน” 4. เป็นเคร่อื งมอื ทําส่ิงทเ่ี ป็นนามธรรมใหเ ป็นรปู ธรรมและผเู รียนไดร ับประสบการณตรงทาํ ใหจาํ ไดนาน คุณคา ของส่อื ประเภทกจิ กรรม 1. ชวยรวมวสั ดุอปุ กรณหรอื ประสบการณทก่ี ระจัดกระจายไวในทแี่ หง เดยี วกัน 2. สง เสรมิ ใหผ ูเรยี นกลา แสดงออกและสามารถทํางานกับบุคคลอ่นื ได 3. ชว ยใหเ กดิ ปฏสิ มั พนั ธระหวา งผเู รียนกบั ผรู ว มกจิ กรรมอ่นื ๆ 4. ชว ยถา ยทอดเน้ือหาเป็นรปู ธรรมไดชัดเจนจากการไดสมั ผสั ดวยตัวเอง 5. เป็นนวัฒกรรมการเรียนการสอนที่ทาํ ใหผ ูเรยี น เรียนรไู ดอยางเพลดิ เพลนิ ประเภทของส่ือกจิ กรรม 1.การสาธติ (Demonstration) 2.การจัดนิทรรศการ (Exhibition). 3.นาฏการ (Dramatization) 4. การใชช มุ ชนเพ่อื การศึกษา (Community Study) 5. สถานการณจาํ ลอง (Simulation)6. การศึกษานอกสถานท่ี (Field Trip)
สือสิงพมิ พ์ ในปัจจุบันสามารถแบงประเภทของส่ือสงิ่ พมิ พไดม ากมายหลายประเภท โดยทงั้ สิง่ พมิ พ 2 มติ ิ และส่งิ พมิ พ 3 มติ ิ คือ สง่ิ พิมพท ี่มี ลกั ษณะเป็นแผน เรียบ ใชวสั ดจุ ําพวกกระดาษและมีเป าหมายเพ่ือนําเสนอเน้ือหาขาวสารตางๆ เชน หนังสือ นิตยสาร จลุ สาร หนังสือพิมพ แผนพับ โบชวั ร ใบปลิว นามบตั ร แมกกาซนี พอ็ กเก็ตบุค เป็นตน สว นสงิ่ พมิ พ 3 มิติ คอื สิ่งพมิ พท มี่ ีลักษณะพเิ ศษท่ี ตอ งอาศัยระบบการพิมพแบบพิเศษ และสวนใหญจะเป็นการพมิ พโดยตรงลงบนผลติ ภัณฑท สี่ รา งรปู ทรงมาแลว สาํ หรบั ตวั อยางการ พิมพแบบ 3 มติ ไิ ดแก การพิมพสกนี บนภาชนะตา งๆ เชน แกว กระป อง พลาสติก การพมิ พระบบแพดบนภาชนะทมี่ ีผวิ ตา งระดบั เชน เคร่อื งปั้นดนิ เผา เคร่อื งใชไ ฟฟ า การพิมพระบบพนหมึก เชน การพิมพวนั หมดอายขุ องอาหารกระป องตา งๆ โดยสามารถจาํ แนก ประเภทของส่ือสิ่งพมิ พได ดังนี้
1. ส่อื สงิ่ พมิ พประเภทหนังสือ ส่อื สิ่งพมิ พป ระเภทหนังสือจะมีหนังสือสารคดี ตํารา แบบเรยี น และหนังสือบันเทิงคดี จะเน นความรตู างๆ 2. ส่ือส่ิงพิมพเ พ่อื เผยแพรข าวสาร – หนังสอื พิมพ (Newspapers) เป็นส่ือสง่ิ พมิ พทีผ่ ลิตข้นึ โดยนําเสนอเร่อื งราวขา วสารภาพ และความคดิ เหน็ ในลักษณะของแผน พมิ พ แผน ใหญ ทใ่ี ชวิธกี ารพบั รวมกบั ซ่ึงส่อื ส่ิงพิมพชนิดนี้ไดพิมพออกเผยแพรท ัง้ ลักษณะหนังสือพิมพร ายวัน รายสปั ดาห และรายเดือน – วารสาร นิตยสาร เป็นส่อื ส่งิ พมิ พท ่ผี ลิตข้ึนโดยนําเสนอสาระขา ว ความบนั เทิง ทีม่ ีรปู แบบการนําเสนอ ท่ีโดดเดน สะดดุ ตา และสราง ความสนใจใหกับผอู า น ทงั้ นี้การผลิตนัน้ มกี ารกาํ หนดระยะเวลาการออกแบบเผยแพรท ี่แนนอน ทงั้ ลักษณะวารสาร นิตยสารรายปักษ (15 วนั ) และรายเดือน – จลุ สาร เป็นส่ือส่งิ พิมพทผ่ี ลิตข้นึ แบบไมม ุง หวงั ผลกาํ ไร เป็นแบบใหเปลาโดยใหผ ูอ านศกึ ษาหาความรู ท่ีกาํ หนดออกแบบเผยแพรเ ป็น ครัง้ ๆ หรอื ลําดบั ตางๆ ในวาระพเิ ศษ – โบชัวร (Brochure) เป็นส่อื ส่ิงพมิ พทมี่ ีลกั ษณะเป็นสมุดเลมเลก็ ๆ เยบ็ ติดกันเป็นเลม จํานวน 8 หน า เป็นอยา งน อยมปี กหน า และปก หลัง ซ่งึ ในการแสดงเน้ือหาจะเกย่ี วกับโฆษณาสนิ คา – ใบปลิว (Leaflet, Handbill) เป็นส่ือส่งิ พมิ พใ บเดยี ว ทเี่ น นการประกาศ มักมีขนาด A4 เพ่ืองายในการแจกจาย ลักษณะการแสดง เน้ือหาเป็นขอความทผ่ี อู า นแลว เขา ใจงา ย – แผน พับ (Folder) เป็นส่ือสิ่งพมิ พท่ีเน นการผลติ โดยเน นการเสนอเน้ือหา ซ่ึงเน้ือหาที่นําเสนอนัน้ เป็นเน้ือหาท่ีสรปุ ใจความสําคัญ ลกั ษณะเป็นการพับเป็นรูปเลม ตางๆ – โปสเตอร (Poster) เป็นส่ือส่ิงพิมพโฆษณา โดยใชปิดตามสถานท่ีตางๆ มีขนาดใหญเป็นพเิ ศษซ่ึงเน นการนําเสนออยา งโดดเดนดึงดดู ความสนใจ
ส่อื ดจิ ิทัล (Digital Media) ส่ือดจิ ทิ ลั เป็นนวตั กรรมที่สรา งข้นึ มาทดแทนสิง่ ที่มอี ยเู ดิม เพ่อื ใหราคาถูกลงและ รกั ษาไวซ่ึงคุณภาพ เอ้อื ตอประโยชนการใชสอย ที่มากกวาเดมิ และส่ือดิจติ อล (ตรง กันขามกับส่อื อนาลอ็ ก) มักหมายถึงส่อื อเิ ล็กทรอนิกสซ่ึงทางานโดยใชร หัสดิจติ อล ในปัจจุบนั การเขยี นโปรแกรมตงั้ อยูบนพ้ืนฐานของเลขฐานสอง ในกรณีนี้ ดิจิตอล หมายถงึ การแยกแยะระหวาง \"0\" กับ \"1\" ในการแสดงขอ มูล คอมพิวเตอรเป็น เคร่อื งจกั รท่ีมกั จะแปลขอมูลดิจติ อลฐานสองแลว จงึ แสดงชัน้ ของเคร่อื งประมวลผล ชนั้ ของขอ มลู ดิจิตอลท่ีเหนือกวา ส่ือดิจิตอลเชนเดียวกับส่ือเสียง วิดีโอ หรือเน้ือหา ดจิ ิตอลอ่นื ๆ สามารถถูกสรา งข้นึ อา งองิ ถงึ และไดร ับการแจกจายผานทางเคร่ือง ประมวลผลขอ มูลดิจิตอล ส่ือดิจติ อลไดนามาซ่ึงการเปล่ียนแปลงอยางใหญห ลวง เม่อื เทียบกับส่ืออนาล็อก
องคป ระกอบของส่อื ดจิ ติ อล 1. ขอ ความ เป็นสว นทีเ่ กย่ี วกบั เน้ือหาของมัลติมเี ดยี ใชแสดงรายละเอียด หรอื เน้ือหาของเร่อื งท่ีนาเสนอ ถอื วา เป็นองค ประกอบพ้ืนฐานทส่ี าคญั ของมลั ติมเี ดีย ระบบมลั ตมิ ีเดียทีน่ าเสนอผานจอภาพของเคร่ืองคอมพวิ เตอร นอกจากจะมีรูปแบบ และสีของตวั อักษรใหเลือกมากมายตามความตองการแลวยังสามารถกาหนดลกั ษณะของการปฏสิ มั พันธ (โตต อบ)ใน ระหวางการนาเสนอไดอีกดว ย ซ่งึ ปัจจุบนั มหี ลายรปู แบบ 2. เสยี ง ถูกจัดเก็บอยใู นรูปของสัญญาณดิจติ อลซ่งึ สามารถเลนซา กลบั ไปกลับมาได โดยใชโปรแกรมท่อี อกแบบ มาโดยเฉ พาะสาหรับทางานดา นเสียง หากในงานมัลติมเี ดยี มกี ารใชเสยี งที่เราใจและสอดคลอ งกบั เน้ือหาใน การนาเสนอ จะชวยให ระบบมัลติมีเดียนัน้ เกิดความสมบูรณแบบมากย่ิงข้ึน นอกจากนี้ยังชวยสรา งความนาสนใจและนาตดิ ตามในเร่อื งราวตา งๆ ไดเ ป็นอยางดี ทัง้ นี้เน่ืองจากเสยี งมีอทิ ธพิ ลตอผใู ชมากกวาขอ ความหรอื ภาพน่ิงดังนัน้ เสยี งจึงเป็นองคประกอบทจ่ี าเป็นสา หรบั มัลติมีเดยี ซ่งึ สามารถนาเขา เสยี งผา นทางไมโครโฟน แผนซดี ดี ีวดี ี เทป และวิทยุ เป็นตน 3. ภาพนิ่ง เป็นภาพที่ไมมีการเคล่อื นไหว เชน ภาพถาย ภาพวาด และภาพลายเสน เป็นตน ภาพน่ิงนับวามีบทบาทตอ ระบบงานมลั ตมิ ีเดยี มากกวาขอ ความหรอื ตวั อกั ษร เ 4. ภาพเคล่ือนไหว ภาพกราฟิกทมี่ ีการเคล่ือนไหวเพ่ือแสดงขัน้ ตอนหรอื ปรากฏ การณตา งๆ ทเี่ กิดข้ึนอยา งตอ เน่ือง เชน การเคล่อื นทีข่ องลูกสบู ของเคร่อื งยนต เป็นตน 5. วดิ โี อ เป็นองคป ระกอบของมัลตมิ เี ดยี ทม่ี คี วามสาคญั เป็นอยางมาก เน่ืองจากวดิ โี อในระบบดจิ ิตอล สามารถ นาเสนอ ขอ ความหรือรูปภาพ (ภาพน่ิงหรือภาพเคล่อื นไหว) ประกอบกับเสียงไดสมบรู ณมากกวา องคป ระกอบชนิดอ่ืนๆ อยางไร ก็ตาม ปัญหาหลกั ของการใชวิดีโอในระบบมลั ตมิ เี ดียกค็ อื การสิน้ เปลอื งทรัพยากรของพ้ืนทบ่ี นหนวยความจาเป็นจานวน มาก
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: