Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พราหมฌ์-ฮินดู

พราหมฌ์-ฮินดู

Published by Palm thanatcha No.34, 2023-01-10 08:12:43

Description: พราหมฌ์-ฮินดู

Search

Read the Text Version

ความรู้เกี่ยวกับ ศาสนา พราหมณ์ ฮินดู

คำนำ ก หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นส่วนหนึ่งในรายวิชาศาสนาเปรียบเทียบ ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอน สำหรับนักเรียนตลอดจนผู้ที่สนใจจะศึกษาหาความรู้เรื่องของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ขอขอบคุณอาจารย์ ธเนศ ชะพินทร อาจารย์ประจำวิชาที่ได้แนะนำแนวทางในการจัดทำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้เป็นอย่างดี ผู้จัดทำหวังอย่างยิ่งว่า เนื้อหาสาระของหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จะเป็นประโยชน์และให้ความรู้แก่นักเรียนและผู้ที่สนใจศึกษา

ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข 1)ประวัติความเป็นมา 1 2)สัญลักษณ์ทางศาสนา 2 3)จุดมุ่งหมายสูงสุด 3 4)หลักธรรมความเชื่อ 4 4.1 นิกายไวษณวะ 5 4.2 นิกายไศวะ 5 4.3 นิกายศักติ 6 4.4 นิกายตันตระ 6 5)คัมภีร์ 7 6)พิธีกรรม 8 6.1 ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับวรรณะ 8 6.1.1 การแต่งงาน 8 6.1.2 อาหารการกิน 8 6.1.3การประกอบอาชีพ 9 6.1.4 การตั้งถิ่นฐาน 9

สารบัญ ข เรื่อง หน้า เรื่อง หน้า 6.2 พิธีสังสการ 10 6.3พิธีศราทธ์ 10 6.4พิธีบูชาเทวา 11 7)หลักธรรม 12 7.1 หลักธรรม 10 ประการ 12 7.2 หลักอาศรม 4 13 เฉลยคำถาม 14 อ้างอิง 15 สมาชิกกลุ่ม 16

11))ปปรระะววััตติิคคววาามมเเปป็็นนมมาา 1 ศาสนาฮินดูมีจุดเริ่มต้นเมื่อชาวอารยะอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานใน อินเดียบริเวณลุ่มแม่น้าสินธุ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “ฮินดู” เมื่อราว ๓,๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว ชาวอารยะมีคัมภีร์ทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเรียกว่า เวทะ หรือพระเวทแรกทีเดียวมีเพียง ๓ คัมภีร์ คือ ฤคเวท สามเวท และยชุรเว ต่อมามีคัมภีร์ อถรรพเวทเพิ่มอีกคัมภีร์ 1.คัมภีร์เก่าแก่ของชาวพราหมณ์-ฮินดู ชื่อว่าอะไร ?

2)สัญศลัากสษนณา์ทาง 2 สัญลักษณ์สาคัญที่สุดคือ ตัวอักษรที่อ่านว่า “โอม” มา จาก อ + อุ + มะ เป็นแทนพระตรีมูรตีเทพ คือ อ แทนพระ นารายณ์หรือพระวิษณุ อุ แทนพระพรหมา ม แทนพระ ศิวะหรือพระอิศวรเมื่อรวมกันเข้าเป็น อักษรเดียวกลาย เป็นอักษร “โอม”แทนพระปรมาตมัน พระเจ้าสูงสุด ไม่มีตัว ตน สัญลักษณ์นี้ทุกนิกาย ทุกลัทธิ ในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ต้องใช้เป็นประจำ 2.สัญลักษณ์ของพราหมฌ์-ฮินดู อ่านว่าอะไร ?

33))จจุุดดมมุุ่่งงหหมมาายยสสููงงสสุุดด 3 1.กรรมมรรค (กรรมโยคะ) การปฏิบัติ ด้วยการประกอบการงานตามหน้าที่ด้วย ความขยันขันแข็ง แต่ทำงานด้วยจิตใจสงบ ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ผู้ปฏิบัติเรียก กรรม โยคิน 2.ชยานมรรค (ชยานโยคะ) การปฏิบัติเพื่อให้ เกิดความรู้แจ้งเห็นจริงขึ้นมาว่าปรมาตมันเป็น สิ่งเดียวที่มีอยู่ วิญญาณส่วนบุคคล (อาตมัน) 3. ภักติมรรค (ภักติโยคะ) การปฏิบัติ คือการ ปลูกศรัทธาและความจงรักภักดีต่อ เทพเจ้าที่ ตนเคารพนับถือ ผู้ปฏิบัติเรียกว่า ภักติโยคิน 3. จุดมุ่งหมายสูงสุดคือ อันพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง เรียกว่าอะไร ?

4 4)หลักธรรมความเชื่อ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเชื่อว่าพระพรหมเป็นเทพเจ้าสูงสุด ทรงเป็นผู้สร้างโลกและสรรพสิ่งตลอดทั้งกำหนดโชคชะตา ของคนและสัตว์ เพราะฉะนั้นวิถีชีวิตของแต่ละคนจึงเป็นไป ตามพรหมลิขิต แต่คนก็อาจเปลี่ยนวิถีชีวิตได้ หากทำให้พระ พรหมเห็นใจและโปรดปราน โดยการบวงสรวงอ้อนวอนและ กระทำความดีต่อพระองค์ ผู้ที่พระองค์ทรงโปรดหากตายไป ก็จะไปเกิดในสุคติภูมิ และถ้าหากโปรดเป็นที่สุด ก็จะได้ไปอยู่ กับพระองค์ชั่วนิรันดร แต่ถ้าไม่ทรงโปรดก็จะไปเกิดในทุคติ ภูมิ ได้รับทุกข์เวทนาแสนสาหัส ชาวฮินดูเชื่อว่าวิญญาณ เป็นอมตะจึงไม่ตายตามร่างกาย ที่ว่าตายนั้นเป็นเพียง วิญญาณออกจากร่างกาย เพราะร่างกายทรุดโทรมจน อาศัยอยู่ไม่ได้เท่านั้น วิญญาณก็จะไปถือเอาร่างใหม่ หรือที่ เรียกว่า เกิดใหม่ 4.เทพเจ้าที่สูงสุดในพราหมฌ์-ฮินดู ชื่อว่าอะไร ?

5 4.1 นิกายไวษณวะ หรือ ไวษณพ ผู้ก่อตั้งนิกาย คือ ท่าน นาถมุนี ดำเนินการเผยแผ่ลัทธิ อยู่ทางภาคใต้ของอินเดีย เป็น นิกายที่บูชาพระวิษณุหรือพระ นารายณ์ นับถือพระวิษณุเพียง องค์เดียว ยุบเอาลักษณะและ ความเชื่อในพระเจ้าทั้ง 3 มารวม ไว้ในพระวิษณุองค์เดียว 4.2 นิกายไศวะ นิกายนี้ถือว่า พระศิวะเป็น ผู้สร้างโลก เป็นแก่นแท่ของจักรวาล การ นับถือของนิกายนี้มี 2 ลักษณะ คือ 4.2.1) นับถือและบูชาลิงคะ หรือ ศิวลึงค์ คือ เครื่องหมายเพศบุรุษ เป็นเครื่องแทน พระศิวะในฐานะเป็นผู้สร้างโลกและสรรพสิ่ง 4.2.2) นับถือและบูชาโคนันทิ ซึ่งเป็น พาหนะของพระศิวะ เป็นผู้ให้น้ำนมและเนื้อ แก่มนุษย์ เปรียบเหมือนเป็นมารดาของคน อินเดีย เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู 5.ผู้ก่อนตั้งนิกาย ไวษณพหรือนิกายไวษณวะ คือใคร ?

6 4.3 นิกายศักติ คำว่า ศักติ แปลว่า ความสามารถ อำนาจ พลัง ความสูงส่ง บุคคลผู้มี พลังดั่งกล่าวคือเทวีหรือเทพ เข้าผู้หญิง นิกายนี้จึงนับถือ มเหสีของมหาเทพทั้ง 3 องค์ กานับถือศักติหรือมหาเทวีไม่ให้ แยกออกเป็นนิกายเอกเทศ แต่ แฝงอยู่ในนิกายไศวะ และไวษณ วะนั่นเอง 4.4นิกายตันตระ คำว่า ตันตระ แปลว่า พิธีการ แบบแผน หรือ กฎเกณฑ์ หมายถึงแบบแผนของ พิธีกรรมต่างๆ ของฮินดูยุคหลัง พุทธกาล นิกายนี้เกิดมาจากการ นับถือศักติฝ้ายซ้าย เน้นหนักไปใน ทางกามารมณ์ การบูชาศักติที่เป็น ลักษณะเด่นเฉพาะของนิกายนี้คือ การทำพิธีให้ศักติหรือมหาเทพที่เป็น สามีพอใจ 6.นิกายศักติ นับถือเทพกี่องค์ ?‘

7 5)คัมภีร์ คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า พระเวทมีอยู่ 3 คือ 5.1 )ฤคเวท ฤคเวท เป็นคัมภีร์เล่มแรกในวรรณคดีพระเวท แต่งขึ้นเมื่อราว 3,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช เป็นตำราทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก กล่าวถึงบท สรรเสริญคุณ อำนาจแห่งเทวะ และประวัติการสร้างโลก รวมถึงหน้าที่ ของพระพรหมผู้สร้างมนุษย์และสรรพสิ่ง ซึ่งจะใช้ในพิธีการบรวงสรวง เทพเจ้าต่าง ๆ 5.2 ) ยชุรเวท คัมภีร์นี้เรียกว่า \"ยชุรเวทสัมหิตา\" มีคาถา หรือมันตระ ที่จำเป็นแก่การกระทำพิธีสังเวยตามความเชื่อในศาสนา สมัยพระเวท และมีการเพิ่มเติมคำอธิบายว่าด้วยการ ประกอบพิธีต่างๆ 5.3 ) สามเวท นับเป็นคัมภีร์ฮินดูที่สำคัญและเก่าแก่มาก เนื้อหาส่วนที่เก่าแก่ ที่สุด โดยมีความสำคัญและความเก่าแก่รองจากคัมภีร์ฤคเวท เนื้อหาประกอบด้วยรวมบทสวด และร้อยกรองอื่น ๆ เพื่อใช้เป็น บทร้องสวดเป็นทำนองตามพิธีกรรม 5.4 )อถรรพเวท เป็นคัมภีร์รวบรวมคาถาอาคมและเวทมนตร์ต่างๆ 7.คัมภีร์ที่ใช้ในการบวงสรวงเทพเจ้าชื่อว่าอะไร ?

6)พิธีกรรม 8 6.1) ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับวรรณะ ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด 6.1.1 การแต่งงาน จะแต่งงานกับบุคคลนอกวรรณะไม่ได้ และในวรรณะเดียวกันก็จำกัดโคตรตระกูลด้วย 6.1.2 อาหารการกิน คนในวรรณะต่ำจะปรุงอาหารให้คนวรรณะ สูงกินไม่ได้ 8.การแบ่งชั้นวรรณะของพราหมฌ์-ฮินดู มีชั้นอะไรบ้าง ?.

9 6.1.3 การประกอบอาชีพ บุคคลในวรรณะใดก็ต้องประกอบอาชีพที่กำหนดไว้ สำหรับบุคคลในวรรณะนั้น 6.1.4 การตั้งถิ่นฐาน ห้ามตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเขตประเทศอินเดีย ห้ามเดิมเรือไปในทะเลหรือมหาสมุทร เป็นต้น 9.ข้อปฏิบัติการตั้งถิ่นฐานมีว่าอย่างไร ?

6.2. พิธีสังสการ 10 ตเจปา็ะนมตพ้ทีอิ่คธงีักมผ่รภาีรรน์มมพทินี่ธูทีศนำี้ากใส่หอ้ตบนรร์จิบึสังุญทบจุธะิญต์ถัครืตอนิพไวิทว่ีธ้า่ีใเเโกนปกิ็ดนน1 2ใผจนูุ้กโบวอรรเกิปสร็ุาณนทสตธิะ้์เนพชโ่ดนรยาพจหิธะมีทตณั้ำง์ใคหก้รโษอัรตกภ์ราิพยส์ิตธแี่คาพงลศอๆยด์ 6.3. พิธีศราทธ์ เป็นพิธีทำบุญอย่างหนึ่งที่ลูกหลานทำบุญอุทิศให้แก่บิดามารดาหรือบรรพบุรุษที่ ล่วงลับไปแล้ว จะระทำกันในเดือน ๑๐ ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ ถึงวันแรม ๑๕ ค่ำ การ ทำบุญอุทิศให้ผู้ล่วงลับนี้ เรียกว่า ทำปิณฑะ ซึ่งหมายถึง ก้อนข้าวที่จะถวายอุทิศให้ แก่ผู้ล่วงลับ ปิณฑจะทำ 8 ที่ ให้แก่ บิดา ปู่ ปู่ทวด ตา ตาทวด บิดาของตา และพระ วิศวเทพอีก 2 ที่ 10.พิธีกรรมใดที่ลูกหลานทำบุญอุทิศให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ?

11 6.4. พิธีบูชาเทวา พิธีบูชาเทวดา พิธีจะแตกต่างกันไปตามวรรณะ ถ้าเป็นวรรณะสูง จะมี พิธีสวดมนต์ภาวนา อาบน้ํา ชําระกาย และสังเวยเทวดาทุกวัน พิธี สมโภชถือศีล และในวันศักดิ์สิทธิ์จะไปนมัสการบําเพ็ญกุศลใน เทวาลัย แต่ถ้าเป็นวรรณะต่ําพิธีที่ปฏิบัติก็จะแตกต่างออกไป 11.การที่คนวรรณะ พราหมฌ์กษัตริย์แพศย์ จะต้องผ่านพิธีกรรมใดจึงจะถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

12 7.หลักธรรม 7.1) หลักธรรม 10 ประการ เรียกว่า ฮินดูธรรม ได้แก่ 7.1.1 ธฤติ ได้แก่ ความมั่นคง ความกล้าหาญ คือ เพียรพยายาม จนสําเร็จประโยชน์ตามที่ ประสงค์ 7.1.2 กษมา ได้แก่ ความอดทน หรืออดกลั้น คือมีความพากเพียร พยายาม 7.1.3 ทมะ ได้แก่ การระงับใจ การข่มจิตใจ คือไม่ปล่อยใจให้หวั่นไหว 7.1.4 อัสเตยะ ได้แก่ การไม่ลักขโมย ไม่ทําโจรกรรม 7.1.5 เศาจะ ได้แก่ ความบริสุทธิ์ การทําตนให้บริสุทธิ์ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ 7.1.6 อินทรียนิครหะ ได้แก่ การระงับอินทรีย์ 10 ประการ จุดประสงค์ คือ ไม่ต้องการให้มนุษย์ ปล่อยอินทรย์มัวเมาจนเกินไปให้รู้จักพอ 7.1.7 ธี ได้แก่ ปัญหา สติ ความคิด คือ มีความรู้ความเข้าใจใน ขนบธรรมเนียมประเพณี ธรรมะสังคม และวัฒนธรรม 7.1.8 วิทยา ได้แก่ ความรู้ทางปรัชญา คือ มีความรู้ลึกซึ้ง 7.1.9 สัตยะ ได้แก่ ความจริง ความเห็นอันบริสุทธิ์ คือมีความจริงใจให้ กัน 7.1.10 อโกธะ ได้แก่ ความไม่โกรธ คือมีขันติ ความอดทน และโสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม นั่นคือ เอาชนะ ความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ ไม่อาฆาตมุ่งร้ายต่อใคร 12.หลักธรรม 10 ประการ เรียกว่าอะไร ? 13. การไม่ลักขโมย ไม่ทำโจรกรรม คือ 10 ประการ ข้อใด ?

7.2หลกัอาศรม 4 13 เป็นขั้นตอนการดําเนินชีวิตของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์- ฮินดู เพื่อยกระดับชีวิตให้สูงขึ้น มี ๔ ประการคือ 7.2.1.พรหมจารี เป็นขั้นตอนที่เด็กชายทุกคนที่เกิดในวรรณะ พราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ต้องศึกษาเล่า เรียน ต้องเข้าพิธี มอบตนเป็นนักศึกษา และจะต้องปรนนิบัติรับใช้อาจารย์พร้อม กับศึกษาเล่าเรียน 7.2.2คฤหัสถ์ เป็นวัยแห่งการครองเรือน เมื่อสําเร็จการศึกษา แล้วกลับไปใช้ชีวิตทางโลก แต่งงานและ มีบุตรเพื่อสืบสกุล โดยยึดหลักธรรมเป็นแนวทางในการดําเนินชีวิต 7.2.3วานปรัสถ์ เป็นขั้นที่แสวงหาธรรม โดยการออกบวชสู่ ป่า เพื่อฝึกจิตใจให้บริสุทธิ์และเตรียม ปฏิบัติตนให้เป็น ประโยชน์ต่อสังคม 7.2.4สันยาสี เป็นขั้นสุดท้ายแห่งชีวิต โดยสละชีวิตทางโลก ออกบวช บําเพ็ญเพียรตามหลักศาสนา เพื่อความหลุดพ้น 14. สัตยะ มีความหมายว่าอย่างไร ? 15.การระงับอินทรีย์ 10ประการ จุดประสงค์คืออะไร ?. 16.วัยแห่งการครองเรือน คือหลักอาศรม 4 ข้อใด ? 17.ขั้นตอนสุดท้ายของหลักอาศรม 4 เป็นขั้นตอนใด ?

14 เฉลย คำถาม 17 ข้อ 1.ฤคเวท 2.โอม 3.โมกษะ 4.พระพรม 5.ท่าน นาถมุนี 6. 3องค์ 7. ฤคเวท 8.4 พราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ศุกร 9.ห้ามตั้งถิ่นฐานนอกประเทศอินเดีย 10.พิธีศราทธ์ 11.พิธีสังสการ 12.ฮินดูธรรม 13.อัสเตยะ 14.ความจริงใจ ความเห็นอันบริสุทธิ์ จริงใจต่อกัน 15.ไม่ต้องการให้มนุษย์ ปล่อยอินทร์มัวเมาจนเกินไป 16.คฤหัสถ์ 17.การสละชีวิตทางการโลก

15 อ้างอิง คุณธรรม จริยธรรม. (2561). การศาสนาและศิลปะ. กรุงเทพมหานคร: กรมการศาสนา และอนุกรรมการ ส่งเสริมกิจการศาสนาและศาสนิกสัมพันธ์. Intrakul. World and culturehttps. culture.go.th. 2553. Cuture sumit: https://www.mculture.go.th/mculture_th60/download/Brahminism.pdf

สมาชิก นางสาว จันทร์เจ้า ​กิตติทวีธรรมเ​ลขที่ 22 นางสาว วรสิริ ​พานิชพงษ์เ​ลขที่ 24 นางสาว ธิดาพร ช​ัยพนัส ​เลขที่ 25 นางสาว ปฏิญญา ศ​ิริวิทชัยภรณ์ เ​ลขที่ 27 นางสาว ธนัชชา ด​่านเจริญวัฒนกิจ​เลขที่34 ชั้นมัธยมศึกษา ปี่ ที่ 6/5


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook