กระทรวงศกึ ษาธกิ าร วช-ร 01 บันทกึ ข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชยี งใหม่ ที่ วนั ท…ี่ …………………………………………………………………………………………… เร่อื ง การเสนอแผนการจดั การเรยี นร้เู พอ่ื ขออนญุ าตใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ข้าพเจ้านางสาวศิริมา เมฆปัจฉาพิชิต ตำแหน่ง ครู ค.ศ.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ไดจ้ ัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 31104 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 2 หน่วยการเรียนรู้ ได้แก่ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การเปล่ียนแปลงในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของ มนุษยชาติ และหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 สถานการณ์ของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 จำนวน 5 แผน จำนวน 20 ชั่วโมง รายละเอียดดังแนบมาพรอ้ มน้ี จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและพจิ ารณา ลงช่ือ............................................................ครผู สู้ อน. (นางสาวศริ มิ า เมฆปัจฉาพิชิต) ….……./..………………../………… ความเห็นของหวั หน้ากลมุ่ /ตวั แทนกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม หมายเหตุ 1. ส่วนประกอบของเอกสาร ที่ รายการ มี ไมม่ ี 1 คำอธิบายรายวชิ า 2 ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ (ตารางวิเคราะห์ KPA) 3 โครงการสอน/สาระการเรยี นร/ู้ จำนวน ชม. 4 การออกแบบกระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 5 แผนการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6 รายละเอยี ดแผนการวดั และประเมนิ การเรียนรู้ 2. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรงุ 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี ( ) ที่เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการจัดกจิ กรรมได้อยา่ งเหมาะสม ( ) ที่ยงั ไม่เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป 4. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ( ) นำไปใชจ้ รงิ ( ) ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ 5. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ………………………………………………………… ( นายศรีมลู สมบตุ ร ) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนร/ู้ ผู้แทน
ความเหน็ ของรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ/หวั หนา้ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ 1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรุง 2. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ( ) ทเ่ี น้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ( ) ท่ียงั ไมเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ ( ) นำไปใชจ้ ริง ( ) ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ……………………………………………………………. ( นายวเิ ศษ ฟองตา ) รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ( ) อนญุ าตใหใ้ ช้ นำแผนการจดั การเรยี นรู้นี้ ไปใช้จัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้ ( ) ไม่อนญุ าต เพราะ ............................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ……………………………………………………………. (นายอดิศร แดงเรอื น) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 31104 ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ หนว่ ยกิต 0.5 (นน./นก.) ระยะเวลา 10 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง การเปล่ียนแปลงในประวตั ิศาสตรข์ องมนษุ ยชาติ แผนจดั การเรียนรทู้ ี่ 7 เร่ือง เหตกุ ารณ์สาคญั ในสมัยกลาง ระยะเวลา 4 ชัว่ โมง ....................................................................................... ....................................................................................................... 1. สาระสาคัญ เหตุการณ์สาคัญในโลกตะวันตกและตะวันออก การขยายและการล่าอาณานิคมของประเทศในยุโรปไปยังทวีป อเมรกิ า แอฟรกิ า และเอเชียสง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งเขา้ สโู่ ลกสมยั ปจั จบุ นั 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ช้ันปี/ผลการเรยี นรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของ เหตุการณอ์ ยา่ งตอ่ เน่อื ง ตระหนกั ถงึ ความสาคัญและสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบทเี่ กดิ ขนึ้ ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตุการณ์สาคัญต่างๆท่ีส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เขา้ สู่โลกสมัยปจั จุบนั 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge เหตุการณ์สาคัญในสมัยกลาง - ระบบฟวิ ดัล (Feudalism) - สงครามครูเสด (The Crusades, ค.ศ. 1096 – 1291) - การฟน้ื ฟศู ลิ ปะวิทยาการ (Renaissance) - การสารวจทางทะเล - การปฏริ ปู ทางศาสนา (Reformation) 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เน้นให้นักเรียนได้ทางานเป็นกลุ่ม ร่วมศึกษาเหตุการณ์สาคัญที่ส่งผลถึงปัจจุบัน อันเป็นฉนวนเหตุของ ความรว่ มมือและความขัดแยง้ ของประเทศตา่ งๆในโลกปจั จบุ นั 3.3 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ ติดตามข่าวสาร และร้จู ักการวิเคราะห์ สงั เคราะหข์ ้อมลู อยา่ งมีเหตุผล 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 3. ซ่อื สัตย์ สุจริต 7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน : - ใบกจิ กรรมที่ 5 เร่ือง ระบบฟวิ ดัลและสงครามครูเสด - ใบกจิ กรรมท่ี 6 เรือ่ ง สมยั ฟื้นฟศู ลิ ปะวทิ ยาการ - ใบกจิ กรรมที่ 7 เรอื่ ง การสารวจทางทะเล และการปฏริ ูปศาสนา - เสน้ แสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตกุ ารณส์ าคัญในสมัยกลาง สมัยใหม่ และครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 20 - แบบทดสอบวดั ความรู้ กอ่ นเรยี นและหลังเรียน เร่ือง เหตุการณ์สาคัญในสมัยกลาง (ผ่านโปรแกรม Plicker) 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 – 3 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งม่ันในการทางาน / เทคนิคการถามตอบและ กระบวนการกลุ่ม) 1. ทาแบบทดสอบวดั ความรู้กอ่ นเรยี น เรอื่ ง เหตกุ ารณ์สาคัญในสมยั กลาง 2. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง ระบบ ฟวิ ดลั และสงครามครูเสด แลว้ ลงมือตอบคาถามในใบกิจกรรมที่ 5 เร่ือง ระบบฟิวดลั และสงครามครเู สด 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 5 เรอ่ื ง ระบบฟวิ ดลั และสงครามครเู สด 4. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง สมัยฟื้นฟู ศลิ ปวทิ ยาการ แล้วลงมอื ตอบคาถามในใบกิจกรรมที่ 6 เรอื่ ง สมยั ฟ้นื ฟูศลิ ปวทิ ยาการ 5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยใบกจิ กรรมที่ 6 เรอ่ื ง สมยั ฟน้ื ฟูศลิ ปวิทยาการ 6. แบ่งกลุม่ นกั เรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง การสารวจ ทางทะเลและการปฏิรปู ศาสนา แล้วลงมือตอบคาถามในใบกิจกรรมท่ี 7 เร่ือง การสารวจทางทะเลและการ ปฏิรูปศาสนา 7. ครูและนกั เรยี นร่วมกันเฉลยใบกจิ กรรมท่ี 7 เรอื่ ง การสารวจทางทะเลและการปฏริ ูปศาสนา ช่วั โมงท่ี 4 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ / ประเมินผลโดยแบบทดสอบวดั ความรู้) 1. ทบทวนความรูเ้ ร่ืองเหตกุ ารณ์สาคญั ในสมัยกลาง 2. นักเรียนสรุปความรู้ในรูปแบบเส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตุการณ์สาคัญในสมัยกลาง สมัยใหม่ และคริสตศ์ ตวรรษที่ 20 3. ทาแบบทดสอบวัดความรหู้ ลังเรยี น เรอ่ื ง เหตุการณ์สาคัญในสมยั กลาง 4. นักเรียนและครรู ่วมกนั เฉลยแบบทดสอบวดั ความร้หู ลังเรียน เรอื่ ง เหตุการณ์สาคญั ในสมยั กลาง 5. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ บทเรียนในหน่วยการเรียน
9. ส่อื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการสือ่ สภาพการใชส้ อ่ื 1. แบบทดสอบก่อนเรียน ขน้ั ตรวจสอบความร้เู ดิม 2. วดี ทิ ศั น์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่อื ง ระบบฟวิ ดัลและสงครามครเู สด ขนั้ สร้างความสนใจ 3. วดี ิทัศนแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรอื่ ง สมัยฟน้ื ฟูศิลปวิทยาการ ขั้นสร้างความสนใจ 4. วีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง การสารวจทางทะเลและการ ขน้ั สรา้ งความสนใจ ปฏิรูปศาสนา 5. เส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตุการณ์สาคัญในสมัยกลาง สมัยใหม่ ขั้นขยายความรู้ และคริสต์ศตวรรษท่ี 20 6. แบบทดสอบหลงั เรียน ขน้ั ตรวจสอบความรูใ้ หม่ 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ วี ดั เครอื่ งมือวัดฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน แบบทดสอบ เกณฑก์ ารให้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ก่อนเรยี น เหตุการณ์สาคัญใน 1. แบบทดสอบก่อนเรียน ใบกจิ กรรมที่ 5 คะแนน โ ล ก ต ะ วั น ต ก แ ล ะ การถามตอบของครแู ละ นักเรยี น ใบกจิ กรรมที่ 6 5 คือ ดีเยีย่ ม ตะวันออก การขยาย 2. วดี ิทัศนแ์ ละภาพประกอบคา 4 คอื ดมี าก และการล่าอาณา บรรยาย เร่อื ง ระบบฟวิ ดัลและ การถามตอบของครูและ ใบกจิ กรรมท่ี 7 3 คือ ดี นิคมของประเทศใน สงครามครูเสด นักเรียน 2 คอื พอใช้ ยุ โ ร ป ไ ป ยั ง ท วี ป 3. วดี ทิ ศั น์และภาพประกอบคา เสน้ แสดงเวลา 1 คอื ควร อเมริกา แอฟริกา บรรยาย เร่ือง สมัยฟนื้ ฟู การถามตอบของครูและ แบบทดสอบ ปรับปรงุ นกั เรียน หลงั เรียน 0 คือ ไมผ่ ่าน กา ร เ รีย ง ล า ดับ เ ว ล า และเอเชียส่งผลต่อ ศลิ ปวิทยาการ เหตุการณ์สาคัญในสมัย การเปลี่ยนแปลงทาง กลาง สมัยใหม่ และ สั ง ค ม เ ศ ร ษ ฐ กิ จ 4. วดี ทิ ศั นแ์ ละภาพประกอบคา คริสต์ศตวรรษท่ี 20 และการเมืองเข้าสู่ บรรยาย เร่ือง การสารวจทาง แบบทดสอบหลังเรยี น โลกสมยั ปัจจบุ ัน ทะเลและการปฏริ ปู ศาสนา 5. เส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตุการณ์สาคัญในสมัย ก ล า ง ส มั ย ใ ห ม่ แ ล ะ ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 20 6. แบบทดสอบหลงั เรยี น ลงชอื่ .................................................. ผสู้ อน (นางสาวศริ มิ า เมฆปัจฉาพิชิต)
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหสั วิชา ส 31104 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ หนว่ ยกิต 0.5 (นน./นก.) ระยะเวลา 10 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงในประวตั ิศาสตรข์ องมนษุ ยชาติ แผนจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 เรื่อง เหตุการณ์สาคญั ในสมยั ใหม่ – คริสต์ศตวรรษที่ 19 ระยะเวลา 2 ชว่ั โมง ....................................................................................... ....................................................................................................... 1. สาระสาคญั เหตุการณ์สาคัญในโลกตะวันตกและตะวันออก การขยายและการล่าอาณานิคมของประเทศในยุโรปไปยังทวีป อเมริกา แอฟริกา และเอเชยี สง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งเข้าสู่โลกสมยั ปัจจุบัน 2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัดชน้ั ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของ เหตกุ ารณอ์ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง ตระหนกั ถงึ ความสาคัญและสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบที่เกดิ ขนึ้ ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตุการณ์สาคัญต่างๆท่ีส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เขา้ ส่โู ลกสมยั ปัจจุบนั ส 4.2 ม.4-6/3 วเิ คราะห์ผลกระทบของการขยายอิทธพิ ลของประเทศในยุโรปไปยังทวีปอเมริกา แอฟริกา และ เอเชีย 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลกั : Knowledge เหตกุ ารณส์ าคัญในสมัยใหม่ - การปฏิรูปวทิ ยาศาสตร์ - การปฏริ ปู อุตสาหกรรม - การขยายลัทธิจกั รวรรดินิยมในคริสต์ศตวรรษที่ 19 - การก่อตวั ของลทั ธิชาตินยิ ม 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เน้นให้นักเรียนได้ทางานเป็นกลุ่ม ร่วมศึกษาเหตุการณ์สาคัญท่ีส่งผลถึงปัจจุบัน อันเป็นฉนวนเหตุของ ความรว่ มมอื และความขดั แย้งของประเทศตา่ งๆในโลกปจั จุบนั 3.3 คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ : Attitude มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ ติดตามขา่ วสาร และรูจ้ กั การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อมลู อยา่ งมีเหตุผล 4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม 6. คุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งม่นั ในการทางาน 3. ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - ใบกจิ กรรมที่ 8 เร่ือง การปฏวิ ัตวิ ทิ ยาศาสตร์ และการปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรม - หนงั สือการ์ตูนเล่มเลก็ เร่ือง การขยายตัวของลัทธจิ กั รวรรดนิ ยิ มและการก่อตัวของลทั ธิชาตนิ ยิ ม - เสน้ แสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตกุ ารณ์สาคญั ในสมัยกลาง สมัยใหม่ และครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 (ตอ่ เน่ือง) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 – 2 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทางาน / เทคนิคการถามตอบและ กระบวนการกลุ่ม) 1. ทบทวนความรู้เก่ียวกับสมัยกลาง ก่อนเริ่มด้วยคาถามสาคัญ อาทิ สมัยใหม่เร่ิมข้ึนเมื่อใด ใช้สิ่งใดเป็นเกณฑ์ ในการแบ่งแยกสมยั กลางและสมยั ใหม่ 2. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง การปฏิวัติ วิทยาศาสตร์ และการปฏิวัติอุตสาหกรรม จากน้ันตอบคาถามในใบกิจกรรมที่ 8 เรื่อง การปฏิวัติ วิทยาศาสตรแ์ ละอตุ สาหกรรม 3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยใบกจิ กรรมที่ 8 เรอื่ ง การปฏิวตั ิวทิ ยาศาสตรแ์ ละอุตสาหกรรม 4. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง การ ขยายตวั ของลัทธิจักรวรรดินยิ ม (การลา่ อาณานคิ ม) และการกอ่ ตัวของลัทธชิ าตินยิ ม 5. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างหนังสือการ์ตูนเล่มเล็ก เร่ือง การขยายตัวของลัทธิจักรวรรดินิยมและการก่อตัว ของลัทธิชาตินิยม เพ่ืออธิบายเรื่องราวของการล่าอาณานิคมและการปลดแอกของชาติต่างๆภายใต้การ ปกครองในจกั รวรรดินิยม 6. นักเรียนสรปุ ความรู้ในรปู แบบเส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตุการณ์สาคัญในสมัยกลาง สมัยใหม่ และครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 (ต่อเนื่องจากเรื่องราวสมัยกลาง) 9. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการสื่อ สภาพการใช้ส่ือ การสอบถามความเขา้ ใจด้วยคาถามสาคญั ข้ันตรวจสอบความรู้เดิม ใบกิจกรรมท่ี 8 เร่ือง การปฏิวัติวทิ ยาศาสตร์ และการปฏิวัตอิ ตุ สาหกรรม ข้ันสรา้ งความสนใจ หนังสอื การต์ ูนเล่มเล็ก เรอื่ ง การขยายตัวของลัทธจิ ักรวรรดินยิ มและการก่อตวั ข้ันขยายความรู้ ของลัทธิชาตนิ ยิ ม ขน้ั ตรวจสอบความรู้ใหม่ เส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตกุ ารณ์สาคัญในสมยั กลาง สมยั ใหม่ และ ครสิ ต์ศตวรรษที่ 20 (ต่อเนือ่ ง)
10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรยี นรู้ วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วัดฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ เหตุการณ์สาคัญใน ใบกิจกรรมที่ 8 เร่ือง การ การถามตอบของครแู ละ ใบกจิ กรรมที่ 8 คะแนน โลกตะวันตกและ ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ และการ นกั เรียน ตะวันออก การขยาย ปฏิวตั ิอุตสาหกรรม 5 คือ ดเี ยย่ี ม 4 คอื ดีมาก และการล่าอาณา หนังสือการ์ตูนเล่มเล็ก เรื่อง ค ว า ม เ ข้ า ใ จ จ า ก 3 คือ ดี นิคมของประเทศใน ก า ร ข ย า ย ตั ว ข อ ง ลั ท ธิ การศึกษาแล้วแสดงผล หนังสอื การ์ตูน 2 คือ พอใช้ 1 คอื ควร ยุ โ ร ป ไ ป ยั ง ท วี ป จักรวรรดินิยมและการก่อตัว ออกมาด้วยการสร้าง เลม่ เลก็ ปรับปรงุ 0 คือ ไมผ่ ่าน อเมริกา แอฟริกา ของลัทธิชาตินิยม หนังสอื เล่มเลก็ และเอเชียส่งผลต่อ การเปล่ียนแปลงทาง เส้นแสดงเวลา (Time Line) กา ร เ รีย ง ล า ดับ เ ว ล า เสน้ แสดงเวลา สั ง ค ม เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ลาดับเหตุการณ์สาคัญในสมัย เหตุการณ์สาคัญในสมัย และการเมืองเข้าสู่ ก ล า ง ส มั ย ใ ห ม่ แ ล ะ กลาง สมัยใหม่ และ โลกสมยั ปจั จบุ ัน ค ริ ส ต์ ศ ต ว ร ร ษ ท่ี 2 0 คริสตศ์ ตวรรษท่ี 20 (ตอ่ เน่ือง) ลงชอื่ .................................................. ผู้สอน (นางสาวศิรมิ า เมฆปัจฉาพิชติ )
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา ส 31104 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ หน่วยกติ 0.5 (นน./นก.) ระยะเวลา 10 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรือ่ ง การเปล่ยี นแปลงในประวตั ศิ าสตรข์ องมนุษยชาติ แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 9 เร่อื ง ความรว่ มมอื และความขดั แย้งของมนษุ ยชาติ ระยะเวลา 4 ชวั่ โมง ....................................................................................... ....................................................................................................... 1. สาระสาคัญ เหตุการณ์สาคัญในโลกตะวันตกและตะวันออก การขยายและการล่าอาณานิคมของประเทศในยุโรปไปยังทวีป อเมรกิ า แอฟริกา และเอเชียสง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองเขา้ ส่โู ลกสมัยปจั จุบนั 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั ชั้นปี/ผลการเรยี นรู/้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของ เหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เนือ่ ง ตระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตุการณ์สาคัญต่างๆที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เขา้ สูโ่ ลกสมัยปัจจบุ นั 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge ความร่วมมือและความขดั แย้งของมนุษยชาตใิ นคริสศตวรรษท่ี 20 ความขัดแยง้ ของมนษุ ยชาติในคริสศตวรรษท่ี 20 - สงครามโลกครัง้ ที่ 1 (ค.ศ. 1914 – 1918) - สงครามโลกครัง้ ที่ 2 (ค.ศ. 1939 – 1945) - สงครามเย็น (Cold War) ความร่วมมือของมนุษยชาติในคริสศตวรรษท่ี 20 - องค์การสนั นิบาตชาติ - องคก์ ารสหประชาชาติ - องค์การความรว่ มมือระดบั ภมู ภิ าค o ตามสภาพภูมิศาสตร์ ได้แก่ ASEAN, EU, OAS o ตามการรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ได้แก่ WTO, G-8, AFTA, NAFTA, APEC, ASEM 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process เน้นใหน้ กั เรยี นได้ทางานเปน็ กลุ่ม ศึกษาเหตุการณ์สาคัญที่ส่งผลถึงปัจจุบัน อันเป็นฉนวนเหตุของความ รว่ มมอื และความขัดแย้งของประเทศต่างๆในโลกปจั จบุ ัน 3.3 คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ ติดตามข่าวสาร และรู้จักการวเิ คราะห์ สังเคราะหข์ ้อมลู อยา่ งมเี หตุผล
4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรียน 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - กระบวนการกลุม่ 6. คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มั่นในการทางาน 3. ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - ชุดคาถาม-ตอบ เร่ือง สงครามโลกครงั้ ที่ 1 – 2 และสงครามเย็น - แผนผงั ความคิด เร่อื ง ความรว่ มมือของมนุษยชาตใิ นครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 - เส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตุการณส์ าคัญในสมัยกลาง สมยั ใหม่ และคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ตอ่ เน่ือง) - แบบทดสอบวัดความรู้ ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง ความร่วมมือและความขัดแย้งของมนุษยชาติ (ผ่าน โปรแกรม Plicker) 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 – 3 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ และมีความมุ่งม่ันในการทางาน / เทคนิคการถามตอบและ กระบวนการกล่มุ ) 1. ทาแบบทดสอบวัดความรกู้ อ่ นเรยี น เรือ่ ง ความร่วมมอื และความขัดแย้งของมนษุ ยชาติ 2. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง สงครามโลกครั้งท่ี 1, สงครามโลกคร้ังที่ 2 และสงครามเย็น 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มต้ังคาถามจากการศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย กลุ่มละ 7 ข้อ ต่อ 1 สงคราม สลับกนั ถามทลี ะกล่มุ กลุ่มท่ตี อบได้มากที่สดุ จะไดร้ ับคะแนนพิเศษ 1 ดาวเพิม่ คะแนนจิตพสิ ัย 4. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง องค์การ สันนบิ าตชาติ, องคก์ ารสหประชาชาติ, องค์การความร่วมมือระดับภูมภิ าค 5. ใหน้ ักเรียนสรปุ องค์การความร่วมมอื ระดับภมู ิภาค ตามสภาพภูมิศาสตร์ ได้แก่ ASEAN, EU, OAS และตาม การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจ ไดแ้ ก่ WTO, G-8, AFTA, NAFTA, APEC, ASEM ถึงความเหมอื นและแตกต่าง 6. นักเรียนสรุปความรู้ในรูปแบบเส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดับเหตุการณ์สาคัญในสมัยกลาง สมัยใหม่ และคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ต่อเนือ่ งจากเรือ่ งราวสมยั กลางและสมยั ใหม่) ช่วั โมงท่ี 4 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ซือ่ สัตยส์ จุ รติ / ประเมนิ ผลโดยแบบทดสอบวดั ความรู้) 1. ทบทวนความร้เู ร่ืองความร่วมมอื และความขดั แยง้ ของมนุษยชาติ 2. นักเรยี นสรุปความรใู้ นรูปแบบแผนผังความคิด เรื่อง ความร่วมมือและความขัดแยง้ ของมนษุ ยชาติ 3. ทาแบบทดสอบวดั ความร้หู ลงั เรยี น เรอื่ ง ความร่วมมือและความขัดแย้งของมนุษยชาติ 4. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบทดสอบวัดความรู้หลังเรียน เรื่อง ความร่วมมือและความขัดแย้งของ มนษุ ยชาติ 5. นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปบทเรียนในหน่วยการเรยี น
9. ส่ือการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการสื่อ สภาพการใช้ส่อื 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น ขน้ั ตรวจสอบความรูเ้ ดิม 2. วีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง สงครามโลกคร้ังท่ี 1, ขน้ั สรา้ งความสนใจ สงครามโลกครง้ั ที่ 2 และสงครามเย็น 3. สร้างชุดคาถาม-ตอบ เรื่อง สงครามโลกครั้งที่ 1, สงครามโลกครั้งที่ 2 และ ขั้นขยายความรู้ สงครามเยน็ 4. แผนผงั ความคดิ เรอ่ื ง ความรว่ มมือและความขัดแย้งของมนุษยชาติ ขน้ั ขยายความรู้ 5. เส้นแสดงเวลา (Time Line) ลาดบั เหตกุ ารณส์ าคัญในสมยั กลาง สมยั ใหม่ ขนั้ ตรวจสอบความรู้ใหม่ และครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 20 (ตอ่ เนื่อง) 6. แบบทดสอบหลังเรียน ขั้นตรวจสอบความรู้ใหม่ 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรยี นรู้ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน วธิ ีวดั เคร่อื งมอื วัดฯ เกณฑก์ ารให้ คะแนน เหตุการณ์สาคัญใน 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบ 5 คือ ดเี ย่ียม โลกตะวันตกและ กอ่ นเรยี น 4 คือ ดีมาก ต ะ วั น อ อก ก า ร 2. วีดิทัศน์และภาพประกอบคา การถามตอบของครูและ ก า ร สั ง เ ก ต 3 คือ ดี ขยายและการล่า บรรยาย เร่ือง สงครามโลกครั้งท่ี นกั เรียน และการ 2 คอื พอใช้ อ า ณ า นิ ค ม ข อ ง 1, สงครามโลกคร้ังท่ี 2 และ สอบถาม 1 คือ ควร ประเทศในยุโรปไป สงครามเย็น ปรบั ปรุง ยั ง ท วี ป อ เ ม ริ ก า 3. สร้างชุดคาถาม-ตอบ เร่ือง ก า ร ตั้ ง ค า ถ า ม ถ า ม ต อ บ ก า ร สั ง เ ก ต 0 คอื ไมผ่ ่าน แ อ ฟ ริ ก า แ ล ะ สงครามโลกครั้งท่ี 1, สงครามโลก ของนักเรียน รวมถึงการ และการ เอเชียส่งผลต่อการ ครั้งท่ี 2 และสงครามเยน็ ประยุกต์ความรู้นาไปสร้าง สอบถาม เปลี่ยนแปลงทาง เป็นเกมได้ สังคม เศรษฐกิจ 4. แผนผังความคิด เร่ือง ความ การสรุปความรู้เรื่องความ แ ผ น ผั ง และการเมืองเข้าสู่ ร่ว มมือและความขัดแย้งของ ร่วมมือและความขัดแย้ง ความคดิ โลกสมยั ปจั จบุ นั มนุษยชาติ ของมนุษยชาติ 5. เส้นแสดงเวลา (Time Line) ก า ร เ รี ย ง ล า ดั บ เ ว ล า ลาดับเหตุการณ์สาคัญในสมัยกลาง เหตุการณ์สาคัญในสมัย เสน้ แสดงเวลา สมัยใหม่ และคริสต์ศตวรรษท่ี 20 ก ล า ง ส มั ย ใ ห ม่ แ ล ะ (ตอ่ เนอ่ื ง) ครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 6. แบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น แบบทดสอบ หลงั เรียน ลงช่ือ .................................................. ผูส้ อน (นางสาวศิรมิ า เมฆปัจฉาพิชติ )
ใบกิจกรรมที่ 5 ประวตั ศิ าสตร์สากล ส 31104 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เร่ือง ระบบฟิวดัลและสงครามครเู สด ครูศริ ิมา เมฆปจั ฉาพชิ ติ ชือ่ -สกลุ .............................................................................. ชัน้ ............... เลขท่ี ............ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนศกึ ษาคน้ ควา้ เร่อื งระบบฟวิ ดัลและสงครามครูเสดพร้อมอธิบายหัวขอ้ ต่างๆในแบบกิจกรรมน้ี ระบบฟิวดลั (Feudalism) ๑. สาเหตใุ ดท่ีทาให้เกดิ ระบบฟวิ ดลั ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................... .............................................................................................................. .......................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... 2. ระบบฟวิ ดัลมลี ักษณะอยา่ งไร จงวาดรูปประกอบเพ่อื อธบิ ายดว้ ย ..................................................................................................... ................................................................................................... ..................................................................................................... ................................................................................................... ..................................................................................................... ................................................................................................... ..................................................................................................... ................................................................................................... ..................................................................................................... ................................................................................................... ..................................................................................................... ................................................................................................... 3. ผลกระทบจากระบบฟิวดัลคอื อะไร ............................................................................................................................. ........................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................... .............................................................................................................. .......................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... 4. การเสือ่ มสลายของระบบฟิวดลั มาจากสาเหตุใด ........................................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................
สงครามครเู สด (The Crusades) 1. สาเหตขุ องสงครามครเู สด มี 3 ด้าน ใหน้ กั เรียนอธิบายแตล่ ะดา้ นดังตอ่ ไปน้ี ดา้ นความศรทั ธาในครสิ ตศ์ าสนา ........................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... .................... ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ........................................................ ด้านการเมอื งการปกครอง ........................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... .................... ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ........................................................ ดา้ นการค้าและพาณิชย์ .................................................................................................................................................................................. ...................... ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. .......................................................... 2. ผลกระทบของสงครามครเู สดต่อพัฒนาการของยุโรป มี 3 ดา้ น ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายแตล่ ะด้านดังต่อไปน้ี ดา้ นการเมอื งการปกครอง ........................................................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................... ............................................................... ................................................................................................................................................................................................ ........ ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ดา้ นเศรษฐกิจ ........................................................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. .......................................................... ..................................................................................................................................................................................................... ... ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ ดา้ นสังคม ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... .................... ........................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................................
ใบกจิ กรรมที่ 6 ประวัตศิ าสตรส์ ากล ส 31104 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 เร่ือง สมัยฟืน้ ฟศู ิลปวทิ ยาการ ครูศริ มิ า เมฆปัจฉาพิชติ ช่ือ-สกุล .............................................................................. ชั้น ............... เลขที่ ............ คาช้แี จง ให้นักเรยี นศกึ ษาค้นควา้ เรอ่ื งสมยั การฟ้นื ฟูศิลปวทิ ยาการของทวปี ยโุ รปพร้อมอธิบายหัวข้อต่างๆในแบบกจิ กรรมนี้ การฟน้ื ฟูศลิ ปะวิทยาการ การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (RENAISSANCE) เกิดในช่วงเวลาระหว่างคริสต์ศตวรรษท่ี 14-16 คือ ปลายสมัยกลางถึงต้น สมัยใหม่ ถือว่าเป็นจุดเช่ือมต่อ (TRANSITIONAL PERIOD) ของ ประวัติศาสตร์สองยุค การฟื้นฟูศิลปวิทยาการเร่ิมข้ึนท่ีนครรัฐ ตา่ งๆ บนคาบสมทุ รอติ าลี ซ่งึ มคี วาม มงั่ คงั่ และรา่ รวยจากการคา้ ขาย ตอ่ มาจงึ แพรห่ ลายไปสบู่ ริเวณอ่ืนๆ ในยุโรป ค่าว่า RENAISSANCE แปลว่า เกิดใหม่ (REBIRTH) หมายถึง การน่าเอาศิลปวิทยาการของ กรีกและโรมันมาศึกษาใหม่ ท่าให้ศิลปวิทยาการกรีก-โรมันเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหน่ึง เป็นสมัยท่ี ชาวยุโรปเกิดความกระตือรือร้นสนใจอารยธรรมกรีก-โรมัน จึงถือวา่ เปน็ ยคุ เจรญิ รงุ่ เรอื งท่ี ชาวยุโรปมสี ทิ ธแิ ละเสรภี าพ ชว่ งเวลานี้จงึ ถือวา่ เป็นขบวนการขั้นสุดท้ายท่ีจะปลดปล่อยยุโรปจาก สังคมในยคุ กลางทเ่ี คยถูกจ่ากดั โดยกฏเกณฑแ์ ละข้อบงั คบั ของครสิ ต์ศาสนาสาเหตแุ ละความเป็นมาของการฟื้นฟศู ิลปวทิ ยาการ สาเหตุและความเป็นมาของการฟื้นฟูศลิ ปวทิ ยาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลของการฟ้ืนฟูศิลปวทิ ยาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ความเจรญิ ในสมัยฟนื้ ฟูศลิ ปะวทิ ยาการ การฟื้นฟูศิลปวิทยาการเป็นการศึกษาอารยธรรมกรีก-โรมัน ท้ังด้านวรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม และ วิทยาการด้านตา่ งๆ โดยใหค้ วามสา่ คญั ของมนษุ ยก์ บั การด่าเนนิ - ชวี ิตในโลกปจั จุบนั ทเ่ี รียกว่า มนุษยนิยม (HUMANISM) โดยผู้ ท่ีมีความคิดความเชื่อเช่นนเี้ รียก ตนเองว่า นักมนุษยนิยม (HUMANISTS) ซ่ึงได้พยายามปลดเปลื้องตนเองจากการครอบง่าของ คริสตจักรและระบบฟิวดัล ลักษณะที่ให้ความส่าคัญของความเจริญในสมัยฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการ คือ ถึงแม้จะเป็นความสนใจ ศึกษาความรู้จากอารยธรรมกรีก-โรมัน แต่มิใช่การลอกเลียนแบบ จุดมุ่งหมายส่าคัญ คือ การศึกษาความรู้เพื่อประโยชน์ต่อ สงั คมและสร้างสรรคส์ ่งิ ใหมๆ่ ข้ึนมา ใหน้ ักเรยี นเลอื กผลงานสา่ คญั ในสมยั การฟื้นฟศู ลิ ปะวิทยาการมา 1 อยา่ ง และอธบิ ายประกอบผลงานโดยละเอียด …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกจิ กรรมท่ี 7 ประวัตศิ าสตร์สากล ส 31104 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 เรื่อง การสารวจทางทะเลและการปฏิรปู ศาสนา ครศู ิรมิ า เมฆปัจฉาพิชติ ช่ือ-สกุล .............................................................................. ชั้น ............... เลขที่ ............ คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนศึกษาค้นควา้ เรื่องการสารวจทางทะเลและการปฏริ ูปศาสนาพรอ้ มอธบิ ายหวั ข้อตา่ งๆในแบบกิจกรรมน้ี การสารวจทางทะล การสารวจทางทะเลของยโุ รปเริม่ ตน้ เมอื่ ค.ศ. 1450-1750 ซ่งึ เกดิ ขน้ึ ในช่วงเวลาใกล้ เคียงกับยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ของยุโรป และต่างก็มีบทบาทสาคัญต่อประวัติศาสตร์ยุโรปในยุค ใหม่ กล่าวได้ว่า การฟื้นฟูศิลปวิทยาการเป็นพื้นฐานสาคัญทา ให้เกิดการสารวจทางทะเล ซึ่งเป็น ผลให้ยุโรปเผยแพร่วัฒนธรรมของตนไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ของโลกได้ในเวลาต่อมา สาเหตุของการสารวจทางทะเล มดี งั นี้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทบาทของชาติตา่ งๆ ในการสารวจทางทะเล ประเทศ บุคคลสาคัญ ความสามารถ/ความสาคญั โปรตเุ กส เจ้าชายเฮนรี นาวกิ ราช ……………………………………………………………………………………………………… (HENRY THE NAVIGATOR) ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… โปรตเุ กส บารโ์ ธโลมวิ ไดแอส ……………………………………………………………………………………………………… (BARTHOLOMEU DIAS) ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… โปรตเุ กส วัสโก ดา กามา ……………………………………………………………………………………………………… (VASCO DA GAMA) ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ครสิ โตเฟอร์ โคลัมบัส ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… สเปน (CHRISTOPHER ……………………………………………………………………………………………………… COLUMBUS) ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………..
คริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นช่วงการแข่งขันอานาจทางทะเลระหว่างโปรตุเกสและสเปนเพื่อ หาเส้นทางไปหมู่เกาะอีสต์ อินดสี (EAST INDIES) ซ่ึงเป็นแหล่งเคร่ืองเทศและพริกไทย ใน ค.ศ. 1494 สันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ท่ี 6 (ALEXANDER VI) ได้ให้สเปนและโปรตุเกสทาสนธิสัญญา ทอร์เดซียัส (TREATY OF TORDESILLAS) กาหนดเส้นสมมติแบ่งโลกออกเป็น 2 ส่วน โดยสเปนมีสิทธิ สารวจและยึดครองดินแดนทางด้านตะวันตกของเส้นเมริเดียนที่ 51 ส่วนโปรตุเกสได้สิทธิทาง ด้านตะวันออก และนาไปสู่การสรา้ งจกั รวรรดิทางทะเลของโปรตุเกสในเอเชีย ในครติ ส์ศตวรรษที่ 16 โปรตุเกสไดข้ ยายอานาจมาจนถึงเอเชียตะวันออกเฉยี งใตแ้ ละเขา้ ยดึ ครองมะละกา ทาให้ บริเวณคาบสมุทรมลายแู ละหมู่เกาะอินโดนเี ซียตกอยภู่ ายใตอ้ ทิ ธิพลของโปรตุเกส ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. สเปน เฟอรด์ นิ นั ด์ แมกเจลลนั ……………………………………………………………………………………………………….. (FERDINAND MAGELLAN) ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. โปรตุเกสและสเปนกลายเป็นชาติที่มีอานาจ มีความม่ังคั่ง ทาให้หลายชาติทาการ สารวจเส้นทางเดินเรือ การแข่งขัน อานาจทางทะเลระหว่างโปรตเุ กสกับสเปนยุติลงเม่ือโปรตเุ กส ตกอยูภ่ ายใต้การปกครองของสเปนในช่วง ค.ศ. 1580-1640 ฮอลันดา เคยอยู่ใต้การปกครองของสเปน และทาหน้าท่ีเป็นพ่อค้าคนกลางในการค้า เคร่ืองเทศ จนกระท่ัง ค.ศ. 1581 ได้แยกตวั เปน็ อสิ ระจากสเปน ทาใหส้ เปนประกาศปิดทา่ เรือ ลสิ บอนสง่ ผลให้ฮอลันดาไม่สามารถซ้ือเครื่องเทศได้อีก ฮอลันดาจึง ต้องหาเส้นทางทางทะเลเพ่ือ ซ้ือเคร่ืองเทศโดยตรง ในที่สุดกองทัพเรือของฮอลันดาก็สามารถยึดครองอานาจทางทะเลใน ค.ศ. 1598 และได้จัดต้งั สถานีการคา้ ในเกาะชวา และจดั ต้ังบริษทั อินเดียตะวนั ออกของฮอลนั ดา เพอ่ื ควบคมุ การค้าเครือ่ งเทศ ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ฮอลันดา เรอื ดุฟเกน (DUYFKEN) ของ ……………………………………………………………………………………………………….. ฮอลนั ดา ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. องั กฤษ กองทพั เรือของอังกฤษ ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………….. ผลการสารวจทางทะเล มดี ังนี้ 1. อารยธรรมยุโรปเผยแพร่ไปสู่ดนิ แดนอ่ืนๆ ทช่ี าวยโุ รปเดนิ ทางไปถึง โดย…………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ยุโรปไดร้ บั อารยธรรมจากดินแดนอ่ืนๆ เชน่ ……………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เกิดการแพรก่ ระจายของพันธ์พุ ชื และพนั ธุ์สัตว์ ชาวยโุ รปไดน้ าพันธุพ์ ชื จากถ่ินกาเนดิ ไปยังภมู ิภาคอนื่ ๆ เชน่ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. เกิดการระบาดของโรคภัยไขเ้ จบ็ ซึ่งมาพร้อมๆ กับเรือของชาวยุโรป โรคระบาดท่ีสาคัญ เชน่ .................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ศาสนาคริสต์ได้แผ่ขยายไปในดินแดนต่างๆ ที่ชาวยุโรปเข้าไปติดต่อค้าขาย หรือดินแดนท่ียุโรปได้เข้ายึดครองจัดต้ัง เปน็ อาณานิคม แบบสันตวิ ธิ ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบการรุนแรง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. การเปล่ียนแปลงระบบเศรษฐกิจของยุโรป การขยายตัวทางการค้าทาให้ สมาคมอาชีพ (GUILD) ท่ีมีมาต้ังแต่สมัย กลางล่มสลายลง การค้นพบดินแดนใหม่ส่งผลให้การค้า ขยายตัวอย่างรวดเร็ว นาไปสู่การปฏิวัติทางการค้า ประเทศต่างๆ ใน ตะวันตกต่างใช้นโยบาย แข่งขันทางเศรษฐกิจเป็นหลัก บรรดาพ่อค้าและนายทุนรวมตัวกันจัดต้ังบริษัทโดยมีกษัตริย์ให้ การ สนับสนุนทาการค้าในนามของประเทศ เช่น บริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ บริษัท อินเดียตะวันออกของฮอลันดา เป็นต้น ซ่ึงทาให้บรรดาพ่อค้าและนายทุนมีฐานะมั่นคงและกลาย เป็นบุคคลช้ันนาทางการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมใน เวลาต่อมา ********************* การปฏิรปู ศาสนา การปฏิรูปศาสนา (RELIGIOUS REFORMATION) เกิดข้ึนในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีสาเหตุ สาคัญมาจากความเส่ือม ความนิยมในผู้นาทางศาสนาและการเกิดแนวคิดใหม่เก่ียวกับศาสนา เนื่องจากมีการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและแปลออกเป็นภาษา ต่างๆ เช่น ภาษาองั กฤษ ฝรัง่ เศส เยอรมัน ทาให้ครสิ ตศ์ าสนิกชนมีความรู้ความเข้าใจใหม่ การปฏิรูปศาสนาจึงเกิดข้ึนในหลายๆ ประเทศ โดยมีผู้นาการปฏิรูปหลายคนและใช้ช่ือแตกต่างกันการปฏิรูปคริสต์ศาสนา หมายถึง ขบวนการในยุโรปตะวันตกที่ ปัจเจกชนและสถาบันต่างๆ แสดงความเห็นคัดค้านการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามหลักในคัมภีร์ไบเบิล การปฏิรูปเป็นไปอย่าง ต่อเน่อื ง จนในทสี่ ดุ คริสตศ์ าสนาในยโุ รปได้แตกแยกเปน็ 2 นิกาย คือโรมันคาทอลกิ และ โปรเตสแตนต์ สาเหตกุ ารปฏริ ปู ศาสนา มีดงั น้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การเริม่ ตน้ ปฏริ ปู ศาสนา ประเทศ ผนู้ าความ เหตุการณ์ความเปล่ียนแปลง เปล่ยี นแปลง ……………………………………………………………………………………………………………………… เยอรมนี มาร์ติน ลูเธอร์ ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………
ประเทศ ผู้นาความ เหตกุ ารณ์ความเปล่ยี นแปลง เปลย่ี นแปลง อุลริค ชวิงลี ……………………………………………………………………………………………………………………… สวิตเซอรแ์ ลนด์ ชาวเยอรมัน ……………………………………………………………………………………………………………………… ไฮริช บูลลงิ เจอร์ ……………………………………………………………………………………………………………………… และจอห์น คาลวิน ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… อังกฤษ พระเจา้ เฮนรีท่ี 8 ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ฝรัง่ เศส จอหน์ คาลวนิ หรอื ……………………………………………………………………………………………………………………… กัลแวง (JOHN ……………………………………………………………………………………………………………………… CALVIN : ค.ศ. ……………………………………………………………………………………………………………………… 1509-1564) ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… นิกายทางศาสนาท่เี กิดขน้ึ ใหมใ่ นคริสตศ์ ตวรรษที่ 16 นี้ คอื …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การปฏริ ูปศาสนาของคริสตจักร เม่ือมีการปฏิรูปศาสนาในดินแดนต่างๆ นักบวชและชาวคริสต์บางคนได้รวมตัวกันต่อต้าน และปฏิรูปตนเอง รวมทั้ง ชักชวนให้คริสต์ศาสนิกชนอื่นๆ ทาตาม บางท่านมีผู้เลื่อมใสและยกย่อง ให้เป็นนักบุญ เช่น บริจิตต์แห่งสวีเดน (BRIGITT OF SWEDEN) ฟรังซีสแห่งปาโอลา (FRANCIS OF PAOLA) ในอิตาลี และพวกปัญญาชนพยายามศึกษาเรื่องศาสนาและเผยแพร่สู่ ประชาชน ซึ่งการ ปฏิรูปดังกล่าวเป็นการปฏิรูปจากคริสต์ศาสนิกชนเบื้องล่าง แต่เม่ือการปฏิรูปศาสนาลุกลามไป อย่างรวดเร็ว คริสตจกั รจงึ ไดห้ าทางยับย้งั ดงั น้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลของการปฏิรูปการศาสนา มีดังน้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบกิจกรรมที่ 8 ประวตั ศิ าสตร์สากล ส 31104 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เรื่อง การปฏวิ ตั ิวิทยาศาสตร์และอตุ สาหกรรม ครูศริ ิมา เมฆปัจฉาพชิ ิต ชือ่ -สกุล .............................................................................. ชนั้ ............... เลขที่ ............ คาช้ีแจง ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเร่ืองการปฏิวัติวิทยาศาสตร์และการปฏิวัติอุตสาหกรรม พร้อมอธิบายหัวข้อต่างๆในแบบ กิจกรรมนี้ การปฏวิ ัตทิ างวทิ ยาศาสตร์ การฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการในช่วงคริสตศ์ ตวรรษท่ี 14-16 ถือว่าเปน็ การเริ่มต้นของการปฏิวัติ ทางวิทยาศาสตร์ เน่ืองจาก เปน็ ผลมาจากความรเู้ ก่ยี วกบั ธรรมชาติ การแสวงหาความรู้ใหมด่ ้วย การสงั เกต ทดลอง และการใชเ้ หตุผล ในยุคฟ้ืนฟูศิลปวิทยา การ ศลิ ปินที่สาคญั ต่างๆ ต่างใช้หลกั วชิ ากายวภิ าคศาสตร์ เช่น กล้ามเน้ือและโครงสร้างของมนุษย์มาสร้างสรรค์งานศิลปกรรม ทั้ง งานจิตรกรรมและประติมากรรมที่เน้นสัดส่วนและความงดงามของสรีระของมนุษย์อย่างแท้จริง ความสนใจในเรื่องการ เดนิ เรอื ทาให้มนษุ ยใ์ นยโุ รปสมยั กลางคดิ ประดษิ ฐ์เคร่ืองมือสาหรับการ เดินทาง เช่น เลนส์สาหรับกล้องส่องทางไกลและกล้องดู ดาว พัฒนาเทคนคิ การตอ่ เรือ เปน็ ตน้ จากยุคโบราณถึงยุคกลาง การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และปรัชญาเป็นวิชาแขนงเดียวกัน นอกจากนี้คริสต์ศาสนายังมี อิทธิพลครอบงาความรู้ด้านต่างๆ ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 จึงมีการแยกวิชาปรัชญาออกจากวิทยาศาสตร์ ซ่ึงในระยะแรกเป็น การศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ ส่วนปรัชญา เป็นเร่ืองการศึกษาความคิด วิธีการศึกษาในช่วงคริสต์ศตวรรษท่ี 16 ก็เปล่ียนไปจาก เดิมมาก ซ่ึง แต่เดิมเป็นความเชื่อตามศาสนาและเชื่อตามนักปราชญ์โบราณ ในยุคนี้ปัญญาชนได้ใช้วิ ธีสังเกต คิดประดิษฐ์ อปุ กรณ์มาช่วยในการสงั เกต และใช้การทดลองอย่างมเี หตุผล ทาให้วทิ ยาศาสตร์ ก้าวหน้ามากข้ึน ช่วยให้การศึกษาคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ มีความลึกซง้ึ มากกว่าเดมิ นอกจากน้ี ยังทาให้เกิดความรู้ด้านอนื่ ๆ พัฒนาข้ึนด้วย 1. นกั วทิ ยาศาสตร์และผลงานในชว่ งน้ี ไดแ้ ก่ บุคคลสาคัญ ผลการคน้ พบ/ขอ้ เสนอ/ทฤษฎตี ่างๆ นิโคลสั โคเปอร์นิคสั ......................................................................................................................................................... (NICOLUS COPERNICUS ......................................................................................................................................................... : ค.ศ. 1473 -1543) ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... กาลิเลโอ กาลิเลอิ ......................................................................................................................................................... (GALILEO GALILEI ......................................................................................................................................................... : ค.ศ. 1564 - 1642) ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... เซอร์ ฟรานซสิ เบคอน ......................................................................................................................................................... (SIR FRANCIS BACON ......................................................................................................................................................... : ค.ศ. 1561 -1626) ......................................................................................................................................................... เรอเน เดส์การส์ ......................................................................................................................................................... (RENE DESCARTES ......................................................................................................................................................... : ค.ศ. 1596- 1650) ......................................................................................................................................................... เซอร์ ไอแซก นวิ ตัน (SIR ......................................................................................................................................................... ISAAC NEWTON ......................................................................................................................................................... : ค.ศ. 1642- 1727) ......................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................
2. สาเหตทุ ี่ทาใหเ้ กิดการปฏวิ ัตทิ างวทิ ยาศาสตร์ สาเหตทุ ี่ทาใหเ้ กิดการปฏิวัตทิ างวทิ ยาศาสตร์ มี 2 ประการ ดังน้ี …………………………………………………………………………. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...................... ....................................................................................................................................................................................... .................. ......................................................................................................................................................................................................... 3. ผลของการปฏวิ ตั ิทางวิทยาศาสตร์ มดี ังน้ี 1. ทาให้เกิดความรู้ใหม่แตกแยกออกไปหลายสาขา ทั้งคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ พฤกษศาสตร์ และการแพทย์ ความรู้ทางวทิ ยาศาสตรไ์ ด้ถกู นามาประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ เชน่ ……………………………………………………………………………………….. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...................... 2. มอี ิทธพิ ลต่อความคิดและความเชอื่ ของชาวยุโรปก่อใหเ้ กดิ ……………………………………………………………………………….. ................................................................................................................................................. ........................................................ ....................................................................................................................................................................................... .................. 3. นาไปสกู่ ารปฏิวตั ทิ างภมู ิปญั ญา (INTELLECTUAL REVOLUTION) ในคริสต์ศตวรรษท่ี 18 อกี ดว้ ย ซ่ึงหมายถงึ ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...................... ....................................................................................................................................................................................... .................. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... *************************************** การปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรม (INDUSTRIAL REVOLUTION) หมายถึง กระบวนการเปลี่ยนแปลงใน วิธีการผลิตและระบบ การผลติ จากเดมิ ระบบการผลติ มักทากันภายในครอบควั พ่อค้ามกั เปน็ นายทุนซ้ือวัตถุดิบแล้วแจกจ่ายให้แต่ละครอบครัวรับมา ทา แล้วพ่อค้าจะรับผลิตภัณฑ์ที่สาเร็จ แล้วไปขาย คนงานก็จะได้ค่าจ้างเป็นการตอบแทน การผลิตสินค้าเดิมใช้แรงงานคน แรงงานสตั ว์ รวมท้งั พลังงานจากธรรมชาติ เคร่ืองมือแบบง่ายๆ มาเป็นการใช้เคร่ืองจักรกลแทน เร่ิมจากแบบ ง่ายๆ จนถึงแบบ ซับซ้อนท่ีมีกาลังผลิตสูง จนเกิดเป็นการผลิตในระบบโรงงาน (FACTORY SYSTEM) การผลิตภายในครอบครัวก็ค่อยๆ หมดไป และผ้คู นจานวนมากตามชนบทต้องอพยพเข้ามาทางานเป็นกรรมกรในโรงงาน การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกเกิดในประเทศอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้แพร่ขยายไปยังประเทศตะวันตก อื่นๆ ท่ัวโลก การปฏิวัติอุตสาหกรรมนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ท่ีมีผล กระทบต่อการเมืองการปกครอง สังคม เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรมของมนุษยชาตทิ ั่วโลก อังกฤษ : ผู้นาการปฏิวัติอุตสาหกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มต้นท่ีอังกฤษเพราะอังกฤษมีปัจจัยสนับสนุนการ ขยายตวั ทาง อตุ สาหกรรมครบถว้ น คือ มที นุ วตั ถุดิบ แรงงาน และตลาดการคา้ องั กฤษเปน็ ผูน้ าในการปฏวิ ัติเกษตรกรรม (AGRICULTURAL REVOLUTION) โดย…………………………………………………. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ....................... ....................................................................................................................................................................................... ..................
การเกษตรกรรมในอังกฤษได้ผลดีขึ้น ทาให้การค้าขายเจริญรุ่งเรืองขึ้น ประเทศมีความมั่งคั่งขึ้นใน ค.ศ. 1694 รัฐบาลจัดต้ัง ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BANK OF ENGLAND) เพื่อ…………………………………………………………………………………………………. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...................... ....................................................................................................................................................................................... .................. ......................................................................................................................................................................................................... ปัจจัยสาคัญท่ีทาให้อังกฤษเป็นประเทศผู้นาการปฏิวัติอุตสาหกรรม เน่ืองจากในระหว่างคริสต์ศตวรรษท่ี 17-18 อังกฤษมีอาณานิคมที่อยู่โพ้นทะเลที่เป็นแหล่งวัตถุดิบและตลาดท้ังใน ทวีปเอเชียและอเมริกา จนในที่สุดการค้าได้กลายเป็น นโยบายหลักของประเทศ เรือรบของอังกฤษ ทาหน้าที่รักษาเส้นทางทางการค้าทางทะเล และให้ความคุ้มครองแก่เรือพาณิชย์ที่ เดินทางไปค้าขายทั่วโลก ส่ิงเหล่านี้คือปัจจัยที่ทาให้ชาวอังกฤษคิดค้นประดิษฐ์เครื่องจักรมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอย่าง ต่อเนื่อง การปฏิวัติอุตสาหกรรมแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะแรกใน ระหว่าง ค.ศ. 1760-1840 เป็นระยะที่มีการประดิษฐ์เครื่องจักรช่วยในการผลิตและการปรับปรุง โรงงานอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพ และการปฏิวัติ อุตสาหกรรมระยะท่ี 2 ระหว่าง ค.ศ. 1861- 1865 เป็นการปรับปรุงการคมนาคมส่ือสาร ซึ่งเป็นผลมาจากความสาเร็จของ อตุ สาหกรรมเหลก็ และเครอื่ งจกั รไอน้า การปฏวิ ัติอุตสาหกรรมในระยะแรก คือ การประดษิ ฐ์เพ่อื ตอบสนองอตุ สาหกรรมการ ทอผ้า เชน่ ปคี ริสต์ศกั ราช บคุ คลสาคัญ ผลงานของบุคคลสาคญั ค.ศ. 1733 จอห์น เคย์ .................................................................................................................................... (JOHN KAY) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1764 เจมส์ ฮาร์กรีฟส์ .................................................................................................................................... (JAMES .................................................................................................................................... HARGREAVES) .................................................................................................................................... ค.ศ. 1769 ริชารด์ อาร์กไรต์ .................................................................................................................................... (RICHARD .................................................................................................................................... ARKWRIGHT) .................................................................................................................................... ค.ศ. 1793 วิตนยี ์ .................................................................................................................................... (ELI WHITNEY) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1769 เจมส์ วัตต์ .................................................................................................................................... (JAMES WATT) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1769 เฮนรี คอร์ต .................................................................................................................................... (HENRY CORT) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1807 นกั ธุรกิจชาวองั กฤษ .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1851 นทิ รรศการครั้งใหญ่ .................................................................................................................................... (GREAT EXHIBITION) .................................................................................................................................... ....................................................................................................................................
การปฏวิ ตั ิอตุ สาหกรรมระยะที่ 2 เป็นการปรับปรุงการคมนาคมสื่อสาร ซึ่งเป็นผลมาจากความสาเร็จของอุตสาหกรรม เหล็กและเครอ่ื งจักรไอน้า ปี บุคคลสาคญั ผลงานของบุคคลสาคัญ ครสิ ต์ศักราช .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1804 รชิ าร์ด เทรวที กิ .................................................................................................................................... (RICHARD TREVITICK) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1789 ฝ ร่ั ง เ ศ ส ภ า ย ห ลั ง ก า ร .................................................................................................................................... ปฏวิ ตั ิใน ค.ศ. 1789 .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1807 โรเบิรต์ ฟุลตัน .................................................................................................................................... (ROBERT FULTON) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1840 แซม มวล คนู าร์ด .................................................................................................................................... (SEMUEL CUNARD) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... คารล์ เบนซ์ .................................................................................................................................... ค.ศ. 1857 และกอตต์ลบี เดมเลอร์ .................................................................................................................................... (KARL BENZ & .................................................................................................................................... GOTTLIEB DAIMLER) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1812 วงการการพิมพ์ .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ปลาย แซมมวล มอรส์ .................................................................................................................................... ครสิ ต์ศตวรรษ (SEMUEL MORSE) .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ที่ 19 อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม .................................................................................................................................... ค.ศ. 1837 เบลล์ (ALEXANDER .................................................................................................................................... GRAHAM BELL) ............................................................................................................................. ....... .................................................................................................................................... ค.ศ. 1876 วงการการโทรเลข .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ธอมัส แอลวา เอดสิ ัน .................................................................................................................................... ค.ศ. 1901 (THOMAS ALVA .................................................................................................................................... EDISON) ....................................................................................................................................
ผลของการปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม มดี ังน้ี 1. ประชากรท่ัวโลกเพิม่ ข้นึ อยา่ งรวดเรว็ ........................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... 2. การก่อสร้างอาคารบ้านเรอื นและสถาปัตยกรรมพัฒนาก้าวหนา้ มากขึน้ ...................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...................... ....................................................................................................................................................................................... .................. 3. เกิดปัญหาสงั คมต่างๆ มากมาย เช่น ............................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ...................... ....................................................................................................................................................................................... .................. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... 4. เกิดลทั ธิเสรนี ิยม (LIBERALISM) .................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................................... .................. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... กล่าวได้ว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรมก่อให้เกิดการแบ่งค่ายระหว่างลัทธิทุนนิยมกับลัทธิ สังคมนิยมอย่างเป็นรูปธรรม ต่อมาใน ค.ศ. 1889 ได้มีการประกาศให้วันท่ี 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันเมย์เดย์หรือวันแรงงานสากล (MAY DAY) นอกจากน้ียังทาให้เกิดวรรณกรรมแนวสัจนิยม (REALISM) ในกลางคริสต์ศตวรรษท่ี 19 ที่พยายามเสนอเรื่องความเป็นจริง เบื้องหลัง ความสาเร็จ ของระบบสังคมอุตสาหกรรม ทชี่ นชั้นกรรมกรมชี วี ิตท่ียากไร้และถกู เอารัดเอาเปรยี บ 5. การปฏวิ ตั ิทางอตุ สาหกรรมได้ขยายไปท่วั ภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก .................................................................................. ......................................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................
ใบกจิ กรรมที่ 9 ประวตั ิศาสตร์สากล ส 31104 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 เรื่อง ลัทธิ ทั้ง 4 ครศู ริ มิ า เมฆปัจฉาพิชิต ชอ่ื -สกลุ .............................................................................. ชน้ั ............... เลขท่ี ............ คาช้ีแจง ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเรื่องลัทธิเสรีนิยม ลัทธิจักรวรรดินิยม ลัทธิชาตินิยม และลัทธิสังคมนิยม พร้อมให้นักเรียน วิเคราะห์และอธบิ ายประเดน็ ท่กี าหนดให้ถูกต้อง แนวคิด ลกั ษณะสาคญั ของแนวคิด อิทธิพลทีม่ ีต่อโลก ลัทธิเสรีนยิ ม ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ลัทธิจกั รวรรดินยิ ม ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ลัทธิชาตินิยม ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ลัทธสิ งั คมนยิ ม ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………………………………………… ……………………………………………………….. ……………………………………………………………………
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวชิ า ส 31104 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ หนว่ ยกติ 0.5 (นน./นก.) ระยะเวลา 10 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง สถานการณข์ องโลกในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 10 เรอ่ื ง ปัญหาของโลกในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 ระยะเวลา 4 ชั่วโมง ....................................................................................... ....................................................................................................... 1. สาระสาคัญ สถานการณ์ของโลกยุคปัจจุบันมีปัญหาท้ังทางด้านการเมือง การขาดแคลนทรัพยากร การก่อการร้าย และการ ตอ่ ตา้ นการกอ่ การรา้ ย ความขัดแยง้ ทางศาสนา ส่งผลกระทบตอ่ สภาพความเปน็ อยขู่ องมนุษย์ 2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของ เหตกุ ารณ์อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถวิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้น ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ ส 4.2 ม.4-6/4 วเิ คราะห์สถานการณข์ องโลกในคริสตศ์ ตวรรษที่ 21 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge ปัญหาของโลกในคริสตศ์ ตวรรษที่ 21 - ปัญหาดา้ นการเมือง o การขาดดุลยภาพทางการเมืองระหว่างประเทศ o การขยายตัวของลัทธิก่อการรา้ ย (Terrorism) - ปญั หาด้านเศรษฐกจิ o ความยากจน o การขาดแคลนทรพั ยากรธรรมชาติ - ปัญหาดา้ นสงั คม o สงิ่ แวดล้อม o ความเส่ือมของวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาท้องถ่ิน 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process เน้นให้นักเรียนได้ทางานเป็นกลุ่ม ร่วมศึกษาปัญหาและเหตุการณ์สาคัญซึ่งเป็นผลพวงมาจากยุคกลาง และยคุ ใหมข่ องมนุษยชาติ ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กิดปญั หามากมายทค่ี นในยุคปัจจุบันกาลังเร่งคลค่ี ลายปัญหา 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ติดตามข่าวสาร และร้จู กั การวเิ คราะห์ สังเคราะหข์ ้อมลู อย่างมเี หตุผล 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ไขปัญหา 5. คุณลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม 6. คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุง่ มน่ั ในการทางาน 3. ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต 7. ชนิ้ งาน/ภาระงาน : - รายงานการศึกษาปัญหาของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 - แบบทดสอบวัดความรู้ ก่อนเรียนและหลังเรียน เร่ือง ปัญหาของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 (ผ่านโปรแกรม Plicker) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 – 3 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝเ่ รียนรู้ และมีความมงุ่ มน่ั ในการทางาน / กระบวนการกลุม่ ) 1. ทาแบบทดสอบวดั ความรกู้ อ่ นเรยี น เร่ือง ปัญหาของโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 2. แบ่งกลุ่มนักเรียน กล่มุ ละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง ปัญหาของ โลกในคริสตศ์ ตวรรษที่ 21 ปญั หาด้านการเมือง ได้แก่ การขาดดุลยภาพทางการเมืองระหว่างประเทศ และ การขยายตวั ของลัทธิกอ่ การร้าย (Terrorism) แล้วสรุปเปน็ แผนผังความคดิ ลงในสมดุ 3. แบง่ กล่มุ นักเรยี น กลมุ่ ละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง ปัญหาของ โลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 ปญั หาด้านเศรษฐกจิ ไดแ้ ก่ ความยากจน และการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ แล้วสรปุ เป็นแผนผังความคิดลงในสมุด 4. แบง่ กลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง ปัญหาของ โลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ปัญหาด้านสังคม ได้แก่ ปัญหาส่ิงแวดล้อม และความเส่ือมของวัฒนธรรมและ ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ แล้วสรุปเป็นแผนผังความคดิ ลงในสมดุ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบจากปัญหาของโลกในคริวต์ศตวรรษท่ี 21 แล้วสรุป สาระสาคญั จัดทารายงานสรุป เรื่อง ปญั หาของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 ช่วั โมงท่ี 4 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ซ่อื สตั ยส์ ุจริต / ประเมินผลโดยแบบทดสอบวัดความรู้) 1. ทบทวนความรเู้ รื่องปญั หาของโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 2. ทาแบบทดสอบวัดความรหู้ ลงั เรยี น เร่ือง ปัญหาของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 3. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบทดสอบวัดความรหู้ ลงั เรียน เรือ่ ง ปัญหาของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21 4. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปบทเรียนในหน่วยการเรียน
9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ รายการสอ่ื สภาพการใชส้ อ่ื 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น ขน้ั ตรวจสอบความรูเ้ ดิม 2. วดี ิทัศนแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรอ่ื ง ปัญหาของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ ขั้นสรา้ งความสนใจ,ขัน้ ขยายความรู้ 21 ปัญหาด้านการเมือง 3. วดี ทิ ัศนแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง ปญั หาของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี ขัน้ สร้างความสนใจ,ขัน้ ขยายความรู้ 21 ปัญหาด้านเศรษฐกิจ 4. วดี ิทศั นแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรอ่ื ง ปญั หาของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ ขั้นสรา้ งความสนใจ,ขน้ั ขยายความรู้ 21 ปัญหาดา้ นสงั คม 5. แบบทดสอบหลังเรียน ขน้ั ตรวจสอบความรู้ใหม่ 10. การวัดผลและประเมนิ ผล เป้าหมาย หลักฐานการเรียนรู้ ประเดน็ / การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน วิธีวดั เครื่องมอื วดั ฯ เกณฑ์การให้ คะแนน สถานการณ์ของโลก 1. แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบ 5 คอื ดีเยย่ี ม ยุคปัจจุบันมีปัญหา ก่อนเรยี น 4 คือ ดีมาก ท้ังทางด้านการเมือง 2. วีดิทัศน์และภาพประกอบคา 3 คอื ดี ก า ร ข า ด แ ค ล น บรรยาย เร่อื ง ปัญหาของโลก การถามตอบของครแู ละ แผนผงั ความคิด 2 คือ พอใช้ 1 คือ ควร ทรัพยากร การก่อ ในคริสตศ์ ตวรรษที่ 21 ปัญหา นกั เรยี น การร้าย และการ ด้านการเมือง ปรบั ปรงุ ต่อต้านการก่อการ 3. วีดิทัศนแ์ ละภาพประกอบคา 0 คอื ไม่ผ่าน ร้าย ความขัดแย้ง บรรยาย เร่ือง ปญั หาของโลก การถามตอบของครูและ แผนผังความคดิ ทางศาสนา ส่งผล ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ปัญหา นักเรยี น ก ร ะ ท บ ต่ อ ส ภ า พ ดา้ นเศรษฐกิจ คว า ม เ ป็ น อ ยู่ ข อ ง 4. วีดิทศั นแ์ ละภาพประกอบคา มนษุ ย์ บรรยาย เร่ือง ปัญหาของโลก การถามตอบของครูและ แผนผงั ความคดิ ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ปัญหา นักเรียน แบบทดสอบ ดา้ นสังคม หลงั เรยี น 6. แบบทดสอบหลังเรียน แบบทดสอบหลงั เรยี น ลงช่ือ .................................................. ผู้สอน (นางสาวศริ ิมา เมฆปัจฉาพชิ ติ )
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา ส 31104 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์ หน่วยกติ 0.5 (นน./นก.) ระยะเวลา 10 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง สถานการณข์ องโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 21 แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 11 เรื่อง เหตุการณ์สาคญั ของโลกในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 21 ฯ ระยะเวลา 6 ชวั่ โมง ....................................................................................... ....................................................................................................... 1. สาระสาคญั สถานการณ์ของโลกยุคปัจจุบันมีปัญหาทั้งทางด้านการเมือง การขาดแคลนทรัพยากร การก่อการร้าย และการ ต่อตา้ นการกอ่ การร้าย ความขดั แยง้ ทางศาสนา ส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยขู่ องมนุษย์ 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ดั ช้นั ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของ เหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เน่ือง ตระหนกั ถึงความสาคญั และสามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดข้นึ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ ส 4.2 ม.4-6/4 วิเคราะหส์ ถานการณ์ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge เหตกุ ารณ์สาคญั ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 และผลกระทบ - เหตกุ ารณ์ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 - สงครามในอัฟกานิสถาน - สงครามอิรกั - การประชมุ แกไ้ ขปัญหาภาวะโลกร้อน - ปญั หาวิกฤตเศรษฐกจิ โลก 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process เน้นให้นักเรียนได้ทางานเป็นกลุ่ม ร่วมศึกษาปัญหาและเหตุการณ์สาคัญซ่ึงเป็นผลพวงมาจากยุคกลาง และยคุ ใหม่ของมนุษยชาติ ซ่ึงกอ่ ให้เกดิ ปญั หามากมายที่คนในยุคปจั จบุ ันกาลงั เร่งคล่คี ลายปญั หา 3.3 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ ตดิ ตามข่าวสาร และรจู้ ักการวิเคราะห์ สังเคราะหข์ ้อมลู อย่างมเี หตุผล 4. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ไขปญั หา 5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ
- ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 3. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - แผนผงั ความคดิ สรุปสาเหตุและผลกระทบของความขดั แย้งทางเชอื้ ชาติและศาสนาในสังคมปจั จบุ นั - Pop up ภาวะโลกรอ้ น และวิกฤตการณ์พลังงานและสิง่ แวดลอ้ ม - แบบทดสอบวัดความรู้ ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง เหตุการณ์สาคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 และ ความขัดแยง้ ทางด้านเชื้อชาติและศาสนา (ผ่านโปรแกรม Plicker) 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 – 5 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ และมีความมงุ่ ม่ันในการทางาน / กระบวนการกลมุ่ ) 1. ทาแบบทดสอบวดั ความรู้กอ่ นเรยี น เร่ือง เหตุการณ์สาคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 และความขัดแย้ง ทางด้านเชอ้ื ชาตแิ ละศาสนา 2. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง เหตุการณ์ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 แล้วสรปุ เปน็ แผนผังความคิดลงในสมดุ 3. แบง่ กลมุ่ นกั เรยี น กลมุ่ ละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง สงครามใน อฟั กานสิ ถาน แล้วสรปุ เป็นแผนผงั ความคิดลงในสมุด 4. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง สงคราม อิรกั แล้วสรปุ เป็นแผนผังความคิดลงในสมุด 5. แบ่งกล่มุ นกั เรียน กลมุ่ ละ 6 – 10 คน รว่ มกนั ศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง การประชุม แกไ้ ขปัญหาภาวะโลกร้อน แล้วสรุปเป็นแผนผงั ความคิดลงในสมดุ 6. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 6 – 10 คน ร่วมกันศึกษาวีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง ปัญหา วิกฤตเศรษฐกจิ โลก แลว้ สรุปเป็นแผนผงั ความคิดลงในสมุด 7. ครูและนักเรียนร่วมกันวิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบจากเหตุการณ์สาคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 และความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติและศาสนา และจัดทา Pop up ภาวะโลกร้อน และวิกฤตการณ์พลังงาน และส่งิ แวดล้อม ชัว่ โมงที่ 6 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ / ประเมนิ ผลโดยแบบทดสอบวัดความรู้) 1. ทบทวนความรู้เรื่องเหตุการณ์สาคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 และความขัดแย้งทางด้านเช้ือชาติและ ศาสนา 2. ทาแบบทดสอบวัดความรู้หลงั เรียน เร่ือง เหตุการณ์สาคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 และความขัดแย้ง ทางดา้ นเชื้อชาติและศาสนา 3. นกั เรียนและครูร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบวดั ความรหู้ ลังเรยี น เรอื่ ง เหตุการณ์สาคญั ของโลกในคริสต์ศตวรรษ ท่ี 21 และความขดั แย้งทางดา้ นเช้อื ชาตแิ ละศาสนา 4. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรปุ บทเรยี นในหนว่ ยการเรยี น
9. ส่อื การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ สภาพการใช้สอ่ื ข้นั ตรวจสอบความร้เู ดิม รายการสื่อ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ข้นั สร้างความสนใจ วีดทิ ศั นแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรอ่ื ง เหตุการณ์ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ขัน้ สร้างความสนใจ วีดิทัศนแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรอื่ ง สงครามในอัฟกานสิ ถาน ขน้ั สร้างความสนใจ วีดิทศั นแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง สงครามอริ กั วีดิทัศนแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง การประชมุ แก้ไขปญั หาภาวะโลก ขน้ั สร้างความสนใจ รอ้ น วีดิทศั นแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง ปัญหาวกิ ฤตเศรษฐกจิ โลก ขัน้ สรา้ งความสนใจ Pop up ภาวะโลกร้อน และวิกฤตการณ์พลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม ข้นั ขยายความรู้ แบบทดสอบหลังเรียน ขั้นตรวจสอบความรู้ใหม่ 10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ ประเด็น/ การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน วิธวี ดั เคร่ืองมือวัดฯ เกณฑก์ ารให้ คะแนน ส ถ า น ก า ร ณ์ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อน แบบทดสอบ 5 คือ ดีเยย่ี ม ข อ ง โ ล ก ยุ ค เรียน ก่อนเรียน 4 คือ ดีมาก ปั จ จุ บั น มี 2. วีดิทศั นแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง การถามตอบของ แผนผงั 3 คอื ดี ปั ญ ห า ท้ั ง เหตกุ ารณ์ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 2 คอื พอใช้ ครูและนกั เรียน ความคิด 1 คือ ควร ท า ง ด้ า น 3. วีดิทัศนแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เรื่อง การถามตอบของ ปรับปรงุ การเมือง การ สงครามในอฟั กานสิ ถาน แผนผัง 0 คอื ไมผ่ ่าน ครูและนกั เรยี น ความคดิ ข า ด แ ค ล น 4. วีดิทัศน์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง การถามตอบของ แผนผัง ทรัพยากร การ สงครามอิรกั ความคดิ ก่ อ ก า ร ร้ า ย ครูและนักเรยี น และการต่อต้าน แผนผัง การก่อการร้าย 5. วีดิทศั นแ์ ละภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง การถามตอบของ ความคิด การประชมุ แก้ไขปัญหาภาวะโลกรอ้ น ครแู ละนักเรยี น ค ว า ม ขั ด แ ย้ ง 6. วดี ิทศั น์และภาพประกอบคาบรรยาย เร่ือง การถามตอบของ แผนผงั ท า ง ศ า ส น า ปญั หาวกิ ฤตเศรษฐกจิ โลก ครแู ละนกั เรยี น ความคิด ส่งผลกระทบ 7. Pop up ภาวะโลกร้อน และวิกฤตการณ์ คว ามเข้าใจจา ก Pop up ต่อสภาพความ พลงั งานและสิง่ แวดลอ้ ม เ ป็ น อ ยู่ ข อ ง ผลงานท่สี ร้าง มนุษย์ 8. แบบทดสอบหลงั เรียน แบบทดสอบหลงั แบบทดสอบ เรยี น หลงั เรยี น ลงชอื่ .................................................. ผู้สอน (นางสาวศริ มิ า เมฆปัจฉาพิชติ )
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: