Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 03 สังคมศึกษา ม.4 ข้อสอบปลายภาค 61

03 สังคมศึกษา ม.4 ข้อสอบปลายภาค 61

Description: 03 สังคมศึกษา ม.4 ข้อสอบปลายภาค 61

Search

Read the Text Version

แบบทดสอบกลางภาคเรียน โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ แบบทดสอบรายวิชาสังคมศึกษาฯ รหัสวิชา ส 31101 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 1.0 นก./นน. จานวน 20 คะแนน เวลาใชส้ อบ 60 นาที ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2561คาชี้แจง : ************************************* 1. แบบทดสอบน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลางภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 ระดับช้ัน มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ตามตัวชวี้ ดั ในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวชิ า ส 31101 ดงั นี้ มาตรฐาน ส 5.๑ เข๎าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธข์ องสรรพส่งิ ซง่ึ มีผลตํอกัน ใช๎แผนท่ีและเครื่องมือทาง ภูมศิ าสตร์ในการคน๎ หา วิเคราะห์ และสรปุ ข๎อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช๎ภูมิสานสนเทศ อยํางมปี ระสิทธภิ าพ ส 5.1 ม.4-6/1 ใช๎เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอขอ๎ มูลภมู สิ ารสนเทศอยาํ งมปี ระสทิ ธิภาพ ส 5.1 ม.4-6/3 วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของพื้นท่ีซึ่งได๎รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวีปตาํ งๆ 2. ลักษณะแบบทดสอบ แบบทดสอบฉบับนมี้ ี 8 หน้า แบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 สํวนที่ 1 แบบปรนัย (เลอื ก 1 คาตอบ) จานวน 20 ข๎อ สํวนที่ 2 แบบปรนัย (เลอื กตอบเชิงซอ๎ น) จานวน 3 ข๎อ สวํ นที่ 3 แบบปรนัย (เลอื กตอบกลมุํ สัมพนั ธ์) จานวน 2 ข๎อ ตอนที่ 2 แบบอตั นัย (เขยี นตอบคาตอบ) จานวน 2 ข๎อ รวมทัง้ สน้ิ 27 ข้อ 3. เกณฑก์ ารให้คะแนน (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) ตอนท่ี 1 สวํ นที่ 1 แบบปรนัยเลอื กตอบ 1 คาตอบ ข๎อละ 0.5 คะแนน รวม 10 คะแนน สํวนที่ 2 แบบปรนยั เลอื กตอบเชิงซอ๎ น ข๎อละ 1 คะแนน รวม 3 คะแนน สวํ นท่ี 3 แบบปรนัยเลือกตอบแบบกลมํุ สมั พันธ์ ข๎อละ 1 คะแนน รวม 2 คะแนน ตอนที่ 2 แบบอตั นยั (เขียนเตมิ คาตอบ) ขอ๎ ละ 2.5 คะแนน รวม 5 คะแนน รวมท้ังส้ิน 20 คะแนน 4. ขอ้ ปฏบิ ัตใิ นการสอบ 4.1 แตํงกายด๎วยชุดนกั เรยี นใหส๎ ภุ าพเรียบร๎อย ตามข๎อบงั คับของโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 4.2 หา๎ มนาหนงั สือ/เอกสารเข๎าไปในทนี่ ่งั สอบ และหา๎ มทาเคร่ืองหมายใด ๆ ลงแบบทดสอบที่แจกให๎ 4.3 หา๎ มนาเครื่องคิดเลขเข๎าหอ๎ งสอบ อนญุ าตใหน๎ ักเรียนคดิ เลขไดใ๎ นดา๎ นหลงั ของกระดาษคาตอบ 4.4 หา๎ มนกั เรยี นนาข๎อสอบและกระดาษคาตอบออกห๎องสอบ จะตอ๎ งสงํ คนื กรรมการควบคุมหอ๎ งสอบเม่อื สอบเสรจ็ 4.5 ห๎ามนักเรียนสํงเสียงดังรบกวนผ๎ูอื่น เม่ือมีข๎อสงสัยหรือต๎องการส่ิงใดให๎ยกมือสอบถาม หรือขอความชํวยเหลือจาก กรรมการควบคุมหอ๎ งสอบ หากพบการทุจริตในการสอบในครง้ั นจ้ี ะปรับตกรายวชิ านท้ี ันที 4.6 ให๎นักเรียนดึงกระดาษคาตอบ แยกออกจากขอ๎ สอบกอํ นลงมือทา เพื่อการจดั เก็บข๎อสอบและกระดาษคาตอบแยกจาก กันของกรรมการคมุ สอบ

แบบทดสอบรายวิชาสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 หน๎าท่ี : 2ตอนที่ 1 ส่วนที่ 1 แบบปรนัยเลือกตอบ ให๎นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต๎องเพียงคาตอบเดียว โดยทาเครื่องหมายกากบาท (X) ในกระดาษคาตอบหลังแบบทดสอบ (จานวน 20 ข๎อ ขอ๎ ละ 0.5 คะแนน ตอบถกู ได๎ 0.5 คะแนน ตอบผดิ ได๎ 0 คะแนน รวม 10 คะแนน)ใหน๎ ักเรียนดแู ผนท่ที ่ีกาหนดใหแ๎ ลว๎ ตอบคาถามข๎อที่ 1 – 31. แผนที่ที่กาหนดให๎ คือแผนท่ีชนิดใด ท่ีมกี ารอธิบายไดอ๎ ยาํ งถกู ตอ๎ ง (ส 5.1 ม.4-6/1 : เข๎าใจ) ก. แผนทล่ี ายเส๎น คือ แผนท่ีแสดงรายละเอียดด๎วยเส๎นท่ปี ระกอบกันเปน็ แผนท่ี โดยมแี สดงรายละเอียดด๎วยสที ีแ่ ตกตาํ งกนั ข. แผนท่ีรปู ถาํ ย คือ แผนที่แสดงรายละเอยี ดผํานทางภาพถาํ ยทมี่ กี ารลงลายละเอยี ดขอบรปู ภาพด๎วยเส๎นโครงและตารางกรดิ ตามขนาดของแผนที่ โดยแสดงรายละเอียดด๎วยสี และชัน้ ขอ๎ มลู ท่ีแยกจากกนั ได๎ ค. แผนท่ีลายเสน๎ คอื เป็นแผนท่ีแสดงรายละเอยี ดในพน้ื ที่ด๎วยเสน๎ และองค์ประกอบของเสน๎ ซ่งึ อาจเปน็ เส๎นตรง เส๎นโค๎ง ทอํ นเส๎นหรือเส๎นใด ๆ ท่ีประกอบเป็นรูปแบบตําง ๆ ง. แผนที่รปู ถําย คือ เป็นแผนท่ีซึง่ มีรายละเอียดในแผนทท่ี ่ไี ด๎จากการถาํ ยภาพด๎วยกล๎องถาํ ยภาพ ซง่ึ อาจถํายภาพจากเคร่ืองบินหรอืดาวเทยี ม การผลิตแผนทที่ าดว๎ ยวธิ ีการนาเอาภาพถาํ ยมาทาการดดั แก๎ แล๎วนามาตอํ เปน็ ภาพแผํนเดียวกนั ในบรเิ วณที่ตอ๎ งการ แล๎วนามาใสเํ ส๎นโครงพกิ ดั ใสรํ ายละเอียดประจาขอบระวาง จ. แผนท่ีแบบผสม คือ เป็นแบบทผี่ สมระหวาํ งแผนทล่ี ายเส๎นกบั แผนท่ภี าพถําย โดยรายละเอยี ดท่เี ปน็ พน้ื ฐานสํวนใหญํจะเปน็รายละเอียดทไี่ ดจ๎ ากการถาํ ยภาพ สวํ นรายละเอยี ดท่ีสาคญั ๆ ที่ต๎องการเน๎นให๎เห็นเดํนชดั กแ็ สดงดว๎ ยลายเส๎น2. ข๎อใดคอื ประโยชน์ของแผนทแ่ี สดงลักษณะทางกายภาพทเี่ หน็ ไดเ๎ ดํนชดั ทีส่ ุด (ส 5.1 ม.4-6/1 : วิเคราะห์) ก. เพอ่ื พัฒนาคุณภาพชวี ิตของประชาชน ข. เพ่อื วางแผนยุทธศาสตร์ทางการทหาร ค. เพอื่ กาหนดอาณาเขตเพอ่ื การบรหิ ารงบประมาณ ง. เพ่ือการแก๎ไขปัญหาแนวพรมแดนระหวาํ งประเทศ จ. เพือ่ วางแผนพฒั นาธรรมชาติและพฒั นาขนึ้ เป็นแหลงํ ทอํ งเทยี่ ว

แบบทดสอบรายวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หนา๎ ที่ : 33. ขอ๎ ใดกลําวถงึ รปู ถํายทางอากาศไมํถกู ตอ๎ ง (ส 5.1 ม.4-6/1 : วเิ คราะห์)ก. รูปถาํ ยทางอากาศสํวนใหญํ มขี นาด 9x9 นิว้ข. รปู ถํายทางอากาศท่ีถํายในแนวดิง่ สามารถนามาศกึ ษาในลักษณะภาพสามมติ ไิ ด๎ค. รูปถํายทางอากาศท่ีถํายในแนวเฉยี ง สามารถมองเห็นทอ๎ งฟ้าก็ได๎ มองไมํเห็นกไ็ ด๎ง. รปู ถํายทางอากาศสามารถมองดว๎ ยกลอ๎ งสามมติ ิ แบบเลนส์เดย่ี ว เพ่ือใหเ๎ ห็นความสูงตา่ ของขอ๎ มลูจ. รปู ถาํ ยทางอากาศสามารถมองเหน็ ไดด๎ ว๎ ยตาเปลาํ ในภาพท่มี ีรายละเอยี ดไมซํ ับซอ๎ นและมาตราสวํ นขนาดใหญํ4. ดาวเทียมในขอ๎ ใดจบั คูํการใช๎ประโยชนไ์ มํถูกต๎อง (ส 5.1 ม.4-6/1 : เข๎าใจ)ก. LandSat – ใช๎สารวจทรพั ยากรธรรมชาติ ข. NoAA – ใชต๎ ดิ ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศค. ThaiCom – ใชร๎ บั และสงํ สัญญาณดาวเทยี ม เพอ่ื การส่อื สาร ง. GeoEye 1 – ใชส๎ ารวจเพอ่ื การทาแผนท่ีจ. CoRoNa – ใชส๎ าหรับการวางผงั เมอื ง5. ในการศึกษาภมู อิ ากาศของจังหวดั เชยี งใหมไํ มสํ ามารถใชข๎ อ๎ มลู จากขอ๎ ใด (ส 5.1 ม.4-6/1 : วเิ คราะห)์ก. รูปถํายทางอากาศ 1 : 25,000 และบารอมิเตอร์ ข. ภาพถํายจากดาวเทยี ม 1 : 50,000 และเทอร์โมมิเตอร์ค. แผนทค่ี วามกดอากาศ 1 : 2,000,000 และไซโครมิเตอร์ ง. สถติ ภิ ูมอิ ากาศประเทศไทย 30 ปี และสถานตี รวจอากาศจ. ไมมํ ีขอ๎ ใดถูกต๎อง6. ขอ๎ ใดกลําวถึงองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศภมู ิศาสตรผ์ ิด (ส 5.1 ม.4-6/1 : เขา๎ ใจ)ก. ข๎อมูลและสารสนเทศ คือ ขอ๎ มลู เฉพาะเร่อื งที่สามารถนาไปใชใ๎ นการตอบคาถามตํางๆได๎ถามวตั ถปุ ระสงค์ มีความถกู ตอ๎ ง และเชื่อถือได๎ข. ระบบฮาร์ดแวร์ ประกอบด๎วย คอมพวิ เตอร์ อปุ กรณ์อํานข๎อมูล อุปกรณ์เกบ็ รักษาขอ๎ มลู และอุปกรณ์การนาเขา๎ ข๎อมลูค. ซอฟแวร์ทางาน คือ โปรแกรมที่ใช๎ในการจดั การระบบและส่งั งานตาํ งๆเพ่ือใหฮ๎ าร์ดแวรท์ างานง. กระบวนการวเิ คราะหแ์ ละขั้นตอนการทางาน เป็นขนั้ ตอนทจี่ ะตดั สนิ ขอ๎ มลู วาํ สาคญั หรือไมํ และออกแบบกระบวนการคดิ ตัดสินใจเพ่อื การนาขอ๎ มูลไปใช๎ในหลากหลายกจิ กรรมตามท่ีตอ๎ งการจ. บคุ ลากร คอื ผู๎ทที่ าหนา๎ ทีจ่ ัดการองค์ประกอบท้ัง 4 ขา๎ งต๎นทางานประสานกันอยาํ งมปี ระสิทธภิ าพ7. นักภมู ิศาสตร์คนหน่ึงตอ๎ งการสารวจเส๎นทางภายในเหมอื งถํานหินและบรเิ วณโดยรอบเพ่อื จดั ทาแผนท่ีของเหมืองถํานหนิ ท่จี ะพฒั นาเป็นแหลํงทํองเท่ียวอกี แหงํ ของจงั หวดั อยากทราบวาํ นกั ภูมิศาสตร์คนนจี้ ะต๎องใชเ๎ ครอ่ื งมือทางภูมศิ าสตร์ในขอ๎ ใดทีเ่ หมาะสมทส่ี ดุ (ส 5.1ม.4-6/1 : เข๎าใจ)ก. รูปถํายทางอากาศบรเิ วณเหมืองถาํ นหนิ ของบรษิ ทั ขุดเจาะเหมอื งถาํ นหนิ ในแนวเฉียงข. รปู ถํายทางอากาศบรเิ วณเหมืองถาํ นหินของบริษทั ขุดเจาะเหมอื งถํานหินในแนวดงิ่ค. แผนทก่ี ารขุดเจาะถาํ นหนิ ของบรษิ ัทขุดเจาะเหมอื งถํานหนิง. ภาพถาํ ยจากดาวเทียม ในระบบการทางานแบบพาสซีฟจ. ภาพถํายจากดาวเทียม ในระบบการทางานแบบแอกทีฟ8. ใครไมไํ ดใ๎ ช๎ประโยชน์จากระบบกาหนดตาแหนํงบนพ้นื โลก (ส 5.1 ม.4-6/1 : นาไปใช)๎ก. นารี เดินทางไปโรงเรยี นวนั แรก ข. ราตรี เดินทางไกลอยคํู าํ ยพักแรมค. กีรณา ขับรถข๎ามจังหวัดไปเยี่ยมญาติ ง. วิฬาร ตามสญั ญาณมอื ถอื เพอื่ ดกั จับภรรยาและกิก๊ ของเธอจ. สตี สํงสถานทที่ ตี่ นเองอยใูํ นโปรแกรมไลนใ์ หเ๎ พอ่ื น เพอ่ื รวมตวั กนั9. ข๎อใดไมใํ ชกํ ารนาประโยชนข์ อง GPS มาประยุกตใ์ ช๎ (ส 5.1 ม.4-6/1 : เข๎าใจ)ก. การขนสงํ สินคา๎ เพ่อื ตรวจสอบข๎อมูลการเคลอ่ื นไหว ตาแหนํงข. การใชป๎ ระโยชน์ท่ดี ินในการหาพ้ืนท่ี วัดพ้นื ทีห่ าคาํ พิกดั ได๎ในความละเอยี ดสงูค. การตดิ ตามภัยพบิ ัติธรรมชาติ ทาใหเ๎ ห็นถึงขอบเขตพ้ืนทเ่ี กดิ อบุ ตั ิภัยง. ดา๎ นการกีฬา เพอื่ ชํวยในการคานวณเสน๎ ทาง และตดิ ตามผเ๎ู ลนํจ. การตดิ ตาม เพ่อื ร๎วู าํ สง่ิ ของหรอื ทรัพย์สิน ถา๎ หากถูกขโมยจะไดต๎ ดิ ตามหามนั ได๎จงอ่านข้อความต่อไปน้ี แล้วตอบคาถามขอ้ ที่ 10 หนิ ทเ่ี กิดจากการทับถมของตะกอน โดยตะกอนเหลํานเ้ี กดิ จากการผพุ งั แตกสลายของหินอคั นี หินแปร หรือหนิ ชน้ั ท่ีมีอายุ เกําแลว๎ ถูกพดั พาสะสมโดยน้าลม ธารนา้ แขง็ หรอื หรือการตกตะกอนทางเคมี รวมถึงหนิ ท่ีเกิดจากการสะสมของซากดกึ ดาบรรพ์ ตะกอนตํางๆเหลํานี้ จึงมกี ารสะสมตัวเปน็ ชั้นๆ

แบบทดสอบรายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หนา๎ ที่ : 410. จากขอ๎ ความขั้นต๎น กลาํ วถึงหินชนดิ ใดบ๎าง ตามลาดบั (ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ)ก. หนิ ทราย หนิ ดนิ ดาน ถาํ นหนิ ข. หินชนวน หนิ ปนู หนิ ออํ นค. หินไรโอไลต์ หินบะซอลต์ หนิ บะซอลต์ ง. หนิ แกรนิต หนิ ปุ หนิ ไนล์จ. หินแกมโบ หินดนิ ดาน หนิ ทราย11. ใครอธิบายแนวแบงํ เขตเปลือกโลกได๎ถูกตอ๎ งทสี่ ดุ (ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ)ก. ดร.สตฟี กลําววํา บรเิ วณทแ่ี ผนํ เปลือกโลกชนกนั จะทาให๎เปลือกโลกแผนํ หนง่ึ มดุ ตวั ไปอยํใู ต๎อกี แผนํ หนึง่ เกดิ รอํ งลกึ ทม่ี หาสมุทรได๎ข. ดร.คิม กลาํ ววํา แนวแบํงเขตเปลือกโลกทดี่ ีทส่ี ุดคอื สันเขากลางมหาสมุทรเพราะเปน็ บรเิ วณทมี่ ีแรงแมเํ หล็กไฟฟา้ มากทส่ี ดุค. ดร.จลิ กลาํ ววํา รอยเลื่อนแปลงคือหน่ึงในแนวแบงํ เขตเปลือกโลกทแี่ สดงถึงการเลือ่ นแผนํ เปลือกโลกเข๎ามาชิดกันง. ดร.การฟ์ กลาํ ววาํ สันเขากลางมหาสมทุ รเกดิ ขน้ึ จากการเล่ือนออกจากกันของแผนํ เปลอื กโลกในทิศทางตรงกนั ขา๎ มจ. ดร.โอ กลาํ ววาํ การมดุ ตัวและยกตัวของแผํนเปลอื กโลก คอื สาเหตทุ ี่ทาใหเ๎ กิดการเคล่ือนตัวของแผนํ เปลือกโลกในแนวระนาบ12. ข๎อใดไมํใชสํ าเหตุของการไหลเวยี นของกระแสนา้ ในมหาสมุทร (ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ)ก. ความหนาแนํนและอณุ หภูมขิ องนา้ ในมหาสมทุ รทีแ่ ตกตาํ งกัน ข. ลมประจาฤดูและลมประจาถ่นิ ท่กี ระทาตํอผวิ นา้ค. การลดระดับและเพ่มิ ระดบั ของน้าจืด ง. ปรากฏการณแ์ ผํนดินไหวหรอื ภเู ขาไฟระเบิดจ. ระดับนา้ ในมหาสมุทรแตลํ ะแหงํ มีความแตกตํางกัน13. ปรากฏการณ์จากโลกหมนุ รอบตัวเอง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ กอํ นให๎เกดิ ปรากฎการณ์แบบไหน (ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ)ก. น้าขึน้ -น้าลง ข. การเกดิ กระแสนา้ อํนุ ค. การเกดิ กระแสน้าเย็นง. การเกดิ -น้าตาย จ. กลางวนั -กลางคนื14. บคุ คลในข๎อใดใช๎ประโยชนจ์ ากแหลํงนา้ เพื่อตนเองไดด๎ ีทีส่ ดุ (ส 5.1 ม.4-6/3 : วิเคราะห)์ก. มานะ สรา๎ งกงั หนั นา้ ในบริเวณน้าตกหลงั บ๎านเพื่อผลติ กระแสไฟฟา้ ข. ดารา ทาความสะอาดบา๎ นโดยการถูพน้ื ทุกเช๎าค. ลดา เดนิ ทางไปทางานด๎วยเรือจากคลองแสนแสบ ง. ระรนิ เลยี้ งกุ๎งกลุ าดาในบอํ นา้ ของตนเองจ. กระทิง เลนํ กฬี าวาํ ยนา้ ทกุ วนั หยดุ เพ่ือสขุ ภาพทีด่ ี15. ปรากฏการณส์ รุ ยิ ปุ ราคาและปรากฏการณจ์ ันทรปุ ราคา สามารถเกดิ ขึน้ พร๎อมกันไดห๎ รือไมํ เพราะเหตุใด (ส 5.1 ม.4-6/3 : เข๎าใจ)ก. เกดิ ข้ึนพรอ๎ มกันได๎ เพราะเป็นปรากฏการณ์ทม่ี ีพระอาทิตย์ พระจนั ทร์ และโลกอยรูํ ํวมกันข. เกดิ ขึ้นพร๎อมกันได๎ เพราะปรากฏการณ์ทงั้ สองเกดิ ขึน้ ในเวลายามคา่ คนื เชนํ เดยี วกนัค. เกดิ ขน้ึ พร๎อมกนั ไมํได๎ เพราะจนั ทรปุ ราคาเกดิ ขนึ้ ตอนกลางวัน และสรุ ยิ ปุ ราคาเกดิ ขึ้นตอนกลางคนืง. เกิดข้นึ พร๎อมกันไมไํ ด๎ เพราะสรุ ยิ ปุ ราคาเกดิ ขึน้ ตอนกลางวนั และจนั ทรุปราคาเกดิ ขน้ึ ตอนกลางคืนจ. ไมํมขี อ๎ ใดกลําวถกู ต๎องจงอา่ นข้อความที่กาหนดให้ต่อไปนี้แลว้ ตอบคาถามขอ้ ท่ี 16ป่าชายเลน เปน็ กลมุํ ของสังคมพชื ซึ่งสํวนใหญํจะเปน็ ไม๎ไมผํ ลดั ใบ มีลักษณะทางเสรีวิทยา และการปรับตวั ทางโครงสร๎างท่ีคล๎ายคลึงกัน และการขึ้นของพรรณไม๎ในป่าชายเลน จะขึ้นอยํูกับแนวเขต ซ่ึงผิดแปลกไปจากสังคมพืชป่าบก ท้ังนี้เพราะอิทธิพลจากลักษณะของดินความเค็มของน้าทะเล และการขน้ึ ลงของนา้ ทะเลเป็นสาคัญ16. พนั ธ์ไุ มใ๎ นข๎อใดคือพนั ธุไ์ มใ๎ นป่าชายเลนทงั้ หมด (ส 5.1 ม.4-6/3 : เข๎าใจ)ก. ไม๎โกงกาง ไม๎ลาพทู ะเล ไม๎มะคํา ข. ไม๎แสม ไมเ๎ สมด็ ไม๎ตะบูนค. ไมต๎ ะบูน ไมส๎ กั ไมพ๎ ยุง ง. ไม๎ประสกั ไม๎แก๎วเจา๎ จอม ไมโ๎ ปรงจ. ไม๎ทองหลาง ไม๎ตะบนู ไม๎ลาแพน17. สัตว์โลกในขอ๎ ใดไมไํ ด๎อยอูํ าศยั ในเขตทอ่ี ยอํู าศัยของตนเองอยํางท่คี วรจะเปน็ ทสี่ ดุ (ส 5.1 ม.4-6/3 : วิเคราะห์)ก. อลัน ชาวออสเตรเลีย ใหอ๎ าหารจงิ โจ๎ตามบรเิ วณสวนสาธารณะใกลบ๎ ๎านของตนข. อาลี ชาวอยี ปิ ต์ พบงหู างกระดงิ่ ไซด์ไวนเ์ ดอรใ์ กลพ๎ รี ะมดิ แหํงกีซาหลายสบิ ตัวค. อเลก็ ซ์ ชาวเอสกิโม เลย้ี งกวางคาริบู จานวนหลายสบิ ตัวรอบบ๎านของตนเองง. อาต๋ี ชาวจนี เขา๎ ชมหลินฮํยุ หมแี พนด๎าตวั ไมํเลก็ ไมํใหญํในสวนสตั ว์เชยี งใหมํจ. อนันต์ ชาวเนปาล เลยี้ งจามรี 3 ตวั เพื่อใช๎ขนของในระหวาํ งการเดนิ ทาง18. เมอ่ื นกั เรยี นไดร๎ ับหน๎าท่มี คั คุเทศกน์ ๎อยประจาจงั หวดั ภาคเหนอื สถานท่ใี นขอ๎ ใดท่ีนักเรียนควรแนะนา (ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ)ก. ดอนเขาโดด เขาคชิ ฌกฏู ดอยอม๎ุ ผาง ข. แอํงแมํแจมํ ดอยอํางขาง วัดพระธาตพุ นมค. ดอยอนิ ทนนท์ วดั รํองขนุ ภกู ระดึง ง. นา้ พรุ อ๎ นเทพพนม วดั พระธาตุเขานอ๎ ย ภูลมโลจ. กว๏านพะเยา ภชู ฟี้ ้า ดอยแมอํ คู อ

แบบทดสอบรายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนา๎ ท่ี : 519. ข๎อใดกลาํ วถงึ มนษุ ย์กับสภาพภมู ิศาสตรข์ องไทยไมํถูกต๎อง (ส 5.1 ม.4-6/3 : เข๎าใจ) ก. ภาคเหนือ : ภูมิประเทศสํวนใหญเํ ปน็ เทอื กเขา แนวเทือกเขาทอดตัวยาวในแนวเหนอื -ใต๎ ข. ภาคกลาง : ภมู ปิ ระเทศสํวนใหญํเปน็ ที่ราบ 2 รูปแบบ คือ ท่รี าบลมํุ แมนํ ้า และทีร่ าบดินดอนสามเหลย่ี มปากแมํนา้ ค. ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ : ภูมปิ ระเทศสํวนใหญเํ ปน็ ทรี่ าบสูง รูปราํ งคล๎ายกระทะหงาย เทอื กเขาสาคญั คอื เทอื กเขาดงพญาเย็น ง. ภาคตะวันตก : ภูมปิ ระเทศสํวนใหญเํ ป็นภูเขาและหุบเขาทีท่ อดตวั ในแนวเหนอื -ใต๎ มพี ้ืนท่รี าบแคบ ๆ มีเทือกเขาสาคัญ คือเทือกเขาตะนาวศรี จ. ภาคใต๎ : ภมู ิประเทศเป็นคาบสมทุ รยนื่ ลงไปในทะเล ขนาบด๎วยทะเลทง้ั 2 ด๎าน คือ ทะเลอนั ดามนั ดา๎ นตะวนั ออกของภาคใต๎ และอําวไทยดา๎ นตะวันตกของภาคใต๎ให้นักเรียนอา่ นขา่ วทกี่ าหนดให้ แลว้ ตอบคาถามข้อท่ี 20 ปา่ ไม้ จับกลุ่มทุนยกั ษใ์ หญ่ ลา่ สตั วป์ ่าคุ้มครอง ทุ่งใหญ่นเรศวร เจ๎าหน๎าทเี่ ขตรักษาพนั ธสุ์ ัตวป์ ่าทํงุ ใหญนํ เรศวร ด๎านตะวันตก เปดิ เผยวํา เม่อื วันท่ี 4 ก.พ.เวลา 14.00 น. รบั แจง๎ พบนกั ทํองเทย่ี วตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดหา๎ มต้ัง เมื่อรุดตรวจสอบพบ 1 ในกลุมํ มีตาแหนํงเป็นประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๏อปเมนต์บริษัทมหาชน บริเวณจุดพักยึดซากสัตว์ป่าคุ๎มครอง คือ ไกํฟ้าหลังเทา ซากเน้ือเก๎ง และปืนลูกกรดติดลากล๎อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลากล๎อง 1 กระบอก และ ปนื ลูกซองแฝด 1 กระบอก พร๎อมเครือ่ งกระสุนอกี จานวนมาก นอกจากน้ี ยงั ยดึ ซากเสือดา สภาพถูกชาแหละ และถลกหนัง โดย บริเวณใกล๎เคียงยังพบเคร่ืองกระสุนปืนเพิ่มอีกมาก จึงจับกุมเพ่ือนาตัวไปสอบปากคาขยายผล โดยยงั ไมมํ ีการสํงตวั หรอื เข๎าแจง๎ ความที่ สภ.ทองผาภมู ิ จ.กาญจนบรุ ี แตํอยํางใด ขณะที่ ตารวจกาลังอยูํระหวํางการตรวจสอบข๎อมูลดงั กลาํ วดว๎ ย ท่มี า : ขําวชํอง 7 วันที่ 6 ก.พ. 2561 เวลา 08:51 น.20. ตามกฎหมายพระราชบญั ญัตสิ งวนและคม๎ุ ครองสตั ว์ป่า พุทธศกั ราช 2535 การลําสัตว์ปา่ ค๎ุมครองจากขาํ วทไี่ ดอ๎ ําน มบี ทลงโทษอยาํ งไร(ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ) ก. จาคกุ 4 ปี ปรบั ไมเํ กนิ 40,000 บาท หรือทัง้ จาท้ังปรับ ข. จาคุก 6 ปี ปรบั ไมเํ กนิ 60,000 บาท หรอื ท้ังจาทัง้ ปรับ ค. จาคุก 8 ปี ปรบั ไมเํ กนิ 80,000 บาท หรือท้ังจาท้ังปรบั ง. จาคุก 10 ปี ปรบั ไมํเกนิ 100,000 บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรับ จ. จาคกุ 12 ปี ปรบั ไมเํ กนิ 120,000 บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรับตอนท่ี 1 ส่วนท่ี 2 แบบปรนัยเลือกตอบเชิงซ้อน โดยคาถามชุดนี้มีคาถามยํอยรวมอยูํในข๎อเดียวกัน ซ่ึงเกี่ยวกับเรื่อง/ สถานการณท์ ่อี ําน (จานวน 3 ข๎อ ข๎อละ 1 คะแนน * ต๎องถกู ท้งั 4 ข๎อยํอย จงึ จะได๎ 1 คะแนน)ใหน้ ักเรยี นอ่านข้อความทีใ่ ห้แล้วตอบคาถามข้อ 21ประเทศไทยมที าเลทต่ี ้ังอยํใู นเขตรอ๎ นชื้นและมีระบบลมมรสมุ พดั ผาํ น จงึ ทาให๎มีความหลากหลายของพันธ์ุสัตวน์ า้21. จากขอ๎ ความท่อี ํานเกี่ยวกับสัตวน์ า้ ในประเทศไทย ให๎นักเรยี นระบวุ าํ ขอ๎ ความทีอ่ าํ นกลําวถกู ต๎องหรือไมถํ กู ต๎อง (ต๎องตอบถูกทั้ง 4 ข๎อยํอยจงึ จะได๎ 1 คะแนน) (ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ) ข้อ ขอ้ ความ ใช่ ไมใ่ ช่21.1 ปลาตะเพียนและเตํา เปน็ สตั ว์น้าจดื21.2 ปลาทนู าํ และกงุ๎ มังกร เป็นสัตวน์ า้ เค็มท่ีไมมํ ีกระดกู สนั หลงั21.3 กุง๎ และปู เป็นสัตวน์ ้ากรํอย21.4 หอยมกุ และหอยเปา๋ ฮือ้ เปน็ สัตวน์ า้ เค็มทีไ่ มํมกี ระดูกสันหลังใหน้ ักเรียนอ่านขอ้ ความทีใ่ ห้แลว้ ตอบคาถามขอ้ 22 พายโุ ซนรอ๎ นแฮเรียด เปน็ พายุโซนร๎อนรุนแรง ทเ่ี ขา๎ ถลํมภาคใต๎ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2505 และเลยไปจนถงึ บงั คลาเทศ และนับเป็นพายุหมนุ เขตร๎อน 1 ใน 3 ลูก ทีเ่ คลือ่ นท่ขี ๎ามเขตจากเขตไตฝ๎ นุ่ ไปยังเขตไซโคลนในมหาสมทุ รอินเดีย (อีก 2 ลูกทที่ าแบบนี้ได๎ คือซุปเปอร์ไต๎ฝนุ่คาเรน ในเดือนพฤศจกิ ายนปเี ดยี วกนั และพายโุ ซนรอ๎ นนาไดน์ ในเดือนธันวาคม) ในปนี น้ั พายุโซนร๎อนแฮเรยี ด กวาดทุกส่ิงทุกอยํางบนแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง ท่ีมีผู๎คนอยูํอาศัยราว 4 พันคนจนหมดสิ้น เหลือบ๎านที่รอดจากการทาลายเพียง 5 หลัง ด๎วยคลนื่ สงู กวาํ 3 เมตร พายุยงั มขี อบเขตการทาลายไปถึงบรเิ วณใกล๎เคียง บ๎านเรือนอีกกวําร๎อยละ 30 ถูกทาลายลงโดยรอบ มผี เู๎ สยี ชวี ิตมากกวาํ 900 ราย สญู หาย 142 ราย บาดเจบ็ 252 ราย ไรท๎ ่ีอยํอู าศยั นับหมื่นราย

แบบทดสอบรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน๎าที่ : 622. จากข๎อความท่ีอํานเก่ียวกับอิทธิพลของวัฒนธรรมภายนอกท่ีมีตํอวัฒนธรรมไทย ให๎นักเรียนระบุวําข๎อความที่อํานกลําวถูกต๎องหรือไมํถกู ต๎อง (ตอ๎ งตอบถูกทงั้ 4 ขอ๎ ยํอยจึงจะได๎ 1 คะแนน) (ส 5.1 ม.4-6/3 : วิเคราะห์)ข้อ ข้อความ ใช่ ไม่ใช่22.1 รัชกาลท่ี 9 โปรดเกลา๎ ฯ ประกาศเชิญชวนบรจิ าคเงนิ และสิง่ ของชํวยผ๎ปู ระสบภยั22.2 พายโุ ซนรอ๎ นเป็นพายุที่มีความแรงมากกวาํ พายไุ ตฝ๎ นุ่22.3 พายุหมนุ เขตรอ๎ น คอื ระบบพายทุ ี่พัฒนามาจากศูนยก์ ลางของหยํอมความกดอากาศตา่ , ลมแรง และการจัดเกลียว ของพายุฝนฟ้าคะนอง ท้ังนขี้ ้นึ กับสถานทีแ่ ละความรนุ แรงดว๎ ย22.4 พายุโซนรอ๎ นเปน็ พายทุ ี่มขี นาดความแรงลมปานกลาง คือมีความเร็วอยรูํ ะหวําง 63-117 กิโลเมตร/ช่ัวโมงใหน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ ความทใี่ หแ้ ล้วตอบคาถามขอ้ 23 สภาพภูมิศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสัมพันธ์กับการประกอบอาชีพของประเทศไทย ในอดีตวลีท่ีวํา “..เกษตรกรรมคือกระดูกสนั หลงั ของชาติ..” เปน็ ความจริงอยาํ งไมมํ ขี อ๎ โตแ๎ ย๎ง เนอ่ื งมาจากประเทศไทยอดุ มสมบรู ณไ์ ปดว๎ ยดินและน้าตลอดทง้ั ปี สามารถปลูกพชืได๎ ผลผลิตทเี่ ป็นสินค๎าสงํ ออกสรา๎ งรายได๎เป็นอยํางดี นอกจากการเกษตรแลว๎ ประเทศไทยยังคงมีการทาอาชีพเกี่ยวกับป่าไม๎ การประมง และการเลี้ยงสตั ว์ตามสภาพพ้นื ที่ของตนเอง อาทิ ภาคเหนือ มีลักษณะเป็นหุบเขาสลับซับซ๎อน เหมาะแกํการทาเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ และปลูกพืชเมืองหนาว ภาคใต๎ ขนาบขา๎ งดว๎ ยอําวไทยและทะเลอันดามัน มีฝนตกชุกตลอดทง้ั ปี เหมาะแกกํ ารทาประมงและปลูกพืชอ๎ุมนา้ ทนน้าไดด๎ ี23. จากข๎อความท่ีอํานเกี่ยวกับพลเมืองดีต๎องมีจิตสาธารณะ ให๎นักเรียนระบุวําข๎อความที่อํานกลําวถึงประโยชน์ของการมีจิตสาธารณะในเยาวชนได๎ถกู ต๎องหรอื ไมถํ กู ตอ๎ ง (ต๎องตอบถูกทง้ั 4 ข๎อยอํ ยจงึ จะได๎ 0.5 คะแนน) (ส 5.1 ม.4-6/3 : วเิ คราะห์)ข้อ ข้อความ ใช่ ไม่ใช่23.1 ปญั หาเกี่ยวกบั การทาปา่ ไม๎ ได๎แกํ การตดั โคํนตน๎ ไม๎ ขาดวิธกี ารอนุรักษ์ต๎นไม๎ เคร่ืองมือตัดไม๎มีประสิทธิภาพสูง ทา ให๎ตัดไม๎ได๎มากขึ้น สภาพป่าถูกทาลายเร็วขึ้นทาให๎พื้นที่ป่าและจานวนไม๎ลดลงเรื่อยๆ กํอให๎เกิดปัญหาอื่นตามมา เชํน ปัญหาดินพังทลาย ปัญหาน้าทํวมฉับพลัน ปัญหาสัตว์ป่าขาดท่ีอยูํอาศัย ปัญหาความแห๎งแล๎ง ปัญหาระบบ นเิ วศวทิ ยา เปน็ ตน๎23.2 ปัญหาการเพาะปลูก คือ ปัญหาเกี่ยวกับดิน ซ่ึงมีสาเหตุมาจากตัวการธรรมชาติ และจากการกระทาของมนุษย์ที่ เพาะปลกู พชื ซ้าซากและไมบํ ารงุ ดนิ การขาดระบบชลประทาน23.3 ปัญหาเก่ียวกับการประมง ได๎แกํ ปริมาณทรัพยากรสัตว์น้าลดลง ปัญหาการขยายนํานน้าในทะเลหลวงของบาง ประเทศ ปญั หาน้าเนาํ เสยี หรอื ตนื้ เขินในแหลํงน้าจืดบางแหํง สตั ว์นา้ ขยายพันธเ์ุ ร็วและมีจานวนมาก23.4 ปัญหาเกี่ยวกับอาชพี การเล้ยี งสัตว์ คือ การขาดแคลนทํุงหญ๎าและแหลงํ นา้ เกิดโรคระบาดตอนที่ 1 ส่วนท่ี 3 แบบปรนัยเลือกตอบกลุ่มคาตอบสัมพันธ์ โดยคาถามชุดน้ีมีคาถามมากกวํา 1 ข๎อ ท่ีมีเงื่อนไขให๎คิด และสมั พนั ธต์ ํอเนอื่ งกัน (ข๎อละ 1 คะแนน)ให้นกั เรยี นอ่านขอ้ ความดังต่อไปน้แี ล้วตอบคาถามขอ้ 24 ดาวเทยี ม (Satellites) หมายถงึ วัตถทุ มี่ นษุ ยส์ ร๎างข้ึนเลียนแบบดาวบริวารของดาวเคราะห์ เพ่อื ให๎โคจรรอบโลกหรือรอบเทห์ฟากฟ้าอ่ืนมีอปุ กรณส์ าหรับเกบ็ รวบรวมข๎อมูลเกย่ี วกับอวกาศ และถํายทอดข๎อมลู น้ันมายงั โลก จากขอ๎ ความดงั กลําวขา๎ งต๎น ดาวเทียมดวงแรกของไทยทถี่ กู สงํ ขนึ้ สํูวงโคจรชื่ออะไร (A) จัดอยูํในประเภทใด (B) และวัตถุประสงค์เพื่อใช๎ในการศกึ ษาเรอ่ื งใด (C) (ส 5.1 ม.4-6/3 : เข๎าใจ)A คาตอบ B คาตอบ C คาตอบ1 THAICHOTE 1 Meteorological satellites 1 ใชเ๎ พือ่ สารวจทรพั ยากรธรรมชาติ2 THAICOM 2 Earth observation satellites 2 ใชเ๎ พือ่ การพยากรณอ์ ากาศ3 THAIPAT 3 Communications satellites 3 ใช๎เพื่อการส่ือสาร24. จากตารางสามารถจัดกลมุํ ความสมั พันธ์ท่ถี กู ตอ๎ งตามกลุํม A B และ C ได๎ตามข๎อใดก. 1, 2, 1 ข. 2, 3, 3 ค. 3, 1, 3 ง. 2, 1, 3 จ. 3, 2, 1

แบบทดสอบรายวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนา๎ ที่ : 7ให้นักเรยี นอา่ นขอ้ ความดงั ต่อไปนแี้ ลว้ ตอบคาถามข้อ 25 “ประเทศไทยมคี วามหลากหลายทางชวี ภาพสงู ทง้ั ชนิดของพืชพรรณและสัตว์ป่า เป็นรากฐานสาคัญของการเกษตร ยารักษาโรค และตํอเศรษฐกิจท้งั ระดบั ท๎องถ่นิ และระดบั ประเทศ” จากขอ๎ ความขา๎ งตน๎ ข๎อใดไมํใชํสาเหตทุ ี่ทาใหป๎ ระเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพ (A) ป่าไมใ๎ นประเทศไทยมีความสมั พันธ์หลักกับมนุษย์อยํางไร (B) และเพราะเหตุใดจงึ ทาให๎สัตวป์ ่าในประเทศไทยลดลง (C) (ส 5.1 ม.4-6/3 : วเิ คราะห์)A คาตอบ B คาตอบ C คาตอบ1 การศกึ ษา 1 เปน็ แหลงํ อาหารและทรพั ยากรในการดาเนนิ ชวี ติ 1 การทาไรํเลื่อนลอย2 ภมู อิ ากาศ 2 เป็นแหลํงกาเนดิ โรคและภยั ธรรมชาติ 2 ประเพณีการแขงํ ขันลําสัตว์3 ภมู ปิ ระเทศ 3 เปน็ แหลงํ สร๎างอารยธรรมควบคูํกบั การดารงชีวิตอยาํ งปลอดภัยและทันสมยั 3 การคา๎ ขายสัตวป์ า่ คุ๎มครอง25. จากตารางสามารถจดั กลมํุ ความสัมพนั ธท์ ถ่ี กู ตอ๎ งตามกลมํุ A และ B ได๎ตามขอ๎ ใด ก. 1, 2, 3 ข. 2, 3, 2 ค. 3, 1, 3 ง. 1, 1, 2 จ. 3, 2, 1 ************************************************************** (นางสาวศริ มิ า เมฆปจั ฉาพิชิต) (นายนิกร ไชยบตุ ร) ผูส๎ อน/ผู๎แตํงข๎อสอบ หวั หน๎ากลุํมสาระฯ สังคมศึกษา (นายเสรี แซํจาง) (นายวิเศษ ฟองตา) งานวดั ผลระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย รองผ๎อู านวยการฝ่ายวิชาการ******************************************************************************************* กระดาษคาตอบ วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4รวมคะแนนสอบ........./20(เฉพาะครผู ๎ูสอนกรอก) ชอื่ -สกลุ ...................................................................... ชั้น ม.4/...... เลขที่ ......ตอนท่ี 1 สํวนที่ 1 แบบปรนยั เลือก 1 คาตอบ จานวน 20 ข๎อ (ข๎อละ 0.5 คะแนน)ข๎อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20กขคงจตอนท่ี 1 สวํ นที่ 2 แบบปรนัยเลอื กตอบเชิงซอ๎ น จานวน 3 ขอ๎ (ข๎อละ 0.5 คะแนน ตํอเม่ือตอบถกู ท้งั 4 ข๎อยํอย)ขอ้ ท่ี ใช่ ไมใ่ ช่ ขอ้ ที่ ใช่ ไม่ใช่ ข้อท่ี ใช่ ไมใ่ ช่21.1 22.1 23.121.2 22.2 23.221.3 22.3 23.321.4 22.4 23.4ตอนที่ 1 สํวนท่ี 3 แบบปรนยั เลือกตอบกลุํมสัมพนั ธ์ จานวน 2 ข๎อ (ขอ๎ ละ 1 คะแนน)ข๎อ ก ข ค ง จ ขอ๎ ก ข ค ง จ24 25

แบบทดสอบรายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนา๎ ที่ : 8ตอนท่ี 2 แบบอัตนัย (เขียนตอบ) จานวน 2 ข๎อ (ข๎อละ 2.5 คะแนน)26. ให๎นักเรียนอธิบายวัฎจักรของหิน และความสาคัญของวัฎจักรของหินท่ีมีผลตํอลักษณะทางภูมิศาสตร์ของโลกในแนวโนม๎ ทางกายภาพหรอื ภัยพิบัตทิ างธรรมชาติ (ส 5.1 ม.4-6/2 : วิเคราะห์)คาตอบ ...................................................................................................................................................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................27. ให๎นกั เรยี นบอกโครงการตามพระราชดาริ 1 โครงการของรชั กาลท่ี 9 ตามหวั ขอ๎ ดงั ตํอไปน้ี (ส 5.1 ม.4-6/3 : เขา๎ ใจ)คาตอบ 1. ชือ่ โครงการ .............................................................................................................. ............................................ 2. จุดประสงคข์ องโครงการ ..................................................................................................................................... .……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ...................................................... 3. วิธกี ารที่รัชกาลที่ 9 ทรงนามาใช๎กับโครงการ และผลลพั ธท์ ี่ได๎ ...........................................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ...................................................... 4. นักเรยี นสามารถนามาปรบั ใชก๎ ับการดาเนินชีวติ ของตนเองได๎อยาํ งไร ................................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………............................................................................................................................... ......................................................……………..................................................................................................................................................................................................................

แบบทดสอบรายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หนา๎ ท่ี : 9เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ขอ้ สอบอัตนยั คะแนน 2.5 2 1.5 1 0.5 0ข้อ เกณฑ์การใหค้ ะแนน26 ตอบตรงประเด็นท่ีถาม มกี ารยกตวั อยาํ งตามคาสั่ง สะกดคาสาคญั ทางประวตั ศิ าสตรถ์ กู ตอ๎ ง รวมคะแนน ................ (หารด๎วย 3)27 ตอบตรงประเดน็ ท่ีถาม มกี ารยกตวั อยาํ งตามคาสัง่ สะกดคาสาคญั ทางประวตั ศิ าสตรถ์ ูกตอ๎ ง รวมคะแนน ................ (หารดว๎ ย 3)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook