ฉบบั เฉลย แบบทดสอบกลางภาคเรยี น โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จังหวดั เชียงใหม่ แบบทดสอบรายวชิ าสงั คมศึกษาฯ รหสั วิชา ส 31103 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 1.0 นก./นน. จานวน 20 คะแนน เวลาใชส้ อบ 60 นาที ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2561 ************************************* คาชแี้ จง : 1. แบบทดสอบน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลางภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ตาม ตัวชว้ี ดั ในรายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหสั วิชา ส 31103 ดังนี้ มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดม่ัน และ ปฏิบัตติ ามหลกั ธรรม เพอ่ื อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสันติสขุ ส 1.1 ม.4-6/1 วิเคราะหส์ งั คมชมพทู วปี และคตคิ วามเชอื่ ทางศาสนาสมัยกอ่ นพระพุทธเจา้ หรือสงั คมสมยั ของศาสดาท่ตี นนบั ถือ ส 1.1 ม.4-6/2 วิเคราะหพ์ ระพทุ ธเจ้าในฐานะเป็นมนษุ ยผ์ ู้ฝึกตนได้อยา่ งสูงสดุ ในการตรัสรู้ การก่อตัง้ วิธกี ารสอนและการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา หรือวิเคราะห์ ประวัติศาสดาทีต่ นนบั ถอื ตามท่กี าหนด ส 1.1 ม.4-6/3 วิเคราะหพ์ ทุ ธประวัตดิ า้ นการบรหิ าร และการธารงรกั ษาศาสนา หรือวิเคราะหป์ ระวัติศาสดาที่ตนนบั ถือ ตามท่กี าหนด ส 1.1 ม.4-6/4 วิเคราะห์ข้อปฏบิ ตั ทิ างสายกลางในพระพทุ ธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามทก่ี าหนด ส 1.1 ม.4-6/5 วเิ คราะหก์ ารพฒั นาศรทั ธา และปญั ญาทถ่ี กู ต้องในพระพทุ ธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาท่ตี นนบั ถือ ตามท่ีกาหนด ส 1.1 ม.4-6/6 วเิ คราะหล์ ักษณะประชาธิปไตยในพระพทุ ธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามท่กี าหนด ส 1.1 ม.4-6/7 วิเคราะห์หลกั การของพระพทุ ธศาสนากบั หลกั วทิ ยาศาสตร์ หรอื แนวคดิ ของศาสนาท่ตี นนับถือตามทกี่ าหนด ส 1.1 ม.4-6/8 วิเคราะห์การฝกึ ฝนและพัฒนาตนเอง การพ่งึ ตนเอง และการมุ่งอสิ รภาพในพระพุทธศาสนา หรอื แนวคดิ ของศาสนาท่ตี นนับถอื ตามท่ีกาหนด ส 1.1 ม.4-6/9 วเิ คราะหพ์ ระพุทธศาสนาวา่ เปน็ ศาสตรแ์ ห่งการศึกษาซึ่งเนน้ ความสัมพนั ธ์ของเหตปุ ัจจยั กับวิธกี ารแก้ปญั หา หรือแนวคิดของศาสนาท่ีตนนับถือ ตามทก่ี าหนด ส 1.1 ม.4-6/10 วเิ คราะห์พระพุทธศาสนาในการฝึกตนไม่ใหป้ ระมาท มงุ่ ประโยชน์และสนั ติภาพบคุ คล สังคมและโลก หรือแนวคิดของศาสนาทีต่ นนับถือตามท่ี กาหนด ส 1.1 ม.4-6/11 วเิ คราะห์พระพุทธศาสนากับปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและการพฒั นาประเทศแบบยง่ั ยืน หรือแนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามทก่ี าหนด ส 1.1 ม.4-6/12 วิเคราะห์ความสาคัญของพระพทุ ธศาสนาเกีย่ วกบั การศึกษาท่ีสมบรู ณ์ การเมืองและสนั ตภิ าพ หรอื แนวคิดของศาสนาที่ตนนบั ถือตามทีก่ าหนด ส 1.1 ม.4-6/14 วิเคราะหข์ ้อคิดและแบบอย่างการดาเนนิ ชีวิตจากประวตั สิ าวก ชาดก เร่ืองเลา่ และศาสนกิ ชนตัวอย่างตามทกี่ าหนด มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนักและปฏิบตั ิตนเป็นศาสนิกชนทด่ี ี และธารงรักษาพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ส 1.2 ม.4-6/2 ปฏบิ ตั ติ นถกู ตอ้ งตามศาสนพธิ พี ธิ กี รรมตามหลกั ศาสนาที่ตนนับถือ ส 1.2 ม.4-6/4 วิเคราะหห์ ลักธรรม คตธิ รรมท่เี กีย่ วเนือ่ งกบั วนั สาคญั ทางศาสนาและเทศกาลท่สี าคญั ของศาสนาท่ตี นนับถอื และปฏิบัตติ นไดถ้ ูกตอ้ ง 2. ลักษณะแบบทดสอบ แบบทดสอบฉบับนมี้ ี 6 หน้า แบ่งเปน็ 2 ตอน ตอนท่ี 1 ส่วนที่ 1 แบบปรนยั (เลอื ก 1 คาตอบ) จานวน 20 ข้อ ส่วนที่ 2 แบบปรนัย (เลอื กตอบเชงิ ซ้อน) จานวน 3 ข้อ ส่วนที่ 3 แบบปรนยั (เลอื กตอบกลมุ่ สมั พันธ์) จานวน 2 ขอ้ ตอนที่ 2 แบบอัตนยั (เขียนตอบคาตอบ) จานวน 2 ขอ้ รวมทัง้ สิ้น 27 ขอ้ 3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) ตอนท่ี 1 ส่วนท่ี 1 แบบปรนยั เลอื กตอบ 1 คาตอบ ขอ้ ละ 0.5 คะแนน รวม 10 คะแนน ส่วนท่ี 2 แบบปรนยั เลือกตอบเชงิ ซ้อน ข้อละ 1 คะแนน รวม 3 คะแนน สว่ นที่ 3 แบบปรนยั เลอื กตอบแบบกลุ่มสมั พนั ธ์ ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 2 คะแนน ตอนที่ 2 แบบอตั นยั (เขยี นเตมิ คาตอบ) ขอ้ ละ 2.5 คะแนน รวม 5 คะแนน รวมท้งั สน้ิ 20 คะแนน 4. ข้อปฏบิ ัตใิ นการสอบ 4.1 แตง่ กายดว้ ยชดุ นกั เรยี นให้สุภาพเรียบรอ้ ย ตามข้อบังคบั ของโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 4.2 ห้ามนาหนงั สือ/เอกสารเขา้ ไปในทนี่ ั่งสอบ และหา้ มทาเคร่อื งหมายใด ๆ ลงแบบทดสอบท่ีแจกให้ 4.3 ห้ามนาเคร่อื งคดิ เลขเขา้ หอ้ งสอบ อนญุ าตใหน้ กั เรียนคิดเลขได้ในด้านหลังของกระดาษคาตอบ 4.4 ห้ามนกั เรียนนาขอ้ สอบและกระดาษคาตอบออกหอ้ งสอบ จะต้องส่งคนื กรรมการควบคุมหอ้ งสอบเมือ่ สอบเสรจ็
แบบทดสอบรายวิชาสังคมศกึ ษาฯ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน้าที่ : 2 4.5 หา้ มนกั เรยี นสง่ เสียงดังรบกวนผอู้ ่นื เม่ือมีข้อสงสัยหรือต้องการส่ิงใดให้ยกมือสอบถาม หรือขอความช่วยเหลือจากกรรมการควบคุมห้อง สอบ หากพบการทุจริตในการสอบในครัง้ นจี้ ะปรบั ตกรายวิชาน้ีทนั ที 4.6 ให้นกั เรยี นดึงกระดาษคาตอบ แยกออกจากข้อสอบก่อนลงมือทา เพื่อจัดเกบ็ ข้อสอบและกระดาษคาตอบแยกจากกัน ************************ ตอนท่ี 1 ส่วนที่ 1 แบบปรนัยเลือกตอบ ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องเพียงคาตอบเดียว โดยทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ใน กระดาษคาตอบหลงั แบบทดสอบ (จานวน 20 ขอ้ ข้อละ 0.5 คะแนน ตอบถกู ได้ 0.5 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน รวม 10 คะแนน) 1. สภาพสงั คมในประเทศอินเดยี มีการแบง่ ผคู้ นออกเปน็ ชนชนั้ เรียกว่า วรรณะ ข้อใดกล่าวถึงวรรณะไม่ถกู ต้อง (ส 1.1 ม.4-6/1 : วเิ คราะห)์ ก. อนิ เดยี แบง่ ผู้คนตามความเช่ือของศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู ข. คนเกิดในวรรณะตา่ กวา่ จะยกตวั เองให้สงู ขนึ้ ด้วยการศึกษาไมไ่ ด้ ค. คนเกดิ ในวรรณะสงู กวา่ จะนาตวั เองต่าลงไดด้ ้วยการแตง่ งาน ง. คนเกดิ ในวรรณะต่ากวา่ จะยกตวั เองให้สูงข้ึนดว้ ยการสรา้ งฐานะทางเศรษฐกิจไม่ได้ จ. จณั ฑาลคือคนนอกวรรณะ เนือ่ งมาจากมารดาท่ีมวี รรณะแพศย์ แตง่ งานกับบดิ าทม่ี ีวรรณะศูทร 2. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถูกตอ้ งท่เี กี่ยวกับพระพุทธศาสนาซงึ่ มที ฤษฎที เี่ ปน็ สากล (ส 1.1 ม.4-6/4 : วเิ คราะห์) ก. พทุ ธศาสนาสอนวา่ โลกใบน้ลี ว้ นมแี ตป่ ญั หา ไมว่ ่าจะเปน็ ปญั หาการมชี วี ิต การพลัดพราก การไมส่ มปรารถนา ข. พุทธศาสนาสอนว่าเมื่อร้เู หตุของปญั หาแลว้ นัน้ เราสามารถแกป้ ญั หาไดจ้ ากสาเหตทุ แ่ี ทจ้ รงิ นัน้ ค. พุทธศาสนาสอนว่าปญั หาทุกอย่างลว้ นมีสาเหตุ จะเกิด จะตาย ล้วนมเี หตุผลในตวั ของมัน ง. พุทธศาสนาสอนวา่ การแกไ้ ขปญั หาตอ้ งใช้ท้ังปญั ญาและความพากเพยี ร จ. พุทธศาสนาสอนว่าปญั หาทกุ อยา่ งแกไ้ ขไดด้ ว้ ยความจริงใจของตวั เราเอง 3. ข้อใดกล่าวถึงการพัฒนาศรัทธาได้ถูกตอ้ งท่สี ดุ (ส 1.1 ม.4-6/5 : วเิ คราะห์) ก. การพฒั นาศรัทธา อนั ประกอบไปด้วย การเชือ่ ม่ันในความดงี าม การเชือ่ ในกฎแห่งกรรม และการเชื่อในจติ วญิ ญาณของตน ข. การพัฒนาศรทั ธา หมายถึง ความเช่ือมน่ั ในสิ่งดงี ามที่ประกอบด้วยเหตผุ ลและความศรัทธา นาเขา้ สกู่ ารพฒั นาตนได้ ค. การพัฒนาศรัทธา คือ การประกอบสงิ่ ดงี ามดว้ ยเหตผุ ลอันจะนาไปสู่การพฒั นา ง. การพฒั นาศรทั ธา คือ การฝกึ จติ เจรญิ ปัญญา ทาจิตใจใหแ้ น่วแนม่ ่ันคง จ. การพัฒนาศรทั ธา คือ การปฏบิ ัตติ นตามหลกั พุทธมามกะ 4. การลงมติในท่ีประชุมสงฆ์ ในขอ้ ใดถกู ตอ้ งทีส่ ุด (ส 1.1 ม.4-6/6 : วิเคราะห์) ก. การทาพิธีอุปสมบท ผมู้ าขอบวชตอ้ งไดร้ ับการยอมรบั อย่างเปน็ เอกฉนั ท์จากเหลา่ พระชัน้ ผูใ้ หญเ่ ท่าน้ัน ข. พิธรี ับกฐิน ตอ้ งผ่านการประชมุ และมมี ติในท่ปี ระชุมสงฆจ์ ากพระลกู วัดต้องเป็นเอกฉนั ทเ์ ทา่ น้นั ค. พระลูกวดั มีสทิ ธ์ิในการเข้ารว่ มแต่ไมม่ สี ทิ ธ์ใิ นการแสดงความคดิ เห็นในทีป่ ระชมุ สงฆ์ ง. หากการตดั สนิ ปัญหาคร้งั ใดมคี วามคดิ เหน็ ขดั แยง้ กนั ให้ใช้วธิ เี ยภยุ ยสิกาในการตดั สิน จ. การอุปสมบทก่อน-หลงั มีความสาคญั ต่อการออกเสยี งลงมตใิ นทป่ี ระชุมสงฆ์ 5. กาลามสตู ร 10 ประการในข้อใดกล่าวผดิ (ส 1.1 ม.4-6/7 : เข้าใจ) ก. อย่าเพงิ่ ปลงใจเชอื่ เพียงเพราะพิสจู นแ์ ลว้ จริง ข. อย่าเพงิ่ ปลงใจเชอ่ื เพยี งเพราะได้ยนิ มา ค. อย่าเพ่งิ ปลงใจเชอื่ เพยี งเพราะผพู้ ูดนา่ เชอื่ ถอื ง. อย่าเพง่ิ ปลงใจเชอื่ เพยี งเพราะยดึ ถือสบื ตอ่ กนั มา จ. อย่าเพิ่งปลงใจเชือ่ เพียงเพราะชอบใจว่าตรงกบั ความคดิ ตน 6. ส้มเช้งชอบอ่านหนงั สือการต์ ูนมาก แอบอา่ นในเวลาเรยี นเสมอ เมอ่ื วนั สอบมาถึงก็ไม่ยอมอ่านหนังสือเรียน ผลการเรียนของส้มเช้งจึงได้แค่ 1.5 ทาให้ส้มเช้งโดนคุณแม่ตัดเงินค่าขนมและงดการซ้ือหนังสือการ์ตูนของส้มเช้งจนกว่าผลการเรียนจะดีขึ้น ส้มเช้งเสียใจ ร้องไห้และโกรธ เคืองคณุ แม่ หากนกั เรียนเปน็ ส้มเช้งนักเรียนจะใชว้ ิธีการคดิ ในขอ้ ใดเพอื่ ใหต้ นเองเขา้ ใจสถานการณท์ ่เี กดิ ข้นึ (ส 1.1 ม.4-6/7 : การนาไปใช้) ก. การคดิ แบบสืบสาวเหตุปัจจยั ข. การคดิ แบบสามญั ลักษณะ ค. การคดิ แบบวภิ ชั ชวาท ง. การคิดแบบคณุ คา่ แทค้ ณุ ค่าเทยี ม จ. การคดิ แบบเปน็ อยใู่ นขณะปจั จบุ ัน 7. ศาสนพธิ ใี ดไมม่ ีการเจาะจงพระภกิ ษุผรู้ บั (ส 1.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. ทอดกฐนิ ข. ถวายผา้ อาบน้าฝน ค. ถวายสงั ฆทาน ง. ถวายผา้ จานาพรรษา จ. ตกั บาตรข้าวสาร 8. ผู้ปกครองประเทศทมี่ เี ลห่ ์เหลยี่ ม ฉอ้ ราษฎร์บังหลวง ขาดทศพธิ ราชธรรมในขอ้ ใด (ส 1.1 ม.4-6/12 : เขา้ ใจ) ก. ทาน ข. อวิหิงสา ค. อกั โกธะ ง. อาชชวะ จ. บรจิ าค 9. การใชห้ ลักโยนโิ สมนสิการขอ้ ใด สามารถดบั ทุกข์จากการหลงยดึ ติดในรูปกายไดม้ ากทีส่ ดุ (ส 1.1 ม.4-6/5 : วเิ คราะห)์ ก. การคดิ พจิ ารณาหาเหตปุ จั จัย ข. การคิดพจิ ารณาแยกแยะสว่ นประกอบ ค. การคดิ แบบวภิ ัชชวาท ง. การคิดพิจารณาแบบสามญั ลกั ษณะ จ. การคดิ พิจารณาเห็นคณุ -โทษและทางออก
แบบทดสอบรายวิชาสงั คมศกึ ษาฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หนา้ ท่ี : 3 10. ในแนวทางพระพทุ ธศาสนา เราจะสร้างคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ไี ดอ้ ยา่ งไร (ส 1.1 ม.4-6/10 : เขา้ ใจ) ก. มีสติ สมาธิ และปัญญา ข. มีมารยาทชาวพทุ ธและสมาธิ ค. ยดึ ไตรลกั ษณเ์ ป็นทีพ่ ่ึง ง. ยดึ ทิฏฐธัมมกิ ัตถสงั วตั ตนกิ ธรรมเปน็ ที่พ่ึง จ. ยึดสังขารทงั้ 5 เปน็ ชีวติ 11. หลกั ปฏิบตั เิ พื่อการพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื ในพระพุทธศาสนาคือหลักในขอ้ ใด (ส 1.1 ม.4-6/3 : เขา้ ใจ) ก. ฆราวาสธรรม สาราณียธรรม ข. ปฏจิ จสมทุ ปบาท อทิ ปั ปจั ยตา ค. มงคล 38 อธยิ มรรค ง. นยิ าม 5 ไตรลกั ษณ์ จ. ทฏิ ฐธัมมิกัตถสงั วัตตนกิ ธรรม มัชฌมิ าปฏปิ ทา 12. บคุ คลในขอ้ ใดปฏบิ ตั ติ นตามการฝึกหดั อบรมและพ่ึงพาตนเองตามหลักพระพทุ ธศาสนาได้ถกู ตอ้ ง (ส 1.1 ม.4-6/8 : วิเคราะห)์ ก. กนกวรรณ ปฏเิ สธการมคี วามสมั พันธ์กับธนาธร หากธนาธรยงั ไม่เลิกกบั ทิยาพร เพราะทราบว่าธนาธรแอบคบกบั ทิยาพรอยู่ ข. ธนาธร บอกกับทิยาพรว่า กนกวรรณมาตดิ ตอ่ กับตนเพราะเรอื่ งงานเทา่ น้ัน ไม่มีอะไรให้กังวล ค. ทิยาพรและสงิ หา ค้นหางานรว่ มกนั เพอื่ ตอบคาถามของอาจารยป์ ระจาภาควชิ าสังคมศาสตรจ์ นถึงตี 2 ด้วยกัน ง. ธนาธรกล่าวกับกนกวรรณวา่ ทยิ าพรแอบมชี ้รู กั อกี ไม่นานธนาธรก็จะเลกิ กบั ทิยาพรเพ่ือมาคบกับกนกวรรณในเรว็ ๆนี้ จ. สิงหาแอบชอบทยิ าพร ไดด้ ึงทิยาพรเข้ามาหาตนและกลา่ วสารภาพรักกบั ทิยาพร รวมถึงขอคืนสถานะเพื่อนระหวา่ งกัน 13. ศลี สกิ ขาในข้อใดผดิ (ส 1.1 ม.4-6/9 : เข้าใจ) ก. คฤหสั ถ์รกั ษาเบญจศลี ข. พระลูกวดั รักษาอุโบสถศีล ค. สามเณรรกั ษาศลี 10 ง. ภิกษรุ ักษาศลี 227 จ. ภิกษณุ รี กั ษาศีล 311 ขอ้ 14. มหาตมะ คานธี ได้รบั รางวลั โนเบล สาขาสันตภิ าพ ปฏบิ ตั หิ น้าทตี่ ามหลักสังคหวัตถุ 4 ยกเว้นข้อใด (ส 1.1 ม.4-6/10 : เข้าใจ) ก. ทาน ข. ปยิ วาจา ค. อตั ถจริยา ง. สมานัตตตา จ. สาราณียกรรม 15. การดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักธรรมในข้อใดไม่ใช่หลักธรรมท่ีใช้เป็นแนวปฏิบัติได้ (ส 1.1 ม.4-6/11 : เข้าใจ) ก. อริยมรรค ข. กาลามสตู ร ค. สัปปรุ สิ ธรรม ง. บญุ กริ ยิ าวตั ถุ จ. อบุ าสกธรรม 16. อธปิ ไตย 3 เป็นหลักคาสอนในเรื่องใด (ส 1.1 ม.4-6/12 : เข้าใจ) ก. สอนเรือ่ งการปกครองคนจานวนมาก ข. สอนเรื่องการคดิ พิจารณาจากความคิดตนเองเป็นหลัก ค. สอนเรอ่ื งการรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของคนส่วนมาก ง. สอนเรอ่ื งการปฏบิ ตั ติ นตามหลกั เผด็จการทหาร จ. สอนเรือ่ งหลกั การปกครองและเศรษฐกิจของคนเปน็ ผ้นู าทดี่ ี 17. ความพยายามระวงั มใิ หเ้ กดิ ความชั่วขึ้นในจิต พยายามละความช่วั ทเี่ กิดข้ึนแล้วใหห้ มดไป พยายามสรา้ งความดีท่ียังไม่มีให้มี และพยายาม รักษาความดที ี่มอี ยู่แลว้ จดั เข้าในอริยมรรคข้อใด (ส 1.1 ม.4-6/1 : เขา้ ใจ) ก.สมั มาทฏิ ฐิ ข. สมั มาวายามะ ค. สมั มาอาชวี ะ ง. สมั มากมั มันตะ จ. สัมมาสติ 18. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ สง่ิ ท่ีพระพุทธเจา้ ปฏิบัตหิ ลงั จากการตรสั รไู้ ด้ถูกตอ้ งตามพุทธประวัติ (ส 1.1 ม.4-6/2 : เข้าใจ) ก. ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แกพ่ ระสาวกที่เปน็ พระอรหันต์จานวน 1,250 องค์ ทเี่ วฬวุ นั มหาวิหาร แคว้นมคธ ข. ทรงแสดงธัมมจักกปั ปวตั ตนสตู รแก่ชฎิล 3 พีน่ อ้ งทตี่ าบลอุรุเวลาเสนานคิ ม แคว้นมคธ ค. ทรงเสดจ็ ไปโปรดอาฬารดาบส และอทุ กดาบสทส่ี าลวโนทยาน แคว้นมลั ละ ง. ทรงรบั สภุ ัททะปรพิ าชกเปน็ สาวก ท่พี ระวิหารเชตะวัน แคว้นโกศล จ. ทรงแสดงอัปปมาทธรรมแก่พระสาวกท่กี รุงกบิลพสั ด์ แคว้นสกั กะ 19. ข้อใดกลา่ วถึงวธิ ีการสอนของพระพุทธเจ้าผดิ (ส 1.1 ม.4-6/2 : เข้าใจ) ก. วิธีการสอนแบบธรรมสากัจฉา คือ การสร้างบรรยากาศของความใกล้ชิด เกิดเป็นความสนุกสนานและกระตือรือร้นของผู้ฟัง ในขณะทผี่ ฟู้ งั จะไม่ร้สู ึกวา่ ตนกาลังเรียนหรอื กาลงั ถกู สอน ข. วิธีการสอนแบบบรรยาย คือ วธิ กี ารท่ีพระพุทธเจ้าทรงใชใ้ นท่ปี ระชมุ ใหญ่ เพราะผ้ทู ีม่ ารอฟงั ธรรมจานวนมากนีม้ ีพ้ืนความรู้ ความ เข้าใจ และความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นพืน้ ฐานอย่แู ล้ว การบรรยายจึงชว่ ยเพ่มิ ความรู้ความเข้าใจย่งิ ๆขึ้นไป ค. วิธีการสอนแบบตอบปัญหา คือ การตอบคาถามให้เหมาะสม โดยทรงจาแนกคาถามไว้ 4 ประเภท คือ ปัญหาตายตัว, ปัญหา ยอกย้อน, ปญั หาแยกตอบ และปัญหาตอ้ งตอบ ง. วธิ ีการสอนแบบวางกฎข้อบงั คบั คือ วธิ ีการทพี่ ระพุทธเจา้ ทรงบัญญัตขิ ้นึ มาเม่ือพบหรือได้รบั รายงานว่าพระสงฆก์ ระทาความผดิ จ. วิธกี ารสอนแบบสนทนา คอื การสนทนาอย่างเป็นกันเอง เกิดความใกล้ชดิ สนุกสนาน และสร้างทัศนคติท่ีดีของผู้ท่ีมาฟังธรรมต่อ พระพทุ ธเจ้า ใหน้ ักเรยี นอา่ นขอ้ ความตอ่ ไปน้ี แล้วตอบคาถามข้อที่ 20 พระพทุ ธเจ้าเสดจ็ ออกประกาศพระพทุ ธศาสนา ไดป้ ัญจวัคคีย์เป็นสาวก และพระสาวกกลุ่มอื่นๆตามมา นาไปสู่การส่งพระสาวกรุ่น แรก จานวน 60 รูป ออกไปประกาศพระพุทธศาสนา
แบบทดสอบรายวิชาสังคมศกึ ษาฯ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนา้ ท่ี : 4 20. จากข้อความขา้ งต้น แสดงถงึ สิ่งใดไดม้ ากทส่ี ุด (ส 1.1 ม.4-6/2 : วิเคราะห์) ก. การบริหารพระพทุ ธศาสนา ข. การธารงรักษาพระพุทธศาสนา ค. การศึกษาพระธรรมเทศนา ง. การปกปอู งคมุ้ ครองพระพทุ ธศาสนา จ. พระจรยิ วัตรของพระพุทธเจา้ ตอนท่ี 1 ส่วนที่ 2 แบบปรนัยเลือกตอบเชิงซ้อน โดยคาถามชุดนี้มีคาถามย่อยรวมอยู่ในข้อเดียวกัน ซ่ึงเก่ียวกับเร่ือง/ สถานการณท์ ่อี า่ น (จานวน 3 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน * ต้องถกู ทงั้ 4 ข้อย่อย จงึ จะได้ 1 คะแนน) ใหน้ กั เรยี นอ่านข้อความท่ีให้แลว้ ตอบคาถามข้อ 21-23 ชาดก ชาดก แปลวา่ ผ้เู กิด หมายถงึ การเวียนว่ายตายเกดิ ของพระพุทธเจา้ ในภพชาติตา่ งๆ พระพทุ ธเจา้ ทรงตรสั เลา่ ชาดกประกอบการแสดงพระธรรมของพระองค์ เพ่ือเป็นตัวอย่างของการมงุ่ มน่ั ทาความดี เป็นคติสอนใจของพุทธ บริษทั รวมท้ังหมด 547 เรอ่ื ง แต่เรอ่ื งทเี่ ปน็ ที่รจู้ ักและนิยมอา่ นมอี ยู่ 10 เร่ือง เรียกวา่ ทศชาติ อันได้แก่ เตมียชาดก มหาชนกชาดก สุวรรณ สามชาดก เนมริ าชชาดก มโหสถชาดก ภูริทัตตชาดก จันทกมุ ารชาดก พรหมนารทชาดก วธิ ุรชาดก และเวสสนั ดรชาดก ทศชาติ ชาวบ้านเรียกกันว่า พระเจ้าสิบชาติ เป็นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ 10 ชาติสุดท้าย ก่อนจะเสวยพระชาติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งในแต่ละชาติน้ันได้บาเพ็ญบารมีมามากมาย อาทิ เตมียชาดก ทรงบาเพ็ญเนกขัมมบารมี เนมิราชชาดก ทรง บาเพ็ญอธิษฐานบารมี เป็นตน้ ท่ีมา : หนังสอื พระพทุ ธศาสนา ม.4-6 หนา้ ที่ 24 สานกั พมิ พ์อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั 21. ใหน้ ักเรยี นระบวุ ่าเหตกุ ารณท์ ่ีเกิดข้ึนในเวสสนั ดรชาดกทอี่ ่านกล่าวถกู ตอ้ งหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง (ตอ้ งตอบถกู ทั้ง 4 ข้อยอ่ ยจงึ จะได้ 1 คะแนน) (ส 1.1 ม.4-6/14 : เข้าใจ) ขอ้ ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่ 21.1 พระเวสสันดรชาดก เป็นชาติที่พระพุทธเจ้าทรงบาเพ็ญเมตตาบารมี ทรงประทานได้แม้แต่ภรรยา พระโอรส และ / พระธดิ าใหแ้ ก่ผู้อน่ื ทีข่ อได้ 21.2 สาเหตุทีพ่ ระเวสสันดรถกู เนรเทศเปน็ เพราะการบริจาคช้างปัจจัยนาคใหแ้ ก่เมอื งกาลงิ คะที่แหง้ แล้ง / 21.3 ก่อนพระเวสสนั ดรจะถกู เนรเทศ ทรงขอโอกาสบรจิ าคทานครั้งใหญ่ เรียกวา่ สตั ตสตกมหาทาน / 21.4 พราหมณ์ชูชก มอี าชีพเปน็ ขอทาน เดินนา 2 กมุ าร เดินทางกลบั ถึงบ้าน ใหม้ ีหน้าที่รับใช้ภรรยาสาวของตน / 22. ให้นกั เรียนระบวุ า่ เหตุการณ์ที่เกิดข้นึ ในมโหสถชาดกที่อ่านกล่าวถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง (ต้องตอบถูกทั้ง 4 ข้อย่อยจึงจะได้ 1 คะแนน) (ส 1.1 ม.4-6/14 : เขา้ ใจ) ขอ้ ข้อความ ใช่ ไม่ใช่ 22.1 คดีลักโค มโหสถตัดสินจากการถามคู่กรณีท้ัง 2 ว่า ให้อะไรแก่โคกินบ้าง แล้วจึงปูอนยาให้วัวสารอกอาหารที่กิน / ล่าสดุ ออกมา 22.2 คดแี ย่งลกู มโหสถใชว้ ธิ ใี หแ้ มท่ ั้ง 2 นาง คนหน่งึ ดงึ หวั คนหนึง่ ดึงเทา้ ใครดึงผา่ นเส้นทข่ี ดี ไว้ คนนนั้ ได้เดก็ ไป / 22.3 มโหสถเป็นผ้มู ปี ญั ญามาก เหล่าปุโรหติ ทัง้ 4 จงึ ใส่รา้ ยเพราะความอิจฉา ตอ้ งหนีตายไปอยเู่ มืองปญั จาละ / 22.4 มโหสถปฏเิ สธการรับราชการที่เมอื งอ่ืน จนกวา่ พระเจ้าวเิ ทหะจะสน้ิ จึงจะไปรับราชการทีเ่ มืองอ่ืนได้ / 23. ใหน้ ักเรียนระบุว่าเหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขึน้ ในมหาชนกชาดกท่อี า่ นกล่าวถูกต้องหรือไมถ่ ูกต้อง (ต้องตอบถูกท้ัง 4 ข้อยอ่ ยจงึ จะได้ 1 คะแนน) (ส 1.1 ม.4-6/14 : เขา้ ใจ) ขอ้ ขอ้ ความ ใช่ ไมใ่ ช่ 23.1 สาเหตทุ พ่ี ระราชบดิ าของพระมหาชนกเสดจ็ สวรรคตมาจากการหูเบา เชือ่ คาเพ็ดทลู ของเหลา่ ขุนนางอามาตย์ / 23.2 พระมหาชนกกอบกรู้ าชบลั ลงั กข์ องบดิ า โดยใชก้ ารซื้อขายอาวุธยุทโธปกรณ์ สั่งสมกาลังคน และบุกโจมตีจนสาเร็จ / 23.3 พระมหาชนกทรงเหน็ ต้นมะมว่ ง 2 ต้น มีผล และไม่มีผล เปรียบเทียบมะม่วงทั้ง 2 ต้นน้ัน แล้วตัดสินใจออกผนวช / บาเพญ็ สมณธรรม 23.4 มหาชนกชาดก แสดงใหเ้ ห็นถงึ การบาเพ็ญเพียรวริ ยิ บารมขี องพระพทุ ธเจ้าในชาตนิ ้นั /
แบบทดสอบรายวิชาสงั คมศึกษาฯ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หนา้ ท่ี : 5 ตอนที่ 1 ส่วนท่ี 3 แบบปรนัยเลือกตอบกลุ่มคาตอบสัมพันธ์ โดยคาถามชุดนี้มีคาถามมากกว่า 1 ข้อ ที่มีเงื่อนไขให้คิด และสมั พันธ์ตอ่ เนือ่ งกัน ให้นกั เรียนอา่ นขอ้ ความดังต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาถามข้อ 24 วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่ชาวพุทธจะได้ร่วมกันทากิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการระลึกถึงความสาคัญของพระพุทธศาสนา และถอื เป็นโอกาสทพ่ี ทุ ธศาสนิกชนจะได้ปฏบิ ตั ธิ รรมตามหลกั คาสอนของพระพทุ ธองค์ อนั เป็นการเสรมิ สรา้ งความสามัคคีและเป็นการสืบทอด ประเพณีท่ีมคี วามสาคญั ตอ่ การเผยแผ่และสืบสานพระพทุ ธศาสนา จากข้อความดงั กลา่ วข้างตน้ วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนาวันใดที่ถอื ว่าเปน็ วันสาคญั ในระดับนานาชาติตามข้อมติของสมัชชาใหญ่แห่ง สหประชาชาติ(A) เพราะเหตใุ ดจึงเปน็ วนั สาคญั ในระดบั นานาชาติ (B) และวันสาคัญนน้ั ตรงกบั วนั ในขอ้ ใด (C) (ส 1.2 ม.4-6/4 : เขา้ ใจ) A คาตอบ B คาตอบ C คาตอบ 1 วันมาฆบูชา 1 พระพุทธศาสนาเป็นกาวช่วยประสานรอยร้าวระหว่างกัน 1 วนั เพ็ญ เดอื น 3 ของทกุ ปี ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางศาสนา ความขัดแย้งในการ ปกครอง เป็นตน้ 2 วนั วิสาขบูชา 2 พระพุทธศาสนาเปน็ ศาสนาทีเ่ กา่ แก่ท่ีสดุ ของโลก ช่วยผ่อน 2 วนั เพญ็ เดือน 6 ของทกุ ปี คลายจิตใจ ชาระบาป ส่ังสอนใหผ้ ู้คนเป็นคนดีของศาสนา 3 วันอาสาฬหบูชา 3 พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดศาสนาหน่ึงของ 3 วนั เพ็ญ เดือน 8 ของทุกปี โลก ทไี่ ดห้ ลอ่ หลอมจิตวิญญาณของมนุษยชาตมิ านาน ควร ทจ่ี ะยกย่องกันทว่ั โลก 24. จากตารางสามารถจัดกลมุ่ ความสมั พันธท์ ี่ถูกต้องตามกลมุ่ A B และ C ได้ตามขอ้ ใด ก. 1, 2, 1 ข. 2, 3, 2 ค. 3, 1, 3 ง. 1, 1, 3 จ. 2, 2, 1 ใหน้ ักเรยี นอ่านขอ้ ความดังต่อไปน้แี ล้วตอบคาถามข้อ 25 ศาสนพิธี หมายถึง ระเบียบแบบแผนของพิธีกรรมทางศาสนาท่ีศาสนิกชนจะได้ปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน เพ่ือให้เกิดความเป็น ระเบยี บและความเข้าใจเร่อื งศาสนาไดอ้ ย่างถูกต้อง จากข้อความข้างต้น ศาสนพิธีในข้อใดคือศาสนพิธีเนื่องด้วยพุทธบัญญัติ (A) ศาสนพิธีนั้นเป็นศาสนพิธีประเภทใด (B) และกุศโลบาย ขอ้ คดิ สาคัญของการประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาคอื ขอ้ ใด (C) (ส 1.2 ม.4-6/4 : เขา้ ใจ) A คาตอบ B คาตอบ C คาตอบ 1 พิธตี ักบาตรเทโวโรหณะ 1 บญุ พธิ ี 1 การจัดพิธีกรรมทางศาสนาควรจัดให้เต็มร้อย มีความพร้อม ครบครันไปด้วย คณะสงฆ์ และศาสนิกชน 2 พิธีปวารณา 2 ปกณิ กพธิ ี 2 ไม่ควรใช้จ่ายเงินทองอย่างฟุมเฟือยในการจัดพิธีกรรมและไม่ควรมีอบายมุข ใดๆในงานพิธีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา 3 พิธีถวายผ้าอาบนา้ ฝน 3 กศุ ลพธิ ี 3 ศาสนพิธีช่วยในการรวมตัวซ่ึงกันและกัน ผ่อนคลายจิตใจ สร้างความเช่ือมั่น ในพุทธศาสนา 25. จากตารางสามารถจัดกลมุ่ ความสัมพนั ธ์ทถี่ ูกต้องตามกลมุ่ A และ B ไดต้ ามข้อใด ก. 1, 2, 3 ข. 2, 3, 2 ค. 3, 1, 3 ง. 1, 1, 2 จ. 1, 2, 1 ************************************************************** (นางสาวศริ มิ า เมฆปัจฉาพชิ ติ ) (นายนิกร ไชยบุตร) ผสู้ อน/ผู้แต่งข้อสอบ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ สังคมศึกษา (นายเสรี แซ่จาง) (นางสาวศิรมิ า เมฆปัจฉาพิชติ ) (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผูอ้ านวยการฝาุ ยวชิ าการ งานวดั ผลระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย หัวหน้างานวัดและประเมินผล
แบบทดสอบรายวชิ าสังคมศึกษาฯ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หน้าท่ี : 6 กระดาษคาตอบ วิชาสงั คมศึกษา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 รวมคะแนนสอบ........./20(เฉพาะครผู ูส้ อนกรอก) ชอื่ -สกุล ...................................................................... ชั้น ม.4/...... เลขที่ ...... ตอนท่ี 1 ส่วนท่ี 1 แบบปรนัยเลอื ก 1 คาตอบ จานวน 20 ข้อ (ข้อละ 0.5 คะแนน) ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ก XX X XX ขX X XXX คX X X X X งXX จX XX ตอนที่ 1 สว่ นที่ 2 แบบปรนัยเลอื กตอบเชิงซ้อน จานวน 3 ข้อ (ข้อละ 1 คะแนน ต่อเมือ่ ตอบถูกท้งั 4 ข้อย่อย) ข้อท่ี ใช่ ไมใ่ ช่ ข้อที่ ใช่ ไม่ใช่ ขอ้ ท่ี ใช่ ไมใ่ ช่ 21.1 / 22.1 / 23.1 / 21.2 / 22.2 / 23.2 / 21.3 / 22.3 / / 23.3 / 21.4 / 22.4 23.4 / ตอนที่ 1 สว่ นที่ 3 แบบปรนยั เลอื กตอบกลุ่มสัมพนั ธ์ จานวน 2 ขอ้ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) ขอ้ ก ข ค ง จ ข้อ ก ข ค ง จ 24 X 25 X ตอนที่ 2 แบบอตั นยั (เขียนตอบ) จานวน 2 ข้อ (ข้อละ 2.5 คะแนน) 26. พี่ชายของนักเรียนกาลังจะเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เป็นระยะเวลา 3 พรรษา นักเรียนสามารถช่วยเตรียมเคร่ือง อฐั บริขารให้กบั พ่ีชาย เครือ่ งอฐั บรขิ ารทน่ี ักเรยี นตอ้ งเตรียมน้ันมีอะไรบา้ ง (ส 1.2 ม.4-6/2 : การนาไปใช้) คาตอบ อัฐบริขาร คือ ของเครอ่ื งใช้ที่จาเป็น ๘ อย่างสาหรับพระภิกษุสงฆ์ได้แก่ ๑. ผ้าจีวร, ๒. ผ้าสังฆาฎิ, ๓. ผ้าสบง, ๔. ประคดเอว, ๕. มดี โกน, ๖. บาตร, ๗. เข็มเยบ็ ผ้า, ๘. ธมกรก (เคร่อื งกรองน้าหรอื กระบอกรองนา้ ) 27. หลังพ่ีชายบวชได้ 3 เดือน บ้านของนักเรียนกาลังจะจัดงานแต่งงานของพ่ีชายที่บ้านของนักเรียนต่อ นักเรียนควร เตรียมการและดาเนินพธิ ีอย่างไร (ส 1.2 ม.4-6/2 : การนาไปใช้) คาตอบ การเตรียมการ 1. อาราธนาพระสงฆม์ าเจรญิ พระพทุ ธมนต์ นิยมเปน็ จานวนคี่ เช่น 5 รปู 7 รปู หรือ 9 รปู 2. เตรยี มทตี่ ้งั พระพทุ ธรปู พรอ้ มเครือ่ งบชู า 3. ตกแต่งสถานที่บรเิ วณพธิ ี 4. วงดา้ ยสายสิญจนโ์ ดยรอบอาคารหรือจะวงที่ฐานพระพทุ ธรูปแลว้ โยงมาทภี่ าชนะสาหรับน้ามนต์ก็ได้ 5. อญั เชญิ พระพุทธรปู มาตั้งบนท่บี ูชา 6. ปอู าสนะสาหรบั พระสงฆ์ 7. เตรียมเคร่อื งรับรองพระสงฆต์ ามควรแกฐ่ านะ 8. ต้ังภาชนะสาหรับทาน้ามนต์
แบบทดสอบรายวชิ าสงั คมศึกษาฯ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน้าที่ : 7 การดาเนินพิธี 1. เมื่อพระสงฆม์ าถึงแล้ว นิมนต์พระสงฆน์ ่งั บนอาสนะ แล้วประเคนเครอ่ื งรบั รอง 2. เจา้ ภาพหรือผแู้ ทนจุดธปู เทยี นท่โี ต๊ะหมบู่ ชู า แล้วกราบเบญจางคประดษิ ฐ์ 3. อาราธนาศีลและรับศีล 4. อาราธนาพระปรติ ร 5. พระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ 6. ถวายภัตรหารแด่พระสงฆ์ เสร็จแล้วถวายเคร่อื งไทยธรรม 7. พระสงฆอ์ นโุ มทนา ขณะที่พระสงฆว์ ่าบท “ยถา...” ให้เร่มิ กรวดน้าให้เสร็จกอ่ นจบบท พอพระสงฆ์ว่าบท “สฺพ พีติโย...” ให้น่งั รบั พรตลอดไปจนจบ 8. พระสงฆป์ ระพรมน้าพระพทุ ธมนต์ เปน็ อันเสรจ็ พิธี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ขอ้ สอบอัตนยั ข้อ เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน 2.5 2 1.5 1 0.5 0 26 ตอบตรงประเด็นท่ีถาม มกี ารยกตัวอยา่ งตามคาสง่ั สะกดคาสาคญั ทางประวตั ิศาสตรถ์ กู ตอ้ ง รวมคะแนน ................ (หารด้วย 3) 27 ตอบตรงประเด็นทถ่ี าม มกี ารยกตวั อยา่ งตามคาสั่ง สะกดคาสาคญั ทางประวตั ิศาสตรถ์ ูกตอ้ ง รวมคะแนน ................ (หารดว้ ย 3)
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: