แบบทดสอบกลางภาคเรียน โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแมแ่ จม่ จังหวัดเชยี งใหม่ แบบทดสอบรายวชิ าประวตั ิศาสตร์ รหัสวชิ า ส 31104 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 0.5 นก./นน. จานวน 20 คะแนน เวลาใช้สอบ 60 นาที ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561 ************************************* คาชีแ้ จง : 1. แบบทดสอบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนกลางภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ตามตวั ชวี้ ัดในรายวิชาประวัติศาสตร์ รหสั วิชา ส 31104 ดังนี้ มาตรฐาน ส ๔.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของ เหตุการณอ์ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง ตระหนกั ถึงความสาคญั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตกุ ารณ์สาคัญต่างๆที่ส่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เข้าสู่โลกสมัย ปจั จุบัน ส 4.2 ม.4-6/3 วเิ คราะหผ์ ลกระทบของการขยายอทิ ธิพลของประเทศในยโุ รปไปยงั ทวีปอเมรกิ า แอฟริกา และเอเชีย 2. ลักษณะแบบทดสอบ แบบทดสอบฉบับน้ีมี 7 หนา้ แบง่ เป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 ส่วนท่ี 1 แบบปรนยั (เลอื ก 1 คาตอบ) จานวน 20 ข้อ สว่ นท่ี 2 แบบปรนยั (เลอื กตอบเชงิ ซ้อน) จานวน 3 ข้อ ส่วนท่ี 3 แบบปรนยั (เลอื กตอบกล่มุ สัมพันธ์) จานวน 2 ขอ้ ตอนท่ี 2 แบบอตั นยั (เขียนตอบคาตอบ) จานวน 2 ขอ้ รวมทงั้ ส้ิน 27 ขอ้ 3. เกณฑก์ ารให้คะแนน (คะแนนเตม็ 20 คะแนน) ตอนท่ี 1 สว่ นท่ี 1 แบบปรนยั เลอื กตอบ 1 คาตอบ ข้อละ 0.5 คะแนน รวม 10 คะแนน ส่วนท่ี 2 แบบปรนยั เลือกตอบเชิงซอ้ น ข้อละ 1 คะแนน รวม 3 คะแนน ส่วนที่ 3 แบบปรนัยเลือกตอบแบบกลุ่มสมั พันธ์ ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 2 คะแนน ตอนที่ 2 แบบอัตนยั (เขียนเตมิ คาตอบ) ขอ้ ละ 2.5 คะแนน รวม 5 คะแนน รวมทง้ั สิ้น 20 คะแนน 4. ขอ้ ปฏบิ ตั ิในการสอบ 4.1 แต่งกายด้วยชดุ นกั เรียนให้สภุ าพเรยี บรอ้ ย ตามข้อบังคับของโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 4.2 หา้ มนาหนงั สอื /เอกสารเขา้ ไปในที่น่งั สอบ และห้ามทาเครื่องหมายใด ๆ ลงแบบทดสอบทแ่ี จกให้ 4.3 หา้ มนาเคร่อื งคดิ เลขเข้าหอ้ งสอบ อนญุ าตใหน้ ักเรยี นคิดเลขได้ในดา้ นหลงั ของกระดาษคาตอบ 4.4 ห้ามนักเรียนนาข้อสอบและกระดาษคาตอบออกห้องสอบ จะต้องสง่ คืนกรรมการควบคุมห้องสอบเมอื่ สอบเสรจ็ 4.5 ห้ามนักเรียนส่งเสียงดงั รบกวนผู้อื่น เม่ือมีข้อสงสัยหรือต้องการส่ิงใดให้ยกมือสอบถาม หรือขอความช่วยเหลือจาก กรรมการควบคมุ ห้องสอบ หากพบการทุจริตในการสอบในคร้งั นี้จะปรับตกรายวิชาน้ที นั ที 4.6 ใหน้ ักเรียนดึงกระดาษคาตอบ แยกออกจากข้อสอบกอ่ นลงมือทา เพือ่ การจดั เก็บข้อสอบและกระดาษคาตอบแยกจาก กนั ของกรรมการคุมสอบ
แบบทดสอบรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 หน้าที่ : 2 ตอนที่ 1 ส่วนที่ 1 แบบปรนัยเลือกตอบ ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องเพียงคาตอบเดียว โดยทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ใน กระดาษคาตอบหลงั แบบทดสอบ (จานวน 20 ข้อ ข้อละ 0.5 คะแนน ตอบถกู ได้ 0.5 คะแนน ตอบผิดได้ 0 คะแนน รวม 10 คะแนน) 1. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุที่ทาใหร้ ะบอบฟวิ ดลั เสือ่ มอานาจลงในสงั คมยุโรป (ส 4.2 ม.4-6/2 : เข้าใจ) ก. พระสันตะปาปาเออร์เบนท่ี 2 ประกาศสงครามครเู สด ข. ลอร์ดจากพืน้ ทีต่ า่ งๆแยง่ ชิงอานาจกันเองจากภายใน ค. ชาวนาและทาสติดทด่ี ินรวมตัวกนั ประทว้ ง ง. กษตั ริยส์ ่งั ยบุ อานาจลอร์ดและดูแลประชาชนเองโดยตรง จ. ลอรด์ และวสั เซลิ รวมตวั ล้มล้างระบอบกษตั รยิ ์ 2. เพราะเหตุใดชาวครสิ ต์จงึ ต้องทาสงครามแยง่ ชิงดนิ แดนปาเลสไตน์กบั ชาวมุสลิม (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. เพราะเปน็ ดนิ แดนทมี่ เี มืองท่ามากมาย เหมาะแกก่ ารค้าขายและเปน็ จดุ กระจายสินคา้ ข. เพราะเป็นพน้ื ทที่ ่มี ีทรัพยากรธรรมชาตอิ ุดมสมบรู ณ์ดว้ ยพชื และสัตว์นานาชนิด ค. เพราะเปน็ บรเิ วณท่ีพระเจ้าทรงสญั ญาไวว้ า่ จะประทานให้เปน็ พืน้ ทพ่ี นั ธสญั ญา ง. เพราะเป็นบรเิ วณทรี่ วมศูนย์กลางอานาจไว้มากที่สดุ ในบริเวณยโุ รปแถบนน้ั จ. เพราะเปน็ ดินแดนศักดสิ์ ิทธ์ิซ่ึงพระเยซปู ระสูติ 3. ขอ้ ใดกล่าวถึงสงครามครูเสด ครงั้ ท่ี 4 ไม่ถกู ต้อง (ส 4.2 ม.4-6/2 : เข้าใจ) ก. เปน็ การต่อสกู้ บั ชาวครสิ ต์ด้วยกนั เอง ข. จุดม่งุ หมาย คือ การยึดครองเมอื งเยรูซาเลม็ ค. ไดร้ ับการสนับสนนุ จากพระสนั ตะปาปาอนิ โนเซ็นตท์ ี่ 3 ง. จุดมุ่งหมาย คือ การยึดครองกรุงคอนสแตนติโนเปลิ จ. เปน็ การต่อสู้ของชาวโรมันตะวนั ตกและชาวโรมันตะวนั ออก 4. เหตุใดยคุ กลางตอนตน้ จงึ ถกู เรยี กวา่ “ยุคมืด” (Dark Age) (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. ความเส่อื มของศาสนาครสิ ต์ ข. เกิดสงครามความขัดแยง้ ระหว่างศาสนาบ่อยคร้งั ค. เกิดสงครามความขดั แย้งระหวา่ งประเทศบ่อยคร้งั ง. ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของอารยธรรมกรกี และโรมนั หยุดชะงกั จ. โลกเกดิ การเปลย่ี นแปลงทางภูมศิ าสตรเ์ ป็นผลใหอ้ าหารขาดแคลน 5. ระบบเศรษฐกิจของพวกอนารยชนทใ่ี ชร้ ่วมกบั การปกครองแบบศกั ดนิ าสวามิภกั ดิค์ อื ขอ้ ใด (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. ระบบทุนนยิ ม ข. ระบบสังคมนยิ ม ค. ระบบเสรนี ยิ ม ง. ระบบพาณชิ ย์นิยม จ. ระบบปราสาท 6. ข้อใดไม่ใช่วธิ กี ารท่ศี าสนจักรใชล้ งโทษผู้ทไ่ี มป่ ฏิบตั ติ ามคาสอนของศาสนา (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. การประกาศขบั ไลอ่ อกจากการเปน็ ครสิ เตยี น ข. การประกาศไม่ให้ศาสนกิ ชนอน่ื เขา้ มาคบหาด้วย ค. การประกาศแตง่ ตัง้ คณะเยซอู ติ ง. การประกาศดนิ แดนนอกรตี จ. การประกาศห้ามประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 7. เหตกุ ารณ์ในข้อใดทีเ่ ป็นตวั สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงอทิ ธพิ ลของศาสนจักรคาทอลกิ ในยคุ กลางได้ดีทส่ี ดุ (ส 4.2 ม.4-6/2 : ประเมนิ คา่ ) ก. ศาสนจักรสามารถทาการค้าจนมีทรพั ยส์ ินจานวนมาก ข. ศาสนจกั รเปน็ ผอู้ อกกฎหมายให้แกอ่ าณาจักรในยคุ กลาง ค. ศาสนจกั รมสี ่วนสาคญั ในการบรหิ ารอาณาจกั รตา่ งๆ ง. ศาสนจักรเปน็ ผกู้ ลา่ วเปิดงานพระราชพธิ ตี า่ งๆร่วมกบั กษัตริย์ จ. ศาสนจกั รสามารถใชค้ วามศรัทธาเรียกระดมพลในสงครามครูเสด ครัง้ ท่ี 1 8. เหตุใดกษัตรยิ ใ์ นแถบสแกนดิเนเวียจึงใหค้ วามชว่ ยเหลือและสนับสนุนมาร์ตนิ ลเู ทอร์ (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. เพราะมารต์ นิ ลเู ทอร์ แปลพระคัมภีร์ไบเบล้ิ เปน็ ภาษาท้องถน่ิ ข. เพราะมารต์ ิน ลเู ทอร์ สามารถลดความน่าเช่ือถือของศาสนจักรได้เปน็ อย่างดี ค. เพราะมารต์ ิน ลูเทอร์ เป็นพระทเ่ี ครง่ ครัดทางศาสนา เป็นผนู้ าทางศาสนาท่ีนา่ นบั ถือ ง. เพราะคาสอนของมารต์ ิน ลูเทอร์ มีแนวคดิ ท่ีว่า “ทรพั ย์สินของวดั ควรเปน็ ของรัฐ” จ. เพราะคาสอนของมารต์ นิ ลูเทอร์ สนบั สนุนการประกอบอาชีพทางการคา้ และเศรษฐกิจ 9. ข้อใดไมใ่ ช่หลักการสาคญั ของลัทธพิ าณิชย์ชาตนิ ิยม (ส 4.2 ม.4-6/2 : วิเคราะห์) ก. ส่งเสริมใหม้ กี ารผลิตสินค้าเพ่อื การยังชพี เป็นหลกั ข. เปน็ ระบบการคา้ ท่ีรฐั บาลและกษัตรยิ เ์ ป็นผูค้ วบคมุ ค. เหล่านายทุนได้รบั การส่งเสริมทางการค้าจากรฐั บาล ง. ซอื้ สินค้าจากชาติอื่นให้นอ้ ยที่สดุ และส่งออกสินค้าใหม้ ากท่ีสดุ จ. สง่ เสรมิ การมอี าณานคิ มและบังคับใหป้ ระเทศอาณานิคมค้าขายกบั เมืองแม่เทา่ น้นั
แบบทดสอบรายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน้าที่ : 3 10. นักเขียนบทละครทย่ี ่งิ ใหญ่ท่สี ุดขององั กฤษและผลงานทีด่ ที ่ีสุดของเขาคือขอ้ ใด (ส 4.2 ม.4-6/2 : วเิ คราะห์) ก. ฟรานซิส เบคอน ประพันธ์บทละคร เรือ่ ง Hamlet ข. วิลเลียม เชค็ สเปียร์ ประพนั ธ์บทละคร เรอ่ื ง Romeo & Juliet ค. มิเกล เชอวังต์ ประพนั ธ์บทละคร เร่ือง Gilgamesh ง. อีเลียด แอน โอดิสซี ประพนั ธบ์ ทละคร เร่ือง Homeric Hymns จ. มิเกลัน เจโล ประพันธบ์ ทละคร เร่อื ง Gregorian Chant 11. บทบาทท่ีสาคญั ทีส่ ดุ ของนิโคลัส โคเปอรน์ ิคสั คอื ขอ้ ใด (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. ส่งเสรมิ การปฏริ ูปศาสนา ข. คน้ พบคณุ สมบัติของแสง ค. จัดทาสารานุกรม ง. คน้ พบวา่ วงโคจรของดวงดาวเป็นวงรี จ. เสนอวา่ ดวงอาทติ ย์เป็นศูนยก์ ลางของจกั รวาลไมใ่ ช่โลก 12. ขอ้ ใดจับคู่นกั คิดนักปรชั ญากับแนวคดิ ทเ่ี สนอไมถ่ ูกตอ้ ง (ส 4.2 ม.4-6/2 : วิเคราะห์) ก. จอหน์ ล็อก – ความรตู้ อ้ งเกิดกอ่ นประสบการณ์ ข. รุสโซ – ธรรมชาตขิ องคนดอี ยู่แล้วแตส่ ังคมทาใหเ้ ปน็ คนเลว ค. โวลแตร์ – ประวตั ิของพระเจ้าชารล์ ที่ 12 แห่งสวเี ดน ง. มองเตสกเิ ออ – การแบง่ อานาจเปน็ นติ บิ ัญญัติ บริหาร และตลุ าการ จ. เซนตอ์ อกสั ทนี – พระบตุ รเป็นพระปัญญาของพระบดิ า และพระจิตเปน็ ความรกั 13. ข้อใดคือปัจจัยสาคัญทเ่ี ร้าความรสู้ ึกชาตินยิ มให้เกดิ ข้นึ (ส 4.2 ม.4-6/2 : วเิ คราะห์) ก. มผี ู้นาคนเดียวกนั ข. อยใู่ นสงั คมเดยี วกัน ค. มวี ัฒนธรรมเดยี วกนั ง. มรี ะบบทางเศรษฐกิจรว่ มกัน จ. มภี าษาและประวตั ศิ าสตรร์ ่วมกัน 14. ขอ้ ใดคือหลักการสาคัญของแนวคดิ สังคมนยิ มปฏิวตั ขิ องคาร์ล มาร์กซ์ (ส 4.2 ม.4-6/2 : วิเคราะห์) ก. ปลอ่ ยให้กลไกตลาดดาเนินไปอยา่ งเสรี ข. ทาลายอานาจกดข่ีทุกชนิดของรฐั ค. ให้ความสาคัญกบั ทีด่ นิ ง. ขจดั การเอารัดเอาเปรยี บและกดขี่ขูดรดี ของระบบทนุ นิยม จ. ให้ความสาคัญกับการผลิต 15. ผลงานในข้อใดท่ี เจมส์ วตั ต์ พัฒนาต่อยอดมาจากงานประดิษฐ์ของ โทมสั นวิ โคมนั ในดา้ นอตุ สาหกรรม (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) ก. เครอ่ื งจกั รไอน้า ข. เตาเผาถา่ นหนิ ค. หลอดไฟ แบบมไี ส้ ง. ฟลิ ม์ ถ่ายรูป จ. จกั รเยบ็ ผ้า 16. ข้อใดกล่าวถกู ต้อง (ส 4.2 ม.4-6/3 : วิเคราะห์) ก. สงครามโลกคร้ังที่ 1 จบลงด้วยระเบดิ ปรมาณู ชอ่ื ลติ เต้ลิ บอย ข. การเกดิ ข้ึนของลัทธฟิ าสซสิ ม์ มสี ว่ นสาคัญต่อการเกดิ สงครามโลกครง้ั ที่ 1 ค. การยกพลขึ้นบกท่ีนอรม์ งั ดสี าเรจ็ มีสว่ นสาคญั ตอ่ ชยั ชนะของกองทัพพันธมิตร ง. การสงั หารมกฎุ ราชกุมารแหง่ ออสเตรยี -ฮงั การี เปน็ ชนวนเหตุของสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 จ. รสั เซยี ถอนตัวจากสงครามโลกคร้งั ท่ี 1 หลงั นายเคอเรนสก้ขี ึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย 17. เพราะเหตุใดรสั เซียจงึ ถอนตัวออกจากสงครามโลกครง้ั ท่ี 1 (ส 4.2 ม.4-6/3 : วิเคราะห)์ ก. เยอรมนีเสนอผลประโยชนร์ ัสเซยี ข. รสั เซยี สามารถบกุ ยึดดินแดนที่ต้องการของเยอรมนีไดแ้ ล้ว ค. กษตั รยิ ์ราชวงศ์โรมานอฟ แห่งรสั เซีย ประกาศเป็นพันธมติ รกับเยอรมนี ง. เกิดการปฏิวตั ใิ หญ่ในปี ค.ศ. 1917 รัฐบาลนายเลนนิ ถอนตัวจากสงคราม จ. รสั เซยี ถอนตวั จากสงครามโลกครงั้ ท่ี 1 หลังนายเคอเรนสกีข้ น้ึ เป็นนายกรัฐมนตรขี องรสั เซีย 18. ประเทศคูใ่ นข้อใดมีความขดั แย้งกันเนือ่ งจากประเดน็ ทางศาสนา (ส 4.2 ม.4-6/3 : วเิ คราะห์) ก. ญีป่ ุ่น – เกาหลี ข. สเปน – โปรตุเกส ค. ฝรง่ั เศส – เยอรมนี ง. อินเดยี – ปากสี ถาน จ. อเมรกิ า – อริ ัก 19. สงครามโลกครั้งที่ 2 แตกตา่ งจากสงครามโลกคร้งั ที่ 1 อยา่ งชดั เจนในประเด็นใดท่ีสดุ (ส 4.2 ม.4-6/3 : วิเคราะห์) ก. การยุติความขดั แยง้ และการทาสนธิสัญญา ข. การไมเ่ ข้าร่วมสงครามของสหภาพโซเวียต ค. การเข้ารว่ มสงครามของอเมริกา ง. การจดั ตัง้ องค์กรระหวา่ งประเทศ จ. การขยายพน้ื ท่ีและความรา้ ยแรงของอาวุธ 20. ข้อใดคอื ความหมายทีแ่ ทจ้ ริงของสงครามเยน็ (ส 4.2 ม.4-6/3 : เข้าใจ) ก. การแบง่ กลมุ่ ประเทศพนั ธมติ รและกลุ่มประเทศอักษะ ข. การต่อสรู้ ะหวา่ งอุดมการณ์ประชาธิปไตยและอดุ มการณ์คอมมวิ นิสต์ ค. การเปน็ ตัวแทนเพอ่ื แสดงศกั ยภาพของสหรัฐและสหภาพโซเวยี ต ง. การแข่งขนั การสร้างอาวธุ นวิ เคลียรร์ ะหวา่ งสหรัฐกับสหภาพโซเวยี ต จ. การแบง่ กลุ่มประเทศผ้ฝู กั ใฝส่ หรัฐ และกลมุ่ ประเทศผ้ฝู กั ใฝส่ หภาพโซเวยี ต
แบบทดสอบรายวชิ าประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หนา้ ที่ : 4 ตอนท่ี 1 ส่วนที่ 2 แบบปรนัยเลือกตอบเชิงซ้อน โดยคาถามชุดนี้มีคาถามย่อยรวมอยู่ในข้อเดียวกัน ซ่ึงเกี่ยวกับเรื่อง/ สถานการณท์ ่ีอ่าน (จานวน 3 ข้อ ขอ้ ละ 1 คะแนน * ต้องถูกท้ัง 4 ข้อย่อย จึงจะได้ 1 คะแนน) ให้นกั เรยี นอา่ นข้อความทีใ่ ห้แล้วตอบคาถามขอ้ 21 บุคคลสาคญั ในสมัยสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ผูซ้ งึ่ เจรจากบั นานาประเทศ เพอ่ื ไม่ใหป้ ระเทศไทยตกเป็นผแู้ พ้สงคราม คือ ม.ร.ว.เสนยี ์ ปราโมช 21. จากขอ้ ความทอ่ี ่าน ให้นักเรียนระบุว่าข้อความในตารางข้อใดกล่าวถึงคุณสมบัติของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง (ต้อง ตอบถูกทงั้ 4 ข้อยอ่ ยจึงจะได้ 1 คะแนน) (ส 4.2 ม.4-6/3 : วิเคราะห์) ขอ้ ข้อความ ใช่ ไม่ใช่ 21.1 อดีตนายกรัฐมนตรี 4 สมยั 21.2 อดีตผ้รู ว่ มกอ่ ตงั้ และหวั หน้าพรรคประชาธปิ ัตย์ 21.3 อดีตขบวนการเสรไี ทย 21.4 อดีตเอกอคั รราชทูตไทย ประจาประเทศเยอรมนี ใหน้ กั เรียนอา่ นข้อความที่ให้แล้วตอบคาถามข้อ 22 ในสมัยสงครามโลก คร้ังท่ี 1 และ ครัง้ ท่ี 2 เปน็ ช่วงเวลาแหง่ การพัฒนาอาวุธยทุ โธปกรณข์ องมนษุ ย์มากมาย สามารถสังหารชีวิตผู้คนไม่ น้อย สงครามในแตล่ ะคร้ัง ไม่เคยไมม่ ีผเู้ สยี ชีวิต ท้ังจากอาวุธและจากโรคภัยต่างๆ รวมถึงการขาดแคลนอาหารอกี ดว้ ย 22. จากข้อความทอ่ี ่าน ใหน้ ักเรยี นระบุว่าข้อความในตารางขอ้ ใดจบั คอู่ าวธุ และประเทศที่พัฒนา ถกู ตอ้ งหรือไม่ถูกต้อง (ต้องตอบถูกท้ัง 4 ข้อ ยอ่ ยจงึ จะได้ 1 คะแนน) (ส 4.2 ม.4-6/3 : วิเคราะห์) ขอ้ ขอ้ ความ ใช่ ไม่ใช่ 22.1 เครอ่ื งบนิ รบ มอสควโิ ต้ – ประเทศองั กฤษ 22.2 รถบรรทกุ อาวุธและฐานยิงจรวดคสั ยซู า่ – ประเทศรสั เซีย 22.3 เรอื รบประจญั บาน ยามาโตะ – ประเทศญป่ี ุน่ 22.4 สารคลอรีน – ประเทศเยอรมนี ให้นักเรยี นอา่ นขอ้ ความท่ใี หแ้ ลว้ ตอบคาถามขอ้ 23 Renaissance (เรเนซองส)์ เป็นภาษาฝร่ังเศส มีความหมายเท่ากบั คาว่า Rebirth ในภาษาองั กฤษ แปลว่า การเกิดใหม่ 23. จากขอ้ ความที่อ่าน ให้นักเรยี นระบุว่าข้อความทอี่ า่ นในตารางกล่าวถงึ ยุคการฟื้นฟูศลิ ปะวิทยาการ ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง (ต้องตอบถูกท้ัง 4 ข้อย่อยจงึ จะได้ 1 คะแนน) (ส 4.1 ม.4-6/1 : วเิ คราะห์) ขอ้ ข้อความ ใช่ ไมใ่ ช่ 23.1 นักมนษุ ยน์ ิยม คอื เหล่าคนที่พยายามหลดุ พ้นจากการครอบงาของครสิ ตจกั รและระบบฟิวดลั 23.2 คือยคุ ทชี่ าวยโุ รปหนั กลบั มาให้ความสาคัญกบั ความเจริญกา้ วหนา้ ของกรกี และโรมันอกี ครั้ง 23.3 คือยุคทชี่ าวยุโรปมีความต้องการแสวงหาความรู้ ความสะดวกสบายให้กบั ชวี ิต 23.4 ไมเคลิ แอนเจโล บโู อนาร์โรตี มผี ลงานอันโดดเดน่ คือ บทละครเวนิสวาณิช ตอนที่ 1 ส่วนที่ 3 แบบปรนัยเลือกตอบกลุ่มคาตอบสัมพันธ์ โดยคาถามชุดนี้มีคาถามมากกว่า 1 ข้อ ที่มีเง่ือนไขให้คิด และสัมพนั ธ์ต่อเนอ่ื งกนั ให้นักเรยี นอ่านขอ้ ความดงั ตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคาถามข้อ 24 โครงการแมนฮัตตัน (องั กฤษ: Manhattan Project หรือช่ือท่ีเป็นทางการ Manhattan Engineering District) เป็นความพยายามในการ พัฒนาอาวธุ นิวเคลียรข์ องสหรฐั อเมรกิ า ในชว่ งสงครามโลกครง้ั ท่ีสอง โดยไดร้ ับความช่วยเหลอื จากสหราชอาณาจกั รและประเทศแคนาดา การวิจยั นาโดยนกั ฟิสกิ สช์ าวอเมริกัน เจ. โรเบริ ์ต ออพเพนไฮเมอร์ และอยู่ใต้การดูแลของนายพล Leslie R. Groves ท่ีห้องปฏิบัติการใน บริเวณลอสอาลาโมส รัฐนิวเม็กซิโก หลังสหรฐั คน้ พบวา่ พรรคนาซเี ยอรมนั กาลังสร้างอาวุธคลา้ ย ๆ กนั อยู่ ทม่ี า : โครงการแมนฮตั ตนั สารานุกรมเสรี วิกพิ เี ดยี
แบบทดสอบรายวิชาประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนา้ ที่ : 5 จากข้อความดังกล่าวข้างต้น โครงการแมนฮัตตันเร่ิมต้นในสมัยของประธานาธิบดีในข้อใด (A) ใครเป็นผู้สั่งเร่ิมปฏิบัติการทิ้งระเบิด ปรมาณใู นสมัยสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 (B) และระเบดิ ปรมาณูลกู ใดท่ีทาให้คนเสียชีวิตมากทสี่ ดุ (C) (ส 4.2 ม.4-6/3 : เขา้ ใจ) A คาตอบ B คาตอบ C คาตอบ 1 Harry S. Trueman 1 Harry S. Trueman 1 Fat Man 2 Franklin D. Rooswell 2 Franklin D. Rooswell 2 Little Boy 3 John F. Kennedy 3 John F. Kennedy 3 Lincoln 24. จากตารางสามารถจัดกล่มุ ความสมั พันธท์ ถี่ กู ตอ้ งตามกลุ่ม A B และ C ได้ตามขอ้ ใด ก. 1, 2, 1 ข. 2, 3, 2 ค. 3, 1, 3 ง. 2, 1, 2 จ. 1, 2, 1 ใหน้ ักเรียนอ่านข้อความดงั ต่อไปนแี้ ลว้ ตอบคาถามข้อ 25 ในปี 1914 ความขดั แยง้ อันสกุ งอมของประเทศมหาอานาจในยุโรปสง่ ผลให้สงครามโลกคร้งั ที่ 1 ระเบิดขน้ึ ในที่สุดในปลายเดือนกรกฎาคม โดยในชว่ งห้าเดอื นแรกเร่ิมด้วยการทเ่ี ยอรมันเปิดฉากโจมตีฝร่ังเศสผ่านเขา้ ไปทางเบลเยียม เยอรมนีรุกเข้าไปหวังยึดกรุงปารีส แต่ก็ถูกต่อต้าน และตีโตก้ ลับอย่างหนักจากกองทพั ฝรัง่ เศสและองั กฤษในตน้ เดือนกนั ยายน เยอรมนถี อยร่นมาต้ังรับทบ่ี รเิ วณเทอื กเขา Aisne valley หลงั จากน้นั ก็มกี ารสู้รบกนั เรื่อยๆตลอดระยะเวลาหลายเดือน แตก่ ไ็ ม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่สามารถเจาะทะลุแนวป้องกันของอีกฝ่ายได้ ตลอด ระยะเวลา ทั้งสองฝา่ ยทาการเสรมิ แนวปอ้ งกันเพม่ิ มากขึ้นเร่ือยๆเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเจาะผ่านมาได้ และได้เร่งสร้างแนวป้องกันเป็นแนว ลวดหนามและสนามเพลาะขยายออกไปยังด้านทะเลเหนอื โดยต่างฝา่ ยตา่ งเรง่ แขง่ กันขยายแนวของตัวเองออกไป ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเรียกว่า “การแข่งขันสู่ทะเล” หรอื “Race to the Sea” หลังจากนนั้ กเ็ กดิ การสูร้ บขนึ้ หลายคร้งั แตส่ ถานการณ์และแนวรบต่างๆเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ทั้งสองฝ่ายต่างก็ห้าห่ันกันอย่างเอาเป็นเอา ตายเตม็ ที่ จนกระทงั่ ถงึ ปลายเดอื นธนั วาคม ในวันคริสมาสอีฟกไ็ ดม้ ีเหตุการณ์ทน่ี า่ ประหลาดใจเกิดข้นึ โดยทหารผ่านศึกทางฝา่ ยองั กฤษที่อยใู่ นเหตกุ ารณ์วนั นัน้ เลา่ ว่า ในคืนวนั ครสิ ตม์ าสอฟี (คืนกอ่ นวนั คริสต์มาส) นัน้ ทอ้ งฟา้ เหนอื สมรภูมิในคืน วันนัน้ มดื สนทิ อากาศหนาวเหน็บมหี ิมะตกโปรยปรายเล็กนอ้ ย เหตกุ ารณ์ในคนื นั้นเงยี บสนทิ ทุกอย่างดูปกตดิ จี นกระทั่งเวลากลางดึกราวเที่ยว คนื กเ็ ร่ิมได้ยินเสยี งเพลงมาจากทางด้านฝ่ายเยอรมนั พอฟงั ดีๆจงึ ทราบวา่ เป็นเพลงคริสต์มาสที่ทุกคนรู้จักกันดีคือเพลง Silent Night แต่เป็น เวอร์ชั่นภาษาเยอรนั นอกจากเสียงเพลงดังกล่าวแล้ว ยังมแี สงเทยี นระยับอยตู่ ามตน้ ไม้ ซ่งึ เปน็ ประเพณขี องเยอรมนั ทจี่ ะจุดเทียนและนาไปวาง ตามตน้ ไมใ้ นวันครสิ ต์มาส จากนั้นเสียงเพลงกเ็ ร่มิ ดงั ข้ึนจากฝั่งองั กฤษบ้าง เสียงเพลงเริ่มกระจายตัวไปตามแนวรบเร่ือยๆ มีการร้องเพลงสลับ รับส่งตลอดแนวรบของทัง้ สองฝ่ังกนั อยา่ งสนกุ สนาน บางชว่ งก็มีวงดนตรเี คร่อื งเป่าต่างๆเขา้ มารว่ มร้องเพลงด้วย จนกระท่ังเมอ่ื แสงแรกของวนั คริสตม์ าสมาถงึ ได้เร่มิ มที หารเยอรมนั บางสว่ นทยอยลอดข้ามแนวลวดหนามของฝ่ังตน ข้ามพ้ืนท่ีระหว่างแนว รบ (No Man’s Land) ไปยังแนวทหารฝ่ายอังกฤษ และเริม่ ตะโกนทักทาย “Merry Christmas!…” เป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นก็พูดคุยทักทาย กนั โดยในตอนแรก บรรยากาศกย็ งั คงตงึ ๆกันอยนู่ ิดๆ เพราะทหารตา่ งกเ็ กรงกันว่าจะเป็นกลลวง แตเ่ ม่อื เวลาผา่ นไปสกั พกั ก็เหน็ ทหารเยอรมันจานวนมากทยอยออกมาโดยไม่มีอาวุธใดๆ และไล่จับมือทักทายไปท่ัวบริเวณ บรรยากาศจึงดี ข้ึนเรื่อยๆ ทหารท้งั สองฝ่ายได้มีการนาของขวัญเล็กๆน้อยๆเท่าที่หาได้มามอบให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะเป็น เหล้ารัม ซิการ์ ขนมพุดด้ิง หรือ ผลไมต้ า่ งๆ และเมื่อทหารทงั้ สองฝา่ ยเริ่มคุน้ เคยกันมากถงึ ระดับหนงึ่ กไ็ ด้เรมิ่ ชวนกันเตะฟตุ บอลกนั อย่างสนกุ สนาน ในพื้นท่ใี ดทีห่ าลูกฟตุ บอลไม่ได้ ก็นา กระดาษมาขยารวมๆเปน็ กอ้ นแล้วมาเตะกัน ประมาณกนั ว่า มีทหารทัง้ สองฝา่ ยราว 100,000 นายทีไ่ ดพ้ บปะกนั ตลอดแนวรบในเชา้ วันน้ัน ทางด้านผบู้ ัญชาการและนายทหาร เมือ่ มาทาการตรวจพลตามปกตกิ ต็ อ้ งแปลกใจ เม่อื ลูกนอ้ งทัง้ หมดหายไปจากเตน็ ทพ์ ัก แต่ในไม่นานก็พบ ความจรงิ และรบั รเู้ ร่ืองราวทัง้ หมด นายทหารของทง้ั ฝ่ายจงึ เดนิ เขา้ ไปรว่ มพดู คยุ กันดว้ ย ผู้บัญชาการอังกฤษบางคนไดข้ องขวัญจากฝ่ายเยอรมัน เป็นเบียร์ถึงหน่ึงถังใหญ่ ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยและตกลงให้มีการหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการในวันคริสต์มาสเป็นเวลา 24 ช่ัวโมง ข้อตก ลง ดงั กล่าวเป็นท่รี จู้ กั กันในนาม “ข้อตกลงพกั รบวันคริสตม์ าสปี 1914” (Christmas Truce of 1914) โดยนอกจากจะมีการพบปะสังสรรค์กัน แล้ว กจ็ ะใหม้ ีการนาศพผเู้ สยี ชีวิตในเขตพื้นที่ No Man’s Land ไปฝั่งให้ถกู ต้องตามประเพณดี ้วย บรรยากาศท้ังวันน้นั เต็มไปด้วยความชื่นมืน่ แต่ถงึ อย่างไรงานเล้ยี งก็คงต้องมวี ันเลิกรา เม่ือถึงเวลา 8.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นอันสิ้นสุด ขอ้ ตกลง ผู้บญั ชาการฝา่ ยองั กฤษได้ทาการยงิ ปืนข้นึ ฟา้ สองนัด เป็นสัญญาณส้ินสุดขอตกลง และทางฝ่ายเยอรมันก็ยิงตอบกลับไปสองนัดเป็น ตอบรบั แตท่ วา่ ถงึ จะหมดช่วงระยะเวลาสงบศึกแล้ว ว่ากันว่าก็ยังไม่มีทหารฝ่ายใดยิงฝ่ังตรงข้ามอีกสักพัก หนาซ้าบางคนยังข้ามกลับไปกลับมาหา เพ่อื นทคี่ นุ้ เคยทีอ่ ยฝู่ ่ังตรงข้ามอยูเ่ รอ่ื ยๆอีกด้วย ทีม่ า : https://www.wegointer.com/2013/12/silent-night
แบบทดสอบรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนา้ ท่ี : 6 จากขอ้ ความขา้ งต้น วันพกั รบที่เกิดขึ้นในสงครามโลกไม่ได้มีแค่การพักรบวันคริสมาสต์ แต่ยังมีวันพักรบอีก 1 วัน ท่ีก่อให้เกิดผลกระทบ ตอ่ ชัยชนะของตนเอง ประเทศใดประกาศให้มวี ันหยุดราชการ จานวน 1 วนั เป็นวันพักรบ (A) ผู้ประกาศวันหยุดราชการน้ันคือบุคคลในข้อใด (B) และวนั หยุดราชการทปี่ ระกาศนนั้ สง่ ผลตอ่ ประเทศทปี่ ระกาศอย่างไร (C) (ส 4.2 ม.4-6/3 : วเิ คราะห)์ A คาตอบ B คาตอบ C คาตอบ 1 อเมริกา 1 ไกเซอร์ วลิ เฮมล์ ที่ 2 1 ฝ่ายมหาอานาจเหนอื ชนะ 2 สหภาพโซเวียต 2 ฟรนั ซ์ แฟร์ดนี ันด์ 2 ฝา่ ยอักษะแพ้ 3 เยอรมนี 3 ซารน์ ิโคลัสท่ี 2 3 ฝา่ ยมหาอานาจกลางแพ้ 25. จากตารางสามารถจดั กลุ่มความสมั พันธท์ ถ่ี กู ต้องตามกล่มุ A และ B ไดต้ ามข้อใด ก. 1, 2, 3 ข. 2, 3, 2 ค. 3, 1, 3 ง. 1, 1, 2 จ. 1, 2, 1 ************************************************************** (นางสาวศิริมา เมฆปัจฉาพิชิต) (นายนกิ ร ไชยบุตร) ผสู้ อน/ผู้แตง่ ขอ้ สอบ หัวหน้ากลมุ่ สาระฯ สังคมศึกษา (นายเสรี แซ่จาง) (นางสาวศิริมา เมฆปจั ฉาพชิ ิต) (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ งานวัดผลระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หัวหน้างานวัดและประเมนิ ผล กระดาษคาตอบ วิชาประวัตศิ าสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 รวมคะแนนสอบ........./20(เฉพาะครูผูส้ อนกรอก) ช่อื -สกลุ ...................................................................... ชั้น ม.4/...... เลขท่ี ...... ตอนที่ 1 สว่ นที่ 1 แบบปรนยั เลอื ก 1 คาตอบ จานวน 20 ขอ้ (ข้อละ 0.5 คะแนน) ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ก ข ค ง จ ตอนที่ 1 สว่ นท่ี 2 แบบปรนยั เลือกตอบเชิงซ้อน จานวน 3 ข้อ (ขอ้ ละ 1 คะแนน ตอ่ เมอื่ ตอบถูกทั้ง 4 ขอ้ ย่อย) ขอ้ ที่ ใช่ ไมใ่ ช่ ขอ้ ที่ ใช่ ไม่ใช่ ข้อท่ี ใช่ ไมใ่ ช่ 21.1 22.1 23.1 21.2 22.2 23.2 21.3 22.3 23.3 21.4 22.4 23.4 ตอนที่ 1 สว่ นท่ี 3 แบบปรนยั เลอื กตอบกล่มุ สัมพันธ์ จานวน 2 ขอ้ (ข้อละ 1 คะแนน) ข้อ ก ข ค ง จ ขอ้ ก ข ค ง จ 24 25
แบบทดสอบรายวิชาประวตั ิศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน้าท่ี : 7 ตอนท่ี 2 แบบอัตนัย (เขยี นตอบ) จานวน 2 ข้อ (ขอ้ ละ 2.5 คะแนน) 26. การสารวจทางทะเล เกิดขึน้ ได้จากปัจจัยใดบ้าง และให้นักเรียนบอกเทคโนโลยีที่ใช้ในการสารวจทางทะเล 3 ชนิด ซ่ึง เกิดขึน้ ในสมัยการฟืน้ ฟูศลิ ปวทิ ยาการ (ส 4.2 ม.4-6/2 : เขา้ ใจ) .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... ให้นกั เรยี นอา่ นขอ้ ความทใี่ หแ้ ล้วตอบคาถามข้อท่ี 27 ...ผทู้ ่ีนิยมในลัทธจิ ักรวรรดินยิ ม แนวคดิ สังคมแบบดาร์วินได้ถูกนามาสรุปเร่ืองความเหนือกว่าของคนขาวต่อคนผิวดาและ ผวิ เหลอื ง ทาให้คนขาวมีสทิ ธิอันชอบธรรมและมีหน้าทปี่ กครองพวกท่ดี อ้ ยกวา่ ตน แนวคิดน้ีแพร่หลายมากในอังกฤษ รวมท้ัง ในจักรวรรดิเยอรมัน และยังมีอิทธิพลต่อบรรดาผู้นาในประเทศต่างๆ อีกด้วย มีการอ้าง \"ภาระหน้าที่ของคนขาว\" ( The White Man's Burden) ในการนาอารยธรรมท่สี ูงกว่าไปเผยแพร่ในดินแดนด้อยอารยธรรม โดยไม่ต้องสนใจประชาชนที่ถูก คกุ คามเพราะเป็นการนาอารยธรรมอันสงู ส่งไปมอบให้ นอกจากนี้ หลักการของดาร์วนิ เรอ่ื งการอยู่รอดของผู้ท่ีเหมาะสมที่สุด กม็ สี ว่ นกระตุ้นให้มหาอานาจยุโรปแขง่ ขันกนั เองเพือ่ ขยายอิทธิพลและอานาจของตนมากยิ่งข้ึนจนเกิดการแย่งชิงดินแดนใน ทวีปต่างๆ และกอ่ ให้เกิดความขดั แยง้ กันจนกลายเปน็ สาเหตหุ นึง่ ของสงครามโลก เรือ่ งความเหนือกว่าของเผ่าพันธุ์ท่ีเกิดจาก \"การเลอื กสรรของธรรมชาติ\" ของดาร์วินยงั กลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้แกค่ นขาวในการทาสงครามและเข่นฆ่าคนสี ผิวอ่นื ๆ ในปลายครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 19 เปน็ ตน้ มา… ที่มา : https://sites.google.com/site/thanathumrit 27. ให้นกั เรยี นอธิบายรปู แบบการลา่ อาณานคิ มในยคุ ท่อี ้าง “ภาระของคนผิวขาว” หรือ White Man’s Burden และบอก ถึงผลที่เกิดขึ้นในปจั จุบันจากการกระทาซึง่ เรียกวา่ ภาระของคนผวิ ขาวน้ีโดยสงั เขป (ส 4.2 ม.4-6/2 : วิเคราะห)์ .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน ขอ้ สอบอัตนัย ขอ้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน คะแนน 2.5 2 1.5 1 0.5 0 26 ตอบตรงประเด็นทถี่ าม มีการยกตัวอยา่ งตามคาสง่ั สะกดคาสาคัญทางประวัตศิ าสตร์ถกู ตอ้ ง รวมคะแนน ................ (หารดว้ ย 3) 27 ตอบตรงประเดน็ ท่ีถาม มีการยกตวั อยา่ งตามคาส่ัง สะกดคาสาคัญทางประวตั ศิ าสตร์ถูกต้อง รวมคะแนน ................ (หารด้วย 3)
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: